จิตพร้อม? รับภัยพิบัติ

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=iNvVFkSGdiE]ชีวิตลิขิตเอง - พี่เบิร์ด - YouTube[/ame]​

ฟ้าไม่มีใจ
อย่าให้..ฟ้าลิขิตหรือปล่อยตามยถากรรม
กรรมที่ผ่านมานั้น เป็นฝ่ายกำหนดเราในวันนี้ (เป็นจริงตามนั้น)

แต่นับวินาทีนี้ ลมหายใจนี้ไป เราเท่านั้นจะเป็นผู้กำหนดกรรม หรือชะตาชีวิตตนเอง

ชีวิตลิขิตเอง!​

 

ขออนุโมทนา กับข้อความ ของคุณ อุษาวดี ดีมากค่ะ คิดว่าเหตุการณ์ แบบนี้คงเกิดขึ้นกับหลายๆคน โดยเฉพาะมันเคยเิกิดขึ้นกับตัวเอง.ตอนเริ่มฝึกจิตเกาะพระใหม่ๆ พอดิฉันนึกถึงพระ จิตก็จะออกไปหาพุทโธ ก็ยังคิดอยู่ว่าเราจะทำได้ไหมเนี่ยเป็นอยู่พักหนึ่งค่ะ เวลามันเกิด.เราจะต้องรู้ว่ามันออกอีกแล้ว ก็มันออกก็รู้ ต้องใช้สติดึงกลับมา แต่ก็ต้องไม่ประมาท เรายังไม่ลืมพุทโธ เพราะ
พุทโธ คำนี้ได้ฝึกให้เราปฏิบัติเป็น แล้วเราถึงได้มาเจอจิตเกาะพระตอนนี้ เพราะจิตเกาะพระ เป็นการปฏิบัติ เพื่อการเข้าถึงนิพพาน.ขอขอบพระคุณมาก
ค่ะและขออนุโมทนานะคะสาธุค่ะ

 

เถรวาทะ ตำราพระพุทธเจ้าว่าทำดี

เวลาไหนมันก็ดีเวลานั้นแหล่ะ ทำชั่วเวลาไหนมันก็ชั่วเวลานั้นแหล่ะ

เวลามันไม่ดีไม่ชั่ว ดีหรือชั่วมันอยู่ที่การกระทำ. สาธุ สาธุ สาธุ.

 

พระธรรมเสนาบดีสารีบุตร ๑ - YouTube​

ผู้เจริญในธรรมทั้งหลาย
ไม่ควรนำจิตไปยึดเกาะกับ คำว่า สมมุติ
หรือภัยพิบัติทั้งหลาย
เตรียมกาย เตรียมสิ่งจำเป็นก็พอ
แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด ที่จะต้องตระเตรียมมากกว่า นั่นก็คือ เตรียมจิต​

เพราะภัยพิบัติธรรมชาตินั้น เราไปเปลี่ยนแปลงอะไรเขาไม่ได้
แต่พอจะเปลี่ยนแปลงได้นั้น ก็คือ จิตตนเอง

จิตพร้อม?
รับภัยพิบัติ ทางกาย ทางใจ หรือยัง​

ลูกท่านพ่อ ลูกพระพุทธเจ้า ต้องเป็นลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น
ท่านพ่อทำตัวอย่างให้เจ้าดูหมดแล้ว
นั่นก็คือ เจริญมหาสติ เจริญมหาสมาธิ เจริญมหาปัญญา เจริญมหาเมตตา

ท่านพ่อพยายามช่วยพวกเจ้าทุกคน
แต่เหตุไฉน พวกเจ้าจึงไม่ยอมช่วยตนเองก่อนเล่า!
ท่านพ่อแนะให้พวกเจ้าทรงฌานเป็นปรกติ เป็นนิจ
ท่านพ่อแนะให้พวกเจ้าทรงอารมณ์พระนิพพาน หรือ รักษาอารมณ์วันที่จิตยกใหม่ๆ
ท่านพ่อแนะให้พวกเจ้าทรงอารมณ์พระพุทธเจ้า

แต่..บางคนก็ทำได้บ้าง ไม่ได้บ้าง
แล้วจะให้ท่านพ่อช่วยเจ้าอย่างไรเล่า!
​

 

ขอ กล่าวคํา "อนุโมทนาสาธุ" กับครูผู้สอนทุกๆท่าน ในรายนามข้างบนนี้ ที่ท่านได้สละเวลาอันมีค่าของท่าน ทําหน้าที่เพื่อให้ผู้คนได้หลุดพ้นจาก "วัฏฏะ" ถือว่าเป็นอนุสงฆ์ผลบุญอย่างหาที่เปรียบได้ยาก หากผู้ที่เห็นความเป็นภัยในการเกิด ก็คือผู้เข้าถึงซึ้ง "สัจจธรรม"เพราะท่านเห็นทุกข์ และท่านก็ยังอยากให้ผู้คนที่เป็นทุกข์ได้พ้นทุกข์ และแบ่งปัน ความสุขที่ท่านได้รับนั้นให้แก่ผู้คนที่ท่านได้พบเห็น เพ็ญ2ขอกล่าวคําสรรญเสริญ และขออนุโมทนาสาธุ สาธุ กับทุกๆท่านด้วยเทอญ.

 

พระมหาโมคคัลลานะ - YouTube​

เจริญมหาเมตตา​

หมายถึง เมื่อพวกเจ้าออกจากทุกข์กันได้แล้ว
เจ้าก็จงบอกทางออกจากทุกข์แก่ผู้อื่นด้วย
หรือ..เมื่อพวกเจ้าหลุดพ้น จากการเวียนว่ายตายเกิดอย่างไร
พวกเจ้า ก็พึงกระทำกับผู้อื่นๆ นั้นด้วยเถิดฯ​

จิตยกหรือจิตบุญ
อย่าหยุดเพียงเท่านี้
ขอให้เจริญสติเป็น มหาสติ มหาสมาธิ มหาปัญญา
เสริมอินทรีย์ ๕ ให้แก่กล้ายิ่งขึ้นไป
ตราบจนสิ้นอายุขัยของพวกเจ้าด้วยเถิดฯ​

 

ขออนุโมทนา กับ คุณอุษาวดี ที่ชี้ให้เห็นในหัวข้อข้างบนนี้ ก็เปรียบเสมือน คนที่ปฏิบัติ ก็คือบึงหรื่อหนองที่ปกคลุมไปด้วยจอกและแหน นั้น ก็คือเปรียบกับคน ก็คือ กิเลสที่หุ้มห่อ เราอยู่ ต้องอาศัยการปฏิบัติ คือใช้ สติ สมาธิ และปัญญา แหวกจอกและแหนออก นั้นก็คือ แหวกเอากิเลส ที่มีอยู่ในจิตใจออกมาให้เห็นจิตแท้ที่ไม่มีกิเลสปกคลุม ก็จะเหมือนนํ้าที่ใสสะอาดน่า ดื่ม กิน แต่ผู้ที่จะแหวกจอก แหวกแหน นั้นจะต้องอาศัย ความเพียร คือ มี ศรัทธา วิริยะ สติ สมาธิ และก็ ปัญญา ออก คุ้นคว้าหาโดยการปฏิบัตินั้น ก็คือ ถ้าไม่แหวกจอกแหนออก ก็จะไม่เห็น นํ้าที่สะอาด ฉันใด ถ้าผู้ปฏิบัติอยากเห็นของจริงก็ต้องลงมือปฏิบัติด้วยตนเอง ฉันนั้น และท่านก็จะได้นํ้าธรรมที่สะอาดไว้ดื่ม กิน ตลอดกาลนาน เทอญ.

 

จิตบุญ 104 ขอน้อมรับ มหาสติ มหาสมาธิ มหาปัญญา เพื่อเสริมอินทรีย์5
โดยไม่ประมาท จนกว่าชีวิตจะหาไม่ค่ะ ขอขอบพระคุณท่านผู้มีเมตตาและห่วงใย จากใจจริงค่ะ ขออนุโมทนานะคะ สาธุค่ะ

 

ขอโมทนากับชาวคณะเหล่า "จิตเกาะพระ" ด้วยครับ

แฮะๆ ตามอ่านไม่ทัน เลยพลาดจิตเกาะสัญจรเดือนนี้ซะได้ แง่มๆมาตามอ่านเอาวันนี้พอดีเลย
ขอบคุณพี่ภูด้วยครับ สงสัยปลายปีจะไม่ได้ไปเขาใหญ่ คงอยู่ทำงาน กทม. ตามหน้าที่ครับ

 

ศรัทธาจะนำพาเจ้าไป​

​

ขอให้เปิดใจรับ ตั้งใจทำไป อย่าเครียด อย่าอยาก และอย่าขาดตอน​

 

สหายกรรม - สหายธรรม. ชนกกรรมทำหน้าที่ชีวีเถิด เจตนาอันประเสริฐบังเกิดผล
เป็น เทพ พรหม สัตว์ มนุษย์ สุดแท้ดล จึงทุกคนจงขยันสรรกรรมดี แล้วถึงคราวอุปถัมภก
กรรมบ้าง. เมื่อบุญสร้างก็ส่งบุญหนุนเต็มที่ ให้เปี่ยมล้นพ้นทุกข์สุขฤดี หากบาปมีทวีแท้แย่
ทุกทาง อุปปีพักกรรมจัดจำไว้ บาปบุญใดเบียนเบีอดปัดเข้าขัดขวาง อุปฆาตกกรรมชิงนำวาง เข้าตัดรอบาป -บุญสร้างที่อ่อนแอ เมื่อก่อกรรมเช่นใรย่อมได้รับ คำนวณนับกรรมทั้งสี่มีผลแน่ สหายธรรมพระสัมมาอย่าผันแปร สร้างบุญแท้ให้ห่างหาย สหายกรรม.

 

ขออนุญาตประกาศจิตบุญดวงที่ ๑๑๙ ๑๒๐ และ ๑๒๑ ณ วันที่ ๑๕-๑๖ ธันวาคม ๒๕๕๕

ขอท่านทั้งหลายจงโมทนา
กับจิตบุญดวงที่ ๑๑๙
ของกลุ่มจิตบุญเทอญ
สาธุ สาธุ สาธุ

ขอท่านทั้งหลายจงโมทนา
กับจิตบุญดวงที่ ๑๒๐
ของกลุ่มจิตบุญเทอญ
สาธุ สาธุ สาธุ

ขอท่านทั้งหลายจงโมทนา
กับจิตบุญดวงที่ ๑๒๑
ของกลุ่มจิตบุญเทอญ
สาธุ สาธุ สาธุ
​

 

สวัสดีครับพี่เพ็ญ

ขอแจ้งจิตบุญใหม่ให้ครูเพ็ญลงประกาศด้วยครับ

จิตบุญ 119 พระจำนงค์ วัดเขาโล ต.เขาโล อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ยกจิตวันที่ 15 ธ.ค. 55 เวลา 21.00น ครับ ศิษย์พระอาจารย์ชัชวาล

จิตบุญ 120 คุณกิตติ์ธัญญา เริ่มฝึก 17พย55 ศิษย์ครูวิทย์ ยกจิตในงานอบรมครับ 16 ธ.ค. 55

จิตบุญ 121 คุณตูน เป็นลูกสาวของ จิตบุญ 120 เริ่มฝึก 17 พ.ย. 55 ศิษย์ครูวิทย์ ยกจิตในงานอบรมครับ 16 ธ.ค. 55

เป็นครั้งแรกที่ยกจิตในงานอบรมครับ โมทนาด้วยครับท่านพ่อ

ในงานนี้มีจิตบำเพ็ญเยอะมาก อีกไม่นานจะมาเป็นชุดครับ
สายผมสงสัยจะมายกแผง

ขอบคุณครับพี่เพ็ญ พี่ภู

ด้วยรักและเคารพ

วิทย์

พี่เพ็ญโมทนา สาธุกับความเมตตาของครูสอนจิตเกาะพระทุกท่านไม่มีประมาณค่ะ บุญกุศลที่ข้าพเจ้าได้โมทนาแล้วขออุทิศให้กับคุณพ่อของจิตบุญคุณป้อม(กรรมบท10) ที่กำลังป่วยหนักค่ะ ขอให้ท่านจงผ่านพ้้นสภาวะแห่งทุกข์ไปโดยเร็วพลันเทอญ ข้าพเจ้าขอแผ่เมตตาให้คุณพ่อของจิตบุญคุณป้อม(กรรมบท 10) จงพบกับความสุขดั่งใจท่านปรารถนาเทอญ

จิตบุญเอ๋ย เจ้าจงอย่าละเลยในการปฏิบัติธรรม
วิปัสสนาญาณ 9 พวกเจ้าจงหมั่นทบทวนกันนะลูก
สติอย่าให้มันห่างกายห่างจิต
จิตอย่าให้มันหย่อนสมาธิ
ปัญญาอย่าให้มันทื่อ พวกเจ้าจงหมั่นลับหมั่นฝนปัญญาด้วยวิปัสสนาญาณ 9 เทอญ

หลัก วิปัสสนาญาณ 9​

วิปัสสนาญาณ หมายถึง ญาณในวิปัสสนา หรือญาณที่จัดเป็นวิปัสสนา คือ เป็นความรู้ที่ทำให้เกิดความเห็นแจ้งเข้าใจสภาวะของสิ่งทั้งหลายตามเป็นจริง แบ่งออกเป็น 9 ประการคือ

1. อุทยัพพยานุปัสสนาญาณ หมายถึง ญาณอันตามเห็นความเกิดและความดับ คือ พิจารณาความเกิดขึ้น และความดับไปแห่งเบญจขันธ์จนเห็นชัดว่า สิ่งทั้งหลายเกิดขึ้น ครั้นแล้วก็ดับไปในที่สุด (เกิด-ดับ)

2. ภังคานุปัสสนาญาณ หมายถึง ญาณอันตามเห็นความสลาย คือ เมื่อเห็นความเกิด-ดับ เช่นนั้นแล้ว เข้าใจความดับอันเป็นจุดจบสิ้นก็เห็นว่าสังขารทั้งปวงล้วนจะต้องสลายไปในที่สุด

3. ภยตูปัฏฐานญาณ หมายถึง ญาณอันมองเห็นสังขารปรากฏเป็นของน่ากลัว คือ เมื่อพิจารณาเห็นความแตกสลายของสังขารแล้วก็ปรากฏเป็นของน่ากลัว เพราะล้วนต้องสลายไป ไม่ปลอดภัยทั้งสิ้น

4. อาทีนวานุปัสสนาญาณ หมายถึง ญาณอันคำนึงเห็นโทษ คือ เมื่อพิจารณาเห็นสังขารทั้งปวงซึ่งล้วนต้องแตกสลายไป เป็นของน่ากลัวแล้วย่อมคำนึงเห็นสังขารทั้งปวงนั้นว่าเป็นโทษ เป็นสิ่งที่มีความบกพร่อง จะต้องประกอบไปด้วยความทุกข์

5. นิพพิทานุปัสสนาญาณ หมายถึง ญาณอันคำนึงเห็นความหน่าย คือ เมื่อพิจารณาเห็นว่าสังขารทั้งปวงเป็นโทษแล้ว ย่อมเกิดความหน่ายไม่เพลิดเพลินติดใจในสังขารนั้น

6. มุญจิตุกัมยตาญาณ หมายถึง ญาณอันคำนึงด้วยใคร่จะพ้นไปเสีย คือ เมื่อหน่วยสังขารทั้งหลายแล้วย่อมปรารถนาที่จะพ้นไปเสียจากสังขารเหล่านั้น

7. ปฏิสังขานุปัสสนาญาณ หมายถึง ญาณอันคำนึงพิจารณาหาทางหลุดพ้น คือ เมื่อต้องการจะพ้นไปเสียจากสังขารจึงกลับหันไปยกเอาสังขารทั้งหลายขึ้นมาพิจารณากำหนดด้วยไตรลักษณ์เพื่อมองหาอุบายที่จะปลดเปลื้องหรือหาทางหลุดพ้น

8. สังขารุเปกขาญาณ หมายถึง ญาณอันเป็นไปโดยความเป็นกลางต่อสังขาร คือ เมื่อพิจารณาสังขารต่อไปย่อมเกิดความรู้เห็นสภาวะของสังขารตามความเป็นจริง ว่ามีความเป็นอยู่เป็นไปของมันอย่างนั้นเป็นธรรมดา จึงวางใจเป็นกลางได้ไม่ยินดียินร้ายในสังขารทั้งหลาย ญาณจึงมุ่งสู่นิพพาน โดยเลิกละความเกี่ยวพันกับสังขารอีก

9. สัจจานุโลมิกญาณ หรือ อนุโลมญาณ หมายถึง ญาณอันเป็นไปโดยอนุโลมแก่การหยั่งรู้อริยสัจ คือ เมื่อวางใจเป็นกลางต่อสังขารทั้งหลายและญาณมุ่งสู่นิพพานแล้ว ญาณก็จะส่งผลต่อการตรัสรู้อริยสัจ ย่อมเกิดขึ้นในลำดับต่อไป เป็นขั้นสุดท้ายของวิปัสสนาญาณต่อจากนั้นก็จะทำให้สำเร็จเป็นอริยบุคคลต่อไป

ที่มา

พี่เพ็ญ จบ. 3

 

ปุจฉา-วิสัชนา. โดยหลวงปู่ชา สุภัทโท.
ปุจฉา เมื่อผมโกรธ ผมควรทำอย่างไรครับ? วิสัชนา. ท่านต้องแผ่เมตตา ถ้าท่านมีโทสะในขณะภาวนาให้แก้ด้วยเมตตาจิต ถ้ามีใครทำไม่ดีหรือโกรธเรา เราอย่าโกรธตอบ
ท่านจะโง่ยิ่งกว่าเขา จงเป็นคนฉลาด สงสารเห็นใจเขา เพราะว่าเขากำลังได้รับทุกข์ จงมีเมตตา
เต็มเปี่ยมเหมือนหนึ่งว่าเขาเป็นน้องชายที่รักยิ่งของท่าน เพ่งอารมณ์เมตตาเป็นอารมณ์
ภาวนา แผ่เมตตาไปยังสรรพสัตว์ทั้งหลายในโลก เมตตาเท่านั้นที่จะเอาชนะโทสะ
และความเกลียดได้. บางครั้งท่านอาจจะเห็นพระภิกษุรูปอื่นปฏิบัติไม่สมควร ท่านอาจจะรำคาญใจ ทำให้เป็นทุกข์โดยใช่เหตุ นี้ไม่ใช่ธรรมะของเราท่านอาจจะคิดอย่างนี้ว่าั
เขาไม่ใช่พระที่ดี นี่เป็นกิเลสเครื่องเศ้ราหมองอย่างยิ่งของตัวท่านเอง อย่าเปรียบ อย่าเทียบ อย่าแบ่งเขาแบ่งเรา จงละทิฏฐิของท่านเสีย และเฝ้าดูตัวท่านเอง นี่แหล่ะคือธรรมะ
ของเรา ท่านไม่สามารถบังคับให้ทุกคนประพฤติปฏิบัติตามที่ท่านเป็นทุกข์ ผู้ปฏิบัติภาวนา
มักจะพากันหลงผิดในข้อนี้ การจับตาดูผู้อื่นไม่ทำให้เกิดปัญญาได้. เพียงแต่พิจารณาตนเองและพิจารณาความรู้สึกของตน แล้วท่านจะเข้าใจได้.ขอกราบอนุโมทนา ในธรรมะ
ขององค์ท่านด้วยเศียรเก้ลาเจ้าค่ะ.สาธุ สาธุ สาธุอนุโมทามิ.

 

สาธุ สาธุ สาธุ ขออนุโมทนาบุญกับจิตบุญน้องใหม่ดวงที่ 119,120 และ 121 พร้อมทั้งครูผู้สอนทุกท่านด้วยค่ะ สาธุ๊ ตื่นมาก็ได้ยินข่าวดีอีกแย้ววว

และขออุทิศบุญที่ได้จากการโมทนาบุญนี้ ให้คุณพ่อน้องป้อม กรรมบท 10 หายป่ายในเร็ววันด้วยเถิด สาธุ

 

ขออนุโมทนาบุญ กับจิตบุญดวงที่ ๑๑๙,๑๒๐,๑๒๑ ครูผู้สอนและผู้ที่เกี่ยวข้องทุกท่าน ค่ะ สาธุ

 

ขออนุโมทนาบุญ กับจิตบุญดวงที่ ๑๑๙,๑๒๐,๑๒๑ ครูผู้สอนและผู้ที่เกี่ยวข้องทุกท่านค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ

 

ขอแสดงความยินดีและอนุโมทนาจิตบุญ ดวงที่ 118, 119, 120, 121และคุณครู อาจารย์ ผู้สอนทุกท่านค่ะ สาธุ สาธุ สาธุค่ะ

 

ขอโมทนาสาธุกับคุณหมอด้วยครับ
คุณหมอกล่าวได้ถูกต้องแล้ว ชอบแล้ว
พวกเราก็ลองถามใจตนเองกันดูนะว่า มีความศรัทธาเท่าใด
หรือมีความศรัทธานำการปฎิบัติ และปฎิบัตินำหน้าความลังเล ความสงสัยของเองให้มากๆ

ปฎิบัติมากๆ ไม่ใช่พูดมาก อยากมาก อยู่กับทางโลกมาก
แล้วเรา(จิต)มันจะไปไหนได้ไกล เพราะคนส่วนใหญ่มันไปยึดติดร่างกาย
ไปยึดติดสิ่งสมมุติ ไปยึดติด คำว่า มายา กันมากมาย เช่นนี้

ใครบอกก็ไม่รู้เรื่อง และผู้ที่จะบอกกับตนเองได้ โดยเฉพาะคนที่ติดตัวรู้มาก
หรืออีโก้มากนั้น เห็นมีแต่ปัญญาของเจ้าเท่านั้น
ตราบใดที่เจ้ายังไม่มีปัญญาเป็นของตนเอง เจ้าก็จะออกจากวังวนตนเองไม่ได้
เพราะฉะนั้น เจ้าก็ยังออกจากทุกข์ตนเองยังไม่ได้ เช่นกัน
อย่าเพิ่งไปพูดถึงพระนิพพานกันเลย ยังอีกยาวไกล สำหรับผู้คนเหล่านี้

แต่พวกเราทุกคนที่นี่ ยังรอคอยการกลับมา นำพากันปฎิบัติ
เพื่อความหลุดพ้นทุกประการ ตามที่พวกเจ้าต้องการ
เพียงแต่ขอให้ปฎิบัติด้วยความตั้งใจจริงๆ ปฎิบัติด้วยความศรัทธานำหน้า

แต่สำหรับผู้ที่มาใหม่หรือไม่มีความศรัทธากับครูผู้สอนนั้น
ขอบอกตามตรงว่า ยากที่จะเข้าถึงการปฎิบัติ เพราะจิตของผู้ปฎิบัติ
ไม่ยอมเปิดใจรับเอง
ครูทุกท่านมิได้ต้องการให้พวกเจ้ามายอมรับหรือเคารพ นับหน้าถือตา
หรือมาหาผู้ศรัทธาในที่นี้ ได้โปรดจงอย่าเข้าผิดๆ อย่าไปปิดกั้นโอกาสเจริญในธรรมของตนเอง
พวกเจ้าปฎิบัติที่ไหนก็ได้ ตามแต่จริตตน
ขออย่างเดียว ก็คือ เข้าให้ถึงกระแสจิตตนเองให้ได้ก่อน
หาให้เจอดวงจิตน้อยๆ คือดวงจิตเดิมแท้ของเจ้าเอง
แต่ถ้าหากันไม่พบ ก็อย่าไปคิด เจริญในธรรมในชาตินี้ปางนี้กันเลย

สำหรับผู้ปฎิบัติที่ยังแอบปฎิบัติเอง อยู่แต่ผู้เดียวนั้น
ขอบอกคำเดียวว่า ถ้าท่านมิใช่มนุษย์จำพวก สัพพัญญู สำเร็จยาก
ขนาดหลวงปู่มั่น ท่านก็ยังมีครูบาอาจารย์เลย ก็คือ หลวงปู่เสาร์
หลวงตามหาบัว พระอาจารย์ของท่านก็คือ หลวงปู่มั่น
หรือ ขนาดพระพุทธเจ้าเอง พระองค์ท่านก็ยังมีครูบาอาจารย์เลย
ก็คือ พระฤษีสองตน ถึงไม่ได้สอนตลอดรอดฝั่ง
คือสอนแค่สมถกรรมฐานขั้นสูงสุด ก็คือ ฌาน๘ หรือ สมาบัติบัติ ๘

แล้วลองหันมาถามใจตนเองสิว่า..เราคือใคร????

 

โมทนาสาธุ
ตราบใดท่านยังไม่หมดลมหายใจ ยังพอมีเวลาอยู่
กทม.ไม่มีไรมากอยู่ต่อไปเถิด นอกจากน้ำมาถึงจมูก ค่อยออกไปจากพื้นที่
แต่ปลายปีหน้า ตัวใครตัวมัน
ตรูเองก็ไม่รุ๊รอดป่าว ฮ่าๆๆๆๆ
มีเวลาตระเตรียมเสบียงยังชีพ แต่ที่จะต้องเตรียมให้มาก ก็คือ จิตตนเอง
ติดตาม เกาะติดสถานการณ์กันได้ แต่อย่าทำจิตตกกันสิ ทำได้กันป่าว ยอมรับกับความเปลี่ยนแปลงของโลกวัฎฎะกันให้ได้
ตราบใดพวกเรายังตามกันมาเกิดเช่นนี้ ก็หนีไม่พ้นกฎธรรมดา
หรือ กฎพระไตรลักษณ์ของพระพุทธองค์
ว่างๆนำจิตมาเดินมรรคกับ จิตเกาะพระให้ไวๆ

อย่าเป็นเสมือน "หมู" ไม่กลัวน้ำร้อน!
หรือ
ไม่เห็นโลงศพ ไม่หลั่งน้ำตา