สั่งร้านทอง คืนเงินผู้ซื้อ พระสมเด็จ

ในห้อง 'ข่าวทั่วไป' ตั้งกระทู้โดย หมูพรครูบา, 2 มกราคม 2008.

  1. หมูพรครูบา

    หมูพรครูบา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2007
    โพสต์:
    4,941
    ค่าพลัง:
    +4,300
    <TABLE class=text cellSpacing=0 cellPadding=15 width=780 border=0><TBODY><TR><TD align=middle><TABLE class=text cellSpacing=0 cellPadding=15 width="85%" border=0><TBODY><TR><TD>ความคืบหน้าการจัดสร้างพระสมเด็จเหนือหัว ภายหลังกรมสอบสวนคดีพิเศษแจ้งข้อหานายสิทธิกร บุญฉิม หรือเสี่ยอู๊ด ประธานบริษัทไดมอนด์ ฮิลล์ จำกัด ในฐานะผู้จัดสร้างพระสมเด็จเหนือหัว ข้อหาโฆษณาขายสินค้าเกินความจริงและฉ้อโกงประชาชน เมื่อวันที่ 1 ม.ค. นายจรัญ ภักดีธนากุล ปลัดกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยถึงแนวทางการคืนเงินรายได้จากการเปิดเช่าพระสมเด็จเหนือหัวของร้านทองทั่วประเทศว่า ร้านทองที่เปิดเช่าพระสมเด็จเหนือหัว ต้องคืนเงินรายได้จากการเปิดเช่าพระรุ่นดังกล่าวคืนทั้งหมด เพราะถือว่าเป็นทรัพย์ที่ได้มาจากการกระทำผิด ไม่สามารถหักกำไรในการดำเนินการรับเช่าพระได้ ตนเห็นว่าร้านทองทั่วประเทศควรให้ความร่วมมือคืนเงิน เพราะไม่ถูกดำเนินคดีด้วยถือว่าโชคดีแล้ว ส่วนแนวทางแก้ปัญหาของร้านทองหากได้รับความเสียหาย มีสิทธิฟ้องเรียกค่าเสียหายจากคู่สัญญาที่ได้ตกลงกันในการแบ่งเงินรายได้จากเปิดเช่าพระสมเด็จเหนือหัว หากร้านทองแห่งใดได้นำส่วนแบ่งรายได้จากการเปิดเช่าพระไปใช้บ้างแล้ว ก็ต้องนำเงินมาคืน โดยสามารถขอคำปรึกษาได้ที่สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) หรือกรมสอบสวนคดีพิเศษ
    นายอภิชาติ ถนอมทรัพย์ ผอ.สำนักตรวจสอบและคดี สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) กล่าวถึงกรณีเดียวกันว่า ถ้าเป็นทรัพย์สินที่ได้จากการจัดสร้างพระสมเด็จเหนือหัว คงต้องอายัดไว้ทั้งหมด เพราะถือว่าเป็นทรัพย์สินที่ได้จากการกระทำความผิด แม้ร้านทองได้ทำสัญญาแบ่งกำไรในการเปิดเช่าพระไว้กับกลุ่มผู้สร้างพระสมเด็จเหนือหัวไว้ ดังนั้นหากร้านทองหรือผู้มีส่วนได้เสียคิดว่า เงินในส่วนของกำไรที่จะได้รับตามสัญญาเป็นเงินที่ถูก และร้านทองมีสิทธิได้รับ ก็ต้องยื่นคำร้องต่อศาลว่า มีเงินส่วนใดบ้างที่ผู้ร้องมีสิทธิได้รับ เพราะ ปปง.ไม่มีอำนาจชี้ขาด เพียงทำหน้าที่อายัดเงินที่น่าเชื่อว่าได้มาจากการกระทำความผิดส่งให้ศาลวินิจฉัยตามกระบวนการยุติธรรม ทั้งนี้เหตุผลที่ต้องติดตามเงินเช่าพระสมเด็จคืนจากร้านทอง เพราะต่อไปหากมีการกระทำผิดก็ไม่ควรมีช่องทางสนับสนุน เพื่อคุ้มครองความเสียหายของประชาชน
    ผอ.สำนักตรวจสอบและคดี ปปง.กล่าวอีกว่า หากท้ายที่สุดศาลวินิจฉัยให้ยึดเงินที่ได้จากการจัดสร้างพระสมเด็จเหนือหัว ผู้เช่าพระสมเด็จเหนือหัวจะมีสิทธิคุ้มครองเป็นอันดับแรกที่สามารถขอรับเงินคืน ส่วนร้านทองหากต้องการเงินค่าใช้จ่ายที่ได้ดำเนินการไปก่อนหน้าคืน ต้องนำพยานหลักฐานเข้าร้องต่อศาลเพื่อขอเงินค่าใช้จ่ายคืน สำหรับเงินส่วนแบ่งกำไรจะไม่มีสิทธิได้รับตามเหตุผลข้างต้น ส่วนเงินเช่าพระสมเด็จเหนือหัวในกรณีที่ไม่มีผู้เช่าขอรับคืน ศาลจะเป็นผู้วินิจฉัยถึงแนวทางดำเนินการต่อไป อย่างไรก็ตาม ขอให้ร้านทองให้ความร่วมมือ อย่าพยายามปกปิดเพราะอาจถูกดำเนินคดีฟอกเงิน
    นายอภิชาติกล่าวอีกว่า สำหรับธนาคาร 4 แห่งที่เปิดรับเช่าพระสมเด็จเหนือหัวโดยไม่ขอแบ่งรายได้หลังกลุ่มผู้จัดสร้างระบุว่าทำเพื่อสาธารณกุศล เบื้องต้นทราบว่าได้มีการโอนเงินเช่าพระที่ยังไม่ทราบยอดที่ชัดเจนเข้าบัญชีมูลนิธิอัฏฐมราชานุสรณ์ไปแล้ว เงินส่วนนี้หากเป็นการบริจาคเพื่อสาธารณกุศล ก็ไม่สามารถติดตามคืนได้ เพราะกฎหมายมีหลักยกเว้นว่า แม้เป็นเงินที่ได้มาจากการกระทำผิด หากนำไปบริจาคเพื่อสาธารณกุศลจะติดตามคืนไม่ได้
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     

แชร์หน้านี้

Loading...