เราบวชใน..พระพุทธศาสนาเพื่ออะไร

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย joni_buddhist, 2 กรกฎาคม 2008.

  1. joni_buddhist

    joni_buddhist Legal returns ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2005
    โพสต์:
    13,555
    กระทู้เรื่องเด่น:
    203
    ค่าพลัง:
    +63,440
    <TABLE cellSpacing=1 cellPadding=5 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD>เราบวชใน..พระพุทธศาสนา <HR width="100%" color=#dddddd SIZE=1>[​IMG]</TD></TR><TR><TD bgColor=#ffffff>
    <TABLE width="100%" border=0><TBODY><TR><TD>
    เราบวชใน..

    พระพุทธศาสนา มี พระพุทธเจ้า เพียงพระองค์เดียว ข้อวัตรปฏิบัติ ก็อย่างเดียวกัน พระวินัยก็อย่างเดียวกัน ศีลก็เหมือนกันทั้งนั้น ดังนั้น ไม่จำเป็นว่า ใคร ? นิกายอะไร ? ทำดีมีศีล มีระเบียบวินัย ตรงกันใช้ได้ คือ ไม่ผิดจากคำสอนของพระพุทธเจ้า..ทุกอย่าง สำคัญที่จิตใจเท่านั้นเอง จิตใจ เป็นใหญ่กว่าทั้งหมด..คนเรานี้ บวชพระมานาน ได้ฟังเทศน์มานาน ภาวนาก็ได้กระทำมานาน แต่ทำไม จึงไม่หายหลง ? นี่ก็เพราะว่า ธรรมะ ไม่แล่นเข้าไปถึงจิต มันไปติดปะทะอยู่แค่กาย มันจึงเนิ่นช้า..คนเดินทางอ้อม มันไม่ถึงจิต ด้วยติดวัตถุเป็นสำคัญ..การศึกษาธรรมะ จะต้องเรียนเอง สอนตัวเอง อยากรู้ ก็ต้องถามตัวเอง เพราะ สติปัญญา มันมีญาณวิชา มานานแล้ว..การปฏิบัติ ก็คือ การทำ กาย วาจา ใจ ให้บริสุทธิ์ เราผู้กระทำ จะต้องรู้เอง เห็นเอง แล้วจะมีอานิสงส์ทุกเมื่อ แก่เรา..บุคคล ที่จะเข้าถึงความรู้แจ้ง จักต้องดำเนินตามขั้นตอน คือ ให้เข้าถึง พระพุทธเจ้า พระธรรม และ พระสงฆ์..แล้วให้มีความถึงพร้อมด้วย ศีล สมาธิ ปัญญา..ให้พร้อมด้วย ทาน ด้วยศีล ด้วยภาวนา แล้ว ปัญญา จะเกิด..

    หลวงปู่ บุดดา ถาวโร

    อำนาจสมาธิ..

    นั้น วิเศษนัก ไม่กินก็ได้ ไม่นอนก็ได้ เดินจงกรมตลอดวัน ตลอดคืนก็ได้..ป่าช้า เป็นแหล่งธรรมะ ได้รับประโยชน์มาก จิตใจสว่างไสวดีเหลือเกิน..การได้อยู่ใกล้ ครูบาอาจารย์ ผู้มั่นคงเที่ยงตรงในธรรมนั้น นับว่าเป็นเรื่องหาได้ยากมาก เพราะว่า..การได้ทำความเพียร โดยขาดครูบาอาจารย์ มันทำให้ช้า จิตผันแปรอยู่ได้บ่อย จึงควรอยู่ใกล้ ครูบาอาจารย์ ให้มากที่สุด เท่าที่จะมากได้...

    หลวงปู่ อ่อนสา สุขกาโร

    สติ มีอยู่ ณ. ที่ใด

    ปัญญา ย่อมมีอยู่ ณ. ที่นั่น..ศีลก็มีอยู่ที่นั่น สมาธิก็มีอยู่ที่นั่น และ ปัญญาก็มีอยู่ที่นั่น สมดุลกัน แยกกันไม่ได้..ตั้งสติไว้ ในกรรมฐานอันใด ก็ศีลอยู่ในที่นั้น และ รับศีลอยู่ในที่นั้น ก็คือ สมาธิอยู่ในที่นั้น..เพราะ ตั้งมั่นอยู่ในที่นั้น ก็คือ ปัญญาอยู่ในที่นั้น คือ รอบรู้อยู่ในที่ตั้งไว้..เมื่อ สติ ศีล สมาธิ ปัญญา ที่สมดุลย์กันแล้ว จะสามารถมองเห็นสังขารได้ชัด เพราะ กลมกลืนสามัคคีกัน เรียกว่า มรรคสมังคี..

    หลวงปู่ หล้า เขมปัตโต
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    ที่มา http://www.dhammathai.org/articles/view.php?No=475
     
  2. เฮียปอ ตำมะลัง

    เฮียปอ ตำมะลัง ทุกสิ่งจบสิ้นลงด้วยความตาย วุ่นวายทำไม ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    24,969
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +91,130
    อ นุ โ ม ท น า ส า ธุ

    .
     
  3. oomsin2515

    oomsin2515 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    2,934
    ค่าพลัง:
    +3,393
    กุศลผลบุญใด ๆ ก็ตามที่ข้าพเจ้าได้ทำมาแล้ว ตั้งแต่ต้นจนถึงปัจจุบันนี้
    ข้าพเจ้าขออุทิศให้<O:p</O:p


     
  4. พระไตรภพ

    พระไตรภพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1,067
    ค่าพลัง:
    +7,521
    กรรมใดก่อไว้ย่อมได้ผลกรรม


    ยอกรกราบไหว้ครูผู้ทรงคุณอันประเสริฐสุด

    สาธุกุศลผลบุญใด ๆ ก็ตามที่ท่านทั้งหลายได้กระทำแล้วหรือกำลังจะกระทำก็ตามอาตมาขออนุโมทนากับบุญกุศลนั้นๆด้วย และบุญอันใดที่อาตมาได้ทำมาแล้ว ตั้งแต่ต้นจนถึงปัจจุบันนี้ อาตมาขออุทิศให้<O:p</O:p



    กับทุกๆท่านขอเวรภัยจงดับมอดลง
    ขอทุกรูปนามจงประสบชัย
    <!-- / message --><!-- sig -->
    <!-- / message --><!-- sig -->
     
  5. อุดรเทวะ

    อุดรเทวะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,925
    ค่าพลัง:
    +130
    ขออนุโมทนาสาธุครับ
    ได้ความรู้ดีมากครับ จะได้น้อมนำไปเจริญสติให้ดีขึ้นเป็นลำดับไป
     

แชร์หน้านี้

Loading...