#สรุปรายการหน้าที่ 9

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย Anantsit, 25 เมษายน 2024.

  1. Anantsit

    Anantsit เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    4,338
    ค่าพลัง:
    +4,563
    รายการที่ 78

    P1.jpg
    P2.jpg

    A1.jpg
    A2.jpg
    A3.jpg
    A4.jpg
    A5.jpg
    A6.jpg
    A7.jpg

    ตะกรุดเนื้อทองแดง จารมือ รุ่นแรก ร่ำรวย 95 ครบรอบ
    หลวงปู่สุธัมม์ ธมฺมปาโล วัดเทพกัญญาราม จังหวัดสกลนคร

    #ตะกรุดหลวงปู่สุธัมม์ จารลายมือโดยตรง


    #ตอกโค๊ด 6 ตำแหน่ง สร้างเพียง 119 ดอกเท่านั้น

    #เลี่ยมกรอบกันน้ำ 2 ห่วงพร้อมบูชาครับ

    #ภายในตะกรุดอุดมวลสาร
    - จีวร
    - เกศา
    - เทียนชัย
    - มวลสารผงวิเศษจากล็อกเกต 95 ปี


    #หลวงปู่องคฺ์นี้รัศมีธรรมพลังจิตท่านเป็นสีเขียวบำเพ็ญบารมีปรารถนาพระปัจเจกพุทธเจ้า (พระอาจารย์สุริยัน วัดป่ฉัพพรรณรังสี จ.ชัยภูมิ)

    #วัตถุมงคลหลวงปู่เด่นทางเมตตาแคล้วคลาดสูงรัศมีองค์พระสว่างไสวมีเทวดารักษาองค์พระ" หลวงปู่เสกเป็นแก้วสารพัดนึกอธิฐานไว้ทุกอย่างอยากได้อะไรให้อธิฐานขอเอาตามใจปรารถนา (พระอาจารย์ศิษย์สายในดง)

    #ประมาณปี 2554 หลวงปู่อว้าน เขมโก ได้มาเยี่ยมหลวงปู่ถึงวัดกลับวัดหลวงปู่อว้านกล่าวกับคณะพระว่า หลวงปู่สุธัมม์ท่านเป็นพระปัจเจกนะ ท่านเลยชอบอยู่องค์เดียว

    #หลวงปู่ท่านสั่งสมบารมีมาแต่ครั้งพระพุทธเจ้ากุกกุสันโธ ความปรารถนาเดิมพระปัจเจกฯท่านเคยบอกศิษย์ว่า เกศาหรืออะไรก็ตาม ได้ไปแล้วรักษาไม่ได้ ไว้ในที่ไม่ควรเป็นบาป ซึ่งจากนัยนี้แปลความว่า รูปภาพของท่านหรือวัตถุมงคลที่เป็นรูปท่าน หากเก็บไว้ในที่ไม่ควรก็เป็นบาปโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์

    เครดิตข้อมูล : FB กลุ่ม หลวงปู่สุธัมม์


    = 1950 Baht
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 ธันวาคม 2024 at 01:00
  2. Anantsit

    Anantsit เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    4,338
    ค่าพลัง:
    +4,563
    รายการที่ 79

    P1.jpg
    P2.jpg

    A1.jpg
    เนื้อโลหะผสมผิวไฟถวายหลวงปู่บุญส่ง.jpg

    พญานาค 2 แผ่นดิน นาคาธิบดีสีสัตตนาคบาดาล

    #เนื้อโลหะผสมผิวไฟ (สร้างจากชนวนมวลสาร)

    #ตอกโค๊ด ส ถวายหลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร วัดสันติวนาราม จันทบุรี

    #พิเศษ เหรียญนี้เพ้นท์สีสวยงาม

    #เลี่ยมกรอบกันน้ำพร้อมบูชาครับ


    #ชนวนมวลสารของเนื้อโลหะ
    *********

    ประเภทก้านชนวน

    ชนวน108 อาจารย์+เนื้อหลวงพ่อมงคลบพิตร อยุธยา ของ อ.อนันต์ สวัสดิสวนีย์
    ชนวนพระกริ่งปวเรศวัดบวรนิเวศ ปี2530
    ชนวนเงินลอยน้ำของอาจารย์เวทย์
    ชนวนทองหล่อพระประธานอุโบสถวัดหนองป่าพงของหลวงพ่อชา
    ชนวนจากแหวนนาคารุ่นแรกมีทองคำผสมในเนื้อ
    ชนวนกริ่งแปดรอบหลวงปู่หงษ์ สุสานทุ่งมน นวะแก่ทองคำ
    ชนวนหล่อพระเจ้าชัยวรมันขนาดตั้งบูชานำฤกษ์ของหลวงปู่หงษ์ สุสานทุ่งมน ผสมทองคำ 27 บาท
    ชนวนพระกริ่งเก่าไม่ทราบรุ่นสายศิษย์วัดประดู่ฉิมพลี
    ชนวนพระกริ่ง 20 จังหวัด
    ชนวนของ ออด อยุธยา ตะกรุด 108 ทุกยุค+กำไลสัมฤทธิ์สมัยขอม หลอมรวมกันมาเป็นแท่งเรียบร้อย
    ชนวนของ ดร.ไมตรี บุญสูง ครั้งหล่อพระประธานวัดป่าโมก และวัดในเตา อธิษฐานจิตโดยคณาจารย์สายใต้ รวมทั้งกริชสำฤทธิ์เก่าและชนวนเก่าที่ ดร.ไมตรี สะสมไว้
    รายละเอียดของชนวน :
    แผ่นจารพ่อท่านนวล วัดใสหล้า
    แผ่นจารพ่อท่านช่วง วัดควนปันตาราม พัทลุง สายเขาอ้อ
    แผ่นจารพ่อท่านเอียด วัดโคกแย้ม
    แผ่นจาร+ตะกรุดนารายณ์พลิกแผ่นดิน พ่อท่านเขียว
    แผ่นจารพ่อท่านท้วมวัดศรีสุวรรณ
    ชนวนเหรียญเก่าคณาจารย์สายภาคใต้น้ำหนักรวมกันหลายโล
    ชนวน 108 ตะกรุดทุกยุค
    หลอมรวมกันเป็นแท่งว้เรียบร้อยแล้ว

    ___

    ประเภทตะกรุด

    ตะกรุดหลวงปู่คำพันธ์ วัดธาตุมหาชัย
    ตะกรุดวัดประสาทบุญาวาสปี2500
    ตะกรุดหลวงพ่อเกษม เขมโก
    ตะกรุดหัวใจพุทธคาถา(19จังหวัด)
    ตะกรุดหลวงปู่ท่อน จ.เลย
    ตะกรุดหลวงปู่ดู่ วัดสะแก
    ตะกรุดหลวงปู่ทองสา
    แผ่นจาร+ตะกรุด ปู่ซาสุด ดอนสำโฮง
    ตะกรุดพระอาจารย์บุนจอน กิดติยาโน ดอนขะเหมา
    ตะกรุดพระอาจานคำพัก พรมมะหาไซ หลัก(กม.)24
    ตะกรุดทองคำ เงิน นาก พระอาจารย์ สะหว่าง สุทัมโม วัดหลัก 33 เมืองปากช่อง แขวงจำปาสัก
    ตะกรุด ลป. หา สุภโร
    ตะกรุด ลป ฤทธิ์ รัตนโชโต สุรินทร์
    ตะกรุด ลพ คูณ ปริสุทโธ วัดบ้านไร่
    ตะกรุดปืนแตก ลป คำบุ คุตตจิตโต อุบลฯ
    ตะกรุดลูกปืนหลวงพ่อมหาสิงห์
    ตะกรุด ลพ เพี้ยน วัดเกริ่นกฐิน
    ตะกรุดโสฬสมงคล
    ตะกรุดนวภาสิทธิ์
    ตะกรุดมงกุฏพระพุทธเจ้า
    ตะกรุดมะหาระงับ
    ตะกรุดมหาจักรพรรดิ
    ตะกรุดพุทธทำนาย
    ตะกรุดพระอาจารย์นอง วัดทรายขาว
    ตะกรุดพ่อท่านทอง วัดสำเภาเชย
    ตะกรุดนารายณ์แปลงรูปของพระอาจารย์นองวัดทรายขาว

    ____

    ประเภทเหรียญคณาจารย์ทั้งเก่าใหม่

    เหรียญหล่อรูปเหมือนหลวงปู่แสง ญาณวโร รุ่นแสงธรรมเนื้อพิเศษ ผสมทองคำ 27 บาท จำนวน 14 เหรียญ
    เหรียญรุ่นแรกหลวงปู่สรวง เทวดาเดินดิน
    เหรียญรุ่นแรกหลวงปู่หงษ์ สุสานทุ่งมน
    เหรียญสมเด็จพระญาณสังวร สด.พระสังฆราช องที่ 19 แห่งราชอาณาจักรไทย
    เหรียญพระพุทธรูปทองคำ วัดไตรมิตร กทม .
    เหรียญพระพุทธชินราช +รูปเหมือน หลวงตามหาบัว ญานสัมปันโน วัดป่าบ้านตาด อุดรธานี
    เหรียญ ลป แหวน สุจินโน วัดดอยแม่ปั๋ง เชียงใหม่
    เหรียญ ลป. สิม พุทธาจาโร วัดถ้ำผาปล่อง เชียงดาว เชียงใหม่
    เหรียญ ลป. แว่น ธมปาโล วัดถ้ำพระสบาย
    เหรียญพระสิวะลี + เหรียญ ลป. วัน อุตตโม)
    เหรียญ ลป. จันทร์โสม กิตติกาโร วัดป่านาสีดา
    เหรียญหลวงปู่บุญหนา ธัมมทินโน วป.โสตถิผล
    เหรียญ ลป ผ่าน ปัญญาปทีโป
    เหรียญ ลป สุภา กันตสีโล
    เหรียญ ลป. เกษม เขมโก สุสานไตรลักษณ์ ลำปาง
    เหรียญ ลป. แพ วัดพิกุลทอง
    เหรียญ ลป. ลี กุสลธโร ภูผาแดง หลายรุ่น
    เหรียญโชคดี ลป. ดี วัดพระรูป
    เหรียญ ลป. คูบาสร้อย ขันติสาโร
    เหรียญ ลพ. คล้อย ฐานธัมโม วัดถ้ำเขาเงิน อ.หลังสวน จ.ชุมพร
    เหรียญ หลวงพ่อเดช เตชะจิตโต วัดสังฆมงคล
    เหรียญ ลพ. รวย วัดท่าเรือ
    เหรียญ ลพ. เพี้ยน วัดเกริ่นกฐิน
    เหรียญ ลพ. ยิด วัดหนองจอก
    เหรียญชนะสิบทิศ ลป คำบุ คุดตะจิดโต อุบลฯ
    เหรียญ ลพ เจ็ดกษัตริย์ หลังพระเศรษฐีนวโกฐ
    เหรียญรุ่นต่างๆสายหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง
    เหรียญรุ่นต่างๆ วัดพุทธมงคล จ.นครสวรรค์
    เหรียญพระประจำวันเกิด วัดสุทัศน์ กทม.
    เหรียญ ลพ. พิมลสีลาจารย์ วัดลาดปลาดุก
    เหรียญพระราหู เงินขวัญถุง ลป พรหมา เขมจาโร วัดสวนหินผานางคอย อุบลฯ
    เหรียญ ลป. ขาว อนาลโย วัดถ้ำกลองเพล
    เหรียญเสด็จเตี่ยกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์
    เหรียญพระสยามเทวาธิราช นิตยสารศักดิ์สิทธิ์สร้าง
    ห่วงเหรียญพระกริ่งสิทัตโถ สมเด็จพระสังฆราช อยู่ วัดสระเกศ กทม.
    ห่วงเหรียญ 100 ปี ลป ทวด อจ. ทิม วัดช้างไห้
    ห่วงเหรียญ แม่ชีแก้ว เสียงล้ำ มุกดาหาร
    ห่วงเหรียญ ลป. ปะไพ สุภโร อุดรธานี
    รูปหล่อพระสังกัจจายน์ ลป. เกตุ วัดเกาะหลัก
    รูปหล่อพระสิวลี ครูบา บุญชุ่ม ญาณสํวโร
    เหรียญกษาปน์ เช่น เหรียญ ร.5 หลังพระสยามเทวธิราช เหรียญอินโดจีน เงินพุดด้วง เงินแท่งสยาม เงินโสฬสสยาม ร.4 ฯลฯ ,เงินลาด(ของอาณาจักรล้านช้าง),วัตถุโบราณอื่นๆ
    แหวนพิรอด ลพ. เจริญ ฐานยุตโต อุดรธานี

    หมายเหตุ : ทั้งหมดนี้หลอมรวมกันเทเป็นเนื้อชนวนบริสุทธิ์ 100 เหรียญ / ส่วนที่เหลือจากเทเนื้อชนวน ได้นำมาผสมใส่ในเนื้อนวโลหะทั้งหมด

    #มวลสารผงอุดด้านหลังเหรียญ
    *******

    1/ ผงสำคัญสารพัดครูบาอาจารย์ทั้งเก่าใหม่ของ อำพล เจน สะสมมาตั้งแต่สร้างพระครั้งแรกทั้งโลหะและผงมาจนถึงปีปัจจุบัน ทุกรุ่น ทุกหลวงพ่อหลวงปู่ จารนัยไม่ไหว
    2/ ผงพญานาครุ่น ๑ (พญานาค ๒ แผ่นดิน รุ่นแรก)
    3/ อิฐโบราณจากจากศาสนสถานบ้านโนนแก ต.คูเมือง จ.อุบลฯ ซึ่งเป็นศาสนสถานทับซ้อน ๒ ศาสนา คือฮินดูและพุทธ อายุมากกว่า ๒ พันปี
    4/ อิฐโบราณจากพระธาตุยาคู เมืองฟ้าแดดสงยาง กาฬสินธ์
    5/ อิฐโบราณจากยโสธราศรม พระเจ้ายโศวรมเทวะ ที่ ๑ (ปราสาทโต๊ะโม๊ะ) เมืองปะทุมพอน แขวงจำปาสัก สปป.ลาว ซึ่งเป็นสถานที่ปฏิบัติกิจประกอบพิธีกรรมทางศาสนา เป็นที่เล่าเรียน เป็นที่พักอาศัย เป็นแหล่งผลิตศิลปกรรมต่างๆ มีอายุมากกว่า ๑พันปี
    6/ ปูนพระโอษฐ์พระประธานในเทวสถานบนยอดสูงสุดของงปราสาทวัดพู จำปาสัก สปป.ลาว ซึ่งชื่อว่าเป็นสถานที่ปฏิบัติศาสนกิจของพระสงฆ์ฝ่ายวิปัสนาธุระทับซ้อนศาสนสถานพราหมณ์-ฮินดู อายุมากกว่า ๑ พันปี
    7/ แร่โรงหล่ออาวุธสมัยโบราณอธิษฐานจิตโดยหลวงปู่สรวงเทวดาเดินดินซึ่งนำเข้ามาจากวัดเก่าในเขตแดนเขมรบนเส้นเส้นทางอัลลองเวง – เสียมเรียบ
    8/ ผงปูนจิตกาธานหลวงปู่เทสก์ เทสรังสี
    9/ ปฐวีธาตุ(กรวดแม่น้ำ)ของหลวงปู่บุญยัง ปัญญาวโร วัดหนองโค รัฐกะเหรี่ยง ประเทศพม่า (บดละเอียด)
    10/ ปฐวีธาตุ(กรวดแม่น้ำ)ของหลวงปู่แสง ญาณวโร (บดละเอียด)
    11/ ปฐวีธาตุ(กรวดแม่น้ำ)ของคุณยายชีนวล แสงทอง ภูฆ้องคำ (บดละเอียด)
    12/ หอยพริกของหลวงปู่อ่อน วัดลุมพินี พังงา
    13/ กิ่ง+เปลือกโพธิสเร็จลุน วัดโพไซยาราม แขวงจำปาสัก สปป.ลาว
    14/ ปูนปั้นกลีบบัวฐานพระอุโยสถวัดจมน้ำ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ลพบุรี
    15/ ปูนกนก+กระเบื้องพระธาตุหลวง เวียงจันท์ สปป.ลาว
    16/ กรวดทรายปากแม่น้ำคาน ไหลบรรจบแม่น้ำโขง เมืองหลวงพระบาง สปป.ลาว ซึ่งเชื่อว่าเป็นเมืองทื่มีพญานาค ๑๕ ตระกูลปกปักรักษา
    17/ พระเชียงรุ้ง(ล้านช้าง)บุเงินบุทอง(ของโบราณไม่ทราบกรุ)
    18/ ผงอาถรรพณ์อุดด้านหลังพระพิฆเณศ ๒ แผ่นดิน ปางอุ้มชายา
    19/ ผงพญานาครุ่น ๒ ที่ถือว่าถูกต้องตรงตามตำราสร้างรูปพญานาคโบราณของคณาจารย์ฝ่ายลาวทุกประการ
    20/ ผงพระปัจเจก และ พระอรหันต์ธาตุ
    21/ ผงอังคารธาตุพ่อแม่ครูบาอาจารย์ฝั่งไทย
    22/ ผงดินสังเวชนียสถาน อินเดีย-เนปาล
    23/ ผงดินจี่(อิฐดินเผา)-ดินเขาะ(กระเบื้องดินเผามุงหลังคาโบสถ์) พระธาตุหลวงเวียงจันท์,พระธาตุพนม,พระธาตุอิงฮัง,หอพระแก้ว,วัดสีสะเกด เวียงจันท์
    24/ ผงชานหมากพ่อแม่ครูบาอาจารย์สารพัด
    25/ ผงพระแตกหักวัดพุทธมงคล อธิษฐานจิตโดยครูบาอาจารย์สายกรรมฐานหลวงปู่มั่นรุ่นเก่าแทบทุกองค์ เช่น หลวงปู่สิงห์ วัดป่าสาละวัน หลวงปู่ฝั้น วัดป่าอุดมสมพร หลวงปู่จันทร์ วัดศรีเทพ ฯลฯ
    26/ ผงวัดบวรฯ,วัดบางขุนพรหม,วัดปริวาส
    27/ ผงจักรพรรดิหลวงตาม้า วัดถ้ำเมืองนะ เชียงใหม่
    28/ ผงยาวาสนาจินดามณี
    29/ ผงยาสูบ,ดินสอพอง,ทรายพระธาตุจากถ้ำเสก,แก้วจุยเจียเสก,พลอย(โกเมน)เสกโดยปู่ซาสุด ดอนสำโฮง
    30/ ผงต้นไม้มณีโคตร คอนพะเพ็ง สปป.ลาว
    31/ ผงดอกหัวสีไค = ดอกตะไคร้
    32/ ผง ๑๐๘ ว่าน
    ๓๓/ ผงจากดินเบ้าเก่าเก็บจากพิธีพระกริ่งตากสินมหาราช ค่ายอดิสรณ์ ผ่านการอธิษฐานจิตปลุกเสกโดยคณาจารย์ยุคปี ๒๕๑๔ อาทิ :
    หลวงปู่ชา วัดหนองป่าพง
    หลวงปู่ดูลย์ วัดบูรพาราม
    หลวงปู่สาม วัดไตรวิเวก
    หลวงปู่ฝั้น วัดป่าอุดมสมพร
    หลวงปู่สิม วัดถ้ำผาปล่อง
    หลวงปู่บาง วัดหนองพลับ
    หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่
    หลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี
    หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี
    หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง
    หลวงพ่อกี๋ วัดหูช้าง
    หลวงพ่อผาง วัดอุดมคงคาคีรีเขตต์
    หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม
    หลวงพ่อน้อย วัดธรรมศาลา
    หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม
    พระอาจารย์นำ วัดดอนศาลา
    หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่
    หลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลย์
    หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม
    หลวงพ่อคง วัดบ้านสวน
    หลวงพ่อหมุน วัดเขาแดง
    หลวงพ่อพรหม วัดช่องแค
    หลวงพ่อโด่ วัดนามะตูม
    หลวงพ่อหอม วัดซากหมาก
    หลวงพ่อคง วัดวังสรรพรส
    หลวงพ่อทบ วัดชนแดน
    หลวงพ่อโอด วัดจันเสน
    หลวงพ่อหน่าย วัดบ้านแจ้ง
    หลวงพ่อเอีย วัดบ้านด่าน
    หลวงพ่อพริ้ง วัดโบสถ์โก่งธนู
    หลวงพ่อนอ วัดกลางท่าเรือ
    หลวงพ่อแจ่ม วัดวังแดงเหนือ
    หลวงพ่อฑูรย์ วัดโพธิ์นิมิตร
    หลวงพ่อทองอยู่ วัดใหม่หนองพะอง
    หลวงพ่อเทียม วัดกษัตราธิราช
    ครูบาวัง วัดบ้านเด่น
    หลวงพ่อปี้ วัดลานหอย
    หลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง
    หลวงพ่อเมือง วัดท่าแหน
    หลวงพ่อผัน วัดราษฏร์เจริญ
    หลวงพ่อเชน วัดสิงห์
    หลวงพ่อ คร้าม วัดกุ่มหัก
    ฯลฯ

    #การสถาปนาอิทธิคุณขลังหลังจากสำเร็จเป็นเหรียญโดยสมบูรณ์แล้ว
    ******

    คณะผู้สร้างได้นำเหรียญพญานาค ๒ แผ่นดินไปขอรับการอธิษฐานจิตปลุกเสกจากครูบาอาจารย์ผู้ทรงคุณและวิมุติ ๑๙ รูป ดังนี้ :

    1 / หลวงปู่หา สุภโร วัดสักกะวัน กาฬสินธุ์ อธิษฐานจิตปลุกเสกเวลา 12.00 น. วันที่ 14 ตค 2562

    2/ หลวงพ่อหนูอินทร์ กิตติสาโร วัดพุทธมงคล กาฬสินธุ์ อธิษฐานจิตปลุกเสกตลอดคืน วันที่ 14 ตค 2562 ถึงเช้าวันที่ 15 ตค 2562

    3/ หลวงปู่คำจันทร์ ปัญญาโภ วัดบ้านเมย ต.ดงลิง อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ อธิษฐานจิตปลุกเสก วันที่ 15 ตค 2562

    4/ หลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร วัดสันติวนาราม ต.เขาวงกต อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี อธิษฐานจิตปลุกเสก วันที่ 21 ตค 2562

    5/ พระอาจารย์สะหว่าง สุทัมโม วัดโพสรีสะหว่างรัดตะนาราม (วัดหลัก33) เมืองปากซ่อง สปป.ลาว อธิษฐานจิตปลุกเสก วันที่ 25 ตค 2562

    6/ อาจารย์ปู่ ซาสุด โซทิกาน ดอนสำโฮง จำปาสัก สปป.ลาว อธิษฐานจิตปลุกเสก วันที่ 26 ตค 2562

    7/ หลวงปู่สนั่น จิณฺณธมฺโม วัดป่าคลองกุ้ง จันทบุรี อธิษฐานจิตปลุกเสกที่วัดอโศการาม วันที่ 5 พย.2562

    8/ หลวงปู่บุญกู้ อนุวัฑฒโน วัดอโศการาม สมุทรปราการ อธิษฐานจิตปลุกเสก วันที่ 5 พย.2562

    9/ หลวงปู่ลี ถาวโร วัดป่าหนองทับเรือ อ.เนินมะปรางค์ จ.พิษณุโลก อธิษฐานจิตปลุกเสก วันที่ 8 พย. 2562

    10/ หลวงปู่สนม อติธมฺโม (ศิษย์หลวงพ่อเดิม)วัดพระปรางค์เหลือง อธิษฐานจิตปลุกเสก วันที่ 11 พย. 2562

    11/ หลวงปู่ทอง สุวิชาโน อายุ 103 ปี (ลูกศิษย์หลวงพ่อรุ่ง วัดท่ากระบือ) วัดดอนไก่ดี อธิษฐานจิตปลุกเสกตอนกลางคืน วันที่ 11 พย.2562 (พิธีจันทร์เพ็ญ 15 ค่ำ เดือน 12 ที่วัดท่าเสา )

    12/ หลวงปู่สุธัมม์ ธัมมปาโล วัดเทพกัญญาราม สกลนคร อธิษฐานจิตปลุกเสกเวลา 07.07 น. วันที่ 28 พย.2562

    13/ หลวงปู่หนุน สุวิชโย วัดพุทธโมกพลาราม สกลนคร อธิษฐานจิตปลุกเสกเวลา 10.32 น. วันที่ 28 พย.2562

    14/ หลวงพ่อ บุญมา สิริธมฺโม วัดป่าโคกลาด อุดรธานี อธิษฐานจิตปลุกเสกเวลา 17.34 น. วันที่ 28 พย.2562

    15/ หลวงปู่ทองสุข ฐิตปุญโญ วัดป่าวุฑฒาราม หนองบัวลำภู อธิษฐานจิตปลุกเสกเวลา 17.57 น. วันที่ 14 ธค.2562

    16/ หลวงปู่บุญมา คัมภีรธัมโม วัดป่าสีห์พนมประชาราม สว่างแดนดิน สกลนคร อธิษฐานจิตปลุกเสก เวลา 15.15 น. วันที่ 15 ธค.2562

    17/ หลวงปู่บุดดา ปัญญาธโร วัดป่าใต้พัฒนาราม วัฒนานคร สระแก้ว พิธีพุทธาภิเษกเหรียญรุ่นมหาบารมี 92 เวลา 14.00 น. วันที่ 22 ธค.2562

    18/ หลวงปู่มงคล สัจจาสโภ เขาดาร์สปวง แนงมุด สุรินทร์ อธิษฐานจิตปลุกเสกระหว่าง 27 ธค.2562 – 1 กพ.2563

    19/ หลวงปู่ณรงค์ฤทธิ์ สุมโน สำนักสงฆ์หนองรูง จ.สุรินทร์ อธิษฐานจิตปลุกเสก เวลา 16.00 น. วันที่1 กพ.2563

    เครดิตข้อมูล : อ.อำพล เจน


    <<<<< ข้อมูลเพิ่มเติม "คลิกที่นี่ครับ" >>>>>

    = 1799 Baht
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 ธันวาคม 2024 at 01:02
  3. shaj

    shaj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    7,985
    ค่าพลัง:
    +6,892
    -ขอจองครับ
     
  4. Anantsit

    Anantsit เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    4,338
    ค่าพลัง:
    +4,563
    รับทราบการจองครับ ขอบคุณครับ
     
  5. Anantsit

    Anantsit เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    4,338
    ค่าพลัง:
    +4,563
    รายการที่ 80

    P1.jpg
    P2.jpg

    A2.jpg
    A3.jpg

    A1.jpg

    พระชัยวัฒน์ (ยอดธง) ชนะศัตรู
    พระอาจารย์สุริยัณ จนฺทวณฺโณ วัดป่าฉัพพรรณรังสี จังหวัดชัยภูมิ

    #เนื้อสัมฤทธิ์ สร้างจากชนวนพระกริ่งมงคลจักรแก้ว,ชนวนพระหลวงปู่ดู่,ชนวนพระหลวงปู่พิศดู #สร้างเพียง 60 องค์ พร้อมซองเดิม


    = 2500 Baht
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 ธันวาคม 2024 at 01:02
  6. Anantsit

    Anantsit เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    4,338
    ค่าพลัง:
    +4,563
    รายการที่ 81

    P1.JPG
    P2.JPG
    P3.JPG
    P4.JPG

    รูปเหมือนหลวงปู่พิศดู (ขนาดหน้าตัก 1 นิ้ว)
    รุ่นโลกุตรธรรม สำนักสงฆ์เขาน้ำซับ สร้างปี 2556


    #เนื้อนวโลหะ "สร้างจากชนวนล้วนๆ" (กรรมการ) สร้างเพียง 200 องค์เท่านั้น

    #ใต้ฐานคว้านบรรจุอัฐิอังคารธาตุของหลวงปู่พิศดู จีวร ตะกรุด มวลสารมงคลต่างๆที่หลวปู่พิศดูอธิษฐานจิตไว้

    ได้เข้าพิธีพุทธาภิเษกที่เกี่ยวเนื่องกับองค์หลวงปู่ท่านจริงๆ เพื่อคงความเป็นตัวตนและมหาพลังบารมีธรรมแห่งองค์หลวงปู่ไว้อย่างเต็มอัตรา เพราะคณะศิษย์สายนี้เชื่อกันว่า รูปหลวงปู่ท่านแม้ต่อให้ไม่ได้ผ่านพิธีใดๆเลย ก็ยังมีความศักดิ์สิทธิ์ในองค์ท่านเองอยู่แล้ว อย่างที่หลวงปู่ท่านเคยกล่าวไว้ว่า.. " รูปเรา ไม่ต้องเสกก็ศักดิ์สิทธิ์.."
    แต่ด้วยกำลังใจของผู้บูชา รูปหล่อหลวงปู่ขนาดกน้าตัก 1 นิ้ว จึงได้เข้าพิธีต่างๆ อันเกี่ยวเนื่องกับองค์หลวงปู่ ดังนี้ครับ..

    1.พิธีเททองหล่อ พร้อมกับรูปเหมือนองค์หลวงปู่พิศดู ขนาดเท่าองค์จริง เพื่อประดิษฐานไว้ในพระมหาเจดีย์ ธัมมะจารีสุขังเสติ วัดเทพธารทอง

    2.พิธีพุทธาภิเษกใหญ่ และพิธีตักบาตรพระมหาอุปคุต ในวันเพ็ญพุธ ณ พระมหาเจดีย์ ที่วัดเทพธารทอง โดยพระเกจิครูบาอาจารย์ผู้ทรงคุณ
    หลวงพ่อมหาพร้อม วัดพลับบางกะจะ
    - หลวงพ่ออ่อง ถ้ำเขาวงกต
    - หลวงพ่อบุญส่ง วัดเขาน้ำตก
    - หลวงพ่อมนัส สำนักกรรมฐานฟื้นฟูจิต เขาแหลม
    - ฯลฯ
    และพระสวดพิธีธรรมอีก 9 รูป และช่วงบ่ายในวันเดียวกัน พระสงฆ์ได้ลงสวดพระปาฏิโมกข์ ถวาย โดยในพระมหาเจดีย์ ได้นำรูปหล่อองค์หลวงปู่มาประดิษฐานเอาไว้ก่อนหน้านั้นแล้ว (โดยในงานพิธีพุทธาภิเษก ได้มีการบวงสรวงอัญเชิญบารมีธรรมขององค์พระมหาอุปคุต ท่านพ่อลี และองค์หลวงปู่พิศดูมาประสิทธิด้วย)

    3.พิธีวางศิลาฤกษ์ ธัมมะจารีมณฑป ณ วัดเทพธารทอง โดยมี..
    เจ้าคณะจังหวัดจันทบุรี(ธ.) เป็นองค์ประธาน
    -หลวงปู่สนั่น จิณณธัมโม
    -หลวงปู่สวาท วัดโป่งจันทร์
    และพระเถระอีกนับ 10 รูปที่มีบุญสัมพันธ์กับหลวงปู่พิศดู

    4.พิธีบวงสรวง อัญเชิญญาณบารมีของพระมหาอุปคุต และบารมีธรรมขององค์หลวงปู่พิศดู และสวดเจริญพระพุทธมนต์ เนื่องในวันเพ็ญพุธ ณ ลานพิธีริมหน้าผาอ่าวคุ้งกระเบน โดยพระอาจารย์หนึ่ง ปัญญาวุฑโฒ

    5.พิธีพุทธาภิเษกสมโภชน์ใหญ่ เนื่องในวันเททองหล่อพระพุทธรูปทรงเครื่องมหาจักรพรรดิ์ ณ สำนักสงฆ์เขาน้ำซับ โดยพระเกจิครูบาอาจารย์กว่า 10 รูป และพระสวดพิธีธรรมอีกรวมเกือบ 100 รูป
    ซึ่งพิธีเหล่านี้ถือได้ว่าเป็นพิธีที่ตั้งใจจัดขึ้นเพื่อบูชาคุณแด่องค์หลวงปู่พิศดูทั้งสิ้น ซึ่งเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่า ดวงจิตอันบริสุทธิ์ขององค์หลวงปู่ท่านจะต้องรับทราบและมาร่วมพิธีด้วยอย่างแน่นอนครับ..
    อาจารย์กว่า 10 รูป อาทิ..
    - หลวงพ่อสิริ วัดตาล จ.นนทบุรี
    - หลวงพ่อพูน วัดบ้านแพน จ.อยุธยา
    - หลวงปู่ฉอ้อน วัดแหลมหิน จ.ปราจีนบุรี
    - หลวงปู่อั้น วัดโรงโค จ.อุทัยธานี
    - หลวงพ่ออ่อง ถ้ำเขาวงกต จ.จันทบุรี
    - หลวงปู่เจียง วัดเนินหย่อง จ.ระยอง
    - หลวงปู่บุญอุ้ม วัดป่าโนนแพง จ.นครพนม
    - หลวงปู่สวาท ว่าป่าโป่งจันทร์ จ.จันทบุรี
    - หลวงพ่อแจ่ม วัดเขาสำเภาทอง จ.ระยอง
    - ... ฯลฯ

    ส่วนมวลสารที่ใช้บรรจุในองค์รูปหล่อหลวงปู่นั้น เป็นมวลสารที่เคยใช้บรรจุในรูปหล่อพระมหาอุปคุตปางปราบมาร.. กล่าวได้พอสังเขปคร่าวๆ มีดังนี้ครับ..

    - ผงพระธาตุ 500 อรหันต์ พระธาตุพระปัจเจกพุทธเจ้า พระธาตุพระสิวลี ของหลวงปู่ครูบาชัยวงศาพัฒนา วัดพระบาทห้วยต้ม
    - พระผงเนื้อพระธาตุ รุ่นสุปฏิปันโณ ของหลวงปู่ครูบาชัยวงศาพัฒนา วัดพระบาทห้วยต้ม (หลายองค์)
    - พระรอดเกศาครูบาศรีฯ เนื้อครั่ง
    - พระปัจเจกโพธิเนื้อผงเขียว หลวงปู่พิศดู (พระชำรุด)
    - ผงที่ใช้สร้างพระของ หลวงปู่คำคนิง จุลมณี วัดถ้าคูหาสวรรค์
    - ผงสมเด็จ หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ รุ่น 3 (พระชำรุด)
    - ผงพระพระวัดคู้สลอด หลายองค์ (พระชำรุด)
    - ผงพระกรุ วัดดงตาล หลวงพ่อปาน วัดบางนมโคปลุกเสก (จำนวนหลายองค์)
    - ผงพระขุนแผน กรุทุ่งมะขามหย่อง สมัยอยุธยา (พระชำรุด)
    - ผงพระหลวงพ่อโน่ง วัดคลองมะดัน จ.สุพรรณบุรี (พระชำรุด)
    - ผงพระรุ่นอายุยืน หลวงปู่สี วัดเขาถ้ำบุญนาค (พระชำรุด จำนวนหลายสิบองค์)
    - ผงพระกรุสมัยต่างๆ
    - ผงพระกรุบึงพระยาสุเรนทร์ (สมเด็จเขียว เหนียวจริง)
    - ผงพระกรุ วัดชนะสงคราม ยุคสงครามเก้าทัพ
    - ผงหลวงปู่คำพันธ์ วัดธาตุมหาชัย
    - ผงหลวงปู่กิ วัดสนามชัยเขต
    - ผงหลวงปู่เทียม วัดกษัตราธิราช
    - ผงหลวงปู่แทน วัดธรรมเสน
    - ผงหลวงปู่สอน วัดเสิงสาง
    - ผงหลวงพ่อสุด วัดกาหลง
    - ผงหลวงพ่อแดง วัดเขาบรรไดอิฐ
    - ผงหลวงปู่หมุน วัดบ้านจาน
    - ผงลบสูตร หลวงพ่อสละ วัดประดู่ทรงธรรม
    - ผงลบสูตร หลวงพ่ออุดม วัดพิชัยสงคราม
    - ผงตรีนิสิงเห และผงสบสูตร หลวงปู่เสริฐ วัดโอภาสี
    - ผงยาที่ใช้พอกตะกรุด ท่านพ่อผุด วัดวังเวียน
    - ผงยา 7 ชนิด ผงว่านสลักไก ผงว่านต่างๆ ดินปิดรูปู หลวงปู่เชย เขาเจ้าหลาว
    - ผงไม้กงกะเด็น ว่านเปราะหอม หลวงปู่สมชาย วัดเขาสุกิม
    - ผงวิเศษหลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม
    - ผงบายศรีบูชาครู หลวงปู่หมุน
    - ผงกสิณ หลวงปู่สรวง เทวดาเล่นดิน
    - ยาอจินไตย หลวงปู่ละมัย สำนักสวนสมุนไพร เพชรบูรณ์
    - ผงการบูรเสก หลวงปู่ละมัย
    - ผงจากขวานฟ้าผ่า ล้างอาถรรพ์
    - ผงพระว่านจำปาสักหลายองค์
    - ผงโสฬสมหาพรหม ที่ใช้สร้างพระของ หลวงปู่จันทร์ วัดศรีเทพ ปี 2500
    - มวลสารที่ใช้สร้างพระสมเด็จ พระครูมูล วัดสุทัศน์ ปี 2495 (พระชำรุด)
    - ผงสมเด็จ วัดประสาท ปี 2506 (พระชำรุด)
    - ผงสมเด็จบางขุนพรหม ที่ใช้สร้างหลวงปู่ทวด วัดประสาท ปี 2506
    - ผงสมเด็จ หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี (พระชำรุด)
    - ผงพระโพธิจักร เนื้อดินเผา ท่านพ่อลี วัดอโศการาม ปี 2500
    - ผงพระโพธิจักร เนื้อผงเกษร ท่านพ่อลี วัดอโศการาม ปี 2500
    - ผงพระโพธิจักร หลวงปู่สนั่น วัดธารเกษม ที่ชำรุด สิบกว่าองค์
    - ผงหลวงปู่สำเร็จลุน นครจำปาสัก

    - แผ่นรัก และผงปูนกระเทาะ หลวงพ่อทองคำ วัดไตรมิตร
    - ดินสังเวชนียสถาน และมวลสารพุทธภูมิ จากประเทศอินเดีย
    - ใบโพธิ์จากต้นตรัสรู้ ที่พุทธคยา ประเทศอินเดีย
    - ปฐวีธาตุ และทรายจากแม่น้ำเนรัญชรา ประเทศอินเดีย จุดที่พระพุทธองค์อธิษฐานลอยถาด
    - ผงหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค ที่ใช้อุดที่องค์พระพิมพ์ทรงสัตว์ต่างๆ และปั้นเป็นลูกอม
    - ผงหลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก
    - ผงมหาจักรพรรดิ์ ล้วน 99 % ของหลวงปู่ดู่ วัดสะแก จำนวนมาก
    - ผงมวลสารจิตรลดา
    - ผงของหลวงพ่อแก้ว , หลวงพ่อปลอด , หลวงพ่อทองสุข วัดในปากทะเล จำนวนมาก
    - ผงอิทธิเจ สมัยอยุธยา วัดสัมฤทธิ์

    - ผงกสิณ ผงพุทธะมงคล และผงต่างๆ ขององค์หลวงปู่พิศดู
    - ผงยาวิเศษปลอดโรค หลวงปู่พิศดู
    - ผงที่ใช้บรรจุในองค์พระกริ่งธัมมะจารี และพระชัยวัฒน์ธัมมะจารี ชุดอุดผง
    - ผงที่ใช้สร้างพระทุกรุ่น ของหลวงปู่พิศดู
    - ตะไบพระกริ่งธัมมะจารี
    - ผงชาญหมาก หลวงปู่พิศดู
    - ผงไม้เท้า หลวงปู่พิศดู
    - ผงไม้เทพธาโรเสก หลวงปู่พิศดู
    - ผงไม้โพธิ์นิพพาน วัดเทพธารทอง
    - ผงบายศรีพระมหาอุปคุต หลวงปู่พิศดู
    - ผงดอกไม้บูชาพระ ของหลวงปู่พิศดู
    - ผงสี ที่ลอกออกจากพระพุทธไสยาสน์องค์ใหญ่ วัดเทพธารทอง
    - ข้าวก้นบาตร ของหลวงปู่พิศดู
    - ผงยาสมุนไพร ของหลวงปู่พิศดู
    - ผงน้ำอ้อยเสก หลวงปู่พิศดู
    - น้ำมนต์พิธีต่างๆ และน้ำล้างหน้า ขององค์หลวงปู่พิศดู
    - ปรอท ที่ใช้ทำเบี้ยแก้ หลวงปู่พิศดู
    - ผงหอยเบี้ยแก้ หลวงปู่พิศดู
    - มวลสารที่ใช้อุดเบี้ยแก้ หลวงปู่พิศดู
    - ผงเปลือกหอยสังข์มงคล หลวงปู่พิศดู
    - สีผึ้ง หลวงปู่พิศดู ทุกรุ่น

    - ผงรวมหัวเชื้อสุดยอดมวลสาร จากพระเกจิอาจารย์ต่างๆ และผงชันเพชรฯ มหามงคลที่ใช้สร้างพระ ของท่าน อาจารย์อนันต์ สวัสดิสวนีย์ อดีตผู้อำนวยการกองช่างสิบหมู่กรมศิลปากร เป็นผู้มอบให้ พร้อมด้วยชนวนสำคัญอีกหลายอย่าง (ใครเคยศึกษาการสร้างพระ และตามเก็บพระของสายท่าน อ.อนันต์ ก็คงทราบดี ว่าต้องมีชนวน-มวลสารประเภทใดบ้าง)

    - แป้งเสก หลวงปู่ดู่ วัดสะแก
    - ผงหลวงปู่ท่อน วัดศรีอภัยวัน
    - ผงมวลสารของหลวงปู่เทพโลกอุดร
    - ผงหลวงปู่สี วัดเขาถ้ำบุญนาค
    - ผงพระคำข้าว หลวงพ่อฤาษีลิงดำ
    - ผงมหาจักรพรรดิ์ หลวงตาม้า ถ้ำเมืองนะ
    - ผงมวลสาร ครูบากฤษดา วัดสันพระเจ้าแดง
    - สีผึ้ง ครูบากฤษดา

    - ผงยาจินดามณี หลวงปู่พิศดู วัดเทพธารทอง
    - ผงยาจินดามณี หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว
    - ผงยาจินดามณี หลวงปู่เพิ่ม วัดกลางบางแก้ว
    - ผงยาจินดามณี หลวงปู่เจือ วัดกลางบางแก้ว
    - ผงยาจินดามณี หลวงปู่อั๊บ วัดท้องไทร
    - ผงยาจินดามณี หลวงปู่ฟัก วัดเขาวงพระจันทร์
    - ผงยาจินดามณี วัดท่าเสา สมุทรสาคร
    - มวลสารที่ใช้ในการสร้างพระ วัดหน้าพระเมรุ พระนครศรีอยุธยา
    - ผงไม้ช่อฟ้า พระอุโบสถ วัดหน้าพระเมรุ พระนครศรีอยุธยา
    - ผงรักเพดาน พระอุโบสถ วัดหน้าพระเมรุ พระนครศรีอยุธยา
    - ผงพุทธะอริยะรังสี ผงนี้ได้ผสมมวลสารมากมายกว่า 3,000 ชนิด ฯลฯ
    - สายสิญจน์อธิษฐาน หลวงปู่ทองดำ
    - ผงเหล็กน้ำพี้ หลวงปู่หมุน
    - ผงดวงเศรษฐี หลวงปู่หมุน
    - เหล็กน้ำพี้ บ่อพระขรรค์ บ่อพระแสง จ.อุตรดิตถ์
    - ผงเหล็กน้ำพี้ หลวงปู่ทองดำ
    - ผงแป้งเจิม หลวงปู่ทองดำ
    - ดินไทย และเบ้าดินที่ใช้หล่อพระสำคัญ
    - ผงยาตำรับ หลวงปู่เทพโลกอุดร

    - มวลสารที่ใช้สร้างพระของหลวงปู่บุญฤทธิ์
    - ผงพระโมคคัลลาน์ หลวงปู่ผ่าน ปัญญาปทีโป
    - ผงที่ใช้สร้างพระหลวงปู่ทวด หลายวัด จำนวนมาก
    - ผงสมเด็จ " ปุญญมากโร " หลวงพ่อประสิทธิ์
    - มวลสารสร้างพระของหลวงปู่จันทา ถาวโร
    - แท่งอำพัน วัดพระปฐมเจดีย์
    - กระเบื้องนพเก้า วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ พิษณุโลก
    - ผงที่ใช้สร้างพระปิดตา หลวงพ่อกล้วย วัดหมูดุด
    - ผงหลวงปู่ภู วัดต้นสน
    - ปรอทหลวงปู่พิศดู หลวงปู่ละมัย และปรอทครูบาอาจารย์อีกหลวงองค์
    - ข้าวสารหิน
    - ผงที่ใช้สร้างพระของเจ้าคุณนรฯ วัดเทพศิรินทร์
    - ผงที่ใช้สร้างพระของ หลวงปู่แหวน
    - ผงวิเศษ หลวงปู่เก๋ วัดปากน้ำ นนทบุรี
    - มวลสารที่ใช้ในการสร้างพระ หลวงพ่อทรง วัดศาลาดิน (หลายรุ่น)
    - มวลสารที่ใช้ในการสร้างพระ หลวงปู่สุภา กันตสีโล
    - มวลสารที่ใช้ในการสร้างพระ หลวงปู่มหาปลอด วัดโพธินิมิตร

    - ข้าวก้นบาตร หลวงปู่พิศดู
    - ข้าวก้นบาตร หลวงปู่ปลอด วัดโพธินิมิตร
    - ข้าวก้นบาตร หลวงปู่ท่อน วัศรีอภัยวัน

    - ผงธูปหลวงพ่อปิยปกาศิต
    - ผงธูปพระธาตุพนม
    - ผงทรายทอง ทรายเงิน ทรายนิล วัดพระธาตุพนม
    - ผงทองคำเปลว ที่ปิดรูปหล่อองค์พระมหากัสปะ และองค์พระมหาอุปคุต ที่พระมหาเจดีย์พระธาตุพนม
    - พลอยเสก หลายพิธี
    - ผงว่านที่ใช้สร้างสมเด็จ วัดโยธานิมิตร
    - มวลสารที่อธิษฐานจิตโดย หลวงปู่ประเวศ วัดป่าคลองมะลิ
    - ผงที่ใช้สร้างพระ หลวงปู่หลอด วัดใหม่เสนา
    - มวลสารที่ใช้ในการสร้างพระ หลวงพ่อเพชร วัดบ้านกลับ จ.กาญจนบุรี

    - ผงบายศรีบูชาพระอุปคุต หลวงปู่พิศดู วัดเทพธารทอง
    - มวลสาร และว่านที่ใช้สร้างพระอุปคุต หลังพระแม่ธรณี แจกสามจังหวัดชายแดนภาคใต้
    - มวลสารที่ใช้สร้างพระอุปคุต วัดพระบาทสี่รอย
    - มวลสารที่ใช้สร้างพระอุปคุต วัดอุปคุต (หลายรุ่น)
    - มวลสารที่ใช้สร้างพระอุปคุต หลวงปู่ครูบาโอภาส วัดจองคำ
    - มวลสารที่ใช้สร้างพระอุปคุต หลวงปู่ครูบาชัยวงศาพัฒนา วัดพระบาทห้วยต้ม
    - มวลสารที่ใช้สร้างพระอุปคุต หลวงปู่บุญกู้ วัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน
    - มวลสารที่ใช้สร้างพระอุปคุต วัดป่าดาราภิรมย์
    - ทองคำเปลวที่ปิดรูปหล่อองค์พระมหาอุปคุต วัดพระธาตุพนม

    - ผงมหาอำนาจ
    - ผงว่าน 108 ครบ
    - ว่าน 500 ชนิด หลวงปู่พรหมา
    - ผงหลวงพ่อทรง วัดศาลาดิน
    - ผงหลวงปู่หงษ์ สุสานทุ่งมน
    - ผงพระหลวงปู่ผาด วัดดงตาล หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค ปลุกเสก

    - ผงอุกามณี ของ สมเด็จลุน เมืองจำปาสัก
    - ผงปฐวีธาตุ เจ้าคุณนรฯ วัดเทพศิรินทร์
    - ผงปฐวีธาตุ หลวงปู่พิศดู วัดเทพธารทอง
    - ผงปฐจีธาตุ หลวงปู่ละมัย สวนสมุนไพรเจ้าแก้ว
    - ทรายเสก หลวงปู่ฟัก วัดเขาวงพระจันทร์
    - ทรายเสก หลวงปู่ทองดำ วัดท่าทอง
    - ทรายเสก หลวงปู่หงษ์ สุสานทุ่งมนต์
    - ทรายเสก หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง
    - ทรายเสก หลวงพ่อผินะ วัดสนมลาว
    - ทรายเสก หลวงพ่อฉาบ วัดศรีสาคร
    - ทรายแก้ว ทรายเงิน ทรายทองศักดิ์สิทธิ์ วัดพระธาตุพนม
    - ดินสังเวชนียสถาน แดนพุทธภูมิ ประเทศอินเดีย เนปาล
    - ทรายมหามงคล 4 ภาค

    - ผงปูนเสก คุณแม่บุญเรือน วัดอาวุธ
    - ผงยาดำ และผงมวลสาร หลวงพ่อดิ่ง , หลวงพ่อฟู วัดบางสมัคร
    - ผงลบสูตร หลวงปู่ดี ธัมมะธีโร
    - ผงปรอทหลวงปู่ละมัย
    - ผงพระปิดตา ทั่วทั้งสายชลบุรี และใกล้เคียง
    - ผงชาญหมากพระอริย ครูบาอาจารย์หลายสิบองค์
    - ผงกะลาตาเดียว และไม้มงคล
    - ผงกาฝากไม้มงคลต่างๆ
    - ผงธูปวัดสำคัญๆหลายที่
    - ผงงาช้างโบราณ
    - ข้าวสารดำ 2,500 ปี
    - มวลสารเก่าพระธาตุพนม

    - แร่พระหัตถ์ 4 รอย วัดปะต๊ะ สิบสองปันนา
    - แร่จ้าวน้ำเงิน
    - แร่เมฆพัตร
    - แร่บางไผ่
    - แร่ข้าวตอกพระร่วง
    - แร่เหล็กน้ำพี้
    - แร่เกาะล้าน
    - แร่เหล็กไหลย้อย
    - แร่เหล็กเปียก
    - แร่เพชรหน้าทั่ง
    - แร่อุกาบาศ นอกโลก
    - แร่ วัดประสาทบุญญาวาส ปี 2506
    - ปรอทดำ
    - ปรอทขาว

    - ตะไบพระกริ่ง หลวงปู่ดู่ วัดสะแก
    - ตะไบพระกริ่ง-พระชัยวัฒน์ ธัมมะจารี วัดเทพธารทอง
    - ตะไบพระกริ่ง-พระชัยวัฒน์ สุขังเสติ วัดเขาน้ำซับ
    - ตะไบรูปหล่อพระมหาอุปคุตปราบมาร วัดเขาน้ำซับ
    - ตะไบพระกริ่ง ญาท่านสวน วัดนาอุดม
    - ตะไบพระกริ่ง มงคลมหาเศรษฐี วัดศรีบูรพาราม
    - ตะไบพระกริ่ง ชินบัญชร ญสส. วัดศรีบูรพาราม

    - สีผึ้งหลายวัด จำนวนมาก
    - มวลสารต่างๆ จากสายสำนักเขาอ้อ
    - ผงมวลสารจากครูบาอาจารย์ สายพระป่ากรรมฐานทั้วประเทศ
    - ผงต่างๆ จากเกจิอาจารย์ ฯลฯ อีกจำนวนมากนับพันอย่าง ที่ไม่มีการจดบันทึกไว้
    - ... ฯลฯ

    มวลสารเหล่านี้ ได้ใช้บรรจุไว้ใต้ฐานรูปหล่อหลวงปู่พิศดูขนาด 1 นิ้ว ส่วนตัวประสานเนื้อผงให้เข้ากันนั้น ได้ใช้น้ำมันอนันตคุณ108 น้ำผึ้งเสก น้ำอ้อยผงเสกของหลวงปู่พิศดู ข้าวก้นบาตรครูบาอาจารย์(ชนิดเปียก) สีผึ้ง น้ำหมาก น้ำมนต์ ของเหล่าครูบาอาจารย์ กล้วยน้ำไทย และกาว ฯลฯ เป็นตัวประสานหลัก..

    ส่วนของมงคลที่ใช้บรรจุนอกเหนือจากผงมวลสารนี้ ได้แก่..
    - อัฐิอังคารธาตุ หลวงปู่พิศดู
    - จีวรเก่าของหลวงปู่พิศดู
    - แผ่นตะกรุดที่เข้าพิธีพร้อมกับรูปหล่อพระธรรมธาตุ


    = 2250 Baht
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 ธันวาคม 2024 at 01:02
  7. Anantsit

    Anantsit เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    4,338
    ค่าพลัง:
    +4,563
    รายการที่ 82

    P1.JPG
    P2.JPG
    P3.jpg

    A1.jpg
    A2.jpg
    A3.jpg
    A4.jpg
    A5.jpg
    A6.jpg

    พระขรรค์มหาจักรพรรดิ์ เนื้อชนวน (เล่มเล็ก)
    หลวงปู่แสง ญาณวโร วัดป่าอรัญญวิเวก จังหวัดอำนาจเจริญ


    #มีโค๊ดและหมายเลขกำกับ (เลขสวย 95) หายากครับ...!!!

    เครดิตข้อมูล : FB หลวงปู่แสง


    = 999 Baht
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 ธันวาคม 2024 at 01:02
  8. Anantsit

    Anantsit เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    4,338
    ค่าพลัง:
    +4,563
    รายการที่ 83

    P1.jpg
    P2.jpg

    พระนาคปรกอธิษฐาน เนื้อเกษรผสมผงปฐวีธาตุ
    หลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ วัดธาตุมหาชัย จังหวัดนครพนม

    #พระนาคปรกอธิษฐานสร้างขึ้นเมื่อปี42
    ช่วงนั้นหากใครไปกราบหลวงปู่คำพัน มักจะถามหาปฐวีธาตุของหลวงปู่
    ซึ่งหลวงปู่ได้ให้รับรองเองว่า “กันนิวเคลียร์ได้”
    ผมได้เข้าไปกราบหลวงปู่พร้อมหินกรวดแม่น้ำโขงถุงใหญ่ (4กิโลฯ)
    เพื่อขอเมตตาหลวงปู่อธิษฐานให้เป็นปฐวีธาตุ หลังจากหลวงปู่อธิษฐานเสร็จ ได้ขอปฐวีธาตุกลับมา1กำมือ
    พร้อมเรียนถามหลวงปู่ว่า “ถ้านำปฐวีธาตุไปบดเป็นผงแล้วทำพระยังจะกันนิวเคลียร์ได้อยู่รึเปล่าครับ”
    หลวงปู่ก็ตอบว่า “ได้ แต่ต้องเอามาให้หลวงปู่อธิษฐานซ้ำ”
    หลังจากสนทนากับหลวงปู่ซักพักจึงลาหลวงปู่กลับ
    ตอนกราบลา หลวงปู่ได้ดันถุงใส่ปฐวีธาตุกลับมาพร้อมพูดว่า “จะเอาไปสร้างพระไม่ใช่เหรอ”
    ผมจึง คิดว่าหลวงปู่คงต้องการให้สร้างพระมาถวายจึงได้นำปฐวีธาตุถุงใหญ่กลับมาทำพระ
    ซึ่งตอนนั้นผมเป็นเพียงนักศึกษามหาลัยปี 1
    และแทบไม่มีความรู้เรื่องการสร้าพระเลย
    หลังจากได้รับความช่วยเหลือจากผู้ใหญ่ในวงการสร้างพระคือ
    คุณอำพล เจน ที่เป็นธุระในการเขียนยันต์ข้างหลังองค์พระซึ่งเป็นพุทธคาถาในพุทธทำนาย
    คุณเนาว์ นรญาณที่เป็นธุระในการทำแม่พิมพ์พระฯ
    และคุณรณธรรม ธาราพันธุ์ ที่ให้คำปรึกษาพร้อมวลสารในการสร้างพระ ฯลฯ
    หลังจากสถาปนาเป็นองค์พระแล้วซึ่งแบ่งเป็นเนื้อโรงงาน 5,000 องค์
    เนื้อเกสรซึ่งกดมือกันเองอีกหลายพันองค์ (จำจำนวนที่แน่นอนไม่ได้ซึ่งน่าจะราว5000องค์)
    ได้ไปถวายหลวงปู่เพื่ออธิษฐานหลังวันเข้าพรรษาปี42 หนึ่งวัน
    เมื่อไปถวายหลวงปู่ได้สั่งให้เก็บไว้ก่อนท่านยังไม่อธิษฐานเดี๋ยวนั้น
    และพระได้อยู่กับท่านจนออกพรรษาได้ราว5วันจึงได้ไปถวายพระนาคปรกเนื้อเกสรอีกราว5,000 องค์ที่กดกันเองในพรรษา
    (พระที่กดในพรรษาจะบรรจุทรายคำไว้ที่ด้านหลังองค์พระทุกองค์)
    โดยหลวงปู่ได้เก็บพระที่ถวายไว้ในช่วงเข้าพรรษาทั้งหมด(พระชุดแรก)ไว้ที่หัวนอนท่านตลอดพรรษา
    และระหว่างสนทนาได้เล่าถวายให้ท่านฟังถึงการทำพระที่กดมือกันเองออกมาไม่สวย
    ท่านก็เมตตาให้กำลังใจว่า “ไม่เป็นไรอย่างพระสมเด็จวัดระฆังก็กดมือเหมือนกัน”
    และทราบว่าพระชุดนี้หลวงปู่มิได้จำหน่ายจ่ายแจก จนผ่านไปหลายปีจึงได้ยินว่าคุณเง็กได้รับแจกมา

    #พระปรกอธิษฐาน เป็นนามที่คุณเง็ก บางลำภู
    ได้เรียกพระนาคปรกหลังใบโพธิ์ของหลวงปู่คำพัน วัดธาตุมหาชัย
    เมื่อไปถามคุณเง็ก ถึงที่มาของชื่อจึงทราบว่า
    มีคราวหนึ่งเพื่อนคุณเง็กซึ่งรู้จักกับหลวงปู่คำพันเป็นอย่างดี
    ได้ฝากปัจจัยไปถวายหลวงปู่ เมื่อคราวที่คุณเง็กได้ไปกราบหลวงปู่ที่วัด
    พร้อมกำชับให้กราบเรียนหลวงปู่ด้วยว่า เขาขอพระหลวงปู่เป็นที่ระลึกด้วย
    หลังจากคุณเง็กได้กราบเรียนหลวงปู่แล้ว
    หลวงปู่จึงหยิบพระนาคปรกหลังใบโพธิ์ขึ้นมาแจกทุกคนคนละ1องค์และได้ฝากไปให้เพื่อนคุณเง็กด้วย
    โดยหลวงปู่ได้กล่าวว่า “อยากได้อะไรให้อธิษฐานเอา”
    ตั้งแต่นั้นมาที่พันทิพย์งามวงศ์วานก็เรียกพระรุ่นนี้ว่า พระปรกอธิษฐาน
    ซึ่งคุณเง็กเล่าว่าปรกติเวลาหลวงปู่แจกพระให้คุณเง็ก
    ท่านจะแจกเป็นกำแต่กับพระรุ่นนี้ท่านให้แค่คนละ1องค์เท่านั้น
    เป็นประกอบกับคำกล่าวของหลวงปู่คำพันที่ว่า
    อยากได้อะไรให้อธิษฐานเอา
    จึงเป็นเหตุให้คุณเง็กซึ่งเป็นเซียนใหญ่พระหลวงปู่คำพัน
    ได้เริ่มกว้านเก็บพระปรกอธิษฐานตั้งแต่นั้นเป็นตนมา
    คุณเง็กเล่าต่อว่าพระหลวงปู่คำพันที่คุณเง็ก มีประสบการณ์มี2อย่าง
    คือพระพุทธปฐวีธาตุและพระปรกอธิษฐาน


    #หากจะกล่าวถึงการเล่นแร่แปรธาตุแล้ว หลายท่านคงจะทราบว่ามีอยู่หลายอย่าง และหลายแบบตามแต่ครูบาอาจารย์แต่ละท่าน จะมีวิธีและวิชาอันแก่กล้าที่สามารถเสกหรือทำของต่างๆ ให้มีความขลัง

    ด้วยบทพระเวทย์ วิทยาคม อันแก่กล้า หรือด้วย จิต กฤตยา หรือบุญฤทธิ์ อะไรก็แล้วแต่ ที่ทำให้สิ่งของนั้นๆ ศักดิ์สิทธิ์ สามารถคุ้มครอง ให้คุณแก่ผู้ที่ศรัทธานับถือ นำไปติดตัวไว้ใช้แล้วบังเกิดสิ่งอัศจรรย์ เหนือธรรมชาติ ที่วิทยาศาสตร์อันทันสมัยในปัจจุบัน ไม่สามารถอธิบายเป็นเหตุผลออกมาได้

    ผู้ที่มีความนับถือ ศรัทธาต่อองค์ครูบาอาจารย์ ผู้เป็นเจ้าของแห่งธาตุวิเศษ สิ่งเหล่านี้ ทางพุทธศาสนาเรียกว่า "ปัจจัตตัง" คือ สิ่งเฉพาะตน

    "ปฐวีธาตุ พระเพชรแห่งแม่น้ำโขง" ปฐวีธาตุของ เจ้าคุณสุนทรธรรมากร หรือ หลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ วัดธาตุมหาชัย นครพนมนี้ มีความเป็นมา ครั้งตั้งแต่ท่านยังเป็นเพียงพระภิกษุธรรมดาของชาวบ้านตำบลมหาชัย จ.นครพนม
    แต่ด้วยความที่ท่านเป็นพระที่มีดีอยู่ในองค์ท่าน จากการปฏิบัติธรรม ฝึกจิต ตามแนวทางกรรมฐาน พระอาจารย์เสาร์ กันตสีโล บูรพาจารย์ใหญ่ของสำนักกรรมฐานในยุคนั้น และวิชาสายพระเวทย์ของ ปะขาวครุฑ ซึ่งเป็นสายวิชาของ สมเด็จลุน แห่งนครจำปาสัก ผู้โด่งดังสองคาบฝั่งโขง

    ปฐวีธาตุของหลวงปู่คำพันธ์ ในช่วงแรกนั้น ทหารและตำรวจในพื้นที่ ต่างทราบถึงกิตติคุณท่านดีว่า เป็นพระดี มีวิชา จากปากคำของชาวบ้าน ปากต่อปาก ทำให้ทหารและตำรวจเข้าหาท่าน และจุดมุ่งหมายที่สำคัญคือ ขอของดี แต่ท่านปฏิเสธไป พร้อมกับบอกว่า ท่านเป็นเพียงพระธรรมดารูปหนึ่ง ไม่มีอะไรจะให้ได้ นอกจากพระธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

    เมื่อได้ฟังดังนั้น ทั้งกลุ่มทหารและตำรวจ จึงลาท่านกลับไป แต่ด้วยกิตติคุณและบารมีธรรมของท่าน ทำให้ทั้งตำรวจ ทหาร และข้าราชการหลายกลุ่มยังเดินทางมาพบท่าน และก็เช่นเคย คือ ขอของดีจากท่าน เพื่อเป็นสิริมงคล และคุ้มครอง เพราะในสมัยนั้น (ก่อนปี พ.ศ.๒๕๐๐) บ้านเมืองยังคงเต็มไปด้วย โจร ผู้ร้าย สัตว์ป่านานาชนิด และฝ่ายที่มีอุดมการณ์ที่แตกต่างจากรัฐบาลไทย ซึ่งทำให้การทำงานของข้าราชการฝ่ายต่างๆ มีความเสี่ยงต่อความปลอดภัยในชีวิตสูง เมื่อความศรัทธาที่มีต่อท่านมากขึ้น จึงเป็นที่มาของ ปฐวีธาตุพระเพชร แห่งแม่น้ำโขง

    ศรัทธาของผู้ที่มาพบท่าน และต้องการขอของดีไว้คุ้มครองตัว เมื่อมีมากขึ้น ท่านจึงเอ่ยปากจะทำของดีให้ โดยให้ชาวบ้านและเหล่าทหารที่มาพบ ไปช่วยกันนำ หิน ที่อยู่ในแม่น้ำโขงขึ้นมา ซึ่งมีอยู่หลากหลายวรรณะ สีสันแตกต่างกันออกไป หลายลักษณะ สุดแต่ผู้ใดจะเก็บมาได้แบบไหน เมื่อได้จำนวนมากพอสมควรแล้ว ท่านจึงให้นำออกมากองรวมกันแล้ว เสกตามสายวิชาที่ท่านได้เรียนมา
    หลวงปู่คำพันธ์ ได้แจก หินเสก ให้ลูกศิษย์ ชาวบ้าน ทหาร ตำรวจ ก็ไม่ได้ให้ความสนใจ เพราะเห็นว่าเป็นเพียงก้อนหินธรรมดา แต่เมื่อเกิดประสบการณ์ จากเรื่องประสบอุบัติเหตุ ที่ผู้ประสบเหตุการณ์นั้นรอดมาได้ราวปาฏิหาริย์สารพัดเรื่องราว ทำให้ปฐวีธาตุ และชื่อเสียงของหลวงปู่คำพันธ์ ยิ่งขจรขจายกว้างขวางยิ่งขึ้น

    จากการบอกกล่าวของผู้รู้ทางด้านวัตถุมงคลของ หลวงปู่คำพันธ์ ให้ข้อมูลว่า การเสก ทำของ หรือการเล่นแร่แปรธาตุ จากหินแม่น้ำธรรมดาๆ นั้น ให้เป็นของมงคลมีความศักดิ์สิทธิ์ในตัว หลวงปู่จะเสกด้วยจิตอันแก่กล้า และพระเวทที่ใช้เสกปฐวีธาตุนั้น คือ มนต์คาถาชินบัญชร เฉกเช่นเดียวกันกับ ปฐวีธาตุ ของ ท่านเจ้าคุณนรรัตน์ราชมานิต แห่งวัดเทพศิรินทราวาส กรุงเทพฯ

    ปฐวีธาตุของหลวงปู่คำพันธ์ ท่านบอกกล่าวกับศิษย์ว่า หลวงปู่ตั้งให้ไว้เป็นองค์พระ เป็นของวิเศษ ที่จะคุ้มครองคุ้มภัยกับผู้ที่มีไว้บูชา ให้หมั่นอาราธนาและสวดพระคาถาชินบัญชรอยู่เป็นนิตย์ ผู้ที่ปฏิบัติดี จะสามารถสื่อถึงความศักดิ์สิทธิ์แห่งองค์ปฐวีธาตุได้ง่าย
    ทั้งนี้หลวงปู่คำพันธ์ท่านได้ให้ชื่อปฐวีธาตุของท่านว่า "พระเพชร" เพราะเสกหนุนธาตุต่างๆ ให้เป็นองค์พระ และธาตุปฐวี คือ ธาตุหินนี้แกร่ง ท่านจึงเรียกว่า "พระเพชร" อันเป็นที่มาแห่งปฐวีธาตุเพชรธาตุแห่งแม่น้ำโขง

    ปฐวีธาตุของหลวงปู่คำพันธ์ และ ปฐวีธาตุของท่านเจ้าคุณนรรัตน์ราชมานิต มีความเหมือนกันหลายอย่าง คือ หลวงปู่คำพันธ์เสกและตั้งเป็นองค์พระ ท่านเรียก "พระเพชร" ท่านเจ้าคุณนรรัตน์ท่านก็เสกและตั้งเป็นองค์พระเช่นเดียวกัน ท่านเจ้าคุณนรรัตน์ เรียกปฐวีธาตุของท่านว่า "พระพ่อแม่ธรณีปฐวีธาตุ"

    ความสำคัญที่คล้ายคลึงกันของปฐวีธาตุทั้งสององค์ท่านอีกอย่างหนึ่งนั้นคือ พุทธมนต์ และพระคาถา ที่ใช้ในการอธิษฐานจิตลงสู่ปฐวีธาตุของทั้งสองท่าน ใช้"พระคาถาชินบัญชร" เป็นตัวบทกำกับในการตั้งเป็นองค์พระลงสู่ปฐวีธาตุของทั้งสองท่าน
    ส่วนความศักดิ์สิทธิ์และพุทธคุณของปฐวีธาตุ หลวงปู่คำพันธ์แห่งวัดธาตุมหาชัย ท่านกล่าวกับลูกศิษย์ว่า คุ้มครอง คุ้มภัย กันฟ้า กันไฟ ปฐวีธาตุแห่งแม่น้ำโขงนี้เป็นธาตุที่เย็น อานุภาพแห่งองค์พระเพชร สามารถป้องกันภัยที่เกิดจากรังสีของความร้อนที่จะเกิดขึ้นอย่างฉับพลันได้
    ในขณะที่ปฐวีธาตุของท่านเจ้าคุณนรรัตน์นั้น เมื่อท่านได้อธิษฐานจิตเสร็จ ท่านได้มอบให้ลูกศิษย์ไว้ แล้วท่านได้กล่าวกับศิษย์ว่า พระแม่ธรณีนี้วิเศษนักหนา ท่านได้อธิษฐานให้เป็นของวิเศษ ให้เป็นพระแม่ธรณี เพราะพระแม่ธรณีมีคุณอันอเนกอนันต์ เปรียบดังคุณแห่งมารดา ที่รักลูกจนหาที่สุดมิได้
    ท่านกล่าวกับศิษย์ว่า รักษาไว้ให้ดี กันฟ้า กันไฟ ได้นะ กันรังสีของนิวเคลียร์ได้ด้วย ซึ่งปฐวีธาตุของท่านเจ้าคุณนรรัตน์มีจำนวนน้อยมาก เพราะท่านทำไว้ก่อนท่านจะมรณภาพเพียงไม่นาน คือ ช่วงวาระสุดท้ายของสังขารท่าน
    ฉะนั้น กรณีที่มีหลายคนมีหินแล้วบอกว่าเป็นปฐวีธาตุของเจ้าคุณนรรัตน์ ขอให้ท่านใช้สติ และปัญญาแห่งชาวพุทธ พิจารณาที่มาที่ไปอย่างถ่องแท้ด้วย
    ปฐวีธาตุของหลวงปู่คำพันธ์นั้น ยังพอที่จะหาได้จากผู้รู้จริง แต่ควรจะเป็นการมอบให้กัน โดยไม่มีราคาค่างวด เหตุเพราะเป็นหินนั่นเอง ลักษณะและการพิจารณา ไม่สามารถบ่งบอกได้ว่า เสกหรือไม่เสก แท้หรือไม่แท้ แตกต่างจากพระเครื่องอย่างสิ้นเชิง
    ให้ท่านคิดดูว่า พระเครื่องที่ดูแล้วสามารถบอกได้ว่าชนิดไหน สำนักใดผู้เชี่ยวชาญหลายท่านยังโดนของเก๊ เลียนแบบ

    ส่วนหินแม่น้ำนั้น สามารถหยิบหาที่ไหนมาก็ได้ แล้วบอกว่า เป็นปฐวีธาตุของหลวงปู่คำพันธ์ นำมาตั้งราคาค่างวดซื้อขายกัน โดยมิได้ทำบุญเช่าหามาจากวัด นับว่าเป็นอันตรายต่อผู้ที่มีศรัทธา แต่ไม่ใช้ปัญญาในการพิจารณาแบบชาวพุทธแท้จริง ท่านอาจจะแขวนกรวดงาน หรือหินตู้ปลาที่ไหนก็ได้ นับว่าเป็นสิ่งที่อันตรายอย่างยิ่ง
    สุดท้ายนี้ ต้องขอขอบคุณคณะศิษย์ธาตุมหาชัย ที่เอื้อเฟื้อภาพ และข้อมูล ซึ่งเป็นผู้จัดทำหนังสือ "สัมผัสแห่งอริยะ" ซึ่งถือเป็นหนังสือที่รวบรวมทุกเรื่องราวของ หลวงปู่คำพันธ์ ได้อย่างสมบูรณ์เล่มหนึ่ง


    แต่เพราะ"พระเพชร"หรือ"ปฐวีธาตุ"นั้น หากจะว่ากันโดยกายภาพภายนอกแล้ว ก็คือ"ก้อนกรวด"เราดีๆนี่เอง
    ไม่อาจ"ตอกโค้ด"หรือ"รันนิ่งนัมเบอร์"แยกของเสกกับไม่เสกได้
    ต้องได้มาจาก"แหล่งที่เชื่อถือได้"เพียงสถานเดียวเท่านั้น จึงจะวางใจได้ว่า ไม่ได้เอากรวดตู้ปลา หรือกรวดก่อสร้างเปล่าๆมาห้อยให้หนักคอ หนักใจแท้ทีเดียว

    ด้วยเหตุนี้ จึงคณะศิษย์ของหลวงปู่คำพันธ์ จึงได้นำปฐวีธาตุมาสร้างเป็นองค์"พระเครื่องพระบูชา"เป็นหลายรุ่นหลายแบบด้วยกัน เพื่อตัดปัญหาดังกล่าวให้สิ้นไปโดยปริยาย อันเป็นการกระทำที่ชาญฉลาด น่าอนุโมทนาสาธุการด้วยเป็นอย่างยิ่ง
    หนึ่งใน"พระผงพระเพชร"ของหลวงปู่คำพันธ์ วัดธาตุมหาชัยที่หลวงปู่ท่านสั่งให้สร้างไว้ด้วยองค์เอง ซึ่ง"พุทธวงศ์"รู้เห็น,ช่วยเหลือในการจัดหาแม่พิมพ์มาตั้งแต่ต้น ที่ใคร่จะขอบันทึกไว้เป็นหลักฐานสืบไปก็คือ"พระนาคปรกอธิษฐาน" ที่หลวงปู่คำพันธ์"รัก"และ"แจกยาก"ที่สุดชุดหนึ่งเลยนั่นเทียว..!!?!

    แต่ก่อนที่จะเล่าล้วงลูกลึกไปถึงปฐมเหตุแห่งการจัดสร้างอันมีที่มาที่ไปค่อนข้างจะผิดแผกจากปกติภาพทั่วไป ก็ใคร่ขอพูดถึงเรื่องของพระนาม"พระนาคปรกอธิษฐาน"ชุดนี้ก่อนสักเล็กน้อย
    แต่แรกสร้าง ก็ไม่ตั้งชื่อวิจิตรพิศดารอะไร นอกจากจะเรียกหาตามรูปลักษณ์อย่างเรียบง่ายที่สุดแต่เพียงว่า "พระนาคปรกใบโพธิ์" เท่านั้น
    จนกระทั่งวันหนึ่ง คุณ"เง็ก บางลำพู" เซียนพระสายเจ้าคุณนรรัตน์ฯและหลวงปู่คำพันธ์รุ่นแรกๆ ซึ่งนับถือหลวงปู่คำพันธ์เป็นชีวิตจิตใจอย่างยิ่ง ได้เดินทางจากกรุงเทพมหานครไปกราบหลวงปู่ถึงวัดธาตมหาชัย อันเป็นกิจวัตรที่คุณเง็กได้กระทำมาโดยตลอด แทบไม่มีการว่างเว้นเลยแม้สักเดือนเดียว
    ในฐานที่เป็นศิษย์เก่าแก่ที่เคารพนับถือกันมานาน หลวงปู่คำพันธ์มักจะหยิบพระเครื่องรางให้คุณเง็ก บางลำพูทีละ"เป็นกำเป็นหอบ"เป็นของฝากจากนครพนมไปแจกจ่ายคนที่กรุงเทพอยู่เสมอๆ
    แต่มาคราวนี้ การกลับไม่เหมือนเดิมอย่างน่าประหลาดใจ
    เพราะหลวงปู่คำพันธ์ หยิบ"พระนาคปรกใบโพธิ์"ให้คุณเง็กเพียง"องค์เดียว"เท่านั้น..!!!!
    ไม่มีองค์ที่สองที่สามที่สี่ หรือองค์ที่สิบยี่สิบเหมือนอย่างเคยอีกแล้ว..!?!?
    ยิ่งไปกว่านี้ หลวงปู่คำพันธ์ยังสั่งกำชับอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนอีกด้วยว่า
    "ปรารถนาอยากได้อะไร ลองอธิษฐานดูได้น๊ะ..!!??"

    ด้วยเหตุแห่งคำสั่งของหลวงปู่คำพันธ์ดังกล่าวข้างต้น "พระนาคปรกใบโพธิ์" จึงมีอันได้เปลี่ยนมาเป็นชื่อที่ไพเราะและแฝงไว้ด้วยความนัยที่ศักดิ์สิทธิ์ยิ่งในพระนาม"พระนาคปรกอธิษฐาน"ด้วยประการฉะนี้ฯ

    สำหรับปฐมเหตุแห่งการอุบัติแห่ง"พระนาคปรกอธิษฐาน"รุ่นนี้ เกิดจาก"บอล" เด็กหนุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัยขอนแก่นปี 1 (ประมาณปี 2541)ซึ่งสนใจศรัทธาพระสายกรรมฐานเป็นพิเศษได้ให้เพื่อนไปหา"กรวดแม่น้ำโขง"ถุงใหญ่ น้ำหนักประมาณ 4 กิโลกรัมให้ถวายให้หลวงปู่คำพันธ์เสกเพื่อเอาไว้"กันนิวเคลียร์"ตามกระแสนิยมในยุคนั้นที่สถานการณ์บ้านเมืองและโลกค่อนข้างที่จะร้ายแรง เสี่ยงที่จะเกิดสงครามใหญ่มิใช่น้อย โดยเมื่อเสกเสร็จ "บอล"ก็กราบเรียนถามหลวงปู่คำพันธ์ทีเดียวว่า
    "หลวงปู่ครับ ถ้าเอาปฐวีธาตุนี้ไปบดสร้างเป็นองค์พระแล้ว จะกันนิวเคลียร์ได้เหมือนกันหรือเปล่าครับ..???"
    หลวงปู่คำพันธ์ตอบทันทีว่า
    "ได้..!!!!"
    แต่...
    "ต้องเอามาให้หลวงปู่ปลุกเสกอีกทีหนึ่งน๊ะ..!!!!"

    และภายหลังจากที่ได้สนทนาธรรมกับท่านจนพอสมควรแก่กาลเวลาอย่างยิ่งแล้ว ก่อนที่จะลาหลวงปู่คำพันธ์กลับ "บอล"ก็ล้วงเอาปฐวีธาตุออกจากถุงมากำมือหนึ่งด้วยหมายใจจะนำไปแจกจ่ายเพื่อนสนิทมิตรสหายเป็นการส่วนตัว พร้อมกราบเรียนท่านว่า
    "ปฐวีธาตุส่วนที่เหลือ ผมขอถวายหลวงปู่นะขอรับ..."
    ในทันใด สิ่งที่ไม่คาดคิดก็พลันเกิดขึ้นเมื่อหลวงปู่คำพันธ์ผลักถุงปฐวีธาตุทั้งหมดนั้นออกมา พร้อมกับออกปากทีเดียวว่า
    "เอ้า..เอาไป จะเอาไปสร้างพระมิใช่หรือ..??!!??"
    และนี้เอง ก็คือปฐมเหตุแห่งการสถาปนา"พระนาคปรกอธิษฐาน" ซึ่งตามรูปแบบภายนอกทั่วไปแล้ว ไม่น่าจะมีความสลักสำคัญอันใด ด้วยเป็นเพียง "พระเครื่องเด็กสร้าง" เท่านั้น...
    แต่ไปๆมาๆ "พระนาคปรกอธิษฐาน"กลับกลายมาเป็นอีกหนึ่งในพระเครื่องดีที่หลวงปู่คำพันธ์"รัก"และ"โปรดปรานสงวนรักษา"มากที่สุดชุดหนึ่งในกาลต่อมาอย่างเหนือความคาดหมายอย่างยิ่ง
    เพราะหากไม่นับ"ศิษย์ต้น"ที่ตามปกติ หลวงปู่จะเทย่ามแจกพระให้ทีละเป็นกำเป็นหอบเป็นปกติอย่าง"เง็ก บางลำพู" แต่ท่านกลับให้เพียงองค์เดียวอย่างน่าฉงนอย่างที่กล่าวไว้แต่เบื้องต้นแล้ว ที่สุด แม้แต่"นายทหารชั้นผู้ใหญ่" บรรดาศักดิ์สูงท่านหนึ่งไปกราบท่าน แทนที่จะให้พระเหรียญพระกริ่งพระบูชาราคาสูงๆมาแจกให้สมกับศักดิ์ศรีทหารใหญ่อย่างที่น่าจะเป็น
    แต่คราวนั้น หลวงปู่คำพันธ์กลับเลือกหยิบ"พระนาคปรกอธิษฐาน"นี้ให้ทหารไทยใจหาญเพียง"โดดๆ"องค์เดียว..!!!???
    ไม่มีองค์ที่สองที่สามที่สี่นอกเหนือจากนี้เป็นอันเด็ดขาด
    และแม้แต่"ศิษย์ใกล้ชิด"คนอื่นๆ หลวงปู่ท่านก็มิได้แจกพร่ำเพรื่อแต่อย่างใดทั้งสิ้น
    แต่ท่านจะเลือกให้เฉพาะผู้ที่"นับถือกันจริง"แต่เพียง"สถานเดียว"และเพียง"องค์เดียว"เท่านั้น
    "สงวนรักษา"อย่างยิ่งถึงขนาดนี้จริงๆ......

    และภายหลังจากที่ได้รับคำประกาศิตจากหลวงปู่คำพันธ์มาเช่นนั้น "บอล"จึงได้นำเรื่องนี้มาปรึกษาในการสร้างกับ"พุทธวงศ์" ซึ่งเคยได้กราบไหว้ใกล้ชิดท่านมาบ้าง ทำให้รู้ถึงความเป็น"พระดีพระเก่ง"อย่างครบเครื่องแห่งท่าน จึงยินดีช่วยเหลืออย่างเต็มใจพร้อมกับได้จินตนาการดำริเสนอไอเดียไปว่า
    "อันหลวงปู่คำพันธ์นี้ ทราบมาว่าท่านมีความเกี่ยวข้องกับพญานาคอย่างยิ่ง (บางท่านว่า ท่านเคยเป็นพญานาคผู้มีศักดิ์ใหญ่และมีฤทธิ์มากมาแต่ชาติปางก่อน) แม้ปฐวีธาตุในสายของท่าน ก็เกี่ยวข้องกับพญานาคอยู่ด้วย จึงเห็นควรที่จะสร้างเป็นพิมพ์นาคปรก เห็นถ้าจะเหมาะจะควรที่สุดเป็นแน่..."

    และยังทราบความเพิ่มเติมมาอีกด้วยว่า พระภิกษุพระยานรรัตนราชมานิต(ธมฺมวิตกฺโกภิกขุ) วัดเทพศิรินทราวาส กรุงเทพมหานคร ยังได้เคยกล่าวพยากรณ์เรื่องราวบางประการไว้กับผู้ใกล้ชิดเมื่อครั้งกระนั้น แต่มีเนื้อความที่มาสอดคล้องเกี่ยวเนื่องกับหลวงปู่คำพันธ์อย่างพอดีน่าอัศจรรย์ยิ่งอีกด้วยว่า
    "พระรูปเหมือนใบโพธิ์อันโด่งดังของท่านนั้น ต่อไปจะมีพระเกจิคณาจารย์สร้างตามแบบอย่างกันมากมาย แต่จะไม่มีชื่อเสียงเทียบเท่า ยกเว้นจะมีพระทางภาคอีสานองค์หนึ่ง และพระองค์นั้นจะต้องเสกปฐวีธาตุได้ด้วยฯ"
    ด้วยเหตุดังกล่าวแม้นี้ พระนาคปรกที่จะทำ ก็ควรที่จะสร้างเป็นพิมพ์"ใบโพธิ์"ด้วย จึงจะสอดคล้องต้องกับคำพยากรณ์ของท่านเจ้าคุณนรรัตน์ฯเมื่อครั้งกระนั้นไม่ผิดคำอย่างแท้ทีเดียว......

    อาจเป็นเพราะได้กระทำการอันคล้อยตามกับ"มติสวรรค์" ตามสุภาษิตจีนบทหนึ่งที่ว่า "คล้อยฟ้าดินรุ่ง ขืนฟ้าดินดับ"เช่นนี้ ผลลัพท์จึงออกมา"เกินควรเกินค่า"กับความที่เป็น"พระเด็กสร้าง" จนที่สุด ได้กลายเป็นของดีที่พระอริยสงฆ์ระดับหลวงปู่คำพันธ์"เมตตาโปรดปราน"และสงวนเก็บรักษาหวงแหนใส่ใจเป็นกรณีพิเศษตราบจนมรณภาพ ละม้ายแม้นกับกรณีของ"เหรียญเมตตาหลวงปู่สิม" ที่ก่อน" นิพพาน"ไม่เท่าไร หลวงปู่สิมก็ยังปรารภถึงด้วยความพึงใจอยู่ แทบไม่มีข้อแตกต่างกันเลยแม้เพียงนิดเดียว....

    อนึ่ง ยิ่งหลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร สำนักสงฆ์ถ้ำผาปล่อง เชียงใหม่ยังได้เคยกล่าวชมเชยหลวงปู่คำพันธ์กับคุณสุธันย์ สุนทรเสวี นักสร้างพระมือดีแห่งสาธารณสุขจังหวัดสมุทรสงครามมาแต่ครั้งกระโน้นอีกด้วยว่า "หลวงปู่คำพันธ์ที่นครพนมนั้น เก่งเรื่องธาตุน๊ะ"ด้วยแล้ว ก็ยิ่งเป็นการันตีรับรองความ"เก่งแท้แน่จริง" แห่งหลวงปู่คำพันธ์ให้เป็นที่แจ้งประจักษ์อย่างสิ้นสงสัย
    เพราะรู้อยู่แก่ใจดีว่า ย่อมเป็นการที่ยากยิ่งนักที่หลวงปู่สิมจักกล่าวยกย่องสรรเสริญหรือชมเชยผู้ใดหรือพระไหนได้ง่ายๆ หากไม่"สุดยอด"อย่างแท้จริง จริงๆ
    แต่หากลองได้"ออกปาก"รับรองแม้เพียงคำครึ่งคำ ประโยคครึ่งประโยคแล้วไซร้ ก็ไม่มีใดต้องสงสัยตลอดชั่วกัปกัลป์เลยนั่นเทียว....
    ซึ่งก็ทำให้"พุทธวงศ์"พลอยได้ซึมซาบและติดอุปนิสัย"เอาแต่ของดีจริงถึงดีที่สุดเพียงสถานเดียว"ของหลวงปู่สิมมาอย่างสนิทจนแก้ไม่ออก ลบไม่หายตราบเท่าถึงวินาทีนี้ด้วยเช่นกัน


    แต่แม้กระนั้น ก็ไม่เคยนึกเคยฝันมาก่อนเลยว่า ในกาลต่อมา จะได้มีวาสนามีส่วนในการสร้าง"พระนาคปรกอธิษฐาน" ในรูปแบบและเนื้อหาที่"ลงตัว"ด้วยเหตุทุกสถาน อันเป็นการสืบสานคำพยากรณ์"เจ้าคุณนรรัตน์" ผนวกกับคำการันตีจาก"หลวงปู่สิม" กับรุ่นน้องร่วมอุดมการณ์ถวายหลวงปู่คำพันธ์อย่างถึงที่สุดเห็นปานนี้ได้....
    "นึกไม่ถึง"มาก่อนเลยจริงๆ............

    และต่อไปนี้ คือ"ลำดับผลการดำเนินงาน"แห่ง "พระนาคปรกอธิษฐาน" ของ"บอล" ที่ได้ทำรายงานมานำเสนอ จึงขอนำมาโพสต์ไว้เป็นจดหมายเหตุหลักฐานสืบไปเมื่อหน้าต่อไปเลยทีเดียว...
    "....ต่อไปนี้ เป็นการโม้ส่วนตัว สำหรับพระ Perfect ชุดนี้ ซึ่งมีองค์ประกอบที่ทำให้พระชุดนี้ Perfect ก็คือ
    1.เป็นรุ่นที่หลวงปู่คำพันธ์เมตตาสั่งให้ทำเอง
    2.เป็นรุ่นที่ใช้ปฐวีธาตุผสมมากสุดๆ (ปฐวีธาตุเกือบ 4 กิโลกรัม(4,000 กรัม)ต่อพระขนาดปลายนิ้วก้อยเพียง 5,000 องค์)
    3.เป็นรุ่นที่รวมพลังกันนิวเคลียร์ไว้ถึง 3 ประการ คือ
    3.1 , ปฐวีธาตุ หลวงปู่คำพันธ์
    3.2 , พระหลวงปู่ทวด พิธีเปิดโลกชำรุดถึง 20 องค์(บดใส่เฉพาะพระนาคปรกอธิษฐานเนื้อดำ)
    3.3 , ด้านหลังประจุยันต์พุทธคาถาจากพุทธทำนายของหลวงปู่คำพันธ์เอง
    4. เป็นรุ่นที่ใช้เนื้อพิเศษมากๆ โดยเฉพาะชุดเนื้อดำ ได้ผสมพระสมเด็จหลวงปู่นาค วัดระฆัง(มีผงเก่าของสมเด็จพระพุฒาจารย์โต เจ้าตำรับชินบัญชรคาถาแห่งกรุงรัตนโกสินทร์) อยู่เป็นอันมาก
    5.เจตนาการสร้างบริสุทธิ์ เพื่อแจกเท่านั้น ทั้งยังได้แยกบล็อคออกจากกันมิให้ทำซ้ำได้อีก โดยบล็อคด้านหลังได้นำถวายให้หลวงปู่คำพันธ์ท่านเก็บรักษาไว้ด้วย เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ
    6.องค์เสกเป็นผู้ทรงทั้งวิชาและวิมุติ แถมยังเก่งเรื่องธาตุเป็นพิเศษ การทำให้พลังจากผงปฐวีธาตุที่บดสร้างกระจายไปทั่วและโดดเด่นออกมาได้ จึงไม่น่าจะใช่เรื่องยาก ยิ่งท่านมีเวลาเสกนานถึง 3 เดือน จึงไม่ต้องบรรยาย
    7.เป็นรุ่นที่หลวงปู่ท่านเมตตาสั่งเองให้เก็บไว้กับท่าน 1 ไตรมาสก่อน
    8.สำหรับเนื้อที่กดกันเอง(สีดำ) ใช้น้ำมนต์หลวงตามหาบัวเพียวๆในการนวดเนื้อ
    9. ฯลฯ

    สำหรับ Ball จึงถือว่าเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงสุดๆที่ทำมา สำหรับ Ball เองไม่ได้รู้จักหลวงปู่คำพันธ์เป็นการส่วนตัว แม้ปัจจุบัน(พ.ศ. 2542) ท่านก็ยังจำหน้า Ball ไม่ได้เลย นับเป็นโชคอย่างยิ่งที่หลวงปู่คำพันธ์ท่านเมตตาให้ได้ทำบุญใหญ่เช่นนี้
    และต้องขอขอบพระคุณพี่เนาว์ที่เมตตาเป็นธุระในการดำเนินงานหลายอย่าง รวมถึงร่วมบุญในครั้งนี้ด้วย ขออนุโมทนาครับ......."

    หมายเหตุ , มีผู้ฝึกสมาธิท่านหนึ่ง ซึ่งคุ้นเคยกันมานานได้ลองตรวจพุทธคุณของพระนาคปรกอธิษฐานรุ่นนี้ดู ปรากฏผลเป็นที่น่าสนใจมาก จึงเห็นควรนำมาเสนอเพื่อเป็นเครื่องเจริญศรัทธาแก่ผู้ที่มีวาสนาได้ไว้สักการะบูชาสืบไป.....
    "พระนาคปรกอธิษฐานนี้ สัมผัสครั้งแรก จะรู้สึกได้ถึงพลังแห่งความร้อนฝ่ายอิทธิฤทธิ์แผ่ซ่านออกมาก่อนเลย แต่พอยิ่งเข้าสมาธิลึกเข้าๆ ก็จะปรากฏกระแสเย็นปรากฏขึ้นมาแทน จึงอาจที่จะกล่าวได้ว่า พระองค์นี้ ถึงพร้อมด้วยอิทธิฤทธิ์และบุญญฤทธิ์ครบถ้วน...!!!!"
    "และในนิมิต ยังพบด้วยว่า ในพระนาคปรกอธิษฐานองค์นี้ จะได้มีพญานาคเพียงตัวเดียวหรือจำพวกเดียวก็หามิได้ แต่มีพญานาคหลายจำพวกด้วยกันเข้ามาอยู่รวมกันเต็มไปหมด เท่าที่เห็นก็มีพญานาคสีทอง,สีเขียว,สีนิล,สีน้ำเงิน เลื้อยเข้ามาพันไปหมดทั้งตัว พลังนี้ซ่านขึ้นหัวไปเลย...!!!"

    "นอกจากนี้ ยังเห็นกระแสพลังใสสว่างอย่างไม่มีประมาณ 2 สายวิ่งเข้ามาเชื่อมถึงกัน ก่อนจะม้วนตัวเวียนขวาเป็นทักษิณาวัตร แล้วเปลี่ยนสภาพเป็นดวงใสสว่าง และพลังแห่งพุทธะก็ได้แสดงออกมาในรูปของพระพุทธรูปแก้วใสผุดขึ้นมาจากดวงใสนั้นอีกทีหนึ่ง...

    ได้ทราบมาว่า "ปฐวีธาตุ"ปกติเพียงหนึ่ง จะมี"พญานาค"ประจำอยู่แบบ"1 By 1" ก็ยังมีอิทธานุภาพใหญ่ยิ่งดังกล่าวข้างต้นเห็นปานนี้
    ก็แล้ว"พระนาคปรกอธิษฐาน" ซึ่งตรวจพบว่า ไม่ใช่เพียงหนึ่ง แต่มีพญานาคอยู่ถึง 4 ตระกูลใหญ่ จำนวนนับไม่ได้ปรากฏอยู่ภายในดังกล่าวข้างต้น จะทรงกฤษฏาภินิหารสักเพียงไหน คงไม่จำต้องอธิบาย
    นี้จึงเป็นการเฉลยความลับสวรรค์ที่หลายๆคนหลายๆท่านข้องใจสงสัยกันมานานว่า ทำไมหลวงปู่คำพันธ์จึง"สงวนรักษา"ในพระนาคปรกอธิษฐานที่ภาพลักษณ์ภายนอกเป็นเพียงพระ"เด็กสร้าง"ชุดนี้อย่างผิดปกติธรรมดา ซึ่งครั้งหนึ่ง เคยนำมาแจกเป็นของขวัญในงานรับปริญญาเป็นกำๆยังกับของโหลของสนามนับเป็นร้อยๆ ทำเอา"นายพล"ท่านหนึ่ง เมื่อได้มาเห็นเข้าถึงกับตกตะลึงพรึงเพริด เพราะขนาดตัวท่านเองเป็นนายทหารชั้นผู้ใหญ่ หลวงปู่คำพันธ์ยังให้มาแค่"องค์เดียว"เท่านั้นเห็นเพียงนี้ได้.....

    "พญานาค" เป็นราชาแห่งงู จัดเป็นสัตว์ในวรรณคดีด้วย และไม่สามารถบรรลุธรรมได้ แต่ก็จัดอยู่ฝ่ายสุคติภูมิ อยู่สวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา แบ่งออกเป็น 4 ตระกูลใหญ่ คือ
    1.ตระกูลวิรูปักษ์ พญานาคตระกูลสีทอง
    2.ตระกูลเอราปถ พญานาคตระกูลสีเขียว
    3.ตระกูลฉัพพยาปุตตะ พญานาคตระกูลสีรุ้ง
    4.ตระกูลกัณหาโคตมะ พญานาคตระกูลสีดำ

    พญานาคเกิดได้ทั้ง 4 แบบ คือ แบบโอปปาติกะเกิดแล้วโตทันที แบบสังเสทชะ เกิดจากเหงื่อไคล สิ่งหมักหมม แบบชลาพุชะเกิดจากครรภ์ แบบอัณฑชะเกิดจากฟองไข่ พญานาคชั้นสูงเกิดแบบโอปปาติกะ เป็นชนชั้นปกครอง ที่อยู่ของพญานาคมีตั้งแต่ในแม่น้ำ หนอง คลอง บึงต่างๆ ในอากาศ จนไปถึงสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา พวกพญานาคอยู่ ในการปกครองของท้าววิรูปักษ์ ผู้ปกครองสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกาด้านทิศตะวันตก
    เหตุที่มาเกิดเป็นพญานาคเพราะทำบุญเจือด้วยราคะ

    หมายเหตุ 2, พระนาคปรกอธิษฐานที่ทำการตรวจพุทธคุณในครั้งนี้ เป็น"เนื้อธรรมดาสีนวล"เท่านั้น
    หมายเหตุ 3 ,แต่สิ่งที่น่าอัศจรรย์ในความแม่นยำในการตรวจพลังในคราวนี้ ก็อยู่ตรงที่พระองค์ที่ว่านี้ ได้มีการตรวจพบแต่เบื้องแรกว่า มี"พลังงานพิเศษ"บางอย่าง มีลักษณะเป็นดวงสว่างแทรกอยู่ด้วยอย่างน่าประหลาดใจ
    เป็นพลังอะไรที่"ไม่เหมือน"กับพลังของหลวงปู่คำพันธ์ แต่ใสสว่างใกล้เคียงกันอย่างน่าอัศจรรย์
    เมื่อได้ฟัง "พุทธวงศ์"ก็ได้แต่อมยิ้มแก้มแทบปริ ก่อนที่จะเฉลย"ความลับ"ประการหนึ่งให้ฟังทันทีว่า ก่อนที่จะนำพระนาคปรกอธิษฐานองค์นี้มาตรวจเพียงหนึ่งวัน "พุทธวงศ์"ได้ตั้งใจที่จะนำไปถวาย"พระ"องค์หนึ่งซึ่งมีชื่อเสียงมากเรื่องการ"ดูจิต" (ขอสงวนนามไว้ในฐานที่เข้าใจ) ซึ่งเคยทราบว่า ท่านเคยไปกราบและเรียนกรรมฐานจากหลวงปู่คำพันธ์มาแต่ก่อนเป็นอนุสรณ์
    ขณะที่ได้พบกับพระสายดูจิตองค์นั้นนั่นเอง โดยในมือพนมไหว้นั้นมี "พระนาคปรกอธิษฐาน"อยู่ภายใน พระสายดูจิตองค์นั้นเมื่อเดินผ่านมา ก็เอื้อมมือมาจับมับเข้าที่ข้อมือของ"พุทธวงศ์"ทันที เป็นนัยให้ตามท่านเข้าไปสอบถามเรื่องธรรมะเป็นการเฉพาะอย่างไม่นึกฝันมาก่อน
    นี้จึงเป็นเหตุให้ตัดสินใจไม่ถวายพระนาคปรกอธิษฐานองค์"ในมือ"นี้เสียดื้อๆอย่างนั้นนั่นแหละ
    เพราะถือว่าเป็นกรณีพิเศษว่า ลำพังคนทั่วไปจะมีโอกาสได้คุยกับ"หลวงพ่อดูจิต"องค์นี้เพียงคำครึ่งคำก็แสนยาก
    แต่นี้ท่านคว้าข้อมือไปคุยเป็นการส่วนตัวแบบนี้ ก็นับเป็นวาสนาอย่างสุดๆไปถึงเพียงไหน คงไม่ต้องอธิบาย
    พูดอย่างติดตลกได้ก็คือ วันนั้นทั้งวัน แทบไม่อยากจะอาบน้ำล้างไม้ล้างมือเลยทีเดียว!?!?

    ประมาณว่า กลัว

    "ละอองมือ"แห่งท่านจะหายไปจากตัวนั่นแล

    แต่จุดหลักใหญ่ใจความที่จะหมายจะเล่าในที่นี้ ก็คือว่า ชั่วเสี้ยววินาทีที่"หลวงพ่อดูจิต"จับข้อมือของ"พุทธวงศ์"เพียงแว่บเดียว กระแสพลังแห่ง"ปราณ"และ"ธาตุรู้"อันเข้มแข็งแห่งท่านยังสามารถไหลแทรกเข้าไปปรากฏใน"พระนาคปรกอธิษฐาน"จนมีการตรวจพบเป็น"พลังงานพิเศษ"ทั้งๆที่มิได้มีการบอกกล่าวมาก่อนได้อย่างไม่ผิดพลาด เห็นปานนี้
    ก็แล้ว "พญานาค"ถึง "4 ตระกูลใหญ่" จำนวนนับไม่ได้ ซึ่งเป็น"พลังงานหลัก"ของพระนาคปรกอธิษฐานที่หลวงปู่คำพันธ์ได้บรรจงเสกประจุนานถึงไตรมาส 3 เดือนที่ปรากฏในสมาธิ จะผิดพลาดคลาดเคลื่อนไปได้ไฉน ก็ขอท่านทั้งหลายได้โปรดใช้วิจารณญาณวินิจฉัยกันเอาเองเทอญฯ

    เครดิตข้อมูล : "เนาว์สถิตย์"


    = 2250 Baht
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 ธันวาคม 2024 at 01:10
  9. Anantsit

    Anantsit เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    4,338
    ค่าพลัง:
    +4,563
    รายการที่ 84

    P1.jpg
    P2.jpg

    A1.jpg
    A2.jpg
    A3.jpg
    A4.jpg

    รูปกระดาษ พรหมประเสริฐ ขนาด A4
    หลวงปู่ประเสริฐ สิริคุตฺโต วัดป่าเวฬุวันอรัญญวาสี จังหวัดอุบลราชธานี

    #พิเศษมีจารหมึกสีทอง โดยหลวงปู่ประเสริฐ

    เครดิดข้อมูล : กลุ่ม FB หลวงปู่ประเสริฐ


    = 250 Baht
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 ธันวาคม 2024 at 01:08
  10. Anantsit

    Anantsit เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    4,338
    ค่าพลัง:
    +4,563
    รายการที่ 85

    P1.jpg

    A1.jpg

    หวายครู พันเชือกแดง หลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ ปีพ.ศ.2556 (ทันหลวงปู่หงษ์ อธิษฐานจิต)
    หลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ สุสานทุ่งมน (วัดเพชรบุรี) จังหวัดสุรินทร์

    #ชุดนี้ลูกศิษย์จารยันต์ หัวท้ายอุดมวลสาร ความยาวรวมประมาณ 8นิ้วกว่า พกติดตัวได้

    #พิเศษ ด้ามนี้ ได้ติดรูปหล่อพระแม่ธรณี ปีพ.ศ.2555 (ทันหลวงปู่หงษ์ อธิษฐานจิต)


    #ตั้งนะโม 3 จบภาวนาคาถา "นะเมติ" 9จบหรือ 12 จบหรือ 108 จบ ตามกาลที่เอื้ออำนวย...

    1.มีอุปสรรค์ ยกวัตถุมงคลขึ้นเหนือศีรษะ กวัดแก่งไปมา ลำนึกนึกถึง ครูบาอาจารย์ช่วยปัดเป่า บริกรรม "นะเมติ

    2.เรียกลาภ ค้าขาย เสกแกว่งไปมาหรือจิ้มแตะข้าวของ อธิษฐาน "นะเมติ ปะจะขะ" มีโชคลาภค้าขายดี..

    3.มีภัยเกิดกับตัว ยกวัตถุมงคลขึ้นเหนือศีรษะ ละนึกนึกถึงครูอาจารย์ มากำบังภัย กำบังตน แหกวงล้อม ออกมาได้..

    4.คนจะเข้ามาทำร้าย ให้แกว่งวัตถุมงคล ป้องกันตัว เขาไม่กล้าเข้ามา ไม่ถึงตัวเรา..

    5.ขับโรค ออกจากตัว ขับไล่ผี สิ่งอัปมงคล กวัดแกว่ง จี้ที่ตัว "ภาวนา นาลา อะระหัง"

    6.เดินทางไปทางทิศใดให้ละลึกถึงครูบาอาจารย์ เสกวัตถุมงคล ชี้ไปทางทิศนั้นแคล้วคลาด ปลอดภัย

    7.บูชาไว้บนหิ้งที่บ้าน ภูติ ผี วิญญาณ ไม่กล้ารบกวน

    หวายครู หลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ วิชาหวายครูของหลวงปู่นี้ปู่ท้าวเวสสุวรรณท่านเป็นเจ้าของวิชา พุทธคุณ ๑๐๘ ประการ ภูติผีปีศาจคร้ามเกรงยิ่งนัก .
    ได้ยินมาว่า หลวงปู่เคยเตือนอย่าเอาไปตีใครเล่นจะเป็นบาปกรรมกับตัวเรา เข้าที่คับขันถึงใช้ ตัวแอดมินเองจดจำไว้ขึ้นใจเสมอ .

    - หวายครู สมัยยุคก่อนๆ สร้างน้อย เพราะอาจไม่สะดวก เหมาะกับการพกพา ประสบการณ์ เลยตกมาอยู่กับพระ หากเจองูพิษมีอันตราย เข้าที่พักก็ ใช้หวายแตะ งูจะอ่อนแรงเลื้อยไม่ใหว เมื่อนำไปปล่อย ก็ นำหวายแตะตัวงูอีกครั้ง ก็ถอนมนต์ งูก็จะเลื้อยไปได้ หากมีคนเข้าทำร้ายใช้หวายแกว่ง ศัตรูจังงัง เข้าไม่ถึงตัว หากแตะหรือตีเบาๆ ครั้งเดียว ศัตรูก็หมดแรงแข้งขาอ่อน ยืนไม่อยู่ กลางคืนผู้เขียนอยู่ทุ่งมน ก็ถือตะบองเสกเช่นเดียวกับหวายในรูปเท่านั้นดูแลวัด หลวงปู่เสกแล้ว .

    #สรรพคุณพิเศษคือตีล้มช้างได้ สมัยหลวงปู่อยู่หมู่บ้านกรู ก็เสกหวายแจกคนในหมู่บ้านพก หากทหารเขมรแดง หรือโจรจะเข้าปล้น ก็ใช้หวายปราบตีครั้งเดียว ศัตรูอ่อนแรง ยึดอาวุธได้หมด เมื่อมั่นใจกับวัตถุมงคลหลวงปู่เราฝากชีวิตไว้ได้ มีครั้งหนึ่ง ลมพายุพัดหนัก ลองอาราธนาตะบองแกว่งไล่ลมพายุก็ได้ผล เวลาเสกหลวงปู่ก็จะหยิบมาสาธิต ปัดโรคออกจากตัวใช้ให้คุ้มความขลัง ๑๐๘ ประการ .

    #ประสบการณ์เล่าขานโดยพระอาจารย์ศุภกิจ .. ประสบการณ์หวายครู หลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ .

    1.ผมใช้ขีดเส้นรอบเต้นท์ที่พัก ไม่มีอันตราย เต้นท์อื่นโดนลิงรื้อ แต่ของผมไม่ เต้นท์อื่นเจอฝนน้ำท่วมของในเต้นท์ต้องย้ายที่นอน แต่เต้นท์ผมไม่ นอนได้ปกติด้านในไม่เปียกทั้งๆที่เต้นท์ผมมีน้ำขังรอบๆต้องขุดดินให้น้ำไหลออก .

    2.หวายครูชุดที่สามสร้างหลังหลวงปู่มรณะภาพเพราะครูฝึกอยากได้ไว้เข้าป่า เลยสร้างไว้ชุดนึงอุดมวลสารผ้าจีวรและติดแม่ธรณีที่หัวไม้ ประสบการณ์เข้าป่าไม่มีอะไรมากวนเลย .

    3.ชุดแรกที่สร้าง นำไปแจกที่อินโดนีเซีย คนอินโดฯตอนแรกไม่เชื่อแต่เอาไปลองไล่ผีไล่ของ ปรากฏว่าทั้งผีทั้งของออก หายป่วยปลิดทิ้ง .

    4.หมอดูท่านนึง(ผู้หญิง)ใช้หวายครู ตีนักมวยญี่ปุ่นที่มาดูดวง ไม่เชื่อแถมท้าทายเลยหวดไปทีนึง ลงไปกองกับพื้นลุกไม่ได้ไม่มีแรง .
    สำหรับคนไม่รู้นะครับ หลวงปู่ท่านสั่งว่าตีแค่ทีเดียว แล้วหนี อย่าซ้ำ .

    ตี 1 ครั้งหมดเรี่ยวแรง
    ตีครั้งที่สองมือหงิกมืองอ
    ตีครั้งที่สามอัมพาตอัมพฤกษ์

    รู้แล้วอย่าทำอย่าลอง ท่านให้ใช้ป้องกันตัวตีให้หมดแรงแล้วหนี อย่าตีซ้ำ อย่าทำผิดคำครู

    เครดิตข้อมูล : FB กลุ่ม หลวงปู่หงษ์


    = Sold Out

    5/11/2567 EMS : ED 8083 7714 3 TH ขอบพระคุณครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 พฤศจิกายน 2024
  11. Anantsit

    Anantsit เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    4,338
    ค่าพลัง:
    +4,563
    รายการที่ 86

    P1.jpg
    P2.jpg

    A1.jpg
    A2.jpg

    พระเหนือพรหม อาจารย์ศุภรัตน์ แสงจันทร์

    #สร้างจากมวลสารเก่าหลวงปู่ดู่ มีประวัติข้อมูลสร้างชัดเจนครับ


    = 350 Baht
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 ธันวาคม 2024 at 01:04
  12. Anantsit

    Anantsit เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    4,338
    ค่าพลัง:
    +4,563
    รายการที่ 87

    P1.jpg
    P2.jpg
    P3.jpg

    A1.jpg
    A2.jpg
    A3.jpg
    A4.jpg

    พระปัจเจกโพธิ์มหาลาภ เนื้อทองสัมฤทธิ์ (ชนวนล้วนๆ)
    คณะศิษย์สายหลวงปู่พิศดูจัดสร้าง

    #เลี่ยมกรอบกันน้ำ พร้อมบูชา


    #พระปัจเจกโพธิ์มหาลาภ..ที่หล่อจากเนื้อทองสัมฤทธิ์เบ้าเดียวกัน พิธีเดียวกัน พร้อมกับพระมหาอุปคุตปางบิณฑบาตรโปรดสัตว์องค์ใหญ่

    - ขนาดห้อยคอ บรรจุผงกสิณ และมวลสารต่างๆ จีวรหลวงปู่พิศดู...


    #พระทั้งหมดได้เข้าพิธีดังต่อไปนี้..
    1.หลวงพ่ออ่องได้เมตตาอธิษฐานจิตให้ในพรรษา รวมระยะเวลากว่า 4 เดือนเต็ม

    2.พิธีอธิษฐานจิตพร้อมกับวัตถุมงคลรุ่นฉันให้ทำ

    3.หลวงพ่ออ่องอธิษฐานจิตเดี่ยว ที่วัดเทพธารทอง

    4.พิธีพุทธาภิเษกสมโภชน์พระมหาอุปคุต รูปเหมือนหลวงปู่พิศดู และวัตถุมงคลอื่นๆ ในวันลอยกระทง ที่วัดเทพธารทอง โดยมีครูบาอาจารย์ผู้ทรงวิทยาคุณ นั่งปรกอธิษฐานจิต 5 รูป ดังนี้..
    -หลวงปู่สวาท วัดป่าโป่งจันทร์
    -หลวงพ่อดำ สำนักสงฆ์สวนสมุนไพร
    -หลวงปู่บุญส่ง วัดสันติวนาราม
    -หลวงปู่มหาพร้อม วัดพลับบางกะจะ
    -หลวงปู่สำอาง วัดเขาสมิง

    #พุทธคุณครอบหมดทุกอย่าง เด่นด้านเมตตา มหาลาภ ความเจริญก้าวหน้า

    #ข้อมูลที่ลงคือบางส่วนเท่านั้น เพราะมีรายละเอียดเนื้อหาเยอะมากๆครับ

    เครดิตข้อมูล : คุณสิรภพ


    = 1000 Baht
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 ธันวาคม 2024 at 01:05
  13. Anantsit

    Anantsit เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    4,338
    ค่าพลัง:
    +4,563
    รายการที่ 88

    P1.jpg
    P2.jpg
    P3.jpg
    P4.jpg

    A1.jpg
    A3.jpg
    A3.jpg

    เหรียญพระราหู สุริยประภา-จันทรประภา เนื้อสัมฤทธิ์พิเศษ ตอกโค๊ดเลข ๘๕
    หลวงพ่ออุตตมะ อุตฺตมรมฺโภ วัดวังก์วิเวการาม จังหวัดกาญจนบุรี


    #เหรียญเดียวที่มีครบทั้งพระราหูอมอาทิตย์ (สุริยประภา) และพระราหูอมจันทร์ (จันทรประภา)
    สร้างขึ้นในคราวเกิดสุริยคราส เต็มดวงครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ ๒๔ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๓๘
    โดย อ.เบิ้ม (สุวัฒน์ พบร่มเย็น) ผู้สร้างได้นำเหรียญชุดนี้ตระเวนถวายครูบาอาจารย์ผู้บริบูรณ์
    ด้วยวิชชาและพุทธาคมในเขตจังหวัดนครปฐม และจังหวัดราชบุรี อธิษฐานจิตรวม ๘ รูป
    ภายในวันที่เกิดปรากฎการณ์สุริยคราส โดยพระเดชพระคุณพระราชอุดมมงคล
    หรือหลวงปู่อุตตมะ อุตมรัมโภ แห่งวัดวังวิเวการาม เป็นองค์อธิษฐานจิตปิดท้าย

    #เหรียญในภาพเป็นเนื้อสัมฤทธิ์พิเศษ ประกอบด้วยทองชนวนพระกริ่ง-พระชัยวัฒน์สำคัญ และมีชื่อเสียงหลายๆ รุ่น, ทองสัมฤทธิ์, ทองระฆัง, ทองจังโก, เหล็กยอดปราสาท เหล็กยอดเจดีย์โบราณ ที่ตกทอดจากพระอาจารย์รอด สุขเจริญ ซึ่ง ท่าน อ.เบิ้ม ได้รวบรวมและสะสมไว้เป็นเวลาหลายสิบปี เป็นส่วนผสมสำคัญ

    #พิเศษ มอบเกศาของแท้ หลวงพ่ออุตตมะจำนวน 1 ตลับครับ
    - เกศาหลวงพ่ออุตตมะ ผม (Anantsit) ได้มาจาก อ.อ๊อด เป็นลูกศิษย์อุปัฏฐากโดยตรงของหลวงพ่อหอม (หลวงพ่อหอมเป็นศิษย์เอกและหลานของหลวงพ่ออุตตมะ) ได้มาปีพ.ศ.2561 (2018) ได้รับมาจำนวนหนึ่ง เดินทางไปรับด้วยตนเอง มีข้อมูลหลักฐานชัดเจนครับ

    เครดิตข้อมูล : FB กลุ่ม หลวงพ่ออุตตมะ


    = 8500 Baht
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 ธันวาคม 2024 at 01:05
  14. shaj

    shaj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    7,985
    ค่าพลัง:
    +6,892
    -ขอจองครับ
     
  15. Anantsit

    Anantsit เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    4,338
    ค่าพลัง:
    +4,563
    รับทราบการจองครับ ขอบคุณครับ
     
  16. Anantsit

    Anantsit เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    4,338
    ค่าพลัง:
    +4,563
    รายการที่ 89

    P1.jpg
    P2.jpg

    A1.jpg
    A2.jpg
    A3.jpg
    A4.jpg
    A6.jpg

    เหรียญพระพุทธนิมิตวิชิตมารโมลีศรีสรรเพชญ์บรมไตรโลกนาถ
    ยันต์จักรพรรดิตราธิราช เนื้อนวโลหะ ปีพ.ศ.2547
    วัดหน้าพระเมรุราชิการาม (พระอารามหลวง)
    จังหวัดพระนครศรีอยุธยา


    #สร้างโดยอาจารย์สุธันย์ สุนทรเสวี ชนวนนวโลหะ อาทิ เช่น ชนวนนวโลหะก้นเบ้า สมเด็จพระสังฆราช(แพ) วัดสุทัศนเทพวราราม, ชนวนนวโลหะปากเบ้าพระกริ่งชินบัญชร ลป.ทิม อิสริโก วัดละหารไร่, ชนวนเหรียญพระแก้วมรกตหมดห่วง รุ่นแรก, ชนวนเหรียญพระพุทธอนันตคุณ ฯลฯ แผ่นจาร หลวงปู่เทสก์ หลวงปู่แหวน หลวงปู่ฝั้น หลวงพ่อเกษม เขมโก ฯลฯ

    #ได้รับการอธิษฐานจิตและปลุกเสกโดยพระเกจิอาจารย์และพระกัมมัฏฐานผู้บริบูรณ์ด้วยวิชชาและวิมุตติ อาทิเช่น
    - หลวงปู่ทองดำ วัดท่าทอง
    - หลวงปู่ม่วง วัดยางงาม
    - หลวงปู่สังข์ วัดป่าพระอาจารย์ตื้อ
    - หลวงปู่จันทา วัดป่าเขาน้อย
    - หลวงพ่อเมือง วัดป่ามัชฌิมาวาส
    - พระอาจารย์สมบูรณ์ วัดป่าสมบูรณ์ธรรม
    - หลวงปู่เปลี่ยน วัดอรัญญวิเวก ฯลฯ

    #นอกจากนั้นยังได้นำเข้าพิธีมหาพุทธาภิเษกสำคัญ ๆ อาทิเช่น พิธีล้านนามหาพุทธาภิเษก พระเจ้าทันใจพุทธเพชรมงคลประทาน ณ พระวิหารวัดเจดีย์หลวง ในวันที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ.2547 โดยมี หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน เมตตาเป็นองค์ประธานจุดเทียนชัย และมีพระกัมมัฏฐานมาร่วมพิธีอีก เช่น
    - หลวงปู่จันทร์ กุสโล วัดเจดีย์หลวง
    - หลวงปู่เปลี่ยน ปัญญาปทีโป วัดอรัญญวิเวก
    -หลวงพ่อประสิทธิ์ ปุญญมากโร วัดป่าหมู่ใหม่
    ฯลฯ

    #พิธีเจริญพระปฐมพุทธมนตร์ธัมมจักกัปปวัตนสูตร,อาทิตยสูตร ในงานทำบุญฉลองอายุครบ 90 ปี หลวงปู่หลอด ปโมทิโต วัดสิริกมลาวาส(วัดใหม่เสนา) วันที่ 8 ธันวาคม พ.ศ.2547 พิธีในครั้งนี้มีพระกัมมัฏฐานมาร่วมงานอย่างคับคั่ง อาทิเช่น
    - หลวงปู่เสรี วัดบูรพาราม
    - หลวงปู่มหาเนียม วัดเจริญสมณกิจ
    - หลวงตาพวง วัดศรีธรรมาราม
    - หลวงปู่บุญมา คัมภีรธัมโม
    - หลวงพ่อคำบ่อ วัดใหม่บ้านตาล
    - หลวงปู่จันทา วัดป่าเขาน้อย
    - หลวงปู่สรวง วัดป่าศรีฐานใน
    - หลวงปู่บุญหนา ธัมมทินโน วัดป่าโสตถิผล ฯลฯ

    #พิธีเทวาภิเษกพระพิฆเณศวร์ และพระวิศณุกรรมของวิทยาลัยนาฎศิลป์ กรมศิลปากร ณ พระอุโบสถ วัดพระแก้ววังหน้า เพื่อเป็นการเสริมเทวฤทธิ์อำนาจในส่วนแห่ง องค์พระนารายณ์ทรงครุฑเหยียบราหูที่ประดิษฐานอยู่ที่เบื้อล่างแห่งเหรียญเสมาหลวง พิธีในครั้งนั้นมี พระเกจิอาจารย์สำคัญ ๆ มาร่วมนั่งปรก อาทิเช่น
    - หลวงพ่ออุ้น วัดตาลกง
    - หลวงพ่อพูน วัดบ้านแพน
    - หลวงพ่อเอียด วัดไผ่ล้อม
    - หลวงพ่อท้วม วัดศรีสุวรรณ
    - หลวงพ่อชำนาญ วัดบางกุฎีทอง
    ฯลฯ

    เครดิตข้อมูล : นิตยสารศักดิสิทธิ์, คุณเนาว์


    = 4500 Baht
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 ธันวาคม 2024 at 01:05
  17. Anantsit

    Anantsit เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    4,338
    ค่าพลัง:
    +4,563
    รายการที่ 90

    P1.jpg
    P2.jpg
    P3.jpg
    P4.jpg

    A1.jpg
    A2.jpg

    พระแม่ธรณี เนื้อชนวน รุ่นแรก ปีพ.ศ.2549
    หลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ สุสานทุ่งมนจังหวัดสุรินทร์

    #เนื้อชนวน ตอกโค๊ด อุดผงมวลสาร พิเศษมีเกศาชัดเจน

    #เลี่ยมกรอบเงินแท้ชุบทอง พร้อมบูชาครับ


    #พระแม่ธรณีนั้นเป็นเทพนารีที่ผูกพันธ์กับหลวงปู่มาตั้งแต่สมัยเด็ก ๆ หลวงปู่เล่าว่า เจอผู้หญิงร่างกายกำยำผิวคล้ำ มาดักไล่จับท่านที่ยังเด็ก ที่หน้าป่าช้า พอจับได้ก็จะให้ดื่มนมจากอก ตั้งแต่นั้นมาท่านก็ได้วิชาจากพระแม่ธรณีอยู่เสมอ ๆ “นะเมติ” แปลว่า “ยอดน้ำนมของแม่พระธรณี” เป็นคาถาแทนความเมตตาอันไม่มีประมาณของมารดาต่อบุตร และต่อสรรพสัตว์ทั้งหลายในโลก

    #คนเรานั้นหากทำใจให้หนักแน่นได้ประดุจพระแม่ธรณีแล้ว ดีวิเศษกว่าผู้อื่นแน่ การที่มีผู้หนึ่งผู้ใดมากล่าวใส่ร้ายป้ายสี มาด่าก็ดี เราทำจิตนี้ได้แล้ว คือไม่ยินดียินร้ายกับคำด่า คำว่าของคนไม่ปรุงจิตใจในคำด่าของผู้อื่น ว่าเจ็บ ว่าแสบ ว่าปวดมากเหลือเกินแทบทนไม่ไหวแล้ว ก็ชื่อว่าเราชนะใจเราเองแล้วก็ชนะใจผู้อื่นด้วย เพราะเราถือว่าเรามิได้เป็นไปตามที่เขากล่าว เมื่อผ่านหูซ้ายก็ให้ทะลุหูขวาไปโดยไม่ต้องโต้ตอบ เถียงตอบ นิ่งได้ดุจแม่ธรณี ในไม่ช้าเขาผู้นั้นย่อมแพ้ภัยไปเอง”

    #พระแม่ธรณี เทพแห่งความรักความเมตตา มารดาโลก คุ้มครองรักษาชาวโลกให้อยู่เย็นเป็นสุข โชคดีมีลาภ หาทรัพย์คล่อง ทำมาหากินเจริญร่งเรือง

    แม่ที่หลวงปู่บอกลูกหลานเสมอว่า " ให้ถือศิลห้าให้ได้ ภาวนานะเมติ มีอะไรให้บอกแม่ แม่ช่วยได้ "

    แม่พระธรณี รุ่น " พระแม่ธรณี " วันเสาร์ที่ 19 ตุลาคม 2549 เวลา 19.09 น.

    " นะ เม ติ "
    พระคาถาบทนี้เป็นคาถา ประจำสำนัก ที่หลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ ได้ให้ศิษย์ภาวนาเวลาจะสื่อกับครูบาอาจารย์ หลวงปู่ท่านเคยบอกว่า "เราภาวนา นะเมติ นี้หนาสะเทือนขึ้นไปถึงพรหมโลก" หมายถึงว่าหากเราภาวนาว่า “ นะเมติ ” แล้วจะสามารถสื่อไปไกลสุดแดน จนถึงครูบาอาจารย์ผู้สถิตย์อยู่บนชั้นพรหมโลก และความหมายของ “นะเมติ” นี้หลวงปู่ท่านบอกว่าหมายถึง “ รสน้ำนมแม่พระธรณี ซึ่งก็คือ อาหาร พืชพันธุ์ ข้าว น้ำต่างๆ ที่เลี้ยงดูทุก สรรพชีวิต อย่างไม่ลำเอียง ใครจะปลูก ใครจะหว่าน ใครจะเก็บเกี่ยว เอาไปกินไม่ว่า คนหรือสัตว์ ไม่ว่าคนรวยหรือคนจน พระสงฆ์ เณร ชี หรือ อลัชชี มหาโจร คนต่ำทราม แม่พระธรณีก็ไม่เคยรังเกียจมีคุณให้การเลี้ยงดูเท่าๆ กันหมด แล้วแต่ใครจะเก็บเกี่ยวใช้สอยได้มากเท่าใด ”

    “ นะเมติ ” รสน้ำนมแม่พระธรณี นี้จึงเปรียบเสมือน คุณครูบาอาจารย์ ที่ไม่เคยรังเกียจเดียดฉันท์ ลูกศิษย์คนใด ที่เคารพนับถือ หลวงปู่ฯ ท่านถึงไม่เคย ดุด่าว่ากล่าวลูกศิษย์คนไหน ก็ด้วยใจที่เปี่ยมด้วยเมตตา หนักแน่น เยือกเย็นดั่งคุณของพระแม่ธรณีนั่นเอง
    ... " ขอให้ลูกหลานมีใจหนักแน่นดุจแม่พระธรณี มิหวั่นไหวต่อกิเลสตัณหาอุปาทาน เท่านั้นก็เป็นสุขแล้ว " ...

    หลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ พระโพธิสัตว์แดนอีสานใต้

    เครดิตข้อมูล : คุณโต และ FB กลุ่ม หลวงปู่หงษ์


    = 2999 Baht
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 ธันวาคม 2024 at 01:05
  18. Anantsit

    Anantsit เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    4,338
    ค่าพลัง:
    +4,563
    shaj 5/11/2567 EMS : ED 8083 7714 3 TH ขอบพระคุณครับ
     
  19. Anantsit

    Anantsit เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    4,338
    ค่าพลัง:
    +4,563
    รายการที่ 91

    P1.JPG
    P2.JPG
    P3.JPG

    A1.jpg
    A2#.jpg
    A3.jpg
    A4.jpg
    A5.jpg
    A6.jpg
    A7.jpg
    A8.jpg
    A9.jpg
    A10.jpg
    A13.jpg
    A14.jpg

    พระกริ่งยอดแก้ว ขนาดใหญ่ วัดเกาะแก้วอรุณคาม จังหวัดสระบุรี ปีพ.ศ.2545
    "หนึ่งศตวรรษ พระกริ่งดินไทย ตำรับวัดสุทัศน์" ที่ระลึกครบ 108 ปี

    #เนื้อนวะโลหะพิเศษผิวไฟ ใต้ฐานมีรอยจารชัดเจน

    #มีโค๊ดและหมายเลขกำกับ (๓๓๔)


    #พระกริ่งยอดแก้ว
    ครูบาอินเสกเดี่ยวปรากฏแสงปาฏิหาริย์สีขาวพุ่งลงมาจากเบื้องบน เป็นพระกริ่งรุ่นสำคัญสุดยอดอีกรุ่น ที่อาจจะกล่าวได้ว่า นอกจากครูบาอิน จะเสกให้อย่างดีเยี่ยม
    และพิสดารสุดยอด (ทั้ง “โดยตรง”และ “โดยญาณ” ) แล้ว เนื้อหามวลสารก็ยัง “พิเศษสุด” อย่างไม่อาจจะหาใดมาเทียมทันอีกต่างหากด้วย.

    เพราะนอกจากจะมี “หัวชนวน”พระกริ่งไจยะเบงชร ร่วมเททองหล่อหลอมด้วยแล้ว ก็ยังได้ผสม “นวโลหะก้นเบ้า สมเด็จพระสังฆราชแพ”แท้ๆ น.น.กว่า 5.5 กิโลกรัม เข้าร่วมด้วยอย่างเต็มสูตร ชนิดที่พระกริ่งรุ่นหลังๆของวัดสุทัศน์เอง ก็ยังไม่มีผสมได้เทียมเท่าเพราะชนวนก้นเบ้าที่ว่านี้ ได้รับมาจาก “พระราชวิสุทธาจารย์”หรือ “เจ้าคุณแป๊ะ” อดีตพระฐานานุกรมในสมเด็จพระสังฆราชแพ ผ่านท่านพระครูสุวัฒนประสิทธิ เจ้าคณะในวัดสุทัศน์ ซึ่งเป็นศิษย์เก่าของวัดเกาะแก้วอรุณคามมาแต่เดิมนั่นแล ทำพิธีเททองเป็นปฐมฤกษ์โดยสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (พุฒ) วัดสุวรรณาราม บางกอกน้อย กทม. ศิษย์สายตรงองค์สุดท้ายของสมเด็จพระสังฆราชแพอีกต่างหากไม่ ....นอกจากพระกริ่งยอดแก้วนี้ จะได้ประกอบมหาพิธีพุทธาภิเษกครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดถึง 3 วัน 3 คืนแล้ว ยังได้ครูบาอิน ปลุกเสกเดี่ยวด้วยและได้ปรากฏแสงปาฏิหาริย์สีขาวพุ่งลงมาจากเบื้องบน จับภาพเห็นได้ถนัด

    #คุณสมบัติพิเศษสุดยอดด้วย
    1.ผสมหัวชนวนพระกริ่งไจยะเบงชร
    2.ผสมนวะโลหะก้นเบ้าของสมเด็จพระสังฆราชแพ หนักถึง5.5กิโล
    3.เททองเป็นปฐมฤกษ์โดยสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์(พุฒ) ศิษย์โดยตรงรูปสุดท้ายของพระสังฆราชแพ
    4.ประกอบมหาพิธีพุทธาภิเษก 3วัน3คืน
    5.และที่สำคัญในศิษย์สายครูบาอิน ครูบาอิน อินโท ได้เมตตาปลุกเสกให้อย่างดี และพิศดาร คือปลุกเสกโดยตรงนาน 45 นาที และโดยญาณ

    ท่านสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ เป็นองค์ประธานประกอบพิธีจารอักขระยันต์หย่อนชนวนนวโลหะก้นเบ้าพระกริ่งสมเด็จพระสังฆราชแพ , พระกริ่งพรหมมุณี และเททองหล่อ " พระกริ่งยอดแก้ว " เป็นปฐมมงคลฤกษ์ โดยมีพระเกจิคณาจารย์ 14 รูป นั่งปรกอธิษฐานจิต เมื่อวันมหาจักรี เสาร์ที่ 6 เมษายน 2545 เวลา 14.39 น. ณ มณฑลพิธีหน้าอุโบสถวัดเกาะแก้วอรุณคาม และมีจัดพิธีพุทธาภิเษกใหญ่อีกครั้งในวันเดือน กรกฏาคม 2545 มีพระเกจิคณาจารย์ชื่อดังมาร่วม 108 องค์ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้นำไปให้ครูบาอิน อินโท เมตตาเดี่ยวมาก่อนแล้วอาทิเช่น
    1. สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ วัดสุวรรณาราม กทม.
    2. พระพุทธวรญาณ วัดประยุรวงศาวาส กทม.
    3. พระวิสุทธาธิบดี วัดสุทัศนเทพวราราม กทม.
    4. พระพรหมมุนี วัดบวรนิเวศวิหาร กทม.
    5. พระเทพวิสุทธิเมธี (หลวงพ่อเที่ยง) วัดระฆังโฆสิตาราม กทม.
    6. พระเทพโมลี วัดราชผาติการาม กทม.
    7. พระราชนันทาจารย์ (หลวงพ่อผล) วัดเวตวันธรรมาวาส กทม.
    8. พระราชพิพัฒน์โกศล (หลวงพ่อเณร) วัดศรีสุดาราม กทม.
    9. พระราชภาวนาวิกรม (หลวงพ่อธงชัย) วัดไตรมิตรวิทยาราม กทม.
    10. พระราชประสิทธิวิมล (หลวงพ่อประจวบ) วัดระฆังโฆสิตาราม กทม.
    11. พระโสภณธรรมวงศ์ (หลวงพ่อทองสืบ) วัดอินทรวิหาร กทม.
    12. พระญาณโพธิ วัดอัมพวัน กทม.
    13. พระครูสุวรรณวัยวุฒิ (หลวงปู่ทอง) วัดจักรวรรดิราชาวาส กทม.
    14. พระครูนิพัทธ์ธรรมกิจ (หลวงพ่อแคล้ว) วัดบางขุนเทียนนอก กทม.
    15. พระครูสังฆรักษ์หลุยส์ วัดลาดบัวขาว กทม.
    16. ครูบาอินตา วัดมหาพฤฒาราม กทม.
    17. หลวงพ่อสง่า วัดใหม่เจริญราษฏร์ กทม.
    18. พระครูภัทรวิริยคุณ (หลวงพ่อถนอม) วัดสุทัศน์ กทม.
    19. พระมหาประดิษฐ์ ถิรธมโม วัดสุทัศน์ กทม.
    ...ฯลฯ

    #พระกริ่งยอดแก้ว เนื้อนวโลหะพิเศษ หล่อดินไทยแบบโบราณ ชักเม็ดกริ่งในองค์ ก้นเป็นก้นถ้วย บรรจุเส้นเกศาสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ วัดสุวรรณาราม ผสมชนวนก้นเบ้าพระกริ่งรุ่นเก่าสมเด็จพระสังฆราชแพ และชนวนมวลสารอีกกว่า 1000 ชนิด ตอกโค๊ตยันต์ปทุมคงคา และยันต์โสฬสที่ด้านหลัง มีหมายเลขกำกับ มีจารกำกับใต้ฐาน


    = 2250 Baht
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 ธันวาคม 2024 at 01:06
  20. Anantsit

    Anantsit เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    4,338
    ค่าพลัง:
    +4,563
    รายการที่ 92

    P1.jpg

    A1.jpg
    A2.jpg
    A3.jpg
    A4.jpg
    A5.jpg
    A6.jpg
    A7.jpg
    A8.jpg
    A9.jpg
    A11.jpg
    A12.jpg

    เหรียญมหาจักรพรรดิ์มงคล เนื้อทองแดง พิมพ์เล็ก ปีพ.ศ.2555
    หลวงพ่อลำใย สัญญโม วัดสะแก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

    #มีโค๊ดสัญลักษณ์ "แพะ" อยู่ด้านหลังเหรียญเหนือคำว่าอายุ 81 ปี


    #(พระยันต์จักรพรรดิหรือพระยันต์จักรพรรตราธิราช)
    เท่าที่สืบค้นได้ตอนนี้ที่มีหลักฐานแน่นอนคือ สายหลวงพ่อกลั่น วัดญาติการาม เมืองกรุงเก่า ปัจจุบันหลวงพ่อเฉลิมสืบทอดอยู่ สายพระอาจารย์พิจารย์ วัดโพธิ์ผักไห่ เมืองกรุงเก่า สายหลวงพ่ออิฐฏ์ วัดจุฬามณี สมุทรสงคราม สายหลวงพ่อย้อย วัดอัมพวัน สระบุรี สายหลวงพ่อเทียม วัดกษัตราฯ กรุงเก่า สายหลวงปู่สี วัดสะแก กรุงเก่า อ.เฮง ไพลวัลย์ อ.เทพย์ สาริกบุตร และอีกมากมายที่มิได้กล่าวถึง เท่าที่สืบค้นได้นั้นในสายของหลวงพ่อกลั่น ได้ศึกษาในสำนักตักศิลาวัดประดู่โรงธรรม ซึ่งอาจจะต่างกับของพระอาจารย์พิจารย์ ที่ลงเป็นจักรพรรดิ์ตำราเดิมของหลวงพ่อคง วัดบางกระพ้อม ซึ่งแตกต่างกันเพียงตารางยันต์และกระดูกยันต์ ส่วนของหลวงพ่อย้อย นั้นเดินกลครบทั้ง ๒๑๖ อักขระ ซึ่งอาจจะแตกต่างจากจักรพรรดิสายอื่นๆที่เดินเพียง ๑๐๘ อักขระ ก็ยังหาข้อสรุปไม่ได้เหมือนกัน

    ที่นี้หลักใหญ่ใจความของพระยันต์จักรพรรดินั้นอยู่ตรงไหนกัน

    พระยันต์นี้มีกำลังสามส่วน ด้วยกัน คือ
    กำลังพระพุทธคุณ
    กำลังพระธรรมคุณ
    กำลังพระสังฆคุณ
    ตัวยันต์ประกอบด้วย ๑๐๘ อักขระ โดยแต่ละอักขระคือ
    ๑ พระคาถา ดังนี้
    พระพุทธคุณ ๕๖ พระคาถา
    พระธรรมคุณ ๓๘ พระคาถา
    พระสังฆคุณ ๑๔ พระคาถา
    รวมเป็น ๑๐๘ พระคาถา

    ในการลงแต่ละอักขระก็ท่องบทอิติปิโสรัตนมาลาไปด้วย เช่นว่าเขียน "อิ" ก็ท่องบท "อิฎโฐ สัพพัญญุตะญาณัง อิจฉันโต อาสะวักขะยัง อิฎฐัง ธัมมัง อนุปปัตโต อิทธิมันตัง นะมามิหัง" จนครบ ๑๐๘ (ในกรณีที่ลงเอง ทวนเอง ยากมากๆครับขอบอก) เคล็ดลับคือต้องท่อง ๑ พระคาถา ต้อง ๓ จบ ทุกพระคาถาไป

    "อนึ่งถ้ากุลบุตรผู้ใดจะใคร่ปรารถนาลาภยศ ให้ลงมหายันต์นี้ใส่แผ่นหินก็ได้ แผ่นทองคำ แผ่นทองแดง แผ่นเงิน หรือแผ่นตะกั่วก็ได้ เอาแช่น้ำบูชาไว้ ยิ่งแช่ในขันสัมฤทธิ์ยิ่งดีนัก เอาน้ำนั้นกินบ้าง ใส่ศีรษะบ้าง ลูบหน้าบ้าง บำบัดโรคภัยไข้เจ็บทั้งหลายและทั้งอายุก็ยืนยาว บังเกิดลาภยศตามแต่จะพึงปรารถนา อธิษฐานเอาเถิดจะ สำเร็จตามความปรารถนาทุกประการ
    ถ้าจะให้มีตบะเดชะให้เอาพระยันต์นี้ลงทำเป็นตะกรุดผูกเอวไว้ ให้รูดตะกรุดไว้ข้างหน้า ใครเห็นใครกลัว ใครเห็นใครรักแล ถ้าจะเล่นการพนันให้รูดตะกรุดนี้ไว้ข้างหน้า อธิษฐานว่าจะเอาเท่าไรพึงเอาเท่านั้นเถิด พึงตั้งมั่นอยู่ในความสัตย์ ได้ดังความปรารถนา ไม่แพ้แก่การพนันแล

    อนึ่งถ้าจะให้คนมาเกี่ยวข้าวในนาของเรา หรือจะทำการค้าขายให้ขายสินค้าได้คล่อง ๆ ให้เอามหายันต์นี้ลงใส่ผ้าขาว ทำเป็นธงปักไว้ ลมพัดไปทางไหน ผู้คนหลั่งไหลมาทางทิศนั้นแล หรือจะทำเป็นตะกรุดแช่น้ำมนต์ เอาน้ำมนต์ประพรมสินค้าก็ได้ ซื้อง่ายขายคล่อง แลถึงแม้ว่าผีเข้าอยู่ ให้เอาน้ำมนต์นี้ประพรม ผีก็หนีออกไปสิ้น

    ถ้าจะประจัญด้วยข้าศึก ให้ลงพระมหายันต์นี้ทำเป็นธงใส่ในผืนผ้าขาว แล้วอธิษฐานยกธงโบกขึ้นไปทางทิศไหน ข้าศึกแตกหนีไปทางนั้น ธงนี้เอาบูชาไว้กับบ้านเรือนใด กันเสนียดจัญไร กันฟ้าและกันไฟก็ได้แล
    ถ้าจะกันโจรผู้ร้ายมิให้ทำอันตรายแก่เราได้ ให้เอากรวดและทรายมา เอาน้ำมนต์ที่แช่ตะกรุดนั้นประพรมกรวดทรายเข้า แล้วเอากรวดทรายนั้นหว่านล้อมให้รอบบริเวณบ้านเรา อธิษฐานขอบารมีพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ จงมาช่วยคุ้มครองป้องกันอันตราย บรรดาคนที่คิดร้ายต่อเราเข้ามาเหยียบถูกกรวดถูกทรายที่เราหว่านโปรยไว้ จะต้องบังเกิดมีอันเป็นไปต่าง ๆ นานาแล อุปเท่ห์มหายันต์นี้มีมากมายเหลือจะคณานับ ใช้ได้ทุกประการ"

    เครดิดข้อมูล : FB กลุ่ม หลวงพ่อลำใย


    = 350 Baht
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 ธันวาคม 2024 at 01:13

แชร์หน้านี้

Loading...