**ร้านศิวิไลพระเครื่อง** วัตถุมงคล เครื่องรางของขลัง เกจิคณาจารย์ภาคเหนือ

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย ศิวิไล, 25 พฤษภาคม 2013.

  1. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,092
    ค่าพลัง:
    +1,341
    นย
     
  2. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,092
    ค่าพลัง:
    +1,341
    รายการที่ 12409

    เหรียญรุ่นแรกหลวงพ่อดับภัย ปี 2518 เนื้อนวะโลหะ ตอกโค๊ด คราบน้ำมันมนต์ สวยเดิมๆ


    หลวงพ่อดับภัย แห่งวัดดับภัย เป็นพระพุทธรูปศิลปะล้านนา เชียงแสนยุคแรก หรือเรียกกันเป็นภาษาซาวบ้านว่าพระเชียงแสนสิงห์ 1 พุทธลักษณะปางมารวิชัย ทำด้วยทองสัมฤทธิ์ ประวัติการสร้าง สลับซับซ้อนแต่คาดว่าน่าจะสร้างประมาณปีพ.ศ. 1600- 1800 ปัจจุบันนี้ประชาชนทั้งหลายต่างก็ให้ความเคารพบูชาในองค์ หลวงพ่อดับภัยเป็นอย่างมาก เนื่องจากมักประสบเหตุการณ์แคล้ว คลาดจากโรคภัยไข้เจ็บ อุบัติเหตุและอุบัติภัยต่างๆ นานาจนเป็นที่ เลื่องลือไปทั่วสารทิศ ผู้แสวงหาโชคลาภต่างก็มาขอมิได้ชาดสาย และ สมประสงค์ที่ตนตั้งไว้ไปตามๆ กัน แม้กระทั่งนักนิยมเดินทางทำงาน ในทางที่เสียงๆจะต้องนำรูปเทียนมาขอพรจากหลวงพ่อดับภัยเสมอ เพื่อให้ปลอดภัยจากการเดินทาง ท่านจะกราบสักการะบูชาขอพร จากหลวงพ่อดับภัยได้ทุกเวลาในพระวิหารวัดดับภัย พิธีมหาพุทธาภิเษกเหรียญหลวงพ่อดับภัยรุ่นแรกเมื่อวันที่ 1 - 3 พฤษภาคม 2518 นั้นพระอธิการบุญชม ปภสฺสโร เจ้าอาวาสวัด ดับภัยพร้อมคณะกรรมการวัดได้จัดสร้างเหรียญพระพุทธวัดดับภัยขึ้น เพื่อนำรายได้ทั้งหมดสมทบทุนสร้างศาลาการเปรียญ โดยสร้างเป็น หลายเนื้อจำแนกได้ดังนี้ 1. เนื้อทองคำ ตามสั่งจอง 2. เนื้อเงิน ตามสั่ง'จอง 3. เนื้อนวะโลหะแก่เงิน 9,999 เหรียญ 4. เนื้อทองแดง 3,000 เหรียญ 5. เนื้อตะกั่วลองพิมพ์ 9 เหรียญ พระเกจิอาจารย์ร่วมพิธีมากมายอาทิเช่น หลวงปู่คำแสน วัด สวนดอก, หลวงปู่แสน วัดป่าดอนมูล,หลวงพ่อสิม วัดถ้ำผาปล่อง, ครูบาคำปัน วัดหม้อคำตวง, หลวงพ่อสนิท วัดช่างฆ้อง, ครูบาดวงดี วัดท่าจำปี และ อาจารย์เณรวิเศษณ์ สิงห์คำ วัดป่าสัก เป็นต้น ในปัจจุบันเหรียญหลวงพ่อดับภัยเป็นเหรียญยอดนิยมเหรียญ หนึ่งของเชียงใหม่

    สวยเดิมๆผิวสวยเดิมๆ ท่านที่ชอบเก็บของสวยของเดิมๆไม่ควรพลาดครับ

    ราคา 2750 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    6BF862A4-47DA-4299-A49A-08A3756780DF.jpeg 3F818682-FEFC-4D09-80CD-F26526CA060E.jpeg 9EFD543F-9A74-4816-87BD-F86E579A3363.jpeg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 มิถุนายน 2024 at 11:37
  3. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,092
    ค่าพลัง:
    +1,341
    รายการที่ 12410

    พระผงปิดตารุ่นแรก หลวงปู่สิม พุทธาจาโร วัดถ้ำผาปล่อง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ปี 2517สวยเดิมๆ


    เนื้อผงโทนขาว สภาพสวยเดิม ด้านหลังติดจีวรและเกศา
    ถือได้ว่าเป็นรุ่นหลักของหลวงปู่สิมและหายากมากๆ

    พระเนื้อผงรุ่นนี้บรรดาคณะลูกศิษย์ของหลวงปู่สิน ที่เป็นชาวอำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ เป็นผู้ไปขออนุญาติจากหลวงปู่สิม สร้างขึ้นเพื่อนำเงินจากการบูชาพระเครื่อง ไปทำกุศลถวายวัดต่างๆหลายวัด เมื่อหลวงปู่สิม ท่านอนุญาตแล้วคณะลูกศิษย์จึงได้พากันออกไปหามวลสารที่จะนำมาสร้างพระเนื้อผงรุ่นนี้ก็ได้แก่ ผงวิเศษจากพระเกจิอาจารย์หลายๆท่านที่บรรดาลูกศิษย์ของหลวงปู่สิมได้เดินทางไปกราบนมัสการ ขอจากพระเกจิอาจารย์ท่านเหล่านั้นให้ช่วยจัดทำให้ ผงว่าน 108 ชนิด ผงขี้ธูปจากสถานที่ศักดิ์สิทธิ์หลายที่เส้นเกศาและจีวรของหลวงปู่สิมเป็นเนื้อหาหลัก

    หลังจากที่เอาเนื้อหามวลสารเหล่านี้มาบด และตำให้ละเอียดและคลุกเคล้าเข้าด้วยกันแล้ว หลวงปู่สิมก็ได้มีเมตตาช่วยกดพิมพ์ให้เป็นปฐมฤกษ์จำนวน 3 องค์ จากนั้นก็ให้ลูกศิษย์คณะผู้จัดสร้าง ช่วยกันดำเนินการกดพิมพ์ต่อ จนได้พระเนื้อผงรูปเหมือนเต็มองค์รุ่นนี้จำนวน 3,333 องค์ ผู้ที่เข้าทำการกดพิมพ์ทุกคนจะต้องนุ่งขาวห่มขาวและทำจิตใจให้สะอาดบริสุทธิ์กันเสียก่อนเพื่อให้พิธีการสร้างพระเนื้อผงรุ่นนี้ออกมาให้ดีที่สุด

    ลักษณะของพระเครื่องเนื้อผง หลวงปู่สิม รุ่นแรก เป็นรูปสี่เหลี่ยมคล้ายพระพิมพ์สมเด็จ ส่วนที่ฐานกว้าง 2.5 ซ.ม. ส่วนสูงจากฐานไปส่วนบนสุด สูง 3.4 ซ.ม. ด้านหน้าเป็นรูปหลวงปู่สิม นั่งสมาธิห่มจีวร พาดสังฆาฎิบนฐานขาโต๊ะ ที่ฐานเขียนว่า อาจารย์สิม พุทธาจาโร มีอักษรขอมคำว่า พุทโธ อยู่ในวงกลมขนาบซ้ายและขวาหลวงปู่สิม ด้านบริเวณใบหน้า ด้านหลังเป็นยันต์ และข้างยันต์เขียนว่า ศิษย์สร้างถวายงานฉลองศาลาการเปรียญ สำนักสงฆ์ถ้ำผาปล่อง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่

    จัดสร้างทั้งหมด 3 พิมพ์

    พิมพ์ :
    -พิมพ์ใหญ่สี่เหลี่ยมนั่งเต็มองค์
    -พิมพ์เล็กสี่เหลี่ยมครึ่งองค์
    -พิมพ์พระปิดตา

    จำนวนการจัดสร้าง :
    -พิมพ์ใหญ่สี่เหลี่ยมนั่งเต็มองค์ 3333 องค์
    -พิมพ์เล็กสี่เหลี่ยมครึ่งองค์ 3333 องค์
    -พิมพ์พระปิดตา 3333 องค์

    น่าบูชามากครับ


    บูชาแล้วครับ

    E401BACA-6E50-43F8-982C-7D3B5DEE03CB.jpeg 3ACE0757-187B-4FCF-AABF-AEE380E0D306.jpeg 3DC4050B-A4F2-45E3-BFC1-370A368D21E7.jpeg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 มิถุนายน 2024 at 11:29
  4. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,092
    ค่าพลัง:
    +1,341
    รับทราบการจอง ขอบพระคุณครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  5. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,092
    ค่าพลัง:
    +1,341
    รายการที่ 12411

    พระปิดตารุ่นแรก พระปิดตาโภคทรัพย์ หลวงปู่ครูบาอิน อินฺโท เนื้อผงพุทธคุณ วัดฟ้าหลั่ง ปี ๒๕๓๖ ผสมเส้นเกศา

    สุดยอดทางด้านเมตตามหาลาภ ของดีเบาๆxxx น่าบูชามากครับ


    ราคา 460 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    D694655C-0778-47B1-BCBC-385B3CA36DB6.jpeg 2FDCA94C-E65D-494E-BD2B-D2AB8FA40F75.jpeg
    F9263498-FC39-41A8-BD65-A6A43C74E4CF.jpeg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 มิถุนายน 2024 at 11:37
  6. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,092
    ค่าพลัง:
    +1,341
    รายการที่ 12412

    พระบูชา รุ่นแรก หลวงปู่ครูบาอิน อืนโท วัดฟ้าหลั่ง ขนาด ๕ นิ้ว พิมพ์ฐานกว้างหายาก

    “พระครูวรวุฒิคุณ” หรือ “หลวงปู่ครูบาอิน อินโท” หรือ “ครูบาฟ้าหลั่ง-ฟ้าลั่น” อมตะมหาเถราจารย์แห่งนพบุรีศรีนครพิงค์เชียงใหม่ ผู้สูงยิ่งด้วยศีล จริยาวัตร และพุทธาคม เชี่ยวชาญสรรพวิชาตามตำราโบราณล้านนา จนเป็นที่ประจักษ์ทั่วไป ดังคำกล่าวของบรรดาพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบที่ว่า
    “ขอเธอจงไปกราบครูบาอินที่เชียงใหม่และขอศึกษาวิชาจากท่านให้ดีๆ เถิด ท่านเป็นพระผู้เก่งกล้าสามารถมากจริงๆ” เป็นคำกล่าวของหลวงพ่อกวย ชุตินฺธโร วัดโฆสิตาราม บ้านบ้านเเค ตำบลบางขุด อำเภอสรรคบุรี จังหวัดชัยนาท
    “ดีอยู่แล้ว ดีอยู่แล้ว พระของครูบาอิน ไม่ต้องเสกอะไรอีกแล้ว” เป็นคำกล่าวของหลวงพ่อเกษม เขมโก สุสานไตรลักษณ์ ตำบลเวียงเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง
    “จิตของครูบาอิน ประภัสสรยิ่งแล้ว” เป็นคำกล่าวของหลวงพ่อชม วัดโป่ง จังหวัดชลบุรี
    “ครูบาอิน ท่านมีจิตมีจิตบริสุทธิ์ผุดผ่องยิ่งเลยทีเดียว” เป็นคำกล่าวของครูบาเจ้าชัยยะวงศาพัฒนา (ครูบาวงศ์) วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม ตำบลนาทราย อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน
    “หลวงปู่ครูบาอิน วัดฟ้าหลั่งนั้น ดีที่หนึ่งเลย” เป็นคำกล่าวของหลวงปู่สิม พุทธาจาโร สำนักสงฆ์ถ้ำผาปล่อง ตำบลบ้านถ้ำ อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่
    “ครูบาอินท่านเป็นพระสุปฏิปันโน ผู้ประพฤติดี ปฏิบัติชอบนะ” เป็นคำกล่าวของหลวงพ่อดาบส สุมโน อาศรมไผ่มรกต บ้านลูกกลอน ตำบลป่าอ้อดอนชัย อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย ฯลฯ

    ปี พ.ศ. ๒๕๓๓ จำนวนการสร้าง เท่าอายุของหลวงปู่
    คือ ๘๘ องค์ แต่มีการสร้างเผื่อเหลือเผื่อขาดอีกเล็กน้อย รวมแล้วไม่ถึง ๑๐๐ องค์

    จัดเป็นรูปหล่อ1ในตำนานของหลวงปู่ครูบาอิน อินโท ครับ

    สวยเดิมๆ น่าบูชามากครับ


    ราคา 19999 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    คุณ j999 จองแล้วครับ

    AC09332B-C024-4E5B-854F-90C1FDDF3BF0.jpeg 55BA5A6C-F3F5-472C-A751-3131B77B8CF3.jpeg A51BB824-6FA6-4961-BD2F-FF7963762D0A.jpeg DE60A681-34A9-43EF-AE1F-ABAB74764A9B.jpeg

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 มิถุนายน 2024 at 11:30
  7. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,092
    ค่าพลัง:
    +1,341
    รายการที่ 12413

    พระรูปเหมือนบูชาหลวงปู่ครูบาน้อย วัดบ้านปง ขนาด 7 นิ้ว ปี 2536 สวยเดิมๆ


    หลวงปู่ครูบาน้อย ชยวังโส วัดบ้านปง ต.อินทขิล อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ท่านเกิดวันอังคาร ที่ ๓ เมษายน ๒๔๔๐ ตรงกับวันขึ้น ๓ ค่ำ เดือน ๗ เหนือ ปีจอ ท่านเป็นคนบ้านปง ต.อินทขิล อ.แม่แตง โดยกำเนิด โยมบิดาท่านชื่อ พ่อวงศ์ โยมมารดาชื่อ แม่ออน นามสกุล พงษ์คำ
    ท่านอายุได้ ๑๓ ปี ท่านได้บรรพชาเป็นสามเณร ณ วัดบ้านปง โดยมีครูบามโนชัย วัดศรีภูมินทร์ ต. ช่อแล เป็นพระอุปัชฌายา และท่านได้ศึกษาเล่าเรียนวิชาต่างๆ กับท่านครูบามโนชัย ซึ่งสมัยนั้นได้เรียนการปฏิบัติธรรมนั่งกรรมฐานเป็นส่วนมาก แล้วมักจะได้เรียน วิชาคาถาอาคมควบคู่กันไปด้วย ท่านเล่าเรียน จนท่านสามารถเข้าถึง และปฏิบัติได้ดี
    จนท่านอายุ ๒๓ ปี ท่านได้อุปสมบท ณ พัทธสีมา วัดบ้านปง โดยมีท่าน ครูบามโนชัย เป็นพระอุปัชฌาย์ พระศรีวิชัย วัดป่าบง อินทขิล เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระสิทธิ วัดม่วงคำ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ท่านได้เรียนนักธรรมชั้นต่างๆ จนสอบนักธรรมตรีได้ ในพ.ศ .๒๔๘๔ และนักธรรมโทได้ในปี ๒๔๘๖ และ นักธรรมชั้นเอก ในปี พ.ศ. ๒๔๙๗ ในสมัยที่ท่านเป็นหนุ่มท่านได้เดินธุดงค์จาก อ. แม่แตง ไปสู่ อ.ฝาง ไปตามป่าช้าต่างๆ ถึงสี่เดือน ท่านจึงกลับมาจำพรรษา ที่วัดอีกครั้งหนึ่ง
    ท่านได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสวัดบ้านปง เมื่อ วันที่ ๖ พฤศจิกายน ๒๔๗๘ และได้รับการแต่งตั้ง เป็นเจ้าคณะตำบลอินทขิล ในวันที่ ๑ กันยายน ๒๔๘๙ ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ เป็นพระครูชั้นตรี ที่ "พระครู ชัยวงศ์ วิวัฒน์" ในวันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๐๗ และ ชั้นโท วันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๓๔ ชันเอกวันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๓๖ และ หลวงปู่ท่านก็เป็นผู้หนึ่งที่ได้มีโอกาสได้ร่วมเหตุการณ์ ประวัติศาสตร์ ล้านนา ซึ่งก็คือในตอนที่ท่าน ครูบาเจ้าศรีวิชัยได้เป็น ประธานการสร้างทางขึ้นดอยสุเทพ ในปี พ.ศ.๒๔๗๗ ท่านได้ร่วมกับโยมพ่อ วงษ์ และคณะศรัทธาญาติโยมวัดบ้านปง มาร่วมสร้างทางกับท่านครูบาเจ้าและท่านได้ฝากตัว และอุปัฏฐาก ท่านครูบาเจ้าศรีวิชัยและร่วมงานในการบูรณะวัดสวนดอก วัดพระสิงห์ และที่อื่นๆอีกมากมาย ครูบาน้อยท่านเป็นพระที่ใจดี มีเมตตาสูง ใครที่เคยไปกราบท่านมักจะประทับใจในรอยยิ้มของท่านอยู่เสมอครับ อีกทั้งท่านยังเป็นที่เคารพรักในบรรดา ลูกศิษย์ลูกหา และพระสงฆ์อีกจำนวนมากมายครับ หลวงปู่ครูบาน้อย
    ท่านได้มรณะภาพ เมื่อวันที่ ๑๒ มกราคม ๒๕๔๑ เวลา ๐๘ . ๓๐ น ด้วยโรคชรา สิริรวมอายุของท่านได้ ๑๐๑ ปี ปัจจุบันทางวัดได้เก็บรักษา สรีระร่างกายของท่านไว้ ในโลงแก้วที่วัดบ้านปง โดยสรีระของท่านยังคงเป็นปกติไม่เน่าไม่เปื่อยแต่อย่างใด

    พระรูปเหมือนบูชาหลวงปู่ครูบาน้อย วัดบ้านปง ขนาด 7 นิ้ว ออกแบบได้งดงามเหมือนหลวงปู่มากๆครับ


    ราคา 7500 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    25144F79-B3E3-4973-A0A9-3573724AC0FF.jpeg 2FC856F1-FDFC-49B1-985B-114F734A339C.jpeg BD65F3B8-F959-4044-8890-039B17460A34.jpeg 80E335C1-3245-4AD3-A8CD-F59C2B29D7E5.jpeg F989600B-B66E-484D-956A-139B8A5D438C.jpeg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 มิถุนายน 2024 at 11:38
  8. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,092
    ค่าพลัง:
    +1,341
    รายการที่ 12414

    รูปหล่อโบราณรุ่นแรก ครูบาหน้อย(ครูบาไชยวงศ์วิวัฒน์) วัดบ้านปง อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ แขนทะลุ ก้นจาร ใหญ่ล่ำบึก


    ***หลวงปู่ครูบาหน้อย หรือ ครูบาไชยวงวิวัฒน์ วัดบ้านปง อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ เป็นอีกหนึ่งพระเกจิสายศิษย์ครูบาเจ้าศรีวิไชย ซึ่งน่ากราบสักการะบูชา ปัจจุบันแม้หลวงปู่ครูบาน้อยท่านจะมรณภาพไปนานแล้ว แต่สรีระสังขารของหลวงปู่ไม่เน่าเปื่อย หลวงปู่เป็นพระสุปฏิปันโนที่มีคุณธรรมสูง กล่าวถึงแม้แต่ครูบาอิน อินโท วัดฟ้าหลั่ง ยังให้การยกย่องและนับถือท่าน นอกจากนี้ ครูบาธรรมชัย วัดทุ่งหลวง อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ยังให้ความเคารพนับถือเหมือนเป็นอาจารย์ของท่านอีกท่านหนึ่ง ครูบาหน้อย คนพื้นที่ชอบเรียกท่านว่า ครูบาหน้อย ท่านเกิดเมื่อวันที่ 3 เมษายน ปี 2440 ได้บรรพาชาเป็นสามเณรตั้งแต่อายุ 13 ปี ที่วัดบ้านปง โดยมีครูบามโนชัย วัดศรีภูมินทร์ เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้ศึกษาปฏิบัติและเรียนวิชาอาคมอยู่กับครูบามโนชัย ต่อมาได้บวชเป็นพระเมื่ออายุได้ 23 ปีกับท่านครูบามโนชัย ที่วัดบ้านปง พระศรีวิชัย (ครูบาศรีวิชัย) พระกรรมวาจาจารย์ พระสิทธิ วัดม่วงคำ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ท่านครูบาน้อย ท่านได้ออกธุดงค์และศึกษาธรรมควบคู่กันไป ท่านได้เรียนปริยัติจนถึงนักธรรมเอก ในปี 2497 ครูบาน้อยได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดบ้านปง ตั้งแต่ ปี 2478 อายุพรรษายังไม่มากนัก และได้เป็นเจ้าคณะตำบลอินทขิล อ.แม่แตง เมื่อปี 2479 ในสมัยที่ครูบาศรีวิชัย ได้สร้างถนนขึ้นดอยสุเทพ ท่านครูบาน้อยก็ได้ไปร่วมสร้างด้วย สมณศักดิ์สุดท้ายของครูบาที่พระครูชั้นเอก คือพระครูชัยวงศ์วิวัฒน์ เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2536 หลวงปู่ครูบาหน้อย ท่านได้มรณภาพเมื่อปี 2541 รวมสิริอายุได้ 101 ปีครับ

    รูปโบราณรุ่นแรก แขนทะลุ ก้นจาร ใหญ่ล่ำบึก ตัวจริงหายาก ครับ


    ราคา 3700 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    A44B7D37-4403-44EB-BCB3-B579F366AC7C.jpeg 6C2911E4-1BD2-49DA-8117-FB5F44CC6AD8.jpeg 7AA9642D-BE16-4204-8CCA-C299BA2CD044.jpeg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 มิถุนายน 2024 at 11:31
  9. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,092
    ค่าพลัง:
    +1,341
    รายการที่ 12415

    กุมารทองรุ่นแรกหลวงปู่ครูบาดวงดี วัดท่าจำปี จ.เชียงใหม่ ปี 2518 เนื้อนวะโลหะ ใน 600 องค์ ตอกโค๊ด ส หายาก ครับ

    ครูบาเจ้าดวงดี วัดท่าจำปี ศิษย์เอกครูบาเจ้าศรีวิไชย ตนบุญแห่งล้านนาไทย

    ท่านเป็นผู้สำเร็จวิชาการสร้างกุมารทอง ซึ่งเป็นต้นแบบกุมารทองล้านนา ไทยจัดสร้าง มานานกว่า 40 ปี
    กุมารทองเทพเป็นกุมารที่เกิดจากการตั้งธาตุ หนุนธาตุ และบรรจุมวลสารที่เป็นของมงคลล้วนๆ ไม่มีผงผีเจือปน อาจารย์ผู้ทำต้องมีจิตที่แข็งแกร่ง ต้องประสิทธิ์ประสาทอาคมให้ตัวกุมารทองมีพลังมากที่สุด ในนิมิตกุมารทองต้องดิ้นได้ นั่งบนกองเงินกองทอง เป็นต้น สำหรับกุมารประเภทนี้ ไม่มีอันตรายใดๆเพราะเป็นวิญาณสมมติขึ้นมา
    กุมารสายเทพเป็นฝ่ายขาว
    ท่านครูบาดวงดี ท่านได้อัญเชิญจิตวิญญาณบริสุทธิ์ของเทพจากสวรรค์ ชั้น จาตุมหาราชิกา ซึ่งเป็นภพภูมิใกล้มนุษย์ที่สุด
    เข้าประทับสถิต ในหุ่นกุมาร ฉะนั้นจึงมีแต่ให้ "คุณ" ไม่มีโทษแต่ประการใดทั้งสิ้น
    อาจารย์ที่ทำกุมารทองประเภทนี้ได้เก่งที่สุดคือ อาจารย์ฝ่ายพระเกจิที่มีพรรษามากๆ หรืออาจารย์ที่เป็นหมออาคมสายพุทธคุณครับ
    อาจเซ่นด้วยขนม น้ำหวานตามวาระโอกาส
    พิธีปลุกเสกในวันที่ 26 ธค 2518 ณ วัดท่าจำปี
    เวลา 16.15 ได้ฤกษ์จุดเทียนชัย
    จำนวนการจัดสร้าง
    เนื้อทองคำ จำนวน 9 องค์
    เนื้อนวะกะไหล่ทอง จำนวน 399 องค์
    เนื้อนวะโลหะ จำนวน 600 องค์
    สร้างจากวัตถุอาถรรพ์ที่เอามาด้วยเวทมนต์ 7 ป่าช้า
    คาถาบูชา ลูกกุมารเทพฤทธิ์
    นะโม ๓ จบ
    จิเจรุนิ จิตตัง เจตตะ สิกกัง รูปัง กุมาโรวา นิมิตตัง กุมารทอง
    อาคัจฉาหิ จิตติ เอหิ เอหิ นะมะพะทะ นะมะพะทะ นะมะพะทะ
    คาถาเรียกกุมาร
    นะโม ๓ จบ

    อีก1ในตำนานของกุมารทองของแผ่นดินล้านนา

    รุ่นแรกนเนื้อนวะละโลหะจัดสร้างเพียง 600องค์ ตอกโค๊ต สุ ชัดเจน สวยเดิมๆครับ

    ราคา 12500 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    ิอื.png ด้เส.png ดพดะัี.png ดเัะีร.png ดหพะถ.png กหดเะัี.png
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 มิถุนายน 2024 at 11:31
  10. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,092
    ค่าพลัง:
    +1,341
  11. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,092
    ค่าพลัง:
    +1,341
    รายการที่ 12416

    พระพุทธบาทสี่รอยรุ่นแรก ปิดทองสวยเดิมๆ ยายากมาก

    จัดสร้างจากกระเบื้องดินขอมุงหลังคาพระวิหารครอบพระพุทธบาทสี่รอยหลังเก่าที่ท่านครูบาเจ้าศรีวิชัย จัดสร้างถวายไว้ บดผสมผงดอกไม้บูชารอยพระพุทธบาทและผงพุทธคุณ อธิฐานจิตโดย หลวงปู่สิม ถ้ำผาปล่อง ครูบาธรรมธิ วัดสันป่าตึง ครูบาชัยวงค์ วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม จัดสร้างน้อยมากประมาณ 200 องค์ ออกให้ญาติโยมที่ร่วมทำบุญบูรณะวิหารครอบรอยพระบาทตามจิตศรัทธา
    ตํานานวัดพระพุทธบาทสี่รอย
    เมื่อครั้งสมัยพุทธกาล องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในศาสนาปัจจุบันนี้ได้เสด็จจาริกประกาศธรรม และโปรดเวไนยสัตว์มายังปัจจันตประเทศ ( ประเทศไทยปัจจุบัน ) จนกระทั่งมาถึงเทือกเขาทางตอนเหนือของประเทศชื่อ เขาเวภารบรรพตซึ่งขณะนั้นได้เสด็จพร้อมกับพุทธสาวก 500 องค์และได้ แวะฉันจังหันอยู่บนเขาเวภารบรรพตแห่งนี้ เมื่อพระพุทธองค์ฉันจังหันเสร็จขณะประทับอยู่ที่นั้นก็ได้ทราบด้วยญาณ สมาบัติว่าบนเทือกเขาแห่งนี้ได้มีรอย พระพุทธบาทของพระพุทธเจ้ามาประทับอยู่บนก้อนหินใหญ่ คือ พระพุทธเจ้าที่มาตรัสรู้ภัทรกัลป์นี้แล้วพระพุทธองค์ก็ทรงเล็งดูรอยพระ พุทธบาทแห่งพระ พุทธเจ้าทั้ง 3 พระองค์ คือ พระพุทธเจ้ากกุสันธะ พระพุทธเจ้าโกนาคมนะ พระพุทธเจ้ากัสสปะ อันมีในที่นี้พุทธสาวกทั้งหลายมีพระสารีบุตรเป็นประธาน เมื่อเห็นเช่นนี้จึงทูลถามว่าพระพุทธองค์ทรงเล็งดูด้วยเหตุใด พระพุทธองค์ตอบว่า ดูก่อนท่านทั้งหลายสถานที่แห่งนี้ แม้นว่าพระพุทธเจ้าทั้ง 3 พระองค์ที่ ล่วงมาแล้วในอดีตกาล ก็มาประทับรอยพระบาทไว้ ณ ที่นี้ทุกๆพระองค์ และแม้นว่าพระศรีอาริยเมตไตร ก็จักเสด็จมาประทับรอยพระบาทไว้ ณ ที่นี้ และ จักรประทับรอยพระบาทสี่รอยนี้ให้เป็นอันหนึ่งอันเดียว ( คือ ประทับลบทั้งสี่รอยให้เหลือรอยเดียว ) เมื่อพระพุทธองค์ตรัสแก่สาวกทั้งหลายเสร็จแล้วพระ องค์ก็เสด็จไปประทับรอยพระบาทซ้อนรอยพระบาทของพระพุทธเจ้าทั้ง 3 พระองค์ จึงมีรอยพระพุทธบาท ของพระพุทธเจ้า 4 พระองค์จึงกําเนิดเป็นพระ พุทธบาทสี่รอย เมื่อองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเราประทับรอยพระบาทซ้อนรอยพระบาท ของพระพุทธเจ้าทั้ง 3 พระองค์นั้นแล้วก็ทรงอธิฐานว่า ในเมื่อกูตถาคตนิพพานไปแล้ว เทวดาทั้งหลายก็จักนําเอาพระ ธาตุของกูตถาคมมาบรรจุไว้ที่รอยพระบาทที่นี่ ในเมื่อกูตถาคตนิพพานไปแล้ว 2,000 ปี พระพุทธบาทสี่รอยนี้ก็จักปรากฏแก่ปวงคนและเทวดาทั้งหลาย ก็จักได้มาไหว้และบูชา เมื่อทรงอธิฐานและทํานายไว้ดังนี้แล้ว พระพุทธองค์ก็เสด็จไป เชตวันอารามอันมีในเมืองสาวัตถีวันนั้นแล เมื่อพระพุทธเจ้าทรงนิพพานไปแล้วเทวดาทั้งหลายก็นําเอาพระธาตุของพระ พุทธองค์มาบรรจุไว้ที่พระพุทธ บาทสี่รอยเมื่อพระพุทธองค์นิพพานล่วงแล้วประมาณ 2,000 วัสสา เทวดาทั้งหลายต้องการอยากให้พระพุทธบาทสี่รอยปรากฏแก่คนทั้งหลายตามที่พระ พุทธองค์ทรงอธิฐานไว้ก็จึงเนรมิตเป็นรุ้งตัวใหญ่ ( เหยี่ยว ) ก็บินลงจากภูเขาเวภารบรรพตอันเป็นที่ตั้งแห่งพระพุทธบาทสี่รอยในปัจจุบันนี้ เพื่อบินลงไป เอาลูกไก่ชาวบ้าน ( คนป่า )ที่อยู่ตีนเขาเวภารบรรพต แล้วก็บินกลับขึ้นไปอยู่ยอดเขา มันก็โกรธมากจึงตามขึ้นไปคิดว่าจะยิงเสียให้ตาย มันก็ติดตามไป ค้นหาดูแต่ก็ไม่เห็นรุ้งตัวนั้นอีก แต่เห็นรอยพระพุทธบาทสี่รอยอันอยู่พื้นต้นไม้และเถาวัลย์ พรานป่าผู้นั้นก็ทําการสักการะบูชา เสร็จแล้วก็ลงจากภูเขา พอมาถึงหมู่ บ้านก็เล่าบอกแก่ชาวบ้านทั้งหลายฟังความอันนั้นก็ปรากฏสืบๆกันไปแรกแต่นั้น ไปคนทั้งหลายที่ทราบก็พากันไปสักการะบูชามาก แต่นั้นมา จึงได้ชื่อว่า พระบาทรังรุ้ง ( รังเหยี่ยว ) ในสมัยนั้นมีพระยาตนหนึ่งชื่อว่าพระยาเม็งราย เสวยราชสมบัติในเมืองเชียงใหม่ ได้ทราบข่าวจึงมีพระราช ศรัทธาอยากเสด็จขึ้นไปกราบบูชาพระพุทธบาทสี่รอยก็นําเอาราชเทวีและเสนาพร้อม กับบริวารทั้งหลาย เมื่อพระยาเม็งรายกราบนมัสการเสร็จแล้ว ก็นําเอาบริวารของตนกลับมาสู้ เมืองเชียงใหม่ ก็ตั้งอยู่เสวยราชมบัติตราบเมี้ยนอายุขัยแล้ว ก็เจริญตามรอยและได้ขึ้นมากราบพระพุทธบาททั้งสี่รอย ทุกๆพระองค์ หลังจากนั้นมาพระบาทรังรุ้งหรือรังเหยี่ยวก็เปลี่ยนชื่อเป็น" พระพุทธบาทสี่รอย " เพราะมีรอยพระพุทธบาทประทับซ้อนกันถึงสี่รอย คือมีรอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้าทั้งสี่พระองค์ที่ล่วงลับมาแล้วในภัทร กัลป์นี้ คือ

    1. รอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้ากกุสันธะ รอยแรกเป็นรอย ใหญ่ยาว 12 ศอก
    2. รอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้าโกนาคมนะ เป็นรอยที่ 2 ยาว 9 ศอก
    3. รอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้ากัสสปะเป็นรอยที่ 3 ยาว 7 ศอก
    4. รอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้าโคตะมะ ( ศาสนาปัจจุบัน ) เป็นรอยที่ 4 รอยเล็กที่สุด ยาว 4 ศอก
    #สวยเดิมๆหายากน่าบูชามากครับ

    บูชาแล้วครับ

    ฟกฟำภ.png ะัีัึ.png กไำพุ.png ดเพุึ.png หกดำั.png
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 มิถุนายน 2024 at 11:32
  12. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,092
    ค่าพลัง:
    +1,341
    รายการที่ 12417

    เหรียญรุ่นแรก ครูบาอิน อินโท วัดฟ้าหลั่ง ปี 19 ออกปี 21 สวยเดิมๆ

    สร้างโดยท่านผู้พัน เชวงศักดิ์ จารุจารีต สร้างจำนวน 3000 เหรียญ สร้างปี19 ออกแจกปี 21 หลวงปู่เมตตาปลุกเสก 3 ปี เต็มๆ

    ด้านหลัง เป็น พระคาถาบูชาท่านแม่ธรณี และคาถา หัวใจพระสิวะลี เป็นอักษรลานนาว่า เมกะมุอุ นะชาลิติ

    เมกะมุอุ พระคาถาบูชาท่านแม่ธรณี

    พระคาถาหัวใจพระแม่ธรณี นี้ใช้ได้สารพัดทุกประการ ใช้ทางเมตตาดีนัก จะเสกสีผึ้งทาปากก็ได้ เสกแป้งผัดหน้าก็ได้ ภาวนาไว้จะไม่มีใครทำอันตราย

    เมื่อใดเกิดเหตุร้าย ให้ตบดิน 3 ครั้ง

    แล้วเรียกพระแม่เจ้าธรณีช่วย “แม่จ๋าจงมาช่วยอุ้มชูลูกด้วยเถิด”แล้วตั้งจิตอธิษฐานตามความปรารถนา

    นะชาลิติ พระคาถาหัวใจพระสิวะลี

    เด่นทางด้านเมตตามหานิยมใช้ท่องตอน ติดต่อลูกค้า คุยกับผู้ใหญ่ ติดต่อการงาน

    จัดเป็นเหรียญสุดยอดประสบการณ์ของท่านหลวงปู่ครูบาอิน อินโท เหรียญยอดนิยม 1 ในอมตะเกจิแห่งดินแดนล้านนา


    บูชาแล้วครับ

    B9ABF452-72C8-445C-BD52-4DE4C1ABBF9B.jpeg F694AE2F-CD09-4592-AA6F-DAE2BF083866.jpeg B706F8A6-B165-481B-8F69-D96D4D0A8790.jpeg 16F732BE-28C6-431F-8A12-374D8048BB22.jpeg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 มิถุนายน 2024 at 11:40
  13. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,092
    ค่าพลัง:
    +1,341
    รายการที่ 12418

    รอยเท้า ครูบาชัยวงค์ วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม ตราปั๊มเดิมจากวัด สวยแชมป์


    ปริศนาธรรมที่หลวงปู่เหลือไว้เตือนใจศิษย์ ให้ปฎิบัติเจริญรอยตามของหลวงปู่ ท่านได้สร้างบุญมาอย่างไรให้ลูกศิษย์สร้างบุญเหมือนหลวงปู่ต่อไปถึงจะไม่มีหลวงปู่แต่ก็ยังมีรอยมือรอยเท้าไว้เป็นตัวแทน ให้ลูกศิษย์ไว้เป็นเครื่องเตือนใจให้เจริญรอยตามหลวงปู่สร้างบุญเหมือนท่านต่อไป
    รอยมือรอยเท้าครูบาชัยวงค์ท่านได้ทำไว้ตั้งแต่สมัยท่านหนุ่ม เนื่องจากหลวงปู่ครูบาชัยวงค์ท่านนักปฎิบัติและนักพัฒนา จึงเป็นที่นับถือศรัทธาของผู้คน มีคนมาขอรอยป๋าต๊ะ หรือรอยมือรอยเท้าของท่านไปบูชาตามความเชื่อของคนล้านนาหลวงปู่จึงเมตตาทำให้มีหลายแบบทั้งต๊ะลงบนแผ่นหินแล้วแกะ และ ต๊ะลงบนผ้า ต๊ะสดโดยใช้ขมิ้น ปูนแดงหรือหมึกทามือและเท้าทาบลงบนผ้า พบเห็นน้อยมาก และ ต๊ะลงบนผ้าแล้วโดยใช้ปากกาหรือดินสอเขียนตามรอยมือรอยเท้าที่ทาบลงบนผ้าแล้วเขียนชื้อหรือเขียนยันต์ ลงไป แต่ตอนหลังหลวงปู่ท่านได้ชรามากจึงทำตราปั๊มแทนการเขียนเพราะมีคนที่เลื่อมใสในตัวหลวงปู่จึงมีคนจำนวนมากที่ต้องการรอยมือรอยเท้าของท่านไปบูชาทางวัดจึงขออนุญาติหลวงปู่ทำไว้ให้คนที่ต้องการได้บูชาทางแผนกวัตถุมงคล แต่ตอนหลังมีไม่พอกับความต้องการทางวัดจึงขออนุญาติหลวงปู่อีกครั้งโดยท่านได้ต๊ะสดให้แล้วจารยันต์และลงชื่อ เพื่อนำไปทำแม่พิมพ์สกรีนออกให้บูชาโดยหลวงปู่ท่านได้เมตตาปลุกเสกให้และออกให้บูชาทางแผนกวัตถุมงคลครับ

    #พุทธคุณทางด้านเมตตา มหานิยม ป้องก้นอันตรายทั้งปวงเปรียบสเหมือนหลวงปู่ท่านได้เมตตาไปเหยียบถือบ้าน มีไว้บูชาเป็นสิริมงคลแก่บ้านเรือน ร่มเย็นเป็นสุข เป็นที่กราบไว้ของบูชาเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย
    #ผืนนี้ให้ผ้าจีวรของหลวงปู่ แท้ดูง่าย ชัดเจน มาตรฐานจากวัด หายากมากครับ


    ราคา 4550 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    B97C79B4-06AB-42F1-93E8-F2EE56E79EBE.jpeg
    8B4E5D07-CFC3-4D81-A820-B2117FC6B087.jpeg 5384EF05-8A49-492C-8AF8-6AC39699CBEF.jpeg C0E90399-D9ED-4DBF-BC6E-EC86867EEECC.jpeg 55E4A038-CC19-43AF-BDE5-7230DCAA80AE.jpeg 0281EE12-1430-41C4-B14E-E32C4F4013AD.jpeg 6C46920E-8FB0-4A21-A8B9-7314CF84D70B.jpeg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 มิถุนายน 2024 at 11:48
  14. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,092
    ค่าพลัง:
    +1,341
    รายการที่ 12419

    ด้ายสายสิญจน์ครูบาชัยวงค์ วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม สวยซองเดิมจากวัด+หวายเสก


    ทุก ครั้งที่มีการทำบุญนิมนต์พระมาสวดเจริญพุทธมนต์ แม้จะเป็นของไสยศาสตร์หรือเรื่ององการทำบุญต่างๆก็ตามสิ่งที่ขาดไม่ได้ก็คือ ด้ายสายสิญจน์ เมื่อมีด้ายสายสิญจน์ก็ต้องมีบาตรน้ำมนต์วางหน้าที่บูชาและมีด้ายสายสิญจน์ ต่อโยงลงมาจากองค์พระพุทธรูปมาพันเข้ากับบาตรน้ำมนต์ตอนปลายของสายสิญจน์ นั้นจะถูกส่งไปที่พระภิกษุสงฆ์ที่กำลังเจริญพระพุทธมนต์อยู่โดยมีพระภิกษุ สงฆ์ถือด้ายสายสิญจน์อีกปลายหนึ่งซึ่งส่งต่อกันไปตลอดแถวมือที่ถือนั้นประนม ในเวลาสวดเจริญพุทธมนต์ไปด้วย

    มี เรื่องในเตลปัตตชาดกลิตตวรรคเอกนิบาต ขุนทกนิกาย เล่าไว้ว่าสมัยหนึ่งเมื่อมีพระโพธิสัตว์ ได้อุบัติในราชตระกูลของพระเจ้าพรหมทัตในเมืองพาราณสีพระองค์เป็นพระกนิษฐ ภราดรองค์สุดท้อง วันหนึ่งทรงคิดว่าพระเจ้าพี่ ของเรามีมากมาย ราชสมบัติในพระนครนี้จะตกทอดมาถึงเราเชียวหรือควรจะถามพระปัจเจกพุทธเจ้าดู คงจะรู้ได้ ครั้นวันรุ่งขึ้น เมื่อนำอาหารไปถวายพระพุทธเจ้าขณะรออยู่จนฉันเสร็จจึงถามถึงข้อสงสัยพระ ปัจเจกพระปัจเจกพุทธเจ้าพิจารณาดูก็รู้ว่าพระโพธิสัตว์จะไม่ได้ครองสมบัติใน เมืองนี้แต่จะไปได้ในเมืองตักกสิลาในระหว่างที่พระโพธิสัตว์เสด็จไปเมืองตัก กสิลานั้นมีนางยักษิณีอาศัยอยู่ นางยักษิณีนี้ชอบหลอกลวงจึงขอให้พระโพธิสัตว์อย่าหลงในรูปเสียงกลิ่นสัมผัส ให้มากนัก

    พระ โพธิสัตว์เมื่อได้ฟังคำเตือนก็รับไว้ด้วยความเคารพและอาราธนาให้พระปัจเจก พุทธเจ้าทั้งหลายสวดพระปริตร และ ปริตนสุตตะ คือ ด้ายปริตร หรือด้ายสายสิญจน์ พระพุทธปัจเจกพุทธเจ้ามอบด้ายสายสิญจน์ ให้ พระโพธิสัตว์แล้วก็นมัสการลากลับ ทูลลาพระมารดาให้ทรงทราบ เมื่อได้รับอนุญาตแล้วก็เสด็จกลับมาบอกบุรุษทั้ง 5 ซึ่งเป็นมหาดเล็กของพระองค์ว่าจะเสด็จไปยัง นครตักกสิลาบุรุษทั้ง 5ก็ยินดีที่จะเสด็จตามไปด้วยแต่พระโพธิสัตว์ได้บอกว่าถ้าจะเสด็จตามไปด้วยกัน ละก็จงอย่ายินดีในรูปรส กลิ่น เสียง สัมผัสเลยทีเดียว ฉะนั้นจะเป็นอันตรายเมื่อตกลงกันเป็นที่เรียบร้อยแล้วก็ออกเดินทาง วันหนึ่งพระโพธิสัตว์ และบุรุษทั้ง 5 เดิน ทางมาถึงดงใหญ่แห่งหนึ่งซึ่งมีนางยักษิณีอาศัยอยู่ พอนางยักษ์ได้เห็นบุรุษเหล่านั้นก็ชอบใจจำแลงกายเป็นสาวสวยลงมาเพื่อล่อให้ หลง คนไหนชอบรูปงามก็แปลงรูปให้งาม คนไหนชอบเสียงก็ทำเสียงให้ไพเราะถูกใจ หลอกล่อบุรุษทั้ง 5 ไป กินจนหมด เหลือแต่พระโพธิสัตว์เพียงองค์เดียวนางยักษิณีจะหลอกล่อแต่อย่างใดพระ โพธิสัตว์ก็มิได้หวั่นไหวไปตามรูป รส กลิ่นเสียง สัมผัส นั้น นางยักษิณีก็ทำอันตรายพระโพธิสัตว์นั้นไม่ได้ ได้แต่เดินตามไปข้างหลังทั้งนี้พระโพธิสัตว์มีของดีติดตัวมา คือทราย และด้ายสายสิญจน์ทีพระปัจเจกพุทธเจ้ามอบให้



    เมื่อ พระโพธิสัตว์เสด็จถึงเมืองตักกสิลาก็ได้เข้าพัก ณ ศาลาแห่งหนึ่งได้เอาสายเสกโรยบนศีรษะและเอาได้สายสิญจน์วนรอบศาลาด้วยเดช อำนาจของสายเสกและด้ายสายสิญจน์นางยักษ์ก็ไม่อาจเข้าใกล้ได้อีก จนในที่สุดพระราชาเมืองตักกสิลาได้เสด็จมาพบนางยักษ์แปลงกายอย่างสวยงามเข้า ก็พอพระทัยเอามาเป็นพระสนมในที่สุดก็ถูกนางยักษ์จับกิน เมืองตักกสิลาจึงไม่มีพระราชาครองเมือง ประชาชนครั้นเห็นรูปโฉมพระโพธิสัตว์มีลักษณะดีพอสมควรเป็นราชาได้ก็พา อัญเชิญให้ขึ้นเสวยราชสมบัติเป็นพระราชาเมืองตักกสิลาสืบไป

    ด้วยเหตุนี้ด้ายสายสิญจน์จึงนิยมถือเป็นประเพณีใช้ล้อมสถานที่ในเวลาประกอบพิธีและใช้ในมงคลอื่นๆเช่นสวมศีรษะ สวมคอ ผูกข้อมือ โดย ถือเป็นของศักดิ์สิทธิ์ป้องกันอันตรายได้เหตุที่ต้องใช้ด้ายสายสิญจน์กระทำ ดังนี้มีความหมายในลัทธิพราหมณ์อยู่ว่าเป็นการถ่ายปราณหรือถ่ายกระแสแห่ง อำนาจพุทธคุณจากองค์พระพุทธรูปและพระธรรมจากที่พระสงฆ์เจริญพุทธมนต์ไปตาม ด้ายสิญจน์ถึงภาชนะใส่น้ำมนต์และวัตถุมงคล

    ทุก ครั้งที่มีการทำบุญนิมนต์พระมาสวดเจริญพุทธมนต์ แม้จะเป็นของไสยศาสตร์หรือเรื่องของการทำบุญต่างๆก็ตาม สิ่งที่ขาดไม่ได้ก็คือ ด้ายสายสิญจน์ เมื่อมีด้ายสายสิญจน์ก็ต้องมีบาตรน้ำมนต์วางหน้าที่บูชาและมีด้ายสายสิญจน์ ต่อโยงลงมาจากองค์พระพุทธรูปมาพันเข้ากับบาตรน้ำมนต์ตอนปลายของสายสิญจน์ นั้นจะถูกส่งไปที่พระภิกษุสงฆ์ที่กำลังเจริญพระพุทธมนต์อยู่โดยมีพระภิกษุ สงฆ์ถือด้ายสายสิญจน์อีกปลายหนึ่งซึ่งส่งต่อกันไปตลอดแถวมือที่ถือนั้นประนม ในเวลาสวดเจริญพุทธมนต์ไปด้วย

    ด้าย สายสิญจน์ถือเป็นของสูงเพราะโยงมาจากพระพุทธรูปเสมือนพระพุทธรูปได้มีส่วน ร่วมในการเจริญพระพุทธมนต์ใครจะเหยียบจะข้ามไม่ได้เป็นอันขาด สายสิญจน์จึงเท่ากับโยงความเคารพต่อมายังผู้ประกอบพิธี ในขณะที่พระสงฆ์สวดเจริญพระพุทธมนต์ซึ่งมีด้ายสายสิญจน์อยู่ในมือทำให้ท่าน มีสติระมัดระวังมิให้เผลอทำให้ท่านตั้งใจสวดจริงๆ ถือเสมือนหนึ่ง ว่าจิตของท่านพร้อมถึงพระธรรมจะได้ผ่านไปตามเส้นด้ายนั้นเป็นการเพิ่ม สติ สมาธิ ปัญญา อันเป็นรากฐานและที่มาของพลังจิตเข้มขลังอันศักดิ์สิทธิ์


    ราคา 999 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    D826C536-6512-421D-BF1A-77E77853C9B8.jpeg 14094600-6848-4D89-BEEF-D0AC92793833.jpeg CBB90FE5-C0CF-40D0-9DC0-FB2B3EE95A8D.jpeg BA9B01E4-6C4C-40C4-8B31-E17E59025DEE.jpeg 6482D043-398D-4D8C-A023-6C1575129B48.jpeg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 มิถุนายน 2024 at 11:33
  15. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,092
    ค่าพลัง:
    +1,341
    รายการที่ 12420

    มีดหมอชาตรี วัดโขงขาว อ.หางดง จ.เชียงใหม่


    มีดหมอ ชาตรี วัดโขงขาว จังหวัดเชียงใหม่ ปลุกเสกโดย ล.พ.ฤาษีลิงดำ (พระราชพรหมยาน) วัดท่าซุง ถึง 3 ปี คือปี 2532 ถึง ปี 2534
    และ ใน ปี 2533 หลวงพ่อฤาษีฯ กับ ครูบาชัยวงค์ฯ ได้ อธิฐานจิต พุทธาภิเษกร่วมกัน ถือเป็น กรณี ที่พิเศษจริงๆ
    -ครั้งที่ 1 ปี 2532 ปลุกเสกปีเดียวกับ เหรียญทำน้ำมนต์ ของวัดท่าซุง (รักษาโรค)
    -ครั้งที่ 2 ปี 2533 ปลุกเสกปีเดียวกับพระคำข้าว และ พระหางหมาก (โชคลาภ)
    -ครั้งที่ 3 ปี 2534 ปลุกเสกปีเดียวกับ พระคำข้าวรุ่นปืนแตก ชาน หมาก ชาตรี
    ป้องกันอาวุธวิทยาศาสตร์ทุกชนิดเช่น นิวเคลียร์,เคมี,
    แก็สพิษ,ชีวะภาพและโรคระบาดทุกชนิด
    มีดหมอรุ่นนี้ ถือว่า มีครบ ถ้วนทุกอย่าง โชคลาภ ป้องกันภัย รักษาโรค
    มีดหมอรุ่นนี้ ถือว่าวิเศษ เพราะพุทธาภิเษกหลายวาระมาก รักษาโรคก็ได้
    ป้องกันก็ได้ ขับไล่ภูตผีปีศาจร้ายก็ได้ ป้องกันคุณไสย คุณคน แช่ทำน้ำมนต์ อธิษฐานรักษาโรคต่างๆ
    ปกติหลวงพ่อฤาษีลิงดำ จะนำกฐินไปทอดที่วัดโขงขาว เป็นประจำ เนื่องด้วยเหตุผลหลายประการคือ
    1. หลวงพ่อบุญรัตน์ เจ้าอาวาสวัดโขงขาว เคยเกิดเป็นลูกของท่านมาหลายชาติ (ท่านกล่าวเรื่องนี้เสมอๆ)
    2. ท่านมีความผูกพันธ์ กับสถานที่นี้ในอดีต (มีอัฐธาตุในอดีตชาติฝังอยู่สมัยท่านเป็นพระเจ้ารามราช พระสวามีพระแม่จามเทวี)
    หลวงพ่อบุญรัตน์เอง ท่านก็เป็นพระอริยะเจ้าขั้นสูง ที่น่ากราบ
    พุทธคุณ เข้มข้น เหมือน มีดหมอวัดท่าซุง และ มีดหมอวัดพระพุทธบาทห้วยต้ม
    สวยเดิมๆ เล็กพกพาง่าย น่าใช้มากๆครับ


    ราคา 3550 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    9646A04C-C372-4C0D-B8BA-64D177030DA1.jpeg DF3BBBA9-3F6D-4D69-8060-3AA30E82AA28.jpeg 9BCD2151-406D-45AC-81DE-302BB56EB279.jpeg 004F51CD-2DBC-4B1E-B943-8A5B74D35CE4.jpeg F5042163-6919-427D-B052-A1D002DD443B.jpeg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 มิถุนายน 2024 at 11:34
  16. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,092
    ค่าพลัง:
    +1,341
    รายการที่ 12421

    เหรียญรุ่นแรก ครูบาอินทจักร วัดน้ำบ่อหลวง ปี 2513 หายากมาก


    พระครูภาวนาภิรัต หรือที่เราเรียกกันว่า “ครูบาอินทจักร” วัดน้ำบ่อหลวง จ.เชียงใหม่ พระสุธรรมยานเถร หรือ ครูบาอินทจักรรักษา เป็นพระราชาคณะฝ่ายวิปัสสนาธุระ
    พระอาจารย์ใหญ่สายวิปัสสนาพระกรรมฐานแดนล้านนา ครูบาอินทรจักรท่านเป็นพระอริยเจ้าที่มีพระจริยวัตร งดงามยิ่ง

    พระสุธรรมยานเถร หรือ ครูบาอินทจักร มีนามเดิมว่า อินถา พิมสาร เกิดเมื่อวันจันทร์ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2439 ตรงกับวันแรม 12 ค่ำ เดือน 11 ปีวอก ภูมิลำเนาอยู่บ้านป่าแพ่ง ตำบลแม่แรง อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน เป็นบุตรของนายเป็งและนางสาร พิมสาร มีพี่น้องรวมทั้งหมด 13 คน ท่านเป็นคนที่ 6 พระสุพรหมยานเถร (พรหมา พฺรหฺมจกฺโก) เป็นคนที่ 7 และพระครูสุนทรคัมภีรญาณ (คำ คมฺภีโร) เป็นคนที่ 8 โยมบิดามารดาของท่านเป็นพุทธศาสนิกชนที่เคร่งครัด ทำบุญตักบาตร รักษาศีล ทำวัตร ทำสมาธิ เดินจงกรม เป็นประจำและได้ปลูกฝังบุตรธิดาทุกคนให้ปฏิบัติตาม
    อุปสมบท

    ครูบาอินทจักรได้ขออนุญาตมารดาบิดาบวชเป็นเณร บิดาจึงพาท่านมาฝากเป็นศิษย์พระอธิการแก้ว ขตฺติโย เจ้าอาวาสวัดป่าเหียง อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน และได้บรรพชาเป็นสามเณรในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2445 เมื่อบวชแล้วก็ได้ศึกษาพระธรรมทั้งฝ่ายปริยัติและปฏิบัติกับพระอุปัชฌาย์ จนสอบได้นักธรรมชั้นตรี[2] และเรียนสายสามัญจนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
    เมื่ออายุครบ 20 ปี จึงอุปสมบทเป็นพระภิกษุเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2459 ณ วัดป่าเหียง โดยพระอุปัชฌาย์รูปเดิม พระฮอม โพธาโก เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระสม สุรินฺโท เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้ฉายาทางธรรมว่า อินฺทจกฺโก หลังบวชท่านยังคงช่วยสอนพระธรรมในวัด จนกระทั่งเห็นว่าควรปฏิบัติธรรมเพื่อมุ่งความหลุดพ้น จึงกราบลาพระอุปัชฌาย์ออกธุดงค์โดยมีครูบาพรหมา น้องชาย ติดตามไปด้วย
    ธุดงค์

    ครูบาอินทจักรได้จาริกไปทั่วจังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดแม่ฮ่องสอน เข้าประเทศพม่า แล้วกลับเข้าประเทศไทยทางจังหวัดเชียงราย แล้ววกกลับมาจังหวัดเชียงใหม่ ตลอดการธุดงค์ท่านได้รับความลำบากต่าง ๆ ทั้งจากสภาพอากาศ สภาพภูมิประเทศ และอาหารอัตคัด แต่ท่านก็อดทนจนผ่านมาได้ ท่านธุดงค์อยู่นานถึง 16 ปี จึงอยู่จำพรรษาที่วัดน้ำบ่อหลวง ตามคำอาราธนาของขุนอนุพลนคร
    ศาสนกิจ

    ท่านเข้าอยู่วัดน้ำบ่อหลวงตั้งแต่วันที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2477 นับแต่นั้นท่านได้พัฒนาวัดหลายประการ ทั้งก่อสร้างเสนาสนะ ถนน และแหล่งน้ำใช้เพื่อความสะดวกของแก่ผู้มาวัด
    เมื่อวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหารเปิดสอนวิปัสสนากรรมฐานแบบสติปัฏฐาน 4 (ยุบหนอ-พองหนอ) ท่านได้ลงไปศึกษาด้วย โดยมีพระธรรมธีรราชมหามุนี (โชดก ญาณสิทฺธิ) เป็นผู้สอน เมื่อกลับมาวัดน้ำบ่อหลวง ท่านก็ได้นำวิธีการเจริญวิปัสสนานั้นมาเผยแผ่แก่ประชาชน วัดน้ำบ่อหลวงจึงเป็นสำนักวิปัสสนากรรมฐานมานับแต่นั้น ได้รับขนานนามพระอาจารย์ใหญ่พระสายกรรมฐานแห่งล้านนา

    ศิษย์ที่มีชื่อเสียงของท่านที่เป็นที่รู้จัก

    พระสุพรหมยานเถร (พรหมา พฺรหฺมจกฺโก)พระน้องชาย
    ครูบาบุญปั๋น วัดร้องขุ้ม
    พระพรหมมงคล (ทอง สิริมงฺคโล)
    พระอาจารย์เปลี่ยน ปญฺญาปทีโป

    เหรียญ รุ่นแรกครูบาอินทจักร วัดน้ำบ่อหลวง จัดสร้างขึ้นในปี2513 เหรียญรุ่นนี้จัดสร้าง พร้อมวาระเดียวกันกับเหรียญครูบาพรหมา พระน้องชายของท่าน และ เหรียญพระอาจารย์ทอง สิริมังคโล ซึ่งเป็นลูกศิษย์ ของท่าน ซึ่งแต่ล่ะท่านจัดสร้างเพียงท่านล่ะ 500 เหรียญเท่านั้นครับ จึงเป็นเหรียญ ที่สร้างน้อย และหายากมากครับ ถึงเป็นเหรียญสุดยอดของพระสายกรรมฐานแห่งล้านนา

    สุดยอดความหายากสร้างน้อยมาก ครับ


    ราคา 6500 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    กหะะัี.png หกะะัีรน.png กหดเเ.png
    552F4165-AFD1-4298-9BB9-0EF5778F7727.jpeg D03817FD-D4CA-4FD0-8EA8-DF4EBBB884CF.jpeg F1FFD6BF-3F0C-4C24-92A8-B9AC2AF63DD3.jpeg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 มิถุนายน 2024 at 11:35
  17. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,092
    ค่าพลัง:
    +1,341
    รายการที่ 12422

    ประคำหวายหินหลวงปู่ครูบาชัยวงศ์ วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม สวย แห้งจัดเก่าดูง่าย


    หลวงปู่ครูบาวงศ์ วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม ท่านได้สร้างจาก108 ที่ทำจากเม็ดลูกหวาย เม็ดลูกลาน พญาไม้ โดยได้นำวัสดุดั่งกล่าวนำมากลึงและร้อยเป็นสร้อยลูกประคำ 108 เม็ด ตามภูมิปัญญาพื้นบ้าน สำหรับใช้ในการภาวนากรรมฐาน
    หลวงปู่ครูบาวงศ์ฯ ท่านอธิฐานจิตปลุก ขึ้นกรรมฐาน ไว้ให้ลูกศิษย์ไว้ใช้ในการภาวนา หลวงปู่เคยบอกว่า... “ประคำนี้ดีใช้ภาวนาทำกรรมฐาน ต่อไปจะหายากต้องเอาทองคำเส้นเท่ากันมาแลก”และท่านยังกล่าวเสริมอีกด้วยว่า... “ประคำเป็นเครื่องมือสู่พระนิพพาน” ...เป็นปริศนาธรรมให้เรานำไปคิดพิจารณาครับ การนับภาวนาสร้อยประคำนั้น มีกุศโลบายต่างๆ มากมายในการที่จะทำให้การภาวนาสัมฤทธิผลมากที่สุด การนับลูกประคำก็เป็นกุศโลบายอย่างหนึ่งที่จะช่วยให้การทำภาวนามีผลดี เเละจิตใจสงบนิ่ง

    ประคำเป็นเอกลักษณ์ของหลวงปู่ครูบาชัยยะวงศาพัฒนาพวกเรามักจะสังเกตเห็นสร้อยประคำแบบนี้ที่สวมใส่ไว้กับองค์หลวงปู่เสมอ เรียกว่าลูกประคำ มี 108 ลูก ตามจำนวนพระคุณของพระรัตนตรัย คือ พระพุทธ 54พระธรรมคุณ 38 สังฆคุณ 14 รวมเป็น 108 พอดี
    เป็นสัญลักษณ์แทนคุณพระรัตนตรัย และความเป็นมงคลทั้งหลายในจักวาล หากนับจำนวนได้ 108 นั่นคือคุณแห่งพระพุทธองค์ คุณแห่งพระธรรม และคุณแห่งพระสงฆ์ คุณแห่งพระพุทธเจ้านั่นคือบทพระพุทธคุณ (อิติปิโส) พระธัมคุณ (สวาขาโต) คุณพระสงฆ์ (สุปฏิปันโน) นับตามอักขระในบทพระพุทธคุณจะพบว่ามีจำนวน 56 คำ พระธรรมมี 38 คำ พระสงฆ์มี 14 คำ รวมกันได้ 108 และยังหมายถึงสัญลักษณ์มงคล 108 อย่าง
    วิธีการนับลูกประคำของหลวงปู่

    ตั้งนะโม 3 จบ

    รอบ 1 อิติปิโสภะคะวา อะระหังสัมมาสัมพุทโธ (บริกรรม)....พุทโธพุทโธ พุทโธ .....
    รอบ 2 สวากขาโต ภะคะวะตาธัมโม (บริกรรม)....ธัมโม ธัมโม ธัมโม.....
    รอบ 3 สุปฏิปันโน ภะคะวะโต สาวะกะสังโฆ....(บริกรรม) สังโฆ สังโฆ สังโฆ.....
    รอบ 4 (บริกรรม)...เมตตา เมตตา เมตตา .....
    รอบ 5 (บริกรรม)...กรุณากรุณา กรุณา .....
    รอบ 6 (บริกรรม)...มุทิตา มุทิตา มุทิตา .....
    รอบ 7 (บริกรรม)...อุเบกขา อุเบกขา อุเบกขา .....
    รอบ 8 (บริกรรม) " อนิจจัง อนิจจัง อนิจจัง .....
    รอบ 9 (บริกรรม) " ทุกขัง ทุกขัง ทุกขัง .....
    รอบ 10 (บริกรรม) " อนัตตา อนัตตา อนัตตา ....

    - ความหมายของประคำ 108 เม็ด เริ่มนับทีละเม็ด บทสวดพระพุทธคุณ "อิ ติ ปิ โส ภะ คะ วา อะ ระ หัง สัม มา...."
    - พระธรรมคุณ " สะ หวาก ขา โต ภะ คะ วะ ตา ธัม โม ..."
    - พระสังฆคุณ " สุ ปะ ฏิ ปัน โน ภะ คะ วะ โต สา วะ กะ สัง โฆ " ครบพอดี 108 เม็ด
    - บางเส้นมีเพิ่มอีก 1 เม็ด คือ พระนิพพาน รวม 109 เม็ด

    เส้นนี้ เก่าผ่านการใช้มาตามธรรมชาติ ถึงยุค เชือกเดิม ดูง่ายมากครับ ประคำเอกลักษณ์ของหลวงปู่ครูบาชัยยะวงศาพัฒนา ปัจจุบันหาได้ยากยิ่งแล้วครับ

    สวย ดูง่ายน่าบูชามากครับ


    ราคา 1850 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    736D3310-C636-4D9C-8A3F-9A254DD8AD96.jpeg

    0C7D6797-BD05-4420-8EB4-5F7F8F91B0DF.jpeg E78C6C36-37C2-4FE0-814E-81A00A9B65D2.jpeg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 มิถุนายน 2024 at 11:36
  18. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,092
    ค่าพลัง:
    +1,341
    รายการที่ 12423

    เหรียญรุ่นแรกครูบาสิงห์แก้ว (ครูบาผีกลัว) วัดปากกอง หัวกลม

    เหรียญหลักยอดนิยมของเมืองเหนือ ท่านโด่งดังมากเรื่องปราบผี จนเป็นที่ขนานนามที่ว่า ครูบาผีกลัว แห่งสารภีวัตถุมงคลของท่านพุทธคุณเด่นใช้เรื่องกันผีได้ดีมาก ครับ
    พิธีปลุกเสกที่วัดพระธาตุดอยสุเทพในพิธีมหาพุทธาภิเษกพระพุทธสิหิงค์จำลอง เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2515 โดยคณะสงฆ์จังหวัดเชียงใหม่ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จฯ ทรงเป็นประธาน โดยนิมนต์สุดยอดพระเกจิคณาจารย์ 108 รูป ร่วมนั่งปรกปลุกเสก อาทิ หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี กรุงเทพมหานคร, หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม จังหวัดชัยนาท, หลวงปู่แหวน วัดดอยแม่ปั๋ง จังหวัดเชียงใหม่, หลวงพ่อเกษม เขมโก จังหวัดลำปาง, หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม จังหวัดนครปฐม, ครูบาคำแสน อินทจักรโก วัดสวนดอก จังหวัดเชียงใหม่, ครูบาคำแสน คุณาลังกาโร วัดป่าดอนมูล จังหวัดเชียงใหม่, ครูบาชุ่ม โพธิโก วัดวังมุ่ย จังหวัดลำพูน, พระอาจารย์นำ แก้วจันทร์ จังหวัดนครศรีธรรมราช และอาจารย์ชุม ไชยคีรี เจ้าพิธีฝ่ายฆราวาส เป็นต้น นับเป็นพิธีปลุกเสกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดพิธีหนึ่งของจังหวัดเชียงใหม่ แถมมีพระเกจิอาจารย์ดังทั้งภาคเหนือ, ภาคกลาง, ภาคใต้ รวมพลังปลุกเสกกันอย่างเข้มขลัง ครับ


    ราคา 6500 บาท สนใจสอบถามได้ครับ 086-1936900

    กหดหดภพ.jpg กหดำพะั.jpg ัุึคตลล.jpg 32B6F268-7A91-4D9A-B19A-6A52DBB1029B.jpeg 232E51F8-C063-4E66-B379-CCC1EADCC848.jpeg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 มิถุนายน 2024 at 11:37
  19. j999

    j999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    4,964
    ค่าพลัง:
    +5,380
    ขอปิดครับ
     
  20. ศิวิไล

    ศิวิไล เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    16,092
    ค่าพลัง:
    +1,341
    รับทราบการจองขอบคุณครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...