เรื่องเด่น เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๗

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 31 ธันวาคม 2024 at 17:11.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,935
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,579
    ค่าพลัง:
    +26,420
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันอังคารที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๗


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,935
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,579
    ค่าพลัง:
    +26,420
    วันนี้เป็นวันอังคารที่ ๓๑ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗ ทั้งสิ้นเดือนและสิ้นปีภายในวันเดียวกัน อากาศช่วงเช้าอยู่ที่ ๑๘ องศาเซลเซียส กระผม/อาตมภาพออกไปนำผู้บวชเนกขัมมะปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติรุ่นที่ ๑/๒๕๖๘ เจริญพระกรรมฐานกันตั้งแต่ตี ๓ ครึ่ง

    ส่วนที่น่าเป็นห่วงที่สุดก็คือ ญาติโยมส่วนใหญ่จะรอกันแบบใจจดใจจ่อว่า "เมื่อไรหลวงพ่อจะมานำเสียที" ซึ่งตรงจุดนี้นั้น ถ้าหากว่าท่านทั้งหลายใช้ความเพียรพยายามในการปฏิบัติธรรมด้วยตนเอง คาดว่าคงจะสามารถยืนหยัดเป็นหลักแก่ผู้อื่นไปนานแล้ว เนื่องเพราะว่าบางท่านที่รู้จักกันมาเกิน ๓๐ ปี ก็ได้ชื่อว่าเป็นคน "สายวัด..สายบุญ" ปฏิบัติธรรมมาแต่เล็กแต่น้อย แต่เหตุที่ไม่ไปไหนเลยก็คือ ทำไปเท่าไรก็ยังเหมือนเดิม..! ก็เนื่องเพราะว่ายึดติดในตัวบุคคล ถ้าหากว่า "ไม่ใช่วัดนี้ เราไม่ปฏิบัติธรรม" "ถ้าไม่ใช่หลวงพ่อรูปนี้ เราไม่ปฏิบัติธรรม" ทั้ง ๆ ที่การปฏิบัติธรรมนั้น ผู้ที่ได้ประโยชน์เป็นคนแรกก็คือตัวเอง

    ดังนั้น..ท่านทั้งหลายจะเห็นว่าทางวัดท่าขนุนของเรานั้น เมื่อถึงเวลาแล้วจะไม่มีการรอใคร เนื่องเพราะว่า
    การปฏิบัติธรรมนั้น เป็นเรื่องของใครทำใครได้ ทำแทนกันไม่ได้ จึงไม่มีการที่จะมารีรอขอความพร้อมเพรียงใด ๆ ทั้งสิ้น เมื่อถึงเวลา กระผม/อาตมภาพก็จะนำการปฏิบัติในทันที ท่านใดมาช้า ก็ถือว่าเสียประโยชน์ของตนเองไป..!

    เมื่อทำวัตรเช้าแล้ว กระผม/อาตมภาพต้องรอจนได้เวลา ค่อยนำพระออกบิณฑบาตตามปกติ สำหรับวันนี้ต้องแจ้งแก่ผู้ที่ใส่บาตรเป็นประจำว่า "
    ในวันพรุ่งนี้ของดบิณฑบาตตามปกติเป็นเวลา ๑ วัน" เนื่องเพราะว่าเรามีการสวดมนต์ข้ามปี จากนั้นก็เป็นงานบิณฑบาตสร้างกุศลรับปีใหม่ ถ้าหากว่าออกบิณฑบาตตามปกติก็จะซ้ำซ้อนกัน แล้วญาติโยมก็ไม่รู้ว่าจะแบ่งใจไปด้านไหนดี ทางวัดจึงตัดสินใจแทน ด้วยการงดบิณฑบาตตามปกติไป ๑ วัน

    วันนี้มีนักท่องเที่ยวมากันมากมาย จนกระทั่งที่จะจอดรถก็ไม่มีเช่นเดิม มีสองส่วนที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง ส่วนแรกก็คือ
    รถยนต์หลายต่อหลายคันนั้น จอดในที่ห้ามจอดชนิดที่ไม่สนใจอะไรเลย ขอให้ตนเองมีที่จอดก็แล้วกัน ถ้าหากว่าท่านมักง่ายในลักษณะแบบนี้ ต่อไปก็จะติดเป็นนิสัย หรือไม่ก็คนรุ่นหลังเห็นแล้วทำตาม ความมีระเบียบซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของชาวต่างชาติของเราก็จะค่อย ๆ สูญหายไป
     
  3. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,935
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,579
    ค่าพลัง:
    +26,420
    ประการที่สองก็คือญาติโยมส่วนหนึ่งก็ยังทำตัวเหมือนเดิม จะใส่บาตรแต่ว่าไม่ยอมถอดรองเท้า ซึ่งกระผม/อาตมภาพก็จะเดินเลยไปอยู่เสมอ จนกระทั่งบางท่านกว่าจะรู้ตัว กระผม/อาตมภาพก็เดินเลยไปไกลแล้ว ถ้าหากว่าท่านถอดรองเท้าทันก็ใส่ทางตรงกลางแถว หรือว่าท้ายแถว ถ้าหากว่าถอดรองเท้าไม่ทันก็ไม่ต้องใส่บาตร..!

    เมื่อกลับมาฉันเช้าเรียบร้อยแล้ว กระผม/อาตมภาพก็ห่มดอง พาดสังฆาฏิ ลงไปที่ศาลา ๑๐๐ ปีหลวงปู่สาย วัดท่าขนุน สนทนาธรรมกับญาติโยมทั้งหลายก่อนที่จะนำปฏิบัติธรรมช่วงสายของวัน ซึ่งการนำปฏิบัติธรรมช่วงเช้าประการหนึ่ง และการสนทนาธรรมก่อนเริ่มการปฏิบัติช่วงต่าง ๆ อีกประการหนึ่ง จะเป็นช่วงที่ญาติโยมมักจะได้ประโยชน์มากที่สุด เนื่องเพราะว่ากระผม/อาตมภาพจะพยายามชี้ทางออกบอกทางถูกให้กับหลาย ๆ ท่าน บางอย่างถ้าท่านไปปฏิบัติเองอาจจะติดอยู่หลาย ๆ ปี แต่ในเมื่อได้ฟังการ "บ่น" ของกระผม/อาตมภาพเข้า ก็อาจจะผ่านไปได้ง่าย ๆ โดยไม่เสียเวลาเลย

    ครั้นมอบหมายให้กับพระวิปัสสนาจารย์ประจำสำนักปฏิบัติธรรมวัดท่าขนุนนำญาติโยมปฏิบัติธรรมแล้ว กระผม/อาตมภาพเองก็ต้องมารีบจัดการกับงานต่าง ๆ โดยเฉพาะรายจ่าย เนื่องเพราะว่าเป็นช่วงสิ้นเดือน ไม่ว่าจะเป็นเงินเดือน หรือว่าค่าแรงต่าง ๆ ตลอดจนกระทั่งบัญชีก็ประเดประดังมามากมาย ยังไม่ทันที่งานจะเสร็จเรียบร้อย เสียงกลองเพลก็ดังขึ้นมาแล้ว แต่ว่าวัดท่าขนุนของเรานั้น กลองเพลมีไว้สำหรับเป็นสัญญาณบอกเวลาเท่านั้น เพราะว่ากระผม/อาตมภาพกำหนดให้ทางพระภิกษุสามเณร ตลอดจนแม่ชีวัดท่าขนุน ฉันเพลกันในเวลา ๑๑ โมงครึ่ง

    เนื่องเพราะว่าบางวันติดงาน อย่างเช่นว่า "งานวันเสาร์ใส่บาตรตลาดริมแคว ยลวิถีเมืองท่าขนุน" ก็ดี หรือว่า "งานหิ้วตะกร้า นุ่งผ้าไทย นั่งแคร่ไม้ ใส่บาตรพระทุกวันอาทิตย์" ก็ตาม ถ้าหากว่าเจอนักท่องเที่ยวมาก ๆ บางทีกว่าจะกลับมาฉันเช้าได้ ก็ตก ๘ โมงกว่า ยังไม่ทันไรก็ต้องมาฉันเพลอีกมื้อหนึ่ง ก็ดูท่าว่าจะไม่ไหว กระผม/อาตมภาพเมื่อขอเสียงจากพระภิกษุสามเณรส่วนใหญ่แล้ว ทุกคนมีความเห็นร่วมกันว่าให้เลื่อนเวลาฉันเพลออกไปเป็น ๑๑.๓๐ น. จะดีกว่า

    ครั้นเมื่อฉันเพลเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็ได้ฟังเสียงตามสายจากหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง ซึ่งกระผม/อาตมภาพให้เปิดเป็นประจำทุกวัน ตอนเช้ามืด คือเวลาตี ๔ หนึ่งรอบ ตอนกลางวันคือเวลา ๑๒.๐๐ น. หนึ่งรอบ ตอนเย็นคือเวลา ๑๖.๐๐ น. หนึ่งรอบ และตอนค่ำเวลา ๒๐.๐๐ น. อีกหนึ่งรอบ
     
  4. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,935
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,579
    ค่าพลัง:
    +26,420
    เมื่อจบเสียงตามสาย กระผม/อาตมภาพก็สนทนาธรรมเพื่อโยงจิตใจให้ญาติโยมทั้งหลายเข้าสู่การปฏิบัติธรรมช่วงบ่าย หลังจากนำสมาทานพระกรรมฐานแล้ว ได้มอบถวายหน้าที่ให้กับพระวิปัสสนาจารย์วัดท่าขนุน นำญาติโยมทั้งหลายปฏิบัติธรรมต่อไป

    ตัวกระผม/อาตมภาพและน้องเล็ก (นางสาวจิราพร ซื่อตรงต่อการ) ได้นำเอาอาหารที่เหลือจากการฉันเพลส่วนหนึ่ง วิ่งไปยังบ้านวังรังกา ซึ่งเป็นเส้นทางบิณฑบาต ห่างจากวัดท่าขนุนเกือบ ๕ กิโลเมตร เพื่อที่จะไปเลี้ยงหมาแม่ลูกอ่อน ซึ่งคลอดลูกเอาไว้ทั้งหมด ๘ ตัวด้วยกัน แต่ปรากฏว่าโดนคนอุ้มไปแล้ว ๓ ตัว ซึ่งส่วนใหญ่ที่โดนอุ้มไปก็คือบรรดาตัวที่ดูแล้วว่าแข็งแรงน่ารักที่สุด

    บรรดาลูกหมา ๕ ตัวที่เหลือนั้น เริ่มหัดกินอาหารแล้ว กระผม/อาตมภาพเอาขนม ตลอดจนกระทั่งหมูปิ้งไปฉีกเป็นชิ้นเล็ก ๆ ป้อนให้บรรดาลูกหมาเหล่านั้น เมื่อแม่หมาเห็นก็รีบวิ่งมาด้วยความดีใจ เนื่องเพราะว่าเวลากระผม/อาตมภาพออกบิณฑบาต แม่หมาก็มักจะผูกสัมพันธไมตรีด้วยการวิ่งตาม ซึ่งกระผม/อาตมภาพก่อนหน้านี้เห็นว่าแม่หมาท้องแก่ จึงได้ถามว่า "เมื่อไรจะคลอด ? ถ้าคลอดแล้วให้บอกกันด้วยนะ จะได้หาอะไรมาเลี้ยง" ปรากฏว่าช่วงเช้าที่บิณฑบาต แม่หมาวิ่งมาส่งข่าวว่าคลอดแล้ว แล้วแถมยังทวงสัญญาเสียด้วย..!

    เรื่องพวกนี้ต้องบอกว่าสัตว์ก็คือคน เพียงแต่ว่าเขาโดนจำกัดอยู่ในภพภูมิของเดรัจฉาน ความรู้สึกก็คือคนดี ๆ นี่เอง สิ่งที่เขาสื่อสารออกมานั้นชัดเจนมาก ๆ เพราะว่าสัตว์มีทั้งภาษากาย ก็คือทำท่าทำทางต่าง ๆ ให้เรารู้ว่าเขาต้องการอะไร มีภาษาเสียง คือสามารถที่จะส่งเสียงสื่อสารตามปกติของมนุษย์และสัตว์ทั่ว ๆ ไป แล้วยังมีภาษาใจ คือการที่ส่งกำลังใจมาถึงพวกเราโดยตรง

    ต้องบอกว่าแม่หมาตัวนี้ฉลาดมาก อาศัยบุญสัมพันธ์กรรมสัมพันธ์จากคำพูดประโยคเดียวที่กระผม/อาตมภาพบอกว่า "ถ้าคลอดลูกเมื่อไรให้บอกด้วย จะเอาอาหารมาเลี้ยง" เมื่อเจอหน้าก็รีบวิ่งมาบอก แต่ตอนบิณฑบาต กระผม/อาตมภาพไม่มีอาหารที่จะแบ่งให้
    เนื่องเพราะว่าอาหารบิณฑบาตนั้น ยังไม่ใช่ของเหลือจากพระภิกษุสามเณรฉันแล้ว
     
  5. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,935
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,579
    ค่าพลัง:
    +26,420
    ทางวัดท่าขนุนของเรา เมื่อหลังเพลแล้วก็จะ "โละ" ข้าวปลาอาหารทั้งหมดของวัน ไม่ให้เหลืออะไรไว้เลย นำไปแจกจ่ายให้กับทหารตำรวจตามด่านตรวจบ้าง ผู้ป่วยติดเตียงบ้าง ผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ บ้าง ซึ่งได้กระทำต่อเนื่องกันมาตั้งแต่กระผม/อาตมภาพยังเป็นรองเจ้าอาวาสวัดท่าขนุน มาถึงตอนนี้ก็เกิน ๒๐ ปีแล้ว

    ครั้นเลี้ยงแม่หมาลูกหมาเสร็จเรียบร้อย เทน้ำเอาไว้ให้เขาในภาชนะแล้วก็ได้เดินทางกลับ เพื่อที่จะมามอบเงินในการบูรณปฏิสังขรณ์ห้องน้ำห้องส้วมใหม่ให้โรงเรียนวัดไร่ป้า ซึ่งทาง ผอ.ตูน (นางวารุณี พรมฝ้าย) ผู้อำนวยการโรงเรียน ได้นำคณะเด็ก ๆ มารอรับเงินงวดสุดท้ายจำนวน ๑๐๐,๐๐๐ บาท ซึ่งถ้าหากว่านับรวมทั้ง ๓ งวดที่ว่ามาก็ ๓๐๐,๐๐๐ บาทพอดี

    ปกติแล้วกระผม/อาตมภาพจะไปเป็นประธานจัดงานวันเด็กให้กับโรงเรียนนั้น ๆ ด้วย แต่ปีนี้พอดีกำหนดการไปยังเมืองฮาร์บิน มณฑลเฮยหลงเจียง สาธารณรัฐประชาชนจีนนั้น คร่อมกับเวลาซึ่งตรงกับวันเสาร์ที่ ๒ ของเดือนมกราคม ๒๕๖๘ พอดี กระผม/อาตมภาพจึงมอบหมายให้กับไอ้ตัวเล็ก (นางสาวพัชรีภรณ์ หยกอุบล) ประธานชมรมรักษ์ธรรมรักษ์ไทย ไปทำหน้าที่เป็นประธานในการจัดงานแทน

    เนื่องเพราะว่าส่วนใหญ่ก็คือค่าบูรณปฏิสังขรณ์ จำนวน ๓๐๐,๐๐๐ บาทนั้น กระผม/อาตมภาพมอบงวดนี้ให้ก็ครบถ้วนแล้ว ส่วนที่เหลือก็คือที่ญาติโยมทั้งหลายทำบุญมา ไม่ว่าจะเป็นข้าวของหรือว่าเงินทองต่าง ๆ ซึ่งได้ทยอยกันขนส่งไปยังโรงเรียนบ้านไร่ป้าเรียบร้อยแล้ว เหลือแต่รอเวลาอย่างเดียวว่า ถึงเวลาวันเด็กเมื่อไรก็ได้ไปเฮกันที่นั่นอีกที

    แล้วกระผม/อาตมภาพก็มาบันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุน อยู่ที่สำนักงานเจ้าอาวาสวัดท่าขนุน เนื่องเพราะว่าในช่วงเย็นนี้ยังต้องไปร่วมงานถนนคนนั่งยองทองผาภูมิปี ๒๕๖๗ เพราะว่าบรรดาเด็ก ๆ ที่กระผม/อาตมภาพสนับสนุนให้ฝึกฝนการแสดงนาฏศิลป์ การละครต่าง ๆ รอให้หลวงตาของเขาไปแจกรางวัล จึงต้องมาบันทึกเสียงให้เสร็จเรียบร้อยเสียก่อน ไม่เช่นนั้นแล้วเวลางานติดพันขึ้นมาอาจจะหลงลืมได้

    สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแต่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
    วันอังคารที่ ๓๑ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๗
    (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...