เรื่องเด่น คนมีตาทิพย์ มีจริง...ทุกท่านก็ทำได้

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย HONGTAY, 16 ตุลาคม 2010.

  1. numtalsod

    numtalsod เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    50
    ค่าพลัง:
    +173
    กระทู้อันนี้เป็นแม่ชีพิมพาคนเดียวกันไหมครับ
    http://palungjit.org/threads/%E0%B9...0%B8%B2.5/<!-- google_ad_section_end -->

    เข้าไปดูมาแล้ว เป็นแม่ชีคนเดียวกันค่ะ ถ้าจำไม่ผิดเคยอ่านเจอว่า คุณรักไร้พ่าย เคยพบแม่ชีมาแล้ว
     
  2. wechza

    wechza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    181
    ค่าพลัง:
    +246
    ฤทธิ์นั้นเป็นเรื่องของการเดินอ้มไปนิพพานครับฤทธิ์นั้นจะเกิดได้ก็ต่อเมื่อเรามีบุญเก่าหนุนนำหากท่านบำเพ็ญแต่ไม่มีบุญญาธิการด้านฤทธิ์ต่อให้พระอินทร์มาสอนท่านก้ฝึกไม่สำเร็จยกตัวอย่างพระสาวกในพุทธศาสนามีฤทธิ์ต่างกันไปแล้วแต่บุญของใครบางองค์สำเร็จอรหันต์แต่ท่านก็ไม่ได้มีฤทธิ์อันใดหากแต่ใจของท่านปราศจากกิเลศ
    ยกตัวอย่างอีกเช่นกันพระเทวทัตถึงแม้เหาะเหินเดินอากาสได้ยังต้องตกนรก
    ที่กล่าวมาทั้งหมดแค่อยากเตือนสติอย่าศรัทธาในตัวบุคคลที่มีฤทธิ์แต่จงศรัทธาในพระธรรมคำสอนของพระพุทธองค์หากว่าหลงงมงายในฤทธิ์เดชจะไกลนิพพานออกไปเรื่อยๆนะครับหากบุญพอบำเพ็ญต่อไปเดียวมันก็มาของมันเองครับแต่ย้ำอีกครั้งการมีฤทธิ์ไม่ไช่หนทางไปนิพพานแต่เป็นทางโคงไปนิพพานครับ
     
  3. ไห่เฉากุหลาบไฟ

    ไห่เฉากุหลาบไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    896
    ค่าพลัง:
    +2,177
    :cool::cool::cool: ...................
     
  4. นายดอกบัว

    นายดอกบัว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +5,676
    ผมก็เคยไปหา มาแล้ว เพราะสงสัยเรื่อง นรกสวรรค์ เพราะบังเอิญไปเจออะไรบ้างอย่างที่ไม่มีตัวตน มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า เลยอยากให้หายสงสัยว่านรกสวรรค์มีจริงๆหรือเปล่า
    แต่บุญยังไม่ถึงครับ เคยไปหามา 3 ครั้ง ทั้งสามครั้งยังไม่เห็นอะไรเลย ส่วนเรื่องฤทธินั้นผมไม่ค่อยสนใจ(ดูเหมือนไร้สาระด้วยซ้ำ) แต่ผมยังสงสัยเรื่องนรกสวรรค์อยู่เฉยๆ แต่แนวคงจะไม่ใช่แนวผม ผมออกแนว สมถแบบ พุทธ-โธ มากกว่า

    และก็แม่ชีท่านนี้ ก็คือท่านเดียวกับในบอร์ดที่ผ่านมา
    ต้องลองครับ อย่าพึ่งสรุป ลองไปฝึกดู คนเราบุญ โอกาส ไม่เท่ากัน ลองๆไปดู
    ที่วัดกำแพงบางจาก จรัญสนิทวงค์ ซอย 3 หรือบางครั้งวันพระ วันสำคัญทางพุทธศาสนา ก็จะมีกิจกรรมที่สนามหลวง หรือบางครั้งก็จะออกพื้นที่ ไปธุดงค์ ก็รวมกลุ่มกันตามไปได้
     
  5. wechza

    wechza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    181
    ค่าพลัง:
    +246
    ถึงนายดอกบัวนะครับ
    สวรรค์กับนรกนั้นของจริงผมก้ไม่เคยเห็นแต่มีคนเคยเปรียบเทียบให้ผมฟังไว้อย่างนี้นะครับ
    นรกเปรียบเหมือนสถานบันเทิงผับบาร์ที่มีเสียงอึกทึกคึกโครมให้เข้าไปเที่ยวคงสนุกแต่ให้อยู่ตลอดไปในนั้นลองคิดเอานะครับว่าจะอยู่ได้ใหมส่วนสวรรค์คือวัดครับเงียบสงบอยู่แบบสบายๆผมก็อยากเห็นนะครับนรกสวรรค์เพราะคิดว่าถ้าได้เห็นแล้วผมอาจจะตั้งใจปฎิบัติมากกว่านี้แต่ที่จริงแล้วมันไม่ใช่เลยครับมันเป็นแต่เพียงขออ้างของกิเลศในใจเราเท่านั้นที่มันผลัดวันประกันพรุ่งในการทำความดีเพื่อละกิเลศอย่าสงสัยในสวรรค์หรือนรกเลยครับไม่ช้ารหรือเร็ววันที่เราตายก็ได้เห็นเองอย่างน้อยก่อนเราตายทำความดีเอาไว้ดีกว่านะครับอย่าสแวงหาเลยครับที่จริงแล้วสวรรค์หรือนรกก้อยู่ไม่ไกลเราหรอกครับ
    ถ้าวันใหนใจเราดีใจสบายนั้นคือเราอยู่สวรรค์
    ถ้าวันใหนใจเราทุกข์โศรกเศร้าอิจฉาริษยานั่นละครับใจเราตกนรก
    คิดเอานะครับว่าจะให้ตัวเองกตนรกหรือสวรรค์
     
  6. wechza

    wechza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    181
    ค่าพลัง:
    +246
    ถึงนายดอกบัวนะครับ
    สวรรค์กับนรกนั้นของจริงผมก้ไม่เคยเห็นแต่มีคนเคยเปรียบเทียบให้ผมฟังไว้อย่างนี้นะครับ
    นรกเปรียบเหมือนสถานบันเทิงผับบาร์ที่มีเสียงอึกทึกคึกโครมให้เข้าไปเที่ยวคงสนุกแต่ให้อยู่ตลอดไปในนั้นลองคิดเอานะครับว่าจะอยู่ได้ใหมส่วนสวรรค์คือวัดครับเงียบสงบอยู่แบบสบายๆผมก็อยากเห็นนะครับนรกสวรรค์เพราะคิดว่าถ้าได้เห็นแล้วผมอาจจะตั้งใจปฎิบัติมากกว่านี้แต่ที่จริงแล้วมันไม่ใช่เลยครับมันเป็นแต่เพียงขออ้างของกิเลศในใจเราเท่านั้นที่มันผลัดวันประกันพรุ่งในการทำความดีเพื่อละกิเลศอย่าสงสัยในสวรรค์หรือนรกเลยครับไม่ช้ารหรือเร็ววันที่เราตายก็ได้เห็นเองอย่างน้อยก่อนเราตายทำความดีเอาไว้ดีกว่านะครับอย่าสแวงหาเลยครับที่จริงแล้วสวรรค์หรือนรกก้อยู่ไม่ไกลเราหรอกครับ
    ถ้าวันใหนใจเราดีใจสบายนั้นคือเราอยู่สวรรค์
    ถ้าวันใหนใจเราทุกข์โศรกเศร้าอิจฉาริษยานั่นละครับใจเราตกนรก
    คิดเอานะครับว่าจะให้ตัวเองกตนรกหรือสวรรค์
     
  7. love_song_music

    love_song_music เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 เมษายน 2009
    โพสต์:
    455
    ค่าพลัง:
    +907
    อนุโมทนาสาธุ ผมคงต้องไปฝึกกับท่านเสียแล้ว
    ฝึกคนเดียวไม่มีครูบาอาจารย์ มันเหมือนกับไร้ล่องลอย
    แปลก ๆๆๆ ฝึกแบบมั่้ว ๆๆ ไม่ได้ผลเลยครับ
     
  8. เมทิกา

    เมทิกา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    952
    ค่าพลัง:
    +2,393
    อยากฝึกเพื่อให้มีตาทิพย์ หูทพิย์ จะทำไม่ได้ ทำได้ก็มักเป็นอุปาทาน

    ความลับของสรรค์คือ ยิ่งอยาก จะยิ่งไม่ได้

    แต่ถ้าไม่ได้มีอะไรเลย และไม่ได้เป็นอะไรเลย แล้วเราจะได้รู้ทุกสิ่งทุกอย่าง


    ลองฝึกกรรมฐานดู ของแถมเหล่านี้จะมาเอง แต่หากเราหลงใหลในฤทธิ์ นานไปก็เสื่อมได้เหมือนกัน


    แต่หากเรามุ่งปฏิบัติเพื่อหลุดพ้นอย่างเดียว
    มรรคประหารกิเลส เรื่องชาวบ้านไม่อยากรู้
    พุ่งตรงมาแต่ในจิตใจเราอย่างเดียว

    เมื่อนั้นแหละ คุณจะได้รู้ความลับของสวรรค์ อิอิ


    ไม่ได้โฆษณาชวนเชื่อนะ แต่อยากให้ลองไปพิสูจน์เอาเอง
     
  9. เมทิกา

    เมทิกา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    952
    ค่าพลัง:
    +2,393
    มันเป็นกิเลสอย่างละเอียดใ้ห้ติดใจหลงใหลในฤทธิ์และยึดติดในวัฏฏสงสารต่อไป

    ผู้ที่ละกิเลสอย่างหยาบได้จะต้องผ่านบททดสอบนี้ อยากรู้ก็ต้องลองประหารกิเลสดู
     
  10. Maykumi

    Maykumi Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    27
    ค่าพลัง:
    +35
    ขออนุโมทนาบุญคะ ถ้ามีโอกาสคงจะได้ฝึกบ้าง
     
  11. belives

    belives เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    81
    ค่าพลัง:
    +234
    ฝึกให้เข้าถึงพระธรรมกายไม่ดีกว่าเหรอครับ ง่า่ยๆแค่หยุดเป็นตัวสำเร็จ หยุดที่ไหน ที่กลางท้อง เหนือสะดือ 2 ดิ้วมือ

    พระสัมมาสัมพุทธเจ้าสร้างบารมี 20 อสงไขย แสนมหากัป ก็เพื่อแสวงหาจุดนี้ คือ กลางกายฐานที่ 7

    ใยจะต้องไำปแสวงหา วิีธีการอื่นอีก

    ผลพลอยได้จากการเข้าถึงพระธรรมกายก็คือ ธรรมจักขุ หรือ ตาธรรมกาย เป็นต้น
    ยังมี วิชชา 3 วิชชา 8 อภิญญา6 ล้วนเป็นส่วนหนึ่งของวิชชาธรรมกาย
    แต่สิ่งเหล่านี้ ล้วนได้มาจากการฝึกข้ามพบข้ามชาติ รู้ไปถึงไหนก็เห็นไปถึงนั่น
    ซึ่ง ตาทิพย์เทียบไม่ได้เลย
     
  12. ไกลอวิชา

    ไกลอวิชา สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    16
    ค่าพลัง:
    +19
    ยินดีกับผู้สอน..เป็นธรรมทาน..ให้กับผู้ที่หลงผิดหรือมีทุกข์ ให้ได้มองเห็นกรรมตัวเอง
    ถ้ามีวาสนาพอคงได้ไปพบท่านผู้ทรงธรรม...อนุโมทนาบุญด้วย สาธุๆๆๆ
     
  13. สายชน

    สายชน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    251
    ค่าพลัง:
    +1,232
    เคยไปฝึกกะคุณแม่หลายเดือนครับแต่ไม่ได้แต่เห็นคนที่เขามาฝึกได้กันเยอะเลยโดยเฉพาะเด็กๆฝึกเห็นง่ายมากมีฝรั่งมาฝึกได้ด้วยหลายคนครับผมทำบาปเยอะเจ้ากรรมนายเวรเขาไม่ให้ขึ้นสวรรค์ครับพอเห็นตัวเองกายทิพย์ออกมากำลังจะเหาะขึ้นสวรรค์ก็จะได้รุมตีจาผึ้งครับเพราะเผาผึ้งมากเยอะมากครับเป็นเซียนเอาผึ้งฆ่าผึ้งเยอะมากเลยขึ้นไม่ได้ครับ
     
  14. สวัสดีั

    สวัสดีั Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    22
    ค่าพลัง:
    +49
    ท่านอุบาสิกา อยู่ที่ไหนหรอขอรับ
     
  15. บาราคูดา

    บาราคูดา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    53
    ค่าพลัง:
    +114
    อนุโมทนาครับ ไม่ไกลเท่าไหร่ เดี๋ยวจะหาโอกาสไปกราบท่านครับ
     
  16. phra khwanchai

    phra khwanchai Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +42
    อนุโมทนา ตาทิพย์ หูทิพย์ อภิญญา ปฏิบัติจริงได้สัมผัสจริง ผู้ใดเห็นธรรมผู้นั้นเห็นเรา"ตถาคต "
     
  17. phra khwanchai

    phra khwanchai Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +42
    นิพพานอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจะทางอ้อมหรือทางตรงก็ถึงนิพพานได้ถ้ายังเดินทางในทางทั้ง ๘ สายของพระพุทธองค์ มรรคมีองค์๘๑.สัมมาทิฏฐิ คือมีปัญญาอันเห็นชอบ ได้แก่การเห็นในอริยสัจ ๔ คือ

    • ทุกข์
    • เหตุที่ทำให้เกิดทุกข์ (สมุทัย)
    • ความดับทุกข์ (นิโรธ)
    • ข้อปฏิบัติให้ถึงความดับทุกข์ (มรรค)
    ๒.สัมมาสังกัปปะ คือดำริชอบ ได้แก่
    ดำริที่จะออกจากกาม (เนกขัมมะ)
    ดำริในการไม่พยาบาทปองร้ายผู้อื่น
    ดำริในการไม่เบียดเบียนผู้อื่น
    ๓.สัมมาวาจา คือเจรจาชอบ ได้แก่การเว้นจากวจีทุจริต ๔ คือไม่ประพฤติชั่วทางวาจาอันได้แก่

    • ไม่พูดเท็จ (มุสาวาทา)
    • ไม่พูดส่อเสียด ยุยงให้เขาแตกร้าวกัน (ปิสุณาย วาจาย)
    • ไม่พูดคำหยาบคาย (ผรุสาย วาจาย)
    • ไม่พูดเพ้อเจ้อเหลวไหลไร้สาระ (สัมผัปปลาปา)
    ๔.สัมมากัมมันตะ คือทำการงานชอบโดยประกอบการงานที่ไม่ผิดประเพณี ไม่ผิดกฏหมาย ไม่ผิดศีลธรรม และเว้นจากการทุจริต ๓ อย่างได้แก่

    • การเบียดเบียนฆ่าสัตว์ตัดชีวิต (ปาณาติบาต)
    • การลักขโมย และฉ้อฉลคดโกง แกล้งทำลายผู้อื่น (อทินนาทาน)
    • การประพฤติผิดในกาม (กาเมสุมิจฉาจาร)
    ๕.สัมมาอาชีวะ คือเลี้ยงชีวิตชอบได้แก่ การเว้นจากการเลี้ยงชีพในทางที่ผิด การประกอบสัมมาอาชีพคือ

    • เว้นจากการค้าขายเครื่องประหารมนุษย์และสัตว์
    • เว้นจากการค้าขายมนุษย์ไปเป็นทาส
    • เว้นจากการค้าสัตว์สำหรับฆ่าเป็นอาหาร
    • เว้นจากการค้าขายน้ำเมา
    • เว้นจากการค้าขายยาพิษ
    ๖.สัมมาวายามะ คือมีความเพียรชอบ ๔ ประการได้แก่

    • เพียรระวังมิให้บาปหรือความชั่วเกิดขึ้น
    • เพียรละบาปหรือความชั่วที่เกิดขึ้นแล้ว
    • เพียรทำกุศลหรือความดีให้เกิดขึ้น
    • เพียรรักษากุศลหรือความดีที่เกิดขึ้นแล้วให้คงอยู่
    ๗.สัมมาสติ คือระลึกชอบได้แก่ การระลึกวิปัฏฐานได้แก่ การระลึกในกาย เวทนา จิต และธรรม ๔ ประการคือ

    • พิจารณากาย ระลึกได้เมื่อรู้สึกสบายหรือไม่สบาย พิจารณาลมหายใจเข้าออก
    • พิจารณาเวทนา ระลึกได้เมื่อรู้สึกสุข หรือทุกข์ หรือเฉยๆ มีราคะ โทสะ โมหะหรือไม่
    • พิจารณาจิต ระลึกได้ว่าจิตกำลังเคร้าหมองหรือผ่องแผ้ว รู้เท่าทันความนึกคิด
    • พิจารณาธรรมให้เกิดปัญญา ระลึกได้ว่าอารมณ์อะไรกำลังผ่านเข้ามาในใจ
    ๘.สัมมาสมาธิ คือตั้งใจชอบ ทำจิตให้สงบระงับจากกิเลส เครื่องเศร้าหมอง ให้มีอารมณ์แน่วแน่เป็นอันเดียว เพื่อให้จิตจดจ่อไม่ฟุ้งซ่าน หาอารมณ์อันไม่มีโทษให้จิตยึด จะได้ไม่พร่าไปหลายทางได้แก่ การเจริญฌานทั้ง ๔ คือ

    • ปฐมฌาน หรือฌานที่ ๑
    • ทุติยฌาน หรือฌานที่ ๒
    • ตติยฌาน หรือฌานที่ ๓
    • จตุตถฌาน หรือฌานที่ ๔
     
  18. a-pin-ya

    a-pin-ya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    314
    ค่าพลัง:
    +672
    จับภาพพระ เพ่งไปเรื่อยๆนะ เพ่งไปอีกนะ จนกว่าจะใส เห็นพระสีอะไรไม่ต้องสนใจ ทำไปเรื่อยๆ แล้วจะรู้เอง เพ่งจนกว่าท่านจะคุยด้วยนะ เพ่งท่านไปเรื่อยๆนะ จนกว่าจะใส-ใสมาก-มีประกาย มีประกายมาก-มากๆ แล้วจะบอกต่อ ยังไม่ต้องสนในเรื่องอื่นนะ สนใจพระอย่างเดียว
     
  19. ต้นบุญ

    ต้นบุญ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2009
    โพสต์:
    246
    ค่าพลัง:
    +239
    สาธุ สาธุ สาธุ ขอบุญกุศลนี้เป็นปัจจัยแห่งพระนิพพานด้วยเทอญ สาธุ
     
  20. a-pin-ya

    a-pin-ya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    314
    ค่าพลัง:
    +672
    ตาที่สาม หรือ ตาทิพย์ แท้จริงคืออะไร และอยู่ตรงไหน

    ตาที่สาม หรือ Third Eye เป็นคำที่ผู้สนใจฝึกสมาธิทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศคุ้นเคยกันพอสมควร เป็นเวลานานที่นักวิทยาศาสตร์ พยายามค้นหาความจริงเกี่ยวกับตาที่สามนี้ว่าอยู่ส่วนไหนในสมองและมีหน้าที่อย่างไร

    โดยปกติดวงตาของเราจะส่งภาพกลับหัว จากบนเป็นล่าง ส่งไปยังสมอง ซึ่งสมองจะประมวลผลและทำให้เราเห็นภาพในลักษณะปกติที่ถูกต้อง

    นอกจากดวงตาปกติแล้ว มนุษย์ยังมีอวัยวะอีกอย่างที่รู้จักกัน ในชื่อ ของดวงตาที่สาม หรือ ต่อมไพนีล ซึ่งกล่าวกันว่าเป็นพลังมหัศจรรย์ หรือตาทิพย์ เป็นดวงตาภายใน

    ต่อมไพนีล Pineal Gland มีขนาดเท่าเม็ดถั่ว และอยู่ตรงกลางของสมอง หลังดวงตาปกติ อยู่ข้างหลังเยื้องด้านบนจากต่อมปิตูอิตารี่ ( pituitary ) บางคนได้เทียบตำแหน่งกลางสมองนี้ว่าคล้ายคลึงกับตำแหน่งศูนย์กลางของปิรามิด ซึ่งเป็นจุดรวมแห่งพลังงาน ที่กล่าวกันว่าเหนือธรรมชาติ

    นักปราชญ์กรีกโบราณเชื่อว่า ต่อมไพนีล เป็นจุดเชื่อมต่อกับอาณาจักรแห่งความคิด บางคนเรียกว่า ที่สถิตของจิตวิญญาณ ต่อมไพนีลนี้จะถูกกระตุ้นโดยแสงสว่าง และต่อมนี้ควบคุมระบบร่างกาย ( Biorhythm) หลายอย่าง โดยทำงานร่วมกับต่อมไฮโปทารามัส ( hypothalamus) ซึ่งต่อมไฮโปทารามัส ส่งผลโดยตรงกับร่างกายในเรื่อง ความหิว ความกระหาย เรื่องเซ็กส์ และนาฬิกาชีวิตซึ่งควบคุมอายุของมนุษย์

    เมื่อต่อมไพนีลถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมา จะรู้สึกถึงความกดดันที่ใต้สมอง ( ความกดดันเหมือนในลักษณะที่อยู่ใต้คลื่นความถี่สูง) การกระทบกระเทือน ที่ศีรษะบางครั้งก็เป็นสาเหตุกระตุ้นให้ต่อมไพนีลตื่นขึ้นได้

    ถึงแม้ในอดีตจะยังไม่สามารถค้นคว้าพิสูจน์เกี่ยวกับต่อมไพนีล เพิ่งจะมาทราบในสมัยปัจจุบันไม่นานนัก แต่ในสมัยนั้นก็เชื่อกันว่า เป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างโลกแห่งวัตถุและโลกแห่งวิญญาณ และเป็นจุดสำคัญในการเริ่มต้นของพลัง เหนือธรรมชาติในมนุษย์ทำให้มองเห็นเหนือกว่าคนทั่วไปได้

    การทำสมาธิส่งผลถึงสมอง การแสดงออกและอารมณ์ให้พัฒนาในด้านดี

    อวัยวะในสมอง มีลักษณะของไฟฟ้าเคมี คือ ใช้พลังงานของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าในการทำงานและส่งกระแสพลังงานออกมาเป็นคลื่นสมองใน 4 คลื่นความถี่จากมากไปน้อยคือ Beta Alpha Theta Delta

    เมื่อเราเริ่มทำสมาธิจะเกิดการเปลี่ยนแปลงของคลื่นสมองให้มีความถี่คลื่นลดลงจากภาวะปกติ เบต้า ลดลงสู่อัลฟรา และเข้าสู่เธต้า ในภาวะคลื่นสมองเข้าสู่ระดับเธต้านั้นเป็นภาวะที่เกิดความอัศจรรย์ทางจิต เช่น การเห็นภาพต่างๆ การเกิดจิตออกจากร่างกาย การเกิดพลังจิตพิเศษต่างๆที่เมืองนอกเรียกว่า ESP ซึ่งการควบคุมคลื่นสมองเข้ามาในระดับนี้โดยปกติต้องได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี

    ในปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์ neuroscientist ได้ใช้เทคนิคใหม่ๆในการค้นคว้าความเกี่ยวเนื่องของสมอง และการทำสมาธิที่ส่งผลให้จิตใจ มีความสุขและมีอารมณ์ในด้านดี

    University of Wisconsin at Madison ได้ค้นคว้า ตรวจสอบจากผู้ฝึกสมาธิตามแนวพุทธศาสนาพบว่า สมองมีการพัฒนา ในบางส่วนเป็นพิเศษ ซึ่งสมองส่วนที่พัฒนานี้เป็นส่วนที่มีผลกับ อารมณ์ด้านดี การควบคุมตัวเองและอารมณ์

    University of California San Francisco Medical Center แนะนำว่า การทำสมาธิสามารถควบคุมสมอง ส่วนที่ทำให้เกิด ความกลัวได้ และพบว่า คนที่นับถือและปฏิบัติตามแนวศาสนาพุทธจะมีความกลัว ความตกใจ ความโกรธ น้อยกว่าคนทั่วไป

    แอนดรู นิวเบอร์ก radiologist at the University of Pennsylvania ทำการวิจัยกับนักบวชธิเบต โดย

    1.ให้นักบวชเข้าสมาธิประมาณ 1 ชั่วโมงเพื่อให้เข้าสู่สมาธิขั้นลึกแล้วจึงฉีดสารกัมมันตภาพรังสีจำนวนเล็กน้อยเข้าสู่กระแสเลือด ทำให้สามารถตรวจวัดได้ว่าขณะทำสมาธินั้นส่วนไหนของสมองที่ทำงาน

    2.ตรวจแบบเดียวกันแต่เป็นในขณะที่ทำงานปกติ ไม่ได้ทำสมาธิ เมื่อนำมาเปรียบเทียบพบว่า ขระทำสมาธิ สมองส่วนหน้าจะมีการทำงาน มากเป็นพิเศษ และสมองส่วนหลังทำงานน้อยลง ( parietal lobe) ทำให้รู้สึกถึงความว่าง ซึ่งสามารถอธิบายได้ว่า ทำไมเวลาทำสมาธิ จึงเกิดการรู้สึกสัมผัสน้อยลง และเกิดการรับรู้น้อยลงในเรื่องสถานที่และเวลา

    ตาที่สาม - Third Eye ตาทิพย์ ต่อมไพนีล
     

แชร์หน้านี้

Loading...