ช่วยป้าเราด้วย หมดหนทางแล้วจริงๆ

เข้าใจท่านจขกท. อย่างที่สุดค่ะ ขอให้มีสติและเตรียมใจให้พร้อม กับสิ่งที่จะเกิดไม่ว่าจะดีหรือร้าย ทุกท่านทุกโพสที่อ่านผ่านมานั้น จขกท. ได้รับคำแนะนำที่ดีมากมากแล้วหละค่ะ สำหรับดิฉันที่พึ่งจะผ่านจุดวิกฤตคล้ายกันมาไม่นาน สิ่งที่ดิฉันเริ่มทำมาก็คือ ชวนคนป่วยทำบุญทำทานทุกประเภท อ่านหนังสือธรรมะให้ท่านฟัง เล่าเรื่องราวต่างๆที่เป็นปาฎิหารย์ให้ท่านฟัง เพื่อให้มีกำลังใจ แต่ถ้าจะมีสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่จะทำเพื่อท่านได้ดีกว่ายาแขนงใดในโลก ก็คือการไปปฏิบัติธรรมกรรมฐาน ส่งบุญให้ท่านโดยตรง ดีที่สุดคือผู้ที่เป็นลูก แต่สำหรับหลานซึ่งคือท่าน จขกท.มีกุศลจิตที่จะทำเพื่อท่านดิฉันคิดว่าไม่ต่างกันมากนัก ปล่อยปลา สร้างพระ ปล่อยเต่า ไถ่ชีวิตสัตว์ เหล่านี้ช่วยต่ออายุให้ท่านได้ แต่ทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำได้นั้นย่อมไม่เกินกรรมค่ะ ฉะนั้นหากว่าท่านถึงคราหมดบุญจริงๆ กุศลผลบุญเหล่านี้ที่ท่านจขกท.ได้ทำเพื่อป้านั้น จะทำให้ท่านไม่เจ็บปวดทุกขเวทนากายสังขารมาก หากนำพาจิตของท่านให้รับรู้และเข้าใจในกฎแห่งกรรมหรือธรรมชาติ ว่าอาการเวทนาเหล่านี้ล้วนเป็นวิบากกรรมที่ทุกคนต้องได้ัรับ และหากท่านเข้าใจแล้ว จิตของท่านจะไม่ขุ่นมัวเมื่อถึงเวลาที่ท่านจะไป ท่านจะจากไปอย่างสงบ และไม่ทรมานค่ะ ปาฏิหารย์มีจริงค่ะ เช่นกรณีของคุณพ่อดิฉันเอง ถ้าคนป่วยไปเองไม่ไหว จขกท.ต้องบอกท่านทุกครั้งว่าจะไปทำอะไร ถ้าซื้อของมาก็ให้ท่านจบ(อธิษฐานจิต) หรือเงินทุกอย่างที่จะนำไปทำบุญเพื่อท่านอย่าลืมให้ท่านจบทุกครั้ง และให้ท่านได้โมทนาบุญด้วยทุกครั้ง

คุณเองอธิษฐานจิตแทนคุณป้าด้วยค่ะว่า ขอกุศลผลบุญที่....ได้ทำจากการ.....ขออุทิศบุญนี้ให้ท่านเจ้ากรรมนายเวร ขอเป็นอภัยทานอันสูงสุด เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา แด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ขอโอกาสให้.......มีอาการที่ดีขึ้นจากโรคภัยไข้เจ็บ เพื่อให้....ไ้ด้มีชีวิตอยู่ได้ทำบุญกุศลเพื่อได้มีโอกาสขออโหสิกรรมต่อเจ้ากรรมนายเวรด้วยตัวของท่านเอง ขอให้.....ได้มีสุขภาพที่ดีขึ้นเพื่ออยู่สร้างบุญต่อไปด้วยเทอญ..สาธุ

ขออานิสงส์ผลบุญจากทาน ศีล ภาวนา ที่ดิฉันได้ทำมาจากอดีต ปัจจุบันและที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ขออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลนี้ให้แก่คุณป้าของคุณเสื้อยืด ให้ปลอดภัยผ่านพ้นเคราะห์กรรมและลดน้อยลงซึ่งอาการเวทนาของกายสังขารในครั้งนี้ และขอบุญนี้นำพาให้คุณป้า..มีสภาวะจิตที่ดีด้วยเทอญ...สาูธุค่ะ ^^

 

ปล่อยปลา สร้างพระ ปล่อยเต่า ไถ่ชีวิตสัตว์ เหล่านี้ช่วยต่ออายุให้ท่านได้ แต่ทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำได้นั้นย่อมไม่เกินกรรมค่ะ


ทำตามนี้เลยนะ จขกท.

และก็ ปล่อยสัตว์อื่นๆ ช่วย สัตว์อื่นๆที่จะโดนฆ่า ครับ


.

 

๖๗. ยันต์ทำน้ำมนต์

การเจ็บไข้ได้ป่วยเป็นธรรมดาของมนุษย์ทุกรูปทุกนาม เพราะว่าร่างกายเป็นรังของโรค ถ้าป่วยไม่นับว่าแปลก ถ้าไม่ป่วยซิเป็นเรื่องน่ามหัศจรรย์...!
ความเจ็บป่วยส่วนใหญ่เกิดจากเศษกรรมปาณาติบาต คือไปฆ่าคน-ฆ่าสัตว์ไว้มากในชาติก่อน เกิดมาชาตินี้เศษกรรมตามมาสนอง ก็ทำให้เจ็บไข้ได้ป่วยบ่อย ๆ...
อาตมาเขียนอย่างนี้ เป็นการยืนยันการเกิดการตายแล้วไม่สูญ และการระลึกชาติเป็นของทำได้จริง ใครจะว่าอาตมาสอนให้คนงมงายก็เชิญ...
น่าสมเพชบรรดานักบวชทรงสมณศักดิ์ใหญ่โตทั้งหลาย ที่ออกมาพูดปาว ๆ ว่า การเที่ยวนรก – สวรรค์ การระลึกชาติเป็นเรื่องโกหกหลอกลวงกัน...
พระพุทธเจ้าทรงสอนไว้ชัดเจน ถ้าท่านทำทิพจักขุญาณให้เกิดขึ้นได้ การระลึกชาติ เที่ยวนรก – สวรรค์ ก็เป็นเรื่องกล้วย ๆ กล้วยสุกงอมซะด้วยซิ...
แต่ท่านทำกันไม่ได้ จะด้วยความโง่ของท่านเอง หรือวาสนาบารมีไม่พอก็ไม่ทราบได้ ท่านก็ออกมาประกาศปาว ๆ ว่า “ไม่มี – ไม่จริง – งมงาย – หลอกลวง ฯลฯ”
อาตมาก็ไม่ทราบว่าท่านห่มผ้าเหลืองมาได้อย่างไรกันคนละ ๕๐-๖๐ ปี มีตำแหน่งใหญ่โตจนปานนี้ แต่มากล่าวตู่พระพุทธวจนะ ทำตนเป็นเดียรถีย์ไปได้...!
ในเมื่อไม่เชื่อพระพุทธเจ้า แล้วจะมาบวชอยู่ในพระพุทธศาสนาทำไม...? หรือว่าลาภสักการะและยศศักดิ์สรรเสริญทั้งหลายทำให้ท่านบวชอยู่ได้ อย่างนั้นท่านก็เป็นได้แค่เปรตหรือสัตว์นรก ที่อาศัยผ้าเหลืองปกปิดความชั่วของตน เพื่อบ่อนทำลายพระพุทธศาสนาเท่านั้น...
อดนอกเรื่องไปไม่ได้ เพราะข่าวคราวในระยะนี้มีแต่ทางลบ อาตมาเป็นคนเลือดร้อน แม้จะบวชก็ติดนิสัยฆราวาส อดจะปาก(กา)เสียไม่ได้ สงสัยจะเป็นสันดานติดตัวมาจากชาติก่อน (นั่น...เอาซะให้พอ) ใครทนอ่านไม่ได้ก็วางซะก็แล้วกัน...
เขียนนอกเรื่องมากไปจริง ๆ วกกลับมาเรื่องเจ็บป่วยอีกที อาตมาเคยป่วยหนักแบบปางตายแค่ไม่กี่ครั้ง แต่โอกาสหน้าคงมีสถิติเพิ่มขึ้น ตอนนี้เอาแค่ที่เคยเป็นก่อน...
เริ่มจากหวัดเขมร(มัยโคพลาสม่า นิวมอเนีย) ติดมาตอนอยู่ชายแดน สลบไป ๒ วัน ๒ คืน ความจริงก็ไปหาหมอเสนารักษ์ แต่เขามีแค่ยาแก้ปวดสีชมพู อนาถแท้... ท.บ.ไทย...!
อาการเลยทรุดหนัก กว่าจะทุเลาก็เกือบครึ่งปี เป็นซะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ เพิ่มมาอีกโรค ๑ โรค คุณโชติกา บุญ – หลง หลานของหลวงปู่มหาอำพัน (คนนี้คุยกับเทวดาทุกวัน) จะเอาไปยกเครื่องให้ แต่อาตมาปล่อยมันเลยตามเลย จะได้ตายเร็ว ๆ น่ะ...!
ต่อมาก็กระดูกคอเคลื่อนทับเส้นประสาทเดินวนเป็นปูขาเกไปเลย เดือดร้อนญาติโยมทั้งหลายที่ให้การสงเคราะห์ กลัวหลวงตาแก่จะตายเร็ว พาไปหาหมอซะแทบทั่วเมืองไทย บทจะหายกลับหายด้วยมือหมอนวดจับเส้นซะนี่...!
ล่าสุดเป็นไวรัสลงตับ แรก ๆ นึกว่าไข้หวัด กว่าจะรู้ตัวก็เป็นซะหนักแล้ว เจ้าประคุณเอ๋ย...แค่หายใจยังเหนื่อยเลย...มันให้เห็นทุกข์ เห็นโทษของการแบกขันธ์ห้าจริง ๆ ฉันน้ำหวานจนขวดกองเป็นภูเขาเลากา กว่าจะทุเลาเล่นเอาสองเดือนกว่า ตัวเหลืองเป็นมนุษย์ทองคำไปเลย...!
นั่นเป็นการป่วยที่นับว่าหนักจริง ๆ ชนิดไปเดินวนที่ตำหนักพระยายมมาแล้ว แต่ท่านเห็นว่ายังไม่สมควรจะตาย เพราะตายตอนนี้จะลงขุมตื้นไป เลยปล่อยให้มาสะสมความเลวต่อ ถึงเวลาจะได้พุ่งหลาวไปตรงเลย ไม่ต้องตัดสินให้เสียเวลา...
ทีนี้มากล่าวถึงโรคประจำตัว อาตมาเป็นโรคภูมิแพ้ อากาศเปลี่ยนนิดเปลี่ยนหน่อยก็จับไข้ เป็นมันได้อาทิตย์ละสอง-สามหน จนเป็นเพื่อนกับอาการไข้ สามารถขอเวลานอก เพื่อทำงานก่อนได้ หลังงานค่อยว่ากันใหม่ สนุกดีเหมือนกัน...
การเจ็บไข้ได้ป่วยมีคุณมหาศาล เพราะทำให้ทรงมรณานุสติกรรมฐานได้ดี แต่ไอ้การที่จะตายก็ไม่ตายนี่ซิ... มันทรมานเหลือร้าย ฉะนั้น...ถ้าเลือกได้อาตมาก็ไม่ขอป่วยหรอก (กลัวตายละมั้ง...?) แล้วทำอย่างไรล่ะที่จะไม่ป่วย...?
ก็มีอยู่วันหนึ่ง “หลวงพ่อ” ท่านเล่าให้ฟังว่า “พระ” ท่านมาขอให้เป็นหมอรักษาโรค หลวงพ่อบอกว่าตัวเองป่วยจะตายแหล่ไม่ตายแหล่ ให้เป็นหมอแล้วใครจะเชื่อ อีกอย่างคือไม่ชอบทำอะไรยาก ๆ จึงไม่ขอเป็นหมอจะดีกว่า...
ต่อรองกันไปต่อรองกันมา ในที่สุดหลวงพ่อก็กราบเรียนว่า “ถ้ามีน้ำมนต์ที่รักษาโรคได้ทุกชนิดก็จะยอมเป็นหมอ” คือทำทีเดียวไม่ยุ่งยาก ใครมาก็แจกน้ำมนต์ให้ หายไม่หายก็ช่าง “พระ” ท่านว่า “ต้องการแบบนั้นก็เอา...ตามใจคุณ”
“พระ” ท่านมอบหมายให้ พระสารีบุตรมหาเถระ เป็นองค์สอนวิธีทำน้ำมนต์ พระมหาเถระกล่าวว่า “เคยบอกวิธีให้ไปนานแล้ว แต่เธอลืมไปเอง” แล้วทบทวนความจำว่า เมื่อปีนั้น วันเวลานั้น ๆ เคยสอนเอาไว้แล้ว...
หลวงพ่อทบทวนดูก็นึกออก ว่าเคยทำให้เขาไปเจริง ๆ แต่ทำให้เฉพาะตัว ไม่เป็นสาธารณะ และเขียนอักขระผิดไปหนึ่งตัวด้วย แต่ตอนนั้นพระมหาเถระบอกว่าไม่เป็นไร ถึงผิดก็มีอานุภาพเช่นกัน แต่คราวนี้ต้องแก้ให้ถูก...
หลวงพ่อก็จดวิธีทำมา ต้องใช้แผ่นทองคำหกแผ่น แผ่นเงินหกแผ่น หนักอย่างน้อยแผ่นละ ๑ บาท เขียนยันต์ลงอักขระแล้วปลุกเสกตามวิธีการ จึงจะใช้ทำน้ำมนต์รักษาโรคได้...
อาตมาพอทราบเรื่องก็อยากได้ตามประสาคนกิเลสมาก เงินที่มีอยู่ถึงจะพอซื้อ แผ่นทอง – แผ่นเงิน แต่มันเป็นเงินที่ญาติโยม ทำบุญมาจะมาใช้เปะปะได้อย่างไร...?
ตัดใจว่าถ้าเราสมควรได้มันก็ได้เอง ถ้ามีคนถวายเงิน – ทองเพื่อการนี้โดยเฉพาะ ก็จะทำ ถ้าไม่มีก็สบายไม่ต้องเหนื่อย ถ้าจะให้เอาเงินสงฆ์ไปใช้ส่งเดชเป็นไม่เอาด้วยแน่...
พอดีพบกับน้าเล็ก (อาจารย์จารุวรรณ ศรีแสงจันทร์) น้าเล็กถวายของขวัญปีใหม่ เป็นสร้อยคอทองคำ ๕๐ สตางค์ ก็เลยบอกกับน้าเล็กว่า ขอเอามาใช้ในงานนี้ น้าเล็กอนุญาตด้วยดี...
เมื่อญาติโยมทราบ ก็ถวายทั้งเงิน-ทองและเงินสด คิดแล้วเกินจำนวนที่ต้องการไปมาก อาตมาจึงแจ้งให้ทราบว่า ถ้ามีเหลือจะร่วมในงานหล่อพระต่อไป ทุกคนก็โมทนาด้วย...
ติดต่อทางร้านให้รีดแผ่นเงิน-แผ่นทองให้ ตอนนั้นทองแท่งราคาบาทละ ๔,๗๐๐ ร้านค้ามันโขกซะบาทละ ๖,๐๐๐...! เออ...ทีเอ็งข้าไม่ว่า ถึงทีข้าบ้างอย่าโวยก็แล้วกัน แน่ะ...อาฆาตซะด้วย...!
พอได้แบบยันต์มาจากพระเดชพระคุณหลวงพ่อก็เขียนเป็นการใหญ่ กะว่าเขียนเสร็จ จะขอความกรุณาหลวงพ่อให้ท่านช่วยเสกให้ ปรากฏว่าต้องเสกเองครับ...!
อิติปิโสฯ. สวากขาโตฯ. สุปฏิปันโนฯ. ๑๐๘ จบ นะมะพะทะ ๑๐๘ จบ เหนื่อยแทบขาดใจ เข็ดจริง ๆ คุณเอ๋ย... แถมไม่มั่นใจตัวเอง เอาไปเข้าพิธีใหญ่ที่หลวงพ่อทำในวิหารร้อยเมตรอีกครั้ง เอาให้ชัวร์ปึ้กไปเลย...!
ในพิธีมีเหรียญยันต์ทำน้ำมนต์ ๓๐,๐๐๐ เหรียญด้วย ครั้งแรก “พระ” ท่านให้ทำแค่ ๑,๐๐๐ เหรียญ ท่านบอกว่ากำลังใจคนไม่เท่ากัน เดี๋ยวเอาไปใช้เปะปะจะไม่มีผล แต่หลวงพ่อต่อรองตามเคย จนได้มา ๓๐,๐๐๐ เหรียญ คนศรัทธาจะได้เช่าซื้อตามอัธยาศัย...
๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๓๒ เวลา ๑๘.๐๐ น. เริ่มพิธี “พระ” ท่านเมตตาเป็นพิเศษ เป่ายันต์ติดกระหม่อมให้ทุกคนในพิธีด้วย อาตมารู้สึกหนังศีรษะถูกขึงสี่มุมตามรูปยันต์ ตึงเปรี๊ยะเลย จึงอธิษฐานจิตเพื่อญาติโยมและลูกสาวทั้ง ๕ คนด้วย...
น้ำมนต์และเหรียญรุ่นนี้ มีผู้นำไปรักษาโรคได้ผลมากต่อมาก แม้แต่เป็นมะเร็งก็หาย แต่ว่าขึ้นอยู่กับกำลังใจคนใช้จริง ๆ บางคนเช่น จุ๊บ (เบญจพร วิบูลย์พันธุ์) เป็นหวัดนิดหน่อย กินน้ำมนต์เป็นโอ่งยังไม่หายเลย...!
อาตมาเองหลังเข้าพิธีแล้ว ก็ปลุกยันต์อยู่ทุกวัน อาการโรคภูมิแพ้รู้สึกดีขึ้นมาก หลังพิธีตั้งแปดเดือนจึงเป็นหวัดหนหนึ่ง แบบนี้ค่อยยังชั่วหน่อย...
น้ำฝน(มณีรุ่ง) ลูกสาวคนเล็ก ไปเที่ยวป่าทองผาภูมิ ถูกผึ้งป่าต่อยมือบวมเป็นกะโล่ เอาเหรียญรุ่นนี้แปะไว้นาทีกว่า ๆ ก็หายเป็นปกติ นับว่าอัศจรรย์มาก...!
คนนำเหรียญไปใช้ต้องสวดมนต์ทุกวัน ซึ่งเท่ากับบังคับให้ภาวนานั่นเอง เวลาภาวนา จิตจับภาพยันต์ก็เป็นกสิณ นึกถึงบารมีพระเป็นพุทธานุสติ ธัมมานุสติ สังฆานุสติ ก็เท่ากับเจริญกรรมฐานทุกวัน เป็นความดีที่สูงยิ่ง แบบนี้ใครว่างมงาย ไม่มีในพุทธศาสนา ก็ปล่อยเขาฉลาดไปคนเดียวเถอะ อาตมาขอทำแบบโง่ ๆ อย่างนี้แหละ สบายใจดี...
๑๖ กรกฎาคม ๒๕๓๓
พระเล็ก สุธมฺมปญฺโญ

หมายเหตุ : เมื่อ ๑๒ พฤษภาคม ๒๕๔๙ อาตมาถูกบีบคอให้ทำเหรียญทำน้ำมนต์ จำนวน ๓,๐๐๐ เหรียญ เพื่อให้ญาติโยมไว้ใช้รักษาโรคที่หมอแผนปัจจุบันรักษาได้ยาก กลายเป็นว่าต้องมาทำทั้งที่ตนเองก็ป่วยอยู่ทุกบ่อยเช่นกัน...!
๑๐ สิงหาคม ๒๕๔๙
พระครูธรรมธรเล็ก สุธมฺปญฺโญ

​

 

สวัสดีค่ะเคยอ่านเจอมานะคะคนเป็นมะเรงเค้าหายแล้วโดยไม่ต้องทำเคมีบำบัดเลย โดยให้คนป่วยกินน้ำโซดาผสมน้ำมะนาวติดต่อกันทุกวัน3เวลา วิธีทำ ใช้มะนาวที่มีสีเขียวไม่เิอาสีเหลืองนะคะ3ลูกบีบเอาน้ำผสมกับโซดาขวดปรกติ1ขวดกินให้หมดต่อการทำ1ครั้ง เซลมะเร็งจะฝ่อไปเองลองทำดูนะคะมีคนหายมาแล้ว ถ้าคนปรกติจะทำกินเพื่อป้องกันก็ยิ่งดีวันละ1ครั้งเวลาใดก็ได้ค่ะไม่มีผลข้างเคียงและอันตรายค่ะเค้าบอกว่าดีกว่าการทำเคมีบำบัด1000เท่าเลยค่ะขอให้รีบทำนะคะและขอให้คุณป้าหายเร็วๆด้วยค่ะ

 

เราทำบุญให้เกือบทุกวัน นั่งสมาธิแผ่ส่วนกุศล สวดมนต์เราหมดหนทางแล้วจริงๆ ไม่รู้ว่าจะพอมีทางไหนที่ช่วยป้าเราได้

อนุโทนาบุญค่ะ ถ้าเป็นดิฉันก็คงทำเอง ให้เอง ประมาณนี้แหละค่ะ

 

เป็นกำลังใจให้คุณป้าด้วยครับ
ลองเปิด google แล้วพิมพ์คำว่า วัดตรีวิสุทธิธรรม (วัดป่าสระกระโจม) อยุ่ที่ สุพรรณบุรี
โดยพระอาจารย์ไก่ บวช 9 วันรักษาทุกโรค ลองไปดูนะครับ

 

ความตายไม่ใช่ที่สุดคะ ถ้าอะไรจะเกิดขอให้นึกตามพระพุทธเจ้าทรงตรัส วัฏสงสาร ไม่ใช่สถานทีกถาวรของสิ่งมีชีวิต ที่เราควรจะเสพสุข โลกนี้ เป็นสถานที่ที่ให้เราเอาไว้ชดใช้กรรมเพียงเท่านั้น ทุกสิ่งที่มันไม่จีรังเหล่านั้น มันเกิดได้เสมอ กัในวัฏสงสารดังนั้นควรหรือที่เราจะใส่ใจและยึดมาเป็นอารมย์จริงจัง ถ้าเราคิดได้เช่นนี้ใจเราสุข ต่อให้มีปัญหาเข้ามาเราก็ไม่ทุกข์ ถ้ายังคิดไม่ได้จากประโยคนี้ ขอให้จงพิจารณาดูว่า จขค เอง คิดว่าท่านจะมีอายุถึง 100ปีไหม? ถ้าคำตอบคือ มนุษย์เราน้อยคนนักจะอยู่ถึง 100ปี ดังนั้น จะวาดหวังอะไรนักกับชีวิตคะ? ต้องตายกันอยู่แล้ว ทุกคนจริงๆ ขึ้นอยู่แค่ว่าจะช้าหน่อย หรือ เร็ว


ขอให้ทำใจให้ได้นะคะ และให้คุณป้าภวานาพุทธ โธอย่าได้ขาด ดิฉันเองก็เพิ่งจะเสียคนที่รักที่สุดในชีวิตเมื่อ กันยา 2012 จาก มะเร็ง เหมือนกันคะ

 

คุณพ่อเป็นมะเร็ง ลำไส้ นอนอยู่โรงพยาบาล 4เดือนเต็ม
ท่านทุกข์ทรมาน เราตระเวณทำบุญ ...อ้อนวอน ขอพึ่งทุกอย่างที่พึงจะทำได้
สุดท้ายพ่อก็จากไป ภายใต้กฏของความไม่เที่ยง

****เรามีความเป็นต่างๆ และละเว้นไม่ได้คือ เราจะต้องพลัดพรากจากของรักของชอบใจทั้งสิ้น****

อิทัง บุญผะลัง บุญกุศลของข้าพเจ้าที่ได้กระทำแล้ว ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน จงสู่สำเร็จแก่คุณป้าของคุณเสื้อยืด ขอผลบุญนี้เกื้อหนุนให้หายจากอาการเจ็บป่วยทั้งทางกาย และทางใจ

 

ขออานิสงส์ผลบุญจากการทำบุญให้ชีวิตสัตว์ในวันนี้ของข้าพเจ้ากับคุณพ่อ อันได้แก่ปลาช่อน 2 ปลาไหล 4 ปลาหมอ 4 หอยขมอีกจำนวนหนึ่ง พร้อมทั้งสังฆทานยาอีก 1 ชุด และถวายปัจจัยทำบุญร่วมสร้างพระประทานปางมารวิชัยอีก 200.- บาท ข้าพเจ้าขออธิษฐานจิตขอถวายบุญนี้ให้แก่องค์เทพเทวดาที่ดูแลปกปักษ์รักษากายสังขารของคุณป้าเสื้อยืดและขออุิทิศบุญนี้ให้แก่เจ้ากรรมนายเวรของคุณป้าของคุณเสื้อยืด ขอบุญนี้นำพาให้คุณป้าของคุณเสื้อยืดผ่านพ้นวิกฤติเวทนา และมีสภาวะจิตที่ดี เมื่อถึงเวลาเปลี่ยนภพภูมิด้วยเถิดค่ะ...สาธุ ^^

 

ที่ดิฉันบอกได้แค่ให้ทำใจก็เพราะ มะเร็ง โรคนี้ลองเป็นแล้ว คนเป็นระยะแรก คีโมแล้วหาย ก็ยังวางใจไม่ได้ วันดีคืนดีมันกลับมาได้ทุกเมื่อ ไม่งั้นหมอจะออกกฏว่า คนเคยเป็น มะเร็งต่อให้หายแล้วก็ไม่อนุญาตให้ บริจาค โลหิต ตลอด ชีวิต,โดยเฉพาะ ระยะสุดท้าย ไม่มีทางหายตายทุกคนคะ ขนาด ญาติดิฉันอยู่อยู่ต่างประเทศ ได้หมอมือหนึ่ง เชี่ยวชาญโรคมะเร็งที่สุด และญาติดิฉัน ก่อนแกเป็นนักกีฬา หุ่น ดี แข็งแรงมาก..... ยังตายเลย ขนาดสู้สุดชีวิต ใครก็ตามบอกว่ามี ยา รักษา หรือ อะไรที่ทำให้หาย ขอบอกว่าไม่เป็นความจริงคะ แต่ก่อนตอนที่ญาติของดิฉัน กำลังป่วย ยังไม่ตาย ดิฉัน ได้ให้ แกลองทุกอย่าง ทั้ง ยา พระ ยา สมุนไพร ทุกอย่าที่คิดว่าจะหาย ก็ไม่มีหรอกคะ มีอย่างเดียว คือ คนเรานับถือพุทธ ต้อง อยากไปนิพพาน และไม่กลัวตายคะ ชีวิตนี้เขาให้มาใช้กรรม ไม่ใช่ให้มาเสวยสุข ดังนั้น ต่อใหหนีมันก็ไม่พ้น นอกจากไปนิพพานเท่านั้น

 

ส่วนตัวเชื่อว่ามะเร็งรักษาให้หายได้

เพราะคุยกับคนที่เคยเอาชนะมะเร็งขั้นที่ 3/4 มาแล้ว
ถ้ารู้จักกับมะเร็งดี การรักษาไม่ยากอยู่ที่ว่าจะปฏิบัติตามได้หรือไม่
ซึ่งจริงๆไม่ยาก แต่คนเรากิเลสหนาและขาดวินัยกับตัวเอง

มะเร็งที่รักษาไม่หายก็เพราะ รักษาผิดวิธีคือ การใช้คีโม
คนไข้ส่วนใหญ่มักจะบอบซ้ำเพราะมะเร็งมาแล้วก็เลยต้องมาตายด้วยพิษคีโมอีก นี่เป็นเรื่องจริงแต่หมอไม่กล้าพูดกัน

อีกเหตุผลหนึ่งคือ ผู้ที่เป็นมะเร็งส่วนใหญ่จะมีเจ้ากรรมนายเวรติดตามมา
จองเวรเอาขีวิตเกือบจะทั้งหมด เจ้ากรรมนายเวรก็จะพยายามปิดกั้นไม่ให้คนไข้เจอกับหมอดีที่ถูกโรค เพื่อจะได้เช็คบิลได้สมใจ
ตรงนี้เป็นเรื่องปัจจัตตังจึงแล้วแต่ใครเชื่อ

ส่วนตัวมะเร็งเป็นโรคที่ไม่น่ากลัวไปกว่าโรคร้ายอื่นๆ ถ้าเรารู้เท่าทันก็รับมือได้ เพราะถ้าเรา "ปรับเปลี่ยนชีวิต จะพิชิตได้ทุกโรค" ครับ

 

ขอบคุณคำแนะนำท่าน Nirvana คะ ญาติดิฉันก็ไม่ได้คีโมคะ เป็น แบบเดียวกับสตีฟ จ็อบ แต่ ขั้นรุนแรงกว่า หมอ ทักว่าจะตายอีกสองสามวันยังอยู่ยืดมาอีก ตั้งสองปีโดยไม่ได้ ให้ยาอะไเลยนอกจากอร์ฟีน แต่ก็ให้แกกิน วกสมุนไพร ก็ดีตรงที่เขา ไม่เป็นถึงปอด แต่บามหมด ถึงเส้นเลือดเขาความจริงก็อยากอยู่ แต่เจ็บโครตๆ เลยขอไปแบบสายดกว่า เพราะอยู่ต่อก็เจ็บ รักษา ก็ไม่หาย หมอ เลยให้ แบบ มอร์ฟีน โดดหนักๆให้หลับไปเลย ถ้าใครหายก็อนุโมทนา แต่ดิฉันเคยรู้จักหลวงพ่อที่หาย ท่านนั่งวิปัสสนาได้เทวดาเอาสูตรยามาให้ สำหรับเคสหลวงพ่อหาย เพราะบุญที่เป็นพระ ญาติดิฉันกกินยาตัวเดียวกันกับที่หลวงพ่อให้ แต่ไม่หาย

ของแบบนี้เกี่ยวกับ ว่า เป็นพระทรงฌาณก็อาจหายได้ แต่ฆารวาท ที่แม้แต่ฌาณสี่ยังไม่ได้ แบบนี้โอกาสหาย คือไม่มี เพราะไม่มีบุญพอนะคะ

 

จากวันที่โพสต์ถึงวันนี้ ไม่ทราบว่าขณะนี้อาการป้าเป็นอย่างไรบ้างครับ

ส่วนแรกแนะนำ

ได้ยินมีคนเป็นมะเร็งไปขอยา(เขาเรียกยาส้ม)

สูตรของหลวงปู่ฝั้น ที่วัดป่าภูริทัต อ.สามโคก จ.ประทุมธานี

ได้ยินถ้าอยู่ในอาการระยะต้นๆจะหาย ส่วนระยะท้ายจะชลอ

(พระท่านบอก).



ส่วนสองเล่าสู่กันฟัง

มีพระกรรมฐานท่านน่าจะเล่าให้พระด้วยกันฟัง

ขณะนั้นมีโยมที่นำมาถ่ายทอดอยู่ด้วย มีโยม

คนหนึ่งคงมักคุ้นอาการคงแย่มากท่านเลยบอกให้

ภาวนา พุทโธ อีไม่นานก็สิ้นใจ ไม่นานต่อมา

ขณะที่ท่านกำลังอยู่ในทาง จงกรม เล่าว่าลอยมาเลย

มาขอบคุณที่ให้ภาวนาพุทโธ ก็ยังหวังว่าขณะนี้ป้า

สติสัมปชัญญะยังดีอยู่ บุญรักษาครับ.

 

ถ้าคุณยังไม่ท้อถอย มีความเพียร ยึดมั่นมีศรัทธาใน ศีล สมาธิ ภาวนาพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์

ยังมีปาฏิหาริย์ เหมือน คุณหญิงบุญหลง พหลพลพยุหเสนา ศรีภรรยาของ พระยาพหลพลพยุหเสนา หัวหน้าคณะราษฏร์ ป่วยเป็นมะเร็งที่โคนลิ้นระยะสุดท้าย อยู่ที่จังหวัดกาญจนบุรี แพทย์ลงความเห็นว่าหมดทางรักษา แต่ด้วยบุญของคุณหญิงบุญหลงยังมีอยู่ และได้ทราบข่าวว่า หลวงพ่อโตวัดบางพลี สมุทรปราการ ท่านศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก ใครไปบนบานขอข้ำมนต์มาารักษาโรค ก็หายกันมามาก

คุณหญิง จึงเดินทาง ไปนมัสการหลวงพ่อโตวัดบางพลี แล้วอธิษฐานถึงคุณงามความดีของท่านที่เคยกระทำมา แล้วอธิษฐานขอน้ำมนต์จากหลวงพ่อไปรักษา พอเดินทางกลับมาถึงบ้าน ะคุณหญิงบุญหลงได้เอาน้ำมนต์ทาที่โคนลิ้น และ จิบกิน

รุ่งเช้าอีกวัน....เหตุการณ์มหัศจรรย์ ก็บังเกิดขึ้น แผลมะเร็งที่โคนลิ้น ก็แตก มีทั้งเลือดและหนองไหลออกมา พอสองสามวันแผลก็หายสนิท นับว่าเป็นเหตุการณ์ที่เหลือเชื่อ มะเร็งระยะสุดท้ายที่แพทย์หมดทางรักษา สามารถหายขาดได้ด้วยอำนาจพุทธคุณของหลวงพ่อโตวัดบางพลี


ผมก็ขอแนะนำท่านได้ แค่นี้ ขออำนาจบุญ ศีล สมาธิ พระรัตนตรัย เป้นที่พึ่ง เพื่อที่จะรักษาคุณป้าของคุณได้ ด้วยอำนาจของพลังบุญ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์

 

รายการนี้ผู้ป่วยคงหมดบุญด้วย

อีกอย่างนึงอาจจะไม่ได้อยู่ในประเทศไทย
และไม่รู้จักวิธีรักษาหรืออาจจะไม่เชื่อเลยก็ได้ ครับ

สรุปก็เอาเป็นข้อมูลเอาไว้ เผื่อวันหน้าเจอกับตัวเอง
หรือคนข้างเคียงจะได้มีวิธีรักษากัน นะครับ

 

โดยมากมะเร็งที่หาย คือ มะเร็ง ที่อยู่ในอวัยวะไมสำคัญนะคะ อย่าง มะเร็ง โคนลิ้น เต้านม มดลูก ต่อมลูกหมาก พวกนี้หายได้ แต่ ญาติดิฉันเป็น มะเร็ง ตับอ่อน เป็น มะเร็งที่แรงกว่า มะเร็งทุกชนิด และลามไป เส้น เลือดใหญ่ คือ หมอ ทีแรกจะผ่าให้อรู้ว่า ถึง ก็หยุด ไม่ทำอะไรเลย แค่ผ่าเปลี่ยนเส้นทางเดินน้ำดี บรรเทา อาการคัน ตัวเหลือง ตาเหลือง เท่า นั้น ดิฉันได้ค้นคว้าดูในอินเตอเน็ต ก็พบแต่คนที่ หาย ได้นั้นมี แต่ พวกระยะแรกก็ยังเป็นเปอร์เซนที่น้อย ส่วนคนไทยที่หายมะเร็งชนิดนี้ นั้น ม่มีปรากฏ เลย เพราะตับอ่อน เป็นอวัยวะที่อยู่กลางร่างกายลึกที่สุด และผ่าน อวัยวะอื่นๆหลายชั้น พูดไปแล้วก็เศร้าคะ แต่ดิฉันโชคดีที่ คนในครอบครัว ญาติสาตรง ไม่มีประวัติใครเป็นมะร็ง และอายุยืน 100 กว่าคนก็มีหลายคน คงจะทำให้เราหมดห่วงได้

 

จริงๆมะเร็งตับเป็นมะเร็งที่มีอันตราย ครับ

เพราะไปทำลายศูนย์กลางการต่อสู้ของร่างกาย
แต่ขึ้นอยู่กับจำนวนพื้นที่ของตับที่มะเร็งกินเข้าไปแล้ว
ถ้าเกิน 50% รอดยาก ไม่ว่าจะช่วยอย่างไร

แต่การรักษาแผนปัจจุบันที่ใช้วิธึการคีโม ผ่าตัด ฉายแสง
ไม่ใช่วิธีที่ถูกต้อง เพราะถ้ารักษาได้จริงป่านนี้ผู้คนต้องรอดตายมากกว่านี้

ปัจจุบันมะเร็งเป็นเพชฆาตอันดับหนึ่งของประเทศไทยและของโลก
การรักษาแผนปัจจุบันต้องเป็นไปตาม Protocal ที่วางไว้โดยบริษัทยา
ห้ามออกนอกทางไม่งั้นหมออาจจะเสี่ยงโดนยึดใบอนุญาต ครับ

ลองเข้าไปดูการรักษาตามเวปข้างล่างนี้แล้วกัน
แต่ปัจจุบันคนไทยเรารู้มากกว่าและเก่งกว่าแล้ว
เรื่องน่าเศร้าคือ ไม่มีใครเชื่อ


Gerson Institute

 

เห็นด้วยอย่างสุดใจ ถึงการการรักษาแผนปัจจุบันสำหรับโรคมะเร็งนั้น การทำเคมีบำบัด หรือฉายแสง หากพูดถึงอวัยวะภายในคือตับ เขารับหน้าที่หลายอย่างอยู่แล้ว แต่ขอยกหัวข้อ ที่ตับทำหน้าที่ขับสารพิษจำกัดของเสีย ไหนจะผลิตน้ำดี สะสมพลังงานกลูโคส ปกติก็ทำงานหนักอยู่แล้ว ต้องไปเจอการให้เคมีอีก ไม่รอดแน่

ในกรณีคุณพ่อของดิฉัน ท่านเป็นมะเร็งที่กระเพาะอาหาร และตับแข็ง สำหรับมะเร็งนั้น รู้ตั้งแต่ระยะแรกแล้วก็ผ่านมาประมาณ 2 ปี ซึ่งช่วงแรกกะจะผ่าตัดเหมือนกันค่ะ ทีนี้ดิฉันก็ถามหมอศัลยกรรมว่าขอเปอร์เซนต์การอยู่รอดจากคุณหมอ คุณหมอศัลย์ฯ บอกว่าผมมีหน้าที่ผ่าตัด แต่เรื่องความอยู่รอด ต้องปรึกษา หมอเฉพาะทางคือหมอตับ กะหมอทางเดินอาหาร อ้าว!! แล้วไง คือโยนกันไปมา สรุปดิฉันไม่ให้คุณพ่อผ่า ซึ่งท่านก็ไม่ต้องการผ่าด้วย จึงให้ท่านตัดสินใจด้วยตัวท่านเองอีกครั้งนึง ทีนี้ไปรักษาแบบสมุนไพรจีนนะคะ เพราะคุณหมอศัลย์ บอกว่ามะเร็งไม่น่าห่วงเท่าตับ เพราะหากผ่าตัดมะเร็งน่ะหายแน่ แต่อาจจะไม่ฟื้นเพราะการที่ตับใก้ลหมดสภาพแล้วนั้น มีความเีสี่ยงสูงมาก เพราะคุณพ่อก็อายุ 70 ปีค่ะ เลือดอาจจะไหลไม่หยุด คือโรคนี้ทำให้เส้นเลือดโป่งพองง่ายและก็แตกง่ายเช่นกัน อาจจะทำให้เลือดไหลไม่หยุดและเสียชีวิตได้ ก็เลยปฎิเสธการผ่าตัด แต่ขอรักษาทางยาแทน โดยที่เคมีดิฉันก็็ไม่รับ เพราะตับมันแย่แล้ว หากรับเคมีเข้าไปอีก จะรอดหรือ?? พวกหมอนี่ก็สักแต่จะรักษาตามทฤษฎีตนเองที่เรียนมา แต่พอดิฉันถามว่า โอกาสรอดมีเท่าไร ไม่มีใครตอบได้สักคน กลับมาโยนให้คนไข้อีกว่า ปฎิเสธการรักษา หน่ายใจจริง ๆ ก็เลยรับยากินแบบแผนปัจจุบันมาแค่ชนิดเดียวจิง ๆ ต่อ 2 โรคร้าย คือยา miracid เป็นยาลดการหลั่งกรด เพราะต้องป้องกันกระเพาะไว้ก่อน

และเลยหันไปหากินยาสมุนไพรไทย-จีน หมอแมะหนะค่ะ มะเร็งไม่แพร่กระจายและเหมือนจะฝ่อลง ที่ทราบเพราะว่าต้องเข้าไปทำ ultrasound / x-ray / ct-scan อยู่ตลอด ทีนี้ก็เริ่มดื้อยาแล้ว มีอาการแย่ลงแทบทุกวันช่วงหลังปีใหม่มา เพราะอาหารไม่่ย่อยเลยและเครียดด้วย ก็เลยพาคุณพ่อไปรักษาแบบใช้พลังจิตหนะค่ะ ก็ดีขึ้นนะคะ คืออ.ท่านนี้จะรู้สึกได้ถึงกระแสในกายเรา ท่านจะปรับธาตุในกายและมีน้ำที่ปรับธาตุให้เข้ากับตัวคุณพ่อถือเป็นการรักษามาให้ดื่มด้วย ค่าใช้จ่ายไม่มีค่ะ หยอดปัจจัยใส่ตู้แล้วแต่ค่ะ มีเมตตามากมากมาก ท่านบอกว่าท่านเป็นวิทยาศาสตร์ไม่ใช่ไสยศาสตร์ ซึ่งก็จริงค่ะ พูดตรงๆคือ การกำหนดจิตหนะ่ค่ะ เน้นที่สติปัฏฐาน 4 เลยแหละ ตัวดิฉันเองก็เลยลองด้วยตัวเอง เพราะชอบมีลมในท้องค่ะ ไปอาทิตย์ละ 1 ครั้งต่อเนื่อง ที่สำคัญนะคะ พอไปนั่งตรงหน้าท่าน ต่างคนต่างนั่งเก้าอี้นะคะ พอท่านมองมาที่ท้องเท่านั้นแหละ อ.ก็เรอออกมาเยอะมากแทนเราหนะค่ะ ดิฉันก็อืมม์ สงสัยมาถูกทางแล้วหละจ้ะพ่อจ๋า อ้อมีกิน เอนไซม์ ช่วยในการย่อยและทำให้อวัยวะภายในต่างๆ fresh ขึ้นหนะค่ะ ก็ดีขึ้นนะคะ แต่ช่วงนี้วิกฤตอีกแล้ว คือกินไม่ได้ ทั้งที่หิวและจะกิน แต่พอกินแล้วอาเจียรออกมาตลอด หมอตับบอกสงสัยกระเพาะอาหารจะตัน คงต้องรักษาโดยต้องเจาะท้องส่องกล้องและใส่ท่อเพื่อบายพาสกากอาหาร ก็ยังไม่รู้เหมือนกันค่ะว่าจะตัดสินใจยังไง เพราะถ้าไม่ทำก็แย่ แต่ถ้าทำก็ไม่รู้จะรอดหรือปล่าว นี่ก็มีนัดกับหมอศัลย์ ยังไงจะมาแชร์อีกครั้งนะคะ ว่าจะรักษาอย่างไร สำหรับแนวทางการรักษาของคุณพ่อกะดิฉัน ก็ใช้หลักใจค่ะ ลองศึกษาทุกที่ที่ใครแนะนำ ไปกันทุกที่เหมือนกัน ลองผิดลองถูก แต่โดยมากจะลองถูกค่ะ เพราะพิจารณาก่อนค่ะว่าผลดี ผลเสีย ก็เลยนำมาเล่าแชร์ท่านชาวสมาชิก เผื่อท่านใดมีสิ่งที่ดีกว่าแนะนำ ดิฉันก็ขอน้อมรับ ไปศึกษาดูค่ะ

 

ญาติดิฉันนะลามยังไม่ถึงตับด้วยซ้ำ แต่ เขาปวดมาก ช่วงหลังๆปวดจนทนไม่ไหว แบบแค่จะยกขาขึ้นเตียงก็ปวดแล้ว หมอเลยให้ยามอร์ฟีนโดดหนักๆให้หลับตายไปเลยนะคะ ความจริงถ้าไม่ได้มอร์ฟีนนั้นป่านนี้น่าจะยังมีชีวิตอยู่ แต่คงทุกทรมานมาก ใครๆเขาถึงบอกให้ตายๆไปดีกว่า ดิฉันจะให้เขาทานยาสมุนไพรของเมืองไทย โดนนางพยาบาลคนดำ ขู่อีก บอกถ้ายู ให้เขากิน ฉันฟ้องตำรจจับแน่.... และยังบอกอีก, ถ้าญาติดิฉันอยู่เมืองไทยป่านนี้คงตายไปแล้ว คงไม่รอดมาเกินสองปีอย่างนี้ หาว่าประเทศเราการแพทย์ห่วยแตก อย่าว่าแต่หมอฝรั่งเลยคะ หมอไทยเอง ก็ไม่ยอมรับเรื่องการใชสมุนไพรในการรักษามะเร็ง.....เห็นคนอื่นๆ บ่นกันมีคนที่ให้แม่เขาไปรักษากะหมอสมหมาย หมอ โรงบาลรู้เข้ายังขู่อีก และโยนใบนัด บอก ถ้าคุณจะไปหาหมอสมหมายก็ไปไม่ต้องมาอีกนะ ผมไม่ตรวจ ผมเลิก ขนาดดิฉันไปเล่าเรื่องยาสมุนไพรไทย หรือการนั่งสมาธิรักษามะเร็งให้พี่สาวดิฉันฟัง แกยัง ดูถูกพูดว่า คนไทยนี้มันเก่งที่สุดในโลกเนอะ ขนาดจะใช้ เวทมนตร์รักษามะเร็ง ดูฝรั่งเขาพัฒนาการแพทย์มาขนาดไหน ยังรักษาไม่ได้

แต่ปัญหาหลักๆที่หมอ ไม่ยอมผ่าให้ญาติดิฉัน ความจริงทีแรกจะผ่าอยู่หรอกเตรียม ผนังท้องด้านในของคนตายไว้อย่างดี แต่ดันไปเจอ มันมีค่สะเก็ดนิดนึง ปลิวไปที่ Aorta (หรือเส้นเลือดใหญ่)ที่จะไปหัวใจ หมอบอก ถ้าผ่ามะเร็งต้องขุดออกให้หมด แต่ เหลือแม้นิดเดียวมันจะโตและกลับมาอีก ทำให้ผ่าไปไม่คุ้ม ส่วน Aorta นั้นผ่าไม่ได้ ถ้าผ่าเลือดจะหยุดไเลี้ยงร่างกายอีกซีกจะทให้ตายได้ทันที หมอเลยไม่ผ่า คะ คงถึงคราวจะตายของเขาด้วย

 

ถ้ามีอะไรที่ Nirvana พอจะช่วยได้ก็ pm มาแล้วกัน นะครับ