จิตพร้อม? รับภัยพิบัติ

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย ภูภู, 6 เมษายน 2012.

  1. อุษาวดี

    อุษาวดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2012
    โพสต์:
    531
    ค่าพลัง:
    +12,151
    ยามเช้าดำรงสติ รักษาจิตของตน อย่าให้จิตเศร้าหมอง


    สติเหมือนกับทัพหน้า ปัญญานี้เหมือนกับทัพหลวง คอยกำจัดสิ่งที่เป็นข้าศึกต่อจิตต่อใจของเรา ดังนั้นเวลายามเช้าเป็นความสำคัญมาก ต้องดำรงสติ ต้องรักษาจิตของตัวเองตลอด อย่าให้จิตเศร้าหมอง อย่าให้จิตต่ำ เพราะถ้าจิตเศร้าหมองไม่ปรากฏว่าเป็นบุญเลย จิตดวงนั้นทั้งดวง หามุมใดมุมหนึ่งของจิตว่าเป็นบุญไม่มี ต่อให้ทำบุญสร้างวัดสร้างวา
    สร้างสิ่งต่างๆ ใหญ่โตโอฬาร สร้างวัดซัก ๘๔,๐๐๐ วัด สร้างพระเจดีย์ ๘๔,๐๐๐ หลัง โบสถ์ซัก ๘๔,๐๐๐ ครั้ง ก็ไม่สามารถปรากฏว่าเป็นบุญเป็นกุศลได้ในขณะจิตที่เศร้าหมองเลย ไม่มีบุญเหลืออยู่เลย มีแต่ความต่ำไปทางด้านกิเลสนานา ด้านบาปอธรรม นี่เรียกว่าจิตที่ขุ่นข้องไม่มีความดีเลยแม้แต่นิดเดียว อย่าให้มันมีในจิตในใจ

    ที่เขาเปรียบว่าเวลาเราทำบุญ ทำบุญใหญ่ทำบุญน้อยก็ตาม มีเรื่องวุ่นวายในงาน อย่าทำใจเศร้าหมอง ชามจะแตก ของมาไม่ทัน คนมาไม่พร้อม งานจัดไม่เรียบร้อย ถูกตำหนิติเตียนก็ตามในงานนั้น อย่าทำจิตเศร้าหมองเด็ดขาด พึงทำจิตให้ผ่องใสไว้ อย่างน้อยเราก็ได้ทำและดีที่สุดที่เราทำมา เพื่อไม่ให้บุญกุศลของเราหายไป แล้วบุญเล็กๆ น้อยๆ ที่เราทำมาในอดีตที่เกิดตายไม่ถ้วน จนมาถึงบุญที่เราทำอยู่นี้จะมารวมตัวกันเป็นพลปัจจัย เป็นพลกำลังให้เราพ้นจากความทุกข์ได้จริง ...

    นับประสาอะไรกับเวลาตื่นเช้าขึ้นมาและจิตของเราขุ่นข้องหมองใจ มันก็จะไม่เกิดบุญกุศลอะไรเลยในวันนั้น ต่อให้ภาวนายังไงก็ตาม สร้างบุญสร้างกุศลยังไงก็ตาม จะภาวนายังไงก็ตาม ถ้าเราไม่ขับความขุ่นข้องหมองใจ ความขุ่นใจไปเสีย ย่อมไม่เป็นประโยชน์อะไรในวันนั้นทั้งวัน นักภาวนาจึงต้องเข่นความขุ่นข้องหมองใจให้สลายออกไปจากจิตใจ

    ตอนหนึ่งของพระธรรมเทศนา เรื่อง ยามเช้าดำรงสติ รักษาจิตของตน
    โดย หลวงพ่อครูบาเจ้าเพชร วชิรมโน

    ที่มา
    ขออนุญาติแบ่งปันธรรม... | Facebook
     
  2. ธรรมมณี

    ธรรมมณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,044
    ค่าพลัง:
    +14,027
    สาธุ สาธุ สาธุ ขออนุโมทนาบุญกับจิตบุญน้องใหม่ดวงที่ 114&115 แล้วจ้าาาา พร้อมทั้งครูผู้สอนคือท่านพระอาจารย์ชัชวาลย์ด้วยค่ะ สาธุ๊:cool:
     
  3. jjppy

    jjppy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    13
    ค่าพลัง:
    +296
    สาธุ สาธุ อนุโมทนาบุญกับจิตบุญที่ ๑๑๓,๑๑๔,๑๑๕ และครูผู้สอนตลอดจนผู้เกี่ยวข้องทุกท่านด้วยค่ะ
     
  4. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    ขอโมทนาบุญกับ..
    นส.จิราภรณ์ จิตบุญ ๑๑๔
    นางอารี จิตบุญ ๑๑๕
    และท่านพระอาจารย์ชัชวาลย์ รวมทั้งคุณครูจิตบุญทุกท่านด้วยครับ
    _/\__/\__/\_
     
  5. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    ความสุขของคนเรา

    พวกเราไม่ต้องไปฝากความสุขไว้กับใคร หรือ สิ่งใดๆกันหรอก
    หรือ ไม่ต้องไปตามหาความสุขจากที่ไหนกันด้วย
    เพราะความสุขที่จริง มันก็อยู่ภายในกาย ภายในใจของตน นี้แหล่ะ!
    แต่จะตามหากันพบเจอหรือไม่เท่านั้นเอง

    แค่อยากจะบอกว่า จงทำจิตตนเองให้นิ่งเสียก่อน
    แต่ถ้าไม่นิ่ง ก็ไม่มีทางได้พบเจอความสุขที่แท้จริง ตามที่กล่าวมาแล้ว
    เพราะความสุขของคนเรานั้น อยู่หลังจากจิตที่นิ่งไปแล้ว

    ความทุกข์ของคนเรา

    ตราบใดที่พวกเรายังมีขันธ์ ๕ กันอยู่ ยังไงๆก็หนีความทุกข์ไม่พ้น
    เพราะการเกิดเป็นทุกข์ การมีร่างกายเป็นทุกข์
    ตราบใดที่พวกเรายังอยู่ในโลกวัฎสงสารนี้ พวกเราก็หนีความไม่เที่ยงและความทุกข์นี้กันไปได้
    เพราะฉะนั้น พวกเราก็อย่าพยายามหนีความทุกข์กันเลย
    มีอยู่ทางเดียวพอที่จะมีสิทธิ์ไม่ทุกข์ ก็คือ พวกเราจะต้องมาเรียนรู้เรื่องทุกข์
    ได้แก่ ตัวทุกข์คืออะไร เหตุแห่งทุกข์ จะดับทุกข์ได้อย่างไร และมีทางไหนบ้างที่จะออกจากทุกข์นี้ได้อย่างถาวร

    สรุปแล้ว
    พวกเราจะพ้นทุกข์กันจริงๆได้อย่างไร


    พวกเราจะต้องพากันละ(ตัด)ขันธ์ ๕ (รูป๑ นาม๔) กันให้ได้(เด็ดขาด)
    ละกายยหยาบก่อน(รูป) แล้วค่อยไปละความละเอียดภายหลัง
    ก็คือ ความรู้สึกนึกคิดต่างๆ(นาม)
    พูดง่าย แต่ทำยาก สำหรับผู้ที่ไม่เคยฝึกจิต เท่านั้น
    เพราะถ้าใครไม่เรียนรู้ คำว่า ทุกข์ ก็จะไม่รู้จักแน่
    การเรียนรู้เรื่องทุกข์นี้ เราจะต้องนำจิตตนเองไปเรียนรู้ แต่มิใช่เรา
    แต่ถ้าผู้ใดจะออกจากทุกข์นี้ได้ จะต้องนำจิตไปเดินมรรค(ปฎิบัติธรรม)
    หรือ นำจิตไปเดินตาม(ทำตาม)ศีล สมาธิ ปัญญา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 6 ธันวาคม 2012
  6. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    เหตุเพราะความไม่รู้จริง

    ตามที่ทุกคนกล่าวว่า..
    เราไม่เข้าใจคนอื่น หรือ ไม่มีคนอื่นเข้าใจเราเลย
    ก็เพราะว่า...
    ตราบใดที่เราเอง ก็ยังไม่ค่อยจะเข้าใจตนเองเลย
    แล้วเราจะไปเข้าใจคนอื่นๆได้อย่างไร

    เพราะฉะนั้น เราไม่ต้องไปสงสัยกันเลยนะว่า..ทำไม๊
    เราจึงไปโทษแต่คนอื่น ที่ทำให้เราเป็นทุกข์
    เราจึงเห็นแต่ความเลวของคนอื่น แต่ไม่เห็นความเลวตนเอง

    เมื่อภายใน(จิต)มันเลวแล้ว คำพูดกับการกระทำก็ย่อมเลวตามไปด้วย
    ก็เปรียบเสมือนต้นน้ำมันขุ่น แล้วปลายน้ำมันจะใสได้อย่างไร
    จริงไหม๊?

    เพราะตราบใด ที่จิตของคนเรายังไม่นิ่ง โอกาสจิตจะตกไปอยู่อบายภูมิ
    หรือ จิตเป็นมิจฉาทิฎฐิ(ความเห็นผิด) จึงมีมากกว่า สัมมาทิฎฐิ(ความเห็นถูก)

    มีหนทางเดียว ที่จะเปลี่ยนนิสัยเลวๆของตนเองได้ ก็คือ พระกรรมฐานเท่านั้น
    อย่างอื่นไม่มี มีแต่ทางหลงหนักเข้าไปใหญ่
    นี่ขนาดพวกเราพากันภาวนา หรือพากันปฎิบัติดี ก็ยังไม่วายหลงทางกัน
    เช่น ติดสุขจากฌาน ไปหลงดูนิมิต ไปหลงอภิญญา เป็นต้น
    เผื่อจิตจะเข้าวิปัสสนาญาณกันได้ เรียกว่า ต้องโง่มาก่อนทั้งนั้น
    ต่อไปนี้ก็อย่าไปหลงทางกันอีกนะ เพราะครูบาอาจารย์ก็มีอยู่มากมาย
    แต่ผู้ปฎิบัติเรื่องมาก เลือกแต่ครูใจดีปัญญาอ่อน มันมีที่ไหนเล่า
    ครูที่จะตามใจลูกศิษย์ ไปตามหาทั้งชาติก็ไม่เจอหรอก ครูโง่แบบนั้น
    ถึงเจอก็มีแต่พากันเข้ารก เข้าป่ากันไปใหญ่
    แล้วมันจะพากันออกจากทุกข์ ออกจากวัฎฎะกันได้ไหม๊เล่า!

    เพราะฉะนั้น ผู้ปฎิบัติได้โปรดพิจารณา หรือ ไตร่ตรองดูเอากันเองเถิด..นะจ๊ะๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 6 ธันวาคม 2012
  7. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    คนจิตไม่นิ่ง มักส่งจิตออกนอก
    แต่คนที่พอจะเข้าถึงความนิ่ง ก็มักจะส่งจิตเข้าในกันอีก


    แต่ผู้ที่กำลังส่งจิตเข้าในนี้ ยิ่งอันตรายกว่าส่งจิตออกนอกเสียอีก
    แต่ถ้าผู้ปฎิบัติไม่ลืมสติ ก็หลงยาก เพราะในโลกทิพย์นั้น
    สติสำคัญมากสำหรับจิต
    จิตผู้ใดจะเดินหลงทาง ก็ขึ้นกับสติของผู้ปฎิบัติกันนี่แหล่ะ!
    เพราะสติเป็นฝ่ายดีที่เกิดมาจากธรรมชาติแล้ว สติยังเป็นเพื่อนที่สุด
    หรือเป็นพี่เลี้ยงดีที่สุด และสติก็เป็นอาหารจิตดีที่สุด
    สรุปแล้ว สตินี่จะใช้ได้ทั้งภายนอกและภายในของจิตเลยทีเดียว

    ธรรมะสำคัญสำหรับผู้ปฎิบัติธรรม ได้แก่ ธรรมภายนอกและธรรมภายใน
    ธรรมภายนอก ก็คือ สิ่งใดๆที่มากระทบจิต
    ธรรมภายใน ก็คือ สิ่งที่จิตคิดนึกออกไป หรืออารมณ์ของจิต
    ที่พวกเราเรียกว่า เจตสิก
    จำไว้ให้ดีๆ เจตสิกแบ่งเป็น 3 กลุ่มใหญ่ๆก็คือ
    ๑.ฝ่ายดีงาม ๒.ฝ่ายอกุศล ๓.ฝ่ายกลาง

    สรุปแล้ว
    ที่พวกเราปฎิบัติกันมาทั้งหมดนั้น มีทั้งธรรมภายใน ทั้งธรรมภายนอกนั้น
    เราจะสอบผ่านหรือไม่ผ่าน ก็ตรงนี้แหล่ะ!
    จะเป็นตัวชี้วัดได้เป็นอย่างดี
    ก็คือ..
    ๑.ธรรมภายนอก(สิ่งต่างๆที่มากระทบจิตในขณะนั้นๆ)
    มีผลต่อจิตใจเราไหม๊? แต่ถ้าเฉยๆ+นิ่ง+รู้=ดี หรือ ยังวิ่งตามอยู่=ไม่ดีแน่
    ๒.ธรรมภายใน(เจตสิก) ผู้ที่ฝึกจิตมาดีนั้น ย่อมไม่ไหลตาม ทั้ง3เจตสิกที่กล่าวมาแล้วนั้น
    หรือ เรา(จิต)จะเป็นฝ่ายที่นั่งดูอย่างเดียว เปรียบเทียบเมื่อก่อนนั้น
    จิตเคยวิ่งตามสิ่งต่างๆ ที่เข้ามากระทบจิตในขณะนั้นๆ
    แต่ในขณะนี้ เราวิ่งตามเจตสิกทั้ง3อย่างนี้กันไหม๊?

    ภู..ปูธรรมะสบายๆ
     
  8. Golden Sky

    Golden Sky เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    575
    ค่าพลัง:
    +8,976
    วันนี้ ขอ กล่าว เสริม เรื่อง นิพพาน ที่ท่านครูลูกพลัง ท่านได้กล่าวไว้นั้นช่างเป็นธรรมทานอันลึกซึ้ง และอีกรูปแบบหนึ่งที่องค์หลวงตาได้ กล่าวไว้เกี่ยวกับ "นิพพาน คือ นิพพาน" ท่านได้แสดงไว้ในธรรมว่า มรรค ๔ ผล ๔ นิพพาน ๑ มรรค๔ นั้นได้แก่ โสดาบัตติมรรค โสดาปัติผล
    สกิทาคามิมรรค สกิทาคามิผล อนาคามิมรรค อนาคามิผล อรหัตมรรค อรหัตผล นี่เรียกว่ามรรค ๔ ผล ๔ นิพพาน ๑ จาก ๘ ภูมินี้ไปแล้วเป็นนิพพาน ๑ นิพพานมี ๑ เท่านั้นไม่เคยมีสอง ไม่มีสองกับอัตตา ไม่มีสามกับอนัตตา นิพพาน คือ นิพพาน อัตตา อนัตตา นั้นคือเป็นทางเพื่อพระนิพพานล้วนๆ ผู้ที่จะให้ถึงนิพพานต้องเดินเหยียบย่างไปในไตรลักษณ์ คือพิจารณาไปกับเรื่องทุกขัง เรื่องอนิจจัง อนัตตา และอัตตา ซึ้งเป็นกองกิเลสสุมเต็มอยู่ในนั้น ให้ถอนอัตตานุทิฏฐิ คือ ความเห็นเป็นตนเป็นตัวเหล่านี้ออกเสียก่อน
    จิตจึงจะหลุดพ้นเป็นพระนิพพาน และนิพพานก็คือ ความบริสุทธิ์ที่ไม่มีกิเลส เจื่อป่นอยู่แม้แต่นิดเดียว จิตผู้บริสุทธิ์จะรู้เองเห็นเอง คือสุขแบบถาวร โดยไม่กลับมาเกิดอีกต่อไป.
    ขอให้ท่านผู้ปฏิบัติดีผู้ปฏิบัติชอบทุกๆท่านจงเจริญๆในธรรมยิ่งๆขื้นไป ด้วยเทอญ นิพพานัง ปารมัง สุขัง.
     
  9. ไผ่มรกต

    ไผ่มรกต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    248
    ค่าพลัง:
    +1,896
    โมทนากับจิตบุญดวง ที่ ๑๑๓ คุณพ่อบุญมี คุณพ่อของพี่แนทพี่สาวผู้ใจดี หนูขอร่วมอนุโมทนาบุญกับพี่แนททุกอย่างที่ได้สร้างบุญกุศลอันที่หาเปรียบไม่ได้ค่ะ และโมทนากับจิตบุญดวงที่ ๑๑๔ จิตบุญดวงที่ ๑๑๕ และครูจิตบุญทุกท่านค่ะ จบ ๑๐๗
     
  10. มาลินี UK

    มาลินี UK เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    807
    ค่าพลัง:
    +12,713
    ขอขอบพระคุณๆภูค่ะ พี่นี ได้มาอ่านธรรมะของคุณภูแล้ว ดีเหลือเกิน ที่คุณภูเอาธรรมะมาให้เป็นทาน. ในพระพุทธศาสนามี 2 ข้อคือ 1 คนุถธุร ธุระคือการศึกษาซึ่งพระพุทธพจน์ ทั้ง 3 ปิฏก. 2 วิปสุสนาธุร ธุระคือการเจริญวิปัสสนา พิจรณาซึ่งขันธ์ 5. มีรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ กำหนดรูปนาม จนเกิดปัญญา ได้มรรคผล นิพพาน เป็นพระอริยบุคคลตามบารมี ตลอดจนสำเร็จเป็นพระอารหันต์เป็นที่สุด อันเป็นความฝันอันสูงสุดของทุกๆชีวิต คือ พ้นทุกข์. คือพ้นจากการเกิด. เมี่อไม่เกิด ก็ไม่ต้องแก่. ไม่ต้องเจ็บ.. และไม่ต้องตายอีกแล้ว นิพานเป็นที่สูงสุด. จิตบุญ 104 ขอมอบธรรมะนี้เป็นทาน เพื่อความเข้าใจในการปฏิบัติอย่างไม่ติดขัด เมื่อเราถึงตรงนี้แล้ว เราจะรู้ถึงทุกข์ และรู้ถึงสุข โดยที่ไม่สัยเลย. ขอเป็นกำลังใจให้ทุกๆท่านค่ะ นิพานัง เป็นที่ตั้งนะคะ สาธุ อนุโมทามิ
     
  11. ลูกพลัง

    ลูกพลัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    413
    ค่าพลัง:
    +8,932
    ยึดพระพุทธธรรมเป็นสรณะ

    ก่อนที่พระพุทธองค์จะทรงเสด็จดับขันธปรินิพพานนั้น
    พระอานนท์ได้ทูลถามว่า "จะมีอะไรที่จะเป็นสิ่งที่บุคคลและพระสงฆ์ทั้งหลายยึดและปฏิบัติตามได้หลังจากพระองค์ปรินิพพานแล้ว ใครจะเป็นศาสดาแทน?"
    พระพุทธองค์ทรงตอบว่า "พระธรรมนั่นไงจะเป็นศาสดาของพวกเธอ"
    ก็หมายความว่า หากผู้ใดยึดพระธรรมและทำตามธรรมนั้นได้จริง บุคคลเหล่านั้นก็ย่อมบรรลุธรรมได้ทุกคน ทุกเพศ ทุกชนชั้น พระองค์ไม่ได้ให้ยึดในตัวพระองค์ ไม่ได้ให้ยึดในตัวพระสงฆ์หรือไม่ได้ให้ยึดในตัวครูบาอาจารย์ เพราะบุคคลทั้งหลายย่อมเปลี่ยนแปลงไป(คือแปรเปลี่ยนไปบ้างหรือตายจากกันไป) แต่พระธรรมนั้นไม่มีเปลี่ยนแปลง ไม่มีวันตาย แม้ว่าโลกนี้จะไม่มีใคร ธรรมนั้นก็ยังคงมีอยู่ไม่ได้หายไปไหน เพียงแต่ธรรมทั้งหลายนั้นต้องอาศัยบุคคลเป็นผู้กระทำ..

    "ธรรมจึงไม่มีวันเสื่อม แต่บุคคลย่อมเสื่อมออกจากธรรมนั่นเอง"

    พระพุทธธรรมนั้นมีลักษณะสำคัญอยู่ 6 อย่างคือ:
    สวากขาโต (Pali: Svakkhato). พระธรรมไม่ใช้ปรัชญาที่ปรุงแต่งขึ้น แต่เป็นกฎธรรมชาติที่พระพุทธเจ้าท่านวิเคราะห์, สรุป, และอธิบาย ออกมาอย่างเที่ยงตรง ดังนั้นจึงเป็นคุณทั้งจุดเริ่มต้น--ศีล (Sīla หลักการของความถูกต้อง), เป็นคุณทั้งตอนกลาง--สมาธิ (Samadhi ความมุ่งมั่นจดจ่อ) และ เป็นคุณทั้งตอนปลาย--ปัญญา (Pańña — ความเฉลียดฉลาด การรู้คิด การไตร่ตรอง ความรู้ซึ้ง).
    สันทิฏฐิโก (Pali: Sanditthiko). พระธรรม สามารถถูกทดสอบ/ตรวจสอบได้ด้วยการปฎิบัติ ดังนั้นผู้ที่ปฎิบัติจะเห็นผลได้ด้วยตนเอง
    อะกาลิโก (Pali: Akāliko). พระธรรม นั้นมีคุณค่า และผลของการปฎิบัติสามารถรับรู้ได้ โดยไม่จำกัดกาลเวลา (พระธรรม มีคุณประโยชน์ 2,500 ปีก่อน มีคุณประโยชน์ในปัจจุบัน และ จะยังมีคุณประโยชน์ในอนาคต)
    เอหิปัสสิโก (Pali: Ehipassiko). พระธรรม นั้นมีคุณค่าไม่จำกัดกับบุคคล สามารถปฏิบัติและรับรู้ผลได้ทุกๆผู้คน (พระธรรม มีคุณประโยชน์กับผู้ปฎิบัติ ไม่ว่าผู้ปฎิบัติจะเป็นหญิง เป็นชาย เกิดในชาติตระกูลใด มีสถานะเป็นอย่างไร)
    โอปะนะยิโก (Pali: Opāneyiko). พระธรรม นั้นปฎิบัติได้ และดังนั้น ควรนำมาปฎิบัติเพื่อประโยชน์ของตนเอง (พระธรรม เป็นหลักการที่นำมาปฎิบัติได้ ไม่ได้ยากเกินไป)
    ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วัญญูหิติ (Pali: Paccattam veditabbo viññūhi). พระธรรมนั้น จะรู้แจ้งได้ก็เฉพาะตนผู้ปฎิบัติเองจนรู้แจ้ง (อริยะ Pali: ariyas) ดังนั้นเพื่อเข้าใจพระธรรมอย่างแท้จริง จึงควรปฎิบัติเอง (การอ่านหรือฟังธรรมจากอริยะก็ไม่อาจทำให้เข้าใจแจ้งได้ หากไม่นำพระธรรมไปปฎิบัติ)
    การปฎิบัติพระธรรมจะนำมาซึ่ง ความสงบ และ ความสุข แก่ตนผู้ปฎิบัติ
    ดังนั้นจึงเป็นความรับผิดชอบของตนเองในการปฎิบัติพระธรรม

    "การที่จะบรรลุมรรคผลนิพพานนั้น จะเกิดขึ้นได้จากการปฎิบัติแห่งตนเอง เท่านั้น!.."

    ขอให้ทุกๆท่านเจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไปด้วยเทอญ.. สาธุสวัสดี
     
  12. มาลินี UK

    มาลินี UK เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    807
    ค่าพลัง:
    +12,713
    สมบัติที่หาได้ยากยิ่ง 6 ข้อคือ การได้อัตตภาพเกิดเป็มนุษย์นั้นแสนยาก. การที่ได้เกิดในคราวที่มีคำสั่งสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและมีพระธรรมก็แสนยาก. การที่ได้เกิดอยู่ในประเทศที่นับถือพระพุทธศาสนาก็แสนยาก. การที่ได้เกิดเป็นมนุษย์ที่มีอาการ 32 ครบนั้นก็แสนยาก. ไม่พิการบ้าใบ้ หูหนวก ตาบอด ก็แสนยาก. การได้เกิดอยู่ในตระกูลสัมมาทิฎฐิหมู่ชนที่เลื่อมใสพระพุทธศาสนา ก็แสนยาก. การที่ได้เป็นผู้มีสัมมาทิฏฐิ มีความเห็นถูกต้อง ก็แสนยาก. เพราะฉนั้นสิ่งที่ทำยากเราก็ต้องมี ความขยัน หมั่นเพียร ฝึกฝน ตามรอยของพระพุทธองค์ เพื่อสืบทอดตามรอยพระพุทธศาสนา.ดังนั้นเมื่อท่านผู้ใดรู้ว่าท่านได้มีสมบัตินี้แล้ว.ก็ รีบฉวยโอกาสทองนี้เสีย อย่าประมาทปล่อยนาทีทองนี้ให้ผ่านพ้นไปโดยเปล่าประโยชน์เลย.นี่คือนาทีทองของพวกเราค่ะ ขอเป็นกำลังใจให้กับทุกๆท่านคะ. สาธุ สาธุ สาธุ.
     
  13. มาลินี UK

    มาลินี UK เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    807
    ค่าพลัง:
    +12,713
    สัจจะ คือความจริงมี.6 ข้อ คือ 1 จริงวาจา ไม่กล่าววาจาให้ผิดจากความจริง 2 จริงสมมุติ สมมุติบัญญัติว่าเป็นสัตว์เป็นบุคคล.3 จริงสภาวะ สภาพที่ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ เป็นอนัตตา.4 จริงปรมัตถ์ ไม่ใช่สัตว์บุคคลตัวตนเขาจริงๆ 5 จริงอริยสัจจ์. คือเป็นทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรคจริง.6 จริงนิพพาน. พระนิพพานดับเพลิงกิเลส. และเพลิงทุกข์โดยสิ้นเชิง.ขออนุโมทนากับผู้อ่านทุกๆท่านค่ะสาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ.
     
  14. Golden Sky

    Golden Sky เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    575
    ค่าพลัง:
    +8,976
    การที่เราไม่รู้จริง ไม่เข้าใจ ก็เกิดจากอวิชา อคือ ความไม่รู้ ไม่เห็น ไม่เข้าใจ ผู้ปฏิบัติต้องมี สัมมาทิฐิ คือความเห็นชอบก่อน และก็มีความดําริชอบ คือ สัมมาสังกัปโป คือมีการตั้งสัจจะที่จะสอนตนให้มีความไม่เบียดเบียนใคร คือไม่มีใจเป็นอกุศล และก็สัมมาวาจา คือ การพูดจาชอบ แล้วลงมือกระทําตามนั้นๆ คือการกระทําชอบ หรือเรียกว่า สัมมากัมมันโต ถ้าเราพิจารณาตามนี้ก่อนเราก็จะไม่ทําสิ่งที่ไม่ดีออกมาทาง กาย วาจา ใจ เพราะเราจะคิดก่อนทํา คือเอาใจเขามาใส่ใจเรา ถ้าเขาทุกข์ เราก็ทุกข์ ถ้าเขาสุข เราก็สุข ก็จะเกิดความมีเมตตาต่อกัน เช่นเดี่ยวกันกับเราเดินทางเรือ ก็จะเจอคลื่นที่มากระทบเรือ แต่เป็นการกระทบภายนอกเท่านั้นไม่ได้มากระทบภายในของเรือ ก็เปรียบเหมือนอุปสรรคภายนอกถ้าเราเห็นแล้วไม่นํามาก็ไม่ทุกข์ การทําความดีทุกประเภทจะต้องมีอุปสรรค ขอให้ท่านจงอย่าท้อ ขอเป็นกําลังใจให้ท่านตลอดไปด้วยเทอญ.
     
  15. ลูกพลัง

    ลูกพลัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    413
    ค่าพลัง:
    +8,932
    จงอย่ายึดติด = รู้-วาง

    ในครั้งพุทธกาล พระโมคคัลลานะได้ติดตามเสด็จพระพุทธเจ้าเพื่อเผยแผ่ธรรมะไปทั่วเป็นเวลาหลายๆสิบปี
    ท่านก็ได้รับฟังเทศนาพระธรรมคำสอนจากพระพุทธเจ้าเป็นอันมากๆ
    วันหนึ่งท่านจึงเอ่ยถามต่อพระพุทธเจ้าว่า
    "ข้าแต่พระองค์ ท่านได้ทรงเทศนาสั่งสอนโปรดผู้คนไปทั่วเป็นพระธรรมคำสอนอยู่เป็นจำนวนมาก(กว่า84,000พระธรรมขันฑ์) แล้วแต่ละเรื่องก็ล้วนแต่เป็นพระสัทธรรมทั้งสิ้น ขอพระองค์ได้โปรดช่วยกล่าวรวบยอดทั้งหมดสรุปโดยย่อแก่ข้าพเจ้าด้วยเถิด"
    พระศาสดากล่าวว่า "ธรรมใดๆที่เกิดขึ้นจากการปฎิบัติ จงอย่ายึดติด"


    "การไม่ยึดติด" มิได้หมายความว่า ปฎิเสธ ไม่เอา ไม่สนใจ ไม่ฟัง ไม่ดู ไม่รู้ ไม่เห็น ไม่ดม ไม่สัมผัส แต่ฝ่ายเดียว หากแต่ว่ายังหมายความรวมไปถึงการรับปัจจัยต่างๆดังกล่าวเข้ามาตามสภาพ/ตามอัตภาพ แต่ว่า"รู้แล้วก็วางลงเป็น" คือไม่ยึดติดนั่นเอง!
    (ไม่นำสิ่งต่างๆที่รู้หรือรับเข้ามา ไปสังขาราปรุงแต่งจนก่อให้เกิดเป็น"ตัวกู-ของกู"ขึ้นมานั่นเอง
    หรือเมื่อไรปรากฏขึ้นมาของ รูป1+นาม4 แห่งขันธ์5นี้ขึ้นมา(อุปาทานขันธ์5) นั่นหมายถึง การเข้าไปยึดติดแล้ว..)

    "เมื่อปฎิบัติไปจนถึงที่สุดแห่งที่สุดแล้ว..
    สรรพสิ่งใดๆก็ไม่ยึดติดอีกต่อไป..
    แม้นพระนิพพานก็ไม่ยึดติดเช่นกัน..
    นี้แล..จึงเป็นการดับสิ้นอย่างไม่หลงเหลือเชื้ออีกเลย.."


    ขอให้ทุกๆท่านเจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไปด้วยเทอญ.. สาธุสวัสดี
     
  16. natthapatpun

    natthapatpun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,124
    ค่าพลัง:
    +25,214
    ขออนุญาตประกาศจิตบุญดวงที่ ๑๑๖ และ ๑๑๗ ณ วันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๕

    ขอท่านทั้งหลายจงโมทนา
    กับจิตบุญดวงที่ ๑๑๖
    ของกลุ่มจิตบุญเทอญ
    สาธุ สาธุ สาธุ
    [​IMG]
    ขอท่านทั้งหลายจงโมทนา
    กับจิตบุญดวงที่ ๑๑๗
    ของกลุ่มจิตบุญเทอญ
    สาธุ สาธุ สาธุ
    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 ธันวาคม 2012
  17. natthapatpun

    natthapatpun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,124
    ค่าพลัง:
    +25,214
    คุณศศิวรรณ จิตบุญ 116
    คุณเคลื่อน จิตบุญ 117

    ศิษย์พระอาจารย์ชัชวาล อยู่ที่ จ.นครศรีธรรมราชทั้งหมดค่ะ
    จบกิจจิตเกาะพระ ณ วันที่ 5 ธันวาคม 2555
    พระอาจารย์ชัชวาลจัดอบรมปฏิบัติธรรมให้กับชาวบ้านที่สนใจธรรมะ
    เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่ในหลวงเนื่องในวันพ่อแห่งชาติ
    ท่านมีความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้าที่จะทำงานนี้
    ช่วงหนึ่งก็ประสบกับอุปสรรคจนยกเลิกงานบวชเนกขัมมะไปแล้ว
    แต่อย่างไรไม่ทราบในที่สุดท่านก็ได้จัดงานบวชเนกขัมมะให้กับชาวบ้านจนได้
    ต้องขออภัยเป็นอย่างสูงพี่เพ็ญไม่ทราบข้อมูลค่ะ
    ช่วงนี้จิตกำลังเข้าวิปัสสนาญาณ
    จิตกำลังเข้าไปค้นหาเศษกรรมอันหนักหน่วง
    จิตปิดสำหรับทุกเรื่อง
    ต้องกราบขอขมาพระอาจารย์ชัชวาลเป็นอย่างยิ่งค่ะ
    วิปัสสนาผ่านไปแล้ว 2 ด่าน
    ด่านที่ 3 กำลังดำเนินการอยู่
    จะมีใครโดนหนักอย่างเราไหมเนี่ย
    วิปัสสนารอบนี้โดนทีเดียว 3 เรื่อง
    เอ่อ ขออภัยค่ะมาแอบบ่นอีกแล้ว

    พี่เพ็ญขอโมทนาบุญกับจิตบุญ 116 และ 117 พร้อมด้วยพระอาจารย์ชัชวาลและผู้เกี่ยวข้องทุกท่าน และขออุทิศบุญกุศลทั้งหมดแด่ในหลวงรัชกาลที่ 5 และในหลวงรัชกาลปัจจุบันค่ะ ขอให้ท่านมีธาตุขันธ์แข็งแรงขึ้นโดยฉับพลันทันใด ขอทรงพระเจริญ พระชนมายุยิ่งยืนนานตราบเท่าพระองค์ต้องการเทอญ

    หากใช้คำราชาศัพท์ไม่ถูกต้อง ข้าพเจ้าขออภัยมา ณ โอกาสนี้

    พี่เพ็ญ

    ปล.พี่เพ็ญได้รับแจ้งทางอีเมลจากครูวิทย์อีกทีค่ะ ขอบคุณครูวิทย์ที่ช่วยเป็นธุระให้ค่ะ ขอให้ท่านเจริญสุขและเจริญปัญญายิ่ง ๆ ขึ้นไปเทอญ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 ธันวาคม 2012
  18. Linda2009

    Linda2009 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    956
    ค่าพลัง:
    +9,998
    ขออนุโมทนาบุญ กับจิตบุญ ดวงที่ ๑๑๖ ,๑๑๗ ครูผู้สอนและผู้ที่เกี่ยวข้องทุกท่านค่ะ สาธุ
     
  19. มาลินี UK

    มาลินี UK เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    807
    ค่าพลัง:
    +12,713
    เรื่องหลวงตาไปเยี่ยมหลวงปู่ค่ะ วันนี้อากาศที่อังกฤษหนาวมากค่ะ เมื่อสิบปีที่แล้วในงานมุนิตาสักการะ หลวงปู่ สังวาลย์ เขมโกหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ท่านได้เมตตามาร่วมงานในครั้งนี้ด้วย เมื่อท่านเดินทางมาถึงวัดทุ่งสามัคคีธรรม ท่านก็ตรงไปเยี่ยมหลวงปู่สังวาลย์ ที่ห้องพัก ซึ่งช่วงนั้น หลวงปู่สังวาลย์กำลังอาพาธ ไม่สามรถจะลุกขึ้นมาต้อนรับและสนทนาธรรมด้วยได้ เมื่อไปถึง หลวงตามหาบัวก็ได้กล่าวทักทายหลวงปู่สังวาลย์ว่า. ขึ้นชื่อว่าร่างกาย สังขาร ธาตุขันธ์ มันก็แสดงธรรมชาติของมันแบบนี้แหล่ะเน้อ. พูดดังนี้แล้ว หลวงตามหาบัวก็หันหน้ามาพระภิกษุ สามเณรและญาติโยม ซึ่งเป็นสานุศิษย์ของหลวงปู่สังวาลย์ และพูดต่อไปอีกว่า. หลวงปู่สังวาลย์ท่านนี้ป่วยแต่กายและสังขารเท่านั้นนะ จิตใจภายในของท่านเปรียบประหนึ่งทองคำเลยนะ เรื่องสังขารของท่านนี้จะละทิ้งเมื่อไหร่ ท่านก็ไม่มีความอาลัย อาวรณ์ เหมือนเราและท่านแล้วนะ. นี่แหล่ะอันนี้ก็สำคัญเหมือนกันนะ อันที่ว่าบรรดาลูกศิษย์ลูกหาที่มาเยี่ยมเยียนกันนี่. อย่าให้เหมือนครั้งพุทธกาลนะ คือมีหัวหน้าลิงถูกไม้ทับอยู่ ลิงตัวอื่นก็แตกตื่นตกใจวิ่งเข้ามาดู ตัวนั้นก็กระโดดขึ้นเหยียบบนไม้นั้น แล้วก้มลงมาถามว่าเป็นอย่างไรบ้าง? ตัวนั้นก็ไป ตัวนี้ก็มา ก็มาเหยียบซ้ำๆที่เดิม ผลที่สุดหัวหน้าลิงก็ตาย. เพราะว่ามีแต่ลิงที่หวังดีมาเยี่ยมกัน นั่นแหล่ะเห็นไหม พวกเราอย่าให้เป็นแบบลิงพวกนั้นนะ. ต่อจากนั้น หลวงตามหาบัว ท่านได้กล่าวปกิณกธรรมอีกเล็กน้อย เสร็จแล้วหลวงปู่สังวาลย์ก็ได้น้อมถวายทองคำและเงินดอลล่าร์ เพื่อสมทบทุนผ้าป่าช่วยชาติกับหลวงตามหาบัว. ซึงต่อจากนั้นลูกศิษย์ก็เจริญตามรอยตามหลวงปู่คือจะไปถวายทองหลวงตากันเป็นกิจ. จนหลวงตาตั้งฉายยาให้หลวงปู่เป็นแขนซ้ายของหลวงตามหาบัว ดิฉันก็เลยได้เป็นลูกศิษย์ของหลวงตาและหลวงปู่ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา. ได้กราบหลวงปู่และหลวงตาอยู่หลายครั้งที่เขียนเล่าสู่กันฟังก็เพราะท่านทั้งสองอยู่ในใจตลอดเวลาค่ะ ขอน้อมกราบหลวงปู่และหลวงตาด้วยเศียรเกล้าเจ้าค่ะ สาธุ สาธุ สาูธุ
     
  20. Golden Sky

    Golden Sky เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    575
    ค่าพลัง:
    +8,976
    ขออนุโมทนา กับจิตบุญดวงที่116 และจิตบุญดวงที่117 และครูผู้สอนทุกๆท่านด้วยเทอญ.:cool::cool::cool:
     

แชร์หน้านี้

Loading...