สิ่งที่เราจะทำก็แค่ "หยุดส่งคลื่นพลังงานเก่าไปสู่โลกอนาคต" เท่านั้นเอง

ในห้อง 'ร้องเรียนและปัญหา' ตั้งกระทู้โดย anakarik, 21 มิถุนายน 2011.

  1. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    เหตุที่โลกนี้ยังเต็มไปด้วยคลื่นพลังงานเก่า เนื่องจากมนุษย์โลกยังคงเคยชินกับการใช้พลังงานเก่า และส่งคลื่นพลังงานเก่าไปสู่โลกอนาคตเสมอ ทำให้เมื่อลูกหลานในอนาคตเกิดมา ต้องรับสืบทอดพลังงานเก่าเหล่านี้ต่อไปไม่สิ้นสุด และเมื่อคุณเวียนกลับมาเกิดบนโลกใบนี้อีกครั้ง คุณเองก็จะได้รับกระแสพลังงานเก่าเหล่านี้ ที่คุณเคยก่อไว้เองในอดีตชาตินั้นแหละ เล่นงานคุณอีกครั้ง ไม่มีที่สิ้นสุด ดังนั้น เราจึงแนะนำคุณว่า "หยุดส่งคลื่นพลังงานเก่าไปสู่โลกอนาคต" ได้แล้ว เมื่อคุณหยุดกระบวนการนี้ได้ โลกอนาคตของพวกคุณ จะมีแต่ "คลื่นพลังงานใหม่" ที่ดีกว่า ใสบริสุทธิ์ และปลอดภัยต่อการดำรงอยู่ร่วมกันของพวกคุณเองมากกว่า และมันจะทำให้โลกของคุณมีบรรยากาศที่ดีขึ้นอย่างมากทีเดียว ดังนั้น เราจึงแนะนำคุณอีกว่าเมื่อคุณเลิกใช้ "พลังงานเก่า" แล้ว คุณยังมี "พลังงานใหม่" เป็นพลังงานทางเลือกที่ดีกว่ามากนัก และคุณจะเลื่อนระดับโลกใบนี้ให้เทียบเท่ากับ "มาตรฐานพลังงานของจักรวาล" ทีเดียว ดังเราจะแนะนำวิธีใช้พลังงานใหม่ให้แก่พวกคุณ ดังต่อไปนี้
     
  2. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    พลังงานใหม่นี้ ใหม่สำหรับโลกใบนี้มาก แต่มันเป็นเพียง "พลังงานปกติของมาตรฐานสากลจักรวาล" เท่านั้น มันไม่ได้ใหม่เลยสำหรับจักรวาลนี้ และมันมีอยู่มากมายทั่วไป และแน่นอนว่าโลกของคุณก็ได้รับมันอยู่ตลอดเวลาเช่นกัน ทว่า คุณกลับใช้พลังงานใหม่นี้น้อยมากและก่อคลื่นพลังงานเก่าออกมากลบเกลื่อนและรบกวนพลังงานใหม่นี้เสมอ ทำให้พวกคุณชินกับการใช้ "พลังงานเก่าอยู่เนืองๆ" และไม่อาจ "เลื่อนระดับโลกให้เทียบเท่ามาตรฐานสากลจักรวาล" ได้เลย ณ จุดเวลาที่แจ้งข่าวสารแก่คุณนี้ คือ "จุดเริ่มต้นที่สำคัญ" ที่เราจะก้าวข้ามผ่าน "จุดเปลี่ยนของโลก ไปสู่โลกอนาคต" คือ "โลกแห่งพลังงานใหม่ พลังจักรวาล" นั่นเอง ซึ่งโลกอนาคตที่เปลี่ยนไปใช้ "พลังงานใหม่" แล้วนั้น จะลดการกระทบกระทั่ง, การแบ่งแยก, การทะเลาะเบาะแว้ง, การมุ่งร้ายทำร้ายกัน, การก่อกรรมทำเข็ญต่อมนุษย์ด้วยกัน ฯลฯ ได้อย่างสิ้นเชิง เมื่อคุณรู้จักที่จะเรียนรู้การใช้พลังงานใหม่แล้ว คุณจะเลิกใช้พลังงานเก่าโดยสิ้นเชิง เพราะพลังงานเก่าเหล่านี้ "มีผลเสีย" มาก แต่ "พลังงานใหม่" เป็นพลังงานบริสุทธิ์ สะอาด และไม่ก่อกรรม ไม่กระทบต่อการดำรงอยู่อย่างสงบสุขของมวลมนุษย์ และที่สำคัญ "เป็นพลังงานที่มีอยู่อย่างไม่จำกัด" และคุณก็สามารถรับได้ทุกคน
     
  3. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    การปรับลด "คลื่นพลังงานงานเก่าไปสู่โลกอนาคต" และการ "ชำระล้างพลังงานเก่า ณ ปัจจุบัน" สองกระบวนการนี้จะช่วยให้ "โลกอนาคตสะอาดและบริสุทธิ์" มากยิ่งขึ้น และพลังงานใหม่สามารถทำหน้าที่ได้อย่างเต็มที่ในโลกอนาคต โลกจะได้รับการชำระล้าง ทำให้สะอาดขึ้น บริสุทธิ์ขึ้น และมีบรรยากาศที่ดีต่อการดำรงอยู่มากขึ้น ในโลกแห่งอนาคตนั้น พวกคุณจะได้พบกับมิติใหม่ของการดำรงอยู่ที่ไม่มีภาพแห่งการเข่นฆ่ากันอีกแล้ว, สงครามจะไม่มีอีกต่อไป, ความอดอยากและการแย่งชิงจะหมดสิ้น, การก่อกรรมทำเข็ญจะเปลี่ยนเป็นความเอื้ออาทรกันของเพื่อนมนุษย์ ฯลฯ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเกิดได้จากสองกระบวนการดังกล่าว ซึ่งคุณเองมีส่วนร่วมที่จะกระทำมัน ณ เวลาปัจจุบันนี้ เพื่อให้โลกในอนาคตที่สดใส รอรับการกลับมาเยือนอีกครั้งของพวกคุณเอง ลบภาพความทรงจำเลวร้ายเก่าๆ พลังงานเก่าที่มืดมนที่ทำให้คุณตกต่ำและจจมปลักอยู่กับความทุกข์ ฯลฯ ในโลกแห่งอนาคต โลกแห่งพลังงานใหม่นี้ พวกคุณจะใสจากภายใน และมีความแตกต่างกันจากภายนอกที่ห่อหุ้ม ทำให้ไม่น่าเบื่อจนเกินไป ทำให้พวกคุณมีกิจ มีภาระหน้าที่ที่ต่างกันและคานดุลยภาพกันได้อย่างสมดุล ดังนั้น เราจึงหวังอย่างยิ่งว่าพวกคุณจะเห็นความสำคัญของการกลับมาสู่โลกใบนี้อีกครั้งของพวกคุณเองในอนาคต และร่วมกันสร้าง "โลกในอนาคต" ใบใหม่ให้กับโลกใบนี้ ณ เวลาที่เราอยู่บนโลกนี้ในปัจจุบัน ด้วยกระบวนการ "หยุดส่งคลื่นพลังงานเก่าไปสู่โลกอนาคต" และ "การชำระล้างพลังงานเก่าให้หมดไป ณ เวลาปัจจุบัน" ซึ่งเราจะอธิบายต่อไป
     
  4. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    ในกระบวนการ "หยุดส่งคลื่นพลังงานเก่าไปสู่โลกอนาคต" คือ การหยุดก่อกรรมนั่นเอง เนื่องจากกรรมที่เกิดขึ้น ณ เวลาปัจจุบัน จะกลายเป็น "พลังงานส่งไปในโลกอนาคต" รอคุณอยู่ในโลกอนาคต ทำให้คุณต้องรับมันในฐานะ "พลังงานเก่า" (ซึ่งคุณได้สร้างไว้เองในอดีตนั่นเอง) และวงจรของพลังงานเก่านี้เอง ที่ทำให้พวกคุณต้องใช้มันอย่างไม่มีทางหยุดได้ เหมือนกับการเสพติด เพราะชินอยู่กับการใช้พลังงานแบบนี้ เมื่อพลังงานเก่าจรมาสู่คุณ คุณใช้มัน มันก็จะเกิด "พลังงานเก่าส่งไปสู่โลกอนาคต" อีก ไม่จบ ไม่สิ้น วงจรนี้จะสืบทอดต่อเนื่องไปยังลูกหลานของคุณ ฝากไว้บนโลกใบนี้ รอจนกระทั่งพวกคุณกลับมาสู่โลกใบนี้อีกครั้ง มันจะเล่นงานคุณในอนาคตนั่นเอง ซึ่งเมื่อคุณหยุดก่อกรรมแล้ว คุณอาจสงสัยว่า "ถ้าไม่ก่อกรรมแล้วก็ไม่ต้องทำอะไรเลยนะสิ?" นั่นคือ คุณไม่รู้จักใช้พลังงานใหม่ นั่นเอง จึงคิดว่าการไม่ก่อกรรมคือการไม่ทำอะไรเลย เพราะสิ่งที่เราแนะนำคุณนี้ คือ การใช้พลังงานใหม่ คุณจะมีพลังงานในการทำกิจของคุณอย่างแน่นอน แต่มันไม่ใช่พลังงานเก่าที่ล้าหลังและมีผลเสียตกค้างมากอีกต่อไป มันจะเป็นพลังงานที่หมดไปอย่างใสสะอาด และส่งตรงลงมาสู่โลกของคุณเรื่อยๆ (เหมือนการเผาผลาญที่หมดจด ไม่เหลือสารพิษใดตกค้าง นั่นเอง) ดังนั้น อย่างแรก เราจึงต้องแนะนำให้คุณเลิกส่งพลังงานเก่าไปสู่โลกอนาคตก่อน หรือก็คือ "หยุดการกระทำที่ก่อให้เกิดกรรม" หรือการกระทำที่กระทบต่อผู้อื่นในองค์สาม (กายกรรม, วจีกรรม, มโนกรรม) นั่นเอง เพราะสิ่งนี้คือ "ต้นเหตุ" ในการกำเนิดขึ้นของพลังงานเก่าทั้งหลาย เมื่อคุณตัดวงจรนี้ที่จุดกำเนิดได้ พลังงานเก่าก็จะลดลง จะไม่ถูกสร้างใหม่เพิ่ม พลังงานเก่ามวลรวมของทั้งโลกจะลดลง โลกของคุณจะดีขึ้น และจะไม่กลายเป็นพลังงานขับเคลื่อนให้เกิด "ภัยพิบัติ" อีกต่อไป (พลังงานเก่าของคุณ เป็นพลังงานขับเคลื่อนภัยพิบัติต่างๆ บนโลกนี้ นั่นเอง)
     
  5. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    และในส่วน "กระบวนการชำระล้างพลังงานเก่า" นั้น ได้มีการเขียนไว้อย่างละเอียดแล้ว สรุปคือ การยอมรับไม่ใช่การปฏิเสธ ในความจริงที่ว่า "ทุกอย่างคือธรรมชาติ เป็นหนึ่งเดียวกันทั้งจักรวาล ไม่ใช่ตัวใครของใคร ไม่มีดีหรือเลว, ถูกหรือผิด ฯลฯ สรรพสิ่งล้วนเป็นเช่นนั้นเอง" เช่นเดียวกัน พลังงานเก่าก็เป็นเช่นนั้นเอง มันมีหน้าที่ของมัน คือ "ยึดโยงพวกคุณไว้กับโลกใบนี้ จนไม่อาจหลุดพ้นเป็นอิสระได้ และนำไปสู่ความทุกข์" ดังนั้น เพื่อเป็นการดีต่อตัวคุณเอง การชำระล้างพลังงานเก่าจึงเป็นการช่วยทั้งตัวคุณและผู้อื่นไปด้วยในตัว เมื่อคุณไม่ได้ปฏิเสธพลังงานเก่า แต่รับมันไป "ชำระล้าง" ให้ใสบริสุทธิ์เสีย มันก็จะค่อยๆ หมดไป ลดจำนวนลงไปเรื่อยๆ และบรรยากาศของโลกจะดีขึ้นเรื่อยๆ และอาจหยุดกระบวนการปรับตัวของโลกอันก่อให้เกิด "ภัยพิบัติ" ได้มากด้วย หลักการง่ายๆ ของการชำระล้างคือ ตัวคุณมีธรรมชาติของระบบที่ถูกออกแบบมาให้ชำระล้างอยู่แล้ว ในร่างกายของคุณมีจักระทั้ง ๗ เป็นจักรวาลน้อยอยู่แล้ว เมื่อใดที่คุณ "เปิดรับปรับจูน" เข้ากับจักรวาลที่หมุนอยู่ มันจะค่อยๆ ปรับตามกัน หมุนตามกันไปตามธรรมชาติเอง โดยคุณไม่ต้องทำการหมุนมันแต่อย่างใด กลไกลนี้จะเชื่อมโยงถึงกัน เป็นหนึ่งเดียวกัน และทำหน้าที่ได้โดยอัตโนมัติ เหมือนเครื่องซักผ้าที่หมุนจนผ้าสะอาด จักรวาลก็หมุนและจักระในร่างทั้ง ๗ ของคุณก็หมุนคล้อยตามกัน อย่างเป็นธรรมชาติ หนึ่งเดียวกัน (ถ้าคุณไม่เปิดรับ ปรับจูนกับจักรวาล การหมุนก็อาจติดขัด หรือผิดทิศผิดทางได้เช่นกัน) คุณไม่ต้องทำอะไรเป็นพิเศษเลย เพราะธรรมชาติ, จักรวาลสร้างคุณ ออกแบบร่างกายของคุณมาให้พร้อมอยู่แล้ว เมื่อคุณเชื่อมต่อกับจักรวาล พลังงานจักรวาลจะหมุนพาคุณไปเองตามธรรมชาติ (เพราะการเชื่อมโยงนั้น) ซึ่งก็ด้วยการเปิดรับและคำนึงถึงความเป็นหนึ่งเดียวกันของทั้งจักรวาลนี้ ก็เท่านั้นเอง กลไกลก็พร้อมทำงานทันที (เหมือนเปิดสวิตซ์) เมื่อคุณทำงานไปโดยเลี่ยงไม่ก่อกรรม ไม่สร้างพลังงานเก่าส่งไปยังโลกอนาคต แม้คุณได้รับพลังงานเก่าในปัจจุบัน ทำให้โลภ, โกรธ หรือหลง มากขึ้น ก็ใช้พลังงานเก่านั้นไปในกิจกรรมตามปกติโดยไม่ก่อกรรม ให้มันหมดไปกับกิจกรรมต่างๆ ตามปกติของชีวิตของคุณเอง เช่น ถ้าคุณกำลังสับหมูอยู่ แล้วพลังงานเก่าจรเข้ามาทำให้คุณโมโหใครสักคนทันที คุณก็ใช้พลังงานเก่านั้นในการสับหมูไปจนหมดพลังงาน หมดแรง พลังงานเก่านั้นก็จะถูก "ชำระล้าง" ด้วย "จักระทั้ง ๗" ในร่างของคุณนั่นเอง เมื่อคุณใช้พลังงานเก่า (ความโกรธ) นั้นในการสับหมูจนหมดแล้ว มันก็จะสูญสภาพไป กลายเป็น "พลังงานใส" ซึ่งเป็นพลังงานชนิดเดียวกันกับพลังงานใหม่อย่างหนึ่ง ที่ปลอดภัยต่อโลกใบนี้ ณ จุดนี้ คุณจะรู้สึก "ว่างเปล่า ไร้..." และ "ใสจากภายใน" หรือ "สงบนิ่งโดยไม่ต้องทำสมาธิ" ได้ และเป็นจุดที่คุณสามารถสว่างไสว เกิดปัญญาได้มากที่สุด แต่ถ้าคุณปฏิเสธพลังงานเก่าเหล่านี้ มันจะกลายเป็นเหมือนการทิ้งของเสียของโรงงานอุตสาหกรรมสู่สิ่งแวดล้อม โดยยังไม่ได้รับการชำระล้างให้สะอาดเสียก่อน นั่นเอง
     
  6. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    ท้ายที่สุด คือ "การเปลี่ยนมาใช้พลังงานใหม่" ซึ่งคุณอาจยังไม่คุ้นเคยนัก เพื่อให้คุณเข้าใจง่ายขึ้น ขอยกตัวอย่างในรูปของพฤติกรรมและความรู้สึกของผู้ใช้พลังงานใหม่ ดังนี้ คือ เมื่อใช้พลังงานใหม่แล้ว คุณจะมี "จิตสำนึกร่วมกันของทั้งจักรวาล" โดยไม่หวังผลตอบแทนจากการกระทำนั้นๆ ไม่เห็นแก่ตัว เพราะมองเห็นความเป็นหนึ่งเดียวร่วมกันแล้ว นั่นเอง คุณจะทำหน้าที่ได้เพราะมันเป็นกิจของจักรวาล โดยไม่ต้องรอให้ใครสั่งใช้, ไม่รอให้ใครแต่งตั้ง, ไม่รอให้เขาจ่ายค่าแรง ฯลฯ แต่คุณจะทำไปโดยเป็นภาระกิจของจักรวาล เพราะเป็นหน้าที่เพื่อจักรวาลนี้ร่วมกัน คุณจะมีแรง มีพลังงานมากมายที่ได้รับจากจักรวาลโดยตรง อย่างอัศจรรย์ ในขณะที่ผู้ที่ไม่สามารถใช้พลังงานนี้ได้ เขาจะท้อแท้ ไม่มีเรี่ยวแรง หมดพลัง เมื่อเขาต้องตกอยู่ในฐานะไม่มีตำแหน่ง, ไม่มีใครสั่งใช้, ไม่มีเงินเดือน, ไม่มีผลตอบแทนอะไรใดๆ เลย เมื่อตกอยู่ในสภาพนี้แล้ว ถ้าเขาคนนั้นไม่มีพลังงานใดจะทำหน้าที่ของตนได้ แสดงว่าเขาไม่ได้ใช้ "พลังงานจากจักรวาล" อยู่ แต่ปัยหานี้จะไม่เกิดกับผู้ที่ใช้พลังงานจักรวาลเลย เพราะเขาจะเปี่ยมพลัง, มีความสว่างไสวด้วยปัญญา, มีความอบอุ่นและหัวใจที่อ่อนโยน, มีความสุขสงบทุกครั้งที่ทำหน้าที่ ฯลฯ และไม่มีการลดน้อยถอยลงของพลังงานนี้เลย เพราะพลังงานใหม่จากจักรวาลนี้ "มีไม่อาจประมาณ ไร้จำกัด" นั่นเอง และเมื่อท่านได้ปรับเปลี่ยนมาใช้ "พลังงานของจักรวาล" นี้โดยตรงแล้ว ท่านจะค้นพบสิ่งมหัศจรรย์ของพลังงานนี้ที่มีความลี้ลับซ่อนอยู่อีกมากมาย เช่น ขุมปัญญาอันหาที่สุดไม่ได้, ขุมพลังพิเศษที่ไม่เคยมีอยู่บนโลกใบนี้, ขุมพลังงานแห่งความเมตตาอันไพศาลไร้ประมาณ เป็นต้น ท้ายที่สุดนี้ เราหวังว่าท่านจะสร้างโลกในอนาคตให้กลายเป็นโลกใบใหม่ที่สะอาดสดใสพร้อมกันกับเรา สวัสดี...
     
  7. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    จบการสื่อสารกับ "สิ่งหนึ่ง" ในจักรวาล๒๑ มิ.ย. ๒๐๑๑รับการสื่อสารโดย "อพอลโล่"
     
  8. Numtrn

    Numtrn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    1,408
    ค่าพลัง:
    +1,571
    ทำไมดูคล้ายๆ แนวคิด หรือหลักปฎิบัติทางศาสนาพุทธ เลยครับ


    ที่ท่านว่า "หยุดการกระทำที่ก่อให้เกิดกรรม" หรือการกระทำที่กระทบต่อผู้อื่นในองค์สาม (กายกรรม, วจีกรรม, มโนกรรม)

    การกระทำทุกอย่าง คือกรรม มิใช้หรือ ท่านจะให้หยุด กรรม ประเภทไหนครับ

    แล้ววิธีปฏิบัติล่ะครับ ต้องทำอย่างไร กิจกรรมของมนุษย์ ประจำวัน สร้างสาระพัด กรรมเลยครับ จะให้หยุดกิจกรรมประเภทไหนครับ ขอความกระจ่างด้วยครับ

    ดังเช่นของศาสนาพุทธ ได้บอกมาหมดแล้วครับ ว่า อย่างนี้ควรละเว้น อย่างนี่ควรกระทำ


    แต่ของท่าน ยังไม่เห็นมีเลยครับ

    ผมตามอ่านของท่านมาหลายกระทู้ครับ หากท่านจะประกาศ ศาสนาใหม่ ผมก็สนใจครับ หากเป็นลัทธิใหม่ ผมก็สนใจครับ แม้แต่เป็นเพียง แนวคิดใหม่ก็ยังสนใจครับ

    แต่ที่ผ่านมาเห็นเป็นเพียง หลักการ แล้ว วิธีการปฎิบัติอยู่ไหนครับ

    หรือให้ใช้วิธีปฎิบัติ ของศาสนาพุทธ ไปก่อนครับ
     
  9. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    (ผมนำมาจากบางส่วนในบทความนะครับ) ....ก็ใช้พลังงานเก่านั้นไปในกิจกรรมตามปกติโดยไม่ก่อกรรม ให้มันหมดไปกับกิจกรรมต่างๆ ตามปกติของชีวิตของคุณเอง เช่น ถ้าคุณกำลังสับหมูอยู่ แล้วพลังงานเก่าจรเข้ามาทำให้คุณโมโหใครสักคนทันที คุณก็ใช้พลังงานเก่านั้นในการสับหมูไปจนหมดพลังงาน หมดแรง พลังงานเก่านั้นก็จะถูก "ชำระล้าง" ด้วย "จักระทั้ง ๗" ในร่างของคุณนั่นเอง เมื่อคุณใช้พลังงานเก่า (ความโกรธ) นั้นในการสับหมูจนหมดแล้ว มันก็จะสูญสภาพไป กลายเป็น "พลังงานใส" ซึ่งเป็นพลังงานชนิดเดียวกันกับพลังงานใหม่อย่างหนึ่ง ที่ปลอดภัยต่อโลกใบนี้ ณ จุดนี้ คุณจะรู้สึก "ว่างเปล่า ไร้..." และ "ใสจากภายใน" หรือ "สงบนิ่งโดยไม่ต้องทำสมาธิ" ได้ และเป็นจุดที่คุณสามารถสว่างไสว เกิดปัญญาได้มากที่สุด
     
  10. thanan

    thanan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2004
    โพสต์:
    1,668
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +5,212
    ตามมาอ่าน ยังงง ๆ เล็กน้อย
     
  11. narata 12

    narata 12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มกราคม 2010
    โพสต์:
    990
    ค่าพลัง:
    +1,462
    สุดยอดมาครับ คุณ อพอลโล่ ติดตามอ่านมาหลายกระทู้ ทุกสิ่งที่ท่านถ่ายทอดออกมา ถูกต้องตามนั้นเลยครับ แม้จะถูกแทรกบ้าง แต่เนื้อหาโดยรวม มีประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับผู้ที่จะข้ามไปสู่ยุดพลังงานใหม่ ดังที่พวกเรากำลังเตรียมการณ์กันอยู่ ถึงแม้จะมีฝ่ายมืดมาแอบอ้างว่าติดต่อกับมนุษย์ต่างดาวได้ หรือเป็นตัวแทนของสิ่งศักดิ์สิทธิ แต่ท้ายที่สุดแล้ว พลังงานที่ไม่ดีและเป็นลบ ก็จะต้องถูกกำจัดออกไป ภายใต้การควบคุมดูแลของตัวแทนแห่งแสงสว่าง ที่ถูกแต่งตั้งโดยผู้สร้าง
     
  12. Numtrn

    Numtrn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    1,408
    ค่าพลัง:
    +1,571

    อ้าว นึกว่าแนวคิดของท่านเจ้าของกระทู้ เอง ปะโธ่!!!


    ระงับโกรธ ดับโกรธนี่ มันไม่ง่ายนะท่านพระท่านว่า ให้เอาสติไปที่จิต โกรธ อย่างท่าน ว. เป็นต้น

    www.lukkidthai.com/News/article22.html]lukkidthai.com

    อันนี้ ลากมาเป็นตัวอย่าง ใช้ว่าจะง่ายครับ



    ตามหลักการสับหมู

    ถ้าผมโกรธใครแล้วกำลังกระทืบเขาอยู่ ผมก็กระทืบเขาไปเรื่อยๆ จนพลังงานเก่าหมด หมดพลังงานหมดแรง พลังงานเก่าถูกชะระล้าง ว่างเปล่า สดใสไสวสว่าง จากภายใน การกระทืบจึงหยุดไปเองใช้หรือไม่ครับ

    หรือควร หยุดตั้งแต่การง้างเท้า ครับ แต่ถ้า ยังไม่ได้กระทืบ ก็ยังไม่ได้ใช้พลังงานเก่านี่ครับ
    หรือให้ใช้พลังงานเก่าให้หมดตั้งแต่ การ ง้างเท้า ครับ


    สับสนครับ ขอความกระจ่าง ด้วยครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 มิถุนายน 2011
  13. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722


    ๑) ความคิดของใคร? ไม่สำคัญหรอกครับ ถ้าคุณเข้าสู่ภาวะ "อนัตตา" แล้ว มันไร้สาระมากเลยที่จะมาสนใจว่า "นี่ความคิดของใคร" หรือ "นี่ความคิดของท่าน ว." ต้องของท่านนี้เท่านั้น "ของเขาเท่านั้น" ฯลฯ แต่สำหรับผมแล้ว ท่านนั้นท่านนี้ ล้วน "ไร้..." ตั้งแต่แรกแล้วครับ ๒) ผมไม่ได้แนะนำให้ระงับหรือดับโกรธครับ เพราะการทำเช่นนั้น มาจากรากเหง้าของความคิดอันเป็นอุปทานไปแล้วว่า "โกรธมันไม่ดี" คือ มีประจุ - อยู่ในความเข้าใจต่อความโกรธ ที่ผมพยายามสื่อคือ "ยกจิตของคุณขึ้นสู่ระดับจิตจักรวาล" เพื่อให้คุณมองเห็น "ทุกอย่าง" เป็นเพียง "ธรรมชาติหนึ่งที่ประกอบกันอยู่ในจักรวาลนี้" ชนิดฉับพลันครับ ความโกรธ หรือกิเลสทั้งหลาย เป็นเพียงธรรมชาติ มันมีหน้าที่ของมัน และมัน "ไม่เที่ยง" ครับ ๓) ถ้าคุณไม่ถูกจริตกับแนวนี้ ก็ไม่เป็นไรครับ ต้องขออภัยที่รบกวน คุณก็กลับไปตามเดิมๆ ของคุณได้ครับ ลืมๆ ที่อ่านไปเสียครับ เท่านั้นเอง...
     
  14. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    การกระทำกรรมต่อผู้อื่น คือ ต้นเหตุของพลังงานเก่าที่จะส่งไปในอนาคต และคนที่ยังทำแบบนี้ เพราะ "ชินกับการใช้พลังงานเก่า" หรือ อารมณ์เดิมๆ ความติดชินเดิมๆ ครับ ซึ่งผมได้บอกตั้งแต่ "หัวข้อกระทู้แล้ว" ว่า "หยุดส่งคลื่นพลังงานเก่าไปสู่โลกอนาคต" ซึ่งก็ทำได้ด้วยการ "หยุดกรรมปัจจุบัน" เนื่องจากกรรมปัจจุบัน จะก่อตัวเป็นพลังงานชนิดหนึ่งในจักรวาลนี้ (เช่น พลังจิตที่คุณกระทำไป) และมันจะสะท้อนย้อนกลับมาสู่ตัวผู้ก่อในอนาคต นั่นเอง และเพื่อ "ปลดปล่อย" ให้คนที่ยังชินกับการใช้พลังงานเก่าอยู่ (อันเป็นผลให้เกิดวิธีคิดเดิมๆ การก่อกรรมแบบเดิม ฯลฯ) ผมจึงแนะนำวิธี "ใช้พลังงานใหม่" ครับ อธิบายแล้ว ถ้าคุณได้อ่านจริงๆ คิดว่าน่าจะเข้าใจได้ไม่ต่างจากท่านอื่นนะครับ (เพราะท่านอื่นก็อ่านแล้วเข้าใจกันทั้งนั้นนะ?) ปัญหาที่ "อ่านแล้วไม่เข้าใจ" เพราะ "ใจไม่เปิด... " สู่จักรวาล ก็เท่านั้น
     
  15. Numtrn

    Numtrn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    1,408
    ค่าพลัง:
    +1,571

    ยก เอาแนวท่าน ว. มาเป็นตัวอย่างนะครับ ท่าน เพราะหาเอาจาก google มันมี link ทุกคนอ่านได้ แค่ คลิก ซึ่งจะทำได้ไหมมันอีกเรื่องหนึ่ง ที่จริง ยังมีอีกหลายท่านนะ เช่น ของท่าน Thich Nhat Henh ซึ่งท่านเป็นพระภิกษุชาวเวียดนามของพุทธศาสนาสายมหายาน
    วิธีพิชิตความโกรธ โดยวิธีมหายาน โดยท่าน Thich Nhat Henh

    ถ้าท่านนี้ ยัง "ไร้..."

    งั้นผมมีให้อีก ของ หลวงพ่อชา สุภัทโท
    http://mahamakuta.inet.co.th/practice/mk722.html

    ผมถูกจริตกับแนวของท่านนะครับ ถึงตามอ่านมานาน แต่ข้อสงสัยมีมาก ก็ต้องสอบถามเป็นธรรมดา

    ยังไงอย่าไล่กันเลยครับ ความรักเป็นพลังงาน ด้านบวกไม่ใช่เหรอ สดใสไสวสว่างครับ

    อย่าโกรธ เดี๋ยวเป็นพลังงาน ลบนะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 มิถุนายน 2011
  16. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722


    ชนะได้โดยไม่ต้องรบ .....ก็ความโง่เขลาของบุรุษนั้นเอง ที่เอา "ประจุลบ" ไปใส่ "ตัวโกรธ" แล้วสร้าง "โกรธให้มีตัวตน" ขึ้นมาเอง ทั้งที่ ความโกรธก็คือ ธรรมชาติ เป็นเช่นนั้นเอง ไร้อัตตาแต่แรกแล้ว คนโง่เขลาเหล่านี้ ล้วนเอา "ความโกรธไปสร้างตัวตน" ให้เป็น "ศรัตรู" กับตนเอง แล้วตัวเองนั้น ก็ต่อสู้กับความโกรธ เพื่อเอาชนะความโกรธนั้นไป ..... นี่เป็นเรื่อง "งี่เง่า" ที่ "ใจเน่าๆ" มันสร้างเองทั้งสิ้น
     
  17. หนึ่งจิต

    หนึ่งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,928
    ค่าพลัง:
    +4,388
    การลดกรรม หรือเห็นกรรมที่ตัวเองกระทำน่ะ หากเห็นบ่อยๆ จิตจะเกิดการแยกแยะว่่าสิ่งนี้ดี สิ่งนี้ไม่ดี เมื่อเห็นซ้ำ จิตจะจำสภาวะ เลือกไว้แต่สิ่งที่ดีๆ ไม่ดีก็ไม่เอา เพื่อไว้ คอยควบคุม กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม อัตโนมัติ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นได้ ต้องมีสติ ต้องใช้สติ เอาสมาธิเข้ามาร่วมด้วย เพื่อช่วยในการจับสภาวะ และนำมาปฏิบัติในชีวิตประจำวัน ไม่จำเป็นต้องไปวัด หรือสถานปฏิบัติธรรมก็ได้

    แต่สิ่งที่ขาดไม่ได้คือวินัย เพราะตัวก่อให้เกิดความเคยชินของจิต หากขาดวินัยที่ดีแล้ว จะทำให้จิตจำสภาวะยาก เนื่องด้วยการปฏิบัติ ไม่ได้อยู่ในที่สงบ จึงต้องใช้สมาธิ-สติ ควบคู่กัน ในการปฏิบัติ เพื่อความรวดเร็วในการปฏิบัติ สามารถเข้าใจสภาวะจิต เห็นกิเลสได้ชัด และละกิเลสได้จริงๆ ด้วยการรู้เท่าทันจิต โดยใช้สติ ไม่ใช่ดูจิตอย่างเดียว เห็นจิต เกิดอารมณ์ใด ๆ ก็ รู้ เห็น วางได้ ความโลภ โกรธ หลง มาก็เห็นได้ รุ้ได้ แต่ไม่สามารถละกิเลสได้

    ก็ไม่เกิดประโยชน์ที่แท้จริง เมื่อละจากโลกไปที่หมายยังไม่ชัดเจน ปิดอบายไม่ได้ แสดงว่าเมื่อไหร่ที่เผลอ ไม่ได้ดูจิต ก็ถูกครอบงำจากกิเลสได้เหมือนเดิม เหมือนคนฝึกสมาธิแล้วได้ ฌาน ขั้นสูง ได้เข้าถึงความสงบมากๆ แต่ก็ยังสามารถหลุดจากฌานได้อยู่ เมื่อโดนครอบงำจากกิเลส ยามเผลอ เพราะ ได้ฌาน แต่ยังไม่ได้ละกิเลสนั่นเอง
     
  18. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    คุณลองสัมผัสดูสิ คำตอบช่วงหลังของผมที่ดูดุดันขึ้น (เหมือนคนขี้โกรธ) เป็นพลังจักรวาล จากท่านใด (ท่านเคยมีชีวิตอยู่ในประเทศไทยนะ)(พลังงานของผมเองเป็นพลังเย็นเยือก มีผลไม่ดีต่อผู้รับ ผมจึงไม่ค่อยใช้ครับ)
     
  19. Numtrn

    Numtrn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    1,408
    ค่าพลัง:
    +1,571

    <สดใสไสวสว่าง ครับท่าน>

    ความโกรธ ไม่มีตัวตน ไรัอัตตา แต่มันส่งผลได้นี่ครับ คือ มันแสดงผลของมันออกมาได้ เช่น กระทืบใครบางคน เพราะผลจากความโกรธ

    ของพระท่านว่า ให้รู้จัก ความโกรธ หรือสมมติให้เป็น ตัวโกรธ จะได้พิจารณาได้ง่าย แล้วเอา สติไปจับช่วย ....ว่ากันไปตามหลัก พุทธ


    แต่ของท่าน ให้พิจารณาว่า มันมีของมันอยู่อย่างนั้น และมันจะไปของมันเอง ตามธรรมชาติของมัน มันจะสลายไปเอง ใช่หรือไม่

    แต่ถ้าระหว่างที่มันยังไม่สลายไป มันยังส่งผลร้ายๆอยู่ จะทำอย่างไรดี

    ถ้าสับหมูอยู่ ก็ สับให้เร็วขึ้น สับหนักๆ ลงมีดแรงๆ จะได้สลายพลังได้ไว
    ถ้ากำลัง ตืบใครอยู่ ก็ ตืบหนักๆ ตืบแรงๆ จะได้ สลายพลังงานเก่าได้ไว


    ของท่าน เป็นหลักความคิด เรื่อง พลังงาน ซึ่ง ทางวิทยาศาสตร์ ว่าไว้ว่า
    พลังงานไม่มีตัวตน คือ ไร้อัตตา แต่ พลังงานแสดงผลของมันได้ และมีทั้งผลดีและผลร้าย ปัญหาคือ จะทำให้ผลร้าย จบลงเร็วๆได้อย่างไร
    จะสลาย พลังงาน ร้าย ได้อย่างไรให้ เร็วๆ


    เห็นไหมท่าน ผมสนใจจริงๆ

    <สดใสไสวสว่าง ครับท่าน>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 มิถุนายน 2011
  20. หนึ่งจิต

    หนึ่งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,928
    ค่าพลัง:
    +4,388
    เมื่อไหร่ที่คุณยังปฏิบัติไปไม่ถึง คุณก็คงไม่เข้าใจหรอกว่าเป็นอย่างไร เมื่อไหร่ที่คุณยังไม่รู้ว่าวิธีการเป็นเช่นไร คุณก็ไม่สามารถรู้ได้หรอกว่าต้องทำอย่างไร ทฤษฎี ก็แค่ทฤษฏี ไม่ใช่การปฏิบัติ การละกิเลส เพื่อเปลี่ยนแนวความคิด ด้วยวิชชา รู้และเข้าใจ ถึงละอวิชชาได้ ค่อยๆ ละ ไม่ใช่ละดีเดียวให้เหมด ละด้วยการรู้ และ เห็นว่าไม่ดี เมื่อเห็นว่าไม่ดี จิตที่รู้แล้วเข้าใจแล้ว เค้าก็ไม่เอาอีก ไม่รับอีก เพราะทำให้ทุกข์

    นี่แหละคือการลด กายกรรม วจีกรรม มโนกรรม ในทางที่ไม่ดี และเปลี่ยนเป็น กายกรรม วจีกรรม มโนกรรมใหม่ ที่ดี ในครั้งต่อๆ ไป นั่นเอง

    แต่บางอย่างอ่านแล้วเหมือนรู้ เหมือนเข้าใจ แต่หากยังไม่ได้ลงมือทำคุณก็ไม่รู้หรอกว่ารายละเอียดปลีกย่อยคืออะไร และจะผ่านแต่ละขั้นตอนยังไงให้ ง่ายและไว ไม่จมแช่สภาวะเดิมๆ
     

แชร์หน้านี้

Loading...