เรามี "กรรม"..เป็นที่อาศัย..

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย J.Sayamol, 25 มีนาคม 2009.

  1. J.Sayamol

    J.Sayamol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2008
    โพสต์:
    6,190
    ค่าพลัง:
    +21,530
    เรามี "กรรม"..เป็นที่อาศัย..


    [​IMG]


    ท่านให้พิจารณาถึง "กัมมะปฏิสะระณา" ซึ่งแปลว่าเรามีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย

    พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ
    ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ
    สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ

    พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นที่พึ่งเป็นสะระณะของข้าพเจ้า
    เราก็มีกรรมเป็น "สรณะ" คือมีกรรมเป็นที่พึ่ง ที่อาศัยของเราด้วย

    ความเป็นอยู่ของเราในปัจจุบันเรากำลังอาศัยอยู่กับของเก่า ทั้งรูปธรรม และนามธรรม ตั้งแต่ร่างกาย ทรัพย์สินสมบัติ สิ่งแวดล้อม ประเทศชาติ บุคคล ตลอดถึงนามธรรม คุณความดีของจิตใจ เรียกว่า บารมีของตนเอง

    ทำกรรมชั่วคล้ายหนี้สิน


    ทำความดี กรรมดี คล้ายสะสมทรัพย์สินสมบัติ เพื่อได้ใช้อาศัย ต่อไปข้างหน้าจะได้ไม่ลำบาก

    ความดีท่านจัดไว้ 7 อย่าง เพื่อความเข้าใจง่าย เรียกว่า อริยทรัพย์ 7

    1. ศรัทธา เชื่อสิ่งที่ควรเชื่อ เชื่อกรรม เชื่อว่าทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เป็นต้น
    2. ศีล รักษากาย วาจา ให้เรียบร้อย
    3. หิริ ความละอายต่อบาปทุจริต
    4. โอตตัปปะ ความสะดุ้งกลัวบาป
    5. พาหุสัจจะ ความเป็นคนเคยได้ยินได้ฟังธรรมมาก และจำธรรมเหล่านั้นได้อย่างดี และรู้ศิลปวิทยามาก
    6. จาคะ สละให้ปันสิ่งของของตนแก่คนที่ควรให้
    7. ปัญญา รอบรู้สิ่งที่เป็นประโยชน์และไม่เป็นประโยชน์

    อริยทรัพย์ 7 ประการนี้ดีกว่าทรัพย์ภายนอก มีเงินทอง เป็นต้น ไม่มีใครขโมยไปได้และเป็นทรัพย์ที่อาศัยได้ ไม่เพียงแต่ชาตินี้ อาศัยได้หลายภพ หลายชาติต่อ ๆ ไป

    อริยทรัพย์ 7 อย่างนี้ สรุปสงเคราะห์เข้าได้เป็น 3 ประการ คือ ทาน ศีล ภาวนา

    ทาน ศีล ภาวนา ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นไปตามเหตุปัจจัย และมีเหตุผล

    เมื่อเราหวังผลอะไร สร้างเหตุปัจจัยให้พร้อม ความปรารถนาของมนุษย์เรามีมากมายก็จริง แต่สรุปแล้วก็ประมาณ 3 อย่าง

    สมมติว่าชาติหน้ามีจริง เราต้องการเกิดมาเป็นอย่างไร?? ทุกคนอยากเกิดมาเป็นผู้มีฐานะดี ไม่ยกเว้นสักคน ไม่มีใครอยากจะเป็นคนยากจน ทุกคนต้องการฐานะมั่นคง มีสิ่งอำนวยสะดวกทุกอย่าง

    ทาน เป็นเหตุปัจจัย ให้เรามีฐานะมั่นคง ทุกคนอยากเกิดมาเป็นคนรูปดี ไม่ยกเว้นสักคน ไม่มีใครอยากเกิดมาพิการ ขี้โรค ขี้เหร่ ทุกคนต้องการมีอาการ 32 ครบถ้วน สุขภาพ แข็งแรง อายุยืน รูปหล่อ รูปสวย

    การรักษาศีลเป็นเหตุ ให้เกิดมามีอาการ 32 ครบถ้วน

    ทุกคนต้องการเกิดมาเป็นคนมีปัญญาดี ไม่มียกเว้นสักคน ไม่มีใครอยากจะเป็นคนโง่ ทุกคนอยากมีสติปัญญา เฉลียวฉลาด รอบรู้

    ภาวนาเป็นเหตุปัจจัยให้เราเกิดเป็นคนมีปัญญา

    ทาน ศีล ภาวนา เป็นเหตุปัจจัยทำให้เรามีฐานะดี รูปดี ปัญญาดี ลองคิดพิจารณาดูในชาตินี้ ตั้งแต่วันนี้อีก 40 ปี เราอายุเท่าไร?? ส่วนใหญ่เกือบ 80-90 ปี แล้ว ตั้งแต่วันนี้ถ้าเราไม่ขี้เหนียว รู้จักแบ่งปันให้กับคนที่สมควรให้ เช่น พ่อ แม่ สามี ภริยา ลูกๆ พี่ๆ น้อง ๆ สงเคราะห์ซึ่งกันและกันตามสมควรแก่ฐานะ

    ไม่ต้องกลัวว่าเราจะอดเมื่อแก่ชรา ถึงแม้ว่าเราเดินไม่ได้ ไปเข้าห้องน้ำก็ลำบาก ทำอะไรไม่ได้ก็ตาม ไม่มีใครทอดทิ้งเรา ลูกๆ หลาน ๆ ดูแลเราอย่างดี

    นี่แหละ คืออานิสงส์ของจาคะ หรือ ทาน เรียกว่า ฐานะดี

    ตั้งแต่วันนี้เราไม่บ่นไม่โกรธ รักษากาย วาจา ใจ ให้เรียบร้อย เมื่อแก่ชราแล้ว ความสวยสู้หนุ่มสาวไม่ได้ แต่อาจจะแก่งามได้ บางครั้งเห็นคนแก่ ๆ ที่น่ารักผิวพรรณดี อารมณ์ดี

    คนแก่ ๆ น่ารักก็มีอยู่ เรียกว่า รูปดี นี่เป็นอานิสงส์ของการรักษาศีล

    ตั้งแต่วันนี้เราปฏิบัติธรรมภาวนา รู้จักผิดถูก ประโยชน์มิใช่ประโยชน์ รู้จักเหตุรู้จักผล รู้จักตนรู้จักเขา รู้จักแก้ปัญหาต่าง ๆ ยิ่งแก่ยิ่งเป็นประโยชน์ต่อลูกหลาน เพราะมีปัญญาสว่าง ครูบาอาจารย์เป็นตัวอย่าง ผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ผู้ทรงคุณธรรม ยิ่งแก่ประชาชนยิ่งศรัทธา

    ฆราวาสก็เหมือนกัน ถ้ามีปัญญา ธัมมะธัมโมแล้ว ถึงอายุ 100 ปีก็ตาม ก็ไม่รบกวนลูกหลาน ตรงกันข้ามเป็นที่พึ่งแก่ลูกหลานได้ นี่เป็นอานิสงส์ของการภาวนา เรียกว่า ปัญญาดี

    การบำเพ็ญทาน ศีล ภาวนา มีอานิสงส์อย่างนี้ บำเพ็ญวันนี้อานิสงส์ตั้งแต่วันนี้เดี๋ยวนี้จนตลอดชาตินี้ ชาติหน้าด้วย เป็นกัมมะปฏิสะระณาจริง ๆ อย่างนี้

    ทาน ศีล ภาวนา สะระณัง คัจฉามิ

    จงบำเพ็ญทานศีล ภาวนา และความดีทุกประการ เป็นชีวิตจิตใจตลอดไป


    เป็นบทความตอนหนึ่งของบทความเรื่อง
     

แชร์หน้านี้

Loading...