ข้อความจาก กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)(ปิดกระทู้)

หลังจากรับทราบทฤษฏีระบบ และกติกาในการประมวลพลังแล้ว ได้บันทึกภาพร่วมกันทั้งผู้อาวุโสจากเขากะลา 1 และผู้เข้าร่วมประมวลพลังจากเขากะลา 2 หน้าองค์พระประธาน

 

หลังจากนั้น ระบบได้ให้ผู้ที่จะเข้าร่วมประมวลพลังจากเขากะลา 2 ทั้งหมดรวม 20 ท่าน ได้ถ่ายภาพร่วมกันก่อนเข้านั่งประจำจุดประมวลพลังตามที่ระบบได้กำหนดไว้ให้

เพราะเมื่อเข้าในช่วงการประมวลพลัง งดถ่ายภาพ

 

อ้างอิงจาก ธนทรงพรบัญฑร
<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1628372", true); </SCRIPT>
อ.สุดใจค่ะหนูอยากไปกับน้องชายที่ เขากะลา ๑ ในวันที่ ๑๑ เดือน๑๑ ปี ๒๕๕๑
ถึงไปอาจจะไม่ได้สัมผัสหรือเห็นอะไรหรืออาจไม่มีสิทธิ์แม้จะไปนั่งในลานแต่ขอแค่ได้ไป
กราบพระพุทธรูปองค์นาคปรกตามที่มีความเลื่อมใสศรัทธาและได้ไปที่สถานที่ที่ศรัทธาคือเขากะลาแม้อาจเข้ามาช้าในการรับรู้ในสิ่งที่ทุกท่านได้ถ่ายทอดก็ทำให้มีสิ่งที่มาจุดประกายความกล้าในการไม่ยึดอะไรทั้งสิ้นให้รู้แต่เราต้องทำตามหน้าที่ในหน้าที่ทุกๆอย่างที่เป็นมีความกล้าที่จะทำในสิ่งที่ถูกต้องหนูพอมีสิทธิ์ไปได้ไหมค่ะระบบจะอนุญาตไหมเพราะหนูยังไม่ได้เชื่อมระบบยังไม่มีเลขที่มีแต่ความตั้งใจจริงและศรัทธาค่ะ

มาได้ค่ะทั้งสองท่านที่ถามมา ทั้งคุณ apichan และคุณ ธนทรงพรบัญฑร

เขากะลา<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1628372", true); </SCRIPT>ยินดีต้อนรับทั้งสองท่านค่ะ

เพราะหลังจากวันที่ 1 พฤศจิกายน 2551 ที่มีการประมวลพลังเฉพาะผู้มีหมายเลขในรุ่นที่ 1 เท่านั้น

หลังจากวันที่ 2 พฤศจิกายน 2551 เป็นต้นไป ท่านที่มีหมายเลขก็มาประมวลพลังได้ ตามเวลา และจุดรับพลังที่ระบบกำหนด และบุคคลอื่นที่ไม่มีหมายเลข ก็สามารถขึ้นมาเยี่ยมชม มาไหว้พระ หรืออาจนั่งสมาธิรับคลื่นได้ตามจุดที่ระบบได้จัดไว้ให้ โดยแยกจากผู้ประมวลพลังของระบบ

และจะมีจุดให้ชมวิวทิวทัศน์ระหว่างรอไว้แล้ว ตรงลานดูดาวด้านล่าง และผู้อาวุโสที่ไม่ได้เข้าร่วมในการประมวลพลัง ก็จะมาสนทนาด้วยกับผู้ที่มาเยี่ยมชมนั้น

แจ้งคุณ apichan เพื่อทราบ

สำหรับภาคกลางวัน มีคุณ sapa และภรรยา ได้แจ้งมาแล้วว่า จะมาประมวลพลังภาคกลางวัน ในช่วง 16.11 - 18.11 น. แต่จะเป็นวันใดนั้น ก็จะแจ้งพี่สุดใจอีกครั้งหนึ่ง

คุณ apichan ลองสอบถามดูก็ได้ เผื่อจะเป็นวันเดียวกัน ก็จะได้มาด้วยกัน แล้วแจ้งพี่สุดใจด้วยนะคะว่าจะมาวันไหน จะได้เตรียมการไปรับที่เขากะลา เพื่อจัดสถานที่เข้านั่งตามจุดที่ระบบได้แจ้งไว้ในการประมวลพลัง

 

ในช่วงการประมวลพลัง ​

มีหลายท่าน หลายกลุ่ม สัมผัสคลื่นที่ส่งลงมาได้ และตลอดระยะเวลา 2 ชั่วโมง หลายท่านมีประสบการณ์ในการที่รับคลื่นพลังงานเข้ากระทบในขันธ์ห้า ในรูป ในเวทนา ในสัญญา ในสังขาร ในการรับรู้ต่าง ๆ ซึ่งแต่ละท่านก็ได้พิจารณาเพื่อแยกคลื่นเหล่านั้น ว่าไม่ใช่ตัวเราของเรา มิใช่อัตตาตัวตน ของตนที่ควรยึดมั่นถือมั่นใด ๆ ทั้งสิ้น

จนหมดเวลา 23.11 นาฬิกา คลื่นจากต่างดาว ก็ยุติการส่งคลื่น

หลังจากนั้น ก็มีการแจ้งทฤษฏีระบบ กติการะบบอีกครั้ง พร้อมทั้งผู้ที่สัมผัสคลื่นจากต่างดาว ก็เล่าประสบการณ์ขณะสัมผัสคลื่นให้เพื่อน ๆ ได้รับฟัง

ซึ่งพอสรุปได้ว่า มีการส่งคลื่นมาให้มีทั้งแบบคลื่นเดี่ยวเฉพาะบุคคล และคลื่นพลังงานแบบเป็นกลุ่ม ในแต่ละกลุ่มจะรับคลื่นแบบเดียวกัน คล้ายกัน ได้กลุ่มละ 2 - 3 คน

ในส่วนนี้ คงต้องให้ผู้มีประสบการณ์สัมผัสคลื่นมาเล่าให้ฟังเองก็แล้วกันนะคะ เพื่อเป็นตัวอย่างให้กับรุ่นถัดไปที่จะไปประมวลพลังที่เขากะลาได้รับทราบด้วย

และยังมีอีกหลายเหตุการณ์ที่น่าสนใจ ที่เกิดขึ้นนอกรอบในช่วงประมาณ 03.00 นาฬิกา

เช่นหลายคนไปนั่งยังจุดที่เป็นทางเข้าเมืองลับแล แล้วเข้าไปเห็นภายในเมืองลับแล เห็นเหมือนกันหลายท่าน

รวมทั้งการไปนั่งยังจุดที่เป็น ลานประมวลพลังหน้ากองบัญชาการมนุษย์ต่างดาว และสัมผัสคลื่นจากต่างดาวที่เข้มข้นมากได้ หลายคนมีอาการตัวเบา เหมือนตัวจะลอยได้ (น่าจะมีภาพจากกล้องใดกล้องหนึ่งของสมาชิกที่บันทึกภาพผู้สัมผัสคลื่นจากต่างดาวที่ลานฯแห่งนี้ไว้)

ที่เหลือในส่วนนี้ ก็คงมอบหมายให้ผู้ที่สัมผัสประสบการณ์ต่าง ๆ บนเขากะลา ได้มาเล่าให้เพื่อน ๆ สมาชิกได้รับฟังกัน เพื่อเป็นประโยชน์ต่อ รุ่นต่อ ๆ ไปไว้เทียบเคียงได้

ผู้ที่สัมผัสได้ในคืนนั้น มีหลายท่าน อย่างเช่นคุณ MOUNTAIN คุณ juksawat คุณเทพบุตรชาวดิน คุณศศะ คุณpyramid คุณ dalink และอีกหลายท่านที่สามารถมองเห็นเมืองลับแล มองเห็นมนุษย์ต่างดาว มองเห็นจานบินจำนวนมากที่ทับซ้อนอยู่บนเขากะลาแห่งนี้ เพื่อเตรียมการช่วยเหลือมนุษย์โลก ในช่วงที่เกิดภัยพิบัตินั่นเอง

สิ่งที่ยืนยันว่าแต่ละท่านไม่ได้คิดไปเองก็คือ ภาพที่เห็นจะมีลักษณะเหมือนกัน กับที่อีกท่านหนึ่งเห็น หรือบางครั้งเห็นเหมือนกัน 3 - 4 ท่าน เพื่อเป็นการยืนยันว่ามิได้คิดไปเองแต่อย่างใด

ก็คงรอฟังจากแต่ละท่านที่สัมผัสได้เองดีกว่านะคะ พี่สุดใจแค่เป็นผู้อยู่ในเหตุการณ์ตอนทุกท่านเข้าไปนั่งตามจุดของเมืองลับแล หรือของลานหน้ากองบัญชาการมนุษย์ต่างดาว และเป็นผู้รับฟังเรื่องราวต่าง ๆ ที่แต่ละคนสัมผัสมาเท่านั้น ที่เหลือให้ผู้สัมผัสมาเล่าเองก็แล้วกันนะคะ

ภาพวันที่ 2 พฤศจิกายน 2551 ก่อนเดินทางกลับจากเขากะลา มีการบันทึกภาพร่วมกัน ก่อนพากันผจญภัยลงจากเขาด้วยรถแทร็คเตอร์พ่วงท้ายคันเดิม






ในส่วนของพี่สุดใจ ก็คงมีการเล่าเรื่อง และลงข้อมูลให้ทราบในเนื้อหาเพียงเท่านี้

ในส่วนที่แต่ละท่านพบเจอประสบการณ์ด้วยตนเอง ก็คงมีการทยอยนำมาเล่า พร้อมภาพประกอบให้เพื่อน ๆ สมาชิกได้รับฟังกันต่อไปค่ะ

ขออนุโมทนากับทุกท่านนะคะ

<!-- / message --><!-- attachments -->

 

เก้าอี้พับชายเขาเอ๊ยชายหาด ซื้อที่ นครสวรรค์ ครับ หลายร้านกว่าจะครบจำนวน

 

จุดที่ตีกรอบสี่เหลี่ยมห่างจากหน้าองค์พระจากรูปถ่าย
คือจุดเชื่อมต่อเมืองลับแล

 

ลานประมวลพลังหน้ากองบัญชาการมนุษย์ต่างดาว
มีพลังงานลงมามาก จนบังคับร่างกายไม่อยู่

 

พักผ่อนเปลี่ยนอิริยาบทก่อนสวดมนต์ทำวัตรเย็น/เริ่มพิธีสวดมนต์

 

;welcome2

 

ขออภัยครับที่มาช้า แต่มาช้าดีกว่าไม่มานะครับ

กลับมาถึงบ้านแล้วครับ ไม่มีอาการเพลียแต่อย่างใดเลย ก้อรับพลังมาเต็มๆทั้งคืนแล้วนี่ แม่ไม่ได้นอนกันมาทั้งคืนก้อไม่เพลียนะครับ แต่สาเหตุที่มาช้าก้อเพราะสลบไปประมาณ 2-3 ชั่วโมง เพิ่งจะฟื้น จึงได้มาเล่าให้เพื่อนฟังนี่แหละ

จำได้ว่า....เมื่อไปถึง ภารกิจแรกที่ทำกันก้อคือ กิน แล้วก้อไปฟังการขยายระบบจากผู้อาวุโสฯ เสร็จแล้วจึงไปนั่งตามสถานที่ที่กำหนดและเริ่มประมวลพลัง บางคนก้อหัวเราะ บางคนก้อถูกแต่ยุงกัด บางคนก้อปวดหลังจึงเปลี่ยนมาเป็นนอน และบางคนก้อนอนผึ่งพุงพร้อมประสานเสียงกรน ฯ หลังจากการประมวลพลังแล้ว พวกเราบางคนก้อมานั่งที่ปากประตูเมืองลับแล เพื่อชวนไปท่องเที่ยวเมืองลับแลกัน แล้วก้อมานั่งรับพลังมนุษย์ต่างดาวกันต่อที่ลานกองบัญชาการมนุษย์ต่างดาว หลายท่านมีประสบการณ์กันแปลกๆมากมาย ไว้รอเพื่อนๆมาช่วยเล่าประสบการณ์ให้ฟังแล้วกันนะครับ

สำหรับผมจำได้ว่า...(แหม อย่างกับหลายวันแนะ) ในค่ำคืนนี้ ไปเที่ยวเมืองลับแลมา 1 ครัง นั่งรับพลังจากมนุษย์ต่างด่าว 1 ครั้ง ไปเที่ยวชมกองบัญชาการมนุษย์ต่าวดาว 1 ครั้ง และเข้านอนเป็นคนสุดท้ายพร้อมกันกับคุณ ณ เป็นเพราะนำพาคุณ ณ ไปเที่ยวเมืองลับแลและนั่งรับพลังจากมนุษย์ต่างดาว พอลงมาข้างล่าง ทุกคนเข้านอนและพักผ่อนกันหมดแล้ว แต่จะหลับหรือไม่หลับไม่อาจทราบได้ เวลาก้อล่วงเลยมาเกือบตี 5 จึงแยกไปพักผ่อน คุณ ณ ไปพักผ่อนที่ลานดูดาว สำหรับผมไปพักผ่อนที่ศาลา แต่ที่ไม่ได้นอนกันทั้งคืนเหมือนเพื่อนๆ ก้อเพราะหลังจากที่เรารับพลังจากมนุษย์ต่างดาวกันแล้ว เราก้อมานอนรับพลังเสียงกรนจากมนุษย์โลก พลังเสียงกรนนั้นรุนแรงมาก ดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่วทั้งเขากะลา ดูเหมือนว่าผู้อาวุโสจากเขากะลา 1 จะรู้ล่วงหน้า จึงแยกไปนอนที่โรงครัว ซึ่งอยู่ไกลไปอีกนิดหนึ่ง แต่ก้อคงรับรู้ได้ถึงพลังเสียงกรน พลังเสียงกรนที่แรงที่สุดคงต้องยกให้คุณ ufo. 365 รองลงมาได้แก่ อ.นีโม่ของเรา และสุดท้ายเป็นของ อ.ไก่ หายไป 1 พลังเสียงกรนครับคือของพี่เม้าท์ สาเหตุเพราะแกไม่ชิงนอนหลับก่อน แกเลยบ่นว่านอนไม่หลับเพราะได้รับไป 3 พลังเสียง...... ดีนะเนี่ยที่แกไม่ชิงนอนหลับก่อน นี่ถ้าแกชิงนอนหลับก่อนละก้อ...แกจะไม่ได้รับพลังเสียงกรนใดๆเลย แต่พวกเราซิ 4 พลังเสียงกรนเต็มๆ ......เฮ้ย...สงสารก้อแต่ชาวบ้านที่อยู่ด้านล่างนะ ไม่รู้ว่าจะรับรู้ถึงพลังเสียงกรนกันนี้หรือไม่

จึงแซวมาเพื่อทราบ....อิ อิ

 

หลังจากสวดมนต์ทำวัตรเย็นแล้ว ผู้อาวุโสได้ให้สอบถามข้อสงสัย เกี่ยวกับการประมวลพลัง
จากนั้นเมื่อถึงเวลา 9.11 น. เริ่มการประมวลพลัง
ช่วงนี้งดบันทึกภาพโดยเด็ดขาด

มีคลื่นพลังหัวเราะแบบไม่มีเหตุผล หยุดไม่ได้ คือหัวเราะแบบที่เรียกตามภาษาชาวบ้านๆ ว่า หัวเราะกันแบบขี้แตกขี้แตน น้ำมูก น้ำตาไหล เริ่มจาก MOUNTAIN ต่อกันไปถึงคุณศศะ คุณทานะบารมี คุณเปิ้ล คุณdalink คุณ ณ.
จะบังคับให้หยุดหัวเราะก็ไม่ได้ มันอยู่นอกเหนือการบังคับบัญชาจริงๆครับ

ทำให้เห็นได้ว่าขันธ์ห้า ไม่ใช่ของเรา เราบังคับมันไม่ได้

 

สำหรับผม โดนไป 2 คลื่นพลังเต็มๆ
คลื่นพลังที่สอง คือ พลังลมเรอ..เอิก โอก เอ่อ นานประมาณเกือบ 10 นาที จนคุณปิรามิดที่นั่งอยู่ข้างๆ มาสารภาพให้ฟังว่า
เกือบจะหากระโถนไว้ให้ผมอ๊วก ซะแล้ว 555 มีแต่ลมครับ มีแต่ลม ไม่มีอ๊วกแต่ประการใด ถ้าชาวบ้านที่มีเชื้อจีนมาเห็นผมเรอแบบนี้ ก็จะพูดเป็นเสียงเดียวกัน เหล่าเอี๊ยไล้ (เจ้าจะมาทรง)

เมื่อนั่งนานๆ หายหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง หายเรอแบบเจ้าจะมา แล้ว ก็เกิดอาการเมื่อยอย่างแรง ทุกข์เริ่มมากขึ้น ก็ต้องทำให้ทุกข์น้อยลง โดยลุกขึ้นยืน เป็นการยืนที่นานพอสมควรเพื่อบรรเทาทุกข์ให้เหลือน้อยลง

เห็นอาจารย์นีโม่ เดินพุงกลม ..เอ้ย..จงกรม
เสียงพลังกรนยังคงลอยมาเข้าหูอย่างไม่ขาดสาย
ทำให้บรรยากาศไม่เงียบเหงาจนเกินไปนัก

 

ราวๆเที่ยงคืน หลายคนก็ทยอยเข้านอน
แต่พอนอนสักพัก ก็ต้องลุกขึ้นมานั่งต่อคิว รอให้ อ.โม่ ดูดวง
และดูเจ้ากรรมนายเวรให้ จน อ.โม่ ต้องนอนดู เพื่อบรรเทาทุกข์มากจากการนั่ง

คนที่นอนไม่ค่อยจะหลับ ขับตาไม่ลง ก็จะลุกขึ้นมานั่งจับกลุ่มกันคุย บางกลุ่ม จับกลุ่มกันม้วนโรตีสายไหม ที่คุณแตงโม นำมาจากอยุธยา กินกันตอนตีหนึ่งจะจะครับ มีรูปถ่ายไว้เป็นหลักฐาน

 

ที่นอนไม่หลับกระสับกระส่าย ก็ชวนกันลุกมากินโรตีสายไหม

 

;welcome2

 

ยุงเริ่มรุมตอมคุณป้าศจี (คุณป้าเนื้อหอม)
ทำให้พวกเราทนนิ่งดูดายปล่อยให้ยุงมาทำให้คุณป้าเกิดทุกข์ไม่ได้ เลยช่วยกันกางเต๊นท์ ลดทุกข์ให้คุณป้า

 

<TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 23 คน ( เป็นสมาชิก 7 คน และ บุคคลทั่วไป 16 คน ) </TD><TD class=thead width="14%">

[ แนะนำเรื่องเด่น ] ​

</TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>MOUNTAIN*, ceta64, foggy3, juksawat, mooing2546, rescuelp, vena </TD></TR></TBODY></TABLE>

 

พระญาณรักษาเสด็จมาตอนตีสอง จานจุกเลยต้องลุกมานั่งรักษา

 

บรรยากาศ ณ ลานดูดาว หลังเที่ยงคืน

 

;welcome2