คนมีญานมีพลังจิตถอดจิตฯลฯที่อยู่ในเว็บนี้ ช่วยผมหน่อยนะครับ

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย arinrum, 23 มกราคม 2009.

  1. ภราดรภาพ

    ภราดรภาพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,578
    ค่าพลัง:
    +2,762
    ดูนิยาม แล้วแปลกๆ นะครับ ไอสไตน์ กล่าวไว้อย่างนี้หรือ
    เชื่อไอสไตน์ หรือจะเชื่อคุณดีละ


    กล่าวถึงธาตุสี่ หรือโลกธาตุ แล้วธาตุเหล็ก ธาตุไม้ ละ รวมได้ไหม


    แล้วหลุมดำที่ว่านี้ เป็นอย่างไรครับ?




    ทำไมพลังงานกลับกลายป็นนิพพานไปละครับ หรือว่าสิ่งนี้เป็นเพียงอุดมคติ


    สิ่งที่กล่าวมานี้เป็นแค่พลังธรรมชาติหรือเปล่าครับ
    เข้าใจว่าจะถูกโยงกับวิทยาศาสตร์ สิ่งที่กล่าวมามีใครบ้างที่ยอมรับในทฤษฏีนี้บ้างครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 มกราคม 2009
  2. ภราดรภาพ

    ภราดรภาพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,578
    ค่าพลัง:
    +2,762
    ขอเสริมนะครับ เห็นด้วยในบางอย่าง ไม่เห็นด้วยในบางอยย่าง
    การเรียนรู้เพื่อเปิดโลกกว้าง ศาสตร์และศิลป์ต่างๆ ได้สะสมมาอย่างยาวนาน
    ความรู้ในระดับต่างๆ มีมากมายในสรรพสิ่ง
    เช่น ธาตุ พืช สัตว์ มนุษย์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ และเอกภพ
    เราเกิดจากสิ่งนี้ เรารู้ในสิ่งนี้ เราแบ่งปันความรู้ระหว่างกัน
    แม้ไม่ใช่ทาง แต่มนุษย์ก้ย่อมที่จะเรียนรู้จนกว่าจะหมดบุญที่จะรู้
    เป็นเพราะความรู้และประสบการณ์นี้เอง ที่ทำให้เราได้อยู่จนถึงทุกวันนี้
    เราอาจมองปรัชญาศาสนามากไปหรือเปล่าหนอ
    ทุกข์สุขเป็นเรื่องธรรมดา เป็นธรรมชาติของมนุษย์ เพียงแต่จะมองสภาวะมันออกหรือเปล่า
    ก็เท่านั้น หวังว่าคงไม่เพ้อมากนะครับ
     
  3. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852


    ฉันจะไม่เชื่อทั้งคู่ เราไม่ได้ มีความเกลียดชัง อะไรระหว่างพระพุทธเจ้า และ ไอสตายน์
    และภราดรภาพ ที่ทำให้ท่านไม่ต้องการเชื่อในครั้งแรกต่ออบุคคลทั้งสอง

    ผมเคยได้สรุปไปแล้ว ว่าถ้าไอสตายน์ สามารถเดินทางไปเร็วกว่าแสง
    ไอสตายน์จะต้องได้ฌาน แต่โชคร้ายไอสตายน์ตายเสียก่อนจะได้ตรัสรู้

    ทำไมพลังงานกลับกลายป็นนิพพานไปละครับ หรือว่าสิ่งนี้เป็นเพียงอุดมคติ

    ไม่มีสิ่งที่ บังเอิน พลังจักรวาลที่ร้อนละอุ
    เปลี่ยนสถานะ เป็นพลังจักรวาลที่ความร้อนสูงขึ้นเต็มขีด
    ลดลง ดับเย็น เรากล่าวคือกระแสนิพพาน

    แล้วหลุมดำที่ว่านี้ เป็นอย่างไรครับ?
    ความมืดเกิดก่อน แสงสว่างเกิดตามมาที่หลัง

    กล่าวถึงธาตุสี่ หรือโลกธาตุ แล้วธาตุเหล็ก ธาตุไม้ ละ รวมได้ไหม

    ร่วมกันได้ ดังนี้ พลังชีวิต








     
  4. ภราดรภาพ

    ภราดรภาพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,578
    ค่าพลัง:
    +2,762


    ขอบคุณที่ชี้แนะ แต่ถ้าสิ่งนี้เป็นจริงดังที่กล่าว
    ก็แสดงว่ามนุษย์กำลังกลับสู่ความเป็นพลังงาน อย่างนั้นใช่ไหมครับ
    ในเมื่อเป็นพลังงานแล้ว ทำไมต้องมีสิ่งนี้อีกละครับ
    พลังงานเหล่านี้อาจมีหลายระดับ ที่เขาเรียกว่าดวงจิต (อันนี้ไม่แน่ใจ)
    ดวงจิตที่ว่านี้ มีความเป็นอมตะหรือเปล่าครับ
     
  5. หล่อลำน้ำ

    หล่อลำน้ำ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 เมษายน 2008
    โพสต์:
    489
    ค่าพลัง:
    +40
    เอ้ย ... กลิ่นคุ้นนะ เจ้าหมอนี่ ... หึหึ
     
  6. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    ใช่ใคร ๆ ก็อ่านเองได้ศึกษาเองได้ ถ้าเกิดสงสัยจะไปถามใคร
    ที่ยังมีความสงสัยอยู่ไม่ได้เปลื้อง ความสงสัยอยู่
    เมื่อภารดรภาพ รู้ธรรมอันประเสริฐ ก็จะข้ามทะเลทุกข์ได้

    เหตุเพราะว่าประตูเมืองพระนิพพาน นั้นแคบหักหนา ผมเส้นเดียวผ่าออกเป็น ๓ เสี้ยวเอาแต่เสี้ยวเดียวไปแยงเข้าที่
    ประตูนิพพานก็ยังคับ แทบเข้าไม่ได้

    มนุษย์กำลังกลับสู่ความเป็นสสารพลังงาน
    และต้องทำลายตัวมันเอง สสารและพลังงานก็จะหมดไปจาก

    โลกคือหมู่สัตว์ รวมทั้งการสิ้นอายุไขย์ของมวลมนุษยชาติ นี้เป็นทฤษฎีที่ทำได้จริง และก็พระพุทธเจ้าทำสำเร็จไปก่อนหน้าเราแล้วก็ดีนับไม่ถ้วน

    พระเยซูเคยกล่าวไว้ว่า เลือดและก้อนเนื้อไม่สามารถเข้าแผ่นดินพระเจ้าได้

    พระเยซูจึงตรัสว่า
     
  7. ปลาทอด

    ปลาทอด Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    201
    ค่าพลัง:
    +44
    ความรู้ไม่มีที่สิ้นสุด เปรียบได้กับการแสวงหาขอบสิ้นสุดของจักรวาลนี้ที่ยากจะรู้ได้ว่ามีจุดสิ้นสุดที่ตรงไหน ความรู้ก็เป็นเช่นเดียวกันนั้น อนุโมทนาสาธุ ^____^
     
  8. ^ ^

    ^ ^ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    569
    ค่าพลัง:
    +1,279
    ดูนิยาม แล้วแปลกๆ นะครับ ไอสไตน์ กล่าวไว้อย่างนี้หรือ
    เชื่อไอสไตน์ หรือจะเชื่อคุณดีละ

    ตอบ : ไอสไตน์ไม่ใช่ชาวพุทธยังไงๆ ก็คงพูดไม่เหมือนผมหลอกครับ
    ถึงแม้ว่าไอสไตน์จะรู้จักศาสนาพุทธอยู่บ้างแต่ก็ไม่ได้ศึกษาให้ลึกซึ้งนัก
    เพราะดันเสียชีวิตไปซะก่อน แต่ถ้าไอสไตน์ ได้รู้จัก ปรมัถธรรม
    อสังขตธรรม สังขตธรรม แล้วเขาอาจจะพูดเหมือนผมก็ได้นะ


    กล่าวถึงธาตุสี่ หรือโลกธาตุ แล้วธาตุเหล็ก ธาตุไม้ ละ รวมได้ไหม

    ตอบ : ธาตุเหล็ก ธาตุไม้ มันตำราโหรจีน รวมไม่ได้ครับคนละตำราเด๋วจะงงกันไปใหญ่
    (หรือจะมองว่า ธาตุเหล็ก ธาตุไม้ คือ สสาร (m) ก็ได้ครับ แบบนี้อาจจะไม่งง)


    แล้วหลุมดำที่ว่านี้ เป็นอย่างไรครับ?

    ตอบ : แล้วผมจะเล่าให้ฟังอีกทีครับ อยู่ในกำเนิดจักรวาลที่จะพูดต่อไปครับ


    ทำไมพลังงานกลับกลายป็นนิพพานไปละครับ หรือว่าสิ่งนี้เป็นเพียงอุดมคติ

    ตอบ : พลังงาน(E)ที่ถูกสสาร(m)ขังไว้ คือ ชีวิต (E/m)และ มันถูกเชื่อมด้วย
    เครื่องหมาย = โดยที่อีกข้างคือ c^2 หรือ นิพพาน นะครับ
    (ขออภัยที่ทีแรกผมอะบายไม่เคลียร์ครับ)


    สิ่งที่กล่าวมานี้เป็นแค่พลังธรรมชาติหรือเปล่าครับ
    เข้าใจว่าจะถูกโยงกับวิทยาศาสตร์ สิ่งที่กล่าวมามีใครบ้างที่ยอมรับในทฤษฏีนี้บ้างครับ

    ตอบ : สิ่งที่กล่าวมาทั้งหมด เป็นมุมมองของผมที่เป็นชาวพุทธ แล้วมองทฤษฎีสัมพัทธภาพ
    ตามหลักการของชาวพุทธ แล้วนำมาขายผลอีกที่ในแบบของผมครับ มีใครยอมรับหรือเปล่า
    ไม่ทราบครับ เพราะ ผมเพิ่งเขียนในเว็ปพลังจิตเป็นที่แรก ถือเป็นการจุดประเด็นในอีกแง่มุมหนึ่ง
    ที่น่าจะศึกษาค้นคว้ากันต่อไปนะครับ




    ปล. สังขตธรรมได้แก่ จิต เจตสิก รูป / อสังขตธรรม คือ นิพพาน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 มกราคม 2009
  9. ^ ^

    ^ ^ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    569
    ค่าพลัง:
    +1,279
    ขอติดไว้ก่อนนะครับ ช่วงดึกๆ จะมาใหม่ครับ ^ ^
     
  10. เมตตาวิหารี

    เมตตาวิหารี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    671
    ค่าพลัง:
    +437
    มีหนังสือที่แต่งได้ดีอยู่เล่ม " ไอสไตน์รู้ พระพุทธเจ้าเห็น " ลองอ่านดูนะครับ
     
  11. The Seraphim

    The Seraphim Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    4
    ค่าพลัง:
    +98
    จะพูด จะเขียนยังใช้อักขรวิธีไม่ถูก
    ค่อนจะแสดงปัญญา
     
  12. murano

    murano Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มกราคม 2009
    โพสต์:
    134
    ค่าพลัง:
    +57
    อยากจะบอกว่า... อย่าทำอะไรให้มันเวอร์เกินไป คนเขาจะขาดความเชื่อถือ
    เราเชื่อแน่ๆ ว่า อภิญญานั้นมีจริง โดยเฉพาะทิพยจักขุ (ตาทิพย์ หูทิพย์) และเจโตปริยญาณ (ล่วงรู้ใจคน) แต่เพราะว่ายังไม่ได้อภิญญา จึงไม่รู้ว่า นอกจากที่ว่ามา อภิญญาทำอะไรได้อีกบ้าง มีขอบเขตที่ตรงไหน

    แต่คิดว่า ในเมื่อเป็นเรื่องของจิต ขอบเขตของอภิญญา ก็น่าจะอยู่ในขอบเขตของจิต เรื่องเหาะเหินเดินอากาศ เสกน้ำให้แข็ง ฯลฯ จึงไม่น่าจะจริง แต่เป็นการเล่าลือ ของคนที่ ไม่มี อภิญญา

    ส่วนการตั้งคำถามแบบนี้นั้น รับรองได้ว่า ต่อให้มีผู้ที่มีอภิญญาจริง เขาก็จะไม่ตอบ เพราะถ้าเขาตอบ คุณจะเชื่อหรือ ดูจากลักษณะคำถามของ จขกท. ก็รู้แล้ว ถ้าคุณเจอผู้มีอภิญญาจริง เชื่อได้เลยว่า คุณก็จะตั้งคำถามแบบไม่รู้จบ ตั้งแบบจับผิดด้วย เพราะเรื่องแบบนี้ มันยากที่จะเชื่อ
    (แต่เราคิดว่า เรื่องดวงดาวนี่ น่าจะเกินขอบเขตของจิตวิญญาณนะ)

    เรื่องพวกนี้ เป็นเรื่องของคนส่วนน้อยนิด การเปิดเผยต่อที่สาธารณะ รังแต่จะมีผลเสียต่อตนเอง... กลายเป็นตัวตลก อับดุล


    แต่สุดท้าย ทิพยจักขุญาณ และเจโตปริยญาณนั้น มีจริงแน่... และก็คงต้องบอกด้วยว่า ของจริงนั้นมีอยู่ แต่ที่เห็นๆ นั้น มักไม่จริง
    อภิญญา ไม่ใช่สิ่งที่จะได้มาอย่างง่ายๆ เพราะฉะนั้น ผู้ที่ได้อภิญญา ย่อมไม่นำมาดูดวงกันเล่นๆ หรือเอามาเล่นเป็นมายากลหรอก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 มกราคม 2009
  13. หล่อลำน้ำ

    หล่อลำน้ำ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 เมษายน 2008
    โพสต์:
    489
    ค่าพลัง:
    +40
    อับดุลเอ้ย ................. เอ้ย
    ถามไรตอบได้ ............. ได้
    หวยงวดหน้าออกอะไร .... ไม่รู้
    อ้าวไหนว่าถามไรตอบได้ . ได้
    ถามหวยเมื่อกี้นี้ ........... ไม่รู้

    ตกลงว่าอับดุล มีแค่คำตอบว่า เอ้ย ได้ ไม่รู้
    แค่นี้หรือ อัลดุล หรือว่า.... อับดุลเป็นบ๊อท
     
  14. ภราดรภาพ

    ภราดรภาพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,578
    ค่าพลัง:
    +2,762
    คิดได้ไงเอ้ย 555+
     
  15. เจ้าหญิงแพร

    เจ้าหญิงแพร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กันยายน 2008
    โพสต์:
    378
    ค่าพลัง:
    +390
    เถียงกันเรื่องอะไรเนี่ย เจ้าของกระทู้คงเซ็งตาย
     
  16. ^ ^

    ^ ^ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    569
    ค่าพลัง:
    +1,279
    กำเนิดจักรวาล

    อันที่จริงจักรวาลเกิดๆ ดับๆ มานับครั้งไม่ถ้วน และก็มีคนเคยย้อนไปดูเยอะแล้ว
    ทั้งที่มีบันทึกไว้ และไม่ได้บันทึกไว้ ในส่วนที่มีบันทึกไว้นั้นอยู่ใน "อัคคัญญสูตร"
    กับ "พันธสัญญาเก่า" บท Genesis มีให้อ่านอยู่ ถึงแม้ว่าเราจะหยิบเอา
    คำภีร์ทั้ง 2 นี้มาอ่าน และ จินตนาการตาม มันก็ยังไม่เท่ากับการย้อนไปดูเองอยู่ดี
    เพราะว่ามันมีโอกาศที่จะจินตนาการผิดพลาดไปจากความเป็นจริงได้

    ถึงแม้ว่าผมจะอธิบายให้ฟังได้ แต่คุณก็ยังมีโอกาศจินตนาการผิดได้อยู่ดี แต่ไม่เป็นไร
    ยังไงผมก็บอกแล้วว่าจะเล่าให้ฟัง ก็ต้องรักษาสัญญาที่ให้ไว้

    กำเนิดจักรวาล หลังจากที่สรรพสิ่งในกัปเก่าจบลง ไม่มีอะไรเหลือ ดวงดาว ไม่มี
    สวรรค์ล่มไม่เหลือไปถึงสวรรค์ของพรหมชั้นต้นๆ ใน มิติ นี้เป็นเพียงความว่างเปล่า
    ที่มีแต่ธาตุน้ำ [ที่ผมหมายถึงการเคลื่อนไหวของพลังงาน (E) หรือธาตุไฟ]
    แต่ธาตุไฟก็ไม่มีอยู่ ดังนั้นธาตุน้ำจึงไม่ทำงาน มิตินี้จึงเป็นเพียงปริมาตรว่างเปล่า
    ที่พร้อมจะมีอะไรสักอย่างอยู่ข้างใน

    เหตุการเป็นอย่างนั้นอยู่นานจนกระทั่ง พรหม ตนหนึ่งในสวรรค์ชั้นพรหมตายลง
    แล้วได้มาเกิดในมิตินี้มีชื่อว่า อาภัสสรพรหม ซึ่งในขณะนั้นมิตินี้ยังไม่มีอะไร
    แต่ความมีชีวิต จึงจำเป็นต้องมีรูปร่าง และรูปร่างในแบบที่เรียบง่ายที่สุดคือ แสง
    เพื่อกำหนดขอบเขตของความมีตัวตนแห่งชีวิต ดังนั้นสิ่งแรกที่สุดที่เกิดขึ้น
    ในจักรวาลนี้คือ "แสง" และมันคือแสงแห่งชีวิต

    เมื่อมีแสงที่เป็น พลังงาน เกิดขึ้น ดังนั้น ธาตุน้ำ จึงทำงานทันที ณ ตำแหน่งที่
    อาภัสสรพรหมอยู่ เป็นตำแหน่งของแสง ธาตุน้ำตรงนั้นจะทำงานเคลื่อนไหว
    ในลักษณะทำให้พลังงานแสงแผ่ซ่านออกไป (หรือที่เราเรียกว่าการแผ่รังสี)

    และเพื่อให้มิติอยู่ในสภาพสมดุลย์ ณ ตำแหน่งที่ตรงข้ามกับที่อาภัสสรพรหมอยู่
    จะกลายเป็นเงามืดที่แสดงถึงความไม่มี อันเกิดจากปรากฎการณ์ของธาตุน้ำ
    ในลักษณะของการยึดเหนี่ยวเกาะกุม หรือที่เราเรียกว่าแรงดึงดูดนั่นเอง

    ณ ตำแหน่งที่อาภัสสรพรหมอยู่ คือ ตำแหน่งที่ "มี" กับ ตำแหน่งที่มีเงาอยู่
    คือตำแหน่งที่ "ไม่มี" และ มันมี หรือ ไม่มีอะไร ตรงนี้ผมไม่แน่ใจนัก
    มันเป็นเรื่องที่เราควรจะศึกษาต่อไป

    ณ วันนี้ เรารู้แล้วว่า สิ่งที่เป็นแสง ในอวกาศมิติแห่งนี้ มันคือ ดาวฤกษ์
    และ สิ่งที่เป็นเงามืด ในอวกาศคือ หลุมดำ แต่เราจะบอกว่า แสง และ เงา
    ที่เกิดขึ้นในครั้งแรกนั้น มันจะเป็น ดาวฤกษ์ หรือ หลุมดำ ยังไม่ได้
    เพราะว่า ดาวฤกษ์ และ หลุมดำ มันประกอบไปด้วย สสาร ซึ่งในขณะนั้น
    สสาร ยังไม่เกิด

    ต่อมาเมื่อมีพรหมในสวรรค์ชั้นพรหมในส่วนที่ยังไม่ถูกทำลายตายลงมา
    เกิดเป็นอาภัสสรพรหมเพิ่มขึ้นๆ ระบบต้องจัดสมดุลย์ให้คงอยู่ เงามืด ที่เป็น
    ตัวแทนของความไม่มี จึงขยายขนาดตามใหญ่ขึ้นๆ มีแรงดึงดูดมากขึ้นๆ
    และมันมีแรงดึงดูดมากเสียจน ดูดเอาอาภัสสรพรหมโชคร้าย เข้าไปตายเป็นเบือ
    ด้วยปฏิกริยาระหว่างแสงที่เป็นร่างของอาภัสสรพรหมม กับ แรงดึงดูด หรือ
    แรงโน้มถ่วงสูงของเงา ทั้ง 2 สิ่งกระทำต่อกัน ตามสมการ E/r^2 = m
    (สมการตามที่ผมอธิบายไว้ใน คคห.ก่อนหน้านี้) จากนั้นมิติว่างๆ นี้จึงได้
    สสารชนิดแรกเกิดขึ้นตามมา

    สสารชนิดแรกที่เกิดขึ้นในครั้งนั้น เป็นของเหลว พระพุทธเจ้าเรียกว่า ง้วนดิน
    ที่ลอยอยู่บนธาตุน้ำ (หรือเงา หรือสนามแรงโน้มถ่วงสูง ที่ผมกล่าวไว้)
    โมเสส เรียกว่า แผ่นน้ำ ที่กั้นอยู่ระหว่าง แสง กับ เงา ที่นักปราชญ์รุ่นเก่า
    (อลิส โตเติ้ล มั๊ง) เข้าใจผิดว่า แผ่นน้ำนั้นคือ ทะเล เลยเข้าใจผิดเลยเถิดไปว่า
    โลกแบน และ โลกเกิดก่อน ดวงดาว

    เมื่อมีแผ่นน้ำเกิดขึ้น เป็นฉนวนกั้นกลาง ระหว่าง แสง กับ เงา เหตุการณ์จึงสงบลง
    อาภัสสรพรหมได้ลงมากินง้วนดิน หรือ แผ่นน้ำอันนี้ แล้วเกิดติดใจในรสชาติ
    กินง้วนดินกันจนหมด เหตุวิกฤติ จึงเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง สนามแรงโน้มถวงสูง
    จึงทำงานได้โดยอิสระ ดูดเอาอาภัสสรพรหม มาบทขยี้จนตาย และ เกิดแผ่นสสาร
    ขึ้นมาใหม่ เหุตการณ์ซ้ำเดิมแบบนี้อยู่ 3 ครั้ง สสารที่เกิดขึ้นในแต่ละครั้ง
    ก็หยาบขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งตรงกับทฤษฎี BigBang ที่บอกว่า เมื่อเกิดบิ๊กแบง
    ขึ้นหลายครั้ง จะทำให้เกิด ธาตุหนัก ชนิดใหม่ขึ้นเรื่อยๆ ตามจำครั้งที่เกิดบิ๊กแบง

    สสารที่อาภัสรพรหมกินเข้าไปนั้นทำให้ อาภัสสรพรหมบางตนเปล่งแสงเบาลง
    และบางตนถึงขนาดที่มีผิวหนังเกิดขึ้น และ จากนั้น ดวงดาว น้อยใหญ่ ดาวฤกษ์
    ดาวเคราะห์ จึกเกิดขึ้นตามมา ซึ่งที่จริงแล้ว ดวงดาวต่างๆ ในจักรวาลนี้ก็คือ
    อาภัสสรพรหมที่แปรสภาพไปแล้วนั่นเอง

    ในทฤษฎี BigBang เป็นทฤษฏีที่บอกถึงการเกิดดับของ ดาวฤกษ์ดวงหนึ่ง
    ได้ดีมาก แต่การเหมารวมเอาว่า ดวงดาวทั้งหมดในจักรวาล เกิดขึ้นพร้อมๆ กัน
    จาก BigBang ครั้งใหญ่ เป็นความคิดเห็นที่ผิดพลาดอย่างมาก เพราะ
    ศาสดาใหญ่ทั้ง 2 คือ พระพุทธเจ้า และ โมเสส ได้ย้อนไปดูแล้วไม่ใช่อย่างนั้น
    หากนักวิทยาศาสตร์ทั้งหลายจะยอมเชื่อเรื่องการระลึกชาติ แล้วย้อนกลับไปดูมั่ง
    ก็น่าจะดี จะได้เข้าใจอะไรๆ มากขึ้น และ จักรวาลเกิดดับมานับครั้งไม่ถ้วนแล้ว
    มนุษย์ทุกคน ย่อมมีความเป็นไปได้ที่จะเคยเกิดเป็นอาภัสสรพรหมมาแล้วทั้งนั้น
    มันจึงไม่ใช่เรื่องยากนักที่จะย้อนกลับไปดูจุดกำเนิดของจักรวาลนี้

    (ตอบส่วนที่ค้างไว้ เรืองหลุมดำครับ)
    ในดาวฤกษ์ดวงหนึ่งจะประกอบด้วย แนวแกนแม่เหล็กเหลว ที่ทำหน้าที่เป็น
    แรงโน้มถ่วงของดวงดาว และ พลัสม่า ที่ทำปฏิกริยานิวเคลียร์แผ่กระจากออกไป
    แรงโน้มถ่วง และ ปฏกริยานิเคลียร์ 2 อย่างนี้อยู่ในสภาพสมดุลย์ ดาวฤกษ์
    จึงยังคงเป็นดาวฤกษ์อยู่ได้ จนกระทั่งปฏิกริยานิวเคลียร์ที่เป็นแรงสาดกระจายหมดลง
    แรงโน้มถ่วงที่เกิดจากแนวแกนแม่เหล็กเหลว ที่ใจกลางดาวฤกษ์ จึงทำงานโดยอิสระ
    และได้ดึงดูดเอาทุกสิ่งทุกอย่างเข้ามาแม้แต่แสงก็หนีไม่พ้น จนกลายเป็นหลุมดำในที่สุด
    และ หลุมดำมันจะดูดทุกอย่างรอบๆ ตัวมันเข้าไปสะสมเป็นพลังงาน จนกระทั้ง
    มันสะสมจนถึงจุดที่จะเกิด BigBang แล้วกลับมาเป็นดาวฤกษ์อีกครั้งครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 มกราคม 2009
  17. siamgirl

    siamgirl เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,682
    ค่าพลัง:
    +2,742
    ....
    เขาคงมาตอบให้หรอก
     
  18. amu

    amu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    178
    ค่าพลัง:
    +149
    ถ้าดาวเรียงตัวกัน และอะไรก็ตามที่มนุษย์โลกจะสูญพันธ์ ก้อขอให้สิ่งที่มีชีวิต "ยุคใหม่" ตามระบบนิเวศบนดาวดวงนี้ ไม่เห็นแก่ตัว และบ้าอำนาจ เหมือน มหาอำนาจแห่งชีวิตในยุคปัจจุบันก็พอ

    เพราะฉะนั้น อามูจะฝัง บันทึกอามูรูปแบบ ภาพวาดในสวนหลังบ้านคุณแม่ ให้ลึกซัก เมตรนึง เผื่อโลคยุคนี้สลายไป ยุคใหม่เกิดขึ้น คงมีใครสักคนที่ขุดมันพบและเข้าใจในสิ่งที่อามูสื่อให้พวกเขารู้

    งุงิ

    อย่างน้อย ขอเสนอ เศรษฐกิจพอเพียง ก่อนเลย เพราะ สิ่งมีชีวิตยุคใหม่ จะได้ไม่ทำลายสภาวะนิเวศน์ของดาวให้พังแบบสิ่งมีชีวิตยุคนี้

    เฮ้อ (^^)'
     
  19. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    สิ่งที่ไม่ควร คิด 4อย่าง ...เพราะอาจเป็นสาเหตุของการเป็นบ้าได้
    1 พุทธวิสัย
    2 ฌานวิสัย
    3 โลกวิสัย
    4......แปะไว้ก่อน เดี๋ยวมาบอก

    แต่หากถ้าถามเพราะ อยากลองภูมิ หรือ อยากรู้ว่า ผู้มีอญิญญามีจริงไหม อย่างนี้ก้ต้องลองฝึกเองครับ...มาฝึกมั๊ย...
     
  20. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    ดูก่อนกุลบุตร ท่านทั้งปวงจงตั้งใจ เราจะกล่าววาจาอันไม่เปลี่ยนแปลงนี้ ดูก่อนบัณฑิตทั้งหลาย ท่านทั้งหลายจงอย่างทะเลาะกันเลย เพราะพระโพธิญาณของของพระตถาคตเป็นอจินไตย
     

แชร์หน้านี้

Loading...