คนมีญานมีพลังจิตถอดจิตฯลฯที่อยู่ในเว็บนี้ ช่วยผมหน่อยนะครับ

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย arinrum, 23 มกราคม 2009.

  1. to2504

    to2504 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,449
    ค่าพลัง:
    +1,230
    งัยต่ออีกท่านขจรศักดิ์
     
  2. to2504

    to2504 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,449
    ค่าพลัง:
    +1,230
    อ้าว กำลังฟัง อยู่ แหม่ เหนื่อยซะและ ว้า
     
  3. e-Q

    e-Q สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +0
    อันที่จริงตอนนี้พระพุทธเจ้าครบ 5 พระองค์แล้วครับ มันคือ 5 ศาสนาเท่านั้นเอง เทียบได้ดังนี้
    1.พุทธ
    2.คริสต์
    3.พราหมณ์
    4.อิสลาม
    5.ซิกส์
    สอนกันคนละแบบแต่มีจุดร่วมที่เดียวกัน
    5 พุทธเกษตรไม่คาบเกี่ยวกัน ถ้ารวม 5 คำสอนได้เป็นหนึ่ง ทุกคนจะเข้าใจระบบทั้งหมดเอง
     
  4. เจ้าหญิงแพร

    เจ้าหญิงแพร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กันยายน 2008
    โพสต์:
    378
    ค่าพลัง:
    +390
  5. เจ้าหญิงแพร

    เจ้าหญิงแพร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กันยายน 2008
    โพสต์:
    378
    ค่าพลัง:
    +390
    พระโคธิกะทำอัตตวินิบาต(ฆ่าตัวตาย), การฆ่าตัวตายกับการฆ่ากิเลสตัณหาตายอย่างไหนประเสริฐกว่ากัน

    โคธิกสูตรที่ ๓
    ว่าด้วยพระโคธิกะทำอัตตวินิบาตปรินิพพาน<!--sizec--><!--/sizec-->

    <!--sizeo:4-->
    <!--/sizeo-->[๔๘๘] ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วอย่างนี้
    สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระวิหารเวฬุวัน อันเป็นสถานที่พระราชทานเหยื่อแก่กระแต เขตกรุงราชคฤห์ ฯ ก็สมัยนั้นแล ท่านโคธิกะ อยู่ที่กาลศิลาข้างภูเขาอิสิคิลิ ฯ
    [๔๘๙] ครั้งนั้นแล ท่านโคธิกะเป็นผู้ไม่ประมาท มีความเพียร มีจิตมั่นคงอยู่ ได้บรรลุเจโตวิมุติอันเป็นโลกีย์ ภายหลังท่านโคธิกะได้เสื่อมจากเจโตวิมุติอันเป็นโลกีย์นั้น แม้ครั้งที่ ๒ ท่านโคธิกะเป็นผู้ไม่ประมาท มีความเพียร มีจิตมั่นคงอยู่ ได้บรรลุเจโตวิมุติอันเป็นโลกีย์แม้ในครั้งที่ ๒ ก็ได้เสื่อมจาก เจโตวิมุติอันเป็นโลกีย์นั้น แม้ครั้งที่ ๓ ท่านโคธิกะเป็นผู้ไม่ประมาท มีความเพียร มีจิตมั่นคงอยู่ ได้บรรลุเจโตวิมุติอันเป็นโลกีย์ แม้ในครั้งที่ ๓ ก็ได้เสื่อมจากเจโตวิมุติอันเป็นโลกีย์นั้น แม้ครั้งที่ ๔ ท่านโคธิกะเป็นผู้ไม่ประมาท มีความเพียร มีจิตมั่นคงอยู่ ได้บรรลุเจโตวิมุติอันเป็นโลกีย์ แม้ในครั้งที่ ๔ ก็ได้เสื่อม จากเจโตวิมุติอันเป็นโลกีย์
    นั้น แม้ครั้งที่ ๕ ท่านโคธิกะเป็นผู้ไม่ประมาท มีความเพียร มีจิตมั่นคงอยู่ ได้บรรลุเจโตวิมุติอันเป็นโลกีย์ แม้ในครั้งที่ ๕ ก็ได้เสื่อม จากเจโตวิมุติอันเป็นโลกีย์นั้น แม้ครั้งที่ ๖ ท่านโคธิกะเป็นผู้ไม่ประมาท มีความเพียร มีจิตมั่นคงอยู่ ได้บรรลุเจโตวิมุติอันเป็นโลกีย์ แม้ในครั้งที่ ๖ ก็ได้เสื่อม จากเจโตวิมุติอันเป็นโลกีย์นั้น แม้ครั้งที่ ๗ ท่านโคธิกะเป็นผู้ไม่ประมาท มีความเพียรมีจิตมั่นคงอยู่ ก็ได้บรรลุเจโตวิมุติอันเป็นโลกีย์อีก ฯ ครั้งนั้นแล ท่านโคธิกะได้เกิดความคิดอย่างนี้ว่า เราได้เสื่อมจากเจโตวิมุติอันเป็นโลกีย์ถึง ๖ ครั้งแล้ว ถ้ากระไรเราพึงนำศัสตรามา ฯ
    [๔๙๐] ลำดับนั้นแล มารผู้มีบาปทราบความปริวิตกแห่งจิตของท่าน โคธิกะด้วยจิตแล้วจึงเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ครั้นแล้ว ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคด้วยคาถาว่าข้าแต่พระองค์ผู้มีจักษุ มีเพียรใหญ่ มีปัญญามาก รุ่งเรืองด้วยฤทธิ์และยศ ก้าวล่วงเวรและภัยทั้งปวง ข้าพระองค์ขอถวายบังคมพระบาททั้งคู่
    ข้าแต่พระองค์ผู้มีเพียรใหญ่ สาวกของพระองค์อันมรณะครอบงำแล้วย่อมคิดจำนงหวังความตาย ข้าแต่พระองค์ผู้ทรงไว้ซึ่งความรุ่งเรือง ขอพระองค์จงห้ามสาวกของพระองค์นั้นเสียเถิด ฯข้าแต่พระผู้มีพระภาคผู้ปรากฏในหมู่ชน สาวกของพระองค์ยินดีในพระศาสนา ยังไม่ได้บรรลุพระอรหันต์อันตัดเสียซึ่งมานะ ยังเป็นพระ
    เสขะอยู่ ไฉนจะพึงกระทำกาลเสียเล่า ฯก็เวลานั้น ท่านโคธิกะได้นำศัสตรามาแล้ว ฯ

    [๔๙๑] ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคทรงทราบว่า ผู้นี้เป็นมารผู้มีบาป จึง ได้ตรัสกะมารผู้มีบาปด้วยพระคาถาว่า
    <!--sizeo:5--><!--/sizeo-->ปราชญ์ทั้งหลายย่อมทำอย่างนี้แล ย่อมไม่ห่วงใยชีวิต โคธิกะภิกษุ ถอนตัณหาพร้อมด้วยราก นิพพานแล้ว ฯ<!--sizec--><!--/sizec-->
    [๔๙๒] ครั้งนั้นแล พระผู้มีพระภาคตรัสเรียกภิกษุทั้งหลายมาแล้วตรัส ว่า ภิกษุทั้งหลายเรามาไปสู่กาลศิลา ข้างภูเขาอิสิคิลิ อันเป็นที่โคธิกกุลบุตร นำศัสตรามาแล้ว ฯ
    ภิกษุเหล่านั้น กราบทูลรับพระดำรัสของพระผู้มีพระภาคแล้ว ฯ
    ครั้งนั้นแล พระผู้มีพระภาคพร้อมด้วยภิกษุหลายรูปได้เข้าไปยังกาลศิลาข้างภูเขาอิสิคิลิ ฯ
    พระผู้มีพระภาคได้ทอดพระเนตรเห็นโคธิกะมีคออันพลิกแล้ว นอนอยู่ บนเตียงที่ไกลเทียว ก็เวลานั้นแล ควันหรือหมอกพลุ่งไปสู่ทิศตะวันออก ทิศตะวันตก ทิศเหนือ ทิศใต้ทิศเบื้องบน ทิศเบื้องต่ำ และอนุทิศ ฯ
    [๔๙๓] ครั้งนั้นแล พระผู้มีพระภาคตรัสเรียกภิกษุทั้งหลายว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย พวกเธอเห็นไหม ควันหรือหมอกนั้นพลุ่งไปสู่ทิศตะวันออก ทิศ ตะวันตก ทิศเหนือ ทิศใต้ ทิศเบื้องบน ทิศเบื้องต่ำ และอนุทิศ เมื่อภิกษุเหล่านั้นกราบทูลรับพระดำรัสแล้วจึงตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย นั่นมารผู้มีบาปเที่ยวแสวงหาวิญญาณของโคธิกกุลบุตร ด้วยคิดว่า วิญญาณของโคธิกกุลบุตรตั้ง อยู่ ณ ที่ไหน ดูกรภิกษุทั้งหลาย โคธิกกุลบุตร มีวิญญาณอันไม่ตั้งอยู่แล้วปรินิพพาน
    แล้ว ฯ
    [๔๙๔] ครั้งนั้นแล มารผู้มีบาปถือพิณมีสีเหลืองเหมือนมะตูมสุก เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ครั้นแล้ว ได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคด้วยคาถาว่า
    ข้าพระองค์ได้ค้นหาวิญญาณของโคธิกกุลบุตร ทั้งในทิศเบื้องบน ทั้งทิศเบื้องต่ำ ทั้งทางขวาง ทั้งทิศใหญ่ ทิศน้อยทั่วแล้ว มิได้ประสบ
    โคธิกะนั้นไป ณ ที่ไหน ฯ

    [๔๙๕] พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่านักปราชญ์ผู้ใดสมบูรณ์ด้วยธิติ มีปรกติเพ่งพินิจ ยินดีแล้วในฌานทุกเมื่อ พากเพียรอยู่ตลอดวันและคืน ไม่มีความอาลัยในชีวิต ชนะเสนาของมัจจุราชแล้ว ไม่กลับมาสู่ภพใหม่ นักปราชญ์นั้นคือโคธิกกุลบุตรได้ถอนตัณหาพร้อมด้วยราก ปรินิพพานแล้ว ฯ
    พิณได้พลัดตกจากรักแร้ของมารผู้มีความเศร้าโศก ในลำดับนั้น ยักษ์ นั้นมีความโทมนัสหายไปในที่นั้นนั่นเอง ฯ<!--sizec--><!--/sizec-->

    <!--sizeo:4--><!--/sizeo-->ที่มา : พระสุตตันตปิฏก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค

    คำถามทิ้งทวน
    1. การฆ่าตัวตายผิดหรือไม่สำหรับบุคคลทั่วไป???
    2. เหตุใดการฆ่าตัวตายของพระโคธิกะจึงไม่ตกนรก???
    3. การฆ่าใดที่ประเสริฐที่สุด???
    4. การฆ่าใดที่ทำให้บุคคลเข้าถึงซึ่งนิพพาน???<!--sizec--><!--/sizec-->
     
  6. god-war

    god-war สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มกราคม 2009
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +1
    ขอต่อที่คุณkhajonsak9999 พูดนะครับ นอกเหนือจากมนุษย์ล้วนเป็น อขณะ ที่ไม่สามารถหลุดพ้นได้ครับ คนเราทุกวันนี้แท้จริงแล้วไม่มีตัวตนอยู่ ไม่มีสิ่งที่คิดว่าเป็นตัวเราอยู่ ที่เราหลงกันอยู่ตอนนี้ก็เรื่องตัวเรามีอยู่นี่แหละครับ คิดว่าจิตนี้ กายนี้มันเป็นของเรา จริงๆแล้วไม่มีสิ่งใดเกิดจากประสงค์ของเราแท้ๆครับ มันถูกกำหนดไว้หมดแล้ว เป็นระบบสมดุลแห่งพลังครับ แล้วไอ้ที่ต้องมาเวียนว่าตายเกิดกันนี่ก็ไม่มีนะครับ เมื่อตัวตนแม้ชั่วขณะจิตยังไม่มีแล้วมันจะมาเวียนว่ายตายเกิดกันที่ไหนครับ ปรากฎการณ์ทุกอย่างนี่มันเป็นตัวกรรมทั้งหมดครับ ไม่มีการสร้างกรรมใหม่ เก่า ใดๆทั้งสิ้น และสิ่งที่เรียกว่า ตัวตน ตัวนี้จะมีจริงก็ เช่น พระโสดาบัน ขึ้นไป อันนี้เทียบได้ว่าเป็นกบฎจากของเดิมครับ เดิมจิตเป็นอวิชชาอยู่ ไม่มีตัวตนอยู่ดีๆ ดันเห็นแจ้งในตัวตนซะงั้น เกิดเป็นวิชชาซะงั้น มีตัวตนขึ้นมาจริงซะงั้น เข้าสู่ความว่างที่เป็นธรรมชาติดั้งเดิมซะงั้น ทั้งที่ตอนแรกก็มีธรรมชาตินี้อยู่แต่ดันไม่ตระหนักรู้มาก่อนซะงั้น พอมารู้นี่ได้รับตัวตนจริงๆมาซะงั้น 555 เก๋าดีแฮะ เรื่องของเหตุผลเอย ภพ-ชาติ เอย ประสบการณ์ทางจิต เอย นี่ก็มายาล้วนๆครับ แต่ในระดับที่เข้าถึงกันตอนนี้ไม่ใช่ว่าไม่มีจริงนะครับ แต่ขึ้นอยู่กับแต่เฉพาะบุคคล และที่คิดว่าฝึกสมาธิแล้วได้ขั้นนั้นขั้นนี้มันก็มีจริง แต่มันไม่ใช่มาจากตัวเราฝึก แต่กรรมมันเป็นอย่างนั้น ไม่ใช่แค่คิดจะทำก็ทำได้กันหมด แสดงฤทธิ์ได้กันหมด อย่างนั้นสมดุลแห่งพลังมันก็พังหมดสิครับ
    โปรดพิจารณา
    ปล.ขอความเห็นจาก khajonsak9999 ด้วยก็ดีนะครับ
     
  7. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    จากพระสูตร โคธิกสูตร

    ตรงคำว่า ไม่ประมาท มีความเพียร มีจิตมั่นคงอยู่

    สามคำนี้ เป็นสภาวะที่บ่งบอกได้ว่า มีมรณะสติกรรมฐานอยู่(ไม่ประมาท)
    มีสัมมาสติโดยรอบ(มีความเพียร) มีสัมมาสมาธิ(จิตมั่นคงอยู่) ทำให้จิต
    ประกอบด้วยองค์ฌาณอัตโนมัติ(มีเจโตวิมุตติ) เพราะไม่มีความกลัว พยาคติ
    ไม่มีถีนมิททะ แต่หลุดจากฌาณโลกีกย์เพราะมีความฝุ้งซ่านทางธรรม ทำให้มี
    กุกกุจจะ(ปัญญาล้ำหน้า) จึงทำให้ไม่อาจมีปัญญวิมุตติ

    แต่เมื่อปลงร่างกายแล้ว ในขณะที่มีญาณสูงสุดของโลกียญาณ(สังขารุเบกขาญาณ)
    ทำให้เมื่อทำกาล(กา-ละ)ก็ทำให้ปลงความฝุ้งซ่าน และรำคาญเสียได้ จึงบรรลุปัญญา
    วิมุตติและเจโตวิมุตติ จึงปรินิพพาน

    สรุปคือ พระเถระท่านได้อบรมสติปัฏฐาน4 ได้ถึงขั้นสุดของโลกียญาณแล้ว หลังจาก
    นั้นจึงได้ปลงสังขาร และขณะปลงสังขารจิตจึงไม่ฝุ้งซ่านอีก เพราะหมดความยึดมั่น
    ในการยึดถือกายยึดถือใจด้วยปัญญาที่อบรมไว้ดีแล้ว ซึ่งจะต่างจากปุถุชนตรงที่ ปุถุชน
    ไม่ได้อบรมปัญญาไว้อย่างพระเถระ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 มกราคม 2009
  8. den_siam2523

    den_siam2523 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2006
    โพสต์:
    593
    ค่าพลัง:
    +2,267
    ฟุ้งซ๋าน
     
  9. god-war

    god-war สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มกราคม 2009
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +1
    อิอิ งั้นก็ขอละสังขารไปพร้อมกับคุณkhajonsak9999 ดีกว่า อ้อ แต่ก่อนที่จะละสังขารเชิญมาสนทนาธรรมกันสนุกๆที่ http://www.geocities.com/flare333/ ด้วยกันสักนิดสิครับที่หน้าเวบบอร์ด
    เฮ้อ สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม มีกรรมเป็นเครื่องอาศัย แต่มันพูดยากส์ นานๆจะเจอผูถูกเลือกซะที
     
  10. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    คำถามทิ้งทวน
    1. การฆ่าตัวตายผิดหรือไม่สำหรับบุคคลทั่วไป???
    ผิด กว่าจะได้ร่างกายเป็นมนุษย์เป็นของยาก
    2. เหตุใดการฆ่าตัวตายของพระโคธิกะจึงไม่ตกนรก???
    การสำเร็จของท่านพระโคธิกะ เป็นแบบตกกระไดพลอยโจนยามคับขัน และมัจจุราชผู้มีเสนาใหญ่ ก็ค้นหาจิตท่านไม่พบ
    เพราะจิตท่านเข้านิพพาน
    3. การฆ่าใดที่ประเสริฐที่สุด???
    ฆ่ากิเลส
    4. การฆ่าใดที่ทำให้บุคคลเข้าถึงซึ่งนิพพาน???
    ฆ่าความหลงตัวเอง
     
  11. Tboon

    Tboon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,094
    ค่าพลัง:
    +3,424
    มันก็ออกมาจากความคิดเราทั้งหมดนั่นแหละ ทีนี้ความคิดมันออกมาจากไหนก็ดูมันที่นั่น ใช้สติตามดู ให้ต่อเนื่อง หาให้เจอ นั่นแหละต้นตอของทั้งหมด ถ้าหาเจอมันก็จะค่อย ๆ คลายความหลงไปได้เอง
     
  12. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    การเป็นพระโพธิสัตว์คือเรียนวิชาครูถ้าครูไม่ฉลาดก็สอนคนอื่นไม่ได้...ความคิดเห็น....มันเกิดกิเลสนำหน้า ตามไม่ทัน เลยโดนหรอกว่าต้องเป็นครู หากฝึกที่ถูกทาง สติปัฎฐาน สี่ เมื่อถึงจุดหนึ่ง จะเด้งกลับ จึงจะเข้าใจได้ว่า ตัวเองเป็น พระโพธิสัตว์ ไม่ได้บรรลุหรอก...[​IMG]

    ..
     
  13. arinrum

    arinrum เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2009
    โพสต์:
    137
    ค่าพลัง:
    +179
    ขอขอบพระคุณอย่างสูงครับ ที่ช่วยกันตอบคำถามแนะนำให้ครับ(นั่งอ่าน2 ช.ม กว่า)
     
  14. ปลาทอด

    ปลาทอด Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    201
    ค่าพลัง:
    +44
    เมื่อจิตคิดหลงผิด คิดร้าย ใจจักร้อนรุ่มทุกเวลา หยุดยาก ยากจะหยุด จิตที่คิดดีอยู่ไหนก็มีสุขหยุดได้ไม่ยาก

    อันนี้คิดเองนะคะ อย่าคิดมาก แห่ะๆ ช่วยนี้กำลังคิดคติธรรมใหม่ๆอยู่


    ความรู้ไม่มีที่สิ้นสุด อนุโมทนาค่ะ ได้ความรู้เพิ่มขึ้นอีกแล้ว สาธุ ^__^
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มกราคม 2009
  15. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    ความรู้ไม่มีที่สิ้นสุด ...ความคิดเห็น มีนะครับ แต่ยังก่อน
     
  16. ปลาทอด

    ปลาทอด Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    201
    ค่าพลัง:
    +44
    ใช้ตัวหนังสือสีแดงจัง อย่ายังก่อนเลยค่ะ โปรดบอกมาเถอะค่ะ เดี๋ยวจะติดพันความรู้สึกต่อกันซะเปล่าๆ อันนี้ความรู้สึกส่วนตัวนะคะ ^__^


    อโหสิ อโหสิ อโหสิ อย่าได้ติดพันความรู้สึกใดๆต่อกันเลย สาธุ อนุโมทนาค่ะ ^__^
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มกราคม 2009
  17. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    เป็นอะไรไปเหรอครับ[​IMG]
     
  18. ปลาทอด

    ปลาทอด Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    201
    ค่าพลัง:
    +44
  19. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    ปลาทอดสามรสอร่อย
     
  20. murano

    murano Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มกราคม 2009
    โพสต์:
    134
    ค่าพลัง:
    +57
    อืม... คุณขจร ดูท่าจะไม่ธรรมดา แต่จะบอกแบบนี้นะครับ...
    สำหรับคนทั่วไป คนโดยส่วนใหญ่ ศรัทธาเป็นสิ่งสำคัญ สำหรับความเชื่อต่างๆ (ไม่ว่าความเชื่อนั้น จะเป็นความจริงก็ตาม)
    ดังนั้น ถ้าท่านจะกรุณา ทำนายวิบัติภัยให้แม่นยำสัก 2 ครั้ง (โดยไม่มีผิดมาคั่นกลาง) รับรองว่า อภิญญาจะกลายเป็นสาธารณะแน่นอน... อิอิ

    ท่านไม่จำเป็นต้องเปิดเผยตัว การปรากฎตัวในเว็บบอร์ดเป็นอิสระในตัวเองในระดับหนึ่ง เพราะจะตอบหรือไม่ตอบก็ได้ เห็นไหมท่าน แม้จิตฉลาดจะมีอวิชชา แต่ก็สร้างสิ่งที่มีประโยชน์ได้ กิเลสตัณหา บางครั้งก็สร้างประโยชน์ต่อพุทธศาสนาได้เช่นกัน

    เอางี้ละกัน ดูดวงข้าพเจ้าหน่อย เพราะข้าพเจ้าสงสัยเป็นครามครัน ข้าพเจ้าอาจทำลายล้างโลกได้ อิอิ

    ล้อเล่นน่ะท่าน เอางี้ละกัน อาทิตย์หน้าจะมีอุบัติภัยอะไรบ้างเอ่ย...


    เอ้อ... คิดอีกที การถามแบบนี้ ดูจะเป็นการปรามาสไปหน่อย งั้นเอาเป็นว่า... อะไรดี อืมๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 มกราคม 2009

แชร์หน้านี้

Loading...