**ณ ราตรีหนึ่ง**

เรานี่ก็ไม่ธรรมดาเหมือนกันนะ สรรหาเรื่องมาเล่าได้ทุกวัน
ความฝันของน้องสาวค่ะ

เจ้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ข้อยฝันประหลาดมะคืน ฝันว่า เราไปชุมนุมกันมากมายหลายคน ที่จำได้มีพี่เมกับแอด้วยนะไปยืนบนดาดฟ้าที่ไหนไม่รู้ เหมือนตึกสูงๆแต่มีลานกว้างๆ มองไปเห็นตึกสูงมากมาย จากนั้นพระอาทิตย์ก้อขึ้นแล้วทรงกลด เป็นสีรุ้งซ้อนกันเป็นแผ่ออกมา ข้อยเลยพูดขึ้นว่าเป็นปรากฏการณ์ที่จะเกิดเมื่อ พุธ 9 พฤหัส 9 อะไรไม่รู้ ข้อยดันจำบ่ได้ตรงนี้ แล้วข้อยก้อพูดว่าสิขอพรเทพพระอาทิตย์ จากนั้นก้อมีฟ้าแลบลงมาโดนแสงพระอาทิย์แล้วเป็นวงกลมใหญ่ๆเท่าสนามฟุตบอล ข้อยแล้วฟ้าก้อผ่าแปลบๆออกมาจากตรงวงกลมนั้น แล้วดูดเอาเด็ก2 คนหายเข้าไป ข้อยเลยตื่น ข้อยไม่เคยเห็นแบบนี้คือหยัง เทพเพิ่นสิบอกอะไรเราไหมเจ้ ไม่รู้ตอนฟ้าผ่าออกมาจากในวงกลมนั้นมีเด็กยืนตรงนั้น คนเยอะมากอ่ะมารวมกันเหมือนชุมนุมเหมือนนัดกันมา แล้วเราไปดูพระอาทิตย์ทรงกลดทำไมอ่ะ แต่ทรงกลดแบบสว่างทั้งโลกเลยนะ

อืม...พระอาทิตย์เฉิดฉายย่อมมีความหมายอยู่แล้ว แจ้งโลก แจ้งธรรม อืม...สว่างและงดงามชิมิร้า มีพลังด้วย

แม๊น งามแล้วทุกคนที่ไปปิติมากค่ะ พอขึ้นมาเหนือยอดตึกพระอาทิตย์ก้อทรงกลดแมะ อ้อๆๆๆๆ ก่อนหน้านี้มีชายแก่ตัวใหญ่ใส่ชุดสีเทาๆหนวดเครายาวๆ มาทำให้ข้อยเห็นภาพ บอกว่าผู้มีบุญถูกมารตามทำร้ายทั้งที่เพิ่งเกิด แล้วข้อยเป็นเหมือนองครักษ์แมะ ติดตามเพิ่นไปแต่ผู้มีบุญเป็นทารกเห็นอยู่ในเรือมีฟางห่อกาย เพิ่นลอยในเรือข้อยตามไปบ่ทันฝนกำลังจะตกข้อยกลัวน้ำจะท่วมเรือแล้วทารกจะตายชายแก่บอกข้อยว่าถ้าตายจะเรียกผู้มีบุญติ พ่ะนะ

อืม...ข้อยเคยอ่านเรื่องพระจักรพรรดิ์นะ เป็นพระอุปคุตและภาคหนึ่งของพระศรีอาริย์ จะมาจุติเพื่อยังพระพุทธศาสนาให้อยู่ครบห้าพันปี ท่านจะลงมาที่ภาคอีสาน

เจ้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ข้อยขนลุก ข้อยเพิ่งได้ยินตอนสวดมนต์ 3 วันก่อนนะเจ้ ข้อยสวดบูชาพระอุปคุต แล้วข้อยได้ยินว่าพระอชิตะคือพระอุปคุต ข้อยนึกว่าข้อยมะโน

พระอุปคุตท่านจะขึ้นมาจากสะดือทะเล เพื่อมาจุติยังภพภูมิมนุษย์ ข้อยกะขนลุกเด้

โอยข้อยขนลุกทั้งตัวเลย บ่เคยขนลุกแบบนี้ เป็นวูบวาบแมะหรือท่านสิมาโปรดคนแล้วอ่ะเจ้

ใกล้แล้วไง แต่คงหลังจากที่ข้อยตายไปก่อนมั้ง อันนี้บ่แน่ใจสักเท่าใด แต่ที่แน่ๆ ท่านจะมาแน่นอน และจะเป็นยุคที่ประเทศไทยเฟื่องฟู จะทรงเป็นใหญ่ในหมู่สงฆ์ทั้งหลาย เปรียบได้กับพระจักรพรรดิ์

 

คืนก่อนนู้นนนนนนนนนนน มีนิมิตเพิ่งนึกได้วันนี้ คริคริ ความรู้สึกช้าอ่ะนะ

ฝันว่าไปอยู่บ้านหลังหนึ่ง เป็นบ้านชั้นเดียวค่อนข้างทันสมัยนะ......มีห้องนอนเพราะว่าเห็นตัวเองยืนอยู่ในห้องนอนข้างๆ เตียง หน้าห้องนอนเป็นห้องโถง หลังห้องนอนก็เป็นห้องโถง เหมือนจะมีผู้ชายอยู่ในบ้านนั้นด้วยนะ ไม่รู้ว่าเป็นอะไรกันหรือเปล่า บ้านนี้ไม่ใช่บ้านเราหรอก ชักจะเลือนๆ จำได้อย่างเดียวว่าจะออกจากบ้านไปที่ไหนสักแห่งนี่แหละ ก็จะปิดประตูบ้าน เดินไปปิดประตูหลังบ้านก่อน

ต้องแปลกใจว่า ประตูมีสี่คู่ซ้อนกันอยู่ บ้านนี้แปลกแหะ ถ้าจะปิดต้องปิดทั้งสี่คู่นึกออกป่ะ ผู้ชายที่อยู่ด้วยเดินไปปิดประตูก่อนเรา แต่ปิดบานที่อยู่ด้านนอกสุด เหลืออีกสามบานไม่ได้ปิด อืม...อธิบายไงดี แบบว่ามีวงกบแค่วงเดียว แต่มีประตูทั้งหมดสี่คู่ซ้อนกัน เพราะว่าต้องปิดให้ครบทั้งสี่คู่ ก็เถียงกับผู้ชายว่าปิดอย่างนั้นไม่ได้ ให้ปิดให้ครบ ผู้ชายก็บอกว่าไม่เป็นไรงับไว้อย่างนี้ก่อน เหมือนจะรีบไปที่ไหนสักแห่ง มันใส่กลอนไม่ได้ ต้องล็อคกุญแจอย่างเดียว

 

เราก็เลยเดินไปหากุญแจบ้าน เดินหาจนทั่วบ้านไม่เจอค่ะ พอเดินไปถึงหน้าบ้าน พบกล่องพัสดุใบหนึ่งวางอยู่บนโต๊ะหน้าบ้าน เอามือไปจับกล่องดู มันหนักๆ ก็เลยแกะกล่องพัสดุออกดู เจอแม่กุญแจและลูกกุญแจอยู่ในกล่องหลายชุดเลย มีเสียงบอกว่ายกให้เราทั้งหมด อ้าวอย่างนี้ก็เท่ากับยกบ้านหลังนี้ให้เราเป็นเจ้าของบ้านน่ะซิ เราเลือกๆ แล้วหยิบไปแค่ชุดเดียว เพื่อจะไปล็อคประตูด้านหลัง.....หลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้นอีก จำไม่ได้แระ....ตื่นค่ะ

ทำนายนิมิตเองเลยนะ บานประตูสี่คู่ซ้อนกัน หมายถึง ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค (อริยสัจจ์สี่) แล้วก็พระอริยบุคคลทั้งสี่ระดับ ส่วนวงกบประตูมีเพียงวงกบเดียว คือ นิพพาน

เอ...หรือว่าจะเป็นสมมติซ้อนสมมติกันอยู่สี่ชั้น

555 แจ่มมั้ย??? มะโนแบบฝุดๆ รอปัญญาเกิดก่อนค่อยนำมาพิจารณาใหม่แล้วกัน

ใครก็ได้ช่วยทำนายฝันให้ที

 

เล่าก่อนลืมค่ะ

จะเริ่มต้นตรงไหนดี.....อยู่ในบ้านแล้วกัน ห้องๆ หนึ่ง มีเด็กอ่อนเยอะแยะเต็มไปหมด แล้วมีเด็กคนหนึ่งตัวโตกว่าเพื่อนกำลังดูดนม นมขวดใหญ่มาก แต่ดูดนมไปร้องไป เราก็เลยเดินไปดู เด็กผู้ชายมีลักษณะตัวโตผิวสีขาว ขาวไปทั้งตัว ปากก็ขาว ตาก็ขาว สีขาวแบบกระดาษขาว ผมก็ขาว เป็นลักษณะที่แปลกมาก หน้าตาเป็นลักษณะของผู้มีบุญ ที่ร้องเพราะว่าดูดนมแล้วนมไม่ไหลเข้าปาก ขวดนมใหญ่ขนาดน้องๆ แท้งค์น้ำตั้งวางอยู่ที่พื้นค่ะ เราพิจารณารูปลักษณ์ของเด็กแล้วก็งงๆ มีการจัดห้องเพื่อนำเด็กเข้ามาเลี้ยงที่ห้องนี้ เราไปเก็บข้าวของที่เกะกะและไม่จำเป็นออกจากห้อง....ชักจะเลือนๆ ไปแล้ว ความจำหนอ...

พอออกมาด้านนอกบ้าน เป็นคล้ายสวน มีกรงสัตว์ ดูร่มรื่นดี เราเดินไปดูที่กรงสัตว์ว่ามีสัตว์อะไรบ้าง ตอนแรกเห็นเป็นแมวอยู่ในกรง พอดูไปดูมา...แมวหายไป กลายเป็นนกสีต่างๆ เป็นนกแก้วหงส์หยกค่ะ มีหลายตัวเลยทีนี้ ส่วนแมวที่หายไปดันขึ้นไปอยู่ด้านบนในกรงที่ต่อขึ้นไปเป็นสองชั้น...ฝันแปลกจัง ทำนายว่าอะไรดีน้าาาาาา แล้วเราไปที่ไหนมาเนี่ย?

 

เมื่อคืนฝันค่ะ แต่ลืมเหมือนเคย 555 ความจำไม่รักดีเลยหนอ
แต่ว่ามีคนฝันถึงเรา อิอิ

เมื่อคืนฝันถึงเจ้

หรอๆๆ เล่าๆๆ

ฝันเห็นเจ้ใส่ชุดขาว.......

แล้วเมื่อคืนข้อยฝันเห็นเจ้ใส่ชุดสีขาวนะ แล้วเห็นแฟนข้อยด้วย แล้วก็เห็นมันเหมือนงูแต่ไม่ใช่งูอ่ะ หัวมัน ตัวเล็กๆ คล้ายๆ มังกร แต่ว่าตัวมันแบบเหมือนขี้เหร่ โดนสะกัมมาอะไรอย่างเงี้ย เหมือนเจ้มาช่วยอะไรเราสองคนสักอย่างนึง ข้อยยืนอยู่ข้างๆ เจ้อ่ะ ข้อยจำได้

กิกิ เรื่องนี้ต้องมีเหตุ แต่เล่าไม่ได้นะ

 

ฝันแปลกๆ ค่ะ ฝันว่ามีการประกวดลิ้นกัน ผู้ร่วมประกวดต้องนำลิ้นของตนส่งเข้าร่วมงาน แต่ละคนก็ต่างนำลิ้นไปส่งให้กรรมการผู้ตัดสิน ผู้ตัดสินเป็นหญิงมีอำนาจของที่นั่นค่ะ พอเราได้ข่าวก็จะเข้าประกวดด้วย จึงดึงลิ้นตัวเองออกมาแล้ววางไว้บนฝ่ามือข้างซ้าย ก็พิจารณาลิ้นที่อยู่บนฝ่ามือ มันนิ่มๆ หยุ่นๆ เหนียวๆ มีรอยแผลที่ลิ้นด้วย แต่ก็มั่นใจว่าเราต้องชนะ ขณะที่เดินไปถึงกรรมการ กำลังยื่นมือส่งให้นั้น พลันลิ้นก็ร่วงหลุดมือหายไปทางไหนก็ไม่รู้ หาอยู่นานก็หาไม่เจอค่ะ ก็เลยตื่นดีกว่า....ฝันอะไรเนี่ย

เอ...หรือว่าเบื้องบนจะบอกว่าให้หยุดพูดนะ 555 ก็ไม่รู้ว่าจะทำนายว่าอะไรดี

 

ก็ว่าจะหยุดตัวเองกับเรื่องเล่าต่างๆ ลง แต่บังเอิญเมื่อคืนฝันแปลกค่ะ ขอเล่าสภาวะก่อนแล้วกัน

เมื่อคืนนอนดึกมากเกือบสี่ทุ่มค่ะ (ดึกสำหรับเรานะ) ปิดมือถือแล้วปิดไฟ ล้มตัวนอนสวดมนต์ภาวนาไปพร้อมๆ กับการทำสมาธิค่ะ ความทึ่เลยเวลานอนแล้ว จิตก็จะดิ่งอย่างเดียว สวดมนต์ก็ยังไม่จบดี คือเหลือบทสัพเพฯ ของหลวงปู่ดู่ แต่สภาวะของสมาธิจิตสงบลงแล้ว เกิดนิมิตแสงสว่างจ้าขึ้นมาแว้บนึง จากนั้นก็เปลี่ยนเป็นวงกลมสีขาวคล้ายๆ เมฆบนท้องฟ้า เราก็เลยกำหนดให้เป็นท้องฟ้าทั้งผืนเลย ไม่มึจุดเริ่มต้นและสิ้นสุด

 

ทีนี้ ส่วนที่ทำสมาธิก็ทำไป ส่วนที่สวดมนต์ก็สวดไป จิตก็จะตกภวังค์ท่าเดียว เราต้องสวดสัพเพฯ ปรับภพภูมิ 5 จบทุกคืน ก็ลืมว่าสวดไปกี่จบแล้ว ก๊เลยเลิกสวด จิตก็ดิ่งไปเลย อธิษฐานขอขึันไปบนสวรรค์...จิตตกภวังค์เหมือนครึ่งหลับครึ่งตื่นค่ะ

ยังคงวิตกบทบริกรรมอยู่ เพราะว่าตั้งมั่นจะไปเที่ยว 555

 

นานแค่ไหนไม่รู้ เหมือนไม่ได้หลับ แต่ว่าเรานอนหลับตานะ เห็นตัวเองใส่ชุดขาวแล้วมีแสงสว่างสีขาวรอบๆ ศีรษะ ไม่ใช่แต่คนเดียว แต่มีเราถึง 6 คน มีแสงสว่างสีขาวรอบๆ ศีรษะทั้ง 6 คน เราก็งง...พอดูไปๆ กายก็หายไปทีละกายหรือหายไปทึละคน เหลือแค่คนเดียว มีความรู้สึกว่ามีใครมาตามหาเรา แต่เราแบ่งกายออกเพื่อให้คนนั้นสับสน...แล้วอายตนะภายนอกก็ทำงานรับผัสสะค่ะ จิตบอกว่าระวังตะขาบจะกัด ก็เลยเอามือดึงผ้าห่มขึ้นมาปิดคอ พอถูกคอเท่านั้นแหละ มันจี๊ดเลยค่ะ ก็เลยลองเอามือจับตรงที่รู้สึกจี๊ด รู้สึกแสบร้อนขึ้นมาทันที แต่ยังคงนอนบริกรรมนิ่งๆ เหมือนเดิม สักพักก็สงสัยว่าอะไรกัดเพราะมันแสบร้อนอย่างเดียว ก็เลยลุกไปเปิดไฟในห้อง ดูเวลา..ตีหนึ่งกว่าๆ ค่ะ มองหาว่าอะไรมันมากัดเรา

ไฟสว่างก็เห็นแต่ห้อง ไม่มีสัตว์ชนิดไหนเข้ามา แต่ยังไม่คลายความสงสัยก็จิตบอกว่าตะขาบ ทำไมไม่เห็นเลย เห็นแต่มดง่ามสองตัว เมื่อคืนอากาศชื้นๆ ค่ะ มันคงจะมีเหตุอะไรสักอย่าง เพราะมดง่ามที่นี่จะอยู่ใต้ดิน ปกติไม่ขึ้นมาด้านบน

ก็เลยเลิกสงสัย ปิดไฟนอนตอนตีสองกว่าๆ หลับค่ะ แต่เหมือนเดิมคือเหมือนไม่หลับ

 

พรุ่งนี้มาเล่าต่อนะคะ ได้ไปสวรรค์จริงๆ ค่ะ แต่คืนนี้ง่วงนอนซะแล้ว เดี๋ยวจะหลับคาสัพเพฯ ฝันดี...ราตรีสวัสดิ์นะคะ (k)

 

คงต้องขอประทานอภัยที่เมื่อวานไม่ได้มาเล่าต่อนะคะ ติดกิจหลายอย่าง พอมาวันนี้ก็ลืมไปแล้ว 555...เหมือนเดิมค่ะ สัญญาจ๋าขอลาก่อน ทำนองนั้น

จำได้แค่นิดๆ เอง ที่นั่นเหมือนกำลังมีงานเฉลิมฉลองอะไรสักอย่าง เพราะวิมานหลีงใหญ่สุดของที่นั่นติดธงประดับทั้งวิมานเลยค่ะ ได้พบกับพี่สาวอีกแล้ว สนทนากัน ตื่นมาลืมจำไม่ได้ว่าสนทนาอะไรกัน....จบ

 

เล่าความฝันให้ฟังนะ เป็นเทพนิมิตรู้ขึ้นมาเองค่ะ

ไปอยู่ที่บ้านหลังหนึ่งเหมือนวังในสมัยโบราณ (จิตบอกว่าเป็นวิมาน) เป็นเรือนครึ่งตึกครึ่งไม้สองชั้นหลังใหญ่ ชั้นสองมีระเบียงเชื่อมต่ออาคารแต่ละหลังค่ะ

เห็นตัวเองไปทำความสะอาดห้องน้ำชั้นล่าง ก็ตักท่อ เทท่อน้ำ เทออกมาเจอแต่เศษสิ่งปฏิกูลเยอะแยะเลย มีทั้งชิ้นใหญ่ๆ หยาบๆ ก็เอาไปทิ้ง พอเดินออกมาด้านนอก เห็นพื้นมีคราบขี้ดินแห้งๆ ติดอยู่ ก็เอาไม้กวาดมากวาดๆ แต่ว่าดินมันแห้งดินพื้น กวาดไม่ออกค่ะ ก็เลยเดินไปดูว่ามีเหตุอันใด พื้นบ้านจึงมีคราบดินแห้ง ไปเจอกองดินที่พูนอยู่ที่พื้นนั้น ก็เลยแซะขี้ดินออกแล้วเอามือโกยดิน แต่ยิ่งโกยดินก็ยิ่งออกมาเยอะเลย ก้อนดินมีหลายขนาดค่ะ มีทั้งก้อนใหญ่ ก้อนเล็ก แล้วก็ละเอียดๆ เหมือนเราขุดดิน จะขุดไปให้ถึงรากถึงโคน ยิ่งขุดก็ยิ่งเยอะ โกยไม่หมดสักที ก็เลยละทิ้งไว้ก่อน

แล้วเดินขึ้นไปที่ชั้นบน เป็นโถงระเบียงค่ะ มีคนอยู่หลายคนกำลังทำข้อสอบกัน เราก็ไปทำกับเค้าด้วย ทำแค่แป๊บเดียวก็เสร็จ เหลืออีกข้อเดียวต้องทำต่อในเวลาถัดไป พอทำเสร็จมีหญิงสูงอายุขาวท้วมผิวพรรณดี เดินมาหาเรา แล้วบอกว่าข้อที่เหลืออีกข้อนั้นให้ไปทำที่อาคาร 5 ตรงนี้เป็นอาคาร 4 เราปฏิเสธและบอกไปว่า ถ้าจะให้เราทำอีก เราจะทำที่นี่ ไม่ไปที่อาคาร 5 หรอก ทำไมเราต้องไปด้วย ความจริงเราไม่ต้องสอบด้วยซ้ำไป หญิงนั้นก็อ้างเหตุผลบางอย่าง (ลืม) แล้วบอกว่าอาคาร 4 ไม่ใช่ของเรา เราต้องไปอาคาร 5 เราก็เลยตอบตกลง...ได้ยินเสียงพระเปิดโบสถ์ค่ะ ก็เลยตื่น

 

จึงนำมาพิจารณาว่ามันต้องเกี่ยวกับผลการปฏิบัติของเราแน่เลย อาคาร 4 อาคาร 5 หมายถึงอะไร?

แต่พิจารณาเรื่องกองดินนั้น คงหมายถึง กิเลสอาสวะที่เราขุดขึ้นมา แต่ยิ่งขุดก็ยิ่งเยอะ เพราะว่ากิเลสมันละเอียดลุ่มลึกลงไปตามธรรม
ที่นี้ อาคาร 4 อาคาร 5 น่าจะหมายถึงภูมิธรรมค่ะ แล้วภูมิธรรมมีเป็นระดับๆ ด้วยรึ แล้วระดับ 5 หมายถึงอะไรล่ะ?....

 

ก่อนนอนพิจารณาเรื่องคู่ 555 สองวันก่อนคุยเรื่องคู่กับเพื่อน เพื่อนก็บอกว่าอยากมีคู่แต่ไม่มีใครมาชอบ คุยกันไปคุยกันมาสักระยะหนึ่ง เราก็บอกว่าสำหรับเราไม่ต้องห่วง เพราะว่าเราไม่มีคู่คงจะเคยอธิษฐานไว้ว่าไม่ต้องการคู่มั้ง (เดา)

ไม่ใช่ว่าเราหมกมุ่นเรื่องคู่นะ แต่มีเหตุให้ทบทวนแล้วบอกกับตนเองว่าเราคงไม่เคยทำบุญร่วมกับใครมาก่อน จากนั้นก็สวดมนต์และนอนภาวนาจนหลับไป

ฝันค่ะ...เห็นชายผู้หนึ่งถือพระพุทธรูปสององค์มาให้ดู เป็นแก้วมรกตสีเขียวทั้งองค์ ทรงเครื่องกษัตริย์ เค้ายื่นพระพุทธรูปองค์หนึ่งมาตรงหน้าเรา เรามองดูแล้วพูดขึ้นว่า..."พระศรีอาริยเมตไตรย องค์นี้เราสร้างเอง เราจำได้" อีกองค์หนึ่งเป็นของชายผู้นั้นสร้าง พระพุทธรูปสององค์นี้สร้างขึ้นพร้อมกัน สร้างคู่กัน จิตหวลระลึกไปถึงครั้งที่สร้างบารมีในสมัยหนึ่งร่วมกับชายผู้นี้

พอตื่นมาก็มาหารูปในเน็ต ไม่มี ทำไมพระศรีอริยเมตไตรยจึงเป็นสีเขียว ไม่ใช่สีแดงหรือ ก็เลยได้รู้ว่าคนสมัยก่อนชอบสร้างพระด้วยแก้วเขียว แล้วพระสององค์ที่ชายปริศนานำมาให้ดูนั้น (เป็นหลักฐานยืนยันว่าเรากับเขาสร้างบารมีคู่กันมา) แต่เขาเป็นใคร? นี่ซิปริศนา

 

เมื่อคืนนอนดึกมาก ตีหนึ่งได้นะ มัวแต่อ่านธรรมะของหลวงตามหาบัวเรื่องการตัดราคะ อ่านไปน้อมพิจารณาตามไป ท่านให้พิจารณาอสุภะอสุภัง ที่เดียวนั่นแหละ ที่เหตุของกามราคะ ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ แล้วดูมันอย่างเดียว ดูให้เห็นถึงเหตุที่มาของมัน เห็นองค์ประกอบของเหตุและผล ปัจจัตตัง

อ่านจบก็ปิดไฟนอนเลย นอนสวดมนต์ ขณะที่ล้มตัวนอนนิ่งๆ เพื่อกำหนดจิตให้เป็นสมาธิแล้วสวดมนต์หูก็ได้ยินเสียงเทวดากล่าวอนุโมทนาดังขึ้น ดังมากขึ้น ท่านมากันเยอะมาก เราก็สวดมนต์ไปตามปกติแล้วก็แผ่เมตตา สัพเพฯ ปรับภพภูมิ จากนั้นก็หลับไป

ฝัน...ได้พูดคุยสนทนากับผู้คน ไม่รู้จักเลยสักคน แต่ในฝันก็คุยกับเค้าทุกคน แล้วจู่ๆ เราก็แบมือซ้ายออก เห็นตัวอักษรปรากฏขึ้นกลางฝ่ามือ มีภาษาจีน 3 คำแล้วก็มีลวดลายต่างๆ ที่กลางฝ่ามือ เรายกมือขึ้นให้ผู้หญิงคนหนึ่งดู แล้วถามว่ามันแปลว่าอะไร เราอ่านไม่ออก เค้าดูแล้วก็ไม่ได้บอกเรา............จำไม่ได้แล้ว

ตื่นมายังจดจำตัวอักษรจีนทั้ง 3 ตัวนั้นได้ แต่หาคำแปลยังไม่เจอ ตื่นสายจ้ะ วันนี้ตื่นเก้าโมงเช้า เปิดมือถือมีไลน์ส่งเข้ามาอวยพรวันตรุษจีน ก็เลยอ๋อ....วันนี้เป็นวันตรุษจีน เมื่อคืนเทพเจ้าจีนคงลงมากันเยอะ

ขอถือโอกาสอวยพรให้เพื่อนคนไทยเชื้อสายจีนเลยแล้วกันนะ
幸福如意 (ซิ่งฝูหรูอี้) ... มีความสุขสมปรารถนา

 

ฝันเป็นตุเป็นตะ

เมื่อคืนไปที่แห่งหนึ่ง มีลักษณะคล้ายศาลเจ้าใหญ่ๆ พบหญิงชราชาวจีนผู้หนึ่งกำลังทำอะไรสักอย่าง เราไปเห็นดอกบัวที่ถูกห่อด้วยใบตองหรือใบบัวนี่แหละ มองไม่ชัดเป็นสีเขียวๆ ห่อหุ้มดอกบัวไว้ และดอกบัวนั้นอยู่ในหม้อต้มใบใหญ่

หญิงชราบอกกับเราว่านั่นคือยารักษาตับไต น้ำที่อยู่ในหม้อต้มนั้นคือน้ำต้มกุ้งแชบ๊วย เค้าจะเอากุ้งต้มก่อน จากนั้น นำน้ำที่ต้มกุ้งแล้วมาทำเป็นยา โดยใช้ดอกบัวเอาเฉพาะดอกมาห่อด้วยใบตองแล้วนำไปต้มในน้ำต้มกุ้งนั้นอีกครั้ง จากนั้นก็นำมาดื่มรักษาตับไต ดอกบัวที่ต้มแล้วนำมารับประทาน

ความรู้สึกบอกว่าหญิงจีนผู้นี้เป็นเซียนที่มีความเชี่ยวชาญเรื่องยารักษาโรค

ฝันนะมันคือความฝัน ฝันไปได้ไงเนี่ย

 

ฝันเยอะแยะ แต่จำมาได้แค่นิดเดียว 555

นอนก็ดึกยังจะฝันได้อีกเนาะ ที่ๆ ไป คงพูดอธิบายไม่ได้ แต่มีผู้คนเยอะแยะมากมาย เหมือนมีการประชุมงานบุญ มีหญิงคนหนึ่งเดินเอาใบบอกบุญแจก ใบบอกบุญอยู่ในซองแค่ซองเดียว แต่ข้างในมีใบบอกบุญตามจำนวนของผู้ที่มา เธอเดินแจกทุกคน มาถึงเราเธอก็มองหน้าแล้วหยิบกระดาษบอกบุญขึ้นมาดูแล้วส่งให้เรา

เรารับมาดูมีชื่อนามสกุลเราเสร็จสรรพ (เค้ารู้จักเราได้ไง งง) แต่ที่ตกใจคือใบบอกบุญระบุจำนวนเงินไว้ 200 บาท ก่อนหน้านี้เราเห็นคนอื่นๆ ส่งเงินทำบุญให้ไม่ถึงคนละ 100 บาท ก็เลยแปลกใจขอดูใบบอกบุญของคนอื่นๆ ว่าใส่จำนวนเงินเหมือนกันหรือเปล่า ไม่เหมือนค่ะ แต่ละคนได้ทำบุญไม่เท่ากัน คือทำตามที่ใบบอกบุญระบุไว้ บางคนก็ 90 บาท บางคนก็ 99 บาท

จากนั้นเราก็หยิบเงิน 200 บาทพร้อมกับใบบอกบุญนั้น เรานำมาจบอธิษฐาน อธิษฐานว่าขออำนาจพระพุทธพระธรรมพระสงฆ์จงยังบุญนี้ให้ถึงแก่เจ้ากรรมนายเวร และเมื่อใดที่ข้าพเจ้าได้ปฏิบัติธรรมนั่งกรรมฐานวิปัสสนา ก็ขอให้ได้มรรคผลทุกครั้งตามธรรมด้วยเถิด แล้วก็ส่งเงินพร้อมกับใบบอกบุญนั้นคืนให้แก่หญิงนั้นไปค่ะ

จบ...ไม่รู้เหมือนกันว่าทำบุญอะไร (ลืม) แต่ได้บริจาคทรัพย์ไปในฝันนะ

 

เจอแล้วค่ะ อักษร 3 คำนั้น จำอักษรตัวกลางได้นะ 我爱你 เป็นตัวอักษรสีแดง อยู่กลางฝ่ามือพร้อมลวดลายอ่อนช้อยเหมือนดอกไม้เป็นสีแดงเหมือนกัน

อ่านว่า หว่อ อ้าย หนี่ ฉันรักเธอ อร๊ายยยยยย...ใครมาสารภาพรักในฝันเนี่ย 555

 

มาทำนายฝันกันหน่อยเร้วววววววว...

เมื่อคืนฝันว่าได้มณีนาคาสีน้ำเงินเม็ดเล็กๆ เม็ดเดียวเจาะรูร้อยด้วยเชือกถักสีน้ำตาล ในฝันมีคนนำมาให้ดู มีอยู่ด้วยกันสามเส้น
เค้าบอกว่าเอามาให้ทำบุญเส้นละ 50 บาท เราก็ยื่นมือไปรับมาใส่ที่ข้อมือ หญิงผู้นั้นก็ร้องบอกว่าปู่มา แล้วบอกว่าเห็นมือปู่จับที่เชือกเส้นนั้นที่เราสวมอยู่ในมือ
แต่เราไม่เห็นใครเลย ก็เลยขอทำบุญด้วย 2 เส้น อีกเส้นหนึ่งเป็นมณีนาคาสีฟ้า ตั้งใจเอาไปถวายหลวงพี่ ทำบุญไปสองเส้นหนึ่งร้อยบาท....

อ้าวใกล้วันหวยออกนี่ มาๆๆๆๆ ทำนายกันหน่อย อิอิ

 

เมื่อคืนฝันจำได้ลางๆ เล่าเป็นเรื่องราวได้นิดหน่อย อิอิ

มีชายหญิงมาคุยด้วย สองคนนั้นถามว่าทำไมเดี๋ยวนี้ไม่เห็นเราปฏิบัติอะไรเลย
ไม่นั่งกรรมฐาน ไม่พิจารณาธรรม อะไรทำนองนี้อ่ะนะ ลืมบทสนทนา 555

เราตอบไปว่า ในเมื่อทุกสรรพสิ่งเราได้เห็นแล้วว่าเป็นอนัตตา ธรรมเหล่านั้นเราได้แจ้งลงไปที่ใจแล้ว
การที่กายจะปฏิบัติหรือไม่ๆ ได้หมายความว่าเราปฏิบัติหรือไม่ปฏิบัติ เพราะสิ่งนั้นเรารู้อยู่แก่ใจ พอแล้ว