ขอเชิญร่วมทำบุญสงเคราะห์พระภิกษุสงฆ์อาพาธ

ในห้อง 'ตลาด พระเครื่องเพื่อการกุศล' ตั้งกระทู้โดย พันวฤทธิ์, 29 พฤศจิกายน 2007.

  1. chaipat

    chaipat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2007
    โพสต์:
    1,282
    ค่าพลัง:
    +11,099
    7. รับศีล รับพรครับ

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    8. ภัตตาหารที่ร่วมกันถวายครับ

    [​IMG]

    9. ช่วยกันและร่วมกันถวายพระครับ

    [​IMG]

    สาธุครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • SDC10766.JPG
      SDC10766.JPG
      ขนาดไฟล์:
      93.2 KB
      เปิดดู:
      355
    • SDC10767.JPG
      SDC10767.JPG
      ขนาดไฟล์:
      106.7 KB
      เปิดดู:
      358
    • SDC10768.JPG
      SDC10768.JPG
      ขนาดไฟล์:
      120.7 KB
      เปิดดู:
      358
    • SDC10770.JPG
      SDC10770.JPG
      ขนาดไฟล์:
      113.5 KB
      เปิดดู:
      360
    • SDC10771.JPG
      SDC10771.JPG
      ขนาดไฟล์:
      101.9 KB
      เปิดดู:
      354
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มกราคม 2009
  2. chaipat

    chaipat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2007
    โพสต์:
    1,282
    ค่าพลัง:
    +11,099
    10. มีทั้งรุ่นจิ๋ว น้อยๆ สวดมนต์ไป ได้ยินแต่ ..................... นะมามิครับ

    [​IMG]

    รุ่นต่อมา

    [​IMG]

    รุ่นเกือบโต

    [​IMG]

    รุ่นพี่ๆ

    [​IMG]

    รุ่นผู้ใหญ่ๆ

    [​IMG]

    ภาพที่ท่านสมาชิกร่วมกันทำบุญมอบปัจจัยให้คณะกรรมการครับ

    [​IMG]

    สุดท้ายก็จ่ายค่าภัตตาหารครับ

    [​IMG]

    ข้อสังเกตจากการร่วมทำบุญครั้งนี้

    มีพระท่านอาพาธหนักหน่อยหลายท่านครับ

    ผมไม่ถ่ายรูปครับ เกรงว่าไม่เหมาะสม

    เกินบรรยาย บางรูปท่านทานอาหารเองไม่ได้ครับ

    เห็นคาตา ต้องมีโยมผู้ชายช่วยป้อนข้าว ป้อนน้ำให้ครับ


    ช่วงนี้อากาศหนาวนักครับ

    จะมีไหมครับ บุญผ้าห่มช่วงที่ 2 ครับ

    ที่นี่กรุงเทพครับ แล้วที่ต่างจังหวัดละครับ

    เกินบรรยายครับ

    ขอขอบพระคุณทุกท่าน ขออนุโมทนาทุกท่านที่ร่วมบุญ

    ช่วยกันคนเล็กคนน้อยในสังคมนี้

    เพื่อให้ทุกท่านสงบสุข มีจิตใจ ที่สุขใจครับ

    สาธุครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • SDC10775.JPG
      SDC10775.JPG
      ขนาดไฟล์:
      90 KB
      เปิดดู:
      347
    • SDC10777.JPG
      SDC10777.JPG
      ขนาดไฟล์:
      113.5 KB
      เปิดดู:
      347
    • SDC10780.JPG
      SDC10780.JPG
      ขนาดไฟล์:
      98.2 KB
      เปิดดู:
      346
    • SDC10779.JPG
      SDC10779.JPG
      ขนาดไฟล์:
      110.9 KB
      เปิดดู:
      353
    • SDC10781.JPG
      SDC10781.JPG
      ขนาดไฟล์:
      103.4 KB
      เปิดดู:
      352
    • SDC10782.JPG
      SDC10782.JPG
      ขนาดไฟล์:
      108.6 KB
      เปิดดู:
      337
    • SDC10783.JPG
      SDC10783.JPG
      ขนาดไฟล์:
      103.4 KB
      เปิดดู:
      342
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มกราคม 2009
  3. คีตา

    คีตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    665
    ค่าพลัง:
    +4,309
    [​IMG] สาธุ ขออนุโมทนากับทุกท่านด้วยครับ
     
  4. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,783
    ค่าพลัง:
    +16,097
    เห็นรูปทำบุญแล้วก็ขอโมทนาและสาธุบุญกับทุกท่านด้วยในการทำกิจกรรมประจำเดือนในวันนี้ พอดีวันนี้ต้องพาลูกสาวคนโตไปสอบเข้ามหาวิทยาลัย เลยอดไปร่วมงานด้วย แต่ได้ทำทางไว้แล้ว ตอนเที่ยงก็เลยได้ไปร่วมแจมกันต่อที่บ้านพี่ใหญ่อีกครึ่งวัน ได้ความรู้เพิ่มขึ้นมาอีกหลายกอง แต่ที่กำลังจะดำเนินการแน่ๆ คือ ธรรมะสัญจร เพราะอยากไปกราบพระพร้อมถวายสังฆทานและทำบุญเบ็ดเสร็จ เอ้า..แถมแจกพระแบบที่มีน้อยๆ ให้ด้วย ประเภทไปเช้าเย็นกลับหลังจากทำบุญประจำเดือนประมาณ 1 บัสเล็ก ตั้งเป้าแรกไว้ที่วัดป่าหลวงตาบัว ตีนเขาใหญ่ ไปกราบพระที่มีฤทธิ์เต็มภูมิสักครั้งหนึ่ง เอาฤกษ์เอาชัยก่อน คงถูกใจเป็นแน่แท้ สำหรับพวกชอบฤทธิ์ทั้งหลาย หารกันทั้งคัน ตามที่นั่ง บัสนึงสัก ยี่สิบที่นั่ง ใครเห็นด้วยยกมือขึ้น งานนี้นำโดยพี่ใหญ่ทองก้อน นำขบวนครับ ครอบครัวผมนะ 4 ที่นั่งแล้ว บัสนึง สัก 20 ที่นั่ง คุณโสระ คุณปุ๊ อีก 2 เหลืออีก 14 ที่นั่งเท่านั้นล่ะ ส่วนค่าอาหารแวะที่ไหนหารกัน ออกจาก รพ.สงฆ์สัก 10 โมง ถึงมวกเหล็กสัก เที่ยงๆ ทานข้าวซื้อของ บ่าย 2 ถึงวัด บ่ายสามครึ่งกลับมีเวลาก็แวะวัดอื่นบ้าง ถึงบ้านไม่เกินหกโมงเย็น

    พันวฤทธิ์
    18/1/52
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มกราคม 2009
  5. hongsanart

    hongsanart เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    1,332
    ค่าพลัง:
    +10,468
    อนุโมทนาสาธุกับทุกๆท่านค่ะ



    .
     
  6. channarong_wo

    channarong_wo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    408
    ค่าพลัง:
    +1,510
    เห็นรูปแล้วชื่นใจ ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านด้วยนะครับ...ต้องมีสักวัน ต้องมีสักวัน
    ที่ไปตามฝัน....โอกาสหน้า (ไหนไม่รุ ) ต้องขอไปด้วยนะครับ..ขอจองตั๋วด้วยคนครับ
     
  7. katicat

    katicat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2008
    โพสต์:
    1,112
    ค่าพลัง:
    +524
    แง!ไม่ว่างอีกแล้ว อยากไปด้วยค่ะ

    โมทนาบุญทุกท่านด้วยนะคะ ยังไงต้องได้ไปแน่ค่ะเหมือนคุณชาญณรงค์บอก
     
  8. tawatd

    tawatd เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    506
    ค่าพลัง:
    +2,020
    เมื่อ 15/10/09 ได้โอนเงิน 1,000 บาท ร่วมทำบุญกับ ศ.ทุนนิธิฯ
    จาก ธวัช และว่าที่ร้อยตรี คมกฤช ดวงพิกุล
    ขอโมทนาบุญกุศลของทุกๆคนด้วยครับ
     
  9. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,783
    ค่าพลัง:
    +16,097
    <TABLE height="95%" width="99%" align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top width="75%"><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=5 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE borderColor=white cellSpacing=0 cellPadding=3 width="100%" border=2><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><!--Last Update : 17 มิถุนายน 2551 12:53:18 น.-->พระพุทธประวัติ ตอนที่ ๙๓ | พระเจ้าสุทโธนะกราบทูลให้ไปโปรดพระนางพิมพาเทวี
    <!-- Main -->

    พระเจ้าสุทโธนะกราบทูล
    ให้ไปโปรดพระนางพิมพาเทวี

    เมื่อเสด็จเข้าไปฉันภัตตาหารในพระราชนิเวศน์ของพระเจ้าสุทโธทนะพุทธบิดา พระเจ้าสุทโธนะได้กราบทูลว่า
     
  10. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,783
    ค่าพลัง:
    +16,097
    จุดมุ่งหมายที่ถูกต้องในการทำบุญ
    การทำบุญให้ทาน เราต้องมีปัญญารู้ความพอดี เหมาะสมด้วย ให้ทำบุญตามกำลังความสามารถ แต่อย่าให้หลงมัวเมาในบุญมากนัก ไม่ใช่ทำจนตัวเองหมดเนื้อหมดตัวครอบครัวเดือดร้อน อย่าไปลุ่มหลงงมงายในคำโฆษณาชวนเชื่อให้มากนักว่า ถ้าทำบุญมากๆ แล้วจะได้รับผลตอบแทนมีโชคดีสารพัด จึงทำให้เกิดความโลภ อยากจะได้ไม่มีที่สิ้นสุด จิตใจจึงผิดปกติ ไม่สงบร่มเย็น จะเร่าร้อนอยากจะเห็นผลได้รับผลเร็วไว การทำบุญแบบนี้จึงหาความสุขไม่ได้ เพราะหวังผลประโยขน์ตอบแทนด้วยความอยากปรารถนาตามกิเลสความโลภที่เราอธิษฐานเอา ถ้ามันเป็ยจริงได้ตามที่เราขออธิฐาน ป่านฉะนี้ประชาชน พวกเราก็คงจะร่ำรวยโชคดีสุขสบาย กันทั้งประเทศทุกๆ คนหมดแล้ว
    การทำบุญที่ได้ผลประโยชน์ตอบแทนสูงสุด ได้มากที่สุดก็คือการเสียสละความยึดติดผูกพันในทรัพย์สินสิ่งของ จะทำให้ความอยากได้ความโลภของเราลดน้อยเบาบางลง จิตใจเราก้จะร่มเย็นเป็นสุขมีปิติใจ ที่เราได้ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ที่ตกทุกข์ได้ยาก ได้ช่วยให้สังคมมีความสามัคคีธรรมผาสุขใจ ได้ช่วยส่งเสริมให้ผู้ปฎิบัติดี ปฏิบัติชอบได้สืบทอดคำสอนธรรมะ แล้วนำมาแนะนำสั่งสอนให้เราได้พบแสงสว่างในชีวิต


    อย่าทำสมาธิอย่างเดียว
    บางคนคิดว่าต้องทำสมาธิอย่างเดียวให้มันสงบมากๆ ลึกๆ แล้วมันจะหมดกิเลสสำเร็จโดยอัตโนมัติ โดยที่เราไม่ต้องไปพิจารณานึกคิดอะไร จะคิดไม่ได้คิดแล้ววุ่นวาย จะต้องหลบเข้าสมาธิอย่างเดียวควาคิดแบบนี้ยังไม่ถูกต้อง
    สมาธิเป็นเพียงพื้นฐานของจิต เพื่อให้จิตมีฐานที่มั่นคง แข็งแรงมีรากฐานที่ดี เช่น การตอกเสาเข็มให้แน่นเพื่อก่อสร้างอะไร แล้วจะไม่ล้มจะแข็งแกร่งเพราะพื้นแน่น
    เราทำสมาธิเป็นครั้งคราวบางเวลาเท่านั้นเท่าที่เรามีเวลาว่างแต่ตามความจริงแล้ว ถ้าเรารู้จักการกำหนด ไม่ว่าทำงาน กิน ดื่ม คิด นึก เดิน นั่ง ทุกอิริยาบถ ให้มีสติกำหนดจดจ่ออยู่กับการกระทำนั้นๆ เราก็จะได้สมาธิตามธรรมชาติ เป็นการทำหน้าที่ของชีวิตได้ถูกต้อง จิตใจจะไม่วุ่นว่าย จะสงบได้ง่าย
    การทำสมาธิอย่างเดียว ยังไม่สามารถดับทุกข์ทางจิตได้ มันเป็นเพียงหลบปัญหาขณะหนึ่งเท่านั้นเอง พอออกจากสมาธิแล้วจะฟุ้งซ่านเหมือนเดิม จะต้องรู้จักใช้ปัญญาคิดเพื่อปล่อยวาง
    เราจะต้องมีปัญญาประกอบด้วย เมื่อจิตสงบแล้วต้องรู้จักนำเอาปัญหาชีวิต มาพิจารณาหาทางแก้ไข เราคิดอยู่ด้วยความสงบ จะไม่ทำให้จิตวุ่นเป็นทุกข์ เราคิดเพื่อที่จะปล่อยออกไป ผ่อนคลายออกไป คิดแล้วอย่าไปเก็บเอาไว้ในจิต
    ต้องรู้จักการเพ่งพินิจพิจารณาถึง การเกิด แก่ เจ็บ ตาย กฏจองพระไตรลักษณ์ ความไม่เที่ยงแท้แน่นอนไม่จีรังยั่งยืนของทุกสิ่งในชีวิต มันต้องเปลี่ยนแปลงเสมอให้รู้เท่าทัน



    มีความเห็น เป้าหมาย ให้ถูกต้อง
    การปฏิบัติธรรม อย่าไปอยาก ได้ ดี มี เป็นอะไรทั้งสิ้น ไม่ต้องการ ชื่อเสียง ให้คนมารุ้จักศรัทธา กราบไหว้ ไม่เอาผลประโยชน์ด้วยเจตนาหลอกลวงไม่บริสุทธิ์ ไม่อยากเป็นใหญ่ มีลูกศิษย์มากๆ เพื่อวังลาภ สักการะ ทรัพย์สินเงินทอง สิ่งเหล่านี้เป็นของสกปรก โสโครก เน่าเหม็น นำความเสื่อมทรามต่ำช้ามาให้ นักปฏิบัติจะต้องเตือนสติตัวเองเสมอๆ
    ความเห็นที่ถูกต้อง เพื่อลดละ ทิฏฐิ มานะ ความเห็นแก่ตัวเกื้อกูลช่วยเหลือเห็นใจผู้อื่น ต้องอ่อนน้อมถ่อมตนเห็นว่าธรรมะเท่านั้นที่จะนำพาชีวิตเราให้เป็นสุขในปัจจุบันและอนาคตได้
    มีเป้าหมาย เพื่อให้ความ โลภ โกรธ หลง ลดน้อยเบาบางลงไปเรื่อยๆ จนกระทั้งหมดไปจากจิตเรา เพื่อฝึกปฏิบัติเรียนรู้อาการพฤติกรรม ของจิตใจเรา จนสามารถรู้เท่าทันจิตทุกขณะ เพื่อฝึกให้เกิดปัญญา นำไปแก้ปัญหาชีวิต จนดับทุกข์ทางใจได้



    ถ้ายึดมั่นในศีล จะเพิ่มอัตตา
    การเคร่งครัดในศีลจนเกินความพอดี จะทำให้เกิดความรู้สึกว่าเราดีกว่าคนอื่น คนอื่นทำไม่ได้ จะยกตนข่มท่านจะอวดดี จะเห็นว่าคนอื่นสู้เราไม่ได้ ตัวเราจะฟู พองตัวมีทิฏฐิมานะมาก
    เรารักษาศีลเพื่อ เป็นกรอบ เกราะ ป้องกันไม่ให้เราทำอะไรไปในทางผิด ที่จะทำให้เราเดือนร้อน หรือ เบียดเบียนผู้อื่น ถ้าศีลดี จะทำให้เราเข้าสู่ความสงบได้ง่าย เพราะรารักษากาย วาจา ให้เป็นปกติ เรียบร้อย จิตใจจึงเป็นสมาธิได้ง่าย




    ขอขอบคุณ

    http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=chotiepanyo&group=1&page=2
     
  11. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,783
    ค่าพลัง:
    +16,097


    ขอขอบคุณและโมทนาในกุศลผลบุญที่ท่านได้บริจาคให้แก่พระภิกษุสงฆ์ผู้อาพาธในครั้งนี้ด้วยครับ

    พันวฤทธิ์
    19/1/52


    [​IMG]
     
  12. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,783
    ค่าพลัง:
    +16,097
    ความคิดเอาเองกับความเห็นจริงเพราะมีสติพิจารณาด้วยปัญญาไม่เหมือนกัน

    ความคิดเอาเองแม้บางทีอาจจะถูกต้องได้ แต่เป็นการบังเอิญ
    แต่ความเห็นจริงเพราะมีสติพิจารณาด้วยปัญญาจะถูกต้องเสมอ ไม่เป็นการบังเอิญ

    พระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงสอนให้ใช้สติ ใช้ปัญญาพิจารณาให้เห็นความจริงทุกอย่าง ไม่ได้สอนให้คิดเอาเอง พุทธศาสนิกผู้เครพในพระพุทธองค์ จึงควรต้องเคารพปฏิบัติตามที่ทรงสอนนี้ด้วย

    : สิ่งที่มีค่ากว่าเงินทอง
    :
    พระนิพนธ์ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
     
  13. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,783
    ค่าพลัง:
    +16,097
  14. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,783
    ค่าพลัง:
    +16,097
    [​IMG]

    บารมีต้องสร้างเอา
    เหมือนอยากให้มะม่วงของตนมีผลดก
    ก็ต้องหันมาหมั่นบำรุงรักษาเอา
    ไม่ใช่ไปแห่ไปชื่นชมต้นมะม่วงของคนอื่น
    ต้องไปปลูกไปบำรุงต้นมะม่วงของตนเอง
    การสร้างบารมีก็เช่นกัน
    ต้องสร้าง ต้องทำเอง

    : หลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ
    : เอกซเรย์สภาวธรรม พฤษภาคม ๒๕๔๘
     
  15. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,783
    ค่าพลัง:
    +16,097
    วันนี้ได้ดำเนินการโอนเงินบริจาคจากบัญชีทุนนิธิฯ โดยผ่านบัญชีธนาคารไปยัง รพ.ต่างๆ 4 รพ.(มหาราช จ.เชียงใหม่, แม่สอด จ.ตาก, ศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น, สงขลา จ.สงขลา) พร้อมทั้งไปรษณีย์ธนาณัติไปยัง 2 รพ.ที่เหลือคือ รพ.50 พรรษาฯ จ.อุบล และ รพ.สมเด็จพระยุพราช (ปัว) จ.น่าน เรียบร้อยแล้ว (สลิปการโอน และสำเนาธนาณัติรอส่งให้นายสติ สแกนขึ้นกระทู้อีกครั้งในภายหลัง) พร้อมกับเงินบริจาคสำหรับส่งพระกลับวัดจากที่ขอบริจาคมาเมื่อเดือน ธ.ค.51 จำนวนเงิน 6,000.- (รพ.ปัว และ รพ.แม่สอด) เรียบร้อยแล้วเช่นกัน พร้อมกับได้รับทราบเกี่ยวกับสภาพของการเข้ารับการรักษาของ รพ.ต่างๆ ดังนี้

    1. รพ. ปัว จ.น่าน
    ที่น่าน เวลานี้มีอากาศที่หนาวมาก ที่ รพ.มีพระที่ต้องนอนรักษาตัวอยู่ 1 รูป ผ้าห่มของ รพ.บางมาก จนท.หอสงฆ์จึงฉลองศรัทธาทุนนิธิฯ โดยการนำผ้าห่มที่ทุนนิธิฯ บริจาคเงินซื้อให้หอสงฆ์นำมาให้ท่านได้ห่มในระหว่างที่อยู่ใน รพ.ครับ

    2. ที่ รพ.ศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น นพ.สุขขชาติ ประธานกองทุนหลวงปู่เทสก์เล่าให้ฟังว่า อากาศหนาวพอประมาณ ที่ผ่านมามีพระมารักษาตัวด้วยโรคเรื้อรังหลายรายมาก เนื่องจากเป็น รพ.ศูนย์การแพทย์ของภาคอิสานตอนบน บางรูปก็รักษาหาย บางรูปก็มรณะภาพ พระบางรูปที่มรณะภาพ ทางญาติและทางวัดบางครั้งทุนทรัพย์น้อย กองทุนจึงต้องรับภาระเรื่องการส่งร่างท่านกลับวัดเพื่อนำไปฌาณปกิจ โดยการช่วยซื้อโลงศพ และช่วยค่าขนส่ง หรือบางครั้งหากยังไม่มรณะภาพแต่ต้องมารับการรักษาหลายครั้ง การเดินทาง การขบฉันลำบากบางครั้งด้วยความสงสารกองทุนเลยถวายค่ารถท่านไป-กลับ หรือค่าภัตตาหารต่างๆ เพื่อการรักษาจนกว่าจะหาย และบางครั้งอีกเช่นกัน ที่กองทุนมีปัญหาเรื่องเงินบริจาค ทำให้ต้องเรี่ยไรกันเฉพาะหน้าไปก่อน

    3. ที่ รพ.สงขลา ก็เกิดเหตุการณ์เดียวกันกับข้อ 2. เพราะพระท่านต้องเดินทางไกล บางครั้งต้องมาจากทาง อ.ระโนด อ.สะทิงพระ เดินทางไปกลับวันละ 60-70 กม. (รายละเอียดต้องถามทางคุณ hongsanat ที่เป็นคนในพื้นที่และเป็นผู้ที่มีจิตใจงดงามบริจาคเข้าทุนนิธิฯ มาทุกเดือน) และมีความขัดสนในเรื่องทุนทรัพย์ในการเดินทาง แต่เนื่องจากทาง รพ.ไม่มีกองทุนให้เพียงพอ เช่นตอนนี้มีแม่ชีต้องฉีดครีโม และต้องมาทำการรักษาแบบต่อเนื่องวันเว้นวัน ทำให้แม่ชีลำบากมาก


    จากตัวอย่างในข้อ 2 และ 3. วันนี้ผมจึงได้ปรึกษาพี่ใหญ่ที่เป็นรองประธานทุนนิธิฯ โดยมีความเห็นตรงกันว่า จะขออนุญาตแจ้งมายังท่านผู้บริจาคเงินเข้าทุนนิธิฯ ว่า ในคราวต่อไปในแต่ละเดือน ทุนนิธิฯ จะช่วยแบ่งเบาภาระให้แต่ละ รพ.เหล่านี้ (ในข้อ 2 และ 3) ตามรายการที่ผู้ดูแลในแต่ละ รพ.เห็นควรในวงเงินที่รวมกันไม่เกินเดือนละ 3,000.-บาท และจะเติมเต็มให้ทุกครั้งที่เงินในส่วนนี้ใกล้จะหมด แต่จะไม่โอนให้เป็นการประจำเหมือนเงินช่วยรักษาสงฆ์อาพาธที่ทุนนิธิฯ บริจาคให้เดือนละ 5,000.-ทุกๆ เดือน และการโอนเงินจำนวนนี้จะต้องเป็นการโอนเงินในบัญชีที่เฉพาะเจาะจงเป็นครั้งๆ ไปเท่านั้นเนื่องจากบางเดือนอาจไม่มีพระที่มรณะภาพเลย หรือหากมีพระมรณะภาพแต่ญาติและทางวัด มีกำลังศรัทธาญาติโยมสามารถจัดการในการเคลื่อนย้ายร่างท่านเหล่านั้นกลับไปยังวัดได้ก็ไม่อยู่ในข่ายที่ได้รับการช่วยเหลือ หรือบางครั้งในเดือนที่ไม่มีพระสงฆ์ท่านมีความขัดสนในเรื่องการเดินทาง ทั้งนี้ ทั้ง นพ.สุขขชาติ ประธานกองทุนของหลวงปู่เทสก์ของ รพ.ศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น และคุณศศิธร กรีโส ซึ่งเป็น จนท.ที่ดูแลการจัดการของมูลนิธิฯ ช่วยเหลือสงฆ์ของ รพ.สงขลา จ.สงขลา จะเป็นธุระในการสกรีน การช่วยเหลือดังกล่าวให้ทุนนิธิฯ ครับ

    ดังนั้น ผมจึงขอใช้โอกาสนี้ประชาสัมพันธ์มาเพื่อให้ทุกคนได้ทราบว่า เงินที่หามาด้วยหยาดเหงื่อทั้งแรงกาย แรงใจ และความสามารถของท่านนั้น จะถูกบริหารจัดการเพื่อช่วยสงเคราะห์แก่สงฆ์ที่อาพาธทั้งในเรื่องเวชภัณฑ์ การรักษา การเดินทาง และการขบฉัน ในขณะที่อาพาธ และที่ละสังขารไปแล้ว อย่างดีที่สุด ครับ หากใครอยากจะติดต่อกับทั้ง 2 ท่าน หรือต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมมากกว่านี้ ติดต่อเบอร์โทร.ตามนี้ครับ

    นพ.สุขขชาติ เกิดผล โทร.089-8414183
    คุณศศิธร กรีโส โทร.089-4642377


    พันวฤทธิ์
    19/1/52


    อันความกรุณาปราณี จะมีใครบังคับก็หาไม่
    หลั่งมาเองเหมือนฝนอันชื่นใจ จากฟากฟ้าสุราลัยสู่แดนดิน


    [​IMG]


     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 มกราคม 2009
  16. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,783
    ค่าพลัง:
    +16,097
    ท่านผู้มีความสามารถเป็นปฏิสัมภิทาญาณปฏิบัติได้แปลไว้ นึกได้หรือไม่ "ใครคือเดือนเด่นฟ้า" ปริศนานี้ หากรู้แล้วก็กราบท่านซะ ใครแข่งบุญกับท่านก็เป็นนกขมิ้นเหลืองอ่อน....เช่นนี้แล วาน kittycat ตอบพีที



    บรูพชนต้นตระกูลแผ่นดินสุวัณณภูมิ

    พุทธันดรที่ 1

    พระกกุสันโธพระสัมมาสัมพุทธเจ้าต้นภัทรกัปป์ อายุ 4,000 ปี ออกบรรพชา (มหาภิเนกษกรม) ปรินิพพาน อายุ 40,000 ปี

    บูรพชนต้นตระกูลไทย คือ ขุนสรวง และนางสาง เป็นที่มาของ ปรมัตถ์ว่า บวงสรวง เซ่นสรวง เซ่นไหว้ ชั้นกำเนิดมาจาก อาภัสสรพรหม

    ในกาลนั้น ชมพูทวีป มีชื่อว่า โสฬสนคร (16 นคร) ส่วนทางช่วงแหลมทอง มีชื่อว่า สุวรรณทวีป ก็คือ เมืองทอง นั่นเอง โสฬสนคร มีพระบรมโพธิสัตว์วิริยาธิกพุทธภูมิ ได้เกิดเป็นสมเด็จพระเจ้ามหาปนาทบรมจักรพรรดิราชาธิราช ทรงมีพระบรมเดชานุภาพ ตลอด 4 ทวีปคือ

    1. ชมพูทวีป คือ ทวีปเอเซียและยุโรป
    2. กาฬทวีป คือ ทวีปดำ คนอัฟริกา
    3. กัทมทวีป คือ ทวีปเทา คนออสเตรเลียชาวพื้นเมือง
    4. ปภัสสรทวีป ทวีปแสงแดด คือ อเมริกา และทวีปน้อย

    อีก 2,000 เป็นบริวาร ทรงมีสมบัติจักรพรรดิบรมจักร 1 คู่ คือ

    - สมบัติจักรพรรดิชุดบก หรือแผ่นดิน มีจักรพรรดินามมหาปนาทจักรพรรดิ ประจำอยู่ในคทาให_่ สถิต ณ เชิงรองซึ่งตั้งบน พานทองให_่
    - สมบัติจักรพรรดิชุดน้ำ หรือชุดทะเล มีจักรพรรดินามมหาสังขจักรพรรดิ ประจำอยู่ในสังข์ให_่ หรือ มหาสังข์สถิต ณ เชิงตั้ง บนพานทองให_่

    และ สัตตรัตนสมบัติ 7 ประการ นั้นคือ

    1. จักรรัตนะ จักรแก้ว
    2. หัตถิรัตนะ ช้างแก้ว
    3. อัสสรัตนะ ม้าแก้ว
    4. มณีรัตนะ มณีแก้ว
    5. อิตถีรัตนะ นางแก้ว
    6. คหปติรัคนะ ขุนคลังแก้ว
    7. ปรินายกรัตนะ ขุนพลแก้ว

    สมบัติจักรพรรดิ 2 ชุด ทั้งชุดบกและชุดน้ำ เป็นของคู่กัน ต่างมีปราสาทแก้ว ปราสาททอง หรือรัตนปราสาท พร้องทั้งรัตนะมณีล้ำค่าต่าง ๆ

    เมื่อพระกกุสันโธตรัสรู้เป็นสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เกิดมหัศจรรย์สั่นเทือนทั่วหมื่นโลกธาตุ (ซึ่งจะต้องเป็นเช่นนี้เพื่อให้ชาวโลกรับรู้ว่า "พระ" ได้บังเกิดขึ้นแล้วในโลก และพระราชาผู้ครองแคว้น นานาประเทศต้องมารับเอา "พระ" ไปเป็นสรณะ ตามที่บรรพกาลเหล่าพ_าสัตว์ขอ "พระ" มาปกครองสัตว์โลก) ทำให้คทาตกจากเชิงกระเด็น ลง ณ สันปราสาท แล้วลอยกลับขึ้นสถิต ณ เชิงตามเดิม ทำให้พระเจ้ามหาปนาททรงทราบด้วย_าณปั__าว่า มีพระพุทธเจ้าบังเกิดขึ้นในโลกแล้ว จึงสละราชสมบัติออกหาพระรัตนตรัย เข้าเฝ้าองค์พุทธที่ 1 ที่โสฬสนคร ขอบรรพชาเป็นพระภิกขุในศาสนาของพระองค์ และได้กระทำปรมัตถทานบารมีถวายเศียรของตนเป็นพุทธบูชา อธิษฐานด้วยผลศีลทานของพระองค์ ขอตรัสรู้เป็นพระสัพพั__ูสัมมาสัมพุทธเจ้าในอนาคตกาลภายภาคเบื้องหน้า ซึ่งพระองค์ได้รับพุทธพยากรณ์ว่า จะได้มาตรัสรู้ธรรมป็นพระสุมงคลสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นพระองค์ที่ 10 ในอีก 5 อสงไขย 4 แสนกัป (นับต่อจากพระกกุสันโธเป็นอันดับ 1)

    พุทธันดรที่ 2

    พระโกนาคมโนพุทธเจ้า อายุ 3,000 ปี ออกมหาภิเนกษกรมปรินิพพาน อายุ 30,000 ปี

    บุรพชนต้นตระกูลไทย คือ ขุนแถนเทียนฟ้าและนางสีทองงาม ครองเมืองชื่อ ลว้า เป็นที่มาของปรมัตถ์ว่า พระเคราะห์ กำเนิดพระเสื้อเมือง พระทรงเมือง หรือพระเทวาธิราช

    พุทธันดรที่ 3

    พระกัสสปะพุทธเจ้า อายุ 2,000 ปี ออกมหาภิเนกษกรมปรินิพพาน อายุ 20,000 ปี เมื่อ 5,000 ปี หลังเป็นปัจฉิมกาลของพระองค์ ทรงตั้งบทบั__ัติศีลพระวินัยขึ้น

    บูรพชนต้นตระกูลไทย คือ ขุนแผนเมืองฟ้า และนางห_ิงดวงขวั_ใจ ครองเมือง ลวไทย เป็นที่มาของปรมัตถ์ว่า แรกนาขวั_ มีแม่โพสพ เป็นจ้าวแม่ข้าว เกิดขุนต้น-แรกนา และขวั_ข้าว-แม่โพสพ กระทำทั้งพิธีบูชา และพิธีสังเวย มีไสยศาสตร์เกิดขึ้นมากมาย

    พุทธันดรที่ 4

    พระพุทธโคดมพระสัมมาสัมพุทธเจ้า องค์พุทธปัจจุบันกาล
    บูรพชนต้นตระกูลไทย คือ ขุนอินและนางกวักทองมา ครองเมืองแมน ประมาณ 8,000 ปีที่แล้ว กำเนิดปีอินขึ้นเป็นปีอินที่ 1 ก่อนพุทธศักราช 5,000 ปี ใช้ปีอินมาจนถึงสมัยขุนโลลาย กับขุนห_ิงโห่มาดี สร้างคุ้มทองขึ้น ตั้งชื่อเป็น "เมืองทอง" จึงหมด ปีอิน เป็นปีโล เมื่อปีโลได้ 1,100 ปี คือ ก่อนพุทธศักราช 80 ปี จึงกำเนิดแผ่นดิน สุวัณณภูมิตามปรมัตถ์จากเบื้องบนสู่แผ่นดินแห่งนี้

    เมื่อต้นขุนบูรพชนต้นตระกูลทราบว่า มีพระรัตนตรัยบังเกิดขึ้นแล้วในมัธยมประเทศ จึงออกเดินทางโดยทางเรือ เพื่อไปรับพระรัตนตรัยเป็นสรณะ มีพระเจ้าพิมพิสารพาเข้าเฝ้าพระพุทธโคดม พระพุทธองค์ทรงประทานนามให้ว่า "ขุนทับไทยทอง" เป็นจ้าวผู้ครองถิ่นแดนไท "สุวัณณภูมิ" เป็นชื่อเมืองทอง คนไทย เมื่อปีโล 1169 ปี พุทธพัสสาที่ 24 (ก่อน พ.ศ. 20 ปี) ทั้งยังได้กิ่งมหาโพธิ์ที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ธรรม มาปลูกในแผ่นดินสุวัณณภูมิ เมื่อวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 ก่อน พ.ศ. 19 ปี (ที่บ้านโพธิ์งามปัจจุบันนี้)

    จนถึง พ.ศ. 240-300 ตรงกับสมัยพระเจ้าโลกละว้า และพระนางก้านตาเทวี เป็นต้นรับพระพุทธศาสนาเถรวาทเข้าแผ่นดินสุวัณณภูมิ โดยพระเจ้าอโศกมหาราชส่งภิกขุ 5 องค์นำโดยพระโสณ และพระอุตตร ให้มาเผยแพร่ศาสนาในสุวัณณภูมิ

    พระเจ้าโลกละว้า มีลูกชื่อ ตะวันทับฟ้าขุนไทย สืบแผ่นดินต่อมา ตะวันทับฟ้าขุนไทย และพระนางสิริงามตัว ได้ให้กำเนิด "เดือนเด่นฟ้า" ครองสุวัณณภูมิต่อมาเมื่อ พ.ศ. 264

    พระโสณ ต้นผู้สืบอายุพุทธศาสนาในแผ่นดินสวัณณภูมิได้พยากรณ์ศาสนาในแผ่นดินสุวัณณภูมินี้ว่า

    พันปีที่ 1 พระอรหันต์ครบ
    พันปีที่ 2 พระอรหันต์แบบสุกขวิปัสสก
    พันปีที่ 3 พระอนาคามี
    พันปีที่ 4 พระสกิทาคามี
    พันปีที่ 5 พระโสดาบัน
    พันปีที่ 6 สิ้นพระอริยะ....จนถึง
    พันปีที่ 9 สิ้นพระภิกขุ (สามเณร)
    ครบหนึ่งหมื่นปี สิ้นพระพุทธศาสนา

    และพระโสณกับพระอุตตร เรียกหา ตะวัน ผู้พ่อ กับ เดือนเด่นฟ้า ผู้ลูก ให้จารเรื่องสุวัณณภูมินี้ไว้ในแผ่น กระเบื้อง เพื่อเป็นประวัติสืบภพชาติสืบไปภายภาคหน้า และว่า พ่อเดือนเด่นฟ้า จะกลับมาครองแผ่นดินอีกครั้ง ในสมัยแผ่นดินสุวัณณภูมิ ยุคกึ่งพุทธกาล พระพุทธศาสนาจะออกสู่เมืองคนขาว เมืองคนดำ ทั่วถึงเมืองคนมัว(เทา) พระพุทธศาสนาที่อยู่กับเมืองคนเหลืองจะเจริ_ทั่วโลก และแผ่นดินนี้จะรักษาพระพุทธศาสนาอยู่ได้ตลอดจนหมดพุทธกาลแล

    ผู้ที่สนใจเรื่องนี้หาอ่านได้จากหนังสือเรื่อง พุทธศาสนสุวรรณภูมิปกรณ์ ราชบุรีวัตถุกถา ตำนานเมืองขุนไทย
    ของเจ้าคุณพระราชกวี (อ่ำ) วัดโสมนัสวิหาร
     
  17. katicat

    katicat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2008
    โพสต์:
    1,112
    ค่าพลัง:
    +524
    สาธุ อนุโมทามิ ขอบพระคุณค่ะพี่เสือ เป็นพระองค์เดียวกันแท้แน่นอนค่ะ

    กัณฑ์ที่ ๕

    ( ภควา โภ สาริปุตฺต ติสฺสสฺส พุทฺธสฺส สาสนกาเล อติกฺกนฺเต ตตฺถ กปฺเป
    หตฺถีปาลิเลยฺโย อนาคเต สุมงฺคโล นาม พุทฺโธ ภวิสฺสตีติ อิมํ ธมฺมเทสนํ กเถสีติฯ )

    ( อนุสนธิ พระสัทธรรมเทศนา มีปุพพาปรสืบเนื่องมาโดยลำดับ บัดนี้จะได้วิสัชนา ในประวัติกาลแห่งองค์สมเด็จศรีสรรเพ็ชญ์สัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงพระนามว่า สุมงคลต่อไป ดำเนินความว่า )



    [FONT=AngsanaUPC, MS Sans Serif, Microsoft Sans Serif]พระสุมงคล (ช้างปาลิไลยกะ) [/FONT]


    ภควา อันว่าองค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าแห่งเรา ตรัสพระสัทธรรมเทศนาว่า เมื่อองค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าผู้ทรงพระนามว่า พระติสสะสัพพัญญูพุทธเจ้า เสด็จล่วงลับดับขันธ์เข้าสู่พระปรินิพพานสิ้นกาลช้านานแล้วฯ ในลำดับนั้น อันว่าช้างปาลิไลยหัตถีตัวรี้ก็เป็นพระบรมโพธิสัตว์สร้างพระบารมีมาเป็นอันมาก จักได้ตรัสเป็นสมเด็จพระพุทธเจ้าทรงพระนามว่าพระสุมงคลในอนาคตกาล พระสุมงคลทศพลญาณเจ้านั้น
    - มีพระองค์สูงได้ ๖๐ ศอก
    - พระชนมายุมีประมาณแสนปีเป็นกำหนด
    - ไม้กากะทิงเป็นพระศรีมหาโพธิ
    - ประดับด้วยพระพุทธรัศมีรุ่งเรืองสว่าง ดังสีทองเป็นอันงามประดุจกลางวัน
    - แล้วจะบังเกิดมีไม้กัลปพฤกษ์ต้นหนึ่ง ห้อยย้อยไปด้วยสิ่งของเครื่องประดับ มีประการต่างๆด้วยพระพุทธานุภาพ
    ฝูงมนุษย์ทั้งหลายในพระศาสนาของพระสุมงคล มิได้กระทำซึ่งกสิกรรม วาณิชกรรม ได้อาศัยซึ่งต้นกัลปพฤกษ์นั้น ประพฤติเลี้ยงชีวิตแห่งอาตมา มนุษย์ทั้งหลายมีความผาสุกสบาย ขวนขวายแต่การเล่นเต้นรำแต่งตัวอยู่เป็นนิจ เสมอเหมือนเทพบุตร เทพธิดา ซึ่งได้ทิพยสมบัติในสวรรค์เทวโลกฯ สมเด็จพระสุมงคลทศพลญาณเจ้า ก่อสร้างพระบารมีมาทั้ง ๑๐ ประการ จึงสำเร็จแก่พระพุทธสมบัติเห็นปานดังนี้ฯ อันว่ากองพระบารมีครั้งหนึ่ง พระองค์กระทำมาแต่ยังเป็นพระบรมโพธิสัตว์อยู่นั้น ปรากฏเป็นปรมัตถบารมีอันยิ่งยอดอย่างเอกอุดมทานฯ

    ดูก่อนสำแดงสารีบุตร แต่กาลก่อนล่วงลับไปแล้วช้านาน ช้างปาลิไลยตัวนี้เป็นพระบรมโพธิสัตว์ บังเกิดเป็นสมเด็จพระบรมจักรพรรตราธิราช ทรงพระนามว่าพระเจ้ามหาปนาทบรมจักร ในภัทรกัปป์อันนี้ และมีแก้ว ๗ ประการคือ
    - จักรแก้ว ๑
    - นางแก้ว ๑
    - แก้วมณีโชติ ๑
    - ช้างแก้ว ๑
    - ม้าแก้ว ๑
    - ปรินายกแก้ว ๑
    - คฤหบดีแก้ว ๑
    สมเด็จพระเจ้ามหาปนาทบรมจักร ได้เสวยศิริราชสมบัติอยู่ในทวีปทั้ง ๔ มีทวีปน้อย ๒ พันเป็นบริวาร พระองค์ทรงพระสำราญอบู่เป็นปรกติ มาจนถึงกาลสมเด็จพระกุกกุสันธสัมมาสัมพุทธเจ้าบังเกิดในโลก กาลครั้งนั้นสมเด็จพระเจ้ามหาปนาทบรมจักรได้ทรงทราบว่า สมเด็จพระพุทธเจ้าได้ตรัสในโลกแล้ว

    จึงตรัสประกาศสั่งจักรแก้วว่า ดูก่อนจักรแก้วผู้เจริญ ท่านจงไปยังท้องพระมหาสมุทรถือเอาซึ่งดวงแก้วมณีมาให้แก่เรา จักรแก้วนั้นก็ไปยังท้องพระมหาสมุทร ดุจดังว่ามีจิตวิญญาณ นำเอาแก้วมณีมาถวายฯ
    แล้วอยู่มาภายหลังพระองค์จึงตรัสสั่งช้างแก้วว่า ดูก่อนช้างแก้วผู้เจริญท่านจงไปที่ฉัตรทันต์สระ แล้วพาช้างแก้วมาให้แก่เราฯ ครั้งนั้นช้างแก้วก็เหาะไปยังฉัตรทันต์สระ พาเอาช้างชาติฉัตรทันต์ทั้งหลายประมาณ ๘ หมื่นมาถวายฯ
    แล้วพระองค์จึงสั่งกับม้าแก้วว่า ดูก่อนม้าแก้วผู้เจริญท่านจงไปยังท่าสินธพนที แล้วพาม้าแก้วทั้งหลายมาให้แก่เรา ม้าแก้วนั้นก็เหาะไปในอากาศ ถึงริมฝั่งสินธพนที แล้วพาม้าแก้วมาถวายฯ
    แล้วพระองค์จึงตรัสสั่งนางแก้วพระราชมเหสีนั้นว่า ภทฺเท ดูก่อนเจเาผู้มีพักตร์อันเจริญ เจ้าจงไปยังแว่นแคว้นอุดรกุรุทวีปพานางแก้วทั้งหลายมาให้แก่เราฯ ขณะนั้นนางแก้วผู้เป็นพระราชมเหสีก็เหาะไปยังอุดรกุรุทวีป พาเอานางแก้วทั้งหลายประมาณ ๘ หมื่นมาถวายฯ
    แล้วพระองค์จึงตรัสสั่งแก้วมณีโชติว่า ดูก่อนแก้วมณีโชติผู้เจริญ ท่านจงไปยังเขาวิบุลบรรพต นำเอาแก้วมณีมาให้แก่เราฯ อันว่าแก้วมณีโชติก็เลื่อนลอยไปยังเขาวิบุลบรรพตพาเอาแก้วมณีทั้งหลายประมาณ ๘ หมื่นดวงมาถวายฯ
    แล้วพระองค์ตรัสสั่งปรินายกขุนพลแก้วของพระองค์ว่า ดูก่อนปรินายกแก้วผู้เจริญ ท่านจงไปยังอุดรกุรุทวีป และอมรโคยานทวีป และบุพพวิเทหทวีป ทั้ง ๓ ถอดเอาดวงแก้วในยอดเขากัมพูฉัตรมาให้แก่เราฯ ฝ่ายขุนพลแก้วผู้เป็นปรินายกรับพระราชโองการแล้ว ก็เหาะไปยังทวีปทั้ง ๓ จึงถอดเอาดวงแก้วมณีที่ยอดเศวตฉัตรแห่งมหากษัตริย์ผู้เสวยศิริราชสมบัติในทวีปทั้ง ๓ มาถวายฯ
    แล้วพระองค์ก็ตรัสสั่งคฤหบดีแก้วผู้เป็นขุนคลังว่า ดูก่อนคฤหบดีแก้ว ท่านจงไปในโสฬสมหานครใหญ่ทั้ง ๑๖ เมืองนั้น นำเอาดวงแก้วมณีมาให้แก่เราฯ คฤหบดีแก้วก็เหาะไปในโสฬสมหานคร ครั้นถึงแล้วได้ทัศนาการเห็นสมเด็จพระพุทธกุกกุสนธสัมมาสัมพุทธเจ้า เสด็จยับยั้งอยู่ในพระวิหารในกาลนั้น คฤหบดีแก้วก็มิได้รู้จักซึ่งสมเด็จพระกุกกุสนธเจ้า ว่าเป็นองค์พระสัมมาสัมพุทโธ จึงเข้าไปยังสำนักกุกกุสนธเจ้าแล้วถามว่า มณว ดูก่อนมาณพผู้เจริญ ตัวท่านนี้มีนามชื่อไร จึงมีรูปโฉมงามบริสุทธิ์เป็นอันดีฯ

    ครั้งนั้นสมเด็จพระผู้ทรงพระภาคเจ้า จึงมีพระพุทธฎีกาตรัสว่า ดูก่อนคฤหบดีแก้ว เราหรือมีนามชื่อว่าพระศาสดาจารย์ คฤหบดีจึงถามอีกว่าฯ ดูก่อนมาณพผู้เจริญท่านมีนามชื่อว่าศาสดาจารย์ด้วยเหตุเป็นดังฤาฯ จึงทรงพระมหากรุณาตรัสว่า ดูก่อนคฤหบดีแก้ว เราชื่อพระศาสดาจารย์นั้นเพราะเหตุประกอบไปด้วยอาจริยคุณ ๓๑ ประการฯ คฤหบดีจึงถามว่า คุณ ๓๑ ประการแห่งท่านปรากฏเป็นประการใด จึงได้ชื่อว่าอาจริยคุณฯ สมเด็จพระกุกกุสนธเจ้าจึงตรัสว่า ดูก่อนคฤหบดีแก้ว คุณเป็นอาทิคือ อิติปิ โส ภควา นี่แหละเป็นคุณแห่งเรา ปรากฏกิตติศัพท์ไปทั่วโลก จึงมีนามว่า พระศาสดา จริยคุณทั้ง ๓๑ ประการฯ เมื่อคฤหบดีแก้วได้สดับพระพุทธวจนะดังนั้น จึงจารึกเอาพระ อิติปิ โส ภควา เป็นอาทิ ลงไว้ในแผ่นทองเป็นตัวอักษรเสร็จแล้ว จึงถามพระผู้ทรงพระภาคเจ้าว่า ดูก่อนมาณพผู้เจริญ ท่านรู้คุณวิเศษมีประมาณเท่านี้แลหรือ หรือว่าคุณวิเศษอย่างอื่นยังมีอยู่เป็นประการใดฯ จึงมีพระพุทธฎีกาตรัสว่าดูก่อนคฤหบดีแก้ว อันว่าคุณวิเศษอย่างอื่นแห่งเรามีอยู่เป็นอันมากฯ คฤหบดีแก้วก็ให้พระกุกกุสันธเจ้าแสดงต่อไปฯ สมเด็จพระพุทธเจ้าจึงตรัสพระสัทธรรมเทศนา ทรงแสดงซึ่งคุณในกายคตาสติกัมมัฏฐาน บอกอาการ ๓๒ มี เกศา โลมา เป็นอาทิ ให้แก่คฤหบดีแก้ว คฤหบดีแก้วก็จารึกพระรูปพระโฉมของสมเด็จพระกุกกุสนธเจ้าอันงาม พร้อมด้วยทวัตติงสมหาบุรุษลักษณะเป็นอันดีลงในแผ่นทอง แล้วจึงกำหนดพระองค์สูงประมาณ ๖๐ ศอก ลงในแผ่นทองทั้ง ๒ เสร็จแล้ว คฤหบดีแก้วก็เหาะนิวัตตนากลับมายังสำนักสมเด็จพระบรมจักรมหาปนาทถวายซึ่งแผ่นพระสุวรรณบัตร ให้ทอดพระเนตรพระรูปพระโฉมของสมเด็จพระกุกกุสนธเจ้า กับทั้งตัวอักษรที่จารึกพระพุทธคุณมานั้นฯ


    ฝ่ายสมเด็จพระบรมจักรมหาปนาททอดพระเนตรพระอักษร ซึ่งจารึกพระพุทธคุณในแผ่นพระสุวรรณบัตรนั้นฯ ทรงอ่านแล้วก็มิได้ทรงรู้จักว่าเป้นพระพุทธคุณจึงตรัสถามพราหมณ์ปุโรหิตว่า ดูก่อนท่านอาจารย์ อันว่าอักษรที่คฤหบดีจารึกมานั้น จะเป็นพระพุทธคุณจริงแลหรือประการใด ฝ่ายว่าพราหมณ์ปุรหิตนั้น เป็นผู้ทรงคุณวิชชาไสยศาสตร์ จึงกราบทูลว่า มหาราชข้าแต่พระองค์ผู้ประเสริฐอันว่าอักษรนี้เป็นคุณอันวิเศษแน่แล้ว เป็นยอดคุณทั้งปวงสิ้น ก็คุณวิเศษอย่างอื่นๆนั้นจะได้ยิ่งขึ้นไปกว่านี้หาบ่มิได้ อักษรนี้เป็นพระพุทธคุณเที่ยงแล้ว สมเด็จพระบรมจักรมหาปนาทำด้ทรงฟังพราหมณ์ปุโรหิตกราบทูลดังนั้น ก็ทรงพระโสมนัส ปิติ ปลาบปลื้มพระทัย สลบลงกับที่ฯ ครั้นพระองค์ฟื้นสมประดีแล้ว ตรัสถามพราหมณ์ปุโรหิตว่า ดูก่อนท่านอาจารย์ เราได้ฟังว่า คุณวิเศษนี้เป็นพระพุทธคุณจริงดังนั้นหรือประการใด ปุโรหิตก็กราบทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้ประเสริฐ อันว่าคุณวิเศษนี้ พระองค์อย่าได้สงสัยในพระกมลหฤทัยเลย เป็นพระพุทธคุณของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเที่ยงแท้แล้ว ครั้นได้ทรงสดับฟังพราหมณ์ปุโรหิตกราบทูลซ้ำอีกดังนั้น พระองค์ทรงปิติ ปลื้มพระทัย สลบลงอีกครั้งหนึ่งเป็นคำรบ ๒ แล้วพระองค์ก็ฟื้นขึ้น จึงตรัสถามปุโรหิตอีกว่ารูปภาพที่คฤหบดีแก้ววาดเขียนมานี้ เป็นอย่างพระพุทธรูปจริงหรือประการใด ปุโรหิตก็กราบทูลว่าพระรูปพระโฉมที่คฤหบดีแก้ววาดเขียนมานี้ คือ พระรูปพระโฉมของสมเด็จพระพุทธเจ้าเที่ยงแท้ พระองค์อย่าได้สงสัยเลยฯ สมเด็จพระบรมจักรมหาปนาทได้ทรงฟังว่าเป็นพระพุทธรูปของสมเด็จพระพุทธเจ้าจริงแน่ ก็สลบสิ้นสติสมปฤดีไปอีกครั้งหนึ่งเป็นคำรบ ๓ ฯ

    ครั้นได้พระสติขึ้นมา จึงตรัสแก่คฤหบดีแก้วว่า บัดนี้เราได้ฟังประพฤติเหตุแห่งสมเด็จพระพุทธเจ้าอันเป็นดวงแก้วหาค่ามิได้ เพราะเหตุตัวของท่านอันเราใช้ไป เครื่องสักการบูชาสิ่งอื่นหาควรจะกระทำสักการบูชาแก่ท่านไม่ ด้วยท่านมีความชอบครั้งนี้แก่เราเป็นที่สุด เราจะยกสมบัติจักรพรรดิอันยิ่งในมนุษย์โลกนี้ กระทำสักการบูชาแก่ตัวท่าน ตรัสประภาษสรรเสริญคฤหบดีแก้วดังนี้แล้ว จึงอภิเษกคฤหบดีแก้วให้เสวยศิริราชสมบัติจักรวรรดิยศ ยกให้เป็นบำเหน็จความชอบแก่คฤหบดีแก้ว ในครั้งนั้นคฤหบดีแก้วก็ตั้งอยู่ในศิริราชสมบัติบรมจักร เสวยอิสริยยศสมบัติสืบต่อไปฯ

    ส่วนสมเด็จพระบรมจักรมหาปนาทนั้นแต่พระองค์เดียว ก็เสด็จบทจรไต่เต้าไปตามมรรคาหนทางโดยทิศาภาค ในที่สถิตแห่งสมเด็จพระบรมครูกุกกุสนธเจ้านั้นฯ ครั้นไปถึงมหานิโครธไทรใหญ่ต้นหนึ่ง ก็ทรงประทับนั่งอาศัยอยู่ใต้ต้นไทรนั้นพอหายเหนื่อยเป็นอันดีแล้ว ก็ยกอัญชลีประนมถวายนมัสการลงด้วยเบญจางคประดิษฐ์อันได้สดับว่าสมเด็จพระพุทธเจ้าอยู่ตรงนี้ ทรงกระทำอธิษฐานปรารถนาว่า ข้าแต่พระองค์ผู้ทรงพระภาคเป็นอันงาม ความปิติโสมนัสแห่งข้าพระพุทธเจ้าบังเกิดมีในพระองค์แล้ว ด้วยเดชะความสัตยืนี้ขอให้เครื่องอัฏฐบริขาร ๘ ประการ อันเป็นทรัพย์มรดกแห่งพระภิกษุสงฆ์ จงเลื่อนลอยมายังสำนักแห่งข้าพระพุทธเจ้า ครั้งนั้นสมเด็จพระกุกกุสนธสัพพัญญูทรงทราบวาระน้ำจิตแห่งบรมจักรมหาปนาท ปรารถนาจะบรรพชาบวชในพระพุทธศาสนา จึงมีพระพุทธฎีกาตรัสว่า ดูก่อนอัฏฐบริขาร ๘ ประการ บัดนี้บุคคลมีชื่อโน้น ปรารถนาจะทรงบรรพชา ท่านจงไปยังสำนักแห่งบุคคลผู้นั้นเถิดฯ ขณะนั้นเครื่องอัฏฐบริขารทั้ง ๘ ประการ ก็ลอยมาตกลงตรงพระพักตร์แห่งสมเด็จพระเจ้ามหาปนาทด้วยพุทธานุภาพฯ

    ครั้นสมเด็จพระบรมจักรมหาปนาท ทรงเห็นเครื่องอัฏฐบริขาร ๘ ประการพร้อมแล้ว ด้วยพระเดชานุภาพแห่งสมเด็จพระพุทธเจ้าเป็นอัศจรรย์ยิ่งนัก ก็ทรงยกเครื่องอัฏฐบริขารขึ้นทูนเหนือพระเศียรเกล้าแล้วออกพระวาจาว่า ดูก่อนอัฏฐบริขาร ๘ ประการผู้เจริญ เราอาศัยซึ่งท่านจักใคร่ออกจากสังสารทุกข์ ให้ได้พบเห็นพระนิพพานอันประเสริฐสุดโลกวิสัย ตรัสเท่านั้นแล้วก็เปลื้องเครื่องราชอาภรณ์ของพระองค์ออกจากพระสรีรกาย ทรงสบง จีวร สังฆาฏิ คาดกายพันมั่นคง ทรงบรรพชาเป็นพระภิกษุภาวะเสร็จแล้ว จึงเอาพระมงกุฎแก้ววางลงในฝ่าพระหัตถ์ตรัสว่า ดูก่อนมงกุฏแก้ว ท่านจงไปยังสำนักแห่งสมเด็จพระพุทธเจ้า กราบทูลแจ้งประพฤติเหตุข่าวศาสน์แก่พระองค์ว่า บัดนี้พระเจ้ามหาปนาทบรมจักร เสียสละศิริราชสมบัติออกทรงบรรพชาในพระพุทธศาสนาแล้ว มีความปรารถนาเพื่อจะมายังสำนักสมเด็จพระทศพลญาณ ท่านจงไปกราบทูลศาสน์แด่องค์สมเด็จพระพุทธองค์ด้วยประการดังนี้ฯ พระองค์ทรงพระอธิษฐานฉะนี้แล้ว มงกุฏแก้วก็ลอยเลื่อนไปในอากาศเวหาประดุจว่าพระยาสุวรรณราชหงส์ลงยังสำนักแห่งสมเด็จพระพุทธเจ้า ตั้งอยู่แทบฝ่าพระบาท กราบทูลประพฤติเหตุดังนั้นแก่สมเด็จพระกุกกุสนธ ประดุจดังว่ามีจิตวิญญาณ สมเด็จพระบรมโลกุตตมาจารย์ก็มีพระพุทธฎีการับว่าสาธุฯ

    ลำดับนั้นพระยามหาปนาทซึ่งทรงเพศเป็นภิกษุ ก็เที่ยวโคจรบิณฑบาตไปตามบ้าน ได้อาหารพอเป็นยาปนมัตต์ บริโภคสำเร็จแล้วก็เจริญพระกัมมัฏฐานอยู่ในที่อันสมควร พิจารณาซึ่งพระพุทธคุณมีพระ อิติปิ โส ภควา เป็นอาทิ และพระกายคตาสติกัมมัฏฐาน มีเกศาเป็นต้น เจริญไปด้วยความอุตสาหะดังนั้น ยังโลกียฌานให้บังเกิดขึ้นในขณะนั้นแล้วเหาะไปโดยอากาศเวหาถึงสำนักสมเด็จพระพุทธเจ้า ได้ทัศนาการพระรูปพระโฉมของสมเด็จพระกุกกุสนธ อันประดับไปด้วยพระทวัตติงสมหาบุรุษลักษณะ และพระอสีตยานุพยัญชนลักษณะ งามบริบูรณ์พร้อมทุกประการ ก็บังเกิดความปิติเต็มตื้นซาบทั่วสรรพางค์ ตลอดสิ้นสกลกายก็สลบลงในที่นั้น สมเด็จพระภควันตบพิตรเจ้าก็ทรงเอาอุทกวารีมาประพรมลงเหนือพระอุระ ก็ฟื้นสมปฤดีขึ้นมา แล้วถวายนมัสการกราบลงด้วยเบญจางคประดิษฐ์แทบพระบาท กราบทูลอาราธนาให้สมเด็จพระพุทธองค์ทรงประทานพระสัทธรรมเทศนาฯ

    ครั้งนั้นสมเด็จพระกุกกุสนธบรมทศพลญาณ ก็ทรงประทานพระสัทธรรมเทศนาว่า ดูก่อนภิกษุ ท่านจงพิจารณาซึ่งสภาวธรรมที่จะนำตนไปสู่พระนิพพานเถิด มีพระพุทธบรรหารตรัสดังนี้ ฝ่ายพระเจ้ามหาปนาทบรมพุทธางกูรได้ทรงสดับกระแสพระพุทธฎีกาตรัสเป็นนัย ดังนั้นพระองค์ก็มีปิติซาบซ่านทั่วสกลกาย จึงทรงพระอธิษฐานเด็ดพระเศียรเกล้าด้วยเล็บของพระองค์ ทรงกระทำสักการบูชาแทบพระบาทมูลแห่งพระผู้มีพระภาคเจ้า ฝ่ายพระเศียรเกล้านั้นจึงกราบทูลพระกรุณาว่า ภนเต ภควา ข้าแต่พระองค์ผู้ทรงพระภาคเจ้า พระองค์ได้โปรดฝูงสัตว์ทั้งหลายก่อนข้าพระบาท ข้าพระบาทก็มีความปรารถนาเป็นเป็นพระพุทธเจ้าเมื่อภายหลัง ด้วยผลศีลทานของข้าพระบาทในครั้งนี้ ขอเชิญองค์อัครมุนีผู้ทรงพระภาคเจ้าจงเสด็จเข้าสู่พระนิพพานก่อนข้าพระบาทเถิด ข้าพระบาทขอตามเสด็จพระพุทธองค์เจ้าเข้าสู่พระนิพพานต่อภายหลัง พอขาดคำลงแล้วพระเจ้ามหาปนาทก็ดับขันธ์สิ้นชีวิตอินทรีย์ ไปบังเกิดในดุสิตาสวรรค์ เสวยทิพยศิริสมบัติเป็นสุขสถาพร ไปในอนาคตกาลเบื้องหน้า จะได้ตรัสเป็นองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงพระนามว่าพระสุมงคลฯ

    ดูก่อนสำแดงสารีบุตร ฝูงสัตว์ทั้งหลายไม่ได้มรรคและผลธรรมวิเศษในศาสนาพระพุทธเจ้าทั้งหลายมีพระตถาคตเป็นต้น มีพระติสสะเป็นปริโยสานแล้ว ก็ให้มหาชนปรารถนาไปให้พบเห็นพระศาสนาช้างปาลิไลยหัตถี ที่ได้เป็นพระบรมจักรมหาปนาทนี้ ซึ่งจะได้ตรัสเป็นองค์สมเด็จพระพุทธเจ้าในอนาคตกาลทรงพระนามว่า พระสุมงคลสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น จะได้มรรคและผลธรรมอันวิเศษสิ้นสังสารทุกข์ทั้งปวง เข้าสู่พระอมตะมหานครนิพพานฯ แสดงมาด้วยเรื่องราวช้างปาลิไลยหัตถีบรมโพธิสัตว์เป็นคำรบ ๑๐ ก็สิ้นความยุติแต่เพียงนี้ฯ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 มกราคม 2009
  18. kratium

    kratium เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2007
    โพสต์:
    484
    ค่าพลัง:
    +3,670
    คราวนี้ส่งเงินไปทำบุญทัน เมื่อวันที่ 18 /1/52 17.02 น. โอนเงินร่วมบุญ 500 บาทค่ะ ถึงแม้จะ post ช้าไปนิดนึงก็เถอะ เห็นรูปงานบุญแล้ว รู้สึกดีจัง ขอร่วมอนุโมทนา สาธุ กับทุกท่านค่ะ
     
  19. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,783
    ค่าพลัง:
    +16,097
    ต้นทางหนังสือ


    [​IMG]


    บางส่วนในความพิสดารของหนังสือนี้ พร้อมสาทก "เดือนเด่นฟ้า" หาอ่านได้ใน

    http://www.watthummuangna.com/board/showthread.php?p=48053
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 มกราคม 2009
  20. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,783
    ค่าพลัง:
    +16,097
    ตามทางหนังสือ

    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=5 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle>พุทธสาสนสุวัณณภูมิปกรณ ของ พระราชกวี (อ่ำ ธมฺมทตฺโต ป.ธ.๖)

    </TD></TR><TR><TD vAlign=top><TABLE align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=middle>[​IMG]
    P9045115.JPG
    </TD><TD vAlign=bottom align=middle>[​IMG]
    P9045116.JPG
    </TD><TD vAlign=bottom align=middle>[​IMG]
    P9045118.JPG
    </TD><TD vAlign=bottom align=middle>[​IMG]
    P9045119.JPG
    </TD><TD vAlign=bottom align=middle>[​IMG]
    P9045120.JPG
    </TD></TR><TR><TD vAlign=bottom align=middle>[​IMG]
    P9045121.JPG
    </TD><TD vAlign=bottom align=middle>[​IMG]
    P9045122.JPG
    </TD><TD vAlign=bottom align=middle>[​IMG]
    P9045123.JPG
    </TD><TD vAlign=bottom align=middle>[​IMG]
    P9045124.JPG
    </TD><TD vAlign=bottom align=middle>[​IMG]
    P9045125.JPG
    </TD></TR><TR><TD vAlign=bottom align=middle>[​IMG]
    P9045126.JPG
    </TD><TD vAlign=bottom align=middle>[​IMG]
    P9045127.JPG
    </TD><TD vAlign=bottom align=middle>[​IMG]
    P9045128.JPG
    </TD><TD vAlign=bottom align=middle>[​IMG]
    P9045129.JPG
    </TD><TD vAlign=bottom align=middle>[​IMG]
    P9045130.JPG
    </TD></TR><TR><TD vAlign=bottom align=middle>[​IMG]
    P9045131.JPG
    </TD><TD vAlign=bottom align=middle>[​IMG]
    P9045132.JPG
    </TD><TD vAlign=bottom align=middle>[​IMG]
    P9045133.JPG
    </TD><TD vAlign=bottom align=middle>[​IMG]
    P9045134.JPG
    </TD><TD vAlign=bottom align=middle>[​IMG]
    P9045135.JPG
    </TD></TR><TR><TD vAlign=bottom align=middle>[​IMG]
    P9045136.JPG
    </TD><TD vAlign=bottom align=middle>[​IMG]
    P9045137.JPG
    </TD><TD vAlign=bottom align=middle>[​IMG]
    P9045138.JPG
    </TD><TD vAlign=bottom align=middle>[​IMG]
    P9045139.JPG
    </TD><TD vAlign=bottom align=middle>[​IMG]
    P9045140.JPG
    </TD></TR><TR><TD vAlign=bottom align=middle>[​IMG]
    P9045141.JPG
    </TD><TD vAlign=bottom align=middle>[​IMG]
    P9045142.JPG
    </TD><TD vAlign=bottom align=middle>[​IMG]
    P9045143.JPG
    </TD><TD vAlign=bottom align=middle>[​IMG]
    P9045144.JPG
    </TD><TD vAlign=bottom align=middle>[​IMG]
    P9045145.JPG
    </TD></TR><TR><TD vAlign=bottom align=middle>[​IMG]
    P9045146.JPG
    </TD><TD vAlign=bottom align=middle>[​IMG]
    P9045147.JPG
    </TD><TD vAlign=bottom align=middle>[​IMG]
    P9045148.JPG
    </TD><TD vAlign=bottom align=middle>[​IMG]
    P9045149.JPG
    </TD><TD vAlign=bottom align=middle>[​IMG]
    P9045150.JPG
    </TD></TR><TR><TD vAlign=bottom align=middle>[​IMG]
    P9045151.JPG
    </TD><TD vAlign=bottom align=middle>[​IMG]
    P9045152.JPG
    </TD><TD vAlign=bottom align=middle>[​IMG]
    P9045153.JPG
    </TD><TD vAlign=bottom align=middle>[​IMG]
    P9045154.JPG
    </TD><TD vAlign=bottom align=middle>[​IMG]
    P9045155.JPG
    </TD></TR><TR><TD vAlign=bottom align=middle>[​IMG]
    P9045156.JPG
    </TD><TD vAlign=bottom align=middle>[​IMG]
    P9045157.JPG
    </TD><TD vAlign=bottom align=middle>[​IMG]
    P9045158.JPG
    </TD><TD vAlign=bottom align=middle>[​IMG]
    P9045159.JPG
    </TD><TD vAlign=bottom align=middle>[​IMG]
    P9045160.JPG
    </TD></TR><TR><TD vAlign=bottom align=middle>[​IMG]
    P9045161.JPG
    </TD><TD vAlign=bottom align=middle>[​IMG]
    P9045162.JPG
    </TD><TD vAlign=bottom align=middle>[​IMG]
    P9045163.JPG
    </TD><TD vAlign=bottom align=middle>[​IMG]
    P9045164.JPG
    </TD><TD vAlign=bottom align=middle>[​IMG]
    P9045165.JPG
    </TD></TR><TR><TD vAlign=bottom align=middle>[​IMG]
    P9045166.JPG
    </TD><TD vAlign=bottom align=middle>[​IMG]
    P9045167.JPG
    </TD><TD vAlign=bottom align=middle>[​IMG]
    P9045168.JPG
    </TD><TD vAlign=bottom align=middle>[​IMG]
    P9045169.JPG
    </TD><TD vAlign=bottom align=middle>[​IMG]
    P9045170.JPG
    </TD></TR><TR><TD vAlign=bottom align=middle>[​IMG]
    P9045171.JPG
    </TD><TD vAlign=bottom align=middle>[​IMG]
    P9045172.JPG
    </TD><TD vAlign=bottom align=middle>[​IMG]
    P9045173.JPG
    </TD><TD vAlign=bottom align=middle>[​IMG]
    P9045174.JPG
    </TD><TD vAlign=bottom align=middle>[​IMG]
    P9045175.JPG
    </TD></TR><TR><TD vAlign=bottom align=middle>[​IMG]
    P9045176.JPG
    </TD><TD vAlign=bottom align=middle>[​IMG]
    P9045177.JPG
    </TD><TD vAlign=bottom align=middle>[​IMG]
    P9045178.JPG
    </TD><TD vAlign=bottom align=middle>[​IMG]
    P9045179.JPG
    </TD><TD vAlign=bottom align=middle>[​IMG]
    P9045180.JPG
    </TD></TR><TR><TD vAlign=bottom align=middle>[​IMG]
    P9045181.JPG
    </TD><TD vAlign=bottom align=middle>[​IMG]
    P9045182.JPG
    </TD><TD vAlign=bottom align=middle>[​IMG]
    P9045183.JPG
    </TD><TD vAlign=bottom align=middle>[​IMG]
    P9045184.JPG
    </TD><TD vAlign=bottom align=middle>[​IMG]
    P9045185.JPG
    </TD></TR><TR><TD vAlign=bottom align=middle>[​IMG]
    P9045186.JPG
    </TD><TD vAlign=bottom align=middle>[​IMG]
    P9045187.JPG
    </TD><TD vAlign=bottom align=middle>[​IMG]
    P9045188.JPG
    </TD><TD vAlign=bottom align=middle>[​IMG]
    P9045189.JPG
    </TD><TD vAlign=bottom align=middle>[​IMG]
    P9045190.JPG
    </TD></TR><TR><TD vAlign=bottom align=middle>[​IMG]
    P9045191.JPG
    </TD><TD vAlign=bottom align=middle>[​IMG]
    P9045192.JPG
    </TD><TD vAlign=bottom align=middle>[​IMG]
    P9045193.JPG
    </TD><TD vAlign=bottom align=middle>[​IMG]
    P9045194.JPG
    </TD><TD vAlign=bottom align=middle>[​IMG]
    P9045195.JPG
    </TD></TR><TR><TD vAlign=bottom align=middle>[​IMG]
    P9045196.JPG
    </TD><TD vAlign=bottom align=middle>[​IMG]
    P9045197.JPG
    </TD><TD vAlign=bottom align=middle>[​IMG]
    P9045198.JPG
    </TD><TD vAlign=bottom align=middle>[​IMG]
    P9045199.JPG
    </TD><TD vAlign=bottom align=middle>[​IMG]
    P9045200.JPG
    </TD></TR><TR><TD vAlign=bottom align=middle>[​IMG]
    P9045201.JPG
    </TD><TD vAlign=bottom align=middle>[​IMG]
    P9045202.JPG
    </TD><TD vAlign=bottom align=middle>[​IMG]
    P9045203.JPG
    </TD><TD vAlign=bottom align=middle>[​IMG]
    P9045204.JPG
    </TD><TD vAlign=bottom align=middle>[​IMG]
    P9045205.JPG
    </TD></TR><TR><TD vAlign=bottom align=middle>[​IMG]
    P9045206.JPG
    </TD><TD vAlign=bottom align=middle>[​IMG]
    P9045207.JPG
    </TD><TD vAlign=bottom align=middle>[​IMG]
    P9045208.JPG
    </TD><TD vAlign=bottom align=middle>[​IMG]
    P9045209.JPG
    </TD><TD vAlign=bottom align=middle>[​IMG]
    P9045210.JPG
    </TD></TR><TR><TD vAlign=bottom align=middle>[​IMG]
    P9045211.JPG
    </TD><TD vAlign=bottom align=middle>[​IMG]
    P9045212.JPG
    </TD><TD vAlign=bottom align=middle>[​IMG]
    P9045213.JPG
    </TD><TD vAlign=bottom align=middle>[​IMG]
    P9045214.JPG
    </TD><TD vAlign=bottom align=middle>[​IMG]
    P9045215.JPG
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     

แชร์หน้านี้

Loading...