จิตพร้อม? รับภัยพิบัติ

สำหรับทุกทานที่กำลังพยายาม อาจจะตามอ่านแล้วทำเอง หรือแอบอ่านของคนอื่น

ผมขอแนะนำนะครับการทำอะไรก้อแล้วแต่ ขอให้ท่านมีความตั้งใจจริง ตั้งสัจจะกับตัวเองว่าเราจะทำเพื่อให้ถึงให้ได้

ขอให้ทำด้วยความรักและเคารพต่อท่านด้วยใจ ด้วยชีวิต

การทำด้วยความตั้งใจมีข้อดีคือ เราจะตั้งใจมาก แต่ระวังให้ดีนะครับ อย่าให้เกินพอดี จนกลายเป็นความอยาก ความอยากจะทำให้เราเกร็ง เราจะคาดหวังจนเราจะเครียด

เคยทำอะไรทีเราเกร็งๆไหมครับ น่าจะรู้ดีว่าผลจะเป็นเช่นไร มันไม่ใช่ธรรมชาติ

อย่าลืมนะครับ ธรรมะ คือ ธรรมชาติ

อย่าไปฝืนจนเกินพอดี

อย่าอยาก

ที่สำคัญคือ ครู หรือ ที่ปรึกษา อย่าห่างนะครับ มีอะไรรายงาน ขอคำปรึกษา เราจะได้มีหลัก รู้ว่าจะไปอย่างไรต่อ

ขอให้ท่านมั่นใจ ที่เราทำอยู่นี้ เราอยากทำด้วยใจบริสุทธิ์ต่อทุกดวงจิต

สิ่งที่ท่านได้ เราอนุโมทนาด้วยครับ

พยายามให้ท่านอยู่กับเราทุกขณะจิต เรารักท่าน ท่านจะเมตตาเรา

อย่าดูถูกตัวเองว่า ฉันจะทำได้ไหม ขอให้รู้ไว้ คุณทำได้ทุกคนนะครับ

ผมไม่ขออะไรมากจากทุกท่าน ถ้าท่านก้าวหน้าแล้ว ขอให้ท่านมาช่วยกันครับ ให้ท่านจำภาพในขณะที่ท่านอยากทำได้ เรารู้สึกเช่นไร คนที่เค้าอยากทำ เค้าก้อรู้สึกเช่นเดียวกับท่าน

ในขณะที่เค้าหิว เราควรจะช่วยเค้านะครับ

ยิ่งให้ ยิ่งสุขใจ ยิ่งให้ ยิ่งให้ยิ่งได้

ด้วยผลบุญที่ผมได้ทำมาทั้งหมดทั้งมวล ขอมอบให้ทุกดวงจิตที่กำลังทำอยู่ ขอให้ท่านก้าวหน้าจนถึงจุดที่ท่านตังใจไว้

สวัสดีครับ

 

​

เกาะกันได้บ้างไหม๊?

สวัสดีครับชาวจิตเกาะพระทุกท่าน
แหม๊! ออกมาช่วยกันใหญ่เลย น่ารักจริงๆ
งานนี้ ถ้าใครช่วยยกจิตกันได้มากๆนะ ผมจะมีรางวัลให้อย่างงาม
(โดยเฉพาะชาวจิตบุญทั้งหลาย)

ทั้งให้กำลังใจ ทั้งชม ทั้งอ้อน ทั้งแกนขู่(ฟ่อๆ) และทั้งตบท้ายด้วยรางวัล

ปฎิบัติไปถึงไหนกันแล้ว
เกาะกันได้บ้างไหม๊?
สำหรับผู้แอบ หรือไม่ได้แอบทำ
แต่ถ้าผู้ใดพอจะทำได้ ก็อย่าลืมออกมาแสดงตนกันนะ ตำรวจไม่จับหรอก
แต่กิเลสตนเองจะจับ เป็นตัวประกันเอากันนะ ระวังให้ดีๆ

ลืมบอกเทคนิคการทำจิตเกาะพระ คือ...

1.อย่ากำหนดมองพระกันเฉยๆ เดี๋ยวจิตจะเบื่อ เพราะปกติถ้าจิตยังไม่นิ่ง หรือฝึกยังไม่ดีพอแล้ว เพราะจิตจะไปเรียนรู้เรื่องใหม่อยู่เรื่อยๆ
แต่ถ้าเราไม่สนใจจิตกันตรงนี้ ที่ที่จิตกำลังสงสัยอยู่นั้น แต่ถ้าเราไม่มีคำตอบ จิตก็จะไม่สนในจและไปรับรู้เรื่องราวต่างๆอีกต่อไป
เพราะถ้าเราจะปล่อยวางกันได้ เราจะต้องอาศัยจิตตนเองปล่อยวางก่อน
แต่จิตจะปล่อยก็ต่อเมื่อ เราต้องสนใจจิตตนเองก่อน หรือนำสติตามดู ตามรู้จิตด้วยความเป็นกลางนั้น
และที่เรากำลังอยู่นี้ เท่ากับเรากำลังเรียนรู้จิตตนเอง
และการที่เราจะมาเรียนรู้จิตตนเองนั้น เราจำเป็นจะต้องอาศัยจำลักษณะอาการ หรืออารมณ์ต่างๆของจิตตนเองตามไปด้วย

2.ในระหว่างทำจิตเกาะพระนั้น เราจะต้องให้ความรักและเคารพต่อพระพุทธเจ้าด้วยความจริงใจกันด้วย กล่าวคือ เรามิใช่ไปนั่งมองดูแค่ว่าท่านกำลังจะทำอะไร แต่ขอให้เราน้อมจิตไปกราบไหว้ท่าน และขออาราธนาบารมีท่านให้ช่วยดึงเอาจิตของเราไปในทิศทางที่สงบ หรือสำรวมกาย วาจา ใจ

3.ให้กระทำด้วยใจ กล่าวคือ ต้องตั้งใจ เอาใจใส่ ใส่อารมณ์ร่วมของตนเข้าไปด้วย(มองแบบไหนก็ได้ ขอให้แบบติดซึ้งตรึงใจใจ)
หรือทำแบบสติปัญญา คืออย่าทำแค่นั่งมองพระ หรือมโนจิตกันเฉยๆ แต่ถ้าใครกระทำแบบนั้น ก็จะถือว่าไม่ให้ความเคารพพระพุทธเจ้ากัน

แค่นี้ก่อนนะครับ แต่ถ้านึกอะไรขึ้นได้ก็จะทยอยบอกกันไป (ตอนนี้งานเข้า)
และผมต้องขอโทษกันด้วยที่ตอบได้ไม่มาก และไม่ได้ตอบให้กับทุกคน
เดี๋ยวจะคอยมีเพื่อนๆช่วยกันตอบ

และอย่าลืมเข้าไปแวะเยี่ยม ชมเวปไซต์ ใหม่ๆสดๆร้อนๆกันนะครับ
เวปจิตเกาะพระ
โดยมี DJ.สาวน้อย(admin.) เป็นผอ.ประจำเวปฯ
http://www.jitkohphra.com/

 

ออกมาเตือนกัน เป็นระยะ ระยะ ระยะ

จิตพร้อม??? รับภัยพิบัติ

บางคนตอบว่า พร้อม
แต่บางคนก็ตอบว่า ไม่พร้อม

แต่ถ้าไม่พร้อม หรือไม่แน่ใจกัน
ขอแนะนำให้ทำจิตเกาะพระกันนะ
เพราะถ้าทำกันได้ มันมีประโยชน์ตนเองทั้งนั้น
เรียกได้ว่า ใครทำใครได้ ใครกินใครอิ่ม
ทำแทนกันไม่ได้ เพราะจิตเกาะพระก็ถือว่า เป็นการสร้างบุญภายใน เป็นบุญใหญ่

หรือมีประโยชน์ทั้งโลกนี้ และโลกหน้า
หรือถ้าภัยพิบัติเกิดขึ้นกันจริงๆ แต่ถ้าจิตเราพร้อมรับความเสียหาย และความสูญเสียกันได้ก็จะเป็นการดี
เพราะเราจะได้ไม่เป็นทุกข์มาก โดยเฉพาะทุกข์ทางใจ
แต่ถ้าภัยพิบัติไม่เกิดขึ้น เราก็ไม่ต้องมีความเป็นอยู่อย่างหวาดระแวงกัน หรือจะได้ไม่เป็นผู้นอนไม่หลับ กินไม่ได้
เผลอๆโรคประสาทจะเอาไปรับประทานเสียก่อนด้วยซ้ำไป
แต่ถ้าพวกเราหมั่นฝึกฝนจิตกันให้ดี โดยนำจิตไปเรียนรู้ หรือเราไปเรียนรู้จิตของตนเอง
เมื่อเราหรือจิตเรียนรู้และเข้าใจในสิ่งที่มากระทบกาย กระทบจิตแล้ว
และต่อไป ถ้าเราหรือจิตรู้แล้ว เข้าใจแล้ว จิตจะปล่อยวางได้ หรือเราจึงจะปล่อยวางกันได้เมื่อนั้น

เห็นไหม๊???
มีประโยชน์ดดยตรงทั้งตนเอง หรือผู้อยู่รอบๆตนเอง
แล้วถ้าใครไม่ฝึกทำกันตั้งแต่วันนี้ เป็นต้นไป

ขอตอบคำเดียวว่า... Sorry!.. ซีล่อ.. เสียใจ...เสียใจ
คือน่าเสียดายจริงๆ
มาบอกบุญให้กันฟรีๆ ยังไม่ยอมเอากันอีก
ของดีไม่เอา สงสัยจะไปเอาของไม่ดี ก็ตามใจนะครับ

พี่ภูก็ได้แค่ออกมาเตือนด้วยความหวังดีกัน เท่านั้น

 

เมื่อคืนเห็นพระอจนะเป็นสีขาวทั้งองค์เลยค่ะสว่างมากเหมือนแสงไฟนีออนเลย วันนี้เห็นเหมือนเมื่อคืนค่ะแต่ก็เหมือนจะใสๆด้วยค่ะแสงสว่างจ้าไปทั้งองค์ค่ะแล้วก็มีเครื่องทรงด้วยค่ะ

 

อ้อลืมเรื่องนึงค่ะ ตอนแรกก็พยายามบังคับให้จิตจับภาพสมเด็จองค์ปฐมค่ะแต่ก็สู้จิตไม่ไหวจิตพยายามจับแต่ภาพพระอจนะก็เลยตามเลยผลก็อย่างที่บอกเมื่อกี้ค่ะ

 

ขอบคุณพี่เพ็ญนะคะ หนูรอจดหมายตอบกลับจากพี่อยู่นะคะ

 

ขอบคุณมากครับ ผมกำลังหาอยู่เลย

 

ต่อไปนี้พวกเราลองถาม-ตอบตนเองกันดูนะว่า...

คำถามที่ 1
ขณะนี้เรามีทุกข์กาย ทุกข์ใจกันไหม๊?
ถ้าตอบว่า ยังเป็นทุกข์กันอยู่
แล้วทำไมพวกเราไม่หาทางออกจากทุกข์กันเล่า
มัวไปวิ่งหนีทุกข์ วิ่งหาสุขกันอยู่ทำไมเล่า
พวกท่านทั้งหลาย ต่างก็ล้วนเป็นผู้มีสติปัญญากันด้วยทุกคน
แล้วทำไม่รู้จักไปเรียนรู้เรื่องทุกข์กัน

จิตเกาะพระก็เริ่มต้นด้วยการตามหาดวงจิตของตนเองก่อน
โดยเริ่มต้นด้วยการสร้างสติกันบ่อยๆ ให้ต่อเนื่อง จนสติกับจิตรวมตัวกันเป็นหนึ่งเดียว
หรือทำให้จิตเป็นสมาธิ พวกเราถึงจะได้ปัญญา(ทางธรรม มิใช่ปัญญาทางโลก)
เพราะปัญญาทางโลก มิอาจจะทำให้พวกเราหลุดพ้นจากทุก
แต่ปัญญาทางธรรมนั้น ช่วยให้พวกเราหลุดพ้นจากกองทุกข์กันได้

แต่ก่อนพวกเราจะหลุดพ้นทุกข์แบบถาวร เราจำเป็นต้องมาเรียนรู้เรื่องจิตตนเองก่อน
แต่ถ้าเราเรียนรู้เรื่องจิตของตนดีแล้ว และต่อไปเราก็จะมองเห็นทุกข์คืออะไร ทุกข์เกิดจากสาเหตุอะไร ไปจนถึงการดับทุกข์ และพ้นทุกข์อย่างถาวร

แต่ก่อนอื่นเราจะต้องผ่านกระบวนการมากมายยิ่งนัก โดยเฉพาะแค่เรามาเรียนรู้เรื่องจิต เพียงอย่างเดี๋ยวก็เล่นเอาเราเสียเวลาไปเกือบครึ่งชีวิต
แต่ถ้าใครเข้าใจจิตตนเองเพียงอย่างเดียว ก็เท่ากับเราเข้าใจตนเอง ผู้อื่น และโลกตามไปด้วย

แต่เมื่อใดพวกเรายังไม่เข้าใจจิตของตนเอง หรือเข้าไปไม่ถึงธรรมชาติแห่งจิตตนเองแล้ว
เท่ากับเราก็ยังไม่เข้าใจตนเอง แล้วเราจะไม่เข้าใจคนอื่นๆ หรือไม่เข้าใจโลกตามไปด้วย
ก็ต้องยอมสงสัย หรือมีคำถามให้กับตนเองอยู่บ่อยครั้ง แต่เราก็หาคำตอบที่ถูกใจไม่ได้
และไม่มีใครตอบได้ดีเท่ากับตนเอง แต่เราต้องเข้าไปพบจิต พบธรรมกันภายในจิตของตนเสียก่อน เพราะคำตอบที่ดีที่สุดจะอยู่ภายในจิตของตนเอง

คำถามที่ 2
เราจะให้กรรมนำพาชีวิต หรือว่าเราจะเป็นผู้นำพาชีวิตของตนเอง กับทั้งยังมีชีวิตและเมื่อตายจากโลกนี้ไปกันแล้ว

เราจะเป็นฝ่ายเลือกนำพาดวงจิตของตนไปจุติ ณ.สถานที่ต่างๆ
หรือว่า เราจะให้เป็นไปตามกรรม หรือยถากรรม หรือกฎแห่งกรรม???

จิตเกาะพระ มีคำตอบให้พวกท่านทั้งหลายไว้หมดแล้ว
รีบไปลงทะเบียนเรียนรู้กันนะ โดยไม่คิดค่าหน่วยกิตใดๆทั้งสิ้น

ขอบคุณ

 

ซาหวัดดีเจ้าค่ะ หายไปแค่สองวันกระทู้พุ่งไปหน้า 33 ตามไม่ทันไม่เป็นไร ตามจิตตามใจตัวเองให้ได้เป็นพอ ขอโมทนาสาธุการกับท่านๆทั้งหลายที่มีความตั้งใจในการปฎิบัติอีกทั้งท่านที่ออกมาตามคาถาเรียกทรัพย์ ..เอ๊ย เรียกผู้มีบุญญาบารมี ให้เข้ามาจอยกัน แชร์กัน เป็นประโยชน์ ทั้งตัวเองและท่านอื่นๆที่เข้าอ่าน
ขอพระคุ้มครองท่านด้วยเทอญ

 

ผมสมัครเป็นสมาชิกไม่ได้ครับ บอกว่ารหัสลับผิดพลาดตลอดครับ

 

หว้าลองสมัครสมาชิกใหม่แล้ว.. ก็สมัครได้นะคะ...
ยังไงรบกวนลองสมัครใหม่อีกรอบ หรือลองใช้คอมพิวเตอร์เครื่องอื่น หรือ web browser อื่นๆ สมัคร
ถ้ายังไม่ได้รบกวนแจ้งเบอร์อีเมล กับ login user มาทาง PM ด้วยค่ะ

ขออภัยในความไม่สะดวก...
ท่านใดมีปัญหาในการสมัคร สามารถส่ง PM แจ้งได้นะคะ ขอบคุณที่ท่านสนใจใช้งานเว็บค่ะ


ขอให้ทุกๆ ท่านเจริญในธรรมยิ่งๆ ขึ้นไป สาธุ

 

เดี๋ยวจะตามไปนะคะคุณลูกหว้า. อิอิ

 

ขอบคุณค่ะ.. รีบๆ ตามมานะคะ..
ตอนนี้ที่เว็บบรรยากาศคึกคักมากเลยค่ะ.. ฮ่าๆ

 

ผมก็เป็นเหมือนกันครับ ลองหลายครั้งแล้วก็ขึ้นข้อความว่าชื่อหรือรหัสผิดพลาดครับ

 

ไม่ทราบว่าใช้ web browser อะไรในการสมัครคะ?
FireFox, Google Chrome, IE ??

 

สวัสดีค่ะ พี่ภู พี่เพ็ญ คุณดัช คุณหว้า คุณวิทย์ และทุกท่าน ตอนนี้ที่จิตจับภาพพระองค์ที่อยู่บนหัวพลังจิตน่ะคะ ถ้าเวลาอยู่ในรถจะเห็นภาพนี้ แต่เวลาที่อยู่ปกติ จะมีภาพสมเด็จองค์ปฐม องค์พระศรีอาริยเมตไตรย์ ภาพพระพุทธชินราชบ้าง เวลาที่เห็นภาพพระปุ๊บ จะรู้สึกยิ้มทันที แล้วค่อยปล่อยวาง
เป็นเช่นนี้ทุกครั้งเลยค่ะ
ยามที่เห็นร่างกายตัวเองเป็นโครงกระดูกนั้น จิตยอมรับได้ จิตยอมรับว่าสิ่งทั้งหลายที่มารวมกันเป็นตัวตนนั้น ต้องดับสลายไป เหมือนการเกิด ตั้งอยู่ และดับไปในที่สุด มันก็คืออนิจจัง ไม่มีความเที่ยงแท้ จิตดวงนี้ไม่ต้องการที่จะเกิดอีกแล้ว เพราะการเกิดคือการต้องมาเผชิญกับการเกิด แก่ เจ็บและตาย มีแต่ความทุกข์ ซึ่งความทุกข์ในแต่ละคนย่อมไม่เหมือนกัน แม้แต่การกิน บางทีเวลาจะตักอาหารที่มีเนื้อหมูเข้าปาก ยังเห็นหมูมายิ้มเลยต้องเขี่ยเนื้อหมูออกไป ตอนนี้สิ่งที่ทำอยู่คือ ไม่ยินดี หรือยินร้ายในสิ่งใด ไม่โลภ ไม่พยายามโกรธ ส่วนเรื่องรักมีความรักแบบเมตตาไม่ยึดติดสิ่งใดว่าเป็นของตน ปล่อยวาง อะไรจะเกิดก็ปล่อยให้เกิดไปตามกรรมของแต่ละบุคคล เพราะแต่ละบุคคลหรือสัตว์แต่ละตัวทำบุญและบาปมาไม่เท่ากัน เราจึงไม่ควรที่จะนำความทุกข์ของบุคคลหรือสัตว์มาใส่ในเรา เพียงแค่เราสามารถช่วยเท่าที่เราทำได้และทำหน้าทื่ของเราให้ดีที่สุดก็เพียงพอแล้ว

 

ถ้าเข้า www.jitkohphra.com ไม่ได้
ลองเข้า boardthai.net/jitkohphraได้นะคะ
เว็บนี้มี 2 ประตู... แต่เป็นบ้านหลังเดียวกัน.. ฮ่าๆ

**สมัครสมาชิกแล้วสามารถเข้าใช้งานได้ทันที, ไม่มีอีเมลตอบยืนยันการเป็นสมาชิกนะคะ**​

 

ใช้ IE XP ครับ ไม่ทราบว่าจะเป็นเพราะเหตุนี้หรือเปล่าครับ

 

แม่นแล้วจ้่า... ฮ่าๆ
IE ไม่รองรับระบบเลขไทย (ที่ต้องกรอกตอนสมัคร)
ขออภัยอย่างสูงในความไม่สะดวก..
แล้วสมัครได้รึยังคะท่านพี่?

 

สมัครสมาชิกได้แล้วครับ ใช้ FireFox ครับ.