ข้อความจากต่างมิติ - ข้อความชุด Morning messages จาก The Team

"ข้อความที่ 35: โลกแห่งความเป็นจริงคู่ขนาน"


(credit the picture from internet)

ทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกคุณกำลังรับรู้ว่ามันเป็นของแข็งและเป็น “ของจริง” อยู่ในขณะนี้นั้น แท้ที่จริงแล้วมันเป็นแต่เพียงพลังงานที่กำลังสั่นสะเทือนอยู่เท่านั้นเอง แต่พวกมันถูกยึดหรือถูกล็อกเอาไว้ ด้วยระบบความเชื่อทั้งหลายของพวกคุณเองเท่านั้นเอง ดังนั้นถ้าเพียงแต่พวกคุณสามารถออกมายืนอยู่นอกโปรแกรมของจิตแห่งโลกแห่งความเป็นจริงของตัวเองได้สักครู่หนึ่งหละก็ พวกคุณก็จะรับรู้สิ่งที่เรียกว่า “โลกแห่งความเป็นจริง” ของตัวเองในแบบที่แตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิงเลยทีเดียว

พวกเราอยากจะให้พวกคุณรับเอาความคิดที่ว่ามันมีโลกแห่งความเป็นจริงอยู่มากมายก่ายกอง และมีผลลัพธ์ที่จะเป็นไปได้อยู่มากมายก่ายกอง, และมีโลกแห่งความเป็นจริงคู่ขนานอยู่มากมายก่ายกอง ที่จะสามารถถูกเนรมิตออกมาสู่ความเป็นจริงทางกายภาพนี้ได้เสมอ

เพราะว่าพวกคุณและคนอื่นๆกำลังถ่ายทอดคลื่นพลังงานออกมาในรูปแบบของความคิด, อารมณ์ความรู้สึก และความเชื่อของตัวเองอยู่ตลอดเวลา และเมื่อพวกคุณส่งคลื่นพลังงานเหล่านี้ออกมา จึงทำให้โลกแห่งความเป็นจริงมีความเป็นไปได้อันหลากหลายเสมอ และโลกแห่งความเป็นจริงที่จะถูกเนรมิตออกมาก็คือโลกแห่งความเป็นจริงที่พวกคุณไปจดจ่อพลังงานของตัวเองอยู่กับมันมากที่สุดนั่นเอง

ในบ้านของพวกคุณมีโทรทัศน์อยู่ใช่ไหม และถึงแม้ว่าในตอนนี้มันจะกำลังปิดอยู่ก็ตาม แต่พวกคุณก็สามารถที่จะทำให้มันทำงานขึ้นมาได้อย่างง่ายดาย แล้วมันก็จะมีรายการต่างๆ ภาพยนตร์ต่างๆ และข่าวต่างๆถูกฉายขึ้นมาใช่ไหม๊

สมองของพวกคุณก็คล้ายๆกันกับโทรทัศน์เครื่องนั้นนั่นแหละ ที่พวกคุณจะสามารถที่จะเปลี่ยนช่องของมันได้ด้วย ดังนั้นพวกคุณจึงสามารถที่จะพบกับความทรงจำในอดีตที่จะไปกระตุ้นอารมณ์ความรู้สึกต่างๆให้โผล่ขึ้นมาใหม่อีกครั้งได้ด้วย หรือไม่ก็สามารถที่จะย้อนกลับไปอยู่ในช่องวิตกกังวลใหม่อีกครั้งได้ด้วย หรือไม่ก็สามารถที่จะสร้างภาพและรับรู้ความรู้สึกของอนาคต ที่สามารถเป็นไปได้ของตัวเองได้ด้วย

พวกเราขอสนับสนุนให้พวกคุณยอมรับในความมีอยู่จริงของโลกแห่งความเป็นจริงอันหลากหลายจนนับจำนวนไม่ถ้วนเหล่านี้ ที่อยู่ถัดจากโลกแห่งความเป็นจริงอันนี้ไปอีกแค่คลื่นความถี่เดียว หรืออีกแค่ความสั่นสะเทือนเดียวเท่านั้นเอง

The Team
............................................................
Source: Morning Messages
............................................................

 

"ข้อความที่ 36: พิมพ์เขียว หรือ แม่พิมพ์"

(credit the picture from internet)

สิ่งมีชีวิตทุก ๆ ชนิดบนดาวเคราะห์โลกดวงนี้ จะมีพิมพ์เขียวหรือแม่พิมพ์ของชีวิตอยู่ในระนาบทิพย์ ซึ่งโครงข่ายพลังงานเหล่านี้ หรือแมทตริกซ์เหล่านี้ หรือรูปทรงเรขาคณิตอันศักดิ์สิทธิ์ของจักรวาลเหล่านี้ หรือต้นแบบอันนี้ จะถูกเก็บเอาไว้ในมิติที่ 6

ดังนั้น ถึงแม้ว่ามนุษย์โลกแต่ละคน จะกำลังดำรงอยู่และกำลังจดจ่ออยู่แต่กับดาวเคราะห์โลกดวงนี้ ที่อยู่ในมิติที่ 3 และ 4 นี้ก็ตาม แต่ว่าเพราะความที่มนุษย์โลกเป็นรูปธรรมชีวิตหลากมิติ ดังนั้น มนุษย์โลกแต่ละคน จึงกำลังมีหลากหลายเหลี่ยมมุม หรือหลากหลายตัวตน หรือหลากหลายเวอร์ชั่น ที่ก็กำลังดำรงอยู่ในมิติอื่น ๆ ด้วยเช่นเดียวกัน เพราะว่าในมิติที่ 6 นั้น มันจะมีแม่พิมพ์ของ “ผู้ที่พวกคุณเป็นและอยู่ในรูปกายปัจจุบันนี้” ถูกเก็บเอาไว้อยู่ เพราะว่ามิติที่ 6 คือที่ ๆ แม่พิมพ์เหล่านี้ถูกเก็บเอาไว้

แมทตริกซ์ต่าง ๆ ของโลกแห่งความเป็นจริงของพวกคุณนั้น ประกอบขึ้นมาจากแมทตริกซ์ย่อย ๆ หรือโครงข่ายพลังงานย่อย ๆหลาย ๆ อันมารวมกัน แล้วก่อเกิดเป็นรูปร่างรูปทรงใหม่หรือแผ่นผืนใหม่ขึ้นมา ดังนั้นจงจำไว้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่มีรูปร่างรูปทรงอยู่ที่นี่ ล้วนมีแมทตริกซ์ของมันอยู่ด้วยกันทั้งสิ้น และมันก็คือสนามพลังงานเหล่านี้นี่เอง หรือแมทตริกซ์เหล่านี้นี่เองที่ก่อเกิดเป็นสนามพลังงานที่ใหญ่กว่าขึ้นไปอีกขึ้นมา และห่อหุ้มกระแสความคิดและความเชื่อทั้งหลาย ของจิตสำนึกมวลรวมของคนทั้งโลกเอาไว้อยู่

ดังนั้น สิ่งที่พวกคุณเห็นและสัมผัสว่ามันเป็นของแข็งและมีรูปร่างรูปทรงทางกายภาพอยู่ทั้งหมดนี้ แท้ที่จริงแล้วมันก็เป็นแค่แมทตริกซ์ทางพลังงานที่ว่านี้เท่านั้นเอง ดังนั้น ถ้าต้องการจะทำให้เกิดการเปลี่ยนใด ๆ ขึ้นภายในร่างกายเนื้อของมนุษย์โลกหละก็ จึงสามารถที่จะทำได้จากแมทตริกซ์นี้โดยตรงทั้งหมดเลยทีเดียว

แนวคิดที่ว่าทุกสิ่งทุกอย่างมีจุดเริ่มต้นมาจากพลังงานที่สั่นสะเทือนก่อน ก่อนที่มันจะก่อเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมานั้น คือสิ่งที่เหล่านักปราชญ์และผู้รู้ผู้ตื่นแล้วทั้งหลายของพวกคุณเคยพร่ำสอนเอาไว้

ข้อความนี้เป็นข้อความที่จะย้ำเตือนให้มนุษย์จดจำได้ว่า พวกเขาเป็นอะไรที่มากกว่าร่างกายเนื่อของตัวเองเท่านั้น เพราะว่าพวกเขาคือส่วนหนึ่งของความเป็นไปอันศักดิ์สิทธิ์ พวกเขาคือรูปธรรมชีวิตหลากมิติ ที่กำลังดำรงอยู่ในหลากหลายระดับและหลากหลายมิติในขณะเดียวกัน

The Team
............................................................
Source: Morning Messages

 

"ข้อความที่ 37: พวกคุณคือผู้สร้างโฮโลแกรมของตัวเองขึ้นมาเอง"


(credit the picture from internet)

ความจริงก็คือว่า มิติอื่น ๆ อยู่ใกล้แค่ลมหายใจและก็อยู่ใกล้แค่เอื้อมของพวกคุณนี้เอง แต่ว่าความรู้อันนี้มักทำให้มนุษย์โลกส่วนใหญ่กลัว เพราะว่ามันเข้ากันไม่ได้กับสิ่งต่าง ๆ ที่พวกเขาได้เรียนรู้มา และมันก็แปลกประหลาดมากเกินไปซะด้วย

ดังนั้น แนวความคิดที่ว่าดวงดาวทั้งหลายกำลังติดต่อสื่อสารอยู่กับเซลล์ทุก ๆ เซลล์ ในร่างกายเนื้อของพวกคุณอยู่ตลอดเวลานี้ จึงสามารถที่จะกลายเป็นแนวความคิดที่ท้าทายสมองของใครบางคนได้ด้วย และดังนั้น แนวคิดที่ว่าใครบางคนจึงสามารถที่จะรับการติดต่อสื่อสารจากดวงดาวที่ว่านี้ได้ด้วย และก็สามารถที่จะทำอะไรกับการสื่อสารนี้ได้ด้วย จึงสามารถที่จะกลายเป็นแนวความคิดที่ท้าทายสมองของใครบางคนได้อย่างแท้จริง

จักรวาลคือแมทตริกซ์ที่สลับซับซ้อนมากแมทตริกซ์หนึ่ง มันคือแผ่นผืนที่ถักทอขึ้นมาจากเกลียวเส้นใยของพลังงานแห่งความเป็นไปได้ทั้งมวล แต่มันจะแสดงตัวเป็นคลื่นหรือเป็นอนุภาคนั้น ก็ขึ้นอยู่กับว่าผู้สังเกตการณ์ไปจดจ่ออยู่กับมันและตระหนักรู้ถึงมันหรือไม่เท่านั้นเอง จงจำไว้ว่าพวกคุณคือผู้สร้างโฮโลแกรมของตัวเองขึ้นมาเอง

โลกแห่งความเป็นจริง ในแบบที่คนส่วนใหญ่เชื่อและรับรู้กันนั้น ถูกจำกัดอยู่แต่ในกรอบความสามารถในการมองเห็น, รู้สึก และสัมผัสได้ของพวกเขาเองเท่านั้น แต่ว่ามันยังมีจักรวาลที่ใหญ่โตมโหฬารกว่านี้อยู่อีก ที่ ๆ มีโลกแห่งความเป็นจริงคู่ขนานอยู่มากมาย และมีประตูมิติต่าง ๆ อยู่มากมาย ซึ่งเป็นพลังงานที่สามารถจะถูกกระตุ้นให้เปิดขึ้นมาก็ได้ หรือกระตุ้นให้ปิดหรือล็อกเอาไว้ก็ได้

ดังนั้นการท่องไปในมิติต่างๆนั้นก็แค่การเปลี่ยนระดับจิตสำนึก / ความตระหนักรู้ หรือคลื่นความถี่ หรือความสั่นสะเทือนของคนๆนั้นไปจากเดิมเท่านั้นเอง

พวกเราขอเชิญพวกคุณให้คอยรับฟังเสียงจากพระวิญญาณและจากดวงดาวต่างๆอยู่ตลอดเวลา

และพวกเราก็ขอคารวะพวกคุณผู้ที่พยายามที่จะขยายขอบเขตการรับรู้ทางประสาทสัมผัสของตัวเองออกไปอีก เกี่ยวกับว่าพวกคุณเป็นใคร และเพื่อให้จดจำและรับรู้ถึงเหลี่ยมมุมหรือตัวตนหลากมิติอื่น ๆ ของตัวเองได้
เรื่องประตูมิติ, แมทตริกซ์, โครงข่ายพลังงาน, จุดประสานมิติ, การท่องดวงดาว, ชีวิตในมิติคู่ขนาน และชีวิตในโลกคู่ขนานทั้งหลาย รวมถึงการเปลี่ยนมิติ ทั้งหมดนี้เป็นสถานที่ ๆ น่าจดจ่อไปถึงและเชื้อเชิญ ให้เข้ามาในชีวิตประจำวันของพวกคุณเป็นอย่างยิ่ง

The Team
...........................................................
Source: Morning Messages
..........................................................

 

"ข้อความที่ 38: คลื่นความถี่ทางไฟฟ้า"


(credit the picture from internet)

อุปกรณ์ไฟฟ้าทุก ๆ ชิ้นที่อยู่ในบ้านของพวกคณ หลอดไฟทุก ๆ ดวงที่อยู่ในบ้านของพวกคุณ ระบบโทรศัพท์ของพวกคุณ, โทรทัศน์, คอมพิวเตอร์, และเครื่องอำนวยความสะดวกในครัวทั้งหมดของพวกคุณ ล้วนแต่ปล่อยคลื่นความถี่ระดับใดระดับหนึ่งออกมาทั้งสิ้น

แต่ชาวโลกส่วนใหญ่จะไม่สามารถรับรู้ถึงคลื่นความถี่เหล่านี้ได้เลยจึงพากันเพิกเฉยต่อพวกมันเสีย และดังนั้นสนามพลังงานของพวกเขาจึงต้องปรับตัวเอาเอง เพื่อเรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับพวกมันให้ได้

จงตระหนักรู้ถึงคลื่นความถี่ที่ไม่สอดคล้องกลมกลืนเหล่านี้เสีย และจงตระหนักรู้ถึงแมทตริกซ์ที่พวกมันสร้างขึ้นมาเสียด้วย มันเป็นสิ่งสำคัญมากที่จะพวกคุณจะต้องตรึงอยู่และมั่นคงอยู่ภายในสนามพลังงานและแมทตริกซ์ของตัวเอง แล้วพวกคุณจะได้รับผลกระทบจากคลื่นความถี่ที่ไม่สอดคล้องเหล่านี้น้อยลง

ดาวเคราะห์โลกดวงนี้ถักทอขึ้นมาจากคลื่นความถี่ไฟฟ้ามากมาย ซึ่งถ้าพวกคุณมีตาทิพย์สามารถมองเห็นเกลียวพลังงานที่เชื่อมต่ออยู่กับสายไฟฟ้า และอุปกรณ์ไฟฟ้า, โทรศัพท์มือถือ, โทรทัศน์ และเตาไมโครเวฟเหล่านี้ทั้งหมดได้หละก็ พวกคุณก็จะประหลาดใจว่า แมทตริกซ์ทางพลังงานเหล่านี้พวกมันถักทอกันอยู่อย่างแน่นหนามากแค่ไหน มันโอบล้อมดาวเคราะห์โลกของพวกคุณอยู่ในรูปแบบของโครงข่ายพลังงานของคลื่นความถี่ที่ไม่สอดคล้องกลมกลืนกัน

แมทตริกซ์ของคลื่นความถี่ไฟฟ้าเหล่านี้จะส่งผลกระทบต่อร่างกายเนื้อของพวกคุณอยู่เสมอ และยังส่งผลกระทบต่อสภาวะจิตใจของพวกคุณอีกด้วย พวกมันคือส่วนหนึ่งของการสะกดจิตที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในโฮโลเกมอันนี้ และคลื่นความถี่ไฟฟ้าเหล่านี้ก็เป็นยาเสพติดสำหรับสนามพลังงานของพวกคุณอีกด้วย เพราะว่าพวกมันจะมีกระแสความคิดอย่าใอย่างหนึ่งติดมาด้วยเสมอ

มนุษย์โลกไม่เคยรู้เลยว่าตัวเองมีการเชื่อมต่ออยู่กับดวงดาวต่าง ๆ และกับเหลี่ยมมุมหลากมิติของตัวเองอยู่ เพราะว่าพวกเขาถูกสะกดจิตให้ติดอยู่แต่ในโฮโลเกมอันนี้ และพวกเขาก็ถูกกักขังเอาไว้ในความด้อยสามารถ และไม่ตระหนักรู้ถึงพลังอำนาจในการสร้างสรรค์ของตัวเอง


พวกเราขอเชิญพวกคุณให้มาดำรงอยู่ในสนามพลังงานอันเข้มแข็งของความรัก, ความสุข-ความเบิกบาน และความรู้สึกชื่นชมยินดีของพวกคุณเอง อย่างมั่นคง เพราะเมื่อใดที่พวกคุณสั่นสะเทือนด้วยคลื่นความถี่ที่เป็นระเบียบและอัดแน่นกันแบบนี้แล้วพวกคุณก็จะไม่ได้รับผลกระทบจากการโหมกระหน่ำลงมาของโครงข่ายพลังงานไฟฟ้าของโลก แล้วพวกคุณก็จะสามารถสร้างสนามพลังงานที่แข็งแกร่งของตัวเองขึ้นมาได้

The Team
..............................................................
Source: Morning Messages
..............................................................

 

"ข้อความที่ 39: แมทตริกซ์พลังงานส่วนตัวของเรา"


(credit the picture from internet)

พวกเราขอแบ่งปันข้อมูลเพื่อชี้ให้เห็นความสำคัญของการยอมรับและการให้เกียรติแก่แมทตริกซ์พลังงานส่วนตัวของพวกคุณเอง ซึ่งก็คือสนามพลังงานแห่งการสั่นสะเทือนของพวกคุณนั่นเอง และพวกเราก็อยากจะขออธิบายว่าสนามพลังงานนี้มันกำลังโอบอุ้ม และสร้างโลกแห่งความเป็นจริงในชีวิตประจำวันของพวกคุณเองขึ้นมาอย่างไรด้วย

เพราะว่าเจ้าแมทตริกซ์พลังงานส่วนตัวอันนี้เอง ที่เป็นผู้สร้างประสบการณ์ชีวิตในแบบที่พวกคุณกำลังเผชิญอยู่นี้ขึ้นมา และก็เป็นผู้สร้างร่างกายเนื้อที่พวกคุณกำลังสวมใส่อยู่นี้ขึ้นมาอีกด้วย

แมทตริกซ์พลังงานส่วนตัวอันนี้จะได้รับผลกระทบจากทุกสิ่งทุกอย่างที่มันไปกระทบสัมผัส ซึ่งในชั่วขณะที่เริ่มตั้งครรภ์นั้นและตลอดระยะเวลาที่ร่างกายเนื้อถูกสร้างขึ้นมาในครรภ์มารดานั้น มันก็จะเกิดการผสมผสาน
และแลกเปลี่ยนแมทตริกซ์ทางพลังงานกันขึ้นระหว่างมารดากับทารกในครรภ์ และรหัสพันธุกรรมจากครอบครัวก็จะถูกถักทอเข้าไปในแมทตริกซ์พลังงานของทารก ซึ่งก็หมายรวมถึงความเชื่อแบบฝังหัวทั้งหลาย และอารมณ์ความรู้สึกที่โดดเด่นทั้งหลายของพ่อแม่ของพวกคุณก็จะถูกถักทอเข้าไปในแมทตริกซ์ส่วนตัวของพวกคุณเองด้วย

และในช่วงหลายปีตอนที่พวกคุณเป็นเด็กนั้น ประสบการณ์ชีวิตต่าง ๆ และสิ่งที่พวกคุณได้พบได้เจอมาก็จะถูกถักทอเข้าไปรวมอยู่ในแมทตริกซ์นี้ด้วยเช่นกัน ไม่ว่ามันจะเป็นประสบการณ์แห่งความเจ็บปวด, ความกลัว, ความหวาดผวา, การมีข้อจำกัดในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่งก็ตาม ก็จะถูกถักทอรวมเข้ามา เพื่อมากลายเป็นตัวสกัดกั้น และเป็นตัวขัดขวางกระแสการไหลของพลังงานของพวกคุณเองด้วยเช่นเดียวกัน

ซึ่งตัวสกัดกั้น และตัวขัดขวางเหล่านี้เองที่พวกเราอยากจะช่วยพวกคุณแต่ละคนปลดปล่อยมันออกไป เพื่อเปิดทางให้กับกระแสการไหลของพลังงานจากพิมพ์เขียวศักดิ์สิทธิ์ของพวกคุณเอง ให้สามารถหลั่งไหลมาสู่พวกคุณได้ใหม่อีกครั้งหนึ่ง

จงจำไว้ว่าพลังงานจะเป็นไปตามความคิดเสมอ ดังนั้น พวกคุณจึงสามารถที่จะเริ่มต้นหยุดการขัดขวางในแง่ใด ๆ ของแมทตริกซ์พลังงานส่วนตัวของตัวเองได้เสมอ ด้วยการใช้ความคิดของตัวเองสั่งให้มันเป็นไป

(หมายเหตุ: ข้อความของครายออน ก็เคยพูดถึงการลบล้างกรรมโดยการใช้ความตั้งใจอันแน่วแน่ของเราเองเอาไว้ด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งถ้าท่านกำลังสงสัยว่ามันจะเป็นไปได้ง่าย ๆ อย่างนั้นได้อย่างไร..งั้นก็กลับไปดูหลักการณ์ของการ “อโหสิกรรม” ดูนะครับ แล้วท่านอาจจะพอเข้าใจว่า ทุกสิ่งทุกอย่างมันมีแก่นแท้เป็นพลังงาน และพลังงานกรรมพวกนี้ก็เป็นข้อมูลข่าวสารชนิดหนึ่งที่ถูกบันทึกเอาไว้ในระบบบันทึกแห่งฟ้าของเราเองด้วย – ผู้แปล)

ยารักษาโรคที่อยู่ในรูปแบบของคลื่นความสั่นสะเทือนที่ว่านี้ จะทำงานอยู่ในระดับลึกเพื่อยุติการขัดขวางและเพื่อปลดปล่อยตัวสกัดกั้นทั้งหลายออกไป ไม่ว่าจะเป็นตัวสกัดกั้นหรือตัวขัดขวางที่สั่งสมอยู่ในความทรงจำในอดีตก็ตาม หรือว่าจะเป็นที่ถูกมอบให้มา โดยแมทตริกซ์ของครอบครัว ตั้งแต่ตอนถือกำเนิดก็ตาม ซึ่งงานปลดปล่อยตัวสกัดกั้นและยุติการขัดขวางดังกล่าวนี้ เป็นงานที่เหล่าผู้ที่ตื่นรู้แล้วทั้งหลายกำลังทำกันอยู่ และมันก็มาในรูปแบบและวิธีการที่หลากหลายซะด้วย

The Team
...........................................................
Soure: Morning Messages
..........................................................

 

"ข้อความที่ 40: กาลเวลามีลักษณะเป็นของไหล"


(credit the picture from internet)

จะเกิดอะไรขึ้นถ้ากาลเวลามีลักษณะเป็นของไหล? เรื่องนี้มันจะส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน และการมีชีวิตอยู่บนโลกของพวกคุณอย่างไรบ้าง?

ลองจินตนาการดูสักครู่ซิว่า ถ้าสมมุติว่าอดีต, ปัจจุบัน และอนาคตกำลังเกิดขึ้นพร้อมๆกันอยู่ และก็กำลังเปลี่ยนแปลงไปพร้อมๆกันอยู่ด้วย มันจะเป็นอย่างไร?

มันเป็นเพียงการรับรู้ของพวกคุณเองเท่านั้น ที่นำเอาพวกมันไปวางไว้ในที่ๆแน่นอนตายตัวแบบนั้น!

ลองจินตนาการดูสิว่าถ้าเหตุการณ์ต่างๆในอนาคตของพวกคุณสามารถที่จะไปเปลี่ยนแปลงแก้ไขเหตุการณ์ต่าง ๆ ในอดีตของพวกคุณได้ด้วย ซึ่งก็จะส่งผลให้เหตุการณ์ในปัจจุบันของพวกคุณเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย มันจะเป็นอย่างไร?

ซึ่งพวกคุณในฐานะที่เป็นรูปธรรมชีวิตหลากมิติ นี่แหละคือวิธีการที่พวกคุณจะสามารถอธิบายแนวคิดที่เรียกว่ากาลเวลานี้ได้หละ

ในฐานะมนุษย์โลกคนหนึ่ง ที่พวกคุณต้องติดอยู่ในกาลเวลาก็เพราะว่ามันเป็นแมทตริกซ์อย่างหนึ่งของเกมบนโลกใบนี้นั่นเอง แต่อย่างไรก็ตาม ในฐานะที่พวกคุณเป็นรูปธรรมชีวิตหลากมิติ พวกคุณก็ยังสามารถที่จะก้าวออกมาจากแมทตริกซ์ของกาลเวลาซึ่งเป็นข้อจำกัดทางโลกอันนี้ได้ด้วย เพราะว่ามันเป็นเรื่องของความตระหนักรู้ และก็จะต้องอาศัยการฝึกฝนเท่านั้นเอง

พวกเราอยากจะขอบ่มเพาะเมล็ดพันธุ์แห่งความคิดนี้ลงไปให้กับพวกคุณสักหน่อย..ว่า ลองจินตนาการดูสิว่า..มันสามารถที่จะมี หรืออาจจะมี ตัวตนของพวกคุณเองอีกหลากหลายบุคลิกภาพ ดำรงอยู่ที่นี่ ในมิติแห่งโลกใบนี้ และในเวลาเดียวกันนี้ด้วย ซึ่งแต่ละบุคลิกภาพของพวกคุณ ก็กำลังมีชีวิตอยู่ในแบบของตัวเอง, ในวัฒนธรรมของตัวเอง และในทุกสิ่งทุกอย่างที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง เพราะว่าในฐานะที่พวกคุณเป็นรูปธรรมชีวิตหลากมิติ มันจึงเป็นการง่ายจริงๆที่จะมีตัวเล่นในเกม ๆ นี้มากกว่า 1 ตัว ในเวลาเดียวกัน

นี่เป็นเพียงการยืดขยายทางพลังงานสำหรับความตระหนักรู้ของพวกคุณเองเท่านั้นนะ แต่ในขณะเดียวกัน ก็จงอยู่ในความสุข-ความเบิกบาน จงสังเกตดูความคิดของตัวเอง และจงเคารพและให้เกียรติทุก ๆ ประสบการณ์ของตัวเองด้วย จากมุมมองของพวกคุณในขณะนี้นั่นแหละ แล้วสิ่งอื่น ๆ ก็จะตามมาอย่างง่ายดาย

The Team
..............................................................
Source: Morning Messages
..............................................................

 

"ข้อความที่ 41: โลกแห่งความเป็นจริงมีลักษณะคล้ายกับน้ำมาก ๆ"

(credit the picture from internet)

สิ่งที่เรียกว่าความเป็นจริง หรือโลกแห่งความเป็นจริงนั้น จะมีลักษณะคล้ายกับน้ำมาก ๆ คือมันสามารถที่จะเปลี่ยน หรือผันแปรไปเป็นรูปร่างรูปทรงต่าง ๆ ได้มากมาย ขึ้นอยู่กับสภาวะและพลังงานของมัน มันสามารถที่จะเป็นของแข็ง ที่แข็งเหมือนน้ำแข็งก็ได้ มันสามารถที่จะเลื่อนไหล ที่ไหลเหมือนของเหลวก็ได้ และมันก็สามารถที่จะไร้รูปร่างรูปทรงและเบาบางเหมือนไอน้ำก็ได้ด้วย

มนุษย์โลกส่วนใหญ่อยากจะให้ความเป็นจริง หรือโลกแห่งความเป็นจริงของตัวเองอยู่ในสภาวะแช่แข็ง แต่ว่าโลกแห่งความเป็นจริงมีความสามารถที่จะเปลี่ยนแปลงไปได้เป็นหลากหลายรูปแบบ แต่ยังไงก็ตามมันก็ยังเป็นโลกแห่งความเป็นจริงอันนั้นอยู่..เหมือนกับน้ำ ที่แม้ว่าจะอยู่ในสถานะของแข็ง, ของเหลว หรือไอน้ำก็ตาม มันก็ยังคงเป็นน้ำอยู่ดี

นี่เป็นแค่เพียงตัวอย่างเดียวเท่านั้นนะที่แสดงให้เห็นว่ามิติที่ 3 ของพวกคุณสามารถตอบสนอง และก็กำลังตอบสนองต่อความเชื่อ และต่อพลังงานที่ถูกฉายออกมาจากความคิดของพวกคุณ และต่อลายเซ็นทางพลังงานของพวกคุณ และต่อความเข้าใจของพวกคุณ ที่มีเกี่ยวกับว่าอะไรคือความจริงสำหรับพวกคุณอย่างไรบ้างอยู่ แล้วสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ ก็ถูกเนรมิตออกมาบนจอภาพยนตร์ของเกมสามมิติแห่งนี้อย่างไร

ตอนนี้มนุษย์โลกเริ่มที่จะเปลี่ยนแปลงความเชื่อของตัวเองเกี่ยวกับว่าอะไรคือความเป็นจริงแล้ว และเมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว โลกแห่งความเป็นจริงของพวกเขาก็เลยเริ่มเปลี่ยนแปลงไปด้วยเช่นเดียวกัน พวกเขาสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงนี้ได้ และก็กำลังขยายความตระหนักรู้ของตัวเองออกไปมากขึ้นเรื่อย ๆ จนครอบคลุมไปถึงการรับรู้ใหม่ ๆ เหล่านี้ด้วย

พวกคุณและคนอื่น ๆ กำลังเริ่มที่จะมีสติสัมปชัญญะรับรู้ว่าและมีความตระหนักรู้ว่าพวกคุณคือมนุษย์โลกหลากมิติแล้ว มันก็จะเหมือนกับการขึ้นบันไดนั่นแหละ ที่แต่ละขั้นที่สูงขึ้นพวกคุณก็จะสามารถมองเห็นทิวทัศน์ได้กว้างไกลมากขึ้นเรื่อย ๆ ตามไปด้วย

The Team
..............................................................
Source: Morning Messages
..............................................................

 

"ข้อความที่ 42: จงสำรวจความเป็นไปได้ทั้งหลายดู"


(credit the picture from internet)

ในขณะฝัน..โลกแห่งความเป็นจริงทั้งหมดจะถูกยอมรับว่าคือความจริง และในสภาวะฝันนั้นมนุษย์โลกจะได้เผชิญกับตัวตนหลากมิติของตัวเอง และเผชิญกับตัวตนที่อยู่โลกคู่ขนานทั้งหลายของตัวเอง

ลองยินยอมให้ตัวเองพิจารณาดูสักครู่สิว่า มันมีชีวิตหรือภพชาติของพวกคุณเอง ที่ดำรงอยู่ในโลกคู่ขนานอื่น ๆ ที่กำลังดำเนินไปพร้อม ๆ กันอยู่กับชีวิตนี้หรือภพชาตินี้ อย่างมากมายก่ายกอง เพราะว่ากาลเวลาทุก ๆ กาลเวลา ล้วนกำลังดำรงอยู่พร้อม ๆ กันหมดในขณะเดียวกัน แต่ที่มันมีทั้งอนาคตและอดีตอยู่อย่างที่เห็นนี้ก็เพราะว่า ที่นี่..บนดาวเคราะห์โลกในมิติที่ 3 แห่งนี้ ความเชื่ออันนี้มันได้ถูกติดตั้งเข้ามาในตอนที่พวกคุณเกิด

ชีวิตหรือตัวตนหรือภพชาติของพวกคุณยังมีอยู่ในที่อื่น ๆ อีกมากมายก่ายกอง ที่ ๆ พวกคุณดำรงอยู่ในฐานะที่เป็นรูปธรรมชีวิตแห่งดวงดาวหลากมิติ ผู้ที่มาจากฟากฟ้า และเป็นผู้ที่สวยสดงดงาม และกำลังดำรงชีวิตอยู่อย่างแอ็คทิฟ แต่อยู่ในกรอบของกาลเวลาอื่น ๆ และบางครั้งก็อาจจะอยู่ในมิติอื่น ๆ ด้วยซ้ำไป

ซึ่งตัวตนอื่นๆหรือบุคลิกภาพอื่น ๆ ของพวกคุณเหล่านี้ ที่กำลังดำรงอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงอื่น ๆ และในภพชาติอื่น ๆ ที่แตกต่างกันออกไปอย่างสิ้นเชิงเหล่านี้ ก็กำลังแอ็คทีฟ และก็กำลังจดจ่ออยู่กับโลกแห่งความเป็นจริงของพวกเขาเองมากพอ ๆ กับที่พวกคุณกำลังจดจ่ออยู่กับโลกแห่งความเป็นจริงของตัวเองอยู่ในขณะนี้แหละ

แต่ว่ามนุษย์โลกส่วนใหญ่มักจะมีปัญหากับการที่จะต้องรับมือกับโลกแห่งความเป็นจริงเพียงโลกเดียวของตัวเอง ซึ่งก็คือโลกแห่งความเป็นจริงที่ตัวเองกำลังจดจ่ออยู่นี้มากพออยู่แล้ว ดังนั้น แนวความคิดที่ว่า ยังมีภพชาติอื่น ๆ หรือชีวิตรูปแบบอื่น ๆ ของตัวเองอยู่อีกมากมายก่ายกอง ที่กำลังดำเนินไปพร้อม ๆ กันอยู่ในขณะเดียวกันนี้ จึงทำให้พวกเขารู้สึกว่ามันเกินจะรับได้ และก็ยากที่จะเข้าใจด้วย

ดังนั้น พวกเราจึงอยากจะขอพูดกับคนที่รู้สึกว่าเกินจะรับได้ซักหน่อยว่า ให้ค่อย ๆ ยินยอมให้ตัวเองเข้าไปสำรวจในความเป็นไปได้ทั้งมวลดู อย่างเพลิดเพลินและด้วยใจที่เบิกบาน

The Team
............................................................
Source: Morning Messages
...........................................................

 

"ข้อความที่ 43: พวกคุณคร่อมอยู่ระหว่างโลกแห่งความเป็นจริงอันหลากหลาย"


(credit the picture from internet)

สภาวะทางจิตมันจะมีการขึ้น ๆ ลง ๆ อยู่เสมอ และนี่แหละคืออะไรบางอย่างที่ทุก ๆ คนกำลังเผชิญกันอยู่ในขณะนี้ บนดาวเคราะห์โลกของพวกคุณนี้ ซึ่งก็คือการเป็นสะพานเชื่อมต่อระหว่างจิตสำนึก/ความตระหนักรู้ 2 ระดับขึ้นไป หรือก็คือการคร่อมอยู่บนโลกแห่งความเป็นจริงที่หลากหลายนั่นเอง

พวกคุณมีอิสระที่จะท่องเข้าไปในโลกแห่งความเป็นจริงอื่น ๆ และมิติอื่น ๆ ได้มากพอ ๆ กัน เพราะว่ามันเป็นแค่เรื่องของการจดจ่อความสนใจของพวกคุณไปไว้ที่ไหนเท่านั้นเอง

จงจำไว้ว่าพลังงานจะคล้อยตามความคิดเสมอ ดังนั้น การเปลี่ยนความคิดและความรู้สึกของพวกคุณ จึงทำให้พวกคุณสามารถโยนความเชื่อที่มีข้อจำกัดของตัวเองทิ้งไปได้ และสามารถโยนตาข่ายที่มีข้อจำกัดที่กักขังพวกคุณเอาไว้ให้ติดอยู่แต่ในโลกแห่งความเป็นจริงโลกเดียวทิ้งไปได้ด้วย

สิ่งสำคัญที่จะต้องจดจำเอาไว้ก็คือ การมีปฏิสัมพันธ์อย่างต่อเนื่องกับคนอื่น ๆ สามารถที่จะทำให้ความสามารถทางจิตในการเปลี่ยนความตระหนักรู้ และเปลี่ยนสภาวะการจดจ่อของพวกคุณให้ไปอยู่กับมิติต่าง ๆ ที่พวกคุณดำรงอยู่ ถูกรบกวน หรือถูกขัดขวางได้

นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมการทำสมาธิ, การเดินจงกรม, การยินยอมให้ความเงียบสงบและความคิดสร้างสรรค์หลั่งไหลเข้ามาถึงมีคุณค่ามากมายนัก เพราะว่าในสภาวะเหล่านี้พวกคุณจะค่อย ๆ เลื่อนเข้าไปในมิติอื่น ๆ ได้

เป้าหมายที่กำลังจะบอกนี้ก็คือ เพื่อให้พวกคุณตระหนักรู้ว่าพวกคุณไม่ได้อยู่กันเพียงลำพัง และว่าพวกคุณสามารถที่จะเชื่อมต่อกับระบบความช่วยเหลือที่ไม่ได้อยู่ในโลกทางกายภาพแห่งนี้ ได้อย่างง่ายดาย แต่อย่างไรก็ตามสิ่งจำเป็นสำหรับพวกคุณและสำหรับทุก ๆ คนที่ปราถนาการเชื่อมต่อที่ว่านี้ก็คือ “การสร้างพื้นที่ว่างให้มันเกิดขึ้น”

The Team
.............................................................
Source: Morning Messages
............................................................

 

"ข้อความที่ 44: จงขี่สายลมไป"


(credit the picture from internet)

พวกคุณสังเกตเห็นเหยี่ยวที่บินโฉบอยู่บนท้องฟ้านั้นไหม พวกมันเคลื่อนไหวไปตามกระแสลมและถูกสายลมพัดพาไปอย่างง่ายดายเพียงแค่กระพือปีกเบาๆเท่านั้นเอง

มันเป็นเพราะ ego ของมนุษย์ที่ถูกตั้งโปรแกรมมาให้ดิ้นรนต่อสู้ ให้เถลไถลออกไปนอกเส้นทาง ให้หลุดจากการจดจ่อ, ความตั้งใจและความปรารถนา

เป้าหมายสูงสุดของความพยายามที่จะตื่นรู้ขึ้นมาเป็นมนุษย์แห่งดวงดาวก็คือการรู้ว่ามันมีกระแสการไหลของพลังงานศักดิ์สิทธิ์ หรือกระแสลมศักดิ์สิทธิ์ซึ่งเป็นที่ ๆ ทุกสิ่งทุกอย่างขยายตัวด้วยความราบรื่นและง่ายดายอยู่ และพวกคุณก็มีคำเรียกขานมันด้วยซ้ำไป ที่พวกคุณเรียกกันว่า “ปาฏิหาริย์” นั่นเอง ปาฏิหาริย์ถูกเข้าใจว่าคือสิ่งเหนือธรรมชาติ หรือคือปรากฎการณ์พิเศษบางอย่าง ที่จะเกิดขึ้นได้ยากมาก ๆ

เมื่อเหยี่ยวบินลอยอยู่บนกระแสลมโดยแทบไม่ต้องใช้ความพยายามอะไรเลยแล้ว มันไม่ได้คิดเลยนะว่านี่คือปาฏิหาริย์ เพราะมันจะคิดว่าเป็นภูมิปัญญามากกว่า มันรู้ว่ามันเป็นหนึ่งเดียวกันกับกระแสการไหลของพลังงาน แล้วมันก็ขี่กระแสลมนั้นไป

กระแสลมถูกสร้างขึ้นมาจากความสั่นสะเทือนที่ถูกนำเสนอมาให้แก่แมทตริกซ์ ดังนั้นเมื่อใครคนใดคนหนึ่งดำรงอยู่ในคลื่นความถี่แห่งความสุข-ความเบิกบาน, ความรู้สึกซาบซึ้งใจ และความรู้สึกชื่นชมยินดีแล้ว พวกเขาก็จะเคลื่อนที่ผ่านชีวิตของตัวเองไปได้อย่างง่ายดายเหมือนเหยี่ยวถลาลม

จิตสำนึก/ความตระหนักรู้ของจักรวาลนี้ชอบที่จะนำพาผลลัพท์มาให้ด้วยวิธีการที่น่าทึ่งเสมอ ซึ่งภายในช่องว่างอันนั้นความตั้งใจอันแจ่มชัดก็จะถูกเนรมิตออกมาอย่างรวดเร็วที่สุด และอย่างง่ายดายที่สุด เท่าที่จะเป็นไปได้

ดังนั้น ถ้าพวกคุณกำลังดิ้นรนต่อสู้อยู่ หรือกำลังพยายามทำอะไรสักอย่างอยู่ “ให้หยุดเสีย” แล้วปรับตั้งค่าความสั่นสะเทือนของตัวเองที่กำลังส่งออกมาสู่สนามพลังงานนั้นใหม่ แล้วจากนั้นก็ให้เฝ้าตามดูความคิด, อารมณ์ความรู้สึก และภาพที่ฉายออกมาของตัวเองอย่างมีสติสัมปชัญญะ

The Team
.............................................................
Source: Morning Messages
.............................................................

 

"ข้อความที่ 45: กระแสพลังงานที่หลั่งไหลไปอย่างรวดเร็ว"


(credit the picture from internet)

ในช่วงเวลาที่กำลังมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่บนดาวเคราะห์โลกของพวกคุณอยู่เช่นนี้ ลองจินตนาการดูสิว่า มันจะมีสายธารพลังงานที่เชี่ยวกราก และหลั่งไหลไปอย่างรวดเร็วอยู่สายหนึ่ง ซึ่งกระแสพลังงานที่เชี่ยวกรากและทรงพลังอำนาจอันนี้ กำลังหลั่งไหลไปทั่วดาวเคราะห์โลกของพวกคุณอยู่ในตอนนี้ และก็กำลังแซกซึมซอกซอนเข้าไปในทุกแง่ทุกมุมของชีวิตของพวกคุณอยู่ด้วย และก็กำลังเอิบอาบเซลทุกเซล และอะตอมทุกอะตอมที่อยู่ภายในร่างกายเนื้อของพวกคุณอยู่ด้วย ด้วยคลื่นความถี่ของพลังงานแห่งการเปลี่ยนรูปแบบ และด้วยคลื่นความถี่ของพลังงานแห่งการวิวัฒน์ขึ้น

เมื่อใดที่พวกคุณยอมคล้อยตามกระแสพลังงานแห่งการเปลี่ยนรูปแบบที่เชี่ยวกรากสายนี้แล้ว พวกคุณก็จะเคลื่อนที่ไปพร้อม ๆ กับมัน แล้วพวกคุณก็จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของมัน เหมือนกิ่งไม้เล็ก ๆ ที่ล่องลอยอยู่บนผิวน้ำอะไรแบบนั้น

แต่ว่าถ้าพวกคุณเอาแต่ยึดเกาะฝั่งน้ำเอาไว้อยู่ ซึ่งหมายถึงยึดติดอยู่กับรูปแบบความคิดและความเชื่อเก่า ๆ หรืออารมณ์ความรู้สึกที่คุ้นเคยเก่า ๆ หรือพฤติกรรมที่ไม่ถูกไม่ต้องเก่า ๆ อยู่ พวกคุณก็จะต้านกระแสพลังงาน แล้วพวกคุณก็จะเหนื่อย และถ้าพวกคุณต่อสู้กับกระแสพลังงานอันนี้ หรือสงสัยในพลังอำนาจของมัน พวกคุณก็จะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก

ดังนั้น วิธีการที่ดีที่สุดและมีสติสัมปชัญญะมากที่สุดในการรับมือกับพลังงานอันน่าทึ่งอันนี้ที่กำลังถูกมอบมาให้เป็นของขวัญของมนุษยชาติอยู่นี้ก็คือ การมีความกล้าที่จะเชื่อมั่นในกระแสพลังงานอันนี้ แล้วโอบกอดการเคลื่อนไหวและการเปลี่ยนแปลงทั้งหลายที่กำลังเกิดขึ้นอยู่นี้เอาไว้ จงยินยอมอย่างเชื่อมั่น จงดำรงอยู่ในสภาวะที่ทำให้พวกคุณ มีความยืดหยุ่นในทุกๆสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น จงยอมคล้อยตามกระแสพลังงานนี้

ตอนนี้มีชาวโลกจำนวนหลายล้านคนกำลังตื่นขึ้นมาอยู่ และพวกเขาก็กำลังมีความเข้าใจในเรื่องของการเนรมิตอันศักดิ์สิทธิ์แล้ว และพวกคุณในฐานะที่เป็นผู้พิทักษ์แสงสว่างคนหนึ่ง ดังนั้นพวกคุณจึงเป็นผู้ที่มีพลังอำนาจมากที่สุด และก็มีประสิทธิภาพมากที่สุดคนหนึ่งด้วย เมื่อพวกคุณดำรงมั่นอยู่ในคลื่นความสั่นสะเทือนของความถี่ที่สูง ๆ ระดับใดระดับหนึ่งอยู่

พวกคุณในตอนนี้มีการเชื่อมต่อกับแหล่งกำเนิดอันศักดิ์สิทธิ์ของตัวเองมากขึ้นกว่าเดิมแล้ว และก็กำลังได้รับการชี้นำทาง ให้ไปสู่สถานที่และผู้คน ที่มีความพร้อมแล้วที่จะยกระดับขึ้น และก็มีความปราถนาที่จะยกระดับขึ้นด้วยอยู่ระดับความสั่นสะเทือนของพวกคุณจะไปกระตุ้นความตระหนักรู้ของผู้อื่น และจะทำให้พวกเขามีจิตสำนึก/ความตระหนักรู้ใหม่ที่สูงขึ้นกว่าเดิมได้ พวกคุณจะนำพาแพชูชีพไปให้กับผู้ที่พยายามที่จะเชื่อมั่นและเชื่อใจในความศักดิ์สิทธิ์ของตัวเอง และยอมตามแก่นแท้ของตัวเอง ในฐานะที่เป็นรูปธรรมชีวิตแห่งแสงสว่างอันศักดิ์สิทธิ์และเลอเลิศด้วย

The Team
..............................................................
Source: Morning Messages
..............................................................

 

"ข้อความที่ 46: การเล่นในโฮโลเกม (Playing the Hologame)"


(credit the picture from internet)

มิติที่ 3 แห่งนี้ คือมิติแห่งช่องว่างและกาลเวลา คือมิติที่ความเป็นกายภาพ และความไม่ใช่กายภาพมาบรรจบกัน

ดังนั้น ลองจินตนาการดูสิว่า เมื่อพวกคุณคือรูปธรรมชีวิตแห่งแสงสว่างที่อยู่ในรูปแบบของจิตสำนึก/ความตระหนักรู้ล้วน ๆ แล้วตัดสินใจเข้ามาอยู่ในมิติที่ 3 แห่งนี้ หรือเกมบอร์ดแห่งนี้ หรือโฮโลเกม (Hologame) อันนี้ หรือชีวิต ๆ นี้แล้ว มันก็จะมีกฎและเกณฑ์ต่าง ๆ คอยควบคุมอยู่มากมาย

ซึ่งกฎข้อแรกสุดก็คือ พวกคุณจะต้องเข้ามาสู่เกม ๆ นี้ ภายใต้ม่านพรางของการลืมเลือน คือพวกคุณจะต้องเข้ามาอยู่ในสภาพที่ไม่รู้เลยว่า ตัวตนที่แท้จริงของตัวเองคือรูปธรรมชีวิตแห่งแสงสว่างอันศักดิ์สิทธิ์

แต่ก่อนที่พวกคุณจะก้าวเข้ามาในเกมของมิติที่ 3 แห่งนี้ พวกคุณก็จะมีการวางแผนชีวิตเอาไว้ก่อนล่วงหน้าแล้ว คือพวกคุณจะตั้งเป้าหมายและกำหนดบททดสอบของชีวิตตัวเองเอาไว้ก่อนล่วงหน้าแล้ว พวกคุณจะเลือกพรสวรรค์, จุดแข็ง และความสามารถต่าง ๆ ที่พวกคุณตั้งใจว่าจะพัฒนาให้มันดีขึ้น เอาไว้ก่อนล่วงหน้าแล้ว ดังนั้นสิ่งเหล่านี้จึงไม่ใช่สิ่งที่จะถูกปิดบังเอาไว้อย่างสิ้นเชิงเหมือนเรื่องอื่น ๆ

พวกคุณจะเลือกว่าเรื่องอะไรในเกมบอร์ดของชีวิตนี้ ที่พวกคุณจะเข้าไปมีส่วนร่วมด้วย หรือว่าครอบครัวไหนที่พวกคุณจะเข้าไปเป็นสมาชิกด้วย พวกคุณจะกำหนดสภาวะต่าง ๆ เอาไว้ก่อนแล้ว โดยเลือกจากสภาวะแห่งความตระหนักรู้ขั้นสูงสุด และระดับจิตสำนึกขั้นสูงสุดของพวกคุณเอง ซึ่งการจัดการและการกำหนดสภาวะทั้งหมดนี้ จะเกิดขึ้นอยู่ในระดับจิตสำนึก/ความตระหนักรู้อันบริสุทธิ์ ที่อยู่นอกเหนือมิติทางกายภาพ

และเมื่อใดที่สิ่งเหล่านี้ทั้งหมดได้ถูกกำหนดขึ้นมาเรียบร้อยแล้ว นั่นก็หมายความว่าเป้าหมายชีวิตของพวกคุณ และประสบการณ์ชีวิตที่พวกคุณปราถนาที่จะมีทั้งหมด ได้ถูกกำหนดเอาไว้เรียบร้อยแล้ว พวกคุณก็จะมีความรู้สึกตื่นเต้น และอยากจะลงมาร่วมเล่นอยู่ในโฮโลเกมสามมิติ ที่ชื่อว่า “ชีวิต” บนดาวเคราะห์โลกดวงนี้ในทันที

แต่การที่จะเข้ามาเล่นในมิตินี้ได้ พวกคุณก็จะต้องมี “ตัวเล่น” ที่จะใช้เล่นในเกม ๆ นี้ซะก่อน ซึ่งตัวเล่นที่ว่านี้ก็คือ “ร่างกายเนื้อ” ของพวกคุณนั่นเอง ซึ่งก็จะคล้าย ๆ กับเกมคอมพิวเตอร์นั่นแหละ และในการเล่นอยู่ในร่างกายเนื้อนี้ พวกคุณก็จะต้องเคารพกฎ-กติกาต่าง ๆ ของเกม ๆ นี้ด้วย ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ เกมบอร์ดเกมนี้มันถูกติดตั้งเอาไว้ในช่องว่างและกาลเวลา และความตระหนักรู้ของพวกคุณจะถูกปิดบังอำพรางเอาไว้ให้อยู่ในสภาวะที่ลืมเลือนโดยสิ้นเชิง

ในระยะแรกเริ่มของเกม ๆ นี้ พวกคุณจะเชื่อว่าตัวเองคือร่างกายเนื้อนี้ แต่สภาวะสุดท้ายของเกม ๆ นี้ มันจะเป็นอะไรที่คล้าย ๆ กับไพ่โจ๊กเกอร์ซึ่งจะมีค่าเท่าไหร่ก็ได้ขึ้นอยู่กับผู้ถือไพ่เอง ซึ่งก็หมายความว่า..ในตอนที่พวกคุณยังไม่ได้เข้ามาสู่โลกทางกายภาพนั้น ไม่ว่าพวกคุณจะได้วางแผนชีวิตมาดีสักแค่ไหนแล้วก็ตาม หรือว่าได้กำหนดเงื่อนไขต่าง ๆ ของเกมชีวิตของตัวเอง เอาไว้ดีสักแค่ไหนแล้วก็ตาม แต่ผลลัพธ์สุดท้ายของเกม ๆ นี้ พวกคุณจะสามารถรู้ได้ก็ต่อเมื่อพวกคุณได้ลงมือกระทำและได้เข้ามาอยู่ในร่างกายเนื้อนี้แล้วเท่านั้น

เพราะว่าสภาวะเหล่านี้ หรือสิ่งเหล่านี้ คือสิ่งที่ไม่มีใครล่วงรู้ได้ พวกมันคือความท้าทายสำหรับพวกคุณ แต่ว่าความท้าทายเหล่านี้แหละคือสิ่งที่จะนำพาโอกาสและการเจริญเติบโตมาสู่พวกคุณได้มากที่สุดหละ

ความท้าทายเหล่านี้อาจจะมาในช่วงเริ่มต้น หรือในช่วงกลาง ๆ หรือในช่วงปลาย ๆ ของเกมชีวิตของพวกคุณก็ได้ พวกมันจะปรากฎออกมาในรูปแบบของความยากลำบากมากที่สุด ในการที่จะมีชีวิตอยู่ในร่างกายเนื้อนี้ ซึ่งพวกมันอาจจะมาในรูปแบบของปัญหาอุปสรรคด้านจิตใจ, ด้านอารมณ์ หรือด้านร่างกายก็ได้ หรือทั้งสามอย่างรวมกันก็ได้ แต่พวกมันก็คือวิถีทางหรือวิธีการที่รวดเร็วที่สุด ที่จะทำให้พวกคุณสามารถบรรลุเป้าหมายชีวิตของตัวเองที่ได้วางเอาไว้แล้วได้

เป้าหมายของเกม ๆ นี้ก็คือการสามารถกำจัดม่านพรางแห่งการลืมเลือนให้ออกไปจากความตระหนักรู้ของพวกคุณเองให้ได้อย่างสิ้นเชิง แล้วกลับคืนไปสู่ความเป็นรูปธรรมชีวิตแห่งแสงสว่างอันศักดิ์สิทธิ์และเลอเลิศอย่างที่พวกคุณเป็นจริง ๆ ให้ได้ใหม่อีกครั้งหนึ่ง แล้วหัวเราะและเฉลิมฉลองให้กับการจดจำตัวตนที่แท้จริงของตัวเองได้นี้

ในวันนี้พวกเราขอเชิญพวกคุณให้เล่นสนุกกันอย่างเต็มที่ ให้สนุกสนานเพลิดเพลินไปกับของขวัญอันวิเศษที่เกมชีวิตนี้มอบให้มา

The Team
.............................................................
Source: Morning Messages
.............................................................

 

"ข้อความที่ 47: พลังอำนาจสูงสุดของตัวเราเอง"

(credit the picture from internet)

กุญแจสำคัญที่จะทำให้พวกคุณได้พบกับปาฏิหาริย์และเรื่องมหัศจรรย์ต่าง ๆ ในชีวิตของตัวเองก็คือ ระดับของการยินยอมของพวกคุณเอง ว่าพวกคุณยินยอมให้มันเกิดขึ้นได้มากน้อยแค่ไหน และกุญแจสำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือ ระดับของความแจ่มชัดและการจดจ่อของความสั่นสะเทือนของพวกคุณเองที่ส่งออกไปสู่โลกแห่งความเป็นจริงของตัวเอง

เพราะว่าการเนรมิต (manifestation) จะเกิดขึ้นในชีวิตของมนุษย์แต่ละคนอยู่เสมอ ๆ อยู่แล้ว ดังนั้นสิ่งสำคัญที่จะต้องจดจำให้ได้ก็คือ พวกคุณจะต้องคอยสังเกตการณ์ดูว่า พวกคุณกำลังจดจ่อความสนใจและจดจ่อพลังงานแห่งความสั่นสะเทือนของตัวเองลงไปไว้กับเรื่องอะไรอยู่

แล้วผลของการสังเกตการณ์นั้นก็จะแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนเลยว่า พวกคุณได้เฝ้าจดจ่ออยู่กับสิ่งใดมาก่อน และได้พุ่งความสั่นสะเทือนด้านอารมณ์ของตัวเองไปอยู่กับเรื่องอะไรมาก่อน ซึ่งเป็นเรื่องที่ถูกนำพามาให้โดยใครก็แล้วแต่ในโลกแห่งความเป็นจริงของพวกคุณเอง

ผู้คนส่วนใหญ่มักจะไปจดจ่ออยู่กับสิ่งที่พวกเขา “ไม่ต้องการ” ให้มันเกิดขึ้นในชีวิตและในโลกแห่งความเป็นจริงของพวกเขาเอง แทนที่จะไปจดจ่ออยู่กับผลลัพธ์และความฝันและเป้าหมายที่สวยสดงดงามทั้งหลาย

มนุษย์โลกทุก ๆ คนกำลังสร้างสรรค์ประสบการณ์ชีวิตของตัวเองขึ้นมาอยู่ และก็กำลังดึงดูดเอาสิ่งที่พวกเขาถือเอาไว้อยู่ในสนามพลังงานของความสั่นสะเทือนของพวกเขาเอง ให้เข้ามาสู่ชีวิตของพวกเขาเองอยู่ ด้วยกระบวนการเดียวกันนี้ทั้งหมด

โครงข่ายพลังงานของจิตสำนึกมวลรวมของคนทั้งโลก จะมีก้อนมวลพลังงานของความกลัว, ความวิตกกังวล, ความเครียด และความไร้ซึ่งพลังอำนาจอยู่ในนั้น ดังนั้น วิวัฒนาการของมนุษย์แต่ละคนก็คือ การจะต้องสามารถรู้ให้ได้ว่าโครงข่ายพลังงาน อันนี้ไม่ใช่ของพวกเขาเองเลย เพราะว่าโครงข่ายพลังงานที่มีข้อจำกัดอันนี้ ที่เต็มไปด้วยความกลัวอันนี้ ที่ปราศจากความไว้วางใจอันนี้ และที่ไร้ซึ่งพลังอำนาจอันนี้ เป็นแค่ส่วนหนึ่งของแมทตริกซ์ของโฮโลเกมของดาวเคราะห์โลกดวงนี้เท่านั้นเอง

และเมื่อใดที่มนุษย์โลกแต่ละคนสามารถล่วงรู้ถึงมายาการอันนี้ได้แล้ว ซึ่งก็คือความเชื่อทั้งหลายที่ถูกฝังหัวมานี้แล้ว พวกเขาก็จะสามารถเปลี่ยนระดับการสร้างสรรค์ของตัวเองได้อย่างมีสติสัมปชัญญะ และได้อย่างไม่ต้องสงสัยเลย เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่แตกต่างออกไปจากเดิม เพราะว่ามนุษย์โลกแต่ละคนคือรูปธรรมแห่งดวงดาวหลากมิติอยู่แล้ว และมีความสามารถอันน่าทึ่ง ที่จะปั้นแต่งหรือแกะสลักความเป็นไปของตัวเองให้เป็นอย่างไรก็ได้อยู่แล้ว

ในโฮโลเกมอันนี้ บนดาวเคราะห์โลกของพวกคุณดวงนี้ มนุษย์โลกถูกสั่งสอนมาว่า พวกเขาคือเหยื่อที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ต่าง ๆ พวกเขาไร้ซึ่งความสามารถ หรือไร้ทักษะที่จะไปเปลี่ยนแปลงโชคชะตาชีวิตของตัวเองได้ พวกเขาถูกสอนให้สั่นสะเทือนอยู่กับและยึดติดอยู่กับความเชื่ออันนั้น และพวกเขาก็ถูกสอนมาให้ยึดติดอยู่กับความคิดและอารมณ์ความรู้สึก แห่งการรู้สึกว่าตัวเองไม่คู่ควร, ไร้ซึ่งพลังอำนาจ, ขาดแคลน และหวาดกลัว มนุษย์โลกไม่ค่อยได้ถูกสอนให้ หรือถูกทำให้รับรู้ถึงสิทธิอำนาจอันยิ่งใหญ่ หรือมหิทธานุภาพ หรือพลังอำนาจอันยิ่งใหญ่ของตัวเองเลย เพื่อที่พวกเขาจะได้นำเอามันมาใช้ในโลกแห่งความเป็นจริงของพวกเขา แล้วเนรมิตเอาวิสัยทัศน์สูงสุด และความฝันอันสูงสุดของพวกเขาออกมา

ซึ่งนี่แหละคือการเปลี่ยนแปลงละ นี่แหละคือการเลื่อนระดับขึ้นหละ นี่แหละคือวิวัฒนาการของมวลหมู่มนุษยชาติสู่การตื่นรู้ด้านจิตวิญญาณหละ ซึ่งตอนนี้มนุษย์โลกทุก ๆ คนก็กำลังเผชิญหน้ากับการเปลี่ยนแปลง หรือการเลื่อนระดับขึ้นที่ว่านี้อยู่แล้ว ในแบบของใครของมัน ขึ้นอยู่กับมุมมองที่มีต่อโลกแห่งความเป็นจริงของพวกเขาเอง

แต่ว่ามนุษย์โลกก็กำลังค่อย ๆ กลับไปเป็นผู้รู้ผู้ตื่นใหม่อีกครั้งหนึ่งแล้ว ทีละคน ๆ พวกเขากำลังค่อย ๆ ทวงคืนเอาสิทธิ์อำนาจของตัวเองกลับคืนมาใหม่อีกครั้งหนึ่งอยู่ ทีละคน ๆ แล้วก้าวเดินเข้ามาสู่ความมีพลังอำนาจสูงสุดของตัวพวกเขาเอง

พวกเขาเริ่มล่วงรู้ความจริงแล้วว่าพวกเขาเองนั่นแหละคือผู้ที่มีพลังอำนาจ และก็คือผู้ที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ขึ้น ในประสบการณ์ชีวิตประจำวันของตัวเอง และความสุข-ความเบิกบาน, ความรู้สึกซาบซึ้งใจ และความรู้สึกชื่นชมยินดี ก็คือกุญแจสำคัญที่จะนำพาไปสู่พลังอำนาจที่ว่านี้ และทั้งหมดนี้ก็คือความสั่นสะเทือน

The Team
.............................................................
Source: Morning Messages
.............................................................

 

"ข้อความที่ 48: การตื่นขึ้น (Wake-Up)"


(credit the picture from internet)

ตอนนี้มนุษย์โลกกำลังถูกเชื้อเชิญให้ยอมรับ, ให้เคารพ และให้จดจำตัวตนหลากมิติของตัวเองให้ได้อยู่ เพราะว่ามันไม่เป็นประโยชน์ต่อใครเลย ที่พวกคุณจะเล่นกันอยู่ในระดับความสั่นสะเทือนและคลื่นความถี่ที่ต่ำ ๆ แบบนี้อยู่ต่อไป และถึงแม้ว่ามันอาจจะเป็นความเคยชินและเป็นนิสัยสันดานที่ทำกันมาช้านานจนติดไปแล้วก็ตาม แต่ว่าในตอนนี้มนุษย์โลกทุก ๆ คน ก็กำลังถูกบีบคั้นให้ต้องขยายตัวเข้าไปสู่ความยิ่งใหญ่อลังการของตัวเองอยู่

มนุษย์โลกกำลังเผชิญหน้าอยู่กับปัญหาทุก ๆ ปัญหา และความคิดและการกระทำที่มีข้อจำกัดทั้งหลายอยู่ ซึ่งเรื่องนี้มันกำลังเกิดขึ้นอยู่ทั้งในระดับบุคคลและในระดับโลก

ดังนั้นตอนนี้มนุษย์โลกแห่งดวงดาวแต่ละคนจึงกำลังเผชิญหน้าอยู่กับความเชื่อที่มีข้อจำกัดของตัวเอง และกำลังเผชิญหน้าอยู่กับธรรมเนียมปฏิบัติ, นิสัย, เงามืด และความชั่วร้ายของตัวเองอยู่ และนิสัยและธรรมเนียมปฏิบัติเหล่านี้ ก็กำลังถูกขยายความเข้มข้นรุนแรงมากขึ้น จนถึงระดับที่จะทำให้เกิดความไม่สะดวกสบายขึ้นแบบสุดขีดอยู่ เพราะว่ามันก็มีความเชื่ออยู่อย่างหนึ่งว่าการเจริญเติบโตจะสามารถเกิดขึ้นได้ก็ต้องอาศัยความไม่สะดวกสบายเท่านั้น หรือต้องอาศัยความเจ็บปวดเท่านั้น

พลังงานที่กำลังถูกแผ่ส่งลงมาจากกาแล็กซี่ และมาเอิบอาบมนุษย์โลกอยู่นี้ เป็นพลังงานที่มีความสั่นสะเทือนสูงมาก และพลังงานดังกล่าวนี้ก็กำลังทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างที่มีคลื่นความถี่ต่ำ ๆ หรือหนาแน่นทึบตัน หรือเคลื่อนไหวช้า ถูกปั่นป่วนให้ลอยขึ้นมาสู่ระดับพื้นผิวอยู่

ดังนั้นพวกคุณทั้งในระดับบุคคลและในระดับมวลหมู่มนุษยชาติโดยรวม จึงกำลังมีโอกาสที่จะได้สังเกตุการณ์ ดูว่ามีเรื่องอะไรบ้างที่พวกคุณยังมีความคิดที่คับแคบอยู่ และมีอารมณ์ความรู้สึกที่ขัดแย้งอยู่ ที่สั่นสะเทือนด้วยคลื่นความถี่ต่ำ ๆ หรือหนาแน่นทึบตัน หรือเคลื่อนไหวช้า ๆ อยู่ ซึ่งเมื่อใดที่สภาวะทางกายภาพ, ทางความคิด-จิตใจ และทางอารมณ์ความรู้สึกของพวกคุณ ไม่มีความสะดวกสบายแล้ว เมื่อนั้นแหละคือสัญญาณเตือนภัยหละ มันเป็นสัญญาณเตือนภัยที่มาจากตัวตนที่อยู่บนสรวงสวรรค์ของพวกคุณเอง ที่กำลังชี้นิ้วลงมายังจุดที่พวกคุณกำลังต่อต้านอยู่ และที่กำลังมีการอุดตันทางพลังงานอยู่ เพื่อบอกให้พวกคุณปลดปล่อยรูปแบบความคิดเก่า ๆ และอารมณ์ความรู้สึกที่มีข้อจำกัดเหล่านั้นออกไปเสีย

พวกคุณมีผู้ช่วยเหลือและมีผู้สนับสนุนอยู่มากมาย ที่อยู่ในอาณาจักรแห่งสัจธรรม และความรักและแสงสว่างทั้งหลาย ดังนั้น มันจึงเป็นความรับผิดชอบของพวกคุณเองที่จะร้องขอความช่วยเหลือนี้ จงเคารพตนเอง และจงทำการเปลี่ยนแปลงสภาวะของตนเองอย่างมีสติสัมปชัญญะ เพื่อให้ยกระดับขึ้นไปสู่สภาวะที่มีการไหลอย่างไร้ขีดจำกัด

มันขึ้นอยู่กับว่าระดับของความไม่สะดวกสบาย และความเจ็บปวดของพวกคุณ มีมากน้อยแค่ไหน และมันก็ขึ้นอยู่กับว่าพวกคุณจะปล่อยให้ตัวเองจมจ่อมอยู่กับประสบการณ์ที่ขัดขวางกระแสการไหลของพลังงานอันศักดิ์สิทธิ์ จากเบื้องบนนี้นานแค่ไหนด้วย เพราะว่าสิ่งที่ทำให้พวกคุณเจ็บปวดอยู่นี้ก็คือการต่อต้านขัดขืนของพวกคุณเองนั่นเอง

เพราะฉะนั้น จงตื่นขึ้นมาเสียที เพราะว่าการเล่นเกมเล็ก ๆ แบบนี้ของพวกคุณ มันไม่เป็นประโยชน์ต่อความดีงามสูงสุดใด ๆ เลย

จงใช้เครื่องไม้เครื่องมือสำหรับยกระดับจิตสำนึก/ความตระหนักรู้ทั้งหลาย เพื่อยกระดับจิตสำนึก/ความตระหนักรู้ของตัวเองขึ้น ให้ไปอยู่ในระดับลายเซ็นทางพลังงานของตัวเอง

มันยังมีอีกหลายสิ่งหลายอย่างที่จะต้องทำในการเปลี่ยนรูปแบบและยกระดับจิตสำนึกมวลรวมของคนทั้งโลก เพื่อให้เข้าไปสู่อาณาจักรแห่งสัจธรรม ซึ่งมนุษย์โลกแต่ละคนก็จะต้องรู้ด้วยว่าตัวเองก็ถือกุญแจดอกสำคัญสำหรับ กระบวนการเปลี่ยนรูปแบบในครั้งนี้เอาไว้อยู่คนละดอก และมนุษย์โลกแต่ละคนก็จะต้องรู้ด้วยว่า มันเป็นหน้าที่ความรับผิดชอบของพวกเขาเองที่จะต้องปลดปล่อยทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นข้อจำกัดของตัวเองออกไปให้หมดสิ้น

แล้วมนุษย์โลกก็จะค่อย ๆ สั่นสะเทือนอยู่ด้วยคลื่นความถี่อันบริสุทธิ์แห่งความรัก ทีละคน ๆ เพราะว่ามนุษย์โลกแต่ละคนต่างก็มีบทบาทสำคัญที่ต้องแสดงอยู่ และมนุษย์โลกแต่ละคนก็มีสิ่งที่เป็นข้อจำกัด และมีประสบการณ์แห่งความเจ็บปวดอะไรบางอย่างของตัวเองอยู่ ซึ่งจะมีเพียงตัวพวกเขาเองเท่านั้นที่จะสามารถทำให้พวกมันเปลี่ยนรูปแบบไปได้

จงรักตัวเองอย่างไร้ขีดจำกัดทางจินตนาการ จงเรียนรู้ที่จะดำรงอยู่ภายในหัวใจอันศักดิ์สิทธิ์ของตัวเอง และสั่นสะเทือนอยู่แต่ในความรู้สึกแห่งความสุข-ความเบิกบาน, และความรู้สึกซาบซึ้งใจ และชื่นชมยินดี

The Team
...........................................................
Source: Morning Messages
...........................................................

 

"ข้อความที่ 49: พลังอำนาจสูงสุดหลากมิติของเรา"


(credit the picture from internet)

ทุก ๆ ชั่วขณะล้วนเป็นชั่วขณะที่น่าทึ่งด้วยกันหมดทั้งสิ้น แต่ว่ามนุษย์โลกกลับมองไม่เห็นความแตกต่างของความสั่นสะเทือนเหล่านี้เลย และไม่เคยรู้สึกถึงความยอดเยี่ยม, ความมหัศจรรย์ และ synchronicity ในชีวิตของตัวเองเลย

ทุก ๆ ชั่วขณะคือช่องทางในการเชื่อมต่อแบบเป็นการส่วนตัวกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์เบื้องบน ซึ่งเมื่อใดที่พวกคุณดำรงอยู่ในปัจจุบันขณะแล้ว และมีสติสัมปชัญญะรับรู้ถึงความยิ่งใหญ่อลังการของตัวเองอยู่ และมองดูเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นรอบๆตัวเองด้วยความสุข-ความเบิกบาน, ความรู้สึกซาบซึ้งใจ และความรู้ชื่นชมยินดีอยู่แล้ว มันก็จะมีกระแสการไหลของพลังงานเกิดขึ้น ซึ่งจะเชื่อมต่อไปสู่แมทตริกซ์ที่อยู่ในมิติที่สูงกว่าขึ้นไป หรือเชื่อมต่อกับโครงข่ายอันศักดิ์สิทธิ์ ที่ถูกถักทอขึ้นมาอันนั้น ซึ่งในแมทตริกซ์อันนั้น มันคือที่ ๆ ทุกสิ่งทุกอย่างมีความเป็นไปได้ทั้งหมด ซึ่งโดยอาศัยประตูมิติที่อยู่ตรงตำแหน่งหัวใจของพวกคุณนี้เองที่จะทำให้สามารถเข้าถึงแมทตริกซ์ดังกล่าวนี้ได้

“ความรู้สึกซาบซึ้งใจ” จะเป็นผู้เปิดประตูให้กับพวกคุณ แล้วพวกคุณก็จะก้าวเข้าไปในแต่ละ “ปัจจุบันขณะ” ด้วยความสดใหม่ แต่ว่ามนุษย์โลกก็มักจะชอบนำเอา “อดีต” ติดเข้ามาสู่แต่ละ “ปัจจุบันขณะ” นี้ด้วย ซึ่งนั่นแหละที่ทำให้กระแสการไหลของพลังงานเปลี่ยนแปลงไปหละ เพราะว่า “อดีต” ก็มีแต่จะไปสร้างตัวมันเองขึ้นมาใหม่ซ้ำอีกครั้งเท่านั้นเอง แม้ว่าอาจจะมีข้อแตกต่างด้านคลื่นความถี่อยู่บ้างเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ตาม แต่มันก็จะสะท้อนสิ่งเดิม ๆ ออกมาอยู่ดี

ในแต่ละชั่วขณะแห่งปัจจุบันขณะที่ได้รับเกียรตินั้น มันจะทำให้เกิดทางเข้าหรือประตูทางเข้าขึ้น ซึ่งเป็นประตูมิติที่เชื่อมต่อไปสู่ความศักดิ์สิทธิ์ของพวกคุณเอง ซึ่งก็คือกระแสการไหลอันศักดิ์สิทธิ์ของพวกคุณนั่นเอง ซึ่งภายในกระแสที่ว่านี้มันก็จะมีความราบรื่นเป็นเพื่อนของพวกคุณ ซึ่งในสภาวะแห่งความราบรื่นนี้ พวกคุณก็จะนำพาเอาคลื่นความถี่อันบริสุทธิ์ของตัวเองมาสู่จิตสำนึกมวลรวมของคนทั้งโลก ซึ่งคลื่นความถี่อันบริสุทธิ์นี้ก็จะไปเปลี่ยนรูปแบบของทุกสิ่งทุกอย่างที่มันไปแตะต้องสัมผัส

ตอนนี้หัวใจและจิตใจของผู้คนบนโลกกำลังทะยอยกันตื่นขึ้นมามากขึ้นเรื่อย ๆ อยู่ ส่วนโลกแห่งความเป็นจริงนี้ หรือโฮโลเกมอันนี้ เป็นแมทตริกซ์ของพลังงานที่หนาแน่นทึบตันที่ถักทอกันขึ้นมาจนทำให้พวกคุณติดแหง็กอยู่ในนี้ได้ และพวกคุณก็จดจ่อ และยึดติดอยู่แต่กับมัน

ลองจินตนาการดูสิว่าโฮโลเกมอันนี้ ที่พวกคุณเรียกกันว่าชีวิตของตัวเองนี้ ที่ทำให้พวกคุณต้องติดแหง็กอยู่ในรูปแบบความเชื่อและการกระทำอะไรบางอย่างอยู่นี้ เป็นแต่เพียงโปรแกรม ๆ หนึ่งเท่านั้นเอง เพราะโฮโลเกมอันนี้ก็เหมือนกับรายการ ๆ หนึ่งในช่องโทรทัศน์ของพวกคุณเท่านั้นเอง

ส่วนหนึ่งในภาระกิจรับใช้โลกของพวกคุณก็คือการมาเป็นส่วนหนึ่งของโฮโลเกมอันนี้โดยตรง ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลนี้ก็เพื่อที่จะมาเปลี่ยนรูปแบบพลังงานของมันให้ดีขึ้น เพราะว่ามนุษย์โลกทุกคนคือรูปธรรมชีวิตหลากมิติ
ผู้ที่สามารถเปลี่ยนรูปแบบของพลังงานที่มีความหนาแน่นทึบตัน และมีคลื่นความถี่ต่ำ ๆ ให้สูงขึ้นได้อยู่แล้ว และการเปลี่ยนรูปแบบดังกล่าวนี้ก็จะเกิดขึ้นใน “ปัจจุบันขณะ” และในช่องว่างของหัวใจ ที่มีสติสัมปชัญญะเท่านั้นด้วย แต่น่าเสียดายที่มนุษย์โลกส่วนใหญ่ได้ปิดกั้นการทำงานของหัวใจของตัวเองไปเสียแล้ว

ดังนั้น มันจึงเป็นภาระหน้าที่ของพวกคุณที่จะต้องยกระดับคลื่นความถี่แห่งความเจ็บปวด, คลื่นความถี่แห่งการสูญเสียความรัก, คลื่นความถี่แห่งการถูกทรยศหักหลัง และคลื่นความถี่แห่งการถูกปฏิเสธ ที่สะสมอยู่ภายในสนามพลังงานของพวกคุณเองแต่ละคน และในหัวใจของพวกคุณเองแต่ละคนให้มันสูงขึ้น ซึ่งเมื่อใดที่คลื่นความถี่ด้านอารมณ์เหล่านี้ถูกเปลี่ยนรูปแบบไปเรียบร้อยแล้ว พวกมันก็จะกลายไปเป็นของขวัญ ให้กับสนามพลังงานของจิตสำนึกมวลรวมของคนทั้งโลกต่อไป

และเมื่อใดที่ประตูมิติที่อยู่ตรงตำแหน่งหัวใจของพวกคุณถูกชำระสะสางให้ปราศจากความเจ็บปวดใด ๆ แล้วไม่ว่าจะเป็นการชำระสะสางจริง ๆ หรือชำระสะสางในจินตนาการก็ตาม มันก็จะกลายไปเป็นเครื่องแปลงพลังงานที่ทรงพลังอำนาจในทันทีซึ่งจะสามารถใช้เพื่อเปลี่ยนรูปแบบของพลังงานที่หนาแน่นทึบตัน, และคลื่นความถี่แห่งความกลัว, ความเกลียดชัง, ความมีอคติ และความมึนงง ที่มีอยู่ในสนามพลังงานของจิตสำนึกมวลรวมของคนทั้งโลกได้

และวิธีการอันน่าอัศจรรย์ในการฝึกเพื่อทำเช่นนี้ก็คือ การหายใจเอาความทุกข์ยากของโลกเข้าไปในหัวใจของตนเอง แล้วหายใจเอาพลังงานที่เปลี่ยนรูปแบบแล้วออกมาแทน ส่วนอีกวิธีการหนึ่งที่ทรงพลังไม่แพ้กันก็คือ
การแผ่คลื่นความถี่แห่งความสุข-ความเบิกบาน, ความรู้สึกซาบซึ้งใจ และความรู้สึกชื่นชมยินดีของตัวเองออกมา ในทุก ๆ ชั่วขณะแห่งปัจจุบันขณะ จากความตระหนักรู้ในพลังอำนาจสูงสุดหลากมิติของตัวเอง

พวกเราขอโอบกอดพวกคุณด้วยความรู้สึกซาบซึ้งใจและขอจากพวกคุณไปพร้อมกับคำเชื้อเชิญให้พวกคุณดำรงอยู่ในหัวใจของตัวเอง และอยู่ในปัจจุบันขณะของตัวเอง แล้วเอิบอาบทั้งหัวใจและปัจจุบันขณะด้วยความสุข-ความเบิกบาน, ความรู้สึกซาบซึ้งใจ และความรู้สึกชื่นชมยินดี

The Team
............................................................
Source: Morning Messages
............................................................

 

"ข้อความที่ 50: เงามืดของจิตสำนึกมวลรวมของคนทั้งโลก"


(credit the picture from internet)

การเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ บางส่วนอาจจะเห็นได้ไม่ชัด แต่บางส่วนอาจจะเกิดขึ้นอย่างอึกทึกครึกโครม ซึ่งพวกคุณก็สามารถที่จะสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ได้ทั่วโลก

และมันก็กำลังมีปัญหามากมายก่ายกองเกิดขึ้นตามมาด้วย และก็กำลังมีคลื่นความถี่แห่งความเกลียดชัง, ความกลัว และความวุ่นวายโกลาหลแผ่ปกคลุมไปทั่วอยู่ในขณะนี้ เพราะว่าผู้คนส่วนใหญ่ของโลกยังไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลย และก็อ่อนไหวเกินกว่าที่จะรับมือกับความหายนะและการหลอกลวงที่เกิดขึ้นถี่ ๆ แบบนี้ได้ ดังนั้นพวกเขาจึงรู้สึกว่าขาดที่พึ่ง เพราะไม่รู้ในพลังอำนาจที่แท้จริงของตัวเอง

คราวนี้..มันก็มีกลุ่มของรูปธรรมชีวิตที่มีสติสัมปชัญญะอยู่กลุ่มหนึ่ง ที่กำลังก้าวออกมาสู่พลังอำนาจที่แท้จริงของตัวเองอยู่ และก็กำลังตระหนักรู้แล้วว่าพวกเขาสามารถทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นมาได้

จงจำไว้ว่าเงามืดของมนุษยชาติทั้งมวล ก็สถิตย์อยู่ภายในจิตสำนึก/ความตระหนักรู้ของชาวโลกแต่ละคนนั่นแหละ ซึ่งด้านมืดหรือเงามืดของแต่ละคนที่ว่านี้มักจะถูกเก็บกดเอาไว้ หรือถูกปฏิเสธ แล้วถูกฉายออกมา เพราะว่าไม่มีใครต้องการที่จะคิดว่าตัวเองเป็นคนมีอคติ, ชอบตัดสินชี้ถูกผิดคนอื่น, มักโกรธ หรือขี้โมโห และก็ไม่มีใครต้องการที่จะเชื่อว่าตัวเองสามารถที่จะฆ่าคนอื่นได้ หรือสร้างความทุกข์ยากและเจ็บปวดให้กับคนอื่นได้ แต่ว่าคลื่นความถี่เหล่านี้ก็ดำรงอยู่ในรูปแบบของพลังงานและซุกซ่อนอยู่ภายในซอกหลืบของจิตใจของทุก ๆ คนอยู่ดี ไม่มากก็น้อย

พฤติกรรมประเภทนี้มันถูกตั้งโปรแกรมขึ้นมา ถูกออกแบบมา และก็ถูกกระตุ้นให้ทำงานขึ้นมาด้วยความกลัว

ดังนั้นเมื่อใดที่มีความกลัวเกิดขึ้น พฤติกรรมด้านอารมณ์ที่ถูกเก็บกดเอาไว้เหล่านี้ก็จะถูกกระตุ้นให้ทำงานขึ้นมา แล้วจากนั้นมายาการแห่งการหาเหตุผลมาตัดสินชี้ถูกผิดคนอื่น หรือเยาะเย้ยคนอื่น หรือฆ่าผู้อื่นจึงเกิดขึ้นตามมา ดังนั้นเงามืดหรือด้านมืดของแต่ละคนดังกล่าวนี้ จึงจำเป็นจะต้องได้รับความรักเพื่อปลดปล่อยให้มันเป็นอิสระ

เพราะเหตุนี้ ความรู้สึกไม่มั่นคงปลอดภัยทั้งหลาย, ความเชื่อในเรื่องของความแตกต่างทั้งหลายที่ถูกใส่โปรแกรมกันมา, และความผิดเพี้ยนของจิตสำนึกมวลรวมของคนทั้งโลก จึงกำลังถูกผลักดันให้ลอยขึ้นมาสู่ระดับพื้นผิวของแมทตริกซ์ของโลกอยู่
(เพื่อให้มนุษย์ได้เผชิญหน้ากับมัน แล้วปลดปล่อยมันไปด้วยพลังงานแห่งความรัก - ผู้แปล)

สำหรับผู้ที่มีความตระหนักรู้ และกำลังตื่นขึ้นมาอยู่ และกำลังโอบกอดเอาเงามืดของตัวเองเอาไว้อยู่ พวกเขาก็จะมีสติสัมปชัญญะรู้ว่าพวกเขาคือรูปธรรมชีวิตหลากมิติที่กำลังมามีชีวิตอยู่ในมายาการที่ถูกสร้างขึ้นมานี้เท่านั้นเอง พวกเขากำลังพยายามตัดการเชื่อมต่อของวงจรที่จะไปกระตุ้นการทำงานของอารมณ์ด้านมืดของตัวเองขึ้นมาอยู่ พวกเขากำลังรับผิดชอบต่อการสร้างสรรค์ประสบการณ์ชีวิตของตัวเองขึ้นมาอยู่ ดังนั้น เมื่อใดที่ประสบการณ์ชีวิตของพวกเขาไม่น่าพึงพอใจหละก็ พวกเขาก็จะไปค้นหาสาเหตุมาจากข้างในตัวของพวกเขาเอง แทนที่จะปล่อยให้มันถูกฉายออกมาเฉย ๆ โดยไม่ค้นหาสาเหตุ หรือแทนที่จะไปโทษโลกภายนอก

วิวัฒนาการทางจิตสำนึก/ความตระหนักรู้ของมนุษย์โลกในครั้งนี้กำลังขยายตัวมากขึ้นเรื่อย ๆ อยู่ จนไปสัมผัสหัวใจ และจิตใจของผู้คนมากมาย และผู้ใดที่กำลังอ่านข้อความนี้อยู่ก็คือผู้ที่มีความเข้าใจในเรื่องนี้ และก็กำลังตื่นขึ้นมาจากรูปแบบความเชื่อเก่า ๆ อยู่

The Team
.............................................................
Source: Morning Messages
............................................................

 

"ข้อความที่ 51: อารมณ์ที่ทำให้เสพติด"


(credit the picture from internet)

พวกเราอยากจะขอย้ำเตือนพวกคุณถึงความสำคัญของการคงอยู่ในอารมณ์แห่งความสุข-ความเบิกบาน, ความรู้สึกซาบซึ้งใจ และความรู้สึกชื่นชมยินดี

เพราะว่าช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาแห่งความท้าทายบนดาวเคราะห์โลกของพวกคุณ และเพราะว่าพวกคุณคือ ผู้ที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น และเป็นรูปธรรมชีวิตแห่งแสงสว่าง ดังนั้นการดำรงอยู่ในคลื่นความสั่นสะเทือนอันบริสุทธิ์ของความสุข-ความเบิกบาน, ความรู้สึกซาบซึ้งใจ และความรู้สึกชื่นชมยินดีของพวกคุณ จึงคือวิธีการที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด ที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนรูปแบบขึ้น

และมันก็เป็นสิ่งสำคัญมากต่อความอยู่ดีมีสุขของพวกคุณ, ต่อสุขภาพที่ดีของพวกคุณ และต่อความสามารถในการเชื่อมต่อกับแก่นแท้อันศักดิ์สิทธิ์ของพวกคุณเองด้วย

มันเป็นสิ่งสำคัญมากที่พวกคุณจะต้องมีสติรับรู้ว่าเมื่อใดที่ตัวเองกำลังสั่นสะเทือนอยู่ด้วยคลื่นความถี่ต่ำ ๆ และหนาแน่นทึบตันและด้วยอารมณ์ที่หนักหน่วงเพราะความกลัว, ความโกรธ, ความเศร้า, ความท้อแท้, และความวิตกกังวลอยู่ เพื่อที่จะได้ยกระดับความสั่นสะเทือนเหล่านั้นให้สูงขึ้นได้อย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ มันเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับพวกคุณที่จะต้องคอยยกระดับความสั่นสะเทือนของตัวเองให้สูงขึ้นอยู่เสมอในทุก ๆ ชั่วขณะ

จงจำไว้ว่า เมื่อใดที่พวกคุณปฏิบัติการอยู่ภายใต้คลื่นความถี่ต่ำ ๆ ของอารมณ์ความรู้สึกที่หนาแน่นทึบตันแล้ว ก็เท่ากับว่าพวกคุณได้เสียบปลั๊กเข้าไปในโครงข่ายพลังงานของจิตสำนึกมวลรวมของคนทั้งโลก ที่มีระดับพลังงานเดียวกันกับความรู้สึกนั้น ๆ โดยอัตโนมัติแล้ว

และเมื่อพวกคุณยินยอมให้อารมณ์ความรู้สึกของตัวเอง ตกลงไปอยู่ในระดับเดียวกับความสั่นสะเทือนของ โครงข่ายพลังงานของจิตสำนึกมวลรวมของคนทั้งโลกแล้ว คลื่นความสั่นสะเทือนที่ต่ำ ๆ ของมันก็จะทำให้พวกคุณรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออก และรู้สึกหดหู่ท้อแท้ใจอย่างง่ายดาย ซึ่งอารมณ์ความรู้สึกที่หนาแน่นทึบตันเหล่านี้ ก็คืออารมณ์ความรู้สึกที่พวกคุณคุ้นเคยมากที่สุดนั่นเอง และก็เป็นอารมณ์ที่พวกคุณชอบตกลงไปอยู่กันอย่างง่ายดายที่สุดอีกด้วย ดังนั้นพวกมันจึงเป็นความสั่นสะเทือนที่มีอยู่มากที่สุดในโลก

อารมณ์ความรู้สึกเหล่านี้โดยธรรมชาติแล้วพวกมันจะทำให้เกิดการเสพติดทางอารมณ์ได้ด้วย เพราะว่าร่างกายเนื้อและสมองของมนุษย์จะจดจำปฏิกิริยาเคมีที่เกิดขึ้นภายในได้ แล้วมันก็จะไปกระตุ้นให้โปรแกรมทางความคิดเก่า ๆ หรือประสบการณ์เก่า ๆ หรือความเจ็บปวดเก่า ๆ ผุดขึ้นมาใหม่อีกครั้งหนึ่ง แล้วทุก ๆ ระบบของพวกคุณก็จะเข้ามามีส่วนร่วมด้วย พร้อมด้วยกลไกการต่อต้านทั้งหลายที่ได้รับการกระตุ้นแล้ว แล้วจากนั้นพวกคุณจะถูกเหตุการณ์รอบ ๆ ตัวบงการได้อย่างง่ายดายและโดยอัตโนมัติ แล้วพวกคุณก็จะเชื่อมต่ออยู่กับโครงข่ายพลังงานหรือแมทตริกซ์แห่งความกลัว, ความโกรธ, ความรู้สึกผิด, ความวิตกกังวล, ความท้อแท้ใจ, และความรู้สึกไร้ซึ่งพลังอำนาจของคนทั้งโลก ซึ่งอารมณ์ความรู้สึกเหล่านี้นี่แหละที่คอยล็อกวิวัฒนาการของดาวเคราะห์โลกของพวกคุณเอาไว้ ไม่ให้ไปได้ไกลเท่าที่ควร

และมิหนำซ้ำมันก็ยังมีชาวโลกอยู่กลุ่มหนึ่งที่คอยหาประโยชน์จากอารมณ์ความรู้สึกเหล่านี้อยู่ด้วย พวกเขาได้พยายามทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะให้จิตสำนึกมวลรวมของคนทั้งโลกตกอยู่ในสภาวะอารมณ์ความรู้สึกที่ง่ายต่อการบงการแบบนี้

ดังนั้น ในเกมแห่งวิวัฒนาการเกมนี้ หรือเกมแห่งการเปลี่ยนรูปแบบเกมนี้ ทักษะที่มีคุณค่ามากที่สุดก็คือ ความสามารถในการควบคุมตัวเองให้สามารถยกระดับอารมณ์ความรู้สึกของตัวเองให้ขึ้นไปอยู่ในระดับความสั่นสะเทือนที่สูง ๆ ของความสุข-ความเบิกบาน, ความรู้สึกซาบซึ้งใจ และความรู้สึกชื่นชมยินดี และรวมถึงความรักด้วย ให้ได้ทุกเมื่อเท่าที่ต้องการ แล้วก็สามารถดำรงอยู่หรือคงอยู่ในระดับความสั่นสะเทือนเหล่านั้นให้ได้นานเท่าที่ต้องการด้วย เพราะว่าทั้งหมดนี้คือพลังอำนาจของพวกคุณ

เพราะฉะนั้นแล้ว จงมองหาและจงให้ความสนใจกับสิ่งเล็กๆน้อยๆในชีวิตของพวกคุณ ที่จะสามารถทำให้พวกคุณรู้สึกซาบซึ้งใจขึ้นมาได้ แล้วก็แสดงความรู้สึกซาบซึ้งใจนั้นออกมาเสีย

The Team
.............................................................
Source: Morning Messages
............................................................

 

"ข้อความที่ 52: การเสพติดทางอารมณ์"


(credit the picture from internet)

มนุษย์ทุกคนล้วนมีโปรแกรมอะไรบางอย่างฝังอยู่ใต้จิตสำนึกที่ทำให้พวกเขาต้องตอบสนองต่อเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตของพวกเขาโดยอัตโนมัติด้วยกันหมดทั้งสิ้น

ลองมองดูชีวิตของพวกคุณเองดูสิ แล้วลองถามตัวเองดูสิว่าพวกคุณกำลังเสพติดอยู่ในอารมณ์หรือ พฤติกรรมอะไรบางอย่างอยู่หรือเปล่า?
พวกคุณกำลังเสพติดอยู่ในอารมณ์เศร้าโศกเสียใจอยู่หรือเปล่า?
พวกคุณกำลังเสพติดอยู่กับการแสดงบทบาทเป็นเหยื่อผู้เคราะห์ร้าย หรือผู้พลีชีพอยู่หรือเปล่า?
พวกคุณกำลังเสพติดอยู่กับสภาวะจิตใจที่ทำอะไรก็ไม่สำเร็จอยู่หรือเปล่า?
พวกคุณกำลังเสพติดอยู่กับการมีข้อจำกัดทางด้านการเงินอยู่หรือเปล่า?

จงสังเกตการณ์ทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตของพวกคุณโดยปราศจากการตัดสินชี้ถูกผิดใด ๆ ทั้งสิ้น จงหยิบเอาเรื่องราวอะไรซักอย่างในชีวิตของตัวเองขึ้นมาพิจารณา เพื่อมองดูรูปแบบของมัน ด้วยความตั้งใจที่จะเข้าใจมันและปลดปล่อยมันไป ลองถามตัวเองดูว่าถ้ามันมีการเสพติดทางอารมณ์อยู่ในเรื่องนั้น ๆ หละก็ มันน่าจะเป็นการเสพติดของอารมณ์อะไร? และจงรู้ไว้ด้วยว่าเมื่อมีคำถามเกิดขึ้น ก็จะมีคำตอบตามมา

ซึ่งเมื่อใดที่พวกคุณได้สังเกตุเห็นการยึดติดที่ไม่ปกติใด ๆ ของตัวเองเข้าแล้ว ตอนนี้ก็ถึงคราวที่จะต้องเฉลิมฉลองและใส่ความตั้งใจลงไปว่าจะต้องเปลี่ยนแปลงมันแล้วหละ ด้วยทุก ๆ วิถีทาง แล้วจากนั้นมันก็จะกลายเป็นเกมแห่งการค้นหาและการพัฒนาให้ดีขึ้น ที่สนุกสนานและเล่นอย่างมีสติสัมปชัญญะ

พวกเรากำลังอยู่ในช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนรูปแบบครั้งยิ่งใหญ่อยู่ ซึ่งกระบวนการนี้ก็กำลังถูกเร่งให้เร็วขึ้นเรื่อย ๆ อยู่ ดังนั้นการตอบสนองโดยอัตโนมัติเพราะการยึดติดเหล่านี้จึงสามารถที่จะถูกค้นพบได้ และถูกตัดการเชื่อมต่อได้ และถูกลบทิ้งไปได้

ตอนนี้มนุษย์โลกหลากมิติทุก ๆ คนกำลังถูกเชื้อเชิญให้ตื่นขึ้นมาสู่ความตระหนักรู้ว่าตัวเองเป็นใครอยู่ และรวมถึงให้ตื่นขึ้นมาตระหนักรู้ถึงภาระกิจรับใช้โลกของตนเอง ที่ตัวตนที่ยิ่งใหญ่อลังการมากที่สุดของพวกเขาเป็นผู้นำเสนอมาให้อยู่

จงสังเกตดูว่าตอนนี้ในชีวิตของพวกคุณกำลังมีปัญหาอุปสรรคอะไรถูกดึงดูดเข้ามาอยู่บ้าง ซึ่งปัญหาอุปสรรคเหล่านี้แหละคือของขวัญอันล้ำค่าของพวกคุณหละ เพราะว่าพวกมันคือกุญแจสำคัญ หรือคือจิ๊กซอว์ตัวสำคัญ
ที่จะทำให้สาวไปถึงโปรแกรมที่ผิดเพี้ยน และรูปแบบความเชื่อที่ผิดปกติของพวกคุณเองได้ ดังนั้น จงค่อย ๆ สังเกตดูอีโก้ของตัวเองให้ดี ด้วยความตั้งใจที่แน่วแน่ เพื่อค้นหาและเพื่อชี้บ่งรูปแบบที่มีข้อจำกัดที่ว่านั้น ดูซิว่ามันใช่เรื่องที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ, ความมั่งคั่งร่ำรวย, ความสุข หรือความเบิกบานของพวกคุณหรือเปล่า ที่พวกคุณกำลังมีข้อจำกัดอยู่นั้น?

แต่จงสุภาพอ่อนโยนกับกระบวนการค้นหาดังกล่าวนี้ จงร้องขอความช่วยเหลือจากความตระหนักรู้หลากมิติของพวกคุณเอง และจงรู้ไว้ด้วยว่าพวกคุณกำลังได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่ในการชำระสะสางเอาข้อจำกัดเหล่านี้ออกไปอยู่ เพื่อนำพาเอาความยิ่งใหญ่อลังการที่แท้จริง ซึ่งเป็นความยิ่งใหญ่ในระดับเอกภพของพวกคุณกลับคืนมาใหม่อีกครั้งหนึ่ง

พวกคุณเป็นหนึ่งเดียวกันกับโครงข่ายพลังงานของมวลหมู่มนุษยชาติทั้งมวล และของจักรวาลด้วย ดังนั้นเมื่อใดก็ตามที่พวกคุณเยียวยารักษาพลังงานของตัวเอง หรือ เปลี่ยนรูปแบบพลังงานอะไรบางอย่างที่อยู่ภายในวงจรของตัวเองไปแล้วการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ก็จะไปเกิดขึ้นในแมทตริกซ์ทั้งแมทตริกซ์ที่ว่านั้นด้วย เพราะว่าคุณคือผู้เปลี่ยนรูปแบบพลังงาน (transformer)

The Team
...............................................................
Source: Morning Messages
..............................................................

 

"ข้อความที่ 53: Ego หรือ ผู้จัดการ"

(credit the picture from internet)

มนุษย์โลกจำนวนมากมายมีความเชื่อว่าโลกแห่งความเป็นจริงในมิติที่ 3 แห่งนี้ เป็นเพียงโลกแห่งความเป็นจริงเดียวที่มีอยู่ ดังนั้นพวกเขาส่วนใหญ่จึงเกิดมา, แล้วก็มีชีวิตอยู่ แล้วก็ตายไปโดยไม่ตระหนักรู้ถึงโลกแห่งความเป็นจริงหลากมิติที่ตัวเองก็เทียวเข้าเทียวออกอยู่เป็นประจำอยู่แล้วเลย

ชีวิตคือโฮโลเกม หรือเกมสามมิติ และประสบการณ์ชีวิตของพวกคุณที่พวกคุณมีกันอยู่ในระหว่างที่กำลังอยู่ในร่างกายเนื้อของตัวเองนี้นั้น ก็เป็นแค่เพียงเศษเสี้ยวหนึ่งของทั้งหมดที่พวกคุณเป็นเท่านั้นเอง แต่ว่าเศษเสี้ยวส่วนนี้ก็มีความสำคัญมาก เพราะว่ามันช่วยให้พวกคุณมีโอกาสได้มีประสบการณ์กับความเป็นทวิภาวะ และความเป็นบวก-เป็นลบ

ความเป็นทวิภาวะถูกสร้างขึ้นมาจากอีโก้ เพราะว่าในความเป็นมายาการแห่งการแบ่งแยกนี้สิ่งที่ทำหน้าที่ตรึงโลกแห่งความเป็นจริงที่เป็นมายาการอันนี้เอาไว้อยู่ก็คืออีโก้ แล้วความเป็นทวิภาวะก็สร้างให้เกิดการดิ้นรนต่อสู้ขึ้นมา แล้วการดิ้นรนต่อสู้ก็ทำให้ชาวโลกแต่ละคนติดอยู่ในระดับพลังงานที่หนาแน่นทึบตัน ซึ่งเป็นที่ ๆ อีโก้ปกครองอยู่

ลองจินตนาการดูสิว่าอีโก้ของพวกคุณก็เป็นแค่ “ผู้จัดการ” ของพวกคุณเท่านั้นเอง ไม่ใช่ “เจ้าของ” ของพวกคุณแต่อย่างใดเลย เป็นแค่ผู้จัดการเท่านั้น แต่ว่าก็จะเหมือนกับผู้จัดการส่วนใหญ่นั่นแหละ ที่พอเข้ามารับหน้าที่จัดการดูแล และตัดสินใจแทนเจ้าของในทุก ๆ เรื่อง ภายใต้ความเป็นทวิภาวะนี้ เป็นเวลานานหลาย ๆ ปีแล้ว อีโก้หรือผู้จัดการของพวกคุณก็เลยหลงคิดว่าตัวมันเองเป็นเจ้าของไปเสียเอง

แต่ว่าคราวนี้เจ้าของตัวจริง (ซึ่งก็คือความตระหนักรู้อันศักดิ์สิทธิ์ของพวกคุณเอง) ได้กลับมาแล้ว และก็ต้องการที่จะมาบริหารจัดการธุรกิจเสียเอง (ซึ่งก็คือชีวิตของพวกคุณ) แต่ว่าเจ้าอีโก้นี้มันก็ยังไม่อยากสูญเสียอำนาจในการควบคุมของมันไป ดังนั้น ชาวโลกจำนวนมากมายจึงกำลังติดอยู่ท่ามกลางการดิ้นรนต่อสู้ระหว่างอีโก้และความตระหนักรู้ ส่วนที่สูงส่งกว่าของตัวเองอยู่ ซึ่งการดิ้นรนต่อสู้ที่ว่านี้อาจจะกินเวลายาวนานจนชั่วชีวิตของพวกเขาเองก็ได้

ตอนนี้ความตระหนักรู้ส่วนที่สูงส่งกว่าของพวกคุณ กำลังค่อย ๆ ผสานรวมเข้ากับส่วนที่เรียกว่าอีโก้ของพวกคุณอยู่ด้วยความรัก ซึ่งนี่แหละคือวิวัฒนาการที่กำลังเกิดขึ้นบนดาวเคราะห์โลกของพวกคุณอยู่ในขณะนี้หละ
มันคือการผสานรวมเข้าด้วยกันอย่างเต็มรูปแบบของความตระหนักรู้ส่วนที่เป็นหลากมิติของพวกคุณเอง กับร่างกายเนื้อของพวกคุณเอง เพื่อที่จะนำพาความสมดุลอย่างเต็มรูปแบบเข้ามาสู่สนามพลังงานของความเป็นทวิภาวะแห่งนี้

เพราะว่ามันต้องอาศัยสนามพลังงานแห่งความสมดุลจากภายในอันนี้จึงจะทำให้พวกคุณสามารถตระหนักรู้ถึงโลกแห่งความเป็นจริงและมิติอันหลากหลายที่ตัวเองท่องไปอยู่และดำรงอยู่ได้ เพราะว่าชีวิตของพวกคุณชีวิตนี้เป็นแค่เพียงหนึ่งในนั้นเท่านั้นเอง

เวลาส่วนใหญ่ในชีวิตของพวกคุณมักจะสูญเสียไปกับการดิ้นรนต่อสู้กับความเป็นทวิภาวะ และกับอารมณ์, ความคิด และเรื่องราวทางกายภาพต่าง ๆ ทุก ๆ เรื่องที่ความเชื่อของพวกคุณพากันสร้างขึ้นมา มันจึงเป็นงานที่ยุ่งมาก ๆ พอ ๆ กับการขัดเงาก้อนหินเลยทีเดียว แต่มันก็คือการเรียนรู้

แต่ว่าบนเส้นทางการเจริญเติบโตของพวกคุณ หรือบนเส้นทางแห่งพัฒนาการ หรือวิวัฒนาการของพวกคุณนี้ มันก็จะมีสักวันหนึ่งที่พวกคุณจะได้ประจักษ์ว่า ผู้ที่เป็นคนสร้างความเชื่อเรื่องการดิ้นรนต่อสู้นี้ขึ้นมาก็คือตัวพวกคุณเองนั่นเอง ไม่ใช่ใครอื่นเลย ซึ่งเมื่อใดที่ความตระหนักรู้อันนี้มันได้มาถึงพวกคุณแล้ว การเลื่อนระดับขึ้น หรือการเปลี่ยนรูปแบบ และการเจริญเติบโตของพวกคุณก็จะเป็นไปอย่างก้าวกระโดดเลยทีเดียว

The Team
.............................................................
Source: Morning Messages
.............................................................