ตั้งแต่รับขันธ์ 5 มา

การแก้อาถรรพ์พวกนี้ ยากง่ายแล้วแต่ระดับของเทพที่ลงมาเล่นนะครับ ผมมักเตือนเพื่อนหรือคนรู้จักที่มาถามว่า เค้าชวนไปรับขันธ์ครอยขันธ์ จะทำดีไหท ผทตอบอย่าไปครอบขันธ์ครอบครูใดๆ เลยโดยมากแก้ยาก คนเราทั่วไปปกติสติไม่บริบูรณ์อย่างพระสงฆ์ การทำงาน การเรียน การใช้ชีวิตของคนเราชาวโลก รับประกันได้ว่าสติ ไม่ได้มีตลอดเวลา แลเทพมารอันมีมิจฉาทิฏฐิ ก็ไม้ใช่คนทั่วไปๆ ที่จะรับมือได้ง่ายๆ เอาว่าเทพมีฤทธิฺมารมีฤทธิ แต่คนไม่มีฤทธิ์ แค่เวลานอนขาดสติท่านยังตายได้โดยไม่รู้ตัว ถ้ามีคนมาปาดคอเรา นี่ไปรับเค้าเข้ามา ถ้าเป็นผีโอปปาติกะระดับล่างๆ ไม่เท่าไร แต่ถ้ามาระดับเทพอสูร คือ ยักษ์ หรือเทวบุตรมาร หรือมาร ซึ่งบางตนบารมีไม่ใช่เล่นที่จะมาล้อเล่นกันได้ แค่ป้องกันมาเป็นมารขัดขวางบารมี ยังลำบาก นี่ไปรับเค้ามาให้ฝังในรูปธาตุนามธาตุในร่างกายเรานี่ลำบากหนักที่จะแก้ จะบอกว่าแก้ง่ายๆ ว่าให้สวดมนตร์ไหว้พระทำกรรมฐาน ขอบอกว่า กายเราเป็นมาร แล้วมีเทวบุตรมารมามีอำนาจเหนือกายเราอีก ท่านอย่าว่าแต่จะไหว้พระแล้วปวดหัว กรรมฐานแล้วประคองตัวและคอไม่อยู่ เค้าจะเล่นกับท่านถึงปางตาย ถ้าจิตท่านไม่เหนือกายกำลังบารมีไม่มีสะสม ลำพังท่านจะนั่งสมาธิให้ได้ฌาณ แค่อุปจารยังไม่ได้เลย แล้วเทวบุตรมารไม่ใช่ว่าจะไม่เก่ง ไม่ใช่มีฤทธิ์แค่ฤทธิ์เทพภาวะอย่างเดียวซะเมื่อไร ฌาณสมาบัติเค้าก็มี พกาพรหมยังโดนมารจัดการ เราท่านเป็นคนสามัญลำบากหนักหนา ท่านสู้กับยักษ์กับมาร พระอินทร์ยังเคยจะแพ้พ่ายยักษ์มาเลย ที่เล่ามาเพราะเคยเห็นพระท่านต้องแก้ไขเรื่องนี้กันเป็นพรรษาเลย เค้าเล่นจนญาติโยมที่ฝึกกรรมฐานที่วัดต้องปั่นป่วนเดือดร้อนหมด แล้วก็ลำบากพระท่านต้องโปรดมาช่วยกัน ตอนนั้น ผมเป็นเณรหลวงพ่อยังให้ไปเอาทรายเสก ไปโปรยวางรอบวัด ไม่ใช่ว่าเค้าจะเข้ามาในวัดไม่ได้ และแม้จะทำความป้องกันแล้ว เค้าเข้ามาไม่ได้ก็ไม่ใช่ว่าจะส่งพลังมาไม่ได้ เมื่อเค้าพ่ายต่อพุทธคุณไปแล้ว โยมอุบาสิกาที่ถูกครอบขันธ์สองคนนั้น เค้าฌาณกล้าแข็งบารมีกล้าแข็งกว่าโยมใดๆ อีก นี่แสดงว่า ต่อให้บารมีมากสะสมในอดีตมามาก แต่ถ้าโดนมารขัดขวาง เค้าแทบจะไม่ได้สมถะกรรมฐานอะไรเลย ผมยังรู้สึกเลยว่าโยมสองคนนี้ หลังจากนั้น ก้าวหน้าเร็วมากผมยังแค่เดินจงกรม นั่งสมาํธิพื้นๆ บวชเณรก่อนเค้ารับกรรมฐานก่อนเค้า แต่โยมสองคนไปไม่เห็นฝุ่นแล้ว นี่แสดงว่า อย่าลองครับ อย่าแม้แต่ลองรับขันธ์ คนมีบารมีมากสะสมมามากยังโดนจัดการได้เลย ถ้าใครเผลอไปรับแล้วการรับขันธ์นั้นเป็นมิจฉาทิฏฐิ เป็นมารไปเอาออกครับ ขอความเมตตาจากพระท่านเลย อย่าประมาท เพราะความเจริญทางธรรมของท่านอาจถูกบดบัง หรือหลอกให้หลงไม่รู้ตัว เราทุกคนถ้าไม่มีครูบาอาจารย์ ไม่มีวาสนามีครูบาอาจารย์ ก็ไปกราบพระทำบุญกับท่าน ตั้งจิตขอเอาท่านเป็นสรณะเถอะครับ คือตั้งจิตไว้ พระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบท่านจะช่วยได้เวลาเรามาทำกรรมฐานที่บ้านนะครับ แม้ไม่ได้ไปขอเป็นศิษย์อย่างจริงจัง ขอบคุณเจ้าของกระทู้ด้วยครับ จะได้ตักเตือนกัน แต่ผมไม่ทราบว่าจะมีการรับขันธ์แบบดีๆ หรือไม่นะครับ เพราะอาจมีที่แทนที่จะครอบขันธ์แบบมิจฉาทิฏฐิ อาจมีพิธีที่ช่วยส่งเสริมหรือช่วยป้องกันภูตผีมารก็ได้