ขอเชิญร่วมทำบุญสงเคราะห์พระภิกษุสงฆ์อาพาธ

ในห้อง 'ตลาด พระเครื่องเพื่อการกุศล' ตั้งกระทู้โดย พันวฤทธิ์, 29 พฤศจิกายน 2007.

  1. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,783
    ค่าพลัง:
    +16,097

    สาธุบุญด้วยจ๊ะ ยังนึกถึงอยู่ ว่าได้เลขที่บัญชีตอนโทร.มา แล้วหายเงียบไปเลย อย่างงในเรื่องที่ลงข้างต้น ในหนังสือนี้เป็นต้นทางของพุทธศาสนาในชาติไทยของเรา ต้นทางบรรพบุรุษของเรา ท่านที่กล่าวถึงในเรื่องนี้ บางท่านได้กลับชาติมาเกิดแล้วในปัจจุบัน อย่างท่าน "เดือนเด่นฟ้า" เรื่องนี้ถูกกล่าวไว้และถูกบันทึกไว้เมื่อ 2 พันปีมาแล้ว ท่านเจ้าคุณฯ ท่านมีความรู้พิเศษเหนือมนุษย์เพราะท่านปรารถนาพุทธภูมิ จึงแปลภาษาได้อย่างรู้แจ้งแทงตลอด น่าอ่าน น่าศึกษามาก อย่างที่ลงเป็นตัวอย่างให้ดูนั่นละ ขี้เกียจพูดมาก ยังไงก็อย่าลืมมาร่วมกันทำบุญทุกเดือนเน้อ...เพราะละกันไป เดี๋ยวก็จะได้มาเจอกันอีก

    พี่เสือ
    20/1/52
     
  2. nathaphat

    nathaphat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    182
    ค่าพลัง:
    +750
    วันนี้ร่วมโอนเงินทำบุญ 200 บาทครับ โอน 20/01/09 11.54 TMB T002B157 SCHQ SuBBR ADM จาก TMBA2047049

    อนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านครับ
    ขอบคุณครับ
     
  3. ไชยชุมพล

    ไชยชุมพล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    246
    ค่าพลัง:
    +1,873
    วันนี้ผมและคณะได้ร่วมทำบุญกับทุนนิธิฯ จำนวน1200บาทจากตู้เอทีเอ็ม ธ.กรุงไทย เวลา 13:20 น. ครับ ขออนุโมทนากับทุกๆ ท่านด้วยครับ
     
  4. aries2947

    aries2947 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    2,031
    ค่าพลัง:
    +11,622
    ส่วนของผมไม่ต้องกังวลใจไปนะครับ
    ทำความดีอย่ากังวลเลยนะครับ
    โมทนาบุญด้วยครับ
    เอ
     
  5. aries2947

    aries2947 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    2,031
    ค่าพลัง:
    +11,622
    [​IMG] สาธุ ขออนุโมทนากับทุกท่านด้วยครับ
    ขอให้มีโอกาสไปร่วมสักทีเถอะครับ สาธุๆๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 มกราคม 2009
  6. aries2947

    aries2947 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    2,031
    ค่าพลัง:
    +11,622
    โมทนาบุญล่วงหน้านะครับ
    จะไปกันวันไหนครับ
    ผมจะขอตามไปด้วยครับ แต่ต้องเช็ควันหน่อยครับ
    เพราะช่วงนี้วุ่นทั้งเรียนทั้ง.......ครับ
     
  7. aries2947

    aries2947 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    2,031
    ค่าพลัง:
    +11,622
    [​IMG] สาธุ ขออนุโมทนาบุญด้วยครับ
     
  8. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,783
    ค่าพลัง:
    +16,097
    จิตที่มีความสงบ มีความบริสุทธิ์ก็ด้วยมีศีลเป็นที่รองรับ หรือเป็นพื้น ท่านจึงเปรียบศีลเป็นเช่นแผ่นดิน อันเป็นที่ดำรงอยู่ของสรรพสัตว์ในโลก และของสิ่งทั้งปวง แม้ปราศจากศีลเป็นแผ่นดินรองรับ กุศลธรรมก็ตั้งขึ้นไม่ได้ ตั้งอยู่ไม่ได้

    ต้องมีศีลเป็นแผ่นดินรองรับ กุศลธรรมทั้งหลายจึงจะตั้งขึ้นได้ นอกจากศีล ความบริสุทธิ์ของจิตต้องมีสมาธิเป็นส่วนสำคัญ เพราะสมาธิจักทำให้จิตบริสุทธิ์จากนิวรณ์ทั้งหลาย ความบริสุทธิ์จากนิวรณ์นั้นเป็นบาทของปัญญา

    เปรียบกับทางร่างกาย สมาธิเป็นส่วนเท้า อันเป็นที่ตั้งของลำตัวและศีรษะ
    ฉะนั้นจึงต้องมีสมาธิเป็นเท้าหน้า เป็นที่รองรับลำตัว คือปัญญา
    เพื่อวิมุตติคือความหลุดพ้น อันเปรียบเป็นเช่นศีรษะ


    ศีล สมาธิ ปัญญา ทั้งสามนี้เป็นส่วนเหตุ ซึ่งมีวิมุตติ...ความหลุดพ้นจากกิเลสเป็นส่วนผล จึงต้องอาศัยกัน เหมือนดั่งแผ่นดิน เป็นเท้า เป็นลำตัว เป็นศีรษะ การปฏิบัติจึงต้องปฏิบัติให้มีศีลด้วย มีสมาธิด้วย มีปัญญาด้วยประกอบกัน

    : การให้ธรรม ชนะการให้ทั้งปวง
    : สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
     
  9. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,783
    ค่าพลัง:
    +16,097
    ภัยในโลกทุกวันนี้มากมายและใหญ่หลวง มิได้เว้นภัยของประเทศไทย ผู้รักความเป็นไท รักแผ่นดินไทยจึงต้องรอบคอบเป็นอย่างยิ่ง ทั้งในการคิด ในการพูด ในการทำ มิฉะนั้นก็อาจเป็นคนไทยที่ทำลายไทยเองได้

    ความประมาทเป็นทางแห่งความตาย
    ประมาทแล้วพาตัวเองตายเป็นเรื่องเล็ก แต่ประมาทแล้วพาชาติตายนั้นเรื่องใหญ่ที่สุด พึงรอบคอบให้ที่สุด ระวังให้ที่สุดที่จะไม่คิดอย่างประมาท ไม่พูดอย่างประมาท ไม่ทำอย่างประมาท เพื่อไม่พาประเทศชาติไปสู่ภัยพิบัติที่ใหญ่หลวง

    ไทยจะสวัสดีหรือไม่สวัสดีอญุ่ที่คนไทย ม่ใช่อยู่ที่คนอื่น ศัตรูแม้ร้ายกาจเพียงใดก็ทำอะไรไทยไม่ได้ แม้คนไทยไม่ตกเป็นเครื่องมือให้ทำลายไทย

    การมีสติรู้ตัวอยู่เสมอ ว่าจะรักษาประเทศชาติไทยของเราอย่างสุดความสามารถ จะไม่ให้ความโลภ จะไม่ให้ความโกรธ จะไม่ให้ความหลง มามีอำนาจเหนือความรักชาติรักประเทศไทยของเรา


    : แสงส่องใจ เมษายน ๒๕๔๘
    : สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
     
  10. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,783
    ค่าพลัง:
    +16,097
    การรักษาศีล

    อันศีลที่บริสุทธิ์นั้นต้อง ไม่เป็นท่อน ไม่เป็นช่อง ไม่ด่าง ไม่พร้อย

    ศีลที่เป็นท่อนนั้นคือ ศีลขาด เหมือนอย่างผ้าที่เป็นผืนเดียวแล้วก็ขาดออกจากกันเป็นสองผืน ดั่งนี้เรียกว่าขาด ศีลที่ขาดนั้นคือศีลที่ได้ละเมิดออกไปอย่างเต็มที่จนบรรลุถึงที่สุด ดั่งเช่นข้อปาณาติบาตินั้น ฆ่าสัตว์ตั้งต้นแต่มีอกุศลเจตนาที่จะฆ่า แล้วก็ทำการฆ่า แล้วสัตว์นั้นตายด้วยอกุศลเจตนานั้น แปลว่าครบองค์

    ยกตัวอย่างเช่นศีลข้อ ๑ นี้ ที่ท่านแสดงไว้มีองค์ ๕ คือ
    ๑. ปาโณ สัตว์มีชีวิต
    ๒. ปาณสญฺญิตา ตนรู้อยู่ว่าสัตว์มีชีวิต
    ๓. วธกจิตฺตํ จิตคิดจะฆ่า
    ๔. ตชฺโชวายาโม ความเพียรที่เกิดจากเจตนานั้น
    ๕. เตน มรณํ สัตว์นั้นตายด้วยความเพียรนั้น
    ดั่งนี้เรียกว่าศีลขาด

    ทีนี้หากสัตว์นั้นไม่ตายด้วยเหตุใดเหตุหนึ่งก็ตาม แต่ว่าได้มีจิตคิดจะฆ่า ได้มีความเพียรที่จะฆ่า น้อยหรือมากก็ตาม แต่ว่าสัตว์ไม่ตาย ดั่งนี้เรียกว่าศีลเป็นช่อง คือเหมือนอย่างผ้าที่ขาดเป็นช่องเล็กช่องใหญ่ แต่ว่าไม่ถึงกับขาดเป็น ๒ ท่อน แต่ว่าเป็นช่องๆ ทะลุเป็นช่องๆ ดั่งนี้เรียกว่าศีลเป็นช่อง

    คราวนี้หากว่ามีจิตคิดจะฆ่าและไม่ถึงกับได้ประกอบความเพียรออกไป คิดงุ่นง่านอยู่ในใจละเมินอยู่ในใจ ไม่ถึงกับจะทำออกไป ดั่งนี้เรียกว่าศีลด่างศีลพร้อย เหมือนอย่างผ้าที่ไม่ขาดเป็นท่อน ไม่ทะลุเป็นช่อง แต่ว่าเปรอะเปื้อนด่างพร้อย ไม่เป็นผ้าที่สะอาด

    ฉะนั้นแม้มีจิตงุ่นง่านคิดที่จะฆ่าอยู่ดั่งนี้ ก็เรียกว่าศีลด่างศีลพร้อย คือถ้าคิดว่าจะฆ่าอย่างแรง


    ถ้าหากว่าไม่ถึงคิดว่าจะฆ่า แต่จิตเดือดร้อนคิดที่จะทำร้าย ก็แปลว่าไม่ถึงกับด่างทีเดียว แต่ว่าพร้อย ก็เป็นอันว่าไม่บริสุทธิ์

    : ลักษณะพุทธศาสนา ๑๙ กันยายน ๒๕๒๖
    : สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
     
  11. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,783
    ค่าพลัง:
    +16,097
    การให้ธรรมที่แท้จริง
    หมายถึงการทำตนเองของทุกคนให้มีธรรม


    พิจารณาจากความจริง ที่ว่าผู้มีธรรมเป็นผู้ให้ความเย็น ความสุขแก่ผู้อื่นได้ เช่นเดียวกันกับที่ให้ความเย็นความสุขแก่ตนเอง อาจเห็นได้ว่า การให้ธรรมไม่หมายถึงเพียงการพิมพ์หนังสือธรรมแจก หรือการอบรมสั่งสอนด้วยวาจา ให้รู้ให้เห็นธรรมเท่านั้น

    แต่การให้ธรรมที่แท้จริง ย่อมหมายถึงการทำตนเองของทุกคนให้มีธรรม ให้ธรรมในตนปรากฏแก่คนทั้งหลายโดยอัตโนมัติ ไม่ต้องมีการแสดงออกเป็นการสั่งสอนด้วยวาจา หรือเช่นด้วยการแสดงธรรมแบบพระธรรมเทศนาของพระ

    การสั่งสอนธรรมหรือให้ธรรมด้วยความประพฤติปฏิบัติธรรมด้วยตนเองนั้น มีความสำคัญเหนือกว่าการแจกหนังสือธรรมเป็นอันมากด้วยซ้ำ เพราะ การประพฤติปฏิบัติธรรมด้วยตนเองอย่างสม่ำเสมอ จนธรรมนั้นเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับกายกับใจ นั่นแหละเป็นการแสดงธรรมให้ปรากฏแก่ผู้รู้ผู้เห็นทั้งหลายทั้งปวงและจะต้องได้ผลมากกว่าการให้ธรรมที่เป็นข้อเขียนในหน้าหนังสือ

    : สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
     
  12. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,783
    ค่าพลัง:
    +16,097
    อันไหนจิต อันไหนใจ

    สติ คอยควบคุมจิตตัวนั้น ให้อยู่ในอำนาจของเรา ให้คิดก็ได้ ไม่ให้คิดอยู่เฉยๆ ก็ได้ จะปรุงจะแต่งก็ได้ ไม่ปรุงไม่แต่งอยู่ฉยๆ ก็ได้ เรียกว่าเราคุมตัวจิตได้แล้ว เราคุมจิตอยู่ในอำนาจของเรา คนเราเวลาตาย ถ้าเราคุมจิตได้แล้วมันก็ไม่ไปทุคติ ถ้าคุมจิตไว้ไม่อยู่ ก็ไม่ทราบจะไปเกิดในคติไหน

    ถ้าควบคุมจิตอยู่ มันจะรวมเข้ามาเป็นใจ
    ใจนี้มันไม่คิด ไม่นึก ไม่ปรุง ไม่แต่ง เฉยรู้ตัวอยู่


    จิตรวมลงเป็นใจ ผู้รู้สึกเฉยๆ ไม่คิดไม่นึกแล้วจะมีประโยชน์อะไร ?

    ถูกแล้วใจของคนเรามันไม่เคยเข้าถึงที่เดิม คือใจเลยสักที มันชอบวิ่งว่อนปรุงแต่งอยู่อย่างนั้นไปตามเรื่องตามราว เมื่อจิตรวมเข้าถึงใจ ไม่คิด ไม่นึก จึงเห็นว่าไม่เป็นประโยชน์อะไร คือ ที่มันไม่คิดไม่นึกไม่ปรุงไม่แต่ง มีแต่ความรู้สึกเป็นกลาง วางเฉย ที่เรียกว่า ใจ อันนี้เป็นของทำได้ยาก

    เมื่อเข้าถึงที่เดิมของใจมันจะพักอยู่ชั่วระยะเวลาหนึ่ง
    แล้วถอนออกมาปรุงแต่งไปตามเรื่อง ก็เรียกว่าเป็นจิต
    คราวนี้ก็รู้ชัดทั้งสองอย่างว่า อันนี้เป็นจิต อันนี้เป็นใจ
    จะให้อยู่ในจิตก็ได้ หรือจะให้อยู่ในใจก็ได้
    อันไหนสบายก็ให้เลือกเอาสบายแฮ

    : พระนิโรธรังสี คัมภีรปัญญาจารย์ (หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี)
     
  13. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,783
    ค่าพลัง:
    +16,097
    บันทึกจากหลวงพ่อฤาษี คำเฉลยแห่งปริศนา จากฟากฟ้า





    <CENTER>พระเจ้าเดือนเด่นฟ้า และ พระเจ้าเดือนแจ่มฟ้า </CENTER><CENTER> </CENTER>


    <DD>เมื่อหลวงพ่อเล่ามาถึงตอนนี้ ทำให้นึกถึงเรื่องที่เคยได้ยินได้ฟังมาตั้งแต่ครั้งอดีตว่า พระมหากษัตริย์ไทยพระองค์นี้ ได้เคยเกิดกับพระราชบิดาพระองค์เดียวกันถึง ๒ ครั้ง และมีพระนามคล้ายๆ กันทั้งสองครั้ง คือ



    <DD>ครั้งแรกได้เคยเกิดในสมัย สุวรรณภูมิ เมื่อประมาณปีพุทธศักราช ๒๔๖ เป็นพระโอรสองค์แรกของ พระเจ้าตวันอธิราช มีพระนามว่า "พระเจ้าเดือนเด่นฟ้า"




    <DD>ครั้นถึงปี พ.ศ. ๙๐๐ เศษ ก็ได้มาเกิดในสมัย เชียงแสน อีกครั้งหนึ่งมาเป็นพระ โอรสองค์ใหญ่ของ พระเจ้าพรหมมหาราช ซึ่งพระราชบิดาพระองค์นี้ก็คือ พระเจ้าตวันอธิราช องค์เดิมนั่นเอง ครั้งนี้มีนามว่า "เจ้าเดือนแจ่มฟ้า" แต่ได้สิ้นพระชนม์ตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์




    <DD>พระราชสมบัติจึงได้ตกแก่พระโอรสองค์รองคือ พระเจ้าไชยสิริ ซึ่งเชื้อพระวงศ์เชียงแสนพระองค์นี้แหละ ได้มีสายสัมพันธ์สืบสันตติวงศ์ แล้วดำรงความเป็นกษัตริย์มาจนกระทั่งถึง พระราชวงศ์จักรี ในปัจจุบันนี้




    <DD>(พระเจ้าไชยสิรินี้ หลวงพ่อบอกว่าคือ หลวงปู่ธรรมไชย วัดทุ่งหลวง ส่วนพระเจ้าทุกขิตะ พี่ชายของพระเจ้าพรหมฯ นั้นได้แก่ หลวงปู่คำแสน (เล็ก) วัดดอนมูล สำหรับ พระเจ้าพรหมมหาราช คงไม่ต้องบอกกันนะ)



    <DD>จึงนับว่าสถาบันพระมหากษัตริย์ไทย มีการสืบทอดเชื้อสายมานานนับพันปี ควรที่พวกเราชาวไทยจะได้ภูมิใจไว้เป็นอย่างยิ่ง แล้วควรช่วยกันดำรงไว้ให้มั่นคง เพราะเราเป็นชาติที่ยิ่งใหญ่ และมีเกียรติมีศักดิ์ศรีมาก่อน ขอวิงวอนอย่าเอาชาติบ้านเมืองไปทำลายกันอยู่ในเวลานี้



    <DD>สำหรับหลักฐานทางด้านโบราณวัตถุ ได้แก่ กระเบื้องจาร ที่ขุดได้จากซาก เมืองคูบัว จ.ราชบุรี ก็ได้ยืนยันว่าพ่อกับลูกคู่นี้ ทรงเป็นหน่อเนื้อพระบรมพงศ์พระโพธิสัตว์ทั้งสองพระองค์ ได้ตั้งความปรารถนา "พุทธภูมิ" ประเภท "วิริยาธิกะ" คือจะต้องบำเพ็ญบารมีเพื่อเป็นพระ พุทธเจ้า ใช้เวลา ๑๖ อสงไขยกับแสนกัป จึงจะบรรลุอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ



    <DD>โดยเฉพาะในสมัยสุวรรณภูมินั้น พระโพธิสัตว์เจ้าทั้งสองพระองค์นี้ ได้ทรงบำเพ็ญพระบารมีร่วมกัน โดย พระเจ้าตวันอธิราช กษัตริย์ผู้ครองกรุงสุวรรณภูมินี้ ได้ทรงวางรากฐานการสร้างพระบารมีไว้ให้พระราชโอรสของพระองค์ ในฐานะที่ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ต่อไปในภายภาคหน้า



    <DD>พระองค์ได้สร้างบ้านแปลงเมืองให้เจริญรุ่งเรือง พร้อมกับปรับปรุงกองทัพไว้รับมือกับข้าศึก ทั้งทางบกและทางน้ำให้เข้มแข็งอยู่เสมอ ส่งเสริมอาชีพของประชาราษฎร พร้อมทั้งได้ จัดตั้งโรงพยาบาลเพื่อสงเคราะห์ประชาชน



    <DD>ส่วนในทางด้านพระพุทธศาสนา พระองค์โปรดให้มีการสร้างวัดและโรงเรียนปริยัติ ธรรมสำหรับพระภิกษุสามเณร โดยมี พระโสณะ พระอุตตระ เป็นประธานฝ่ายพระสงฆ์ มีการมอบ "พัดยศ" สำหรับผู้สอบบาลีได้



    <DD>ต่อมาก็มีการแต่งตั้งพระสงฆ์ไทยขึ้นเป็น สมเด็จพระสังฆราช เป็นพระองค์แรกของเมืองไทย จนได้สืบต่อวัฒนธรรมประเพณีต่าง ๆ มาจนถึงบัดนี้



    <DD>อีกทั้งพระองค์ได้เสด็จประพาสไปยังนานาประเทศ ทั้งประเทศเพื่อนบ้านใกล้เคียง และที่อยู่ห่างไกลออกไป ส่วนภายในประเทศอาณาเขตของพระองค์ ก็ได้เสด็จเยี่ยมเยียน ราษฎรไปตามหัวเมืองต่าง ๆ อีกด้วย



    <DD>ซึ่งพระราชจริยวัตรของพระเจ้าตวันอธิราชนี้ มีลักษณะที่ทรงปฏิบัติคล้ายกับพระราชจริยวัตรของ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระเจ้ากรุงสยาม รัชกาลที่ ๕ ทุกประการ



    <DD>ฉะนั้น ขนบธรรมเนียมประเพณีในด้านพระศาสนา เช่น พิธีกวนข้าวทิพย์ การสวดมนต์ หรือการนิมนต์พระไปเจริญพระพุทธมนต์ที่บ้าน ตลอดถึงพิธีกรรมต่างๆ ตามโบราณราชประเพณี เรามีการสืบทอดวัฒนธรรมอันเป็น "มรดกไทย" มานานนับพันปี



    <DD>แต่ที่เราไม่สามารถสืบสาวราวเรื่องได้ เป็นเพราะประวัติศาสตร์ช่วงนี้ขาดหายไป แต่เมื่อเราได้พบ กระเบื้องจาร เหล่านี้ จึงได้รู้เรื่องความเป็นไทยในอดีต จากบรรพบุรุษของ เราที่ได้จารึกไว้



    <DD>เพราะฉะนั้น บ้านเมืองที่มีความมั่นคงมาจนถึงปัจจุบันนี้ ก็เป็นเพราะมีการวางรากฐาน ทั้งในด้านการเมือง การทหาร และการปกครอง โดยวางแผนให้คนไทยมีระเบียบวินัยที่ดี อันมีสถาบันหลักทั้ง ๓ คือชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ เพื่อเป็นโซ่ยึดเหนี่ยวจิตใจกันไว้ตลอดมา



    <DD>ซึ่งหลังจาก พระเจ้าเดือนเด่นฟ้า ได้เสด็จขึ้นครองราชสมบัติ ก็ทรงมีพระราชหฤทัยที่จะดำเนินรอยตามพระยุคลบาทของสมเด็จพระราชบิดา ในฐานะที่พระองค์ก็ทรงเป็น "พระโพธิสัตว์" เช่นเดียวกัน และก่อนที่ พระโสณะ จะนิพพานก็ยังได้พยากรณ์ไว้อีกว่า



    <DD>"พระเจ้าเดือนเด่นฟ้าจะมาเกิดที่ "กรุงเทพมหานคร" เมื่อนั้น "สุวรรณภูมิ" จะฟื้นชื่อ มีคนรู้ทั่ว.."



    <DD>ดังจะเห็นว่าเรื่องนี้ แม้จะผ่านเวลามานานสองพันกว่าปี จะเห็นว่าตรงกับความเป็นจริงทุกอย่าง เมื่อวันที่เปิดสนามบินหนองงูเห่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงประทานนามใหม่ว่า "สุวรรณภูมิ" จนเป็นที่เลื่องลือไปทั่วโลกอยู่ในเวลานี้นั่นเอง




    <CENTER>คำทำนายโบราณ</CENTER>


    <DD>และยังมี คำทำนายโบราณ ที่สมเด็จพระพิชิตมารบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัส พยากรณ์เหตุการณ์พระพุทธศาสนา "หลังกึ่งพุทธกาล" ไว้ว่า...




    <DD>
     
  14. นายสติ

    นายสติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    911
    ค่าพลัง:
    +4,285
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="98%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=big2 vAlign=bottom height=35>
    พระผงโสฬสมหาพรหม หลวงปู่แหวน
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=5 width="98%" border=0><TBODY><TR><TD class=text2 vAlign=center width="65%" height=30></TD><TD class=text2 vAlign=center align=right></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=10 width="100%" align=center bgColor=#f4f4ff border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top bgColor=#ffffff height=300><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=100 border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>เป็นพิมพ์พระพุทธกลีบบัวเนื้อดินผสมผงโสฬสมหาพรหม(มงคลมหาลาภ)และเส้นเกศาหลวงปู่แหวน และสร้างแกะพิมพ์กันเองโดยพระอาจารย์นาถ,พระครูชินเทพ วัดสัมพันธวงศ์ กรุงเทพ และพระอาจารย์คำบ่อ วัดใหม่บ้านตาล สกลนครเมื่อปีพ.ศ.2515 <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=100 border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#ffffff cellSpacing=1 cellPadding=5 width=250 align=center bgColor=#f4f4f4 border=0><TBODY><TR><TD align=middle bgColor=#ffffff><!-- [​IMG] -->[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=bot2 bgColor=#f9f9f9 height=30> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=10 align=center border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="95%" bgColor=#3399cc border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#f9f9f9><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width="100%"><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE height="100%" cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" align=center bgColor=#cacaec border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=2 width="100%" align=center bgColor=#f9f9f9 border=0><TBODY><TR><TD class=text2 align=left></TD><TD align=right width="20%" height=17></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=text1 vAlign=top align=left height=20>พระชุดนี้ สร้างขึ้นเป็นอนุสรณ์บูชาพระคุณหลวงปู่แหวนด้วยความบริสุทธิ์ผุดผ่องที่สุดด้วยจำนวนน้อยมากไม่ถึงพันองค์ และถวายให้หลวงปู่แหวนอธิษฐานจิตปลุกเสกเป็นการส่วนตัวโดยเฉพาะอย่างเข้มขลังที่สุด <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=100 align=center border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#ffffff cellSpacing=1 cellPadding=5 width=250 align=center bgColor=#f4f4f4 border=0><TBODY><TR><TD align=middle bgColor=#ffffff>[​IMG]</TD></TR><TR><TD class=bot2 bgColor=#f9f9f9 height=25> </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=100 align=center border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD class=text1></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=10 align=center border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="95%" bgColor=#3399cc border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#f9f9f9><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width="100%"><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE height="100%" cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" align=center bgColor=#cacaec border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=2 width="100%" align=center bgColor=#f9f9f9 border=0><TBODY><TR><TD class=text2 align=left> </TD><TD align=right width="20%" height=17></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=text1 vAlign=top align=left height=20>ในบรรดาพระเครื่องหลวงปู่แหวนนับแบบนับรุ่นแทบไม่ถ้วน ทั้งที่มีปรากฏในสารบบและไม่ปรากฏ ซึ่งสร้างโดยบุคคลหลายคณะหลายจำพวก มีทั้งที่เจตนาบริสุทธิ์และไม่บริสุทธิ์ ยากแก่การจำแนกแจกแจง พระกลีบบัวเนื้อผงโสฬสมหาพรหมผสมเส้นเกศาหลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ พ.ศ. 2515 นี้ นับเป็นหนึ่งในสุดยอดของดีที่สามารถพึ่งพาอาศัยฝากชีวิตจิตใจไว้และเป็นที่พักพิงแห่งศรัทธาได้อย่างสนิทใจ ด้วยเหตุที่เป็นของที่"พระวงใน"สร้างไว้กันเองแต่ยุคต้นกับมือ ปราศจากของเสริมของเกินนอกพิธีให้เสียวสยองเฉกเช่นกันอีกหลายๆรุ่นด้วยประการสิ้นเชิง
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=100 align=center border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#ffffff cellSpacing=1 cellPadding=5 width=250 align=center bgColor=#f4f4f4 border=0><TBODY><TR><TD align=middle bgColor=#ffffff>[​IMG]</TD></TR><TR><TD class=bot2 bgColor=#f9f9f9 height=25></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=100 align=center border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD class=text1></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=10 align=center border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="95%" bgColor=#3399cc border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#f9f9f9><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width="100%"><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD><TABLE height="100%" cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" align=center bgColor=#cacaec border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=2 width="100%" align=center bgColor=#f9f9f9 border=0><TBODY><TR><TD class=text2 align=left> </TD><TD align=right width="20%" height=17></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=text1 vAlign=top align=left height=20>แม้พระผู้สร้างทั้งหมด ก็รักและเคารพหลวงปู่แหวนอย่างแท้จริง และคอยปรนนิบัติจนถึงวาระสุดท้ายจนถึงที่สุด นับว่า หาได้ยากยิ่งจริงแท้
    และด้วยเหตุดังพรรณามาทั้งหมด จึงไม่มีอะไรต้องสงสัยในความดีงามวิเศษสุดของพระกลีบบัวผงโสฬสมหาพรหม พ.ศ. 2515 นี้ใดๆอีกแล้ว
    เจอะเจอที่ไหน รีบนำมาบูชาขึ้นคอได้อย่างสมภาคภูมิที่สุดได้ในทันทีเลยทีเดียว..!!!!!
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=100 align=center border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#ffffff cellSpacing=1 cellPadding=5 width=250 align=center bgColor=#f4f4f4 border=0><TBODY><TR><TD align=middle bgColor=#ffffff>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

    ขอขอบคุณข้อมูลจาก
    http://www.phuttawong.net
     
  15. pon98

    pon98 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    632
    ค่าพลัง:
    +3,886
    วันนี้ได้ส่งพระสมเด็จหลวงปู่สรวงให้กับท่านที่จองไว้ทั้งหมด7องค์โดยมีรายนามดังนี้
    คุณสิทธิชัยพัทยา
    คุณคีตา
    คุณaries2947 (ส่งให้ที่อยู่เดียวกับคุณคีตาครับ)
    คุณnewcomer
    คุณactive
    คุณnarin96
    คุณjirautes

    โมทนาครับ ขอให้มีโชคดีในวันปีใหม่จีน(ตรุษจีน)ทุกๆท่าน

     
  16. pon98

    pon98 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    632
    ค่าพลัง:
    +3,886
    เสร็จเรื่องส่งพระสมเด็จหลวงปู่สรวง มาถึงเรื่องท่านใดทำบุญผ้าห่มกับหลวงปู่แฟ๊บยังไม่ได้รับรูปท่านและผ้าอังสะที่อธิษฐานจิตอย่างดีจากหลวงปู่ แจ้งความจำนงส่งรายชื่อและที่อยู่ในการจัดส่งมาที่pmผมได้ ค่าส่งฟรีครับ ภายในอาทิตย์นี้นะครับ สัปดาห์หน้าจะได้จัดส่งได้เลย
     
  17. dadeedaa

    dadeedaa Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    57
    ค่าพลัง:
    +69
    ขออนุโมทนา กับทุกคนนะค่ะ
    จะช่วยด้วยเหมือนกัน ถ้าเกิดโอนไปเมื่อไหร่จะมาบอกอีกทีนะค่ะ
    เร็วๆนี้หละค่ะ
     
  18. พันวฤทธิ์

    พันวฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    3,783
    ค่าพลัง:
    +16,097
    <CENTER>วันนี้ขอลงบทสวดมนต์เพื่อความสงบร่มเย็นและความเป็นมงคลของผู้สวด พร้อมเสียงการสวดมนต์ให้ได้ฟังกัน ใครสวดได้นับว่าเป็นบุญแก่ตนเอง นำมาจากบทสวดมนต์ในเวบพลังจิตนี่ล่ะ

    บทสวดและเสียงสวดมนต์จุลชัยยะมงคลคาถาหรือไชยน้อย

    </CENTER><HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->บทสวดนี้ชื่อ จุลชัยยะมงคลคาถา หรือชัยมงคลคาถา หรือในท้องถิ่นอีสานเรียนสวดไชยน้อย ประพันธ์ในสมัยล้านช้างร่มขาว ประเทศลาว
    โดยพระมหาปาสมันตระมหาเถร ว่าด้วยชัยชนะของพุทธเจ้า
    ต่อเทพพรหม ครุฑ นาค ปีสาจ ฯลฯ และอวมงคลทั้งหลาย

    นิยมสวดในยุคสมัย หลวงปู่ เสาร์ หลวงปู่มั่น หลวงปู่ชอบ ปัจจุบันนี้มีสวดเพียงไม่กี่ที่ ครับ ที่ผมเห็นในอีสานจะเห็นสวดที่วัดมหาวนาราม อ.เมือง จ.อุบลราชธานี หรือวัดที่ประดิษฐานพระเจ้าใหญ่อินทร์แปงพระพุทธรูปค ู่บ้านคู่เมืองอุบลราชธานีครับ
    และสวดเนื่องในงานที่สำคัญ ๆ ครับ

    บทสวดไชยน้อยครับ
    นะโม เม พุทธะ เตชัสสา ระตะนะตะยะ ธัมมิกา
    เตชะ ประสิทธิ ปะสีเทวา นารา ยะปะระเมสุรา
    สิทธิ พรัหมา จะ อินทา จะ จะตุโลกา คัมภี รักขะกา
    สะมุทา ภูตุง คังกา จะ สะพรัหมา ชัยยะ ประสิทธิ ภะวันตุเต

    ชัยยะ ชัยยะ ธ รณี ธ รณี อุทะธิ อุทะธิ นะ ทิ นะ ที
    ชัยยะ ชัยยะ คะคน ละตน ละนิสัย นิรัย สัยเสน นะ เมรุราช ชะพล น ระชี
    ชัยยะ ชัยยะ คัมภี ระ โสมภี นาเคน ทะนาคี ปิ ศาจ จะ ภู ตะกาลี
    ชัยยะ ชัยยะ ทุน นิมิต ตะ โรคี ชัยยะ ชัยยะ สิงคีสุทา ทา นะมุขะชา

    ชัยยะ ชัยยะ วะรุณ ณะมุขะ ศาตรา ชัยยะ ชัยยะ จัม ปาทินา คะ กุละคัณโถ

    ชัยยะ ชัยยะ คัชชะคน นะตุรง สุกะระภุ ชง สีหะ เพียคฑะ ทีปา
    ชัยยะ ชัยยะ วะรุณ ณะมุขะ ยาตรา ชิตะ ชิตะ เสน นารี ปุนะสุทธิ น ระดี

    ชัยยะ ชัยยะ สุขา สุขา ชีวี ชัยยะ ชัยยะ ธ ระณี ตะเล สะทา สุชัยยา
    ชัยยะ ชัยยะ ธ ระณี สาน ติน สะทา

    ชัยยะ ชัยยะ มังกะ ราชรัญญา ภะวัคเค ชัยยะ ชัยยะ วะรุณ ณะยักเข

    ชัยยะ ชัยยะ รักขะเส สุระภุ ชะเตชา ชัยยะ ชัยยะ พรัหมเมณ ทะคะณา

    ชัยยะ ชัยยะ ราชา ธิราช สาชชัย ชัยยะ ชัยยะ ปะฐะวิง สัพ พัง

    ชัยยะ ชัยยะ อะระหันตา ปัจเจ กะพุทธะสา วัง ชัยยะ ชัยยะ มะเห สุโร หะโร หะริน เทวา

    ชัยยะ ชัยยะ พรัหมา สุรักโข ชัยยะ ชัยยะ นาโค วิรุฬ หะโก วิรู ปักโข จัน ทิมา ระวิ

    อินโท จะ เวนะ เตยโย จะกุเว โร วะรุโณ ปิ จะ
    อัคคิ วาโย จะ ปา ชุณโห กุมาโร ธะตะรัฏฏะโก
    อัฏฐา ระสะ มะหา เทวา สิทธิตา ปะสะอา ทะโย
    อิสิ โน สา วะกา สัพ พา ชัย ยะ ราโม ภะวัน ตุเต
    ชัยยะ ธัมโม จะ สังโฆ จะ ทะสะปาโล จะ ชัยยะ กัง
    เอเต นะ ชัยยะ เต เชนะ ชัยยะ โสตถี ภะวันตุ เต
    เอเตนะ พุทธะ เต เชนะ โหตุ เต ชัยยะมัง คะลัง


    ชัยโย ปิ พุทธัสสะ สิริมะโต อะยัง มารัสสะ จะปา ปิมะโต ปะรา ชะโย
    อุคโฆ สะยัม โพธิ มัณเฑ ปะโม ทิตา ชัยะตะทา พรัหมะคะนา มะเหสิโน

    ชัยโย ปิ พุทธัสสะ สิริมะโต อะยัง มารัสสะ จะปา ปิมะโต ปะรา ชะโย
    อุคโฆ สะยัม โพธิ มัณเฑ ปะโม ทิตา ชัย ยะตะทา อินทะ คะณา มะเห สิโน

    ชัยโย ปิ พุทธัสสะ สิริมะโต อะยัง มารัสสะ จะปา ปิมะโต ปะรา ชะโย
    อุคโฆ สะยัม โพธิ มัณเฑ ปะโม ทิตา ชัยยะตะทา เทวะ คะณา มะเห สิโน

    ชัยโย ปิ พุทธัสสะ สิริมะโต อะยัง มารัสสะ จะปา ปิมะโต ปะรา ชะโย
    อุคโฆ สะยัม โพธิ มันเฑ ปะโม ทิตา ชัยยะตะทา สุปัณณะ คะนา มะเหสิโน

    ชัยโย ปิ พุทธัสสะ สิริมะโต อะยัง มา รัสสะ จะปา ปิมะโต ปะรา ชะโย
    อุคโฆ สะยัม โพธิ มัณเฑ ปะโม ทิตา ชัยยะตะทา นาคะ คะณา มะเหสิโน

    ชัยโย ปิ พุทธัสสะ สิริมะโต อะยัง มารัสสะ จะปา ปิมะโต ปะรา ชะโย
    อุคโฆ สะยัมโพธิ มัณเฑ ปะโม ทิตาชัยยะตะทา สะพรัหมะคะณา มะเหสิโน



    ชะยันโต โพธิยา มูเล สัก กะยานัง นันทิ วัฑฒะโน
    เอวัง ตะวัง วิชะโย โหหิ ชะยัสสุ ชะยะมัง คะเล
    อะปะรา ชิตะปัลลังเก สีเส ปะฐะวิโปก ขะเร
    อะภิเสเก สัพ พะพุทธานัง อัคคัปปัตโต ปะโม ทะติ
    สุนักขัตตัง สุมัง คะลัง สุปะภาตัง สุหุฏ ฐิตัง

    สุกขะโน สุมุหุตโต จะ สุยิฏฐัง พรัหมะจาริสุ
    ปะทักขิณัง กายะกัมมัง วาจากัมมัง ปะทักขิณัง
    ปะทักขิณัง มะโนกัมมัง ปะณีธี เต ปะทักขิณา
    ปะทักขิณานิ กัตวานะ ละภัณตัตเถ ปะทักขิเณ


    เต อัตถะลัทธา สุขิตา วิรุฬหา พุทธะสา สะเน
    อะโรคา สุขิตา โหถะ สะหะ สัพเพหิญาติภิ
    สุณันตุ โภนโต เยเทวา อัสมิง ฐาเน อะธิคะตา
    ฑีฆายุกา สะทา โหนตุ สุขิตา โหนตุ สัพพะทา
    รักขันตุ สัพพะสัต ตานัง รักขันตุ ชินะสาสะนัง

    ยา กาจิ ปัตถะนา เตสัง สัพเพ ปูเรนตุ มะโนระถา
    ยุตตะกาเล ปะวัสสันตุ วัสสัง วัสสา วะราหะกา
    โรคา จุปัททะวา เตสัง นิวาเรนตุ จะ สัพ พะทา
    กายาสุขัง จิตติสุขัง อะระหันตุ ยะถาระหัง

    อิติ จุลละชัยยะสิทธิมังคะลัง สะมันตัง



    คำแปลนำมาจากหนังสือสวดมนต์ของวัดธรรมมงคล

    บทสวดพรรณนาชัยชนะของพระพุทธเจ้า เหนือหมู่มารทั้งปวง

    ทั้งล่วงพ้นอำนาจท้าวจตุโลกบาลทั้ง ๔ และเป็นชัยชนะเหนือเทวดาทุกๆ ชั้น

    ทั้งเป็นชัยชนะอมนุษย์ ยักษ์ ภูติผีปีศาจ อาวุธทั้งหลายก็ทำอันตรายไม่ได้

    ทั้งชัยชนะพญานาคราช ทั้งพระจันทร์ พระอาทิตย์ พระอินทร์ พระพรหม

    ทั้งลม และไฟ ก็ทำอันตรายไม่ได้

    ขอเทวดาผู้มีศักดิ์ใหญ่ ๑๘ พระองค์ จงมารักษา

    ทั้งพระฤาษี พระสาวก พระธรรม พระสงฆ์ จงมาอวยชัย

    ขอความสวัสดีมีชัยจงมีแด่ท่าน ด้วยเดชแห่งพระรัตนตรัย

    ในครั้งนั้น มารผู้ชั่วช้าได้พ่ายแพ้ต่อพระรัศมีของพระพุทธเจ้า

    ครั้นแล้วพระองค์ก็ทรงตรัสรู้เองโดยชอบ

    พระพรหม พระอินทร์ เทวดาทั้งหลาย ผู้มีเดชานุภาพมาก

    ทั้งหมู่พญานาค หมู่พญาครุฑผู้มีศักดายิ่งใหญ่

    ต่างชื่นชมชอบใจในชัยชนะของพระพุทธเจ้า ต่อหมู่มาร ณ โพธิบัลลังก์

    เป็นชัยชนะที่เป็นอุดมมงคล ทั้งเป็นฤกษ์ดียามดี

    และขณะดีที่ได้ประกาศพรหมจรรย์อันบริสุทธิ์ขององค์สม เด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

    ขอความสวัสดีมีชัย จงมีแก่ท่านด้วยเดชแห่งคุณพระรัตนตรัย

    ขอให้ท่านจงได้รับประโยชน์และความสุข

    ทั้งเจริญรุ่งเรืองในพระพุทธศาสนา ขอให้มีอายุยืนยาว

    ปรารถนาสิ่งหนึ่งประการใด ขอให้ได้ดังใจประสงค์

    และปราศจากโรคภัยทั้งหลายทั้งปวง ทั้งห่างไกลความทุกข์

    ขอให้ประสบสุขทั้งกายและใจ


    <!-- / message --><!-- attachments --><TABLE id=AutoNumber1 style="BORDER-COLLAPSE: collapse" borderColor=#ffffff cellSpacing=1 width=330 border=1><TBODY><TR><!-- player --><TD width=317> กดที่ [​IMG] หน้าชื่อไฟล์ เพื่อรับฟังเสียงที่คุณเลือก. </TD></TR></TBODY></TABLE>
    <!-- OEF MS Player --><FIELDSET class=fieldset><LEGEND>ไฟล์แนบข้อความ</LEGEND><TABLE cellSpacing=3 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD width="10%"><INPUT id=play_15469 onclick=document.all.music.url=document.all.play_15469.value; type=radio value=attachment.php?attachmentid=15469 name=Music>ฟัง</TD><TD>[​IMG]</TD><TD>chaiya.mp3 (6.30 MB, 13685 views)</TD></TR></TBODY></TABLE></FIELDSET>
     
  19. aries2947

    aries2947 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    2,031
    ค่าพลัง:
    +11,622
    ขอบคุณครับ
    โมทนาบุญด้วยครับ
     
  20. aries2947

    aries2947 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    2,031
    ค่าพลัง:
    +11,622
    ยังมีเหลือเหรอครับ ถ้าเป็นของพี่ๆที่เก็บไว้ส่วนตัวผมไม่ขอรับนะครับ
    แต่ถ้าเหลือพอผมจะแจ้งที่อยู่ทางpmนะครับ ขอบคุณครับพี่โสระ
    โมทนาบุญกับพี่โสระและทุกๆท่านด้วยนะครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...