ข้อมูลเตรียมพรัอมรับมือสถานการณ์ภัยน้ำท่วม

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย tanakorn_ss, 7 ตุลาคม 2011.

  1. tanakorn_ss

    tanakorn_ss ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    1,792
    ค่าพลัง:
    +5,747
    เอาแค่ให้พ้นทุกข์พ้นโศกประจำวันที่กำลังประสบอยู่นี้ได้ก็พอแล้ว



    ในท่ามกลางสถานการณ์ฉุกเฉิน วิกฤติน้ำท่วมที่ไม่น่าไว้วางใจแบบนี้ ขออนุญาติพาผู้อ่านนำไปสู่ความร่มเย็นทางจิตใจอาจจะพอช่วยผ่อนคลายความเครียดได้บ้างไม่มากก็น้อย


    อัน ความสุขทางธรรม นั้น เป็นความสุขที่สำคัญกว่าความสุขทางโลก แต่ก็เป็นพื้นฐานที่ช่วยให้เกิดความสุขทางโลกด้วย ความสุขทางธรรมแบ่งออกเป็น 2 อย่าง คือ ความสุขที่เกิดจากการทำบุญ และ ความสุขที่เกิดจากความสงบ​


    การทำบุญในทางพุทธศาสนาเรียกว่า บุญกิริยาวัตถุ มี 10 ประการ ดังนี้​


    1. ทานมัย การทำบุญด้วยการให้ทาน เช่น ให้เงิน ทรัพย์สมบัติ ข้าว น้ำ อาหาร เสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย ยารักษาโรค แรงงาน อภัยทาน และธรรมทาน ซึ่งเป็นการให้ที่เหนือกว่าการให้ทั้งปวง การให้เงิน น้ำ ข้าวปลาอาหาร ยารักษาโรค แก่ผู้ประสบภัยน้ำท่วม จึงเป็นการทำบุญด้วยทานมัย​



    ทานนี้ เมื่อทำไปแล้ว พระท่านว่า ไม่มีสูญเปล่าทุกกรณี แม้ไม่ได้รับผลตอบแทนในขณะนั้น หรือชาตินั้น ก็จะได้รับผลตอบแทนในชาติต่อไปๆตามกฎแห่งกรรม​



    2. สีลมัย การทำบุญด้วยการรักษาศีล การรักษาศีลคือ การงดเว้นไม่สร้างเหตุแห่งทุกข์ให้แก่ตนเองและผู้อื่น ศีลมีหลายระดับ เช่น ศีล 5 ศีล 8 ศีล 10 แค่รักษาศีล 5 ให้ครบ พระท่านว่า “ปิดประตูสู่อบายภูมิ” ได้เบ็ดเสร็จ ชีวิตจะมีแต่ความสุข เกิดอีกกี่ชาติก็ไม่มีทางตกนรก​



    3. ภาวนามัย ทำบุญด้วยการภาวนา โดยฝึกอบรมจิตใจให้สงบ ตั้งมั่นเป็นสมาธิ จนกระทั่งเกิดปัญญา รู้ธรรม เห็นธรรม เข้าใจในธรรม ถือว่าได้บุญมากที่สุด​



    4. อปจายนมัย ทำบุญด้วยการประพฤติอ่อนน้อม การอ่อนน้อมถ่อมตน ถือเป็นการทำบุญอย่างหนึ่ง การมีกิริยาที่งดงาม ทำให้ผู้หลักผู้ใหญ่รักเมตตา มีอะไรก็อยากให้ อยากช่วยเหลือสั่งสอน​



    5. เวยยาวัจจมัย ทำบุญด้วยการปรนนิบัติรับใช้ผู้บำเพ็ญภาวนา จะเรียกว่า ไวยาวัจกร ก็ได้ เรียกว่า โยมอุปัฏฐากวัด ก็ได้​



    6. ปัตติทานมัย ทำบุญด้วยการอุทิศส่วนบุญ หรือเฉลี่ยผลบุญที่เราได้กระทำแล้วให้แก่ผู้อื่นที่ยังมีชีวิตและเสียชีวิตไปแล้ว ข้อนี้​



    คนทั่วไปทำกันเป็นปกติ เช่น การทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับผู้มีพระคุณ ทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กับญาติพี่น้องผู้ล่วงลับ​



    7. ปัตตานุโมทนามัย ทำบุญด้วยการยินดีกับการทำความดีของผู้อื่น หรือเข้าไปสนับสนุนให้ความช่วยเหลือด้วย เราก็จะได้บุญด้วย แม้จะเพียงเล็กน้อย ก็ถือว่าได้ร่วมในการทำบุญด้วย และได้ผลบุญไม่ทางตรงก็ทางอ้อม​



    8. ธัมมัสสวนมัย ทำบุญด้วยการฟังธรรม อันมีผลทำให้จิตหลุดพ้นจากกิเลส​



    9. ธัมมเทสนามัย ทำบุญด้วยการสั่งสอน หรือให้ความรู้ทางธรรม ซึ่งในพุทธภาษิตก็มีการสอนไว้ว่า “การให้ธรรมย่อมชนะการให้ทั้งปวง”​



    10. ทิฏฐุชุกัมม์ ทำบุญด้วยการเห็นให้ตรงตามธรรม ไม่เห็นผิดเป็นชอบ​



    สิบ ข้อที่เล่ามาอย่างย่อที่สุด เกือบทุกข้อเป็นสิ่งที่เราสามารถทำได้ในชีวิตประจำวันอยู่แล้ว ไม่ต้องไปถึงขั้นนิพพานหรอก เอาแค่ให้พ้นทุกข์พ้นโศกประจำวันได้ ชีวิตก็จะมีความสุขขึ้นอีกโขเลยทีเดียว

    แต่ถ้าจะเอาให้ถึงพระนิพพานนั้นตามคำสอนของพระอรหันต์สัมมาพุทธเจ้า คือปฏิบัติตัดกิเลสโดยส่วนเดียวคือรากเหง้าแห่งความชั่วและภัยจากวัฏฏสงสารนั้นเอง

    --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
    คลิกร่วมทำบุญต่างๆ กับหลวงตาม้าวัดถ้ำเมืองนะ

    คลิก ร่วมทำบุญกับวัดสะแก และศึกษาคำสอนของหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ

    คลิก ร่วมทำบุญ Online กับวัดท่าซุง หลวงพ่อพระราชพรหมยาน

    ขอเชิญคณะศรัทธาทุกท่าน ร่วมสร้าง พระมหาเจดีย์พิพิธภัณฑ์‏ หลวงตาแตงอ่อน กัลยาณธัมโม
    http://palungjit.org/threads/%E0%...ml#post4918326

    คลิก มหากฐิน สร้างพระนอนใหญ่ที่สุดในโลก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 ตุลาคม 2011
  2. tanakorn_ss

    tanakorn_ss ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    1,792
    ค่าพลัง:
    +5,747
    บัญญัติ 20 ประการ เตรียมบ้านก่อนน้ำท่วม




    [​IMG]

    [​IMG]1. ดูทางน้ำที่จะมาสู่บ้านเรา แล้วจะไปทางไหนได้บ้าง


    ขอให้คิดว่าเราเหมือนกำลังตั้งค่ายคูประตูหอรบอยู่ เราต้องรู้ว่าข้าศึกจะเข้ามาโจมตีเราทางทิศใดได้บ้าง และหากเกิดความพลาดพลั้งขึ้นมา เราจะหนีไปทางไหนได้บ้าง ซึ่งข้าศึกอาจจะเข้ามาตีเราหลายทางก็ได้ และเราก็อาจจะมีทางหนีไปหลายทางก็ได้ บางครั้งข้าศึกไม่ได้มาตีแค่ 2-3 ทาง แต่ทำการ "ล้อม" เราเอาไว้ทุกด้านก็ได้ ทำให้ทางหนีของเราถูกปิดกั้นไว้หมด


    หากเมื่อรู้แนวทางเหล่านั้นแล้ว ก็ขอให้เริ่มวางแผนที่จะ "หยุดน้ำ หยุดข้าศึกที่จะเข้ามาโจมตีเรา" ซึ่งการหยุดยั้งน้ำหรือข้าศึกนั้น มีหลายวิธีที่ต้องจัดการ ไม่ว่าจะเป็นการ "สร้างเขื่อนชั่วคราว" ด้วยกระสอบทราย หรือเอาแผ่นวัสดุใด ๆ มาอุดก็ได้ การปิดกั้นนั้นมีหลายวิธี ซึ่งใช้ความเข้าใจพื้นฐาน บวกกับสอบหาข้อมูล ก็จะพอทราบกันเองได้ครับ


    [​IMG]

    [​IMG]2. กำแพงบ้านไว้กันน้ำได้ แต่ต้องระวังรั้วพัง

    ตามปกติแล้ว รั้วบ้านที่เป็นคอนกรีตหรือก่ออิฐ จะเปรียบเสมือนกำแพงเมืองที่จะกันน้ำไม่ให้เข้ามาในบ้านของเรา แต่เราต้องไม่ลืมว่าน้ำหนักของน้ำที่ขังหรือถาโถมเข้ามากดที่ด้านข้างของ กำแพงรั้วเรา จะทำให้รั้วบ้านของเราเกิดการเอียง หรือแตกร้าว หรือพังลงมากได้ เพราะรั้วบ้านทั่วไป วิศวกรท่านจะไม่ได้ออกแบบไว้ให้รับแรงหรือน้ำหนักที่กระทำด้านข้างได้มากนัก

    ทางป้องกันที่ง่ายที่สุดก็คือ เราหากระสอบทรายมาวางไว้อีกด้านหนึ่งของรั้วบ้านเรา (ในบ้านเรา) วางไว้ติดชิดกับรั้วไปเลย ยามเมื่อรั้วจะเอียงเพราะว่าน้ำที่ท่วมกดน้ำหนักมาอีกด้านหนึ่ง กระสอบทรายก็จะทำหน้าที่ช่วยรับน้ำหนักเอาไว้ ถ่ายแรงจากรั้วมา รั้วก็ยังตั้งตรงอยู่ได้ “กำแพงเมืองของเราก็ไม่แตก หรือล้มครืนลงมา” ครับผม


    [​IMG]


    [​IMG]3. น่าจะมี "ปืน" ไว้สู้ฝน สู้น้ำท่วม จัดการกับ "รูรั่ว"

    บ้านหลายหลังที่มีรูมีรอยแตกเล็ก ๆ ตามผนังหรือช่องหน้าต่าง ตามรอยต่อของผนังกับเสาและคาน หรือแม้แต่ตามรั้วบ้าน ซึ่งบางครั้งเราไม่มีเวลา (หรืองบประมาณ) ที่จะแก้ไขได้ที่ต้นเหตุ จะตามช่างมาซ่อมแซมหรือก็อาจจะไม่ใช่เรื่องง่ายนัก หรือไม่ทันเวลาเสียแล้ว

    ดังนั้น เราก็น่าจะมีวัสดุอุดประสานรอยจำพวก ซิลิโคน หรืออะคริลิค หรือโพลี่ยูริเทน เอาไว้ เพื่ออุดรอยเหล่านี้ ซึ่งเราน่าจะทำได้ด้วยตัวเอง (โดยเฉพาะในจังหวะที่เศรษฐกิจไม่ดี หรืออยากจะฝึกตัวเองเป็นช่างบ้าง) แต่การที่เราจะใช้วัสดุ ประสานที่มีความยืดหยุ่นและอยู่ในหลอดแข็งๆนี้ได้ เราจะต้องมีอุปกรณ์การ "ฉีด" ซึ่งภาษาช่างทั่วไปเขาเรียกกันว่า "ปืน" ซึ่งราคาไม่แพงเลยครับ

    บางครั้ง ท่านอาจจะต้อง "พกปืน" ไว้ในบ้านของท่านสักชุด เพื่อช่วยเหลือตัวเองในการต่อสู้ ป้องกันน้ำไม่ให้ไหลเข้ามาในบ้านของเราครับ

    [​IMG]

    [​IMG]4. อย่าให้ต้นไม้ล้มทับบ้าน ยามน้ำท่วมและพายุมา

    ต้นไม้ทั้งหลายที่อยู่ในบ้านหรือใกล้บ้านเราจะเป็นอันตรายยามมีพายุมา เพราะต้นไม้อาจจะล้ม (โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้นไม้ที่ล้อมจากที่อื่นมาปลูก เพราะต้นไม้เหล่านั้นไม่มี "รากแก้ว" ครับ) หรือกิ่งต้นไม้บางประเภทที่ค่อนข้างเปราะ (เช่น ต้นประดู่กิ่งอ่อน) อาจจะหักลงมาสู่ตัวบ้านเรา ต้องทำการเล็มกิ่งหรือตัดกิ่งบางกิ่งออกไปเสีย

    ยามเมื่อน้ำท่วม ระดับน้ำใต้ดินจะสูงมาก (หรือน้ำท่วมเข้ามาได้จริงๆ) รากของต้นไม้จะแช่น้ำเป็นเวลานาน รากต้นไม้จะเน่าได้ แล้วความสามารถในการยึดเกาะกับดินก็จะน้อยลง (โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้นไม้ใหญ่ที่ไม่มีรากแก้ว) ต้นไม้ก็อาจจะล้มลงได้ ต้องทำการค้ำยันลำต้นเอาไว้ให้ดี ก่อนน้ำจะท่วมครับ

    สิ่งที่น่าคิดอีกอย่างหนึ่งก็คือเรื่องการให้ปุ๋ย ซึ่งตอนที่น้ำท่วมห้ามให้ปุ๋ยต้นไม้ครับ เพราะจะทำให้รากเน่าเร็วขึ้น (ต้นไม้ที่โดนน้ำท่วมก็เหมือนคนป่วย เขาไม่ต้องการอาหารดี ๆ (แต่ย่อยยาก) ครับ ขอให้หายป่วยเสียก่อนค่อยกินอาหารดี ๆ เยอะ ๆ ได้ครับ)


    [​IMG]


    [​IMG] 5. ตรวจสอบถังน้ำใต้ดิน

    บ้านใครมีถังน้ำใต้ดิน ต้องตรวจสอบ "ฝา" ของถังน้ำให้ดี ๆ เพราะเวลาน้ำท่วม ถังน้ำจะอยู่ใต้น้ำด้วย หากฝาของถังน้ำมีระบบป้องกันน้ำเข้าไม่ดี น้ำสกปรกที่ท่วมเข้ามา ก็จะไปปนกับน้ำสะอาดในถังน้ำของเรา ปัญหาเรื่องโรคภัยต่าง ๆ ก็จะตามเข้ามาหาตัวเราโดยทันทีครับ

    หากเราไม่สามารถแก้ปัญหาเรื่องน้ำเล็ดลอดเข้ามาในถังของเราได้ ก็ขอให้ต่อท่อน้ำตรงจากท่อประปาหน้าบ้านเรา เข้ามาที่ตัวบ้านของเราเลย (โดยปกติแล้ว บ้านที่มีถังน้ำใต้ดินจะมีวาล์วหมุนเปิดทางให้น้ำประปาจากหน้าบ้านเรา วิ่งผ่านตรงเข้ามาในบ้านโดยไม่ลงไปที่ถังน้ำใต้ดินได้ ต้องหาวาล์วตัวนี้ให้เจอ แล้วต่อตรงเข้ามาเลยดีกว่า น้ำจะเบาลงหน่อย แต่ก็ยังเป็นน้ำสะอาดครับ)

    [​IMG]


    [​IMG] 6. ตรวจสอบอุปกรณ์ไฟฟ้านอกบ้าน ตัดกระแสไฟเสีย

    ภายนอกบ้านของเราจะมีอุปกรณ์ไฟฟ้าหลายอย่างเช่น ปั๊มน้ำ เครื่องปรับอากาศ หรือแม้กระทั่งไฟสนาม และกริ่งหน้าบ้าน ต้องหาสวิตร์ตัดไฟให้พบว่า จะต้องตัดไฟตรงไหนไม่ให้ไฟฟ้าวิ่งเข้าไปที่อุปกรณ์เหล่านั้นได้ ยามเมื่อน้ำท่วมเข้ามา ต้องทำการตัดไฟตรงนั้นเสีย (แม้กระทั่งยามจะเข้านอน ถ้าไม่แน่ใจว่าน้ำจะท่วมเข้ามาตอนเราหลับอยู่หรือเปล่า ก็ต้องปิดสวิตช์ไฟฟ้าของอุปกรณ์เหล่านั้นเสีย ตื่นมาตอนเช้า หากน้ำยังไม่ท่วม ก็ค่อยเปิดสวิตช์ใหม่อีกครั้งหนึ่งครับ)

    ส่วนการย้ายเครื่องมือย้ายอุปกรณ์เหล่านั้นในตอนนี้ หากแน่ใจว่าน้ำท่วมแน่ และมีช่างมาช่วยย้าย ก็อาจจะย้ายได้ แต่หากไม่มีช่างมาช่วย ก็เป็นเรื่องยากที่จะทำเอง ก็อาจจะต้องยอมให้อุปกรณ์เหล่านั้นแช่น้ำไปก่อนตอนน้ำท่วม

    [​IMG]

    [​IMG] 7. ป้องกัน งู เงี้ยว เขี้ยว ขอ ตะกวด และสัตว์เลื้อยคลานต่าง ๆ

    ยามน้ำท่วม มิใช่เพียงมนุษย์และสัตว์เลี้ยงของเราเท่านั้นที่ต้องหนีน้ำท่วม แต่เหล่าสัตว์ต่าง ๆ ก็ต้องหนีน้ำกันด้วย และการหนี้น้ำท่วมที่ดีที่สุด ก็คือการเข้ามาในบ้านของเรา เพราะบ้านของเราพยายามกันน้ำท่วมอย่างดีที่สุดแล้ว

    ปัญหาก็คือ เหล่าสัตว์เลื้อยคลานทั้งหลาย ที่ทั้งเลื้อยและทั้งคลานเข้ามาในบ้านเรา เป็นสิ่งที่เราไม่ต้อนรับ และอาจเป็นผู้ทำอันตรายเราด้วย ดังนั้นเราต้องมั่นใจว่า "รู" ต่าง ๆ ของบ้านเราจะต้องโดน "อุด" เอาไว้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นรูที่ประตูหน้าต่าง หรือที่ผนังบ้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง "รูจากท่อระบายน้ำ" ที่พื้นบ้านของเรา (เขาชอบมาทางนี้กันครับ)

    บางท่านอาจจะมีการโรย "ปูนขาว" ล้อมรอบบ้านเอาไว้ด้วยก็ได้ (แต่ต้องมั่นใจว่าโรยรอบบ้านจริง ๆ และไม่ถูกน้ำท่วม หรือถูกฝนชะล้างจนหายไปหมดครับ) เพราะปูนขาวจะกันสัตว์เหล่านี้ได้ครับ นอกจากนี้ก็น่าจะเตรียมยาฉีดกันแมลง ติดบ้านไว้ด้วยครับ


    [​IMG]

    [​IMG] 8. เรื่องส้วม ส้วม ส้วม สุขา สุขา

    เป็นเรื่องของความสุขที่เปลี่ยนไปเป็นความทุกข์ทุกครั้งที่เกิดน้ำท่วม โดยเฉพาะอย่างยิ่งระบบส้วมที่เป็นระบบบ่อเกรอะ บ่อซึมแบบเดิม ที่น้ำจากการบำบัดจะต้องซึมออกสู่ดิน แต่พอน้ำท่วม น้ำจากดินภายนอกจะซึมเข้ามาในบ่อ ก็ทำให้บ่อเกรอะเต็มไปด้วยน้ำ ส้วมก็จะเกิดอาการ "อืด และ ราดไม่ลง" หากน้ำจากภายนอกท่วมมาก มีแรงดันมาก ก็อาจจะเกิดอาการ "ระเบิด" ทำให้สิ่งปฏิกูลต่างๆ พุ่งกลับมาที่โถส้วม ความสุขหายไป ความทุกข์ปล่อยออกไม่ได้

    ในกรณีนี้ ต้องยอมรับในสิ่งที่จะเกิดขึ้น ต้องป้องกันไม่ให้สิ่งปฏิกูลทั้งหลายพุ่งกลับออกมาทางโถส้วม ต้องปิดโถส้วมให้ดี หากเป็นโถส้วมนั่งราบที่มีฝาปิด ก็ต้องปิดฝาให้แน่น เอาเชือกผูกเอาไว้ หากเกิดอาการพุ่งขึ้น ก็จะไม่เรี่ยราดทำความสะอาดยาก กรณีนี้ทำเฉพาะโถส้วมชั้นล่างก็พอ เพราะน้ำคงไม่ท่วมถึงชั้นสองครับ (เพราะหากท่วมถึงชั้นสอง เราคงไม่ได้อยู่ในบ้านได้แล้ว)

    กรณีที่เป็นบ่อบำบัดสำเร็จ ซึ่งเขาจะทำงานโดยไม่ต้องมีบ่อเกรอะบ่อซึม ในเวลาปกติเขาจะบำบัดจนเสร็จภายในถังเอง แล้วก็จะระบายน้ำที่บำบัดเสร็จแล้วลงท่อระบายน้ำนอกบ้านของเรา ยามเมื่อน้ำท่วม น้ำจากบ่อบำบัดจะไหลระบายออกไปไม่ได้ เพราะระดับน้ำที่ท่วมอยู่สูงกว่าบ่อบำบัด ซึ่งเป็นการแก้อะไรไม่ได้ ต้องปล่อยไว้อย่างนั้นครับ

    ถังบำบัดสำเร็จบางรุ่นจะมีมอเตอร์อัดอากาศเข้าไป (ซึ่งในบ้านส่วนใหญ่จะไม่ใช้รุ่นนี้) ก็ต้องตรวจดูว่ามอเตอร์อยู่ที่ไหน หากมอเตอร์น่าจะอยู่ในระดับที่น้ำท่วมถึง ก็ต้องตัดกระแสไฟไม่ให้เข้าไปสู่ตัวเครื่องกลนั้นครับ

    ทั้งนี้สิ่งที่ต้องระวังก็คือ "ท่อหายใจ" ที่เป็นท่อระบายอากาศของระบบส้วมของเรา ต้องมั่นใจว่าท่อหายใจนั้นจะต้องอยู่สูงกว่าระดับน้ำที่มีโอกาสท่วม หากท่อหายใจของเราอยู่ระดับต่ำ ก็ต้อง "ต่อท่อ" ให้มีระดับสูงขึ้นให้ได้ จะต่อแบบถาวรก็ได้ (หากมีช่างมาทำ หรือเราทำเป็น) หรือจะต่อแบบท่อไม่ถาวร ก็คือเอาสายยางธรรมดา มาครอบท่อหายใจเดิม แล้วก็ยกให้ปลายท่อนั้นอยู่สูงขึ้นกว่าระดับน้ำที่คาดหมายว่าจะท่วมครับ

    ท่อหายใจนี้จะเป็นอุปกรณ์สำคัญมากในการช่วยระบายความดันภายในระบบส้วมของเรา ไม่ให้สิ่งปฏิกูลมีแรงดันมากเกินไปครับ

    [​IMG]


    [​IMG] 9. ปลั๊กไฟ สวิตช์ไฟ ตรวจสอบและแยกวงจร

    เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญที่สุดเรื่องหนึ่งของบัญญัติ 20 ประการของบทความนี้ เพราะอันตรายที่มองไม่เห็นก็คือเรื่องของ "ไฟฟ้า" ครับ แต่ในขณะเดียวกัน ไฟฟ้าก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิตเสียแล้ว

    หากบ้านของเรามีการแยกวงจรไฟฟ้าไว้ตั้งแต่แรก คือวงจรไฟฟ้านอกบ้าน วงจรไฟฟ้าชั้นล่าง และวงจรไฟฟ้าชั้นบน ก็ต้องปิดวงจรไฟฟ้านอกบ้านเมื่อน้ำท่วมนอกบ้าน หากน้ำสูงขึ้นมาจนเข้าในตัวบ้าน ก็ต้องปิดวงจรไฟฟ้าชั้นล่าง หากน้ำสูงขึ้นถึงชั้นสอง น่าจะหาทางออกจากบ้านเพื่อย้ายไปอยู่ที่อื่นชั่วคราว เพราะสวิตช์หลักของบ้านโดยทั่วไปจะอยู่ที่ชั้นล่างระดับประมาณ 1.8 เมตรจากพื้นห้องครับ

    กรณีที่บ้านไหนโชคดี วงจรไฟฟ้าชั้นล่างแยกวงจรออกมาเป็นระดับปลั๊กด้านล่างและระดับสวิตซ์บน ก็ค่อย ๆ ตัดวงจรปลั๊กชุดล่างก่อนตามระดับน้ำที่ท่วมขึ้นมา

    หากกรณีที่ไม่มีการจัดวงจรเอาไว้อย่างเป็นระบบตามที่กล่าวไว้ข้างต้น เราต้องค่อยๆทำการทดสอบอย่างใจเย็น ๆ ว่าปลั๊กหรือสวิตช์ชุดใดจะมีการตัดวงจรไฟฟ้าจากคัทเอาท์หลักบ้าง แล้วทำโน้ตบันทึกเอาไว้ หากเมื่อน้ำท่วมเมื่อไร ก็จะได้ทราบว่าเราต้องตัดวงจรชุดใดก่อน (ตัดวงจรส่วนที่ถูกน้ำท่วม) อาจจะเป็นเรื่องที่ยุ่งยากหน่อยที่จะตรวจสอบ แต่ก็ต้องใจเย็น ๆ และตั้งใจที่จะตรวจสอบครับ

    ในกรณีที่วงจรบางวงจรที่ควบคุมทั้งปลั๊กหรือสวิตช์ตัวล่างกับปลั๊กหรือ สวิตช์ตัวบน ก็จำเป็นต้องตัดวงจรทั้งหมด ห้ามเสี่ยงโดยเด็ดขาดครับ

    อุปกรณ์ไฟฟ้าต่าง ๆ ที่สามารถขนย้ายได้ในตอนนี้ ก็อาจขนย้ายขึ้นไปไว้ชั้นบนก่อน ยังไม่ต้องใช้ตอนนี้ก็ได้เช่น เตาไฟฟ้า เครื่องปิ้งขนมปัง เครื่องตีไข่ เครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่องชาร์จโทรศัพท์ ฯลฯ ส่วนอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ยังต้องใช้งานอยู่ ก็ต้องเตรียมการขนย้ายขึ้นข้างบนเอาไว้เลย เช่นเครื่องไมโครเวฟ โทรทัศน์ วิทยุ เป็นต้น ส่วนอุปกรณ์ไฟฟ้าขนาดใหญ่ การขนย้ายยุ่งยาก และหาที่วางยาก เช่น ตู้เย็น เครื่องซักผ้า ฯลฯ ก็ต้องวางแผนว่าจะเอาอย่างไรในปัจจุบันและอนาคต หากยังใช้อยู่แล้วยามน้ำท่วมขึ้น จะมีคนช่วยขนหรือไม่ หรือจะทิ้งเอาไว้อย่างนั้น

    เรื่องไฟฟ้าเป็นอันตรายที่มองไม่เห็น และน้ำเป็น "สื่อไฟฟ้า" ด้วย ดังนั้นเรื่องไฟฟ้าในบ้าน จึงเป็นสิ่งแรกที่ต้องมีการตรวจสอบและเตรียมการครับ

    [​IMG]


    [​IMG] 10. ตรวจสอบว่าประตูหน้าต่างแน่นหนาและแข็งแรง

    เพราะว่าประตูบ้านของเรา (ไม่ว่าจะเป็นประตูที่รั้วบ้าน หรือประตูที่ตัวบ้านเรา) และหน้าต่าง เป็นจุดหนึ่งที่ถือว่ามีความอ่อนแอมากที่สุด มีโอกาสที่จะบิด หรือเผยอตัว หรืออาจจะหลุดออกมาทั้งบาน หากมีแรงดันน้ำมาก ๆ ดันเข้ามา

    ดังนั้นเราจึงต้องตรวจสอบความแข็งแรงให้ดี ต้องพยายามที่จะใช้ "กลอน" ช่วยรับน้ำหนักทางด้านข้างด้วย การลงกลอนในบานประตูและหน้าต่างที่ไม่ได้ใช้เป็นปกติธุระ น่าจะเป็นอีกแนวทางหนึ่งที่จะป้องกันน้ำวิ่งเข้ามาที่ตัวบ้านของเราได้ครับ

    หากหนักหนาจริง ๆ ประตูหน้าต่างของเราดูจะอ่อนแอรับแรงดันน้ำไม่ไหวจริง ๆ ก็ต้องเอาไม้มาตีพาดขวางช่วยรับแรง หรือเอาของหนักๆมาวางช่วยดันประตูเอาไว้ (ต้องเป็นประตูด้านที่เราไม่ใช้โดยปกตินะครับ ไม่เช่นนั้นอาจจะมีปัญหาตอนที่เราจะหนีออกจากบ้าน หรือตอนที่คนเขาจะเข้ามาช่วยเราในบ้าน ยามเกิดวิกฤติครับ)


    [​IMG]


    [​IMG]11. เตรียมระบบสื่อสารทุกประเภทเอาไว้ให้พร้อม

    ระบบสื่อสารทุกอย่างที่เรามี ไม่ว่าจะเป็นระบบโทรศัพท์ปกติ หรือโทรศัพท์มือถือ ระบบอินเทอร์เน็ตทั้งมีสายและไร้สาย วิทยุ โทรทัศน์ หรือ อุปกรณ์สื่อสารพิเศษอย่างอื่น (เช่น ระบบดาวเทียม วอร์คกี้ทอร์คกี้ เป็นต้น) เพราะการรับข่าวสาร และการติดตามข่าวสารเรื่องภัยน้ำท่วมที่จะมาถึงตัวเราเป็นเรื่องสำคัญ และไม่น่าจะเกิดความผิดพลาดในทุกวินาที

    และหากน้ำท่วมแล้ว การขอความช่วยเหลือหรือสอบถามข้อมูลเพื่อการช่วยเหลือตัวเองเป็นเรื่องสำคัญ ณ วินาทีวิกฤตินั้นแน่นอน อีกทั้งระบบสื่อสารที่เรามีนั้น มิได้ใช้เพียงการที่เราช่วยตัวเอง แต่อาจจะมีผู้เดือดร้อนคนอื่นที่ต้องการความช่วยเหลือ หรือต้องการคำปรึกษาจากเรา ก็สามารถติดต่อกับเราได้ ต้องคนละไม้คนละมือเสมอ ทุกคนล้วนลำบากทั้งสิ้นครับ

    [​IMG]


    [​IMG] 12. ชาร์จอุปกรณ์ไฟฟ้าทุกอย่างเตรียมพร้อม 24 ชั่วโมง

    อุปกรณ์ไฟฟ้าหลายอย่างมีความจำเป็นยามเกิดภาวะฉุกเฉิน เช่น ไฟฉาย วิทยุ คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ มือถือ หรือแม้กระทั่งกล้องถ่ายภาพ ฯลฯ จะต้องมีการชาร์จไฟไว้ให้เต็มร้อยตลอดเวลา เพราะยามน้ำท่วม ระบบไฟฟ้าทั้งหมดอาจติดขัดครับ

    นอกจากอุปกรณ์ไฟฟ้าจะต้องชาร์จไฟให้เต็มที่แล้ว การใช้อุปกรณ์เหล่านั้นเมื่อไฟฟ้าปกติไม่มา จะต้องประหยัดไฟด้วย เพื่อความมั่นใจว่าอุปกรณ์เหล่านั้นจะทำงานได้เต็มที่ยามฉุกเฉิน อีกทั้งต้องเตรียมอุปกรณ์อื่นเสริมอีกด้วย เช่น ไม้ขีดไฟ เทียนไข เป็นต้น

    [​IMG]

    [​IMG] 13. ย้ายของทุกอย่างให้อยู่ในที่ที่เหมาะสม

    ข้าวของในบ้านของเรา ไม่ใช่เพียงเรื่องของอุปกรณ์ไฟฟ้าเท่านั้นที่เราจะต้องมีการจัดการย้ายให้ อยู่ในที่ที่เหมาะสม แต่หมายถึงทุกสิ่งทุกอย่างที่เราคิดว่ามีความสำคัญ และอาจจะเสียหายได้เมื่อมีน้ำท่วม ตั้งแต่รถยนต์ ถังกาซ เฟอร์นิเจอร์ หนังสือ ของขวัญ รูปภาพ ฯลฯ ขอให้ย้ายไปสู่ที่ที่เหมาะสม ซึ่งที่ที่เหมาะสมนั้นอาจจะอยู่ในตัวบ้านของเรา หรือจะย้ายออกไปเก็บไว้นอกบ้าน สถานที่อื่นที่คิดว่าปลอดภัย

    มีข้อมูลว่า เมื่อน้ำท่วม หลายคนเป็นอันตรายอันเนื่องมาจากการ "ห่วงของ" ต้องลุยน้ำกลับไปกลับมาเพื่อขนของออกจากบ้าน และหลายครั้งที่ขนของออกมาแล้ว แต่ไม่มีที่วาง ก็จำต้องวางไว้ในที่ที่ไม่ปลอดภัย ปรากฏว่าของที่อุตส่าห์ขนออกมาด้วยความเสียดายหรือความผูกพันนั้น ถูกผู้ชั่วร้ายใจทรามขโมยต่อเอาไปอีกด้วย

    แต่ของที่เราจะย้ายนั้น ไม่ได้หมายความว่าเป็นของทุกอย่างไปเลย เลือกเฉพาะที่เราคิดว่าต้องย้ายเท่านั้น ของบางอย่างที่แช่น้ำได้ไม่มีปัญหา ก็ไม่ต้องขนย้ายก็ได้

    [​IMG]


    [​IMG]14. ใช้พลาสติกซึ่งเป็นวัสดุที่ไม่กลัวน้ำให้เป็นประโยชน์

    วัสดุส่วนใหญ่จะกลัวน้ำ หรือไม่สามารถที่จะสู้กับน้ำได้ แต่พลาสติกเป็นวัสดุที่ไม่กลัวน้ำ ดังนั้นอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่เป็นพลาสติก น่าจะต้องมีการเตรียมการเอาไว้ใกล้ตัว ไม่ว่าจะเป็นถังน้ำพลาสติก ท่อพลาสติก กระดานพลาสติก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผ้าหรือแผ่นพลาสติก ที่เราจะเอาไว้ใช้หุ้มอุปกรณ์หรือส่วนต่าง ๆ ของบ้านเรา ตั้งแต่เฟอร์นิเจอร์ หนังสือ ฯลฯ แม้กระทั่งการหุ้มป้องกันตัวเรา หรืออวัยวะบางส่วนของตัวเราครับ

    ขอให้หาซื้อผ้าหรือกระดานพลาสติกเก็บเอาไว้ใกล้มือเรา ยามฉุกเฉิน พลาสติกจะเป็นวัสดุอย่างหนึ่งที่มีประโยชน์มากจนคาดไม่ถึงได้ครับ และที่สำคัญอีกอย่างก็คือ "ห่วงยาง" ครับ

    [​IMG]

    [​IMG]15. เตรียมอาหาร น้ำดื่ม และยาให้พร้อม

    เพราะยามน้ำท่วมแล้ว เราอาจจะต้องติดอยู่ในบ้านของเราก็ได้ สิ่งที่จำเป็นในการดำรงชีพของเราก็คือ "อาหาร" ที่ต้องเตรียมเอาไว้ ทั้งอาหารที่ต้องมีการปรุงด้วยอุปกรณ์ไฟฟ้า (หรือก๊าซ) กับอาหารที่สามารถกินได้เลย โดยไม่ต้องมีการปรุง และต้องเตรียมเรื่อง "น้ำดื่ม" เอาไว้ด้วย เตรียมให้เพียงพอสำหรับทุกคนประมาณ 3 วันครับ

    ยาเป็นสิ่งสำคัญมากอีกอย่างหนึ่งที่เราต้องเตรียมเอาไว้ (ในที่ที่ปลอดภัย) ยาหลัก ๆ ก็คือ ยาแก้ปวด ยากแก้ไข้ ยาแก้ท้องเสีย ยารักษาโรคน้ำกัดเท้า ยาล้างแผล ยาแก้แพ้ ยากันแมลงและยาของโรคประจำตัวของทุกคน

    มีผู้หวังดีแนะนำบอกต่อว่า อย่าสะสม "สุรา" เอาไว้ตอนน้ำท่วม เพราะน้ำท่วมนาน ๆ อาจจะมีคนกลุ้มใจ แล้วใช้สุราแก้ความกลุ้มใจ จะยิ่งทำให้เกิดปัญหาด้านความปลอดภัยมากขึ้น ส่วนเหล่าขวดสุราที่เก็บสะสมเอาไว้ ไม่ต้องขนไปไกลก็ได้ เพราะขวดสุราเหล่านั้น เขาสามารถแช่น้ำได้ ไม่มีปัญหาประการใด

    [​IMG]

    [​IMG] 16. บ้านชั้นเดียว ต้องตรวจสอบหลังคาด้วย

    สำหรับบ้าน 2 ชั้น หลังคาบ้านจะมีผลมากยามเมื่อฝนตกหนัก ๆ ในกรณีน้ำท่วมนั้นหลังคาไม่ค่อยมีผลมากเท่าไร เพราะน้ำท่วมจากข้างล่างขึ้นไป หากท่วมถึงหลังคาชั้นสอง เราก็น่าจะย้ายไปอยู่ที่อื่นก่อนหน้านั้นแล้ว

    แต่กรณีที่เป็นบ้านชั้นเดียว น้ำอาจจะท่วมชั้นล่างของบ้านอย่างรวดเร็ว หลังคาหรือส่วนของหลังคาจึงเป็นพื้นที่หลบภัยได้ชั่วคราวพื้นที่หนึ่ง เราจึงต้องตรวจสอบทางหนีทีไล่ของเรา กรณีที่เราต้องขึ้นไปหนีภัยบนหลังคา ซึ่งเราอาจจะขึ้นไปทางฝ้าเพดานของเรา (กรุณาอย่าลืมตัดวงจรไฟฟ้าที่บ้านทั้งหมดก่อนจะขึ้นไปบนฝ้าเพดานสู่หลังคานะ ครับ)

    [​IMG]

    [​IMG] 17. ระวังโจร ระวังมาร ระวังผู้ชั่วร้าย

    เป็นความเปลี่ยนแปลงที่น่าสลดใจที่สังคมน่าอยู่และเห็นอกเห็นใจของเมืองไทย เรา ได้ถูกลัทธิวัตถุนิยมเข้าครอบงำไปหลายส่วนแล้ว ดังนั้นเราจึงได้ข่าวเนือง ๆ ว่า มีผู้ชั่วร้ายที่อยากได้ประโยชน์ส่วนตนและพรรคพวก เข้ามารังแกจี้ปล้นประชาชนที่กำลังลำบากทุกข์เข็ญ

    ยามน้ำท่วม เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังยุ่งกับภารกิจอย่างอื่น เหล่าคนชั่วก็จะออกอาละวาดรังแกผู้ที่กำลังเดือดร้อน มีการขโมย จี้ปล้น ฉกชิงวิ่งราว ให้เราได้ทราบอยู่เป็นประจำ และมีความเป็นไปได้ว่าหนึ่งในอนาคตนั้นอาจจะเป็นตัวเราและบ้านของเรา

    ดังนั้น การเตรียมการป้องกันโจร จึงเป็นอีกประการหนึ่งที่เราต้องเตรียมการ อย่าเก็บของมีค่าเอาไว้ในบ้านของเรา เอาไปฝากที่อื่นก่อนดีกว่า เงินทองไม่จำเป็นที่ต้องพกมากมาย และคอยเฝ้าสังเกตบุคคลที่น่าสงสัย การส่งเสียงดัง ๆ ในบางครั้ง จะเป็นอาวุธป้องกันตัวเราได้

    [​IMG]

    [​IMG] 18. เพื่อนบ้าน ต้องร่วมด้วยช่วยกัน

    ในกรณีนี้ไม่ได้หมายถึงเรื่องของการต่อสู้ป้องกันโจรประการเดียว แต่หมายถึงในทุก ๆ กรณี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่เรา "ขอความช่วยเหลือ" จากเพื่อนบ้าน แต่หมายถึงการที่ "เราจะช่วยเหลือเพื่อนบ้าน" ด้วย รวม ๆ กันก็หมายถึง "การสร้างชุมชนเข้มแข็ง" เพราะความรักที่ยั่งยืนจะเกิดขึ้นได้เสมอยามที่คนเรามีความลำบากร่วมกัน

    อย่าต่อสู้หรือป้องกันภัยทั้งหลายคนเดียว ต้องสื่อสารกัน ต้องจับมือกัน และวางแนวทางการป้องกัน การต่อสู้ที่เป็นกลุ่มใหญ่ขึ้น แล้วเราจะมีโอกาส หากตอนนี้เหล่าเพื่อนบ้านยังไม่มีการเคลื่อนไหวร่วมกัน เราก็อาจจะเป็นแกนตัวเล็ก ๆ ที่จะเป็นผู้เริ่มต้นได้ครับ อย่าอาย อย่ากลัวใครเขาหมั่นไส้ครับ หากเราเป็นคนดี มีจิตใจดี ทุกคนจะเข้าใจครับ

    [​IMG]

    [​IMG]19. เตรียมทางหนีทีไล่เพื่อออกจากบ้าน

    ดังที่กล่าวไว้ในตอนต้นว่า การป้องกันน้ำท่วมก็เหมือนการป้องกันเมืองจากการโจมตีของข้าศึก ซึ่งเราอาจจะป้องกันเอาไว้ได้หรือป้องกันไม่ไหวก็ได้ หากถึงที่สุดแล้ว เราไม่มีทางต่อสู้ได้แน่ ๆ พ่ายแพ้แล้ว การเตรียม "ทางหนี" เป็นเรื่องที่จำเป็น หากเราเตรียมทางหนีเอาไว้แต่แรก เราก็สามารถหนีได้ หนีทัน เกิดความเสียหายน้อยลง

    ทางหนีจากกรณีน้ำท่วมบ้าน อย่าคิดเพียงทางหนีออกจากบ้าน แต่ต้องคิดให้จบว่าหนีออกไปแล้ว จะหนีด้วยอะไร มีเรือหรือห่วงยางหรือไม่ มีเชือกสาวตัวเองหรือไม่ จะพกอะไรติดตัวไปบ้าง (ที่สามารถพกพาแบกหามไปได้) และจะมุ่งหน้าไปทางทิศใด มุ่งหน้าไปไหน และจะไปหยุดที่ใด พักที่ใด กับใคร ทุกอย่างต้องคิดเป็นกระบวนการ และคิดให้จบวงจรไว้แต่แรกครับ

    [​IMG]

    [​IMG]20. ตั้งจิตให้มั่น ตอนนี้ "สติ" สำคัญที่สุด

    อย่าเสียเวลากับการเกรี้ยวโกรธ อย่าเพิ่งด่าอะไรใคร อย่าโทษฟ้าดิน ยังมีเวลาและโอกาสอีกมากมายที่จะทำเช่นนั้น เวลานี้เป็นเวลาที่เราต้องตั้งสติ และคิด และเตรียมการอย่างเป็นระบบ เราต้องรับรู้ข่าวสารต่าง ๆ อย่างทันต่อเหตุการณ์จากคนที่เชื่อถือได้ (ระวังคำพูดนักการเมืองนิดนะครับ) ต้องฟังวิทยุ หรือแม้แต่ติดตามทางอินเทอร์เน็ต (เช่น thaiflood.com หรือ flood.gistda.or.th เป็นต้น)


    [​IMG]

    ค่อย ๆ กลับไปอ่านตั้งแต่ข้อที่ 1 ถึงข้อที่ 19 แล้วอาจจะเพิ่มข้ออื่น ๆ ที่เราคิดออกเข้าไปอีกได้ เมื่ออ่านแล้วก็ตรวจสอบ และลงมือทำทันที.... ตอนนี้ "สติ" สำคัญที่สุด...

    ที่มา:���ҷ��� ������Ѻ��� ������ҹ��͹ ��ӷ���
     
  3. tanakorn_ss

    tanakorn_ss ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    1,792
    ค่าพลัง:
    +5,747
    [​IMG]


    เสื้อชูชีพทำเองง่าย ๆ
    เตรียมรับมือภัยน้ำท่วม




    ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก เสื้อชูชีพไทยสแครป, เฟซบุ๊ก คุณตัน ภาสกรนที , tomei.exteen.com , tomei.exteen.com

    นอกจากสิ่งของช่วยเหลือมากมายที่ "น้ำใจไทย" หลั่งไหลบริจาคมามากมายนั้น ในสถานการณ์น้ำท่วมเช่นนี้ "เสื้อชูชีพ" ถือเป็นอุปกรณ์ที่มีประโยชน์อย่างมากในสถานการณ์ฉุกเฉินจากอุทกภัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ว่ายน้ำไม่เป็นด้วยแล้ว อย่างน้อย เสื้อชูชีพ ก็จะช่วยลอยตัวไม่ให้ต้องจมน้ำเสียชีวิต

    ดังนั้น ใครที่มีบ้าน หรือญาติพี่น้องอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย มาเตรียมรับมือน้ำท่วมด้วยการทำเสื้อชูชีพไว้ใช้เอง หรืออาจจะทำไปช่วยชาวบ้านในพื้นที่ประสบภัย วันนี้เรามีวิธีการทำเสื้อชูชีพง่าย ๆ จากแนวคิดของคุณประเสริฐ มหคุณวรรณ จากเสื้อชูชีพไทยสแครป และไอเดียดี ๆ ในการทำเสื้อชูชีพ ของคุณตัน ภาสกรนที รวมทั้งวิธีทำเสื้อชูชีพด้วยกางเกงยีนส์ และถุงเท้าสำหรับลุยน้ำ จากคุณ Tomei มาบอกต่อกัน


    วิธีทำเสื้อชูชีพแบบง่าย ๆ โดยคุณ tomei

    วิธีทำเสื้อชูชีพแบบของคุณ tomei นี้ คุณ tomei เห็นมาจากสารคดีต่างประเทศเรื่องหนึ่ง ซึ่งทดลองประดิษฐ์แล้วนำไปลอยน้ำได้ผลดีทีเดียว จึงนำมาเผยแพร่ต่อค่ะ วิธีทำก็คือ

    [​IMG] อันดับแรก เตรียมกางเกงขายาว 1 ตัว เป็นไปได้ขอเป็นกางเกงยีนส์ เอาแบบไม่มีรู ไม่มีรอยขาดเข่า รูดซิบให้เรียบร้อย

    [​IMG]


    [​IMG] จากนั้น มัดขากางเกงเข้าด้วยกัน

    [​IMG]


    [​IMG] สวมหัว ให้ขอบกางเกงอยู่ด้านหน้า

    [​IMG]

    [​IMG]แล้วก็ตีโป่งเอาลมเข้าไป

    [​IMG]


    [​IMG] ลม จะไหลเข้าไปตามขากางเกงแล้วโอบคอเราไว้ ดันให้เราเงยหน้าขึ้น ให้เราจับขอบกางเกงกดลงในน้ำให้มั่น (ถ้าใครเคยนุ่งผ้าถุงตีโป่ง ก็จะรู้ว่าลมในผ้าจะออกไม่เร็วนัก เพราะน้ำจะทำให้ใยผ้าขยายใหญ่ขึ้น)

    วิธี นี้ถ้าตกเรือ เรือจม โป๊ะล่ม ก็ถอดกางเกงตัวเองออกมาใช้ได้ หรือสำหรับคนที่นอนอยู่ในพื้นที่น้ำกำลังขึ้นสูง กลัวว่าจะถูกน้ำพัดไปตอนนอน ก็สามารถผูกไว้ที่คอตอนนอนก็ได้ค่ะ


    วิธีทำถุงเท้าลุยน้ำ โดย คุณ tomei


    [​IMG]


    นอกจากเสื้อชูชีพแล้ว ถุงเท้า หรือรองเท้าลุยน้ำก็เป็นสิ่งจำเป็นในยามนี้ค่ะ เพื่อป้องกันโรคน้ำกัดเท้า ฮ่องกงฟุต หรือพลาดไปเหยียบเศษอะไรที่ลอยมากับน้ำเข้า บางคนเลือกใส่รองเท้าบุท แต่ถ้าน้ำท่วมสูง น้ำก็เข้ารองเท้าอยู่ดี เพราะฉะนั้น ลองมาประดิษฐ์ถุงเท้าลุยน้ำแบบง่าย ๆ ตามสไตล์ของคุณ tomei เพื่อป้องกันเบื้องต้นกันดีกว่า


    [​IMG]


    อุปกรณ์


    [​IMG]


    [​IMG] ถุงพลาสติก (จำนวนแล้วแต่ความสูงของระดับน้ำแถวบ้าน)
    [​IMG] เทปพันลัง (สีน้ำตาล หรือสีใส)
    [​IMG] กรรไกร
    [​IMG] ยางยืด

    วิธีทำ

    [​IMG] 1.ตัดหูถุงออก จากนั้นเหลื่อมถุงเล็กน้อย แล้วติดเทป ใครติดไม่เก่ง เว้นเป็นท่อน ๆ ก็ได้ค่ะ ไม่ต้องคิดมาก ติดให้รอบแบบที่ไม่น่าจะมีรูให้น้ำเข้าก็พอ


    [​IMG]



    [​IMG] 2.ทำช่องให้ขาสอดเข้าไป ไม่ต้องตัดหมดนะคะ


    [​IMG]


    ทดลองสวมสักนิดว่าพอดีไหม (ถ้าคนขายาวต้องต่อกันสักสามถุงกำลังเหมาะ) หากไม่มั่นใจว่าสก็อตเทปจะปิดอยู่ ก็ติดเพิ่มอีกชั้นก็ได้ค่ะ


    [​IMG]


    [​IMG] 3.จากนั้นเอายางยืดรัดมาพันให้พอดีขา แล้วลองเดินเล่นในบ้านดู ไม่ต้องรัดแน่นมาก (บ้านบางคนไม่มียางรัด ไม่อยากซื้อ หรือออกไปซื้อไม่ได้ ก็เลาะจากกางเกงที่ไม่ใช้แล้วก็ได้ค่ะ)


    [​IMG]


    [​IMG] 4.จากนั้นม้วนเก็บ แล้วแปะเทปสองเส้นตรงข้ามกัน จะหน้ากับหลัง หรือซ้ายกับขวาก็ได้ แค่นั้นพอ ไม่ต้องแปะรอบ

    [​IMG]


    เท่านี้ก็เสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ


    [​IMG]


    ปล.สำหรบ คนที่เข้าเฝือก แต่อยากอาบน้ำในท่าสบายๆ ก็ใช้สวมธรรมดาค่ะ แต่ถ้าต้องการใส่ลุยน้ำ ก็ใส่รองเท้าหุ้มส้นสวมไว้ด้านนอก ( เอาถุงนี้ใช้แทนถุงเท้า ) ถ้ากลัวว่าถุงจะขาดง่าย ก็เอาถุงเท้าใส่ทับมันอีกชั้น ( ถุงน่องก็ได้ ) เท่านี้ ขาและเท้างาม ๆ ของคุณก็จะปลอดภัยแล้วล่ะ


    วิธีทำเสื้อชูชีพ by คุณประเสริฐ มหคุณวรรณ


    ขั้นตอนที่ 1 :

    [​IMG]

    ขั้นตอนที่ 2 :

    [​IMG]

    ขั้นตอนที่ 3 :

    [​IMG]
    ขั้นตอนที่ 4 :


    [​IMG]

    ขั้นตอนที่ 5 :

    [​IMG]

    ขั้นตอนที่ 6 :
    [​IMG]

    ของจริงเป็นไง ?

    [​IMG]
    การทดสอบ

    [​IMG]

    ที่มา:
    ����ͪ٪վ DIY �Ըշ������ͪ٪վ ����� �ҤҶ١
     
  4. tanakorn_ss

    tanakorn_ss ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    1,792
    ค่าพลัง:
    +5,747
    ถุงยังชีพควรมีอะไรบ้าง

    [​IMG]

    สำหรับสิ่งของจำเป็นที่ควรมีใน "ถุงยังชีพ" ประกอบด้วย

    [​IMG] 1. อาหารแห้ง อาหารกระป๋อง พร้อมที่เปิดกระป๋อง เช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ปลากระป๋อง ผักกาดดองกระป๋อง ปลาราดพริก น้ำพริกกระปุก เนื้อเค็ม ไข่เค็ม หมูหยอง หมูแผ่น ฯลฯ ในปริมาณที่เพียงพอต่อการบริโภคไม่น้อยกว่า 3 วัน

    [​IMG] 2. ข้าวหอมมะลิกระป๋อง และข้าวสาร หรือหากเดินทางไปแจกด้วยตนเอง อาจซื้อข้าวเหนียวนึ่งกับเนื้อหรือหมูทอดใส่ถุงเพราะไม่บูดง่าย

    [​IMG] 3. น้ำดื่ม เครื่องดื่มแพ็คกล่อง และขนมปังกรอบ ขนมถุงต่าง ๆ ที่เด็กชอบ นมถั่วเหลืองและน้ำผลไม้ สำหรับถวายพระฉันหลังเพล

    [​IMG] 4. นมผง และขวดนมสำหรับเด็กเล็ก พร้อมด้วยกระติกน้ำร้อนขนาดเล็ก ชนิดเสียบไฟได้

    [​IMG] 5. กระบอกไฟฉายพร้อมถ่าน ควรมีถ่านสำรองด้วยหลาย ๆ ชุด เทียนไข และไฟแช็ค

    [​IMG] 6. ชุดปฐมพยาบาล และยาสามัญประจำบ้าน ยาแก้น้ำกัดเท้า ยาทาแผลสด ยาดม ยาหม่อง ยาแก้ไข้แก้หวัด ยาแก้ไอ เจ็บคอ เกลือแร่ซอง ยาแก้ท้องเสีย โลชั่นกันยุง ยาแก้คัน และยารักษาเชื้อรา-น้ำกัดเท้า

    [​IMG] 7. กระดาษทิชชู และกระดาษชำระแบบเปียก ใช้สำหรับการชำระล้างเพื่อสุขอนามัย

    [​IMG] 8. ถุงดำสำหรับใส่ขยะ พร้อมเชือกฟางหรือหนังยาง สำหรับมัดปากถุง

    [​IMG] 9. ผ้าอนามัย และยาคุมสำหรับผู้หญิง ถุงยางอนามัยสำหรับผู้ชาย ผ้าอ้อมสำเร็จรูปสำหรับเด็กเล็กและคนแก่ กระโถน ถุงก๊อบแก๊บพร้อมที่นั่งถ่ายแบบของคนป่วย

    [​IMG] 10. เสื้อชูชีพ จำเป็นมากสำหรับคนแก่ คนป่วย และเด็ก ที่ควรมีไว้ประจำตัว

    [​IMG] 11. รองเท้าแตะยาง เสื้อกันฝน หมวกกันแดด ร่ม เสื้อยืด สบู่ แปรงสีฟัน ยาสีฟัน ผ้าขาวม้า ผ้าถุง กางเกงในกระดาษ หน้ากากกันฝุ่น

    [​IMG] 12. นกหวีด เพื่อส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือ

    [​IMG] 13. เชือกไนลอนเส้นยาว ๆ สำหรับผูกของ ตากผ้า ฯลฯ

    [​IMG] 14. กระจกเล็ก ๆ เอาไว้สะท้อนแสงขอความช่วยเหลือ

    [​IMG] 15. แผ่นพลาสติกและเทปกาว เพื่อใช้ในการทำที่หลบภัยภายในที่พัก


    ทั้ง หมดนี้ เป็นรายการสิ่งของจำเป็นเบื้องต้น ซึ่งท่านที่ต้องการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมสามารถจัดเตรียมและนำไปมอบ ให้ได้ด้วยตนเอง หรือผ่านหน่วยงานต่าง ๆ ที่เปิดรับได้ หรือ สำหรับคนกรุงเทพฯ และปริมณฑล ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงจะถูกน้ำท่วม ก็สามารถจัดเตรียมสิ่งของเหล่านี้ไว้ล่วงหน้าก่อนก็มีประโยชน์ไม่น้อย

    ที่มาของข้อมูล:
    ����ͪ٪վ DIY �Ըշ������ͪ٪վ ����� �ҤҶ١
     
  5. tanakorn_ss

    tanakorn_ss ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    1,792
    ค่าพลัง:
    +5,747
    ด่วน!น้ำทะลักท่วมนิคมฯบางปะอินแล้ว

    นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน ยังมีน้ำไหลเข้าท่วมต่อเนื่อง ล่าสุด ระดับน้ำสูงกว่า 80 ซ.ม. แล้ว เจ้าหน้าที่เตือนอพยพประชาชน

    15 ต.ค.54 สถานการณ์ที่ นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน หลังจากเมื่อวานมีร่องรอยความเสียหาย ประมาณ 20 เมตร บริเวณคันกั้นน้ำฝั่งตะวันออกทำให้มีน้ำไหลทะลักเข้ามา ทางเจ้าหน้าที่ของนิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน และทหารก็ระดมกำลังอุดรอยรั่วเหลือประมาณ 6 เมตร แต่เนื่องจาก กระแสน้ำที่ไหลแรงทำให้ไม่สามารถอุดรอยรั่วได้ทั้งหมด ขณะนี้ มีระดับน้ำสูงประมาณ 80 เซนติเมตรแล้ว ทางนิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน ได้สั่งให้ถอนกำลังบางส่วน และรถที่นำไปซ่อมรอยรั่ว รวมทั้งแจ้งเตือนให้อพยพประชาชน ออกจากพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน



    ด้านผู้บริหารนิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน ยืนยันว่า ขณะนี้ น้ำได้ทะลัก เข้าท่วมในนิคมอุสาหกรรมอย่างรุนแรงแล้ว หลังจากที่ได้มีความพยายามต่อสู้กับปัญหานี้มาตั้งแต่เช้ามืดเมื่อวานนี้ และทางการได้สั่งมีการอยพยพ ออกจากนิคมเป็นการด่วนแล้ว คาดว่า ความเสียหายจะมีมูลค่ามหาศาล เพราะนิคมแห่งนี้เป็นที่ตั้งของ โรงงานอุตสาหกรรมไฮเทค ระดับโลกหลายแห่ง เช่น Western Digital ของสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นโรงงานผลิต Hard Disk ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในโลก เฉพาะโรงงานนี้แห่งเดียว ก็มีมูลค่าการลงทุนนับหมื่นล้านบาท


    --------------------------------------------------------------------------

    เร่งเสริมพนังกั้นน้ำเมืองเอกป้องน้ำทะลักท่วม

    เร่งเสริมพนังกั้นน้ำเมืองเอก หลักหก ป้องน้ำทะลักท่วมพื้นที่

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณพนังกั้นน้ำเมืองเอก หลักหก จ.ปทุมธานี เจ้าหน้าที่ของกรุงเทพมหานคร (กทม.) ได้เร่งเสริมความสูงของกระสอบทรายตามสั่งของนายกรัฐมนตรีที่ลงพื้นที่ตรวจ น้ำท่วมวานนี้ (14 ต.ค.) ให้เพิ่มขึ้นจากเดิมที่สูง 1.80 ม. อีก 50 ซม. ซึ่งขณะนี้คืบหน้าไปแล้ว 70 % ส่วนระดับน้ำวัดจากบริเวณเชิงกลางสะพานเข้าหมู่บ้านเมืองเอก ณ เวลา 14.05 น. พบว่าสูงกว่าระดับผิวถนนเชิงสะพานประมาณ 45 ซม. ลดจากเดิม 4 ซม. โดยในจุดนี้มีเจ้าหน้าที่ทหารดูแลอยู่

    ขณะที่ บริเวณแนวกั้นน้ำประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ท้ายตลาดรังสิต อ.ธัญบุรี มีอาสาสมัครเข้ามาร่วมตักกระสอบทราบจำนวนมาก ส่วนถนนโดยรอบมีการทำแนวกระสอบทรายป้องกันน้ำท่วมทะลัง และพบว่ามีน้ำซึมมาตามแนวกระสอบทราย ซึ่งในจุดนี้มีน้ำท่วมประมาณข้อเท้า

    แต่หากประตูนี้ไม่สามารถกั้นน้ำได้น้ำจะเข้าท่วมเส้นรังสิตนครนายกและดอนเมืองทันทีและคงเข้าเขตกทมแล้ว ยิ่งช่วงนี้เป็นช่วงน้ำทะเลหนุนกับน้ำที่ไหลมาจากการระบายน้ำบวกเข้าน่าจะทำให้แรงดันน้ำมีกำลังมากขึ้นซึ่งต้องน่าติดตามข่าวอย่างไกล้ชิดในช่วง15-18 ต.ค.นี้

    ด้วยบารมีธรรมแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาพุทธเจ้าขอให้ทุกอย่างรอดพ้นช่วงวิกฤตินี้ไปด้วยดีเถิดและให้คนไทยมีสติและนำธรรมกลับคืนมาดังเดิม
     
  6. tanakorn_ss

    tanakorn_ss ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    1,792
    ค่าพลัง:
    +5,747
    [​IMG]



    พลังสำคัญ

    พลังสำคัญประการหนึ่ง ที่จะช่วยให้สามารถหนีพ้นมือแห่งกรรมที่ไม่ดีที่ติดตามตะครุปได้ และเป็นพลังที่จะสามารถทำให้เกิดขึ้นได้ไม่ยาก คือการระลึกนึกถึงคุณพระรัตนไตร คือพระพุทธโธ ธัมโม สังโฆ นึกไว้ให้คุ้นเคยเป็นอ้นหนึ่งอันเดียวกันกับใจ

    สิ่งใดที่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันก็หมายถึงความว่าจะไม่อาจแยกจากกันได้เลยไม่ว่าเวลาใดก็ตาม

    มีพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์อยู่ในใจ ทุกลมหายใจเข้าออก ถ้าไม่หมดอายุโรคภัยไขเจ็บหรืออุบัติเหตุแม้ร้ายแรงเพียงไร ก็จะไม่หวั่นไหว ไม่หวาดสะดุ้ง และจะไม่สามารถทำลายชีวิตได้ ถ้าหมดอายุก็จะได้ไปสู่สุคติ

    การภาวนาระลึกถึงคุณพระรัตนตรัย ไม่ใช่งานหนัก ไม่ใช่งานยาก แต่มีคุณมหาศาลเกินกว่ามีผู้ใดบอกได้ถูก ผู้ใดทำผู้นั้นจะได้เข้าใจด้วยตนเอง จึงขอให้ทำเพื่อหนีผลแห่งกรรมที่ไม่ดีทั้งหลายที่ไม่อาจล่วงรู้เห็นได้ ว่ากำลังจะเกิดแก่ชีวิตในวินาทีใด แล้วร้ายแรงแค่ใหน เช่นที่ได้เกิดขึ้นให้เห็นอยู่แล้วทุกวันนี้ ความหวาดกลัวที่แม้เกิดขึ้นจักหายสิ้นไป ความคิดถึงองค์สมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธุเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ เป็นสิริมงคลสูงสุดแก่จิตใจ สงบดับความวุ่นวายทั้งปวงไม่ว่าจะกำลังร้อนด้วยความคิดใด เป็นความเย็นให้เกิดขึ้นแทนที่ได้ ไม่พึงปฏิเสธความจริงอันประเสริฐอันเป็นมงคลนี้

    [​IMG]


    --------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
    คลิกร่วมทำบุญต่างๆ กับหลวงตาม้าวัดถ้ำเมืองนะ

    คลิก ร่วมทำบุญกับวัดสะแก และศึกษาคำสอนของหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ

    คลิก ร่วมทำบุญ Online กับวัดท่าซุง หลวงพ่อพระราชพรหมยาน

    ขอเชิญคณะศรัทธาทุกท่าน ร่วมสร้าง พระมหาเจดีย์พิพิธภัณฑ์‏ หลวงตาแตงอ่อน กัลยาณธัมโม
    http://palungjit.org/threads/%E0%...ml#post4918326

    คลิก มหากฐิน สร้างพระนอนใหญ่ที่สุดในโลก

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 ตุลาคม 2011
  7. tanakorn_ss

    tanakorn_ss ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    1,792
    ค่าพลัง:
    +5,747

    ภาพสถานการณ์ทั่วไป
    ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ ตลาดรังสิต


    วันนี้ได้มีโอกาศไปร่วมด้วยช่วยกันบรรจุทรายใส่กรอบเพื่อนำให้เจ้าหน้าไปทำแนวกั้ำนน้ำ จึงได้บันทึกภาพมาให้เห็นถึงความรู้รัก สมัครสมานสามัคคี ระหว่างชุมชน หน่วยงานองค์กร และเจ้าหน้าที่ ซึ่งทุกคนต่างร่วมแรงร่วมใจกันทำเต็มกำลังความสามารถของตน บางท่านก็มาเปิดโรงทาน บริจาคกับข้าวปลาหาร เครื่องดื่ม ต่างๆ น้ำใจต่างหลั่งใหลเข้ามาอย่างไ่ม่ขาดสาย ถือว่าเป็นภาพที่ประทับใจ ถึงสถานการณ์มันจะเลวร้ายแ่ค่ใหน แต่ขอเพียงคนไทยเราไม่ทิ้งกัน รักกันมีน้ำจิตน้ำใจต่อกัน สามัคคีกัน นี้คือสิ่งสำัคัญอย่างมาก

    ประตูระบายน้ำจุฬาลงกรณ์ ตลาดรังสิต ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ระดับน้ำบริเวณประตูระบายน้ำเพิ่มสูงขึ้นจนปริ่มแนวคันกั้นเดิม เจ้าหน้าที่เทศบาลนครรังสิต ต้องประกาศรวมกำลังชาวบ้านในพื้นที่ เร่งช่วยกันกรอกกระสอบทรายเพื่อนำไปเสริมแนวคันกั้นบริเวณรอบประตูระบายน้ำ จุฬาลงกรณ์ อย่างเร่งด่วน เสริมสูงเพิ่มอีกประมาณ 30-50 ซม. เพื่อจะได้สามารถรับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้น ไม่ให้เข้าท่วมเมืองเศรษฐกิจ ย่านรังสิต นอกจากนี้ก็นำกระสอบทรายไปเสริมบริเวณแนวคันกั้นถนนเลียบคลองรังสิตประยูร ศักดิ์ ในเขตพื้นที่ ต.หลักหก ต.บ้านใหม่ และต.บางพูน เป็นจุดกั้นประตูระบายน้ำคลองเปรมประชากร ทั้งฝั่งเหนือและฝั่งใต้ ซึ่งระดับน้ำปริ่ม บริเวณถนน และบางจุดน้ำเริ่มล้นถนนเส้นทางซ่อมสร้างเพิ่มอีก ทั้งชาวบ้านและเจ้าหน้าที่จึงต้องรวมแรงกำลังช่วยกันกรอกกระสอบทรายในขณะนี้ และยังได้ขอประชาสัมพันธ์ชาวบ้านให้ออกมาช่วยกันกรอกกระสอบทรายบริเวณประตู น้ำจุฬาลงกรณ์ และยังมีหน่วยเจ้าหน้าที่ทหารมาช่วยเสริมแนวกั้นให้มีความสูงเพิ่มขึ้นอีก


    [​IMG]

    [​IMG]


    [​IMG]

    ภาพ: เจ้าหน้าเร่งสูบน้ำออกจากคลองน้ำที่มาจากคลองรังสิต ออกสู่แม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อรักษาระดับน้ำให้คงที่ไม่ให้ส่งผลให้ไปท่วมตลาดรังสิตซึ่งเป็นศูนย์เศรษฐกิจที่สำคัญมาก

    [​IMG]

    [​IMG]

    ภาพ: เจ้าหน้าทหารระดมมือช่วยกันอย่างเต็มกำลังความสามารถโดยไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ขอเทใจให้ 100 คะแนน ถ้าไม่มีท่านผู้เสียสละนี้ก็ไม่แน่ใจว่าปัญหามันจะมากแค่ใหน คือภาพที่ประทับใจมาก ประชาชนเห็นจนชินตาทุกครั้งในยาม ที่ประชาชนประสบกัีบปัญหาภัยพิบัติต่างๆ เดือดร้อน รักษาทั้งอธิปไตย รักษาความสงบสุขของบ้านเมืองคือหน้าที่ของท่าน ที่ผ่านมาแม้จะูถูกมองอย่างไรในทางที่ไม่ดี หรือผู้ร้าย สักนิดก็ไม่เคยท้อไม่เคยเคืองโกรธ ภาพที่แสดงให้เห็นถึงความเป็นจริงแท้แน่นอน แต่ขอให้ท่านจดจำภาพความทรงจำทีดีงามนี้ตลอดไปก็พอ

    แต่ภาพนี้อดคิดไม่ได้ว่าอยากเห็นภาพตัวแทนนักการเมือง ส.ส ที่ประชาชนได้ให้ความไว้วางใจเป็นตัวแทนเพื่อไปร่วมแก้ปัญหาชาติบ้านเมือง ก็คงจะเป็นภาพที่น่าประทับใจมากๆเลย ธรรมชาติกำลังจะสะท้อนให้เห็นภาพความเป็นจริงอะไรหลายๆอย่างตลอดทั้งเรียกสติของทุกคนให้กลับคืนมา อย่าให้เลยเถิดมากไปกว่านี้



    [​IMG]



    [​IMG]

    ภาพ: หน่วยแพทย์อาสาที่คอยมาสมทบดูแลรักษาพยาบาลเบื้องต้นให้กับผู้ประสบภัยและผู้มาช่วยเหลือวางแนวกั้นน้ำในครั้งนี้





    [​IMG]


    [​IMG]
    ภาพ:พี่น้องชาวรังสิตและจิตอาสาร่วมด้วยกัน



    [​IMG]

    ภาพ: แม้กระทั้งชาวต่างชาติยังมีน้ำใจมาร่วมด้วยช่วยกัน เป็นภาพที่น่ารักมาก




    [​IMG]

    [​IMG]

    สภาพน้ำปัจจุบันนี้อยู่ในระดับสูงกว่าพื้นถนนแล้วและสูงกว่าตลาดรังสิตที่อยู่ด้านหลังประตูน้ำไปประมาณ 2-4 เมตร ซึ่งถือว่าสถานการณ์ที่ไม่น่าไว้วางใจและต้องคอยเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างไกล้ชิด ระดับน้ำยังทรงตัวอยู่ คลองนี้ถือว่ามีความสำคัญมากคลองหนึ่งเป็นคลองน้ำที่มีจุดเชื่อมต่อมาจาก คลองรังสิต และปล่อยน้ำออกสู่แม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งหากคลองนี้ประสบปัญหาอาจส่งผลให้น้ำทะลักเข้าท่วมเขตตลาดรังสิต คลองรังสิตทั้งหมด เมืองเอก ดอนเมือง และเข้าสู่กรุงเทพ

    (สิ่งที่ต้องเฝ้าระวังตอนนี้คือ
    เตรียมพร้อม 100% ระวังน้ำไปตามท่อเพราะถูกกั้นไว้หมดแล้วเกรงว่าจะซึมออกทางดินแทนหรือท่อระบาย และรอยรั่วต่างๆที่อาจไม่คาดคิดและคิดไม่ถึง)

    โอกาศนี้จึงขอประชาสัมพันธ์

    ขอเชิญชวน หน่วยงาน องค์กร บริษัท ห้างร้าน นักศึกษา ประชาชนทุกๆท่านหรือจิตอาสารทุกๆท่านที่ได้ทราบข่าวข่วยกันกระจายข่าว มาร่วมแรงร่วมใจ เสียสละเวลาของท่านสักนิด มาช่วยกันบรรจุทรายหรือตามความกำลังสามารถที่ตนพอจะช่วยได้ที่ประตูระบายน้ำจุฬาลงกรณ์หลังตลาดรังสิต ก่อนจะไปช่วยต้องพิจารณาก่อนเราพอจะช่วยอะไรได้บ้าง สิ่งที่ทำีนี้เพื่อประโยชน์ส่วนรวม การเสียสละของท่านอาจเป็นการสร้างกุศลอันยิ่งใหญ่ ซึ่งได้ช่วยเหลืออีกหลายชีวิตให้รอดพ้นวิกฤตนี้ไปด้วยดี เป็นการสร้างบุญที่หวังให้ผู้อื่นพ้นทุกข์เป็นการสร้างบุญที่บริสุทธิ์โดยไม่หวังสิ่งใดตอบแทน

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 ตุลาคม 2011
  8. tanakorn_ss

    tanakorn_ss ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    1,792
    ค่าพลัง:
    +5,747
    วันนี้น้ำในเขตตลาดรัตนโกสินทร์ 200 ปี เทศบาลรังสิต น้ำทะลักเข้าแล้วในบางส่วนโดยเฉพาะตลาดสุชาติ เขตรังสิต

    หน้าทางเข้าฟิวเจอร์รังสิตเส้นทางที่จะไปนครนายก มีน้ำท่วมถนนเกือบครึ่งล้อ ทำให้การสัญจรทางรถยนต์เป็นไปโดยลำบาก
     
  9. tanakorn_ss

    tanakorn_ss ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    1,792
    ค่าพลัง:
    +5,747
    ภาพความเป็นจริง

    อุทกภัยครั้งนี้สาหัสจริงๆ โดยเฉพาะพี่น้องประชาชนใน จ.พระนครศรีอยุธยา เพราะเกือบจะทุกพื้นที่ถูกมวลน้ำก้อนมหึมาก้อนแล้วก้อนเล่าทะลักเข้าท่วมขัง นานนับเดือนเข้านี่แล้ว นิคมอุตสาหกรรมหลายแห่งที่มีโรงงานนับสิบนับร้อยโรงเสียหาย เพราะถูกน้ำท่วมขังพลอยทำให้คนงานนับหมื่นต้องตกงานในช่วงจะปลายปี นับเป็นเรื่องน่าเศร้าสลดใจอย่างยิ่ง ทั้งนี้เพราะยังมองไม่เห็นภาพว่าจะต้องใช้เวลาอีกยาวนานเท่าไหร่กว่า เศรษฐกิจโดยรวมจะฟื้นตัว

    ยิ่งความโกลาหลเมื่อมวลน้ำไหลเข้าท่วมโรง พยาบาลพระนครศรีอยุธยา ซึ่งถือเป็นโรงพยาบาลศูนย์ขนาดใหญ่และมีความสำคัญ เพราะต้องรองรับผู้ป่วยจากทั่วสารทิศ น้ำได้ไหลท่วมขึ้นไปบนตึกต้องกุลีกุจอย้ายคนป่วยฉุกเฉินกันจ้าละหวั่น ซึ่งการย้ายผู้ป่วยแต่ละรายมีความลำบากลำบนที่สุด เพราะบางรายเป็นผู้ป่วยหนักต้องการออกซิเจนตลอดเวลา แต่แพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ พร้อมมูลนิธิต่างๆ ได้พร้อมใจกันทำหน้าที่รักษาชีวิตเพื่อนมนุษย์แบบเต็มความสามารถ

    ความ เสียสละทุ่มเทของเจ้าหน้าที่จากทุกส่วนราชการ รวมไปถึงนักการเมืองทุกระดับใน ไม่เว้นภาคเอกชนอื่นๆ ที่ไม่เคยนิ่งดูดาย รีบเร่งลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือชาวพระนครศรีอยุธยา เป็นภาพที่น่าประทับใจที่สุด ทั้งนี้เพราะในยามที่เกิดวิกฤติในชาติคนไทยด้วยกันเองนี่แหละคือผู้ที่มี น้ำใจหยิบยื่นให้แก่กัน ถือเป็นการเยียวยาเบื้องต้นก่อนที่ทุกๆ ฝ่ายจะตื่นตัว เพราะวิกฤติครั้งนี้ต้องใช้เวลาอีกยาวนานกว่าที่จะพลิกฟื้นคืนเมืองมรดกโลก ให้กลับคืนสู่สภาพปกติดังเดิม

    ประการสำคัญ เหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา หรือ จ.นครสวรรค์ จ.ลพบุรีและในพื้นที่อื่นๆ ครั้งนี้คงเสมือนเป็นลางบอกเหตุ เป็นการเตือนล่วงหน้าว่าในอนาคตประชาชนคนไทยทั้งประเทศจะต้องเผชิญกับอะไร และต้องเตรียมรับมืออย่างไร ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เป็นภาระหน้าที่ของทุกๆคนที่ต้องร่วมมือกันแก้ใขปัญหา ดังนั้นได้โปรดหยุดแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นกันเสียที เพราะสุดท้ายแล้วมันไม่มีประโยชน์อะไรมันมีแต่พังกับพัง สำหรับบรรดานักการเมืองที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้ถูกเลือกให้ความไว้วางใจให้เป็นผู้มีหน้าที่ในการบริหารประเทศ แก้ปัญหาบ้านเมือง ปัญหาสังคม ทั้งนี้เพราะน้ำท่วมครั้งนี้แทบไม่ได้เห็นบทบาทของผู้แทนราษฎรส่วนใหญ่เลย จะมีก็แค่รัฐมนตรีในรัฐบาลและเจ้าหน้าที่ผู้นำเหล่าทัพ แต่ก็มีบางคนเท่านั้นที่ทุ่มเทอย่างจริงจัง

    เป็นภาพความจริงที่ปรากฏชัดเจนในเรื่องความเสียสละ ความมีน้ำจิตน้ำใจ ความรักความเมตตา ความสามัคคี ในสถานการณ์แบบนี้



    (เพิ่มเติม)
    ในยามที่ประสบทุกข์ ไม่ควรไปซ้ำเติมทุกข์ให้กัน นั่นฉันว่าแล้ว ฉันบอกแล้ว ฉันคิดแล้วว่าต้องเป็นอย่างนั้น เห็นไหมหล่ะ มันไม่ได้ประโยชน์อะไร ให้เหตุการณ์และตัวอย่างที่เป็นอยู่ ที่ประสบอยู่นั้นเป็นเครื่องเตือนสติเวลาจะทำให้เข้าใจอะไรหลายๆอย่างเอง ควรให้กำลังใจ ร่วมกันหาวิธี หาสาเหตุแนวทางกำรแก้ใขที่ยั่งยืน น่าจะเป็นประโยชน์ ไม่แบ่งพรรค แบ่งพวกแบ่งฝ่าย แบ่งสาย แบ่งชนชนชั้น ลูกพี่ก็ต้องช่วยลูกน้อง ลูกน้องก็ช่วยลูกพี่ นายจ้างก็ต้องเห็นใจลูกจ้าง ลูกจ้างก็ต้องเห็นใจนายจ้าง ต้องอาศัยซึ่งกันและกัน เติบโตกันมาได้ถึงขนาดก็ไ่ม่ใช่ใครคนใดคนหนึ่ง ถึงจะอยู่รอดไปด้วยกันได้ มีอะไรที่พอช่วยได้ ก็ช่วยกันตามกำลังความสามารถของตน ในยามสถานการณ์แบบนี้สิ่งที่พอจะเห็นได้คือความรักใคร่ สามัคคี การมีน้ำใจซึ่งกันและกัน ซึ่งก็เป็นบทพิสุจน์ภาวะของตัวเอง และภาวะของผู้นำด้วยในแต่ละฝ่ายด้วย


     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 ตุลาคม 2011
  10. tanakorn_ss

    tanakorn_ss ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    1,792
    ค่าพลัง:
    +5,747
    <table cellpadding="6" width="640"><tbody> <tr> <td align="center">
    การวางกระสอบสอบทรายที่ถูกวิธี
    </td></tr> <tr> <td align="left">
    </td></tr> <tr> <td class="smallfont" align="left">[​IMG]</td></tr> <tr> <td class="smallfont" align="center">
    หลังจากเรียงกระสอบสอบทรายจนได้เป็นคันกั้นน้ำแล้ว ให้หาแผ่นพลาสติกมาวางทับแนวกั้นน้ำแล้วใช้กระสอบทรายวางทับที่ปลาย แผ่นพลาสติกทั้งสองด้าน และอย่าให้แผ่นพลาสติกตึงเกินไป เพราะแรงกระแทกของน้ำจะทำลายแนวกั้นได้ นอกจากนี้ยังต้องระวังไม่ให้พลาสติกเป็นรูหรือถูกเจาะจากของมีคมด้วย

    แนวกระสอบทรายซึ่งวางก่อเป็นรูปสามเหลี่ยมปิรามิด ให้่ฐานกว้างกว่าความสูง 3 เท่า
    และในขั้นสุดท้ายให้วางแผ่นพลาสติกทับโดยไม่ให้ตึงเกินไป แล้ววางกระสอบทรายทับปลายแผ่นพลาสติกทั้ง 2 ด้าน


    [​IMG]


    </td></tr></tbody></table>
     
  11. tanakorn_ss

    tanakorn_ss ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    1,792
    ค่าพลัง:
    +5,747
    วิธีวางแนวกระสอบทราย ไม่ให้พัง

    [​IMG]


    วางกระสอบทรายซ้อนทับแบบสับหว่าง และขุดตรงกลางฐานล่างให้ลึกประมาณความหนา 1 กระสอบ และกว้างประมาณ 2 กระสอบ เพื่อความมั่นคง

    [​IMG]


    วิธีวางกระสอบทรายให้ทับอีกกระสอบในส่วนที่ไม่ได้เติมทราย แล้วให้หันด้านปากกระสอบทรายไปในทิศตรงข้ามการไหลของกระแสน้ำ


    [​IMG]



    วิธีวางแนวกระสอยทราย ไม่ให้พัง


    [​IMG]



    การวางแนวกระสอบทราย เปรียบเทียบสัดส่วนความสูงและความกว้่างของฐานแนวคันกั้นน้ำ

    [​IMG]

    วิธีวางกระสอบทรายชั้นบนทับชั้นล่าง ให้ฐานล่างโผล่ออกมาประมาณครึ่งกระสอบ


    [​IMG]

    เติมทรายลงกระสอบประมาณครึ่งกระสอบ








     
  12. tanakorn_ss

    tanakorn_ss ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    1,792
    ค่าพลัง:
    +5,747
    วางกระสอบทรายให้ถูกวิธี ป้องกันน้ำท่วม




    กระสอบทรายเป็นอุปกรณ์สำคัญที่ช่วยบรรเทาปัญหาน้ำท่วมได้แต่หากกระสอบทรายไม่ได้มาตรฐาน ก็อาจส่งผลให้ปัญหาน้ำท่วมรุนแรงกว่าเดิม วันนี้เราจึงขอนำเสนอวิธีการบรรจุทรายลงในกระสอบและการวางกระสอบทรายที่ถูกต้อง

    เคนเนธ เฮลเลแวง วิศวกรจากมหาวิทยาลัยแห่งรัฐนอร์ธ ดาโกต้า ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ทำการวิจัยเกี่ยวกับการใช้กระสอบทรายให้ถูกต้อง เพื่อป้องกันปัญหาน้ำท่วม โดยงานวิจัยดังกล่าวได้รับความช่วยเหลือจากสถาบันด้านการเกษตรและอาหาร สังกัดกระทรวงเกษตร สหรัฐอเมริกา

    งานวิจัยของเฮลเลแวงระบุว่า ขนาดของกระสอบทรายที่เหมาะสม
    ควรมีความกว้าง 14 นิ้ว ยาว 24-26 นิ้วแต่ถ้าเป็นขนาดอื่นก็ใช้งานได้เช่นกัน แต่น้ำหนักที่บรรจุทรายควรอยู่ที่ 15-18 กิโลกรัม เพื่อให้สะดวกต่อการขนย้าย

    ส่วนวิธีการวางกระสอบทรายนั้น ก่อนอื่นต้องสังเกตให้ดีก่อนว่า บริเวณดังกล่าวต้องไม่มีสิ่งกีดขวางใดๆที่จะทำลายแนวกำแพงของกระสอบทราย และไม่ควรวางกระสอบทรายไว้ติดกับผนังตึกหรือสิ่งปลูกสร้างอื่นๆ เพราะอาจก่อให้เกิดความเสียหายกับสิ่งปลูกสร้างได้ ซึ่งวิธีที่ถูกต้อง ควรวางกระสอบทรายให้อยู่ห่างจากตึกประมาณ 2.5 เมตรเพื่อให้มีระยะห่าง เพื่อสังเกตการรั่วซึมของน้ำได้และควรวางในลักษณะที่ขนานกันไปกับทางไหลของน้ำ

    นอกจากนี้ การวางกระสอบทรายเป็นชั้นที่สูงมากกว่า 1 เมตร ควรมีขุดคูระบายน้ำลึกประมาณ 6 นิ้ว และยาวประมาณ 24 นิ้ว เพื่อช่วยเร่งระบายน้ำอีกทั้งยังเป็นการเสริมสร้างความแข็งแกร่งของคันกั้นน้ำอีกด้วย

    ด้านหน่วยงานทางวิศวกรรม ของกองทัพสหรัฐฯ แนะนำเพิ่มเติมว่า
    การวางกระสอบทรายให้ถูกต้องนั้นความกว้างของฐานควรมีขนาดเป็น 3 เท่าของความสูง เช่น กระสอบทรายที่ถูกวางสูงขึ้นไป 4 ฟุต ควรมีฐานกว้าง 12 ฟุตเป็นต้น

    ขณะที่ วิธีการในการบรรจุทรายใส่ในกระสอบทรายนั้น ควรบรรจุทรายแค่เพียงครึ่งหนึ่งของถุงเท่านั้น และควรมัดปากถุงให้ใกล้กับด้านบนถุง แต่หากบรรจุทรายเต็มถุงและมัดปากถุงสูงเกินไป จะทำให้น้ำซึมผ่านเข้ามาได้ง่าย

    ส่วนวิธีการวางกระสอบทรายเป็นรูปสามเหลี่ยมนั้น ถ้าสูงไม่เกิน 1 ฟุต ไม่มีรูปแบบที่จำกัด แต่ถ้าจะวางสูงกว่านั้น ควรมีการเพิ่มความแข็งแกร่งของชั้นกระสอบทราย โดยทุกๆสูง 5 ฟุต จะต้องทำให้กระสอบทรายอยู่ติดกันมากที่สุด เช่นการขึ้นไปเหยียบและใช้มือดันเพื่อให้กระสอบทรายยึดติดกัน

    และเมื่อทำนบกั้นน้ำกระสอบทรายเสร็จแล้ว
    ขั้นตอนสุดท้ายควรมีการนำผ้าใบพลาสติกขนาดใหญ่มาคลุมปิดไว้อีกชั้นเพื่อเพิ่มความมั่นคงและป้องกันไม่ให้น้ำไหลผ่าน แต่ไม่ควรวางผ้าใบพลาสติกไว้ด้านล่างของกระสอบทราย เพราะกระสอบทรายอาจลื่นไถลลงมา เมื่อไม่สามารถทนแรงดันน้ำได้

    [​IMG]

    หรือใช้สูตรต่อไปนี้เพื่อคำนวณหาจำนวนกระสอบทรายที่ต ้องใช้ทุกๆ ความยาว 1 ฟุต (เมื่อวัดความสูงเป็นหน่วยฟุต)
    ดังนี้

    จำนวนกระสอบทราย =
    {(3 x ความสูงคันกั้นน้ำ) + (9 x ความสูงคันกั้นน้ำx ความสูงคันกั้นน้ำ)} / 2

    ตัวอย่างเช่น

    มื่อใช้กระสอบทรายหนา 10 เซนติเมตร กว้าง 25 เซนติเมตร และยาว 35 เซนติเมตร สร้างคันกั้นน้ำสูง 1 ฟุต (ทุกๆ ความยาว 1 ฟุต ฐานกว้าง 3 ฟุต)
    ต้องใช้กระสอบทราย = {(3X3) + (9X3X3)} /2 = 45 กระสอบ
    หรือ ตัวอย่างที่ได้คำนวณแล้วทุกความยาวแนวคันกั้นน้ ำ 100 ฟุต จะใช้จำนวนกระสอบทราย ดังนี้
    คันกั้นน้ำสูง 1 ฟุต ใช้กระสอบทราย 600 กระสอบ
    คันกั้นน้ำสูง 2 ฟุต ใช้กระสอบทราย 2,100 กระสอบ
    คันกั้นน้ำสูง 3 ฟุต ใช้กระสอบทราย 4,500 กระสอบ
    คันกั้นน้ำสูง 4 ฟุต ใช้กระสอบทราย 7,800 กระสอบ




     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 ตุลาคม 2011
  13. tanakorn_ss

    tanakorn_ss ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    1,792
    ค่าพลัง:
    +5,747
    ขอร่วมประชาสัมพันธ์

    ขอ เชิญชวน หน่วยงาน องค์กร บริษัท ห้างร้าน นักศึกษา ประชาชนทุกๆท่านหรือจิตอาสารทุกๆท่านที่ได้ทราบข่าวข่วยกันกระจายข่าว มาร่วมแรงร่วมใจ เสียสละเวลาของท่านสักนิด มาช่วยกันบรรจุทรายหรือตามความกำลังสามารถที่ตนพอจะช่วยได้ที่ประตูระบายน้ำจุฬาลงกรณ์หลังตลาดรังสิต ด้านหลังท่ารถตลาดรังสิต ก่อนจะไปช่วยต้องพิจารณาก่อนนะครับ เราพอจะช่วยอะไรได้บ้าง สิ่งที่ทำีนี้เพื่อประโยชน์ส่วนรวม การเสียสละของท่านอาจเป็นการสร้างกุศลอันยิ่งใหญ่ ซึ่งได้ช่วยเหลืออีกหลายชีวิตให้รอดพ้นวิกฤตนี้ไปด้วยดี เป็นการสร้างบุญที่หวังให้ผู้อื่นพ้นทุกข์เป็นการสร้างบุญที่บริสุทธิ์โดย ไม่หวังสิ่งใดตอบแทน

    (ข่าวตอนนี้ทราบมาว่า เขตอุตสาหกรรมนวนครบางจุดเริ่ิมมีน้ำทะลักเข้ามาแล้ว)
     
  14. tanakorn_ss

    tanakorn_ss ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    1,792
    ค่าพลัง:
    +5,747
    ศปภ.แจ้งอพยพปชช.รอบนวนคร

    ศปภ.แจ้งปชช.รอบนิคมฯนวนครออกจากพื้นที่ด่วน พร้อมจัดศูนย์พักพิงรองรับ4แห่ง


    เวลา 12.30 น. วันที่ 17 ต.ค.54 เวลา 12.30 สถานการณ์น้ำท่วมใน พื้นที่จ.ปทุมธานี นายวิม รุ่งวัฒนะจินดา โฆษกศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) ได้ประกาศแจ้งเตือนให้ประชาชนในพื้นที่โดยรอบนิคมอุตสาหกรรมนวนคร อพยพออกจากพื้นที่เป็นการเร่งด่วนและปฏิบัติตามดังนี้ เพื่อประกาศให้ประชาชนทั้งประเทศได้รับทราบและเข้าใจโดยทั่วกัน


    1.ขอให้นิคมอุตสาหกรรมนวนครหยุดเดินเคลื่องจักร และอพยพสิ่งของไว้ที่สูงเป็นการด่วน
    2.ขอให้ประชาชนในพื้นที่บริเวณโดยรอบเคลื่อนย้ายไปยังที่ปลอดภัย หรือย้ายไปยังศูนย์อพยพ
    3.ขอให้หน่วยงานที่อยู่ในกำกับศปภ. ได้ประกาศแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ให้เตรียมตัวอพยพ
    4.ในการอพยพขั้นต้นนั้น ขอให้ประชาชนดำเนินการช่วยตนเองก่อน ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเข้าไปช่วยเหลือต่อไป
    5.ขอให้ประชาชนปฏิบัติตามเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด เพื่อความสะดวกการช่วยเหลือ​
    สำหรับที่พักพิงชั่วคราวมี 4 แห่ง ดังนี้ โดมมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ได้จำนวน 3 พันคน , ที่วัดพระธรรมกายรองรับได้ 5 พันคน , ที่ศูนย์พักพิง อ.ญบุรีจำนวน 2 หมื่นคน และศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะรับได้อีก 1 พันคน ทั้งนี้หากประชาชนที่อพยพใกล้ที่ไหนสามารถไปที่นั่นได้ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจะอำนวยความสะดวกในการเดินทาง พร้อมกับมีการเตรียมที่นอน อาหาร พร้อทั้งการดูแลทรัพย์สินของประชาชนที่อยู่ในบ้าน
    อย่างไรก็ตาม หากใครมีรถส่วนตัวสามารถเคลื่อนย้ายไปยังศูนย์พักพิงดังกล่าวได้ตั้งแต่ตอน นี้ หากใครที่ไม่มีรถส่วนตัวสามารถมาใช้บริการรถขสมก. ที่เจ้าหน้าที่ได้เตรียมรอรับกว่า 200 คัน และรถของเจ้าหน้าที่อีกจำนวนหนึ่ง ที่บริเวณด้านหน้านิคมฯนวนคร ฝั่งถนนพหลโยธิน ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนไม่ควรตื่นตระหนก แต่ขอให้เตรียมตัวเพื่อความปลอดภัยในชีวิต


    ที่มาคมชัดลึก:Ȼ�.��;¾���.�ͺ�ǹ�� ��Ѵ�֡ : �Ҫ�ҡ��� : ���Ƿ����
     
  15. tanakorn_ss

    tanakorn_ss ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    1,792
    ค่าพลัง:
    +5,747

    รายได้หนังสือ'ตัน'ช่วยน้ำท่วม



    ตัน ภาสกรนที นักธุรกิจ ไอดอลคนรุ่นใหม่ เปิดตัวหนังสือ 'วิถีไม่ตัน' พร้อมมอบรายได้ทั้งหมดจากการขาย ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย

    ตัน ภาสกรนที นักธุรกิจ ไอดอลคนรุ่นใหม่ ถ่ายทอดประสบการณ์ผ่านร้อนผ่านหนาวตลอดช่วง 30 ปีที่ผ่านมา ในหนังสือเล่มใหม่ของเขาที่ชื่อว่า วิถี ไม่ ตัน ฉบับ ตัน ภาสกรนที ที่บอกว่า เขียนมาจากใจกลั่นจากประสบการณ์จำนวน 30 ตอน

    เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ และเป็นทางลัดธุรกิจให้คนรุ่นใหม่ จากชีวิตเริ่มต้นที่ศูนย์ จบแค่ระดับมัธยม เรียนรู้ชีวิตจากความแน่นอนไม่แน่นอน ความสำเร็จความล้มเหลว ความทุกข์ความสุข ความมีความจน ความกลัวความกล้า จนกลายมาเป็นอิชิตันในปัจจุบัน โดยคุณตันจะมอบรายได้ทั้งหมดจากการขายหนังสือ นำไปช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในขณะนี้ด้วย
    เนื้อหาของหนังสือ วิถีไม่ตัน ทั้ง 30 ตอน จะสะท้อนให้เห็นแง่คิดทางธุรกิจที่ลึกซึ้ง แม้ในช่วงแกะปูให้ครอบครัว เห็นก้ามปู 2 ก้าม และ 8 ขา ก็เชื่อมโยงไปถึง ทฤษฎีทองคำ 80 20 ว่าด้วยการบริหารชีวิต บริหารธุรกิจให้เหมาะสม หรือการสอนลูก ที่คุณตันยกเงินก้อนให้ลูก 20 ล้านบาท พร้อมยื่นคำขาด นี่จะเป็น 20 ล้านแรกและ 20 ล้านสุดท้าย กลายเป็นเคล็ดลับที่พ่อแม่หลายคนอยากรู้เพื่อนำไปใช้บ่มเพาะลูกๆให้รู้จัก ใช้ชีวิตและใช้เงิน หนังสือ วิถีไม่ตัน ของ ตัน ภาสกรนที จึงเป็นกำลังใจและข้อคิดดีๆให้กับทุกคนด้วยความเชื่อที่ว่า ต้นทุนชีวิตแบบคุณตันหาที่ไหนก็ได้ คุณตันเริ่มต้นได้ คุณก็เริ่มต้นได้


    นี่คือนักลงทุน นายทุน เป็นแบบอย่างที่ดี

    ที่หาได้ยากนักในสมัยปัจจุบันนี้
     
  16. tanakorn_ss

    tanakorn_ss ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    1,792
    ค่าพลัง:
    +5,747
    รบ.แจ้งกทม.คุมน้ำปทุมฯไม่ไหว


    สุขุมพันธุ์” สั่งเสริมกระสอบทรายคลองหกวาด้านเหนือกทม.เพิ่มขึ้น 3 เมตร ภายใน 48 ชั่วโมงด่วน หลังรัฐบาลต้านน้ำไม่ได้ เตือนปชช. "สายไหม-ดอนเมือง" เก็บของขึ้นที่สูง คนอพยพหนีน้ำท่วมขอเข้าพักล้นศูนย์"มธ.รังสิต"แล้ว

    เมื่อเวลา 21.15 น. วันที่ 17 ต.ค.2554 ที่ศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัยและดินโคลนถล่ม กรุงเทพมหานคร ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม.กล่าวว่า เมื่อเวลา 19.00 น. ที่ผ่านมา ได้รับการประสานงานจากรัฐบาลว่ารัฐบาลไม่สามารถควบคุมปริมาณน้ำจากคลอง 8 คลอง 9 จ.ปทุมธานีได้ ฉะนั้นจะส่งผลให้ปริมาณน้ำในคลอง 8 และคลอง 9 รวมทั้งคลองเชื่อมต่างๆ ในกทม. มีระดับน้ำสูงถึง 3.50 เมตร


    ดังนั้นกทม.จึงจำเป็นต้องปกป้องกรุงเทพเหนือ ในเขตดอนเมืองและสายไหม โดยกทม.ได้กำหนด 3 มาตรการเร่งด่วน ได้แก่ 1.เสริมแนวคันกั้นน้ำบริเวณคลองหกวา สูง 3 เมตร ระยะทาง 6 กม. โดยต้องเสริมความหนาของแนวคันกั้นน้ำด้วย คาดว่าจะต้องใช้กระสอบทราย 1.2 ล้านกระสอบ
    ทั้งนี้ตนได้สั่งการให้ดำเนินการตั้งแต่คืนวันที่ 17 ต.ค.นี้เป็นต้นไป เพราะจากการคำนวณสถานการณ์น้ำ กทม.มีเวลาประมาณ 48 ชั่วโมง เพราะฉะนั้นกทม.จึงต้องทำงานแข่งกับเวลาทุกนาที และจะต้องทำให้เสร็จโดยเร็ว 2. สร้างคันกั้นน้ำตั้งแต่คลอง 8 - 12 ระยะทาง 15 กม.ความสูง 3 เมตรเช่นกัน คาดว่าจะใช้เวลาดำเนินการ 7 วัน แต่ตนจะหาวิธีการบริหารจัดการให้สามารถร่นระยะเวลาให้เหลือ 3 - 4 วัน และ 3. กทม.จะร่วมมือกับกรมทางหลวงชนบทปิดจุดอ่อนบริเวณถนนพหลโยธินข้ามคลองรังสิต และถนนสุวินทวงศ์ เพราะน้ำอาจจะตลบเข้ากทม.ได้ โดยในวันพรุ่งนี้ตนจะประสานกับกรมทางหลวงชนบทเพื่อทำความเข้าใจให้ตรงกัน
    ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวต่อว่า มาตรการดังกล่าวเป็นมาตรการที่กทม.จะต้องดำเนินการ ทั้งนี้ไม่อยากให้ประชาชนตื่นตระหนก กทม.ขอเวลาประเมินสถานการณ์ให้ชัดเจนก่อน ว่าจำเป็นต้องทำอย่างไรต่อไป แต่ขณะนี้ประชาชนสามารถนำของมีค่าขึ้นที่สูงได้ทันที หากทำอะไรเล็กๆน้อยๆได้ ควรทำไปก่อน และไม่อยากให้ตื่นตระหนก ยืนยันว่ากทม.จะดูแลประชาชนอย่างดีที่สุด โดยเฉพาะเขตสายไหมซึ่งเป็นด่านหน้าของกรุงเทพฯ และอยากให้ประชาชนในเขตดอนเมืองตื่นตัวด้วยเช่นกัน
    ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าวด้วยว่า รัฐบาลได้บอกว่าจะมอบกระสอบจำนวน 1 ล้านใบ จึงอยากให้ส่งมาให้เร็วที่สุด ไม่อยากให้เกินอาทิตย์หน้า นอกจากนี้รัฐบาลจะส่งนักโทษจากกรมราชทัณฑ์ 300 คนมาช่วย อย่างไรก็ตามมั่นใจว่ารัฐบาลจะรักษาคำพูด ขณะเดียวกันขอเชิญชวนประชาชนร่วมมือกับกทม.ต่อสู้ปัญหาให้พ้นภัยน้ำท่วม ครั้งนี้ โดยกทม.ได้ตั้งศูนย์ที่โรงเรียนฤทธิยะวรรณาลัย ตนอยากให้ประขาชนดูแลบ้านตัวเอง ไม่ต้องพึ่งพาคนอื่น

    ที่มาข่าว:ú.�駡��.����ӻ���������� ��Ѵ�֡ : �Ҫ�ҡ��� : ���Ƿ����
     
  17. tanakorn_ss

    tanakorn_ss ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    1,792
    ค่าพลัง:
    +5,747

    เช้านี้เขตรังสิตฝั่งห้างโลตัสและท่ารถตู้บ้านนา น้ำเริ่มเข้ามาแล้วน้ำท่วมสูงประมาณ 20-30 cm โดยประมาณ ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับตลาดรังสิต ทำให้การจราจรติดขัดมาก


    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]


    ส่วนภาพด้านล่างนี้เป็นสภาพถนนด้านหน้าทางเข้าฟิวเจอร์พาร์ครังสิตฝั่งขาออกไปรังสิตนครนายก

    [​IMG]


    อย่าได้ประมาทขอให้เตรียมพร้อม 100% คาดว่าน้ำคงอั้นไว้ไม่อยู่เพราะการระบายน้ำไม่ทัน เมื่อไม่ทันมันก็อั้นหาที่ไปให้ได้ใต้ดิน ท่อน้ำ ท่อระบาย สะสมแรงดัน แรงดันมากกำแพงกั้น แข็งแรงไม่พอก็อาจแตกน้ำพยายามจะไหลไปสู่ต่ำ ถ้าทางใหลไม่สะดวกมันก็ทะลวงทะลายไปทั่วเลย ถ้าเขตกรุงเทพมีกำแพงกันไม่แข็งแรงพอหรือระบบระบายน้ำไม่ทัน น้ำก็อาจแผ่กระจายอาจจะทำให้เข้าเขตกทมได้

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 ตุลาคม 2011
  18. บุญญสิกขา

    บุญญสิกขา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,863
    ค่าพลัง:
    +14,471
    [​IMG]



    อนุโมทนาสาระประโยชน์ ที่นำมาเสนอ สาธุค่ะ

    <O:p</O:p
    ขอความรู้เรื่องการปฐมพยาบาลเบื้องต้น จากแวดล้อมที่เกิดจากการเร่งป้องกันน้ำท่วมบ้านกรณีฉุกเฉินของวิถีคนเมือง ซึ่งปกติไม่ค่อยได้มีชีวิตประจำวันกับการใช้งานปูนสำเร็จค่ะ เช่น ปูนกัดมือ จากการใช้ตะหลิวมาฉาบปูน ใช้ช้อนฉาบยาร่องรอยแนวเล็ก ๆ (และอื่นๆ เช่น การใช้สมุนไพรพื้นบ้าน การนวดสกัดจุด)

    <O:p
    ขอความรู้ เรื่องพิษภัยและการป้องกัน เบื้องต้นที่เกิดจากสภาพน้ำกักขัง หรือจากสัตว์ร้าย เช่น จากความชื้น จากยุงลาย เป็นต้นค่ะ





    [​IMG]


    <O:p</O:p
    <O:p
    การใช้ประโยชน์จากถ่านไม้ เพื่อดูดความชื้น

    <O:p</O:p
    ผลผลิตถ่านไม้สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้มากกว่าที่หลายท่านเข้าใจกันเพียงแต่นำไปใช้เพื่อเป็นเชื้อเพลิงหุงต้มในครัวเรือนเท่านั้น ตามรายงาน ของชมรมสวนป่า ผลิตภัณฑ์และพลังงานจากไม้ ดังนี้

    <O:p</O:p
    1) การใช้ประโยชน์ในอุตสาหกรรม<O:p</O:p
    ถ่านบริสุทธิ์เป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมผลิตสารเคมีต่าง ๆ เช่น คาร์บอนไดซัลไฟด์ (Carbondisulpide), โซเดียมไซยาไนด์ (Sodium Cyanide) ซิลิคอนคาร์ไบด์ (Silicon Carbide) หรือถ่านกัมมันต์ (Activated Carbon) เป็นต้น
    ถ่านกัมมันต์ ที่ได้จากถ่านไม้ที่มีค่าคาร์บอนเสถียรสูง (High Fixed Carbon) ใช้ประโยชน์ในอุตสาหกรรมอีกหลากหลาย อาทิ ใช้ในระบบกรองและบำบัดอุตสาหกรรมน้ำดื่ม ระบบผลิตน้ำประปา ระบบบำบัดน้ำเสีย เป็นต้น นอกจากนี้ยังใช้ประโยชน์จากคาร์บอนในอุตสาหกรรมโลหะหรือใช้ขี้เถ้าเพื่อเพิ่มคุณสมบัติของปูนซีเมนต์ ให้แข็งตัวช้า และมีความแข็งแกร่งขึ้น ฯลฯ
    <O:p</O:p
    <O:p
    2) การใช้ประโยชน์ในครัวเรือน<O:p</O:p
    คุณสมบัติในการดูดซับกลิ่นและความชื้นของถ่าน เป็นที่รับรู้กันดี ในต่างประเทศ อุตสาหกรรมผลิตเครื่องประดับจากถ่านเพื่อใช้ประโยชน์ในบ้านเรือนได้รับความนิยมมาก คนญี่ปุ่น เป็นตัวอย่างของผู้ที่มองเห็นคุณประโยชน์ของถ่านอย่างชัดเจน

    การใช้ถ่านเพื่อทำหน้าที่ลดกลิ่นในห้องปรับอากาศ มีประสิทธิภาพที่ดีมาก ในห้องแอร์ ที่ทำงานหรือในรถ โดยเฉพาะที่ที่มีผู้สูบบุหรี่ หรืออาจจะมีเชื่อจุลินทรีย์ ควรนำถ่านไม้ไปวางดักไว้ที่ช่องดูดอากาศกลับของเครื่องดูดอากาศ รูพรุนและจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์ในถ่านไม้จะดูดซับกลิ่นและเชื้อโรคต่าง ๆ เอาไว้ ช่วยลดกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้อย่างดี หรือจะใช้ถ่านเพื่อการบำบัดน้ำเสียจากครัวเรือน ก่อนปล่อยสู่ท่อระบายสาธารณะก็ยังเป็นผลดีต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
    <O:p</O:p
    <O:p
    1) การใช้ประโยชน์ในการเกษตร<O:p</O:p
    ในภาคการผลิตเชิงเกษตร การนำถ่านไม้มาใช้ประโยชน์นับว่ามีคุณค่าที่น่าสนใจไม่น้อย เนื่องว่าถ่านมีคุณสมบัติที่ไม่เป็นพิษภัยต่อพืชและสัตว์ จึงสามารถใช้ทดแทนสารเคมีราคาแพงได้อย่างกว้างขวางและมีประสิทธิภาพไม่แพ้กันทีเดียว<O:p</O:p

    -ใช้เป็นสารปรับปรุงดิน ถ่านไม้จะมีรูพรุนมากมาย เมื่อใส่ถ่านป่นลงในดินจะช่วยปรับสภาพดินให้ร่วนซุย อุ้มน้ำได้ดีขึ้นส่งผลให้รากพืชขยายตัวอย่างรวดเร็วช่วยลดการใช้ปุ๋ยเพราะสมบัติต่าง ๆ ของจุลธาตุที่มีอยู่หลายชนิดในแท่งถ่าน จะเป็นประโยชน์ให้แก่พืชที่ปลูก<O:p</O:p

    -ถ่านไม้ที่นำมาใช้ปรับปรุงดินควรเป็นเศษถ่าน ขนาดไม่เกิน 5 มม. โดยอาจจะเป็นถ่านแกลบหรือถ่านชานอ้อย แต่ควรระวังขี้เถ้าซึงมีฤทธิ์เป็นด่างสูงเพราะพืชก็ไม่ชอบดินที่มีค่าเป็นด่างสูงควรรักษาค่าเป็นกรดด่างของดินไว้ที่ pH 6.0 – 6.8<O:p</O:p

    -ช่วยรักษาผลผลิตให้สดนานขึ้น ผักและผลไม้จะมีกลไกผลิตก๊าชเอธิลีน (Ethyline) เพื่อทำให้ตัวเองสุก เราสามารถรักษาผลผลิตให้สดนานขึ้นโดยใส่ผงถ่านลงในกล่องบรรจุเพื่อดูดซับก๊าชดังกล่าวไว้ไม่ให้ออกฤทธิ์ผักผลไม้จะยังคงสดอยู่ได้นานถึง 17 วัน โดยไม่เสียหายหรือสุกงอม ปัจจุบันได้มีการนำผงถ่านกัมมันต์ผสมลงในกระดาษที่ใช้ทำกล่องบรรจุผลผลิตเพื่อการนี้แล้ว<O:p</O:p

    -ถ่านแกลบหรือถ่านชานอ้อย ใช้ทดแทนแกลบรองพื้นคอกสัตว์ซึ่งราคาถูกและหาง่ายพอ ๆ กัน เพื่อหลีกเลี่ยงความร้อนและก๊าซต่าง ๆ อันเป็นสาเหตุหนึ่งของอาการเครียดในสัตว์ส่งผลให้สุขภาพและผลผลิตจากปศุสัตว์มีคุณภาพดีขึ้น
    <O:p</O:p

    -ใช้ผสมอาหารสัตว นำผงถ่านผสมในอาหารสัตว์ด้วยอัตราส่วนเพียง 1 % ถ่านจะช่วยดูดซับก๊าซในกระเพาะและลำไส้ ช่วยลดอาการท้องอืดเนื่งอจากปริมาณน้ำในอาหารสูงเกินได้โดยไม่เป็นอันตรายต่อสัตว์<O:p</O:p

    -ปรับปรุงคุณภาพแหล่งน้ำ นำถ่านไม้ใส่กระสอบ (ในปริมาณที่สอดคล้องกับประมาณแหล่งน้ำ) ไว้ที่ก้นบ่อ และจัดให้มีการไหลเวียนน้ำบริเวณกระสอบถ่านนั้น เศษอินทรีย์วัตถุต่าง ๆ ในน้ำจะถูกย่อยสลายโดยจุลินทรีย์ ทีอยู่ในรูพรุนของถ่าน ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพระบบบำบัดน้ำในบ่อเลี้ยงปลาหรือกุ้งได้ เช่นกัน


    อนุโมทนาที่มาข้อมูลและภาพประกอบ
    ๑) ����������ª���ҡ��ҹ��� (www.Charcoal.Snmcenter.com)
    ๒) ��ҹ �������� ������ѧ�ǹ��Ѻ������ (��ҹ �������� ������ѧ�ǹ��Ѻ������)

    อนุโมทนาเสียงประกอบ
    ๑) เสียงสาระ "จิตนิ่งจึงแหลมคม" ชุดดอกไม้แห่งชีวิต ๑ ท่านอาจิต โตเกียรติรุ่งเรือง
    ๒) เพลงรุ้งกินน้ำ ท่านจำรัส เศวตาภรณ์


    [MUSIC]http://palungjit.org/attachments/a.1727518/[/MUSIC]<O:p</O:p
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  19. tanakorn_ss

    tanakorn_ss ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    1,792
    ค่าพลัง:
    +5,747
    <o:p<o:p<o:p<o:p<o:p<o:p<o:p<o:p<o:p[FONT=Arial][COLOR=windowtext] <o:p<o:p [SIZE=5][COLOR=DarkRed]สาธุ ขอน้อมอนุโมทนาบุญทั้งหมดทั้งมวล
    [/COLOR][/SIZE]</o</o[/COLOR][/FONT]</o

    </o
    </o
    </o
    </o
    </o
    </o
    </o</o
    </o</o
     
  20. tanakorn_ss

    tanakorn_ss ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    1,792
    ค่าพลัง:
    +5,747
    น้ำท่วมขังระวัง’ปลิง’! เกาะต้องแกะถูกวิธี


    เรื่องหนึ่งที่ควรระวังในช่วงที่หลายพื้นที่เผชิญภาวะน้ำท่วม คือ ‘ปลิง‘ สัตว์ที่อยู่ในน้ำ โดยเฉพาะน้ำนิ่งๆ ทั้งหนองน้ำ ลำธาร รวมถึงบริเวณที่มีน้ำท่วมขัง ในประเทศไทยมักพบปลิง 2 ชนิด คือ ปลิงเข็ม ตัวยาวขนาดใกล้เคียงกับก้านไม้ขีดไฟ อีกชนิดเป็นปลิงควาย ตัวยาว 3 นิ้ว ลำตัวกว้าง 1 นิ้ว

    กรณีมีความจำเป็นต้องลงไปในน้ำที่ท่วมขังและนิ่ง เมื่อขึ้นจากน้ำแล้วต้องสังเกตตามเนื้อตัวของตนเองอย่างละเอียด เพราะหากถูกปลิงเกาะ ตัวของปลิงนั้นเบาจึงไม่ทำให้รู้สึกว่า มีสิ่งแปลกปลอมเกาะติดอยู่ เช่นเดียวกับการดูดเลือดของปลิงก็เป็นไปอย่างแผ่วเบา
    ระหว่างที่ปลิงเริ่มกัดและดูดเลือดจะ ปล่อยสารที่มีฤทธิ์คล้ายยาชาออกมา ทำให้ไม่รู้สึกเจ็บ ทั้งยังมีสารช่วยขยายหลอดเลือดและสารต้านการแข็งตัวของเลือด เพื่อให้ดูดเลือดได้ต่อเนื่อง หากปลิงยังดูดเลือดไม่อิ่มก็ยังจะเกาะอยู่อย่างนั้น โดยจะหลุดออกเมื่ออิ่ม ทว่าถูกรุมเกาะหลายตัวและถูกดูดเลือดมาก ก็จะเกิดอาการเวียนศีรษะ หน้ามืด


    วิธีแกะปลิงให้หลุดออก ไม่ควรใช้มือหรืออุปกรณ์อื่นดึงหรือกระชากตัวปลิงออกจากผิวหนังโดยตรง เนื่องจากจะทำให้เกิดแผลฉีกขาด เลือดหยุดยาก แต่วิธีที่ควรทำในเบื้องต้นมีทั้งใช้น้ำมะนาว น้ำมะกรูด น้ำเกลือเข้มข้น หรือน้ำแช่ยาฉุนหรือยาเส้นไส้บุหรี่ อย่างใดอย่างหนึ่งราดใส่ตรงที่ปลิงเกาะ นอกจากนี้ยังอาจเลือกใช้บุหรี่ที่ติดไฟหรือธูปติดไฟ จี้ลงไปที่ตัวปลิง ก็ทำให้ปลิงหลุดออกเอง


    เมื่อปลิงหลุดออก ให้หยดยาฆ่าเชื้อที่คัตตอนบัดส์และเช็ดเป็นวงรูปก้นหอย เริ่มจากส่วนในของแผลวนออกรอบนอกแผล เช็ดวนรอบเดียวเพื่อไม่ให้แผลสกปรก แล้วเปลี่ยนคัตตอนบัดส์อันใหม่ สัก 2-3 อัน
    หากไม่สามารถเลี่ยงการลงไปในน้ำที่ท่วมขัง ควรป้องกันตนเองจากปลิงและสัตว์มีพิษอื่นๆ เช่น งู ตะขาบ ด้วยการสวมเสื้อผ้าให้มิดชิดรัดกุมและมัดปลายขากางเกง ชโลมเสื้อผ้าส่วนที่ต้องโดนน้ำด้วยน้ำมันก๊าดจะช่วยป้องกันสัตว์มีพิษได้
     

แชร์หน้านี้

Loading...