คัมภีร์เงาโลหิต (สำนักซูซาน)

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย anakarik, 9 กรกฎาคม 2016.

  1. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    ความรักไม่อาจพิสูจน์ได้จากการพูด
    แต่ต้องการผ่านทดสอบคือบีฑาธรรม
    เจ้าจะต้องมีความรักเพื่อหลอมตัวตน
    แต่ตัวตนจะถูกหลอมเมื่อถูกบีฑาธรรม

    จงพร้อมที่จะรักและพร้อมที่จะตายด้วย
    จงอย่ากลัวถ้าความรักนำไปสู่ความตาย
    จงเชื่อมั่นในความรักแล้วจะไม่กลัวตาย
    จงใช้ความตายเป็นประตูหลอม "ตัวตน"

    จงยอมตายจากภายใน จากจิตวิญญาณ
    เพื่อการกำเนิดใหม่จะไม่ตายก่อน ไม่ได้
    ก่อนจะเกิดก็ต้องผ่านการตายไปเสียก่อน
    ดังนั้น จงกล้าที่จะตายเพราะ "ความรัก"

    จงใช้พลังแห่งรักดุจไฟหลอมละลายตัวตน
    จงใช้พลังแห่งรักไปสู่ความตายจากภายใน
    จงใช้พลังแห่งรักเพื่อไปสู่การกำเนิดใหม่
    จงใช้พลังแห่งรักนำทางไปสู่ภาวะอนัตตา

    คัมภีร์เงาโลหิต "บทความรักและความตาย"



    [​IMG]
     
  2. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    เมื่อไฟแห่งรักแท้ลุกโชติช่วงสว่างขึ้นแล้ว
    นั่นคือจุดเริ่มต้นที่จะเผาทำลายอัตตาตัวตน
    นั่นคือวิถีทางแห่งการเดินพลังวิชาเงาโลหิต
    และเจ้าต้องอดทนกับความทรมานทางจิตใจ

    เมื่อความรักของเจ้ากำเนิดขีึ้นดั่งธารน้ำใส
    มันจะชำระล้างจิตวิญญาณให้หลอมละลาย
    เจ้าจะรู้สึกทุกข์ทรมานเหมือนกับตายทั้งเป็น
    แลเจ้าจะเห็นทุกขสัจ ซึ่งก็คือ "ประตูธรรม"

    ไม่ว่าความรักจะปรากฏขึ้นในรูปนามใดก็ตาม
    อาจร้อนแรงดั่งเพลิงเผา เรียกว่า "ไฟชำระ"
    หรือหลอมละลายดุจน้ำชำระล้างจิตวิญญาณ
    ความรักก็เหมือนสุริยันจันทรามีร้อนและมีเย็น

    นั่นคือเหตุผลของวลี "ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีทุกข์"
    มิใช่ให้เจ้ากลัวจนต้องปฏิเสธความจริงข้อนี้
    แต่ให้มีสติ พร้อมเผชิญหน้าอย่างเป็นกลาง
    จงเปิดใจรับความจริงทุกอย่างด้วย "ความรัก"

    คัมภีร์เงาโลหิต "บทพลังแห่งรัก"



    [​IMG]
     
  3. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    โปรดโดยไม่โปรด ปราบโดยไม่ปราบ เป็นไฉน?
    ก็กรรมของสัตว์นั้นคือพลังงานเก่าที่ช่วยบำเพ็ญ
    ปราศจากกรรมแล้ว ปวงสัตว์ย่อมไม่สำนึกตนเอง
    ดังนั้น ปวงสัตว์ย่อมบำเพ็ญธรรมมีมรรคผลไม่ได้

    โปรดโดยไม่โปรดคือการไม่โปรดเพื่อให้โอกาส
    หากโปรดเขาให้หลุดพ้นจากกรรมเสียหมดแล้ว
    เขาย่อมไม่มีโอกาส ที่จะได้บำเพ็ญด้วยตนเอง
    แล้วจะเรียกว่าการโปรดสัตว์ที่แท้จริงได้อย่างไร

    ปราบโดยไม่ปราบคือยิ่งปราบเขายิ่งถลำลึกใหญ่
    การไม่ปราบ คือ การปราบให้เขาไม่มีการพัฒนา
    เมื่อเขาไม่มีศัตรู คู่ซ้อม ความอ่อนแอพึงบังเกิด
    ความประมาทและความเพลี้ยงพล้ำจึงมีแก่ตัวเขา

    ทั้งหมดนี้เรียกว่า "การกระทำโดยไม่กระทำ"
    ด้วยการโปรดสัตว์คือการทำเพื่อตัวเองโดยแท้
    และการปราบคือการช่วยผลักดันให้เขาถลำลึก
    พุทธะจึงทำตนให้เขาโปรด ทำตัวให้เขาปราบ!

    คัมภีร์เงาโลหิต "บทกระทำโดยไม่กระทำ"



    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 12 กรกฎาคม 2016
  4. kimberly

    kimberly เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,627
    ค่าพลัง:
    +5,233
    ไม่ง่ายที่จะทำ
    แต่ก็ไม่ยากที่จะเรียนรู้คับ
     
  5. kimberly

    kimberly เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,627
    ค่าพลัง:
    +5,233
    ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีสุข
    ถ้ารักเป็น..นะ.ครับ
    มันคงเป็นเช่นนี้แน่นอน.

    ถ้าเข้าใจความหมายของพลังแห่งรักที่แท้จริง
    มันก็จะสุขนะผมว่า..

    ปล.เสียดายจดหมายลับของท่านไอนสไตล์หายไปเสียแล้ว
    ไม่งั้นจะได้เข้าใจกันว่า รักคือสิ่งใด? ครับ.
     
  6. บุคคลทั่วฺไป

    บุคคลทั่วฺไป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,159
    ค่าพลัง:
    +1,231
    ความสุขเพียงชั่วคราวที่ต้องอาศัยเหตุปัจจัยประกอบอีกหลายอย่าง
    รักเขาแต่เขาไม่รักก็เป็นทุกข์
    รักเขาแต่เขามีเจ้าของก็เป็นทุกข์
    รักเขาแต่ถูกกีดกันก็เป็นทุกข์
    รักเขาแต่ต้องพลัดพรากจากกันก็เป็นทุกข์
    รักเขาแต่เขาต้องตายไปก็เป็นทุกข์
    รักเขาแต่สิ่งที่รักต้องชำรุดก็เป็นทุกข์
    รักเขาแต่วันหนึ่งเริ่มหมดรักก็เป็นทุกข์
     
  7. บุคคลทั่วฺไป

    บุคคลทั่วฺไป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,159
    ค่าพลัง:
    +1,231
    ความรักไม่ใช่สิ่งที่มีมาแต่แรกเริ่ม และไม่ใช่สิ่งสุดท้าย
     
  8. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722

    จิตเดิมแท้ประภัสสร มีกิเลสมาจรเป็นครั้งคราว
    จิตประภัสสรนั้น สุขสว่างไสวอยู่แล้วเป็นปกติสุข

    ความรักไม่ใช่ความสุข ไม่ใช่ความทุกข์
    บางครั้งความรักทำให้คนมีความสุขได้
    และหลายครั้งความรักก็ทำให้ทุกข์ได้

    เราไม่อาจคาดหวังความสุขจากความรักได้ตลอดไป
    เราจึงต้องพร้อมที่จะรับความทุกข์ อันเป็นทุกขสัจจากความรัก
     
  9. กิ่งสน

    กิ่งสน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2012
    โพสต์:
    1,068
    ค่าพลัง:
    +2,327
    นึกว่าข้าพเจ้าหายไปดูหนังจีนอยู่คนเดียว เรื่องศึกเทพยุทธเขาซูซัน หรือภูผาซู นี่แหละ เขาบำเพ็ญพรตกันเพื่อความเป็นเซียน นางเอกคนเดียวกันนี้เรื่อง ตำนานรักข้ามภพก็กินใจนะ. พระเอกอุตส่าห์บำเพ็ญพรตมาจนเจอนางเอกเป็นด่านเวรกรรมซึ่งต้องพ้นให้ได้ สุดท้ายก็เฮ้อ. นี่แหละที่ใดมีรักที่นั่นมีทุกข์ หากเลือกหยินหยาง ต้องมีดำขาว ชายหญิง เลือกละกิเลสเถอะสุดยอด ไม่ต้องกลับมาทุกข์กันอีก วัดเส้าหลินฝึกปราณก่อน ส่วนบู๊ตึ๊งปราณพื้นฐานไม่เทียบเท่า จึงอาศัยความว่องไวของเพลงกระบี่
     
  10. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    โลกนี้จะถูกสร้างใหม่ทั้ง 3 ภพ


    1. ภพนรก
    จะมีพระโพธิสัตว์องค์หนึ่งนามว่า "พระอาภาโพธิสัตว์"
    ลงมาสร้างนรกและสัตว์นรกใหม่ พวกเขาจะทำหน้าที่
    พิพากษา ลงทัณฑ์คน จะยึดครองอำนาจยุติธรรมก่อน
    ที่จะลงไปทำหน้าที่กันในนรกครับ เพราะมีปวงสัตว์อีก
    มากที่ยังไม่เข้าระบบสามภพ หลงออกนอกทาง แล้วก็
    ถูกซาตานผูกมัดไว้ พวกเขาจึงต้องทำกรรมชั่วเพื่อแลก
    กับกรรมดีเช่น ทำลายวัดธรรมกาย (มีทั้งกรรมดีและชั่ว)

    2. ภพมนุษย์
    จะมีพระโพธิสัตว์องค์หนึ่ง แบ่งภาคจากพระศรีอาร์ฯ ลง
    มาช่วยสร้างภพมนุษย์ หมายรวมถึง "สร้างมนุษย์ใหม่"
    ด้วยการกำเนิดใหม่ด้วยครับ พระโพธิสัตว์องค์นี้เคยเกิด
    เป็น "เทพฝูซี" จึงมีความสัมพันธ์กับคนจีนมาก และยัง
    เคยสร้างมนุษย์ร่วมกับเจ้าแม่หนี่วามาก่อน ดังนั้น เทพงู
    และเจ้าแม่หนี่วาก็จะปรากฎขึ้นมาด้วย เพื่อทำกิจร่วมกัน

    3. ภพสวรรค์
    ซึ่งเกิดจากพระโพธิสัตว์หลายองค์ร่วมกันสร้างมาก่อนใน
    ยุค "ห้องสิน" พระศรีอาร์ฯ ได้แบ่งภาคเป็นสอง คือ อ๋อง
    โจ้ว ผู้เป็นทรราช ซึ่งสร้าง "มาร" ให้เกิดขึ้นบนสวรรค์ได้
    และ "จีฟา" เด็กรุ่นใหม่ ใสซื่อ แต่มีความคิดก้าวไกลมอง
    อะไรแตกต่างจากคนรุ่นก่อนๆ มาสร้างเทพสวรรค์ สวรรค์นี้
    จึงมีครบทั้งสองฝั่งฝ่าย (ฝ่ายเทพและมาร) เป็นต้นมาครับ

    ณ เวลานี้ คือ เวลาของพระอาภาาโพธิสัตว์กำลังสร้างนรก!


    [​IMG]
     
  11. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    ~ เคล็ดวิชากระบี่นพเก้าทวนทิศ ~

    กระบี่นพเก้ามีเคล็ดคือ ไร้รูปแบบ
    แล้วจ้องหาจุดอ่อนของศัตรูเพื่อทำลาย

    แต่กระบี่นพเก้าทวนทิศจะฝึกตรงข้าม
    จะเปิดเผยจุดอ่อนของตัวเองให้ศัตรูมาทำลาย

    ขั้นแรก ทำลายกระบี่ตัวเอง ทำลายจุดแข็งตัวเอง
    เราก็จะเหลือแต่จุดอ่อน และกลายเป็นพลังอ่อนหยุ่น

    เมื่อศัตรูทำลายจุดอ่อนแล้ว ให้เราปลุกพลังขึ้นสู้
    พลังระดับลึกของเราที่ซ่อนอยู่จะถูกปลุกออกมาเรื่อยๆ

    เราก็จะมีพลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทุกครั้งที่ถูกศัตรูเล่นงาน
    ขั้นแรกเอาชนะจุดอ่อนตัวเองได้ ฝึกเก้าขั้น ก็เป็นนพเก้า

    เคล็ดง่ายๆ แต่ฝึกจริง ยากหน่อยนะครับ


    [​IMG]
     
  12. กิ่งสน

    กิ่งสน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2012
    โพสต์:
    1,068
    ค่าพลัง:
    +2,327
  13. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    บางครั้ง ความเจ็บปวดก็ไม่ได้เลวร้ายเสมอไป

    เพราะเมื่อใดที่คุณเจ็บปวดทางกาย นั่นหมายถึง คุณยังมีชีวิต
    และเมื่อใดที่คุณเจ็บปวดทางใจ นั่นหมายถึง คุณยังมีหัวใจ

    หากเมื่อใดคุณไร้ซึ่งความเจ็บปวดทางกายแล้ว คุณก็ไร้ชีวิต
    และหากเมื่อใดคุณไร้ซึ่งความเจ็บปวดทางใจแล้ว คุณก็ไร้หัวใจ

    ~ กระบี่นพเก้าทวนทิศ ~
     
  14. ลูกพุทธธะ

    ลูกพุทธธะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    1,179
    ค่าพลัง:
    +4,787
    ยิ่งฝึก ใจ ยิ่งสูง.......พลังที่ยิ่งใหญ่ ใจไร้ขอบเขตอนันต์
     
  15. kimberly

    kimberly เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,627
    ค่าพลัง:
    +5,233
    ใช้ดาบฟาดน้ำน้ำยิ่งไหลโชก
    ยกแก้วกับโศกโศก ยิ่งทุกข์หนัก..
    สายธารอันยาวไกล ไหลเพื่อมุ่งหน้าสู่ท้องทะเล
    แม้จะพบอุปสรรคมากมายเพียงใด สุดท้ายก็ยังไปถึง
    แต่ความใฝ่ฝันของคนเรานั้น
    บ่อยครั้งก็ยากจะฝ่าข้ามไปได้...
     
  16. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    ความรักทำให้เราไม่ต้องอดทน


    เพราะความรักเป็นเมล็ดพันธุ์แห่งเมตตาบารมี
    และด้วยความรักไม่ใช่เมล็ดพันธุ์ของขันติบารมี

    ดังนั้น เมื่อเราไม่รักนั้น เราอาจต้องอดทนมาก
    แต่เมื่อใดที่ความรักเกิดขึ้น เราก็ไม่ต้องอดทน

    เพราะความรักทำให้เราเปิดใจยอมรับสิ่งไม่ดีได้
    และเพราะความรักเปลี่ยนแปลงเราให้ยอมรับมัน

    เมื่อนั้น เราไม่รู้สึกต่อต้าน เราจึงไม่ต้องอดทน
    แต่หากเราไม่มีความรักเกิดขึ้นเราก็ต้องอดทน

    ถ้าหากเราอดทนอยู่กับพ่อแม่ด้วยความกตัญญู
    นั่นหมายความว่าเราไม่ได้รักพ่อแม่อย่างแท้จริง

    ดังนั้น ความกตัญญูอาจไม่ได้หมายถึงความรัก
    และนั่นอาจไม่ได้หมายถึงความเมตตาอีกด้วย

    แต่หากเราอยู่กับพ่อแม่โดยไม่ต้องอดทนใดๆ
    แม้สิ่งนั้นจะไม่ดี เราก็ไม่รู้สึกว่าต้องอดทนเลย

    นั่นหมายถึง เรารักพ่อแม่ของเราอย่างแท้จริงแล้ว!

    ...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 16 สิงหาคม 2016
  17. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    [ame="http://www.youtube.com/watch?v=CcNySupEIQI"]http://www.youtube.com/watch?v=CcNySupEIQI[/ame]
     
  18. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    คำว่า "ศรัทธา" ย่อมเป็นอิสระจากอะไรหรือใครๆ


    ศรัทธาที่แท้จริงย่อมมีอิสระในตัวของมันเอง
    คือสัจธรรมความจริงในตัวเองที่ไม่อิงกับสิ่งใด

    หากเราศรัทธาใครสักคน หรือบางสิ่งโดยไร้อิสระ
    มันก็จะไม่ใช่ความศรัทธา หากแต่เป็นพันธนาการ

    เมื่อความศรัทธาของเราเกิดขึ้นแล้วโดยบริบูรณ์
    เราจะเชื่อใจในเพื่อนมนุษย์โดยไม่จำกัดคนใดคนหนึ่ง

    นั่นเพราะความศรัทธาของเราเป็นอิสระไม่ถูกผูกมัด
    จึงไม่มีคนหนึ่งคนใด หรือแม้แต่เราเองผูกมัดมันไว้

    ไม่ใช่เพราะเราศรัทธาตัวเราเอง หรือใครคนหนึ่งคนใด
    แต่เพราะความศรัทธาเป็นพลังของเราที่มีอิสระในตัวเอง

    เราจึงสามารถที่จะใช้พลังศรัทธานั้นแก่ใครหรือผู้ใดก็ได้
    อย่างถูกต้องเหมาะสม ตรงทิศตรงทางแม้ไม่มีปัญญาก็ตาม

    เราไม่จำเป็นต้องเชื่อว่าทุกคนพูดความจริงกับเราก็ได้
    แต่เราจะเชื่อว่าในโลกย่อมมีทั้งความจริงและเท็จคู่กัน

    เราไม่ได้เชื่อว่าคนทุกคนพูดความจริงแก่เราทั้งหมด
    แต่เราเชื่อว่าเขาอาจจะพูดจริงหรือเท็จก็ได้เป็นธรรมดา

    แลศรัทธานั้นจะเป็นดั่งเข็มทิศบอกทางเป็นเบื้องต้นแก่เรา!
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 17 สิงหาคม 2016
  19. kimberly

    kimberly เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,627
    ค่าพลัง:
    +5,233
    ...พระเจ้า คือความเป็นพุทธะ..
    คือ ผู้รู้ ตื่น.และเบิกบานในตัวคุณ
    ดังนั้น.การเป็นหนึ่งเดียวกับพระเจ้าก็คือ..
    การค้นพบความเป็นพุทธะในตัวคุณ นั่นเอง...
    ................................................
    ใช้ชีวิตตามปกติ..เพราะสิ่งที่เปลี่ยนไป
    อยู่ภายใน.และสิ่งที่เปลี่ยนไปนี้คือ.
    ต้นกำเนิดของพลังแห่งความแข็งแกร่ง
    ความกล้าหาญ ความรักและความสุขของคุณ...
    ..................................................
    ทุกอย่างที่คุณทำจะเกิดการตื่นรู้..
    และชีวิตของคุณจะไม่ถูกชักนำ
    ด้วยอารมณ์หรือความรู้สึกอีกต่อไป...
     
  20. anakarik

    anakarik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    3,648
    ค่าพลัง:
    +1,722
    ~ ความรักและสันติภาพ ~

    ครั้งหนึ่ง ชายเคยไม่อยากจะมีชีวิตอยู่ในโลกใบนี้อีกแล้ว
    เมื่อนั้น ความมีชีวิตชีวาก็จากชายไป แม้ชายไม่ฆ่าตัวตาย

    ชายอยู่มาได้ถึงทุกวันนี้ เหมือนคนที่ไร้ชีวิตจิตใจมานานนัก
    เรียกว่า อยู่มาด้วยความ "อดทน" ไร้อารมณ์ความรู้สึก อยู่ไปงั้นๆ

    จนเมื่อชายค้นพบ "ความรัก" อีกครั้ง ความรักที่ไม่ใช่คู่ครอง
    ชายจึงเริ่มเข้าใจว่าความรักทำให้เราหลุดพ้นจากความอดทน

    เมื่อเรามีความรัก เราจะไม่ต้องทน แต่ถ้าเราไม่รัก เราต้องทน
    กระต่ายสอนให้ชายปฏิบัติกับเขาด้วยความรัก โดยไม่ต้องอดทน

    การที่เรา "ไม่ยอมอดทน" แล้วต่อสู้ หรือปฏิเสธสิ่งที่เราไม่พอใจ
    นั่นไม่ใช่ "วิถีแห่งรัก" และมันจะนำมาซึ่งความไร้ "สันติภาพ"

    เมื่อใดที่คุณมี "ความรักแท้" คุณไม่ต้องอดทน ไม่ต้องต่อสู้
    คุณยอมรับสิ่งที่ยอมรับได้ยาก ได้ เมื่อนั้น "สันติภาพ" จึงจะเกิด

    ความรัก ทำให้ประตูแห่งการยอมรับและสันติภาพเกิดขึ้นได้แท้จริง!
     

แชร์หน้านี้

Loading...