ไทยจะเป็นมหาเศรษฐี

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย junior phumivat, 2 เมษายน 2008.

  1. junior phumivat

    junior phumivat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    1,346
    ค่าพลัง:
    +1,688
    ท่านสาธุชนพุทธบริษัท วันนี้ยังเป็น วันที่ 8 ตุลาคม 2533 ตามเดิม แต่ว่าพูดเป็นตอนที่ 2 ตอนนี้ ขอพูดถึงตอนที่ ไทยจะเป็นมหาเศรษฐี ถ้าสงครามโลกเกิดขึ้นท่านทั้งหลายคิดออกหรือยังว่า สงครามโลกเกิดขึ้น และมันก็ไม่ได้เกิดกับประเทศไทยโดยตรง มันเกิดภายนอกประเทศ นอกเขตของไทย เป็นอันว่า ลูกปืนก็ไม่มาถึงประเทศไทย เครื่องบินก็ไม่มาถึง ประเทศไทย แต่ต้องระวังจรวด เรื่องจรวดนี่ ต้องระวังกันหน่อย เพราะจรวดมันมาจากใต้นํ้าได้ มันยิงทางไกลได้ ถ้ามันจะ เกิดขึ้นบ้างก็เป็นขนาดย่อมๆตามจุดต่างๆ เป็นจุดเล็กๆ อาจจะโผล่จุดนี้บ้างจุดนั้นบ้าง เป็นการทำให้รวน กำลังของทหาร รวน แล้วจะตั้งกลุ่มขึ้นบางจุด เป็นกลุ่มใหญ่น้อย ก็ไม่มีอะไรน่าหนักใจ ก็รวมความว่า สงครามโลก ไม่มีเรื่องหนักใจ ในเรื่องการตายของเรา เรื่องรังสีของวิทยาศาสตร์ รัศมีต่างๆไม่ต้องวิตก ขอยืนยันว่า บุคคลที่นับถือ พระพุทธเจ้าจะไม่ตาย เพราะรังสีต่างๆ ตามที่บอกมาแล้ว
    ทีนี้ความรํ่ารวย มันจะเกิดขึ้นบ้าง ประการแรกขอบอกว่า เรื่องนํ้ามันจะเป็นเหตุให้รวย เพราะว่า ทุกประเทศต้องใช้นํ้ามัน และอีกประการหนึ่งนั่นก็คือว่า ถ้าสงครามโลกเกิดขึ้นจริงๆ ถึงแม้ว่า เราจะไม่ได้เข้าสงครามโดยตรง แต่ว่าทหารของ ประเทศบางประเทศ จะต้องยกเข้ามาตั้งในจุดใดจุดหนึ่ง ของประ เทศไทย เวลานั้น เราก็ขายนํ้ามันให้เขา เราก็รวยถ้ามี กองทหารอื่นเข้ามา มันจะดีหรือไม่ดี นี่ก็เป็นเรื่องของการเมือง แต่มีความจำเป็นเกิดขึ้นต้องยอมรับ ถ้ามีการยอมรับ ราย ได้ต่างๆของประชาชนก็เกิดขึ้น
    ทีนี้รัศมีสงคราม ในเมื่อไม่ถึงประเทศไทย เราก็ไม่มีความลำบาก บรรดาท่านที่ทำนาทั้งหลาย ท่านที่มีนาอย่าเพิ่งขายนา ในราคาแพงมากนัก คือขายก็ขายเถอะ แต่อย่าขายให้มันหมด ก็มีคนหลายคนมาบอก ว่ามีที่ 20 ไร่บ้าง 30ไร่บ้าง 50ไร่ บ้าง 100ไร่บ้าง อยากจะขาย ขายได้ไร่ละเป็นล้านนี่ก็เห็นใจเหมือนกัน ความจริงเงินนับล้าน เป็นของหายาก ก็เห็นใจเขา อาจจะตั้งตัวอย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้ ถ้าไม่ลืมตัว แต่ว่าบางท่าน ที่ไม่มีโอกาส จะขายนาของท่านได้ นาของท่าน อยู่ไกลที่ เจริญ อยู่ไกลแม่นํ้า ไกลถนน ถ้าเขาจะซื้อ ก็ซื้อราคาถูก ท่านก็ไม่อยากจะขาย ท่านจะขายราคาแพง ในที่สุดท่านก็ไม่มีโอ กาสขาย ในเมื่อเวลานี้ไม่มีโอกาสจะขาย ท่านอาจจะเสียดายว่า ที่นาของเราไม่ได้ขาย เราไม่รวยแต่ทว่าสงครามโลกเกิด ขึ้นจริงๆ ท่านจะดีใจ เพราะนาท่านไม่ได้ขาย ทั้งนี้เพราะอะไร เพราะข้าวของท่าน ที่ออกมา ราคามันแพง มันจะขายได้ดี ทุกสิ่งทุกอย่าง มันก็จะแพงกันหมด ดูสงครามโลกครั้งที่ 2 ทุกสิ่งทุกอย่าง มันหายาก ยิ่งเขายิ่งรบกันโอกาสที่เขาจะทำมัน ก็มีน้อย เขาต้องใช้เวลารบกันมากขึ้น ทีนี้เราก็ขายได้ดี
    มาส่วนด้านของอุตสาหกรรม อุตสาหกรรมก็มีมาก แต่ว่าอุตสาหกรรมก็ต้องระวังโรงงานโรงงานต่างๆต้องระวังระเบิดภาคพื้นดิน ไม่ใช่ระเบิดอากาศ ระเบิดภาคพื้นดิน จะอาละวาด ถ้าจะถามว่า หาทางป้องกันอย่างไร นี่เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจทหาร หรือท่านเจ้าของโรงงาน ทางด้านพุทธศาสนา ก็มีบอกไม่ได้ จะบอกได้อย่างไรว่า เรานับถือพระพุทธเจ้าเท่ากันหรือเปล่า ถ้านับถือเท่ากัน ก็เอาของที่ท่านให้ไว้ ท่านให้ไว้นั่น ก็คือ ความดี ของดี ถ้ามีไว้ในรัศมีนั้น จะไม่มีอันตรายจากภัยระเบิด และภัยโจมตีต่างๆ จะไม่เกิดขึ้น เหมือนกับสมัยมี ผกค. ในที่ต่างๆ เคยถูกโจมตี และเจ้าของสถานที่นั้น เจ้าหน้าที่ในที่นั้น เกิดมีความเคารพพระพุทธเจ้าขึ้นมา มีของอย่างใดอย่างหนึ่ง เป็นสัญลักษณ์ แสดงไว้เป็นเขต ในเขตนั้น ปรากฏว่า ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา ไม่เคยถูกโจมตีหรือข้าศึกยิงเข้ามา ก็ไม่เข้าสถานที่ ตรงหน้าไม่เข้าฐาน เป็นอันว่าทหาร ในเขตนั้น ก็ปลอดภัย ข้อนี้เป็นสัญลักษณ์ แสดงให้เห็นว่า
    ถ้าเรา นับถือพระพุทธศาสนาจริง และยอมรับนับถือพระพุทธเจ้าจริง สิ่งใดที่ท่านให้ไว้ สิ่งนั้นเราเคารพด้วย ความจริงใจ และทุกท่านจะปลอดภัย จากสงครามโลกครั้งที่ 3
    ทีนี้ถ้าโรงงานต่างๆมีความเคารพ พระพุทธเจ้าด้วยความจริงใจจริงๆโรงงานนั้น จะพ้นภัยจากระเบิด และการทำอันตรายต่างๆ จากสรรพวุธ จะไม่เกิดขึ้น กับโรงงานนั้น โรงงานนั้น ในเมื่อผลิตของได้ก็จะขายดี รวย เขารบกัน เขาไม่มีเวลาทำ เพราะเราไม่ต้องรบ เขาต้องสูญ ต้องเสียเงิน เพื่อการรบ การรบต้องใช้เงินมาก เราไม่ต้องสูญเสียเงิน เพราะการรบเราก็ ขายของของเรา ในเมื่อของมันขาด ราคาก็แพงใน เมื่อขายของได้ ราคาแพงมาก รัฐบาลก็ได้ภาษีอากร มากขึ้น ประเทศก็รวย คนในปะเทศก็รวย นี่พูดถึงความรํ่ารวย ที่ไทยจะเป็มหาเศรษฐี
    โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นํ้ามันตามจุดต่างๆที่บริษัทเขาเจาะไว้ เขาบอกว่า มันไม่พอใช้มันจะปรากฏขึ้น เพราะเราไม่มีโอกาส ซื้อนํ้ามันต่างประเทศ ถ้านํ้ามันต่างประเทศ จะซื้อได้ยากราคาแพง อันนี้เขาจะดึงขึ้นมาใช้ ราคาเหมือนราคาต่างประเทศ อย่างนี้อุตสาหกรรมของเรา ก็จะรวยไม่ได้ ถ้าบังเอิญคนไทย อย่างที่ฝางใช้หัวเจาะลึกๆ หัวเจาะยาวๆ เจาะลงไปลึกๆ แต่ ตามหลัก นักวิชาการ เขามีอยู่ อาตมาก็ไม่ได้ค้านตามนั้นนะ ลองเจาะดูตามที่ ดร.สรรพศาสตร์ ท่านพูด ดร.สรรพศาสตร์ ท่านบอกว่า ที่ใดก็ตามเจาะลงไป มันจะมีนํ้ามันแต่ว่า ผิวดินมันจะลึกจะตื้นกว่ากัน นั่นอีกอย่างหนึ่งต่างหาก เท่าที่เขาเจาะ เวลานี้ ยังไม่ถึง ขุมนํ้ามันจริงๆ มันไปถึงต่อมเล็กๆ บนหลังถังนํ้ามัน ยังไม่ถึง ถังขุมนํ้ามันแท้ ถ้าใช้หัวเจาะ ประมาณ 6 กิโลเมตร อย่างอังกฤษเจาะ อย่างนี้ไม่ต้องใช้กี่บ่อแล้ว เพียงแค่ 10 บ่อดึงกันวันไม่รู้จักเท่าไร เท่าไรก็ไม่รู้จักหมดเราใช้ ประมาณ 30 เท่า หรือ 300 เท่าของเวลานี้สัก 1,000 ปี มันก็ไม่หมด เพราะมันเป็นทะเลใหญ่ ดร.สรรพศาสตร์ท่านพูดอย่างนี้นะ
    ถ้าบังเอิญคนไทยของเรา ดึงขึ้นมาได้เอง เราก็กดราคานํ้มันให้ตํ่าลงไป อย่างแพงที่สุด ก็เท่าราคานํ้ามันในปัจจุบัน รักษาราคาน้ำมันไว้ ต่างประเทศเขาต้องซื้อราคาแพง เราถูก อุตสาหกรรมของเรา ก็มีราคาถูก ขายได้กำไร กำไรก็มีมาก กำไร จากอุตสาหกรรมด้วย กำไรจากเกษตรกรรมด้วย กำไรจากนํ้ามันด้วยและมีกำไรมากมายประเทศไทยก็จะเป็นมหาเศรษฐี
    ทีนี้ต่อไป มันก็มีเวลาเหลือ บรรดาท่านพุทธบริษัท ก็มาคุยกันว่า ถ้าสงครามโลกไม่เกิดจะว่าอย่างไร ก็ต้องตอบว่า ถ้าสงครามโลกไม่เกิดก็เป็นของดี แต่ว่าท่าน ดร.สรรพศาสตร์นี้ ก็เช่นเดียวกัน ท่านบอกว่า สงครามโลกเขาเรียกสงครามใหญ่ ไม่ใช่สงครามโลก ก็เป็นอันว่า ถึงแม้จะเป็นสงครามโลก ก็ตาม สงครามใหญ่ ก็ตาม ถ้ามันเกิดขึ้นจริง เราก็เอาบทเรียน จากสงครามโลกครั้งที่ 2 มาใช้กัน
    1. ผ้าในสมัยนั้น หาคนนุ่งผ้าดีได้ยาก ส่วนมากก็จะมีคน นุ่งผ้าขาดๆ เพราะเวลานั้น โรงานทอผ้าของเรา ยังมีน้อยแต่เวลานี้ โรงงานทำผ้าของเรามีมาก แต่ก็ไม่แน่นอนนัก บางทีระเบิดเพลิง จะเกิดจากภาคพื้นดินก็ได้ ถ้าระเบิดเพลิงจากภาคพื้น ดินเกิดกับโรงงาน โรงงานทำผ้าของเราก็จะสลายตัว ผ้าก็จะน้อย อันดับแรก เตรียมผ้าไว้ก่อน อันดับที่ 2 เตรียมพื้นดินไว้ ถ้ามีอยู่บ้าง ไม่มากไม่มาย ก็อย่าเพิ่งรีบขายเกินไป ถ้าได้กำไรมากๆ เป็นล้านๆ ก็ไม่ว่าอะไร ขายเถอะ แล้วเก็บเงินไว้ให้ ดี อย่าใช้ให้มันหมดตัว จงคิดว่า ถ้ามันหมดตัวแล้วเราไม่มีทางจะหาที่ดินขายใหม่
    ประการที่ 2 ก็เตรียมเนื้อ เตรียมกาย เตรียมใจ เตรียมใจไว้ นึกถึงความจริง ตามที่พระพุทธเจ้าทรงสั่งสอนว่า
    โลกเต็มไปด้วยความทุกข์ โลกไม่มีความสุข โลกเป็นอนิจจัง หาความเที่ยงไม่ได้ ในเมื่อมันเป็นอนิจจัง ก็เป็นความทุกข์ในที่สุด ก็เป็นอนัตตาตายหมด
    ถ้ามันเป็นเรื่องอย่างนั้นก็ไม่เป็นไร ความจริงเป็นอย่างนั้น ถ้าเรายอมรับก็ไม่เป็นไร ถ้าจิตยังไม่ยอมรับ มันก็มีความดิ้นรน มันก็มีความเร่าร้อน ถึงจะดิ้นรนจะเร่าร้อนขนาดไหนก็ตามเราก็จะหนีไม่พ้น ในเมื่อหนีไม่พ้นเราก็ต้องทนสู้ ทนสู้ กับภาวะ ของสงคราม ทีนี้เราจะสู้กับใคร เราสู้กับตัวเราเอง นั่นคือ ต้องใช้น้อย กินน้อย นอนมากๆ และตื่นไวๆ ใช้กำลังร่างกายทำ การงานให้ดี ได้พูดอย่างนี้ ก็พูดเรื่อยเฉื่อยไป
    เป็นอันว่า ตามคำพยากรณ์ของดร.สรรพศาสตร์ ท่านบอกว่าประเทศไทยจะเป็นมหาเศรษฐี แล้วคนไทยทุกคน จะเป็นมหาเศรษฐีไหม ก็ต้องขอบอกว่า คนไทยทุกคนไม่เป็นมหาเศรษฐีทุกคน แต่ว่าก็มีจำนวนมาก ก็จะเป็นลูกศิษย์มหาเศรษฐี คือ เป็นคนงานของมหาเศรษฐี เราก็จะเป็นเศรษฐีเล็กในครอบครัวเล็กๆได้เหมือนกัน สมมติว่าครอบครัวใด ยังไม่เคยมีเงิน ล้าน ครอบครัวเล็กๆ ปะเภทนั้น จะมีเงินล้านใช้ ประเภทครอบครัว ที่มีเงินแสนใช้ ต้องถือว่า เป็นครอบครัว ที่ยากจนมาก ถ้าบ้านไหนมีเงินล้านใช้ ถือว่าเป็นบ้านที่พอมีพอกินพอใช้ พอหาได้เลี้ยงตัวรอด ที่มีเงินเหลือเป็นแสน ก็ถือว่าเลี้ยงตัวรอด เหมือนกัน ที่ได้มาอย่างนี้เพราะว่า เรามีกำไรจากสงคราม แต่เราไม่อยากให้เกิดสงคราม
    ทีนี้มาพูดอีกทีหนึ่งที่ ดามุส ท่านบอกว่า ศาสนาคริสต์จะสลายตัว แต่ศาสนาอิสลาม ท่านไม่ได้บอกว่า จะสลายตัวหรือเปล่า แต่ว่า ท่านพระพุทธเจ้าเคยตรัส บอกว่า ถ้าสงครามเกิดขึ้น หลังกึ่งพุทธกาลแล้ว องค์สมเด็จพระประทีปแก้วกล่าวว่า ยักษ์นอกพระพุทธศาสนา จะรบราฆ่าฟันซึ่งกันและกัน จะตายไปฝ่ายละครึ่ง จึงจะเลิกรากัน
    ตอนนี้ ด้านศาสนาของเขา ก็จะก็จะมีการหย่อนตัวลงไป เพราะความทุกข์ความเศร้าโศกเสียใจ ความเสียหายเกิดขึ้นตาย ไปฝ่ายละครึ่ง ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยนะ บรรดาท่านพุธบริษัท การเชื่อพระเจ้า จะน้อยลง หรือ อาจจะสลายตัว อย่างท่านดามุส บอกก็ได้
    ทีนี้มาพูดถึงพุทธศาสนาบ้าง ทางพุทธศาสนา ถ้าสงครามใหญ่เกิดขึ้นจริงๆ ทางพุทธศาสนาจะรุ่งเรืองขึ้น ทั้งนี้เพราะอะไร เพราะว่า พุทธศาสนาจะรุ่งเรืองได้ จะมีความอุดมสมบูรณ์ได้เพราะ คนเห็นทุกข์ ในเมื่อคนเห็นทุกข์ ก็ยอมรับนับถือ ศีลธรรมมากขึ้น เฉพาะอย่างยิ่ง นักบวชฝ่ายปฏิบัติ สำหรับฝ่ายปริยัติ นั่นก็อีกฝ่ายหนึ่งต่างหาก คือท่านเรียน แต่ท่านยังไม่ได้ทำ เรียนรู้ จะถือว่าไม่ดีไม่ได้ ท่านก็ดี ท่านมีความรู้ ความรู้ในด้านปริยัติ ก็จะเจริญขึ้น ความสามารถ ในด้านปฏิบัติ ก็จะเจริญขึ้น ในช่วงนั้น อาจจะมีพระ ที่ได้อภิญญา หรือว่า นักปฏิบัติ ที่เป็นฆราวาส ที่ได้อภิญญา เกิดขึ้น ถ้ามีนักอภิญญา เกิดขึ้นนี่ บรรดาท่านพุทธบริษัท อันตรายต่างๆ จะเกิดขึ้น ได้น้อยเต็มที เพราะ อาศัยอภิญญาช่วย และ นอกจากนั้น ความ เจริญรุ่งเรือง ทางด้านจิตใจของเราก็เจริญรุ่งเรืองขึ้นมาก เพราะ เราไม่เสียหายมาก เรามีความสุข ในเมื่อเขาเลิกรบกัน เขาก็ขาด เกือบทุกอย่าง โดยเฉพาะ อย่างยิ่ง อาหารการบริโภด เขาก็ขาด เราก็ขาย เครื่องมือ เครื่องใช้ขาด โรงงานประ เทศไทยของเรานี้มีมาก เราก็ขาย
    รวมความว่า ทุกอย่างมันก็จะมีความก้าวหน้า จะมีความรํ่ารวย ดูตัวอย่างประเทศเยอรมัน กับประเทศญี่ปุ่น เมื่อหลังสงครามโลกถูกบังคับให้ไม่มีทหารพอ 2 ประเทศนี้ไม่มีทหารขึ้นมา ไม่ต้องเสียเงินค่างบประมาณทหาร เพราะว่างบประมาณ ทหารต้องเสียมาก เรื่อง อาวุธยุทโธปกรณ์ ต้องเตรียม เตรียมไว้บางทีไม่ได้ใช้ ล้าสมัย ต้องซื้อใหม่ ของเก่าเก็บไว้ หรือว่า ขายไป
    ทีนี้ในเมื่อไม่ต้องเตรียมการรบ ไม่ต้องเตรียมทหาร งบประมาณก็เหลือใช้ ประเทศก็มีความรํ่ารวย ประเทศไทยเราก็ฉันนั้น ในสมัยเมื่อเขารบกัน เราก็พยายาม ประวิงทุกอย่าง อย่าให้มีการรบ ถ้ามันมีความจำเป็นจริงๆ ก็จำกัดสถานที่รบ นั่นหมายความว่า สงครามใหญ่ ไม่มีใครเข้ามาในประเทศไทย พวกเขาตีกันทางโน้น เขาไม่ตีมาทางนี้ เขาอาจจะตีไปทาง ยุโรป ตีไปทางอเมริกา เขาไม่ตีมาถึงประเทศไทย แต่ว่า ประเทศไทย ก็ต้องมีส่วนร่วม ส่วนร่วมในความทุกข์ ที่จะเกิดสงคราม
    ที่นี้ในเมื่อเขาไม่ตีเข้ามาถึง เราก็มีความอุดมสมบูรณ์ แต่ทั้งนี้ ขอทิ้งท้ายไว้นิดว่า ตีเล็กมีนะ ตีใหญ่นะไม่มี มีแต่ตีเล็กก่อกวน สงครามก่อกวน จะมีเป็นของธรรมดา ทั้งนี้ก็ต้องเชื่อ ความสามารถของรัฐบาล และทหารตำรวจ เราสามารถจะควบคุม ความสงบสุขไว้ได้ เหตุต่างๆจะเกิดขึ้น จะไม่พ้นวิสัยของรัฐบาล และเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ จะสามารถปราบปรามได้ ถ้าถามว่า เขาใช้รัศมี อาวุธเคมี ใช้รังสีต่างๆ ก็ขอตอบว่า เป็นเรื่องเล็กๆ พุทธศาสนา ป้องกันได้แน่ อันนี้ขอยืนยัน จะเป็น นิวตรอน นิวเคลียร์ นิวอะไรก็ตามเถอะ ขอยืนยันว่า พุทธศานา ป้องกันได้แน่ แต่ว่า ท่านทั้งหลาย ต้องไปหาจากพระที่เป็น นักปฏิบัติ ทางด้านจิตใจ ที่ท่านเข้าถึงฌานโลกีย์ทรงตัว ก็ทรงความเป็นอภิญญา
    ถ้าถามว่า เวลานี้จะหาที่ไหน ก็ต้องขอตอบว่า เวลานี้อย่าเพิ่งหา อาจจะมีอยู่ที่ไหนบ้างก็ได้แต่ไม่มีใครเขาบอกกัน ถ้าถึงเว ลานั้นจะปรากฏตนเอง ท่านจะแสดงออกมาให้เห็นถึงความปลอดภัยว่า ท่านสามารถป้องกันได้ ถ้าท่านองค์ไหนจะเป็นพระ ก็ดี จะเป็นฆราวาสก็ดี ไม่ได้หมายความว่า พระเสมอไป ฆราวาสที่มีความสามรถก็มีมาก ก็สามารถจะป้องกันได้สามารถ จะทำได้ ก็พึ่งท่านนั้น ท่านต้องให้เป็นที่พึ่งแน่นอน ทั้งนี้เพราะอะไร ถ้าหากว่า เราทั้งหลายตายกันหมด ท่านก็ตายเหมือน กัน ท่านอดตาย เพราะว่า ท่านอาศัยพวกเรากิน พวกเราหากินหาใช้เหลือ เราก็ให้ท่าน
    อย่างสมมติว่า ถ้าพระบิณฑบาต เราก็ถวายพระ ถ้าชาวบ้านอด ชาวบ้านตายหมด พระก็ตาย เพราะ ไม่มีใครจะให้ ข้อนี้ฉัน ใด เวลานั้นก็ตามท่านที่ทรงอภิญญา จะเป็นพระก็ตามจะเป็นฆราวาสก็ตาม ไม่มีใครปกปิดความสามารถ สามารถจะป้อง กันรังสีต่างๆ ได้ และป้องกันสรรพวุธได้ตามกำลัง แต่บุคคลที่ต้องตายไปบ้าง นั่นก็หมายถึงว่า บุคคลที่มีอายุ ถึงอายุขัย บุค คลที่มีอายุถึงอายุขัยนี่ เราป้องกันไม่ได้ มันมีความจำเป็น คนประเภทนี้ จะรบก็ตาย ไม่รบก็ตาย นอนเฉยๆ ก็ตาย กินข้าว อยู่ก็ตาย นอนหลับก็ตาย คุยกันก็ตาย เพราะถึงอายุขัย เวลานั้นมันต้องตาย
    ก็รวมความว่าประเทศไทยไม่ต้องหนักใจ ขอบรรดาท่านพุทธบริษัททุกคน ยอมรับนับถือความดีของพระพุทธเจ้าไว้ ความดีที่พระพุทธเจ้าให้ไว้ก็มี 4 อย่าง เอาสักสอง 4 อย่างให้เป็นการใบ้หวยเลยนะ 4 ที่หนึ่ง ก็เอาอย่าง่ายๆ คือ สังคหวัตถุ 4 คือ
    1. ทาน การให้ ให้มีการสงเคราะห์ ซึ่งกันและกันเข้าไว้ สร้างความรักเข้าไว้ อย่าสร้างศัตรู การให้ท่านเป็นการทำลายล้างศัตรูไม่เกิดศัตรูขึ้นมา เพราะเราบุคคลผู้รับ ย่อมรักในบุคคลผู้ให้
    ประการที่ 2 ปิยวาจา พูดดี พูดให้คนที่รับฟัง มีความสุขจากคำพูดของท่าน เขาก็รักเราในเมื่อเขารักเรา เราก็มีความสุข
    ประการที่ 3 ช่วยเหลือการงาน ซึ่งกันและกัน ถ้าเขาเกินวิสัยเราช่วย เขาก็จะเกิดความรัก
    ประการที่ 4 เราไม่ถือตัวไม่ถือตน การไม่ถือตัวไม่ถือตน จัดเป็นปัจจัยให้เกิดความรัก
    อันนี้เป็นความดี ที่พระพุทธเจ้าให้ไว้เป็นอันดับแรก รักษากฏ 4 ประการนี้ได้ บรรดาท่านทั้งหลาย เราจะมีแต่คนรัก เราจะไม่มีคนเกลียด ทีนี้ถ้าจะถามว่า ในเมื่อเขาประกาศสงครามกัน เขาไม่รู้จักกัน เขายิงจรวดมา จะทำอย่างไร มันก็เป็นของไม่ยาก เขาจะยิงมาหรือไม่ยิงมา เราก็ภาวนาพุทโธไว้ จิตใจยอมรับนับถือ พระพุทธเจ้าโดยตรง สิ่งใดที่พระพุทธเจ้าทำไว้ ท่านให้ไว้ เรานับถือด้วยความจริงใจ สิ่งนั้นท่านทั้งหลายจะป้องกันอันตรายท่านได้อย่างแน่นอนและประการต่อไปอีก 4 อย่างคือ พรหมวิหาร 4
    1. เมตตา ความรัก สร้างความรัก ทำจิตใจเกิดความรักทั้งคน และสัตว์โลก ถือว่าเราเป็นมิตรกัน
    ประการที่ 2 มีความสงสาร คอยเกื้อกูลกันไว้เสมอ อย่าเห็นแก่ตัว
    ประการที่ 3 ยินดีเมื่อบุคคลอื่นได้ดี ไม่อิจฉาริษยาใคร
    ประการที่ 4 เมื่อบุคคลนั้นถึงอายุขัย ต้องตาย เพราะอาวุธ ต้องตายตามกาลเวลา เราก็ วางเฉย
    ในเมื่อมีความดีอีก 4 ประการอย่างนี้แล้ว บรรดาท่านพุทธบริษัททุกคนจะปลอดภัยอย่าลืม สังคหวัตถุ 4 เป็นความดีเล็ก น้อยความดีขั้นต้น พรหมวิหาร 4 เป็นความดีสูงสุด คือ เมตตา ความรัก กรุณา ความสงสาร มุทิตา มีจิตอ่อนโยนเห็น ใครได้ดี พลอยยินดีด้วย อุเบกขา วางเฉย เมื่อเหตุร้ายเกิดขึ้น ไม่สามรถจะยับยั้งได้ ก็ทำใจวางเฉย ไม่ดิ้นรน ยอมรับตามความเป็นจริง
    นี่แหละบรรดาท่านพุทธบริษัทชายหญิง เวลาเหลือประมาณ 5 นาที ก็คุยกันไปคุยกันมาย้อนถึงสงครามโลกครั้งที่ 2 อีกสัก นิดหนึ่งว่า ทำไมถ้าสงครามใหญ่เกิดขึ้น คนไทยจะมีความมั่นคง ในพุทธศาสนามากขึ้น จะชี้ตัวอย่างให้เห็นสักอย่างหนึ่ง เพราะ สมัยนั้นผู้พูดอยู่ในกรุงเทพฯ คืนใดถ้ามีปกติเครื่องบิน ไม่มาทิ้งระเบิด เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 ตอนเช้า ไปบิณฑ บาต เวลานั้นคนหนีระเบิด มาบ้านนอกกันมาก มาต่างจังหวัดกันมาก คนใส่บาตรมีน้อย พอกินแค่เช้า เพลไม่พอกิน แต่ว่า บังเอิญคืนไหน ถ้ามีเครื่องบินมาโจมตีทิ้งระเบิดเวลาเช้าไปบิณฑบาต ปรากฏว่า มีคนใส่บาตรมากเป็นพิเศษ ไปไม่ทันถึง ครึ่งทางก็เต็มบาตร ยามปกติไปจนสุดทาง แล้วก็เดินทางกลับ ยังไม่ถึงครึ่งบาตร แต่คืนไหน มีเครื่องบินมาโจมตี รุ่งเช้า มีคนทำบุญกันมาก
    จะเห็นว่า คนที่มีความรู้สึกว่า ชีวิตของเราใกล้ความตาย ไม่มีความประมาท คือ เขาจะถือว่าเป็นการฉลองชีวิต ที่เกิดใหม่ จากการโจมตีของข้าศึก ข้าศึกทิ้งระเบิดก็ทิ้งยิงกราดด้วยปืนกลก็ยิง แต่เขาก็ปลอดภัยจึงทำบุญกันใหญ่ ข้อนี้ฉันใดบรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลายในเมื่อสงครามใหญ่มันเกิดขึ้น เป็นสงครามที่น่ากลัว อาวุธในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ถือว่าเป็น อาวุธดีแล้วนะ ล้าสมัยไปแล้ว เครื่องบินสมัยนั้น เป็นเครื่องบินที่ดีที่สุด เวลานี้เขาเลิกใช้แล้ว เครื่องบินสมัยใหม่ เขาดีกว่า สมัยนั้นมาก อาวุธที่ใช้ใหม่ ดีกว่าอาวุธสมัยนั้นมาก
    ทีนี้ถ้าสงครามเกิดขึ้นข่าวคราวก็ย่อมถึงกัน เวลานี้มีทั้งวิทยุ มีทั้งโทรทัศน์ ถ่ายทอดจากดาวเทียม เราสามารถจะเห็นภาพ ได้ ในเมื่อเห็นการสูญเสีย ความตายเกิดขึ้น ความทุกข์ก็เกิดขึ้น จิตใจก็เริ่มเป็นกุศล เวลานั้น บรรดาท่านพุทธศาสนิกชน ก็จะมีความมั่นคงในพุทธศาสนามากขึ้น เพราะ กลัวตาย สำหรับ อีกด้านหนึ่ง ท่านนักปฏิบัติ เจริญสมาธิจิต ก็จะเร่งรัด ตัวเองให้ทำสมาธิให้ดีขึ้น โดยหวังอย่างเดียวว่า ถ้าตายแล้ว ไม่ขอเกิดใหม่ อย่างเลวที่สุด ตายจากความเป็นคน ไปสวรรค์ ก็เอา หรือว่าดีกว่านั้น ไปพรหมก็ดี ถ้าดีกว่านั้น ไปนิพพานก็ดี ท่านจะเร่งรัดตัวเอง การเร่งรัดตัวเอง ประเภทนี้ กำลังใจจะมีสมาธิในที่สุด อภิญญาก็จะเกิด ในเมื่ออภิญญาเกิด ก็จะใช้ผล ของอภิญญา และญาณต่างๆ ที่ได้จากสมาธิ และวิปัสสนา ญาณ เอามาช่วยบรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย ให้มีความสุขปลอดภัย
    ในตอนนี้ก็ขอสรุปว่า ขอบรรดาท่านพุทธบริษัทอย่าลืม องค์สมเด็จพระบรมโลกเชษฐ์ เตรียมตัวตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปว่าเรา จะบูชาพระทุกวัน นึกถึงพระพุทธเจ้าก่อนหลับ ตื่นใหม่ๆ นึกถึงพระพุทธเจ้าบูชาพระ บูชาพระอย่างอื่นไม่ได้ ก็ว่า นะโมตัส สะฯ 3 หน ด้วยความเคารพในพระพุทธเจ้าจริง แล้วว่า
    พุทธัง สาณัง คัจฉามิ ข้าพเจ้าขอถึงพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่ง
    ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ ข้าพเจ้าขอถึงพระธรรมเป็นที่พึ่ง
    สังฆัง สรณัง คัจฉามิ ข้าพเจ้าขอถึงพระสงฆ์เป็นที่พึ่ง
    แค่นี้ก็หลับ และตื่นใหม่ๆทุกวัน บรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย ทุกท่านปลอดภัยและจะมีความรํ่ารวย
    คัดมาจากหนังสือ ธัมมวิโมกข์ (ฉบับพิเศษ) โดย พระราชพรหมยาน
    วัดท่าซุง อ.เมือง จ.อุทัยธานี
     
  2. rux

    rux เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    308
    ค่าพลัง:
    +990
    สมบัติต่างๆ จะเริ่มปรากฏขึ้นในประเทศไทย และตอนนี้ไทยก็พบแหล่งน้ำมันแห่งใหม่แล้ว และปริมาณการผลิดต่อวันสามารถผลิตได้มากกว่าบรูไนด้วย...
     

แชร์หน้านี้

Loading...