ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพหล่อพระศรีอริยเมตตรัยโย ปางอัญเชิญจุตติ หล่อด้วยเงินแท้

เรื่องเเบบนี้เคยได้ยิน มาหลายทีละพวกนักต้มตุ๋น อ้างว่าคนโน้นเป็นเชื้อเจ้า..เคยเกิดเป็นพระเจ้าตาก..เึคยเกิดเป็นเชื้อพระวงษศ์ โม้ทั้งนั้น..ในหมูบ้านผมก็มี..ร่างทรงบอกว่ารู้อดีดชาติของเเต่ละคนที่เข้าทรง...เเล้ววันนั้นผมไปที่บ้านเขา..บ้านคนทรง..ทักผมว่าผมมีเทพคุ้มครอง
ผมเลยสวนไปว่า เทพโำำพธิ์งามเหรอ..บ้านคนทรงเล่นของดำของต่ำๆ..เเค่เข้าไปในบ้านก็รู้สึกละว่าเเรง...ในทางดำต่ำ...ความรู้สึกมันบอก..เเละเคยถามคนข้างบ้าน.ที่สนิทกับผมบอกบางวันตอนดึกเห็นลิงตัวใหญ่ๆอยู่บนต้นไม้ในบ้านคนทรง.บางทีก็เจองูตัวใหญ่เเต่เขาก็กลัว..บางวันไม่กล้าอยู่บ้านคนเดียว..เเละเรื่องคนทรงผมไม่ค่อยเชื่อเพราะว่า ..ตังค์ยายผมหาย..2000 บาท ยายไปทรงเจ้า..คนทรงเจ้าบอกว่าผมเอาไป..ผมบอกยายไม่ได้เอาไปเเต่ยายไม่เชื่อ..เชื่อคนทรงเจ้า..2 วันต่อมาน้าชายเอาตังค์มาคืนยายเพระน้ายืมไป 2000 เเต่ยายลืม..เลยคิดว่าตังค์ตัวเองหาย..นี่เเหละการที่เราจะเชื่ออะไร..บางทีต้องเเยกเเยะ
พระ้เล่นพระเครื่อง..ชกต่อยกับ ฆราวาส ก็เคยเห็นมาเเล้ว..ฆราวาส ปล่อยพระปลอมให้พระในราคา หลายหมื่นมารู้ที่หลัง ชกต่อยกันบนศาลาวัด..ผมนี่เเหละเป็นคนห้าม.

 

ขอบพระคุณทุก ๆ ท่านที่สนใจครับ

พระประมาณ ( ชื่อเล่นพระหลอด ) วรญาโณ ( นามสกุลตอนเป็นฆราวาส " เพ็ชรรัตน์ " ) แห่งวัดย่านยาว ตำบลวงฆ้อง อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก ซึ่งเป็นเจ้าของกระทู้

พระวนินทาย ( ชื่อเล่น เบ้อ บ้างก็เรียก เบ้ ) อัคคธัมโม ( นามสกุลตอนเป็นฆราวาส " ฤทธิ์อ่องรัก ) แห่งวัดชัยภูมิการาม ตำบลศรีภิรมย์ อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก ซึ่งเป็นผู้ถูกผมกล่าวหาว่ามีความผิด

สามารถออกมาแก้ไขสถานการณ์ได้ครับ คุณ kandat ถึงขนาดตั้งรางวัลให้แล้วนะครับ หากพิสูจน์ได้ว่า ท่านบริสุทธิ์ นอกจากท่านจะได้รับการยอมรับจากพระภิกษุเพื่อนฝูง สหธรรมมิกแล้ว ยังสามารถกลับมาบอกบุญได้เหมือนเดิมครับ

ผมจะอธิบายรายละเอียดซึ่งเป็นความจริงทุกอย่างครับ

 

ดิฉันขอกล่าวหาคุณglassbuddha2009บ้าง กล่าวหาว่าไปเรียกเงินค่าเขียนเหมือนกับที่พระoomsin2515เรียกร้องจากวัดชัยภูมิการาม แต่ทางวัดไม่ให้ จึงมาแฉกันเอง ถ้าให้คงไม่มีเรื่อง

 

อ้าว....ตกลงยังไงกันแน่ล่ะคับ

 

เพิ่งกลับมาถึงบ้านครับ

ขอขอบพระคุณคุณ <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->kandat<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_4419875", true); </SCRIPT> เป็นอย่างมากครับ ที่ช่วยทำหน้าที่ซักฟอก ผมเห็นว่าเป็นสิ่งที่ดีที่มีการซักฟอกเพื่อให้เกิดความโปร่งใส ไม่อึมครึม

ถ้าเช่นนั้น ผมจะขอตอบในสไตล์ของผมนะครับ ตอบและชี้แจงแบบว่า สไตล์สบาย ๆ เหมือนพูดคุยไปเรื่อย ๆ หากพระหลอด, พระวนินทายหรือพระอื่น ๆ จะเข้ามาร่วมสนทนาในระหว่างนั้น ก็ยินดีนะครับ

 

ผมทำลิงค์กระทู้ที่เกี่ยวข้องเพียงแค่กระทู้เดียวก็พอครับ ผมไปพักผ่อนก่อนครับ จะกลับมาค่อย ๆ เขียนอีกภายหลัง

http://palungjit.org/threads/ซื้อที่ดินและสร้างถนนเข้าวัดชัยภูมิการาม-พิษณุโลก.281551/

 

http://palungjit.org/threads/ซื้อที่ดินและสร้างถนนเข้าวัดชัยภูมิการาม-พิษณุโลก.251155/page-10

 

ขอฟังwordingในการสนทนาระหว่างคุณglassbuddhaกับพระทุกรูปด้วยได้มั้ยคะ

 

ตอบคุณ kandat<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_4422560", true); </SCRIPT> ครับ คำว่า wording แปลว่า การใช้ถ้อยคำ คำสนทนาในระหว่างบุคคล ได้ครับ

 

เริ่มต้นที่ รู้จักกับพระหลอด oomsin2515 ได้อย่างไรก่อน ผมรู้จักกับพระหลอดจากการที่ผมตั้งกระทู้แจกโคมไฟเพดานนีออน 32 วัตต์ของ panasonic จำนวน 30 กว่าชุด และโคมห้อยระย้าเส้นผ่าศูนย์กลาง 1 เมตร จำนวน 1 ชุด ทั้งหมดถึงแม้ใช้แล้ว แต่ยังใหม่มาก ติดตั้งอยู่ที่บ้านคฤหาสน์ทายาทของเพื่อนผม เขาต้องการตกแต่งบ้านใหม่ จึงยกให้ทั้งหมด พระหลอดขอมารับทั้งหมดด้วยตนเอง เหตุการณ์นั้นน่าจะประมาณต้นปี 2009

เมื่อพระหลอดมารับของ ผมเห็นว่าท่านหัวเข่าไม่ดี เดินกระเพลกอย่างเห็นได้ชัด จึงขอท่านให้ผมพาไปพบคุณหมอศุภชัย โรจน์ขจรนภาลัย rojkajorn ที่ รพ. ภูมิพล เพื่อถวายการรักษา และผมเคยปรึกษาปัญหาหัวเข่าของพระหลอดกับคุณหมอศุภชัยแทนพระหลอดตั้งแต่นั้นมา

 

นับจากเดือน 3/2009 ที่พระหลอดนั่งรถไฟลงมาจากพิษณุโลก ให้ผมไปรับไปส่งที่สถานีรถไฟบางเขน พาไปหาหมอที่ภูมิพล จากนั้นก็มีการปรึกษาปัญหาหัวเข่าของท่านมาตลอด ผมเข้าไปเขียนในกระทู้บอกบุญของพระหลอดบ่อย ๆ และพระหลอดก็เข้ามาเขียนในกระทู้บอกบุญผมอยู่บ่อย ๆ เช่นกัน ไม่เคยมีเหตุการณ์ให้ผมระแคะระคายว่า พระหลอดไปเรียกเก็บค่าเขียนจากใคร

หลังจากที่รู้จักกัน พระหลอดเคยพาทั้งพระและคนมาที่บ้านผมเพื่อรับสังฆทานหลายครั้ง แต่ยังไม่เคยพาพระวนินทาย และผมก็ยังไม่เคยได้ยินคำว่า พระวนินทาย จนกระทั่งประมาณวันที่ 3/8/2010 ประมาณ 1 ปี 4 เดือนหลังจากที่รู้จักกัน เคยพาไปหาหมอ และเขียนกระทู้กันมาจนสนิทกันแล้ว พระหลอดโทรมาปรึกษาผมว่า ขอให้ผมเป็นคนตั้งกระทู้ขึ้นมากระทู้หนึ่ง คือกระทู้ซื้อที่ดินและสร้างถนนเข้าวัดชัยภูมิการาม พิษณุโลก อยู่ในหมวด พระพุทธรูป - วิหารทาน - สิ่งก่อสร้าง ซึ่งผมก็ตั้งกระทู้ให้ทันทีโดยยังไม่รู้จักพระวนินทายทั้ง ๆ ที่ชื่อพระวนินทายและเบอร์โทรก็ปรากฏอยู่บนเนื้อความในกระทู้นั้น

 

พระหลอดบอกว่า จะเข้ามาเขียนและโพสต์รูปพร้อมข้อมูลในกระทู้ซื้อที่ดินและสร้างถนนเข้าวัดชัยภูมิการาม พิษณุโลกทุกวัน เพื่อให้กระทู้อยู่แต่บน ๆ และท่านก็ทำเช่นนั้นตามคำพูดของท่านมาตั้งแต่วันที่ 3/8/2010 ทุกท่านที่เข้าไปดูในกระทู้ก็จะเห็นว่า พระหลอดเข้ามาโพสต์รูปและข้อมูลตามที่ท่านบอกไว้ว่า จะเข้ามาโพสต์ทุกวัน จนกระทั่งวันที่ 17/8/2010 พระหลอดก็หยุดการโพสต์ของตนลง เนื่องจากพระหลอดทราบจากพระวนินทายว่า ผมโทรคุยกับพระวนินทาย ซึ่งตรงนี้พระวนินทายได้เคยบอกผมว่า " ไม่ทราบว่า พระหลอดเป็นอะไร พอรู้ว่าเราโทรคุยกันปั๊บก็งอนเชียว พระหลอดบอกว่า ( ถ้าเช่นนั้นเขาจะมีเซลล์แมนเอาไว้ทำไม ) "

นับจากวันที่ 17/8/2010 พระหลอดก็ไม่ยอมเข้ามาโพสต์รูปและข้อมูลอีก จนกระทั่งพระวนินทายไปเคลียร์กับพระหลอดอย่างไรผมไม่ทราบ พระหลอดยอมกลับมาเขียนใหม่เมื่อวันที่ 28/9/2010 พระหลอดเริ่มเข้ามาเขียนใหม่ นับเป็นเวลา 1 เดือน 10 วัน หรืออาจเกิดจากสาเหตุอีกประการหนึ่งซึ่งผมจะได้เขียนไว้ด้านล่าง คือเรื่องพระหลอดไถเงินผม 30,000.- บาทอ้างรถชนต้นไม้

ในระหว่างเวลาที่พระหลอดไม่เข้ามาเขียนนั้น พระขันติโกได้เข้ามาเขียนเมื่อวันที่ 28/8/2010
<TABLE class=tborder id=post3716581 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">28-08-2010, 09:30 PM </TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #68 </TD></TR></TBODY></TABLE>
<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->พระขันติโก<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_3716581", true); </SCRIPT>
นักบวช


ซึ่งผมทราบจากพระหลอดว่า พระหลอดเคยไปขอ user name ของพระขันติโก พระอานันโท สมัยที่พระขันติโกอยู่วัดคุ้งวารี อุตรดิตถ์ เพื่อเข้าไปดูกระทู้ต่าง ๆ และเขียนด้วย ต่อมาผมเคยกราบเรียนถามพระขันติโก พระขันติโกสมัยที่ไปอยู่ลพบุรีแล้วนั้นก็ยอมรับว่า เคยให้ user name และรหัสผ่านกับพระหลอดให้พระหลอดนำไปใช้ได้

ครั้งหนึ่งผมยังเคยนึกว่า พระหลอด oomsin2515 ก็คือ พระขันติโก อย่างไรก็ดี จะเป็นการยืมใช้ หรือการให้ใช้ user name เพื่อยกกระทู้สมัยพระขันติโกอยู่วัดคุ้งวารี อุตรดิตถ์ เพื่อการสร้างเมรุของวัดคุ้งวารีหรือไม่นั้น พระขันติโกกับพระหลอดคงต้องเคลียร์กันเอง ผมมีหน้าที่พูดไปตามที่ผมทราบตื้นลึกหนาบางเพียงเท่านี้ ไม่ทราบลึกไปกว่านี้

พระที่รู้เรื่องเบื้องหน้าเบื้องหลังของพระหลอด วัดย่านยาว พระวนินทาย วัดชัยภูมิการามซึ่งเป็นลูกศิษย์คนโปรดของพระพิสิฏฐ์ ถ้ำขุนศึก และพระพิสิฏฐ์ ถ้ำขุนศึก พอมีอยู่เหมือนกัน คือพระธานินทร์ โชติโก ซึ่งเคยเป็นเพื่อนตั้งแต่เป็นนักเรียนมัธยมมาด้วยกัน ต่อมาพระธานินทร์กับพระวนินทายแตกคอกัน ผมไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด ทราบแต่ว่า พระธานินทร์ไม่เชื่อเรื่องที่พระพิสิฏฐ์อวดอ้างตนเป็นพระศรีอริยเมตตรัย และคงมีเรื่องขัดใจกับพระวนินทายมากพอสมควร เนื่องจากพระวนินทายยังคงเชื่อมั่นในพระพิสิฏฐ์อย่างเต็มที่ และอาจมีเรื่องอื่น ๆ ปะปนอยู่มาก

 

เรื่องพระหลอด oomsin2515 ไถเงินผม 30,000.- บาท น่าจะเกิดขึ้นประมาณก่อนวันที่ 17/8/2010 ไม่กี่วัน หรือไม่ก็อาจจะเป็นหลังวันที่ 28/9/2010 หลังจากที่พระหลอดยอมกลับมาเขียนใหม่ เรื่องเป็นอย่างนี้ครับ

วันหนึ่ง พระหลอดโทรบอกผมว่า พระหลอดขับรถชนต้นไม้ รถยนต์เก๋งโตโยต้าคราวน์รุ่นเก่า ที่ต้องขับรถเนื่องจากถนนหนทางจากวัดย่านยาวไปวัดคุ้งวารี อุตรดิตถ์ ที่พระหลอดไปตั้งกระทู้หรือไปช่วยเขียนกระทู้สร้างเมรุวัดคุ้งวารีนั้น ไม่มีรถประจำทาง จึงมีความจำเป็นต้องขับรถด้วยตนเอง วันนั้นขับรถพลาดไปชนต้นไม้ อู่ซ่อมตีราคา 30,000.- บาท ขอให้ผมช่วยเหลือด่วน ผมจึงนำดาบพระนเรศวรมหาราชใบดาบยาว 28" บอกขายให้คุณ jantip คุณ jantip รับซื้อในราคา 10,000.- บาทและทราบวัตถุประสงค์ด้วยว่า เป็นการนำเงินไปช่วยพระหลอด แต่ผมไม่ได้บอกว่าเป็นเรื่องขับรถชนต้นไม้ ผมโอนเงินให้พระหลอดทันที 10,000.- บาท คิดว่าช่วยเพื่อน โดยไม่ได้คิดอะไรมาก แต่ทันทีที่พระหลอดได้รับ 10,000.- บาทนั้น ก็โทรมาบอกให้ผมหาเงินอีก 20,000.- บาททันที ผมได้แย้งไปว่า ผมไม่ได้ติดเงินท่าน ไม่ได้เป็นหนี้ท่าน และผมเริ่มทราบได้ทันทีว่า พระหลอดน่าจะมีพฤติกรรมของคนไม่ดี เนื่องจากการที่ผมเคยไปแจกทานไปปลูกกระต๋อบสร้างบ้านให้คนในสลัมหลายแห่งบ่อย ๆ หรือแม้กระทั่งเคยไปช่วยชีวิตปู่ศาสตร์ให้ออกมาจากกลุ่มอันธพาลในเสือใหญ่อุทิศ โดยไปฝากไว้กับน้าอุสาในเสือใหญ่อุทิศใกล้ ๆ กัน พฤติกรรมของคนในสลัมที่ดีและไม่ดี ผมเคยผ่านมาหมด คนดีนั้น ต่อให้เขาเดือดร้อน 30,000.- บาท หากได้รับเงินจากเรา 10,000.- บาท เขาจะรีบขอบคุณหรือขอบอกขอบใจเราเป็นอย่างมาก โดยไม่มีการกำเริบเสิบสานที่จะบังคับให้เราไปหาเพิ่มมาอีก 20,000.- บาท แต่ผมเคยพบบ่อย ๆ ในสลัมบางแห่ง โดยเฉพาะคนที่ไม่ดี จะออกอาการนี้ทันที คือจะพยายามทำทุกวิถีทาง ขอร้องหรือบังคับให้เราไปหามาเพิ่ม แม้กระทั่งขู่จะฆ่าตัวตาย หรือจะฆ่าคนทั้งบ้าน ผมก็เคยพบมาแล้ว ดังนั้นจึงไม่เป็นการยากเกินไปสำหรับผมที่จะแยกแยะคนดีและไม่ดีเมื่อเขาแสดงพฤติกรรมนี้ออกมา

นับจากวันที่ผมปฏิเสธช่วยพระหลอดอีก 20,000.- บาท พระหลอดไม่เคยขอบคุณหรือขอบใจผม ไม่โทรมาหาอีก ผมโทรไปก็ไม่รับสาย พฤติกรรมเช่นนี้ผมจึงขอกล่าวหาว่า ฉ้อโกงเงิน เนื่องจากผมทราบแล้วว่า เป็นคนไม่ดีแน่นอน ผมไม่ยินดีให้ความช่วยเหลือ และต้องการเงินนั้นคืน ข้อกล่าวหาของผมนี้ ผมโจทย์ท่านถึงปาราชิกนะครับ

ผมส่งข้อความถึงท่านหลายครั้งแล้ว พระหลอดก็เงียบเฉย อย่างไรก็ดี การที่ผมโอนเงินให้ท่านตอนแรกด้วยเจตนาช่วยเพื่อน แต่ทันทีที่ท่านได้รับเงิน ท่านโทรมา และพูดบังคับให้ผมไปหาเพิ่มอีก 20,000.- บาท เป็นจุดแปรผัน ที่ทำให้ผมรู้ตัวได้ทันทีว่า ท่านไม่ใช่คนดี จึงไม่มีเหตุที่ผมจะต้องยอมเสียค่าโง่ให้กับคนไม่ดี ในเมื่อทรัพย์นั้นเจ้าของยังหวงอยู่ พระภิกษุผู้เก็บไว้ ย่อมหนีไม่พ้นอาบัติ " ปาราชิก " ครับ

 

<TABLE class=tborder id=post3617979 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid"> 03-08-2010, 10:06 PM </TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #1</TD></TR></TBODY></TABLE>

<TABLE class=tborder id=post4208813 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">30-12-2010, 10:44 AM </TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #193 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->oomsin2515<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_4208813", true); </SCRIPT>
นักบวช



วันที่สมัคร: May 2008
ข้อความ: 3,305
พลังการให้คะแนน: 528


</TD><TD class=alt1 id=td_post_4208813 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- google_ad_section_start -->รายนามเจ้าภาพซื้อที่ดินเพื่อทำถนนเข้าวัดและโรงเรียน

๒๖๔. ๑๘/๑๑/๕๓ ผู้ไม่ประสงค์ออกนาม ร่วมเป็นเจ้าภาพ ๓๐๐ บาท
๒๖๕. ๑๙/๑๑/๕๓ ผู้ไม่ประสงค์ออกนาม ร่วมเป็นเจ้าภาพ ๑,๖๐๐ บาท
๒๖๖. ๑๙/๑๑/๕๓ เบิกเงินเพื่อนำมาตั้งเป็นกองกฐิน ๘๔,๐๐๐ บาท
๒๖๗. ๒๒/๑๑/๕๓ ผู้ไม่ประสงค์ออกนาม ร่วมเป็นเจ้าภาพ ๘๐ บาท
๒๖๘. ๒๓/๑๑/๕๓ ผู้ไม่ประสงค์ออกนาม ร่วมเป็นเจ้าภาพ ๑๐๐ บาท
๒๖๙. ๒๕/๑๑/๕๓ ผู้ไม่ประสงค์ออกนาม ร่วมเป็นเจ้าภาพ ๕๐๐ บาท
๒๗๐. ๒๖/๑๑/๕๓ ผู้ไม่ประสงค์ออกนาม ร่วมเป็นเจ้าภาพ ๙๖๐ บาท
๒๗๑. ๒๘/๑๑/๕๓ ผู้ไม่ประสงค์ออกนาม ร่วมเป็นเจ้าภาพ ๑๙๙ บาท
๒๗๒. ๐๑/๑๒/๕๓ ผู้ไม่ประสงค์ออกนาม ร่วมเป็นเจ้าภาพ ๑๐๐ บาท
๒๗๓. ๐๑/๑๒/๕๓ ผู้ไม่ประสงค์ออกนาม ร่วมเป็นเจ้าภาพ ๒๐๐ บาท
๒๗๔. ๐๑/๑๒/๕๓ ผู้ไม่ประสงค์ออกนาม ร่วมเป็นเจ้าภาพ ๔๐๐ บาท
๒๗๕. ๐๕/๑๒/๕๓ ผู้ไม่ประสงค์ออกนาม ร่วมเป็นเจ้าภาพ ๒,๐๐๐ บาท
๒๗๖. ๐๕/๑๒/๕๓ ผู้ไม่ประสงค์ออกนาม ร่วมเป็นเจ้าภาพ ๑๕๐ บาท
๒๗๗. ๐๕/๑๒/๕๓ ผู้ไม่ประสงค์ออกนาม ร่วมเป็นเจ้าภาพ ๑๐๐ บาท
๒๗๘. ๐๖/๑๒/๕๓ ผู้ไม่ประสงค์ออกนาม ร่วมเป็นเจ้าภาพ ๓๐๐ บาท
๒๗๙. ๑๑/๑๒/๕๓ คุณกวิน บูรีจิตตินันท์ ร่วมเป็นเจ้าภาพ ๕๐๐ บาท
๒๘๐. ๑๓/๑๒/๕๓ ผู้ไม่ประสงค์ออกนาม ร่วมเป็นเจ้าภาพ ๒,๒๒๒ บาท
๒๘๑. ๑๓/๑๒/๕๓ ผู้ไม่ประสงค์ออกนาม ร่วมเป็นเจ้าภาพ ๔๐๐ บาท
๒๘๒. ๑๕/๑๒/๕๓ ผู้ไม่ประสงค์ออกนาม ร่วมเป็นเจ้าภาพ ๖๐๐ บาท
๒๘๓. ๑๗/๑๒/๕๓ ผู้ไม่ประสงค์ออกนาม ร่วมเป็นเจ้าภาพ ๑๐๐ บาท
๒๘๔. ๑๘/๑๒/๕๓ ผู้ไม่ประสงค์ออกนาม ร่วมเป็นเจ้าภาพ ๑๐๕.๔๔ บาท
๒๘๕. ๒๐/๑๒/๕๓ คุณตะวัน ศรีสุริยชัย ร่วมเป็นเจ้าภาพ ๑๐๐ บาท
๒๘๖. ๒๒/๑๒/๕๓ เบิกเงินออกมาจำนวน ๙,๐๐๐ บาท เพื่อนำมาซื้อลูกรังลงตรงบริเวณที่ถนนยุบตัว จำนวน ๓ คันรถสิบล้อ ๆ ละ ๓,๐๐๐ บาท
๒๘๗. ๒๒/๑๒/๕๓ ผู้ไม่ประสงค์ออกนาม ร่วมเป็นเจ้าภาพ ๑๐๐ บาท
๒๘๘. ๒๓/๑๒/๕๓ ผู้ไม่ประสงค์ออกนาม ร่วมเป็นเจ้าภาพ ๑,๐๐๐ บาท
๒๘๙. ๒๙/๑๒/๕๓ ผู้ไม่ประสงค์ออกนาม ร่วมเป็นเจ้าภาพ ๒๐๐ บาท

เงินบริจาคที่ยังคงเหลืออยู่ในสมุดบัญชีธนาคาร

ณ วันที่ ๒๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๓ เวลา ประมาณ ๑๔.๑๕ น.

รวมเป็นเงิน ๑,๘๖๕.๘๗ บาท

รวมยอดเงินบริจาคทั้งหมด ๓๖๘,๕๔๙.๔๓ บาท <!-- google_ad_section_end -->
</TD></TR></TBODY></TABLE>

ในกรณีวัดชัยภูมิการาม ตอนที่ผมไปพิษณุโลกวันที่ 2 - 9 ธ.ค. 2553 พระวนินทายได้บอกผมว่า มีผู้ใจบุญในเวปท่านหนึ่ง ไปร่วมงานด้วย นำเงินสดไปร่วมบุญในงานด้วยตนเองอีก 150,000.- บาท และไม่ได้บันทึกไว้ในกระทู้นี้ด้วย จึงขอให้บันทึกไว้เป็นรายรับส่วนหนึ่งด้วย

ยอดบอกบุญตั้งแต่ตั้งกระทู้วันที่ 3/8/2010 ถึงวันงานทอดกฐินรวมเวลาประมาณ 5 เดือน มีเงินเข้ามาจากผู้มีจิตศรัทธาทางเวปรวม 518,549.- บาท <!-- google_ad_section_end -->

 

ส่วนกระทู้อื่น ๆ ซึ่งผมบอกบุญให้พระวนินทาย อัคคฺธมฺโม ตั้งแต่ผมโทรหาท่านเมื่อประมาณเดือน 8/2010 ถึงวันที่ผมไปพิษณุโลกวันที่ 2/12/2010 และท่านให้ผมตั้งกระทู้อื่น ๆ ให้ เช่น กระทู้เครื่องปั่นไฟวัดถ้ำขุนศึก และอื่น ๆ อีกหลายกระทู้ รวมปัจจัยทั้งในเวป นอกเวป และที่เพื่อนผมโอนให้อีกหลายครั้งรวมเกินกว่า 200,000.- บาท ส่วนหนึ่งเป็นปัจจัยของเพื่อนผมด้วย เป็นการมุ่งเน้นทำบุญให้วัดถ้ำขุนศึก ซึ่งเป็นวัดที่พระวนินทายบอกว่า ตนเองเป็นลูกศิษย์คนโปรดของพระพิสิฏฐ์ ซึ่งภายหลังจากที่ผมไปพิษณุโลก ท่านจึงอวดอ้างตนต่อผมว่า ท่านเป็นพระศรีอริยเมตตรัย ด้วยการพาไปบ้านคนทรงต่าง ๆ เพื่อให้คนทรงชี้ว่า ท่านนั่นแหละคือใคร ซึ่งมีเรื่องตลกเรื่องหนึ่ง คือคนทรงคนหนึ่งชี้มาที่ผม และบอกว่า ผมคือพระเจ้าบุเรงนองกลับชาติมาเกิด พอเดินออกจากบ้านคนทรงคนนั้นเพียงไม่กี่ก้าว พระพิสิฏฐ์มาบอกผมว่า เธอน่ะไม่ใช่พระเจ้าบุเรงนองกลับชาติมาเกิดหรอก ฉันนี่สิคือพระเจ้าบุเรงนองตัวจริงกลับชาติมาเกิด และฉันนี่ก็คือพระนเรศวรมหาราชกลับชาติมาเกิด เป็นพระเจ้าตากสินก็ด้วย เป็น ร. 5 ด้วย ณ นาทีนั้นเอง ผมเริ่มรู้ว่า ท่านโกหก เพราะคนเดียวกัน เคยเกิดเป็นทั้งพระเจ้าบุเรงนอง และเป็นพระนเรศวรมหาราช จะเป็นไปได้อย่างไร ในเมื่อพระเจ้าบุเรงนองก็คือคนที่ขอตัวพระนเรศวรมหาราชไปอยู่พม่า

ข้อหาการอวดอุตริมนุษธรรมนี่ อาบัติถึงขั้น " ปาราชิก " เช่นกัน

 

ข้อกล่าวหาว่าพระวนินทายเองก็ต้องอาบัติปาราชิก คือ เรื่องที่มีเพื่อนผมคนหนึ่ง โอนปัจจัยเข้าบัญชีพระวนินทาย โดยพระพิสิฏฐ์ก็รู้เรื่อง รู้ความเคลื่อนไหวมาตลอด เพราะก่อนการโอนเพื่อนผมถามว่า แท๊งก์น้ำสแตนเลสที่พระวนินทายบอกว่า ทางวัดถ้ำขุนศึกควรมีได้แล้ว เพราะแท๊งก์ปูนเก่ามันเก่ามากแล้ว พระพิสิฏฐ์ก็รู้เรื่องและอนุญาตให้พระวนินทายมาบอกบุญผม ราคาที่พิษณุโลกรวมค่าส่งไปถึงถ้ำขุนศึกแพงกว่ากรุงเทพ เพื่อนผมนอกจากโอนในราคาที่พระวนินทายบอกแล้ว ยังเพิ่มให้ต่างหากอีก 5,000.- บาท บอกถวายพระพิสิฏฐ์ไว้ใช้ส่วนตัว แต่แท๊งก์น้ำต้องการให้ซื้อเปลี่ยนทันที ซึ่งพระวนินทายรู้เรื่องนี้ดี เพราะผมได้บอกพระวนินทายให้รู้ว่า เจ้าภาพขอให้ซื้อแท๊งก์สแตนเลสทันทีเมื่อรับเงิน และยังได้ถวายแยกต่างหากให้พระพิสิฏฐ์ใช้เป็นการส่วนตัวอีก

แต่ครั้นผมเดินทางไปพิษณุโลกถึงวัดถ้ำขุนศึก พระวนินทายกลับบอกผมว่า ได้นำเงินนั้นไปใช้อย่างอื่นหมดแล้ว ไม่ได้ซื้อแท๊งก์น้ำสแตนเลสแต่อย่างไร เหตุการณ์นี้ ผมได้บอกเพื่อนผมแล้ว เขารู้สึกเสียใจที่พระวนินทายทำเช่นนี้ และผมเองก็รู้สึกเสียใจที่พระวนินทายกล้าทำเช่นนั้น ทั้ง ๆ ที่ไม่แน่ใจว่า วันหนึ่ง ผมอาจเดินทางขึ้นไปตรวจด้วยตนเอง

ข้อหานี้ผมกล่าวหาพระวนินทายเนื่องจากเป็นผู้ถือเงินนั้น ในข้อหา " ปาราชิก " เช่นกัน

 

ขอเตือนท่านผู้มีจิตอันเป็นกุศลทุกท่าน ผมเองเองได้ไปทำบุญยังสถาณที่ที่คุณ glassbudha มาก่อนแบบพอดีผ่านไป ท่านลองไปถามชาวบ้านบริเวณใกล้เคียงดูซิครับว่าพระเหล่านี้มีพฤติกรรมเช่นไร ผมเองคนพุทธ คงไม่กล้ากล่าวหา ถ้าเรื่องเหล่านี้ไม่จริง ผมเองก็เป็นคนทำบุญเหมือนกัน และเกรงกลัวต่อบาปเช่นกัน พระกลุ่มนี้มีพฤติกรรมหาเงิน จนสามราถออกรถได้เวลากลางคืนจะขับรถกลับไปนอนที่บ้าน และอาศัยชื่อวัดแห่งหนึ่งที่มีผลประโยชน์ร่วมกันหาเงินจากจิตอันเป็นกุศล ผมเองก็เคยเตือนไปครั้งหนึ่งแล้วหากท่านไม่เชื่อท่านสามราถไปสอบถามถึงพฤติกรรมได้ครับ ของแบบนี้พิสูจน์กันได้อย่าให้เหลือยไรพระพุทธศาสนามาสร้างมาสร้างภาพหรือพูดหลอกลวงชักจูง ผมไม่ชอบพฤติกรรมพระกลุ่มนี้เลยบางทีผมอาจร้องเรียน เถระสมาคมให้ลงมาดูแล จะสาวถึงวัดที่ให้ความร่วมมือในพฤติกรรมนี้ ที่เงียบก็เพียงแต่อยากให้โอกาสกลับตัว หากผมไม่มีหลักฐานทั้งภาพถ่ายที่แอบถ่ายและพยานบุคคลแล้วผมคงไม่กล้าที่จะพูด ผมถือว่าผมเตือนท่านแล้ว เงินของท่านหามาด้วยน้ำพักน้ำแรงของท่านสุดแท้แต่ท่านจะพิจรณา อย่าให้ใครมาหลอกโดษเอาคำว่าบุญมาอ้าง ทำไปก็ไม่เกิดบุญเท่ากับโดนพวกเหลือบพวกนี้ต้มตุ๋นหรอกครับมันไม่เกิดบุญ สุดแท้แต่ท่านจะพิจรณา ผมเองได้เตือนท่านแล้วหากผมกล่าวเท็จ มันคือนรกนะครับ หากผมกล่าวจริงมันคือสวรรค์ ท่านลองใช้สติพิจรณาเถิด

 

นอกนั้นสามารถกลับไปอ่านได้ในความคิดเห็นที่ 29 - 39 ในกระทู้นี้ เพราะผมเห็นว่า ถ้าผมพูดอีกครั้งก็คงใกล้เคียงเดิม ๆ แต่ถ้าหากมีอะไรเพิ่มเติมภายจากความคิดเห็นที่ 29 - 39 ในภายหลัง ผมอาจขอเขียนเพิ่มเติมครับ

 

ขอบพระคุณคุณ sompob16<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_4423611", true); </SCRIPT> มากครับ เป็นจริงดังที่คุณ sompob16<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_4423611", true); </SCRIPT> ว่ามาครับ ลองถามชาวบ้านแถววัดย่านยาวได้ ว่าพระหลอดเป็นอย่างไร

ส่วนวัดอื่น ๆ ผมมีสำนวนจากปากของพระวนินทายครับ ท่านเคยบอกผมว่า " ท่านเอาอยู่หมดแล้ว " หมายความว่า กรรมการวัด คนใกล้วัด ท่านเอาอยู่หมดแล้ว แม้กระทั่งตำรวจใกล้วัด เพราะเป็นเครือข่ายและญาติกับพระหลอดและพระวนินทายด้วย

 

สำนวน " เอาอยู่หมดแล้ว " ของพระวนินทาย ทำไมท่านถึงกล้าพูดอย่างนั้น ก็ลองคิดดูสิครับ ท่านบอกผมว่า เจ้าอาวาสวัดชัยภูมิการามต้องการแว่นตา คราวนี้ในเมื่อท่านเป็นพระลูกวัด ต้องหาให้ท่านอย่างดี ขอให้ผมหาแว่นอย่างดีถวายเจ้าอาวาสวัดชัยภูมิการาม ผมหาได้กรอบแว่นไททาเนี่ยม อันละหมื่นกว่าบาทเกือบสองหมื่นบาท พระวนินทายยังบอกว่า ขอค่าตัดเลนส์สายตาอย่างดีให้กับแว่นนั้น ขอค่าเลนส์เกือบสี่พันบาท ทั้งหาของไปยก ทั้งหาเงินเข้าวัด ให้เจ้าอาวาสหาเองก็ไม่ได้อย่างนั้น หรือกรรมการวัดทั้งวัดก็หาไม่ได้อย่างนี้ ครั้งหลังพระวนินทายจะทำอะไรกรรมการวัดก็ต้องเกรงใจ

แม้กระทั่งเรื่องหล่อพระศรีอริยเมตตรัยด้วยเงินแท้ ๆ นี้ก็ตาม ผมทราบจากพระวนินทายว่า เมื่อหล่อเสร็จ จะเอาไปมอบให้พระพิสิฏฐ์ที่วัดถ้ำขุนศึก แต่เนื่องจากเคยมีความดีความชอบกับวัดชัยภูมิการาม จึงขอใช้ชื่อวัดชัยภูมิการามเป็นคนบอกบุญแทน และก็เป็นการเสริมคำอวดอ้างของพระพิสิฏฐ์ว่า ตนเองเป็นพระศรีอริยเมตตรัยมารอให้อัญเชิญจุตินั่นเอง นิทานเรื่องเดียวกัน สอดคล้องกันไปหมด