ชาวใต้ตื่น! ข่าวลือสึนามิจ่อถล่มช่วง 4-15 มิ.ย.

ไม่เกิดขึ้น ก็ดีแล้ว...
พ่อแม่ผมอยู่ใต้ ก็ทราบเรื่องนี้ แต่ไม่กลัว ท่านบอกว่า ทุกคนเกิดมาจะตายเร็วตายช้า ในที่สุดก็ต้องตายกันทุกคน...

 

ผมว่าพระท่านนิมิตเห็นตามที่ท่านออกมาพูด แต่ที่ไม่เกิดตามนั้นเป็นเพราะมีการยื้อแย่งของฝ่ายธรรมะดีกว่า เหตุการณ์จึงถูกเลื่อนออกไป แต่ที่ไม่เกิดน่ะดีที่สุด

 

ผมจะพยายามเชื่อในสิ่งที่มีผู้ออกมาเตือน แต่ไม่ได้เชื่อแบบว่ามันต้องเกิดแน่นอน เชื่อแล้วทุกข์ไม่เป็นอันทำมาหากิน ผมเชื่อเพื่อเตือนสติตัวเองว่าอย่าประมาท เกิดหรือไม่เกิดตามคำเตือน ผมไม่เสียหาย เอาอุเบกขาเป็นอารมณ์ไว้ให้มาก มีแต่ได้ไม่มีเสีย

 

รองอ่านดูนะคะ......(ได้โปรดอ่านหลายๆรอบ) ความในใจของคนในพื้นที่เค้าได้รับความปรารถนาดีจากคุณๆผู้หวังดีทั้งหลาย เค้าได้ระบายความรู้สึกออกมาจนหมดเปลือกเลยทีเดียว....

ความคิดเห็นที่ 2
กลางๆ
Fatboyslim2011-05-18 17:09:17
เห็นด้วยกับ คห.ข้างบน ผมเป็นคนในพื้นที่ ทุกคนรู้ดีว่าซักวันมันก้อต้องเกิด แล้วจะให้พวกเราทำยังไงนั่งงอมืองอเท้าไม่ต้องทำมาหากินอย่างนั้นรึ เหมือนกับคนที่มีบ้านติดแม่นำ้ก็รู้ดีว่าซักวันนำ้มันต้องท่วม ท่านๆคุณๆทั้งหลายไม่รู้หรอกว่าเวลามีข่าวออกมาแต่ละครั้งมันกระทบต่อการทำมาหากินของคนในพื้นที่แค่ไหน ท่านแค่ออกข่าวมาเพื่อความดังความเด่นของท่าน ทำนายผิดไม่เป็นไร เกิดถูกขึ้นมาก็โด่งดัง อยากจะพูดตรงๆเลยว่า 'ท่านเอาความฉิบหายของเรามาหากิน' นักข่าวก็เหมือนกันเมื่อไหร่จะเลิกเสนอข่าวแบบนี้ซักที ไม่มีใครรู้หรอกว่าการมีชีวิตแขวนอยู่บนเส้นด้ายตลอดเวลามันเป็นอย่างไร แล้วนี้ยังจะมาทุบหม้อข้าวของเราอีก ประทานโทษ พวกคุณก็ไม่ต่างอะไรกับพวก 'มือไม่พายเอา ีนรานำ้'<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->

 

เห็นใจคนทางภาคใต้จริงๆ ที่เจอข่าวแบบนี้
มีคนรู้จัก อยู่ทางใต้ เขาบอกว่าบางครอบครัว
เอาลูกเอาหลานไปฝากไว้ที่บ้านญาติ บ้านเพื่อน
ที่คิดว่าปลอดภัย ก่อนหน้าเป็นอาทิตย์ๆ บางคน
เจอข่าวแบบนี้บ่อยๆ ถึงกับบอกขายบ้านขายที่
ไม่กล้าอยู่ เพราะขืนทนอยู่ประสาทเสีย

 

จุดประสงค์ของการทำนาย ต้องการให้คนระวังตัว แล้วออกจากพื้นที่อย่างนั้นหรือ?
ถ้าบอกให้เพียงระวัง ระวังอย่างไรละ? แล้วต้องระวังถึงขั้นไหน? ถึงเมื่อไหร่?
เห็นทายกันออกมาบ่อยๆ และทุกสำนักก็มีความน่าถือพอๆกัน ถ้าไม่น่าเชื่อถือ
ก็คงไม่เอามาลงกันหรอกจริงมั๊ย?
คุณๆรู้มั๊ย การโยกย้ายถิ่นฐานทำมาหากิน มันไม่ใช่เรื่องง่าย
ถ้าใครเป็นคนทำมาหากินก็จะเข้าใจดี
อย่าเอาความหวังดีไปทำร้ายคนอื่นทางอ้อม แค่จิตใจจดจ่อกับการทำมาหากิน
ก็ยากลำบากพออยู่แล้ว ยังต้องมาประสาทเสียกับคำทำนายอีก
คนในพื้นที่เขารู้ดีว่า ภัยธรรมชาติย่อมเกิดขึ้นได้ทุกรูปแบบ
เพียงแต่ไม่รู้ว่าวันไหน เวลาไหนเท่านั้น การที่มีข่าวเขาก็รู้สึกกลัวเป็นธรรมดา
คุณๆคิดว่า การทำนายเตือนเช่นนี้ บุญ หรือ บาป

 

Hey!!!!...I have read that all the people who gave the warnings always reminded the readers that the readers have to make their own judgements after reading, so you can not blame them for not happening, instead you should thank them for you to prepare...nobody wants you to believe...you have to make your own decision!!!! It's not fair!!!

 

ถูกต้องค่ะ... สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม เพราะฉะนั้น อย่าเข้าไปยุ่ง เราไม่มีสิทธิ์จะไปห้ามไม่ให้"ใครอยู่ใครตายได้" มันเป็นเรื่องของกฏของกรรมของแต่ละคน กราบโมทนา สาธุ ค่ะ

 

"ผลดี"จากการเตือนยังมองไม่เห็นแต่ที่แน่ๆ"ผลเสีย"มันเกิดขึ้นมากมายแล้ว...! คุณรู้ไมว่าการท่องเที่ยวทางภาคใต้ต้องสูญเสียไปตั้งเท่าไหล่ ทางใต้หัวใจหลักในการทำธุรกิจการค้าคือ(ทะเล) มีข่าวออกมาแต่ละครั้งผู้คนไม่สามารถทำมาหากินได้ การท่องเที่ยวซบเซา คนที่นั้นเข้าได้รับความเดือดร้อนอย่างแสนสาหัสคุณรู้บ้างไหม? ที่แน่ๆเค้าไม่ได้ถูก(สินามิ)ฆ่าตาย แต่เค้ากำลังจะตายเพราะข่าวบ้าๆที่เกิดจากความหวังดีของพวกคุณต่างหาก นี่ยังดูไม่ออกเลยว่าพวกคุณกำลังจะได้รับบุญหรือบาปกันแน่.... Hey!... do you think it's fair for local people ?<!-- google_ad_section_end -->

 

เรื่องจริงในพระสูตร(พระไตรปิฎก)
พระพุทธองค์ทรงกระหายน้ำ
ในระหว่างทางที่เสด็จพุทธดำเนินสู่เมืองกุสินารา พระบรมศาสดาเกิดกระหายน้ำมากถึงเสด็จเข้าประทับพักยังร่มไม้ริมทาง ตรัสสั่งให้พระอานนท์ไปตักน้ำมาถวาย ในหนังสือเกี่ยวกับพุทธประวัติกล่าวว่า "เป็นครั้งแรกและครั้งเดียวที่พระพุทธองค์ทรงกระหายและขอน้ำดื่มในระหว่างทางขณะยังไม่ถึงที่พัก" ทั้งนี้เนื่องจากพระอาการประชวร พระอานนท์เห็นน้ำในแม่น้ำขุ่นเพราะกองเกวียนจำนวน ๕๐๐ เล่ม เพิ่งแล่นผ่านไปจึงกลับมาทูลอาราธนาให้เสด็จต่อไปจนถึงแม่น้ำ กกุธานที อันเป็นแม่น้ำกว้างใหญ่ที่อยู่ข้างหน้า ซึ่งมีน้ำใสเย็นและจืดสนิท
พระบรมศาสดาตรัสให้พระอานนท์กลับไปตักน้ำมาถวายใหม่อีกครั้ง คราวนี้น้ำในแม่น้ำที่ขุ่นกลับใสสะอาดปราศจากธุลีเป็นอัศจรรย์ พระบรมศาสดาทรงตรัสถึงสาเหตุที่น้ำในแม่น้ำขุ่นข้นในครั้งแรกว่า เกิดจากบุพกรรม คือ กรรมแต่ชาติปางก่อนเมื่อครั้งที่พระองค์เสวยชาติเป็นพ่อค้าเกวียน ครั้งหนึ่งขณะนำกองเกวียนจำนวน ๕๐๐ เล่มไปค้าขายยังต่างเมือง พระองค์สั่งให้นำกะทอ คือ เครื่องครอบสวมปากวัวไว้ทั้งหมดเพราะเกรงจะกินน้ำในแม่น้ำสายเล็ก ๆ ที่เดินทางผ่านอันอาจไม่สะอาด ครั้นเดินทางถึงแม่น้ำสายใหญ่แล้วจึงสั่งให้ถอดกะทอออกฝูงวัวจึงได้กินน้ำ กรรมอันนั้นได้ติดตามมาสนองในขณะจวนจะเสด็จปรินิพพาน ทำให้ได้น้ำดื่มอย่างยากลำบาก

"นี่พระพุทธเจ้าด้วยความหวังดีกลัวว่าวัวจะต้องกิน(น้ำขุ่นๆ) นี่เกิดจากความหวังดีแท้ๆ (กรรม)ยังต้องติดตามพระองค์มาถึงพระชาติสุดท้าย...พวกคุณๆก็ระวังตัวเอาไว้ให้ดีๆ (ไปปิดกั้นทางทำมาหากินของหมู่คนจำนวนมากโดยไม่รู้ตัว).... ระวังจะลำบากนะคะ"<!-- google_ad_section_end -->

 

กรรมใครก็กรรมมัน ชัดแจ้งที่สุด
ไม่จำเป็นต้องไปเตือน ไปทำนายเหตุการอะไรต่อมิอะไร เพราะถ้าเขายังไม่ถึงเวลาตายเขาก็มีเหตุให้รอดเองอยู่แล้ว ถ้าถึงเวลาแล้ว มันก็ต้องตาย เตือนยังไงก็ต้องตาย

 

กราบโมทนา สาธุ ๆ ๆ ค่ะ

 

ความต้องการของเพื่อสมาชิกชาวพลังจิต ส่วนใหญ่ โดยเฉพาะกลุ่มภัยพิบัติและกาเตรียมการ ที่เข้ามาคือต้องการรับรู้ความเคลื่อนไหว แลกเปลี่ยนสิ่งที่รู้ สิ่งที่ได้ยินมาเรื่องภัยพิบัติ แบ่งปันแบบเล่าสู่กันฟัง


ผมคิดว่าต่อไปเราแบ่งปันกันเฉพาะกลุ่ม เตือนกันภายในกลุ่ม ไม่ควรนำไปบอกกล่าวเล่าต่อให้บุคคลภายนอกฟัง หรือให้สาธารณชนรับรู้ ส่วนผู้ที่เข้ามารับชมในเว็ป นั่นแสดงว่าเป็นความต้องการของแต่ละบุคคล ชาวบ้านจะได้ไม่แตกตื่น และไม่เป็นกรรมเหมือนคุณแมวน้ำ 9 เตือนมา

หากเกิดเหตุการณ์ขึ้นจริงตามคำเตือน แต่คนส่วนใหญ่ไม่ได้เตรียมการรับมือ เกิดความสูญเสียขึ้นมา ก็ถือว่าเป็นกรรมของเขาเสียไม่เกี่ยวกับพวกเรา ทำอย่างงี้กันดีมั๊ย ???????

 

เตือนดีกว่าไม่เตือนครับ

 

ดีค่ะแบบนี้ดี...ถ้ามันเกิดขึ้นจริงอย่างคำทำนายก็ถือว่า(เป็นกฏของกรรมของแต่ละบุกคน)แม้แต่พระพุทธเจ้าเองในพระสูตรยังบอกไว้ชัดเลยว่า..."พระองค์ทรงกระหายน้ำอย่างหนักก่อนที่จะปรินิพพานเพราะ"กฏของกรรม"ที่ทรงไปห้ามวัวไม่ให้กินน้ำที่ขุ่นด้วยความเมตตาและหวังดี" ถ้าคนมันจะตายด้วย(สินามิ) ก็ยังจะดีกว่าที่จะต้องมา(ตายทั้งเป็น)เพราะความหวังดีจากข่าวของผู้หวังดีทั้งหลาย

 

การเตือนภัยเป็นสิ่งที่ดี
เหมือนเช่นน้ำท่วมภาคใต้เมื่อเดือนมีค. 54 หลายฝ่ายไม่กล้าเตือนภัย
แต่เมื่อภัยพิบัติที่เกิดขึ้นรุนแรง การที่ไม่ได้มีความพร้อมในการตั้งรับภัยที่จะเกิด
ก่อเกิดความขาดแคลนอาหาร ความช่วยเหลือเข้าไปไม่ทัน
การเตือนภัยอาจเกิดก่อนหลายวัน แต่เตือนล่วงหน้า 2-3 วัน หาได้บรรเทาอะไรได้
เฉกเช่นวันนี้ ภาคเหนือ หากหลายคนติดตามข่าวพายุที่กำลังเคลื่อนตัวเข้าไทย
ก็ต้องเตรียมการไว้ล่วงหน้าแล้ว แต่หลายฝ่ายประมาท หลังจากน้ำลดคงมีคนบ่นอีกมากมาย ว่าไม่ทันได้ตั้งตัว ขาดแคลนอาหาร การช่วยเหลือไม่ทันการ
ทางการบอกว่า คง ต้อง รอ งบ ปะ มาน กันก่อน
แท้จริงแล้ว ทุกคนต้องช่วยเหลือตัวเอง อัตหาหิ อัตโนนาโถ

 

คุณทราบไมค่ะว่าเค้าเตือนกันอย่างไร? ถ้าใช้เหตุใช้ผลในทางวิทยาศาสตร์ ดิฉันจะไม่ว่าเลยนะคะ แต่นี่เล่น(นั่งหลับตา)แล้วใช้(มโนนึก) แบบนี้มาทำนายกันมันก็แย่สิคะ ต้องถามตัวเองเลยว่า...(เราเป็นใคร-เราเก่งมาจากไหน) ไม่มีใครทายถูกเลยสักครั้ง มีแต่สร้างความเสียหายให้คนอื่นเค้าโดยไม่รู้ตัว..

 

ต้องเน้นตรงนี้ อ่านแล้วเข้าใจมั้ยว่าหมายถึงอะไร:z2

 

อ่านสิค่ะอ่านๆๆๆๆๆๆ

รองอ่านดูนะคะ......(ได้โปรดอ่านหลายๆรอบ) ความในใจของคนในพื้นที่เค้าได้รับความปรารถนาดีจากคุณๆผู้หวังดีทั้งหลาย เค้าได้ระบายความรู้สึกออกมาจนหมดเปลือกเลยทีเดียว....

ความคิดเห็นที่ 2
กลางๆ
Fatboyslim2011-05-18 17:09:17
เห็นด้วยกับ คห.ข้างบน ผมเป็นคนในพื้นที่ ทุกคนรู้ดีว่าซักวันมันก้อต้องเกิด แล้วจะให้พวกเราทำยังไงนั่งงอมืองอเท้าไม่ต้องทำมาหากินอย่างนั้นรึ เหมือนกับคนที่มีบ้านติดแม่นำ้ก็รู้ดีว่าซักวันนำ้มันต้องท่วม ท่านๆคุณๆทั้งหลายไม่รู้หรอกว่าเวลามีข่าวออกมาแต่ละครั้งมันกระทบต่อการทำมาหากินของคนในพื้นที่แค่ไหน ท่านแค่ออกข่าวมาเพื่อความดังความเด่นของท่าน ทำนายผิดไม่เป็นไร เกิดถูกขึ้นมาก็โด่งดัง อยากจะพูดตรงๆเลยว่า 'ท่านเอาความฉิบหายของเรามาหากิน' นักข่าวก็เหมือนกันเมื่อไหร่จะเลิกเสนอข่าวแบบนี้ซักที ไม่มีใครรู้หรอกว่าการมีชีวิตแขวนอยู่บนเส้นด้ายตลอดเวลามันเป็นอย่างไร แล้วนี้ยังจะมาทุบหม้อข้าวของเราอีก ประทานโทษ พวกคุณก็ไม่ต่างอะไรกับพวก 'มือไม่พายเอา ีนรานำ้'<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->

 

เห็นด้วยอย่างยิ่งค่ะ

เตือน ดีกว่า ไม่เตือน
แล้วคนที่ชอบออกมาตำหนิ การเตือนจากคนอื่น
กรรมหนักมาก ... เตือน แล้ว ไม่รับฟัง