กลุ่มพลังจิตพิชิตภัยพิบัติภาคใต้ รวมพลังทำความดี

ครับ คุณมิค เวลาไม่คอย นับเวลาไปเรื่อยๆ ครับ (ช่วงนี้ เน็ต ไม่ค่อยเป็นใจ เท่าไหร่ ครับ ) ปลูกพืช ใว้ใช้เองตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง ของพ่อหลวง
ที่ทำงานผม ช่วงนี้ ทางผู้บริหาร ใด้มี การอบรม พนักงาน ให้มีวิชาชีพ ติดตัวในการดำเนินชีวิต เพิ่มเติม จากการทำงาน

หลังจาก รวมพลัง จากวัดนาคา เดินทาง ต่อมา ที่ วัดใต้ วัดลัฏฐิวนาราม (ทางทางใต้ วัดฉลอง ) ร่วมถวาย ข้าว ปลา อาหาร ดอกไม้ ธูปเทียน น้ำ และ ปัจจัย พร้อม ทั้ง ตู้รับบริจาค ปัจจัยเข้าวัด ให้กับทางวัดครับ

จากนั้นจึง อธิฐานจิต เพื่อส่วนรวม และบุคคล ในการสร้างสมบารมี และ อัญเชิญ เหรียญทำน้ำมนต์ใว้ที่ วิหาร หลวงพ่อองค์ดำ ครับ และ ร่วมปิดทอง หลวงพ่อองค์ดำ (หลวงพ่อองค์ดำ นับว่า ใด้อัญเชิญทำพิธี ที่ วัด เมื่อหลายปี ก่อน ในวันคล้าย วันเกิด ผม พอดี มิถุนายน ) และวันนี้นับว่าโชดดี ที่ มีการบวชพระใหม่ ในวัดนี้
ด้วย
จากนั้นจึงร่วมพลัง ล้างห้องสุขะพิมานสราญรมณ์
ในช่วงบ่าย มีการเดินทาง ไปที่ วัดปฏิสัคโค เพื่อการปฏิบัติ ธรรม (ตาม แนว หลวงพ่อจรัญ วัดอัมพวัน เป็นศูนย์ที่ภูเก็ต ) ผมจึงขอตัวมาทำงาน ขอเป็นกำลังใจ ให้ คุฯมิค และทุกท่าน สร้างพลังความดี เก็บเกี่ยว ผลบุญเรื่อยๆ ครับ

การล้างห้องน้ำที่ วัด นับว่าเป็นการ กระทำที่ยากพอสมควร เพราะ หลายท่าน อาจจะ รังเกียจ ว่า เป็นสอ่งที่ ไม่ น่าดู แต่ กลุ่มเรา นักปฏิบัติ มาฟัง และเล่าขาน มาจาก คุณยาย อุบาสิกา จัน ขนนกยูง ผู้ฝึกปฏิบัติวิชชาธรรมกาย สมัยหลวงปู่สด วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ท่านกล่าวว่า บุญเล็กน้อย อย่ารังเกียจ ต้องสะอาดมาจากภายใน ก่อนเสมอ ผมเอง ไม่เคย ยึดมั่น ว่า นี้ เป็น วิชา อะไร เมื่อครูอาจารย์ ท่านเมตตา สอน แนะนำ ให้ เราเก็บเกี่ยว ผลบุญ ดีกว่า มาเลือก ว่า สายนั้น สายนี้ .....
ครูเราสมัยก่อน ต่างเข้ากราบพระสงฆ์ หรือ แม้แต่ ฆราวาส เป็นครู สอน วิชชา และ กรรมฐาน กัน แม้ว่าจะลำบากเพรียงใด...

27 มิถุนายน เสาร์ 5 ร่วมรับยันต์เกราะเพชร จากพระอาจารย์เล็ก วัดท่าขนุน

 

เหมือนกันค่ะพี่พจน์ช่วงนี้เน็ตไม่ค่อยเป็นใจ ปลูกผักกินเองด้วยเหมือนกันค่ะ ที่บ้านเป็นสวนด้วย อยากกินอะไรก็ได้กินเงาะ ทุเรียน มังคุด มะพร้าว สับปะรด ^0^

 

อนุโมทนากับพี่นาคา และทุกท่านที่ร่วมด้วยช่วยกันนะครับ

ตัวผมเองยังรู้สึกว่าไม่ค่อยมีประโยชย์เท่าไรเลย ยังช่วยได้ไม่เยอะดังปรารถนาไว้

เมื่อวันที่ 15-21 ผมก็ได้ไปปฏิบัติธรรมที่ถ้ำอุทกการามมา ตามที่พี่มิกซ์ได้นำเสนอมาแล้ว ที่นั้นเน้นฝึกสติครับ เล่นเอาซะผมเหนื่อยเลย เพราะข้อวัตรเคร่งมาก หลวงพี่บอกว่าเป็นการฝึกสติกับให้อยู่กับกายก่อน เพราะเรายังให้สติเกาะกับจิตได้ไม่มาก เพราะจิตไวมาก เดี๋ยวคิดโน้นคิดนี้วุ่นวายไปหมด ผมก็ฝึกอยู่ยังได้ไม่มาก ก็ต้องฝึกเรื่อย ๆ ล่ะครับ ใครว่าง ๆ ก็ลองไปดูนะครับ

 

สวัสดียามบ่ายที่นี่ทุกท่านค่ะ ไม่ได้เข้ามาทักทาย แต่ก็มาโมทนาบุญกับทุกท่านและได้อ่านข่าวสารทุกวันนะค่ะ
คุณพจน์ สบายดีนะค่ะ งานทุกอย่างที่ทำให้สาธารณสถานเป็นที่สนองความสุขแก่คนทั่วไปก็เป็นบุญอย่างหนึ่งนะค่ะ สะสมเล็กสะสมน้อยไปทุกวันก็คงมากไปเอง ดีกว่าดีที่อยู่ที่นี่ได้แต่สวดมนต์ภาวนาและตามดูจิตดูกายที่คุณมิกซ์แนะนำไปและก็เอาบุญโดยโมทนาบุญของกัลยาณมิตรทั้งหลายก็ทำให้สุขใจแล้วค่ะ เหมือนที่คุณมิกซ์เคยบอกสักวันสิ่งที่เราหวังคงสำเร็จ

ย้ายบ้านไปอยู่ชนบทดีนะค่ะคุณมิกซ์ ดีก็ปลูกผักสวนครัวที่สามารถปลูกได้ตามสภาพภูมิอากาศที่นี่ แต่ก็ได้แค่ช่วงเมษาถึง สค ค่ะ ภูมิใจที่ได้กินถั่ว ข้าวโพดฝีมือตัวเอง อิอิ

โมทนาบุญกับน้องมุกด้วยนะค่ะ
ขอให้ทุกท่านโชคดี เจริญทั้งทางโลกและทางธรรม สุขกายสุขใจนะค่ะ

สักวันคงได้เจอกันและร่วมบุญกันนะค่ะ
ดี

 

สาธุกับทุกดวงจิต

วันนี้มาถึงบ้านก็คิดถึงน้องมิกซ์และญาติธรรมในกระทู้นี้จึงนำบุญมาฝากจากลำพูน ไปช่วยงานสร้างศาลาแก้วและสมเด็จองค์ปฐมที่ วัดป่าซางงาม จังหวัดลำพูน เมื่อวันที่ ๒๓พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๕๒ ช่วงตอนบ่ายอาจาย์ไก่แนะนำพระกรมฐานมโนมยิทธิให้กับผู้ปฏิบัติธรรมกลุ่มป่าซาง สำเร็จตามวัตถุประสงค์ทุกประการ จึงนำบรรยากาศมาให้ชมกันและสาธุการกัน สาธุ
http://palungjit.org/threads/นักวิชาการสัมผัสพิเศษชี้-“อีก-3-ปีโลกนี้จะมีภัย”.190287/

 

วันนี้ ใด้จัดการเอกสารในการสมัครอบรมและสอบ วิทยุสมัครเล่นที่ภูเก็ต ให้น้องสาว ซึ่งเป็นพยาบาล ที่ อ.คุระบุรี พังงา เพื่อในการติดต่อ สื่อสารตามในภาวะปกติ และภาวะ ในกรณี โทรฯ ติดต่อ ไม่ใด้ ซึ่งสามารถ ติดต่อ ในข่าย พยาบาลใด้ (ข้าราชการเฉพาะ )

จากนั้น เดินทางกราบพระพุทธประทานพร และภาวนาใต้ฐานองค์พระใหญ่ หลวงพ่อประทานพร วัดเขารังสามัคคีธรรรม และ ภาวนาจิต เล็กน้องในวิหาร หลวงปู่ศุข (วัดมะขามเฒ่า )ซึ่งเป็นครูบาอาจารย์ หลวงปู่สุภา กันตสีโล

ก่อนหน้านี้ สำนักปฏิบัติธรรมเทพขจรจิต หลวงปู่สุภา ใด้สร้าง และพำนักเป็นเวลาหลายปี ต่อมา ศิษยานุศิษย์ ใด้ถวายที่ดินแห่งใหม่ และจัดตั้ง วัด สีลสุภาราม

ใด้อัญเชิญเหรียญทำน้ำมนต์ประดิษฐานใว้ที่องค์พระใหญ่หลวงพ่อประทานพร และใด้ คุยกับท่านเจ้าอาวาส ในการอัญเชิญ เหรียญใว้ที่ องค์พระ ในศาลาสวดมนต์

 

สวัสดีครับ ผมขอเป็นสมาชิกด้วยคน ครับ ขอแนะนำตัวหน่อยนะครับ ผม ชื่อ เอกครับ
อยู่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ยินดีที่ได้รู้จักชาวใต้ ใจบุญ ทุกท่านครับ
ว่างๆ มาสักการะ พระบรมสาริกธาตุ บนเขา คอหงส์ ณ เจดีย์พระมหาธาตุ ไตรภพ
ไตรมงคล ได้นะครับ

 

วันที่ 22-26 ที่ผ่านมาผมไปทำธุระที่อำเภอสวี จังหวัดชุมพรและนครฯ
แต่ที่นครฯคิดว่าคงมีเพื่อนสมาชิกหย่อนเหรียญฯไว้ตามที่ต่างๆไปพอสมควรแล้ว
ผมเลยหย่อนไป 2 จุด คือที่แม่น้ำสวี (ก่อนไหลเข้าตัวอำเภอ ตรงสะพานพอดี)
และที่แม่น้ำตะเภา(ตรงโครงการพระราชดำริแก้มลิง)ก่อนไหลเข้าตัวจังหวัด
ชุมพร ส่วนถ้ามีเวลาจะมา update จุดและภาพให้อีกทีในกลุ่มงานภาคใต้นะครับ

 

อยากได้เบอร์โทรของเจ้าของกระทู้ค่ะ

 

เรียนน้องมิกซ์ แจ้งข่าวดีอาทิตย์หน้าทางแม่ชีมินท์ธิตา ฯ ท่านจะเข้าไปร่วมปฏิบัติธรรม ที่ธรรมเจริญ และข่าวดีอีกเรือง คณะพลังจิตอีกกลุ่มหนึ่งที่ท่านช่วยเรื่องนี้แต่ท่านไม่เปิดตัวเป็นกลุ่มคณะศิษย์หลวงพ่อฤาษีลิงดำ (คุณธนัทเทพ ฯ) ในวันที่ ๑ ส.ค.๕๒ นี้ท่านจะมาร่วมกับคณะพลังจิตพิชิตภัยพิบัติกลุ่มภาคใต้ และจะมาร่วมประชุมเสวนา และจะช่วยห้าปัจจัยมาร่วมสร้างศาลาแก้วให้เสร็จเร็วขึ้นให้เสร็จทันตามที่วางงานกันไว้ พี่ขอโมทนากับน้องมิกซ์ อาจารย์ธฏ, พี่นุ้ย , น้องหูกาง ,พี่พจณ์ และอาจารย์คณานันท์ ฯ หัวหน้าพลังจิตพิชิตภัยพิบัติและทุกท่านในคณะทุกท่านด้วยครับ สาธุการอีกครั้ง สาธุ ๆ อนุโมทามิ
จิตใจดีงาม/จิตสงเคราะห์ช่วยเหลือมนุษย์โลกให้ปลอดภัย
http://palungjit.org/threads/นักวิชาการสัมผัสพิเศษชี้-“อีก-3-ปีโลกนี้จะมีภัย”.190287/

 

โมทนาบุญกับงานของสมาชิกพลังจิตภาคใต้ ที่ก้าวหน้าไปมากมายและพรั่งพร้อมด้วยความสามัคคี เสียสละเพื่อส่วนรวม เพื่อพระพุทธศาสนากันครับ

 

อนุโมทนาบุญทุกประการค่ะกับทุกท่านที่รวมใจกันเพื่องานส่วนรวมค่ะ ธรรมรักษาทุกท่านค่ะ

 

สวัสดีค่ะคุณเม้ง
ขออนุญาตตอบแทนคุณมิกซ์นะค่ะ เพราะคิดว่าตอนนี้คงยุ่งกับการย้ายบ้าน สามารถติดต่อคุณมิกซ์ได้ที่เบอร์ 0831306919 คุณมิกซ์เขามีน้ำใจมาก ขยันทำงานเพื่อส่วนรวมด้วยใจเกินร้อย และรวมุถึงสมาชิกภาคใต้ทุกคน
บุญรักษาทุกท่านค่ะ

 

แจ้งข่าว

เมื่อคืนได้ข่าวมาเพิ่มเติม จากท่านผู้รู้ ................. เรื่องของ ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตอนนี้กำลังลำบากมาก ถ้าพวกเรายังไม่ช่วยกัน และแตกความสามัคคีกันโอกาส แพ้ ๑๐๐% ประมาณว่า เขานำเราอยู่ ๘๐ % แต่เรามีแต้มอยู่แค่ ๒๐ % เท่านั้น พวงเราต้องช่วยกันเจริญสมาธิกรรมฐาน ให้พลังงานสีขาวชนะสีดำให้ได้ ตามที่ผมคิดถ้าจะชนะได้ก็ต้อง ช่วยกันทุกดวงจิตทุกบ้านหลังจากเข้านอน ต้องช่วยกันนั่งสมาธิคนละประมาณครั่งชั่วโมง ออกจากกรรมฐานแล้วช่วยกันแผ่เมตตาไม่มีประมาณ หรือต้องมีฐานปฏิบัติการ จังหวัดละ ๑ ที่ และต้องเชิญกันมานั่งกรรมฐานสม่ำเสมอกันตลอดเวลา ได้ข่าวว่าเวลาตอนนี้เร่งรัดมาแล้ว พวกเราก็ต้องทำงานแข่งกับเวลาแล้วละ ผมขอเชิญชวนผู้ที่มาพบกระทู้นี้ช่วย มาปฏิบัติธรรมกันทุกดวงจิต ไม่ว่าเรื่องของ ๓ จังหวัดภาคใต้ หรือภัยพิบัติ สัญญาณเตือนจากเบื้องบน ตอนนี้บ่อยมากผู้ที่มีหน้าที่ที่รู้ตัวแล้วก็กำลังช่วยกันให้เวลามันเคลื่อนไปให้ได้นานที่สุดที่จะทำได้ ส่วนคนที่ยังไม่รู้ตัว ก็ขอให้มีสติตัวรู้เข้ามาช่วยกัน ในวันที่ ๑-๒ สิงหาคม ๒๕๕๒ นี้ ขอให้ทุกท่านเสียสละเวลา มารับฟังข่าวสารกัน เพื่อการป้องกันภัยที่จะเกิดขึ้น วันที่ ๑-๒ ส.ค.๕๒ นี้ ทางครูบาอาจารย์ผู้ทรงคุณทั้งหลายจะมาเปิดใจ ณ สำนักสงฆ์ธรรมเจริญ อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช จะพูดคุยเปิดใจให้รับรู้ทุกเรื่องราวเกี่ยวกับภัยที่จะเกิดขึ้นกับแผ่นดิน ขอเรียนเชิญทุกท่านครับ สาธุ
http://palungjit.org/threads/นักวิชาการสัมผัสพิเศษชี้-“อีก-3-ปีโลกนี้จะมีภัย”.190287/

 

ผมได้รับemailมาครับ


<hr size="2" width="100%" align="center"> ​

<table style="width: 100%;" width="100%" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody> <tr> <td style="padding: 0cm; width: 100%;" valign="top" width="100%"> “Hello there. I just wanted 2 let you know that please stay away from the beaches all around in the month of July. There is a prediction that there will be another tsunami hitting on July 22^nd. It is also when there will be sun eclipse. Predicted that it is going 2 be really bad and countries like Malaysia (Sabah & Sarawak), Singapore, Maldives, Australia, Mauritius, Si Lanka, India, Indonesia, Philippines are going 2 be badly hit. Please try and stay away from the beaches in July. Better 2 be safe than sorry. Please pass the word around. Please also pray for all beings.”

เค้าเขียนเตือนมาว่าให้อยู่ห่<wbr>างจากทะเลในรอบเดือนกรกฏาคมนี้ เนื่องจากจะมีเหตการณ์ซึนามิอี<wbr>กครั้งในวันที่ 22 กรกฏาคม และในเวลานั้นดวงอาทิตย์จะถูกปิ<wbr>ดบังรัศมี ทำนายไว้ว่าจะเป็นเหตุการณ์ที่<wbr>เลวร้ายมากและประเทศต่างๆ เช่น มาเลย์เซีย (ซาบาห์และซาราวัค) , สิงคโปร, มัลดีฟ, ออสเตรเลีย, เมารีทัส, ศรีลังกา, อินเดีย, ฟิลลิปปินส์ จะถูกโจมตีอย่างหนัก
กรุณาอยู่ให้ห่างจากทะเลในช่<wbr>วงเดือนกรกฏาคมดังกล่าวด้วย ปลอดภัยไว้ก่อนดีกว่าจะเกิ<wbr>ดโศกนาฏกรรม
กระจายข่าวไปกันให้ทั่วน่ะค่ะ
และโปรดช่วยกันสวดภาวนาให้สิ่<wbr>งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง
</td></tr></tbody></table>

 

วันเสาร์ 30 พค.

กราบหลวงปู่แช่ม หลวงพ่อช่วง หลวงพ่อเกลื้อม วัดฉลองภูเก็ต พร้อม น้องมุก และเพื่อนน้องมุก ที่รับเรื่อง รายงาน วัดฉลอง จากคุณครู

จากนั้น กราบหลวงพ่อท่านเจ้าวัด และ อัญเชิญเหรียญทำน้ำมนต์ ประดิษฐาน ใว้ ในกุฏิหลังเก่า หลวงพ่อท่านเจ้าวัด , และ พระมหาธาตุเจดีย์พระจอมไทยบารมีชั้น 1,2 และ ตั้งจิต กราบ อาราธนา พระบรมสารีริกธาตุ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
พร้อมทั้ง เหรียญทำน้ำมนต์ฝาก องค์นาคราช สระน้ำด้านหลัง พระธรรมเจดีย์

วัดฉลอง ภูเก็ต

เจ้าอาวาสวัดฉลององค์แรกท่านเป็นพระเถระองค์ใดนั้น ในประวัติได้บันทึกเอาไว้ ก็เลยไม่ทราบนามท่านเท่าที่ทราบมี "พ่อท่านเฒ่า" ท่านเป็นเจ้าอาวาสวัดฉลององค์ก่อน "หลวงพ่อแช่ม" ท่านเป็นพระที่มีความเชี่ยวชษยทางวิปัสสนากรรมฐานเป็นที่เลื่องลือ เมื่อ "ท่านพ่อเฒ่า" ท่านได้มรณภาพด้วยโรคชราอาพาธ "หลวงพ่อแช่ม" ได้รับตำแหน่งเจ้าอาวาสสือต่อจาก "พ่อท่านเฒ่า"

"หลวงพ่อแช่ม" วัดฉลอง ภูเก็ต ท่านเกิดที่ตำบลบ่อแสน อำเภอทับปุด จังหวัดพังงา เมื่อปีกุน พุทธศักราช 2370 ในรัชสมัยของ "พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว"(รัชกาลที่ 3)

(นามโยมบิดา-มารดา) ไม่ปรากฎในประวัติแม้แต่ "หลวงพ่อช่วง" วัดท่าฉลอง ศิษย์เอกของท่านก็ไม่สามารถให้รายละเอียดได้)

หลวงพ่อแช่ม ชาตะ พ.ศ.2370 มรณภาพ พ.ศ.2451

พ่อแม่ส่งให้อยู่ ณ วัดฉลอง เป็นศิษย์ของพ่อท่านเฒ่าตั้งแต่เล็ก เมื่อมีอายุพอจะบวชได้ก็บวชเป็นสามเณร และ ต่อมาเมื่ออายุถึงที่ จะบวชเป็นพระภิกษุก็บวชเป็นพระภิกษุจำพรรษาอยู่ ณ วัดฉลองนี้หลวงพ่อแช่มได้ศึกษาวิปัสนาธุระจากพ่อท่านเฒ่าจนเป็นผู้ที่เชี่ยวชาญ ทางวิปัสนาธุระเป็นอย่างสูง ความมีชื่อเสียงของหลวงพ่อแช่มปรากฏชัดในคราวที่หลวงพ่อแช่มเป็นหัวหน้าปราบอั้งยี่

 

ในปีพุทธศักราช 2419 กรรมกรเหมืองแร่เป็นจำนวนหมื่น ในจังหวัดภูเก็ต และจังหวัดใกล้เคียงได้ซ่องสุมผู้คนก่อตั้งเป็นคณะขึ้นเรียกว่า อั้งยี่ โดยเฉพาะพวกอั้งยี่ในจังหวัดภูเก็ตก่อเหตุวุ่นวายถึงขนาดจะเข้ายึดการปกครองของจังหวัดเป็นของพวกตน ทางราชการในสมัยนั้น ไม่อาจปราบให้สงบราบคาบได้ พวกอั้งยี่ถืออาวุธรุกไล่ ยิง ฟันชาวบ้านล้มตายลงเป็นจำนวนมากชาวบ้านไม่อาจต่อสู้ป้องกันตนเอง และทรัพย์สิน ที่รอดชีวิตก็หนีเข้าป่าไป เฉพาะในตำบลฉลองชาวบ้านได้หลบหนีเข้าป่า เข้าวัด ทิ้งบ้านเรือนปล่อยให้พวกอั้งยี่เผา บ้านเรือนหมู่บ้านซึ่งพวกอั้งยี่เผา ได้ชื่อว่า บ้านไฟไหม้ จนกระทั้งบัดนี้

ชาวบ้านที่หลบหนีเข้ามาในวัดฉลอง เมื่อพวกอั้งยี่รุกไล่ใกล้วัดเข้ามา ต่างก็เข้าไปแจ้งให้หลวงพ่อแช่มทราบ และนิมนต์ให้หลวงพ่อแช่ม หลบหนีออกจากวัดฉลองไปด้วย หลวงพ่อแช่มไม่ยอมหนี ท่านว่า ท่านอยู่ที่วัดนี้ตั้งแต่เด็กจนบวชเป็นพระ และเป็นเจ้าวัดอยู่ขณะนี้ จะให้หนีทิ้งวัดไปได้อย่างไร

เมื่อหลวงพ่อแช่มไม่ยอมหนีทิ้งวัด ชาวบ้านต่างก็แจ้งหลวงพ่อแช่มว่า เมื่อท่านไม่หนีพวกเขาก็ไม่หนีจะขอสู้มันละ พ่อท่านมีอะไรเป็น เครื่องคุ้มกันตัวขอให้ทำให้ด้วย หลวงพ่อแช่มจึงทำผ้าประเจียดแจกโผกศีรษะคนละผืน เมื่อได้ของคุ้มกันคนไทยชาวบ้านฉลอง ก็ออกไปชักชวนคนอื่นๆ ที่หลบหนีไปอยู่ตามป่า กลับมารวมพวกกันอยู่ในวัด หาอาวุธ ปืน มีด เตรียมต่อสู้กับพวกอั้งยี่

พวกอั้งยี่ เที่ยวรุกไล่ฆ่าฟันชาวบ้าน ไม่มีใครต่อสู้ก็จะชะล่าใจ ประมาทรุกไล่ฆ่าชาวบ้านมาถึงวัดฉลอง ชาวบ้านซึ่งได้รับผ้าประเจียด จากหลวงพ่อแช่มโพกศีรษะไว้ก็ออกต่อต้านพวกอั้งยี่ พวกอั้งยี่ไม่สามารถทำร้ายชาวบ้านก็ถูกชาวบ้านไล่ฆ่าฟันแตกหนีไป ครั้งนี้เป็น ชัยชนะครั้งแรกของไทยชาวบ้านฉลอง ข่าวชนะศึกครั้งแรกของชาวบ้านฉลอง รู้ถึงชาวบ้านที่หลบหนีไปอยู่ที่อื่น ต่างพากลับมายัง วัดฉลอง รับอาสาว่า ถ้าพวกอั้งยี่มารบอีกก็จะต่อสู้ ขอให้หลวงพ่อแช่มจัดเครื่องคุ้มครองตัวให้ หลวงพ่อแช่มก็ทำผ้าประเจียดแจกจ่าย ให้คนละผืน พร้อมกับแจ้งแก่ชาวบ้านว่า "ข้าเป็นพระสงฆ์จะรบราฆ่าฟันกับใครไม่ได้ พวกสูจะรบก็คิดอ่านกันเอาเอง ข้าจะทำเครื่องคุณพระให้ไว้สำหรับป้องกันตัวเท่านั้น" ชาวบ้านเอาผ้าประเจียดซึ่งหลวงพ่อแช่มทำให้โพกศีรษะเป็นเครื่องหมาย
บอกต่อต้านพวกอั้งยี่

พวกอั้งยี่ให้ฉายาคนไทยชาวบ้านฉลองว่า พวกหัวขาว ยกพวกมาโจมตีคนไทยชาวบ้านฉลองหลายครั้ง ชาวบ้านถือเอากำแพง พระอุโบสถเป็นแนวป้องกัน อั้งยี่ไม่สามารถตีฝ่าเข้ามาได้ ภายหลังจัดเป็นกองทัพเป็นจำนวนพัน ตั้งแม่ทัพ นายกอง มีธงรบ ม้าล่อ เป็นเครื่องประโคมขณะรบกัน ยกทัพเข้าล้อมรอบกำแพงพระอุปโบสถ ยิงปืน พุ่งแหลม พุ่งอีโต้ เข้ามาที่กำแพง เป็นที่น่าอัศจรรย์ ที่บรรดาชาวบ้านซึ่งได้เครื่องคุ้มกันตัวจากหลวงพ่อแช่มต่างก็แคล้วคลาดไม่ถูกอาวุธของพวกอั้งยี่เลย รบกันจนเที่ยงพวกอั้งยี่ยกธง ขอพักรบ ถอยไปพักกันใต้ร่มไม้หุงหาอาหาร ต้มข้าวต้มกินกัน ใครมีฝิ่นก็เอาฝิ่นออกมาสูบ อิ่มหนำสำราญแล้วก็นอนพักผ่อนชาวบ้าน แอบดูอยูในกำแพงโบสถ์ เห็นได้โอกาสในขณะที่พวกอั้งยี่เผลอก็ออกไปโจมตีบ้าง พวกอั้งยี่ไม่ทันรู้ตัวก็ล้มตายและแตกพ่ายไป หัวหน้าอั้งยี่ประกาศให้สินบน ใครสามารถจับตัวหลวงพ่อแช่มวัดฉลองไปมอบตัวให้จะให้เงินถึง 5,000 เหรียญ

เล่าลือกันทั่วไปในวงการอั้งยี่ว่า คนไทยชาวบ้านฉลองซึ่งได้รับผ้าประเจียดของหลวงพ่อแช่มโพกศีรษะ ล้วนแต่เป็นยักษ์มารคงทนต่อ อาวุธ ไม่สามารถทำร้ายได้ ยกทัพมาตีกี่ครั้งๆ ก็ถูกตีโต้กลับไป ในทุกครั้ง จนต้องเจรจาขอหย่าศึกยอมแพ้แก่ชาวบ้านศิษย์หลวงพ่อแช่ม โดยไม่มีเงื่อนไข

คณะกรรมการเมืองภูเก็ต ได้ทำรายงานกราบทูลไปยังพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้คณะกรรมการเมืองนิมนต์หลวงพ่อแช่ม ให้เดินทางไปยังกรุงเทพมหานคร มีพระประสงค์ทรงปฏิสันฐานกับหลวงพ่อแช่มด้วยพระองค์เอง หลวงพ่อแช่มและคณะเดินทางถึงกรุงเทพมหานคร พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวพระราชทานสมฌศักดิ์หลวงพ่อแช่ม เป็น พระครูวิสุทธิวงศาจารย์ญานฌมุนี ให้มีตำแหน่งเป็นสังฆปาโมกข์เมืองภูเก็ต อันเป็นตำแหน่งสุงสุดซึ่งบรรพชิตจักพึงมีในสมัยนั้น ในโอกาสเดียวกัน ทรงพระราชทานนามวัดฉลองเป็นวัดไชยาธาราราม<!-- google_ad_section_end -->

 

จากคำบอกเล่าของคณะผู้ติดตามหลวงพ่อแช่มไปในครั้งนั้นแจ้งว่ามีพระสนมองค์หนึ่งในรัชกาลที่ 5 ป่วยเป็นอัมพาต หลวงพ่อแช่มได้ทำ น้ำพระพุทธมนต์ให้รดตัวรักษา ปรากฏว่าอาการป่วยหายลงโดยเร็วสามารถลุกนั่งได้
ชาวเรือพวกหนึ่งลงเรือพายออกไปหาปลาในทะเลถูกคลื่น และพายุกระหน่ำจนเรือจวนล่มต่างก็บนบานสิ่งศักดิ์ต่างๆ ให้คลื่นลมสงบ แต่คลื่นลมกลับรุนแรงขึ้น ชาวบ้านคนหนึ่งนึกถึงหลวงพ่อแช่มได้ ก็บนหลวงพ่อแช่มว่าขอให้หลวงพ่อแช่มบรรดาลให้คลื่นลมสงบเถิด รอดตายกลับถึงบ้านจะติดทองที่ตัวหลวงพ่อแช่มคลื่นลมก็สงบ มาถึงบ้านก็นำทองคำเปลวไปหาหลวงพ่อแช่ม เล่าให้หลวงพ่อแช่ม ทราบและขอปิดทองที่ตัวท่าน หลวงพ่อแช่มบอกว่าท่านยังมีชีวิตอยู่จะปิดทองยังไง ให้ไปปิดทองที่พระพุทธรูป ชาวบ้านกลุ่มนั้น ก็บอกว่าถ้าหากหลวงพ่อไม่ให้ปิดหากแรงบนทำให้เกิดอาเพทอีก จะแก้อย่างไรในที่สุดหลวงพ่อแช่มก็จำต้องยอมให้ชาวบ้าน ปิดทองที่ตัวท่านโดยให้ปิดที่แขนและเท้า ชาวบ้านอื่นๆก็บนตามอย่างด้วยเป็นอันมาก พอหลวงพ่อแช่มออกจากวัดไปทำธุระในเมือง ชาวบ้านต่างก็นำทองคำเปลวรอคอยปิดที่หน้าแขนของหลวงพ่อแทบทุกบ้านเรือนจนถือเป็นธรรมเนียม เมื่อกรมพระยาดำรงราชานุถาพ เสด็จมาจังหวัดภุเก็ตนิมนต์ให้หลวงพ่อแช่มไปหา ก็ยังทรงเห็นทองคำเปลวปิดอยู่ที่หน้าแข้งของหลวงพ่อแช่ม นับเป็นพระภิกษุองค์แรก
ของเมืองไทยที่ได้รับการปิดทองแก้บนทั้งๆ ที่ยังมีชีวิตอยู่

แม้แต่ไม้เท้าของหลวงพ่อแช่ม ซึ่งท่านถือประจำกายก็มีความขลัง ประวัติความขลังของไม้เท้ามีดังนี้ เด็กหญิงรุ่นสาวคนหนึ่ง เป็นคนชอบพูดอะไรแผลงๆ ครั้งหนึ่งเด็กหญิงคนนั้นเกิดปวดท้องจุดเสียดอย่างแรง กินยาอะไรก็ไม่ทุเลา จึงบนหลวงพ่อแช่มว่า ขอให้อาการปวดท้องหายเถิด ถ้าหายแล้วจะนำทองไปปิดที่ของลับของหลวงพ่อแช่ม อาการปวดท้องก็หายไป เด็กหญิงคนนั้น เมื่อหายแล้วก็ไม่สนใจ ถือว่าพูดเล่นสนุกๆ ต่อมาอาการปวดท้องเกิดขึ้นมาอีก พ่อแม่สงสัยจะถูกแรงสินบนจึงปลอบถามเด็ก เด็กก็เล่าให้พ่อแม่ฟัง พ่อแม่จึงนำเด็กไปหาหลวงพ่อแช่ม
หลวงพ่อแช่มกล่าวว่าลูกมึงบนสัปดนอย่างนี้ใครจะให้ปิดทองอย่างนั้นได้ พ่อแม่เด็กต่างก็อ้อนวอนกลัวลูกจะตายเพราะไม่ได้แก้บน ในที่สุดหลวงพ่อแช่มคิดแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าได้โดยเอาไม้เท้านั่งทับ สอดเข้าให้เด็กหญิงคนนั้นปิดทองที่ปลายไม้เท้า กลับบ้านอาการปวดท้องจุดเสียดก็หายไป ไม้เท้านั่งทับของหลวงพ่อแช่มอันนี้ ยังคงมีอยู่ และใช้เป็นไม้สำหรับจี้เด็กๆ ที่เป็นไส้เลื่อน เป็นฝีเป็นปาน อาการเหล่านั้นก็หายไปหรือชงัดการลุกลามต่อไป เป็นที่น่าประหลาด<!-- google_ad_section_end -->

ตรงข้ามโบสถ์หลังจะเป็นที่ตั้งของ พระมหาธาตุเจดีย์พระจอมไทยบารมีประกาศ เป็นที่ประดิษฐสถานของพระธาตุ ของพระพุทธเจ้าที่นำมาจากศรีลังกา นำมาให้ชาวภูเก็ตได้สักการะกันภายในพระมหาธาตุเจดีย์ บนข้างฝาผนังจะมีรูปเขียนภาพจิตรกรรมตามพุทธประวัติ และ มีรูปปั้นพระพุทธรูปปางต่างๆภายในอุโบสถ์ตลอดทางขี้นไป

 

สาธุครับ

วันนี้พวกเราได้สมาชิกที่จะช่วยงานภัยพิบัติภาคใต้อีก ๑ คน เป็นจ่าทหารเรือ ชื่อ จ่ามาโนช ฯ อยู่หน่วยกู้ภัยที่พังงา อยู่มูลนิธิสยามร่วมใจ (กู้ภัยลำรู) ในวันที่ ๑- ๒ สิงหาคม ๒๕๕๒ ได้เรียนเชิญมาเสวนาและเตรียมการ วางแผนงานกัน
และจะทำหนังสือเชิญมูลนิธิ ในจังหวัดทางใต้มาร่วมรับฟัง ขอสาธุการกับพี่นาคา คุณธฏ, น้องมิกซ์ , คุณณานันท์ ฯ , พี่น้อย, คุณ ธนัทเทพฯ แม่ชีมินท์ธิตา ,น้องหูกาง และทุกท่านที่มีจิตเป็นสาธารณะที่จะช่วยให้คนรอดจากภัยพิบัติ
http://palungjit.org/threads/นักวิชาการสัมผัสพิเศษชี้-“อีก-3-ปีโลกนี้จะมีภัย”.190287/