** ฉันทะ ** วัตถุมงคล หลวงปู่ดู่ วัดสะแก อยุธยา **

รายการที่ 1056 พระพิมพ์หลวงปู่ทวด เนื้อผงถ่านโพธิ์(ใต้ต้นแม่)แช่น้ำมันเครื่อง หลวงปู่ดู่ วัดสะแก อยุธยา พุทธคุณผงถ่านโพธิ์คุ้มครองปลอดภัยแคล้วคาดครับ หลวงปู่ดู่อธิฐานจิต อารธนาขึ้นคอได้เลยครับ ใครชอบเนื้อนี้เชิญครับ ราคาบูชา....จะโทรสอบถาม T. 081 847 7768 หรือPMก็ได้ครับ...ไม่ต้องโอนค่าจัดส่งเพิ่มครับ

***เงินของท่านแท้ ก็สมควรได้พระแท้ไปครับ ***

ดูองค์จริงได้ที่ชมรมพระเครื่องมรดกไทยพันทิพย์งามวงศ์วาน ชั้น3 ตู้ B104 อยู่หน้าร้านเช้งสุพรรณครับ เปิดทุกวันศุกร์-อาทิตย์(โทรมานัดก่อนจะดีมากครับ จะได้ไม่พลาดครับ) มารับตามตู้พระที่พันทิพย์งามวงศ์วาน ลดค่าจัดส่ง 30 บาท
ราคาที่บอกไว้ได้รวมค่าจัดส่งแล้ว ไม่ต้องโอนเพิ่มครับ ทุกชิ้นมาจัดส่ง EMS ครับ หรือบูชามากกว่า 1รายการ ขึ้นไปลด 30 บาทตามจำนวนรายการที่บูชาเพิ่มครับ )<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->

ที่อยู่ 69/36 หมู่8 ซ.ลาดกระบัง16 ต.ราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ 10540 . Email :thakul_11@hotmail.com

ชื่อบัญชี ตระกูล ฉันทพัฒน์กุล
ธนาคารกรุงไทย สาขาศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เลขที่บัญชี่ 009-1-17429-5
ธนาคารกรุงเทพ สุขุมวิท77(ประเวศ) เลขที่บัญชี่ 919-004126-0
ธนาคารไทยพาณิชย์ ศูนย์การค้าเดอะพาซิโอ(ลาดกระบัง) เลขที่บัญชี่ 402-356961-3

* สนใจวัตถุมงคลพิมพ์อื่นๆของหลวงปู่ดู่เพิ่มเติม หรือสนทนารายละเอียดเพิ่มเติม โทร.081 847 7768

 

แจ้งโอนเงินทาง PM
แต่ยังไม่ต้องส่งนะครับ รอเผื่อจองได้ทันชาวบ้านเขา :'( แล้วค่อยจัดส่งพร้อมกันทีเดียว

 

รายการที่ 1057 พระพิมพ์ขุนแผนเคลือบ พิมพ์ใหญ่ เนื้อดินเผาเคลือบ หลวงปู่ดู่ วัดสะแก อยุธยา ปี2531 ด้านหลัง"ด" ขุนแผนเคลือบปี2531นี้จัดสร้าง 2พิมพ์ครับ อกใหญ่และแข่นอ่อนครับ องค์นี้เป็นพิมพ์อกใหญ่จะนิยมกว่าพิมพ์แขนอ่อนครับ หลวงปู่ดู่อธิฐานจิต พุทธคุณเต็มเปี่ยม อารธนาขึ้นคอได้เลยครับ ใครชอบเนื้อเคลือบเชิญครับ ราคาบูชา....จะโทรสอบถาม T. 081 847 7768 หรือPMก็ได้ครับ...ไม่ต้องโอนค่าจัดส่งเพิ่มครับ

***เงินของท่านแท้ ก็สมควรได้พระแท้ไปครับ ***

ดูองค์จริงได้ที่ชมรมพระเครื่องมรดกไทยพันทิพย์งามวงศ์วาน ชั้น3 ตู้ B104 อยู่หน้าร้านเช้งสุพรรณครับ เปิดทุกวันศุกร์-อาทิตย์(โทรมานัดก่อนจะดีมากครับ จะได้ไม่พลาดครับ) มารับตามตู้พระที่พันทิพย์งามวงศ์วาน ลดค่าจัดส่ง 30 บาท
ราคาที่บอกไว้ได้รวมค่าจัดส่งแล้ว ไม่ต้องโอนเพิ่มครับ ทุกชิ้นมาจัดส่ง EMS ครับ หรือบูชามากกว่า 1รายการ ขึ้นไปลด 30 บาทตามจำนวนรายการที่บูชาเพิ่มครับ )<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->

ที่อยู่ 69/36 หมู่8 ซ.ลาดกระบัง16 ต.ราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ 10540 . Email :thakul_11@hotmail.com

ชื่อบัญชี ตระกูล ฉันทพัฒน์กุล
ธนาคารกรุงไทย สาขาศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เลขที่บัญชี่ 009-1-17429-5
ธนาคารกรุงเทพ สุขุมวิท77(ประเวศ) เลขที่บัญชี่ 919-004126-0
ธนาคารไทยพาณิชย์ ศูนย์การค้าเดอะพาซิโอ(ลาดกระบัง) เลขที่บัญชี่ 402-356961-3

* สนใจวัตถุมงคลพิมพ์อื่นๆของหลวงปู่ดู่เพิ่มเติม หรือสนทนารายละเอียดเพิ่มเติม โทร.081 847 7768

 

<TABLE id=post5677754 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR vAlign=top><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2 width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->ชาติกุญชร<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_5677754", true); </SCRIPT>
สมาชิก



วันที่สมัคร: May 2007
ข้อความ: 334
พลังการให้คะแนน: 136


</TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" id=td_post_5677754 class=alt1><!-- google_ad_section_start -->แจ้งโอนเงินทาง PM
แต่ยังไม่ต้องส่งนะครับ รอเผื่อจองได้ทันชาวบ้านเขา :'( แล้วค่อยจัดส่งพร้อมกันทีเดียว <!-- google_ad_section_end -->
</TD></TR></TBODY></TABLE>

รับทราบครับ จะให้ส่งตอนไหนแจ้งบอกผมอีกทีทางPM ด้วยนะครับ ขอบคุณมากครับ

thaxx​

 

สวยมากครับ องค์นี้

 

ขอจองครับ

 

อ่านที่ไร..ก็พาลให้คิดถึงซึ่งครูบาอาจารย์..

นี่ละหนอ..อาการแห่งการละสังขารอันงามสง่ายิ่ง ของพระอริยสงฆ์เจ้าอรหันต์..

(นำมาฝากกัน : คัดลอกบางส่วน จากหนังสือ "อตุโล ไม่มีใดเทียม " / "หลวงปู่ฝากไว้ " : หลวงปู่ดุลย์ อตุโล )

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

..ผู้ไม่มีวิบากแห่งสังขาร...

บรรดาศิษย์เพิ่งทราบความหมายที่หลวงปู่เคยพูดเสมอว่า..ท่านไม่มีวิบากของสังขาร

ซึ่งหมายถึง เมื่อคราวจะต้องละสังขารจริง ๆ แล้วท่านก็ละไปเลย โดยไม่ต้องทิ้งความอ่อนแอ ความเจ็บไข้ได้ป่วยให้ปรากฏ เป็นการทรมานทั้งแก่ตนเองและสร้างความลำบากยุ่งยากให้แก่ผู้อื่น อันเนื่องมาจากสังขารเป็นเหตุ รวมไปถึงการที่ต้องเปลืองหมอเปลืองยา ทำให้ได้รับความลำบากกายลำบากใจ สร้างความวิตกกังวลและความเป็นห่วงให้แก่บุคคลที่อยู่ภายหลัง

<O</O
เมื่อหลวงปู่ดำรงขันธ์ จนอายุย่างเข้าสู่ปัจฉิมวัยจะร่วมร้อยปีก็ตาม สุขภาพพลานามัยของท่านยังอยู่ในเกณฑ์แข็งแรง ทั้งสังขารร่างกายทั้งสติสัมปชัญญะยังคงสัมพันธ์กันอย่างสมบูรณ์

<O</O
เมื่อคราวที่จะต้องละทิ้งสังขารไปจริง ๆ ความไม่มีวิบากของสังขารของท่าน จึงปรากฏออกมาให้ทุกคนได้ประจักษ์อย่างชัดเจน คือท่านปล่อยวางสังขารในท่ามกลางความมีสติสัมปชัญญะที่สมบูรณ์ยิ่ง สุขภาพร่างกายที่แข็งแรงสมบูรณ์ตามสภาพของวัย ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องที่หายากอย่างยิ่ง สำหรับคนทั่วไป<O</O

ที่น่าคิดประการหนึ่งคือ เสมือนหนึ่งว่าหลวงปู่กำหนดวาระการปล่อยวางสังขารในระหว่างที่มีการเตรียมงานพร้อมมูลอยู่แล้ว คือ งานที่สานุศิษย์จัดขึ้นเป็นพิเศษ เพื่อเป็นการฉลองการหายอาพาธและทำบุญฉลองครบรอบอายุถวายท่าน ในระหว่างวันที่ 29 – 31 ตุลาคม 2526

<O</O
สานุศิษย์ฝ่ายบรรพชิต ทั้งฝ่ายคามวาสีและอรัญวาสีมาประชุมพร้อมเพรียงกัน เพื่อเปิดโอกาสให้มีการสนทนาวิสาสะรับสักการบูชา ตลอดถึงตอบปัญหาข้อวัตรปฏิบัติให้แก่สานุศิษย์ของท่านได้ฟังอย่างครบถ้วนบริบูรณ์ เสมือนหนึ่งเป็นการทบทวนข้อวัตรปฏิบัติ อันเป็นคุณสมบัติที่ท่านรักษามาตลอดอายุขัยให้สมบูรณ์ เป็นที่อบอุ่นใจสบายใจของทุกฝ่าย

<O</O
ลักษณาการแห่งการสิ้นสุดชองสังขารขันธ์ของหลวงปู่ครั้งนี้ ยังความอัศจรรย์ใจระคนกับความเศร้าโศกอาลัยอาวรณ์ ในบรรยากาศของการทำบุญครบรอบอายุของท่าน เท่ากับว่าศาสนิกชนทั่วไปมาในงานเดียวแต่ได้สองงาน

<O</O
ได้มาร่วมงานสิริมงคลรอบอายุ พร้อมกับได้มารับรู้การละสังขารของท่านในช่วงเวลาเดียวกัน นับเป็นเหตุการณ์ที่น่าอัศจรรย์และเกิดขึ้นได้ยากยิ่ง
<O</O

เวลาผ่านเลยถึงตี 3 ของวันที่ 30 ตุลาคม 2526....

<O</O
หลวงปู่นอนสงบนิ่ง หายใจเบา ๆ ดูอาการเป็นปกติคล้ายนอนหลับตามธรรมดา สังเกตเห็นลมหายใจท่านเบาลงมาก ทุกคนปล่อยให้ท่านอยู่ของท่าน ไม่มีการรบกวน รู้สึกจะเห็นตรงกันว่า ถ้าหากหลวงปู่จะปล่อยวางสังขาร ก็ให้ท่านปล่อยวางตามสบายไม่ควรทำให้ท่านต้องลำบากจากการช่วยเหลือของแพทย์หรือพยาบาล

<O</O
หลวงปู่อยู่ในอาการสงบนิ่ง ไม่มีใครแน่ใจว่าท่านปล่อยวางสังขารในช่วงวินาทีใด..

<O</O
ผู้ที่เฝ้าพยาบาลอยู่ด้านซ้ายเชื่อว่าหลวงปู่หยุดการหายใจเมื่อเวลา 04.13 น.สำหรับผู้ที่เฝ้าอยู่ทางด้านขวา เข้าใจว่าเมื่อเวลา 04.43 น. (ทางวัดตกลงไม่ถือเวลาที่แน่นอน)

<O</O
ความรู้สึกของศิษย์ทั้งสองฝ่าย ต่างกันถึง 30 นาที ไม่มีใครทันสังเกตเห็นได้ เพราะหลวงปู่มิได้หายใจแรงให้เรารู้ได้ว่าเฮือกใดเป็นลมหายใจเฮือกสุดท้ายของท่าน

<O</O
นับเป็นลักษณาการมรณะภาพที่ไม่ปรากฏร่องรอย เป็นความงดงามบริสุทธิ์และสงบเย็นอย่างสิ้นเชิง...


<O</O
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

อาการแห่งการละสังขาร

หลังจากหมอกลับออกไปแล้ว หลวงปู่ลืมตาขึ้น บอกให้พระสวด มหาสติปัฏฐานสูตร ให้ฟัง ปรากฏว่าพระที่อยู่ ณ ที่นั้น 8 – 9 องค์ไม่มีใครสวดได้ เพราะเป็นพระสูตรที่ยาวกว่าสูตรอื่น ๆ ทั้งหมด
<O</O
หลวงปู่บอกให้เปิดหนังสือสวด เผอิญหนังสือก็ไม่มีอีก
<O</O
พอดีพระอาจารย์พูนศักดิ์ ซึ่งเฝ้ารักษาหลวงปู่มาโดยตลอด มีหนังสือสวดมนต์ฉบับหลวงเล่มใหญ่ติดมาด้วย จึงหยิบมาเปิดค้นหาพระสูตรนั้น กำลังพลิกไปพลิกมาเปิดหาอยู่
<O</O
หลวงปู่สั่งว่า“เอามานี่”
<O</O
พระอาจารย์พูนศักดิ์รีบยื่นถวาย หลวงปู่รับไป แล้วเปิดหนังสือขึ้นโดยไม่ต้องดูบอกว่า“สวดตรงนี้”
<O</O
ทุกองค์ที่อยู่ในที่นั้นต่างตะลึง เพราะหน้าที่หลวงปู่เปิดเป็นหน้าที่ 172 เป็นบทสวด มหาสติปัฏฐานสูตร พอดี
<O</O
พระอาจารย์พูนศักด์รับหนังสือจากหลวงปู่มานั่งสวดองค์เดียว หลวงปู่นอนฟังโดยตะแคงข้างขวา อยู่ในอาการสงบนิ่ง..
<O</O
พระสูตรนี้มีความยาวถึง 41 หน้า ใช้เวลาสวดเกือบ 2 ชั่วโมง เพราะหลวงปู่บอกให้สวดแบบช้า ๆ
<O</O
ระหว่างนี้พระบางองค์ทยอยออกไปบ้าง
<O</O
หลังจากที่สวด มหาสติปัฏฐานสูตร จบลง หลวงปู่ยังอยู่ในอาการปกติ ท่านพูดธรรมะกับพระที่เฝ้าอยู่เป็นครั้งคราวลุกขึ้นนั่งบนเก้าอี้บ้าง นอนบ้าง
<O</O
มีตอนหนึ่งหลวงปู่ให้พาออกไปนอกห้องและออกไปนอกกุฏิเพื่อสูดอากาศบริสุทธิ์ภายนอก หลวงปู่เพ่งมองไปที่ศาลาที่อยู่ตรงหน้ากุฏิท่าน ซึ่งในขณะนั้นมีทั้งพระเณรและฆราวาสเป็นจำนวนมาก ต่างชุมนุมปฏิบัติธรรมกัน มีการสวดมนต์ฟังเทศน์ ปฏิบัติสมาธิภาวนากันอยู่
<O</O
อากัปกิริยาที่หลวงปู่ออกมานอกกุฏินี้ ท่านได้กวาดสายตามองดูไปรอบ ๆบริเวณวัด ไม่มีใครทราบว่าเป็นการมองดูครั้งสุดท้ายคล้ายกับเป็นการให้ศีลให้พรและเป็นการลาสถานที่และสานุศิษย์ของท่านทุกคน
<O</O
ไม่มีใครเฉลียวใจ เพราะเห็นว่าท่านยังมีอาการเป็นธรรมดา มีสติสัมปชัญญะบริบูรณ์และพูดธรรมปฏิบัติให้พระเณรฟังได้อย่างชัดเจน

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

แสดงธรรมครั้งสุดท้าย..<O</O
<O</O
<V</V<O</O<O</O<O</O

ผ่านเข้ามาถึงตี 2 ของวันที่ 30 ตุลาคม 2526 หลวงปู่ได้แสดงธรรมให้แก่ลูกศิษย์ลูกหาที่อยู่ในห้องนั้นได้รับฟัง<O</O
ธรรมที่หลวงปู่แสดงเป็นธรรมว่าด้วย ลักษณาการแห่งพุทธปรินิพพาน ท่านแสดงด้วยน้ำเสียงปรกติธรรมดา และอยู่ในอิริยาบถนอนหงาย มีเนื้อหาดังนี้
<O</O
“เมื่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงสร้างพระพุทธศาสนาให้ก่อเกิดเป็นชีวิตอย่างบริบูรณ์ดังประสงค์แล้ว พระองค์จึงได้ละ วิภวตัณหา นั้นเสด็จเข้าสู่ อนุปาทิเสสนิพพาน คือ เป็นผู้หมดสิ้นทุกตัณหา เป็นผู้ดับรอบโดยลักษณาการแห่งอนุปาทิเสสนิพพานของพระองค์
<O</O
ลำดับแรกก็เจริญฌานดิ่งสนิทไป จนสัญญาเวทยิตนิโรธหมายความว่าเข้าไปลึกสุดอยู่เหนือรูปฌาน
<O</O
ในวาระแรกนั้น พระองค์ยังมิได้ดับขันธ์ต่าง ๆ ให้สิ้นสนิทเด็ดขาดแต่อย่างใดเ พียงเข้าไปเพื่อทรงกระบวนการแห่งการเข้าสู่นิพพาน หรือ นิโรธเป็นครั้งสุดท้ายแห่งชีวิต
<O</O
พูดง่าย ๆ ก็คือ สู่สิ่งที่พระองค์ได้สร้างได้พากเพียรก่อเป็นทางเป็นแบบอย่างไว้เป็นครั้งสุดท้ายเสียหน่อย ซึ่งเรียกได้ว่าสิ่งอันเกิดจากการที่พระองค์ได้ยอมอยู่กับ ธุลีทุกข์ อันเป็นธุลีทุกข์ที่มนุษย์ธรรมดามีจิตหยาบเกินกว่าที่จะสัมผัสได้ว่ามันเป็นทุกข์
<O</O
นี่แหละกระบวนการกระทำจิตตนให้ถึง สัญญาเวทยิตนิโรธ เป็นกระบวนการที่พระอนุตรสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้เป็นยอดศาสดาในโลกเท่านั้นที่ทรงค้นพบทรงนำมาตีเผยแผ่แจ้งออกสู่โลกให้พึงปฏิบัติตาม
<O</O
เมื่อทรงสิ่งสุดท้ายนี้แล้ว จึงได้ถอยกลับมาสู่ภาวะต้น คือ ปฐมฌาน แล้วตัดสินพระทัยครั้งสุดท้ายเสด็จดับขันธ์ต่าง ๆไปทีละขันธ์
<O</O
วิญญาณขันธ์แห่งชีวิตและร่างกายนั้นได้ดับไปเสียตั้งแต่ก่อนจะเข้าสู่ปฐมฌานนานแล้ว เพราะต้องการดับสังขารขันธ์ หรือสังขารธรรมขั้นแรกก่อนวิญญาณขันธ์จึงได้ดับ
<O</O
ดังนั้น จึงไม่มีเชื้อใดเหลืออยู่แห่งวิญญาณขันธ์ที่หยาบนั้น
<O</O
พระองค์เริ่มดับสังขารขันธ์ หรือสังขารธรรมชั้นในสุดอันจะส่งผลให้ก่อวิภวตัณหาได้ชั้นหนึ่งเสียก่อน แล้วจึงเลื่อนเข้าสู่ ทุติยฌาน แล้วจึงดับสัญญาขันธ์ เลื่อนเข้าสู่ ตติยฌาน
<O</O
เมื่อพระองค์ทรงดับสังขารขันธ์ หรือสังขารธรรมชั้นในสุดอีกที ก็เป็นอันเลื่อนขึ้นสู่ จตุตถฌาน คงมีแต่เวทนาขันธ์สุดท้ายแห่งชีวิต..นั่นแลคือลักษณาการแห่งขั้นสุดท้ายของการจะดับสิ้นไม่เหลือ
<O</O
เมื่อพระองค์ดับสังขารขันธ์ หรือสังขารธรรมใหญ่สุดท้ายที่มีทั้งสิ้นแล้ว ก็มาดับ เวทนาขันธ์ เป็นจิตขันธ์หรือนามขันธ์ที่ในจิตส่วนใน คือภวังคจิตเสียก่อนแล้วจึงได้ออกจาก จตุตถฌาน พร้อมทั้งมาดับจิตขันธ์หรือนามขันธ์สุดท้ายจริง ๆที่ตรงนี้
<O</O
พระองค์ไม่ได้เข้าสู่พระนิพพานในฌานสมาบัติอะไรที่ไหนหรอก เมื่อพระองค์ออกจากจตุตถฌานแล้ว จิตขันธ์หรือนามขันธ์ก็ดับพร้อมไม่มีอะไรเหลือ ไม่ถูกภาวะอื่นใดมาครอบงำอำพรางให้หลงใหลใด ๆ ทั้งสิ้นเ ป็นภาวะแห่งตนเองอย่างบริบูรณ์ ภาวะอันนั้นจะเรียกว่า ‘มหาสุญญตา’ หรือ ‘จักรวาลเดิม’ หรือว่าเรียก ‘พระนิพพาน’ อย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้ ...เราปฏิบัติมาก็เพื่อถึงภาวะอันนี้”


<O</O
.....วจีสังขารหรือวาจาของ.. หลวงปู่ดูลย์ อตุโล.. สิ้นสุดลงเพียงแค่นี้หลังจากนั้นไม่มีวาจาใดออกมาจากท่านอีกเลย...

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

<O</O
<O</O

 

สาธุ.....ค่ะ พี่โจต้องหาซื้อมาอ่านบ้างแล้ว

พระนิพพาน ไม่ใช่ภาษาพูด
พระนิพพาน ไม่ใช่ภาษาเขียน
พระนิพพาน เป็นภาษาปฏิบัติ

 

สาธุ...._/I\_..... อนุโมทนาครับ

 

อนุโมทนาครับ...........สาธุ ต้องหามาอ่านบ้างแล้วครับ(k)

 

หาหนังสือยังไม่ได้ เอา pdf ไปอ่านก่อนนะครับ ....

 

ขอบคุณ..คุณส่างป่ามากครับ..ชุดนี้ตัวหนังสือใหญ่ดี..อ่านง่ายมาก

อนุโมทนาสาธุด้วยครับ..ที่ให้เพื่อนๆ ที่บางท่านอาจยังไม่เคยได้อ่าน ได้อ่านซึ่งสัจจธรรมแท้..ไม่มีสิ่งภายนอกซึ่งของปลอมเจือปน

 

อนุโมทนา สาธุ สาธุ สาธุ _/|\_ _/|\_ _/|\_

 

สาธุครับพี่...ขอบคุณครับสำหรับบทความนี้และสุดท้ายครับฝากให้ไอ้พวกไม่รู้คุณแผ่นดินครับอย่ามายุ่งกับพระราชาของกู

 

ขอบคุณครับ

 

ข้าฯ จะเป็นคนดี..

เกื้อกูลพระศาสนา..

สัตย์ซึ่อยิ่งราชบัลลังก์..

 

ขอบพระคุณครับที่นำสิ่งดีๆมาให้อ่าน
อนุโมทนาด้วยครับผม

 

เมื่อคืนนอนหลับฝันดี..ฝันถึง ลป.เกษม

ตื่นเช้า..หลวงพี่ทวีศักดิ์ มาหาที่บ้านแต่เช้า ขึ้นรถทัวร์มาจากลำปาง

บอกคุณยายแก้ว (โยมอุปัฏฐากหลวงปู่ฯแต่ครั้งรุ่นเก่า) ฝากหลวงพี่ให้เอาสิ่งนี้มาให้

เป็นเช้าอีกวันหนึ่ง.. ที่น่าดีใจ

ฝากรูปมาให้ดูกันครับ..

รูปที่ 1 : คุณยายพับใส่กระดาษมาง่ายๆแบบชาวบ้านๆ รวม 3 ห่อ

รูปที่ 2 : เรารีบนำบรรจุลงถุงพลาสติก กลัวเส้นเกศาหลวงปู่ฯจะตกหล่นแม้เพียงเส้นเดียว ไปหยายย้ำเข้าจะเป็นบาป

รูปที่ 3 : แท่งแก้ว คุณยายฝากว่า เป็นแท่งที่แต่เดิมทำไว้เพื่ออุดก้นฐานพระประธาน ส่วนที่เหลือหลวงปูฯอธิษฐานจิตให้แม่แก้วเป็นการเฉพาะ โดยอธิษฐานให้เป็นพระธาตุแก้ว คุณยายอายุมากแล้ว กลัวจะไม่มีคนดูแล เลยฝากมาให้

รูปที่ 4 : ยังฝากเหรียญระฆัง (บล๊อกสายฝน) รับจากมือหลวงปู่ฯและหลวงปู่มนต์ให้โดยตรง มาให้อีก 1 เหรียญ

ขอบพระคุณจ้ะ..แม่

ปล. นั่งคิดไปคิดมา.. จำได้.. เมื่อสองวันที่แล้ว เราไปพันธ์ทิพย์ ก็ไปจดจ้องๆ ชอบที่บรรจุพระธาตุอยู่อันหนึ่ง สวยมาก ก็พลิกไปพลิกมาอยู่นั่นแหละ ก็ได้แต่คิดอยากจะซื้อ แต่ไม่รู้ว่า ซื้อแล้วจะนำมาใส่อะไรเพิ่มเติม....

ฤา..จะเป็นสิ่งนี้เองล่ะน้อ..ซึ่งที่สุดเราก็ต้องกลับไปซื้อจนได้ซิ..

 

...กราบหลวงปู่เกษม...

 

สาธุครับพี่โจ
กราบหลวงปู่ดู่ หลวงปู่ดุลย์ หลวงปู่เกษม