ความรู้สึกหลังอ่าน อริยสัจ จากพระโอษฐ์ภาคต้น

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย BossTH, 22 กันยายน 2012.

  1. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    ^

    ไม่รู้ถึงถาม ก็รอคนรู้อธิบายนี่งาย
     
  2. chottana

    chottana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    176
    ค่าพลัง:
    +337

    ผมก็ถึงบอกไปเเล้วว่า หรือพระองค์ตรัสไว้ว่า จงมีตนเป็นประทีป มีธรรมเป็นสรณะ อย่ามีสิ่งอื่นเป็นสรณะเลย

    พระองคืก็บอกว่า ธรรมก็ดี วินัย ก็ดีจักเป็นศาสดาของเธอเเทนเราต่อไป

    ถ้าจับความหมายได้ คุณก็ต้องรู้เเล้วว่าต่อไปจะทำอะไร ไม่ใช่ถามคำที่ผมเข้าใจมา ผมคิดว่า ไม่น่าจะเข้าใจได้ง่ายๆ


    ราชกุมาร ! ความคิดข้อนี้ได้เกิดขึ้นแก่เราว่า “ธรรมที่เราบรรลุแล้วนี้
    เป็นธรรมอันลึก สัตว์อื่นเห็นได้ยาก ยากที่สัตว์อื่นจะรู้ตาม, เป็นธรรมระงับ
    และประณีต ไม่เป็นวิสัยที่จะหยั่งลงง่าย ๆ แห่งความตรึก เป็นของละเอียด
    เป็นวิสัยรู้ได้เฉพาะบัณฑิต, ก็สัตว์เหล่านี้ มีอาลัยเป็นที่ยินดี ยินดีแล้วในอาลัย
    เพลิดเพลินแล้วในอาลัย, สำหรับสัตว์ผู้มีอาลัยเป็นที่ยินดี ยินดีเพลิดเพลิน
    ในอาลัยนั้น, ยากนักที่จะเป็นปฏิจจสมุปบาทอันมีสิ่งนี้ (คือมีอาลัย) เป็นปัจจัย,
    ยากนักที่จะเห็นธรรมเป็นที่สงบระงับแห่งสังขารทั้งปวง,คือ ธรรมอันถอนอุปธิ
    ทั้งสิ้น ความสิ้นตัณหา ความคลายกำหนัด ความดับโดยไม่เหลือ และนิพพาน.
    หากเราพึงแสดงธรรมแล้วสัตว์อื่นไม่พึงรู้ทั่วถึง ข้อนั้นจักเป็นความเหนื่อยเปล่า
    แก่เรา, เป็นความลำบาก แก่เรา.” โอ, ราชกุมาร ! คาถาอันอัศจรรย์เหล่านี้
    ที่เราไม่เคยฟังมาแต่ก่อน ได้ปรากฏแจ่มแจ้งแก่เราว่า :-

    “กาลนี้ ไม่ควรประกาศธรรมที่เราบรรลุได้แล้วโดยยาก. ธรรมนี้,
    สัตว์ที่ถูกราคะโทสะรวบรัดแล้ว ไม่รู้ได้โดยง่ายเลย. สัตว์ที่กำหนัด
    ด้วยราคะ ถูกกลุ่มมืดห่อหุ้มแล้ว จักไม่เห็นธรรมอันให้ถึงที่ทวน
    กระแส, อันเป็นธรรมละเอียดลึกซึ่ง เห็นได้ยากเป็นอณู”. ดังนี้.

    ราชกุมาร ! เมื่อเราพิจารณาเห็นดังนี้, จิตก็น้อมไปเพื่อความ
    ขวนขวายน้อย ไม่น้อมไปเพื่อการแสดงธรรม.



    -----------------------------------------------------------------------------------------------------------
    บาลี ม.ม. ๑๓/๔๖๑/๕๐๙. ตรัสแก่โพธิราชกุมาร.
     
  3. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    โลวนินโย่ว สามารถบอกว่า อันไหนถูกต้องตามพุทธวจน

    ด้วยการเอ่ยพิมพ์

    เราไถ่ถาม

    สุดท้าย ตะแลดแต๊ดแต๋:'(

    ทำงานต่อแระ ตะแล๊ดแต๊ดแต๋
     
  4. Enjjoy

    Enjjoy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    72
    ค่าพลัง:
    +184
    TIMELINE ความเป็นมาของพระไตรปิฏก
    ......ไว้เพื่อสร้างอรรถรส ในการรับชม
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  5. ปุณฑ์

    ปุณฑ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กันยายน 2008
    โพสต์:
    2,760
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,692
    ขอบคุณ ที่มีท้าวสหัมบดีพรหม..
    ..

    ตำนานกล่าวเล่าว่า ครั้งหนึ่งเมื่อพระพุทธองค์ตรัสรู้เป็นองค์พระสัมมาสัมโพธิญาณแล้ว จะไม่แสดงพระสัทธรรมเทศนาที่ได้บรรลุโปรด ทรงเห็นว่าเป็นธรรมที่มีความละเอียด จะมีใครรู้เรื่องสักกี่คน ท้าวสหัมบดีทราบความและกล่าวคำปริวิตกว่า "โอ้หนอ โลกจะฉิบหายแหลกลานลงเสียแล้วหนอ" เสียงดังทั่วหมื่นโลกธาตุ จึงเสด็จลงมาพร้อมด้วยเทพบริษัท ทรงกราบทูลอาราธนาองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้แสดงพระสัทธรรมเทศนา ในคำอาราธนาธรรมตอนหนึ่งว่า พรหมา จโลกาธิปติ สหัมปติ กัตอัญชลี อันธิวรัง อยาจถสันตีธ ปรซักขชาติกา เทเสตุ ธัมมัง อนุกัมปิมัง ปซัง ซึ่งแปลความหมายว่า ท้าวสหัมบดีพรหม อัญชลีกราบทูลอาราธนาองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ทรงคุณอันประเสริฐ ว่าสัตว์ในโลกทั้งหลายนี้ ที่มีกิเลสเบาบางพอที่จะฟังธรรมของพระองค์ได้นั้นยังมีอยู่ ขอพระผู้มีพระภาคเจ้าแสดงพระสัทธรรมเทศนาโปรดชาวโลกในครั้งนี้เทอญ

    พระพุทธองค์ทรงกล่าวตอบท้าวสหัมบดี "เราตถาคตจะได้เปิดประตูอมตธรรมต้อนรับชนผู้ใคร่สดับซึ่งเราชำนาญดีในหมู่มนุษย์" และทรงเห็นความแตกต่างของระดับสติปัญญาแบ่งได้ ๔ ระดับ ดังนี้
    ระดับที่ ๑ เปรียบเหมือนดอกบัวที่ชูดอกออกไสวอยู่บนพื้นน้ำพอได้รับแสงพระอาทิตย์ก็บาน เปรียบได้กับมนุษย์ที่ฉลาดมาก เพียงฟังธรรมครั้งแรกก็เข้าใจได้ทันที
    ระดับที่ ๒ เปรียบเหมือนดอกบัวโผล่พ้นน้ำและจะบานในวันรุ่งขึ้น เปรียบได้กับมนุษย์ที่ฉลาดพอประมาณ ต้องใช้เวลาฟังธรรมถึง ๒ ครั้ง จึงจะเข้าใจ
    ระดับที่ ๓ เปรียบเหมือนดอกบัวที่อยู่ภายใต้น้ำหล่อเลี้ยงไว้ ต้องรอเวลาหลายวันจึงจะโผล่ขึ้นมาบาน เปรียบได้กับมนุษย์ที่ฉลาดน้อยต้องใช้เวลาในการอบรมสั่งสอนจึงจะเข้าใจ
    ระดับที่ ๔ เปรียบเหมือนดอกบัวที่จมอยู่ลึกภายใต้น้ำไม่มีโอกาสจะโผล่พ้นน้ำต้องเป็นเหยื่อปลาและเต่า เปรียบได้กับมนุษย์ที่โง่ทึบและสอนให้รู้ได้ยาก

    ท้าวสหัมบดีพรหมเมื่อทราบว่าพระพุทธองค์ทรงแสดงธรรมโปรดมนุษยโลกทั้งหลายก็อัญชลีแล้วกระทำประทักษิณ อันตรธานหายไปจากสถานที่นั้น กลับสู่พรหมวิมานในพรหมโลก

    ::
     

แชร์หน้านี้

Loading...