เรื่องเด่น เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๙ กันยายน ๒๕๖๗

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 9 กันยายน 2024 at 17:54.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    18,542
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,441
    ค่าพลัง:
    +26,269
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันจันทร์ที่ ๙ กันยายน ๒๕๖๗


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_7683.jpeg
      IMG_7683.jpeg
      ขนาดไฟล์:
      259.5 KB
      เปิดดู:
      5
  2. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    18,542
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,441
    ค่าพลัง:
    +26,269
    วันนี้ตรงกับวันจันทร์ที่ ๙ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๗ กระผม/อาตมภาพตื่นเช้าขึ้นมาด้วยความสดชื่นเป็นอย่างยิ่ง เพราะว่าลมจากเขื่อนศรีนครินทร์พัดเข้ามายังบ้านพักตลอดเวลา ถ้าหากว่าไม่ใช่สถานที่ซึ่งเปิดประตูหน้าต่างไม่ได้จริง ๆ แล้ว กระผม/อาตมภาพมักจะอาศัยอากาศธรรมชาติมากกว่าที่จะเปิดเครื่องปรับอากาศ ถึงเปิดเครื่องปรับอากาศก็จะเปิดอยู่ที่ ๒๗ หรือว่า ๒๘ องศาเซลเซียส ซึ่งคนอื่นเข้าไปก็เหงื่อแตกพลั่ก แต่กระผม/อาตมภาพนั้นยังรู้สึกว่าหนาวอยู่เลย..!

    ประมาณ ๖ โมงเช้า
    กระผม/อาตมภาพก็เก็บข้าวของขึ้นรถ รอน้องเล็ก (นางสาวจิราพร ซื่อตรงต่อการ) มารับไปที่ห้องอาหารเรือนธารา ซึ่งเมื่อคืนกระผม/อาตมภาพเป็นเจ้าภาพเลี้ยงบรรดาพลขับของพระเถรานุเถระทุกคน เนื่องเพราะว่าพระของเราเมื่อบวชไปนาน ๆ ก็มักจะลืมไปว่าฆราวาสเขายังกินข้าวกันอยู่..! จึงได้มอบหมายให้น้องเล็กไปประจำการอยู่ที่ห้องอาหารเรือนธาราเมื่อคืนนี้ จนกระทั่งคนขับรถคนสุดท้ายที่มาถึง เห็นว่า ๓ ทุ่มกว่าแล้ว "เจ๊เล็ก" ทำท่าจะหลับกลางอากาศ จึงบอกให้ไปเคลียร์บิลล์ที่กินไปแล้วทั้งหมด พร้อมกับทิ้งค่าอาหารเอาไว้ ๕๐๐ บาทแล้วไปนอนได้เลย..!

    เมื่อมาถึงทางเจ้าหน้าที่ก็มาเปิดห้องอาหารให้ แม้กระทั่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายต้อนรับ แจกจ่ายห้องพัก รับคืนห้องพักก็มาแล้ว กระผม/อาตมภาพไปขออภัยทางเจ้าหน้าที่รับคืนห้อง บอกว่าเหตุที่ต้องรีบคืนกุญแจ ก็เพราะว่าเคยพกกุญแจจากต่างประเทศกลับมาถึงวัดตัวเองแล้ว..! ทำเอาอีกฝ่ายหัวเราะเป็นการใหญ่

    เมื่อเคลียร์ปัญหาเรื่องค่าอาหารแล้ว หันกลับมาก็เจอท่านศิริรัตน์ บำรุงเสนา นายอำเภอศรีสวัสดิ์ ที่มาบริการพระเถรานุเถระแต่เช้า ต้องเจริญพรขอบคุณท่านนายอำเภอเป็นอย่างยิ่ง เพิ่งจะ ๖ โมงกว่านิดหน่อยก็มาถึงแล้ว ไม่ต้องคิดเลยว่าท่านตื่นตอนกี่โมง..!?

    อีกท่านหนึ่งที่จะลืมไม่ได้เลยก็คือ ท่าน ผอ.สฤษฎิ์ชัย ผ่องใสโสภณ ผู้อำนวยการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตเขื่อนศรีนครินทร์ ซึ่งท่านอนุญาตให้ใช้บ้านพักในการต้อนรับพระเถรานุเถระ คณะกรรมการและคณะอนุกรรมการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ซึ่งมาจากที่ไกล ๆ ทั้งสิ้น ถ้าไม่มีบ้านพักของเขื่อนศรีนครินทร์ ก็คงจะไม่ได้รับความสะดวกสบายเช่นนี้
     
  3. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    18,542
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,441
    ค่าพลัง:
    +26,269
    เมื่อฉันอาหารเช้า ซึ่งถ้าใครถนัดอาหารฝรั่งก็มีขนมปังปิ้งพร้อมกับกาแฟให้ ถ้าใครถนัดอาหารไทยก็มีข้าวต้มหมูรสอร่อยให้เช่นกัน พระครูศรีธรรมวราภรณ์, ดร. (จีรพันธ์ ธมฺมปสฏฺโฐ ป.ธ. ๖) เลขานุการรองเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี ก็รีบมาบริการพรรคพวกเพื่อนฝูงกันตั้งแต่เช้าเช่นกัน

    กระผม/อาตมภาพเมื่ออิ่มแล้วก็ขอตัววิ่งไปยังบ้านน้ำมุด หมู่ที่ ๓ ตำบลแม่กระบุง อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งอยู่ห่างออกไปอีก ๓๒ กิโลเมตร สมัยก่อนนั้นต้องบุกป่าฝ่าดงกันไปเป็นวัน เพราะว่าส่วนใหญ่ก็คือเดินเท้าไป เมื่อลงจากรถ ปรากฏว่าพื้นที่เฉอะแฉะไปหมด นอกจากเมื่อวานฝนจะกระหน่ำหนักแล้ว ตอนช่วงตี ๓ ตี ๔ นี้ก็ยังเทลงมาอีกรอบ บรรดาญาติโยมทั้งหลายพากันทำความสะอาดวัด และรีดน้ำออกจากพรม ออกจากพื้นที่ปู "สแลน" เป็นการใหญ่

    บรรดาเด็ก ๆ ที่แต่งชุดกะเหรี่ยงเตรียมมาแสดง ยิ้มแย้มแจ่มใสต้อนรับอยู่ ได้ยินเสียงคุ้นหูว่า "อ๊องหมี่เย่าหงะ ?" ซึ่งแปลเป็นไทยว่า "ฉันข้าวมาแล้วหรือยัง ?" รู้สึกคุ้นเคยจนบอกไม่ถูก เนื่องเพราะว่าสมัยก่อนกระผม/อาตมภาพนั้น เมื่อธุดงค์เข้าไปในป่าในเขา ก็ได้รับความเมตตาจากบรรดาพี่น้องชาวกะเหรี่ยงนี่แหละ ที่ช่วยเลี้ยงดูอยู่เป็นเดือน ๆ บางวันก็ได้อาศัยมะละกอแทนข้าวสัก ๑ ลูก บางวันเขาหามันสำปะหลังมาให้ได้ ๑ หัว ก็แบ่งเอาไว้ ๓ ท่อน เผากินท่อนละ ๑ วัน รวมแล้วก็ได้ ๓ วันพอดี เหล่านี้เป็นต้น

    เมื่อถามดูแล้ว เด็ก ๆ ที่มาแสดงต้อนรับมีอยู่ ๑๓ คน กระผม/อาตมภาพจึงมอบรางวัลให้ไปก่อนคนละ ๓๐๐ บาท แล้วก็ปล่อยให้เด็ก ๆ ไปทำหน้าที่ของตนเอง ส่วนตนเองนั้นมารับการทักทายจากท่านวัฒนธรรมจังหวัดกาญจนบุรี (นางสมมารถ คำถนอม) และท่านผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดกาญจนบุรี (นางเนตรทิพย์ เจริญวัย) ที่ขนเอาบริษัทบริวารมาช่วยงานตั้งแต่หลายวันก่อนแล้ว

    ด้วยความที่กระผม/อาตมภาพยังติดภารกิจในการตรวจประเมินโครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ต่อเนื่องอีกหลาย เมื่อพบหน้าพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชวิสุทธาภรณ์ (ทองดำ อิฏฺฐาสโภ ป.ธ. ๖) รองเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี เจ้าอาวาสวัดพระแท่นดงรัง วรวิหาร จึงได้ขออนุญาตถวายมุทิตาสักการะท่านตรงนั้นเลย

    โดยที่เรียนถวายว่า "วันเกิดหลวงพ่อ ผมติดงานตรวจประเมินยกหมู่บ้านศีล ๕ ต้นแบบอยู่ที่จังหวัดตราด ไม่สามารถที่จะมาได้ จึงต้องขออภัยที่ต้องถวายมุทิตากันตรงนี้" โดยมอบเม็ดขนุนทองแดงเลี่ยมทอง ซึ่งหลวงป๋า - พระเดชพระคุณพระเทพญาณมงคล วิ. (เสริมชัย ชยมงฺคโล ป.ธ. ๖) อดีตเจ้าอาวาสวัดหลวงพ่อสดธรรมกายาราม ท่านเคยให้เอาไว้หลังจากที่ถวายปัจจัยทำบุญกับท่านไป ๒๐๐,๐๐๐ บาท มอบให้เป็นเครื่องสักการะในงานอายุวัฒนมงคล ๗๔ ของหลวงพ่อรองเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี
     
  4. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    18,542
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,441
    ค่าพลัง:
    +26,269
    แล้วก็มากราบทักทายพระเดชพระคุณพระเทพปริยัติโสภณ, ดร. (ปัญญา วิสุทฺธิปญฺโญ ป.ธ. ๙) เจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี

    พระเดชพระคุณพระโสภณกาญจนาภรณ์ (ทอมสันต์ จนฺทสุวณฺโณ ป.ธ. ๔) รองเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี

    ท่านอาจารย์พระมหาวิสูตร วิสุทฺธิปญฺโญ ป.ธ. ๙ รองเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี

    ตลอดจนกระทั่งดร.ท่านเจ้าคุณวีระ - พระวิสุทธิพงษ์เมธี, ดร. (วีระ มหาวีโร ป.ธ. ๗) เจ้าคณะอำเภอศรีสวัสดิ์

    หลวงพ่อเสริฐ - พระครูสิทธิกิจจานุวัตร รองเจ้าคณะอำเภอศรีสวัสดิ์

    โดยที่คิดไม่ถึงก็คือหลวงพ่อสิงห์โต - พระครูโสภณคุณาธาร รองเจ้าคณะจังหวัดสุพรรณบุรีก็มาร่วมงานด้วย

    ครั้นได้เวลามีเสียงดนตรีสัญญาณขึ้นมา กระผม/อาตมภาพก็ออกไปต้อนรับร้อยโททศพล ไชยโกมินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรีที่เดินทางมาถึง เรียนท่านผู้ว่าไปว่า "คราวที่แล้วอาตมภาพเป็นเจ้าของงานเอง แต่วันนี้มาในฐานะกรรมการให้คะแนน"

    ท่านผู้ว่าฯ บอกว่า "ขอกราบขอบพระคุณหลวงพ่อเป็นอย่างยิ่ง ที่เมตตาให้บรรดารถพ่วงและรถกึ่งพ่วง จอดที่บริเวณหน้าวัดอยู่เป็นเดือน ๆ เนื่องเพราะว่ารถทั้งหลายเหล่านี้ไปรบกวนนักท่องเที่ยว ถ้าหากว่าวิ่งต่อเนื่องกันสัก ๒ คัน บรรดานักท่องเที่ยวก็ต้องคลานตามไปเป็นชั่วโมง ๆ กว่าที่จะไปถึงสังขละบุรี หรือกว่าที่จะกลับจากสังขละบุรีลงมาถึงทองผาภูมิ และถ้าเกิดอุบัติเหตุก็จะขวางถนนอยู่เป็นวัน ๆ..!
     
  5. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    18,542
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,441
    ค่าพลัง:
    +26,269
    ในระหว่างที่รอออกเป็นราชกิจจานุเบกษา ประกาศห้ามรถพ่วงและรถกึ่งพ่วงวิ่งตั้งแต่สามแยกทองผาภูมิวิ่งไปยังอำเภอสังขละบุรี ช่วงวันหยุดราชการหรือวันหยุดนักขัตฤกษ์ รถทั้งหลายเหล่านี้ก็ต้องมาจอดรออยู่ที่หน้าวัดท่าขนุนตั้งแต่วันศุกร์ตอนเย็น จนกระทั่งวันจันทร์ตอนเช้าจึงสามารถที่จะวิ่งขึ้นไปได้ ซึ่งกระผม/อาตมภาพก็อำนวยความสะดวกให้อย่างเต็มที่

    เนื่องเพราะว่าได้เทพื้นหน้าวัดเอาไว้ตั้งแต่ครั้งแรก กำหนดว่าให้คอนกรีตมีความแข็งและความหนาเท่ากับมาตรฐานถนนหลวง ซึ่งทางด้านผู้รับเหมาก็จัดการเอาไว้ แถมยังทำไปบ่นไปว่า "หลวงพ่อต้องการ strength (ความแข็ง) ขนาดนั้นไปทำอะไร ? เพราะว่าถ้าหากว่าลดลงมาก็จะประหยัดเงินได้อีกมาก" แต่ตอนนี้ทุกคนก็เห็นอย่างชัดเจนแล้วว่า ที่หลวงพ่อวัดท่าขนุนสั่งทำไปตั้งแต่ปี ๒๕๕๓ นั้น มีอะไรที่เป็นสาเหตุให้ต้องเสียสตางค์มากมายขนาดนั้น..!

    เมื่อท่านผู้ว่าราชการจังหวัดขอตัวไปทักทายท่านเจ้าคณะจังหวัด และหัวหน้าส่วนราชการอื่น ๆ นายฑรัท เหลืองสะอาด ปลัดจังหวัดกาญจนบุรีก็เข้ามาเรียนถวายต่อว่า "เหตุที่ต้องห้ามนั้นเพราะว่าเราได้เก็บสถิติเอาไว้ มีอุบัติเหตุเกือบทุกเดือน แต่ละเดือนทำให้นักท่องเที่ยวต้องเสียเวลาเป็นวัน ๆ กว่าที่จะเคลียร์ถนนได้ เพราะว่าต้องนำรถคันใหม่ขึ้นไปขนสินค้าเก่าลงมาก่อน แล้วค่อยกู้รถคันที่ร่วงหล่นหรือว่าพลิกคว่ำอยู่ลงมา ทำให้นักท่องเที่ยวได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างยิ่ง

    ถ้าหลวงพ่อไม่เมตตา ในช่วงก่อนที่จะประกาศออกเป็นกฎหมายในราชกิจจานุเบกษา แล้วคนทั้งหลายเหล่านี้รวมตัวกันประท้วง ทางจังหวัดก็จะเดือดร้อนมาก"
    กระผม/อาตมภาพก็ได้บอกกับท่านปลัดจังหวัดไปว่า "ถ้าหากว่าเป็นเรื่องของการช่วยเหลือราชการหรือประชาชนที่ไม่เหนือบ่ากว่าแรงแล้ว ทางวัดท่าขนุนพร้อมเสมอที่จะช่วย"

    เมื่อทุกคนมาพร้อมแล้ว พิธีกรก็เชิญเข้าสู่ที่นั่ง มีการแสดงทางวัฒนธรรมต้อนรับ ปรากฏว่าทางด้านผู้ช่วยเลขานุการก็คือ พระมหาวิเชียร ชาตวชิโร ป.ธ. ๙ ก็ดี ท่านเลขานุการคือท่านเจ้าคุณพระปริยัติวรานุกูล (ปัญญา วีรเมธี ป.ธ. ๕) ก็ดี ท่านติดภารกิจที่จะต้องโยกย้ายจากวัดสระเกศ ราชวรมหาวิหาร กลับไปวัดนิมมานรดีตามเดิม เนื่องเพราะว่าพระเดชพระคุณหลวงพ่อเจ้าคุณสมควร - พระธรรมโพธิมงคล (สมควร ปิยสีโล ป.ธ. ๙) อดีตเจ้าอาวาสวัดนิมมานรดี เจ้าคณะภาค ๒ ท่านหมดภารกิจที่วัดสระเกศ ราชวรมหาวิหารแล้ว จึงได้โยกย้ายกลับไปวัดเดิม
     
  6. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    18,542
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,441
    ค่าพลัง:
    +26,269
    โดยที่ทางคณะสงฆ์ได้แต่งตั้งให้พระเดชพระคุณพระพรหมสิทธิ (ธงชัย สุขญาโณ) อดีตเจ้าอาวาสวัดสระเกศ ราชวรมหาวิหาร ที่ได้คืนสมณเพศและได้รับพระราชทานสมณศักดิ์พระพรหมสิทธิคืนมา เนื่องจากว่าไม่มีความผิดตามข้อครหาใด ๆ ทั้งสิ้น

    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงปรารภกับทางมหาเถรสมาคมว่า อยากจะคืนตำแหน่งให้กับท่าน พระเดชพระคุณหลวงพ่อเจ้าคุณสมควรจึงได้ทำการลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดสระเกศ ราชวรมหาวิหาร รับการแต่งตั้งคืนไปเป็นเจ้าอาวาสวัดนิมมานรดีตามเดิม ทีมงานที่ติดตามหลวงพ่อเจ้าคุณสมควรท่านมา เพื่อที่จะปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือการงานต่าง ๆ ก็ต้องโยกย้ายกลับไปด้วย

    ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ทุกคนก็มองหน้ากันเลิ่กลั่กเพราะว่าผู้ที่แสดงต้อนรับนั้นมีจำนวนมากยังไม่พอ พระมหาวิเชียรท่านยังเก็บซองปัจจัยที่จัดเตรียมเอาไว้สำหรับแจกบุคคลทั้งหลายเหล่านี้ไว้กับตัวเอง และไม่ได้มาในงานเสียด้วย กระผม/อาตมภาพควักสตางค์ของตนเองขึ้นมา แอบนับที่ใต้โต๊ะพร้อมกับถาม ดร.พระครูทวี - พระครูศรีรัตนาภิวัฒน์, ดร. (ทวี รตนเมธี) รองเจ้าคณะจังหวัดสุพรรณบุรี ที่นั่งข้างกันว่า "มีกี่คน ?" ก็คือต้องมอบให้คนละเท่าไร จะได้คำนวณดูกับเงินที่ตนเองมีอยู่

    แต่โชคดีมากที่ว่าท่านเจ้าอธิการวิจิตร ภทฺทกิตฺติโก เจ้าอาวาสวัดบ้านน้ำมุด เจ้าคณะตำบลแม่กระบุง ท่านสะกิดบรรดาอนุกรรมการด้านหลัง ส่งซองปัจจัยมาให้มัดเบ้อเริ่ม..! ทำเอาทุกคนถอนหายใจโล่งอก สามารถที่จะมอบรางวัลให้ต่อไปตามปกติ แบบไม่มีอะไรมาสะดุดติดขัด

    แล้วก็เป็นการที่เด็กหญิงน่านรักษ์ ทองปอน เด็กหญิงตัวน้อยออกมาแสดงการบรรยายธรรม ในเรื่องแสงสว่างแห่งการศึกษา ๗ ประการ พูดจาได้ฉะฉาน น่ารักน่าเอ็นดูยังไม่พอ ยังเป็นบุคคลที่คล่องตัวต่อการแสดงออกในท่ามกลางคณะสงฆ์ และผู้ใหญ่จำนวนมาก ๆ อีกด้วย..!
     
  7. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    18,542
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,441
    ค่าพลัง:
    +26,269
    เมื่อทราบว่าเรียนหนังสืออยู่แค่ชั้นประถมปีที่ ๓ เท่านั้น พระเดชพระคุณพระธรรมวชิรสุนทร (ประเทือง อาภาธโร ป.ธ. ๔) เจ้าคณะจังหวัดลพบุรี รองประธานคณะกรรมการบริหารกลาง โครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ เจ้าของโรงเรียนวินิตศึกษา ในพระราชูปถัมภ์ฯ กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประกาศว่า "ผมส่งเรียนต่อจนจบเลย"

    แต่ขอโทษ..ท่านร้อยโททศพล ไชยโกมินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรีไวกว่า ควักกระเป๋านับเงินออกมา ใส่ซองให้หนูน้อยเป็นทุนการศึกษาไป ๙,๐๐๐ บาท..! เสียงปรบมือดังสนั่นหวั่นไหว ชมเชยทั้งเด็กหญิงน่านรักษ์ ที่สามารถบรรยายธรรมได้คล่องแคล่ว ชนิดที่บางทีพระก็สู้ไม่ได้เสียด้วย และท่านผู้ว่าราชการจังหวัดเสือปืนไวของเรา ที่รีบควักกระเป๋ามอบทุนการศึกษาเบื้องต้นให้ก่อน แต่อย่างไรเสีย เด็กหญิงน่านรักษ์ ทองปอน ก็คงไม่พ้นไปจากโรงเรียนวินิตศึกษาแน่นอน เนื่องเพราะว่าพระเดชพระคุณหลวงพ่อเจ้าคุณประเทืองหมายมั่นปั้นมือเอาไว้แล้ว ว่าเด็กเก่งอย่างนี้จะปล่อยให้หลุดมือไปได้อย่างไร..?!

    หลังจากนั้นก็เป็นการบูชาพระ กราบพระ และสวดมนต์กันตรงนี้ เนื่องเพราะว่าอุโบสถวัดบ้านน้ำมุดนั้น ยังสร้างไม่เสร็จเรียบร้อย พื้นก็ยังไม่ได้เท เมื่อทำการสักการบูชาเสร็จเรียบร้อยแล้ว ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดก็เปิดกรวยถวายราชสักการะ เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ในหลวงรัชกาลที่ ๑๐ บรรดาผู้นำส่วนราชการและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี กระผม/อาตมภาพฟังดูแล้วแปลกใจมาก เนื่องเพราะว่าแม้จะเป็นระดับเสียงที่สูงลิบตามแบบที่อื่นเขาเปิดเสียงตามสายก็ตาม แต่ที่นี่มีเสียงใหญ่ ๆ แจ่มใส ร้องเพลงและโหนสูงตามได้ทุกคีย์เสียด้วย เมื่อหันไปมองถึงได้เห็นว่าที่นี่มีการ "ร้องสด" โดยนักร้องเอง

    หลังจากที่พระภิกษุสงฆ์ทุกรูปช่วยกันสวดบทจักกิวังสทสมปรเมนทมหาราชาภิถุติคาถา ถวายพระพรในหลวงรัชกาลที่ ๑๐ แล้ว นักร้องท่านนั้นยังออกมาร้องเพลง "แด่สมเด็จช่วงด้วยดวงใจ" ซึ่งถือว่าเป็นเพลงประจำโครงการหมู่บ้านรักษาศีล ๕ เสียงไพเราะและโหนสูงได้ตามคีย์ทุกประการ จึงได้รับรางวัลและรับเสียงปรบมือไปดังสนั่นหวั่นไหวเหมือนเดิม หลังจากนั้นทุกสิ่งทุกอย่างก็เป็นไปตามตารางกำหนดการ

    เมื่อถึงเวลาประมาณ ๑๑.๑๐ น. กระผม/อาตมภาพก็แว่บออกจากงาน เพราะว่าไม่ต้องการอยู่ร่วมพิธีปิด ที่ต้องรีบเดินทางออกไปก่อนเพราะทราบดีว่า ถ้าให้รถอื่นนำหน้าเมื่อไร ท่านทั้งหลายต้องคลานตามกันอย่างแน่นอน เนื่องจากหนทางขึ้นไปบ้านน้ำมุดนั้น ตอนขึ้นก็ไม่กระไรนัก แต่ว่าตอนลงก็คือทางลงเขาที่ทั้งคดเคี้ยวและลื่นด้วยน้ำฝน ไม่สามารถที่จะทำความเร็วได้ ถ้าไม่ออกก่อนต้องมีปัญหาอย่างแน่นอน..!

    เรื่องทั้งหลายเหล่านี้น้องเล็ก (นางสาวจิราพร ซื่อตรงต่อการ) นั้น มีความถนัดและชำนาญอยู่แล้ว จึงได้ทิ้งการทิ้งงานทั้งหมด ตลอดจนกระทั่งการฉันเพล โดดขึ้นรถได้ก็อาศัยเสบียงกรังเล็กน้อยที่มีอยู่บนรถเป็นมื้อเพล สามารถที่จะออกมาจนกระทั่งถึงสามแยกเขื่อนศรีนครินทร์ได้ จึงค่อยถอนหายใจโล่งอก..1

    โดยที่มีรถยนต์คันเดียวที่วิ่งตามมาและแซงไป ก็คือรถของท่านอาจารย์พระมหาประกอบ โชติปุญฺโญ ป.ธ.๗, ดร. รองเจ้าคณะจังหวัดราชบุรี ซึ่งเป็นคณะกรรมการตรวจประเมินในหมวดที่ ๔ ไม่ทราบเหมือนกันว่าท่านมีภารกิจเร่งด่วนอะไร ลูกน้องถึงได้เหยียบจนกระทั่งแทบจะหลุดโค้งแบบนั้น แต่คาดว่าในระดับรองเจ้าคณะจังหวัดแล้ว งานของท่านน่าจะมากกว่ากระผม/อาตมภาพเสียอีก ส่วนกระผม/อาตมภาพนั้นได้ไปพักอยู่ที่วัดท่ามะขาม เพื่อที่จะรอในการตรวจประเมินหมู่บ้านรักษาศีล ๕ ในวันต่อไป

    สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
    วันจันทร์ที่ ๙ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๗
    (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...