วัตถุมงคล ...มงคลที่ตรงไหน

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย packtuza, 27 พฤษภาคม 2012.

  1. packtuza

    packtuza Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    27
    ค่าพลัง:
    +29
    สำหรับผู้ที่มาศรัทธาหลวงปู่ดู่นั้น ต้องยอมรับว่า " วัตถุมงคล" ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่นำทางคนจำนวนไม่น้อยให้เข้ามารับการต่อยอดจากท่านในการแสวงหาพระเก่าพระแท้คือใจที่ต้องฝึกฝนอบรมในศีล สมาธิ และปัญญา เพื่อให้ใจเป็นพระขึ้นมาเสียเอง ก็โดยอาศัยการยึดในพุทธัง สรณัง คัจฉามิ ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ และสังฆัง สรณัง คัจฉามิ เป็นหลักใจเสียก่อน วัตถุมงคล จึงแสดงความเป็นมงคลออกมาได้จริงก็ตอนโยงจิตของเจ้าของเข้าหาธรรมนี้แหละ แค่อานิสงส์ในทางเมตตา หรือในทางแคล้วคลาดปลอดภัย ฯลฯ นั้น มันยังเป็นเรื่องโลก ๆ ขึ้นชื่อว่าโลกก็ย่อมต้องมีความพร่องอยู่เป็นนิจ และมิอาจต้านทานความแก่ ความเจ็บ และความตายได้ ถึงจะแคล้วคลาดครั้งนี้ หรือครั้งไหน ๆ สุดท้ายก็แคล้วคลาดจากความแก่ ความเจ็บ และความตายไปไม่ได้หรอก

    ดังนั้น ความเป็นมงคลของสิ่งที่เรียกว่า "วัตถุมงคล" จึงอยู่ที่ตรงนี้ ตรงที่เป็นเครื่องระลึกให้ใจเราเข้ามาในวงของพระธรรม วงของการปฏิบัติเพื่อให้ได้ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน ตนที่มีใจเป็นธรรมเท่านั้นจึงจะแคล้วคลาดปลอดภัยได้จริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งปลอดจากทุกข์ทางใจ ที่เรียกว่า "ธรรมย่อมคุ้มครองรักษาผู้ประพฤติธรรม"

    หากสิ่งที่เรียกว่า "วัตถุมงคล" มิได้โยงคนเข้าหาธรรม ความเป็นมงคลก็หาเกิดไม่ เหมือนพระในคอโจร หรือพระที่ตั้งอยู่ในถิ่นต่างศาสนา ก็มิได้มีความหมายในทางยกระดับจิตใจแต่อย่างใด ความเป็นมงคลจึงไม่บังเกิด
    เวลาหลวงปู่ดู่ท่านสอนศิษย์ ท่านมักสอนให้ใช้ปัญญาใคร่ครวญ (ท่านใช้คำว่า "ตรอง") เช่น ทำสิ่งนั้นสิ่งนี้ไปเพื่ออะไร นั่งสมาธิหลับตาไปทำไม ตอบตัวเองให้ชัด ชีวิตเกิดมาทำไม ใช้ชีวิตอย่างไรจึงจะไม่เป็นโมฆะ เห็นนิมิตแล้วควรวางใจอย่างไร เพื่อมิให้ขัดกับเป้าหมายหรือวัตถุประสงค์ของการปฏิบัติเพื่อความพ้นทุกข์ ฯลฯ

    ก็ทำนองเดียวกับที่ว่าสมาธิมิใช่เพื่อสมาธิ หากแต่เป็นสมาธิเพื่อปัญญา ท่านจึงว่า "อย่าต้มน้ำทิ้งเปล่า ๆ ต้องเอาไปชง (เครื่องดื่ม) ไมโลโอวัลติน จึงจะเกิดประโยชน์" วัตถุมงคลก็เหมือนกัน การบูชาวัตถุมงคลมิใช่จะให้จบแค่ตัววัตถุมงคล หรือมูลค่าการซื้อขาย หรือความเชื่อในความขลัง ฯลฯ หากแต่ต้องมาจบที่ใจเจ้าของที่หันมาหาธรรม ใจที่มีสติมากขึ้น ใจที่เผอเรอน้อยลง ใจที่เชื่อในพระรัตนตรัยมากขึ้น ชนิดที่เรียกว่าไม่อาจทำความชั่วทั้งในที่แจ้งและที่ลับ

    สิ่งที่หลวงปู่สอนมาตลอดชีวิตท่านก็คือให้ศิษย์มีปัญญา และตั้งอยู่ในความไม่ประมาท ทีนี้ผู้ที่มีวัตถุมงคลไม่ว่าจะของหลวงปู่หรือของครูบาอาจารย์ท่านใดก็ตาม ก็ควรพิจารณาทบทวนดูว่า เราใช้สิ่งนี้อย่างผู้มีปัญญา รวมทั้งใช้อย่างผู้ไม่ประมาทในชีวิตหรือไม่ หรือว่าเราใช้วัตถุมงคลเพียงแค่เครื่องหาเลี้ยงชีพ ใช้เพื่ออวดหรือข่มคนที่ไม่มีเหมือนเรา ใช้เป็นเครื่องเล่นเช่นวัดพลังงานในองค์พระ ใช้เป็นสิ่งเอาไว้อ้อนวอนขอความสำเร็จชนิดไม่ต้องขวนขวายสร้างเหตุที่เหมาะสม ใช้เป็นเครื่องอุ่นใจว่าปลอดภัยแน่ ๆ แล้วตั้งตนอยู่อย่างผู้ขาดสติและขาดความระมัดระวัง ฯลฯ

    วัตถุมงคล ...มงคลที่ตรงไหน ทุกท่านคงมีคำตอบแล้วนะครับ

    การถ่ายทอดผ่านบทความครั้งนี้อาจกระทบใจบางท่าน แต่ก็ด้วยหวังประโยชน์ที่จะเกิดขึ้น และบันทึกไว้เพื่อให้ผู้มาใหม่ได้เห็นปฏิปทาในการสร้างพระของหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ แห่งวัดสะแก เพราะนานวันไปปฏิปทาส่วนนี้อาจถูกลืมเลือนไป
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • images.jpg
      images.jpg
      ขนาดไฟล์:
      12.1 KB
      เปิดดู:
      93

แชร์หน้านี้

Loading...