เรื่องราว

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย รสมน, 6 มกราคม 2012.

  1. รสมน

    รสมน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,451
    ค่าพลัง:
    +2,047
    เมื่อท่านพระมาหากัสสปะและภิกษุ ๕๐๐รูปนั้นถวายบังคมแล้ว จิตกาธานของพระ
    ผู้มีพระภาคเจ้าก็โพลงขึ้นเอง. เมื่อพระสรีระของพระผู้มีพระภาคเจ้าถูกเพลิงไหม้
    อยู่ พระอวัยวะส่วนใด คือ พระฉวี พระจัมมะ พระมังสะ พระนหารุ หรือพระลสิกา
    เถ้าเขม่าแห่งพระอวัยวะส่วนนั้น มิได้ปรากฏเลย เหลืออยู่แต่พระสรีระอย่างเดียว.
    เมื่อเนยใส และน้ำมันถูกเพลิงไหม้อยู่ เถ้าเขม่ามิได้ปรากฏฉันใด เมื่อพระสรีระ
    ของพระผู้มีพระภาคเจ้าถูกเพลิงไหม้อยู่. . .เหลืออยู่แต่พระสรีระอย่างเดียว ฉันนั้น
    เหมือนกัน.
    แต่สำหรับเรา ก็มีกาลบางครั้งบางคราวที่ถูกไหม้จนไม่เหลือเถ้า รวมทั้งสิ่งต่างๆด้วย
    กาลที่ไฟไหม้กัป ครับ

    สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ อัมพ-
    ปาลีวัน ใกล้พระนครเวสาลี ณ ที่นั้นแล พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัส
    เรียกภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุเหล่านั้นทูลรับ
    พระผู้มีพระภาคเจ้าแล้ว พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนภิกษุ
    ทั้งหลาย สังขารทั้งหลายไม่เที่ยง ไม่ยั่งยืน ไม่น่าชื่นชม นี้เป็น
    กำหนด ควรเบื่อหน่าย ควรคลายกำหนัด ควรหลุดพ้น ในสังขาร
    ทั้งปวง ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ขุนเขาสิเนรุ โดยยาว ๘๔,๐๐๐-
    โยชน์ โดยกว้าง ๘๔,๐๐๐ โยชน์ หยั่งลงในมหาสมุทร ๘๔,๐๐๐-
    โยชน์ สูงจากมหาสมุทรขึ้นไป ๘๔,๐๐๐ โยชน์ มีกาลบางคราว
    ที่ฝนไม่ตกหลายปี หลายร้อยปี หลายพันปี หลายแสนปี เมื่อฝน
    ไม่ตก พืชคาม ภูตคามและติณชาติที่ใช้เข้ายา ป่าไม้ใหญ่ ย่อมเฉา
    เหี่ยวแห้ง เป็นอยู่ไม่ได้ ฉันใด สังขารก็ฉันนั้น เป็นสภาพไม่เที่ยง
    ไม่ยั่งยืน ไม่น่าชื่นชม นี้เป็นกำหนด ควรเบื่อหน่าย ควรคลาย
    กำหนัด ควรหลุดพ้น ในสังขารทั้งปวง.
    ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ในกาลบางครั้งบางคราว โดยล่วงไป
    แห่งกาลนาน พระอาทิตย์ดวงที่ ๒ ปรากฏ เพราะพระอาทิตย์
    ดวงที่ ๒ ปรากฏ แม่น้ำลำคลองทั้งหมด ย่อมงวดแห้ง ไม่มีน้ำ
    ฉันใด สังขารก็ฉันนั้น เป็นสภาพไม่เที่ยง... ควรหลุดพ้น.
    ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ในกาลบางครั้งบางคราว โดยล่วง
    ไปแห่งกาลนาน พระอาทิตย์ดวงที่ ๓ ปรากฏ เพราะอาทิตย์ดวง

    ที่ ๓ ปรากฏ แม่น้ำสายใหญ่ ๆ คือ แม่น้ำคงคา ยมุนา อจิรวดี
    สรภู มหี ทั้งหมดย่อมงวดแห้ง ไม่มีน้ำ ฉันใด ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
    สังขารทั้งหลายก็ฉันนั้น เป็นสภาพไม่เที่ยง... ควรหลุดพ้น.
    ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ในกาลบางครั้งบางคราว โดยล่วงไป
    แห่งกาลนาน พระอาทิตย์ดวงที่ ๔ ปรากฏ เพราะอาทิตย์ดวงที่ ๔
    ปรากฏ แม่น้ำสายใหญ่ ๆ ที่ไหลมารวมกันเป็นแม่น้ำใหญ่ คือ
    แม่น้ำคงคา ยมุนา อจิรวดี สรภู มหี ทั้งหมดย่อมงวดแห้ง ไม่มีน้ำ
    ฉันใด ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สังขารทั้งหลายก็ฉันนั้น เป็นสภาพ
    ไม่เที่ยง... ควรหลุดพ้น.
    ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ในกาลบางครั้งบางคราว โดยล่วงไป
    แห่งกาลนาน พระอาทิตย์ดวงที่ ๕ ปรากฏ เพราะอาทิตย์ดวงที่ ๕
    ปรากฏ น้ำในมหาสมุทรลึก ๑๐๐ โยชน์ก็ดี ๒๐๐ โยชน์ก็ดี ๓๐๐
    โยชน์ก็ดี ๔๐๐ โยชน์ก็ดี ๕๐๐ โยชน์ก็ดี ๖๐๐ โยชน์ก็ดี ๗๐๐
    โยชน์ก็ดี ย่อมงวดลงเหลืออยู่เพียง ๗ ชั่วต้นตาลก็มี ชั่วต้นตาล
    ก็มี ๕ ชั่วต้นตาลก็มี ๔ ชั่วต้นตาลก็มี ๓ ชั่วต้นตาลก็มี ๒ ชั่ว
    เพียงเอว เพียงเข่า เพียงแต่ข้อเท้า เพียงในรอยเท้าโค ดูก่อนภิกษุ
    ทั้งหลาย น้ำในมหาสมุทรยังเหลืออยู่เพียงในรอยเท้าโคในที่นั้น ๆ
    เปรียบเหมือนในฤดูแล้ง เมื่อฝนเมล็ดใหญ่ ๆ ตกลงมา น้ำเหลืออยู่
    ในรอยเท้าโคในที่นั้น ๆ ฉะนั้น เพราะพระอาทิตย์ดวงที่ ๕ ปรากฏ
    เปรียบเหมือนในฤดูแล้ง เมื่อฝนเมล็ดใหญ่ ๆ ตกลงมา น้ำเหลืออยู่
    ในรอยเท้าโคในที่นั้น ๆ ฉะนั้น เพราะพระอาทิตย์ดวงที่ ๕ ปรากฏ

    น้ำในมหาสมุทรแม้เพียงข้อนิ้วก็ไม่มี ฉันใด ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
    สังขารทั้งหลายก็ฉันนั้น เป็นสภาพไม่เที่ยง... ควรหลุดพ้น.
    ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ในกาลบางครั้งบางคราว โดยล่วงไป
    แห่งกาลนาน พระอาทิตย์ดวงที่ ๖ ปรากฏ เพราะอาทิตย์ดวงที่ ๖
    ปรากฏ แผ่นดินใหญ่นี้ และ ขุนเขาสิเนรุ ย่อมมีกลุ่มควันพลุ่งขึ้น
    เปรียบเหมือนนายช่างหม้อเผาหม้อที่ปั้นดีแล้ว ย่อมมีกลุ่มควันพลุ่ง
    ขึ้น ฉะนั้น ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สังขารทั้งหลายก็ฉันนั้น เป็นสภาพ
    ไม่เที่ยง... ควรหลุดพ้น.
    ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ในกาลบางครั้งบางคราว โดยล่วงไป
    แห่งกาลนาน พระอาทิตย์ดวงที่ ๗ ปรากฏ เพราะอาทิตย์ดวงที่ ๗
    ปรากฏ แผ่นดินใหญ่นี้และขุนเขาสิเนรุ ไฟจะติดทั่วลุกโชติช่วง
    มีแสงเพลิงเป็นอันเดียวกัน เมื่อแผ่นดินใหญ่ และ ขุนเขสิเนรุไฟเผา
    ลุกโชน ลมหอบเอาเปลวไฟฟุ้งไปจนถึงพรหมโลก เมื่อขุนเขาสิเนรุ
    ไฟเผาลุกโชนกำลังทะลาย ถูกกองเพลิงใหญ่เผาท่วมตลอดแล้ว
    ยอดเขาแม้ขนาด ๑๐๐ โยชน์ ๒๐๐ โยชน์ ๓๐๐ โยชน์ ๔๐๐ โยชน์
    ๕๐๐ โยชน์ ย่อมพังทะลาย เมื่อแผ่นดินใหญ่ และ ขุนเขาสิเนรุถูก
    ไฟเผาผลาญอยู่ ย่อมไม่ปรากฏขี้เถ้าและเขม่า เปรียบเหมือนเมื่อ
    เนยใสหรือน้ำมันถูกไฟเผาผลาญอยู่ ย่อมไม่ปรากฏขี้เถ้าและเขม่า
    ฉะนั้น ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สังขารทั้งหลายก็ฉันนั้น เป็นสภาพไม่เที่ยง
    ไม่ยั่งยืน ไม่น่าชื่นชม ควรจะเบื่อหน่าย ควรคลายกำหนัด ควร
    หลุดพ้น ในสังขารทั้งปวง ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ในข้อนั้น ใครจะรู้

    ใครจะเชื่อว่า แผ่นดินนี้ และ ขุนเขาสิเนรุจักถูกไฟไหม้พินาศไม่
    เหลืออยู่ นอกจากอริยสาวกผู้มีบทอันเห็นแล้ว ( โสดาบัน).
    ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เรื่องเคยมีมาแล้ว ศาสดาชื่อสุเนตตะ
    เป็นเจ้าลัทธิ ปราศจากความกำหนัดในกาม ก็ศาสดาชื่อสุเนตตะ
    นั้น มีสาวกอยู่หลายร้อย เธอแสดงธรรมแก่สาวกทั้งหลาย เพื่อ
    ความเป็นสหายแห่งเทวดาชั้นพรหมโลก และเมื่อสุเนตตศาสดา
    แสดงธรรมเพื่อความเป็นสหายแห่งเทวดาชั้นพรหมโลก สาวก
    เหล่าใดรู้ทั่วถึงคำสอนได้หมดทุกอย่าง สาวกเหล่านั้น เมื่อตายไป
    ก็เข้าถึงสุคติพรหมโลก ส่วนสาวกเหล่าใดยังไม่รู้ทั่วถึงคำสอน
    ได้หมดทุกอย่าง สาวกเหล่านั้น เมื่อตายไป บางพวกเข้าถึงความ
    เป็นสหายแห่งเทวดาชั้นปรนิมมิตวสวัสดี บางพวกเข้าถึงความเป็น
    แห่งเทวดาชั้นดุสิต บางพวกเข้าถึงความเป็นสหายแห่งเทวดา
    ชั้นยามา บางพวกเข้าถึงความเป็นสหายแห่งเทวดาชั้นดาวดึงส์
    บางพวกเข้าถึงความเป็นสหายแห่งเทวดาชั้นจาตุมมหาราช บาง
    พวกเข้าถึงความเป็นสหายแห่งกษัตริย์มหาศาล บางพวกเข้าถึง
    ความเป็นสหายแห่งพราหมณ์มหาศาล บางพวกเข้าถึงความเป็น
    สหายแห่งคฤหบดีมหาศาล.
    ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ครั้งนั้นแล สุเนตตศาสดามีความคิด
    เห็นว่า การที่เราจะพึงเป็นผู้มีสติเสมอกับสาวกทั้งหลายใน
    สัมปรายภพไม่สมควรเลย ผิฉะนั้น เราควรจะเจริญเมตตาให้ยิ่งขึ้น
    ไปอีก ครั้งนั้นแล สุเนตตศาสดาจึงได้เจริญเมตตาจิตตลอด ๗ ปี
    แล้วไม่มาสู่โลกนี้ตลอด ๗ สังวัฏฏวิวัฏฏกัปป์ เมื่อโลกวิบัติ
    เข้าถึงพรหมโลกชั้นอาภัสสระ เมื่อโลกเจริญ เข้าถึงวิมานพรหม
    เป็นใหญ่ ไม่มีใครยิ่งกว่า รู้เห็นเหตุการณ์โดยถ่องแท้ เป็นผู้มี
    อำนาจมาก เกิดเป็นท้าวสักจอมเทวดา ๓๖ ครั้ง เป็นพระเจ้า-
    จักรพรรดิผู้ตั้งอยู่ในธรรม เป็นพระธรรมราชา มีสมุทรทั้ง ๔
    เป็นขอบเขต ผู้ได้ชัยชนะสงคราม สถาปนาประชาชนไว้เป็นปึกแผ่น
    มั่นคง พรั่งพร้อมด้วยรัตนะ ๗ ประการ หลายร้อยครั้ง พระราช-
    โอรสของพระเจ้าจักรพรรดิ ล้วนแต่องอาจ กล้าหาญ ชาญชัย
    ย่ำยีศัตรูได้ พระเจ้าจักรพรรดิ์นั้นทรงปกครองปฐพีมณฑล อันมี
    มหาสมุทรเป็นขอบเขต ไม่ต้องใช้อาญา ไม่ต้องใช้ศาตรา ใช้
    ธรรมปกครอง ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สุเนตตศาสดานั้นแล มีอายุ
    ยืนนานดำรงมั่นอยู่อย่างนี้ แต่ก็ไม่พ้นจากชาติ ชรา พยาธิ มรณะ
    โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัสและอุปายาส เรากล่าวว่า ไม่พ้นจาก
    ทุกข์ได้ ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะยังไม่ตรัสรู้ ไม่ได้แทงตลอด
    ธรรม ๔ ประการ ๔ ประการเป็นไฉน คือ อริยศีล ๑ อริยสมาธิ ๑
    อริยปัญญา ๑ อริยวิมุติ ๑ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อริยศีล อริยสมาธิ
    อริยปัญญา อริยวิมุติ เราตรัสรู้แล้ว แทงตลอดแล้ว เราถอนตัณหา
    ในภพได้แล้ว ตัณหาอันเป็นเครื่องนำไปสู่ภพสิ้นแล้ว บัดนี้ภพใหม่
    ไม่มี
    พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้สุคตศาสดา ครั้นตรัสไวยากรณ-
    ภาษิตนี้จบลงแล้ว จึงได้ตรัสคาถาประพันธ์ต่อไปอีกว่า
    ธรรมเหล่านี้ คือ ศีล สมาธิ ปัญญา และ วิมุตติอันยิ่ง
    พระโคดมผู้ทรงพระยศตรัสรู้แล้ว พระพุทธเจ้าผู้เป็นศาสดา ผู้มีพระ
    จักษุ ทรงรู้ยิ่งด้วยประการดังนี้แล้ว ตรัสบอกธรรม ๔ ประการแก่ภิกษุทั้ง
    หลาย ทรงกระทำที่สุดทุกข์แล้วปรินิพพาน.


    เอาบุญมาฝากจะถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ สักการะพระธาตุ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาทสร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย
    รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ ให้อาหารสัตว์เป็นทานเป็นประจำ กรวดน้ำอุทิศบุญ อนุโมทนากับพ่อแม่ญาติพี่น้องที่รักษาศีล ฟังธรรม ให้ทาน อนุโมทนากับเพื่อนๆที่รักษาศีล ศึกษาการรักษาโรค ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ถวายสังฆทานมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ปิดทองพระ รักษาอาการป่วยของผู้อื่นกับผู้ร่วมงาน และที่ผ่านมาได้รักษาอาการป่วยของบิดามารดา ปล่อยชีวิตสัตว์มาโดยตลอด ถวายยาแก่ภิกษุ ขัดองค์พระ ถวายเทียน ให้ความรู้สมุนไพรเพื่อสุขภาพเป็นวิทยาทาน ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ทำบุญหลายอย่างมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ถวายสังฆทานและทำบุญสร้างอาคารผู้ป่วยและกฐินกับเพื่อนๆและให้อาหารเป็นทานแก่สรรพสัตว์กับเพื่อนๆและเพื่อนคนหนึ่งและบริวารของเพื่อนและครอบครัวของเพื่อนได้มีจิตเมตตาให้ทานและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือผู้อื่นอยู่ตลอดและเพื่อนได้เคยสวดมนต์เย็นกับคุณแม่และที่ผ่านมาได้ทำบุญสักการะพระธาตุทำบุญปิดทองชำระหนี้สงฆ์และไหว้พระและทำบุญตามกล่องรับบริจาคตามวัดต่างๆกับเพื่อนและตั้งใจว่าจะสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอให้อนุโมทนาบุญด้วย

    ขอเชิญถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน สักการะพระธาตุ ฟังธรรม สวดมนต์ ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน
    รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาท
    สร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย กรวดน้ำอุทิศบุญ ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สนทนาธรรม
    ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น รักษาอาการป่วยของผู้อื่น รักษาอาการป่วยของบิดามารดา
    ปิดทอง สักการะพระธาตุ กราบอดีตสังขารเจ้าอาวาสที่ไม่เน่าเปื่อย ที่วัดแจ้ง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ปิดทองพระ ปล่อยชีวิตสัตว์ถวายยาแก่ภิกษุ ไหว้พระตามวัดต่างๆ ขัดองค์พระ ให้ความรู้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพเป็นทาน
    และสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอเชิญร่วมบุญกุศลร่วมกันนะ
     
  2. รสมน

    รสมน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,451
    ค่าพลัง:
    +2,047
    บุคคลให้ทานในสัตว์เดียรัจฉาน พึงหวังผล
    ทักษิณาได้ร้อยเท่า ให้ทานในปุถุชนผู้ทุศีล พึงหวังผลทักษิณาได้พันเท่า ให้ทาน
    ในปุถุชนผู้มีศีล พึงหวังผลทักษิณาได้แสนเท่า. ให้ทานในบุคคลภายนอกผู้ปราศ
    จากความกำหนัดในกาม พึงหวังผลทักษิณาได้แสนโกฏิเท่า. ให้ทานในท่านผู้ปฏิบัติ
    เพื่อทำโสดาปัตติผลให้แจ้ง พึงหวังผลทักษิณาจะนับไม่ได้ จะประมาณไม่ได้ จะป่วย
    กล่าวไปไยในพระโสดาบันในท่านผู้ปฏิบัติเพื่อทำสกทาคามิผลให้แจ้ง ในพระสกทา
    คามี ในท่านผู้ปฏิบัติเพื่อทำอนาคามิผลให้แจ้ง ในพระอนาคามี ในท่านผู้ปฏิบัติเพื่อ
    ทำอรหัตผลให้แจ้ง ในสาวกของตถาคตผู้เป็นพระอรหันต์ ในปัจเจกสัมพุทธะ และใน
    ตถาคตอรหันต์ สัมมาสัมพุทธเจ้า.
    การให้ทานกับสัตว์เดรัจฉาน ผลของบุญ ร้อยเท่า ความหมายคือ ให้อายุ วรรณะ
    (ผิวพรรณ) สุข พละ(กำลัง) ปฏิภาณ(ไหวพริบ ความฉลาด) ร้อยเท่า คือ ร้อยชาติย่อม
    ให้ อายุร้อยอัตภาพ ร้อยชาติที่เกิด มีอายุยืน ให้มีผิวพรรณดี ร้อยชาติ ให้มีความสุขร้อย
    ชาติ ร้อยอัตภาพ ให้มีกำลัง(พละ) ร้อยชาติ ให้มีปฏฮภาณ ร้อยชาติ นี่คือ ผลของบุญที่
    ให้ทาน ทำบุญกับสัตว์เดัจฉาน
    ให้ทานกับผู้ทุศีล คือ ไม่มีศีล ผลของบุญ พันเท่า คือ ให้อายุ วรรณะ สุข พละ และ
    ปฏิภาณ พันชาติ ตามนัยที่อธิบายเดียวกันกับ การให้ทานกับสัตว์เดรัจฉานครับ
    ให้ทานกับปุถุชนผู้มีศีล พึงหวังผลของบุญ แสนเท่า คือ ให้อายุ วรรณะ สุข พละ และ
    ปฏิภาณ แสนชาติ
    ให้ทานในบุคคลภายนอกผู้ปราศจากความกำหนัดในกาม หมายถึง ผู้ที่อบรมสมถ-
    ภาวนา จนได้ฌาน พึงได้ผลของบุญ แสนโกฎเท่า คือ ได้ผลของบุญ คือ อายุ วรรณะ
    สุข พละและปฏิภาณดีๆ แสนโกฎิชาติ(ล้าน ล้านชาติ)
    ให้ทานในท่านผู้ปฏิบัติเพื่อทำโสดาปัตติผลให้แจ้ง หมายถึง เช่น ผุ้ที่อบรมเจริญ
    วิปัสสนา เจริญสติปัฏฐาน และรวมถึง ผู้ที่ถึง โสดาปัตติมรรคจิต ผู้ที่ทำบุญกับคนเรา
    เหล่านี้ ได้ผลของบุญ อานิสง์ นับไม่ถ้วน หมายถึง ได้ อายุ วรรณะ สุข พละ และปฎิ
    ภาณ นับชาติไม่ถ้วนเลย
    ข้อความแสดงต่อไปว่า จะกล่าวไปใย ผู้ที่เป็นพระสกทาคามี พระอนาคามี และพระ
    อรหันต์ ในสาวกของพระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า และในพระอรหันตสัมมาสัมพุทธ
    เจ้า ในบุคคลเหล่านี้ที่มีคุณเลิศเหล่านี้ก็ยิ่งมีบุญหาประมาณไม่ได้เช่นกัน คือ นับชาติ
    ไม่ถ้วนและมีผลบุญประมาณยิ่งครับ
    ซึ่งในข้อความในพระสูตรอื่น แสดงผลบุญที่แตกต่างกัน ตามคุณธรรมของผู้ที่เรา
    ทำบุญด้วย เช่น ทำบุญกับผู้ถึงวพร้อมด้วยทิฏฐิ(พระโสดาบัน) 100 คน มีผลมากกว่า
    การให้ทานกับพระโสดาบัน หรือ ผู้ถึงพร้อมด้วยทิฏฐิ 1 คน การให้ทานกับพระสกทา
    คามี มีผลมากกว่า การให้ทานกับพระโสดาบัน 100 คน .....การให้ทานกับพระปัจเจก
    พุทธเจ้า 100 องค์ มีผลมากกว่า การถวายทานกับพระปัเจกพุทธเจ้า 1 องค์ การถวาย
    ทานกับพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า องค์เดียวเท่านั้น มีผลมากกว่า พระปัจเจกพุทธ
    เจ้า 100 องค์ หรือ จำนวนเท่าไหร่ก็ตามก็ไม่เท่าถวายกับพระพุทธเจ้าเพียงพระองค์
    เดียวครับ
    ทานที่บุคคลเชื้อเชิญท่านผู้ถึงพร้อมด้วย
    ทิฏฐิผู้เดียวบริโภค มีผลมากกว่าทานที่เวลาพราหมณ์ให้แล้ว
    ทานที่บุคคลเชื้อเชิญให้ท่านผู้ถึงพร้อมด้วยทิฏฐิร้อยท่านบริโภค มี
    ผลมากกว่าทานที่บุคคลเชื้อเชิญให้ท่านผู้ถึงพร้อมด้วยทิฏฐิร้อยท่าน
    บริโภค มีผลมากกว่าทานที่บุคคลเชื้อเชิญให้ท่านผู้ถึงพร้อมด้วย
    ทิฏฐิผู้เดียวบริโภค ทานที่บุคคลเชื้อเชิญให้พระสกทาคามีเดียว
    บริโภค มีผลมากกว่าทานที่บุคคลเชื้อเชิญให้ท่านผู้ถึงพร้อมด้วย
    ทิฏฐิร้อยท่านบริโภค ทานที่บุคคลเชื้อเชิญให้พระสกทาคามีร้อยท่าน
    บริโภค มีผลมากกว่าทานที่บุคคลเชื้อเชิญให้พระสกทาคามีเดียว
    บริโภค ทานที่บุคคลเชื้อเชิญให้พระอนาคามีผู้เดียวบริโภค มีผล
    มากกว่า ทานที่บุคคลเชื้อเชิญให้พระสกทาคามีร้อยท่านบริโภค
    ทานที่บุคคลเชื้อเชิญพระอนาคามีร้อยท่านบริโภค มีผลมากกว่า
    ทานที่บุคคลเชื้อเชิญพระอนาคามีเดียวบริโภค ทานที่บุคคลถวาย
    ให้พระอรหันต์ผู้เดียวบริโภค มีผลมากกว่าทานที่บุคคลเชื้อเชิญ
    ให้พระอนาคามีร้อยท่านบริโภค ทานที่บุคคลถวายให้พระอรหันต์
    ร้อยท่านบริโภค มีผลมากกว่าทานที่บุคคลถวายให้พระอรหันต์
    ผู้เดียวบริโภค ทานที่บุคคลถวายให้พระปัจเจกพุทธิเจ้ารูปเดียว
    บริโภค ผลมากกว่าทานที่บุคคลถวายให้พระอรหันต์ร้อยรูป
    บริโภค ทานที่บุคคลถวายให้พระปัจเจกพุทธเจ้าร้อยรูปบริโภค
    มีผลมากกว่า ทานที่บุคคลถวายให้พระปัจเจกพุทธเจ้ารูปเดียว
    บริโภค ทานที่บุคคลถวายให้พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าบริโภค
    มีผลมากกว่า ทานที่บุคคลถวายให้พระปัจเจกพุทธเจ้าร้อยรูป
    บริโภค ทานที่บุคคลถวายให้ภิกษุสงฆ์มีพระพุทธเจ้าเป็นประมุข
    บริโภค มีผลมากกว่าทานที่บุคคลถวายให้พระอรหันตสัมมาสัม-
    พุทธเจ้าบริโภค การที่บุคคลสร้างวิหารถวายสงฆ์ผู้มาจากจาตุรทิศ
    มีผลมากกว่าทานที่บุคคลถวายให้ภิกษุสงฆ์ มีพระพุทธเจ้าเป็น
    ประมุขบริโภค การที่บุคคลมีจิตเลื่อมใสถึงพระพุทธเจ้า พระธรรม
    และพระสงฆ์เป็นสรณะ มีผลมากกว่าทานที่บุคคลสร้างวิหาร
    ถวายสงฆ์อันมาจากจาตุรทิศ การที่บุคคลมีจิตเลื่อมใสสมาทาน
    สิกขาบท คือ งดเว้นจากปาณาติบาต ฯลฯ จากการดื่มน้ำเมาคือ
    สุราและเมรัยอันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท มีผลมากกว่าการที่
    บุคคลมีจิตเลื่อมใสถึงพระพุทธเจ้า พระธรรมและพระสงฆ์เป็น
    สรณะ การที่บุคคลเจริญเมตตาจิตโดย ที่สุดแม้เพียงเวลาสูดดม
    ของหอม มีผลมากกว่าการที่บุคคลมีจิตเลื่อมใสสมาทานสิกขาบท
    คือ งดเว้นจากปาณาติบาต ฯลฯ ดูก่อนคฤหบดี ทานที่บุคคลเชื้อเชิญ
    ให้ท่านผู้ถึงพร้อมด้วยทิฏฐิผู้เดียวบริโภค มีผลมากกว่ามหาทานที่
    เวลามพราหมณ์ให้แล้ว ... การที่บุคคลเจริญเมตตาจิตโดยที่สุด
    แม้เพียงเวลาสูดดมของหอม มีผลมากกว่าการที่บุคคลมีจิตเลื่อมใส
    สมาทานสิกขาบท คือ งดเว้นจากปาณาติบาต... และการที่บุคคล
    เจริญอนิจจสัญญาแม้เพียงเวลาลัดนิ้วมือ มีผลมากกว่าการที่บุคคล
    เจริญเมตตาจิตโดยที่สุด แม้เพียงเวลาสูดดมของหอม.


    เอาบุญมาฝากจะถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ สักการะพระธาตุ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาทสร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย
    รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ ให้อาหารสัตว์เป็นทานเป็นประจำ กรวดน้ำอุทิศบุญ อนุโมทนากับพ่อแม่ญาติพี่น้องที่รักษาศีล ฟังธรรม ให้ทาน อนุโมทนากับเพื่อนๆที่รักษาศีล ศึกษาการรักษาโรค ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ถวายสังฆทานมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ปิดทองพระ รักษาอาการป่วยของผู้อื่นกับผู้ร่วมงาน และที่ผ่านมาได้รักษาอาการป่วยของบิดามารดา ปล่อยชีวิตสัตว์มาโดยตลอด ถวายยาแก่ภิกษุ ขัดองค์พระ ถวายเทียน ให้ความรู้สมุนไพรเพื่อสุขภาพเป็นวิทยาทาน ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ทำบุญหลายอย่างมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ถวายสังฆทานและทำบุญสร้างอาคารผู้ป่วยและกฐินกับเพื่อนๆและให้อาหารเป็นทานแก่สรรพสัตว์กับเพื่อนๆและเพื่อนคนหนึ่งและบริวารของเพื่อนและครอบครัวของเพื่อนได้มีจิตเมตตาให้ทานและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือผู้อื่นอยู่ตลอดและเพื่อนได้เคยสวดมนต์เย็นกับคุณแม่และที่ผ่านมาได้ทำบุญสักการะพระธาตุทำบุญปิดทองชำระหนี้สงฆ์และไหว้พระและทำบุญตามกล่องรับบริจาคตามวัดต่างๆกับเพื่อนและตั้งใจว่าจะสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอให้อนุโมทนาบุญด้วย

    ขอเชิญถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน สักการะพระธาตุ ฟังธรรม สวดมนต์ ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน
    รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาท
    สร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย กรวดน้ำอุทิศบุญ ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สนทนาธรรม
    ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น รักษาอาการป่วยของผู้อื่น รักษาอาการป่วยของบิดามารดา
    ปิดทอง สักการะพระธาตุ กราบอดีตสังขารเจ้าอาวาสที่ไม่เน่าเปื่อย ที่วัดแจ้ง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ปิดทองพระ ปล่อยชีวิตสัตว์ถวายยาแก่ภิกษุ ไหว้พระตามวัดต่างๆ ขัดองค์พระ ให้ความรู้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพเป็นทาน
    และสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอเชิญร่วมบุญกุศลร่วมกันนะ

    เจริญพร ร่วมบริจาคสร้างศูนย์ปฏิบัติธรรม รู้รักสามัคคี บ้าน วัด โรงเรียน(บวร)
    ติดต่อสอบถามได้ที่ พระอาจารย์ ไพโรจน์ กตธัมโม
    เบอรโทร ๐๘๔๔๑๙๐๕๕๓

    เจริญพร บอกบุญหนักๆบริจาค หิน ปูน ทราย เหล็ก สร้างลานธรรม กุฏิ ศาลาปฏิบัติธรรม
    ติดต่อสอบถามได้ที่
    พระอาจารย์ บุญมี ถาวโร 0872292367

    หาเจ้าภาพสร้าง หมอชีวกโกมารภัทร ครับ
    0850303698
    ด่วนที่สุด ขอเมตตาจัดซื้อเครื่องโม่ปูนถวายวัด เพื่อใช้ในการก่อสร้างถาวรวัตถุ
    โทร ๐๘๓-๑๑๔๓๖๘๑

    ร่วมทำบุญปิดทองสมเด็จองค์ปฐม ณ วัดป่าน้อยบ้านหนองฟ้า
    โทรศัพท์ ๐๘๒ - ๑๑๙ –๖๗๑๖

    ร่วมทำบุญส่งแผ่นทองหล่อ"พระพุทธเมตตาอโหสิกรรม"ลดสลายภัยพิบัติในกาลอันใก้ลนี้
    โทร.มือถือ 081-875-4903
    <O </O

    ขอเรียนเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพหล่อพระประธานองค์ใหญ่
    หน้าตัก ๕ เมตร ๕๙ เซนติเมตร สูง ๑๑ เมตร ๕๙ เซนติเมตร
    ประดิษฐาน ณ.ลานธรรมหลวงพ่อทอง อโสโก วัดป่าโคกอาหงวน
    ต.จรเข้มาก อ. ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์
    ติดต่อร่วมบุญได้ที่ พระมหาศิขรินทร์ สุขิโต 0801125392

    เชิญร่วมบุญสร้างพื้นพระเจดีย์สุทธิธรรมานุสรณ์ ด้วยหินอ่อนและหินแกรนิต
    ท่านสามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ :<O </O
    พระสุพจน์ พุทธธมฺโม 083-6679990 หรือ คุณตุ๊ก 087-8095999<O </O
    <O </O

    ขอเชิญร่วมสร้างศาลาปฎิบัติธรรมและโรงเรียนบาลี วัดเขาช่องลม ศรีราชา ชลบุรี
    เบอร์โทร.พระอาจารย์ 081-941-5090

    มหากุศลครั้งยิ่งใหญ่ เชิญสมทบทุนสร้างเมรุ ณ วัดป่าคา อ.ศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย
    โทร: 086-5249165

    ร่วมทำบุญสร้างอาคารรังสีรักษาสำหรับผู้ป่วยมะเร็งและอาคารสงฆ์อาพาธ
    ร่วมทำบุญสร้างอาคารรังสีรักษาสำหรับผู้ป่วยมะเร็งและอาคารสงฆ์อาพาธ โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร
    หลวงปู่ทองดี อนีโฆ (พระพิศาลญาณวงศ์)
    วัดใหม่ปลายห้วย ต.เนินปอ อ.สามง่าม จ.พิจิตร
    มีโครงการจะจัดสร้างอาคารรังสีรักษาสำหรับผู้ป่วยมะเร็งและอาคารสงฆ์อาพาธ ณ.โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยนเรศวร จ.พิษณุโลก

    เป็นเจ้าภาพทอด ถวายที่ดินสร้างวัด ณ วัดป่าญาณสิริ ปราจีนบุรี 21-22 มกราคม 55
    ติดต่อคุณแหม่ม 081 803-3688

    ขอเชิญร่วมกันบูรณะพระธาตุเจ้ากู่ยางเงิน
    สามรถร่วมบริจาคโดยผ่านบัญชี
    ธนาคารกสิกรไทย สาขาถนนเอกชัย สมุทรสาคร
    ชื่อบัญชี นางเกศินี เป็นเอก
    บัญชีเลขที่ 555-5-11876-8


    ขอบอกบุญสร้างพระประจำวัน
    เนื่องด้วย หลวงพี่ธาตรี ชยวฑฺโฒ พระธรรมทูตสายต่างประเทศรุ่นที่ ๑๗ วัดท่าพระ บางกอกใหญ่ กรุงเทพฯ ท่านได้รับมอบหมายสร้างวัดไทยในเวียดนามท่านต้องการพระประจำวันทั้ง 9 องค์ ไปประดิษฐาน ณ. สำนักสงฆ์พุทธเกษร ประเทศเวียดนาม(วัดไทยในเวียดนาม) เพื่อให้พุทธสาสนิกชน ชาวไทยและเวียดนามได้กราบนมัสการ ท่านต้องการให้ทันผ้าป่าที่เลื่อนเพราะน้ำท่วมเดือน ก. พ. ต้องใช้งบประมาณราว 21000 บาท


    ขอเชิญร่วมงานบวชเนกขัมมะ-ปฏิบัติธรรม ประจำปี ๒๕๕๕ อาจาริยบูชา หลวงปู่จันทร์แรม เขมสิริ
    ณ วัดระหาน (เกาะแก้วธุดงคสถาน) ต.บ้านด่าน อ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์
    ระหว่าง วันที่ ๑๔-๑๗ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๕
    เนื่องด้วย พระครูเขมคุณโสภณ (หลวงปู่จันทร์แรม เขมสิริ) อดีตเจ้าอาวาสวัดระหาน (เกาะแก้วธุดงคสถาน) ได้ละสังขารด้วยอาการสงบที่โรงพยาบาลบุรีรัมย์ เมื่อวันที่ ๘ ธันวาคม ๒๕๕๒ และได้ตั้งศพบำเพ็ญกุศล ณ พระมหาธาตุรัตนเจดีย์ศรีบุรีรัมย์ วัดระหาน (เกาะแก้วธุดงคสถาน) ต.บ้านด่าน อ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ ซึ่งก่อนที่องค์หลวงปู่จะละสังขารท่านได้เคยสั่งกับลูกศิษย์พระ-เณรอุปฐาก ว่าท่านจะสร้างเมรุขอท่าน เหมือนหลวงปู่เหรียญ วรลาโภ จ.หนองคาย เมื่อท่านได้ละสังขาร พระอาจารย์สาธิตท่านได้เขียนแบบเมรุถวาย ซึ่งคล้ายกับหลวงปู่เหรียญ
    ซึ่งปัจจุบัน ได้ดำเนินการก่อสร้างแล้วแต่ยังไม่แล้วเสร็จ จึงขอข่าวบุญมายังลูกศิษย์ลูกหาขององค์หลวงปู่ เพื่อร่วมสร้างเมรุขององค์หลวงปู่ให้แล้วเสร็จต่อไป
    โอนเงินผ่านทางธนาคาร
    ธนาคาร ออมสิน
    สาขา บุรีรัมย์
    ชื่อบัญชี ทุนสร้างฌาปนสถานหลวงปู่จันทร์แรม เขมสิริ
    เลขที่บัญชี 020007791450

    ขอเชิญร่วมงานบุญมหากุศล วัดหนองผักหนาม หลวงปู่ปัญญาฯ อ.หนองใหญ่ จ ชลบุรี
    โทร 08-52755615

    ขอเชิญร่วมงานบุญ พระราชทานเพลิงศพ หลวงปู่วินัย วัดหนองหว้า
    ต.โคกกรวด อ.เมือง จ.นครราชสีมา
    พระครูรัตนสารวิสุทธิ์ เป็นพระที่มีจริยวัตรงดงาม ท่านสมถะ เมตตาสูงมาก ละสังขารอย่างสงบ และเกิดพระอาทิตย์ทรงกลดในงานบำเพ็ญกุศล ตอนที่บรรจุศพท่านครับ
    พระราชทานเพลิงวันเสาร์ที่ 7 มกราคม 2555 ครับ



    ร่วมถวายพระประธานและทอดผ้าป่าประจำตระกูล
    0897726217

    ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าผ้าป่าสามัคคีเพื่อการศึกษาโรงเรียนเทศบาล2(วัดนิรมิต)
    081-964-9409

    ขอเชิญพุทธศาสนิกชนทุกท่านร่วมทำบุญสืบชาตาหลวงเสริมบารมีรับโชค ปี พ.ศ.๒๕๕๕
    โทรศัพท์ : ๐ ๕๓๘๖ ๘๑๑๓ , ๐๕๓๘๖๘๙๐๔ , ๐๘ ๔๒๒๒ ๔๕๓๔

    ด่วนที่สุด!! ต้องการเจ้าภาพจัดซื้อตู้ใส่หนังสือธรรมะ จำนวน 3 ตู้ๆละ 2,500 บาท
    โทร 082-8672501

    เนื่องด้วยวันอังคารที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2555 จะครบรอบวันคล้ายวันมรณภาพของหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ วัดสะแก ต.บ้านธนู อ.อุัทัย จ.พระนครศรีอยุธยา อีกวาระหนึ่ง ผมจึงอยากเชิญชวนพี่น้องและสาธุชนที่ศรัทธาในปะฎิปทาของหลวงปู่ท่านได้ร่วมทำโรงทานกับคณะศิษย์ในพื้นที่ตามกำลังศรัทธา เพื่อจัดเตรียมข้าวปลาอาหารและน้ำดื่มแด่สาธุชนที่มาร่วมงานในวันดังกล่าว

    เนื่องจากวันนี้ได้นำหนังสือเก่าไปให้กับ โรงเรียนบึงเขาย้อน(คงพันธุ์อุปถัมภ์) ::โรงเรียนบึงเขาย้อน(คงพันธุ์อุปถัมภ์) ยินดีต้อนรับ:: ซึ่งอยู่ที่ถนนเลียบคลองสี่ คลองหลวง ปทุมธานี ได้ถูกน้ำท่วมสูงเกือบสองเมตร และห้องสมุดของโรงเรียนได้รับความเสียหายทั้งหมด และพบว่าตอนนี้ทางโรงเรียนต้องการหนังสือต่าง ๆ เพื่อเป็นสื่อการเรียนการสอนและเพิ่มพูนความรู้ให้กับนักเรียน อีกเป็นจำนวนมาก
    ***ดังนั้น ขอรับบริจาคหนังสือเพื่อนำไปให้โรงเรียนบึงเขาย้อน(คงพันธุ์อุปถัมภ์) อีกครั้งภายในเดือนมกราคม 2555 ***

    เชิญร่วมบริจาคทรัพย์เพื่อจัดสร้างห้องสืบสานคัมภีร์ใบลานล้านนาโบราณ
    สถานที่ดำเนินการ
    วัดศรีบุญเรือง เลขที่ 777 ตำบลเวียง อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย
    ระยะเวลาดำเนินการ เดือนธันวาคา 2554 ถึง เดือนมีนา 2555

    เจริญพร รับบริจาค หนังสือธรรมะ,พระไตรปิฎก,ชุดขาว,สมุดปากกา,สื่อธรรมะอื่นๆ
    เบอรโทร๐๘๔๔๑๙๐๕๕๓
    ต้องการเป็นเจ้าภาพในการอุปสบทพระภิกษุ 1 รูป
    083-3033570


    โครงการปฏิบัติธรรม วัดสุนันทวนาราม (พระอาจารย์มิตซูโอะ) กาญจนบุรี ประจำปี 2555
    โครงการปฏิบัติธรรมประจำปี 2555 - วัดสุนันทวนาราม พระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก

    กำหนดการบรรพชา อุปสมบท พระภิกษุ สามเณร วัดสุนันทวนาราม (พระมิตซูโอะ)ปี 2555
    โครงการปฏิบัติธรรมประจำปี 2555 - วัดสุนันทวนาราม พระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก

    เชิญร่วมทำบุญเป็นเจ้าภาพบวชพระปฏิบัติธุดงค์ วัดท่าซุง ปิดรับ ๓ ก.พ. ๒๕๕๕
    ชื่อธนาคาร : ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สาขาสภากาชาดไทย
    ชื่อบัญชี : ณัฐพัชร จันทรสูตร
    เลขที่บัญชี : ๐๔๕ - ๔๕๐๓๘๔ - ๖ (045 - 450384 - 6)

    ขอเชิญร่วมบวช เนกขัมมะ บารมี ชีพราหมณ์ และร่วมพิธีเททอง
    โทร. 087-989-1599

    ประชาสัมพันธ์เว็บโครงการบวชพระเขาแก้วเสด็จครับ
    ศิษย์เก่าเขาแก้วเสด็จ

    ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพงานอุปสมบท
    ติดต่อ 0869445642

    ตรุษจีนนี้! มาปิดทองลูกนิมิต ลอดมังกรทองเสริมดวง วัดสว่างอารมณ์ จ.นครปฐมวันที่ 20 – 31 มกราคม 2555

    ขอรับบริจาคซื้อลวดหนามวัดที่อาศรมพระธรรมจาริกบ้านหนองมณฑา แม่วาง เชียงใหม่

    ขอเชิญร่วมบุญสร้างตู้ (เหล็ก) เก็บพระไตรปิฎก
    โทร. 0807417059
    ขอเชิญร่วมบุญผ้าป่าสร้างอาคารผู้ป่วยที่วัดเกาะสมอ จ.ปราจีนบุรี

    ขอเชิญคณะศิษยานุศิษย์ร่วมงานทำบุญฉลองอายุวัฒนมงคล ๗๙ ปี
    เสาร์ที่ 14 มกราคม ณ วัดบ้านแพน จ.พระนครศรีอยุธยา
    เชิญชวนเหล่าจิตอาสา ร่วมทำความสะอาดวัดหลังน้ำท่วม
    086-8990642

    ปล่อยชีวิตสัตว์ทุก ๆ ๓ เดือน ให้ชีวิตผู้อื่นเท่ากับให้ชีวิตตนเอง
    โทร. 089-8523498
     
  3. LungKO

    LungKO เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    590
    ค่าพลัง:
    +925
    สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ ได้ความรู้จาก รสมน มากมาย เยี่ยมจริง ๆ สาธุ

    </o></o></o></o>
     
  4. LungKO

    LungKO เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    590
    ค่าพลัง:
    +925
    สาธุ สาธุ สาธุ
    บางส่วนมาจาก สุริยสูตร ฯ
    สุริยสูตร ท่านกล่าวว่า ดวงอาทิตย์มี 7 ดวง
     
  5. รสมน

    รสมน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,451
    ค่าพลัง:
    +2,047
    (ว่าด้วยความจนทางโลกกับทางธรรม)
    พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ความเป็นคนจน เป็นทุกข์
    ของบุคคลผู้บริโภคกามในโลก, ภิกษุทั้งหลาย กราบทูลว่าอย่างนั้น พระเจ้าข้า.
    พ. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย คนจนเข็ญใจยากไร้ ย่อมกู้ยืม แม้การกู้ยืม ก็เป็นทุกข์ของ
    บุคคลผู้บริโภคกามในโลก.
    ภิ. อย่างนั้น พระเจ้าข้า.
    พ. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย คนจนเข็ญใจยากไร้ กู้ยืมแล้วย่อมรับใช้ดอกเบี้ย แม้การรับ
    ใช้ดอกเบี้ย ก็เป็นทุกข์ของผู้บริโภคกามในโลก.
    ภิ. อย่างนั้น พระเจ้าข้า.
    พ. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย คนจนเข็ญใจยากไร้ รับใช้ดอกเบี้ยแล้ว ไม่ใช้ดอกเบี้ยตาม
    กำหนดเวลา เจ้าหนี้ทั้งหลายย่อมทวงเขา แม้การทวง ก็เป็นทุกข์ของบุคลผู้บริโภคกาม
    ในโลก.
    ภิ. อย่างนั้น พระเจ้าข้า.
    พ. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย คนจนเข็ญใจยากไร้ ถูกเจ้าหนี้ทวงไม่ให้เจ้าหนี้ทั้งหลายย่อม
    ติดตามเขา แม้การติดตาม ก็เป็นทุกข์ของบุคคลผู้บริโภคกามในโลก.
    ภิ. อย่างนั้น พระเจ้าข้า.
    พ. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย คนจนเข็ญใจยากไร้ ถูกเจ้าหนี้ติดตามทัน ไม่ให้ทรัพย์
    เจ้าหนี้ทั้งหลายย่อมจองจำเขา แม้การจองจำก็เป็นทุกข์ของบุคคลผู้บริโภคกามในโลก.
    ภิ. อย่างนั้น พระเจ้าข้า.
    พ. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย แม้ความเป็นคนจนก็เป็นทุกข์ของบุคคลผู้บริโภคกามในโลก
    แม้การกู้ยืมก็เป็นทุกข์ของบุคคลผู้บริโภคกามในโลก แม้การรับใช้ดอกเบี้ย ก็เป็นทุกข์
    ของบุคคลผู้บริโภคกามในโลก แม้การทวง ก็เป็นทุกข์ของบุคคลผู้บริโภคกามในโลก
    แม้การติดตาม ก็เป็นทุกข์ของบุคคลผู้บริโภคกามในโลก แม้การจองจำก็เป็นทุกข์ของ
    บุคคลผู้บริโภคกามในโลกด้วยประการฉะนี้.
    ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคลบางคนไม่มีศรัทธาในกุศลธรรม ไม่มีหิริในกุศลธรรม ไม่มี
    โอตตัปปะในกุศลธรรม ไม่มีวิริยะในกุศลธรรม ไม่มีปัญญาในกุศลธรรม บุคคลนี้เรียกว่า
    เป็นคนเข็ญใจยากไร้ในวินัยของพระอริยเจ้า ฉันนั้นเหมือนกัน, ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
    คนจนเข็ญใจยากไร้นั้นแล เมื่อไม่มีศรัทธาในกุศลธรรม ไม่มีหิริในกุศลธรรม ไม่มี
    โอตตัปปะในกุศลธรรม ไม่มีวิริยะในกุศลธรรม ไม่มีปัญญาในกุศลธรรม ย่อมประพฤติ
    ทุจริตด้วยกาย วาจา ใจ เรากล่าวการประพฤติทุจริตของเขาว่า เป็นการกู้ยืม, เขาย่อม
    ตั้งความปรารถนาลามก เพราะเหตุแห่งการปกปิดกายทุจริตนั้น ย่อมปรารถนาว่า ชน
    เหล่าอื่นอย่ารู้จักเรา ย่อมดำริ ย่อมกล่าววาจา ย่อมพยาบาทด้วยกาย ว่าชนเหล่าอื่นอย่า
    รู้จักเรา เขาย่อมตั้งความปรารถนาลามก เพราะเหตุแห่งการปกปิดวจีทุจริตนั้น ฯลฯ เขา
    ย่อมตั้งความปรารถนาลามก เพราะเหตุแห่งการ ปกปิดมโนทุจริตนั้น ย่อมปรารถนาว่า
    ชนเหล่าอื่นอย่ารู้จักเรา ... ย่อมพยายามด้วยกายว่า ชนเหล่าอื่นอย่ารู้จักเรา เรากล่าว
    เหตุแห่งการปกปิดทุจริต ของเขานั้นว่า เป็นการรับใช้ดอกเบี้ย, เพื่อนพรหมจรรย์ผู้มีศีล
    เป็นที่รักได้กล่าวกะเขาอย่างนี้ว่า ก็ท่านผู้มีอายุรูปนี้ เป็นผู้กระทำอย่างนี้ เป็นผู้ประพฤติ
    อย่างนี้ เรากล่าวการถูกว่ากล่าวของเขาว่า เป็นการทวงดอกเบี้ย อกุศลวิตกที่เป็นบาป
    ประกอบด้วยความเดือดร้อน ย่อมครอบงำเขา ผู้อยู่ป่า ผู้อยู่โคนไม้ หรือผู้อยู่ในเรือนว่าง
    เรากล่าวการถูกอกุศลวิตกครอบงำนี้ ของเขาว่า เจ้าหนี้ติดตามเขา, คนจนเข็ญใจ
    ยากไร้นั้นแล ครั้นประพฤติทุจริตด้วยกาย วาจา ใจเมื่อตายไปแล้ว ย่อมถูกจองจำ ใน
    เรือนจำ คือ นรก หรือในเรือนจำ คือกำเนิดดิรัจฉาน ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราย่อมไม่
    พิจารณาเห็นเรือนจำอื่นเพียงแห่งเดียว ซึ่งร้ายกาจ เป็นทุกข์ กระทำอันตรายแก่
    การบรรลุนิพพานซึ่งเป็นธรรมเกษมจากโยคะ หาธรรมอื่นยิ่งกว่ามิได้ อย่างนี้ เหมือน
    เรือนจำ คือนรก หรือเรือนจำ คือ กำเนิดดิรัจฉานเลย.
    พระคาถา
    ความเป็นคนจน และการกู้ยืม
    เรียกว่าเป็นทุกข์ในโลก คนจนกู้ยืมเลี้ยง
    ชีวิตย่อมเดือดร้อน เจ้าหนี้ทั้งหลายย่อม
    ติดตามเขา เพราะไม่ใช่หนี้นั้น เขาย่อม
    เข้าถึงแม้การจองจำ ก็การจองจำนั้น เป็น
    ทุกข์ ของชนทั้งหลายผู้บริโภคกาม
    ในวินัยของพระอริยเจ้า ผู้ใดไม่มีศรัทธา
    ไม่มีหิริ ไม่มีโอตตัปปะ พอกพูนบาปกรรม
    กระทำกายทุจริต วจีทุจริต และมโนทุจริต
    ย่อมปรารถนา ย่อมดำริว่า คนเหล่าอื่น
    อย่ารู้จักเรา พอกพูนบาปกรรมในที่นั้น ๆ
    อยู่ บ่อย ๆ ด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจ
    เราตถาคตย่อมกล่าวว่า เป็นทุกข์เหมือน
    อย่างนั้น เขาผู้บาปกรรม มีปัญญาทราม
    ทราบความชั่วของตนอยู่ เป็นคนจน มี
    หนี้สิน เลี้ยงชีวิตอยู่ย่อมเดือดร้อน ลำดับ
    นั้น ความดำริที่มีในใจ เป็นทุกข์เกิดขึ้น
    เพราะความเดือนร้อนของเขา ย่อมติดตาม
    เขาที่บ้าน หรือที่ป่า เขาผู้มีบาปกรรม
    มีปัญญาทราม ทราบความชั่วของตนอยู่
    ย่อมเข้าถึงกำเนิดดิรัจฉานบางอย่าง หรือ
    ถูกจองจำในนรก ก็การจองจำนั้นเป็นทุกข์
    ที่นักปราชญ์หลุดพ้นไปได้.
    บุคคลผู้ยังใจให้เลื่อมใส ให้ทานด้วย
    โภคทรัพย์ทั้งหลายที่ได้มาโดยชอบธรรม
    ย่อมเป็นผู้ยึดถือชัยชนะไว้ได้ในโลกทั้งสอง
    ของผู้มีศรัทธาอยู่ครองเรือน คือ เพื่อประ
    โยชน์เกื้อกูลในปัจจุบัน และเพื่อความสุข
    ในสัมปรายภพ การบริจาคของคฤหัสถ์ดัง
    กล่าวมานั้นย่อมเจริญบุญ ผู้ใดมีศรัทธา
    ตั้งมั่น มีใจประกอบด้วยหิริ มีโอตตัปปะ
    มีปัญญาและสำรวมในศีล ในวินัยของพระ
    อริยเจ้าผู้นั้น แลเราเรียกว่ามีชีวิตเป็นสุข
    ในวินัยของพระอริยเจ้า ฉันนั้นเหมือนกัน
    เขาได้ความสุขที่ไม่มีอามิส ยังอุเบกขา
    (ในจตุตถฌาน) ให้ดำรงมั่น ละนิวรณ์ ๕
    ประการ เป็นผู้ปรารภความเพียรเป็นนิตย์
    บรรลุฌานทั้งหลาย มีเอกัคคตาจิตปรากฏ
    มีปัญญารักษาตัว มีสติ จิตของเขาย่อม
    หลุดพ้นโดยชอบ เพราะทราบเหตุใน
    นิพพานเป็นที่สิ้นสังโยชน์ทั้งปวง ตาม
    ความเป็นจริง เพราะไม่ถือมั่นโดยประการ
    ทั้งปวง หากว่าเขาผู้มีจิตหลุดพ้นโดยชอบ
    คงที่อยู่ในนิพพาน เป็นที่สิ้นไปแห่งกิเลส
    เป็นเครื่องประกอบสัตว์ไว้ในภพ ย่อมมี
    ญาณหยั่งรู้ว่า ความหลุดพ้นของเรา ไม่
    กำเริบไซร้ ญาณนั้นแลเป็นญาณชั้นเยี่ยม
    ญาณนั้น เป็นสุขไม่มีสุขอื่นยิ่งกว่า ญาณ
    นั้นไม่มีโศก หมดมัวหมองเป็นญาณเกษม
    สูงสุดกว่าความไม่มีหนี้.

    เอาบุญมาฝากจะถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ สักการะพระธาตุ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาทสร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย
    รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ ให้อาหารสัตว์เป็นทานเป็นประจำ กรวดน้ำอุทิศบุญ อนุโมทนากับพ่อแม่ญาติพี่น้องที่รักษาศีล ฟังธรรม ให้ทาน อนุโมทนากับเพื่อนๆที่รักษาศีล ศึกษาการรักษาโรค ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ถวายสังฆทานมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ปิดทองพระ รักษาอาการป่วยของผู้อื่นกับผู้ร่วมงาน และที่ผ่านมาได้รักษาอาการป่วยของบิดามารดา ปล่อยชีวิตสัตว์มาโดยตลอด ถวายยาแก่ภิกษุ ขัดองค์พระ ถวายเทียน ให้ความรู้สมุนไพรเพื่อสุขภาพเป็นวิทยาทาน ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ทำบุญหลายอย่างมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ถวายสังฆทานและทำบุญสร้างอาคารผู้ป่วยและกฐินกับเพื่อนๆและให้อาหารเป็นทานแก่สรรพสัตว์กับเพื่อนๆและเพื่อนคนหนึ่งและบริวารของเพื่อนและครอบครัวของเพื่อนได้มีจิตเมตตาให้ทานและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือผู้อื่นอยู่ตลอดและเพื่อนได้เคยสวดมนต์เย็นกับคุณแม่และที่ผ่านมาได้ทำบุญสักการะพระธาตุทำบุญปิดทองชำระหนี้สงฆ์และไหว้พระและทำบุญตามกล่องรับบริจาคตามวัดต่างๆกับเพื่อนและตั้งใจว่าจะสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอให้อนุโมทนาบุญด้วย

    ขอเชิญถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน สักการะพระธาตุ ฟังธรรม สวดมนต์ ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน
    รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาท
    สร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย กรวดน้ำอุทิศบุญ ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สนทนาธรรม
    ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น รักษาอาการป่วยของผู้อื่น รักษาอาการป่วยของบิดามารดา
    ปิดทอง สักการะพระธาตุ กราบอดีตสังขารเจ้าอาวาสที่ไม่เน่าเปื่อย ที่วัดแจ้ง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ปิดทองพระ ปล่อยชีวิตสัตว์ถวายยาแก่ภิกษุ ไหว้พระตามวัดต่างๆ ขัดองค์พระ ให้ความรู้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพเป็นทาน
    และสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอเชิญร่วมบุญกุศลร่วมกันนะ
     
  6. รสมน

    รสมน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,451
    ค่าพลัง:
    +2,047
    (ว่าด้วยการค้าขายที่อุบาสกไม่ควรประกอบ)
    ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย การค้าขาย ๕ ประการนี้ อันอุบาสก
    ไม่พึงกระทำ ๕ ประการเป็นไฉน ? คือ การค้าขายศัสตรา ๑ การค้าขายสัตว์ ๑
    การค้าขายเนื้อสัตว์ ๑ การค้าขายน้ำเมา ๑ การค้าขายยาพิษ ๑ ดูก่อนภิกษุ-
    ทั้งหลาย การค้าขาย ๕ ประการนี้แล อันอุบาสกไม่พึงกระทำ

    สำหรับคฤหัสถ์ ต้องมีการประกอบอาชีพทางโลก เพื่อเลี้ยงชีวิตตนเอง ดังนั้น ศิลปะ
    ก็เป็นมงคลของชีวิต เพราะทำให้ชีวิตประสบกับความสุขในโลกนี้เพื่อหาทรัพย์มาได้
    เพื่อเลี้ยงตนเอง และ ทรัพย์ทีไ่ด้ก็เลี้ยงดูมารดา บิดา ญาติมิตร และทำบุญกุศลกับ
    สมณะและกุศลประการต่างๆด้วยครับ ดังนั้นอาชีพใดที่สุจริต ศิลปะใดที่ไม่เป็นไปใน
    ทางทุจริต เบียดเบียนผู้อื่น ไม่ว่าสาขาวิชาใดก็ควรเรียนเพื่อประโยชน์ในโลกนี้ เพื่อ
    ความดำรงอยู่อย่างถูกต้อง ของการเป็นคฤหัสถ์ที่ดีครับ ที่สำคัญ แม้เเราจะศึกษาวิชา
    เรื่องอะไร ที่ขาดไม่ได้ คือ การศึกษาพระธรรมในหนทางที่ถูกต้อง เพื่อเกื้อกูลต่อการ
    ดำเนินชีวิต ไม่ว่าจะจบสาขาใด เรียนวิชาใด หากมีความเข้าใจพระธรรมที่ถูกต้อง ก็
    สามารถใช้ชีวิตได้อย่างเหมาะสม และเป็นประโยชน์กับความสุขในโลกหน้า และความ
    สุขอย่างยิ่ง คือ การเกิดในภพภูมิที่ดี และถึงการดับกิเลส อันเป็นประโยชน์สูงสุดครับ
    ดังนั้นเรียนวิชาสาขาใดก็ได้ ที่ไม่เป็นการเบียดเบียนผู้อื่น เป็นศิลปะที่ดี เป็นมงคล
    หนึ่งใน 38 พร้อมกับการศึกษาพระธรรมนะครับ ก็จะได้ประโยชน์สูงสุด เพราะทรัพย์ที่
    ประเสริฐ ไม่ว่ายศ ตำแหน่ง ทรัพย์ แต่ประโยชน์สูงสุด คือ การดับกิเลสครับ แต่ถ้าเป็น
    พระภิกษุ ไม่ควรเรียนดังเช่นทางโลก เพราะการศึกษาของพระภิกษุ คือ ปริยัติธรรม คำ
    สอนทางพระพุทธศาสนา โดยไม่มีปริญญาดัีงเช่นทางโลก เพราะเพื่อละ สละขัดเกลา
    กิเลสเท่านั้นครับ แทนที่จะเรียนเพื่อจบปริญญาตรี ก็ศึกษาพระธรรม เป็นปกติของเพศ
    บรรพชิตได้ อันเป็นสิ่งที่เกื้อกูลต่อพระวินัยที่รักษาให้ถูกต้อง ไม่ต้องอาบัติด้วยครับ

    เอาบุญมาฝากจะถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ สักการะพระธาตุ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาทสร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย
    รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ ให้อาหารสัตว์เป็นทานเป็นประจำ กรวดน้ำอุทิศบุญ อนุโมทนากับพ่อแม่ญาติพี่น้องที่รักษาศีล ฟังธรรม ให้ทาน อนุโมทนากับเพื่อนๆที่รักษาศีล ศึกษาการรักษาโรค ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ถวายสังฆทานมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ปิดทองพระ รักษาอาการป่วยของผู้อื่นกับผู้ร่วมงาน และที่ผ่านมาได้รักษาอาการป่วยของบิดามารดา ปล่อยชีวิตสัตว์มาโดยตลอด ถวายยาแก่ภิกษุ ขัดองค์พระ ถวายเทียน ให้ความรู้สมุนไพรเพื่อสุขภาพเป็นวิทยาทาน ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ทำบุญหลายอย่างมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ถวายสังฆทานและทำบุญสร้างอาคารผู้ป่วยและกฐินกับเพื่อนๆและให้อาหารเป็นทานแก่สรรพสัตว์กับเพื่อนๆและเพื่อนคนหนึ่งและบริวารของเพื่อนและครอบครัวของเพื่อนได้มีจิตเมตตาให้ทานและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือผู้อื่นอยู่ตลอดและเพื่อนได้เคยสวดมนต์เย็นกับคุณแม่และที่ผ่านมาได้ทำบุญสักการะพระธาตุทำบุญปิดทองชำระหนี้สงฆ์และไหว้พระและทำบุญตามกล่องรับบริจาคตามวัดต่างๆกับเพื่อนและที่ผ่านมาได้ทำบุญสร้างอุโบสถกับเพื่อนได้กวาดพื้นอุโบสถแลพที่ผ่านมาได้ทำบุญสร้างอาคารผู้ป่วยและบุญของวัดพระราม 9 กาญจนาภิเษกในการสร้างอาคารและตั้งใจว่าจะสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอให้อนุโมทนาบุญด้วย

    ขอเชิญถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน สักการะพระธาตุ ฟังธรรม สวดมนต์ ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน
    รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาท
    สร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย กรวดน้ำอุทิศบุญ ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สนทนาธรรม
    ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น รักษาอาการป่วยของผู้อื่น รักษาอาการป่วยของบิดามารดา
    ปิดทอง สักการะพระธาตุ กราบอดีตสังขารเจ้าอาวาสที่ไม่เน่าเปื่อย ที่วัดแจ้ง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ปิดทองพระ ปล่อยชีวิตสัตว์ถวายยาแก่ภิกษุ ไหว้พระตามวัดต่างๆ ขัดองค์พระ ให้ความรู้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพเป็นทาน ทำบุญสร้างอุโบสถกับได้กวาดพื้นอุโบสถแลพที่ผ่านมาได้ทำบุญสร้างอาคารผู้ป่วยและบุญของวัดพระราม 9 กาญจนาภิเษกในการสร้างอาคาร
    และสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอเชิญร่วมบุญกุศลร่วมกันนะ
     
  7. รสมน

    รสมน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,451
    ค่าพลัง:
    +2,047
    องค์ของปาณาติบาตนั้นมี ๕ อย่าง คือ
    ๑. ปาโณ สัตว์มีชีวิต
    ๒. ปาณสัญญิตา รู้ว่าสัตว์มีชีวิต
    ๓. วธกจิตตัง มีจิตคิดฆ่า
    ๔. อุปักกโม มีความพยายาม
    ๕. เตนมรณัง สัตว์ตายด้วยความพยายามนั้น
    ถามว่าขณะที่ทานเนื้อ ขณะนั้นมีเจตนาฆ่าหรือเปล่าครับ ไม่มีเจตนาฆ่าในขณะนั้น
    แต่มีเจตนา ที่จะบริโภค ถามต่อว่า คนที่ทานมังสวิรัติกับคนที่ทานเนื้อ จิตขณะนั้น
    ต่างกันไหม ถ้าเป็นปุถุชน จิตขณะนั้น มีความต้องการ (โลภะ) เหมือนกันไหม
    ก็เจตนาที่จะทานเหมือนกันโลภะเหมือนกันครับ พระอรหันต์ไม่มีกิเลส ทานเนื้อกับ
    ปุถุชนทานมังสวิรัติจิตของคนทั้งสองที่ทาน ต่างกันไหม พระอรหันต์ติดในรสไหม
    พระอรหันต์มีเจตนาฆ่าเนื้อตอนนั้นไหม ปุถุชนทานมังสวิรัติ ติดในรสไหม ถ้าติดใน
    รส(โลภะ)เป็นบุญหรือบาป ถ้าเป็นโลภะ
    ดังนั้นอาหารจะทำอะไรได้ ถ้าจิตมากไปด้วยกิเลส สัตว์จะบริสุทธิ์ได้มิใช่เพราะ
    อาหาร แต่เพราะปัญญาที่เกิดจากการฟังคำสอนของพระพุทธเจ้า
    พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย สุตตนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๖ - หน้าที่ 80
    อามคันธสูตรที่ ๒

    ว่าด้วยมีกลิ่นดิบไม่มีกลิ่นดิบ
    ติสสดาบสทูลถามพระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่ากัสสปะ ด้วยคาถา
    ความว่า
    [๓๑๕] สัตบุรุษทั้งหลายบริโภค
    ข้าวฟ่าง ลูกเดือย ถั่วเขียว ใบไม้ เหง้ามัน
    และผลไม้ที่ได้แล้วโดยธรรม หาปรารถนา
    กาม กล่าวคำเหลาะแหละไม่.
    ข้าแต่พระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่า
    กัสสปะ พระองค์เมื่อเสวยเนื้อชนิดใด ที่ผู้
    อื่นทำสำเร็จดีแล้ว ตบแต่งไว้ถวายอย่างประ-
    ณีต เมื่อเสวยข้าวสุกแห่งข้าวสาลี ก็ชื่อว่า
    ย่อมเสวยกลิ่นดิบ.
    แต่พระองค์ ผู้เป็นเผ่าพันธุ์แห่ง
    พรหม พระองค์ตรัสอย่างนี้ว่า กลิ่นดิบย่อม
    ไม่ควรแก่เรา แต่ยังเสวยข้าวสุกแห่งข้าวสาลี
    กับเนื้อนกที่บุคคลปรุงดีแล้ว.
    ข้าแต่พระผู้มีพระภาคเจ้า พระนามว่า
    กัสสปะ ข้าพระองค์ขอทูลถามความข้อนี้กะ
    พระองค์ว่า กลิ่นดิบของพระองค์มีประการ
    อย่างไร.

    พระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามว่ากัสสปะตรัสตอบด้วยพระคาถาว่า...
    การฆ่าสัตว์ การทุบตี การตัด การ
    จองจำ การลัก การพูดเท็จ การกระทำ
    ด้วยความหวัง การหลอกลวง การเรียน
    คัมภีร์ที่ไร้ประโยชน์ และการคบหาภรรยา
    ผู้อื่น นี้ชื่อว่ากลิ่นดิบ เนื้อและโภชนะไม่
    ชื่อว่ากลิ่นดิบเลย.
    ชนเหล่าใดในโลกนี้ ไม่สำรวมใน
    กามทั้งหลาย ยินดีในรสทั้งหลาย เจือปน
    ด้วยของไม่สะอาด มีความเห็นว่าทานที่
    บุคคลให้แล้วไม่มีผล มีการงานไม่เสมอ
    บุคคลพึงแนะนำได้โดยยาก นี้ชื่อว่ากลิ่นดิบ
    ของชนเหล่านั้น เนื้อและโภชนะไม่ชื่อว่า
    กลิ่นดิบเลย.
    ชนเหล่าใดผู้เศร้าหมอง หยาบช้า
    หน้าไหว้หลังหลอก ประทุษร้ายมิตร ไม่มี
    ความกรุณา มีมานะจัด มีปกติไม่ให้ และ
    ไม่ให้อะไร ๆ แก่ใคร ๆ นี้ชื่อว่ากลิ่นดิบ
    ของชนเหล่านี้ เนื้อและโภชนะไม่ชื่อว่า
    กลิ่นดิบเลย.
    ความโกรธ ความมัวเมา ความเป็น
    คนหัวดื้อ ความตั้งอยู่ผิด มายา ริษยา
    ความยกตน ความถือตัว ความดูหมิ่น และ
    ความสนิทสนมด้วยอสัตบุรุษทั้งหลาย นี้ชื่อ
    ว่ากลิ่นดิบ เนื้อและโภชนะไม่ชื่อว่ากลิ่นดิบ
    เลย.
    ชนเหล่าใดในโลกนี้ มีปกติประ-
    พฤติลามก กู้หนี้มาแล้วไม่ใช้ พูดเสียดสี
    พูดโกง เป็นคนเทียม เป็นคนต่ำทราม
    กระทำกรรมหยาบช้า นี้ชื่อว่ากลิ่นดิบของ
    ชนเหล่านั้น เนื้อและโภชนะไม่ชื่อว่ากลิ่น-
    ดิบเลย.
    ชนเหล่าใดในโลกนี้ ไม่สำรวมใน
    สัตว์ทั้งหลาย ชักชวนผู้อื่นประกอบการ
    เบียดเบียน ทุศีล ร้ายกาจ หยาบคาย ไม่
    เอื้อเฟื้อ นี้ชื่อว่ากลิ่นดิบของชนเหล่านั้น
    เนื้อและโภชนะไม่ชื่อว่ากลิ่นดิบเลย. .....
    พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๓ - หน้าที่ 40

    พวกภิกษุสนทนากันว่า " ได้ยินว่า ภริยาของนายพรานกุกกุฏมิตร
    บรรลุโสดาปัตติผลในกาลที่ยังเป็นเด็กหญิงนั่นแล แล้วไปสู่เรือนของนาย-
    พรานนั้น ได้บุตร ๗ คน. นางอันสามีสั่งตลอดกาลเท่านี้ว่า ' หล่อนจง
    นำธนูมา นำลูกศรมา นำหอกมา นำหลาวมา นำข่ายมา.' ได้ให้สิ่ง
    เหล่านั้นแล้ว, นายพรานนั้นถือเครื่องประหารที่นางให้ไปทำปาณาติบาต;
    แม้พระโสดาบันทั้งหลายยังทำปาณาติบาตอยู่หรือหนอ ? "
    พระศาสดาเสด็จมาแล้ว ตรัสถามว่า " ภิกษุทั้งหลาย บัดนี้ พวกเธอ
    นั่งประชุมสนทนากันด้วยเรื่องอะไร ? " เมื่อภิกษุเหล่านั้นกราบทูลว่า
    " ด้วยเรื่องชื่อนี้." ตรัสว่า " ภิกษุทั้งหลาย พระโสดาบันย่อมไม่ทำ
    ปาณาติบาต. แต่นางได้ทำอย่างนั้น ด้วยคิดว่า 'เราจักทำตามคำสามี.'
    จิตของนางไม่มีเลยว่า สามีนั้นจงถือเอาเครื่องประหารนี้ไปทำปาณาติบาต;
    จริงอยู่ เมื่อแผลในฝ่ามือไม่มี ยาพิษนั้นก็ไม่อาจจะให้โทษแก่ผู้ถือยาพิษได้
    ฉันใด. ชื่อว่าบาปย่อมไม่มีแก่ผู้ไม่ทำบาป แม้นำเครื่องประหารทั้งหลาย
    มีธนูเป็นต้นออกให้เพราะไม่มีอกุศลเจตนา ฉันนั้นเหมือนกัน, ดังนี้แล้ว
    เมื่อจะทรงสืบอนุสนธิแสดงธรรม จึงตรัสพระคาถานี้ว่า
    ๘. ปาณิมฺหิ เจ วโณ นาสฺส หเรยฺย ปาณินา วิส
    นาพฺพณ วิสมเนฺวติ นตฺถิ ปาป อกุพฺพโต.
    " ถ้าแผลไม่พึงมีในฝ่ามือไซร้, บุคคลพึงนำยาพิษไปด้วยฝ่ามือได้,
    เพราะยาพิษย่อมไม่ซึมเข้าสู่ฝ่ามือที่ไม่มีแผล ฉันใด,
    บาปย่อมไม่มีแก่ผู้ไม่ทำอยู่ ฉันนั้น."


    เอาบุญมาฝากจะถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ สักการะพระธาตุ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาทสร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย
    รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ ให้อาหารสัตว์เป็นทานเป็นประจำ กรวดน้ำอุทิศบุญ อนุโมทนากับพ่อแม่ญาติพี่น้องที่รักษาศีล ฟังธรรม ให้ทาน อนุโมทนากับเพื่อนๆที่รักษาศีล ศึกษาการรักษาโรค ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ถวายสังฆทานมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ปิดทองพระ รักษาอาการป่วยของผู้อื่นกับผู้ร่วมงาน และที่ผ่านมาได้รักษาอาการป่วยของบิดามารดา ปล่อยชีวิตสัตว์มาโดยตลอด ถวายยาแก่ภิกษุ ขัดองค์พระ ถวายเทียน ให้ความรู้สมุนไพรเพื่อสุขภาพเป็นวิทยาทาน ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ทำบุญหลายอย่างมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ถวายสังฆทานและทำบุญสร้างอาคารผู้ป่วยและกฐินกับเพื่อนๆและให้อาหารเป็นทานแก่สรรพสัตว์กับเพื่อนๆและเพื่อนคนหนึ่งและบริวารของเพื่อนและครอบครัวของเพื่อนได้มีจิตเมตตาให้ทานและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือผู้อื่นอยู่ตลอดและเพื่อนได้เคยสวดมนต์เย็นกับคุณแม่และที่ผ่านมาได้ทำบุญสักการะพระธาตุทำบุญปิดทองชำระหนี้สงฆ์และไหว้พระและทำบุญตามกล่องรับบริจาคตามวัดต่างๆกับเพื่อนและได้บริจาคเลือดมา 22 ครั้งและอนุโมทนากับผู้บริจาคเลือดหลายท่านแล้วและตั้งใจว่าจะสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอให้อนุโมทนาบุญด้วย

    ขอเชิญถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน สักการะพระธาตุ ฟังธรรม สวดมนต์ ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน
    รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาท
    สร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย กรวดน้ำอุทิศบุญ ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สนทนาธรรม
    ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น รักษาอาการป่วยของผู้อื่น รักษาอาการป่วยของบิดามารดา
    ปิดทอง สักการะพระธาตุ กราบอดีตสังขารเจ้าอาวาสที่ไม่เน่าเปื่อย ที่วัดแจ้ง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ปิดทองพระ ปล่อยชีวิตสัตว์ถวายยาแก่ภิกษุ ไหว้พระตามวัดต่างๆ ขัดองค์พระ ให้ความรู้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพเป็นทาน บริจาคเลือด
    และสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอเชิญร่วมบุญกุศลร่วมกันนะ
     
  8. รสมน

    รสมน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,451
    ค่าพลัง:
    +2,047
    ฝึกจิตให้ได้ผลต้องตรงต่อเวลา
    กลับจากบิณฑบาตแล้ว ก็เอาอาหารตั้งไว้ ตักน้ำใส่ตุ่ม เสร็จแล้วฉันอาหารเช้า โดยปกติอาตมาฉันมื้อเดียวเว้นไว้มีกิจนิมนต์ จึงฉันสองมื้อ สี่โมงเช้าถึงเที่ยง ถ้ามีรายการไปเทศน์ ก็ไปเทศน์ตามที่นัดไว้ วันไหนไม่ติดเทศน์ก็จะปิดประตูกุฏิทันที ไม่ให้ใครๆเข้าไป ในช่วงเวลานั้นเป็นเวลาศึกษาตำรา เวลาบ่ายโมงจึงออกรับแขก บ่ายสามโมงไม่ว่าใครจะมาอาตมาจะให้ออกจากกุฏิไปหมด เพราะถึงเวลาปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน ฉะนั้น จุดสำคัญจงจำไว้ เราจะปฏิบัติเพื่อหลุดพ้น ต้องมีสัจจะเพื่อตน โดยไม่เห็นแก่หน้าใคร ถึงเวลาทำสมาธิต้องทำ ไม่มีการผัดผ่อนใดๆ ทั้งสิน
    เคล็ดลับสู่ความสำเร็จ
    ท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ ( โต ) กล่าวว่า เคล็ดลับสู่ความสำเร็จสุดยอดในทางธรรม คือ จะต้องมีสัจจะอันแน่วแน่ และมีขันติธรรมอันมั่นคง จึงจะฝ่าฟันอุปสรรค บรรลุความสำเร็จได้ อาตมามีกฎอยู่ว่า เช้าตีห้าไม่ว่าฝนจะตก ฟ้าจะร้อง อากาศจะหนาว ต้องตื่นทันที ไม่มีการผัดเวลา แล้วเข้าสรงน้ำ ชำระกายให้สะอาด แล้วจึงได้สวดมนต์และปฏิบัติสมถกรรมฐานหนึ่งชั่วโมง พอหกโมงตรงก็ออกบิณฑบาต เพื่อปฏิบัติตามปฏิปทาขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
    หลักการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน
    1. จะต้องมีสัจจะต่อตนเอง
    2. จะต้องไม่คล้อยตามอารมณ์ของมนุษย์
    3. พยายามตัดงานในด้านสังคมออก และไม่นัดหมายใครในเวลาปฏิบัติกรรมฐาน ดังนั้นเมื่อจะเป็นนักปฏิบัติธรรมจำเป็นจะต้องมีกฎเกณฑ์ของเรา เพื่อฝึกจิตให้เข้มแข็ง


    เอาบุญมาฝากจะถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ สักการะพระธาตุ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาทสร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย
    รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ ให้อาหารสัตว์เป็นทานเป็นประจำ กรวดน้ำอุทิศบุญ อนุโมทนากับพ่อแม่ญาติพี่น้องที่รักษาศีล ฟังธรรม ให้ทาน อนุโมทนากับเพื่อนๆที่รักษาศีล ศึกษาการรักษาโรค ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ถวายสังฆทานมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ปิดทองพระ รักษาอาการป่วยของผู้อื่นกับผู้ร่วมงาน และที่ผ่านมาได้รักษาอาการป่วยของบิดามารดา ปล่อยชีวิตสัตว์มาโดยตลอด ถวายยาแก่ภิกษุ ขัดองค์พระ ถวายเทียน ให้ความรู้สมุนไพรเพื่อสุขภาพเป็นวิทยาทาน ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ทำบุญหลายอย่างมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ถวายสังฆทานและทำบุญสร้างอาคารผู้ป่วยและกฐินกับเพื่อนๆและให้อาหารเป็นทานแก่สรรพสัตว์กับเพื่อนๆและเพื่อนคนหนึ่งและบริวารของเพื่อนและครอบครัวของเพื่อนได้มีจิตเมตตาให้ทานและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือผู้อื่นอยู่ตลอดและเพื่อนได้เคยสวดมนต์เย็นกับคุณแม่และที่ผ่านมาได้ทำบุญสักการะพระธาตุทำบุญปิดทองชำระหนี้สงฆ์และไหว้พระและทำบุญตามกล่องรับบริจาคตามวัดต่างๆกับเพื่อนและตั้งใจว่าจะสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอให้อนุโมทนาบุญด้วย

    ขอเชิญถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน สักการะพระธาตุ ฟังธรรม สวดมนต์ ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน
    รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาท
    สร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย กรวดน้ำอุทิศบุญ ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สนทนาธรรม
    ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น รักษาอาการป่วยของผู้อื่น รักษาอาการป่วยของบิดามารดา
    ปิดทอง สักการะพระธาตุ กราบอดีตสังขารเจ้าอาวาสที่ไม่เน่าเปื่อย ที่วัดแจ้ง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ปิดทองพระ ปล่อยชีวิตสัตว์ถวายยาแก่ภิกษุ ไหว้พระตามวัดต่างๆ ขัดองค์พระ ให้ความรู้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพเป็นทาน
    และสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอเชิญร่วมบุญกุศลร่วมกันนะ
     
  9. รสมน

    รสมน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,451
    ค่าพลัง:
    +2,047
    องค์ของปาณาติบาตนั้นมี ๕ อย่าง คือ
    ๑. ปาโณ สัตว์มีชีวิต
    ๒. ปาณสัญญิตา รู้ว่าสัตว์มีชีวิต
    ๓. วธกจิตตัง มีจิตคิดฆ่า
    ๔. อุปักกโม มีความพยายาม
    ๕. เตนมรณัง สัตว์ตายด้วยความพยายามนั้น
    จะสังเกตข้อ 3 นะครับว่า มีจิตคิดจะฆ่า จะเห็นนะครับว่ามีเจตนาที่จะฆ่าสัตว์ หาก
    ไม่มีเจตนาฆ่าสัตว์ แม้สัตว์นั้นตายไป ก็ไม่ล่วงศีล ไม่ผิดศีล เพราะไม่มีเจตนาฆ่าครับ
    ยกตัวอย่างเช่น การเดินที่เป็นปกติในชีวิตประจำวัน ก็ต้องมีเหยียบสัตว์ตาย โดยไม่รู้
    และไม่มีเจตนา ไม่ว่าใคร บุคลใด แม้แต่พระอรหันต์ที่ท่าน ตาบอด มีท่านพระจักขุ
    บาล ท่านก็เหยียบสัตว์ตาย ภิกษุรูปอื่นก็ทูลพระพุทธเจ้าว่า ท่านฆ่าสัตว์ พระพุทธเจ้า
    ตรัสว่า จักขุบาลไม่ได้มีเจตนาฆ่า ไม่บาป ไม่ล่วงศีลเลย
    ดังนั้น สำคัญคือ ย้อนกลับมาที่จิตและเจตาเป็นสำคัญ ว่าผิดศีล หรือ ไม่ผิดศีลครับ
    พระพุทธเจ้าทรงแสดงอาชีพที่
    คฤหัสถ์ไม่ควรประกอบ คือ
    พระสุตตันตปิฎก อังคุตรนิกาย ปัญจก-ฉักกนิบาต เล่ม ๓ - หน้าที่ ๓๗๖

    ๗. วณิชชสูตร
    (ว่าด้วยการค้าขายที่อุบาสกไม่ควรประกอบ)
    [๑๗๗] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย การค้าขาย ๕ ประการนี้ อันอุบาสก
    ไม่พึงกระทำ ๕ ประการเป็นไฉน ? คือ การค้าขายศัสตรา ๑ การค้าขายสัตว์ ๑
    การค้าขายเนื้อสัตว์ ๑ การค้าขายน้ำเมา ๑ การค้าขายยาพิษ ๑ ดูก่อนภิกษุ-
    ทั้งหลาย การค้าขาย ๕ ประการนี้แล อันอุบาสกไม่พึงกระทำ.
    ขอยกตัวอย่าง เรื่องในสมัยพุทธกาลครับ สมัยหนึ่ง ท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี ผู้เป็น
    พระโสดาบัน แต่ไม่มีตาทิพย์ พระโสดาบันงดเว้นจากการฆ่าสัตว์ทั้งปวงแล้ว คือ แม้
    เจตนาฆ่าก็ไม่มี ท่านอนาถะ เข้าไปหาพระอานนท์ และกล่าวว่าเมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จ
    จาริกไปชนบท หมู่มหาชนมาที่พระเชตวัน ไมได้ไหว้พระองค์ ไม่มีสถานที่ควรบูชา
    พระอานนท์ทราบเรื่องนี้ จึงกราบทูลพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าจึงรับสั่งให้ปลูกต้นโพธิ์
    ได้ โดยพระมหาโมคคัลลานะ นำลูกโพธิ์มาให้ พระราชา นางวิสาขา(พระะโสดาบัน)
    ท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี(พระโสดาบัน) เป็นผู้ขุดดิน เตรียมรอไว้ และเมื่อได้ลูกโพธิ์
    ท่านอนาถะ ก็เป็นคนเอาลูกโพธิ์กดลงไปในเปือกตมครับ(เป็นโพธิ์พระอานนท์ที่พระ
    เชตวัน)
    สังเกตเรื่องนี้ให้ดีนะครับ มีการขุดดิน ผู้ที่ขุดดิน คือ พระโสดาบันสองท่าน คือ
    ท่านอนาถะ และนางวิสาขา พระโสดาบัน ตามที่ทราบกัน แม้เจตนาฆ่าก็ไม่มี ไม่
    ต้องกล่าวถึงการฆ่าเลย ดังนั้น เมื่อท่านขุดดิน จำเป็นไหมครับ จะต้องมีเจตนาฆ่า
    หรือ ท่านเมีเจตนาขุดดินเพื่อปลูกต้นโพธิ์ ทั้งๆที่ก็รู้ว่า ดินก็มีสิ่งมีชีวิต แต่ท่านก็ขุด
    เพราะเจตนาปลูกต้นโพธิ์ ไม่ใช่เจตนาขุดดินเพื่อฆ่าไส้เดือนครับ เจตนาของท่าน
    จึงเป็นกุศล
    ดังนั้น ขุดดินเหมือนกันทั้งสองคน แต่เจตนาฆ่าสัตวก็ได้ ไม่มีเจตนาฆ่าสัตว์ก็ได้ครับ
    และสังเกตอีกนะครับว่า ท่านอนาถะ ก็ กด ลูกโพธิ์สุก ลงไปในเปือกตมที่เป็นดิน
    ท่าน อนาถะ ไมได้ฌาน ไม่มีตาทิพย์รู้ว่ามีสิ่งมีชีวิตหรือเปล่า เช่นเดียวกับเกษตรกร ก็
    ไม่มีตาทิพย์ แต่ท่านผู้ถามก็กล่าวว่า ก็รู้อยู่ว่าในดินมีสิ่งมีชีวิต เพราะฉะนั้นท่านอนาถะ
    ก็รู้อยู่อยู่เช่นกัน แต่ทำไมท่านยังกดลูกโพธิลงไป ทั้งๆที่อาจมีสิ่งมีชีวิต และทำให้มัน
    ตายก็ได้ เพราะท่านอนาถะ ไม่ได้มีเจตนาฆ่าสัตว์ แต่ท่านมีเจตนาปลูกต้นโพธิ์ในขณะ
    นั้นครับ จากเรื่องราวที่กล่าวมา จึงแสดงเห็นชัดเจนครับว่า ขุดดินเหมือนกัน และรู้ว่า
    สัตว์มีชีวิตมีอยู่ แต่ไม่จำเป็นจะต้องมีเจตนาฆ่าทีเป็นบาปเลยครับ
    ขณะนี้กำลังนั่ง อาจจะมีสิ่งมีชีวิตอยู่ในขนตา ไม่ควรกระพริบตา เพราะอาจทำให้สัตว์
    ตาย ขณะกระพริบตา มีเจตนาฆ่าหรือไม่ครับ ไม่ควรนอน เพราะที่นอน อาจจะมีสิ่งมี
    ชีวิต ก็รู้อยู่ว่าที่นอน มีสิ่งมีชีวิต เท่ากับว่า ถ้านอนลงไป มีเจตนาฆ่าแล้วหรือเปล่าครับ
    ไม่ควรเดิน เพราะบนพื้นมีสิ่งมีชีวิต ก็รู้อยู่ ว่ามีสิ่งมีชีวิตบนพื้นดิน มีมด และตัวเล็กๆ
    เป็นต้น การเดินไปของพระพุทธเจ้า พระองค์ก็เสด็จดำเนิน ของพระโสดาบันที่ไม่ได้
    ฌาน ก็เดินไปเป็นปกติ แม้รู้อยู่ว่า พื้นดินมีสัตว์มีชีวิต การเดินไป แล้วเหยียบสัตว์ตาย
    มีเจตนาฆ่าเสมอหรือเปล่าครับ ไม่ควรทานข้าว เพราะอาหารอาจจะทำให้สัตว์ในท้อง
    หรือ ในปากตายได้ เพราะเมื่อสัตว์ตาย ก็เป็นการทำบาปแล้ว ใช่หรือเปล่าครับ หรือ
    กรรมอยู่ที่เจตนา ว่ามีเจตนาฆ่าสัตว์หรือไม่ ไม่ควรทานอาหารมังสวิรัติ เพราะอาจทำให้
    สัตว์ในปากตายได้ เพราะรู้อยู่ว่ามีสัตว์ในปาก ที่ตัวเล็กๆ ไม่ควรแปรงฟัน ไม่ควรนั่ง
    นอน ยืน เดิน ไม่ควรทำอะไรทั้งสิ้น เพราะอาจทำให้สัตว์ตายได้ ทำให้เป็นบาป เพราะ
    รู้อยู่ว่า โดยทั่วไป ในที่เกือบทุกแห่ง มีสิ่งมีชีวิต ซึ่งเราก็รู้และผู้ถามก็รู้อยู่ เมื่อรู้อย่างนี้
    ก็ชื่อว่ามีเจตนาฆ่าแล้ว ?


    เอาบุญมาฝากจะถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ สักการะพระธาตุ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาทสร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย
    รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ ให้อาหารสัตว์เป็นทานเป็นประจำ กรวดน้ำอุทิศบุญ อนุโมทนากับพ่อแม่ญาติพี่น้องที่รักษาศีล ฟังธรรม ให้ทาน อนุโมทนากับเพื่อนๆที่รักษาศีล ศึกษาการรักษาโรค ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ถวายสังฆทานมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ปิดทองพระ รักษาอาการป่วยของผู้อื่นกับผู้ร่วมงาน และที่ผ่านมาได้รักษาอาการป่วยของบิดามารดา ปล่อยชีวิตสัตว์มาโดยตลอด ถวายยาแก่ภิกษุ ขัดองค์พระ ถวายเทียน ให้ความรู้สมุนไพรเพื่อสุขภาพเป็นวิทยาทาน ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ทำบุญหลายอย่างมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ถวายสังฆทานและทำบุญสร้างอาคารผู้ป่วยและกฐินกับเพื่อนๆและให้อาหารเป็นทานแก่สรรพสัตว์กับเพื่อนๆและเพื่อนคนหนึ่งและบริวารของเพื่อนและครอบครัวของเพื่อนได้มีจิตเมตตาให้ทานและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือผู้อื่นอยู่ตลอดและเพื่อนได้เคยสวดมนต์เย็นกับคุณแม่และที่ผ่านมาได้ทำบุญสักการะพระธาตุทำบุญปิดทองชำระหนี้สงฆ์และไหว้พระและทำบุญตามกล่องรับบริจาคตามวัดต่างๆกับเพื่อนและตั้งใจว่าจะสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอให้อนุโมทนาบุญด้วย

    ขอเชิญถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน สักการะพระธาตุ ฟังธรรม สวดมนต์ ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน
    รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาท
    สร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย กรวดน้ำอุทิศบุญ ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สนทนาธรรม
    ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น รักษาอาการป่วยของผู้อื่น รักษาอาการป่วยของบิดามารดา
    ปิดทอง สักการะพระธาตุ กราบอดีตสังขารเจ้าอาวาสที่ไม่เน่าเปื่อย ที่วัดแจ้ง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ปิดทองพระ ปล่อยชีวิตสัตว์ถวายยาแก่ภิกษุ ไหว้พระตามวัดต่างๆ ขัดองค์พระ ให้ความรู้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพเป็นทาน
    และสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอเชิญร่วมบุญกุศลร่วมกันนะ
     
  10. รสมน

    รสมน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,451
    ค่าพลัง:
    +2,047
    สักกายทิฏฐิ สก ( ของตน ) + กาย ( ที่ประชุม ) + ทิฏฺฐิ ( ความเห็น )
    ความเห็นว่าเป็นกายของตน , ความเห็นผิดว่าเป็นตัวตน หมายถึง ความเห็นผิด
    ในขันธ์ ๕ ว่าเป็นเรา ของเรา หรือเป็นสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ซึ่งผิดไปจากความเป็นจริงตาม
    สภาพธรรม เช่น ยึดถือ ขณะที่ว่า เห็น เป็นเราที่เห็น เป็นเราที่ได้ยิน เป็นต้น
    สักกายทิฏฐิ เป็นความเห็นผิดที่เป็นพื้นฐาน เป็นอนุสัยกิเลสซึ่งมีอยู่กับทุกบุคคลที่
    ไม่ใช่พระอริยะ เรียกว่า ทิฏฐิสามัญ ซึ่งจะเป็นเหตุให้เกิดทิฏฐิพิเศษที่มีโทษมากได้
    เช่น สัสสตทิฏฐิ อเหตุกทิฏฐิ อกิริยทิฏฐิ นัตถิกทิฏฐิ คือ เห็นว่าบุญไม่มีบาปไม่มี
    และ สักกายทิฏฐิ ยังแบ่ง เป็น 20 ประการ ด้วย ลักษณะของความยึดถือ ว่าเป็นตัวตน
    มีลักษณะ หลายประการ 20 ประการมีดังนี้ครับ
    ๑. เห็นรูปเป็นตน คือ ขณะที่เห็นผิดยึดถือว่า รูปร่างกายเป็นเรา ( ตน ) อุปมา
    เหมือนเห็นเปลวไฟและสีของเปลวไฟเป็นอย่างเดียวกัน
    ๒. เห็นตนมีรูป คือ ขณะที่ยึดถือว่า นามธรรมเป็นเราที่มีรูปร่างกาย อุปมา
    เหมือนเห็นต้นไม้มีเงา
    ๓. เห็นรูปในตน คือ ขณะที่ยึดถือว่า นามธรรมเป็นเรา และรูปอยู่ในนามที่เรา
    อุปมาเหมือนกลิ่นในดอกไม้
    ๔. เห็นตนในรูป คือ ขณะที่ยึดถือว่า นามธรรมเป็นเราที่อยู่ในรูปร่างกาย อุปมา
    เหมือนแก้วมณีในขวด
    ๕. เห็นเวทนาเป็นตน คือ ขณะที่ยึดถือว่า ความรู้สึกเป็นเรา ( ตน ) อุปมาโดย
    นัยเดียวกันกับรูป
    ๖. เห็นตนมีเวทนา คือ ขณะที่ยึดถือรูป สัญญา สังขาร วิญญาณ ว่าเป็นเรา
    และเรามีเวทนา
    ๗. เห็นเวทนาในตน คือ ขณะที่ยึดถือรูป สัญญา สังขาร วิญญาณ ว่าเป็น
    เรา และมีเวทนาในเรา
    ๘. เห็นตนในเวทนา คือ ขณะที่ยึดถือรูป สัญญา สังขาร วิญญาณ ว่าเป็น
    เรา และเรามีอยู่ในเวทนา
    ๙. เห็นสัญญาเป็นตน คือ ขณะที่ยึดถือว่า ความจำเป็นเรา ( ตน )
    ๑๐. เห็นตนมีสัญญา คือ ขณะที่ยึดถือรูป เวทนา สังขาร วิญญาณ ว่าเป็น
    เรา และเรามีสัญญา
    ๑๑. เห็นสัญญาในตน คือ ขณะที่ยึดถือรูป เวทนา สังขาร วิญญาณ ว่าเป็น
    เรา และมีสัญญาในเรา
    ๑๒. เห็นตนในสัญญา คือ ขณะที่ยึดถือรูป เวทนา สังขาร วิญญาณ ว่าเป็น
    เรา และเรามีอยู่ในสัญญา
    ๑๓. เห็นสังขารเป็นตน คือ ขณะที่ยึดถือว่า สังขารตัวปรุงแต่งเป็นเรา
    ๑๔. เห็นตนมีสังขาร คือ ขณะที่ยึดถือรูป เวทนา สัญญา วิญญาณ ว่าเป็น
    เรา และเรามีสังขาร
    ๑๕. เห็นสังขารในตน คือ ขณะที่ยึดถือรูป เวทนา สัญญา วิญญาณ ว่าเป็น
    เรา และมีสังขารในเรา
    ๑๖. เห็นตนในสังขาร คือขณะที่ยึดถือรูป เวทนา สัญญา วิญญาณ ว่าเป็น
    เรา และเรามีอยู่ในสังขาร
    ๑๗. เห็นวิญญาณเป็นตน คือในขณะที่ยึดถือว่า วิญญาณเป็นเรา ( ตน )
    ๑๘. เห็นตนมีวิญญาณ คือขณะที่ยึดถือรูป เวทนา สัญญา สังขาร ว่าเป็น
    เรา และเรามีวิญญาณ
    ๑๙. เห็นวิญญาณในตน คือขณะที่ยึดถือรูป เวทนา สัญญา สังขาร ว่าเป็น
    เรา และมีวิญญาณในเรา
    ๒๐. เห็นตนในวิญญาณ คือขณะที่ยึดถือรูป เวทนา สัญญา สังขาร ว่าเป็น
    เรา และเรามีอยู่ในวิญญาณ

    โดยทั่วไปแล้ว หากได้อ่านข้อความในพระไตรปิฎก ก็จะเห็น จำนวน ข้อความที่กล่าว
    ถึง 3 ครั้งบ่อยๆ ไม่ใช่เพียง การกล่าวสรรเสริญบูชาพระพุทธํเจ้าเท่านั้นครับ ซึ่งเรา
    สามารถพิจารณาไ้ด้ครีับว่า ทำไมถึงต้องกล่าวถึง 3 ครั้ง สำหรับบางพระสูตร เมื่อมีผู้คน
    มาถามพระพุทธองค์ พระองค์ก็จะตรัสห้ามถึง 3 ครั้ง ไม่ใช่เพียงครั้งเดียว คือ เมื่อเขาทูล
    ถามพระองค์ แม้ถึง 3 ครั้ง พระองค์ก็ตรัสห้าม และไม่ตอบทั้ง 3 ครั้ง แสดงถึงความหนัก
    แน่น แม้ของผู้ถามเอง ที่มีกำลัง ที่จะต้องการถาม ไม่ใช่เพียงครั้งเดียว และพระพุทธองค์
    ก็ทรงปฏิเสธ 3 ครั้ง ก็ทรงแสดงถึงความหนักแน่นและมีกำลัง ที่จะไม่ตรัสตอบ และห้าม
    การถามนั้นครับ และบางตัวอย่าง เช่น พระนางมหาปชาบดีโคตมี ทูลขอบรรพชา เป็น
    พระภิกษุณี ก็ทูลขอทั้ง 3 ครั้ง พระพุทธเจ้าก็ตรัสห้ามทั้ง 3 ครั้ง นั่นแสดงถึง กำลัง
    ความหนักแน่นของ พระมหาปชาบดีโคตมี ที่มีศรัทธาอย่างมีกำลัง จนกล่าวขอบรรพชา
    ทั้ง 3 ครั้ง ไม่ใช่เพียงครั้งเดียวเลย และพระพุทธองค์ก็ทรงแสดงให้เห็นว่า การบรรพชา
    เป็นสิ่งที่ยาก และพระนางมหาปชาบดีโคตมี จะได้เห็นคุณค่า และประพฤติตามครุธรรม
    จึงตรัสห้าม 3 ครั้ง ไม่ใช่ครั้งเดียว แสดงถึงความมีกำลัง หนักแน่นของเรื่องนั้นนั่นเอง
    ดังนั้น แม้การกล่าวสรรเสริญพระพุทธเจ้า นโมตัสสะ 3 ครั้ง หรือ ขอถึงพระพุทธเจ้า
    เป็นที่พึ่่ง 3 ครั้ง ไม่ใช่เพียงครั้งเดียว ก็แสดงให้เห็นถึงกำลัง ความหนักแน่นของผู้ที่มี
    ศรัทธาเลื่อมใสแล้วอย่างแท้จริง ซึ่งหากเราๆได้อ่านพระธรรมในพระไตรปิฎก ผู้ที่กล่าว
    ถึง 3 ครั้ง ไม่ใช่ครั้งเดียว เพราะได้ฟังพระธรรมจากพระพุทธเจ้า จนเข้าใจแจ่มแจ้งแล้ว
    เกิดปัญญาอยางแท้จริงผู้นั้น ก็จะกล่าวว่า พระองค์แสดงธรรมดีแล้ว เปรียบเหมือนคน
    ที่หงายของทีี่คว่ำ เปิดของที่ปิด...และขอถึงพระรัตนตรัยเป็นสรณะ หรือ กล่าว
    สรรเสริญพระพุทธเจ้า 3 ครั้ง ก็แสดงให้เห็นว่า เกิดปัญญา ความเข้าใจและศรัทธามที่มี
    กำลัง จึงกระทำถึง 3 ครั้ง ไม่ใช่ครั้งเดียวครับ
    เวลาเราจะัทำอะไร บ่อยๆ ย้ำๆ ก็แสดงถึง ความมีกำลัง ของสิ่งนั้นทั้งฝ่ายกุศลและ
    อกุศลครับ ดังนั้น 3 ครั้งแสดงถึงความหนักแน่น มีกำลัง มีศรัทธาในพระรัตนตรัย และ
    ไม่มาก ไม่น้อยจนเกินไป จึง 3 ครั้งครับ

    เอาบุญมาฝากจะถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ สักการะพระธาตุ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาทสร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย
    รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ ให้อาหารสัตว์เป็นทานเป็นประจำ กรวดน้ำอุทิศบุญ อนุโมทนากับพ่อแม่ญาติพี่น้องที่รักษาศีล ฟังธรรม ให้ทาน อนุโมทนากับเพื่อนๆที่รักษาศีล ศึกษาการรักษาโรค ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ถวายสังฆทานมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ปิดทองพระ รักษาอาการป่วยของผู้อื่นกับผู้ร่วมงาน และที่ผ่านมาได้รักษาอาการป่วยของบิดามารดา ปล่อยชีวิตสัตว์มาโดยตลอด ถวายยาแก่ภิกษุ ขัดองค์พระ ถวายเทียน ให้ความรู้สมุนไพรเพื่อสุขภาพเป็นวิทยาทาน ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ทำบุญหลายอย่างมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ถวายสังฆทานและทำบุญสร้างอาคารผู้ป่วยและกฐินกับเพื่อนๆและให้อาหารเป็นทานแก่สรรพสัตว์กับเพื่อนๆและเพื่อนคนหนึ่งและบริวารของเพื่อนและครอบครัวของเพื่อนได้มีจิตเมตตาให้ทานและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือผู้อื่นอยู่ตลอดและเพื่อนได้เคยสวดมนต์เย็นกับคุณแม่และที่ผ่านมาได้ทำบุญสักการะพระธาตุทำบุญปิดทองชำระหนี้สงฆ์และไหว้พระและทำบุญตามกล่องรับบริจาคตามวัดต่างๆกับเพื่อนและตั้งใจว่าจะสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอให้อนุโมทนาบุญด้วย

    ขอเชิญถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน สักการะพระธาตุ ฟังธรรม สวดมนต์ ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน
    รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาท
    สร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย กรวดน้ำอุทิศบุญ ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สนทนาธรรม
    ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น รักษาอาการป่วยของผู้อื่น รักษาอาการป่วยของบิดามารดา
    ปิดทอง สักการะพระธาตุ กราบอดีตสังขารเจ้าอาวาสที่ไม่เน่าเปื่อย ที่วัดแจ้ง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ปิดทองพระ ปล่อยชีวิตสัตว์ถวายยาแก่ภิกษุ ไหว้พระตามวัดต่างๆ ขัดองค์พระ ให้ความรู้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพเป็นทาน
    และสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอเชิญร่วมบุญกุศลร่วมกันนะ
     
  11. รสมน

    รสมน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,451
    ค่าพลัง:
    +2,047
    คำว่า เป็นผู้หลีกเร้น ในคำว่า
    บุคคลเป็นผู้หลีกเร้น ไม่หลอกลวง ความว่า เพราะละเสียแล้วซึ่ง
    ราคะ โทสะ โมหะ
    ความโกรธ ความผูกโกรธ ฯลฯ อกุสลาภิสังขารทั้งปวง
    จึงชื่อว่า
    ผู้หลีกเร้น
    สมจริงตามที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า
    ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็ภิกษุเป็นผู้หลีกเร้นอย่างไร
    ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุในธรรมวินัยนี้
    เป็นผู้ละความถือตัวว่า เป็นเราแล้ว
    มีรากอันตัดขาดแล้ว ทำไม่ให้มีที่ตั้งดังตาลยอดด้วน
    ให้ถึงความไม่มีในภายหลัง มีความไม่เกิดขึ้นต่อไปเป็นธรรมดา
    ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุเป็นผู้หลีกเร้นอย่างนี้แล เพราะฉะนั้น จึงชื่อว่า
    เป็นผู้หลีกเร้น.

    เอาบุญมาฝากจะถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ สักการะพระธาตุ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาทสร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย
    รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ ให้อาหารสัตว์เป็นทานเป็นประจำ กรวดน้ำอุทิศบุญ อนุโมทนากับพ่อแม่ญาติพี่น้องที่รักษาศีล ฟังธรรม ให้ทาน อนุโมทนากับเพื่อนๆที่รักษาศีล ศึกษาการรักษาโรค ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ถวายสังฆทานมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ปิดทองพระ รักษาอาการป่วยของผู้อื่นกับผู้ร่วมงาน และที่ผ่านมาได้รักษาอาการป่วยของบิดามารดา ปล่อยชีวิตสัตว์มาโดยตลอด ถวายยาแก่ภิกษุ ขัดองค์พระ ถวายเทียน ให้ความรู้สมุนไพรเพื่อสุขภาพเป็นวิทยาทาน ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ทำบุญหลายอย่างมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ถวายสังฆทานและทำบุญสร้างอาคารผู้ป่วยและกฐินกับเพื่อนๆและให้อาหารเป็นทานแก่สรรพสัตว์กับเพื่อนๆและเพื่อนคนหนึ่งและบริวารของเพื่อนและครอบครัวของเพื่อนได้มีจิตเมตตาให้ทานและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือผู้อื่นอยู่ตลอดและเพื่อนได้เคยสวดมนต์เย็นกับคุณแม่และที่ผ่านมาได้ทำบุญสักการะพระธาตุทำบุญปิดทองชำระหนี้สงฆ์และไหว้พระและทำบุญตามกล่องรับบริจาคตามวัดต่างๆกับเพื่อนและตั้งใจว่าจะสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอให้อนุโมทนาบุญด้วย

    ขอเชิญถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน สักการะพระธาตุ ฟังธรรม สวดมนต์ ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน
    รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาท
    สร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย กรวดน้ำอุทิศบุญ ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สนทนาธรรม
    ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น รักษาอาการป่วยของผู้อื่น รักษาอาการป่วยของบิดามารดา
    ปิดทอง สักการะพระธาตุ กราบอดีตสังขารเจ้าอาวาสที่ไม่เน่าเปื่อย ที่วัดแจ้ง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ปิดทองพระ ปล่อยชีวิตสัตว์ถวายยาแก่ภิกษุ ไหว้พระตามวัดต่างๆ ขัดองค์พระ ให้ความรู้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพเป็นทาน
    และสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอเชิญร่วมบุญกุศลร่วมกันนะ
     
  12. รสมน

    รสมน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,451
    ค่าพลัง:
    +2,047
    ๑. บุคคล ผู้มีสุตะน้อย และไม่ได้ประโยชน์เพราะ
    สุตะ เป็นไฉน ?
    สุตะ คือ สุตตะ เคยยะ เวยยากรณะ คาถา อุทาน อิติวุตตกะ ชาตกะ
    อัพภูตธรรม เวทัลละ ของบุคคลบางคนในโลกนี้มีน้อย
    บุคคลนั้นไม่รู้อรรถไม่รู้ธรรมแห่งสุตะอันน้อยนั้น
    ไม่เป็นผู้ปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม
    บุคคลอย่างนี้ชื่อว่า
    ผู้มีสุตะน้อย และไม่ได้ประโยชน์เพราะสุตะนั้น.
    ๒. บุคคล ผู้มีสุตะน้อย แต่ได้ประโยชน์เพราะ
    สุตะ เป็นไฉน ?
    สุตะ คือ สุตตะ เคยยะ เวยยากรณะ คาถา อุทาน อิติวุตตกะ
    ชาตกะ อัพภูตธรรม เวทัลละ ของบุคคลใดในโลกนี้มีน้อย
    บุคคลนั้นรู้อรรถรู้ธรรมของสุตะน้อยนั้น
    เป็นผู้ปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม
    บุคคลอย่างนี้ชื่อว่า
    ผู้มีสุตะน้อย แต่ได้ประโยชน์เพราะสุตะ.
    ๓. บุคคล ผู้มีสุตะมาก แต่ไม่ได้ประโยชน์เพราะ
    สุตะ เป็นไฉน ?
    สุตะ คือ สุตตะ เคยยะ เวยยากรณะ คาถา อุทาน อิติวุตตกะ ชาตกะ
    อัพภูตธรรม เวทัลละ ของบุคคลบางคนในโลกนี้มีมาก
    บุคคลนั้นไม่รู้อรรถไม่รู้ธรรมของสุตะอันมากนั้น
    ไม่ปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม
    บุคคลอย่างนี้ชื่อว่า
    ผู้มีสุตะมาก แต่ไม่ได้ประโยชน์เพราะสุตะ.
    ๔. บุคคล ผู้มีสุตะมาก และได้ประโยชน์เพราะ
    สุตะ เบ็นไฉน ?
    สุตะ คือ สุตตะ เคยยะ เวยยากรณะ คาถา อุทาน อิติวุตตกะ ชาตกะ
    อัพภูตธรรม เวทัลละ ของบุคคลบางคนโลกนี้มาก
    บุคคลนั้นรู้อรรถ รู้ธรรมของสุตะอันมากนั้น
    เป็นผู้ปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม
    บุคคลอย่างนี้ชื่อว่า
    ผู้มีสุตะมาก และได้ประโยชน์เพราะสุตะ.
    อาบัติสังฆาทิเสสเป็นอาบัติหนักแต่แก้ไขได้โดยสงฆ์ คือ จะปลงอาบัติกับภิกษุ
    เพียงรูปใดรูปหนึ่งไม่ได้ ต้องอาศัยสงฆ์ในการประพฤติเพื่อการออกจากอาบัตินั้น
    เช่น การให้ปริวาส ให้มานัต ต้องอาศัยสงฆ์อย่างน้อย ๔ รูปขึ้นไป
    การอยู่ปริวาสกรรม มีความสำคัญแก่พระภิกษุที่ท่านต้องอาบัติหนัก คืออาบัติ
    สังฆาทิเสส เมื่อพระท่านต้องเข้าแล้วจะแก้ด้วยการปลงอาบัติไม่ได้ ต้องแก้ด้วย
    การอยู่กรรม(ปริวาส) เท่านั้น
    หากสึกมาแล้ว และรู้ว่าต้องอาบัติสังฆาทิเสส ยังไม่ไ้ดอยู่ปริวาสเมืื่่อบวชเป็นพระภิกษุ
    ใหม่ ต้องอยู่ปริวาสตามระยะเวลาที่ปกปิดอาบัตินั้นไว้ครับ เช่น ปกปิดอาบัติไว้เป็นระยะ
    เวลา 1 ปีแล้วก็สึกออกมา เมื่อกลับไปบวชใหม่ก็ต้องยู่ปริวาสเป็นระยะเวลา 1 ปี เช่นกัน
    จนกว่าจะบริสุทธิ์และสงฆ์รับเข้าหมู่ได้ครับ ดังนั้น เมื่อกลับเข้าไปบวชเป็นพระภิกษุอีก
    อาบัติที่เคยต้องในสมัยที่เคยบวชครั้งก่อนก็กลับมีเหมือนเดิม การนับวันที่ปกปิดก็นับ
    เฉพาะเวลาที่อยู่ในเพศพระเท่านั้นครับ
    หากสึกมาแล้ว ต้องการจะกลับมาบวชใหม่ แต่สงสัยว่าอาบัติสังฆาทิเสสหรือไม่ ก็
    สามารถอยู่ปริวาสที่เป็น สุทธันตปริวาส ได้ครับ แต่ไม่จำเป็นจะต้องบวชเป็นเณรก่อน
    ครับ สามารถบวชเป็นพระภิกษุได้ แต่ อยู่ปริวาสครับ
    การบวช(ในสมัยปัจจุบันนี้) มี ๒ อย่าง คือ การบวชเป็นสามเณร และ การบวชเป็น
    พระภิกษุ, การบวชเป็นพระภิกษุ นั้น จะต้องบวชวิธีด้วยญัตติจตุตถกรรมวาจา สำเร็จ
    ด้วยหมู่สงฆ์ โดยไม่ต้องบวชเป็นสามเณรก่อน สามารถบวชเป็นพระภิกษุได้เลย
    เมื่อมีอายุตั้งแต่ ๒๐ ปีขึ้นไป ส่วนการบวชเป็นสามเณร ก็ด้วยการถึงสรณะ ๓ เป็นที่
    พึ่ง และ สมาทานศึกษาในศีลของสามเณร คือ ศีล ๑๐ รวมไปถึงจะต้องศึกษามารยาท
    อันดีงามที่บรรพชิตจะต้องศึกษาและสำรวมตาม ด้วย
    การล่วงละเมิดสิกขาบทแต่ละข้อ ๆ ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงบัญญัติไ้ว้ ย่อมเป็น
    อาบัติสำหรับพระภิกษุรูปที่ล่วงละเิมิด ตามความหนักเบาของสิกขาบทนั้น ๆ อย่าง
    หนัก ก็ทำให้ขาดจากความเป็นพระภิกษุ คือ ปารากชิก เช่น เสพเมถุน ฆ่ามนุษย์
    ขาดจากความเป็นพระภิกษุทันที
    อาบัติรองจากปาราชิก คือ สังฆาทิเสส เมื่อต้องเข้าแล้ว ต้องอยู่ปริวาสกรรม
    เท่านั้นถึงจะออกจากอาิบัตินี้ได้ ในกรณีที่ต้องอาบัติสังฆาทิเสส ไม่ได้อยู่ปริวาส
    กรรม ลาสิกขาออกไปเป็นคฤหัสถ์ ย่อมไม่มีอาบัติติดตัวแต่อย่างใด แต่เืมื่อกลับ
    เข้ามาบวชใหม่ อาบัติทั้งหมดที่ต้องแล้ว ไม่ได้ทำการแก้ไข เมื่อบวชครั้งก่อน ก็จะ
    มีเหมือนอย่างเดิม ต้องทำการแก้ไขด้วยการออกจากอาบัตินั้น ๆ ตามสมควรแก่อาบัติ
    ชนิดนั้น ๆ ที่ตนได้ล่วง กล่าวคือ ถ้าเป็นอาบัติสังฆาทิเสส ปกปิดไว้นานเท่าใด
    ก็ต้องอยู่ปริวาสกรรม เท่ากับจำนวนวันที่ตนเองต้อง ถึงจะออกจากอาบัตินั้นได้ ถ้า
    เป็นอาบัติปาจิตตีย์ ทุกกฏ เป็นต้น ก็แก้ไขด้วยการแสดงอาบัติต่อหน้าพระภิกษุด้วย
    กัน มีความจริงใจที่จะสำรวมระวังไม่ล่วงละเมิดสิกขาบทนั้น ๆ อีก อาบัติที่ได้ต้อง
    เข้าแล้ว เมื่อได้ทำการแก้ไขให้ถูกต้องตามพระธรรมวิันัยแล้ว ก็จะไม่เป็นเครื่องกั้น
    สวรรค์ ไม่เป็นเครื่องกั้นในการรู้แจ้งอริยสัจจธรรม

    เอาบุญมาฝากจะถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ สักการะพระธาตุ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาทสร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย
    รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ ให้อาหารสัตว์เป็นทานเป็นประจำ กรวดน้ำอุทิศบุญ อนุโมทนากับพ่อแม่ญาติพี่น้องที่รักษาศีล ฟังธรรม ให้ทาน อนุโมทนากับเพื่อนๆที่รักษาศีล ศึกษาการรักษาโรค ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ถวายสังฆทานมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ปิดทองพระ รักษาอาการป่วยของผู้อื่นกับผู้ร่วมงาน และที่ผ่านมาได้รักษาอาการป่วยของบิดามารดา ปล่อยชีวิตสัตว์มาโดยตลอด ถวายยาแก่ภิกษุ ขัดองค์พระ ถวายเทียน ให้ความรู้สมุนไพรเพื่อสุขภาพเป็นวิทยาทาน ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ทำบุญหลายอย่างมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ถวายสังฆทานและทำบุญสร้างอาคารผู้ป่วยและกฐินกับเพื่อนๆและให้อาหารเป็นทานแก่สรรพสัตว์กับเพื่อนๆและเพื่อนคนหนึ่งและบริวารของเพื่อนและครอบครัวของเพื่อนได้มีจิตเมตตาให้ทานและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือผู้อื่นอยู่ตลอดและเพื่อนได้เคยสวดมนต์เย็นกับคุณแม่และที่ผ่านมาได้ทำบุญสักการะพระธาตุทำบุญปิดทองชำระหนี้สงฆ์และไหว้พระและทำบุญตามกล่องรับบริจาคตามวัดต่างๆกับเพื่อนและตั้งใจว่าจะสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอให้อนุโมทนาบุญด้วย

    ขอเชิญถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน สักการะพระธาตุ ฟังธรรม สวดมนต์ ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน
    รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาท
    สร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย กรวดน้ำอุทิศบุญ ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สนทนาธรรม
    ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น รักษาอาการป่วยของผู้อื่น รักษาอาการป่วยของบิดามารดา
    ปิดทอง สักการะพระธาตุ กราบอดีตสังขารเจ้าอาวาสที่ไม่เน่าเปื่อย ที่วัดแจ้ง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ปิดทองพระ ปล่อยชีวิตสัตว์ถวายยาแก่ภิกษุ ไหว้พระตามวัดต่างๆ ขัดองค์พระ ให้ความรู้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพเป็นทาน
    และสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอเชิญร่วมบุญกุศลร่วมกันนะ
     
  13. รสมน

    รสมน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,451
    ค่าพลัง:
    +2,047
    บทว่า อรหํ ได้แก่ ไกลจากกิเลส อธิบายว่า มีกิเลสอยู่ไกล. สมดังที่พระผู้มีพระ
    ภาคเจ้าตรัสไว้ว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุชื่อว่าเป็นอรหันต์ นั้นอย่างไร? คือ
    อกุศลธรรมทั้งหลาย อันลามก เศร้าหมอง อันเป็นเหตุให้เกิดภพใหม่ มีความเร่าร้อน
    มีผลเป็นทุกข์ เพื่อชาติ(ความเกิด) ชรา และมรณะต่อไปของท่านผู้ห่างไกลจากกิเลส
    ย่อมไม่มี ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุย่อมเป็นพระอรหันต์อย่างนี้แล”
    ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย กาสีและโกศลชนบทมีประมาณเท่าใด แว่นแคว้นของ
    พระเจ้าปเสนทิโกศล มีประมาณเท่าใด พระเจ้าปเสนทิโกศลประชาชน กล่าวว่า เป็นผู้
    เลิศในกาสีและโกศลชนบทและแว่นแคว้นประมาณเท่านั้น ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ความ
    เป็นอย่างอื่น มีอยู่โดยแท้ ความแปรปรวนมีอยู่ แม้แก่พระเจ้าปเสนทิโกศล ดูก่อนภิกษุ
    ทั้งหลาย อริยสาวกผู้ได้สดับเห็นอยู่อย่างนี้ ย่อมหน่ายแม้ในความดำรงอยู่ในสมบัตินั้น
    เมื่อหน่ายในความดำรงอยู่ในสมบัตินั้น ย่อมคลายกำหนัดในความเลิศแห่งสมบัติ
    จะป่วยกล่าวไปไยในสิ่งที่เลวเล่า
    ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ดวงจันทร์และดวงอาทิตย์ ย่อมหมุนเวียนส่องทิศให้ไพโรจน์
    อยู่ในที่มีประมาณเท่าใด โลกธาตุพันหนึ่งมีอยู่ในที่มีประมาณเท่านั้นในโลกธาตุพันหนึ่ง
    นั้น ดวงจันทร์พันดวง ดวงอาทิตย์พันดวง ขุนเขาสิเนรุหนึ่งพัน ชมพูทวีปพันทวีป อมร-
    โคยานพันทวีป อุตตรกุรุ พันทวีป ปุพพวิเทหะพันทวีป มหาสมุทรสี่พัน เทวโลกชั้น
    มหาราชสี่พัน ชั้นจาตุมหาราชิกาหนึ่งพัน ชั้นดาวดึงส์หนึ่งพัน ชั้นยามาหนึ่งพัน ชั้น
    ดุสิตหนึ่งพัน ชั้นนิมมานรดีหนึ่งพัน ชั้นปรนิมมิตวสวัตดีหนึ่งพัน ชั้นพรหมโลกหนึ่งพัน
    ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย พันโลกธาตุมีประมาณเท่าใด ท้าวมหาพรหม โลกกล่าวว่าเป็น
    เลิศในพันโลกธาตุนั้น ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ความเป็นอย่างอื่นมีอยู่ ความแปรปรวนก็มี
    อยู่แม้แก่ท้าวมหาพรหม ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อริยสาวกผู้ได้สดับ เห็นอยู่อย่างนี้ ย่อม
    หน่ายแม้ในพันโลกธาตุนั้น เมื่อหน่ายในพันโลกธาตุนั้น ย่อมคลายกำหนัดในความเป็น
    ผู้เลิศ จะป่วยกล่าวไปไยในสิ่งที่เลวเล่า
    ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สมัยที่โลกนี้พินาศ มีอยู่ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เมื่อโลกพินาศ
    อยู่ สัตว์ทั้งหลาย ย่อมเป็นไปในพรหมโลกชั้นอาภัสสระโดยมาก สัตว์เหล่านั้นเป็นผู้
    สำเร็จแล้วด้วยใจ มีปีติเป็นภักษา มีแสงสว่างในตัวเอง เที่ยวไปได้ในอากาศ มีปกติ
    ดำรงอยู่ได้ด้วยดี ย่อมดำรงอยู่ในพรหมโลกชั้นอาภัสสระนั้น ตลอดกาลยืดยาวนาน
    ดูก่อนภิกษุทั้งหลายเมื่อโลกพินาศอยู่ อาภัสสรเทพทั้งหลาย โลกกล่าวว่าเป็นผู้เลิศ
    ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ความเป็นอย่างอื่นมีอยู่แท้ ความแปรปรวนก็มีแม้แก่อาภัสสรเทพ
    ทั้งหลาย ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อริยสาวกผู้ได้สดับเห็นอยู่อย่างนี้ ย่อมหน่ายแม้ในพรหม
    โลกชั้นอาภัสสระนั้น เมื่อหน่ายในพรหมโลกชั้นอาภัสสระนั้น ย่อมคลายกำหนัดใน
    ความเป็นผู้เลิศ จะป่วยกล่าวไปไยในสิ่งที่เลวเล่า
    ...ฯลฯ…..
    ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ปฏิปทา ๔ ประการนี้ ๔ ประการเป็นไฉน คือ ปฏิบัติลำบาก
    ทั้งรู้ได้ช้า ๑ ปฏิบัติลำบาก แต่รู้ได้เร็ว ๑ ปฏิบัติสะดวกแต่รู้ได้ช้า ๑ ปฏิบัติสะดวกทั้งรู้
    ได้เร็ว ๑ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ปฏิปทา ๔ประการนี้แล ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บรรดา
    ปฏิปทา ๔ ประการนี้ ปฏิบัติสะดวกทั้งรู้ได้เร็วเป็นเลิศ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สัตว์ทั้ง
    หลาย แม้ผู้ปฏิบัติอย่างนี้แลมีอยู่ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ความเป็นอย่างอื่นมีอยู่แท้ ความ
    แปรปรวน มีอยู่ แก่สัตว์ทั้งหลายแม้ปฏิบัติอย่างนี้ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อริยสาวกผู้ได้
    สดับเห็นอยู่อย่างนี้ ย่อมหน่ายแม้ในปฏิปทานั้น เมื่อหน่ายในปฏิปทานั้นย่อมคลาย
    กำหนัดในสิ่งที่เลิศ จะป่วยกล่าวไปไยสิ่งที่เลวเล่า
    ...ฯลฯ...
    ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สมณพราหมณ์พวกหนึ่ง บัญญัตินิพพานอันยอดยิ่งในปัจจุบัน
    มีอยู่ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ความหลุดพ้นเพราะไม่ถือมั่น เพราะรู้ความเกิด ความดับ
    คุณ โทษ และอุบายเครื่องสลัดออก แห่งผัสสายตนะ ๖ ประการ เลิศกว่าการบัญญัติ
    นิพพานอันยอดยิ่งในปัจจุบันแห่งสมณพราหมณ์ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย สมณพราหมณ์
    พวกหนึ่ง ย่อมกล่าวตู่เราผู้มีวาทะอย่างนี้ ผู้กล่าวอย่างนี้ ด้วยคำไม่จริง ด้วยคำเปล่า
    ด้วยคำเท็จ ด้วยคำไม่เป็นจริงว่า พระสมณโคดมไม่บัญญัติความกำหนดรู้กามทั้งหลาย
    ไม่บัญญัติความกำหนดรู้รูปทั้งหลาย ไม่บัญญัติความกำหนดรู้เวทนาทั้งหลาย ดูก่อน
    ภิกษุทั้งหลาย เราย่อมบัญญัติความกำหนดรู้กามทั้งหลายด้วย ย่อมบัญญัติความ
    กำหนดรู้รูปทั้งหลายด้วย ย่อมบัญญัติความกำหนดรู้เวทนาทั้งหลายด้วย เราเป็นผู้หาย
    หิวแล้ว ดับแล้ว เย็นแล้ว ย่อมบัญญัติอนุปาทาปรินิพพานในปัจจุบัน.


    เอาบุญมาฝากจะถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ สักการะพระธาตุ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาทสร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย
    รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ ให้อาหารสัตว์เป็นทานเป็นประจำ กรวดน้ำอุทิศบุญ อนุโมทนากับพ่อแม่ญาติพี่น้องที่รักษาศีล ฟังธรรม ให้ทาน อนุโมทนากับเพื่อนๆที่รักษาศีล ศึกษาการรักษาโรค ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ถวายสังฆทานมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ปิดทองพระ รักษาอาการป่วยของผู้อื่นกับผู้ร่วมงาน และที่ผ่านมาได้รักษาอาการป่วยของบิดามารดา ปล่อยชีวิตสัตว์มาโดยตลอด ถวายยาแก่ภิกษุ ขัดองค์พระ ถวายเทียน ให้ความรู้สมุนไพรเพื่อสุขภาพเป็นวิทยาทาน ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ทำบุญหลายอย่างมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ถวายสังฆทานและทำบุญสร้างอาคารผู้ป่วยและกฐินกับเพื่อนๆและให้อาหารเป็นทานแก่สรรพสัตว์กับเพื่อนๆและเพื่อนคนหนึ่งและบริวารของเพื่อนและครอบครัวของเพื่อนได้มีจิตเมตตาให้ทานและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือผู้อื่นอยู่ตลอดและเพื่อนได้เคยสวดมนต์เย็นกับคุณแม่และที่ผ่านมาได้ทำบุญสักการะพระธาตุทำบุญปิดทองชำระหนี้สงฆ์และไหว้พระและทำบุญตามกล่องรับบริจาคตามวัดต่างๆกับเพื่อนและตั้งใจว่าจะสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอให้อนุโมทนาบุญด้วย

    ขอเชิญถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน สักการะพระธาตุ ฟังธรรม สวดมนต์ ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน
    รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาท
    สร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย กรวดน้ำอุทิศบุญ ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สนทนาธรรม
    ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น รักษาอาการป่วยของผู้อื่น รักษาอาการป่วยของบิดามารดา
    ปิดทอง สักการะพระธาตุ กราบอดีตสังขารเจ้าอาวาสที่ไม่เน่าเปื่อย ที่วัดแจ้ง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ปิดทองพระ ปล่อยชีวิตสัตว์ถวายยาแก่ภิกษุ ไหว้พระตามวัดต่างๆ ขัดองค์พระ ให้ความรู้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพเป็นทาน
    และสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอเชิญร่วมบุญกุศลร่วมกันนะ
     
  14. รสมน

    รสมน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,451
    ค่าพลัง:
    +2,047
    หนังสือกฎแห่งกรรม เล่มที่ ๑ ภาคกฎแห่งกรรม

    อาตมามีประสบการณ์เกี่ยวกับกฎแห่งกรรมที่เราจะต้องรับใช้ เมื่อเรามีจิตมีปัญญาเกิด จะรู้กฎแห่งกรรมทันทีจากการเจริญวิปัสสนากรรมฐาน เวรกรรมตามสนองอาตมา จึงรู้บุญบาป เมื่อก่อนนี้อยู่กับยาย อาตมาไม่สนใจกับพระตลอดกาล เวลาไปวัดหาบของไปทำบุญที่วัด ยายก็ต้องให้เก็บเอาก้อนดินไปด้วย ใส่กระบุงไปข้างละ ๓ ก้อน ไปถึงวัดแล้วให้ไปโยนไว้ที่มันเป็นบ่อ เป็นหลุมอยู่ในวัด ยายบอกได้บุญ
    อาตมาบอกว่าคนอื่นเขาไม่หาบดินไปวัดกันหรอก มีบ้านเราบ้านเดียวอายเขาตาย ยายบอกว่าเราไปวัด เหยียบดินติดเท้า มานี่เป็นกรรมนะ เป็นบาป ใช้หนี้สงฆ์ เป็นหนี้สงฆ์มากเป็นบาปเป็นกรรม แต่แกก็ไม่ได้อธิบาย เขาเล่ากันมาอย่างนี้แกก็จำมาอย่างนี้ ก็ทำมาอย่างนี้ไม่เหมือนคนเดี๋ยวนี้ว่าไม่บาป บาปได้ยังไงเหยียบแค่นิดเดียว พระก็ถมเอาเองซิ นี่คนรุ่นใหม่เข้าใจอย่างนี้
    แต่คนรุ่นเก่าถือนักถือเชื่อเข้าไว้ก่อนมันมีประโยชน์ มันได้กำไรชีวิตคือเชื่อกฎแห่งกรรม อาตมาเป็นเด็กเมื่อมาบวชใหม่ๆ ไปบ้านญาติที่เขาเป็นนักเลง เป็นโจร เป็นเสือ เขากินเหล้ากัน พอเห็นพระมาเขาเก็บแก้วหมดเลย เอาหล้าแอบเลย ยังกลัวบาปนะ เดี๋ยวนี้ไม่ต้อง กินต่อหน้าพระเลยสบายมาก แถมงานศพเล่นไพ่หน้าศพอุทิศส่วนกุศล แล้วพระก็สวดไป ไม่ได้เกรงกลัวต่อบาปกรรมแต่ประการใด เขาว่าบาปกรรมไม่มีแน่นอนเข้าใจอย่างนี้

    สร้างกรรม-กินอาหารที่ยายถวายพระ
    ตอนอยู่ที่โรงเรียนมัธยมยังอยู่กะยาย ยายให้เอาอาหารไปถวายพระ แล้วเราก็เอาไปทานเสียเองทั้งคาว ทั้งหวาน แล้วก็บอกว่าไปถวายสมภาร เดินจากบ้านไปไม่มีรถหรอก เดินไปเป็นระยะทาง ๑ กิโลเมตร อาตมาไปก็ไปเจอเพื่อนนักเรียนที่สร้างความดีมาด้วยกัน หนีโรงเรียนกันสะบัด
    เพื่อนบอกว่ายังไม่ได้กินข้าวเลย เราก็นึกเลยว่าจะเอาไปให้พระทำไม เราก็ยังไม่ได้กินเลย พรรคพวก ๔-๕ คนด้วยกัน ก็เห็นด้วย เลยตั้งวงกินกันเสียเลยเรียบร้อยล้างปิ่นโตเสร็จกลับบ้าน ยายถาม ไปวัดเจอสมภารไหมล่ะ บอกยายว่าผมไม่ได้ขึ้นกุฏิหรอก ให้เด็กมันถ่ายปิ่นโตให้แล้วผมก็มา ยายบอกว่าต่อนี้ไปต้องรับพรด้วยนะ
    รับพรสมภารมาแล้วก็มาบอกยาย ยายจะได้ชื่นใจแล้วบอกท่านด้วยว่ายายให้เอาอาหารมาถวาย วันหลังเอาอีกแล้ว ให้ไปอีกก็เจอเพื่อนอีก โรงเรียนปิด ก็แบบเดิม กินเสร็จแล้วไปตีผึ้งต่อ ยายถามว่า “เจอสมภารมั้ย” เจอครับ รับพรเสร็จผมก็มา ที่แท้สมภารดันมาอยู่บนบ้านเรา มาไม่บอกเราเลย มานั่ง นั่งตั้งนานแล้ว
    วันนั้นสมภารไปฉันบ้านใต้ ฉันเสร็จแล้วก็มานั่งคุยกับยาย แวะมาเยี่ยมยาย เราไม่รู้ ไม่บอกเรา เราไม่ทันแหงนดูบนบ้าน สมภารนั่งยิ้ม ยายเป็นคนใจบุญ พระชอบมาเยี่ยม แต่อาตมารำคาญ พอสมภารกลับไปแล้วโดนหนัก บอกว่าบาป ถามว่านี่กี่เที่ยวแล้ว เราบอกว่า ๒ เที่ยวแล้วครับ ยายบอกว่า นี่ต้องเป็นเปรต ปากเท่ารูเข็ม กินข้าวไม่ลง เราก็ถามว่าเปรตสูงกว่าต้นตาลมั้ย ยายบอกว่าไม่เห็น เราไม่เชื่อหรอก ว่าหลอกเราแต่เราไม่พูด เถียงไม่ได้

    โกงค่าเรือจ้าง
    ในเวลากาลต่อมาไปโรงเรียนต้องนั่งเรือจ้างข้ามฟากเดือนละ ๒๕ สตางค์ อาตมาโกงค่าเรือจ้างไม่ให้ค่าเรือจ้าง กินก๋วยเตี๋ยวผัดไทย แถมเลี้ยงเพื่อนด้วยนะ ก็โกงค่าก๋วยเตี๋ยวเขาอีก

    ยิงนก-หักคอ-หักขานก
    ในเวลาต่อมา โรงเรียนปิดหลายวันเทอมสุดท้ายแล้ว ครูใหญ่โรงเรียนประชาบาลเขามาขอแรงอาตมาไปยิงปืน ไปยิงนก เราก็ไม่รู้บุญบาปมันมีจริงอย่างไร สนุกดีก็เอาปืนลูกซองดาวกระจาย ๕ นัด บอกกับโยมว่าจะไปติดวิชาตอนโรงเรียนปิดอยู่สัก ๗ วันจะกลับมา ขอสตางค์สัก ๑๐๐ แม่ก็ให้ตังค์ไป เราจะเอาปืนไปได้ยังไง ก็เอาที่นอนไปด้วยเอาเสื่อออกมาเอาปืนไว้ข้างใน
    เช้ากินข้าวแล้วก็ออกตามทุ่งตามหนองยิงนกเป็ด นกกระสา พอยิงได้จับหักคอใส่ตะข้อง พอนกมันจิก จิกก็ถลกหนังเลย ทรมานเหลือเกิน เราไม่ทราบว่ามันจะมีบาปกรรมแต่ประการใด ล่วงมาอีกวันหนึ่ง ก็ไปยิงนกกระสาถูกปีกมันหักแล้วมันบินไม่ได้ เราก็ขับมัน เหนื่อยมาก แล้วก็จับได้ ทำไง หักขาเลย นกก็ดิ้นร้องไห้ตาย สรุปให้ฟังที่อาตมาทำบาปกรรม
    ต่อมาได้บวชในพระพุทธศาสนา พ่อแม่ให้บวชโดยไม่ได้เลื่อมใส ไม่ได้คิดว่าจะมาอยู่อย่างนี้ก่อนที่จะบวชก็ไปเรียนหนังสืออยู่ที่กรุงเทพฯ ไปอยู่โรงเรียนหลายโรงเรียนอยู่วัดก็ตั้งหลายวัด พอเสร็จจากเรียนหนังสือก็มาบวช กะว่าจะบวชสักพรรษาเดียวท่องเรียนหนังสือไปจนจบหลักสูตร ก็ไปเจริญพระกรรมฐานออกป่าดงพงไพร

    ใช้หนี้ค่าก๋วยเตี๋ยว
    เริ่มมารักษาการเจ้าอาวาสที่วัดนี้ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๙๙ ปี พ.ศ. ๒๕๐๐ ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาส อยู่ที่นี่ ก็เริ่มใช้กรรมมาตามลำดับ โดยที่ว่าในปีต่อมาใช้เรื่องก๋วยเตี๋ยวก่อน เรามานั่งสมาธิของเรา มันก็เกิดไปเข้าญาณวิถีของเขาชื่อว่า นางกลุ่ม นางกลุ่มมีสามีชื่อ ตากิ๊ม เขาไม่รู้ว่าเราโกงก๋วยเตี๋ยวเขา
    แม่กลุ่มกับตากิ๊มเกิดฝันพร้อมกัน ฝันว่าเทวดามาบอกว่าถ้าต้องการให้ลูกชายหายเกเร แล้วกลับมาเรียนหนังสือละก้อ ให้ไปตามลูกชายมาแล้วให้ไปบวชเณรที่วัดอัมพวัน รับรองแก้ได้แน่ เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว โยมกลุ่มก็เอาลูกมา ตากิ๊มมาด้วย
    อาตมาก็จำได้คลับคล้ายคลับคลาเดินขึ้นมาสามคน บอกว่าจะเอาลูกมาฝากบวชเณร อาตมาก็ถามว่า ทำไมไม่บวชที่วัดอื่น โยมกลุ่มก็เลยเล่าให้ฟังว่าที่พาลูกมานี่เพราะฝันไปว่าเทวดามาบอกว่าให้มาบวชที่นี่ ช่วยรับไว้หน่อย เรานึกแล้วว่าจะต้องได้ใช้หนี้ค่าก๋วยเตี๋ยวเขาแน่ แต่ไม่บอกก็เลยบอกว่าเดี๋ยวจัดการให้ แล้วก็จัดการส่งโยมทั้งสองกลับแล้ว ก็จัดแจงโกนหัวเลย
    เรามีเรือยนต์ลำหนึ่งก็วิ่งไปตามพระอุปัชฌาย์ ซื้อผ้าไตร ซื้อรองเท้า ซื้อเสื่ออ่อน ซื้อบาตร ซื้อร่ม ทั้งหมด ๒๐๐ บาทแล้ววิ่งไปหาอุปัชฌาย์บอกเอาเด็กมาบวชเณรครับ บวชเสร็จแล้วก็กลับมาให้นั่งกรรมฐานเดินจงกรม
    พอได้ ๗ วัน ก็เลยเล่าเรื่องเของอาตมาให้เณรฟังว่าอาตมานี่โกงค่าก๋วยเตี๋ยวแม่เจ้า แม่เจ้าก็ไม่รู้ แล้วไอ้ผ้าไตรที่นะ อะไรต่ออะไร ๒๐๐ นี่ กระซิบบอกแม่นะบอกว่าเจ๊ากันไปนะ ไม่ต้องเอามาให้ ถือว่าใช้ค่าก๋วยเตี๋ยวกันไป พอเล่าเสร็จแล้วเณรบอกว่าผมเกิดศรัทธาเสียแล้ว ก็ตั้งใจปฏิบัติ
    ต่อมาก็ขอสึกว่าจะไปเรียนหนังสือแล้ว ก็สอบได้ในปีนั้นแล้วไปเป็นทหารอากาศต่อมาก็ได้เลื่อนเป็นนายทหารอากาศไปเลย นี่คือใช้หนี้ค่าก๋วยเตี๋ยว ถ้าไม่ได้ใช้ในชาตินี้ก็ต้องใช้ดอกชาติหน้านะ กฎแห่งกรรมมีจริง แต่กฎแห่งกรรมที่อาตมาประเมินผลและได้ประสบการณ์มารู้ล่วงหน้าได้ เพราะใช้สติระลึกก่อนเป็นตัวรู้ล่วงหน้า ตัวสัมปชัญญะตัวผลักดันทำให้แก้ไขเหตุการณ์ได้ทันเฉพาะหน้า เรียกว่า ตัวสัมปชัญญะ ที่อาตมารู้นี้ก็เนื่องจากว่าเราเจริญสมาธิ เจริญสติอยู่ตลอดเวลา
    ขอให้ท่านไปพิจารณาด้วยตนเอง ด้วยเจริญกุศลภาวนาไปเรื่อยๆ ไม่จำเป็นต้องมีเวลาว่าง เวลาที่ท่านทำงานก็ภาวนาไป หูได้ยินเสียงภาวนาไว้ เขียนหนังสือภาวนาไว้ ตั้งสติไว้ตลอดกาล กรรมฐานมีความสำคัญต่อหน้าที่การงาน
    ในเวลาต่อมา อาตมาก็นั่งเจริญภาวนาโดยไม่ได้ขาด แล้วก็มีการอโหสิกรรมและแผ่เมตตา ขอให้ท่านเอาไปใช้กันทุกท่าน ก่อนที่จะแผ่เมตตาออกไปต้องอโหสิกรรมก่อนนะ ถ้าไม่อโหสิกรรมก่อนท่านจะแผ่ไม่ออก อโหสิกรรมให้ใจสบาย ไม่โกรธใคร ไม่เกลียดใคร ไม่อิจฉาริษยาใคร
    แผ่เดี๋ยวนั้นถึงเดี๋ยวนั้น แล้วก็มีการรับตอบด้วยนะ อันนี้มันเป็นของใครของมัน อาตมาจะบอกกรรมวิธีแบบวิชาการนั้นคงไม่ได้ เพียงแต่แนะแนววิธีปฏิบัติเท่านั้น จากอำนาจของจิตด้วยการใช้สตินั่นเอง มันอยู่ในวงแคบของการปฏิบัติกว่างเข้ามาหาแคบโดยวิธีนี้
    ในเวลาต่อมาที่อาตมามาอยู่ที่นี่แล้วก็เจริญภาวนาและก็แผ่เมตตา แต่ควรจะมีหลักการแผ่เมตตา แล้วก็อโหสิกรรมให้ได้ ที่เราทำวัตรสวดมนต์นั่นมีความหมายมาก กาเยนะวาจา ทั้งกาย วาจาใจ ขออโหสิกรรมต่อคุณพระศรีรัตนตรัย ที่หมิ่นเหม่ต่อคุณพระศรีรัตนตรัย กำหนดอโหสิกรรม แล้วแผ่ออกไปได้ผลแน่

    ใช้หนี้ค่าเรือจ้างตาก้อย
    พอมาเจริญสมาธิ จิตสงบก็นึกขึ้นมาได้บอกรีบใช้หนี้ค่าเรือจ้าง นึกไปนึกมาถูกต้องที่เคยโกงเขามา อาตมาก็ไม่ได้ไปบ้านเขานาน จนมาบวชเป็นสมภารเจ้าวัด ก็เอานมไป เอาโอวัลตินไป เอาสตางค์ใส่ซอง ๒๐๐ บาท ถือราคาก๋วยเตี๋ยวเป็นเกณฑ์ ชื่อ ตาก้อย แก่แล้ว
    อาตมาเอาเรือจอด เขาก็ตกใจว่าพระมาทำไม แกเจ็บหนักเป็นอัมพาตจะตายแล้ว ก็เอาสตางค์ไปใส่มือกระซิบบอกที่หูว่า โยมก้อย อาตมาตอนเป็นเด็กเคยโกงค่าเรือจ้างโยม เดือนละ ๓๐ สตางค์จำได้มั๊ย แล้วเอานมโอวัลตินมาด้วยบอกลูกสาวว่าช่วยชงให้โยมด้วย อโหสินะโยมนะ อาตมาเป็นเด็กรู้เท่าไม่ถึงการณ์ แหมบุญของเราเหลือเกินเขาแปลกใจกันว่า พระก็มาหลายวัดแล้วมีแต่มาบอกบุญ องค์นี้แปลกเอาสตางค์มาให้ วันหลังลูกสาวเอาข้าวสารมาให้ที่วัดเรานี่ เรียกว่าบุญงอกได้ คนที่มีจิตดีต้องมีมารต้องใช้หนี้ มีอุปสรรคตลอดเวลากาล คนที่มีความดีต้องมีอุปสรรคแน่นอน ไม่ใช่ดีไปตลอด เราเข้าใจผิด คิดกันว่า เราสร้างกรรมดีเหมือนมีกรรมมาบัง ข้อเท็จจริงก็คือใช้เวรใช้กรรม เป็นความดีแล้ว


    เอาบุญมาฝากจะถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ สักการะพระธาตุ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาทสร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย
    รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ ให้อาหารสัตว์เป็นทานเป็นประจำ กรวดน้ำอุทิศบุญ อนุโมทนากับพ่อแม่ญาติพี่น้องที่รักษาศีล ฟังธรรม ให้ทาน อนุโมทนากับเพื่อนๆที่รักษาศีล ศึกษาการรักษาโรค ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ถวายสังฆทานมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ปิดทองพระ รักษาอาการป่วยของผู้อื่นกับผู้ร่วมงาน และที่ผ่านมาได้รักษาอาการป่วยของบิดามารดา ปล่อยชีวิตสัตว์มาโดยตลอด ถวายยาแก่ภิกษุ ขัดองค์พระ ถวายเทียน ให้ความรู้สมุนไพรเพื่อสุขภาพเป็นวิทยาทาน ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ทำบุญหลายอย่างมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ถวายสังฆทานและทำบุญสร้างอาคารผู้ป่วยและกฐินกับเพื่อนๆและให้อาหารเป็นทานแก่สรรพสัตว์กับเพื่อนๆและเพื่อนคนหนึ่งและบริวารของเพื่อนและครอบครัวของเพื่อนได้มีจิตเมตตาให้ทานและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือผู้อื่นอยู่ตลอดและเพื่อนได้เคยสวดมนต์เย็นกับคุณแม่และที่ผ่านมาได้ทำบุญสักการะพระธาตุทำบุญปิดทองชำระหนี้สงฆ์และไหว้พระและทำบุญตามกล่องรับบริจาคตามวัดต่างๆกับเพื่อนและตั้งใจว่าจะสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอให้อนุโมทนาบุญด้วย

    ขอเชิญถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน สักการะพระธาตุ ฟังธรรม สวดมนต์ ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน
    รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาท
    สร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย กรวดน้ำอุทิศบุญ ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สนทนาธรรม
    ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น รักษาอาการป่วยของผู้อื่น รักษาอาการป่วยของบิดามารดา
    ปิดทอง สักการะพระธาตุ กราบอดีตสังขารเจ้าอาวาสที่ไม่เน่าเปื่อย ที่วัดแจ้ง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ปิดทองพระ ปล่อยชีวิตสัตว์ถวายยาแก่ภิกษุ ไหว้พระตามวัดต่างๆ ขัดองค์พระ ให้ความรู้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพเป็นทาน
    และสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอเชิญร่วมบุญกุศลร่วมกันนะ
     
  15. รสมน

    รสมน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,451
    ค่าพลัง:
    +2,047
    ธรรม เป็นเรื่องทีละเอียดลึกซึ้งมาก ทั้งหมดแสดงถึงสิ่งที่มีจริงที่ำกำลังมีกำลัง
    ปรากฏในขณะนี้ ไม่ว่าจะเป็นภาษาใด ก็ไม่พ้นไปจากการกล่าวหรือแสดงเพื่อให้เข้า
    ใจสิ่งที่มีจริงตามความเป็นจริง แต่เนื่องจากภาษาที่รักษาไว้ซึ่งพระพุทธพจน์ คือ
    ภาษาของชาวมคธ หรือ ภาษาบาลี ผู้ศึกษาพระธรรมที่เป็นคนไทย ไม่ได้ใช้ภาษาบาลี
    ในการสื่อสาร แต่ใช้ภาษาไทย ดังนั้น คำทั้ง ๒ คำที่ได้กล่าวถึงนั้น เมื่อแปลเป็นไทย
    แล้ว ก็คือ ธรรมที่มีจริงในขณะนี้
    อวิตถตา แปลว่า ไม่ผิดไปจากความเป็นจริงของสภาพธรรมนั้น ๆ เนื่องจากว่า
    ธรรม เป็นจริงอย่างไร ก็เป็นจริงอย่างนั้น เป็นสิ่งที่มีจริงแต่ละหนึ่ง ๆ โดยไม่ปะปนกัน
    เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครทั้งสิ้น เมื่อเหตุปัจจัย
    พร้อมก็เกิดขึ้น ไม่มีที่จะเกิดขึ้นโดยปราศจากเหตุปัจจัย ความจริงเป็นอย่างนี้
    ธรรมก็ไม่ผิดไปจากความเป็นจริงอย่างนี้ แต่ในอรรถกถาที่ได้ยกมานั้น คำแปลค่อน
    ข้างจะเข้าใจยาก(หรือไม่เข้าใจเลย) ต้องย้อนไปเทียบกับภาษาบาลีอีกทีว่า แปลตรง
    ครบถ้วนหรือไม่ จึงขออนุญาตแปลใหม่ เป็น "เรียกว่า อวิตถตา เพราะเมื่อปัจจัย
    เข้าถึงสามัคคี(คือพร้อมเพรียงกันแล้ว) ธรรมทั้งหลายที่เกิดจากปัจจัยนั้นเพียงครู่เดียว
    ที่จะไม่เกิดขึ้น ไม่มี [คือ เมื่อเหตุปัจจัยพร้อม ธรรมย่อมเกิดขึ้น]" ก็ขอให้ผู้รู้ได้
    พิจารณาเพิ่มเติมอีกที
    ส่วนคำว่า อนัญถตา นั้น แปลว่า ไม่เป็นไปโดยประการอื่นจากความเป็นจริง
    อย่างนั้น ธรรมแต่ละอย่าง ๆ ย่อมเกิดขึ้นเพราะปัจจัยของตน จะไปเกิดเพราะปัจจัย
    ของธรรมอื่น ๆ ไม่ได้ เช่น จิตเห็น ก็ย่อมเกิดขึ้นเพราะเหตปัจจัยของจิตเห็น จะไป
    เกิดเพราะเหตุปัจจัยของจิตได้ยิน ก็ไม่ได้ นี้คือ ธรรม ที่มีจริง ไม่เป็นไปโดยประการ
    อื่นจากความเป็นจริงอย่างนั้น จากคำแปลในอรรถกถา ตรงทีเดียว ว่า เรียกว่า
    อนัญถตา เพราะธรรมอื่นไม่เกิดจากปัจจัยของธรรมอื่น
    เมื่อว่าโดยอรรถแล้ว ทั้ง ตถตา(ความเป็นจริงอย่างนั้น), อวิตถตา (ไม่ผิดไปจาก
    ความเป็นจริงของสภาพธรรมนั้น ๆ) และ อนัญถตา (ไม่เป็นไปโดยประการอื่นจากความ
    เป็นจริงอย่างนั้น) ก็คือ ธรรมที่มีจริงในขณะนี้ ซึ่งเป็นธรรมที่เกิดขึ้นเพราะเหตุ
    ปัจจัย ครับ.

    “เหล่าสัตว์ที่เสาะหา คือ แสวงหาการสมภพ คือ การเกิด ได้แก่ การบังเกิดขึ้น ชื่อว่า
    สัมภเวสี. สัตว์เหล่าใด กำลังแสวงหาการเกิด สัตว์เหล่านั้น ชื่อว่า สัมภเวสี, คำว่า
    สัมภเวสี นี้ เป็นชื่อของพระเสขะและปุถุชนผู้กำลังแสวงหาการเกิดต่อไป เพราะยังละ
    สังโยชน์ในภพไม่ได้
    เอาบุญมาฝากจะถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ สักการะพระธาตุ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาทสร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย
    รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ ให้อาหารสัตว์เป็นทานเป็นประจำ กรวดน้ำอุทิศบุญ อนุโมทนากับพ่อแม่ญาติพี่น้องที่รักษาศีล ฟังธรรม ให้ทาน อนุโมทนากับเพื่อนๆที่รักษาศีล ศึกษาการรักษาโรค ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ถวายสังฆทานมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ปิดทองพระ รักษาอาการป่วยของผู้อื่นกับผู้ร่วมงาน และที่ผ่านมาได้รักษาอาการป่วยของบิดามารดา ปล่อยชีวิตสัตว์มาโดยตลอด ถวายยาแก่ภิกษุ ขัดองค์พระ ถวายเทียน ให้ความรู้สมุนไพรเพื่อสุขภาพเป็นวิทยาทาน ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ทำบุญหลายอย่างมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ถวายสังฆทานและทำบุญสร้างอาคารผู้ป่วยและกฐินกับเพื่อนๆและให้อาหารเป็นทานแก่สรรพสัตว์กับเพื่อนๆและเพื่อนคนหนึ่งและบริวารของเพื่อนและครอบครัวของเพื่อนได้มีจิตเมตตาให้ทานและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือผู้อื่นอยู่ตลอดและเพื่อนได้เคยสวดมนต์เย็นกับคุณแม่และที่ผ่านมาได้ทำบุญสักการะพระธาตุทำบุญปิดทองชำระหนี้สงฆ์และไหว้พระและทำบุญตามกล่องรับบริจาคตามวัดต่างๆกับเพื่อนและที่ผ่านมาได้ทำบุญตามกล่องบริจาคเพื่อบำรุงทารกที่อยู่ในicuเด็กและตั้งใจว่าจะสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอให้อนุโมทนาบุญด้วย

    ขอเชิญถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน สักการะพระธาตุ ฟังธรรม สวดมนต์ ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน
    รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาท
    สร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย กรวดน้ำอุทิศบุญ ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สนทนาธรรม
    ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น รักษาอาการป่วยของผู้อื่น รักษาอาการป่วยของบิดามารดา
    ปิดทอง สักการะพระธาตุ กราบอดีตสังขารเจ้าอาวาสที่ไม่เน่าเปื่อย ที่วัดแจ้ง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ปิดทองพระ ปล่อยชีวิตสัตว์ถวายยาแก่ภิกษุ ไหว้พระตามวัดต่างๆ ขัดองค์พระ ให้ความรู้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพเป็นทานทำบุญตามกล่องบริจาคเพื่อบำรุงทารกที่อยู่ในicuเด็ก
    และสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอเชิญร่วมบุญกุศลร่วมกันนะ


    ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพหล่อ สมเด็จพระพุทธชินเรศญาณบารมีปฏิมากร
    โทร ๐๘๕ - ๖๐๔๔๘๔๙ หรือ ๐๙๐ – ๔๙๓๕๔๙๙

    ขอเชิญร่วมหล่อพระประธานและสร้าง"ฐานพระประธาน"
    peea05@hotmail.com

    ถวายพัดลมคณะสงฆ์และกัลยาณมิตรผู้ปฏิบัติธรรม ที่วัดห้วยหกและวัดบ้านจอง
    โครงการถวายพัดลมคณะสงฆ์และกัลยาณมิตรผู้ปฏิบัติธรรม ที่วัดห้วยหก และวัดบ้านจอง ต.เปียงหลวง อ.เวียงแหง จ.เชียงใหม่
    ท่านใดสนใจร่วมบุญเป็นเจ้าภาพดังกล่าว หรือตามกำลังศรัทธา สามารถโอนปัจจัยมาได้ที่หมายเลขบัญชี
    ธนาคารกรุงเทพ สาขาท่าแพ ออมทรัพย์ ชื่อบัญชี สิริกมล ชัยดารา 251-477777-6


    ต้องการเจ้าภาพสร้างพระพุทธรูปปูนหน้าตัก ๔ ศอกขึ้นไปประดิษฐานณ ลานธรรมกลางเเจ้ง
    โทร ๐๘๖-๘๐๓๒๐๐๑

    ร่วมทำบุญสร้างพระธาตุแสงรุ้ง
    080-791-5482

    ขอเชิญร่วมบุญเททองหล่อพระประธานสมเด็จองค์ปฐม ขนาดหน้าตัก4ศอก ณ. วัดพระธาตุแสงรุ้ง
    บัญชีออมทรัพย์ ธนาคารกรุงเทพ สาขาแม่อาย
    <O ชื่อบัญชี : Prasinchai Intachoto<O
    เลขที่บัญชี :510-0-366623<O
    www.prathartsangroong.com<O </O

    มหากุศล หล่อพระพุทธสิหิงค์
    โดยมีพิธีเททองหล่อในวันพุธที่ ๒๗ มิถุนายน ๒๕๕๕ (ขึ้น ๙ค่ำเดือน ๘)เวลา ๑๖.๒๒ น.
    ณ มณฑลพิธีวัดบ้านห้วยน้ำขาว ต.บ้านเก่า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี
    ท่านใดสนใจร่วมเป็นเจ้าภาพติดต่อ พระมหาจรูญโรจน์ ทีปงฺกโรเจ้าอาวาสวัดบ้านห้วยน้ำขาว 080-6462995
    หรือโอนเงินเข้า
    ธนาคารกสิกรไทย
    บัญชีพระมหาจรูญโรจน์ ช่อปทุมมา
    ออมทรัพย์
    สาขา ย่อยฟอร์จูนทาวน์
    เลขที่บัญชี 629-2-02195-8

    เชิญร่วมงานบุญผะเหวด
    บุญผะเหวด เนื่องในวันมาฆบูชา ประกอบด้วย
    1.ถวายพระพุทธชินราชเนื้อโลหะ(พระพุทธเจ้าองค์ปฐมนามว่า พระพุทธเจ้าวิปัสสี (ขนาดหน้าตัก 2.79 เมตร เท่ากับ พระพุทธชินราชองค์จริง องค์พระสีขาวประดับพลอย) (งบประมาณ 1.1 ล้านบาท)
    2.สร้างวิหารประดิษฐานพระพุทธเจ้าองค์ปฐมและพระพุทธเจ้าห้าพระองค์ รวม 1 หลัง(งบประมาณขั้นต่ำ 1.5 ล้านบาท)
    3. สร้างฐานบัวประดิษฐานองค์พระขนาด 3 x 5 เมตร สูง 3.5 เมตรจำนวน 5 ฐาน สูง 5 เมตร จำนวน 1 ฐาน (งบประมาณ 300,000บาท)
    4. ถวายฉัตรเหนือเศียรพระพุทธเจ้าองค์ปฐมและพระพุทธเจ้าห้าพระองค์(รวมฉัตร 6 ชิ้น) (งบประมาณ 300,00 บาท)
    5.สร้างห้องสุขา จำนวน 10 ห้อง (งบประมาณ 200,000 บาท)
    6.สร้างองค์พระแม่ธรณี (ขนาดเท่าคน)จำนวน 1 องค์( งบประมาณ 80,000 บาท)
    7.ประดับพลอยองค์พระพุทธเจ้าห้าพระองค์ รวมราคาพลอย(งบประมาณ 300,000 บาท)
    8. งานสมโภชน์พระพุทธเจ้าองค์ปฐมและกองบุญรวม(ยังไม่กำหนดงบประมาณ)
    9. งานเคลื่อนย้ายพระพุทธเจ้าองค์ปฐมและพระพุทธเจ้าห้าพระองค์ ขึ้นประดิษฐานบนแท่นที่ประทับ(ยังไม่กำหนดงบประมาณและวัน เวลา ถ้าทำงานเสร็จตามแผนงาน(ยกเว้นวิหาร)จะเคลื่อนย้ายองค์พระให้เสร็จก่อนวันมาฆบูชา)
    สถานที่ ณ พุทธสถานพระพุทธเจ้าห้าพระองค์ บ้านสังคมพัฒนา
    ต. สีกาย อ. เมือง จ. หนองคาย

    ขอเชิญร่วมทำบุญหล่อพระประธาน ณ วัดตูม พระนครศรีอยุธยา วันที่ 23 กพ.55
    สนใจติดต่อได้ที่เบอร์ 087-6693996

    เชิญร่วมบุญหล่อพระไพรีพินาศ 2 องค์ และผ้าป่าสร้างพระศกพระพุทธชินราชองค์ปฐม 399 องค์
    โทร. : คุณปิยพงษ์ 0867310686

    ขอเชิญร่วมสร้างพระชำระหนี้สงฆ์กับทางกลุ่มกองบุญเพื่อพระนิพพานวัดธรรมยาน
    โทรมาสอบถามได้ที่ 084-4153953

    ขอเชิญร่วมทำบุญเป็นเจ้าภาพฉัตร ๗ ชั้น ประดับซุ้มประตูอีก จำนวน ๒ ชุด ๆ ละ ๗,๕๐๐ บาท
    โทรศัพท์ ๐๘-๕๐๓๗-๐๓๗๐

    เหลือปูนแค่อีก ๑๐๐ ลูก ช่วยเป็นเจ้าภาพปูนเทพื้นศาลาธรรมสังเวชหน่อยนะโยม
    โทร.๐๘๕-๑๙๘-๒๙๑๑

    บุญใหญ่..หาเจ้าภาพสร้างพระพุทธรูป..ท่านใดมีความประสงค์ติดต่อด่วน..
    ติดต่อสอบถามได้ที่ พระมหาธนภัทร อุตฺตมปญฺโญ
    วัดป่าอัมพวโนทยาราม ต.โพนทอง อ.สีดา จ.นครราชสีมา
    โทร.๐๘๕-๑๙๘-๒๙๑๑

    สร้างเรือนปานะ-โรงครัว-กุฏิพระและลานปฏิบัติธรรม
    พระระนอง วราโภ
    เลขที่บัญชี 020042444743
    ธนาคาร ออมสินสาขาอำเภอนาแก

    ร่วมบริจาคสร้างอาคารปฏิบัติธรรมวัดมหาธาตุและวัดผาณิตาราม
    1. ร่วมบริจาคสร้างอาคารปฏิบัติธรรม ติดต่อบริจาคได้ที่ ศูนย์วิปัสสนานานาชาติ (ตำหนักสมเด็จ) วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ โทร 02-223-6878,081-665-0071 ชื่อบัญชี "กองทุนก่อสร้างอาคารปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา" เลขที่บัญชี 645-2-02899-7 ธนาคารกสิกรไทย สาขามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ประเภทออมทรัพย์
    2. ร่วมบริจาคสร้างอาคารปฏิบัติธรรม วัดผาณิตาราม บัญชี "กองทุนธรรมวิสุทธิ" จุดประสงค์...บริจาคสร้างหอธรรมพระบารมี
    ชื่อบัญชีออมทรัพย์ " กองทุนธรรมวิสุทธิ" ธ.กรุงไทย สาขา สะพานกษัตริย์ศึก เลขที่บัญชี 049-1-35113-5

    เรียนเชิญบูรณะซ่อมแซมสำนักสงฆ์
    โทรศัพท์ 080-015-9020

    ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพหล่อ
    พระนาคปรกเงิน-พระนาคปรกทอง หน้าตัก 7 ศอก
    วันที่ 5 พฤษภาคมและ 9 พฤษภาคม พศ. 2555 นี้
    บ้านป่าฮิ้น ตำบลบ้านโป่ง อำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่ โทร 0899509272
    โดย พระพงศ์นรินทร์ กตฺปุญโญ หัวหน้าสำนักสงฆ์ป่า ดอยเจดีย์เบี้ย--สายวัดป่า--วัดสายปฏิบัติ
    ชวนไปร่วมปฏิบัติธรรม วิปัสสนาและไปทำบุญร่วมกันนะ

    ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพสมทบทุนสร้างเสาวิหารองค์หลวงพ่อทรัพย์ หลวงพ่อสิน
    สามารถติดต่อสอบถามท่านพระครูเกษมธรรมโชติได้ที่เบอร์ 089 5136491

    เสถียรธรรมสถานสร้าง อาคารสาวิกาสิกขาลัย
    ร่วมสร้างอาคารปฏิบัติธรรม ให้ความรู้
    เสถียรธรรมสถาน เลขที่ ๒๔/๕ หมู่ ๘ ซอยวัชรพล ถนนรามอินทรา แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร ๑๐๒๓๐
    โทรศัพท์ 02-519-1119, 02-510-6697
    งานบุญเฉพาะกิจเพื่อสร้างถาวรวัตถุ พระธรรมจักร ในสถานปฏิบัติธรรมท่านอาจารย์แทน
    บัญชีออมทรัพย์ ธนาคารกรุงไทย สาขา จามจุรีย์สแควร์
    บัญชีเลขที่ 162-0-08870-3
    ชื่อบัญชี นายธัชธีรพนธ์ นันต์ธนอิทธิ

    เชิญร่วมสร้างพระดินเผากลุ่มเบญจภาคีประมาณไม่น้อยกว่า ๘๔,๐๐๐ องค์ เป็นรัตนตรัยบูชา ถวายในพระพุทธศาสนา บรรจุ ณ พระเจดีย์พุทธเมตตา (ผั่น ปาเรสโก) วัดป่าหนองไคร้ จังหวัดยโสธร 089-320-1413

    หาเจ้าภาพสร้าง หมอชีวกโกมารภัทร ครับ
    0850303698

    ร่วมทำบุญสร้างรูปเหมือนหลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง ใหญ่ที่สุดในโลก
    โทร.๐๘๗-๕๑๔-๖๒๙๙

    ขอเชิญร่วมพิธีเททองพระพุทธอุดมฯ วัดหนองงูเหลือม ต.ท่าบุญมี อ.เกาะจันทร์ จ.ชลบุรี
    โทร.088-4996664

    หล่อพระพุทธเมตตา เนื้อเงินบริสุทธิ์ กับท่านครูบาเจ้าเพชร วชิรมโน
    ณ สำนักปฏิบัติอัญญาวิโมกฯ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา
    ในงานทอดผ้าป่าสามัคคีประจำปี 55 วันอาทิตย์ที่ 22 มกราคม 55 นี้ครับ

    ร่วมงานบุญมหากุศลสร้างพระประธาน พระพุทธมิ่งมงคลกาญจโนภาส
    โทร. ๐๘ – ๐๗๗๖ ๙๓๕๘

    เป็นเจ้าภาพทอด ถวายที่ดินสร้างวัด ณ วัดป่าญาณสิริ ปราจีนบุรี 21-22 มกราคม 55
    ติดต่อ
    คุณแหม่ม 081 803-3688

    หาเจ้าภาพสร้างสมเด็จองค์ประถมและศาลาพร้อมรูปปั้นหมอชีวกโกมารภัทร
    0850303698

    เจริญพร บอกบุญหนักๆบริจาค หิน ปูน ทราย เหล็ก สร้างลานธรรม กุฏิ ศาลาปฏิบัติธรรม
    ติดต่อสอบถามได้ที่
    พระอาจารย์ บุญมี ถาวโร 0872292367

    เชิญร่วมเป็นเจ้าภาพงานมหาพุทธาภิเษกพระพุทธชาติชยันตี วัดป่าบ้านชาดเก่า
    วัดป่าบ้านชาติเก่า โทร 088-703-8247( เวลา 08.00-17.00 น.)<O ></O >

    ขอเชิญร่วมทำบุญสร้างอุโบสถ ณ วัดหนองระกำซอย9 จ.ระยอง
    ขอเชิญชวนร่วมกันเป็นเจ้าภาพก่อสร้างห้องน้ำให้กับวัด
    0875619371

    ด่วนที่สุด ซื้อดินเทถมที่วัดสองเปยเพื่อสร้างอาคารพระปริยัติธรรมแผนกธรรม
    โทร ๐๘๕ ๖๐๔๔๘๔๙

    โครงการบรูณะปฏิสังขรณ์ กุฏิพระ – เณร
    083-441-9588

    ขอเชิญผู้มีจิตศัทธราร่วมเป็นเจ้าภาพทอดผ้าป่ามหากุศล
    สมทบทุนสร้างพระมหาเจดีย์วัดศรีวิชัย ( หลวงปู่คำพันธ์ จนฺทูปโม )
    บ้านศรีวิชัย ต.สามผง อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม
    ติดต่อได้ที่ พระปลัดอุดร อินฺทวีโร 086-2259158

    กองทุนบุญที่ดินและสิ่งปลูกสร้างฯ เพื่อวัดนาป่าพง
    ท่านสามารถร่วมรับเป็นเจ้าภาพในกองทุนบุญที่ดินฯ จากจำนวนทั้งหมด ๖๙,๐๐๐ กองๆ ละ ๓,๙๐๐ บาท หรือตามกำลัง เพื่อให้สำเร็จประโยชน์ต่อพุทธศาสนาดังที่ได้กล่าว

    งานพิธีเททองหล่อ หลวงพ่อคงองค์ใหญ่ครับใครว่างก้อเชิญนะครับที่วัดบางกะพ้อม 18 มี.ค.55
    เชิญร่วมบริจาคทรัพย์เพื่อจัดสร้างห้องสืบสานคัมภีร์ใบลานล้านนาโบราณวัดศรีบุญเรือง
    วัดศรีบุญเรือง ธ.ธนชาติ สาขาห้าแยกพ่อขุนเม็งราย ประเภทออมทรัพย์ เลขที่บัญชี 510-2-00570-2

    ขอเชิญร่วมสร้างโบสถ์และถาวรวัตถุ วัดป่าหม่อมเจ้าสมาคมกิติยากร
    080-1680061
    ร่วมมหาบุญกุศลสร้างสมเด็จพระพุทธศรีอริยเมตตรัยฯ
    โทร (032)827-098 ถึง100

    เชิญร่วมสร้างพระอุโบสถวัดห้วยเจริญสุข(หลวงปู่ปรง)ให้แล้วเสร็จ
    ติดต่อสอบถาม พระราชัน เทวธมฺโม 081-794-6884

    ต้องการเจ้าภาพสร้างพระพุทธรูปปูนหน้าตัก ๔ ศอกขึ้นไปประดิษฐานณ ลานธรรมกลางเเจ้ง
    โทร ๐๘๖-๘๐๓๒๐๐๑

    ร่วมบุญสร้างอาคาร ร.พ.ชาติตระการ ถวายหลวงพ่อสมบูรณ์ กันตสีโล
    โรงพยาบาลชาติตระการ
    อำเภอชาติตระการ จังหวัดพิษณุโลก
    ร่วมบุญได้ที่บัญชีหลวงพ่อสมบูรณ์
    ธ.กสิกรไทย ส.แยกโคกตูม
    ชื่อบัญชีพระสมบูรณ์ กันตสีโล
    เลขที่บัญชี 393-2-48664-3

    facebook ชมรมคนรักหลวงปู่ทวดเข้าสู่ระบบ | Facebook

    ขอเชิญร่วมงานไหว้ครูบูรพาจารย์ ประจำปี 2555 หลวงพ่อแสวง อริโย วัดสว่างภพ จ.ปทุมธานี
    ติดต่อสอบถามได้ที่
    พระสมชาย 086-1358506

    ร่วมทอดผ้าป่าสามัคคี สร้างภาพวาด 2 บูรพกษัตริย์ เพื่อความสามัคคี
    โทร 081-5688516
    ทอดผ้าป่าสามัคคี สร้างซุ้มทางเข้าวัด และกำแพงวัด ณ วัดสวนหลวง อ.อัมพวา
    089-2303340

    ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพทอดผ้าป่าสามัคคีในโครงการบรรพชาอุปสมบทหมู่ครับ
    ณ วัดป่าโพธิ์แก้ว 2 บ้านหัวซา ต.หัวหว้า อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี

    ขอเชิญร่วมงานปิดทองฝังลูกนิมิต วัดเขาวงศ์ จ.ปราจีนบุรี
    13 มกราคม 2555 ขอเชิญร่วมงานปิดทองฝังลูกนิมิตวัดเขาวงศ์ ต.ย่านรี อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี
    โทร 087-0816864

    เชิญร่วมบุญทอดผ้าป่าสามัคคีสร้างหอฉันวัดป่าเอกจอมไตรนันท์ทาราม นครพนม
    เบอร์โทร.ติดต่อ 0892768155

    ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพ โครงการ “ผ้าป่ากองทุนบุญที่ดินและสิ่งปลูกสร้างฯ” http://www.buddhakos.org/

    ขอเชิญพุทธศาสนิกชนและญาติธรรมทั้งหลายร่วมประกอบพิธีสรงน้ำพระพุทธธาตุ และพิธีพุทธาภิเษกพระพุทธรูปทันใจแบบล้านนาณ วัดพระธาตุม่อนไก่เขี่ย
    ต.เมืองยาว อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง ในวันพุธที่ ๖-๗ มีนาคม ๒๕๕๕
    จึงขอเรียนเชิญผู้มีจิตศรัทธามาร่วมเป็นเจ้าภาพรายละเอียดดังต่อไปนี้
    ๑. รับเจ้าภาพ หรือร่วมเป็นเจ้าภาพ ถวายภัตตาหารพระภิกษุ และผู้ถือศีล ในวันที่ ๖-๗มีนาคม ๒๕๕๕
    ๒. รับเจ้าภาพ หรือร่วมเป็นเจ้าภาพถวายน้ำปานะพระภิกษุ และผู้ถือศีล วันที่ ๖-๗ มีนาคม ๒๕๕๕
    ๓. รับเจ้าภาพ หรือร่วมเป็นเจ้าภาพ ถวาย จัตุปัจจัยไทยธรรมแด่พระภิกษุ ๓๒รูป
    สามารถติดต่อสอบถาม แสดงความจำนงเป็นเจ้าภาพ หรือร่วมเป็นเจ้าภาพได้ที่ หลวงพ่อภุมริน มหาวีริโย (เจ้าอาวาส) วัดพระธาตุม่อนไก่เขี่ย ตำบลเมืองยาว อำเภอห้างฉัตร จ.ลำปางได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 085-2215333 หรือ คุณสมบูรณ์ 085-0710111

    ขอเชิญทุกท่านเที่ยวงานนมัสการพระธาตุพนม ประจำปี ๒๕๕๕
    ระหว่างวันที่ ๓๑ มกราคม - ๘ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๕
    ตรงกับวันขึ้น ๘ ค่ำ เดือน ๓ - แรม ๑ ค่ำ เดือน ๓ รวมเวลา ๙ วัน ๙ คืน
    ณ วัดพระธาตุพนม วรมหาวิหาร
    ตำบลธาตุพนม อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม

    เจริญพร ขอเชิญเป็นเจ้าภาพผ้าป่าร่วม สร้างศาลาปฏิบัติธรรม กุฏิกรรมฐาน ห้องน้ำ ๕ วัด
    เบอรโทร ๐๘๔๔๑๙๐๕๕๓

    ขอเชิญ ร่วมทำบุญผ้าป่า สร้างบุษบก วัดศาลพันท้ายนรสิงห์ จังหวัด สมุทรสาคร

    ขอเชิญร่วมทำบุญเททองหล่อพระปางศาสดาปางโปรดอาฬวกยักษ์
    วัดป่าหนองใหญ่ ตำบลหัวหว้า อำเภอศรีมหาโพธิ จังหวัดปราจีนบุรี
    วันจันทร์ที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2555 เททองเวลา 9.09 น.
    Tel 081-571-5225

    ขอเชิญร่วมงานไหว้ครูบูรพาจารย์ ประจำปี 2555 หลวงพ่อแสวง อริโย วัดสว่างภพ จ.ปทุมธานี
    ติดต่อสอบถามได้ที่
    พระสมชาย 086-1358506

    ขอเชิญทุกท่านที่มีจิตใจอันเป็นกุศล มาร่วมกันจัดงานเพื่อก่อประโยชน์ให้สังคม
    สอบถามรายละเอียดเพิ่มใด้ที่085-3860570 0861301958

    เนื่องด้วยเพื่อน (รุ่นน้องที่ทำงาน) จะลาอุปสมบทประมาณกลางเดือนกุมภานี้ หากผู้ใดมีความประสงค์ร่วมส่งหนังสือ/สิ่งพิมพ์ธรรมะเพื่อรวบรวมส่งให้แก่ว่าที่พระใหม่เพื่อเป็นธรรมทานสามารถส่งได้ที่
    เรืองวิทย์ ร่มศรี
    196 ม.10 นิคมอุตฯ304
    ต.ท่าตูม อ.ศรีมหาโพธิ
    จ.ปราจีนบุรี 25140
    ภายใน วันที่ 10 ก.พ 55 ขอบคุณครับ

    เจริญพร รับบริจาค หนังสือธรรมะ,พระไตรปิฎก,ชุดขาว,สมุดปากกา,สื่อธรรมะอื่นๆ
    โทร๐๘๔๔๑๙๐๕๕๓

    มูลนิธิบ้านอารีย์เปิดให้องค์กรสาธารณประโยชน์ ห้องสมุดตามสถานที่ต่างเข้ามาขอรับหนังสือธรรมะ จากมูลนิธิฯ เพื่อเป็นการเผยแพร่หลักธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธองค์ บรมครูของเรา
    องค์กรหรือตัวแทนที่สนใจขอรับสามารถติดต่อขอรับได้ที่
    คุณสุวิทย์ เจ้าหน้าที่มูลนิธิบ้านอารีย์
    โทร.02-6197474, 02-2797838
    textbaanaree@yahoo.com

    ขอเชิญนำหนังสือเก่าไปให้กับ โรงเรียนบึงเขาย้อน(คงพันธุ์อุปถัมภ์) ::โรงเรียนบึงเขาย้อน(คงพันธุ์อุปถัมภ์) ยินดีต้อนรับ:: ซึ่งอยู่ที่ถนนเลียบคลองสี่ คลองหลวง ปทุมธานี

    โครงการบรรพชาสามเณร ภาคฤดูร้อนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
    ประจำปี พ.ศ. ๒๕๕๕
    ณ วัดไผ่เหลือง ตำบลบางรักพัฒนา อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี
    **********
    *ระหว่างที่ ๕ เมษายน - ๑๙ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๕ (รวมเป็นจำนวน ๑๕ วัน )
    *รับจำนวน ๘๔ รูปเท่านั้น ( ต้องมีอายุระหว่าง ๘ – ๑๕ ปี)
    *บวชฟรีไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น
    *เปิดรับสมัครตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
    **************
    - ขอเชิญผู้มีจิตศรัทธาทุกท่านร่วมเป็นเจ้าภาพถวายผ้าไตรจีวรแก่สามเณรภาคฤดูร้อน ไตรละ ๕๐๐ บาท
    - ร่วมเป็นเจ้าภาพถวายภัตตาหารและน้ำปานะแก่สามเณรภาคฤดูร้อนเฉลิมพระเกียรติฯ
    โทร ๐๘๙ – ๘๖๐๔๕๔๖

    โครงการปฏิบัติธรรม เสาร-อาทิตย์ ที่ กรุงเทพ และ กาญจนบุรี กับ พระอาจารย์มิตซูโอะ ปี 2555
    โครงการปฏิบัติธรรมประจำปี 2555 - วัดสุนันทวนาราม พระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก
    โทร. 087-045-7232

    ท่านใดต้องการเป็นเจ้าภาพบวชพระ ๑ รูป ติดต่อสอบถามได้ที่....
    โทร.๐๘๕-๑๙๘-๒๙๑๑

    บรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อน ที่สำนักวิปัสสนาสัจธรรมเขาเขียว ต.บางพระ จ.ชลบุรี
    การสมัคร
    1.สมัครได้ที่ สำนักวิปัสสนาสัจจาธรรมเขาเขียว หรือที่หมายเลยโทรศัพท์083 1184536 ตั้งแต่บัดนี้ถึง 15 มีนาคม 2555
    2. ยื่นใบสมัครในวันเสาร์และอาทิตย์ด้วยตนเอง พร้อมผู้ปกครองพาไปในวันที่สมัครด้วย (ไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น)

    ขอเชิญร่วมบุญใหญ่กับอาจารย์ศิริลักษณ์ 0814343163

    ขอเชิญผู้ที่มีจิตใจอันเป็นกุศลทุกท่าน มาร่วมเป็นส่วนหนึ่ง ในงานมหากุศล
    0853860570

    ขอเชิญเป็นเจ้าภาพในการเททอง พระเจ้าตากสินมหาราช ณ วัดขวางชัยภูมิ จ.อุตรดิตถ์
    โทร 081-042-1925
    งานแสดงมุทิตาจิตครบรอบ ๙๐ ปี หลวงปู่จันทรา ถาวโร วัดป่าเขาน้อย จ.พิจิตร
    ในวันที่ ๑๑ - ๑๒ กุมพาพันธ์ ๒๕๕๕

    ขอเชิญผู้ที่มีจิตใจอันเป็นกุศลทุกท่าน มาร่วมเป็นส่วนหนึ่ง ในงานมหากุศล
    ขอเชิญทุกท่านที่มีใจอันเป็นกุศลมาร่วมทำบุญทำกุศลร่วมกัน ในการจัดงานทอดผ้าป่าสามัคคีมหากุศลและงานมหากุศล ในงาน Love Talanl (มีดีต้องโชว์)
    ในวันที่ 24-25 มีนาคม 2555 ณ.วัดต้นสะตือ ต.ขยาย อ.ปางประหัน จ.อยุธยา
    เพื่อหารายใด้สมทบทุน มอบให้ ณ.วัดต้นสะตือ โดยมีพระใบฎีกาสำรวย ฐิตธมโมเป็นเจ้าอาวาส นำไปปบูรณะปฏิสังขรณ์สิ่งชำรุดทรุดโทรมภายในวัดที่ประสบอุทกภัยน้ำท่วมที่ผ่านมา จึงได้จัดงานนี้ขึ้นมา จึงขอเรียนเชิญทุกท่านร่วมทำบุญในครั้งนี้หรือร่วมสมัครเข้าประกวดความ สามารถด้านการแสดงต่างๆที่คุณชอบ โดยการประกวดครั้งนี้ ไม่จำกัด อายุ เพศ พร้อมชิงถ้วยรางวัล เงินสดและของขวัญมากมาย สนใจสอบถามข้อมูลใด้ที่ 0853860570 – 0861301958

    ขอเชิญสาธุชนทั่วไปนมัสการหลวงพ่อทันใจ ณ.วัดยางเอน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี (ใกล้กับ นิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง3)

    ขอเชิญเป็นเจ้าภาพในการเททอง พระเจ้าตากสินมหาราช ณ วัดขวางชัยภูมิ จ.อุตรดิตถ์
    กำหนดการ ระหว่างวันที่ 29-31 มีนาคม 2555
    29 มีนาคม 2555 09.00น.-ปลงผมนาค ,13.00น.-ทำขวัญนาค
    30 มีนาคม 2555 08.00น.-แหานาคไปอุปสมบท,17.30น.เจริญพระพุทธมนต์เย็น
    31 มีนาคม 2555 07.00น.-ทำบุญฉลองพระใหม่,08.00น.พิธีบวงสรวง,16.19น.-ทอดผ้าป่าสามัคคี,19.59น.พิธีเททอง,นั่งอธิฐานจิตโดยพระเกจิ

    ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพสร้างศาลาการเปรียญ
    โทรศัพท์ 083-959-9820

    วันที่ 6-7-8 เมษายน 2555 งานประจำปีวัดสว่างอารมณ์ และกำหนดทอดผ้าป่าในงานประจำปีวัดสว่างอารมณ์นี้

    ขอเชิญร่วมสร้างสมเด็จองค์ปฐมทองคำและหลวงพ่อฤาษีฯทองคำ
    พระอาจารย์ยุคลธรณ์ 087-024-9995


    เรียนเชิญบูรณะซ่อมแซมสำนักสงฆ์
    โทรศัพท์ 080-015-9020

    ขอเชิญร่วมบุญมหากุศล สร้างเมรุ ณ.วัดป่าเกษมคงคาราม อ.ชนบท จ.ขอนแก่น

    ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพพิมพ์หนังสือทำวัตรสวดมนต์แปลวัดฟ้าห่วนเหนือ จ. ยโสธร
    โทร 089-6984184
    ขอเชิญร่วมทำบุญข้าวเปลือก ถวายบูชาคุณหลวงตามหาบัว ญาณสัมปนโน วัดป่าบ้านตาด 30 ม.ค. 55

    ทำบุญบ้านเด็กอ่อนปากเกร็ดครับ
    02-583-8314
    กันบริจาค
    หากประสงค์จะบริจาคเงินช่วยเหลือเด็ก โปรดโอนเงินเข้าบัญชีออมทรัพย์
    มูลนิธิสงเคราะห์เด็กอ่อน ปากเกร็ด
    ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สาขาปากเกร็ด
    เลขที่บัญชี 123 - 1 - 21135 - 0
    กรุณาส่งสำเนาใบฝากเงินพร้อมที่อยู่กลับไปที่
    มูลนิธิสงเคราะห์เด็กอ่อน ปากเกร็ด
    เพื่อออกใบเสร็จและใบตอบรับให้ท่านต่อไป


    โลหิตหมดคลังเลือด วอนประชาชนบริจาคช่วยผู้ป่วยด่วน!จึงขอเชิญบริจาคโลหิตได้ที่ ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ ถนนอังรีดูนังต์ และหน่วยรับบริจาคโลหิตเคลื่อนที่ โทรศัพท์ 0 2256 4300, 0 2263 9600-99 ต่อ 1101

    เชิญร่วมสร้างหอผู้ป่วยภาวะวิกฤตระบบทางเดินหายใจ กับลปจันทร์ศรี
    042-252914
    มูลนิธิ สหพันธ์สันติภาพสากล เพื่อเด็กด้อยโอกาส
    บริจาคผ่านทางธนาคาร
    ชื่อบัญชี มูลนิธิสหพันธ์สันติภาพสากล(ประเทศไทย)
    ธนาคารกรุงเทพ สาขาหัวหมาก
    บัญชีออมทรัพย์ เลขที่บัญชี 180-7-91121-7

    มาช่วยช้างกัน
    ตามลิงค์นี้ค้าบ
     
  16. รสมน

    รสมน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,451
    ค่าพลัง:
    +2,047
    อสสฺสตํ วิปฺปริณามธมฺมํ.
    ชีวิตนี้วิปริตผันแปร ไม่แน่นอน
    วโยคุณา อนุปุพฺพํ ชหนฺติ.
    วัย หมดไปตามลำดับแห่งวัย
    ทหราปิ จ เย วุฑฺฒา.
    หนุ่มก็ตาย แก่ก็ตาย
    โอรํ วสฺสสตาปิ มิยฺยติ.
    ชีวิต ไม่ถึงร้อยปีก็จะตาย ถ้าอยู่เลยร้อยปี ก็ต้องตายเพราะความแก่เป็นแน่แท้
    เย พาลา เย จ ปณฺฑิตา.
    คนโง่ก็ตาย คนฉลาดก็ตาย
    สพฺเพ มจฺจุปรายนา.
    สรรพสัตว์ทั้งหลายล้วนก้าวเดินไปสู่ความตาย
    นตฺถิ ญาตีสุ ตาณตา.
    คนถึงคราวตาย หมู่ญาติก็ช่วยไม่ได้
    อปฺปํ วต ชีวิตํ อิทํ.
    ชีวิตนี้น้อยนัก ชีวิตนี้สั้นนัก
    อจฺจยนฺติ อโหรตฺตา.
    วันและคืนย่อมผ่านไป
    ชีวิตํ อุปรุชฺฌติ.
    เมื่อมีชีวิต วัยแห่งชีวิตก็ร่นเข้ามา
    ชาติปิ ทุกฺขา.
    เกิด ก็เป็นทุกข์
    เอโก มจฺโจ อจฺเจติ.
    จะตาย ก็ตายไปคนเดียว
    อจฺเจนติ กาลา ตรยนฺติ รตฺติโย.
    กาลเวลาล่วงไป ราตรีก็ผ่านไป
    มรณมฺปิ ทุกฺขํ.
    ตาย ก็เป็นทุกข์
    ชราปิ ทุกฺขา.
    แก่ ก็เป็นทุกข์
    มจฺจุนาพฺภหโต โลโก.
    สัตว์โลกถูกมฤตยูห้ำหั่น
    ชโว นตฺถิ ปลายิตุง.
    จะวิ่งหนีก็ไม่ทัน (ความตายไม่มีใครหนีได้)
    ชราย ปริวาริโต.
    สัตว์โลก ถูกชราปิดล้อม
    พฺยาธิปิ ทุกฺขา.
    เจ็บ ก็เป็นทุกข์
    เอโกว ชายเต กุเล.
    จะเกิด ก็เกิดมาคนเดียว
    กสิรญฺจ ปริตฺตญฺจ.
    ชีวิตนี้คับแค้น และสั้นนิดเดียว
    มรณนฺตํ หิ ชีวิตํ.
    ชีวิตสิ้นสุดลงที่ความตาย
    ภูตํ เสสํ ทยิตพฺพํ.
    เมื่อยังมีชีวิตอยู่ ควรเกื้อกูลกัน
    น มิยฺยมานสฺส ภวนฺติ ตาณา.
    เมื่อสัตว์จะตาย ไม่มีผู้ป้องกัน
    ตญฺจ ทุกฺเขน สํยุตํ.
    เมื่อคนจะตาย ยังแถมประกอบด้วยทุกข์อีก

    อปฺปกญฺจิทํ ชีวิตมาหุ ธีรา.
    ปราชญ์กล่าวว่าชีวิตนี้น้อยนัก
    สายเมเก น ทิสฺสนฺติ.
    เห็นอยู่เมื่อเช้า สายก็ตาย
    จวิตํ อนุโสจิยํ.
    ที่ตายแล้วก็แล้วไป ไม่ควรเศร้าโศกถึง
    อปฺปญฺหิ นํ ชีวิตมาหุ ธีรา.
    ปราชญ์ทั้งหลาย บอกแล้วว่าชีวิตนี้น้อยนัก
    มจฺจุนา ปิหิโต โลโก.
    โลกถูกความตายครอบเอาไว้
    น มิยฺยมานสฺส ภวนฺติ ตาณา.
    เมื่อความตายมาถึงตัว ก็ไม่มีใครป้องกันได้
    ตญฺจ ทุกฺเขน สํยุตํ.
    เมื่อคนตายแล้วสมบัติสักนิดก็ไม่ติดไป
    สพฺพํ เภทปริยนฺตํ เอวํ มจฺจาน ชีวิตํ.
    ทุกชีวิตที่เกิดมาแล้วจะต้องแตกสลายในที่สุด
    สพฺเพ ว นิกฺขิปิสฺสนฺติ ภูตา โลเก สมุสฺสยํ.
    ทุกชีวิตจะต้องทอดทิ้งร่ายกายไว้ในโลก
    น หิ โน สงฺครนฺเตน มหาเสเนน มจฺจุนา.
    ไม่มีใครผัดเพี้ยนกับความตาย ซึ่งมีอำนาจมากได้
    นตฺถิ โลเก อนามตํ.
    สถานที่ที่ได้ชื่อว่าไม่มีคนตาย ไม่มีในโลก
    กิจฺจกโร สิยา นโร น จ มชฺเช.
    ทุกคนควรทำหน้าที่ของตนและไม่ควรประมาท
    ทหรา จ วุฑฺฒา จ สรีรเภทา.
    ทั้งหนุ่มและแก่ ล้วนร่างกายแตกดับไปทุกคน
    มจฺจุนาพฺภหโต โลโก ชราย ปริวาริโต.
    สัตว์โลกถูกมฤตยูห้ำหั่น ถูกชราปิดล้อม
    ชรูปนิตสฺส น สนฺติ ตาณา.
    เมื่อสัตว์ถูกชรานำเข้าไปแล้ว ไม่มีผู้ป้องกัน
    น หิ โน สงฺครนฺเตน มหาเสเนน มจฺจุนา.
    ความผัดเพี้ยนกับมฤตยูอันมีกองทัพใหญ่นั้น ไม่ได้เลย
    ยํ ยํ วิวหเต รตฺติ ตทูนนฺตสฺส ชีวิตํ.
    กี่วันผ่านไป ชีวิตก็ยิ่งใกล้ความตาย
    สพฺเพ สตฺตา มริสฺสนติ.
    คนทุกคนต้องตาย
    วโย รตฺตินฺทิวกฺขโย.
    วัยสิ้นไปตามคืนและวัน
    มรณํ ธมฺมิกํ เสยฺโย ยญฺเจ ชีเว อธมฺมิกํ.
    การตายโดยชอบธรรม ดีกว่าการมีชีวิตอยู่โดยไม่ชอบธรรม
    อายุ ขียติ มจฺจานํ.
    อายุของคนย่อมหมดสิ้นไป
    ชาตสฺส มรณํ โหติ.
    ความตายย่อมมีแก่ผู้เกิด
    ยสฺส รตฺยา วิวสาเน อายุ อปฺปตรํ สิยา.
    วันคืนเคลื่อนคล้อย อายุก็เหลือน้อยเข้าทุกที
    เอวํ ชราย มรเณน วุยฺหนฺเต สพฺพปาณิโน.
    สัตว์ทั้งปวงย่อมถูกชราและมรณะพัดพาไป
    ปาโต เอเก น ทิสฺสนฺติ สายํ ทิฏฺฐา พหู ชนา.
    สายเห็นกันอยู่ รุ่งเช้าอีกวันก็ตาย
    ยญฺเจ ชีเว อธมฺมิกํ.
    มีชีวิตอยู่อย่างไม่ถูกต้อง หาประเสริฐไม่
    น ทีฆมายุง ลภเต ธเนน.
    เงิน ก็ซื้ออายุให้ยืนยาวไม่ได้
    สพฺเพว นิกฺขิปิสฺสนฺติ ภูตา โลเก สมุสฺสยํ.
    สัตว์ทั้งปวง จัดทอดทิ้งร่างไว้ในโลก
    ธมฺเม ฐิโต ปรโลกํ น ภาเย.
    ตั้งอยู่ในธรรมแล้ว ไม่ต้องกลัวปรโลก
    ยาวุปฺปตฺติ นิมิสฺสติ ตตฺราปิ สรตี วโย.
    วัยย่อมเสื่อมลงเรื่อยไป ทุกหลับตา ทุกลืมตา
    น มิยฺยมานํ ธนมนฺเวติ กิญฺจิ.
    เมื่อตาย ทรัพย์สักนิดเดียวจะติดตัวไปก็ไม่มี
    มรณํ ธมฺมิกํ เสยฺโย.
    ตายเพื่อความถูกต้องประเสริฐกว่า
    น สนฺติ ปุตฺตา ตาณาย.
    ถึงคราวตาย บุตรทั้งหลายก็ช่วยไม่ได้
    น ปิตา นปิ พนฺธวา.
    ถึงคราวตาย บิดา ญาติพี่น้องก็ช่วยไม่ได้
    อฑฺฒา เจว ทลิทฺทา จ.
    รวยก็ตาย จนก็ตาย
    น จาปิ วิตฺเตน ชรํ วหนฺติ.
    ทรัพย์สมบัติ ก็ซื้อความแก่ไม่ได้
    วินาภาเว อสํสเย.
    สักวันหนึ่ง ก็จะพรากจากกันไป
    รตฺโย อโมฆา คจฺฉนฺติ.
    วันคืน ไม่ผ่านไปเปล่า
    อาคจฺฉนฺตคฺคิกฺขนฺธาว มจฺจุพฺยาธิชรา ตโย.
    มฤตยู พยาธิ ชรา ทั้งสามนี้ดุจไฟลามลุกไหม้
    ธมฺเม ฐิโต โก มรณสฺส ภาเย.
    ผู้ที่ตั้งอยู่ในธรรม ใครเล่าจะกลัวความตาย
    นตฺถิ ชาตสฺส อมรณํ.
    ผู้ที่เกิดมาแล้วจะไม่ตายไม่มี
    อจฺจยนฺติ อโหรตฺตา ชีวิตํ อุปรุชฺฌติ.
    วันคืนผ่านพ้นไป ชีวิตย่อมจะเหลือน้อยลง
    จิรํ ชีวติ โส วสฺสสตํ อปฺปํ วา ภิยฺโยติ.
    คนจะมีชีวิตอยู่ได้ก็เพียงร้อยปี หรือจะเกินก็เพียงเล็กน้อย
    โยปิ วสฺสสตํ ชีเว สพฺเพ มจฺจุปรายนา.
    แม้ชีวิตอยู่ร้อยปี ก็ไม่พ้นความตายไปได้ มวลมนุษย์ล้วนมีความตายรออยู่ข้างหน้า
    อปฺปกํ ชีวิตํ มยฺหํ ชรา พฺยาธิ จ มทฺทติ.
    ชีวิตของเราเป็นของน้อย ชราและพยาธิก็คอยย่ำยี
    กาโล ฆสติ ภูตานิ สฺพพาเนว สหตฺตนา.
    กาลเวลาย่อมกลืนกินสรรพสัตว์ทั้งหลาย พร้อมกันไปกับตัวมันเอง
    มตํ มริสฺสํ โรทนฺติ เย รุทนฺติ ลปนฺติ จ.
    คนใดร้องให้บ่นเพ้อถึงคนที่ตายไปแล้ว แม้คนที่ร้องนั้นก็ต้องตายเหมือนกัน
    อยาจิโต ตโตคจฺฉิ อนนุญฺญาโต อิโต คโต.
    เมื่อมาเกิด ก็ไม่มีใครอ้อนวอนมาเกิด เมื่อตายจากโลกนี้ ก็ไม่มีใครอนุญาตให้ไป
    ยํ ยํ วิวหเต รตฺติ ตทูนนฺตสฺส ชีวิตํ.
    วันคืนล่วงไป ชีวิตของคนก็พร่องลงไป จากประโยชน์ที่จะทำ
    สพฺพํ เภทปริยนฺตํ เอวํ มจฺจาน ชีวิตํ.
    ชีวิตของสัตว์เหมือนภาชนะดิน ซึ่งล้วนมีความสลายเป็นที่สุด
    อฑฺฒา เจว ทฬิทฺทา จ สพฺเพ มจฺจุปรายนา.
    ทั้งคนมี ทั้งคนจน ล้วนมีความตายเป็นเบื้องหน้า
    รูปํ ชีรติ มจฺจานํ นามโคตฺตํ น ชีรติ.
    รูปกายของสัตว์ย่อมร่วงโรยไป แต่ชื่อและโคตรไม่เสื่อมสลาย
    น เหว ติฏฺฐํ นาสีนํ น สยานํ น ปตฺถคุง ยาวุปฺปตฺติ นิมิสฺสติ ตฺตราปิ สรตี วโย..
    อายุสังขารหาได้เป็นไปตามเฉพาะสัตว์ที่ยืน นั่ง นอน หรือเดินอยู่เท่านั้นก็หาไม่วัยย่อมเสื่อมไปทุกขณะที่ยังหลับตาและลืมตาอยู่.
    สพฺเพ ตสนฺติ ทณฺฑสฺส สพฺเพ ภายนฺติ มจฺจุโน อตฺตานํ อุปมํ กตฺวา น หเนยฺย น ฆาตเย.
    สิ่งมีชีวิตทั้งปวง ย่อมกลัวโทษและกลัวความตาย จงทำตนเป็นอุปมา แล้วไม่พึงฆ่าหรือใช้ให้ผู้อื่นฆ่า
    ตสฺมา อิธ ชีวิตเสเส กิจฺจกโร สิยา นโร น จ มชฺเช.
    เพราะฉะนั้น ในชีวิตที่เหลืออยู่นี้ ทุกคนควรกระทำกิจหน้าที่ และไม่พึงประมาท
    นิพฺพุยฺหติ สุสานํ อจิรํ กาโย อเปตวิญฺญาโณ ฉฑฺฑิโต กลงฺครํวิย ชิคุจฺฉมาเนหิ ญาตีหิ.
    ร่างกายนี้ ไม่นานนัก เมื่อวิญญาณจากไปแล้ว หมู่ญาติก็เกลียดกลัว เอาไปทิ้งในป่าช้าเหมือนท่อนไม้
    มรณสญฺญาปริจิเตน ภิกฺขุโน เจตสา พหุลํ วิหรโต ชีวิตนิกนฺติยา จิตฺตํ ปฏิลียติ ปฏิกุชฺชติ ปฏิวตฺตติ.
    เมื่อภิกษุมีใจอันอบรมแล้วด้วยมรณะสัญญาอยู่โดยมาก
    จิตย่อมหวนกลับ งอกลับ ถอยกลับจากการรักชีวิต
    อจฺเจนฺติ กาลา ตรยนฺติ รตฺติโย วโยคุณา อนุปุพฺพํ ชหนฺติ.
    กาลเวลาล่วงไป วันคืนผ่านพ้นไป วัยก็หมดไปที่ละตอน ๆ ตามลำดับ
    อปฺปมิทํ มนุสฺสานํ อายุ คมนีโย สมฺปราโย กตฺตพฺพํ กุสลํ จริตพฺพํ พฺรหฺมจริยํ.
    อายุของคนนี้น้อยนัก จะต้องจากโลกนี้ไป จึงควรทำกุศล และประพฤติพรหมจรรย์
    ยถา ราริวโห ปูโร คจฺฉํ น ปริวตฺตติ เอวมายุ มนุสฺสานํ คจฺฉํ น ปริตฺตติ.
    น้ำเต็มฝั่ง ไม่ไหลทวนขึ้นที่สูง ฉันใด อายุของคน ก็ย่อมไม่เวียนไปสู่วัยเด็กอีก ฉันนั้น
    กสิรญฺจ ปริตฺตญฺจ ตญฺจ ทุกฺเขน สํยุตํ โกมํ ชีวิตมาคมฺม เวรํ กยิราถ เกนจิ.
    ชีวิตนี้เป็นสิ่งคับข้อง เป็นสิ่งเล็กน้อย ประกอบด้วยทุกข์ ใครเล่ายังจะอาศัยชีวิตนี้ ไปสร้างเวรกับผู้อื่น
    อปฺปํ วต ชีวิตํ อิทํ โอรํ วสฺสสตาปิ มิยฺยติ สเจปิ อติจฺจ ชีวติ อถ โข โส ชรสาปิ มิยฺยติ.
    ชีวิตนี้น้อยนัก ไม่ถึงร้อยปีก็ตายกันแล้ว ถ้าจะอยู่เกินไป ก็ต้องตายเพราะความแก่
    อจฺจยนฺติ อโหรตฺตา ชีวิตํ อุปรุชฺฌติ อายุ ขียติ มจฺจานํ กุนฺนทีนํว โอทกํ.
    วันคืนย่อมล่วงไป ชีวิตย่อมหมดเข้าไป อายุของสัตว์ ย่อมสิ่นไป เหมือนน้ำแห่งแม่น้ำน้อย ๆ ฉะนั้น
    รูปธาตุปริญฺญาย อรูเปสุ อสณฺฐิตา นิโรเธ เย วิมุจฺจนฺติ เต ชนา มจฺจุหายิโน.
    ชนเหล่าใดกำหนดรู้รูปธาตุ ไม่ตั้งอยู่ในอรูปธาตุ ย่อมหลุดพ้นไปได้ในในโรธธาตุ,
    ชนเหล่านั้น ชื่อว่าเป็นผู้ละมัจจุได้
    อปฺปมายุ มนุสฺสานํ หิเฬยฺย นํ สุโปริโส จเรยฺยาทิตฺตสีโสว นตฺถิ มจฺจุสฺส นาคโม.
    อายุของมนุษย์มีน้อย คนดีพึงดูถูกอายุนั้นเสีย
    พึงประพฤติดุจคนมีศรีษะถูกไฟใหม้ มฤตยู (ความตาย)จะไม่มาถึง ย่อมไม่มี
    ทหรา จ มหนฺตา จ เย พาลา เย จ ปณฺฑิตา สพฺเพ มจฺจุวสํ ยนฺติ สพฺเพ มจฺจุปรายนา.
    ทั้งเด็ก ทั้งผู้ใหญ่ ทั้งเขลา ทั้งฉลาด ล้วนไปสู่อำนาจแห่งความตาย ล้วนมีความตายเป็นเบื้องหน้า
    ปุปฺผานิ เหว ปจินนฺตํ พฺยาสตฺตมนสํ นรํ อติตฺตํ เยว กาเมสุ อนฺตโก กุรุเต วสํ.
    ความตายย่อมครอบงำคนเก็บดอกไม้ (กามคุณ) ที่มีใจข้องในอารมณ์ต่าง ๆ ไม่อิ่มในกาม ไว้ในอำนาจ
    ผลานมิว ปกฺกานํ ปาโต ปตนโต ภยํ เอวํ ชาตาน มจฺจานํ นิจฺจํ มรณโต ภยํ.
    ภัยของสัตว์ผู้เกิดมาแล้ว ย่อมมี เพราะต้องตายแน่นอน
    เหมือนภัยของผลไม่สุก ย่อมมีเพราะต้องหล่นในเวลาเช้าฉะนั้น
    ยถาปิ กุมฺภการสฺส กตา มตฺติกภาชนา สพฺเพ เภทปริยนฺตา เอวํ มจฺจาน ชีวิตํ.
    ภาชนะดินที่ช่างหม้อทำแล้ว ล้วนมีความแตกเป็นที่สุด ฉันใด, ชีวิตของสัตว์ทั้งหลาย ก็ฉันนั้น
    ยถา ทณฺเฑน โคปาโล คาโว ปาเชติ โคจรํ เอวํ ชรา จ มจฺจุ จ อายุง ปาเชนฺติ ปาณินํ.
    ผู้เลี้ยงโคย่อมต้อนฝูงโคไปสู่ที่หากินด้วยพลอง ฉันใด,
    ความแก่และความตาย ย่อมต้อนอายุของสัตว์มีชีวิตไปเช่นกัน ฉันนั้น
    น หิ รุณฺณํ วา โสโก วา ยา วญฺญา ปริเทวนา น ตํ เปตานมตฺถาย เอวํ ติฏฺฐนฺติ ญาตโย.
    การร้องให้ ความโศกเศร้า หรื การคร่ำครวญร่ำไรใด ๆ
    ย่อมไม่เกิดประโยชน์แก่ผู้ล่วงลับไปแล้ว ผู้ที่ตายแล้วก็คงอยู่อย่างเดิมนั้นเอง
    น สนฺติ ปุตฺตา ตาณาย น ปิตา นปิ พนฺธวา อนฺตเกนาธิปนฺนสฺส นตฺถิ ญาตีสุ ตาณตา.
    เมื่อถูกพญามัจจุราชครอบงำ ไม่ว่าบุตร ไม่ว่าบิดา ไม่ว่าญาติพวกพ้อง
    มีไว้ก็ช่วยต้านทานไม่ได้ จะหาที่ปกป้องในหมู่ญาติ เป็นอันไม่มี
    ปาปญฺจ เม นตฺถิ กตํ กุหิญฺจิ ตสฺมา น สงฺเก มรณาคมาย.
    ข้าพเจ้าไม่มีความชั่ว ซึ่งทำไว้ ณ ที่ไหน ๆ เลย ฉะนั้นข้าพเจ้าจึงไม่หวั่นเกรงความตายที่จะมาถึง
    น หิ รุณฺเณน โสเกน สนฺตึ ปปฺโปติ เจตโส ภิยฺยสฺสุปฺปชฺชเต ทุกฺขํ สรีรํ จุปหญฺญติ.
    การร้องให้หรือโศกเศร้า จะช่วยให้จิตใจสงบ สบาย ก็หาไม่ ทุกข์ยิ่งเกิดเพิ่มพูนทับทวีทั้งร่ายกายก็พลอยทรุดโทรม
    สุปิเนน ยถาปิ สงฺคตํ ปฏิพุทฺโธ ปุริโส น ปสฺสติ เอวมฺปิ ปิยายิกํ ชนํ เปตํ กาลกตํ น ปสฺสติ.
    คนที่รักใคร่ ตายจากไปแล้ว ย่อมไม่ได้พบเห็นอีกเหมือนคนตื่นขึ้นไม่ได้เห็นสิ่งที่ได้พบในฝัน
    เอโกว มจฺโจ อจฺเจติ เอโกว ชายเต กุเล สํโยคปรมาเตฺวว สมฺโภคา สพฺพปาณินํ.
    จะตายก็ไปคนเดียว จะเกิดก็มาคนเดียว ความสัมพันธ์ของสัตว์ทั้งหลาย ก็เพียงแค่ได้มาพบปะเกี่ยวข้องกันเท่านั้นเอง
    โสกมปฺปชหํ ชนฺตุ ภิยฺโย ทุกฺขํ นิคจฺฉติ อนุตฺถุนนฺโต กาลกตํ โสกสฺส วสมนฺวคู.
    คนที่สละความเศร้าโศกไม่ได้ มัวทอดถอนถึงคนที่จากไปแล้ว
    ตกอยู่ในอำนาจของความโศกย่อมประสบความทุกข์หนักยิ่งขึ้น
    สายเมเก น ทิสฺสนติ ปาโต ทิฏฺฐา พหู ชนา ปาโต เอเก น ทิสฺสนฺติ สายํ ทิฏฺฐา พหู ชนา.
    ตอนเช้ายังเห็นกันอยู่มากคน พอตกเย็นเห็นบางคนก็ไม่เห็น เมื่อเย็น ยังเห็นกันอยู่มากคนตกถึงเช้า บางคนก็ไม่เห็น
    ตํ ตญฺเจ อนุโสเจยฺย ยํ ยํ ตสฺส น วิชฺชติ อตฺตามนุโสเจยฺย สทา มจฺจุวสํ ปตฺตํ.
    ถ้าบุคคลจะเศร้าโศกถึงสิ่งที่ไม่มีอยู่แก่ตน (เช่นผู้ที่ตายไปแล้ว เป็นต้น) ไซร้
    ก็ควรจะเศร้าโศกถึงตนเอง ซึ่งตกอยู่ในอำนาจของพญามัจจุราชตลอดเวลา
    ยถา วาริวโห ปูโร คจฺฉํ น ปริวตฺตติ เอวมายุ มนุสฺสานํ คจฺฉํ น ปริวตฺตติ.
    แม่น้ำเต็มฝั่ง ไม่ไหลทวนขึ้นที่สูง ฉันใด อายุของมนุษย์ทั้งหลาย ย่อมไม่เวียนกลับมาสู่วัยเด็กอีก ฉันนั้น
    ทหราปิ จ เย วุฑฺฒา เย พาลา เย จ ปณฺฑิตา อฑฺฒา เจว ทลิทฺทา จ สพฺเพ มจฺจุปรายนา.
    ทั้งเด็ก ทั้งผู้ใหญ่ ทั้งคนพาล ทั้งบัณฑิต ทั้งคนมี ทั้งคนจน ล้วนเดินหน้าไปหาความตายทั้งหมด
    ผลานมิว ปกฺกานํ นิจฺจํ ปตนโต ภยํ เอวํ ชาตาน มจฺจานํ นิจฺจํ มรณโต ภยํ.
    ผลไม้สุกแล้ว ก็หวั่นแต่ละต้องร่วงหลุ่นไปตลอดเวลา ฉันใด
    สัตว์ทั้งหลายเกิดมาแล้ว ก็หวั่นแต่จะตายอยู่ตลอดเวลา ฉันนั้น
    อปฺปมายุ มนุสฺสานํ หิเฬยฺย นํ สุโปริโส จเรยฺยาทิตฺตสีโสว นตฺถิ มจฺจุสฺส นาคโม.
    อายุของคนน้อยนัก คนดีไม่ควรลืมอายุ ควรระลึกถึงอายุดุจคนถูกไฟไหม้ศรีษะ เพราะการที่ความตายจะไม่มาถึงนั้น ไม่มีเลย
    ตํ ตญฺเจ อนุโสเจยฺย ยํ ยํ ตสฺส น วิชฺชติ อตฺตานมนุโสเจยฺย สทา มจฺจุวสํ ปตฺตํ.
    ถ้าจะเศร้าโศกถึงคนที่ตายไปแล้ว ก็ควรจะเศร้าโศกถึงตนเองด้วย ที่ตกอยู่ในอำนาจของความตายตลอดเวลา
    ยถา วาริวโห ปูโร วเห รุกฺเข ปกูลเช เอวํ ชราย มรเณน วุยฺหนฺเต สพฺพปาณิโน.
    ห้วงน้ำที่เต็มฝั่ง พึงพัดต้นไม้ซึ่งเกิดที่ตลิ่งไปฉันใด, สัตว์มีชีวิตทั้งปวง ย่อมถูกความแก่และความตายพัดไปฉันนั้น
    ตสฺมา อรหโต สุตฺวา วิเนยฺย ปริเทวิตํ เปตํ กาลกตํ ทิสฺวา เนโส ลพฺภา มยา อิติ.
    เพราะฉะนั้น สาธุชน สดับคำสอน ของท่านผู้ไกลกิเลสแล้ว พึงกำจัดความร่ำไรรำพันเสีย เห็นคนล่วงลับจากไป
    ก็ทำใจให้ได้ว่า ผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว เราจะขอให้เป็นอยู่อีกย่อมไม่ได้
    อญฺเญปิ ปสฺส คมิเน ยถากมฺมูปเค นเร มจฺจุโน วสมาคมฺม ผนฺทนฺเตวิธ ปาณิโน.
    ดูซิ.. ถึงคนอื่น ๆ ที่กำลังเตรียมตัว เดินทางไปตามยถากรรม
    ที่นี่สัตว์ทั้งหลายเผชิญกับอำนาจ ของพญามัจจุราชเข้าแล้ว กำลังดิ้นรนกันอยู่ทั้งนั้น
    ตตฺถตฺตนิ วตปฺปนฺเถ วินาภาเว อสํสเย ภูตํ เสสํ ทยิตพฺพํ จวิตํ อนนุโสจิยํ.
    เมื่อวัยเสื่อมสิ้นไปอย่างนี้ ความพลัดพรากจากกัน ก็ต้องมีโดยไม่ต้องสงสัย
    หมู่สัตว์ที่ยังเหลืออยู่ ควรเมตตา เอื้อเอ็นดูกัน ไม่ควรจะมัวเศร้าโศกถึงผู้ที่ตายไปแล้ว
    ยํ ยํ วิวหเต รตฺติ ตทูนนฺตสฺส ชีวิตํ จรโต ติฏฺฐโต วาปิ อาสีนสยนสฺส วา อุเปติ จริมา รตฺติ น เต กาโล ปมชฺชิตุง.
    วันคืนล่วงไปเท่าไรชีวิตก็พร่องลงไปเท่านั้น เวลาแห่งความตายรุกไล่เข้าไปทุก อิริยาบถ ฉะนั้นจึงไม่ควรประมาทเวลา
    น อนฺตลิกฺเข น สมุทฺทมชฺเฌ น ปพฺพตานํ วิวรํ ปวีสํ น วิชฺชตี โส ชคติปฺปเทโส ยตฺรฏฺฐิตํ นปฺปสเหยฺย มจฺจุ.
    จะอยู่ในอากาศ อยู่กลางมหาสมุทร เข้าไปสู่หลืบเขา ก็ไม่พ้นจากมฤตยูได้
    ประเทศคือดินแดนที่มฤตยูจะไม่รุกรานผู้อยู่ ไม่มี
    อจฺเจนฺติ กาลา ตรยนฺติ รตฺติโย วโยคุณา อนุปุพฺพํ ชหนฺติ เอตํ ภยํ มรเณ เปกฺขมาโน ปุญฺญานิ กยิราถ สุขขาวหานิ.
    กาลย่อมล่วงไป ราตรีย่อมผ่านไป ชั้นแห่งวัยล่อมละลำดับไป ผู้เล็งเห็นภัยในมรณะนั้น พึงทำบุญอันนำสุขมาให้
    กีโส วิวณฺโณ ภวติ หึสมตฺตานมตฺตนา น เตน เปตา ปาเลนฺติ นิรตฺถา ปริเทวนา.
    เมื่อเศร้าโศกไป ก็เท่ากับทำร้ายตัวเอง ร่างกายจะผ่ายผอม ผิดพรรณจะซูบซีดหม่นหมอง
    ส่วนผู้ที่ตายไปแล้ว ก็จะเอาความโศกเศร้านั้นของเรา ไปช่วยอะไรตัวเขาไม่ได้ ความร่ำไรรำพัน ย่อมไร้ประโยชน์
    ยถาปิ ทารโก จนฺทํ คจฺฉนฺตํ อนุโรทติ เอวํ สมฺปทเมเวตํ โย เปตมนุโสจติ ทยฺหมาโน น ชานาติ ญาตีนํ ปริเทวิตํ ตสฺมา เอตํ น โสจามิ คโต โส ตสฺส ยา คติ.
    ผู้ที่เศร้าโศกถึงคนตาย ก็เหมือนเด็กร้องให้ เหมือนกับขอพระจันทร์ที่โคจรไปในอากาศ คนตายถูกเผาอยู่ ย่อมไม่รู้ว่าญาติคร่ำครวญถึง เพราะฉะนั้น ข้าพเจ้าจึงไม่เศร้าโศก เขาไปแล้วตามวิถีทางของเขา

    เอาบุญมาฝากจะถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ สักการะพระธาตุ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาทสร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย
    รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ ให้อาหารสัตว์เป็นทานเป็นประจำ กรวดน้ำอุทิศบุญ อนุโมทนากับพ่อแม่ญาติพี่น้องที่รักษาศีล ฟังธรรม ให้ทาน อนุโมทนากับเพื่อนๆที่รักษาศีล ศึกษาการรักษาโรค ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ถวายสังฆทานมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ปิดทองพระ รักษาอาการป่วยของผู้อื่นกับผู้ร่วมงาน และที่ผ่านมาได้รักษาอาการป่วยของบิดามารดา ปล่อยชีวิตสัตว์มาโดยตลอด ถวายยาแก่ภิกษุ ขัดองค์พระ ถวายเทียน ให้ความรู้สมุนไพรเพื่อสุขภาพเป็นวิทยาทาน ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ทำบุญหลายอย่างมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ถวายสังฆทานและทำบุญสร้างอาคารผู้ป่วยและกฐินกับเพื่อนๆและให้อาหารเป็นทานแก่สรรพสัตว์กับเพื่อนๆและเพื่อนคนหนึ่งและบริวารของเพื่อนและครอบครัวของเพื่อนได้มีจิตเมตตาให้ทานและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือผู้อื่นอยู่ตลอดและเพื่อนได้เคยสวดมนต์เย็นกับคุณแม่และที่ผ่านมาได้ทำบุญสักการะพระธาตุทำบุญปิดทองชำระหนี้สงฆ์และไหว้พระและทำบุญตามกล่องรับบริจาคตามวัดต่างๆกับเพื่อนและตั้งใจว่าจะสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอให้อนุโมทนาบุญด้วย

    ขอเชิญถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน สักการะพระธาตุ ฟังธรรม สวดมนต์ ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน
    รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาท
    สร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย กรวดน้ำอุทิศบุญ ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สนทนาธรรม
    ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น รักษาอาการป่วยของผู้อื่น รักษาอาการป่วยของบิดามารดา
    ปิดทอง สักการะพระธาตุ กราบอดีตสังขารเจ้าอาวาสที่ไม่เน่าเปื่อย ที่วัดแจ้ง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ปิดทองพระ ปล่อยชีวิตสัตว์ถวายยาแก่ภิกษุ ไหว้พระตามวัดต่างๆ ขัดองค์พระ ให้ความรู้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพเป็นทาน
    และสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอเชิญร่วมบุญกุศลร่วมกันนะ
     
  17. รสมน

    รสมน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,451
    ค่าพลัง:
    +2,047
    ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่า ประเคน คือ อะไร? ประเคน คือ มอบถวายแก่พระภิกษุ
    ประวัติความเป็นมาของการประเคน คือ พระภิกษุรูปหนึ่งเป็นผู้มีปกติประพฤติถือเอา
    ทุกอย่างเหมือนผ้าบังสุกุล(ผ้าเปื้อนฝุ่น) คือ ไม่มีความประสงค์ที่จะรับอาหารบิณฑบาต
    ที่ชาวบ้านถวาย มีแต่แสวงหาอาหารเครื่่องเซ่นเจ้าที่ชาวบ้านเอาไปวางไว้ที่ป้าช้า
    บ้าง ที่โคนต้นไม้ บ้าง ที่ธรณีประตูบ้าง มาฉันเอง เหมือนกับการแสวงหาผ้า
    บังสุกุล ชาวบ้านเห็นเข้า ก็กล่าวติเตียน พระภิกษุทั้งหลายได้ยินคำิติเตียนนั้น
    จึงกราบทูลให้พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงทราบ พระองค์ทรงตรัสถามความประพฤติ
    เป็นไปดังกล่าวนั้น กับภิกษุรูปนั้น ทรงติเตียนว่าการกระทำดังกล่าวไม่เหมาะสม ไม่
    เป็นไปเพื่อความเลื่อมใสแห่งชนผู้ยังไม่เลื่อมใส เป็นต้น จึงทรงบัญญัติเป็นสิกขาบท
    ว่า ภิกษุใด กลืนอาหารที่เขายังไม่ได้ให้ล่วงช่องปาก เป็นปาจิตตีย์ [ต่อมาทรงบัญญัติ
    เพิ่มเติม ว่า ภิกษุใด กลืนอาหารที่เขายังไม่ได้ให้ล่วงช่องปาก เป็นปาจิตตีย์ ยกเ้ว้นน้ำ
    และไม้สีฟัน] นี้คือ ประวัติความเป็นมาของการบัญบัติสกขาบทไม่ให้พระภิกษุฉัน
    อาหารที่ยังไม่ได้รับประเคนจากชาวบ้าน

    สิกขาบทดังกล่าวนี้ เป็นสิกขาบทที่เป็นไปเพื่อการขัดเกลา เพื่อสำรวมระวังให้ไม่
    เป็นผู้หยิบฉวยของผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต ต้้องได้รับจากมือของผู้อื่นซึ่งเป็นผู้มอบ
    ให้ ซึ่งก็คือ การประเคน สำหรับคฤหัสถ์ถ้าได้เข้าใจถึงการประเคนอย่างถูกต้อง
    ย่อมเป็นการดีสำหรับคฤหัสถ์ผู้ถวายที่จะกระทำการประเคนได้อย่างถูกต้อง ซึ่งมีพื้น
    ฐานมาจากการได้ศึกษาพระวินัยให้เข้าใจอย่างถูกต้องนั่นเอง
    ลักษณะของการประเคน ประกอบด้วยองค์ ๕ คือ โดยสรุปจาก
    พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ เล่ม ๒ - หน้าที่ ๕๖๒
    -เป็นวัตถุสิ่งของที่บุรุษผู้มีกำลังปานกลางพอจะยกได้
    -หัตถบาสปรากฏ คือ เขาอยู่ในหัตถบาส(บ่วงมือ) ซึ่งเป็นระยะที่ใกล้ อันแสดงถึง
    การให้ที่ถูกต้อง คือนับจากด้านหลังของพระภกษุและด้านหน้าของผู้ประเคน ประมาณ
    ๒ ศอกกับอีกหนึ่งคืบ ทั้งผู้ให้และผู้รับต้องอยู่ในหัตถบาส
    -เขาน้อมเข้ามาถวาย
    -มีบุคคลผู้ถวาย
    -พระภิกษุรับประเคนสิ่งของนั้น ด้วยกาย หรือ ด้วยของที่เนื่องด้วยกาย
    การประเคน ย่อมใช้ได้ ด้วยองค์ ๕ ประการ ดังที่ได้กล่าวมาแล้ว
    ประเด็นที่จะได้ศึกษาพิจารณาเพิ่มเติม คือ
    ๑. การนำภาชนะมาต่อกันแล้วยกประเคนเพียงชามเดียวได้หรือไม่
    คำตอบ คือ ไม่ได้ การประเคนอย่างนี้ไม่ถูกต้อง ต้องยกถวายทีละชาม แต่ถ้า
    วางอาหารหลาย ๆ ชามลงในถาด แล้วยกถวายทั้งถาด อย่างนี้ถูกต้อง
    ๒. ถ้าถวายอาหารที่อยู่บนโต๊ะจีน ด้วยการประเคนทั้งโต๊ะเลย ได้หรือไม่?
    คำตอบ คือ ไม่ได้ การกระทำอย่างนี้ ไม่ถูกต้อง เพราะโต๊ะจีนที่เต็มไปด้วยอาหาร
    ไม่ใช่ิสิ่งของที่บุรุษผู้มีกำลังปานกลางพอจะยกได้
    ๓. ถ้าถวายอาหารให้กับพระภิกษุรูปหนึ่ง แล้วพระภิกษุรูปนั้น ยกอาหารส่งต่อให้
    พระภิกษุรูปต่อ ๆ ไป ได้หรือไม่
    คำตอบ คือ ได้ เพราะมีการประเคนอย่างถูกต้องแล้ว ไม่ได้มีการหยิบฉวยโดย
    ไม่ได้มีผู้ถวาย, มีพระภิกษุผู้รับประเคนเพียงรูปเดียว ก็สามารถแบ่งให้รูปอื่น ๆ ฉันได้
    จะฉันกี่รูปก็ได้
    ๔. เมื่อประเคนอาหารแก่พระภิกษุแล้ว คฤหัสถ์ เข้าไปจัดให้เรียบร้อย จะขาดการ
    ประเคนหรือไม่ เพราะหลายคนเข้าใจว่าเมื่อประเคนของแก่พระภิกษุแล้ว คฤหัสถ์จะ
    จับต้องไม่ได้

    พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ เล่ม ๒ - หน้าที่ ๕๕๕
    โภชนวรรค สิกขาบทที่ ๑๐
    เรื่องภิกษุรูปหนึ่ง
    [๕๒๒] โดยสมัยนั้น พระผู้มีพระภาคพุทธ เจ้าประทับอยู่ ณ กูฏาคาร
    ศาลาป่ามหาวัน เขตพระนครเวสาลี ครั้งนั้น ภิกษุรูปหนึ่ง เป็นผู้มีปกติถือ
    ของทุกอย่างเป็นบังสกุลที่อยู่ในสุสานประเทศ(ป่าช้า) ท่านไม่ปรารถนาจะรับ
    อาหารที่ประชาชนถวาย เที่ยวถือเอาอาหารเครื่องเซ่นเจ้าตามป่าช้าบ้าง
    ตามโคนไม้บ้าง ตามธรณีประตูบ้าง มาฉันเอง ประชาชนต่างก็เพ่งโทษติเตียน
    โพนทะนาว่า ไฉน ภิกษุนี้จึงได้ถือเอาอาหารเครื่องเช่นเจ้า ของพวกเราไปฉัน
    เองเล่า ภิกษุนี้อ้วนล่ำ บางทีจะฉันเนื้อมนุษย์.
    ภิกษุทั้งหลายได้ยินประชาชนพวกนั้น เพ่งโทษติเตียนโพนทะนาอยู่
    บรรดาที่เป็นผู้มักน้อย . . . ต่างก็เพ่งโทษติเตียนโพนทะนาว่า ไฉนภิกษุจึงได้
    กลืนอาหารที่เขายังไม่ได้ให้ ล่วงช่องปากเล่า . . . แล้ว กราบทูลเรื่องนั้นแด่
    พระผู้มีพระภาคเจ้า.
    ทรงสอบถาม
    พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงสอบถามภิกษุรูปนั้นว่า ดูก่อนภิกษุ ข่าวว่า
    เธอกลืนอาหารที่เขายังไม่ได้ให้ ล่วงช่องปาก จริงหรือ.
    ภิกษุนั้น ทูลรับว่า จริง พระพุทธเจ้าข้า.
    ทรงติเตียนแล้วบัญญัติสิกขาบท
    พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้า ทรงติเตียนว่า ดูก่อนโมฆบุรุษ ไฉน เธอจึง
    ได้กลืนอาหารที่เขายังไม่ได้ให้ ล่วงช่องปากเล่า การกระทำของเธอนั่น ไม่
    เป็นไปเพื่อความเลื่อมใสของชุมชนที่ยังไม่เลื่อมใส หรือเพื่อความเลื่อมใสยิ่ง
    ของชุมชนที่เลื่อมใสแล้ว. . .
    ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็แลพวกเธอพึงยกสิกขาบทนี้ขึ้นแสดงอย่างนี้
    ว่าดังนี้:-
    พระบัญญัติ
    อนึ่ง ภิกษุใด กลืนอาหารที่เขายังไม่ได้ให้ล่วงช่องปาก เป็นปาจิตตีย์.
    ก็สิกขาบทนี้ ย่อมเป็นอันพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงบัญญัติแล้วแก่ภิกษุ
    ทั้งหลาย ด้วยประการฉะนี้.
    เรื่องภิกษุรูปหนึ่ง จบ.
    ทรงอนุญาตน้ำและไม้ชำระฟัน
    [๕๒๓] ก็โดยสมัยนั้นแล ภิกษุพากันรังเกียจน้ำและไม้ชำระฟัน
    ภิกษุทั้งหลายได้กราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า ๆ ทรงอนุญาตว่า
    ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้ถือเอาน้ำ และไม้ชำระฟันเองแล้วบริโภคได้.
    ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็แลพวกเธอพึงยกสิกขาบทนี้ขึ้นแสดงอย่างนั้น
    ว่าดังนี้:-
    พระอนุบัญญัติ
    อนึ่ง ภิกษุใด กลืนอาหารที่เขายังไม่ได้ให้ ล่วงช่องปาก
    เว้นไว้แต่น้ำและไม้ชำระฟัน เป็นปาจิตตีย์.
    เรื่องทรงอนุญาตน้ำและไม้ชำระฟัน จบ.

    เอาบุญมาฝากจะถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ สักการะพระธาตุ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาทสร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย
    รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ ให้อาหารสัตว์เป็นทานเป็นประจำ กรวดน้ำอุทิศบุญ อนุโมทนากับพ่อแม่ญาติพี่น้องที่รักษาศีล ฟังธรรม ให้ทาน อนุโมทนากับเพื่อนๆที่รักษาศีล ศึกษาการรักษาโรค ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ถวายสังฆทานมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ปิดทองพระ รักษาอาการป่วยของผู้อื่นกับผู้ร่วมงาน และที่ผ่านมาได้รักษาอาการป่วยของบิดามารดา ปล่อยชีวิตสัตว์มาโดยตลอด ถวายยาแก่ภิกษุ ขัดองค์พระ ถวายเทียน ให้ความรู้สมุนไพรเพื่อสุขภาพเป็นวิทยาทาน ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ทำบุญหลายอย่างมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ถวายสังฆทานและทำบุญสร้างอาคารผู้ป่วยและกฐินกับเพื่อนๆและให้อาหารเป็นทานแก่สรรพสัตว์กับเพื่อนๆและเพื่อนคนหนึ่งและบริวารของเพื่อนและครอบครัวของเพื่อนได้มีจิตเมตตาให้ทานและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือผู้อื่นอยู่ตลอดและเพื่อนได้เคยสวดมนต์เย็นกับคุณแม่และที่ผ่านมาได้ทำบุญสักการะพระธาตุทำบุญปิดทองชำระหนี้สงฆ์และไหว้พระและทำบุญตามกล่องรับบริจาคตามวัดต่างๆกับเพื่อนและตั้งใจว่าจะสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอให้อนุโมทนาบุญด้วย

    ขอเชิญถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน สักการะพระธาตุ ฟังธรรม สวดมนต์ ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน
    รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาท
    สร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย กรวดน้ำอุทิศบุญ ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สนทนาธรรม
    ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น รักษาอาการป่วยของผู้อื่น รักษาอาการป่วยของบิดามารดา
    ปิดทอง สักการะพระธาตุ กราบอดีตสังขารเจ้าอาวาสที่ไม่เน่าเปื่อย ที่วัดแจ้ง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ปิดทองพระ ปล่อยชีวิตสัตว์ถวายยาแก่ภิกษุ ไหว้พระตามวัดต่างๆ ขัดองค์พระ ให้ความรู้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพเป็นทาน
    และสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอเชิญร่วมบุญกุศลร่วมกันนะ

    ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพสร้างศาลาการเปรียญ
    โทรศัพท์ 083-959-9820
    <O </O

    ขอเชิญผู้มีจิตศรัทธาร่วมบุญหล่อระฆังและสร้างหอระฆัง
    โทร. 089-8523498

    ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพกัณฑ์เทศน์มหาชาติเวสสันดรชาดกประยุกต์ ๓ ธรรมาสน์
    โทร.081-0027915

    กำหนดการงานแสดงธรรม ต้อนรับปีใหม่และตรุษจีน
    วันอาทิตย์ที่ 22 มกราคม 55 ณ.หอประชุมทหารอากาศชั้นประทวน
    ด้านหลัง ร.พ.ภูมิพล ถ.พหลโยธิน ติดต่อลงทะเบียน 02-9713718
     
  18. รสมน

    รสมน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,451
    ค่าพลัง:
    +2,047
    รูป ทั้งหมดมี ๒๘ รูป เป็นมหาภูตรูป ๔ และอุปาทายรูป ๒๔
    มหาภูตรูป มหา ( ใหญ่ , มาก ) + ภูต ( เกิดแล้ว , มีอยู่ ) + รูป ( รูป )
    รูปที่เกิดขึ้นแล้วเป็นใหญ่ เป็นประธาน หมายถึง สภาวรูป ๔ รูป คือ ปฐวี ( ดิน )
    อาโป ( น้ำ ) เตโช ( ไฟ ) วาโย ( ลม ) รูปทั้ง ๔ นี้ ได้ชื่อว่า มหาภูตรูป
    เพราะเป็นสภาพที่เกิดขึ้นมีอยู่โดยความเป็นใหญ่เป็นประธาน และเป็นที่อาศัยของ
    อุปาทายรูป ( รูปที่อาศัยมหาภูตรูป )
    อุปาทายรูป อุป ( เข้าไป ) + อาทาย ( ถือเอา , อาศัย ) + รูป ( รูป )
    รูปที่เข้าไปอาศัยมหาภูตรูป หมายถึง รูป ๒๔ รูป นอกเหนือจากมหาภูตรูป ๔ ซึ่ง
    ไม่สามารถเกิดขึ้นเองตามลำพังได้ จะต้องอาศัยมหาภูตรูปเกิดพร้อมกัน มหาภูตรูป ๔
    จึงเป็นที่อาศัยของอุปาทายรูป ๒๔ เป็นเหมือนกับแผ่นดิน ที่เป็นที่อาศัยรองรับต้นไม้
    หรือบ้านเรือน
    ดังนั้น อุปาทายรูป จึงไม่ใช่ มหาภูตรูป 4(ดิน น้ำ ไฟ ลม) รวมกับ อวินิพโภครูปอีก 4
    เพราะอุปทายรูป เป็นรูปที่อาศัย มหาภูตรูป 4 เกิดขึ้น อุปทายรูป จึงเป็นรูปที่ไม่ใช่
    มหาภูตรูป 4 รูปใดที่ไม่ใช่มหาภูตรูป 4 รูปที่เหลือเป็นอุปทายรูปทั้งหมด มี 24 รูปครับ
    ส่วนอวินิพโภครูป จะต้อง มีอย่างน้อย 8 นะครับ มี 4 ไม่ไ้ด้ เพราะไม่สามารถแยก
    จากกันได้อีก อย่างน้อย ต้องมีกลุ่มของรูป ทั้งหมด 8 รูป ที่เรียกว่า อวินิพโภครูป
    อวินิพโภครูป ๘ ประกอบด้วย มหาภูตรูป ๔ และ อุปทายรูป ๔
    มหาภูตรูป (รูปที่เป็นใหญ่เป็นประธาน) ๔ ได้แก่
    ปฐวีธาตุ (ธาตุดิน) เป็นรูปที่อ่อนหรือแข็ง
    อาโปธาตุ (ธาตุน้ำ) เป็นรูปที่เอิบอาบหรือเกาะกุม

    เตโชธาตุ (ธาตุไฟ) เป็นรูปที่ร้อนหรือเย็น
    วาโยธาตุ (ธาตุลม) เป็นรูปที่ไหวหรือตึง
    มหาภูตรูป ๔ นี้ ต้องอาศัยกันเกิดขึ้น จึงแยกกันไม่ได้เลย และมหาภูตรูป ๔ นี้
    เป็นปัจจัย โดยเป็นที่อาศัยเกิดของรูปอีก ๔ รูป ที่เกิดร่วมกับมหาภูตรูปในกลาป
    เดียวกัน คือ อุปาทายรูป ๔ ได้แก่
    วัณโณ (แสงสี) เป็นรูปที่ปรากฏทางตา
    คันโธ ( กลิ่น) เป็นรูปที่ปรากฏทางจมูก
    รโส (รส) เป็นรูปที่ปรากฏทางลิ้น
    โอชา (อาหาร) เป็นรูปที่เป็นปัจจัยให้เกิดรูป
    รูป ๘ นี้แยกกันไม่ได้เลย เป็นกลุ่มของรูปที่เล็กที่สุดที่เกิดพร้อมกันและดับพร้อมกัน
    อย่างรวดเร็ว จะมีแต่มหาภูตรูป ๔ โดยไม่มี อุปาทายรูป (รูปที่อาศัยมหาภูตรูปเกิด)
    ๔ รูปนี้ไม่ได้เลย
    เพราะฉะนั้น อวินิพโภครูป เป็นกลุ่มของรูปที่เป็นมหาภูตรูป 4 และ อุปทายรูป อีก 4
    ตามที่กล่าวมา ซึ่งความจริง อุปทายรูป มี 24 รูปครับ
    ส่วนอุตุชรูป หมายถึง รูปที่เกิดจากอุตุ เป็นสมุฏฐานให้เกิด คือ ในประเด็นนี้เราแบ่งว่า
    รูป เมื่อเกิดขึ้นจะต้องมีสมุฏฐานที่ทำให้เกิดรูป เช่น รูปที่เกิดจากกรรม จิต อุตุ อาหาร
    ดังนั้นก็เป็นการแยกเป็นอีกหมวดตามที่ผู้ถามได้กล่าวแล้วนั้นถูกต้องครับ คือ แบ่งเป็น
    หมวดของรูปที่ สมุฏฐานให้เกิดรูปมีอะไรบาง ก็มี อุตุ เป็นสมุฏฐานให้เกิดรูปครับ
    อุตุชรูป คือ รูปที่เกิดจากอุตุ(ความเย็น ความร้อน) และอุตุชรูปนี้เกิดได้ทั้งภายใน
    และภายนอก สำหรับภายในสัตว์ เกิดขึ้นได้ทุก ๆ ขณะของจิต นับตั้งแต่ฐีติขณะของ
    ปฏิสนธิ เป็นต้นมา จิตเกิดขึ้น ๑ ขณะ จะมีอนุขณะ ๓ คือ อุปาทขณะ ฐีติขณะ ภังคขณะ
    อุตุชรูป ๑๓ อุตุชรูป คือรูปที่เกิดจากอุตุ และรูปที่เกิดจากอุตุมี ๑๓ คือ อวินิพโภครูป
    ๘ (มหาภูตรูป ๔, วัณณรูป ๑, คันธรูป ๑, รสรูป ๑, โอชา ๑) ปริจเฉทรูป๑ วิการรูป
    ๓ (ลหุตารูป มุทุตารูป กัมมัญญตารูป)สัททรูป ๑
    สภาวรูป
    ส ( มี ) + ภาว ( ความมี , ความเป็น ) + รูป ( รูป )
    รูปที่มีภาวะ หมายถึง รูปที่มีลักษณะประจำตัวปรากฏให้รู้ได้ เช่น ...
    วัณณรูป ( สี ) มีภาวลักษณะคือ ปรากฏให้รู้ได้ทางตา
    สัททรูป ( เสียง ) มีภาวลักษณะคือ ปรากฏให้รู้ทางหู เป็นต้น
    สภาวรูปมีทั้งหมด ๑๘ รูป คือ ...
    มหาภูตรูป ๔
    ปสาทรูป ๕
    ภาวรูป ๒
    วิสยรูป ๔ ( สี เสียง กลิ่น รส )
    หทยรูป ๑
    ชีวิตรูป ๑
    โอชารูป ๑
    อสภาวรูป
    อสภาว ( ไม่มีสภาวะ ) + รูป ( รูป )
    รูปที่ไม่มีสภาวะ หมายถึง รูปที่ไม่มีสภาวลักษณะเป็นของตน แต่เกิดมีขึ้นได้เพราะ
    อาศัยสภาวรูป เช่น ปริจเฉทรูป เป็นรูปที่เป็นช่องว่างคั่นระหว่างรูปกลาปกับรูปกลาป
    ถ้าไม่มีสภาวรูปที่เป็นกลาปหลายๆ กลาปมารวมกันจนเกิดช่องว่าง ปริจเฉทรูปก็เกิด
    ขึ้นไม่ได้ เป็นต้น
    อสภาวรูปมี ๑๐ รูป ได้แก่ ...
    ปริจเฉทรูป ๑
    วิญญัติรูป ๒
    วิการรูป ๓
    ลักขณรูป ๔


    เอาบุญมาฝากจะถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ สักการะพระธาตุ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาทสร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย
    รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ ให้อาหารสัตว์เป็นทานเป็นประจำ กรวดน้ำอุทิศบุญ อนุโมทนากับพ่อแม่ญาติพี่น้องที่รักษาศีล ฟังธรรม ให้ทาน อนุโมทนากับเพื่อนๆที่รักษาศีล ศึกษาการรักษาโรค ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ถวายสังฆทานมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ปิดทองพระ รักษาอาการป่วยของผู้อื่นกับผู้ร่วมงาน และที่ผ่านมาได้รักษาอาการป่วยของบิดามารดา ปล่อยชีวิตสัตว์มาโดยตลอด ถวายยาแก่ภิกษุ ขัดองค์พระ ถวายเทียน ให้ความรู้สมุนไพรเพื่อสุขภาพเป็นวิทยาทาน ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ทำบุญหลายอย่างมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ถวายสังฆทานและทำบุญสร้างอาคารผู้ป่วยและกฐินกับเพื่อนๆและให้อาหารเป็นทานแก่สรรพสัตว์กับเพื่อนๆและเพื่อนคนหนึ่งและบริวารของเพื่อนและครอบครัวของเพื่อนได้มีจิตเมตตาให้ทานและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือผู้อื่นอยู่ตลอดและเพื่อนได้เคยสวดมนต์เย็นกับคุณแม่และที่ผ่านมาได้ทำบุญสักการะพระธาตุทำบุญปิดทองชำระหนี้สงฆ์และไหว้พระและทำบุญตามกล่องรับบริจาคตามวัดต่างๆกับเพื่อนและตั้งใจว่าจะสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอให้อนุโมทนาบุญด้วย

    ขอเชิญถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน สักการะพระธาตุ ฟังธรรม สวดมนต์ ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน
    รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาท
    สร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย กรวดน้ำอุทิศบุญ ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สนทนาธรรม
    ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น รักษาอาการป่วยของผู้อื่น รักษาอาการป่วยของบิดามารดา
    ปิดทอง สักการะพระธาตุ กราบอดีตสังขารเจ้าอาวาสที่ไม่เน่าเปื่อย ที่วัดแจ้ง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ปิดทองพระ ปล่อยชีวิตสัตว์ถวายยาแก่ภิกษุ ไหว้พระตามวัดต่างๆ ขัดองค์พระ ให้ความรู้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพเป็นทาน
    และสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอเชิญร่วมบุญกุศลร่วมกันนะ

    ขอเชิญร่วมบริจาค ทำบุญสร้างวิหารหลวงพ่อพระพุทธโคดม
    ณ.วัดหนองรังสิตวราราม
    ต.บ้านใหม่ไชยมงคล อ.ทุ่งเสลี่ยม จ.สุโขทัย
    ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ ๐๘๙-๘๖๒๙๗๒๓

    ขอเชิญร่วมบริจาคและร่วมพิธีเททองหล่อพระศรีศาสดา
    วันเสาร์ ที่ 21 มกราคม 2555 เวลา 13.00น ถึง 15.00 น.
    ณ วัดบางอ้อยช้าง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี (บางกรวยไทรน้อย ซอย.29

    มหากุศลครั้งสำคัญในชีวิต ร่วมสร้างมหาเจดีย์ฯ เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา
    โทร.๐๓๙ – ๔๙๕๒๔๓

    ขอเชิญทุกท่านร่วมบำเพ็ญบารมีถวายแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ด้วยการถวายอุณาโลมประดับเพชร
    โทร 0837003968

    ครั้งหนึ่งในชีวิตสร้างรูปเหมือนหลวงปู่เสาร์ กันตสีโล เป็นอาจาริยบูชา
    โทร.085-361-4989<O </O

    ขอเชิญผู้มีจิตศรัทธาที่ประสงค์จะเป็นเจ้าภาพหล่อพระประธาน ณ วัดเหมืองแร่ อำเภอเขาชะเมา จังหวัดระยอง หรือติดต่อได้ที่ พระอธิการประกอบ สุมโน เบอร์โทร 084 7844 893 กำหนดการหล่อพระประธาน พระพุทธชินราชจำลอง วันที่ 30 ธันวาคม 2555 ถึ งวันที่ 1 มกราคม 2556 เวลา 15.19 น.


    เชิญจองเป็นเจ้าภาพสร้างพระพุทธรูปอู่ทอง-เชียงแสน-สุโขทัย องค์ละ ๓๕,๐๐๐ บาทติดต่อด่วน
    โทร.๐๘๕-๑๙๘-๒๙๑๑

    ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพกัณฑ์เทศน์มหาชาติเวสสันดรชาดกประยุกต์ ๓ ธรรมาสน์
    โทร.081-0027915

    ขอเชิญร่วมทอดผ้าป่าสามัคคี ซื้อเครื่องล้างไตฟอกเลือด เพื่อบริจาคให้โรงพยาบาลเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ กับ กองทุนรัศมีบุญ
    กำหนดการทอดผ้าป่า ในวันมาฆะบูชา วันพุธที่ 7 มีนาคม 2555 ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 4
    เนื่องด้วย ต้นเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2554 พระอาจารย์วรงคต วิริยะธโร วัดพุทธพรหมปัญโญ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ (หลวงตาม้

    เชิญร่วมพิธีฉลองสมโภชพระมหาเจดีย์บุรพาจารย์วัดป่าวิเวกธรรม
    แสดงความจำนงเป็นเจ้าภาพภัตตาหาร ค่าพาหนะ จตุปัจจัยไทยธรรมถวายพระ และเป้นเจ้าภาพโรงทานที่ คุณลุงเยี่ยม พรมจักร 089 710 9476 / คุณแม่มาลี ชัยนา 086 643 7091 หรือที่ thasanee_c@yahoo.com


    เฟสบุ๊คเพื่อสนทนาปัญหาธรรมะและเผยแผ่ธรรมะของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
    เข้าสู่ระบบ | Facebook

    ขอเชิญท่านเป็นเจ้าของหนังสือที่มีสาระ ได้ประโยชน์ และสามารถนำไปประยุกต์ใช้แก้ปัญหาชีวิตได้เป็นอย่างดี
    พร้อมกันนั้น ท่านก็สามารถร่วมทำบุญ โดยรายได้ส่วนหนึ่งจะนำไปมอบให้กับเด็กนักเรียนที่เรียนดี แต่ขาดทุนทรัพย์
    และร่วมสนับสนุนกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับทางศาสนา เช่น การตั้งโรงทาน การพิมพ์หนังสือสวดมนต์ การช่วยเหลือพระสงฆ์ที่อาพาธ
    ดูรายละเอียดที่


    ขอเชิญผู้สนใจเรียนการเจริญสติ แบบ "อานาปาณสติ" รุ่นที่ 52
    สอนตามแนวของหลวงพ่อลี วัดอโศการาม
    ณ อาคารพุทธเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน กทม.
    ระยะเวลา: จำนวน 2 วัน
    วันเสาร์ที่ 25 ก.พ. 2555 เวลา 13.00 น.-18.00 น. (ลงทะเบียน 12.30 น.)
    วันอาทิตย์ที่ 26 ก.พ. 2555 เวลา 08.30 น.-18.00 น.

    สนใจสมัครได้ที่:
    1. คุณอนุชา Tel. 086-8981922 (Mobile)
    2. คุณชูชาติ Tel. 02-9391254 กด 1 Mobile. 081-3779775
    3. คุณนา Tel. 081-3779775


    ขอเมตตาจัดซื้อผ้าริ้ว ประดับตกแต่งวัดงานบุญใหญ่ ม้วนละ ๑,๕๐๐ บาท
    โทร ๐๘๓-๑๑๔๓๖๘๑

    ร่วมบุญ รับ หลวงพ่อทรง วัดศาลาดิน
    บ/ช วัดป่าวิสุทธิคุณ
    ธ.กรุงไทย สาขาชะอำ เลขที่ บ/ช
    717-1-38052-1 "สำหรับผู้มีกำลังทรัพย์" นำทรัพย์ถวายโดยตรงที่วัด ทั้งสองวัด
    บอกทางวัด(ตามที่วัดกำหนดไว้) ส่งในนามกระผม "รัตน์ 080-256 -6881"
    ติดต่อรับพระ ที่ได้
     
  19. รสมน

    รสมน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,451
    ค่าพลัง:
    +2,047
    อุปมา เรื่องรถ(อริยมรรค) กับ สภาพธรรมฝ่ายดีต่างๆ
    พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้าที่ 249
    ๖. อัจฉราสูตร
    [๑๔๔] พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสตอบว่า
    ทางนั้นชื่อว่าเป็นทางตรง(อริยมรรค) ทิศ(พระนิพพาน)นั้นชื่อว่าไม่มีภัย รถชื่อว่า
    ไม่มีเสียงดัง ประกอบด้วยล้อคือธรรม หิริเป็นฝาของรถนั้น สติเป็นเกราะกั้นของรถนั้น
    เรากล่าวธรรมมีสัมมาทิฏฐิ(ปัญญา)นำหน้าว่าเป็นสารถี ยาน(อริยมรรค)ชนิดนี้มีอยู่แก่
    ผู้ใด จะเป็นหญิงหรือชายก็ตาม เขา (ย่อมไป) ในสำนักพระนิพพานด้วยยานนี้แหละ.
    ***********************************************
    พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค เล่ม ๕ ภาค ๑ - หน้าที่ 13
    พราหมณสูตร
    อริยมรรคญาณนั้นมีธรรม คือ ศรัทธากับปัญญาเป็นแอก มีศรัทธาเป็นทูบ มีหิริ
    เป็นงอน มีใจเป็นเชือกชัก มีสติเป็นสารถีผู้ควบคุม รถนี้มีศีลเป็นเครื่องประดับ มี
    ฌานเป็นเพลา มีความเพียรเป็นล้อ มีอุเบกขากับสมาธิเป็นทูบ ความไม่อยากได้
    เป็นประทุน กุลบุตรใดมีความไม่พยาบาทความไม่เบียดเบียน และวิเวกเป็นอาวุธ มี
    ความอดทนเป็นเกราะหนัง กุลบุตรนั้นย่อมเป็นไปเพื่อความเกษมจากโยคะ พรหม
    ยานอันยอดเยี่ยมนี้ เกิดแล้วในตนของบุคคลเหล่าใด บุคคลเหล่านั้นเป็นนักปราชญ์
    ย่อมออกไปจากโลกโดยความแน่ใจว่า มีชัยชนะโดยแท้
    เอาบุญมาฝากจะถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ สักการะพระธาตุ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาทสร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย
    รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ ให้อาหารสัตว์เป็นทานเป็นประจำ กรวดน้ำอุทิศบุญ อนุโมทนากับพ่อแม่ญาติพี่น้องที่รักษาศีล ฟังธรรม ให้ทาน อนุโมทนากับเพื่อนๆที่รักษาศีล ศึกษาการรักษาโรค ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ถวายสังฆทานมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ปิดทองพระ รักษาอาการป่วยของผู้อื่นกับผู้ร่วมงาน และที่ผ่านมาได้รักษาอาการป่วยของบิดามารดา ปล่อยชีวิตสัตว์มาโดยตลอด ถวายยาแก่ภิกษุ ขัดองค์พระ ถวายเทียน ให้ความรู้สมุนไพรเพื่อสุขภาพเป็นวิทยาทาน ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ทำบุญหลายอย่างมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ถวายสังฆทานและทำบุญสร้างอาคารผู้ป่วยและกฐินกับเพื่อนๆและให้อาหารเป็นทานแก่สรรพสัตว์กับเพื่อนๆและเพื่อนคนหนึ่งและบริวารของเพื่อนและครอบครัวของเพื่อนได้มีจิตเมตตาให้ทานและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือผู้อื่นอยู่ตลอดและเพื่อนได้เคยสวดมนต์เย็นกับคุณแม่และที่ผ่านมาได้ทำบุญสักการะพระธาตุทำบุญปิดทองชำระหนี้สงฆ์และไหว้พระและทำบุญตามกล่องรับบริจาคตามวัดต่างๆกับเพื่อนและตั้งใจว่าจะสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอให้อนุโมทนาบุญด้วย

    ขอเชิญถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน สักการะพระธาตุ ฟังธรรม สวดมนต์ ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน
    รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาท
    สร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย กรวดน้ำอุทิศบุญ ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สนทนาธรรม
    ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น รักษาอาการป่วยของผู้อื่น รักษาอาการป่วยของบิดามารดา
    ปิดทอง สักการะพระธาตุ กราบอดีตสังขารเจ้าอาวาสที่ไม่เน่าเปื่อย ที่วัดแจ้ง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ปิดทองพระ ปล่อยชีวิตสัตว์ถวายยาแก่ภิกษุ ไหว้พระตามวัดต่างๆ ขัดองค์พระ ให้ความรู้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพเป็นทาน
    และสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอเชิญร่วมบุญกุศลร่วมกันนะ
     
  20. รสมน

    รสมน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,451
    ค่าพลัง:
    +2,047
    อานิสงส์สลากภัตต์ (ข้าวสาร)
    ......เพราะบุญในคราวนี้เป็นการทำบุญแตกต่างกว่าธรรมดาเพราะมีการจับสลาก แล้วก็ถวายไปตาม
    รายชื่อพระภิกษุสามเณรที่จับได้นั้น การทำบุญนี้เป็นการไม่จำเพาะเจาะจงว่าจะเป็นพระภิกษุรูปใดหรือ
    สามเณรองค์ใดก็ยินดีถวายทั้งนั้นเป็นการกำจัดกิเลสชนิดหนึ่งเรียกว่าอคติเสียได้ ทาน ศีล การฟังธรรม
    ในอดีตกาลล่วงมาแล้ว มีพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งทรงพระนามว่า ปทุมมุตตระ อาศัยอยู่ใน
    กรุงสาวัตถีนครเป็นที่โคจรบิณฑบาต
    ..... มีสามีภรรยาคู่หนึ่งเป็นคนยากจนอนาถา อยู่ในพระนครนั้น
    แสวงหาเลี้ยงชีพด้วยการรับจ้างหาฟืนขาย อยู่มาวันหนึ่งบุรุษผู้สามีพิจารณาดูการเลี้ยงชีพที่ฝืดเคืองนักก็
    เนื่องมาจากตนมิได้บำเพ็ญกองการกุศล มีการให้ทานรักษาศีล สดับรับฟังพระธรรมเทศนาและเจริญ
    เมตตาภาวนาเป็นต้นในชาติปางก่อนอย่างแน่นอน มาในชาตินี้จึงเป็นคนเข็ญใจไร้ทรัพย์อับปัญญา เมื่อ
    มาพิจารณาดังนี้แล้ว จิตใจก็อยากจะทำบุญให้ทานเพื่อจะได้เป็นนิธิขุมทรัพย์ เป็นเสบียงไปในปรภพ
    เบื้องหน้า จึงปรึกษากับภรรยาของตนตามที่เจตนาดำริไว้นั้น ฝ่ายภรรยาก็คล้อยตามไปด้วยความยินดี
    รีบจัดแจงหาเครื่องไทยทาน ทำตามสมควรแก่กำลังของตน แล้วนำไปสู่อารามทำเป็นสลากภัตต์พร้อม
    กับมหาชนทั้งหลาย สามีภรรยาคู่นั้นจับสลากถูกภิกษุรูปหนึ่งจึงน้อมเข้าไปถวายด้วยความปีติ แล้วตั้ง
    ความปรารถนาว่าเดชะบุญกุศลผลทานนี้ ขอให้ข้าพเจ้าบริบูรณ์ด้วยยศศักดิ์สมบัติบริวาร ขึ้นชื่อว่าความ
    ตกทุกข์ได้ยากเข็ญใจ เหมือนในชาตินี้อย่า ได้พึงมีแก่ข้าพเจ้าในภพต่อ ๆ ไปเลย สามีภรรยาคู่นั้นอยู่ต่อ
    มาจนสิ้นอายุขัยทำกาลกิริยาตายไปแล้วก็อุบัติในดาวดึงส์สวรรค์สิ้นบุญแล้วก็มาเกิดเป็นพระเจ้าศรัทธา
    ติสสะ ณ เมืองพาราณสี พระเจ้าศรัทธาติสสะนั้นครั้นกลับชาติมาก็คือพระตถาคตนี้เอง เมื่อสิ้นกระแส
    พระธรรมเทศนาแล้วเหล่าพุทธบริษัท ทั้งหลาย มีพระเจ้าปัสเสนทิโกศลเป็นต้น ก็ชื่นชมผลทานในการ
    ถวายสลากภัตต์เป็นยิ่งนัก


    อานิสงส์สังฆทาน
    ......การถวายอาหารบิณฑบาตแก่ภิกษุสงฆ์ให้แก่บรรดาท่านพุทธศาสนิกชนทั้งหลายที่ได้พร้อมใน
    กันนำอาหารบิณฑบาตพร้อมด้วยเครื่องบริวารทั้งหลายมาถวายในท่ามกลางสงฆ์มิได้จำเพาะเจาะจงแก่
    พระภิกษุรูปใดรูปหนึ่งก็หามิได้อย่างนี้เรียกว่าสังฆทานอีกอย่างหนึ่งเรียกว่าถวายทานเจาะจงบุคลิก รูป
    นั้น รูปนี้ อย่างนี้เรียกว่า ปาฏิบุคลิกทาน จึงจัดเป็น ๒ ประเภทดังที่ได้แสดงมาแล้วนั้นการถวายทานนั้น
    ถ้าถวายเป็นสังฆทานมีผลาสิสงส์มากกว่าบุคลิกทาน
    จากดังจะเห็นจากพระสิวลีเถระผู้มีลาภมาก จนได้รับเป็นเอตทัคคะ จากพระพุทธเจ้าว่าเป็นผู้เลิศด้วยลาภ
    จะไปทางไหน ก็มีแต่อดิเรกลาภ เหลือหลาย บริบูรณ์
    ก็เพราะท่านได้ถวายทานมาแต่ในชาติปางก่อน ชาตินี้ท่านก็มีความสุขกายสบายใจไม่เดือด
    ร้อนอดอยาก ความพิสดารว่าในสมัยหนึ่ง พระผู้เป็นเจ้าสิวลีได้เกิดเป็นบุตรของเศรษฐี เมื่อเจริญวัยขึ้น
    มาก็มีจิตศรัทธาเลื่อมใสได้ให้ทานแก่พระปัจเจกโพธิวันละองค์ ๆ ครั้นต่อมาได้รับสมบัติแทนบิดา เป็น
    เศรษฐีก็ถวายทานแก่พระปัจเจกโพธิขึ้นอีกรวมเป็น ๗ องค์ ต่อวัน ตลอดมากระทำอยู่ดังนี้จนสิ้นชีพ ก็
    ได้ไปเกิดบนสวรรค์ชั้นยามามีวิมานสูง ๓๐ โยชน์ มีนางฟ้าเทพอัปสรหนึ่งหมื่นเป็นบริวาร เสวยสุข
    ทิพย์สมบัติในชั้นยามาประมาณโกฏิปีในเมืองมนุษย์ ครั้นถึงศาสนาของสมเด็จพระพุทธเจ้าของเราทุก
    วันนี้จึงจุติมาถือกำเนิดในตระกูลเจ้าศากยะ บริบูรณ์โภคสมบัติยิ่งนัก ครั้นเจริญวัยขั้นมาก็ออกบวชต่อ
    พระพุทธเจ้า ได้บรรลุเป็นพระอรหันต์ขีณาสพ มีชื่อว่าพระสิวลีเถระ เป็นผู้เลิศกว่าภิกษุทั้งหลายที่มี
    ลาภมาก พระเถระจะไปสู่สถานที่ใดเทวดามนุษย์ทั้งหลายย่อมสักการบูชาด้วยเครื่องไทยทานอย่างมาก
    มายแม้บริวารของท่านก็พลอยบริบูรณ์พูนสุขไปด้วยดังนี้ ก็เพราะอานิสงส์แห่งการถวายทานให้เป็น
    สังฆทาน



    อานิสงส์สร้างหนังสือ
    ......ดังมีใจความว่าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จประทับอยู่ในเชตวันมหาวิหาร ณ
    กรุงสาวัตถี ในเวลานั้นพระสารีบุตรเถระเจ้ามีความประสงค์ว่าจักทูลถามพระพุทธเจ้าให้ทรงแสดง
    ธรรมประกาศอานิสงส์สร้างพระไตรปิฎก ให้ทราบทั่วถึงกันแก่พุทธบริษัทพระเถระเจ้าก็เข้าเฝ้าทูลถาม
    แก่พระผู้มีพระภาคเจ้าว่าข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ถ้าชนทั้งหลายให้พุทธศาสนายืนยาวถึง ๕ พันวัสสา จะ
    มีอานิสงส์เป็นประการใด พระพุทธเจ้าข้า
    ........ พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่า ดูกรท่านสารีบุตร ถ้าชนทั้งหลายมีจิตรศรัทธาเลื่อมใสเช่นนั้นแล้ว
    เมื่อตายไปแล้วก็จักรได้เสวยราชสมบัติเป็นพระเจ้าจักรพรรดิราชถึง ๘ หมื่น ๔ พันกัลป์
    ใช่แต่เท่านั้น เมื่อเคลื่อนจากความเป็นพระเจ้าจักรพรรดิแล้ว ก็จะได้เป็นพระราชา
    มีอนุภาพอีก ๙ อสงไขย ต่อจากนั้นก็ได้เสวยสมบัติในตระกูลต่าง ๆ เป็นลำดับไป คือตระกูลพราหมณ์
    มหาศาล ตระกูลเศรษฐีคฤหบดี และเป็นภูมิเทวดาอากาศเทวดา อย่างละ ๙ อสงไขย ต่อแต่นั้นก็จะได้
    เสวยในสวรรค์ทั้ง ๖ ชั้น เป็นลำดับไปชั้นละ ๘ อสงไขย เมื่อจุติจากชั้นเทวโลกแล้ว มาถือกำเนิดเกิด
    เป็นมนุษย์ ก็จะมีร่างกายบริสุทธิ์ผุดผ่อง เป็นที่รักใคร่แก่คนทั้งหลายที่ได้พบเห็นทั้งน้ำใจก็บริสุทธิ์
    สุจริตปราศจากบาปธรรมอกุศลทั้งปวง และเป็นผู้มีปัญญาเฉลียวฉลาดรอบรู้ทั้งทางโลกและทางธรรม
    ดังนี้เป็นต้น ดูกรท่านสารีบุตรเมื่อตถาคตสร้างบารมีอยู่ได้เกิดเป็นอำมาตย์ของพุทธบิดา แห่งสมเด็จ
    พระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนามว่า ปุราณโคดม ได้สร้างพระไตรปิฎกไว้ให้สืบองค์ได้ตั้งความปรารถนา
    ขอตรัสเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งเถิดในอนาคตกาลโน้น สมเด็จพระปุราณโคดมบรม
    ศาสดาทรงพยากรณ์ไว้ว่า อำมาตย์ผู้นี้ต่อไปภายภาคหน้า จะได้ตรัสเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์
    หนึ่งมีพระนามว่า พระสมณโคดมก็คือพระตถาคต เรานี้เองดังนี้แลก็สิ้นสุดพระกระแสธรรมเทศนา ที่
    พระบรมศาสดาทรงแสดงแก่พระสารีบุตรเถระเจ้าแต่เพียงเท่านี้

    เอาบุญมาฝากจะถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ สักการะพระธาตุ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาทสร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย
    รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ ให้อาหารสัตว์เป็นทานเป็นประจำ กรวดน้ำอุทิศบุญ อนุโมทนากับพ่อแม่ญาติพี่น้องที่รักษาศีล ฟังธรรม ให้ทาน อนุโมทนากับเพื่อนๆที่รักษาศีล ศึกษาการรักษาโรค ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ถวายสังฆทานมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ปิดทองพระ รักษาอาการป่วยของผู้อื่นกับผู้ร่วมงาน และที่ผ่านมาได้รักษาอาการป่วยของบิดามารดา ปล่อยชีวิตสัตว์มาโดยตลอด ถวายยาแก่ภิกษุ ขัดองค์พระ ถวายเทียน ให้ความรู้สมุนไพรเพื่อสุขภาพเป็นวิทยาทาน ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ทำบุญหลายอย่างมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ถวายสังฆทานและทำบุญสร้างอาคารผู้ป่วยและกฐินกับเพื่อนๆและให้อาหารเป็นทานแก่สรรพสัตว์กับเพื่อนๆและเพื่อนคนหนึ่งและบริวารของเพื่อนและครอบครัวของเพื่อนได้มีจิตเมตตาให้ทานและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือผู้อื่นอยู่ตลอดและเพื่อนได้เคยสวดมนต์เย็นกับคุณแม่และที่ผ่านมาได้ทำบุญสักการะพระธาตุทำบุญปิดทองชำระหนี้สงฆ์และไหว้พระและทำบุญตามกล่องรับบริจาคตามวัดต่างๆกับเพื่อนและตั้งใจว่าจะสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอให้อนุโมทนาบุญด้วย

    ขอเชิญถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน สักการะพระธาตุ ฟังธรรม สวดมนต์ ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน
    รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาท
    สร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย กรวดน้ำอุทิศบุญ ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สนทนาธรรม
    ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น รักษาอาการป่วยของผู้อื่น รักษาอาการป่วยของบิดามารดา
    ปิดทอง สักการะพระธาตุ กราบอดีตสังขารเจ้าอาวาสที่ไม่เน่าเปื่อย ที่วัดแจ้ง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ปิดทองพระ ปล่อยชีวิตสัตว์ถวายยาแก่ภิกษุ ไหว้พระตามวัดต่างๆ ขัดองค์พระ ให้ความรู้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพเป็นทาน
    และสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอเชิญร่วมบุญกุศลร่วมกันนะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...