งานนิโรธกรรมขั้นอุกฤษฎิ์ ของครูบาเจ้าหน่อแก้วฟ้า

ปฏิบัติผิดเพียงข้อเดียวถือว่าผิดหมด



ปฏิบัติผิดเพียงข้อเดียวถือว่าผิดหมด


ถ้าเราจิตเสีย ความคิดไม่ดีเกิดขึ้น อกุศลเกิดขึ้น เช่นว่านั่งอยู่ดีเกิด เกิดความเบื่อ ความหิวเกิดขึ้น ความอยากเกิดขึ้น นี่ 5 โมงแล้ว ปัญญาหาเกิดขึ้น ทุกสิ่งทุกอย่างเกิดจากปัญหาที่เกิดขึ้น อย่างสมมุตว่าอยากกินเข้า มันก็ต้องหาอะไรไปกิน ต้องหาให้ได้ ต่อมาก็ต้องลืมตา มันก็ผิดข้อหนึ่ง นี่หลุดออกจากสมาธิงัย ลืมตาเพื่อหาอะไรมากิน สมมุตว่ามีอะไรเอาแอบไปกินข้างใน สมมุติว่า แอบกินเรียบร้อยแล้ว ทีนี้ก็หิวน้ำ ถ้าสมมุตว่าแอบเอาน้ำเข้าไป นี่ผิดไป 3 ข้อแล้วนะ หลังจากนั้นธาตุกายขันธ์มันปรับเลยนะ มันมีอาหารหนักอยู่ในลำไส้ มันต้องเอออก อีกประมาณวันสองวันมันต้องเอาออก หลังจากนั้นก็ต้องแอบถ่ายหนัก หลังจากนั้นเมื่อน้ำเข้าไปในร่างกาย ก็ปวดปัสสาวะต้องแอบถ่ายเบา ทำผิดไปกี่ข้อญาติโยมทั้งหลาย เมื่อถ่ายเบา อาหารหมดอีก มันก็เพลียมันก็เบื่อ มันก็ต้องแอบนอนหลับ เมื่อนอนหลับ ไม่พูดไม่จา ร่างกายมันปรับไม่ทัน กายก็ป่วย ก็เป็นไข้ เป็นนั่น เป็นนี่ ในที่สุดมันไม่ไหว มันเป็นลมอยู่ในแพ มันไม่ไหว ก็ต้องเรียกคนอื่นให้ช่วย เลยผิดทั้ง 9 ข้อเลย นี่คือการปฏิบัติกรรมฐาน คือถ้าเราแอบกินข้อเดียว จะผิดทั้ง 9 ข้อเลย ถ้านักปฏิบัติธรรมชั้นสูงจะไม่ลังเลสงสัย จะผิดกี่ข้อคือผิดหมด


และอาหารต้องเอาไปให้ครบทำอย่างไรหล่ะ ให้คิดด้วยสติปัญญาอธิบายให้ฟัง เพราะฉะนั้นกัณฑ์นี้วันพรุ่งนี้ประมาณทุ่มหนึ่งครูบาจะแสดงธรรมะอีกครั้งหนึ่ง ครูบาจะแสดงธรรมะแบบตรงๆ ไม่อ้อมค้อม อ้อมค้อมนั้นปัญญาไม่เกิด จึงอธิบายให้ญาติธรรมญาติโยมให้เข้าใจอย่างนี้ ว่ามันเป็นอย่างนี้ หายลังเลสงสัยกันเถอะ มีการว่าแอบนั่งทำได้อย่างไร ก็ได้ยินอยู่บ้างนะการลังเลสงสัยมันก็เยอะ ชั้นไม่เชื่อ ชั้นไม่เชื่อ ชั้นไม่เชื่อ พระอะไรมาอดขี้อดเยี่ยวอยู่ได้ ก็เอากิเลสความช่วยส่วนหยาบของตัวเองมาตัดสินว่าตัวเองชั่วตาม ครูบาพูดตรงนะ ครูบาไม่เกรงใจนะ ทำไมต้องเกรงใจนะ เพราะคุณชั่ว ไปพูดให้คนอื่นชั่วตาม คุณชั่ว ใจชั่วไปคิดชั่วให้คนอื่นชั่วตาม วาจาชั่วก้ออกมา กายชั่วๆ ก็ต้องกระทำ เพราะฉะนั้นมันชั่วทั้งตระกูล นี่พูดให้ฟัง ให้ญาติโยมฟังแล้วให้เข้าใจแล้วพิจารณาตาม ไม่ใช่ว่าไม่เป็นไร วันนี้ครูบาพูดแรง รับไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เอาคืนมานะ

 

องค์พระครูบาเจ้าท่านเมตตาให้พร



องค์พระครูบาเจ้าท่านเมตตาให้พร

ก็ขออนุโมทนากับทางพระอาจารย์ปรีชา จารุวรรณโณ ท่านพระครูบาอินทร์ ท่านพระอาจารย์ ตลอดทั้งญาติธรรมญาติโยมที่ได้มาในวันนี้ ที่ได้นำปัจจัยสี่ ผ้าไตรจีวรณ์ พร้องทั้งอัฐบริขารต่างๆ มาถวายเพื่อเป็นเครื่องสักการบูชา แล้วสามารถที่จะใช้ในการปฏิบัติกรรมฐานขั้นอุกฤตในครั้งนี้ สำหรับเกล้ากระผมเองอาตมาเองก็ขออนุโมทนา และดีใจที่พระอาจารย์ทั้ง 3 ได้อนุเคราะห์เมตตา ที่ยังรักษาคุณธรรมที่ยังรักษาคุณงามความดีนี้อยู่ ที่ยังบูชาคุณธรรมของเกล้ากระผมอย่างเสมอต้นเสมอปลาย ขอขอบคุณอย่างยิ่ง ขออนุโมทนา และขออนุโมทนากับญาติธรรมญาติโยมทุกท่านที่ยังนับถือศรัทธา ในองค์ครูบาเจ้าหน่อแก้วฟ้า ในบุญบารมีนี้ ยังนับถือเลื่อมใสในสิ่งที่ดีที่งาม ด้วยพลังปัญญาอันประเสริฐของญาติธรรมญาติโยม ขออนุโมทนาด้วย ขออานิสงส์แห่งบุญใดกุศลใดที่ท่านพระอาจารย์ทั้ง 3 ได้ถือ

และบุญใดกุศลใดที่ญาติธรรมญาติโยมได้บำเพ็ญได้สร้างมาดีแล้ว เทพเทวดาต่างๆ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ จงอนุโมทนา และให้พรอันประเสริฐนี้ ขอทุกท่านญาติธรรมพร้อมทั้งพระอาจารย์ปรีชา จารุวรรณโณ ครูบาอินทร์และท่านพระอาจารย์ รวมถึงญาติธรรมทุกท่าน จงเป็นผู้มีความสุข มีความสุขด้วย อายุยินนาน วรรณะคือวรรณะผ่องใส สุขะ ความสุขความเจริญ พละนี่พละกำลังแข็งแรง โรคภัยไข้เจ็บไม่ได้เบียดเบียน ปฏิภาณมีสมองดี ปัญญาดี สามารถรู้แจ้งในศาสตร์ ในศิลป์ ต่างๆ มีดวงตาเห็นธรรม ธนะ ทรัพย์สมบัติต่างๆ มากมายมหาศาล ทรัพย์สมบัติต่าง มากมายมาบังเกิดขึ้นกับชีวิตและครอบครัวของท่าน สาระสมบัติสมบัติต่างๆ นานาประการ อริยทรัพย์ทั้ง 7 ประการขอจงบังเกิดขึ้นกับชีวิตและครอบครัวของท่าน ตลอดถึงบุญของทาน ศีล ภาวนา ของท่าน จงหนุนนำให้ท่านสบาย จงหนุนนำให้ท่านมีดวงตาเห็นธรรม ให้สามารถปฏิบัติธรรมตามพระธรรมคำสอนขององค์พระศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้ถึงความหลุดพ้นคือ โสดาบัน สกิทาคามี อนาคามี พระอรหันต์ จนถึงพระนิพพานเป็นที่สุดแห่งทุกข์ ขอให้ทุกท่านเป็นผู้มีความสุข มีความสุข มีความสุข มีความเจริญ มีความเจริญ มีความเจริญ มีความรุ่งเรือง มีความรุ่งเรือง มีความรุ่งเรือง มีความร่ำรวย มีความร่ำรวย มีความร่ำรวย อย่าได้อดอยาก มั่งมีศรีสุข ลาภผลพูนทวี แคล้วคลาดปลอดภัยจากโรคภัยไข้เจ็บอันตรายต่างๆ สัมฤทธิ์ผลทุกสิ่งทุกประการ ดังที่ท่านปรารถนาทุกสิ่ง ขอทุกท่านมีความสุข ความเจริญ อาตมาอาตมาภาพครูบาเจ้าหน่อแก้วฟ้าก็ได้แสดงธรรมมาสมควรแก่กาละเวลาแล้ว ขอให้ทุกท่านมีความสุขความเจริญทุกท่านเทอญ สาธุ

 

องค์พระครูบาเจ้าท่านพูดคุยกับญาติโยมและให้โอวาท



องค์พระครูบาเจ้าท่านพูดคุยกับญาติโยมและให้โอวาท


เงียบกันหมด แอบอนุโมทนาในใจ ดีใจจัง หลวงปู่ครูบามหาป่า เป็นต้นของการปฏิบัติกรรมฐาน นิโรธกรรมขั้นอุกฤษฏ์ หลวงปู่ครูบามหาป่า ซึ่งความหมายจริงๆ นั้น คือหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร การปฏิบัติอย่างนี้ไม่ใช่ครูบาอวดอุตริ หรืออยากปฏิบัติเอง คือเป็นบารมีที่ต้องทำ พระสารีบุตร ก็ทำมา พรมหากัสสปะ ก็ทำ เปิดคอมเปิดเน็ตดู จะอ๋อเอง จะมีพลัง จะรู้เอง เพราะคนทั่วไปมันมั่ว คนนะมันวุ่นวาย มนุษย์นะเขาใจสูง เขาไม่ลังเลไม่สงสัย แต่คนมันใจต่ำ พูดไปพูดมาก็ว่ากันอีกละ โกรธมั้ย ใครไม่พอใจคำพูดครูบายกมือขึ้นซิ ครูบาพูดอย่างนี้นะ เมื่อก่อนครูบาหวานนะ เบื่อ เมื่อเมษายน 2551 ดวงตาเห็นธรรม พอบังเกิดขึ้นก็ไม่แคร์ จะรวยก็รวยไปสิ ไม่ชอบมากำกับชีวิตครูบา นี่รวยใช่ไหม ไปไหนก็ไปเลย ไม่ง้อ บางคนจน จนแต่ดีนะ เขาเกื้อกูลกันด้วยธรรม จะรวยถ้าไม่มีคุณธรรมไม่เอา ไล่เลยนะ ครูบาอาจารย์ครูบาหลายองค์ หลวงปู่ขาว หลวงปู่นริศ หลายองค์ มาขู่ใช่ไหม ไล่ออกวัดเลยนะ อีกอย่างถ้าเราก็มีสติพอ เราก็มีธรรม เราก็ปฏิบัติ ถ้าบุญบารมีเราถึงกัน จะมานะ มาช่วยกัน อยากทำเอง อยากปฏิบัติเอง เอาเป็นว่าคิดเอาเอง มีปัญญาจะส่งผลถึงการปฏิบัติ อยากช่วยท่าน อยากทำเพื่อท่าน มันจะเกิดเองนั่นแหล่ะ เอาอย่างนี้ดีกว่า ธรรมะของครูบาตรงจริง หลายคนก็รับไม่ได้ รับได้ก็ได้ รับไม่ได้ก็ช่าง ไม่สนใจ แต่ครูบาไม่ได้ด่าพ่อด่าแม่ใคร ไม่ด่าครูบาอาจารย์ใคร ไม่ด่าโคตรใคร ยิ้มเข้าไว้ คนเราไม่จีรังยั่งยืน อย่าทิฐิมานะ คนเรานะฐิติคือความถือตัว อย่าถือตัว คนเราทำใจให้กล้า มีดีได้ก็มีดีไม่ได้ มีดีไม่ได้ก็มีดีได้ มันเป็นเช่นนั้นเอง หน้าตาไม่มีตัวไม่มีตน ร่างกายธาตุขันธ์ญาติโยมวันหนึ่งโยมก็ไม่ได้ใช้ คืนเขาไป

 

องค์พระครูบาเจ้าฯ เล่าเรื่องพระอาทิตย์ทรงกลด



องค์พระครูบาเจ้าฯ เล่าเรื่องพระอาทิตย์ทรงกลด

วันนี้โยมแม่หม้ายมาทำแพ ให้ครูบา โยมแม่หม้ายมาจากดินแดนลับแล วันนี้ดีแล้วกระต๊อบสวย เมื่อคืนนิมิตนะ เข้าไปนั่งแพแล้วนะ เกิดนิมิต นิมิตทรงกลดพระอาทิตย์ พระอาทิตย์ 3 ชั้น ทีนี้เกือบเที่ยงวัน ไม่มีอะไรทำก็คิดเอง คิดเองนะ เอามือถือไปถ่ายซิ พระอาทิตย์ อธิษฐานจิตขอบุญบารมีที่ข้าพเจ้าปฏิบัติดีปฏิบัติชอบมา ขอพระอาทิตย์แสดงปาฏิหาริย์ ให้ข้าพเจ้าสักครั้งหนึ่งเถิด เป็นอย่างงัยก็ถ่ายภาพได้มา ให้เกิดแก้วกับแสง นี่งัยเกิดขึ้นแล้ว


ช่วงนี้คนโทรรบกวนบ่อย โทรมาดีบ้างไม่ดีบ้าง ปิดมือถือเลย ใครก็ช่างครูบาไม่รับก็ไม่รับ ปิดมือถือ ถ้าเครียดหนัก ๆ ครูบากระโดดลงน้ำตูมเลย มันก็ร้อนได้นะ พอร้อนมากระทบก็เย็น นิ่ง ถ้านิ่งนะอย่าใกล้ ถอยไปก่อน ถ้านั่งรถอยู่ ห้ามเล่น มิฉะนั้นโดน ให้หาผ้าสังฆาฏิ มานะ หายไปไหนไม่รู้ 3 วัน 4 วัน หายไปไหนไม่รู้ ฉันไม่เห็นเลย ลูกศิษย์มันก็ฉลาดนะ เปิดกระเป๋าครูบา ผ้าสังฆาฏิ สำรองครูบามี เครียด เมื่อคืนให้นั่งสมาธิ 2 ชั่วโมง บางคนถึงถามครูบาว่าชอบใช้ลูกศิษย์ลูกหา เป็นชีวิตจิตใจ ไม่ใช้ไม่ได้ เมื่อก่อนศรีสะเกษ คนมาปฏิบัติธรรม มันดันไปจีบเจ้าของ มันไปทำอะไรของมัน เห็นนะ มันหามะม่วงไปเอาใจสาว ไปปีนต้นมะม่วง ครูบาจะฉันท์ปั๊ปบอก ไปหามะม่วงมาให้ฉัน 1 เข่ง ได้มาปุ๊ป เธอมาปอกมะม่วงให้ฉัน แค่นี้ไม่พอ ต้องปอกให้หมดเข่ง ปอกเสร็จก็กินให้หมด นี่คือระบบครูบานะ อย่างนึกว่าครูบาไม่รู้ไม่เห็น ที่นี้ใครทำอะไรไม่ดีครูบาจะพูดให้ฟัง จิตที่คิดไม่ดี ตอนที่ครูบาเข้านิโรธกรรม จิตคิดไม่ดีครูบาจะประจานเลยนะ บางคนไม่เชื่อในคุณธรรมของครูบา

 

องค์พระครูบาเจ้าฯ พูดเรื่องคุณไสย



องค์พระครูบาเจ้าฯ พูดเรื่องคุณไสย


กลับมาเรื่องรูป บางภาพสีชมพู อย่าเล่นคุณไสยนะ คุณส้มโอ อย่าให้แม่มดเข้าสิงนะ อย่าแทงครูบานะ ครูบาไม่เจ็บนะ แต่คนแทงเจ็บนะ เอาคืนเลยนะ เมื่อก่อนครูบาบ้าคาถาอาคมตอนเป็นพระใหม่ ๆ เขาเห็นเราพรรษาน้อย อาจารย์องค์ที่สองเป็นหมองูของพะเยานะ ดั้ง ดัง แต่ชอบเรื่องคุณไสยเยอะ เขาเห็นโยมชอบมาหาเราเยอะ เขาก็ไม่พอใจที่โยมไม่ไปหาเขา (มีญาติโยมกำลังจะกลับ)ครูบาทักว่าจะกลับแล้วหรือ ไม่เป็นไร อีก 7 วันค่อยเจอกันนะ ถ้ายังไม่อืดนะ ถ้าอืดก็เผา เปลี่ยนจากตักบาตรครูบาเจ้าหน่อแก้วฟ้าเป็นฌาปนกิจ เห็นข้างในแล้วนึกถึงโลง ข้าในกระต๊อบที่ มหาอุบาสิกาต๋อยทำมาถวาย ส๊วย สวย นึกถึงโลงที่เขาทำขาย


กลับไปเรื่องเดิมต่อ เรื่องคุณไสย ครูบากลับไปวัดนะ อ้วกออกมา อ้วกจนไม่มีอะไรจะอ้วกนะ จนอ้วกเป็นเลือด มีมาค้างที่คอเรา เหล็ก 3 เป็นสนิม มาติดที่คอเรา ตอนนั้นเจ็บคอไปหลายวัน ไม่เป็นไร ก็ลองดูซิว่าครูของเราแรงไหม ก็เอาตะปูนั่นแหล่ะ คาถาของเขมรที่เรียนมา จะได้ผลดีไหม ปรากฏว่าไม่ถึงอาทิตย์ ก็เห็นว่าอาจารย์องค์นี้ที่ว่าเก่ง ๆ ชอบทำบั้งไฟ ก็เลยใช้วิชาของฤาษีตาไฟด้วย เก่งนะปู่ฤาษีตาไฟนะ แรงนะเมื่อก่อน จ้องเทียนให้ดับ หลวงปู่ฤาษีลิงดำเมื่อก่อนนะ ตาท่านจะแดง แดงเป็นไฟ ก็เลยลองดู อาจารย์องค์นั้นเวลาทำบ้องไฟ จะใช้เขม่าตำดินไฟเยอะๆ คงจะใช้ดินไฟเยอะๆ นะ ครกเลยแตกดังปั้ง โห! เพดงเพดาน ก็แล้วแต่จะคิดนะว่าเป็นคุณไสยรึเปล่า เมื่อก่อนนะ แต่เดี๋ยวนี้ไม่มีอะไร เย็นลงแล้ว ตอนนี้ไม่ได้ทำคุณไสยใคร แต่ใครทำมาโดน นะไม่รู้ โมไม่เห็น ใครผู้ใดว่าร้ายข้าพเจ้าของจงมันจง จุด จุด จุด (ตอนนี้องค์พระครูบาเจ้าท่านหัวเราะ) สะท้อนกลับ สะท้อนกลับ สะท้อนกลับ ใครทำดีมา วั๊บ วั๊บ วั๊บ สะท้อนกลับ สะท้อนกลับ สะท้อนกลับ ใครทำไม่ดีครูบามีบุญบารมีเยอะเรื่องนี้นะ แต่ครูบาไม่คงกระพัน ข้อเสียของครูบานี่บอกตรงๆ นะ เมื่อเช้าเดิน ท่านวัชระครูเดินไปด้วย หญ้าอะไรก็ไม่รู้ดอกเล็กๆ ที่มันเป็นดอกๆ มันปักเท้าครูบาเข้า เพราะฉะนั้นครูบาจะไม่คงกระพันเรื่องนี้ แต่ครูบาจะมีเสน่ห์ 3 อย่าง พูดจาดี บารมีดี ถ้าเป็นพ่อค้าแม่ขาย ขายดี มีเมตตาคน เมตตาสงสาร อุปถัมภ์ และสิ่งสุดท้ายคือคนเกลียดเลยนะ พอเมตตาเยอะคนก็เลยเกลียด สิ่งที่ครูบาเก่งคือ เมตตา ค้าขาย โชคลาภ เฉพาะศีลเอตทัคคะด้านไหนหล่ะ 3 องค์รวม มีเอกายนะ มีพระสีวลี พระอุปคุต วันนั้นก็ 2 งวดรวดออกเลยนะ แต่ตอนนี้ไม่ได้บอกหวยนะ บอกแค่ 431 ไม่ใช่หวยนะแต่เป็นธรรมะ (ญาติโยมหัวเราะ) ขอให้มีโชคทุกคนขอให้มีความสุขความเจริญ ขอให้ทุกท่านรับพระ


จากนั้นองค์พระครูบาเจ้า ฯ เมตตาให้พรเป็นภาษาล้านนา

 

แผนที่ไปกราบองค์พระครูบาเจ้าหน่อแก้วฟ้า เฉพาะวันที่ 14 กันยายน 2553 ค่ะ

แผนที่ไปกราบองค์พระครูบาเจ้าหน่อแก้วฟ้า เฉพาะวันที่ 14 กันยายน 2553 ค่ะ ขออนุโมทนา

 

ธรรมเทศนาที่องค์พระครูบาเจ้าท่านเทศน์เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2553



เมื่อวาน วันที่ 13 กันยายน 2553 หลังจากทราบข่าวว่าองค์พระครูบาเจ้าท่านมากรุงเทพ พี่เจนจึงได้ส่ง emailไปถึงเพื่อนๆ ญาติธรรม ที่ web พลังจิต น้องโคมหลวง เป็นผู้ติดต่อมาคนแรก น้องพูดว่าว่าชาตินี้นึกว่าจะไม่ได้กราบท่านแล้วและขอบคุณพี่เจนที่แจ้งให้ทราบ ก่อนที่พี่เจนจะส่งไปนั้น พี่เจนได้อธิษฐานจิตว่าใครที่มีเคยร่วมสร้างบุญบารมีกับองค์พระครูบาเจ้าขอให้ได้มากราบท่าน จริงๆ แล้ว น้องโคมหลวงตั้งใจจะไปกราบท่านที่พะเยา แต่ยังไม่ได้ไป พอเห็น email ที่พี่ส่งไป น้องดีใจมากๆ และน้องก็ได้กระจายข่าวให้กับคณะของน้องที่มีประมาณ 20 คน มีเครือข่าย face Book ด้วย พี่เจนก็ปลื้มใจและอนุโมทนากับน้องที่ได้มากราบองค์พระครูบาเจ้าท่าน วันนั้น มากัน 8 คน ทุกคนต่างปลาบปลื้ม ปิติ ที่ได้มากราบองค์พระครูบาเจ้าท่าน บางคนปิติถึงกับน้ำตาไหล องค์พระครูบาเจ้าท่านได้เทศน์ให้ฟังเป็นกาลเฉพาะ โดยองค์พระครูบาเจ้าท่านบอกให้น้องๆไปเรียบเรียงมา โดยให้พี่เจนช่วยขัดเกลาเรียบเรียงให้สมบูรณ์อีกที เพราะแต่ละครั้งองค์พระครูบาเจ้าท่านจะเทศน์ไม่เหมือนกันเลย น้องที่เพื่อนๆเรียกชื่อว่า “ น้องปราญ “ (คุณปราญชลี)ซึ่งเป็นผู้ที่มีความจำเป็นเลิศ นั้นเป็นผู้รับหน้าที่นี้ หลังจากพี่เจนอ่านที่น้องเขียนเรียบเรียงส่งมาให้แล้ว พี่เจนจึงจะไม่ขอตัดทอนถ้อยคำหรือประโยคใดๆ ของน้อง ออกแม้แต่คำเดียว ขออนุโมทนาบุญด้วยประการทั้งปวงกับน้องปราญ น้องโคมหลวง น้องแอ้ และทุกท่านที่พี่เจนไม่ได้เอ่ยนาม เพราะถามชื่อไม่ทันค่ะ ส่วนน้องๆ ทุกคน ถ้ามีเพิ่มเติม ขอให้นำมาลงได้เลยค่ะ ขออนุโมทนาบุญกุศลอีกครั้ง สาธุ สาธุ อนุโมทามิ

 

ธรรมเทศนาที่องค์พระครูบาเจ้าท่านเทศน์เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2553

น้องปราญ : กลัวจังเลยค่ะ กลัวว่าจะผิดพลาดคลาดเคลื่อนไปจากที่ครูบาท่านสอน กลัวเป็นบาปกับตัวเองค่ะรบกวนพี่ช่วยขัดเกลาให้ด้วยนะคะ

ก่อนที่จะเขียนเรื่องราวทั้งหมดนี้ ผู้น้อยขอออกตัวก่อนว่า สิ่งที่ได้พิมพ์ลงไปได้กลั่นออกมาจากปัญญาและสัญญาที่มีอยู่อย่างน้อยนิด แม้คำใดหรือข้อธรรมใดที่ผู้น้อยได้พิมพ์ลงไปแล้วไม่ตรงตามวัตถุประสงค์ที่ครูบาต้องการสื่อหรือไม่ตรงตามข้อหลักข้อธรรมแล้ว ผู้น้อยขอขมากรรม ขออโหสิกรรม ท่านผู้อ่านโปรดจงงดซึ่งโทษอันนั้นด้วยเถิด

ครูบาได้เมตตากล่าวธรรมะมากมายจนไม่คิดว่าจะจำได้ทั้งหมด ดังนั้นผู้น้อยจะขอแยกกล่าวเป็นข้อๆเพื่อให้ง่ายแก่การจดจำและการอ่าน บางอย่างอาจมีการท้าวความเกริ่นตามประโยคที่ฟังมา เพื่อให้ง่ายแก่การระลึกถึงข้อความเหล่านั้น ใครรำคาญอ่านแล้วเบื่อ อยากได้เนื้อหามากกว่าน้ำก็อ่านข้ามๆบ้างก็ได้นะเจ้าคะ

เริ่มแรกเลยครูบาก็ได้ถามก่อนว่าพวกเรามากันยังไง มาจากที่ไหน ชื่ออะไรกันประมาณนี้ ด้วยความบังเอิญชื่อปราญชลีเป็นชื่อที่ฟังยาก และไม่มีความหมายตายตัว จึงเป็นประเด็นของธรรมะที่ท่านได้กล่าวขึ้นมา

ครูบา : ชื่ออะไรเหรอ
ผู้น้อย : ชื่อปราญชลีเจ้าค่ะ
ครูบา : แปลว่าอะไร
ผู้น้อย : เคยมีคนบอกว่าปราญชลีแปลว่า ผู้ควรแก่การน้อมไหว้เจ้าค่ะ โยมก็ไม่รู้ความหมายแต่มีคนช่วยแปลให้ว่าอย่างนั้นเจ้าค่ะ
ครูบา : อืม ผู้ควรแก่การน้อมไหว้เป็นอย่างไร ก็คือเราต้องทำตัวเราให้เหมาะสมแก่การน้อมไหว้นะ อย่าคิดว่าเราต่ำต้อยที่ได้เกิดมาเป็นหญิง จริงอยู่การเป็นหญิงนั้นหมายถึงว่าเรามีกรรมนะจึงทำให้เราได้เกิดเป็นหญิงแต่ผู้หญิงก็สามารถบรรลุธรรมได้ง่ายกว่าผู้ชายนะ เพศหญิงเป็นเพศที่สูงนะ ต้องเรียกว่าเป็นทั้งผู้มีบุญและมีกรรม ลองดูสิ เทพพรหมเทวาท่านมีนางฟ้าปรนนิบัติดูแล องค์ละตั้ง 500 คน นั่นแปลว่าผู้หญิงเข้าวัดทำบุญมากกว่าจึงมีโอกาสได้ไปเกิดเป็นนางฟ้ามากกว่า แต่เมื่อเราหมดบุญก็ต้องกลับมาเสวยวิบากต่อไปนะ แล้วจะทำอย่างไรให้แน่ใจว่าจะไม่ต้องเสวยวิบากอีกล่ะ ก็คือเราต้องทำให้จิตเราเป็นพระอริยบุคคลให้ได้ อริยบุคคลคืออะไร ก็คือพระโสดาบัน พระสกิทาคามี พระอนาคามี พระอรหันต์ เหล่านี้แหละคือพระอริยะล่ะ แม้ว่าวันหนึ่งๆเราต้องข้องเกี่ยวกับเรื่องทางโลกมากมาย ต้องแต่งหน้าทาปาก ต้องใช้ชีวิตไปตามกระแสของสังคม แต่ทุกๆวันเราก็ควรหาเวลาให้กับตัวเองที่จะอยู่กับใจตัวเองด้วยนะ
(เฮ้อออ เริ่มกลุ้มใจ กลัวเรียบเรียงไม่ถูกจัง)

 

ครูบาท่านว่า"เราพูดอะไรเป็นธรรมะได้หมดนะ เราไม่จำเป็นต้องขึ้นธรรมาสน์เทศน์ แต่ทุกอย่างที่เราพูดเป็นธรรมทั้งสิ้น อยู่ที่ว่าใครจะเก็บเกี่ยวได้อย่างไร"

"เราเคยบอกหวยนะ แต่เราไม่ได้บอกหวยแบบทางโลกหรอกแต่เราบอกแบบทางธรรม ถ้าทางโลกคนเล่นเป็นก็จะเอาไปซื้อแล้วถูก แต่ถ้ามองทางธรรมก็จะได้ธรรม อย่างนี้เราจะบอกหวยนะ "891" คืออะไรมีใครพอจะรู้ไหม

8-อริยมรรคมีองค์แปด
9-ก็คือมรรค8+ปลายทางอีก1คือนิพพานไง 8+1=9 ใช่ไหม
1-นิพพาน

ก่อนหน้าที่เราก็บอกไปนะ 23 34 ถ้าคนเป็นเล่นเขาก็เอาไปต่อเลขเป็น 56 เห็นไหมนี่แหละหวย เก็บไว้เป็นการบ้านนะ 23 34 คืออะไร(เดี๋ยวตอนจบจะมีเฉลย)

ธรรมะ 84,000 พระธรรมขันธ์ สรุปรวมกันอยู่แค่ 1 เดียวนะคือความไม่ประมาท ความไม่ประมาทก็คือการมีสติ การขาดสติก็คือประมาทเห็นไหม

พระพุทธองค์ท่านสอนไม่ให้เชื่อนะ ท่านสอนหลักกาลามสูตร 10 เห็นไหม แต่หลักนี้ต้องสอนให้กับผู้ที่มีปัญญาในระดับหนึ่งแล้ว เพราะถ้าไปสอนคนไม่มีปัญญามันก็จะกลายเป็นมิจฉาทิฏฐิขึ้นมา แต่ผู้มีปัญญาท่านจะสอนให้ไปปฏิบัติเอง พระพุทธองค์เป็นเพียงผู้ชี้ทางนะที่เหลือเป็นหน้าที่เราที่จะต้องไปปฏิบัติเอง ปฏิบัติแล้วจึงน้อมเข้ามาใส่ตัว

พระพุทธองค์ท่านเป็นผู้วิเศษไหม คิดว่าท่านใช่ผู้วิเศษไหม ท่านไม่ใช่ผู้วิเศษนะ หากท่านเป็นผู้วิเศษ เมื่อท่านประสูติมาท่านก็คงขอให้ทุกคนพ้นจากความทุกข์ไปแล้ว แต่ท่านไม่ใช่นะ ท่านเป็นเพียงคนธรรมดาที่ปฏิบัติมานานแล้ว สั่งสมบารมีมาจนถึงวันที่ท่านได้บรรลุมรรคผลนิพพาน เห็นไหมท่านก็เป็นคนธรรมดา เราก็เป็นคนธรรมดา ดังนั้นหากอยากหลุดพ้นได้เราก็ต้องปฏิบัติ

เราเวียนว่ายตายเกิดมากี่ภพกี่ชาติแล้ว อะไรล่ะเป็นตัวส่งให้เราทุกข์ รู้ไหม ก็ความเกิด แก่ เจ็บ ตาย ทุกทุกข์โศก ร่ำไรรำพัน ความไม่สบายกาย ความไม่สบายใจไง สิ่งเหล่านี้แหละล้วนเป็นตัวทุกข์ ทุกข์คนมีเหมือนกันนะมีเท่ากันทุกคน อย่ามัวคิดว่าฉันทุกข์มาก เขาทุกข์น้อย ไม่จริงแหละเราทุกข์เหมือนกันทุกคน ต่างตรงที่ใครจะได้รับทุกข์ในรูปแบบไหนต่างหาก ไม่เบื่อบ้างเหรอ

เวลาปฏิบัติอย่าไปอยากนะ ถ้าอยากมันจะไม่ได้ผลเท่าไหร่ แต่ถ้าเราไม่อยากปฏิบัติไปพอถึงจุดหนึ่งเมื่อได้แล้วความอยากนั้นมันก็ไม่มีความสำคัญอะไร เหมือน พระอานนท์ เห็นไหม เดิมทีท่านอยากท่านปรารถนาจะได้มรรคผลนิพพาน ท่านฝึกอย่างไรก็ไม่ได้แต่พอไม่อยาก แค่ตอนจะเอนกายลงนอนท่านก็บรรลุเลย

ทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกใบนี้มันสมมติขึ้นมาทั้งนั้นแหละนะ เหมือนอย่างเราเองที่สมมติขึ้นมาว่าเกิดวันที่นั้น เดือนนั้น ตอนนี้อายุเท่านี้ปี เหล่านี้เป็นสิ่งสมมติทั้งนั้น แท้จริงแล้วทุกอย่างมันเกิดแล้วดับ เกิดแล้วดับตลอดเวลา ชีวิตเรามีแค่ หายใจเข้าและออกเท่านั้นแหละ

วันที่ 31 ธ.ค.นี้เราจะจัดงานนะ โยมจะเข้าไปร่วมงานกันไหม เป็นพิธีทางล้านนาโดยจะทำการแก้ผ้าดูของกันและกัน ดูว่าของใครขาวใครดำ ใครเล็กใครใหญ่ ใครยาวใครสั้น ใครเหม็นใครหอม โยมฟังแล้วอาจจะรู้สึกว่าพิธีอะไรฟังดูไม่น่าเข้าร่วมเลยแต่ที่จริงแล้วเราจะทำการแก้ผ้าตัวเก่าออก ใส่เสื้อตัวใหม่ แล้วที่ว่าดูกันน่ะ ใครขาวใครดำคือจิตใจของเรานะว่ามืดหรือสว่าง ขาวหรือดำ ใครเล็กใครใหญ่คือแท้จริงแล้วไม่มีใครใหญ่เกินกรรมนะ ลองมาดูกันว่ากรรมดีและกรรมชั่วเราได้กระทำกรรมใดๆไว้มากกว่ากัน ใครยาวใครสั้นก็คืออายุนะ อย่าประมาทนะ อย่าคิดว่าเด็กตัวเล็กๆจะอยู่ได้อีกนาน คนอยู่มานานจะเหลือเวลาน้อย เราไม่รู้หรอกว่าจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อไหร่ ดังนั้นจงเร่งปฏิบัติซะตั้งแต่วันนี้

ใครที่ได้นำธรรมะไปปฏิบัติแล้วได้ผลก็เอามาบอกต่อนะ การชักชวนกันมาปฏิบัติ การบอกธรรมะต่อๆกันก็ถือเป็นการทำบุญอย่างนึง บางครั้งเราไม่จำเป็นต้องทำบุญด้วยเงินเสมอไป แต่เราทำบุญด้วยการบอกธรรมะก็ได้

เราอย่ามัวมานั่งแบ่งแยกกันนะว่าเราศิษย์อาจารย์คนนั้นคนนี้ ที่จริงแล้วเราทุกคนมีครูบาอาจารย์คนเดียวกันคือพระพุทธเจ้า เรา(ตัวท่าน)มีครูบาอาจารย์หลายท่าน เรามักจะไปกราบครูบาอาจารย์หลายรูปแล้วนำหลักคำสอนของท่านมาประยุกต์ใช้ในทางธรรมของเรา

 

จากนั้นท่านก็ได้ทำพิธีผูกแขนให้โดยที่ด้ายของท่านก็เป็นข้อสอนธรรม ท่านใช้ด้ายสีแดงร้อยลูกประคำเล็กๆไว้เส้นละ 5 ลูก 2 เส้นผูกเข้าด้วยกัน แล้วท่านก็บอกว่า ที่ท่านมัดไว้ให้ก็เอามาใช้เตือนจิตเราว่าสิ่งนี้คือเบญจศีลและเบญจธรรม มันเป็นของคู่กันแยกจากกันไม่ได้


อิอิเหนื่อยแล้วล่ะ ตี 1 แล้ว จริงๆโดยส่วนตัวผู้น้อยรู้สึกว่าผู้น้อยได้อะไรมากมายจากธรรมะที่ท่านได้เมตตากล่าวกับพวกเราในวันนี้ บางอย่างผู้น้อยอาจจำไม่ได้ อาจฟังไม่ทัน อาจไม่ได้เล่ามาในบันทึก แต่ทุกอย่างจะถูกรวบรวมไว้ในสัญญาของผู้น้อยเอง สักวันเมื่อถึงเวลา สิ่งเหล่านั้นคงถูกกระตุ้นเตือนให้เรานึกออกขึ้นมาได้

สุดท้ายก่อนจะจบตอนที่ท่านเอิ้นขวัญ ให้พรเป็นภาษาล้านนา จะมีใครรู้บ้างว่าน้ำตาเราพร่างพรู ทุกถ้อยคำเหมือนส่งจากใจสู่ใจจริงๆ เราไม่เคยเกิดในถิ่นแถบนั้น แต่น่าแปลกที่เรากลับรู้สึกเคยคุ้น เหมือนเคยได้พูด ได้ฟังมาก่อน เรานั่งน้ำตาไหล ใครจะว่าเราไม่เข้มแข็งเราไม่สนใจหรอกนะ เรารู้ว่าเราเป็นอะไร เรารู้

อ้อ เกือบลืม 23 34 ธรรมะ 4 ข้อที่ท่านให้ไว้ 2 คือ รูป นาม 3 คือตัณหา 3 3อีกอันคือไตรลักษณ์ และ 4 คืออริยสัจ 4 ที่จริงเราว่าน่าจะมีมากกว่านี้ล่ะ ตอนเอ่ยถึงอริยสัจ 4 ใจเรานึกเลยไปถึง โพธิปักขิยธรรม 37 โน่น แต่ว่าเราก็จำได้ไม่ทั้งหมดหรอกนะ ครูบาให้การบ้านไว้ด้วยล่ะ แต่จำคำถามไม่ได้อ่ะ แง๊

สุดท้ายแล้วจริงๆ ปราญฯต้องขอขอบคุณ
1.พี่เจน ผู้ซึ่งส่งข่าวให้พี่หลวงทราบ
2.พี่หลวง ผู้ซึ่งส่งข่าวให้เราทราบ
3.คุณสามี ผู้ซึ่งไม่เคยขัดขวางหรือเอ่ยปากห้ามที่เราออกไปกราบครูบา ขอบคุณนะพี่ บุญกุศลทั้งหมดทั้งมวลขอให้พี่ได้รับโดยเท่าเทียมจ้ะ

สุดท้ายที่สุดนี้ หากธรรมะใดก็ตามที่ผู้น้อยได้กลั่นกรองออกมาในครั้งนี้ แม้มีผู้ใดได้อ่านแล้ว หากธรรมะข้อนั้นให้ช่วยให้ท่านได้รู้แจ้งในธรรมต่างๆหรือช่วยตอบปัญหาข้อติดขัดของท่านให้ลุล่วงก้าวหน้า ขอบุญกุศลทั้งหมดทั้งมวลนั้นจงอุทิศให้แก่ บุพการีทุกชาติทุกภพของผู้น้อย และขออุทิศให้แก่เจ้ากรรมนายเวร เจ้าบุญนายคุณ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 16 ชั้นฟ้า 15 ชั้นดิน โปรดจงรับในอานิสงฆ์ผลบุญนี้ และขอให้ผลบุญนี้จงเป็นพลวปัจจัย เป็นนิสัยตามส่ง ให้ผู้น้อยมีดวงตาเห็นธรรมรู้แจ้งด้วยปัญญาญาณ ขอให้ผู้น้อยมีจิตใจที่มั่นคง ตรงสู่เส้นทางของมรรคผลนิพพาน จนถึงที่สุดแห่งความพ้นทุกข์ในปัจจุบันชาติหรืออนาคตกาลอันใกล้นี้ด้วยเทอญ

 

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นขณะที่อ่านกระทู้นี้ ก็ขอเล่าในกระทู้นี้เลยแล้วกันครับ ขอนุญาติเจ้าของกระทู้ไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะครับ

ขณะที่ผมกำลังไล่อ่านกระทู้นี้อยู่ ด้วยการคิดไปต่างๆนาๆอยู่นั้น อยู่ๆประตูห้องของผมก็ถูกผลักเปิดออกทั้งสองข้างผมก็คิดว่าใครเนี่ย แต่อยู่ๆประตูก็ปิดลงเองต่อหน้าต่อตาผม โดยที่ผมไม่เห็นใคร

ผมจึงเดินออกไปดูที่หน้าห้องแล้วคิดว่า ถ้ามีอะไรต้องมีให้เห็นอีกครั้งสิ
ประตูก็เปิดและปิด ต่อหน้าต่อตาผมเป็นครั้งที่2 ซึ่งผมยืนอยู่หน้าห้อง ทั้งที่ไม่มีใคร ต่อหน้าต่อตาผม

ผมยังไม่พอใจ คิดอีกครั้งว่า ถ้าของดีจริงต้องสามครั้งสิ ประตูก็เปิดและปิดเองเป็นครั้งที่3 ทั้งที่ผมก็ยืนอยู่หน้าห้องอยู่อย่างนั้นเอง

ครั้งที่ 2และ3ที่ประตูเปิดและปิดตามที่ผมคิดอยู่ในใจ

(ในขณะนั้นมีฝนตกพรำๆมีลมพัด ผมจึงออกมาดูนอกห้องเพื่อดูว่าเป็นเพราะคนหรือแรงลมหรือเปล่าที่ผลักประตูเปิดและปิดจากครั้งแรก คนไม่มีแน่เพราะผมดูอยู่หน้าห้องเลย แรงลมเท่าที่ผมรู้สึก ตอนที่ยืนอยู่หน้าห้องก็แทบจะไม่รู้สึกเลย เรียกคนในบ้านมาถามความเห็น เขาก็ว่าเสียงเปิดปิดดังขนาดนั้นไม่น่าจะเกิดจากลม ที่พัดอยู่ได้ เขาก็ขนลุกกัน เพราะตอนที่เขาได้ยินเขาก็คิดว่าใครเปิดปิดประตูเสียงดังเชียว แต่ทุกคนก็อยู่กับที่ มีผมคนเดียวที่ยืนมองอยู่หน้าห้องนั้น แปลกพอดี)
อย่าเชื่อหรือไม่เชื่อจนกว่าจะพิสูจน์ได้ด้วยตัวเองครับ

เป็นเรื่องเล่าที่เกิดขึ้นพอดี แล้วเล่าสู่กันฟัง ทุกท่านควรใช้วิจารณญานในการรับฟังเรื่องเล่านี้ของผมครับ

เกิดที่นี้ก็ขอเล่าที่นี้ครับ หากผิดพลาดประการใดต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ

อนุโมทนาในบุญในวาสนาอันเป็นกุศลของทุกท่านครับ

 

ขออนุโมทนาบุญค่ะคุณรู้รู้ไป กับประสบการณ์ตรงอย่างนี้ เกิดขึ้นขณะที่อ่านกระทู้นี้อยู่พอดี ขณะที่ผู้เขียน เขียนอยู่ในขณะนี้ ก็ขนลุกค่ะ ขนหัวยิ่งลุกใหญ่ มากๆ ด้วย ไม่ต้องแปลกใจค่ะ ถ้าคิดในเรื่องที่ดี เจนก็ขออนุโมทนาบุญด้วยประการทั้งปวงค่ะ กราบ กราบ กราบ องค์ครูบาเจ้าค่ะ

 

อยากทราบว่า คุณเจน ส่งข้อความ บอกข่าวบุญ ให้แต่ละคน ไปนี่ เพราะมีอะไรพิเศษ หรือป่าวเอ่ย

พอจะบอกได้ไหมครับ

 

คนที่รักครูบาอาจารย์ตนมีความห่วงหาอาทรมักจะอยากให้ครูบาอาจารย์ตนเป็นที่รู้จักไปทั่วทุกๆทิศ ไม่แปลกอะไรครับ แต่ต้องอยู่ในศีลในธรรมนะครับ ขอบคุณครับ

 

ก่อนที่เจนจะแจ้งข่าวไป เจนได้ตั้งจิอธิษฐานค่ะว่าถ้าใครมีบุญร่วมกันกับครูบาเจ้าท่านมาก่อน ก็ให้เขาได้ไปกราบค่ะ บางคนเขาก็ไปกราบมาแล้ว สงสัยให้ไปถามเขาได้ค่ะ การไปกราบไหว้ครูบาอาจารย์นั้น ไม่จำเป็นเสมอไปที่ต้องนำปัจจัยไปถวายท่านค่ะ พ่อแม่ครูบาอาจารย์หลายท่าน ท่านมีเมตตามากค่ะ โดยเฉพาะพระครูบาเจ้าหน่อแก้วฟ้านี้ท่านเมตตาอย่างไร คุณไม่ต้องสนใจหรอกค่ะ เพราะเจนรู้ของเจนดี ว่าท่านบารมีคุณธรรมท่านนั้น เจนยกท่านไว้เหนือเศียรเกล้าค่ะ เจนเป็นศิษย์ที่เคารพและศรัทธาพระอาจารย์ของเจนยิ่งนัก หากคุณคิดว่ามีอะไรเคลือบแคลงนั่นเป็นเรื่องของคุณค่ะ พระพุทธเจ้าท่านสอนว่าให้ดูจิตใจตนเอง ไม่ต้องไปสนใจว่าใครเขาจะคิดอย่างไรค่ะ ปฏิบัติเองได้กับตนเองค่ะ เจนยังเคยมีเพื่อนๆ หลายคนชวนไปทำบุญกับพ่อแม่ครูบาอาจารย์ตั้งหลายๆ ครั้ง ไม่เห็นจะแปลกตรงไหนเลยนะ ดีซะอีกเจนว่านะ ต้องขอบคุณหลายคนที่คอยส่งข่าวกันมาอยู่เรื่อยๆ อนุโมทนาเถอะค่ะ อย่างไรก็ได้บุญ อย่างไรก็ขออนุโมทนาที่แสดงความคิดเห็นในกระทู้นะค่ะ

 

คุณสนังกุมารพรหม เจนสวดมนต์ นั่งสมาธิ วิปัสนากรรมฐานมิได้ขาดค่ะ ถือศีล 8 และศีล 5 อยู่เป็นนิจค่ะ 2 เดือนที่ผ่านมา เจนถือศีล 8 17 วัน และหยุดถืออีกครั้ง 15 วัน พร้อมกับเรียนกรรมฐานขั้นอุกฤษฏ์ค่ะ เจนโชคดีทีไ้ดพบอาจารย์ที่ทานเมตตาค่ะ การทำบุญทำทานนั้น เจนทำเสมอเมื่อมีโอกาสค่ะ เจนปฏิบัติตามคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ท่านเมตตาสอนธรรมะไว้ เจนจะทำความเพียรและอยู่ในศีลธรรมตลอดไปและทำอยู่จนกว่าชีวิตจะจากไป และลมหายใจสุดท้ายที่จะจากไป จะไปพร้อมการกำหนด " พุทธโธ " ของเจนค่ะ ขออนุโมทนาด้วยค่ะ

 

คุณ nuttadet เห็นด้านล่างข้อความของคุณเกี่ยวกับหลวงพ่อฤาษี เจนฟังธรรมเศนาของท่านทุกวันเวลาทำงานและดีมากค่ะ พระครูบาเจ้าท่านก็เป็นศิษย์หลวงพ่อฤาษีเหมือนกันค่ะ เจนฟังวันละหลายๆ ชัวโมงด้วยจาก website นี้ tamma.homeip.net -- เพื่อเผยแพร่พระธรรมคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่จำเป็นว่าเราจะเป็นศิษย์ของใครค่ะ ขอยกคำขององค์ครูบาเจ้าหน่อแก้วฟ้า ท่านเพิ่งเทศน์ไปหยกๆ สงสัยจะอ่านผ่านแน่ๆ ใช่ไหมค่ะ นี่คือที่ท่านเทศน์ไว้ค่ะ เราอย่ามัวมานั่งแบ่งแยกกันนะว่าเราศิษย์อาจารย์คนนั้นคนนี้ ที่จริงแล้วเราทุกคนมีครูบาอาจารย์คนเดียวกันคือพระพุทธเจ้า เรา(ตัวท่าน)มีครูบาอาจารย์หลายท่าน เรามักจะไปกราบครูบาอาจารย์หลายรูปแล้วนำหลักคำสอนของท่านมาประยุกต์ใช้ในทางธรรมของเรา เห็นไหมค่ะ ว่าตรงใจเจนหลือเกิน นี่สามารถตอบคำถามคุณไดไม่มากก็น้อย อนุโมทนาค่ะ

 

ขอเชิญทุกท่านชมภาพและกระทู้ต่างๆ พร้อมทั้งประวัติ ของพระครูบาเจ้าหน่อแก้วฟ้าได้ที่นี่ค่ะ

http://www.larndhamkruba.net/index.php

 

ตามคุณเจนมาขอกราบครูบาด้วยคนค่ะ ถ้าเรามีบุญคงได้มีโอกาสเจอครูบาท่านสักครั้งนะคะ ถ้าไม่มีบุญ-*- ก็ขอร่วมบุญกฐินก็ยังดี อยากทราบว่า กฐินครูบามีถึงวันไหนคะ อยากมีส่วนร่วมค่ะ อิอิ