ไม่มีใครเป็น "ชาวโลก" หรอก เราก็ล้วนมาจากต่างดาวกันทั้งนั้น

มันอาจจะเนิ่นนานเกินไป จนท่านทั้งหลายหลงลืม แต่ไม่เป็นไร เพื่อให้ท่านระลึกนึกถึงต้นกำเนิดของท่านทั้งหลายได้ เราจะเล่าเรื่องราวย้อนกลับไปของโลกใบนี้ ให้ท่านทั้งหลายได้ฟังกัน เริ่มจากดั้งเดิมที่โลกใบนี้ มีลักษณะคล้ายลูกไฟลูกหนึ่งลุกโชนอยู่ แล้วได้รับการปรับสภาพจากพลังจักรวาล ทำให้มีสภาพที่เปลี่ยนไป โลกใบนี้ไม่ได้ดับสนิท และมันไม่ได้ดับเป็นส่วนใหญ่ ตรงกันข้าม ส่วนที่ดับอยู่มีน้อยมากเหมือนเปลือกบางๆ ห่อหุ้มลูกไฟลูกใหญ่ไว้เท่านั้น สภาพแบบนี้ มันจึง "พร้อมที่จะประทุ" ได้อย่างง่ายดาย ทั้งยังแปรปรวน ไม่เที่ยง ไม่อาจควบคุมยึดมั่นถือมั่นได้ ตลอดเวลา เราต้องย้ำแก่ท่านว่า ท่านทั้งหลายกำลังยืนอยู่บน "ลูกไฟขนาดใหญ่" ที่มีผิวเปลือกบางๆ ที่ดับสนิทแล้วรองรับท่านอยู่เท่านั้น โลกนี้จึงไม่เที่ยงเลย ไม่มีความมั่นคงอย่างแท้จริง และเพราะเหตุนั้น ท่านทั้งหลายจึงมี "อายุขัยสั้น" เพื่อให้พร้อมรับกับความไม่เที่ยงนี้ ท่านจึงมีเวลาอยู่บนโลกไม่นานนัก ประมาณ ๑๐๐ ปีก็หมดเวลาของท่านแล้ว ท่านทั้งหลาย ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของโลกใบนี้เลย โลกใบนี้จากเดิมที่ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดอยู่ พลังจักรวาลจำนวนมากก็เข้ามาปรับสภาพ แล้วจึงก่อเกิด "พลังชีพพื้นฐาน" ขึ้น ทำให้เกิดมีพืชพรรณขึ้นมามากมาย และแล้วก็ถึงเวลาที่ท่านทั้งหลาย พร้อมจะเดินทางมาจากดาวต่างๆ, โลกธาตุอื่นๆ ลงมายังโลกใบนี้ และเพื่อให้สามารถปรับสภาพเข้ากับโลกใบนี้ได้ดีที่สุด เราจึงห่อหุ้มท่านด้วยธาตุต่างๆ ที่มีอยู่ในโลกใบนี้ คือ ธาตุดิน, น้ำ, ลม, ไฟ เป็นสังขารเปลือกนอกของท่าน ซึ่งท่านจะต้อง "คืนกลับแก่โลกใบนี้" เมื่อท่านตายลง แล้วจรจุติกลับไปยังดาวดวงเดิม หรือโลกธาตุเดิมของท่าน หลัง "เสร็จสิ้นภาระกิจของท่าน" แล้ว กล่าวถึงตอนนี้ ท่านพอจะนึกออกหรือยัง ที่เราได้กล่าวแก่ท่านทั้งหลายว่าท่านไม่ใช่ชาวโลก
เพราะอะไร? และกล่าวแก่ท่านอีกว่าท่านมาจากต่างดาว หรือโลกธาตุอื่นๆ เพราะอะไร? ท่านพอจะย้อนระลึกนึกถึงสิ่งเหล่านี้ได้หรือไม่?

 

สิ่งที่ท่านควรระลึกคือ ท่านมาจากที่ใด เพื่อภารกิจใด และมีผู้ใดเป็นผู้ดูแลท่าน?


สิ่งต่อไปที่ท่านควรระลึกให้ได้คือ ท่านเดินทางมาจากดาวดวงใด, โลกธาตุใดฯ ซึ่งท่าน
อาจเดินทางผ่านมาแล้วหลายโลกธาตุ ผ่านดวงดาวมาแล้วหลายดวงแต่ที่สำคัญคือท่าน
เดินทางมาจากดาวดวงใดก่อนที่จะมายังโลกใบนี้ ณ ปัจจุบันนี้และท่านเดินทางมายังโลก
นี้เพื่อ "ภารกิจอะไร" ที่นอกเหนือจากการดำรงชีพอยู่ เพื่อหล่อเลี้ยงสังขารที่ท่านแบกรับ
ภาระอยู่นี้ และเพื่อให้ท่านสามารถได้รับข้อมูลที่ชัดเจน, ถูกต้องยิ่งขึ้น ท่านก็ควรระลึกถึง
"ผู้ดูแลที่ส่งท่านมายังโลก" ซึ่งชาวโลกอาจรู้จักกันในนาม "เทพเจ้า" ก็ดี, "พระผู้เป็นเจ้า"
ก็ดี ฯลฯ เพราะท่านเหล่านี้ ควรส่งสารสื่อถึงท่านทุกคน ตลอดเวลา เพื่อย้ำเตือนถึงการมา
ของท่านและการจากโลกนี้ไปของท่าน ให้ท่านทำภารกิจที่ได้รับมาให้สำเร็จเสร็จสิ้นให้ได้
ท่านไม่ควรให้ภารกิจทางโลก เรื่องวุ่นวายของโลกใบนี้ ครอบงำ, ผูกมัด, ขังกรงฯ ท่านไว้
แต่ควรระลึกนึกถึง "ภารกิจที่ท่านได้รับมา" ให้ได้แจ้งชัด ขจัดความเป็นปุถุชนที่เคลือบฝัง
จิตอันบริสุทธิ์ของท่านไว้ด้วยสังขารอันไม่เที่ยงนี้ และคำตอบเหล่านั้น ช่างง่ายดายนักเมื่อ
ท่าน "เป็นหนึ่งเดียวกับพระผู้เป็นเจ้า" หรือเจ้านายผู้ส่งท่านลงมาเกิดยังโลกใบนี้ พร้อมทั้ง
พระผู้เป็นเจ้าก็ส่งพลังพิเศษให้ท่านได้ทำภารกิจที่สำคัญนั้นๆ อยู่แล้ว เพียงแต่ท่านประสาน
เป็นหนึ่งเดียวกันได้เมื่อไรก็เท่านั้นเอง ดังนั้น เราจึงได้รับมอบหมายให้มาย้ำเตือนท่านดังนี้

 

ท่านทั้งหลาย จงอย่าได้ปล่อยให้ตนเองหลงติดอยู่กับโลกใบนี้อีกต่อไป


ดังที่เราได้บอกแก่ท่านแล้วว่าโลกใบนี้คือลูกไฟลูกใหญ่ที่ยังดับไม่สนิทเลย ทั้ง
ยังพร้อม "ดูดกลืน" จิตวิญญาณมากมาย ลงไปในลูกไฟลูกนั้น ที่ท่านทั้งหลาย
ได้รับการสอนจากศาสนาว่าเป็น "นรก" นั่นเอง สิ่งนั้น คือสิ่งที่น่ากลัวของโลก
ใบนี้ ที่ไม่มีในโลกธาตุอื่นๆ ดาวดวงอื่นๆ เพื่อให้ท่านทั้งหลาย สามารถเดินทาง
กลับได้อย่างถูกต้องและปลอดภัย เราจึงได้ย้ำเตือนเสมอถึง "ภัยของโลกใบนี้"
ผ่าน "ข่าวภัยพิบัติ" ให้ท่านทราบอยู่เนืองๆ ไม่ว่าจะผ่านสังขารร่างใด, อักษรฯ
ใด, สื่อใดๆ ก็ตาม แต่สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นธรรมดาของโลกใบนี้ เพื่อจะให้ท่านไม่
หลงโลก เราจึงต้องคอยเตือนท่านเป็นระยะไป แต่นั่นไม่สำคัญเท่ากับ การระลึก
ถึง "ภารกิจของท่านแล้วทำให้สำเร็จให้ได้" เพื่อให้ท่านได้กลับไปยังบ้านเก่าซึ่ง
ท่านจากมา หรือไปรับการต้อนรับสู่บ้านใหม่และการเรียนรู้ใหม่ๆ จากดาวดวงอื่น
โลกธาตุอื่นๆ, เทพเจ้าองค์อื่นๆ ฯลฯ หรือ ท้ายที่สุด "ท่านจะได้พัก" ที่ชาวพุทธ
เรียกว่า "นิพพาน" นั่นเอง ทั้งหมดนี้ ล้วนดีกว่าโลกใบนี้ทั้งสิ้น ขอเพียงท่านหลุด
พ้นจากการหลงโลกและสิ่งใดๆ ก็ตามที่อยู่ในโลกใบนี้ได้ นั่นคือ "สิ่งสำคัญแรก"
ที่ท่านควรจะทำให้ได้ เพราะพลังงานเก่าของโลกใบนี้ ได้ยึดโยง ผูกพันธนาการ
ท่านไว้มากมาย มันพอกพูนและทับถมท่าน จนอาจจะทำให้ท่านไม่สามารถกลับ
คืน "แหล่งกำเนิด" ที่ท่านจากมาได้ และนั่นทำให้ท่านจะต้องทำการ "ชำระล้าง"
พลังงานเก่าของโลกใบนี้ที่เจือปน, ปรุงแต่งท่านอยู่ ด้วย "จิตบริสุทธิ์ประภัสสร"
ของท่านเอง อันเป็นพลังเบื้องลึกที่มีอยู่แล้วในท่านทั้งหลาย เพียงแต่ท่านใช้มัน
เท่านั้นโดยที่ท่านไม่ต้องเปลี่ยนแปลงหรือปรับปรุงอะไรมันเลย ท่านก็จะสามารถ
ชำระล้างพลังงานเก่าของโลกใบนี้ที่ครอบงำและทับถมท่านให้ท่านกลับใสขึ้นได้

 

ขอบคุณค่ะ รออ่านต่อ

 

ท่านปรับตัวอยู่กับโลกนี้ได้โดยไม่ถูกโลกครอบงำและพร้อมเสมอที่จะคืนกลับ


สิ่งที่ทำควรทำ ก็เพียงแค่ "ปรับตัวอยู่กับโลกนี้ให้ได้" แค่เพียง "พอควรแก่การดำรง"
ไม่ใช่เป็นไปภายใต้พลังงานเก่าของโลกครอบงำ และขับดันให้ท่านหลงโลกนี้ต่อไป
และท่านควรจะ "พร้อมเสมอที่จะคืนกลับ" ไม่ว่าเวลาใด, ที่ไหน, อย่างไร เพราะการ
คืนกลับนั้นท่านจะหลุดพ้นจากร่างสังขารด้วยวิธีการต่างๆ ไม่เหมือนกันเลย แต่ท้ายที่
สุดก็คือ "การคืนกลับ" เหมือนกัน ดังนั้น ไม่ว่าท่านจะได้รับการปลดปล่อยจากสังขาร
นี้ให้คืนกลับด้วยวิธีใดๆ ก็ตาม สิ่งนั้น "ไม่ใช่ปัญหา" เลย ไม่ว่าท่านจะถูกยิงตาย ป่วย
ตายด้วยโรคอะไร หรือได้รับภัยพิบัติจนต้องตายอย่างกะทันหัน นั่นไม่ใช่ปัญหาในการ
คืนกลับ เพราะท่านสามารถคืนกลับได้อย่างปลอดภัยถ้าท่าน "พร้อมอยู่เสมอ" แต่ถ้า
ท่านไม่พร้อมในการคืนกลับ เพียงเสี้ยวคิดเดียว ที่ท่านยึดโยงอยู่กับโลกใบนี้ ท่านก็จะ
"ติดพันอยู่กับโลกใบนี้" และไม่สามารถ "คืนกลับยังแหล่งกำเนิด" ได้เลยและจะทำให้
ท่านต้อง "หาร่างสังขารใหม่" ที่พร้อมจะปลดปล่อยท่านให้ "คืนกลับถึงแหล่งกำเนิด"
ได้ เหมือนการหา "แท่นยิงจรวด" ใหม่นั่นแหละ ท่านจะต้องจรร่อนเร่หาสังขารใหม่ไป
เรื่อยๆ ไม่จบไม่สิ้นอยู่บนโลกใบนี้จนกว่าท่านจะ "หลุดพ้น" โลกใบนี้ไปได้ นี่แหละคือ
"พลังดึงดูดอันมหาศาลของโลกใบนี้" ซึ่งท่านจะต้อง "ตระหนัก" ให้มาก ถึงพลังงาน
เก่าของโลกที่ดึงดูดและยึดโยงท่านไว้ และอย่าตกเป็นทาสของมัน (เราขอเตือนไว้)

 

วิธีเชื่อมต่อท่านและ "พระผู้เป็นเจ้า" หรือ "ผู้ปกครองดาวที่ส่งท่านมา"


นี่คือวิธีที่เร็ว, ลัด, สั้นที่สุด ที่จะทำให้ท่านสามารถเชื่อมต่อ, เปิดรับพลังพิเศษ
หรือ "ขุมปัญญาพิเศษ" ซึ่งส่งตรงลงมา จากดาวดวงที่ท่านจากมา, โลกธาตุที่
ท่านจากมาได้ นั่นคือ เมื่อใดที่ท่านสามารถรับสัมผัสพลังพิเศษที่ต่างจากโลกนี้
ได้ พลังที่ทำให้ท่าน "เลื่อนระดับออกจากการยึดติดโลก" ได้ สิ่งนั้น สามารถจะ
ช่วยท่านได้ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นพลังของเทพเจ้าองค์ใดที่มนุษย์รู้จัก ใน รูป-นาม
ใดก็ตาม ล้วนสามารถเป็นไปได้ทั้งสิ้น หาเป็นไปเพื่อ "เลื่อนระดับท่านออกจาก
การหลงยึดติดโลก" นั่นคือ "พลังจากจักรวาล" ซึ่ง ท่านจะได้รับเป็นระดับๆ ไป
จากระดับเบื้องต้น ไปจนถึงระดับที่สูงขึ้นไปเรื่อยๆ ไม่มีใครผิด หรือใครถูก เพียง
แต่ "กำลังอยู่ในกระบวนการเลื่อนระดับ" เท่านั้นเอง หากยังไม่ถึง "ที่สุดแล้ว" ก็
อย่าเพิ่งวิจารณ์ว่าเขากำลังหลงทางอยู่เพราะนั่นเป็นเพียง "บันใดขั้นที่เหมาะสม"
กับคนๆ นั้นแล้วเท่านั้น ดังนั้น ท่านไม่จำเป็นต้องยากลำบาก เพราะพลังงานที่ส่ง
มาจากจักรวาลนี้มีมากมาย และเหมาะสมกับท่านแล้ว หากท่านสามารถเกาะเกี่ยว
รับพลังงานจากจักรวาลชนิดใดก็ตาม หากท่านสามารถรับได้ ขอให้ท่านรับไว้เป็น
การเบื้องต้นก่อน แล้วค่อยๆ เรียนรู้เพื่อเลื่อนระดับตัวเองให้พ้นจากโลกนี้ไปในแต่
ละระดับขึ้นไป และสิ่งเหล่านี้ได้ถูกเตรียมไว้ให้ท่านแล้วอย่างมีขั้นตอนและชัดเจน
อย่างเหมาะสมกับคนแต่ละคน ซึ่งท่านจะได้รับการจัดสรรให้รู้จักพลังงานเหล่านั้น
ผ่านทาง "ศาสนาและความเชื่อในสิ่งศักิดสิทธิ์ต่างๆ" นั่นเอง ศาสนาทุกศาสนานี้
ไม่มีอะไรผิด ไม่มีอะไรถูก แต่ได้รับการจัดสรรแล้วอย่างลงตัว สำหรับคนแต่ละคน

 

หลังจากที่เราได้แจ้งข่าวสารแก่ท่านแล้ว โลกใบนี้จะเกิดภัยต่างๆ อีกมากมาย ซึ่งเราไม่มีหน้าที่ที่จะกล่าวถึงสิ่งนั้น ท่านสามารถรับข่าวสารได้ผ่านสังขารอื่นๆ ท่านอื่นๆ เราเพียงแต่มาย้ำเตือนท่านถึงสิ่งที่สำคัญที่สุด ที่ท่านควรทำก่อนเวลานั้นจะมาถึง เวลาที่ท่านจะได้เห็น โลกอันไม่เที่ยง ไม่จีรัง ไม่สามารถควบคุมกำหนดได้ เพราะไม่ใช่ตัวใครของใคร และมีปัญหาความวุ่นวายรวมทั้ง "ภัยพิบัติ" เกิดขึ้นเนืองๆ แต่สิ่งนั้นไม่ใช่ปัญหาของโลกใบนี้ เพราะเป็นเพียงสิ่งธรรมดาที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วหลายต่อหลายครั้งบนโลกใบนี้ และยังคงมีให้เห็นอยู่ต่อไปไม่มีที่สิ้นสุดได้ สิ่งสำคัญอยู่ที่ "ตัวของท่านเอง" ว่าท่าน "พร้อมแล้วหรือยัง" กับทุกๆ สิ่ง และการที่ท่านจะเข้าสู่ภาวะพร้อมอย่างเต็มที่ได้นั้น ท่านจะได้รับการจัดสรรให้ผ่านกระบวนการทดสอบต่างๆ จนท่านกล้าแกร่งและพร้อมเต็มที่ในที่สุด สำหรับการแจ้งข่าวสารของเราในครั้งนี้ ขอยุติแต่เพียงเท่านี้ สวัสดี...

 

จบการสื่อสารจากจักรวาล


๙ ก.ค. ๒๐๑๑
รับสื่อสารโดย "อพอลโล่"

 

ขอบคุณครับ (y)

 

แล้วเรามาทำไม

 

แฮะๆ ขอถามนะท่าน

1. โลกเป็นสิ่งมีชีวิตหรืไม่

2. โลกมีจิตวิญญาณหรือไม่

คำถามอาจดู.........แต่เพียงเพื่อประดับความรู้เท่านั้นครับ

ขออภัยหากล่วงเกิน

รออ่านอยู่ครับ

 

โลกไม่ใช่สิ่งมีชีวิตอย่างที่นักวิทยาศาสตร์ตั้งคำจำกัดความไว้ ก็จริง
แต่โลกก็เป็นเสมือนสิ่งมีชีวิตในอีกมิติหนึ่งเหมือนกันซึ่งในมิติแห่งจิต
แล้ว โลกก็มีจิตของโลก ในมิติแห่งวิญญาณ โลกก็มีวิญญาณของมัน


แต่สภาวะของโลกที่มีจิตวิญญาณนั้น เราจะรับรู้และเข้าใจได้อย่างไร?
เพราะมันไม่อาจรับรู้ได้ในมิติที่ต่างระดับชั้นกัน นอกเสียจากเราจะมี
ระดับของจิตที่สอดคล้องกับมิตินั้นๆ จึงจะสามารถเข้าใจสิ่งนั้นได้

 

ชัดเจน เคลียร์ทุกประเด็น ขอบคุณ..

 

โลกไม่น่าอยู่

ลัทธิแนวคิดแบบนี้ช่างเหมือน จิมโจน


เมื่อ ผู้นำแนวคิด เริ่มบอกว่า โลกไม่น่าอยู่ ท่านวิ่งหนีได้เลย
พาลูกพาหลาน กลับบ้านได้เลย


ลองศึกษา ลัทธิ ของ จิมโจน ดู ซะจะได้ตาสว่าง

อยากเห็นนรก จัดให้

http://www.google.co.th/search?q=ji...&ct=mode&cd=2&ved=0CBAQ_AUoAQ&biw=980&bih=455

 

ขอบคุณครับ (y)(y)(y)

 

นี่เราไม่ใช่มนุษย์โลกหรือเนี่ย!!!

 

มาขอยืนยันเห็นด้วยล้านเปอร์เซ็นต์กับท่านเจ้าของกระทู้ด้วยคนครับ _/|\_

 

ขอบคุณมากค่ะ ที่ช่วยส่งข่าวดีๆนี้ให้