ข่าวสั่น คั่นเหตุการณ์ โดย อ.ปิยะชีพ ส.วัชโรบล

Update สถานการณ์ต่อ อ.ปิยะชีพ

Piyacheep S. Vatcharobol:

เหนื่อยครับ วิ่งเต้นแต่งาน งาน งาน เพื่อคนอื่นๆ เพลียนะครับ แต่ก็จะเล่าให้ฟังไม่มาก เพราะข้อมูลอะไรที่ผมอธิบายไปโดนบิดเบือนไปหมด ผมอยู่ในที่สว่าง คนกล่าวหาอยู่ในที่มืด ชื่อนามสกุลขอก็ไม่ให้ หลักฐานการโต้ตอบกันก็ลบทิ้งไปหมด

อันดับแรก ขอย้อนว่า เหตุการณ์น้ำท่วมปี ๒๕๕๓ ที่โคราช ชาวบ้านที่เดือดร้อนไปพึ่งพาวัด เอาของที่วัดมา และของที่ไปบริจาคไปถวายที่วัด จะมีการแบ่งปันอย่างทั่วถึง มีระเบียบมากกว่าที่ อบต.หรือที่ทำงานหน่วยงานราชการ และการบรรเทาความเสียหายที่ดีที่สุด คือการเตรียมการล่วงหน้า

หากรู้ว่าภัยจะเกิดทำไมไม่เตรียมพร้อมรับมือก่อนหละ เอาอาหาร น้ำ ยา สิ่งจำเป็นไปไว้ที่

วัดก่อนดีไหม ให้วัดเป็นศูนย์กลางของชุมชน

เรื่องมันยาว แต่เอาเป็นว่า โครงการ บวร บ้าน วัด โรงเรียน ตามแนวพระราชดำริได้เกิดขึ้น

ที่บ้านพี่เล็ก คณานันท์ และเราก็พยายามติดต่อหาวัดที่เข้าร่วมโครงการผ่านเครือข่าย (เครือข่ายรับมือสถานการณ์ฉุกเฉินภาคประชาชน PS-EMC http://www.psemc.org/

และก็ได้วัดที่สนใจที่ อ.ผาขาว จังหวัดเลย ก็ยกขบวนไปกันทำโครงการตรงนั้น

ผมนับถือท่านฤาษีลิงกังเป็นการส่วนตัว ท่านก็แนะนำวัดพุทธวิโมกข์ จ. อุตรดิตถ์ และวัดร่มโพธิ์ธรรม จ.เลยเพิ่ม ผมก็ไปกราบท่านเจ้าอาวาส ก็ได้ เพิ่มสถานที่มาอีก ๒ วัด

ต่อมาไปธุระให้แฟนที่ อ.พาน น้องเอ๊ะก็แนะนำวัดถ้ำบำเพ็ญบุญ ผมก็ไปที่วัดถ้ำ ท่านก็ยินดีร่วมโครงการ โดยในโครงการผมจะนำอาหาร เครื่องกรองน้ำ ไปถวายให้วัด

เพื่อหากมีผู้อพยพมา หรือ ขอมาอยู่ ทางวัดจะได้มีอาหารน้ำไว้รองรับ ไม่ให้เป็นภาระวัดแต่อย่างเดียว

ช่วงเดือนธันวาคม ผมก็มาทำแคมป์ที่แม่โจ้ ได้คุยโทรศัพท์กับท่านลิงกังอีก

ท่านอยู่ที่วัดถ้ำเมืองนะ ท่านก็บรรยาย และนัดกันไปพบท่านที่วัด

วัดนี้ก็น่าทำให้เป็นที่หลบภัยด้วย ซึ่งผมก็ไม่มีปัญหาอะไร ได้สถานที่มาก คนก็จะมีที่พึ่งที่ยึดเหนี่ยวมาก และท่านก็แนะนำวัดดีๆมา ๒ วัดแล้ว

ก็ให้คนที่อยู่ในวัด เป็นผู้ประสานงาน ติดต่อหลวงตาม้า เพราะผมเองก็ต้องมาทำงานที่แคมป์

การติดต่อเป็นการติดต่อกันทางโทรศัพท์ จนติดต่อหลวงตาม้าได้ และเล่าเจตนาในการทำงานให้ท่านฟัง.....จนได้ตัวตั้งว่ารับได้ ๑๐,๐๐๐ คน ซึ่งผมก็นำมาโพสในวันที่ ๒๙ ธันวาคม ๒๕๕๕

เมื่ออาหารอวกาศมาถึง คนที่จะไปวัดต่างๆ ก็ต้องไปทำบุญ ไปทำความรู้จักกับวัดนั้นๆ

ดังที่ออกอากาศทางทีวีดาวเทียมไป แบบที่ อ.ไก่กล่าว เราก็ต้องมีการลงทะเบียนแจ้งความจำนง เพื่อนำรายชื่อไปแจ้งให้เจ้าของสถานที่ทราบก่อน และให้คนที่อยากจะไปอาศัยวัดไหน ให้หาโอกาสไปทอดผ้าป่าหรือทำบุญวันนั้น ผูกสัมพันธภาพที่ดีต่อกันก่อน จึงเป็นที่มาของการลงทะเบียน

จะไปทำอะไรที่ไหนอย่างไร ผมโพสลงเฟสล่วงหน้าหมด

ไม่มีปิดบังแอบ รีบ เร่ง

ที่นี้มาถึงเหตุการณ์

ผมโพสล่วงหน้าก่อนเสมอว่าพรุ่งนี้จะไปทำอะไรที่ไหน วันที่ ๓๑ มีนาคม ผมก็โพสว่า จะเอาอาหารอวกาศ

ไปส่งวัดถ้ำเมืองนะ และติดต่อประสานผ่านผู้ประสานของผม ก็ได้รับแจ้งว่า หลวงตาไม่อยู่วัดนะ

ไปงานนิมนต์ของท่าน ผมก็บอกว่าไม่เป็นไร ท่านไม่อยู่ก็เอาอาหารไปส่งมอบได้ เพราะต้องไปหลายรอบ (๔ รอบ) รอบหลังๆค่อยกราบหลวงตาก็ได้ ให้ติดต่อเอาอาหารไว้ที่กุฎิหลวงตา เพื่อให้หลวงตา ไว้ที่อื่นเดี๋ยวหาย ใครมาเอาต่อไปก็ไม่รู้ ก็โทรประสานงานไปยังผู้ประสานงาน

ผู้ประสานงานก็โทรกลับมาว่า ติดต่อแม่ชีเรียบร้อยแล้ว

สมาชิกหรือผู้ที่ช่วยเหลือผม เมื่อมอบหน้าที่ให้แล้ว

ผมก็ไม่เคยก้าวก่าย ครับ ได้ครับ ดีครับ แบบนี้ตลอด

เมื่อประสานงานเรียบร้อย ก็ถึงวันที่ ๑ เมษายน วันเดินทาง แต่ตื่นสายเพราะเพลียมาหลายวัน ว่าจะไปถึงวัดก่อนเที่ยง ก็ปาไปบ่ายกว่าๆ ไปถึงที่วัดกำลังสวดมนต์พอดี ติดต่อใครไม่ได้มือถือปิดหมด ก็จอดรถคอยหน้าศาลา อยู่ประมาณ ๑๕ นาที เดินไปเดินมาถ่ายรูปไปเรื่อยๆ เพื่อจะให้เพื่อนเห็นภาพบรรยากาศของวัด จนติดต่อผู้ประสานของวัดได้ ติดต่อแม่ชีได้ นัดให้ไปคอยหน้ากุฎิหลวงตา

ผมก็ไปคอยจนคนในวัดเอากุญแจมาเปิดประตู พระ เณร และคนของวัด ก็มาช่วยขนของตามใน

รู้ในวีดิโอ

เมื่อขนของลงเสร็จแล้ว ผมก็อยู่ที่วัดสนทนาธรรมต่อถึงประมาณ ๑๗.๐๐ น. จึงเดินทางกลับ

วันรุ่งขึ้นจะไปถวายอาหารให้พระอาจารย์รัตน์ ชวนผู้ประสานงานของวัดมาด้วย ด้วยมีรถใหญ่กว่า ณ ตอนนั้นก็คิดว่า เช้าวันที่ ๒ เมษายน รถเรา ๒ คันขนของไปถวายพระอาจารย์รัตน์ก่อน

กลับมาแล้ว ให้ผู้ประสานงานขออาหารที่ยังไม่ครบ ไปส่งต่อที่วัดถ้ำเมืองนะ

ประมาณเที่ยงคืนของวันที่ ๓๑ มีนาคมท่านฤาษีลิงกัง โทรมาแจ้งผู้ประสานงานว่า

ทางวัดจะแจ้งจับผม วัดลงประกาศในเฟส พวกเราไปทำอะไรกัน

ผมง่วงจะนอนก็ครับ ไว้คุยกันตอนเช้า

เช้าวันที่ ๑ เมษายน โพสสาดเสียเทเสีย ก็มาประดังนั่วเนียกันไปหมด เพื่อยืนยันว่าเราไม่ได้แอบอ้าง เราขอหลวงตาจริง ก็พยายามติดต่อหลวงตาทางโทรศัพท์ หลวงตาติดภาระกิจที่สระบุรี (หากจำไม่ผิด) กำลังจะไปโคราช ไม่ได้คุยกับหลวงตา คุยผ่านแม่ชี สักพักแม่ชี ก็โทรกลับมาบอกว่า ถามหลวงตาแล้วท่านบอกท่านไม่รู้เรื่อง เราก็อธิบายให้แม่ชีฟังใหม่ว่า เราติดต่ออะไรไปบ้าง เพราะครั้งที่หลวงตาอนุญาตเรื่องรองรับผู้ประสบภัย ๑๐,๐๐๐ คน เราคุยกันเรื่องโรงพยาบาลสนามเคลื่อนที่ การใช้ ฮ.รับส่งคนป่วย การทำสนามจอด ฮ.ที่แคมป์เรา พยายามหานักบินอาสา ที่ขับแบ็คฮอกเป็น

หลวงตาบอก จะส่งผู้พันโปเต้ มาช่วยขับ ฮ. หากเกิดพิบัติภัย

ที่นี้แม่ชี ก็ไปบอกหลวงตาใหม่ หลวงตาก็จำได้แล้วว่าท่านพูดจริง อนุญาตจริง

เรื่องมันก็น่าจะจบลงตรงนั้น แต่เด็กเกรียนไม่ยอมจบ

เวลาเขียนโต้ตอบในหน้าเฟสของเครืองข่ายก็ว่านับถือผม

แต่ในเฟสของวัด ยำผมเละ

ผมก็อยากสรุปจบลงเร็วๆดี เพราะอาหารยังให้ไม่ครบ

ตกลงทางวัดจะเอาอย่างไรกันแน่ โทรติดต่อแม่ชี ก็สรุปได้ว่านำไปส่งได้

เพราะของไปถวายไม่ได้มีเงื่อนไขอะไร ให้หลวงตาจัดการตามใจชอบ

ก็เลยนำอาหารไปเพิ่ม และวันที่ ๘ เมษายน หลวงตาจะกลับวัด

ผมก็จะนำส่วนที่ขาดไปเที่ยวสุดท้าย และไปพบไปถวาย และกราบหลวงตาด้วยตนเอง

เราก็เลยแยกกัน ผมไปแม่สะเรียง อีกคันไปวัดถ้ำเมืองนะ เพราะเรื่องน่าจะจบแล้ว

แต่ก็ยังไม่จบ ไม่รู้อะไรกันนักหนา ผมไม่มีปัญหาเรื่องขนของกลับ

หรือทางวัดไม่ให้ใครไปอยู่ ๑๐,๐๐๐ คนตามที่ท่านอนุญาตไว้

แต่ผมต้องการความเป็นธรรม ความยุติธรรม ที่คนในวัดกล่าวหาผม

ใส่ร้ายผม ปั้นแต่งเรื่องขึ้นอธิบายกันไม่จบไม่สิ้น และก็จะฟ้องจะจับ

ผมก็เลยสวนไปว่า ให้มาพร้อมกันวันที่ ๘ เมษายน ใครผิดก็จับกันไปเลย

ไปขนอาหารกลับกันต่อหน้า จะได้ไม่มีปัญหาอะไรกันอีก

โดนกล่าวหา สร้างเรื่องจนกลัวไปกันไปหมด ก็แค่คุยกันต่อหน้าให้ครบทุกฝ่ายก่อนเอาอาหารกลับ


ผมก็ขียนไปหลายหนว่าผมดื้อไม่ทู่ซี้ แค่คุยต่อหน้าพร้อมๆกันทุกฝ่ายทุกฝ่าย

เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของผม


และความไม่บริสุทธิ์ของคนแต่งเรื่อง

ตั้งแต่แอบเข้าไป ทำงานเป็นขบวนการ ตั้งแต่เอาชื่อวัดไปเรี่ยไรรับของ

จนกระทั่งว่าไปเรี่ยไร และรับเงินมาแล้ว ๔ ล้านบาท

ทำแบบนี้หลายหนแล้ว เอาเงินเขาไปแล้ว ก็ไม่ทำตามที่บอก สารพัดสารเพ

ทั้งๆที่หากสงสัยอะไรก็โทรถามได้ Inbox ถามก็ได้ หรือจะโพสถามก็ได้ แต่ไม่มีครับ

โดนเป็นชุดแบบปืนกล แถมกล่าวหาเพิ่มขึ้นไปอีกหลายเรื่อง

ผมก็ขอชื่อ- นามสกุล เพราะจะจับผมก่อน

ผมก็ขอชื่อ-นามสกุล เพื่อจะแจ้งความกลับบ้าง สุดท้ายลบโพสทิ้งไป

เรื่องก็มีย่อๆแค่นี้ ประมาณนี้นะครับ

ที่มา https://www.facebook.com/Piyacheep

วันที่ 5 เมษายน 2556

<iframe width="560" height="315" src="http://www.youtube.com/embed/nd0j1nChB7o" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

<iframe width="560" height="315" src="http://www.youtube.com/embed/AEqSKGbrY0w" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

 

ให้กำลังใจค่ะ

หากสิ่งที่ทำอยู่ดีแล้ว ก็อยากให้ทำต่อไป มีผู้เฝ้ารอคอยความช่วยเหลือจากเราอีกมากมาย

คนเรามีบารมีต่างกัน หน้าที่ที่ได้รับมอบหมายก็ต่างกัน

เข้าใจตรงนี้แล้ว หมดข้อสงสัยแล้ว

 

สาเหตุที่วัดต้องได้มาออกประกาศอย่างนี้ตามที่อ่านมาคือ โครงการนี้ได้อ้างว่าวัดถ้ำเมืองนะเป็นที่หลบภัย รับรองคนได้ 10,000 คน โดยมีการเปิดให้คนลงทะเบียนหลบภัย แต่ไม่เคยมีการทำหนังสือแจ้งหรือกล่าวขอต่อหน้าให้หลวงตาท่านรับรู้เพื่อขอใช้สถานที่วัด พร้อมกับมีการนำชื่อวัดไปเข้าโครงการสถานที่หลบภัยพิบัติ โดยมีการเปิดให้บริจาคเงิน โดยที่วัดไม่ได้รู้เห็นอะไรด้วย ซึ่งเมื่อทางวัดรู้แล้วหากไม่รีบออกประกาศให้ญาติธรรมได้ทราบ หากคนที่ไม่รู้ไปเจอว่าวัดถ้ำเมืองนะเป็นส่วนหนึงของโครงการหลบภัยพิบัติ และมีการเปิดให้ลงทะเบียน นำของมาไว้ที่วัด (ซึ่งทำโดยพลการ) และเปิดให้บริจาคเงิน ถ้าวัดไม่ประกาศไว้วัดก็เสียหาย เพราะองค์ทางวัดองค์หลวงตา ไม่ทราบเลยว่ามีการนำชื่อวัดไปกระทำการแบบนี้

ต้องเห็นใจทางหลวงตามาก แค่นี้ก็ไปรบกวนท่านมากแล้ว ยิ่งท่านเป็นพระปฎิบัติ ทำไมถึงยังไปรบกวนวัดท่านแบบนี้อีก ถ้าไปขอท่านโดยตรง ท่านจะอนุญาติหรือไม่ตั้งแต่ตอนโน้น ป่านนี้คงไม่มีปัญหา แต่ก็ไม่เคยมีการบอกท่านเลย ทางวัดถูกนำไปกล่าวอ้างเอง ในเมื่อไม่เคยขอท่านโดยตรง ไม่มีหนังสือหลักฐานอะไรเลยว่าเคยมีการติดต่อขอท่าน แบบนี้จะมาอ้างอะไรไม่ได้แน่นอน อีกอย่างท่านเป็นพระท่านจะพูดอะไรมากก็ไม่ได้ คิดง่ายๆถ้าท่านเคยอนุญาติคงไม่มีกรณีแบบนี้เกิดขึ้นหรอก อยู่ดีๆก็มีคนมาทำอะไรของเขาเอง เพื่อให้คนทั่วไปเข้าใจว่าวัดไม่เกี่ยวข้องก็ต้องออกประกาศในนามวัด (เพื่อกันปัญหาต่างๆที่อาจจะเกิดในอณาคตด้วยหากมีปัญหาอะไรขึ้นมาเพราะวัดไม่รุ้เรื่องด้วยแต่แรกอยู่แล้ว) กรณีนี้เองทางวัดเองก็ไม่ได้กล่าวหาใคร เพียงแต่เตือนภัยหากเจอพฤติกรรมตามที่เล่ามาที่ไหน ก็อย่าไปหลงเชื่อเท่านั้นเอง ใครจะรับก็รับไป แค่นี้ทางวัดก็เสียหายมากอยู่แล้ว วัดเขาจึงอยากให้หยุดนำวัดไปอ้าง ซึ่งจริงๆการแอบอ้างว่าวัดถ้ำเมืองนะได้ไปเข้าร่วมโครงการมีมาหลายเดือนแล้ว แต่ที่วัดเองเพิ่งมาทราบ เพราะอยู่ดีๆ ก็มีคนขนของมาไว้ที่วัดจำนวนมาก ไม่มีที่มาที่ไปชัดเจน ไม่รู้จุดประสงค์ แล้วก็กลับออกไป ของที่นำมาก็เป็นของนำเข้า ไม่มี อย. และไม่รู้คนที่นำมามีจุดประสงค์เพื่ออะไร เพราะนำของมาไว้ แต่ไม่ได้ถวายกับใครเลย นี้ก็เป็นอีกสาเหตุหนึงที่ทางวัดไม่สามารถรับของเหล่านี้ไว้ได้ ยิ่งตอนหลังหลังจากมีคนแจ้งเข้ามาทางวัดยังมารู้เข้าว่ามีการนำชื่อวัดไปอ้างแบบนี้มาหลายเดือนแล้ว จุดประสงค์ที่ทำก็ไม่แน่ชัด การนำชื่อวัดไปใช้เพื่อเปิดให้คนบริจาคเงินให้บุคคลอื่นตามความเข้าใจวัดผิดๆว่าวัดรู้เห็นด้วยก็ไม่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง ผลก็เลยเป็นตามที่เห็น

เรื่องของเรื่องก็มีมาแบบนี้ วัดยิ่งเป็นวัดเปิด ใครจะมาปฎิบัติธรรมก็ได้ ก็ไม่แปลกใจ ที่จะมีกรณีแบบนี้เกิดขึ้น เพราะการกระทำกรณีแบบนี้คงคิดว่าทางวัดคงจะทำอะไรไม่ได้ แต่วัดเป็นของสงฆ์ ไม่ใช่ของผู้ใดผู้หนึงที่จะนำชื่อวัดไปทำตามอำเภอใจ เมื่อมีการกระทำแบบนี้ วัดเขาก็ต้องขอให้หยุด เป็นธรรมดา

เห็นแล้วก็เพลียใจ ยังมีการสร้างเรื่องให้ดูดีอีก ไม่จบสิ้น ทั้งๆที่อะไรเป็นอะไรหลวงตาก็ให้ทางวัดก็ประกาศออกมาชัดเจนอยู่แล้ว

- หนานใหญ่

 

สิ่งที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ผมไม่ขอตัดสินถูกผิด และจะไม่ออกความเห็นว่าจริง
หรือเท็จ แต่เรื่องทั้งหมดจะไม่เป็นแบบนี้หากคุณทำอะไรคิดก่อนทำ ไม่ใช่
ว่าสักแต่คิดเอาเองว่าทำดี ทำไปก่อนแล้วค่อยมาจัดการทีหลัง ถ้าทำอะไร
ตรงไปตรงมา เข้าไปคุยรายละเอียดกับหลวงตาและคณะสงฆ์ กรรมการวัด
ให้ดีเสียก่อนเรื่องราวคงไม่เป็นแบบนี้ เรื่องราวมันละเอียดอ่อนศิษยานุศิษย์
มีเยอะต่างคนต่างความคิด ในเมื่อเรื่องมันเกิดขึ้นแล้วมีความเสียหายแล้ว

ก็คงต้องให้หลวงตาท่านออกมาพูดมาอธิบายเรื่องราวทั้งหมดให้กระจ่าง
ขืนปล่อยแบบนี้ไปท่านก็เสีย ผู้บริจาคก็เสีย เสียด้วยกันทั้งคู่ ก็จดจำไว้
เป็นอุทาหรณ์สอนใจ จะทำอะไร ตรงไปตรงมา ฟ้าผ่าไปเลย อย่าทำอ้อมๆ
แล้วค่อยมาจัดการทีหลัง ทำดีจะกลัวอะไร

 

Update สถานการณ์ต่อ อ.ปิยะชีพ

เป็นการโต้ตอบระหว่าง คุณEnerpac Thailand กับ อ.ปิยะชีพ กรณีวัดถ้ำเมืองนะ

Enerpac Thailand : ปิยะชีพยังไม่สำนึก ลบโพสเองไม่ใช่หรือ ส่งตัวแทนขอให้จบเรื่องนี้ไม่ใช่หรือ หรือจะเล่นกันต่อ

Piyacheep S. Vatcharobol: อย่าจบดีๆเลยนะครับ โดยเฉพาะคุณ ผมบอกไปแล้วนะ

ว่าก่อนจะโพสว่าอะไร ให้เปิดเผยตัวตน แจ้งชื่อ-นามสกุลมาด้วย นะครับ

หากคุณมั่นใจในข้อมูลคุณ ว่าผมเป็นคนไม่ดี อย่าให้คนไม่ดีลอยนวลสิครับ

เปิดเผยตัวตน และนัดไปพบที่สถานีตำรวจไหน แจ้งจับผมก็ได้

ผมจะไปตามนัด ไม่ได้ท้ายทายเย่อหยิ่ง นะครับ

แต่ต้องการพิสูจน์ความจริง?

Enerpac Thailand : มโนธรรมหาไม่ได้อีกแล้วในตัวปิยะชีพ เอากรณีวัดถ้ำเมืองนะก็พอ ชี้แจงมาฝ่ายเดียว ทางวัดไม่ได้รุ้เรื่องด้วยเลย วันที่ 8 หลวงตาท่านก็ไม่ได้อยุ่ที่วัด ท่านมีกำหนดการล่วงหน้าเป็นหลายเดือน เพ้อพกอยุ่คนเดียว ทุกวันนี้ที่ไม่มีใครอยากมาตอแยด้วยเพราะรู้ถึงพฤติกรรมของปิยะชีพที่ผ่าน ๆ มา มันเอาผิดทางกฎหมายไม่ได้หรอกปิยะชีพ แต่ความเลวร้ายของการขาดมโนธรรมจิตสำนึกต่างหากที่ทำให้เราทนอ่านทนฟังไม่ได้ จำไว้นะปิยะชีพ "ทำดีได้ดีมีแน่ ๆ ทำชั่วได้ดีไม่มีนาน" ขอให้ปิยะชีพแอนด์เดอะแก็งค์จงไปสู่สุขคติ อย่าได้สร้างเวรสร้างกรรมต่อคนไทยอีกเลย

Piyacheep S. Vatcharobol: แต่เวรกรรมคุณกับผมคงไม่จบแค่นี้

ใช่ไหมครับ เพราะนอกจากคุณก้าวล่วงละเมิดผมแล้ว

คุณยังไปก้าวล่วงคนอื่นที่ช่วยงานในกลุ่มอีก

ก็สงสารคุณนะครับ แต่ก็เข้าใจครับ ว่าคุณกลัวความเท็จ ที่คุณคิด

คุณเข้าใจว่ามันจะไม่ถูกต้อง คุณถึงพยายามตะแบงความเท็จต่อไป

แต่ครั้งนี้อาละวาด ไปยังคนอื่นๆด้วย

ไม่อโหสิกับคุณ นะครับ

ผมภาวนาให้คำพูดคุณ เป็นจริงเร็วๆครับ

ที่ว่า จำไว้นะปิยะชีพ "ทำดีได้ดีมีแน่ ๆ ทำชั่วได้ดีไม่มีนาน"

ที่มา https://www.facebook.com/Piyacheep
วันที่ 5 เมษายน 2556

 

ขำ... คนส่วนใหญ่เขารู้เรื่องหมดแล้ว
นี้ไม่นับสารพัดกรณีในอดีตอีก เอาเป็นว่ากรรมจัดสรรแน่นอน
ทำแบบนี้ทำได้ไม่นานหรอกครับ คนที่เขาไม่ยอมให้ทำแบบนี้

เขาไม่อยู่นิ่งกันหรอก

- หนานใหญ่

 

Update สถานการณ์ต่อ อ.ปิยะชีพ

Supha Jun: โปรแกรมท่านมีจริงแต่เท่าที่ทราบท่านน่าจะกลับวัดวันที่ 8 และทุกวันที่ 9 ท่านมีกิจสวดมนต์และออนไลน์ที่วัดหลังถ้ำเชียงดาวทุกเดือน (ที่สร้างพระปางเปิดโลกสูง 59) เวลาประมาณ 18.00 -21.00 น. วันที่ 10 มีกิจที่อำเภอพานค่ะ ถ้าได้พบน่าจะได้เคลัยร์กันให้รู้เรื่องจะได้ไม่เสียทั้งสองฝ่าย ถูกผิดอย่างไรออกพรรษาทุกคนได้รู้แน่ค่ะปีนี้ ทำดีได้ดี ทำช่ั่วได้ชั่วทำตัวอัปราชัย

Piyacheep S.Vatcharobol: ก็นัดกันผ่าน แม่ชีวันที่ ๘ นะครับ

ที่มา https://www.facebook.com/Piyacheep

วันที่ 5 เมษายน 2556

 

วันที่ 8 หลวงตามางานหล่อพระจักรพรรดิที่ สถานธรรมพุทธพรหมปัญโญ สาขานาเม็ง ..กำหนดการเททองพระจักรพรรดินี้เป็นกำหนดการที่มีมาหลายเดือนก่อนหน้านี้แล้ว หลวงตาจะไปตอบปัญหาธรรมต่อที่วัดป่าธาราภิรมณ์ ในช่วงบ่าย จนถึงค่ำ

 

Update สถานการณ์ต่อ อ.ปิยะชีพ

Piyacheep S. Vatcharobol:

ชีวิตเมื่อโตมาเมื่อเกิดสัญญาแล้ว
ก็เห็นพ่อทำงานเพื่อลูกๆของแผ่น
ก็จำสิ่งที่พ่อทำ ช่วยงานพ่อเท่าที่ทำได้
เมื่อเข้าเรียนมัธยม ก็ได้เรียนในโรงรียนที่สืบเนื่องมาจากปู่ของพ่อเป็นผู้ตั้งเพื่อผลิตบุคลากรมารับใช้ขาติบ้านเมือง
โรงเรียนก็มีขื่อย่อของพ่อด้วย

ออกจากโรงเรียน ก็ได้ทุนการศึกษา
เรียนปริญญาตรีที่สืบเนื่องมาจากปู่ของพ่ออีก

ตอนเรียนปริญญาตรี
ก็เรียนในสถาบันชื่อพ่อของพ่ออีก

ก้าวแรกที่เหยียบย่างไป พี่ๆก็พาไปกราบพระรูป
ที่มีป้ายติดไว้โดยย่อว่า

..ขอให้ถือประโยชน์ส่วนตนเป็นที่สอง
ประโยชน์ของเพื่อนมนุษย์เป็นกิจที่หนึ่ง...

ซึ่งต่อมาผมนำมารวมเป็นประโยคเดียวว่า

..ขอให้ถือประโยชน์ของเพื่อนมนุษย์เป็นกิจที่หนึ่ง

ดำเนินตามคำที่พ่อสอนในโอกาสต่างๆ
ดำเนินตามคำที่พ่อของพ่อสอน
เป็นปรัชญาชีวิตมาจากเด็กจนโตถึงทุกวันนี้

ทุกสิ่งที่ผมคิด ผมทำ บางท่านว่าเสียสติ

ทำให้ตนเองเดือดร้อน ทำให้ตนเองลำบาก

และยังทำให้สมาชิกในครอบครัวลำบากไปด้วย

บางท่านก็ว่าต้องมีผลประโยชน์แอบแฝง

ต้องมีผลประโยชน์ทับซ้อน

แต่หากท่านเกิดทันและจำได้ หรือค้นอ่านได้
อย่างที่ผมจำความได้ จำได้ว่าประกาศทำสงคราม

พ่อต้องการคนข่วยพ่อทำสงคราม

สงครามของพ่อคือ สงครามกับความยากจน

ทำอย่างไรลูกๆของแผ่นดินจะกินดีอยู่ดีไม่ลำบาก

ทำอย่าไรพ่อไม่ต้องมาเผาศพหมู่
ที่วัดพระศรีมหาธาตุบางเขน

ผมเคยไปเดินดูรูปกับโลงศพที่ตั้งเรียงเป็นแถว

ผมเคยเดินขึ้นเมรุวางดอกไม้จันทร์

ให้กับซากร่างต่างๆที่เรียงรายเผา

ผมเคยผ่านชีวิตสลัม แฟลต คฤหาสน์

ผมเคยเห็นความแตกต่างทางชนชั้น

ความแตกต่างระหว่างความสบายกับความลำบาก

ความสุขสบายของชีวิตในต่างประเทศ

ทำงานสบายๆกับตำแหน่งดีๆ รถหรูๆ

แต่ชีวิตก็วนเวียนอยู่กับงานของพ่อ

ช่วยงานพ่อนอกเวลางานบริษัท

สุดท้ายงานช่วยพ่อง่ายๆสบายๆก็ไม่มีคนจะทำ

งานแค่สอนหนังสือวันหยุดเสาร์-อาทิตย์

เป็นเพราะงานไม่มีรายได้

เป็นเพราะต้องทำในวันหยุดเสาร์-อาทิตย์

เป็นเพราะจะต้องทำงานรวม ๗ วันไม่มีวันหยุด

แล้วงานที่พ่อทำ พ่อสร้างรายได้ให้กับตนเองไหม?

แล้วพ่อทำงานมีวันหนุดไหม?

มีเวลาเริ่มงาน เวลาพัก และเวลาเลิกงานไหม?

ความยากจนไม่หนุดคอยคสามมั่งมี

ความเดือดร้อนของลูกๆไม่วันหยุดไม่มีเวลาพัก

แวดวง วงจรชีวิต เห็นแต่พ่อทำ ทำ

ทำอย่างไม่เหนื่อย ทำอย่างไม่หิว

สุดท้ายพ่อถูกปองร้ายพยายามล้มล้าง

สิ่งที่พ่อทำถูกบิดเบือน และขาดคนช่วยในพื้นที่

พื้นที่ที่มีความขัดแย้ง เพื่อที่ที่เสี่ยงภัย

หลายคนอยากช่วยพ่อ แต่ครอบครัวไม่ยอม

หลายคนอยากช่วยพ่อ แต่ไม่สามารถเข้าถึงได้

ผมจึงต้องเดินตามรอยเท้าพ่ออย่างเต็มตัว

อย่างที่พ่อทำโดยไม่มีวันหยุด ไม่เลือกสถานที่

ผมเดินตามรอยเท้าพ่อ

ผมช่วยงานพ่อแบบราษฎรเต็มขั้น

ผมทำสิ่งต่างๆ มาจวบจนทุกวันนี้ ด้วยปรัชญญาที่ว่า

ขอให้ถือประโยชน์ของเพื่อนมนุษย์เป็นกิจที่หนึ่ง

ชีวิตจึงลำบากแบบนี้

ไม่ทำงานสบายๆหาทรัพย์สินสะสมแบบคนทั่วไป

ทำไมต้องไปตามป่าตามเขา

ทำไมต้องไปเดินตามป่าในพื้นที่เสี่ยงภัย

ทำไม ๓ จังหวัดชายแดนใต้
ทำไมชายแดนพม่า
ทำไมชายแดนเขมร
ทำไมต้องชายแดนลาว

และทำไมต้องเตรียมการ หากมีพิบัติภัยในอนาคต

คำตอบหรือครับ?

เพราะไม่มีคนทำ ในงานที่ผมทำ

เพราะเพียงเพื่อเป็นต้นแบบ ให้คนเดินตาม

เพราะเพียงเพื่อให้เห็นว่า มันทำได้หากเราจะทำ

และเพราะเพียงเพื่อ ได้ช่วยงานพ่อทำสงครามกับ
ความลำบากยากจน ให้ลูกๆของพ่อมีชีวิตที่ดีขึ้น
อยู่สบายๆอย่างพอเพียงและเพียงพอ

ช่วยแบ่งเบาภาระพ่อ แม้นเพียง ๑ เดียว

ในหลายพันล้านโกฎิ ก็ภูมิใจในตัวเอง

อิ่มใจที่ได้ทำ

เพราะนอกจากทำเพื่อลูกๆของพ่อแล้ว

ก็ทำเพื่อให้ลูกๆของตนเองเห็น

เพิ่อที่ลูกๆของผม จะช่วยงานพ่อแบบผมในอนาคต

มันอิ่มเอิบใจที่ได้ทำ เวลานึกถึงความลำบากที่ผ่านมาแล้วหัวเราะขำๆ

รอดตายยามวิกฤติ ด้วยนึกให้พ่อช่วยก็หลายครั้ง

ไม่ท้อถอยคอยสร้างสิ่งที่ควร

ไม่เรรวนพว้าพวังคิดกังขา

ไม่เคืองแค้นน้อยใจในโชคชะตา

ไม่เสียดายชีวาถ้าสิ้นไป

ที่มา https://www.facebook.com/Piyacheep
วันที่ 5 เมษายน 2556

 

..ทำดีได้ดีมีแน่ๆ.. ให้กำลังใจผู้มีจิตใจเป็นกุศล ทำความดีเพื่อสาธารณะ

 

Update สถานการณ์ต่อ อ.ปิยะชีพ


Norasing Ja: ผมรู้แล้วแก้ปัญหายังงัย

เอาผู้ประสานงาน ที่อาจารย์หนุ่ย เขียนบรรยายมา เอาตัวออกมา. แค่นี้ก้อแก้ปัญหาได้ มีอยู่ในรูป หรือ คลิป. หน้าตา เป็นยังงัย. เอามาเคลียร์ เอวังเลย

Piyacheep S.Vatcharobol: คุณนรสิงห์ครับ ผมก็ประกาศลงหลายครั้งแล้วครับ ว่าเรานัดพบกันวันที่ ๘ เมษายน ทุกคนพร้อมกันนะครับ

มีหลายบุคคลที่อยู่ในเหตุการณ์ คุยกันที่เดียวต่อหน้าจะได้ไม่สับสน

ผมไปวัด ขนของลงที่วัด ลูกศิษย์หลวงตาก็มา พระก็มา

ก็วันที่ ๘ เมษายน ที่นัดกัน กับแม่ชีอีกไม่กี่วันเอง ครับ

ผมอยากจะขนอาหารกลับตั้งแต่เช้าวันที....เขียนมาว่า มาแปะหน้ากลุ่มเครือข่ายแล้วครับ

หากเป็นสถานที่อื่นไม่ใช่วัด ไม่ใช่พระ ผมพาคนไปขอออกมาแล้วครับ

ชีวิตผมเคยแต่ขนของเข้าวัด ไม่เคยขอของออกจากวัด โดยเฉพาะของที่นำไปถวายพระ

ทุกวันนี้มีแต่อ้างหลวงตาว่าแบบนั้นแบบนี้ ผมก็อ้างว่าที่ทำไปนั้นขออนุญาตหลวงตาแล้วต่างฝ่ายต่างมีหลักฐานพยาน เป็นฆารวาสจบไปนานแล้วครับ

แต่ของที่ถวายพระ ขนเข้าวัดไปแล้ว ขนออกมาพละการบาปนะครับ

ผมบอกแล้วหลายครั้งว่าผมไม่ดื้อดึง ผมพร้อมและเตรียมรถไว้ขนของเรียบร้อยแล้ว

และผมก็บอกกับตัวเองว่า สถานที่แห่งนี้ไม่เหมาะกับผม

ผมไม่ได้อยากไป อยากดำเนินการเองนะครับ

อาจารย์ของผมแนะนำ และสั่งให้ดำเนินการ

ชีวิตผมไม่รู้จักวัดนี้มาก่อนเลยจนมาเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วถึงรู้จักวัดนี้

และรู้จักเรื่องของหลวงตาม้า ที่ท่านเตรียมการที่หลบภัยที่เพชบูรณ์ เพิ่งไปมา ๒ ครั้ง

ผมอยากให้คุณนรสิงห์ มองประเด็นที่ผมถูกกล่าวหาใส่ความต่างๆนานาด้วยนะครับ

ว่ามีเหตุการณ์อย่างนั้นจริงไหม ผมไปเรียไรใครไหม ผมรับเงินใครๆมา ๔ ล้านไหม

สิ่งเหล่านี้ออกมาจากคนที่ดูแลเพจวัด ประกาศหน้าเพสวัดและที่อื่นๆ

คนทำงานกับพระระดับมหาโพธิสัตว์ ที่กล่าวขานกันทำเยี่ยงนั้นหรือครับ

หากผมผิด คนของผมผิด คนที่ผมประสานงานด้วยผิด พระที่ติดต่อด้วยผิด

ผมเชื่อว่า ผมและทุกคนที่เกี่ยวข้องก็ยอมรับได้โดยดุษฎี

ทุกอย่างที่ผมโพสไปประกาศไปไม่เคยลบ ตัดต่อท่อนความ

แต่คนของวัดกลับลบ กลับตัดต่อท่อนความ

นี่คือสิ่งที่ผมยืนกระต่ายขาเดียว สู้เพื่อความยุติธรรมของผม วงศ์ตระกูลผม

จนลมหายใจสุดท้ายครับ

ที่มา : https://www.facebook.com/Piyacheep
วันที่ 5 เมษายน 2556

 

เป็นกําลังใจให้คุณปิยะชีพคะ่

 

ขออนุญาตยกคำคุณหนุมานที่ว่า

"ตัวกระทำ มีสิ่งตอบแทน มีการให้ผล"

ความจริงอย่างไร ก็คือ ความจริง
อีกไม่ช้าไม่นานความจริงก็จะปรากฎ

 

พี่น้องครับ รอดูวันที่ ๘ ก่อนนะครับ
ความจริงก็คือความจริงวันยังค่ำครับ
คนคิดดีทำดีย่อมได้ผลดี คนทำชั่วก็ย่อมได้รับผลของกรรมนั้นครับ

 

สุภาพชน เมื่อต้องการพบใคร ต้องโทรศัพท์ติดต่อ เพื่อสอบถามว่า อยู่หรือไม่
บางสำนักงาน มีเลขานุการ
การติดต่อขอเข้าพัก ทางโลก ต้องจองไม่ว่าจะเป็น เครื่องโดยสาร หรือ ที่ัพัก บางทีจองแล้วไม่ได้ก็มี แล้วนี่ คือ วัด สถานที่สำหรับพุทธศาสนิกชน วัดใจ และ สร้าง บารมี

บางคน อาจคาดหวังมากมาย ก็ได้ (ซึ่งผู้จัดการเรื่องนี้ ควรคิดวิธีให้รอบคอบ)

 

เป็นกำลังใจให้ครับ

 

Update สถานการณ์ต่อ อ.ปิยะชีพ

Piyacheep S. Vatcharobol:

๐๕/๐๖/๕๖ ดวงอาทิตย์วันนี้ ที่แม่โจ้

ไม่น่าเกินสามวัน พายุใหญ่จะเข้าบริเวณนี้รัศมี ๑๐๐ กิโลเมตร



ที่มา https://www.facebook.com/Piyacheep
วันที่ 5 เมษายน 2556

 

Update สถานการณ์ต่อ อ.ปิยะชีพ

Piyacheep S. Vatcharobol:

ย้ำเตือนอีกครั้งด้วยวีดิโอนี้ว่าวัฎจักรของไตรลักษณ์นั้นเป็นจริงเสมอมา

แต่ผลของไตรลักษณ์จะไม่เหมือนเดิมเสมอไป เพราะตำแหน่งของโลกในจักรวาลเปลี่ยนไปจาก

เดิมด้วยโลกเคลื่อนที่ข้างหน้าพร้อมกับดวงอาทิตย์

เรามักเห็นภาพมิติเดียวที่โลก และดวงดาวต่างๆในระบบสุริยะ

โคจรรอบดวงอาทิตย์เป็นวงกลม ซึ่งความเป็นจริงหาเป็นเช่นนั้นไม่

โลกและดาวต่างๆโคจรรอบดวงอาทิตย์เป็นวงรีแบบเกลียวไปด้านหน้า

รายรอบดวงอาทิตย์ หรือจะกล่าวว่าดวงอาทิตย์กับโลกตั้งแต่กำเนิดมา

ต่างเป็นผู้พเนจรไม่เคยวกกลับ ไปหาจุดตำแหน่งที่กำเนิดมาเลย

ไปข้างหน้าตลอด

วัฎจักร ๒๖,๐๐๐ ปีในอดีตอาจเกิดคล้ายคลึงกัน แต่ไม่เหมือนกัน

เราไม่เอาโลกในอดีต มาเปรียบเทียบกับโลกในปัจจุบันได้

พายุใหญ่กำลังก่อตัวในสยามประเทศภายใน ๓ วันนี้

หนักเหนือ-อีสาน วิกฤติการณ์น้ำแล้ง แล้วฝนฉ่ำแบบปี ๕๖ กำลังก่อตัว

<iframe width="560" height="315" src="http://www.youtube.com/embed/o6jBK1ZV-qs" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

ที่มา https://www.facebook.com/Piyacheep

วันที่ 5 เมษายน 2556

 

น้ำเชี่ยวอย่าขวางเรือครับ ควรผลักนาวาตามน้ำจะเหมาะสมกว่าและเสียหายน้อย สงสารคนขวางน้ำมากๆ ภัยพิบัติมีเป้าหมายทำลายคนครับ เราต้องปล่อยไปเพราะมันคือบทสรุปของเหตุปัจจัยต่างๆ หากเราไม่รู้ต้นเหตุจริงๆการมาคิดทำอะไรโดยดูที่ปลายเหตุจะผิดพลาดเสียหายมากมาก อยากเตือนคนที่คิดจะทำอะไรกับภัยพิบัติครับ บางทีเขาอาจซวยเพราะกระโดดเข้าไปหามันเองก็ใด้จากการกระทำอันตื้นเขินของตนเอง สิ่งสที่เราเตรียมพร้อมมันไม่ช่วยอะไรครับ เพราะเช่นนั้นคงไม่เรียกว่า ภัยพิบัติ ไปคิดดูกันดีๆนะครับ

 

การแจ้งเตือนภัยพิบัติเป็นการกระทำที่เปล่าประโยชน์โดยสิ้นเชิง พูดตรงๆก็คือ
การพยายามช่วยให้คนหนีความตาย หนีกฎแห่งกรรม ซึ่งไม่มีทางทำได้แน่นอน
กฎแห่งกรรมยิ่งใหญ่เสมอ ไม่มีใครทำได้ ที่จะทำได้ก็เป็นแค่สิ่งที่คิดขึ้นในจิต
หลอกตัวเองไปวันๆเหมือนที่คนบางกลุ่มพยายามทำในเวลานี้

เมตตาธรรมเป็นเครื่องค้ำจุนโลก เราต้องรู้จักเมตตาอย่างมีสติ อะไรที่เป็นกรรม
ก็ปล่อยวางอย่าไปยุ่งเราทำอะไรไม่ได้ ทุกวันนี้มันมีหลายรูปแบบทั้งหลอกลวง
เพื่อผลประโยชน์ส่วนตน บางคนก็ทำไปเพราะสงสารมีจิตเมตตาต่อสัตว์โลก
แต่ลืมไปว่าตนกำลังกระทำเมตตาแบบโง่ๆขาดสติอยู่ด้วยการฝืนกฎแห่งกรรม