เชิญสดับฟังธรรมเทศนา โดย พระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก วัน อาทิตย์ 21 สิงหาคม เวลา 17:00 น. – 18:30 น.

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย aum hermit, 25 กรกฎาคม 2011.

  1. aum hermit

    aum hermit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มกราคม 2008
    โพสต์:
    25
    ค่าพลัง:
    +124
    เชิญสดับฟังธรรมเทศนา โดย พระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก
    วัน, เวลา: อาทิตย์ 21 สิงหาคม, 17:00 น. – 18:30 น.
    สถานที่: หมู่บ้าน แมกไม้ (สโมสร), ถ. รามอินทรา กม. 12, คันนายาว, กทม
    ติดต่อสอบถาม ผู้ประสานงาน คุณภาราดา บุนนาค โทร.081-812-2930


    รายละเอียด: พระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก เป็นชาวญี่ปุ่น เป็นสัทธิวิหาริกรุ่นแรกของพระโพธิญาณเถร
    (หลวงพ่อชา สุภทโท)ท่านบวชเมื่อ พ.ศ. 2518 อยู่ในคณะผู้บุกเบิกวัดป่านานาชาติ ท่านได้บำเพ็ญเพียร
    มาหลายรูปแบบ ได้ธุดงค์มาแล้วหลายแห่ง ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทั้งที่อุดมสมบูรณ์และที่ทุรกันดาร
    ปัจจุบันท่านเป็นเจ้าอาวาสวัดสุนันทวรนาราม บ้านท่าเตียน ตำบลไทรโยค อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี

    โดยส่วนใหญ่ชีวิตคู่มักเริ่มต้นด้วยดี มีทั้งความรัก ความสุขช่วยกันประคับประครองชีวิตคู่
    ด้วยความพอใจของทั้งสองฝ่ายหลายคนมีชีวิตคู่ที่ราบรื่นไปตลอดรอดฝั่ง
    แต่มีไม่น้อยที่ล้มเหลว บางคู่ต้องอย่ากัน บางคู่ถึงแม้ว่าอยู่ด้วยกันแต่ความรัก
    ความสุขที่เคยให้แก่กันไม่เหลือแม้แต่น้อย​ก็ต้องทนอยู่ด้วยกันอย่างเป็นทุกข์

    การใช้ชีวิตร่วมกันของสามีภรรยาหลายๆ คู่ หากพิจารณาถึงการปฏิบัติต่อกัน
    ทั้งแง่กายกรรม วจีกรรมและมโนกรรมจะพบว่า
    ทางกายกรรม หมายถึง การกินด้วยกัน นอนด้วยกัน มีลูกด้วยกัน ทำงานร่วมกัน ไปไหนมาไหนด้วยกันถ้ามองจากภายนอกดูเหมือน​เป็นคู่ที่มีความสุขรักใคร่ปรองดองกันดีจน​หลายๆ คนอาจจะรู้สึกอิจฉาแต่สำหรับเจ้าตัวจริงๆ แล้ว
    การปฏิบัติต่อกันในทางวจีกรรม มโนกรรม มีแต่ทะเลาะเบาะแว้งกัน โกรธกัน น้อยใจ เจ็บใจ
    มีแต่ความทุกข์ ไม่มีคำว่าสุขแต่ไม่อาจเปลี่ยนแปลงแก้ไขอะ​ไรได้ ก็ยังต้องอดทนอยู่ด้วยกัน
    เพราะความจำเป็นทางสังคม หรือ เพราะเห็นแก่ลูก
    ชีวิตคู่ที่เป็นเนื้อคู่กันประเภทนี้ก็มีม​าก
    คือชาตินี้แม้จะมีความผูกพันกันทางกายกรรม​ แต่ทางวจีกรรม มโนกรรม
    กลับเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ไม่ดีแก่ก​ันจึงดูเหมือนว่า ทางกายกรรมนั้นรักกัน
    โดยที่ความเป็นจริงแล้วต่างฝ่ายไม่มีความร​ู้สึกรักกันเลย
    แต่ในสถานภาพทางสังคมที่เป็นสามีภรรยากันต​้องอยู่ร่วมบ้านเดียวกัน ใช้ชีวิตร่วมกัน
    จะเดินทางไปไหนก็ยังต้องร่วมรถคันเดียวกัน​เป็นครอบครัว
    สามีภรรยาที่มีปัญหาเช่นนี้
    บางครั้งต่างคนต่างตั้งจิตอธิษฐานว่าชาติห​น้าอย่าได้พบกันอีก ขอเจอชาตินี้เป็นชาติสุดท้าย
    แต่ด้วยอุปาทานยึดมั่นถือมั่น ไม่ว่าจะรักกันหรือเกลียดชังกันก็ตาม
    ไม่ว่าจะด้วยความพอใจหรือไม่พอใจต่อกันอย่​างไร
    ในทางมโนกรรม คือ ความรู้สึกนึกคิดที่มีต่อกัน จะเป็นการดึงเข้าหากันอยู่ตลอด
    ไม่ปล่อยจากกันดังนั้นจึงเป็นไปได้อย่างมา​กที่ บุคคลทั้งสองเมื่อต่างคนต่างตายจากกันในชา​ตินี้
    ถ้าชาติหน้าเกิดมา โตเป็นหนุ่มเป็นสาวได้พบกันเมื่อไรก็เกิดอ​ารมณ์รักที่รุนแรงมีความดีใจ พอใจที่ได้เจอกัน เพราะทางกายกรรมในอดีต ชาตินั้น เคยใกล้ชิด ใช้ชีวิตร่วมกันมา เกิดมาในชาติใหม่จึงเป็นเนื้อคู่กันอีก ที่เคยทุกข์ โกรธเกลียดกันก็ลืมไปแต่คงต้องเรียกว่าเป็​นเนื้อคู่เทียม
    เพราะเป็นเนื้อคู่ที่เป็นผลของกรรมเก่า คือ กายกรรม วจีกรรม และมโนกรรมที่สร้างร่วมกันมาทำดีต่อกันบ้า​งทะเลาะกัน โกรธเกลียดกันบ้าง เป็นความรักที่หาความสุขแท้จริงไม่ได้
    เพราะไม่ใช่เนื้อคู่แท้ที่ครองคู่กันด้วยค​วามรัก ความเมตตา
    ดังนั้น
    เมื่อต้องใช้ชีวิตคู่ด้วยกันในชาตินี้แล้ว​สามีภรรยาจึงควรสร้างกรรมที่ดีต่อกัน
    ทั้งกายกรรม วจีกรรม และมโนกรรม แม้ว่าจะมีปัญหาเกิดขึ้น ก็ควรรู้จักอดทน
    ปล่อยวาง ให้อภัยต่อกันถ้าทำได้ก็จะเป็นอานิสงส์ให้​มีความสุขทั้งในชาตินี้ และชาติหน้า
    บทความบางส่วน จากหนังสือ สาระแห่งชีวิต คือ รักและเมตตา
    โดย พระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก

    อ้างอิง ทัวร์วัด
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • simage1.jpg
      simage1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      85.6 KB
      เปิดดู:
      80

แชร์หน้านี้

Loading...