สิ้นพระป่าศิษย์หลวงปู่มั่น หลวงปู่ผ่าน ปัญญาปทีโป

ในห้อง 'หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต' ตั้งกระทู้โดย aprin, 30 มกราคม 2011.

  1. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]

    </TD></TR></TBODY></TABLE>เมื่อวันที่ 24 ม.ค. วงการสงฆ์ได้สูญเสียพระป่าสายกัมมัฏฐานอีกรูป

    เมื่อ หลวงปู่ผ่าน ปัญญาปทีโป มรณภาพอย่างสงบ ด้วยโรคชรา ที่วัดป่าประทีปปุญญาราม ต.โพนแพง อ.อากาศอำนวย จ.สกลนคร

    "หลวงปู่ผ่าน" เป็นพระเถระนักปฏิบัติวิปัสสนาสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ที่มีวัตรปฏิบัติน่ายกย่อง เป็นพระสุปฏิปันโน ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ เคร่งครัดในพระธรรมวินัย

    เป็นที่เลื่อมใสของชาวบ้าน อ.อากาศ อำนวย จ.สกลนคร

    อัตโนประวัติ มีนามเดิมว่า ผ่าน หัตถสาร เกิดเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2465 ตรงกับวันพฤหัสบดี ขึ้น 4 ค่ำ เดือน 2 ปีจอ ณ บ้านเซือม ต.โพนแพง อ.อากาศอำนวย จ.สกล นคร

    โยมบิดา-โยมมารดา ชื่อ นายด่าง และนางจันทร์เพ็ง หัตถสาร

    มีเรื่องเล่ากันว่าตอนที่โยมมารดาได้ตั้งท้องหลวงปู่ผ่านนั้น ฝันว่าได้มีคนเอามีดด้ามงามมาให้ แล้วก็เอาไปซ่อนเพราะกลัวว่าจะมีคนมาเห็น

    ครั้นเมื่อคลอดออกมาแล้วก็ปรากฏว่าท่านเป็นเด็กที่เลี้ยงยากมากและร้องไห้งอแงเป็นพิเศษ จึงได้พาบุตรชายไปให้พระผูกสายสิญจน์ที่ข้อมือให้ จึงได้เลี้ยงง่ายขึ้น

    ด้วยความที่เป็นบุตรคนหัวปี ญาติพี่น้องเห็นก็พากันรักใคร่ ผลัดกันเอาไปเลี้ยง ผลัดกันเอาไปอุ้ม ท่านจึงมีแม่หลายคน เพราะมีคนเอาไปเลี้ยงหลายคน

    ในช่วงวัยเยาว์ เมื่อท่านเติบใหญ่ได้ช่วยโยมบิดา-มารดาทำไร่ทำนาทำมาหากินตามปกติ

    นิสัยเป็นคนเรียบเฉย ไม่มีนิสัยรักสนุก เป่าปี่สีซอ เป่าแคนอย่างคนหนุ่มอื่น ไม่เคยเต้นรำวง ไม่กินเหล้าเมาสุรา

    ท่านได้เข้าโรงเรียนเมื่ออายุ 10 ขวบ แต่เรียนยังไม่ทันจบ โยมพ่อเฒ่าตาย ตามประเพณีทางอีสานลูกหลานนิยมบวชให้เพื่อจูงศพเข้าป่าช้า ท่านได้บวชเป็นสามเณรอยู่ประมาณ 1 เดือนจึงได้ลาสิกขา

    เมื่อปี พ.ศ.2480 อายุ 15 ปี จึงบรรพชาอีกครั้งที่วัดทุ่ง ต.อากาศ อ.อากาศอำนวย จ.สกล นคร มีพระครูวิรุฬห์นวกิจ เป็นพระอุปัชฌาย์

    จนกระทั่ง พ.ศ.2482 จึงได้ติดตามญาติพี่น้องไปอยู่ที่วัดโพธิ์ชัย บ้านเชียงเครือ อ.เมือง จ.สกลนคร

    ได้เล่าเรียนศึกษาพระปริยัติธรรม มีพระภิกษุซึ่งเป็นญาติเป็นผู้สอน จากนั้นจึงได้ไปสอบที่วัดธาตุศาสดาราม (ปัจจุบันคือวัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร) จนสำเร็จได้นักธรรมชั้นตรี ก่อนเดินทางกลับไปอยู่ที่วัดโพธิ์ชัยตามเดิม

    ต่อมาลาสิกขาไปช่วยครอบครัวเป็นเวลา 2 ปี

    เมื่ออายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ ได้เข้าพิธีอุป สมบท ณ พัทธสีมา วัดทุ่ง ต.อากาศ อ.อากาศ อำนวย จ.สกลนคร โดยมีพระครูวิรุฬห์นวกิจ เป็นพระอุปัชฌาย์ และพระมาก เป็นพระกรรมวาจาจารย์

    หลวงปู่ผ่านได้เข้าญัตติเป็นพระธรรมยุต เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2490 ณ พัทธสีมา วัดจอมศรี ต.พันดอน อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี มีพระครูพิทักษ์คณานุการ เป็นพระอุปัชฌาย์ และพระสมุห์ภา เป็นพระกรรมวาจาจารย์

    หลังจากนั้นได้ศึกษาพระธรรมวินัย รวมทั้งข้อวัตรปฏิบัติกับพระเถราจารย์กัมมัฏฐานสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต เช่น หลวงปู่ตื้อ อจลธัม โม วัดอรัญญวิเวก อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม, หลวงปู่ฝั้น อาจาโร วัดป่าอุดมสมพร อ.พรรณา นิคม จ.สกลนคร, หลวงปู่อุ่น อุตตโม วัดอุดมรัตนาราม อ.อากาศอำนวย จ.สกลนคร เป็นต้น

    เมื่อปี พ.ศ.2490 หลวงปู่ผ่านได้ไปจำพรรษากับหลวงปู่อุ่น อุตตโม ณ วัดอุดมรัตนาราม อ.อากาศอำนวย จ.สกลนคร ซึ่งเป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต และหลวงปู่อุ่นได้พา หลวงปู่ผ่านไปกราบหลวงปู่มั่น ที่วัดป่าบ้านหนองผือ (วัดป่าภูริทัตตถิราวาส) ต.นาใน อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร หลายครั้ง

    ครั้นออกพรรษาแล้วได้กราบลาหลวงปู่อุ่น เพื่อไปอยู่ศึกษาธรรมกับหลวงปู่มั่นที่วัดป่าบ้านหนองผือ โดยเดินทางไปกับสามเณรน้อยรูปหนึ่ง พอไปถึงกราบหลวงปู่มั่นแล้ว ท่านพูดว่า "ท่านผ่านมากับเณรน้อยแท้ มันไข้ได้" (มีสามเณรอายุน้อยมาด้วย สามเณรจะเป็นไข้ป่าได้ง่าย)

    หลวงปู่ผ่าน ตอบว่า "ครับผม ไม่มีคนมา กระผมจึงมากับเณรน้อย"

    ในครั้งนั้นมีพระเณรพำนักจำพรรษากับหลวงปู่มั่น จำนวน 10-20 รูป อาทิ พระอาจารย์มหาบัว ญาณสัมปันโน, พระอาจารย์อ่อนสา สุขกาโร, พระอาจารย์วัน อุตตโม, พระอาจารย์หลุย จันทสาโร, พระอาจารย์คำพอง ติสโส, พระอาจารย์หล้า เขมปัตโต, สาม เณรบุญเพ็ง (หลวงปู่บุญเพ็ง เขมาภิรโต วัดถ้ำกลองเพล ต.โนนทัน อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู)

    หลวงปู่ผ่านเป็นพระเถระพระป่า ศิษย์หลวงปู่มั่นอีกรูป เป็นพระสุปฏิปันโนเนื้อนาบุญของชาวโลก เป็นเสาหลักในร่มธรรมแห่งบวรพุทธศาสนา แม้สังขารจะล่วงเข้าวัยชรา แต่ด้วยสุขภาพที่แข็งแรง ท่านยังได้ออกมารับญาติ โยมที่เดินทางมาจากแดนใกล้ไกลไปคารวะนมัสการทุกวันไม่เว้นมิได้ขาดจำนวนมาก

    ทุกครั้งที่ญาติโยมขอพรขอศีล ท่านจะบอกว่า มีหลักอยู่ 3 อย่าง คือ "ขออย่าได้เจ็บ อย่าได้ป่วยไข้ และสุดท้ายอย่าลืมหายใจ" เมื่อใครได้เข้ากราบไหว้ทำให้จิตใจสงบและร่ม เย็นเป็นสุข เมื่อได้สดับฟังหลักธรรมจากท่าน

    หลวงปู่ผ่าน ได้เทศนาบรรยายธรรม ว่า "จิตไม่ระเริงหลงในรูป ในเสียง ในกลิ่น ในรส โผฏฐัพพะ ธรรมารมณ์ อันนั้นแหละเรียกว่า ผู้เห็นธรรม ธรรมะ คือ ธรรมดาสิ่งเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป เห็นเกิดเห็นดับอยู่ทุกขณะลมหายใจเข้าออก บุคคลนั้นจึงชื่อว่าเป็นผู้ไม่ประมาท"

    ในบั้นปลายชีวิต หลวงปู่ผ่านได้พำนักจำพรรษาอยู่ที่วัดป่าประทีปปุญญาราม

    ต่อมา หลวงปู่ผ่าน ได้อาพาธด้วยโรคต่อมลูกหมาก อาการทรงตัว และอาพาธอีก ครั้ง ญาติโยมจึงได้นำเข้ารักษาที่โรงพยาบาลสกลนคร ก่อนนำมาพักรักษาตัวที่วัด

    แต่ด้วยความชราภาพและมีอาการแทรก ซ้อนไตวาย จึงได้ละสังขารอย่างสงบ สิริอายุ 89 พรรษา 69

    ศพหลวงปู่ผ่าน ตั้งบำเพ็ญกุศลอยู่ ที่วัดป่าประทีปปุญญาราม เพื่อขอรับพระราชทานเพลิงศพต่อไป

    [FONT=Tahoma,]หน้า 1[/FONT]

    http://www.khaosod.co.th/view_news....ionid=TURNd01RPT0=&day=TWpBeE1TMHdNUzB6TUE9PQ
     
  2. กังหันลม

    กังหันลม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    402
    ค่าพลัง:
    +693
    วันทามิ ภันเต สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต มะยา
    กะตัง ปุญญัง สามินา อะนุโมทิตัพพัง สามินา กะตัง ปุญญัง มัยหัง
    ทาตัพพัง สาธุ สาธุ อะนุโมทามิ ฯ
    น้อมกราบพ่อแม่ครูอาจารย์หลวงปู่ผ่านเป็นครั้งสุดท้ายกรรมใด ทั้งต่อหน้าก็ดี ลับหลังก็ดี
    จะด้วยรู้เท่าทันก็ดี รู้ไม่เท่าทันก็ดีเป็น กรรมชั่วน่าติเตียนอันเราทั้งหลายได้ประมาทพลาดพลั้งล่วงเกินท่าน ขอพ่อแม่ครูอาจารย์จงอดโทษนั้นแก่พวกข้าพเจ้า โดยความคารพและศรัทธาจะกระทำตามโอวาทของท่านตามสติกำลัง ขอพระสัทธรรมจงรักษาเราทั้งหลายผู้ประพฤติธรรมเป็นนิตย์เทอญ
     
  3. Lacuna

    Lacuna เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    3,132
    ค่าพลัง:
    +250
    กราบส่งหลวงปู่สู่แดนนิพพาน
     

แชร์หน้านี้

Loading...