ไปทำสังฆทานแล้วชอบถ่ายรูปของที่นำไปถวายเก็บไว้..บาปหรือผิดไหมคะ

คือดิฉันก่อนหน้านี้นานมาแล้ว เวลาไปทำบุญที่วัดเช่นทำสังฆทาน ดิฉันก็ไม่ได้ถ่ายรูปอะไรไว้เลยค่ะ แล้วมีวันนึงคล้ายๆว่าอ่านเจอว่า เราควรมีอะไรไว้ให้จดจำความดีค่ะ เวลาก่อนจะตายไปหรือใกล้สิ้นลมหายใจ จะได้นึกถึงบุญความดีที่เคยทำได้ง่ายๆ หลังจากนั้นมา เวลาดิฉันไปทำบุญ ทำสังฆทานวัดไหน ดิฉันจะถ่ายรูปสิ่งของที่นำไปถวายพระไว้เสมอ แต่ไม่ได้ถ่ายตนเอง และไม่ได้ให้ใครถ่ายให้ว่าใครเป็นผู้ทำสังฆทาน คือถ่ายแต่ของ ที่ทำแบบนี้เพราะดิฉันคิดว่า จะเอาไว้ดูยามแก่เฒ่า หรือตอนเจ็บป่วยไม่มรเรี่ยวแรงไปทำบุญแล้ว จะได้นำมาดู ระลึกถึงบุญนั้นค่ะ และดิฉันก็ไม่เคยเอารูปที่ถ่ายๆเก็บไว้ ไปโพสลงในเฟสหรือไลน์เลยค่ะ คือทำก็ทำเงียบๆ แต่บางทีก็บอกเพื่อนบางคนค่ะว่าเราไปทำบุญมานะ เพื่อให้เขาได้อนุโมทนาบุญด้วย แต่ไม่ได้เอารูปไปโพสลงsocial เพื่ออวด หรืออะไร ตรงนี้กลัวว่าโพสลงจะกลายเป็นอวดไปค่ะ เลยไม่เคยโพสลงเลย ทำบุญเงียบๆมากกว่าค่ะ
และก็มีเมื่อไม่นานมานี้ค่ะ ทำให้ดิฉันเกิดข้อสงสัย คือดิฉันไปทำสังฆทานตามปกติค่ะ ไปหลายๆวัด วัดเดิมบ้าง วัดใหม่บ้าง มาคร่าวนี้ไปวัดที่เคยไปทำบุญเมื่อนานมาแล้วค่ะ พอไปถึงดิฉันเอาของมาวาง พระท่านก็นั่งอยู่ข้างบนนะคะ ดิฉันก็รีบถ่ายรูปของสังฆทานไว้ก่อนค่ะ แล้วก็กราบพระ3ครั้ง ตอนที่ดิฉันถ่ายรูปของทำสังฆทานค่ะ พระท่านกล่าวขึ้นมาว่า มาทำบุญ เพื่ออะไร เพื่อละกิเลส เพื่อตัดออก ละความโลภ (ดิฉันจำได้ราวๆนี้ค่ะ ) ดิฉันฟังก็คิดตามนะคะ ว่าดิฉันทำอะไรผิดหรือไม่ การทำบุญ ดิฉันก็ทราบดีค่ะ ว่าเป็นการสละออก เพราะดิฉันไม่เคยคิดเสียดายของที่นำไปทำบุญเลย ถวายเพื่อให้พระสงฆ์ใช้ ทำด้วยความอิ่มเอมใจทุกครั้งค่ะ เลยอยากถามว่า ดิฉันไม่ควรถ่ายรูปของที่นำไปทำบุญใช่มั้ยค่ะ ดูคล้ายว่า ยังโลภอยู่ใช่รึปล่าวคะ ดิฉันจะได้ไม่ทำอีกค่ะ แต่บางทีดิฉันก็เห็นคนอื่นๆก็มีแฟนถ่ายรูปให้นะคะ เวลาไปทำบุญ ขอคำแนะนำด้วยนะคะ

และท้ายนี้ข้าพเจ้าขอกราบขอขมา ขอ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ จงโปรดยกโทษและอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้าด้วย หากข้าพเจ้าได้ทำผิด หรือทำไม่ดี คิดไม่ดี พูดไม่ดี ต่อพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ทั้งทางกาย วาจา ใจ ก็ดี ทั้งต่อหน้าและลับหลังก็ดี ทั้งตั้งใจก็ดีไม่ตั้งใจก็ดี ขอ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ จงโปรดยกโทษ และอโหสิกรรม ให้แก่ข้าพเจ้าด้วยเทอญ สาธุ

 

ไม่ผิดและไม่บาปครับ
ต่อให้อยากโชว์ออฟก็ไม่ได้บาปอะไร แต่จะทำให้บุญหมองลง
เพราะมีกิเลสอยากโชว์ ก็แค่ไม่ควรทำแค่นั้นแหละครับ

เอาเป็นว่า เอาสบายใจว่าครับ ถ้าต้องการเก็บภาพเป็นที่ระลึก
ก็ถ่ายไปเถอะ ไม่มีกฎห้าม

 

ขอขอบคุณสำหรับความคิดเห็นค่ะ

 

อนุสติ 10
พุทธานุสติ - ระลึกถึงพระพุทธเจ้า คือน้อมจิตระลึกถึง และพิจารณาคุณของพระองค์
ธัมมานุสติ - ระลึกถึงพระธรรม(คำสั่งสอนของพระพุทธองค์) คือน้อมจิตระลึกถึง และพิจารณาคุณของพระธรรม
สังฆานุสติ - ระลึกถึงพระสงฆ์ คือน้อมจิตระลึกถึง และพิจารณาคุณของพระสงฆ์
สีลานุสติ - ระลึกถึงศีล และพิจารณาศีลของตนที่ได้ประพฤติบริสุทธิ์ ไม่ด่างพร้อย
จาคานุสติ - ระลึกถึงจาคะ ทานที่ตนได้บริจาคแล้ว และพิจารณาเห็นคุณธรรม คือความเผื่อแผ่เสียสละที่มีในตน
เทวตานุสติ - ระลึกถึงเทวดา หมายถึงเทวดาที่ตนเคยได้รู้ได้ยินมา และพิจารณาเห็นคุณธรรมซึ่งทำคนให้เป็นเทวดา ตามที่มีอยู่ในตน
มรณสติ - ระลึกถึงความตายอันจะต้องมีมาถึงตนเป็นธรรมดา พิจารณาให้เกิดความไม่ประมาท
กายคตาสติ - สติอันไปในกาย หรือระลึกถึงเกี่ยวกับร่างกาย คือ กำหนดพิจารณากายนี้ ให้เห็นว่าประกอบด้วยด้วย ส่วนต่างๆคือ อาการ32อันไม่สะอาด ไม่งาม น่าเกลียด เป็นทางรู้เท่าทันสภาวะของกายนี้ มิให้หลงใหลมัวเมา
อานาปานสติ - สติกำหนดลมหายใจเข้าออก
อุปสมานุสติ - ระลึกถึงธรรมเป็นที่สงบคือนิพพาน และพิจารณาคุณของนิพพาน อันเป็นที่หายร้อนดับกิเลสและไร้ทุกข์

ผมว่าถ่ายเพื่อระลึกถึงเรื่องราวที่ดี นั้นถือว่าเป็นอารมณ์ที่ดี

:z17

 

ที่พระรูปนั้นกล่าวแบบนั้น เพราะท่านคิดว่าคุณถ่ายไปเพื่อโพสต์ในอินเตอร์เน็ต เท่านั้นเอง

ถ้าคุณถ่ายเพื่อจดจำไว้ว่าเคยทำบุญสังฆทาน ก็บอกท่านไปตรงๆว่า

คุณถ่ายเพื่อจำบุญที่ได้ทำไว้ ตายไปจะได้ไปสู่สุคติ เท่านั้น

ถ้าท่านเข้าใจ ท่านก็จะไม่เข้าใจผิดอีก



การถ่ายรูปไว้ ก็เป็นเรื่องดี แต่ควรที่จะถ่ายไม่ให้ใครเห็น เพื่อไม่ให้ผู้อื่นเข้าใจผิด

การกระทำของเจ้าของกระทู้ ก็เป็นเรื่องที่ดีมากๆนะครับ

เพราะเมื่อเราถ่ายรูปไว้ดู และจำได้ว่าเราเคยทำบุญสังฆทาน เพื่อบำรุงศาสนาพุทธให้เจริญรุ่งเรืองสืบต่อไป



ถ้าก่อนตายท่านระลึกถึงบุญ ก็ไปสุคติภูมิก่อนแน่นอนครับ

ถ้ามีกำลังใจสูงกว่านี้ ระลึกถึงบุญจนเป็นฌาน คืออารมณ์ชิน ก็จะไปพรหมโลก



ถ้ามีกำลังใจสูงสุด ระลึกว่า เราทำไปเพื่อละกิเลส คือละความโลภ ละความโกรธ ละความหลง

ทำไปเพื่อไม่ให้เกิดอีก เพราะความเกิดเป็นความทุกข์ ยิ่งเกิดมากเท่าไร ก็ทุกข์มากเท่านั้น



เราขอเกิดชาตินี้เป็นชาติสุดท้าย ถ้าตายตอนนี้ก็ขอเข้าพระนิพพานเท่านั้น ไม่ขอเกิดอีก มนุษย์โลก เทวโลก พรหมโลก ไม่เอา ขอไปนิพพานอย่างเดียว

ถ้ากำลังใจไม่ติดในร่างกาย ไม่ติดในการเกิด ก็จะเป็นพระอรหันต์ เข้าพระนิพพานทันที



นี่เป็นคำสอนของ หลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง ที่ผมได้จำมากล่าวอีกทีครับ

 

ขอขอบคุณทุกๆความคิดเห็นค่ะ ได้ข้อคิด ได้สิ่งที่ดีมากๆ ขอขอบคุณค่ะ