จับตาภัยจากมวลชน 24 พย 2555 ร่วมเสวนาแบบสุภาพได้ที่นี่...

กลุ่มนปช. นนทบุรี นัดรวมตัวหน้าสถานีไทยคม ถ.รัตนาธิเบศร์ ตร.เตรียมเข้าดูสถานการณ์

วันที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 เวลา 12:26:02 น

24 พ.ย. 2555 เมื่อเวลา 12.11 น.สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอสรายงานว่า ขณะนี้กลุ่มนปช.ในจังหวัดนนทบุรีกำลังนัดรวมตัวมวลชนเสื้อแดงที่บริเวณหน้าสถานีดาวเทียมไทยคม ตรงข้ามศาลากลางจังหวัดนนทบุรี บริเวณถนนรัตนาธิเบศร์ช่วงแยกแคราย ในช่วงบ่ายวันนี้เพื่อต่อต้านการนัดชุมนุมขององค์กรพิทักษ์สยามของพล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ หรือเสธอ้าย ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าไปดูแลความเรียบร้อยแล้ว

 

“ พวกเรา ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งที่จะยังประเทศไทยให้อยู่รอดได้ ด้วยหลักการปฏิบัติในศีล สมาธิ ปัญญา ตราบใดที่พวกเรายังตั้งใจปฏิบัติอยู่ และอุทิศส่วนกุศลให้แก่เทพเจ้าต่าง ๆ ที่รักษาประเทศของเราอย่างสม่ำเสมอ

ท่านทั้งหลายเหล่านั้น ก็ยังพอมีกำลังที่จะไปคานกับอีกฝ่ายหนึ่ง ซึ่งเสวยบุญของตนอยู่และมีเทพเจ้ารักษาอยู่เหมือนกัน แต่ว่าเขาเสวยบุญอย่างเดียวจริง ๆ โดยการไม่ได้สร้างของใหม่ขึ้นเลย มีแต่สร้างบาปกรรม แต่ในเมื่อวาระบุญมันส่งผลก็ทำให้เขาเป็นใหญ่เป็นโตในแผ่นดินขึ้นมา

ถ้าพวกเราไม่หมั่นตั้งใจบำเพ็ญภาวนา โดยเฉพาะอุทิศส่วนกุศลให้แก่เทพเจ้าต่าง ๆ แล้ว โอกาสที่ประเทศไทยของเราจะล่มจมสูญสลายมีสูงมาก เพราะนักการเมืองสมัยนี้ไม่ คำนึงถึงผลประโยชน์ของประชาชน นอกจากผลประโยชน์ของพวกพ้องและตัวกูเอง

ในหลวงนอกจากเหนื่อย ยังชราภาพมากแล้ว ถ้าหากว่าพวกเราตั้งหน้าตั้งตาประกอบกรรมทำดี พระองค์ท่านก็ยังมีกำลังใจที่จะอยู่ต่อ แต่ถ้าหากว่ามือไม่พายแล้วยังเอาเท้าราน้ำอีก มีแต่จะช่วยเหยียบย่ำซ้ำเติมให้ประเทศชาติล่มจมไปง่ายขึ้น

ขอบอกว่า ถ้าพระองค์ท่านหมดกำลังใจ เราจะเดือดร้อนกว่าที่คิด เพราะว่าบางพวก บางกลุ่ม เขารออยู่อย่างเดียว เขาถือเป็นดีเดย์เลย มันเอาแน่

แล้วถ้าถึงเวลานั้น ที่เดือดร้อนที่สุด จะกลายเป็นพระอย่างอาตมานี่แหละ จะโดนเสียก่อน เพราะว่าพระนั้น มีจุดบอดตรงที่ว่า เครื่องแต่งตัวแปลกแยกกว่าชาวบ้านอย่างชัดเจน ที่อยู่ก็มีหลักแหล่งอย่างแน่นอน ชนิดที่หลบไปไหนไม่ได้ เขาจะใช้กำลังคนหรือกฎหมายก็ตาม สามารถที่จะบีบบังคับจัดการได้ง่าย

ดังนั้น ถ้ามีวิธีใดก็ตาม ที่คิดว่าเราจะสร้างกุศล สร้างกำลังกายกำลังใจ เพื่อให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระเจริญยิ่งยืนนานต่อไปได้

ให้ขวนขวายและเร่งทำกันให้มากไว้ โดยเฉพาะในส่วนของหลักธรรมต่าง ๆ ถ้าเรายึดถือและปฏิบัติกระทำโดยพร้อมเพรียงกัน ประเทศชาติจะสงบร่มเย็น

เพราะว่า ต่างคนต่างทำความดี ต่างคนต่างตัดรัก โลภ โกรธ หลง ของตนเอง ไม่ไปกระทบกระทั่งใคร ไม่แห่ตามข่าวลือต่าง ๆ ไป

ถ้าเราได้วันหนึ่งเอาวันหนึ่ง พยายามเร่งขวนขวายความดีของเราให้มากที่สุด ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระองค์ท่านให้มากที่สุด โดยหวังว่าเทพเจ้าต่าง ๆ ทั้งหลาย ทั้งที่รักษาพระองค์ท่านก็ดี ทั้งที่รักษาประเทศชาติก็ดี จะได้รับส่วนกุศลนี้ไป และมีกำลังช่วยกันค้ำจุน สถานการณ์บ้านเมืองของเรา อย่าให้มีอันเป็นไปมากกว่านี้

ถ้าหากว่า โดยวาระกรรมของเราแล้ว ประเทศชาติของเราช่วงนี้ มันอยู่ในจุดที่แย่ และจะแย่มากขึ้น ดังนั้น วิธีแก้กรรมที่ง่ายที่สุดก็คือ ทำความดีให้เยอะไว้ เหมือนอย่างกับไฟมันร้อนมาก ก็พยายามหาน้ำดับมันให้ได้ แม้ว่าน้ำจะไม่พอดับไฟ อย่างน้อย ๆ มันบรรเทาเบาบางลงก็ยังดี

สิ่งที่จะทำให้เรายืนหยัดได้ในสังคมปัจจุบันก็คือ แน่วแน่มั่นคงและเข้มแข็งในกำลังใจของเราเอง ที่จะไม่ไหลตามกระแสบริโภคนิยม ไม่ไปตามรัก โลภ โกรธ หลง ของคนส่วนใหญ่เขา

ถ้าทำอย่างนั้นได้ เราก็จะเหมือนก้อนหินกลางน้ำ อย่างน้อย ๆ ถ้ามันก้อนเล็กไม่สามารถให้คนอื่นเกาะพักพิงได้ ก็ยังยืนหยัดได้ด้วยตนเอง ไม่เป็นภาระแก่คนอื่นเขา แต่ถ้าเราเป็นหินใหญ่กลางน้ำได้ ก็เป็นที่เกาะ ที่อาศัยพักพิงของคนอื่นด้วย ยืนหยัดด้วยตัวเองได้ด้วย ก็จะช่วยประเทศชาติได้มากกว่านี้

อาตมาเป็นส่วนหนึ่งของสังคม ส่วนหนึ่งของประเทศ และสถาบันหนึ่งที่เป็นหลักยึด ก็ได้แต่นำสิ่งที่จะพอบอกกล่าวกันได้มาพูด บางที การรู้เรื่องต่าง ๆ แต่พูดไม่ได้ อกมันจะแตกตายเหมือนกัน ”

(ส่วนหนึ่งจากคำเทศน์เรื่อง “โชคดีที่เรามีในหลวง” โดย พระครูธรรมธรเล็ก สุธมฺมปญฺโญ เทศน์ก่อนทำกรรมฐาน ณบ้านอนุสาวรีย์ วันเสาร์ที่ ๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๒)

 

เสื้อแดงเริ่มรวมตัว เรากลัวว่า น่าจะมีเหตความรุนแรงนะ!!

เพราะเฉพาะกลุ่มขับไล่รัฐบาล ก็ระดับนึงแล้ว ยังมี

กลุ่มเสื้อแดงอีก จะขนาดไหน???????

 

สวัสดีครับ...
-และแล้วก็ถึงวันและเวลาตามสถานการณ์
-สงครามไม่ผลดีทั้งสองฝ่าย มีทั้งเจ็บและเจ็บไม่ว่าจะเป็นฝ่ายไหนๆก็ไทยด้วยกัน
-ตอนนี้รอบบ้านเมืองสยามคงจะหัวเราะเยาะเย้ย ว่า มันเริ่มทะเลาะกันแล้ว โดยเฉพาะเพื่อนบ้านที่จ้องจะฮุบดินแดน ซึ่งในอดีตเมื่อปี ๒๕๒๘-๒๕๓๐ พยายามจะฮุบดินแดนไทย เป็นรูปตัว L โดยเริ่มจาก ทางบ้านร่มเกล้า อ.นครไทย จ.พิษณุโลก และทาง ด้านอีสานใต้ ก็ทางบ้านช่องบก อ.น้ำยืน จอุบลราชธานี ทหารเวียดนาม-เฮงสัมริน ได้ส่งกองกำลังจำนวนมากเข้ากวาดล้างกองกำลังเขมรฝ่ายต่อต้าน ตามแนวชายแดนไทยที่จังหวัดอุบลราชธานี จนเกิดกรณีการรบกันอย่างหนักกับไทยที่ช่องบก ตั้งอยู่ในพื้นที่ อ.น้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี เป็นพื้นที่ชายแดนซึ่งมีอาณาเขตติดต่อกัน ๓ ประเทศ คือ ไทย ลาว และกัมพูชา มีทิวเขาพนมดงรัก กั้นเป็นแนวเขตแดน เนื่องจากพื้นที่ทางฝั่งเขมรเป็นที่ราบต่ำ ทหารเวียดนามจึงได้รุกล้ำเข้ามาตั้งฐานที่มั่นลึกเข้ามาในเขตไทยประมาณ ๕ กม. มีการปรับปรุงดัดแปลงที่ตั้งเพื่อรับการโจมตีจากทางไทยเป็นอย่างดี ลักษณะภูมิประเทศรูปตัวแอลใหญ่คือพื้นที่ป่าภูเขาบริเวณรอยต่อจังหวัดพิษณุโลก จังหวัดเพชรบูรณ์ จังหวัดเลย ทอดตัวยาวลงมาทางใต้ตามแนวเทือกเขาเพชรบูรณ์ มาบรรจบกันบริเวณเขาใหญ่ บริเวณรอยต่อ จังหวัดนครราชสีมา จังหวัดปราจีนบุรี จังหวัดนครนายก และจังหวัดสระบุรี ซึ่งทอดตัวยาวมาจากทิศตะวันตก ตั้งแต่จังหวัดอุบลราชธานี จังหวัดศรีสะเกษ จังหวัดสุรินทร์ จังหวัดบุรีรัมย์ ตามแนวเทือกเขาพนมดงรัก เขาบรรทัด เขากำแพง และบรรจบกันที่ เขาใหญ่ อ.ปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา
๒.๑.๔ ในช่วงดังกล่าวบางรายงานแจ้งว่ามีทหารเวียดนามในลาวประมาณ ๖๐,๐๐๐ คน และในเขมรประมาณ ๑๕๐,๐๐๐ คน ซึ่งอาจจะต้องการเปิดศึก ๒ ด้าน ให้ไทยพะว้าพะวงทั้งการรุกที่บ้านร่มเกล้าตีเจาะมาทางเหนือ และตีรุกเข้ามาที่ช่องบกทางใต้ เพื่อตัดและยึดภาคอีสาน เลยหากรณีมาอ้าง เพื่อทำการรบ
-อีกศึกหนึ่งที่มีมาแต่อดีตจนปัจจุบันและยัง ค้างคาอยู่ คือเขาพระวิหาร แต่ปราสาทตาควาย ปราสาทตาทม ชายแดนด้านนี้ ปัจจุบันนี้ก็ยังอึมครึมเหมือนหยุดไว้ก่อน
-อีกด้านคือปลายด้ามขวาน สามจังหวัดชายแดนใต้ ก็ยังหาจุดที่จะสงบสุขไม่ได้ ไม่ว่าจะรัฐบาลไหน แถมยังมีภาวะจะแรงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
-จุดเปราะบางจุดอื่นๆโดยรอบเขตประเทศไทยเราพยายามรักษากันไว้น่ะครับ
พรมแดนประเทศไทยทางบกรวมระยะทางทั้งหมด 4,863 กิโลเมตร
แนวฝั่งรวม: 3,219 กม
ทะเลอาณาเขต: 12 ไมล์ทะเล (22.8 กม.)
เขตเศรษฐกิจเฉพาะ: 200 ไมล์ทะเล (370.4 กม.)
ไหล่ทวีป: ความลึก 200 ม. หรือที่ระดับของการแสวงหาผลประโยชน์
ประเทศไทยมีอาณาเขตติดต่อกับประเทศเพื่อนบ้าน 4 ประเทศ ได้แก่ ประเทศลาว พม่า กัมพูชา และมาเลเซีย[1]
ด้านสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว

มีชายแดนติดต่อกับประเทศไทยตั้งแต่สามเหลี่ยมทองคำ จังหวัดเชียงราย ผ่านจังหวัดพะเยา น่าน อุตรดิตถ์ พิษณุโลก เลย หนองคาย นครพนม มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี รวมระยะทางทั้งสิ้น 1,754 กิโลเมตร โดยมีพื้นที่ชายแดนที่เป็นทั้งภูเขา แม่น้ำ ที่ราบ แม่น้ำโขงเป็นสายน้ำสำคัญระหว่างไทยกับลาว มีการสัญจรติดต่อกันโดยใช้เรือ จึงมีท่าเรือสำคัญทั้งสองประเทศ เส้นทางเชื่อมระหว่างสองประเทศนี้ได้แก่ สะพานมิตรภาพ ไทย-ลาว แห่งที่ 1 และแห่งที่ 2 ปัญหาชายแดนด้านนี้คือ การลักลอบเข้าเมือง การลำเลียงยาเสพติด การขนสินค้าหนีภาษี เป็นต้น
ด้านสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา (พม่า)

มีชายแดนติดต่อกับประเทศไทยตั้งแต่สามเหลี่ยมทองคำ อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย ผ่านชายแดนที่เป็นทั้งภูเขาและแม่น้ำ ผ่านจังหวัดเชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน ตาก กาญจนบุรี ราชบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และระนอง รวมระยะทางทั้งสิ้น 1,800 กิโลเมตร การแบ่งเขตแดนจะแบ่งโดย ถ้าเป็นภูเขาจะใช้สันปันน้ำเป็นแนวเขต แต่ถ้าเป็นแม่น้ำจะใช้ร่องน้ำลึกเป็นแนวเขต เนื่องจากชายแดนด้านนี้มีชนกลุ่มน้อยของพม่าตั้งถิ่นฐานอยู่หลายเผ่า เช่น ไทยใหญ่ กะเหรี่ยง มอญ เป็นต้น อาศัยอยู่ จึงมีมีการอพยพแรงงานเข้ามาในไทย มีการลักลอบค้าของหนีภาษี ผลิตภัณฑ์แปรรูปจากไม้สัก บ่อนการพนัน การลักลอบขนยาเสพติด เป็นต้น
ด้านราชอาณาจักรกัมพูชา

มีชายแดนติดต่อกับประเทศไทยนับตั้งแต่ช่องบก (สามเหลี่ยมมรกต) ในอำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ผ่านจังหวัดศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ สระแก้ว จันทบุรี และตราด รวมระยะทางทั้งสิ้น 803 กิโลเมตร บริเวณชายแดนที่ติดกับตอนล่างของภาคอีสานจะใช้ทิวเขาพนมดงรักเป็นเส้นแบ่งเขตแดน แถบจังหวัดสระแก้วเป็นที่ราบและคลอง จึงเป็นเส้นทางเดินติดต่อกันสะดวก พื้นที่แถบนี้เรียกว่า "ฉนวนไทย" โดยบริเวณอำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว มีตลาดการค้าขนาดใหญ่เรียกว่า "ตลาดโรงเกลือ" ชาวกัมพูชามักจะมาซื้อสินค้าประเภทอาหาร และวัสดุก่อสร้าง ปัญหาชายแดนด้านนี้คือ การลักลอบค้าของหนีภาษี บ่อนการพนัน และการโจรกรรมรถยนต์จากไทยไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เป็นต้น
ด้านมาเลเซีย

มีชายแดนติดต่อกับประเทศไทยตั้งแต่จังหวัดสตูล สงขลา ยะลา และนราธิวาส รวมระยะทางเขตแดน 506 กิโลเมตร ที่จังหวัดสตูลมีรั้วคอนกรีตกั้นแบ่ง แต่ส่วนใหญ่จะใช้แนวทิวเขาสันกาลาคีรีและแม่น้ำโกลกแบ่งเขตแดน ชายแดนด้านนี้มีเส้นทางคมนาคมที่สะดวกทั้งทางรถยนต์และรถไฟ ปัญหาชายแดนด้านนี้คือ การลักลอบขนของหนีภาษี ปัญหาการทำประมง การนับถือศาสนาและความแตกต่างทางวัฒนธรรมเฉพาะพื้นที่ เป็นต้น
-ฉะนั้น พยายามน่ะครับ ช่วยกันรักษาไว้ ทั้ง
ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

.....รักกันไว้เถิด.....

 

ฝนมา ลมมา คงพอช่วยได้ระดับหนึ่ง แต่คงไม่นาน ถ้าอีกฝ่ายออกมา คงต้องดูกันยาว รึจะเจ็บกันเยอะ

 

ปากน้ำโพตั้งจุดสกัดกันม๊อบขนอาวุธเข้ากรุงฯ

วันเสาร์ที่ 24 พฤศจิกายน 2555 เวลา 12:43 น.



วันนี้ 24 พ.ย. ที่ถนนสายเอเซีย บริเวณสี่แยกพยุหะคีรี อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ ซึ่งเป็นเส้นทางสายหลักในการเดินทางมุ่งสู่กรุงเทพมหานคร ทางพล.ต.ต.สืบก์ศักดิ์ ชวาลวิวัฒน์ ผบก.ภ.จว.นครสวรรค์ ได้สั่งการให้นำกำลังเจ้าหน้าที่สายตรวจ สภ.เมืองนครสวรรค์ ร่วมตั้งด่านจุดตรวจเข้มแข็งตลอด 24 ชั่วโมง ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พยุหะคีรี เพื่อตรวจประชาชนที่เดินทางเข้ากรุงเทพฯ โดยเฉพาะผู้ที่เดินทางไปร่วมการชุมนุมกับกลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม โดยมีการเน้นตรวจค้นยานพาหนะที่มีผู้โดยสารจำนวนมาก และรถยนต์ต้องสงสัย เพื่อตรวจค้นอาวุธและบุคคลต่างด้าว ที่จะอาศัยช่วงการชุมนุม แอบแฝงเข้าไปในกรุงเทพฯ หรือเข้าไปตามคำชักนำของบุคคลอื่น ในการป้องกันการขนอาวุธสงครามและสิ่งผิดกฏหมาย ใช้สร้างสถานการณ์ความวุ่นวายในการชุมนุม ซึ่งการตั้งด่านดังกล่าว จะมีกำลังเจ้าหน้าที่ทั้งหมด 25 นาย และจะมีการหมุนเวียนกำลังทุก 3 ชั่วโมง จำนวน 8 ผลัด ส่วนการตรวจค้นที่ผ่านมา พบว่า ปริมาณรถจากหลายจังหวัดทางภาคเหนือการเดินทางเข้าสู่กรุงเทพฯ กันมากขึ้น แต่ยังไม่พบอาวุธ และบุคคลแอบแฝงหรือบุคคลต่างด้าวแต่อย่างใด

ด้าน นายชัยโรจน์ มีแดง ผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ เปิดเผยว่า เมื่อวานได้มอบนโยบายเพิ่มเติมแก่ข้าราชการ และหน่วยงานในพื้นที่ โดยให้ข้าราชการ ผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ทำความเข้าใจกับประชาชนถึงสถานการณ์บ้านเมืองในปัจจุบัน ช่วยเป็นประบอกเสียงในการประชาสัมพันธ์ข้อมูลที่ถูกต้องแก่ประชาชน และขอให้สื่อมวลชนทุกแขนง เป็นสื่อกลางในการสร้างความเข้าใจอันดีของสถานการณ์บ้านเมืองปัจจุบัน

ทั้งนี้ มีรายงานด้วยว่า เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา กลุ่มแนวร่วมเครือข่ายองค์การพิทักษ์สยาม อ.เมืองนครสวรรค์ ซึ่งเป็นกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเดิม กว่า 500 คน ร่วมนัดรวมตัวกันที่บริเวณหน้าป้ายอุทยานสวรรค์ เพื่อขึ้นรถเดินทางไปร่วมชุมนุมขับไล่รัฐบาล โดยการเดินทางครั้งนี้ กลุ่มแนวร่วมดังกล่าวได้มีการลงขัน จ้างรถบัส จำนวน 3 คัน และรถยนต์ตู้อีก 1 คัน ใช้ในการเดินทาง อีกทั้ง แกนนำกลุ่มฯ ยังได้ระบุด้วยว่า จะไปร่วมชุมนุมอย่างน้อยเป็นเวลา 2 วัน แต่หากมีเหตุการณ์รุนแรงขึ้น จะปรักหลักอยู่ร่วมชุมนุมต่อจนกว่าจะถึงที่สุด และคาดว่าตลอดทั้งวันนี้





[ame=http://www.youtube.com/watch?v=ajPCBT1GXlM&feature=player_embedded]ปากน้ำโพตั้งจุดสกัดกันม๊อบขนอาวุธเข้ากรุงฯ - YouTube[/ame]

 

ถ้าชุมนุมยังมีต่อ วาระอภิปรายรัฐบาลพรุ่งนี้ อาจจะงดละมั้ง

 

ทุกเรื่องเป็นผลของกรรม และสัมมาทิฐิผมคนหนึ่งแหละ ขอให้สติตัวเอง นึกถึงสัจธรรมของพระพุทธเจ้า ปฏิบัติตามแนวทางที่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านทรงสอนไว้

 

ตร.นำม็อบฝากขังตชด.คลอง5

วันเสาร์ที่ 24 พฤศจิกายน 2555 เวลา 12:59 น.

จนท.ตำรวจ นำตัวผู้ก่อความวุ่นวาย จากม็อบของอพส. ไปฝากขังที่ตชด.คลอง 5จำนวน 80 คน





ภาพชุด ตร.นำม็อบฝากขังตชด.คลอง5 | เดลินิวส์

 

ขณะรายงาน...อยู่ๆท้องฟ้าก็มืดครื้ม ก่อนหน้ายังแดดเปรี้ยงอยู่เลย
และเมื่อสักครู่ฟ้าร้องรัวเป็นกลองดังเลยทีเดียว..ได้ยินแล้วขนลุกบอกไม่ถูก :boo:

รายงานจาก: รามอินทรา

 

ม เกษตร ตกไปแล้วค่ะ ตกหนักมากยังกะฟ้ารั่ว

 

มีจุดสกัดกันม๊อบตรวจอาวุธ แล้วที่ กลุ่มนัดพบ

หน้าสถานีดาวเทียมไทยคมขณะนี้ มีเจ้าหน้าที่

กลุ่มไหน คอยควบคุม ตรวจสอบบ้างมั๊ย? หรือ

คอยตรวจเฉพาะกลุ่มขับไล่รัฐบาล?

 

อพส.ประกาศขยายพื้นที่ชุมนุมไปมัฆวาน ในเวลา14.00น.

2012-11-24 13:29:15



พล.อ.ท.วัชระ ฤทธาคนี โฆษกกลุ่มอพส.แถลงการชุมนุม ว่ากลุ่มผู้ชุมนุมมีความเสียใจที่รัฐบาลรังแกประชาชนชาวไทย มีการใช้พรบ.ความมั่นคงและสั่งตร.ดูแลการชุมนุมที่สงบ ปราศจากอาวุธ พยามยามทุกวิธีทางไม่ให้กลุ่มผู้ชุมนุมเข้ามาพื้นที่ชุมนุม ขณะเดียวกันบนเวทีอพส.บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า มีมติเตรียมขยายพื้นที่ชุมนุมจากลานพระบรมรูปทรงม้าไปสะพานมัฆวานรังสรรค์ ในเวลา 14.00น. พร้อมย้ำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดพื้นที่

 

กรรม แทนที่จะอยู่กับครอบครัว กับมาเจอเหตุการณ์แบบนี้ เข้าไปง่าย ออกยาก ไหนจะค่าประกัน สารพัด ช่วงนี้เขาประกาศเขตพิเศษด้วย สงสาร

 

ตำรวจในประเทศไทย คือ เจ้าหน้าที่ของรัฐหรือเจ้าพนักงานที่สังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติซึ่งเป็นส่วนราชการไม่สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวงหรือทบวง มีฐานะเป็นกรม และอยู่ในบังคับบัญชาของนายกรัฐมนตรี ตำรวจนั้นมีหน้าที่ตรวจตรารักษาความสงบ จับกุม และปราบปรามผู้กระทำผิดกฎหมาย เป็นผู้ที่มีหน้าที่ความรับผิดชอบอันใหญ่หลวงในการดูแลคุ้มครอง ให้เกิดความสงบสุขแก่พลเมืองของประเทศ

อำนาจของตำรวจ
อำนาจของตำรวจตามพฤตินัย ตำรวจมีแนวทางในการประพฤติปฏิบัติหน้าที่ ตามประเพณีที่เป็นแบบอย่างดังนี้ ตำรวจมีหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองและมีอำนาจจะสอบสวน จับกุม คุมขัง ปราบปราม เป็นเครื่องมือสำคัญในการปฏิบัติหน้าที่อำนาจเหล่านี้สามารถสร้างคุณและโทษได้เท่าๆ กัน สุดแต่การใช้ ตำรวจทุกคนจึงจำเป็นต้องควบคุมจิตใจให้มั่นคง เที่ยงตรงอยู่ในความสัตย์สุจริต ไม่ใช้อำนาจที่มีอยู่ด้วยอคติ หรือยอมให้ผู้อื่นมาแอบแฝงใช้อำนาจของตนโดยไม่เป็นธรรม

อำนาจของตำรวจจะเกิดผลเป็นคุณประโยชน์ คือ เป็นการรักษาความสงบสุข ปกป้องสุจริตธรรม และผดุงความถูกต้องเป็นธรรม จึงต้องขอให้ตำรวจทั้งหลายได้คิดพิจารณาให้เห็นถ่องแท้ จะได้สามารถใช้อำนาจที่มีอยู่เป็นเครื่องมือในการปฏิบัติหน้าที่ของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ให้สำเร็จประโยชน์โดยบริสุทธิ์บริบูรณ์

 

แมงเม่าถูกล่อให้เข้าหาไฟ สงครามประชาชน 2 ฝ่าย แต่ถือสัญชาติไทยทั้งคู่

 

สื่อนอกรายงานตร.ใช้แก๊สน้ำตา-ม็อบเจ็บ10

วันเสาร์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ.2555 13:44น.



สื่อนอกรายงาน ตำรวจ ใช้แก๊สน้ำตาสลายม็อบรอบแรก บาดเจ็บ 10 ราย

สำนักข่าวซินหัว ทางการจีน รายงานสถานกาณณ์การประท้วงในประเทศไทย ว่า เมื่อมีผู้ประท้วงประมาณ 500 คน ได้เผชิญหน้ากับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่บริเวณสะพานมัฆวานรังสรรค์ และพยายามตีฝ่าแนวกัน ด้วยการตัดลวดหนาม และขับรถฝ่าด่าน เป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บทั้ง 2 ฝ่าย ประมาณ 10 คน

รายงานระบุว่า ตำรวจ พยายามสกัดผู้ประท้วง ไม่ให้ผ่านพื้นที่ประกาศเขต พ.ร.บ.ความมั่นคง แต่ผู้ประท้วงไม่ยอม พยายามตีฝ่าให้ได้ จนถึงขั้นวิกฤติ เจ้าหน้าที่จึงใช้แก๊สน้ำตาสลายผู้ประท้วง จนมีผู้บาดเจ็บ

ซินหัว รายงานโดยอ้างข้อมูลจาก สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ว่า ผู้ประท้วง 6 คน ตำรวจ 4 คน ได้รับบาดเจ็บ โดยผู้ประท้วงส่วนใหญ่ ที่โดนแก๊สน้ำตา ไม่ได้รับความช่วยเหลือจากแพทย์ เพราะไม่มีหน่วยแพทย์สามารถเข้าถึงผู้ประท้วงได้ ต่อมา ตำรวจใช้รถบรรทุกกระจายเสียง เตือนให้ผู้ประท้วงอ้อมไปเข้าร่วมการชุมนุมทางอื่น

เช่นเดียวกับสื่ออื่นๆ ทั่วโลก เช่น เดอะ วอลล์สตรีท เจอร์นัล, ดอยช์ เวเลย์ ของเยอรมัน, เอสบีเอส ของออสเตรเลีย รวมถึง วอชิงตัน โพสต์ รายงานเหมือนกันว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีมากกว่าผู้ชุมนุมจำนวนมาก ได้ใช้แก๊สน้ำตาสลายผู้ชุมนุม ในการปะทะกันครั้งแรกของวันนี้


สถานการณ์ที่ทำเนียบฯยังนิ่งตร.เข้มทุกอาคาร

วันเสาร์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ.2555 13:50น.



สถานการณ์ที่ทำเนียบฯ ยังนิ่ง ตำรวจยังประจำอยู่ทุกอาคาร พร้อม ไม่พบรัฐมนตรีเดินทางมาปฏิบัติภารกิจ

สถานการณ์ภายในบริเวณทำเนียบรัฐบาล ขณะนี้ ยังคงสงบเรียบร้อย มีเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยดูแลประจำอยู่ทุกอาคาร ซึ่งตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา ไม่พบว่ามีรัฐมนตรีคนใด เดินทางมายังทำเนียบรัฐบาล ส่วนบริเวณรอบนอกทำเนียบรัฐบาล ทางด้านสะพานมัฆวานรังสรรค์ ที่เกิดการปะทะระหว่างผู้ชุมนุมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขณะนี้สถานการณ์ความรุนแรงได้ลดน้อยลง แต่ยังคงมีการปะทะเล็กน้อย ซึ่งจะต้องจับตาดูที่บริเวณนี้อย่างใกล้ชิด เนื่องจากกลุ่มผู้ชุมนุมยังคงพยายามที่จะทำลายแนวกั้นจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อเปิดถนนบริเวณที่ติดกับทำเนียบรัฐบาล และกระทรวงศึกษาธิการ

ทั้งนี้ บริเวณถนนรอบทำเนียบรัฐบาล ทั้งทางฝั่งถนนพิษณุโลก และถนนนครปฐม มีเจ้าหน้าที่ตำรวจคุมเข้มกว่า 8,000 นาย พร้อมรถทำคลื่นเสียงรบกวน และแก๊สน้ำตา เพื่อรองรับกรณีหากมีผู้ชุมนุมบุกรุกเข้าพื้นที่ทำเนียบรัฐบาล

 

รายงานสถานการณ์ล่าสุดเข้ามาจากเนชั่นทีวี เกิดการปะทะกันระหว่างม็อบผู้ชุมนุมกับตำรวจรุนแรงอีกครั้ง มีการขว้างแก็สน้ำตาใส่ผู้ชุมนุมอีกรอบ