ลดราคาส่งท้ายปี ไพรีพินาศ ลป.เปลี่ยน, ผ้ายันต์พิชัยสงคราม หลายเกจิ ครูบากฤษดา จองภายใน 3 วัน

รับทราบขอบพระคุณครับ

 

จองแล้ว
ลูกอมอุดมทรัพย์ มหาลาภหลวงปู่ไพบูลย์ ปลุกเสกพิธีมหาฤกษ์เนื้อหาดีมวลสารศักดิ์สิทธิ์หลายอย่างมากด้วยพุทธคุณ
บูชา 230 บาท จัดส่งEMS

 

ขอจองครับ

 

ถ้าได้มาใหม่ขอจองล่วงหน้า 2 ลูกครับ

ขอบคุณครับ

 

รับทราบขอบพรพคุณครับ

ได้ครับ ขอบพระคุณครับ

 

จองแล้ว
พระปิดตาแข้งหมอนหลวงพ่อเชยวัดเขาเจ้าหลาว เลี่ยมพลาสติก บูชา 850 บาท จัดส่งEMS

หลวงปู่เชย พระอริยะเจ้าผู้มีจิตเมตตาสูงส่ง ล้ำลึกด้วยวิทยา อาคม เทพเจ้าแห่งอ่าวคุ้งกระเบน ประวัติ โดยสังเขป

ชื่อเดิม: เชย ชุมศิริ
เกิด: เมื่อวันอาทิตย์ที่ 15 เมษายน 2466 ปีกุน ณ.บ้านคลองขุด ต.คลองขุด อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี
อุปนิสัย: เป็นคนจิตใจดี มีน้ำใจ พูดน้อย รักสงบ และฝักใฝ่ในทางธรรม
อุปสมบท: เมื่ออายุได้ 20 ปี ณ วัดหมูดุด วันที่ 8 กรกฎาคม 2486 โดยมีพระครูแจง วัดโขมง เป็นพระอุปปัชฌาย์ หลวงพ่ออ่ำ วัดโขมง เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระครูญานวรกิจ(หลวงพ่อกล้วย)วัดหมูดุด เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า อมโร แปลว่า ไม่ตาย
อยู่จำพรรษา ณ วัดหมูดุด 15 พรรษา ต่อมา ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดหนองหงส์ อยู่วัดหนองหงส์ ต.สองพี่น้อง อ.ท่าใหม่ เป็นเวลาทั้งหมด 25 พรรษา ปฏิบัติกิจทางพระศาสนาด้วยดีเสมอมา ควบคู่กับการปฏิบัติธรรมอย่างเข้มข้น มีอยู่ครั้งหนึ่งเกิดการติดขัดในกรรมฐานบางอย่าง ไม่อาจที่จะแก้ไขเองได้ จึงตั้งจิตอธิษฐานขอให้ได้พบครูบาอาจารย์องค์ที่มีความเชี่ยวชาญ ในพระกรรมฐาน ที่จะแก้ไขให้ตรงจุดนี้ได้ ต่อมาจึงได้รับนิมิตรบางอย่าง ว่าให้ไปหาหลวงพ่อฤษีลิงดำ ที่วัดท่าซุง จึงได้เดินทางไปพบ และหลวงพ่อฤษีลิงดำก็แนะนำวิธีแก้ข้อติดขัดในพระกรรมฐานนั้นๆ ให้ได้รับความกระจ่าง สว่างไสว อยู่ปฏิบัติกับหลวงพ่อฤษีลิงดำได้ประมาณ 1เดือน ได้รู้ได้เห็นอะไรต่างๆมากมาย จึงได้กราบลาหลวงพ่อฤษีลิงดำกลับมาที่วัดหนองหงษ์ได้สักระยะหนึ่ง จากนั้นจึงลาออกจากการเป็นเจ้าอาวาสวัดหนองหงส์ เนื่องด้วยเป็นผู้รักการปฏิบัติ บำเพ็ญแบบสันโดษ ไม่ชอบคลุกคลีกับหมูคณะ และย้ายขึ้นมาปักกลดบำเพ็ญ สมถะ วิปัสนากรรมฐาน อยู่บนเขาเจ้าหลาว ต.คลองขุด อ.ท่าใหม่ เพียงรูปเดียว เป็นเวลา 17 พรรษา ตอนสมัยที่ย้ายมาอยู่แรกๆนั้น มีความเป็นอยู่ลำบากมาก ไม่มีที่พักกันแดด-ฝนมีเพียงกรดเล็กๆเพียงหลังเดียวเท่านั้น การเลี้ยงชีพก็อาศรัยบิณฑบาต กับชาวบ้านระแวกนั้น ซึ่งก็อยู่ใกลกันมาก เพราะในอดีตยังมีแต่ป่า-เขา ท่านต้องเดินด้วยเท้าเปล่าเป็นระยะทางหลายกิโลเมตร กว่าจะได้ข้าวมาเพียงหนึ่งทัพพี ฉันกับกุ้งแห้งแช่น้ำปลา เป็นประจำทุกวัน และฉันเพียงเมื้อเดียว ต่อมามีชาวบ้านที่ทราบข่าว เกิดเลื่อมใสพร้อมใจกันสร้างที่พักสงฆ์ถวายให้ เพื่อกันแดด-ฝน ในระหว่างนั้นท่านก็สร้างวัตถุมงคลบ้าง อาทิ พระปิดตาบ้าง ตะกรุดบ้างตามตำราที่ได้เล่าเรียน และตกทอดมาจากสำนักวัดวังเวียนอันโด่งดัง เพื่อมอบให้กับผู้ที่มาช่วยงาน และผู้ที่มากราบทำบุญ..ฯลฯ ซึ่งสร้างประสบการณ์ให้เกิดขึ้นมากมาย คนพื้นที่ต่างรู้กันดี มีทุกรูปแบบ
ท่านเป็นยอดเกจิอาจารย์องค์หนึ่งของจันทบุรีที่สามารถกราบได้อย่างบริสุทธิ์ใจ และท่านสามารถล่วงรู้วันมรณภาพของตัวท่านเอง และก็ได้มรณภาพในท่านั่งสมาธิอย่างสงบ เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2544 เวลา 17.00 น. รวมอายุได้ 77 ปี 57 พรรษา
รุ่นนี้เรียกกันว่า พระปิดตาแข้งหมอน เนื้อพระทำจากผงยา7ชนิด ผสมกับมวลสารต่างๆ มีทั้งผงอิทธิเจที่หลวงปู่ลบเอง ขุยดินปิดปากรูปู ฯลฯ มีทั้งแบบฝังปรกและไม่ฝังปรก(ข้างหลัง) ทั้งสองแบบนี้มีทั้งแบบปิดทอง(ด้านหน้า)และไม่ปิดทอง สร้างจำนวนทั้งหมดรวมกัน ประมาณ 2,000องค์ (ในจำนวนนี้มีเนื้อผงกาฝากมะรุมด้วย แต่จำนวนน้อยมาก) สร้างขึ้นเมื่อประมาณ พ.ศ.2542 ครับ โดยมีลูกศิษย์ที่ศรัทธา แกะบล็อคมาถวาย ทุกอย่างทุกขั้นตอน ทำกันที่อาศรมทั้งหมด พอได้จำนวนเพียงพอ ก็ทำลายบล็อคทิ้งเลย
พระปิดตาของหลวงปู่เชย เป็นพระที่น่าใช้มาก การสร้างพระปิดตาของท่านนั้น ท่านได้สร้างขึ้นมาตามตำราการสร้างพระควัมปติ ที่เก่าแก่โบราณ สืบทอดมาจาก หลวงปู่ผุดวัดวังเวียน ตามที่ผมเคยกล่าวเอาไว้ข้างต้น ไม่ใช่เห็นว่ามีรูปแบบสวยอย่างเดียวก็ขึ้นสร้างมาเฉยๆเหมือนกับบางวัดนะครับ หลวงปู่เคยบอกว่า ทุกอย่างมีวิธีการทำ ที่สลับซับซ้อน ตั้งแต่ทำผง ว่าต้องหาตัวยาที่ตำราระบุเอาไว้ทั้งหมด 7 ชนิดเป็นมวลสารหลัก เอามาเข้าวิธีหุง และอบ ซึ่งหลวงปู่ท่านจะใช้ปีบเหล็ก ใส่ตัวยาทั้งหมดรวมกัน จากนั้นก็จุดไฟรอบๆปีบเพื่ออบหรือหุงให้ตัวยากรอบจะได้บดง่าย พอได้ผงยาตามตำราที่บดเสร็จแล้ว ก็เอามาเสก ผสมกับมวลสารสำคัญต่างๆเพิ่มเติมหลายอย่างเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ พอพิมพ์เป็นองค์พระเสร็จก็เอามาเสกตามตำราอีก ซึ่งตำราจะระบุเอาไว้หมดทุกขั้นตอน แต่ผมไม่เคยเรียนจากท่าน เพราะเมื่อก่อนไม่ค่อยสนใจ แต่ถ้าใครชอบและตั้งใจจริง หลวงปู่ท่านก็จะสอนให้โดยไม่หวงวิชา ปัจจุบันตำราการสร้างพระปิดตาผูกนี้ ก่อนหลวงปู่จะมรณะภาพ ท่านได้มอบให้ลูกศิษย์คนหนึ่งเก็บรักษาเอาไว้แล้ว โดยท่านจะเขียนชื่อเอาไว่ทุกเล่ม ว่าเล่มนี้มอบให้ใครๆๆบ้าง เหมือนกับว่า ท่านจะสามารถล่วงรู้เหตุการล่วงหน้าได้


"วิชากระสุนทางคดของหลวงปู่เชย"

หลวงปู่เชย อมโร...เขาเจ้าหลาว จ.จันทบุรี

เป็นพระที่ #หลวงปู่พิศดู...กล่าวยกย่อง ในคุณธรรมอันสูง ว่า

" ท่านเป็น...พระอนาคามี "
" องค์เชย...เขามีวิชาสูง...รู้ไหม...องค์เชยนี่...บินได้นะ "

คุณอาของผม เคยถาม ท่านพ่อเชย อาศรมเขาเจ้าหลาว ว่าถ้าหากท่านพ่อไม่อยู่แล้ว ท่านพ่อจะไปชั้นไหน แล้วจะลงมาเกิดอีกไหม ?

ท่านพ่อเชย ตอบว่า

" เรา จะไปชั้นพรหม ไม่ลงมาเกิดแล้ว เราจะไปปฏิบัติต่อข้างบน แล้วไป(นิพพาน)เลย"

เรื่องแบบนี้ ถ้าไม่คุ้นเคย และศรัทธาด้วยใจจริงแล้ว ท่านคงจะไม่พูดให้ฟังกัน เพราะเป็นเรื่องอจินไตย

กระสุนคตเป็นวิชาหนึ่งที่ หลวงปู่เชย ท่านถนัดมาก หากใครมีไว้จะดีมาก ประโยชน์ของกระสุนคดนี้ ผู้เรืองวิชาในสมัยก่อน เอาไว้ใช้ยิงศัตรู หรือหมู่ภูตผีที่ร้ายกาจ สำหรับของหลวงปู่เชยนี้ ใช้ยิงเพียงเม็ดเดียว แต่ลูกกระสุนจะสามารถพุ่ง ไปโดนเป้าหมายได้หลายเป้าหมาย(คล้ายๆ วิชานะปัดตลอด)โดยที่ไม่ต้องเล็งเป้า ลักษณะกระสุนคดของท่าน คล้ายๆกับลูกกระสุนดินปั้นทั่วๆไป มีเนื้อละเอียด แต่วิธีการทำนั้น มีหลายขั้นตอน และต้องใช้อำนาจสมาธิจิต ที่สูงมาก

นอกจากกระสุนคดแล้ว สิ่งที่ใช้คู่กันอีกสิ่งหนึ่งคือ คันกระสุน คันกระสุนของหลวงปู่ฯท่านมีลักษณะคล้ายๆกับคันธนู แต่สายธนูตรงกลางจะมีบ่วงไว้จับกระสุนคล้ายๆกับหนังสติ๊ก(ที่เด็กๆต่างจังหวัด ชอบเอามาพกไว้ยิงนก)ลุงทิดคนหนึ่ง ที่เคยบวชและเป็นศิษย์ของหลวงปู่ฯ เล่าให้ฟังว่า สมัยก่อนตอนหลวงปู่ฯเป็นเจ้าอาวาสอยู่วัดหนองหงษ์(ประมาณ พ.ศ.251..)หลวงปู่ฯท่านเคยทำ และไปลองวิชาในที่ปลอดคน โดยมีลุงทิดไปด้วย(สมัยตอนเป็นพระ)

ตอนหลวงปู่ฯ จะยิงกระสุนคด ท่านจะตั้งจิตอธิษฐานว่า จะให้ไปโดนอะไร แล้วก็เอากระสุนคดนี้ ไปจิ้มตรงนั้นของตัวท่านก่อน เช่นอยากให้โดนหัว ก็จะเอาไปจิ้มที่หัว แล้วค่อยยิง ยิงโดยที่ไม่ต้องเล็ง ยิงไปทางไหนก็ได้ แต่ใจอยากจะให้ไปโดนเป้าหมายที่ไหน กระสุนก็จะไปโดนที่นั่นเอง แต่การลองในครั้งนั้น หลวงปู่ฯเลือกให้กระสุนวิ่งกลับมาโดนหัวของท่านเอง

การปั้นกระสุน หลวงปู่ฯ ท่านจะปั้นกระสุนเอง โดยไม่ให้ใครช่วยปั้น ท่านจะทำเวลาท่านว่างๆ ตอนที่ไม่มีโยม ปั้นทีละ 3 ลูก ปั้นไปบริกรรมภาวนาคาถากำกับไปด้วย ซึ่งมีเคล็ดอย่างหนึ่งว่า ต้องปั้นให้แห้งคามือไปเลย จึงจะใช้ได้ เวลามีโยมมาหาท่านๆก็จะเก็บใส่กระป๋องปิดฝา วางไว้ข้างๆตัว

ท่านปั้นเก็บไว้พอสมควร จึงจะเอามาใช้ในเวลาจำเป็นเท่านั้น เท่าที่ลุงทราบ หลวงปู่ฯท่านเคยใช้ครั้งหนึ่ง ตอนอยู่ที่วัดหนองหงษ์ เนื่องจากท่านได้ข่าวว่า มีพระบวชใหม่หลายองค์ ชอบแอบเข้าไปทำอะไรกินกันในครัวตอนดึก ซึ่งหลวงปู่ฯท่านเคยเตือนแล้วหลายครั้ง แต่ไม่นานก็ทำกันอีก

มีอยู่วันหนึ่ง ตอนประมาณ 5 ทุ่ม หลวงปู่ฯท่านลุกขึ้นมา ท่านทราบว่า พระใหม่พรรษานี้ แอบไปทำอะไรกินกันในครัวอีก ท่านก็เลยใช้กระสุนคด โดยยิงขึ้นไปบนฟ้า อธิษฐานให้โดนหัว เพียงเม็ดเดียวกระสุน ก็พุ่งเข้าไปในครัวของวัด ไปโดนหัวของพระที่อยู่ในครัวทุกรูป ทำให้พระทั้งหมดตกใจ หัวโน ร้องเอะอะ โวยวาย เพราะคิดว่า ผีหลอก

ตอนที่ หลวงปู่ฯ ย้ายมาอยู่ที่เขาเจ้าหลาว ท่านก็เคยใช้อยู่ 2 - 3 ครั้ง เนื่องจากมีคนชอบแอบไปตัดต้นไม้บนเขา ซึ่งเป็นป่าสงวน จริงๆแล้วหลวงปู่ฯเคยห้ามไม่ให้ตัดต้นไม้ แต่ไม่เชื่อฟังกัน ระยะหลังก็ทำกันอีก ท่านจึงใช้กระสุนคดยิงอีก ระยะทางเป้าหมายคราวนี้ ไกลมากเพราะอยู่บนเขาอีกลูกหนึ่ง แต่ก็สามารถไปถึงได้อย่างไม่มีปัญหา ท่านอยู่ที่อาศรม ยิงเพียงลูกเดียว แต่กระสุนนั้นพุ่งไปสู่เป้าหมายทุกเป้าอย่างไม่มีผิดพลาดเลย

หลวงปู่ฯ เคยบอกว่า ตามตำราเขาให้ใช้ดินเจ็ดป่าช้า หรือใช้ขี้เถ้ากองฟอนเผาผีก็ได้ แต่สำหรับของหลวงปู่ฯท่านใช้เพียงดินเหนียวธรรมดาก็เพียงพอแล้ว อันนี้อยู่ที่จิต ไว้ใช้ยิงผีดุ ผีป่า ที่ร้ายกาจ หรือศัตรูที่ปองร้าย หลวงปู่ฯท่านยังบอกอีกว่า ถึงแม้ไม่ได้ยิง เพียงเก็บไว้บูชาที่บ้าน ในรถ หรือในที่ต่างๆ หากมีคนปองร้ายหรือจะมีขโมยเข้ามา จะบันดาลให้เห็นว่า มีคนอยู่ที่นั่นหลายคน

แค่คันกระสุน ก็หาคนทำยากแล้ว ไม่ได้ทำง่ายๆ เหมือนคันธนู หรือหน้าไม้ แต่ว่าละเอียดซับซ้อนกว่านั้นมาก

ในชีวิตของเด็กรุ่นหลังอย่างผม เคยเห็นคันกระสุนแท้ๆ ที่สร้างขึ้นมาเพื่อใช้ยิงจริงๆเพียงแค่ 3 ครั้ง คือของมหลวงปู่เชย เขาเจ้าหลาว มีทั้งหมด 2 คัน ของหลวงปู่ต่อ วัดเขาแก้ว เป็นคันใหญ่มาก และของคุณลุงท่านหนึ่งที่แถวคุ้งวิมาน

แต่จริงๆ น่าจะมีอยู่มากกว่านี้ เพียงแต่สมัยนี้ หาดูไม่ค่อยได้ นี่แค่คันกระสุนเท่านั้น ยังไม่ได้พูดถึงการทำลูกกระสุนเลย ที่ผมเคยเห็นและเคยได้มาครอบครอง ที่เป็นลูกกระสุนคดจริงๆ ชัดเจนที่สุดคือ หลวงปู่เชย เขาเจ้าหลาว

ท่านทำไว้ยิงคนดื้อๆ ที่แอบไปตัดไม้บนเขาเจ้าหลาว โดยท่านยิงที่กุฏิ ขึ้นไปบนอากาศ แล้วสั่งให้ลูกกระสุนนี้ วิ่งไปถูกคนที่ลักลอบตัดไม้บนเขาเวลาดึกๆ ซึ่งระยะห่างกันไกลร่วมกิโล แต่กระสุนเพียงเม็ดเดียว กลับวิ่งไปถูกเป้าที่หมายไว้อย่างแรงทุกเป้า แล้วแต่ท่านจะสั่งให้ถูกตรงไหน ถ้าสั่งให้ถูกหัว ก็ต้องถูกหัว ยิงกระสุนคดเม็ดเดียว โดนหัวทุกคนที่มีอยู่ คนที่ถูกยิงก็ตกใจ แถมหัวปูดหัวโน นึกว่าผีหลอก

ขอขอบคุณข้อมูลจากคุณ : Sira Pop

 

พระปิดตาแข้งหมอนหลวงพ่อเชยวัดเขาเจ้าหลาว เลี่ยมพลาสติก บูชา 850 บาท
จองครับ

 

รับทราบขอบพระคุณครับ

 

พระผงตรอเงิน หลวงพ่อจวน วัดหนองสุ่ม (สหธรรมิกหลวงพ่อกวย ชึ้นไปนมัสการพระจุฬามณีด้วยกายเนื้อ) บูชา 700 บาท จัดส่งEMS
พระผง ต่อเงิน ต่อทอง หลวงพ่อจวน วัดหนองสุ่มนี้ เนื้อหาเดียวกันกับสมเด็จรุ่นแรกหลังพระครูจวนหลังกรอบสี่เหลี่ยมปี 2505 ซึ้งพระผงต่อเงินต่อทองจัดเป็นสองพิมพ์ครับแบบ 5 ชั้นคือต่อเงินแบบ 7 ชั้นคือต่อทอง องค์นี้คือต่อทอง 7 ชั้นครับ สร้างน้อยมากเป็นพระที่พบเจอในพื้นที่ชัดเจนครับ พุทธคุณเด่นเรื่องโชคลาภค้าขายดี มีกำไรเรียกลูกค้าเข้าร้าน เจรจาติดต่องานเป็นสำเร็จ ทำเรื่องยากเป็นเรื่องง่ายได้อย่างสบายครับ พระขนาดเล็กสวยดี

 

โอนแล้วครับ วันนี้ เวลา 18.00 น. จำนวน 850 บาท ผ่าน ktb ขอฝากพระเอาไว้ก่อนนะครับ

 

รับทราบขอบพระคุณครับ

 

นวด อ.ปู่ซาสุด


สมัยที่ อ.ปู่ซาสุด ยังหุงนวดด้วยตัวท่านเอง
เศษนวดที่หกเรี่ยรดลงพื้นกระดานเรือน
พวกที่ไปคอยเฝ้าคอยแหนพากันเอาเล็บขูดเอา
พวกเขาปรารถนากันมาก
เนื่องเพราะ อ.ปู่ซาสุด ไม่ใคร่จะยอมให้นวดแก่ใครโดยง่าย

ครั้งหนึ่ง ผมเคยได้รับนวดที่ อ.ปู่ซาสุด หุงเอง
เรียกว่าเป็นครั้งเดียวที่ได้รับอีกด้วย
ลูกศิษย์ของ อ.ปู่ซาสุด คือ คุณพอนแก้ว เป็นผู้ขอและนำมามอบให้
คุณพอนแก้วได้ถามผมว่าจะเอานวดแบบไหน
แบบป้องกันตัวหรือแบบเมตตามหานิยม ฯ
ผมตอบไปว่าแบบไหนก็ได้สุดแท้แต่จะเห็นควร

หลังจากนั้นนานนับเดือนคุณพอนแก้วจึงเอานวดมาให้

เมื่อได้รับมาแล้วก็ไม่ได้ถามว่าเป็นนวดที่มีอานุภาพทางด้านไหน

นั่นเป็นเวลา ๗ ปีมาแล้ว(พศ.๒๕๕๙ ) ที่ อ.ปู่ซาสุดฝากนวดกับคุณพอนแก้วมาให้
โดยใส่ไว้ในตลับยาหม่อง
มีขนาดเท่าหัวไม้ขีด
อ.ปู่ซาสุด ได้ให้น้ำมันงาขนาดขวดยานัตถ์มาด้วย
สั่งว่าให้เอาน้ำมันงาเลี้ยงนวดทุกวันพระหรือเฉพาะวันพระใหญ่ก็ได้
นวดจะเพิ่มขนาดใหญ่ขึ้นหรือมีปริมาณมากขึ้น

ใหม่ๆก็พากเพียรขยันเลี้ยงอย่างใจจดใจจ่อดีอยู่หรอก
ถึงวันพระไม่ลืมที่จะเอาน้ำมันงาเลี้ยงนวด
ซึ่งนวดก็ขยายตัวจนมีขนาดใหญ่ขึ้นจริงๆ

จากขนาดเท่าหัวไม้ขีดขยายใหญ่ขึ้นทีละน้อยจนล่าสุดมีขนาดเท่ากับเมล็ดถั่วเหลือง

หลังจากนั้นเป็นเวลาหลายปี
ไม่ได้เลี้ยงนวดอีกเลย
ลืมบ้าง อะไรบ้าง

ทุกครั้งที่นึกได้ก็จะเปิดฝายาหม่องออกมาดู
นวดยังคงมีขนาดเท่าเมล็ดถั่วเหลืองเหมือนเก่า
ไม่หดตัวลงหรือขยายใหญ่ขึ้น



เป็นความจริงว่า อ.ปู่ซาสุด เลิกหุงนวดมานานหลายปีแล้ว

ไม่ทราบว่าเพราะเหตุใดจึงเลิก

ไม่ได้ถาม



วันหนึ่งหลังจากที่ท่านเลิกแล้วหลายปี ท่านได้เมตตาบอกตำราวิชาหุงนวดให้ อ.โต อุดมโชค เพื่อจะให้ทำการหุงนวดขึ้นอีก



ตอนนั้น..ราวๆกลางปี ๒๕๖๑ อ.โต อุดมโชค(มหาวิทยาลัยจำปาสัก นครปากเซ สปป.ลาว) ได้บอกให้ผมช่วยหาน้ำมันสำโรงกับน้ำมันงาสกัดเย็น จะเอาไปหุงนวดตามบัญชาของ อ.ปู่ซาสุด ซึ่งท่านได้บอกกรรมวิธีและขั้นตอนการหุงโดยละเอียดไว้แล้ว

ระหว่างนั้นวัตถุดิบมวลสารประการต่างๆ อ.โตบอกว่าหาได้จนครบตามที่ อ.ปู่ซาสุด สั่งทุกอย่าง
เว้นแต่น้ำมันสำโรงเท่านั้นที่หาไม่ได้
ทั้งยังบอกอีกว่าให้หาเอาน้ำมันงาสกัดเย็นพ่วงไปด้วยก็จะยิ่งดีมาก
จะได้ไม่ต้องจิกน้ำมันงาเอง
ซึ่งกว่าจะได้ปริมาณน้ำมันงาตามต้องการนั้นไม่ง่าย
ผมจึงรับเป็นธุระจัดหาให้ทั้งสองอย่าง

น้ำมันงาสกัดเย็นหาได้ไม่ยาก
แต่น้ำมันสำโรงแท้ๆในเวลานั้นหายากมาก

ต้องขอขอบคุณท่าน บ๊อป วันชัย งามทิพย์วัฒนา มา ณ โอกาสนี้ ที่ท่านได้กรุณาเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในการจัดหาน้ำมันสำโรงให้



น้ำมันสำโรงคืออะไร

น้ำมันสำโรงคือผลผลิตจากลูกสำโรง
เป็นส่วนสำคัญที่ใช้หุงนวดมาแต่โบราณกาล
ซึ่งการหุงนวดสมัยใหม่แทบจะไม่มีใครใช้น้ำมันสำโรงหุงนวดอีกแล้ว
ได้ยินว่าใช้น้ำมันวาสลินแทนก็มี



หลังจากได้น้ำมันสำโรงมาแล้ว เผอิญตอนนั้นผมยังมีหัวเชื้อน้ำมันจันทน์หอมจากอินเดียเหลืออยู่นิดหน่อย จึงจัดส่งไปให้ อ.โต พร้อมกับน้ำมันงาและน้ำมันสำโรง

การหุงนวดตามตำราและกระบวนการโบราณนิยมจึงสำเร็จลุล่วงด้วยดี



อ.ปู่ซาสุด ได้เมตตาประกอบพิธีสวดเสกนวดชุดนี้ให้ในเวลากลางคืนของวันที่ ๒๓ ไปจนถึงเช้าวันที่ ๒๔ กันยายน พศ.๒๕๖๑
โดยเข้าที่เสก ๓ รอบ
หัวค่ำครั้งหนึ่ง
กลางดึกครั้งหนึ่ง
และตอนรุ่งแจ้งอีกครั้งหนึ่ง



หลังจากนวดสำเร็จสมบูรณ์ทั้งหุงทั้งเสกครบถ้วนกระบวนการแล้ว
อ.โต ได้มอบให้มา ๑ ถัง
ได้มาแล้วก็เก็บรักษาไว้นานหลายปีโดยที่ไม่ได้มีการนำออกมาเผยแพร่
แต่ได้มีการมอบและแบ่งให้บางท่านไปบ้างเพียงเล็กน้อย

อาจกล่าวได้ว่า นวดชุดนี้เป็นนวดชุดเดียวในเวลานั้น ที่ได้หุงขึ้นอย่างถูกต้องครบถ้วนกระบวนวิชา ตามบัญชาอนุญาตของ อ.ปู่ซาสุด ทุกประการ



ก่อนหน้านี้ไม่นาน เคยมีนวดที่ออกมาจาก อ.ปู่ซาสุด ๒-๓ รุ่น แม้เป็นนวดที่ไม่ได้หุงตามตำรา ซึ่งบรรดาลูกศิษย์ไปหามา หรือพากันหุงขึ้นเองตามประสา ซึ่งท่านเมตตาเสกให้ นวดเหล่านั้นยังคงมีอานุภาพเป็นที่ประจักษ์ว่ามีผู้นำเอาไปใช้ได้ผลดีอีกด้วย

อย่างเช่นนวดที่นำเข้าพิธีเสกพร้อมเหรียญหล่อรุ่นพรสวรรค์เป็นต้น ก็ยังช่วยให้ท่านผู้หนึ่งอาศัยอยู่เวียงจันท์สามารถเจรจาข้อตกลงในการซื้อรถยนต์จนสำเร็จโดยง่าย

ท่านผู้นี้เล่าว่าครอบครัวตนเองไปเจรจาซื้อรถยนต์โดยเสนอเงื่อนไขประการหนึ่งซึ่งบริษัทรับไม่ได้ ทั้งพ่อและแม่ไปพูดจาอย่างไรก็ไม่เป็นที่ตกลง ตนเองได้รับนวด อ.ปู่ซาสุด มาจาก อ.โต จึงทดลองเอานวดออกมาอธิษฐานใช้ดู ปรากฏว่าวันหลังได้เข้าไปเจรจาเพียงคนเดียวด้วยเงื่อนไขเดิม บริษัทขายรถยนต์ก็ยอมตกลงตามเงื่อนไขที่ต้องการอย่างง่ายดาย

พรรคพวกกันอีกคนหนึ่งได้เล่าว่า หญิงทำงานบริการแห่งหนึ่งค่อนข้างมีอายุมากแล้ว บ่นว่าสู้น้องๆคนอื่นไม่ได้เลย ในแต่ละวันได้ขึ้นงาน 1-2 รอบเท่านั้น บางวันไม่ได้เลยแม้แต่รอบเดียว

หลังจากได้นวด อ.ปู่ซาสุด ไปใช้ วันหนึ่งๆก็ได้ขึ้น 5-6 รอบ เป็นอยู่แบบนี้ประมาน ๑ อาทิตย์ ก็มีนายหัวท่านหนึ่งมาติดพัน และขอให้หล่อนเลิกทำอาชีพหญิงบริการ แล้วรับเอาไปเลี้ยงดูอย่างดีจนกระทั่งทุกวันนี้

หล่อนเล่าอีกว่า นายหัวท่านนั้น ทั้งซื้อบ้านซื้อรถให้ ทั้งให้เงินใช้อีกเดือนละ 5หมื่น แถมยังมีพิเศษให้ต่างหากอีกด้วย

เพื่อนของผมอีกคนหนึ่งเล่าว่า : เขามีเพื่อนเปิดร้านขายอาหารอยู่เชียงใหม่ ขายไม่ค่อยดี อยากได้ตัวช่วย ก็ไปหาเอานวดจากใครที่ไหนไม่ทราบมาใช้ไม่ได้ผล เพื่อนของผมจึงให้นวด อ.ปู่ซาสุด ไปลองดู ปรากฏว่าขายดิบขายดีผิดหูผิดตาขึ้นมาทันที




เรื่องเล่าเกี่ยวกับประสพการณ์นวดยังมีอีกมาก จะจริงเท็จแค่ไหนขอให้ขึ้นอยู่กับปากผู้เล่า ทุกเรื่องฟังแล้วล้วนแต่รู้สึกยินดีกับทุกท่านที่เอาไปใช้แล้วได้ผลเป็นที่พอใจนวด อ.ปู่ซาสุด


สมัยที่ อ.ปู่ซาสุด ยังหุงนวดด้วยตัวท่านเอง
เศษนวดที่หกเรี่ยรดลงพื้นกระดานเรือน
พวกที่ไปคอยเฝ้าคอยแหนพากันเอาเล็บขูดเอา
พวกเขาปรารถนากันมาก
เนื่องเพราะ อ.ปู่ซาสุด ไม่ใคร่จะยอมให้นวดแก่ใครโดยง่าย

ครั้งหนึ่ง ผมเคยได้รับนวดที่ อ.ปู่ซาสุด หุงเอง
เรียกว่าเป็นครั้งเดียวที่ได้รับอีกด้วย
ลูกศิษย์ของ อ.ปู่ซาสุด คือ คุณพอนแก้ว เป็นผู้ขอและนำมามอบให้
คุณพอนแก้วได้ถามผมว่าจะเอานวดแบบไหน
แบบป้องกันตัวหรือแบบเมตตามหานิยม ฯ
ผมตอบไปว่าแบบไหนก็ได้สุดแท้แต่จะเห็นควร

หลังจากนั้นนานนับเดือนคุณพอนแก้วจึงเอานวดมาให้

เมื่อได้รับมาแล้วก็ไม่ได้ถามว่าเป็นนวดที่มีอานุภาพทางด้านไหน

นั่นเป็นเวลา ๗ ปีมาแล้ว(พศ.๒๕๕๙ ) ที่ อ.ปู่ซาสุดฝากนวดกับคุณพอนแก้วมาให้
โดยใส่ไว้ในตลับยาหม่อง
มีขนาดเท่าหัวไม้ขีด
อ.ปู่ซาสุด ได้ให้น้ำมันงาขนาดขวดยานัตถ์มาด้วย
สั่งว่าให้เอาน้ำมันงาเลี้ยงนวดทุกวันพระหรือเฉพาะวันพระใหญ่ก็ได้
นวดจะเพิ่มขนาดใหญ่ขึ้นหรือมีปริมาณมากขึ้น

ใหม่ๆก็พากเพียรขยันเลี้ยงอย่างใจจดใจจ่อดีอยู่หรอก
ถึงวันพระไม่ลืมที่จะเอาน้ำมันงาเลี้ยงนวด
ซึ่งนวดก็ขยายตัวจนมีขนาดใหญ่ขึ้นจริงๆ

จากขนาดเท่าหัวไม้ขีดขยายใหญ่ขึ้นทีละน้อยจนล่าสุดมีขนาดเท่ากับเมล็ดถั่วเหลือง

หลังจากนั้นเป็นเวลาหลายปี
ไม่ได้เลี้ยงนวดอีกเลย
ลืมบ้าง อะไรบ้าง

ทุกครั้งที่นึกได้ก็จะเปิดฝายาหม่องออกมาดู
นวดยังคงมีขนาดเท่าเมล็ดถั่วเหลืองเหมือนเก่า
ไม่หดตัวลงหรือขยายใหญ่ขึ้น



เป็นความจริงว่า อ.ปู่ซาสุด เลิกหุงนวดมานานหลายปีแล้ว

ไม่ทราบว่าเพราะเหตุใดจึงเลิก

ไม่ได้ถาม



วันหนึ่งหลังจากที่ท่านเลิกแล้วหลายปี ท่านได้เมตตาบอกตำราวิชาหุงนวดให้ อ.โต อุดมโชค เพื่อจะให้ทำการหุงนวดขึ้นอีก



ตอนนั้น..ราวๆกลางปี ๒๕๖๑ อ.โต อุดมโชค(มหาวิทยาลัยจำปาสัก นครปากเซ สปป.ลาว) ได้บอกให้ผมช่วยหาน้ำมันสำโรงกับน้ำมันงาสกัดเย็น จะเอาไปหุงนวดตามบัญชาของ อ.ปู่ซาสุด ซึ่งท่านได้บอกกรรมวิธีและขั้นตอนการหุงโดยละเอียดไว้แล้ว

ระหว่างนั้นวัตถุดิบมวลสารประการต่างๆ อ.โตบอกว่าหาได้จนครบตามที่ อ.ปู่ซาสุด สั่งทุกอย่าง
เว้นแต่น้ำมันสำโรงเท่านั้นที่หาไม่ได้
ทั้งยังบอกอีกว่าให้หาเอาน้ำมันงาสกัดเย็นพ่วงไปด้วยก็จะยิ่งดีมาก
จะได้ไม่ต้องจิกน้ำมันงาเอง
ซึ่งกว่าจะได้ปริมาณน้ำมันงาตามต้องการนั้นไม่ง่าย
ผมจึงรับเป็นธุระจัดหาให้ทั้งสองอย่าง

น้ำมันงาสกัดเย็นหาได้ไม่ยาก
แต่น้ำมันสำโรงแท้ๆในเวลานั้นหายากมาก

ต้องขอขอบคุณท่าน บ๊อป วันชัย งามทิพย์วัฒนา มา ณ โอกาสนี้ ที่ท่านได้กรุณาเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในการจัดหาน้ำมันสำโรงให้



น้ำมันสำโรงคืออะไร

น้ำมันสำโรงคือผลผลิตจากลูกสำโรง
เป็นส่วนสำคัญที่ใช้หุงนวดมาแต่โบราณกาล
ซึ่งการหุงนวดสมัยใหม่แทบจะไม่มีใครใช้น้ำมันสำโรงหุงนวดอีกแล้ว
ได้ยินว่าใช้น้ำมันวาสลินแทนก็มี



หลังจากได้น้ำมันสำโรงมาแล้ว เผอิญตอนนั้นผมยังมีหัวเชื้อน้ำมันจันทน์หอมจากอินเดียเหลืออยู่นิดหน่อย จึงจัดส่งไปให้ อ.โต พร้อมกับน้ำมันงาและน้ำมันสำโรง

การหุงนวดตามตำราและกระบวนการโบราณนิยมจึงสำเร็จลุล่วงด้วยดี



อ.ปู่ซาสุด ได้เมตตาประกอบพิธีสวดเสกนวดชุดนี้ให้ในเวลากลางคืนของวันที่ ๒๓ ไปจนถึงเช้าวันที่ ๒๔ กันยายน พศ.๒๕๖๑
โดยเข้าที่เสก ๓ รอบ
หัวค่ำครั้งหนึ่ง
กลางดึกครั้งหนึ่ง
และตอนรุ่งแจ้งอีกครั้งหนึ่ง



หลังจากนวดสำเร็จสมบูรณ์ทั้งหุงทั้งเสกครบถ้วนกระบวนการแล้ว
อ.โต ได้มอบให้มา ๑ ถัง
ได้มาแล้วก็เก็บรักษาไว้นานหลายปีโดยที่ไม่ได้มีการนำออกมาเผยแพร่
แต่ได้มีการมอบและแบ่งให้บางท่านไปบ้างเพียงเล็กน้อย

อาจกล่าวได้ว่า นวดชุดนี้เป็นนวดชุดเดียวในเวลานั้น ที่ได้หุงขึ้นอย่างถูกต้องครบถ้วนกระบวนวิชา ตามบัญชาอนุญาตของ อ.ปู่ซาสุด ทุกประการ



ก่อนหน้านี้ไม่นาน เคยมีนวดที่ออกมาจาก อ.ปู่ซาสุด ๒-๓ รุ่น แม้เป็นนวดที่ไม่ได้หุงตามตำรา ซึ่งบรรดาลูกศิษย์ไปหามา หรือพากันหุงขึ้นเองตามประสา ซึ่งท่านเมตตาเสกให้ นวดเหล่านั้นยังคงมีอานุภาพเป็นที่ประจักษ์ว่ามีผู้นำเอาไปใช้ได้ผลดีอีกด้วย

อย่างเช่นนวดที่นำเข้าพิธีเสกพร้อมเหรียญหล่อรุ่นพรสวรรค์เป็นต้น ก็ยังช่วยให้ท่านผู้หนึ่งอาศัยอยู่เวียงจันท์สามารถเจรจาข้อตกลงในการซื้อรถยนต์จนสำเร็จโดยง่าย

ท่านผู้นี้เล่าว่าครอบครัวตนเองไปเจรจาซื้อรถยนต์โดยเสนอเงื่อนไขประการหนึ่งซึ่งบริษัทรับไม่ได้ ทั้งพ่อและแม่ไปพูดจาอย่างไรก็ไม่เป็นที่ตกลง ตนเองได้รับนวด อ.ปู่ซาสุด มาจาก อ.โต จึงทดลองเอานวดออกมาอธิษฐานใช้ดู ปรากฏว่าวันหลังได้เข้าไปเจรจาเพียงคนเดียวด้วยเงื่อนไขเดิม บริษัทขายรถยนต์ก็ยอมตกลงตามเงื่อนไขที่ต้องการอย่างง่ายดาย

พรรคพวกกันอีกคนหนึ่งได้เล่าว่า หญิงทำงานบริการแห่งหนึ่งค่อนข้างมีอายุมากแล้ว บ่นว่าสู้น้องๆคนอื่นไม่ได้เลย ในแต่ละวันได้ขึ้นงาน 1-2 รอบเท่านั้น บางวันไม่ได้เลยแม้แต่รอบเดียว

หลังจากได้นวด อ.ปู่ซาสุด ไปใช้ วันหนึ่งๆก็ได้ขึ้น 5-6 รอบ เป็นอยู่แบบนี้ประมาน ๑ อาทิตย์ ก็มีนายหัวท่านหนึ่งมาติดพัน และขอให้หล่อนเลิกทำอาชีพหญิงบริการ แล้วรับเอาไปเลี้ยงดูอย่างดีจนกระทั่งทุกวันนี้

หล่อนเล่าอีกว่า นายหัวท่านนั้น ทั้งซื้อบ้านซื้อรถให้ ทั้งให้เงินใช้อีกเดือนละ 5หมื่น แถมยังมีพิเศษให้ต่างหากอีกด้วย

เพื่อนของผมอีกคนหนึ่งเล่าว่า : เขามีเพื่อนเปิดร้านขายอาหารอยู่เชียงใหม่ ขายไม่ค่อยดี อยากได้ตัวช่วย ก็ไปหาเอานวดจากใครที่ไหนไม่ทราบมาใช้ไม่ได้ผล เพื่อนของผมจึงให้นวด อ.ปู่ซาสุด ไปลองดู ปรากฏว่าขายดิบขายดีผิดหูผิดตาขึ้นมาทันที




เรื่องเล่าเกี่ยวกับประสพการณ์นวดยังมีอีกมาก จะจริงเท็จแค่ไหนขอให้ขึ้นอยู่กับปากผู้เล่า ทุกเรื่องฟังแล้วล้วนแต่รู้สึกยินดีกับทุกท่านที่เอาไปใช้แล้วได้ผลเป็นที่พอใจนวด อ.ปู่ซาสุด


สมัยที่ อ.ปู่ซาสุด ยังหุงนวดด้วยตัวท่านเอง
เศษนวดที่






นวดไม่ได้มีแค่เมตตามหานิยมหรือเสน่หา

นวดเพื่อการคุ้มครองป้องกันภัยหรือเพื่ออย่างอื่นก็มี

ครูบาอาจารย์มากมหาอนันตัง แต่ครั้งโบราณนานมา ล้วนแต่รู้จักหุงนวดเพื่อประโยชน์ประการต่างๆด้วยกันทั้งนั้น

เพื่อนของผมซึ่งเป็นลูกศิษย์ก้นกุฏิของวัดป่าสาละวัน ได้มอบนวดของหลวงพ่อพุธแก่ผม ๑ กระปุก แล้วบอกว่าปกติหลวงพ่อพุธไม่ค่อยจะให้นวดของท่านแก่ใครโดยง่าย เคยเห็นท่านให้แก่คนมีคดีความขึ้นโรงขึ้นศาล ยังไม่เคยเห็นท่านให้คนอื่นเพื่อการอย่างอื่น

นวดเหล็กไหล ของ อ.ปู่ คำผุก อุณาภาค มีอานุภาพทางป้องกันภัย ซึ่งคุณบรรณศาสตร์ โสมอินทร์ ได้เล่าว่าพกนวดเหล็กไหลไปเที่ยวผับ เกิดวิวาทกัน ถูกคู่กรณีควักปืนออกมายิงไม่ออกแม้แต่นัดเดียว

นวดของสำเร็จลุน ภูมะโลง เช่นเดียวกัน มีอานุภาพทางคุ้มครองป้องกัน ผมเคยเอามาอุดใต้ฐานรูปหล่อ กศปมหาฤษี รุ่น ๒ ของหลวงปู่ทองสา วัดป่าจิตตวิทยาราม บึงกาฬ

หลวงปู่คำพันธ์ วัดธาตุมหาชัย มีนวดออกมา 2 แบบ คือแบบที่ท่านหุงเอง กับ แบบที่คนอื่นหุงหาเอามาให้ท่านเสก ผมเคยได้รับมาทั้ง ๒ แบบ ได้มาแล้วก็ไม่ทราบว่านวดของหลวงปู่ดีเด่นทางไหนอย่างไร ไม่เคยถาม

ครั้งหนึ่งมีคนขอทราบวิธีใช้นวดจากท่านว่า เมื่อจะใช้นวดควรทำอย่างไร ท่านตอบว่าไม่ต้องควักออกมาใช้หรอก จะหมดจะเปลือง แค่พกติดตัวไว้ก็พอ

เสี่ยสันต์ เล่าให้ผมฟังนานมาแล้วว่า เพื่อนของเขาคนหนึ่งได้รับนวดแบบที่หลวงปู่ไม่ได้หุงเองไป จึงทดลองใช้ดู สีนวดใส่ริมฝีปากแล้วเข้าไปดูหนังในโรงหนัง กำลังเพลินๆกะเทยย่องเข้ามาขอนั่งด้วย เผ่นหนีแทบไม่ทัน

นวดของหลวงพ่ออุตตมะก็มีนะครับ ถือเป็นนวดรุ่นแรกรุ่นเดียวของหลวงพ่ออุตตมะอีกด้วย คุณอภิรักษ์ได้ให้ผมมานานกว่า ๒๕ ปี นวดชุดนี้ทำขึ้นมาจากผึ้งดิน ซึ่งหลวงพ่อได้มาจากป่าพม่า กรรมวิธีในการหุงนวดผึ้งดินของหลวงพ่ออุตตมะซับซ้อนยุ่งยากพอสมควร

นวดผึ้งดินหลวงพ่ออุตตมะที่ทำขึ้นมานี้ คุณอภิรักษ์บอกว่ามีอานุภาพทางโชคลาภเมตตาค้าขาย ได้มอบให้ผมมาตั้งแต่ปี ๒๕๓๘ สำหรับอุดก้นพระของหลวงพ่ออุตตมะรุ่นไหนก็ลืมไปแล้ว

ทุกวันนี้ยังเก็บรักษานวดผึ้งดินที่เหลืออยู่นี้เอาไว้อย่างดี

นวดของหลวงปู่มงคล เขาดาร์สปวง ให้ผมมา ๓-๔ กระปุก แจกคนโน้นคนนี้ไปจนเหลือไม่ถึงครึ่งกระปุก ทราบภายหลังว่าใช้สำหรับเมตตาค้าขาย ใช้เจิมร้านค้าจะดีมาก

นวดของหลวงพ่อหนูอินทร์ วัดป่าพุทธมงคล กาฬสินธุ์ ท่านเคยให้ผมมานานมากแล้ว ๑ ตลับ มีอานุภาพคล้ายๆกันกับนวดหลวงปู่มงคล คือเอาไว้ใช้สำหรับการค้าขาย

นวดของหลวงพ่อฤทธิ์ รตนโชโต วัดชลประทานราชดำริฯ บุรีรัมย์ เห็นชัดเจนเลยว่าดีทางเสน่หา ผมเคยทดลองใช้ได้ผลดีมาก

หลวงพ่อฤทธิ์เองเล่าให้ผมฟังว่า หลวงปู่พรหมา ผานางคอย เคยมาขอเอานวดของท่านไปคราวละไม่น้อย แม้หลวงปู่พรหมาจะหุงนวดเองได้ ท่านยังมาขอเอาไป นับว่าแปลกดี

การหุงนวดของหลวงพ่อฤทธิ์ ไม่ได้หุงบนเตาถ่านไฟแต่อย่างใด ท่านหุงกลางแดดจนนวดเดือดปุดๆ

คุณอาคม ลูกศิษย์หลวงพ่อฤทธิ์เล่าว่า หลวงปู่หงษ์ วัดเพชรบุรี มาขอเอานวดของหลวงพ่อฤทธิ์ไปเช่นกัน

นวดของหลวงปู่หงษ์หุงเองก็มี นวดที่ขอเอาไปจากหลวงพ่อฤทธิ์ก็มี

ผมเคยได้รับจากหลวงปู่หงษ์หลายวาระ ไปหาท่านคราวใดก็จะได้มาตลับหนึ่ง

นวดที่ได้มาแต่ละครั้งนั้น ไม่ทราบว่าเป็นนวดของท่านหุงเอง หรือเป็นนวดของหลวงพ่อฤทธิ์

ได้มาก็เก็บไว้ ไม่เคยเอาออกมาใช้ และ ไม่ทราบว่าดีทางไหน

นวดที่ผมเคยใช้แล้วได้ผลดี ในสมัยหลัง ครั้งล่าสุด เป็นนวดของ อ.ปู่ซาสุด ดอนสำโรง สปป.ลาว เอาไปใช้ติดต่อทำธุรกรรมกับหน่วยราชการในนครเวียงจันท์ สปป.ลาว

เรื่องการติดต่อราชการสปป.ลาว นั้น ใครเคยมีประสพการณ์จะรู้ดีว่ายากลำบากมากๆ มีทั้งเตะถ่วงเวลา ทั้งหาเรื่องจู่จี้ร่ำไร จ้องจะรีดไถเอาเงิน น่าเบื่อหน่ายมากๆ

ผมและภรรยาเอานวดของ อ.ปู่ซาสุด มาอธิษฐานใช้ ขอให้นวดดลบันดาลความสะดวกทุกอย่าง ปรากฏว่าธุรกรรมในลาวสำเร็จลุล่วงโดยสะดวกรวดเร็วราบรื่นเหลือเชื่อ

ผมมีนวดหลายสำนักหลายอาจารย์ สะสมเอาไว้ไม่น้อย จำได้มั่ง ไม่ได้มั่ง แต่ไม่เคยเอานวดครูบาอาจารย์ใดมาใช้แม้แต่ครั้งเดียว เว้นแต่นวดหลวงพ่อฤทธิ์ กับ นวด อ.ปู่ซาสุด เท่านั้น ที่ได้เอามาใช้ต่างกรรมต่างวาระ แล้วเห็นว่าได้ผลดีจริง

ที่มาภาพและข้อมูล อาจารย์ อำพลเจน

 

จองแล้ว 2
นวด อ.ปู่ซาสุด โซทิกาน
ดอนสำโฮง เมืองโขง สี่พันดอน สปป.ลาว มี 2 ตลับ เปิดใก้บูชาตลับละ 650 บาท จัดส่งEMS



นวดเก่าเก็บชุดนี้มีอายุ 5 ปี

เป็นนวดที่ผ่านการหุงโดยถูกต้องตรงตามตำราของ อ.ปู่ซาสุด ทุกประการ

อ.ปู่ซาสุด ได้เมตตาประกอบพิธีสวดเสกนวดตลอดคืนวันที่ 23 - เช้าวันที่ 24 กย.2561

ฝ่ายลาวได้มอบให้ฝ่ายไทย ๑ ถัง



๒-๓ วันมานี้..ได้ดำเนินการบรรจุนวดลงตลับสะดวกพกพาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

พร้อมเปิดให้บูชา

ตลับบรรจุนวดมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 32 มิลลิเมตร / สูง 13 มิลลิเมตร
ทำด้วยพลาสติคใส
รูปทรงกลม
ปิดสติ๊กเกอร์พื้นขาวอักษรดำ ลงอักขระยันต์ และ ชื่อของ อ.ปู่ซาสุด ไว้ที่ฝาตลับ


ข้อบ่งใช้ นวด อ.ปู่ซาสุด

ไม่มีคาถากำกับ
เมื่อประสงค์จะทำการสิ่งใด
ไม่ผิดศีลธรรม
ไม่เป็นบาปกรรม
เพียงตั้งจิตมั่น
อธิษฐานบอกกล่าว
เป็นอันใช้ได้

 

นวด อ.ปู่ซาสุด โซทิกาน
ดอนสำโฮง เมืองโขง สี่พันดอน สปป.ลาว มี 2 ตลับ เปิดใก้บูชาตลับละ 650 บาท จัดส่งEMS

จอง 1 ตลับ ครับ

 

รับทราบขอบพระคุณครับ

 

จอง 1 ตลับครับ

 

รับทราบขอบพระคุณครับ

 

พุทธคุณสูง เกจิยุดต้นสายกรรมฐาน


ปี 2514 เหรียญพระอาจารย์ฝั้นรุ่น 17 พิมพ์พระอาจารย์มั่น บล็อคสายบาตรสั้น พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร วัดป่าอุดมสมพร

คณะศิษย์จังหวัดอุดร เป็นผู้สร้างถวายเมื่อปี 2514 มีสองพิมพ์ พิมพ์รูปเหมือนพระอาจารย์ฝั้นและพิมพ์รูปเหมือนพระอาจารย์มั่น มีชนิดเนื้อโลหะ

-เนื้อทองแดงกะไหล่ทอง ตอกโค๊ด(กรรมการ)
-เนื้อทองแดงรมน้ำตาล

เหรียญปี 2517 รุ่น 51 พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร
สร้างถวายโดย
พระราชคุณาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดสกลนคร (ฝ่ายธรรมยุต) วัดศรีโพนเมือง
แจกงานผู้ร่วมทำบุญสร้างโบสถ์
เนื้อทองแดงรมดำ

 

พุทธคุณสูง เกจิยุดต้นสายกรรมฐาน

เหรียญปี 2514 พระอาจารย์ฝั้นรุ่น 17 พิมพ์พระอาจารย์มั่น บล็อคสายบาตรยาว พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร วัดป่าอุดมสมพร

คณะศิษย์จังหวัดอุดร เป็นผู้สร้างถวายเมื่อปี 2514 มีสองพิมพ์ พิมพ์รูปเหมือนพระอาจารย์ฝั้นและพิมพ์รูปเหมือนพระอาจารย์มั่น มีชนิดเนื้อโลหะ

-เนื้อทองแดงกะไหล่ทอง ตอกโค๊ด(กรรมการ)
-เนื้อทองแดงรมน้ำตาล

 

โอนแล้วครับ วันนี้ เวลา 9.56 น. จำนวน 650 บาท ผ่าน KTB
ขอฝากพระเอาไว้ก่อนนะครับ