** ฉันทะ ** วัตถุมงคล หลวงปู่ดู่ วัดสะแก อยุธยา **

สิ่งที่เกิดขึ้นแล้วย่อมดีเสมอ...เป็นกำลังใจให้ครับ

 

มารไม่มีบารมีไม่เกิด...สู้ๆนะครับคุณโจ
ผมชอบบทความของคุณนะ อ่านแล้วรู้สึกดีอ่ะ..
หูตาสว่างและกว้างขึ้นเยอะ ขอบคุณทุกเรื่องราวดีๆ
ที่เอามาแบ่งปันกัน ขอบคุณไมตรีที่มีให้กัน
อีกหนึ่งกำลังใจ ขอมอบให้คุณครับ

 

ผมขอส่งกำลังใจให้พี่ โจ และพี่ ๆ ทุกคนในบ้านนี้ครับ อย่าพึ่งท้อครับ
พี่โจ กับพี่ตุ้ย เป็นเหมือนศิษย์ รุ่นพี่ที่คอยแนะนำศิษย์รุ่นน้อง ๆ ถ้าพี่ไม่อยู่แล้วใครจะคอยแนะนำพวกเราครับ ลูกศิษย์ หลวงปู่ที่พึ่งมาใหม่ต้องมีคนคอยดูแลและแนะนำจากพี่ ๆ นะครับ

 

ใจเย็นๆครับ คุณโจ.... ได้รับกำลังใจจากเพื่อนๆพี่ๆน้องๆแล้วคงต้องทบทวนความคิดใหม่นะครับ ขนาดคุณโจ คุณตุ้ย คุณนิวส์ คุณอิฐมอญ ฯลฯ ได้ช่วยกันนำเสนอความแท้..ความจริงซะขนาดนี้ ก็ยังมีคนเห็นผิดไปได้ แล้วถ้าไม่มีใครมาคอยให้ข้อมูลที่ถูกต้องมันจะไม่ยิ่งแย่ไปกว่านี้หรอครับ เป็นกำลังใจเล็กๆ ให้คุณโจอีกคนครับ

 

ช่วยกันเผยแพร่ต่อไปดีกว่าครับพี่
ผมไม่ค่อยได้เข้ากระทู้อื่นเท่าไร ไม่ทราบว่ากระทู้ไหนที่มีปัญหา PM บอกหน่อยคับ
จะได้เป็นภูมิคุ้มกัน ^^

ขอบคุณครับ

 

ใจร่ม นะจ๊ะ...

อุปสรรค สร้างบารมีครับ...

 

.....ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณเป็นอย่าง....ที่ให้ความกระจ่างในเรื่องของตะกรุด ของ
หลวงปู่ดู่....สาเหตุที่สอบถามก็เพราะความไม่รู้ข้อมูลจริง ๆ....เพราะไม่เคยมีวาสนา
ได้ไปกราบหลวงปู่.....แต่มีความถูกใจในธรรมที่องค์หลวงปู่ได้เคยถ่ายทอดเอาไว้
ได้อ่านและศึกษาอย่างงู ๆ ปลา ๆ ก็รู้สึกโดนใจ....จริง ๆ หลวงพ่อ หลวงปู พ่อแม่
ครูบาอาจารย์....ที่ท่านมีคำสั่งสอนชนิดที่เรียกว่าถึงกึ๋นจริง....ในความรูสึกของผม
(คนเดียวที่ได้สัมผัสมาด้วยผัสสะของผม) เห็นจะมีหลวงพ่อฤาษีลิงดำ หลวงปู่ดู หลวง
ปูตื้อ และหลวงปู่พุทธอิสระ ที่พอท่านเทศน์ทีไร หรืออ่านบทความ หรือบทโสลก
ของท่าน.....ครั้งไร....มันโดนที่กิเลสในตัวตนของเรา....เป๊ะ ๆ เลย...
....สำหรับของหลวงปู่ดู่...ผมมีเพื่อนเป็นนายทหาร....ปัจจุบันเกษียณอายุไปแล้ว...
เอาหนังสือเหมือพ๊อกเก็ตบุค เล่มไม่หนานัก มาให้ขอยืม...ถ่ายเอกสาร...พอผมได้อ่าน
รู้สึกโดนใจเป็นอย่างยิ่ง..จึงถ่ายไว้ทั้งเล่ม...แล้วเอาฉบับจริงคืนเขาไป...อ่านอยู่บ่อยครั้ง
กว่าเล่มอื่น..ในยามว่าง ๆ พอผมย้ายที่ทำงาน...ก็เก็บใส่ลังนำไปฝากไว้ที่บ้านของบิดา
ภรรยา....เขาก็เก็บใส่ลังกระดาษไว้ให้เป็นอย่างดี....ต่อมาผมกลับไปที่บ้านบิดาภรรยา
และขอลังหนังสือคืน...ปรากฎว่าเปิดดูในกล่องกลับกลายเป็นลัง....ปลวกไปทั้งลัง...
หมดครับ...หนังสือหลวงปู่ดู่ที่ผมถ่ายเอกสารไว้ ...พร้อมกับหนังสือพระเครื่องอื่น ๆ
กลายเป็นอาหาร...อันโอชะของปลวกไป..ซะนี่....ด้วยสาเหตุนี้ผม....จึงหันไปสนใจ
พระเครื่อง และเครื่องราง ของหลวงปู่ดู่...แทน....ด้วยความอยากได้....แต่ดูไม่เป็น
และไม่มีประสบการณ์เกี่ยวกับพระและเครื่องราง ของหลวงปู่ดู่มาก่อน...จึง...โดน..
...โดน....และโดน...เป็นประจำ...ต่อมาน้อง ๆ รุ่น ใหม่ ๆ เขาสอนให้เข้าอินเตอร์เน็ต
ก็เลยควาญหา จนเจอกับเว็บนี้....
....ซึ่งพิจารณาอยู่นานพอสมควรว่า...โดยเสี่ยงเอาว่า...คงจะมีบุุคคล...ที่มีความเป็น
กัลยานมิตร มีคุณธรรม....มีความจริงใจ...และมีเชื้อสายแห่งโพธิญาณ...อันเคยเกิด
เป็นลูก..เป็นหลาน..เป็นศิษย์..ที่ทันและไม่ทันท่านก็ตาม...อีกทั้งยังเป็นผู้เสียสละ..สร้างประโยชน์...ให้ความสว่าง....อย่างที่เขาเรียกว่า...เห็นแสงไฟที่ปลายอุโมงค์...เพื่อเป็นหนทาง...ขนย้ายเหล่าสรรพสัตว์ (ผู้มืดบอด)...ให้พ้นจากโอฆสงสารสาคร...ท่าน
อย่าลืมว่า...ท่านเป็นศิษย์ขององค์หลวงปู่ดู่....ผู้ปรารถนาเป็นพระโพธิสัตว์ในอนาคตกาล
เพราะฉะนั้น...ท่านท้อได้...แต่จะถอยไม่ได้...ผมคิดว่าผมก็แบบเป็นศิษย์ของท่าน
คนหนึ่ง....ดังนั้นจึงต้องช่วยกัน...จรรโรง...ในสิ่งที่ถูกต้อง...ให้ความรู้คู่คุณธรรมครับ...สู้ต่อไปครับ....ขอเป็นกำลังใจให้ครับ....คนสู้เท่านั้นถึงจะมีสิทธิรอด...ถ้าคิดว่าไม่สู้
ไม่ฟ่าฟัน...ก็แพ้ตั้งแต่อยู่ในมุ้งแล้วครับ...คุณเคยชนะมาแล้ว...ตั้งแต่ในท้องแม่ของคุณเพราะคุณคือสเปิมตัวหนึ่ง ที่เป็นที่หนึ่งในหลาย ๆ ล้านตัว ที่เคยชนะมาแล้ว......
ที่ก่อนคุณจะเกิดมา

 

ขอเป็นกำลังใจให้คุณโจ ครับ

 

เป็นกำลังใจให้นะคัฟ ศิษย์หลวงปู่มีอยู่เยอะ ช่วยกันส่งให้ถึงฝั่งเถอะคัฟ อุปสรรค คลื่นลม ย่อมมีในสายน้ำนี้ ฉันใดก็ฉันนั้นคัฟ......................

 

สิ่งเดียวที่ความชั่วเอาชนะได้ คือการที่คนดีไม่ทำอะไรเลย
ด้วยความเคารพครับ คุณพี่โจ

 

เป็นกำลังใจให้นะครับ ผมได้เรียนรู้ประวัติและเรื่องราวดีๆของหลวงปู่ก็ที่นี่แหละครับ สู้ๆครับผม

 

พอดีไปอ่านเจอบทความนึง รู้สึกดีเลยนำมาแชร์กันครับ

ความแตกต่างระหว่างความศรัทธากับความงมงาย


ศรัทธากับความงมงายแตกต่างกันอย่างไร แล้วเราจะแยกแยะออกจากกันอย่างไร

ศรัทธาที่ปราศจากการพิจารณาประกอบ จะโน้มเอียงเป็นความงมงาย ส่วนศรัทธาที่มีการพิจารณาแล้ว(หรือให้ดีกว่านั้นคือเห็นตามจริงจาก ประสบการณ์แล้ว) ว่าสิ่งที่ศรัทธามีคุณอย่างไร มีโทษอย่างไร

เมื่อใดพิจารณาแล้วว่าสิ่งที่ศรัทธา เช่นพระพุทธเจ้าและคำสอนของท่าน มีแต่คุณ คือเอี้อให้ดำรงตนอย่างเป็นสุข มีชีวิตโดยไม่ต้องหวาดกลัวกับทั้งไม่มีโทษ คือไม่ต้องเอาความเชื่อทางศาสนาไปเป็นข้ออ้างเบียดเบียนใคร มีชีวิตโดยไม่ต้องเป็นที่หวาดผวาของใคร ๆ พอตรึกตรองรอบคอบแล้วจึงยึดพระพุทธเจ้ากับคำสอนของท่านเป็นสรณะ อย่างนั้น เรียกว่าศรัทธาอันประกอบด้วยปัญญา

ความเชื่อในช่วงเริ่มต้นเพียงน้อยนิดนั้น คือศรัทธาที่เปรียบเหมือนเปลวไฟดวงน้อยบนหัวไม้ขีด แต่ก็อาจกลายเป็นชนวนความสว่างที่ยั่งยืน ขอเพียงนำเปลวไฟน้อยไปประดิษฐานให้ถูกที่เช่น ไส้เทียนใหญ่คือปัญญาอันตั้งลำมั่นคง สติ

ปัญญา ความมีเหตุผล และประสบการณ์ประจักษ์แจ่มแจ้งเท่านั้น จะรักษาศรัทธาไว้ได้ตลอดรอดฝั่งกระทั่งตัวตายไปพร้อมกับศรัทธา เปรียบเหมือนคนตาบอดที่ผ่า

ตัดได้ดวงตาแล้ว ลืมตาขึ้นเห็นสีสันและความจริงทั้งหลายแล้ว ก็ย่อมไม่มีคนตาบอดและคนตาดีที่ไหนมาหลอกได้ว่า โลกและสีสันความจริงเป็นอย่างอื่น ไม่ใช่อย่างที่กำลังเห็น

อย่างไรก็ตาม ในแง่ของศรัทธาในศาสนาแล้ว เมื่อยังไปไม่ถึงจุดที่ ได้ดวงตาเห็นความจริง ก็อาจมีหลายสิ่งที่คลุมเครือก้ำกึ่งกันอยู่ บางครั้งแม้ศรัทธาอย่างมีปัญญาประกอบแล้ว ก็เหมือนจำต้องงมงายเชื่อไว้ก่อน ยกตัวอย่างเช่นศาสนาพุทธบอกว่ากรรมวิบากมีจริง ทุกสิ่งมีเหตุผลที่มาที่ไปเสมอ เราส่งใจพิจารณาตามแล้วก็คล้อยตามได้ โดยไม่รู้สึกว่าตัวเองเหมือนคนโง่ที่ใครพูดมาก็เชื่อหมด แต่กรรมวิบากก็เป็นเรื่องอจินไตย ถ้าขาดสมาธิผ่องแผ้ว ขาดตาทิพย์ทะลุมิติกรรมวิบาก เราก็ไม่อาจพิสูจน์จะแจ้งด้วยจิตตนเองอยู่ดี

ตรงนี้แหละ ตรงที่ตระหนักว่ายังต้องฟังผู้อื่นพูด ก็ต้องอาศัยศิลปะ อาศัยหลักการแยกแยะว่าเรารับฟังอย่างงมงายหรือรับฟังด้วยศรัทธาที่ประกอบ ปัญญา พูดง่าย ๆ ว่า หากศรัทธาแล้วเราถูกปล้นปัญญา ปล้นเหตุผล ปล้นความเป็นตัวเราไปหมด เขาใช้วิธีบีบคอ บอกอะไรเราต้องเชื่อหมด ขู่อะไรเราต้องหงอหมด อย่างนั้นเขาวางตัวเป็นผู้ทำเราให้เชื่ออย่างงมงายแล้ว

แต่หากศรัทธาแล้วเรายิ่งมีปัญญาคิดอ่านอะไรทะลุปรุโปร่ง อ่านปัญหาขาด แก้ข้อติดขัดได้หมด กับทั้งยังคงเป็นตัวของตัวเอง ไม่ต้องตกอยู่ในภาวะพึ่งพา เป็นผู้ได้เหตุผลที่ทำให้ชีวิตเป็นสุขขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งทางใจและทางกาย อย่างนี้เขาส่ง

เสริม ให้เรามีศรัทธาในแบบที่เป็นขาตั้งให้ปัญญาแข็งแรงยั่งยืน ยิ่งฐานศรัทธากว้าง

ขวางมั่นคงเพียงใดปัญญาก็ยิ่งต่อยอดขึ้นสูงได้มากขึ้นเพียงนั้น

ทั้งหมดที่กล่าวก็กล่าวตามเนื้อผ้านะครับ ไม่ใช่ข้อตัดสินแบบจำ

เพาะเจาะจงลงไปที่ศาสนาไหนหรือคนกลุ่มใด พระพุทธองค์เคยให้หลัก

การไว้ ว่าจะเชื่อนั้นอย่าเชื่อเพราะเหตุผลอื่นใด ขอให้คำนึงเพียงประการเดียวว่าเชื่อแล้วเป็นประโยชน์หรือเป็นโทษ มีเหตุผลเป็นสุขหรือเป็นทุกข์กับตนเองและผู้อื่น นี่แหละครับจึงจะกล่าวได้เต็มปากว่าศรัทธาแบบพุทธ



* บทความจาก เตรียมเสบียงไว้เลี้ยงตัว เล่ม 5 ผู้เขียน ดังตฤณ



สุขสันต์ วันแม่แห่งชาติ กันทุกคนครับ

 

​

เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๘๐ พรรษา

สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๕

....ขอใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาททรงพระเจริญยิ่งยืนนาน พระพลานามัยแข็งแรง พระเกษมสำราญ....

ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ
ข้าพระพุทธเจ้า Aim'ee London

 

บทความดี ๆ มีประโยชน์อย่างยิ่ง

 

สุขสันต์วันแม่แห่งชาติ
และขอส่งความสุขให้กับคุณแม่ทุกท่าน
สำหรับจตุรเทพ ทั้ง 4 พวกคุณทำดีแล้วและดีที่สุดด้วยเป็นกำลังใจให้นะ..
พี่โจ...เรียกกำลังใจกลับมาไว ไว นะค๊ะ น้อง ๆ รออยู่ ค่ะ;aa57

 

cheer!!

 

(kiss)วันนี้เป็นวันแม่แห่งชาติ อย่าลืมกราบพระอรหันต์ ที่บ้านนะครับ พระองค์นี้กราบขอพรได้ทุกวัน รับรองศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก (kiss)

 

วันแม่ปีนี้ ได้ไปทำบุญเลี้ยงอาหารเด็กกำพร้าที่ โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์ชัยนาทครับ

โมทนาบุญร่วมกันนะครับพี่ๆน้องๆ


ได้ไปเห็นการใช้ชีวิตของเด็กกำพร้า......ทำให้รู้ว่า

ที่เคยคิดว่าเราเหนื่อยนั้น......เทียบไม่ได้เด็กๆที่กำพร้าพ่อแม่

เพราะถึงจะเหนื่อยอย่างไร......เราก็ยังมีความรักของพ่อแม่ คอยเป็นกำลังใจเสมอ

 

ณ วัดป่ารัตนวัน.......ไปใส่บาตร10/08/12ครับ...ได้พบ 2ท่านคือพระสุเมโธและพระญาณธัมโม โดยเฉพาะท่านญาณธัมโมท่านเทศน์สั่งสอนเด็กๆ(ลูก)ในคณะของผมให้เป็นคนมีสติ ทำอะไรให้ช่วยเหลือตนเองมีความรับผิดชอบต่อตนเองเช่น เปิดไฟแล้วก็ต้องปิด,ตื่นนอนแล้วก็ต้องเก็บที่นอน,พ่อแม่ว่ากล่าวตักเตือนก็อย่าโกรธท่านนะก็เพราะพ่อแม่ท่านรักเราท่านจึงตักเตือนเป็นต้น ทุกอย่างนี้ต้องอาศัยสติอีกเช่นกัน ขณะนั้นไม่มีคนอื่นอยู่เลยครับ ก็ส่วนตั๊วส่วนตัว คนอื่นๆถวายอาหารเสร็จก็กลับกันหมด อากาศก็เย็นสบายฝนตกพรำๆ......555

 

รบกวนถามพี่ๆหน่อยสิครับ
คือผมอยากทราบว่า จุดเขียวๆฟ้าๆ จุดเล็กๆบนองค์พระสมเด็จหลัง ๑ด นี่เกิดขึ้นจากอะไรหรอครับ