ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,240
    ค่าพลัง:
    +97,149
    GeoThai.net ได้แชร์รูปภาพของตนเอง

    [​IMG]

    ตัวอย่าง รอยเลื่อนย้อน ในมองโกเลีย
    สังเกต แถบสีขาวหนาๆ ด้านขวาถูกตัดขึ้นไปเกยทับด้านซ้ายมือ เนื่องจากแรงบีบอัดภายในเปลือกโลก
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,240
    ค่าพลัง:
    +97,149
    •7 ปีกลียุค ค.ศ. 2011-2017 ในพระคัมภีร์ไบเบิ้ล
    • กลียุค 7 ปี ช่วงระยะเวลาซึ่งเต็มไปด้วยความทุกขเวทนายากลำบาก (ค.ศ.2011 - 2017)
    • พระคัมภีร์ไบเบิ้ลทำนายไว้ว่า ในอนาตคโลกจะมีช่วงระยะเวลาหนึ่ง ซึ่งเต็มไปด้วยความทุกขเวทนายากลำบาก ที่ไม่เคยปรากฎมาก่อนเลยในประวัติศาสตร์ ช่วงระยะเวลา 7 ปี ที่เรียกว่า "กลียุค 7 ปี"
    • ในครั้งนั้น มีคาเอล เทพผู้พิทักษ์ผู้ยิ่งใหญ่ ผู้คุ้มกันชนชาติของท่านจะลุกขึ้น และจะมีความยากลำบากอย่างไม่เคยมีมาก่อน ตั้งแต่ครั้งมีประชาชาติจนถึงสมัยนั้น แต่ในครั้งนั้นชนชาติของท่านจะรับการช่วยกู้ คือทุกคนที่มีชื่อไว้ในหนังสือ และคนเป็นอันมากในพวกที่หลับในผงคลีแห่งแผ่นดินโลกจะตื่นขึ้น บ้างก็เข้าสู่ชีวิตนิรันดร์ บ้างก็เข้าสู่ความอับอายขายหน้านิรันดร์ (ดาเนียล 12:1-2)
    • พระคัมภีร์กล่าวว่า ในช่วงนี้ปรปักษ์พระคริสต์จะปรากฎโฉม ชาวโลกจำนวนมากจะมองดูผู้นำคนใหม่อย่างมีความหวัง เขาอาจจะมีส่วนในการนำชาติอิสราเอล และอาหรับเข้าหากัน และอนุญาติให้ยิวสร้างวิหารขึ้นใหม่ จะมีการตกลงสันติภาพกับอิสราเอล ต่อจากนั้นสามปีครึ่ง ปรปักษ์พระคริสต์จะฉีกสัญญานั้น แล้วเข้าไปนั่งในพระวิหาร และประกาศตัวเองเป็นพระเจ้า
    • ใน 7 ปี แห่งกลียุคนี้ จะเป็นเหตุการณ์โหดร้ายทารุณสยดสยอง พรั่นพรึงอย่างน่ากลัวที่สุด จะไม่มีช่วงใดเลยในประวัติศาสตร์ ไม่ว่าอดีตหรือปัจจุบัน
    ที่จะน่ากลัวและสยองขวัญเท่ากลียุค 7 ปี พระเยซูตรัสว่า จงอธิษฐานขอ เพื่อการที่ท่านต้องหนีนั้นจะไม่ตกในฤดูหนาว หรือวันสะบาโต ด้วยว่าในคราวนั้น
    จะเกิดความทุกข์ยากใหญ่ยิ่ง อย่างที่ไม่เคยมีตั้งแต่เริ่มสร้างโลกมาจนทุกวันนี้และเบื้องหน้า จะไม่มีอีกต่อไป... ถ้ามิได้ทรงให้วันเหล่านั้นย่นสั้นเข้า
    จะไม่มีมนุษย์รอดได้เลย แต่เพราะทรงเห็นแก่ผู้เลือกสรร จึงทรงให้วันเหล่านั้นย่นสั้นเข้า (มัทธิว 24:20-22)

    จะเกิดอะไรขึ้นแก่มนุษย์โลกในระหว่างกลียุค 7 ปี พระวิวรณ์กล่าวถึง ตราเจ็ดดวง แตรทั้งเจ็ด ขันทั้งเจ็ด ทั้งหมดนี้หมายถึงหายนะภัยทั้งหลายดังต่อไปนี้

    ความหมายของตราทั้ง 7 (วิวรณ์บทที่ 6-8)

    ตราที่ 1 วิวรณ์ 6:1 หมายถึงปรปักษ์พระคริสต์ ซึ่งจะบันดาลสิ่งสารพัดเลวร้ายให้เกิดขึ้น
    ตราที่ 2 วิวรณ์ 6:3 สันติภาพสูญหายไปจากโลก เกิดสงคราม การรบราฆ่าฟันแผ่ขยายไปทั่วทั้งโลก
    ตราที่ 3 วิวรณ์ 6:5 ความอดอยากมีอยู่ทั่วไป
    ตราที่ 4 วิวรณ์ 6:7 มนุษย์ชาติตาย 1ใน 4 ด้วยคมดาบ โรคระบาด
    ตราที่ 5 วิวรณ์ 6:9 ผู้ที่มีความเชื่อในพระคริสต์ จะถูกสังหารผลาญชีวิต แต่ในที่สุดจะได้ชีวิต
    ตราที่ 6 วิวรณ์ 6:12 เกิดแผ่นดินไหว ดวงอาทิตย์อับแสง พระจันทร์สีเลือด ดาวตกลงบนแผ่นดิน บางคน เชื่อว่าเกิดแผ่นดินไหวใหญ่ เนื่องจากการยิงระเบิดนิวเคลียร์เข้าหากัน
    ตราที่ 7 วิวรณ์ 8:1 ความเงียบเข้าครอบคลุมสวรรค์นานครึ่งชั่งโมง ตราดวงนี้จะขยายให้เห็นแตรอีก 7 อันข้างหน้า

    ความหมายของแตรทั้ง 7 (วิวรณ์บทที่ 8-11)
    • แตรที่ 1 ลูกเห็บและไฟตก เกิดความเสียหายมากมาย ต้นไม้ 1 ใน 3 ของโลกไหม้ หญ้าเขียวสดไหม้หมดสิ้น
    แตรที่ 2 ทะเลถูกทำลายลง 1 ใน 3 ของสัตว์น้ำตาย เรือสินค้าทั่วโลกถูกทำลาย 1 ใน 3
    แตรที่ 3 คนจำนวนมากตายเนื่องจากน้ำมีสารพิษเจือปน
    แตรที่ 4 ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ถูกทำลาย 1 ใน 3 เป็นเหตุให้อุณภูมิผันแปรอย่างหนัก
    แตรที่ 5 ซาตานซึ่งจะใช้อำนาจของมัน ทรมานคนที่ไม่มีเครื่องหมายของพระเจ้า หรือคนที่ไม่ได้รับความรอด
    แตรที่ 6 มนุษย์ชาติ 1 ใน 3 จะต้องตายลงอีก ในจำนวนนั้นเป็นทหารถึง 200 ล้านคน
    แตรที่ 7 ราชอาณาจักรในโลกนี้จะกลับเป็นอาณาจักรของพระเยซูคริสต์ แล้วพระองค์จะครอบครองเป็นนิจนิรันดร์

    ในระหว่างนี้ ปรปักษ์พระคริสต์จะก้าวขึ้นมาแสดงตัวมีบทบาทสำคัญยิ่ง มนุษย์ชาติต่างเกรงกลัวฤทธิ์เดชานุภาพของมัน และยอมตัวเป็นบริวาร
    เป็นทาสรับใช้ มนุษย์ที่เหลือต่างปล่อยตัวมัวเมาในกามกิเลสตัณหา และความชั่วร้าย สุดที่จะพรรณนา จนกระทั่งทูตสวรรค์ต้องนำขันแห่งพระพิโรธ 7 ใบ เทบนโลก

    ความหมายของขันทั้งเจ็ด มีดังนี้ (วิวรณ์บทที่ 16)

    ขันที่ 1 เกิดโรคระบาด เป็นแผลร้ายที่ร้ายกาจเสียยิ่งกว่ามะเร็ง แผลหนองทั่วไป
    ขันที่ 2 สิ่งมีชีวิตในทะเลตายหมด เพราะน้ำทะเลเน่าเหม็นเหมือนเลือดของคนตาย
    ขันที่ 3 น้ำจืดกลายเป็นเลือด และมนุษย์ต้องดื่มเลือดแทนน้ำ
    ขันที่ 4 ความร้อนแรงของแสงอาทิตย์ แผดเผาแผ่นดินโลกจนแห้งกรอบ มนุษย์กลับยิ่งแช่งด่าพระเจ้า
    ขันที่ 5 มนุษย์ได้รับการทรมานอย่างแสนสาหัส ขนาดต้องกัดลิ้นตัวเอง เพราะบาดแผลร้ายทั่วตัวแต่พวกเขาก็ยังไม่สำนึกผิด
    ขันที่ 6 การเตรียมตัวของซาตานมารร้าย เพื่อทำสงครามโลกครั้งสุดท้าย คือสงครามอาร์มาเกดโดน มันจะเข้าหาผู้นำประเทศต่างๆ เพื่อบังคับแกมขอร้องให้เข้าร่วมเป็นพันธมิตร
    ขันที่ 7 เกิดวิบัตินานาชนิด แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่สุดที่โลกเคยประสบ ลูกเห็บก้อนใหญ่ขนาดก้อนละ 50 กิโลกรัมตกลงมา คนจำนวนมากจะตาย ทรัพย์สินเสียหายเหลือคณานับ เกาะทั้งเกาะจะจมหาย

    ที่มา
    ����ؤ 7 �� ��ǧ��������˹�� ������仴��¤���ء��Ƿ���ҡ�Ӻҡ - Dek-D.com > Board
    • ทำความเข้าใจ พ.ศ. ที่ใช้อยู่ปัจจุบัน ที่ถูกต้อง หลักฐานสำคัญในพุทธทำนายจากศิลาจารึก จึงทำให้เชื่อได้ว่า พ.ศ. ที่เราใช้ในปัจจุบันนั้น เร็วเกินจริงไป 48 ปี (สี่สิบแปดปี) อ่านต่อข้อ 1

    1. ทำไม พ.ศ. ปัจจุบันจึงเร็วไป 48 ปี โดยต้องยึดถือเอาพุทธทำนายจากศิลาจารึกเป็นหลัก ที่มีบางตอนได้กล่าวไว้ดังนี้

    เมื่อศาสนาของอาตมาล่วงมาได้
    - ล่วงได้ ๒๕๐๗ (ปีมะโรง) คนเปลี่ยนสภาพเดินเป็นคลาน ....(ทำไมจึงคลาน)
    - ล่วงได้ ๒๕๐๘ (ปีมะเส็ง) ตลิ่งจะพัง แผ่นดินถิ่นอธรรมจะถล่มเป็นทะเล ....(ศึกษารายละเอียด)
    - ล่วงได้ ๒๕๑๒ (ปีระกา) เมืองมนุษย์จะมืด ๗ วัน ๗ คืน โลกดิ่งสู่ความหายนะ

    ในปีนี้เป็นปี พ.ศ. 2555 (ปีมะโรง) ถ้าเรานับตามความเป็นจริง คือลดจำนวนปีลงมา 48 ปี ก็จะเป็นปี พ.ศ.2507 (ปีมะโรง) เมื่อนำมาเทียบกับปี พ.ศ. ที่ตรงกับปีนักษัตรในพุทธทำนายพอดี

    เช่นในพุทธทำนายได้กล่าวเอาไว้ว่า ปี พ.ศ.2512 (ปีระกา) เมืองมนุษย์จะมืด 7 วัน 7 คืน เมื่อเราเอาปี พ.ศ.2560 มาลดจำนวนปีลง 48 ปี ก็จะได้เป็นปี พ.ศ.2512 ซึ่งตรงกับปีระกาในพุทธทำนายอย่างไม่มีผิดเพี้ยน

    โดยเหตุการณ์จะเริ่มก่อตัวในปี ค.ศ.2012 (พ.ศ. 2555 - 48 = 2507) และไปถึงจุดสิ้นสุดในปี ค.ศ.2017 (พ.ศ. 2560 - 48 = 2512)
    - ล่วงได้ ๒๕๑๒ (ปีระกา) เมืองมนุษย์จะมืด ๗ วัน ๗ คืน โลกดิ่งสู่ความหายนะ ซึ่งจะตรงกับปี ค.ศ.2017 (พ.ศ. 2560) ในปัจจุบัน
    • เมื่อวิเคราะห์รายละเอียด ของพระคัมภีร์ไบเบิ้ล และพุทธพยากรณ์ ภัยพิบัติต่างๆ ที่จะเกิด ในช่วงระยะ 7 ปี แห่งกลียุค จะตรงกันทั้ง 2 คำพยากรณ์เมื่อทำความเข้าใจ พุทธศักราชที่ถูก
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,240
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ทวีปเลื่อน

    [​IMG]

    นักธรณีวิทยาตระหนักมานานแล้วว่า โลกมีแหล่งพลังงานอยู่ภายใน พลังงานภายในเหล่านี้ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของเปลือกโลกเช่น แผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด และการเกิดภูเขา และเมื่อประมาณ 40 ปีมาแล้ว นักธรณีวิทยาเพิ่งจะเข้าใจว่าปรากฏการณ์ต่าง ๆ เหล่านี้ สามารถอธิบายได้ด้วยทฤษฎีเพียงหนึ่งทฤษฎี นั่นคือ ทฤษฎีการเคลื่อนที่ของแผ่นเปลือกโลก (plate tectonics) ทฤษฎีการเคลื่อนที่ของแผ่นเปลือกโลก (plate tectonics) สามารถอธิบายการเกิดทวีป การเกิดแอ่งมหาสมุทร การเกิดแผ่นดินไหว การเกิดภูเขา และการเกิดภูเขาไฟของโลกได้ ซึ่งสิ่งต่างๆ เหล่านี้เป็นผลมาจากการก่อรูป (formation) การเย็นตัว (cooling) และการกร่อนตัว (destruction) ของชั้นธรณีภาคชั้นนอก (lithosphere) ของโลก และทฤษฎีนี้ยังสามารถอธิบายได้ว่าทำไมลักษณะทางกายภาพของโลกจึงต่างจากดวงจันทร์ ดาวอังคาร และดาวพุธ

    การเคลื่อนที่ของแผ่นเปลือกโลกเกิดโดยพลังงานภายในของโลก ซึ่งโลกเป็นดาวเคราะห์เพียงดวงเดียวจากดาวเคราะห์คล้ายโลก (terrestrial planet) ที่ ?ยังไม่ตาย? ทางธรณีวิทยา การเคลื่อนที่ของแผ่นเปลือกโลกเกิดจากการที่สสารในชั้นฐานธรณีภาค (asthenosphere) เกิดการพาจากความร้อนภายในโลก การเคลื่อนตัวของชั้นฐานธรณีภาคทำให้ชั้นธรณีภาคชั้นนอก (lithosphere) เกิดการเคลื่อนตัวไปด้วย และทำให้ธรณีภาคชั้นนอกแตกเป็นแผ่นๆ เรียกว่าแผ่นเปลือกโลก (crustal plates)

    เมื่อแผ่นเปลือกโลก (crustal plates) เหล่านี้เคลื่อนที่ มันก็จะพาทวีปของโลกเคลื่อนที่ไปด้วย การเคลื่อนที่ของแผ่นเปลือกโลกเหล่านี้ทำให้มหาสมุทรแอตแลนติกขยายกว้างออกไปเรื่อยๆ ด้วยอัตราประมาณ 3 เซนติเมตรต่อปี นักธรณีวิทยาเชื่อว่า ถ้าย้อนเวลากลับไป ทวีปต่างๆ ของโลกยังไม่ได้แยกออกจากกัน ซึ่งยังเป็นแผ่นทวีปใหญ่แผ่นเดียวที่เรียกว่า one giant supercontinent ที่เรียกว่า พันเจีย (Pangaea) และเมื่อประมาณสองร้อยล้านปีที่แล้ว พันเจียได้เคลื่อนตัวออกจากกันเป็นสองส่วนคือ ผืนแผ่นดินลอเรเซีย (Laurasia) และ ผืนแผ่นดินกอนด์วานา (Gondwanaland) ต่อมาผืนแผ่นดินกอนด์วานา ได้แยกออกเป็นอีกสองส่วนคือ ทวีปอเมริกาเหนือ และทวีปแอฟริกา ในขณะที่ผืนแผ่นดินลอเรเชีย ได้แยกออกเป็นยุโรป (Eurasia) และทวีปอเมริกาเหนือ

    ขอบของแผ่นเปลือกโลกเป็นบริเวณที่จะเกิดกิจกรรมทางธรณีวิทยา เช่นภูเขาไฟ การเกิดภูเขา และมักมีแผ่นดินไหวบ่อย ๆ เช่น เมื่อแผ่นเปลือกโลกสองแผ่นเคลื่อนที่มาชนกัน โดยที่แผ่นหนึ่งเป็นแผ่นเปลือกโลกภาคพื้นทวีป (continental crust) และอีกแผ่นเป็นเปลือกโลกใต้มหาสมุทร (oceanic crust) ขอบของแผ่นเปลือกโลกภาคพื้นทวีปซึ่งเบากว่าจะอยู่บนขอบของแผ่นเปลือกโลกใต้มหาสมุทรซึ่งหนักกว่า และจะเกิดเขตมุดตัวของเปลือกโลก (subduction zone) ขึ้นด้วย
    ถ้าแผ่นเปลือกโลก (crustal plates) ที่เคลื่อนที่มาชนกันนั้นมีทวีปอยู่ด้วย คือเป็นการชนกันของแผ่นเปลือกโลกภาคพื้นทวีปสองแผ่น จะไม่มีแผ่นใดอยู่บนและแผ่นใดอยู่ล่าง แต่มันจะเกิดภูเขาขึ้นมาแทนอย่างเช่น ภูเขาหิมาลายา หลักฐานที่ทำให้นักธรณีวิทยาเชื่อว่าเมื่อก่อนทวีปต่างๆ ของโลกเคยเป็นทวีปเดียวกันมาก่อนนั้นเช่น การพบพืชและฟอสซิลของสัตว์ที่มีอายุประมาณเดียวกัน บนบริเวณฝั่งของทวีปสองทวีป เช่น การค้นพบฟอสซิลของจระเข้น้ำจืดในประเทศบราซิล และแอฟริกาใต้ เป็นต้น

    [​IMG]

    ขอขอบคุณ ข้อมูลเรื่อง ทวีปเลื่อนจากเว็บไซค์ : http://www.thaispaceweather.com/IHY/Earth/Earth_continental_drift.htm
    http://gracezone.org/index.php/-2012/1114-crustal-plates
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,240
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Urasian Tongue Folding http://www.ainews1.com/article796.html

    [​IMG]

    ผลของแผ่นดินไหวแต่ละคราวนั้น เกิดจากชั้นหินใต้เปลือกโลกได้รับแรงกดดันอย่างหนักจนกระทั่งแตกหัก ซึ่งผู้เชี่ยวชาญด้านธรณีวิทยา เช่นคุณ Zeta ได้วิเคราะห์ข้อมูลจากแผ่นดินไหว บ่งชี้ให้เห็นว่า ส่วนยื่นลักษณะคล้ายลิ้นของแผ่นยูเรเซี่ยน ที่ยื่นลงมาทางใต้ ไปชนกับแผ่น อินโด-ออสเตรเลีย ซึ่งเป็นแผ่นเปลือกโลกที่มีขนาดใหญ่แผ่นหนึ่ง และแผ่นเปลือกโลกแผ่นนี้กำลังเคลื่อนตัวมากดทับลิ้นของยูเรเชี่ยน ที่ประเทศอินโดนีเซียทั้งประเทศตั้งอยู่ และปรากฏว่ามีหลายๆพื้นที่ของเกาะต่างๆได้เริ่มจมอยู่ใต้น้ำถาวรแล้ว

    และเมื่อวันที่ 19 ธ.ค. 2010 ตามรายงานติดตามแผ่นดินไหวของสหรัฐฯ ได้เกิดแผ่นดินไหวค่อนข้างรุนแรง 3 แห่งในแนวขวางกับลิ้นยูเรเชี่ยนนี้ ที่พาดผ่านเหนือเกาะสุมาตราไปตลอดความกว้างของลิ้นยูเรเชียนไปทางทิศตะวันออก ขึ้นในเวลาเดียวกัน อันบ่งบอกอาการหักพับและจมลงมากขึ้นครั้งสำคัญ ของลิ้นยูเรเชี่ยนส่วนปลาย ที่เป็นที่ตั้งของประเทศอินโดนีเซีย

    บริเวณเหนือพื้นที่เกาะชะวา ฝั่งตะวันออกใกล้กรุงจาร์การ์ต้า ที่ปรากฏว่าได้เอียงและจมน้ำถาวรมาแล้วระยะหนึ่ง และการทรุดจมของแผ่นดินบนเกาะนี้ และเกาะอื่นๆของประเทศอินโดนีเซีย กำลังทรุดตัวต่อเนื่อง ซึ่งคุณ Zeta ได้พยากรณ์เอาไว้ล่วงหน้านานร่วม 10 ปีแล้ว ว่าแผ่นเปลือกโลกที่ประเทศอินโดนีเซียตั้งอยู่จะทรุดตัวเฉลี่ยประมาณ 80 ฟุตค่อยๆทรุดตัวก่อนที่โลกจะย้ายขั้ว
    ผลของแผ่นดินไหว 3 จุด เมื่อ 19 ธ.ค. 2010 เวลา 13.00.41 จุดแรกที่เหนือเกาะสุมาตรา จุดที่ 2 เกาะในฟิลิบปินส์ และจุดที่ 3 บริเวณเกาะมาเรียน่าซึ่งอยู่ทางทิศตะวันออกของหมู่เกาะฟิลิบปินส์ ทั้ง 3 จุดจะเรียงตัวกันเป็นแนวเส้นตรงตลอดความกว้างของส่วนลิ้นของยูเรเซี่ยน...เป็นแนวหักพับของปลายแผ่นเปลือกโลกส่วนนี้ เป็นอีกปรากฏการณ์หนึ่งที่คุณ Zeta ได้พยากรณ์เอาไว้ว่าพื้นที่ประเทศอินโดนีเซียเกือบทั้งหมดยกเว้นบริเวณยอดเขาสูง จะทรุดตัวมากที่สุดของแผ่นลิ้นยูเรเซียนนี้ ถัดขึ้นมาเป็น มาเลย์เซีย สิงค์โปร์ 60 ฟุต โซนประเทศไทย 40 ฟุต และประเทศจีนตอนใต้ตั้งแต่เมืองหังซู่อยู่เหนือเกาะฮ่องกงขึ้นไปติดริมทะเลลงมาจะทรุดตัวเฉลี่ยประมาณ 20 ฟุต ส่วนฮ่องกงและฟิลิบปินส์ อัตราทรุดตัวใกล้ๆกับประเทศไทย
    ในประเทศที่แผ่นดินเริ่มทรุดตัว จะสังเกตได้ว่าน้ำจะเริ่มท่วมมากขึ้นโดยลำดับ ทั้งจากน้ำฝนและน้ำทะเล ในกรณีน้ำฝน บริเวณที่ทรุดตัวเป็นแอ่งอยู่ก่อนฝนตกน้ำจะเอ่อท่วมบริเวณนั้นอยู่นานกว่าปกติ เนื่องจากระบายน้ำสู่ท้ายน้ำได้ช้าและบางส่วนจะขังอยู่แม้ว่าจะไม่มีน้ำฝนมาเพิ่มแล้วก็ตาม เช่นเดียวกับที่ปรากฏที่ปากีสถานในบริเวณที่แผ่นดินทรุดตัว 10 ฟุต น้ำจะท่วมถาวรอยู่อย่างนั้นไม่ระบายออกลงแม่น้ำฮินดัสออกสู่ทะเล ซึ่งทางนาสซ่าได้ออกมายอมรับหลังจากเวลาได้ผ่านพ้นไปร่วมปี ถึงแม้ว่าคุณ Zeta ได้รายงานล่วงหน้าก่อนที่จะเกิดขึ้นแล้วก็ตาม...กรณีของบริเวณปลายแผ่นยูเรเซี่ยนนี้ก็เช่นเดียวกัน แต่จะเกิดขึ้นรุนแรงกว่าที่ประเทศปากีสถาน

    ปากีสถานตั้งอยู่บนแผ่นเปลือกโลกเดียวกันกับประเทศอินเดียทั้งประเทศตั้งอยู่ รวมทั้งเนปาล บังคลาเทศ และภูฏาน ระหว่างที่โลกกำลังย้ายขั้วแผ่นฮิมมาลายานซึ่งภูเขาหิมาลัยตั้งอยู่จะกดทับแผ่นอินเดียให้จมลงทั้งหมดภายในพริบตาเท่านั้น ส่งผลให้น้ำจากมหาสมุทรต่างๆไหลมาแทนที่ว่างและปะทะกันรุนแรงเกิดคลื่นสึนามิขนาดใหญ่ ออกไปยังพื้นที่ประเทศใกล้เคียงและข้ามมาทางอ่าวไทย ส่งผลให้น้ำท่วมพื้นที่ชายฝั่งของประเทศไทยทั้งหมด....(ในประเด็นนี้เคยได้รับฟังข่าวจากท่านผู้มีญานทัสสนะบอกเอาไว้หลายปีแล้ว เพิ่งมาทราบวงรอบของภัยพิบัติจากคุณ Zeta ในภายหลัง)

    [​IMG]
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,240
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ทีนี้มารับทราบความรู้ใหม่ น้ำแข็งขั้วโลกและเกลเซียละลายเนื่องด้วยเหตุใด?
    มีผู้อยากรู้ถามเข้ามาที่ Zetatalk จึงได้รับคำตอบว่า น้ำแข็งที่ละลายหายไปนั้นละลายจากส่วนที่ติดกับพื้นโลก หรือละลายจากด้านใต้ขึ้นมา ไม่ได้ละลายเพราะโลกร้อน นี่เองจึงเป้นเหตุให้ปลาวาฬนำร่อง และปลาโลมาว่ายน้ำหนีมาเกยหาด ที่ทางเกาะทาสมาเนีย และตายไป 400 กว่าตัวแล้ว ปรกติสัตว์เหล่านี้จะอาศัยอยู่ทางขั้วโลกใต้...ชาวโลกคงจะต้องปรับความคิดนึกในโร่องโลกร้อนใหม่ว่าสาเหตุมันไม่ได้ร้อนมาจากภาวะเรือนกระจกซักเท่าใด เนื่องจากอากาศข้างบนเย็นจัด แต่ศาตราจารย์ที่แอลเอ พบว่าในอวกาศเวลากลางคืนร้อนกว่าตอนกลางวันเสียอีก เนื่องจากมีวัตถุชิ้นเล็กๆเกิดการระเบิดตลอดเวลา ฝุ่นเล็กๆเหล่านั้นมาจากอวกาศที่โลกและสุริยจักรวาลกำลังโคจรตะลุยเข้าไปในเมฆอนุภาคเหล่านี้ ซึ่งน่าจะกินเวลาอีกหลายปีกว่าจะหลุดพ้นออกไปได้
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,240
    ค่าพลัง:
    +97,149
    รอยแยกนิวแมดริด ในอเมริกากลาง....กับสัญญาณเตือนล่วงหน้า

    มีชาวอเมริกันถามถึง อาจจะเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในแถบ นิวแมดริด ในอเมริกากลาง ขอคำแนะนำว่าจะสังเกตเหตุล่วงหน้าได้อย่างไรบ้าง ซึ่งในภาคธรณีวิทยายังไม่สามารถทำนายได้ล่วงหน้า คุณ Zeta ตอบเรื่องนี้ว่า ให้สังเกตสัตว์เลี้ยงจะมีอาการกระวนกระวายผิดปกติ และสัญญาณคลื่นวิทยุจะถูกรบกวนเป็นระยะ
    เมื่อชั้นหินใต้เปลือกโลกที่ถูกแรงบีบอัดรุนแรง ก่อนการแตกหักจะส่งคลื่นแม่เหล็กความถี่ต่ำออกมาก่อน ให้สัตว์เลี้ยงสัมผัสได้ และตัดคลื่นวิทยุ ส่วนอีกสัญญาณก่อนเกิดแผ่นดินไหวอาจได้ยินเสียงบูมของการระเบิดของกาซมีเทนที่ดันขึ้นมาจากเปลือกโลก ส่วนชาวเชียงรายได้ยินเสียงลั่นดัง 'ตึง' ก่อนที่แรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวที่เกิดในพม่าห่างชายแดนไทย 75 กิโลเมตรจะมาถึง และบางคนล้มลงทั้งยืน เมื่อได้รับแรงโยกโคลงของแผ่นดินไหว ที่มีรายงานเข้ามาทีเว็บพลังจิต...(กรณีนี้ได้รับผลกระทบทั้งแรงสั่นไหวโยกโคลงของแผ่นดินไหวและสูญเสียแรงโน้มถ่วงของโลกชั่วขณะระหว่างที่คลื่นแม่เหล็กความถี่ต่ำเกิดขึ้น)

    โดย 10 วัน ก่อนเกิดเหตุแผ่นดินไหวใหญ่ในจีนเมื่อปี 2551 มีสัญญาณจากธรรมชาติหลายอย่างด้วยกันคือ

    เกิดหนองน้ำใหม่

    หนองน้ำประหลาด ? ก่อนหน้าเกิดเหตุแผ่นดินไหว 2 สัปดาห์ หรือ 14 วันในเขต Enshi ห่างจากเมือง Wuhan ประมาณ 400 กิโลเมตร ชาวบ้านรายงานไปยังหนังสือพิมพ์ว่า อยู่ๆ วันหนึ่ง ตื่นมาตอนเช้าก็พบหนองน้ำประหลาด ไม่รู้ใครมาขุดตั้งแต่เมื่อไหร่

    เพียงแต่ช่วงบ่ายๆ ก่อนหน้าวันนั้น ชาวบ้านได้ยินเสียงครืนๆ แปลกๆ อยู่รอบๆ หมู่บ้าน สัก 4 ชั่วโมงได้ แต่ก็ไม่ได้คิดอะไร จนกระทั่งมาเจอบ่อที่ค่อยๆ มีน้ำผุดขึ้นมาเรื่อยๆ และจุได้ถึง 80,000 ตันเลยทีเดียว

    เมื่อถ่ายรูปหนองน้ำที่ยังแห้งผากลงข่าวในหนังสือพิมพ์เรียบร้อยแล้ว ไม่กี่วันถัดมา นักวิจัยที่กลับมาสำรวจก็ต้องอึ้งเมื่อพบว่าน้ำเต็มบ่อ แถมยังมีปลาตัวใหญ่เบ้อเร่อให้ชาวนาได้จับไว้กินอีกด้วย (เกิดเหตอย่างนี้ ใครบ้างที่ได้พบค่อนข้างแฮบปี้ทีเดียว ไม่ต่างอะไรกับน้ำทะเลลด จนปลาดิ้นกระแด่วๆ พาให้ผู้คนหลงไหล ไปไล่จับปลา จนตัวตาย เมื่อคลื่นใหญ่ วิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว เป็นหน้ากระดาน)

    [​IMG]

    เมื่อสัตว์เคลื่อนทัพ ? หลายวันก่อนแผ่นดินไหว บริเวณที่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 60 ไมล์ มีคนตื่นตะลึงกับจำนวนผีเสื้อนับล้านตัว ที่พากันบินว่อน เกาะกลุ่มเคลื่อนทัพราวกับว่าจะย้ายที่อยู่อาศัยไปไหนก็ไม่รู้

    หลายวันถัดมา คือ วันที่ 9 พฤษภาคม 2551 ก่อนหน้าเกิดเหตุ 4 วัน ในมลฑล Jiangsu ก็พบฝูงกบนับพัน พากันออกจากทุ่งนามาข้ามถนนอย่างไม่กลัวตาย
    ในข่าวบอกว่าหลังจากบันทึกภาพไว้แล้ว พวกมันก็โดนรถทับเละ ไม่รู้ว่ามีกี่ตัวที่อพยพได้สำเร็จ (รูป) กบนับหมื่นตัวพากันข้ามถนนในจีน ในวันที่ 9 พฤษภาคม 2551 ก่อนเกิดแผ่นดินไหว 2 วัน

    [​IMG]

    แพนด้าไดเอท

    ภาพหมีแพนด้าที่ถูกบันทึกว่ามีท่าทีเศร้าสร้อยและไม่ยอมกินไม้ไผ่อาหารโปรด

    [​IMG]

    ภาพกบสามตัวที่เกาะกันแน่นไม่ยอมปล่อย รอดชีวิตอยู่ภายใต้เศษหินจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว

    [​IMG]

    เมฆก่อนแผ่นดินไหว เรื่องเมฆแผ่นดินไหว ตามทฤษฎีของ Zhonghao Shou นักเคมีชาวจีนที่ศึกษามานานมาก จนยืนยันว่า 70% ของก้อนเมฆที่ถ่ายรูปไว้ มีแผ่นดินไหวเกิดขึ้นตามมา
    ในเหตุการณ์นี้ก็เหมือนกัน มีนักถ่ายภาพคนหนึ่งถ่ายรูปเมฆเอาไว้เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2551 ก็คือ 2 วันก่อนแผ่นดินไหว ในบริเวณ Linyi มณฑฉาตง (Shandong)

    จากนั้นเขาเอาภาพเหล่านี้ไปแปะไว้ในเวบไซต์ http://www.daqi.com/
    และ วิเคราะห์กันว่า เมฆประเภทคลื่นนี้ เป็นเมฆแผ่นดินไหวที่ชัดเจนที่สุดภาพหนึ่งทีเดียว มันมีลักษณะการเรียงตัวเป็นคลื่นและมีเส้นแสงบนเมฆ

    นอก จากนี้ ยังมีปรากฏการณ์แสงรุ้งบนก้อนเมฆ หรือ “เมฆเรืองแสง” ที่มณฑลชานซี ที่ฮือฮาในข่าวอยู่หลายวัน ซึ่งปรากฏอยู่บนท้องฟ้า 30 นาทีถึง 10 นาทีก่อนเกิดเหตุ ตอนนี้ 200 กว่าเวบไซต์มีการพูดคุยเรื่องลางสังหรณ์เหล่านี้ทั้งอย่างวิเคราะห์
    และ บางคนเชื่อว่า นี่คือลางบอกเหตุที่ชัดเจนมากๆ และบอกด้วยว่า ในช่วงหลายวันก่อนเกิดเหตุนั้น นาย Li Shihui นักวิทยาศาสตร์ของจีนได้ทำนายและตั้งข้อสังเกตเหล่านี้ในเวบบล็อกของเขาว่า น่าจะเกิดเหตุแผ่นดินไหวในสเกลที่ใหญ่ว่า 7.0 ริกเตอร์เป็นแน่แท้ จึงมีการเตือนให้รับมือครั้งใหญ่ แต่ทว่าในช่วงเวลานั้น ไม่มีใครสนใจมากนัก
    แผ่นดินไหว 6.9 ริคเตอร์ ในมณฑลชิงไห่ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศจีน ติดกับเขตปกครองตนเองทิเบต เมื่อเช้าวันพุธที่ผ่านมา ได้รับรายงานตัวเลขผู้เสียชีวิตแล้ว 400 ศพ บาดเจ็บอีกกว่าหมื่นคน เผยความเสียหายกินอาณาบริเวณกว้าง ขณะที่ทางการระดมกำลังทหารเข้าไปช่วยเหลือพื้นที่ประสบ ภัยแล้ว

    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจาก กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 14 เม.ย. ว่า สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐแจ้งว่า เมื่อเวลาประมาณ 07.49 น. เช้าวันพุธตามเวลาท้องถิ่น หรือ 06.49 น. เช้าวันเดียวกันตามเวลาในประเทศไทย ได้เกิดแผ่นดินไหววัดแรงสั่นสะเทือนได้ 6.9 ริคเตอร์

    โดยมีจุดศูนย์กลางอยู่ลึกลงไปใต้ดิน 46 กม. และอยู่ห่าง 380 กม.ทางทิศใต้ถึงตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองโกลมุด ในเขตมณฑลชิงไห่ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศจีน และติดกับเขตปกครองตนเองทิเบต

    อย่างไรก็ตาม สำนักงานตรวจวัดแผ่นดินไหวของจีน ระบุว่า แรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหวครั้งนี้วัดได้ 7.1 ริคเตอร์ และ ยังสร้างความเสียหายเป็นบริเวณกว้าง เช่นรอยร้าวกับตัว เขื่อนด้วย

    เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเปิดเผยกับสำนักข่าวซินหัวของทางการจีนว่า บ้านเรือนราษฎรที่สร้างจากอิฐและไม้ได้รับความเสียหายพังถล่มลงมา เพราะอยู่ใกล้จุดศูนย์กลางแผ่นดินไหว

    โดยเฉพาะที่เมืองจี้กู คิดเป็นตัวเลขประมาณร้อยละ 85 ของบ้านเรือนราษฎรที่พังถล่มลงมา อาคารใหญ่ เช่น โรงแรมยูซู สูง 4 ชั้นมีรอยร้าวเกิดขึ้น และโรงเรียนอาชีวะแห่งหนึ่งพังถล่มลงมา

    มีเด็กนักเรียนติดอยู่ใต้ซากปรักหักพัง ส่วนสถานีโทรทัศน์ซีทีทีวี ของทางการจีน รายงานการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่หน่วยสถานการณ์ฉุกเฉินของมณฑลชิงไห่ว่า ได้รับรายงานตัวเลขผู้เสียชีวิตแล้ว อย่างน้อย 400 ศพ และบาดเจ็บอีกกว่า 10,000 คน

    โฆษกหน่วยสถานการณ์ฉุกเฉินของมณฑลชิงไห่ แถลงว่า กำลังทหาร 700 คน ได้รับคำสั่งให้เดินทางมาช่วยเหลือในปฏิบัติการกู้ภัย เพื่อค้นหาผู้รอดชีวิตใต้ซากปรักหักพังแล้ว และจะเสริมกำลังทหารอีก 1,000 คน

    แต่ก็มีอุปสรรคตรงที่ยังขาดอุปกรณ์การขุด รวมถึงเครื่องเวชภัณฑ์ นอกจากนั้น ความเสียหายที่เกิดกับระบบสาธารณูปโภคเช่น ถนนหนทาง ซึ่งถูกดินถล่มลงมาปิดเส้นทาง กลายเป็นอุปสรรคอีกเช่นกัน สำหรับการจัดส่งความช่วยเหลือเข้าไปในพื้นที่ประสบภัย

    โดยทางกระทรวงกิจการพลเรือนของจีนแจ้ง ว่า เตรียมส่งเต็นท์ 5,000 หลัง ผ้าห่ม 50,000 ผืน และ ผ้าปูนอน 50,000 ผืนไปช่วยเหลือผู้ประสบภัย

    สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐระบุด้วยว่า เกิดอาฟเตอร์ช็อกหรือแรงสั่นสะเทือน ตามหลังแผ่นดินไหวหลายครั้งในพื้นที่ประสบภัยแผ่นดินไหวรุนแรงของมณฑลชิงไห่ วัดแรงสั่นสะเทือนสูงสุดได้ที่ 5.8 ริค เตอร์ แรงสั่นสะเทือนยังรับรู้ได้ในพื้นที่ใกล้เคียง

    อาทิ เขตปกครองตนเองทิเบต เจ้าหน้าที่ศูนย์เครือข่ายแผ่นดินไหวของจีนในกรุงปักกิ่ง เกรงว่าจะมีอาฟเตอร์ช็อกเกิดขึ้นอีกหลายครั้งในช่วงหนึ่งถึงสองวันนี้

    ผู้สื่อข่าวพยายามติดต่อไปยังรัฐบาลท้องถิ่น ภาคธุรกิจ และ สนามบินในเขตยูซูของมณฑลชิงไห่ ใกล้กับศูนย์กลางแผ่นดินไหว แต่ไม่ได้รับคำตอบ ซึ่งทางสื่อมวลชนของจีนแจ้งว่า การสื่อสารกับสนามบินถูกตัดขาด และเส้นทางสัญจรทางบกไปยังสนามบินก็ได้รับความเสียหายเช่นกัน

    [​IMG]
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,240
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ททท. เตรียมเสนอ คสช. พิจารณาวันหยุด
    เรื่องโดย Nation TV
    วันที่ 27 พฤษภาคม 2557 12:30 น.31,708 views
    ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ธวัชชัย อรัญญิก บอกว่า ททท.จะร่วมประชุมกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เสนอคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ผ่านกระทรวง เพื่อให้พิจารณาวันที่ 11 สิงหาคม ซึ่งตรงกับวันจันทร์ เป็นวันหยุดราชกาชการ
    เพราะวันที่ 12 สิงหาคม ซึ่งตรงกับวันอังคารและเป็นวันหยุดราชการอยู่แล้ว เพื่อให้มีวันหยุดยาวต่อเนื่อง 9-12 สิงหาคม เพื่อเป็นการกระตุ้นให้คนไทยท่องเที่ยวมากขึ้น

    พร้อมกันนี้ ผู้ว่าฯ ททท. ยังบอกอีกว่า ททท.จะหารือร่วมกับกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และหน่วยงานท่องเที่ยวที่เกี่ยวข้อง เสนอ คสช. พิจารณาขยายเวลาการห้ามออกจากเคหสถานเวลาค่ำคืน หรือ เคอร์ฟิว เพื่อให้นักท่องเที่ยวสามารถเที่ยวได้ตามปกติ โดยเฉพาะพื้นที่ท่องเที่ยว คาดว่าพื้นที่ดังกล่าวไม่น่าจะมีปัญหาทางการเมือง หรือกระทบต่อความมั่นคง

    รวมทั้ง จะขอให้ คสช.พิจารณาย้ายกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาที่สังกัดจากฝ่ายสังคมและจิตวิทยา ไปอยู่ภายใต้การดูแลของฝ่ายเศรษฐกิจ เนื่องจากมองว่ากระทรวงฯ และททท.ทำงานร่วมกับภาคธุรกิจท่องเที่ยวและเกี่ยวเนื่องกับเศรษฐกิจมาโดยตลอด หากได้อยู่ฝ่ายเดียวกับภาคท่องเที่ยวเอกชนจะทำให้การประสานงานประสบความสำเร็จและขับเคลื่อนได้ดีมากขึ้น

    ททท. เตรียมเสนอ คสช. พิจารณาวันหยุด - Nation TV
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,240
    ค่าพลัง:
    +97,149
    โอบามาเตรียมเดินหน้าหนุน “กบฏซีเรีย” เต็มสูบ หวัง “โค่นอำนาจอัสซาด-ตั้งรบ.ใหม่ที่เชื่อฟังมะกัน” โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 28 พฤษภาคม 2557 07:52 น.

    [​IMG]

    เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์- สื่อดัง “วอลล์สตรีท เจอร์นัล” รายงานในวันอังคาร (27) โดยระบุ ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ผู้นำสหรัฐฯ ให้ความเห็นชอบต่อแผนการฝึกการสู้รบและการให้การสนับสนุนด้านอาวุธยุทโธปกรณ์แก่นักรบฝ่ายกบฏในซีเรียอย่างเต็มรูปแบบ ถือเป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่า รัฐบาลอเมริกันเตรียมเดินหน้าโค่นล้มรัฐบาลซีเรียภายใต้การนำของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด และสถาปนา “ระบอบการปกครองใหม่” ในซีเรียที่ “เป็นมิตร” ต่อวอชิงตัน

    รายงานของวอลล์สตรีท เจอร์นัลระบุ โอบามาตัดสินใจอนุมัติแผนการส่งทหารอเมริกัน “จำนวนหนึ่ง” เข้าไปยังจอร์แดนเพื่อทำหน้าที่ฝึกฝนการต่อสู้และการใช้อาวุธให้กับนักรบฝ่ายต่อต้านรัฐบาลซีเรีย ขณะเดียวกัน ผู้นำสหรัฐฯยังเตรียมเดินหน้าผลักดันให้สภาคองเกรสส์ให้ความเห็นชอบต่อแผนการจัดหาอาวุธยุทโธปกรณ์ เพื่อสนับสนุนฝ่ายกบฏในซีเรียด้วยเช่นกัน

    ท่าทีล่าสุดของโอบามามีขึ้นหลังจากที่กระทรวงต่างประเทศและกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ รวมถึงหน่วยงานด้านข่าวกรองต่างลงความเห็นว่า “หนทางเดียว” ที่ระบอบการปกครองของรัฐบาลซีเรีย ภายใต้การนำของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาดนั้นจะล่มสลายลงได้ คือ การที่ฝ่ายกบฏในซีเรียจะต้องได้รับการสนับสนุนเพิ่มขึ้นอย่างสำคัญ ทั้งทางการเงินและอาวุธ

    “หากเราจะโค่นระบอบอัสซาด และตั้งรัฐบาลใหม่ในซีเรียที่เป็นมิตรกับวอชิงตัน สหรัฐอเมริกาก็จะต้องทุ่มเททรัพยากรของตนเพื่อหนุนฝ่ายต่อต้านในซีเรียอย่างจริงจัง นั่นคือหนทางเดียวเท่านั้นที่เราจะกำจัดอัสซาดออกจากอำนาจ” แหล่งข่าวระดับสูงในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เผย

    ก่อนหน้านี้เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา คณะกรรมาธิการด้านอาวุธของวุฒิสภาสหรัฐฯ เพิ่งให้ความเห็นชอบต่อร่างกฏหมายที่อนุญาตให้กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯหรือ “เพนตากอน” จัดการฝึกอบรมในระดับเข้มข้นต่อฝ่ายต่อต้านรัฐบาลซีเรีย

    ข้อมูลล่าสุดระบุว่า รัฐบาลโอบามาได้ทุ่มเงินไปแล้วกว่า 287 ล้านดอลลาร์ หรือราว 9,367 ล้านบาท เพื่อหนุนฝ่ายกบฏในซีเรียในสงครามกลางเมืองที่ดำเนินมาเข้าสู่ขวบปีที่ 4 แต่เป็นที่คาดกันว่า นับจากนี้เป็นต้นไป โอบามามีแนวโน้มจะเพิ่มการสนับสนุนฝ่ายกบฏในซีเรียเพิ่มขึ้นคิดเป็นวงเงินระดับ “พันล้านดอลลาร์” เป็นอย่างน้อยเพื่อบรรลุเป้าหมายสูงสุดในการโค่นอำนาจของบาชาร์ อัล-อัสซาด แม้จะมีความกังวลว่า ความช่วยเหลือทางการเงินและอาวุธของสหรัฐฯ อาจเล็ดรอดไปถึงมือพวกนักรบอิสลามิสต์ในซีเรีย ที่เชื่อมโยงกับเครือข่ายก่อการร้าย “อัลกออิดะห์”

     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,240
    ค่าพลัง:
    +97,149
    สัตหีบห้ามใช้อาคารผนังปูนถล่มทับรถพัง

    [​IMG]

    By Digital Media | 27 พ.ค. 2557 14:14 | 706 views | View Comment
    ชลบุรี 27 พ.ค.- นายวันชาติ วรรณพราหมณ์ ปลัดชำนาญการอำเภอสัตหีบ จ.ชลบุรี นำคณะเข้าตรวจสอบอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น 6 คูหา ริมถนนห้วยใหญ่-331 ม.1 ต.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ ช่วงสายวันนี้ (27 พ.ค.) เนื่องจากผนังปูนชั้นดาดฟ้าร่วงลงมาทับรถยนต์เสียหาย 2 คัน หลังฝนตกหนัก เมื่อวานนี้ (27 พ.ค.) เคราะห์ดีไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต และเพื่อความปลอดภัยจึงสั่งห้ามใช้อาคารดังกล่าวชั่วคราว พร้อมประสานส่วนงานที่เกี่ยวข้องและวิศวกรเข้ามาตรวจสอบโครงสร้างอย่างละเอียดและหาสาเหตุของผนังปูนที่หล่นลงมาให้ชัดเจน

    นายกฤษฎา เจริญสุข หัวหน้าฝ่ายโยธา เทศบาลตำบลนาจอมเทียน กล่าวว่า ก่อนที่ผนังจะถล่มลงมาอาจเป็นไปได้ว่าไม่สามารถต้านทานกระแสลมแรง แต่จะต้องตรวจสอบให้ละเอียดว่าการก่อสร้างเป็นไปตามแบบที่ขอหรือไม่ เพราะอาคารดังกล่าวสร้างมาเพียงปีกว่าเท่านั้น.-สำนักข่าวไทย

    สัตหีบห้ามใช้อาคารผนังปูนถล่มทับรถพัง | MCOT.net
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,240
    ค่าพลัง:
    +97,149
    อันตรายที่แฝงมากับลูกชิ้นรสเด็ด By Modern Radio - FM 99 | 28 พ.ค. 2557 09:35 | 47 views | View Comment

    [​IMG]

    ลูกชิ้น ผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์แปรรูป ที่เป็นที่นิยมบริโภค โดยเฉพาะ เด็กๆ ด้วยเนื้อสัมผัสนุ่ม

    เด้ง สีสัน และรูปทรงที่ท าให้แปลกตา ไปจากภาพเนื้อสัตว์ต้นก าเนิด (กุ้ง ปลา หมู เนื้อ ฯลฯ) สามารถปรุง

    ประกอบได้หลายรูปแบบทั้งปิ้ง ย่าง หรือต้ม แกง ใส่ก๋วยเตี๋ยว ฯลฯ แต่ทราบหรือไม่ว่า อันตรายที่อาจ

    ปนเปื้อน ติดตัวมากับลูกชิ้น นั้น มีมากมายจนคาดไม่ถึงเลยทีเดียว

    เชื้อโรคในระบบทางเดินอาหาร ลูกชิ้นที่มีการประกอบปรุงที่ไม่ถูกสุขลักษณะ ไม่มีการปกปิด

    อย่างถูกวิธีในระหว่างการจ าหน่าย หรือเก็บรักษาไม่ถูกวิธี อาจมีการปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรีย ท าให้เกิดโรคใน

    ระบบทางเดินอาหาร เช่น ท้องเสีย อาเจียน เป็นต้น

    สารบอแรกซ์ หรือน้ าประสานทอง มีลักษณะเป็นผงหรือผลึกสีขาวไม่มีกลิ่น มีรสขม ใช้ใน

    อุตสาหกรรมท าแก้ว เป็นส่วนประกอบของยาฆ่าเชื้อ สารฆ่าแมลง ใช้ในการเชื่อมทอง ผู้ค้ามักจะน ามาผสมใน

    อาหาร เพื่อให้หยุ่น กรอบ คงตัวได้นาน ไม่บูดเสียง่าย โดยอาหารจะมีลักษณะเด้ง กรุบกรอบผิดปกติ ถ้าได้รับ

    ในปริมาณไม่มาก แต่บ่อยเป็นเวลานานจะเกิดอาการเรื้อรัง เช่น อ่อนเพลียเบื่ออาหาร น้ าหนักลด ตับและไตอักเสบ

    ระบบสืบพันธุ์เสื่อมสมรรถภาพ เป็นต้น ถ้าได้รับในปริมาณสูงจะเกิดอาการเป็นพิษแบบเฉียบพลัน เช่นคลื่นไส้

    อาเจียน อุจจาระร่วง บางครั้งรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้

    สารกันบูด สารกันบูดที่เรียกว่า กรดเบนโซอิก นั้น ถือว่ามีความปลอดภัย มีการอนุญาตให้

    ใช้ได้ในปริมาณจ ากัดตามกฎหมาย ทั้งนี้หากกินเข้าไปมากๆ นอกจากจะส่งผลต่อการท างานของไต เนื่องจาก

    ต้องท างานหนักในการขับสารนี้ออกจากร่างกายแล้ว อาจท าให้เกิดความดันโลหิตสูงได้ นอกจากนี้ หากกิน

    อาหารที่มีกรดเบนโซอิกเข้าไปพร้อมกับเครื่องดื่มประเภทที่ส่วนผสมของวิตามินซี เช่น น้ าส้ม หรือที่เห็นชัดคือ

    น าลูกชิ้นไปย า ต้องใส่น้ำมะนาว เมื่อกรดเบนโซอิก ผสมกับวิตามินซี จะท าให้เกิดสารก่อมะเร็งเรียกว่า เบนซีน

    แล้ว ยังมีความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดโรคพาร์กินสัน สมองเสื่อมอีกด้วย

    สารอันตรายที่เกิดจากการนำไปปิ้ง ทอด ย่าง ที่ไม่ถูกวิธี

    สารก่อมะเร็งที่มีสาเหตุจาก น้ ามันทอดซ้ า พบว่าน้ ามันที่ผ่านการทอดซ้ าหลายๆครั้ง จะมี

    คุณภาพเสื่อมลงทั้งสี กลิ่น รสชาติ และมีความหนืดมากขึ้น ที่ส าคัญจะก่อให้เกิด"สารประกอบโพลาร์" เมื่อบริโภค

    อาหารที่มีสารโพลาร์เกินมาตรฐาน สารก่อมะเร็งสามารถสะสมในร่างกาย ซึ่งส่งผลกระทบต่อการท างานของเซลล์

    จากข้อมูลการศึกษาในสัตว์ทดลอง พบว่าสารบางชนิดที่เกิดจากการเสื่อมสลายของน้ ามันจากการทอดอาหารเป็น

    สารก่อกลายพันธุ์ที่ท าให้เกิดมะเร็งผิวหนังในสัตว์ทดลอง รวมทั้งมีสารจากน้ ามันทอดซ้ าซึ่งสามารถก่อให้เกิด

    เนื้องอกในตับ ปอด และก่อให้เกิดมะเร็งในเม็ดเลือดขาวในหนูทดลอง

    นอกจากนี้ การปิ้ง ย่างเนื้อสัตว์ อันส่วนผสมของไขมันรวมอยู่ด้วย ที่ไหม้เกรียมเกินไป ก็เป็น

    สาเหตุของการเกิดสารก่อมะเร็งด้วยเช่นกัน

    ปัจจุบันโรคมะเร็ง จะกลายเป็นสาเหตุการเสียชีวิตของคนไทยเป็นอันดับ หนึ่ง แซงหน้าอุบัติเหตุ

    และโรคหัวที่เป็นแชมป์เก่า ซึ่งแต่ละปีมีผู้ป่วยถึงปีละ ๙๐,๐๐๐ ราย และเสียชีวิตถึงปีละเกือบ ๔๐,๐๐๐ ราย และ

    พบว่าอายุของผู้ป่วยโรคมะเร็ง มีอายุเฉลี่ยลดน้อยลง จากเดิมผู้ป่วยส่วนใหญ่มีอายุประมาณ ๕๐ ปีขึ้นไป แต่

    ปัจจุบันมีอายุเฉลี่ย ๓๐ - ๔๐ ปีเท่านั้น

    รู้อย่างนี้แล้วสำหรับใครที่มีเมนูโปรดเป็นลูกชิ้นทอดก็ควรจะลดปริมาณลงกันบ้างนะคะ

    ที่มา : http://www.foodsanitation.bangkok.g...าย ทำอันตรายเราไม่ได้ถ้ารู้จักวิธีป้องกัน.pdf

    อันตรายที่แฝงมากับลูกชิ้นรสเด็ด | MCOT.net
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,240
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ฟ้าผ่าชาวบ้านวังเสา เสียชีวิต 1 เจ็บอีก 7 ราย

    [​IMG]

    เวลาประมาณ 14.00 น. วันที่ 27 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ร.ต.ท.ปารินทร์ อยู่เย็น พนักงานสอบ สภ.สองแคว จ.น่าน ได้รับแจ้งจากนายธวัช แสนยอด ส.อบต.บ้านวังเสา ต.ชนแดน อ.สองแคว จ.น่าน ว่า ได้เกิดเหตุฟ้าผ่ากลุ่มชาวบ้านวังเสา หมู่ 2 ต.ชนแดน อ.สองแคว จำนวน 8 คน ที่ไปทำไร่ข้าวโพดท้ายหมู่บ้าน แล้วเกิดพายุฝนฟ้าคะนอง จึงได้พากันวิ่งเข้าไปหลบในกระท่อมเพิงพักที่สร้างขึ้นไว้กลางไร่ซึ่งอยู่สันเขาโล่งเตียน และได้เกิดฟ้าผ่าลงที่เพิงพักดังกล่าว จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 1 ราย คือ นายอินแสง ภูเท็ง อายุ 51 ปี บ้านเลขที่ 102 หมู่ 2 ตำบลชนแดน อำเภอสองแคว จังหวัดน่าน สภาพศพมีรอยไหม้เกรียม ที่บริเวณลำคอและที่สะโพกตรงกระเป๋าข้างขวา และมีรอยไหม้ตามลำตัว

    และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 7 ราย โดยมี 2 รายที่อาการสาหัส หมดสติทันทีที่โดนฟ้าผ่าและมีบาดแผลถูกรอยไหม้ตามลำตัว อยู่หลายแห่ง คือนายมาก แสนบุตร อายุ 34 ปี บ้านเลขที่ 49 บ้านวังเสา หมู่ 2 ต.ชนแดน อ.สองแคว จ.น่าน และนายณรงค์เดช เทพบุตร อายุ 30 ปี บ้านเลขที่ 42บ้านวังเสา หมู่ 2 ต.ชนแดน อ.สองแคว จ.น่าน เนื่องจากมีบาดแผลถูกรอยไหม้ตามลำตัว อยู่หลายแห่ง

    ส่วนอีก 5 ราย ประกอบด้วยนายประเสริฐ ภูเท็ง อายุ 42ปี บ้านเลขที่ 89 บ้านวังเสา หมู่ 2 ต.ชนแดน อ.สองแคว จ.น่าน (เป็นผู้ใหญ่บ้าน) ,นายดำเนิน ภูเท็ง อายุ 44 ปี บ้านเลขที่ 88 บ้านวังเสา หมู่ 2 ต.ชนแดน อ.สองแคว จ.น่าน ,นายเจริญ แสนบุตร อายุ 27 ปี บ้านเลขที่ 42 บ้านวังเสา หมู่ 2 ต.ชนแดน อ.สองแคว จ.น่าน , นายสนั่น ภูเท็ง อายุ 37 ปี บ้านเลขที่ 32 บ้านวังเสา หมู่ 2 ต.ชนแดน อ.สองแคว จ.น่าน และนางพิสมัย อินพะทนา อายุ 50 ปี บ้านเลขที่ 19 บ้านวังเสา หมู่ 2 ต.ชนแดน อ.สองแคว จ.น่าน โดย ชาวบ้านและเจ้าหน้าที่กู้ภัย เร่งนำส่งโรงพยาบาลสองแควทันที

    นายประเสริฐฯ ผู้ใหญ่บ้านวังเสาและเป็นผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่า ชาวบ้านทั้งหมด 8 คน ได้ช่วยกันพ่นยาฆ่าหญ้าในไร่ข้าวโพด เพื่อเตรียมปลูกข้าวโพดและข้าวไร่ ที่บริเวณท้ายเขาในหมู่บ้าน ขณะนั้นได้เกิดฝนตกและมีฟ้าร้องฟ้าผ่า ทั้งหมดจึงได้ช่วยกันเก็บอุปกรณ์แล้วพากันหลบฝนไปในกระท่อมกลางไร่ จากนั้นก็เกิดฝ่าผ่า โดยตนรู้สึกได้ถึงแรงกระแทกอย่างรุนแรง และก็ทำให้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย

    จากการตรวจสอบในร่างกายของผู้เสียชีวิต พบสร้อยคอทองคำและเงินเหรียญซึ่งมีรอยไหม้ในกระเป๋ากางเกง รวมทั้งกระดุมเสื้อที่สวมใส่เป็นโลหะ และจากการตรวจสอบบริเวณโดยรอบ พบว่าหัวเครื่องพ่นยาทำด้วยทองเหลือง และกระท่อมดังกล่าวอยู่ในที่โล่งแจ้ง คาดว่าอาจเป็นฉนวนล่อฟ้าได้ ซึ่งได้รับการยืนยันว่าทุกคนได้ปิดโทรศัพท์มือถือแล้ว ซึ่งรายงานล่าสุดขณะนี้ผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 7 ราย ซึ่งได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 5 ราย แพทย์ให้กลับบ้านได้ ขณะที่อีก 2 ราย ยังต้องรอดูอาการอย่างใกล้ชิด

     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,240
    ค่าพลัง:
    +97,149
    Kaokala Fc

    [​IMG]

    27 พ.ค. สื่อนอกเผย คิม จอง อึน สั่งประหาร 4 วิศวกร หลังตึกถล่มคร่า 500 ชีวิต

    สื่อนอกเผย คิม จอง อึน สั่งยิงเป้า 4 วิศวกร หลังตึกถล่มคร่า 500 ชีวิต ขณะที่ทหารซึ่งดูแลการก่อสร้างถูกส่งเข้าค่ายกักกัน

    วันที่ 27 พฤษภาคม 2557 เว็บไซต์นิวส์ของออสเตรเลีย มีรายงานว่า คิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือได้สั่งประหารชีวิตวิศวกร ผู้รับผิดชอบการก่อสร้างอพาร์ทเม้นท์หลังใหม่ที่ถล่มไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา จนคร่าชีวิตผู้คนไปราว 500 คน

    รายงานระบุว่า จากเหตุอพาร์ทเม้นท์ 23 ชั้น กลางกรุงเปียงยางถล่ม ได้ทำให้เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบการก่อสร้างออกมาทำการขอโทษต่อสาธารณชนอย่างที่ไม่เกิดขึ้นบ่อยนัก แต่นั่นก็ดูจะไม่เพียงพอในสายตาของ คิม จอง อึน ซึ่งมีรายงานว่าผู้นำของเกาหลีเหนือถึงกับนอนไม่หลับ หลังได้ยินเรื่องเหตุถล่มของอาคารที่จะกลายมาเป็นบ้านหลังใหม่ของเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองระดับสูงและตำรวจ รวมถึงสมาชิกระดับสูงของพรรคจำนวนมาก

    ขณะที่สื่อญี่ปุ่นอ้างว่า วิศวกร 4 รายที่รับผิดชอบการก่อสร้างนี้ได้ถูกนำไปยิงเป้าตามคำสั่งของ คิม จอง อึน ส่วนทหารที่ดูแลโครงการก่อสร้างก็ถูกส่งไปยังค่ายกักกันแล้ว ทั้งนี้เกาหลีเหนือไม่ได้เผยถึงสาเหตุในการถล่มครั้งนี้ แต่เป็นที่เชื่อว่าน่าจะเป็นฝีมือของคนงานก่อสร้าง ที่มักจะแอบขโมยเหล็กกับซีเมนต์ไปขายตามตลาดมืด
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,240
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ผู้พเนจร จากฟากฟ้า

    [​IMG]

    ออสซีชี้บินมาเลย์อาจไม่ได้พบ "จุดจบ" ในมหาสมุทรอินเดีย
    รัฐบาลออสเตรเลียเผยยาน "บลูฟิน-21" สำรวจมหาสมุทรอินเดียเสร็จเรียบร้อยแล้ว และไม่พบเบาะแสใดที่เกี่ยวข้องกับเครื่องบินของมาเลเซีย แอร์ไลน์ส ที่หายไปตั้งแต่เดือนมี.ค. จึงเป็นไปได้มากว่า เครื่องบินอาจไม่ได้พบ "จุดจบ" ในทะเลบริเวณนี้

    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงแคนเบอร์รา ประเทศออสเตรเลีย เมื่อวันที่ 29 พ.ค.ว่าศูนย์ประสานงานความร่วมมือ ( เจเอซีซี ) ของออสเตรเลีย ซึ่งเป็นผู้นำทีมจากนานาประเทศ ในภารกิจค้นหาเบาะแสเที่ยวบินเอ็มเอช 370 ของมาเลเซีย แอร์ไลน์ส ในมหาสมุทรอินเดีย นอกชายฝั่งเมืองเพิร์ธ ทางตะวันตกของประเทศ ออกแถลงการณ์ระบุ ยานค้นหาใต้ทะเล "บลูฟิน-21" เสร็จสิ้นการสำรวจพื้นมหาสมุทรอินเดียอย่างเป็นทางการแล้ว เมื่อวันพุธ

    ทั้งนี้ ผลการวิเคราะห์ข้อมูลอย่างละเอียดปรากฎว่า ไม่พบเบาะแสใดที่มีประโยชน์ อันจะสามารถนำไปสู่การค้นพบเครื่องบิน นอกจากนี้ หลังหารือร่วมกับคณะกรรมาธิการสอบสวนความปลอดภัยทางการขนส่งของออสเตรเลีย ( เอทีเอสบี ) และหน่วยงานอีกหลายแห่งที่เกี่ยวข้องอย่างละเอียด ทุกฝ่ายได้ข้อสรุปร่วมตรงกันว่า มีความเป็นไปได้น้อยมาก ที่ทะเลฝั่งตะวันตกนอกชายฝั่งเมืองเพิร์ธจะเป็นสถานที่ที่เครื่องบินลำนี้พบ "จุดจบ"

    อย่างไรก็ตาม เนื้อหาในถ้อยแถลงไม่ได้รับุว่า ออสเตรเลียจะปรับเปลี่ยนแผนการค้นหาอย่างไร แต่ท่าทีดังกล่าวมีขึ้นไม่นานหลังนายไมเคิล ดีน รองผู้อำนวยการฝ่ายวิศวกรรมสมุทรศาสตร์ของกองทัพเรือสหรัฐ ตั้งข้อสังเกตว่า คลื่นสัญญาณความถี่เสียงจากใต้มหาสมุทรอินเดีย ซึ่งตอบสนองกับอุปกรณ์ค้นหากล่องบันทึกข้อมูลการบิน ( กล่องดำ ) "ทาวด์ พิงเกอร์ โลเคเตอร์" ( ทีพีแอล ) อาจไม่มีความเกี่ยวข้องกับเครื่องบินลำที่หายสาบสูญไปตั้งแต่วันที่ 8 มี.ค. พร้อมผู้อยู่บนเครื่อง 239 คน

    ออสซีชี้บินมาเลย์อาจไม่ได้พบ 'จุดจบ' ในมหาสมุทรอินเดีย | อ่านความจริงอ่านเดลินิวส์
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,240
    ค่าพลัง:
    +97,149
    จีนเผชิญ “คลื่นอากาศร้อน” ระลอกแรกของปี ดันยอดขายประกันภัยสภาพอากาศฯ
    โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 29 พฤษภาคม 2557 17:25 น.

    [​IMG]

    เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ - จีนและฮ่องกงรับมือ “คลื่นอากาศร้อน” ที่พัดเข้าปะทะรอบแรกของปี ส่งสัญญาณฤดูร้อนแสบทรวงเดินทางมาเยือน ด้านบริษัทขายประกันเร่งทำกำไร ออกกรรมธรรม์ฯ คุ้มครองผู้ซื้อที่ได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศร้อนจัด

    รายงานข่าว (29 พ.ค.) อ้างหอสังเกตการณ์ของฮ่องกงว่า อุณหภูมิในช่วงกลางวันได้พุ่งสูงถึง 33 องศาเซลเซียสในวันพุธ (28 พ.ค.) ที่ผ่านมา และจะทรงตัวต่อไปเรื่อยๆ จนสิ้นสัปดาห์ โดยระบุสภาพอากาศดังกล่าวอยู่ในระดับ “ร้อนมาก” และเตรียมประกาศเตือนภัยอากาศร้อนจัดในช่วงวันที่เหลือของสัปดาห์

    นอกจากนั้นคลื่นอากาศร้อนยังจะพัดไปเล่นงานพื้นที่ตอนใต้ของจีนแผ่นดินใหญ่ โดยเฉพาะมณฑลก่วงตง (กวางตุ้ง) และเขตปกครองตนเองชนชาติจ้วง มณฑลก่วงซี ในสามวันข้างหน้านี้อีกด้วย

    ด้านสำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติของจีน รายงานว่า ระดับอุณหภูมิของพื้นที่ริมชายฝั่งภาคตะวันออกและภาคใต้ รวมถึงมณฑลซินเจียงอันห่างไกลทางตะวันตก ได้เพิ่มสูงขึ้นแตะระดับ 32 องศาฯ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

    ขณะที่มหานครเทียนจินทางภาคเหนือ ตลอดจนมณฑลใกล้เคียงอย่างเหอเป่ย ซานตง และเหอหนัน ทางการท้องถิ่นได้ประกาศเตือนภัยสภาพอากาศร้อนระดับ “สีส้ม” (รุนแรงอันดับสอง) ท่ามกลางการคาดการณ์ว่าอุณหภูมิอาจสูงเกิน 40 องศาฯ ในวันศุกร์นี้

    ทั้งนี้ ระลอกคลื่นอากาศร้อนอันเป็นสัญญาณบ่งบอกการมาเยือนของคิมหันต์ฤดู ได้กรีธาทัพจู่โจมพลเมืองแดนมังกร ทำให้บรรดาบริษัทประกันภัยในจีนเริ่มเปิดฉากธุรกิจประกันภัยอากาศร้อน ฟันเงินกำไรกันแล้ว

    เริ่มต้นที่ จง อัน ออนไลน์ พร็อบเพอตี้ อินซูแล็นซ์ บริษัทประกันภัยออนไลน์แห่งแรกของจีน ได้ออกผลิตภัณฑ์ “ประกันภัยอากาศร้อน” ในสัปดาห์นี้ผ่านเว็ปไซต์เถาเป่า (Taobao) แหล่งซื้อ-ขายสินค้าบนโลกไซเบอร์รายใหญ่ของจีน

    ด้านเท็นเซ็นต์ (Tencent) บรรษัทด้านสื่อสารโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่ และ ผิง อัน อินซูแล็นซ์ ผู้ให้บริการประกันภัยชั้นนำ ร่วมกับอาลีบาบา เจ้าพ่ออี-คอมเมิร์ชของจีน ก็นำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่จะจ่ายเงินชดเชยให้ผู้เอาประกัน หากจำนวนวันที่อุณหภูมิสูงเกิน 37 องศาฯ มีมากกว่าเงื่อนไขกรมธรรม์ฯ กำหนดไว้ ในระหว่างวันที่ 21 มิ.ย.-23 ส.ค.

    ผู้เอาประกันจะซื้อกรมธรรม์ประกันภัยอากาศร้อนในราคา 10 หยวน (ราว 50 บาท) ต่อหน่วยกรมธรรม์ฯ โดยสามารถซื้อได้สูงสุด 99 หน่วย และแต่ละหน่วยฯ จะได้รับการจ่ายเงินคืน 5 หยวน ในวันที่ระดับอุณหภูมิสูงเกินค่ากำหนดขั้นต่ำ ทั้งนี้ ค่ากำหนดดังกล่าวแตกต่างกันไปตามพื้นที่

    อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์บางส่วนชี้ว่า หากดูตามบันทึกข้อมูลสภาพอากาศที่ผ่านมา เป็นเรื่องยากที่ผู้เอาประกันจะได้รับผลประโยชน์ตามที่เงื่อนไขกรมธรรม์ฯ กำหนด แต่ข้อมูลของเว็บฯ เถาเป่าโชว์ก็ระบุว่า ตั้งแต่บ่ายวันพุธที่ผ่านมาได้มีการซื้อกรมธรรม์ประเภทดังกล่าวไปแล้วกว่า 20,000 หน่วยฯ

     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,240
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ดูมนุษย์ต่างดาวต้องรออีก 20 ปี โดย ไทยรัฐออนไลน์ 29 พ.ค. 2557 08:05

    [​IMG]

    ถ้าหากใครอยากจะได้เห็นหน้าค่าตาของมนุษย์ต่างดาวว่า หน้าตาเป็นอย่างไร ควรจะพยายามอยู่ให้ถึงเวลาอีกสัก 20 ปีข้างหน้า

    นักดาราศาสตร์ของสำนักเซติ ซึ่งมีหน้าที่ค้นหามนุษย์ต่างดาว กล่าวว่า อาจจะต้องใช้เวลาอีก 20 ปี ถึงจะรู้ว่ามนุษย์ต่างดาวมีจริงหรือไม่ และจนทุกวันนี้นักวิทยาศาสตร์ก็ยังมุ่งค้นหาอยู่ที่ดาวอังคารและดวงจันทร์ดวงต่างๆ ที่มีแววว่าอาจจะมีชีวิตนอกระบบสุริยจักรวาลอาศัยอยู่ได้

    นักดาราศาสตร์อาวุโสเสธ โชสตัก เผยว่า ขณะนี้อย่างน้อยก็ยังมีถิ่นอื่นภายในระบบสุริยจักรวาลของเรา ที่อาจมีชีวิตอยู่ได้ไม่ต่ำกว่า 6 แห่ง

    นักวิทยาศาสตร์ได้ใช้วิธีสำรวจดูก่อนว่า ในบรรยากาศของดาวเคราะห์พวกที่อยู่ห่างไกลออกไปนั้น ดวงไหนมีวี่แววของแก๊สออกซิเจนหรือมีเทนอยู่หรือไม่ เพราะว่าเหมือน กับบนโลกของเราที่แก๊สทั้งสองชนิดมักจะส่อว่าเกี่ยวพันอยู่กับสิ่งที่มีชีวิต การศึกษาเรื่องนี้อาจจะรู้ผลแน่นอนภายใน 20 ปีข้างหน้า.

    ดูมนุษย์ต่างดาวต้องรออีก 20 ปี - ข่าวไทยรัฐออนไลน์
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,240
    ค่าพลัง:
    +97,149
    ปลาชนิดใหม่ 'เลียหินน้ำว้า' โดย ไทยรัฐออนไลน์ 29 พ.ค. 2557 05:15

    [​IMG]

    การสำรวจลำห้วยสาขาใน จ.น่าน โดย อ.อมรชัย ล้อทองค้า (มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา น่าน) ผศ. ดร.ปรัชญา มุสิกสินธร และ นายศักดา อาบสุวรรณ (ภาควิชาชีววิทยาประมง คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์) ได้พบปลาชนิดใหม่ ที่ยังไม่มีการตั้งชื่อทางวิทยาศาสตร์ จัดอยู่ในสกุล ปลาเลียหิน (Garra) วงศ์ปลาตะเพียน ลักษณะเด่น มีจานดูดบริเวณริมฝีปากล่างสำหรับยึดเกาะหิน เกล็ดมีจุดสีส้มแดงกระจายอยู่บนลำตัว ก้านครีบหลังแตกแขนง 7 ก้าน มีการแพร่พันธุ์กระจายเฉพาะลุ่มแม่น้ำว้า อ.บ่อเกลือ จ.น่าน เท่านั้น เพราะพื้นที่ป่าอุดมสมบูรณ์ มีความครึ้มเย็นตลอดปี ไม่มีพื้นที่ทำการเกษตร จึงเป็นปลาอีกชนิดหนึ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงความอุดมสมบูรณ์ของป่าต้นน้ำได้เป็นอย่างดี โดยคนในท้องถิ่นเรียกว่า “ปลามันหัวแข็ง”

    [​IMG]

    ผลการสำรวจพบครั้งนี้ทำให้ปลามันหัวแข็งได้รับการตั้งชื่อใหม่ว่า ปลาเลียหินน้ำว้า มีชื่อวิทยาศาสตร์ Garra waensis และได้ตีพิมพ์ในวารสารวิทยาศาสตร์ยอมรับให้เป็นปลาชนิดใหม่ของโลกเมื่อเดือนที่ผ่านมา.

    ปลาชนิดใหม่ 'เลียหินน้ำว้า' - ข่าวไทยรัฐออนไลน์
     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,240
    ค่าพลัง:
    +97,149
    เคาะ! ปี 59 มหา'ลัยรับตรงพร้อมกัน! โดย ไทยรัฐออนไลน์ 29 พ.ค. 2557 12:45

    [​IMG]

    เคาะแล้ว! ที่ประชุมพัฒนาระบบคัดเลือกเข้าเรียนมหาวิทยาลัย เริ่ม 'รับตรง' พร้อมกัน ปี 2559 ใช้ข้อสอบกลาง-สอบหลังจบ ม.6 ตัดปัญหาเด็กวิ่งรอก รวมถึงลดค่าใช้จ่ายจัดสอบ...

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางวราภรณ์ สีหนาท รองเลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) กล่าวถึงการประชุมหารือพัฒนาระบบการคัดเลือกบุคคลเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษา ร่วมกับผู้แทนจากที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) โดยมีคุณหญิงสุมณฑา พรหมบุญ ประธาน กกอ. เป็นประธานในที่ประชุม ซึ่งในที่ประชุมเห็นร่วมกันว่า มหาวิทยาลัยต่างๆ จะจัดสอบรับตรงในช่วงเวลาเดียวกัน และใช้ข้อสอบกลางร่วมกัน นอกจากนี้ ให้ดำเนินการภายหลังนักเรียนเรียนครบหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อลดปัญหาการวิ่งรอกสอบของนักเรียน ตลอดจนการลดภาระค่าใช้จ่ายในการจัดสอบ คาดว่า จะเริ่มจัดสอบได้ประมาณปลายเดือนกุมภาพันธ์เป็นต้นไป โดยช่วงเวลาดังกล่าวถือว่า เหมาะสมที่จะจัดรับตรงร่วมกันที่สุด เพราะนักเรียนจะเรียนจบระดับมัธยมศึกษาปีที่ 6 ในเดือนมีนาคม ขณะที่มหาวิทยาลัยเลื่อนเปิดภาคเรียนรับอาเซียนเป็นช่วงเดือนสิงหาคมด้วย

    นางวราภรณ์ กล่าวอีกว่า การรับตรงจะใช้ข้อสอบกลางเฉพาะวิชาสามัญเท่านั้น ส่วนวิชาเฉพาะของแต่ละคณะ/สาขา มหาวิทยาลัยสามารถจัดสอบเองได้ โดยไม่จำกัดเวลา พร้อมกันนี้ขอให้ผู้แทนจากมหาวิทยาลัยศิลปากรเป็นตัวกลางหารือกับมหาวิทยาลัยที่เปิดสอนสาขาด้านศิลปะ ว่าจะสามารถจัดสอบวิชาเฉพาะร่วมกันได้หรือไม่ โดยที่ประชุมเห็นว่า ในสาขาอื่นๆ ที่จำเป็นต้องสอบวิชาเฉพาะ หากจัดสอบร่วมกันได้ก็จะช่วยลดภาระการสอบของเด็กได้มาก อย่างไรก็ตาม จากนี้มหาวิทยาลัยต่างๆ ต้องมาหารือร่วมกันในรายละเอียดของการสร้างข้อสอบ ช่วงเวลาที่เหมาะสม ซึ่งจะต้องดำเนินการให้ได้ข้อสรุปโดยเร็ว เพื่อแจ้งให้นักเรียนทราบ โดยคาดว่าจะสามารถดำเนินการได้ในปีการศึกษา 2559

    ทั้งนี้ การรับตรงร่วมกันจะใช้ข้อสอบ 7 วิชาสามัญ ที่ใช้ในระบบเคลียริ่งเฮาส์ของสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) นั้น ในอนาคตต้องพิจารณาดูว่า จะใช้ข้อสอบใดจึงจะเหมาะสม นอกจากนี้ ที่ประชุมขอให้ ทปอ.หารือกับกลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย (กสพท.) จัดสอบคัดเลือกนักเรียนเข้าศึกษาต่อในคณะแพทยศาสตร์ และทันตแพทยศาสตร์ ก่อนการจัดสอบอื่นๆ เพื่อตัดปัญหาการกันสิทธิ์นักเรียนคนอื่น.

    เคาะ! ปี 59 มหา'ลัยรับตรงพร้อมกัน! - ข่าวไทยรัฐออนไลน์
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,240
    ค่าพลัง:
    +97,149
    เรือบรรทุกน้ำมันญี่ปุ่นระเบิด! กัปตันเรือสูญหาย โดย ไทยรัฐออนไลน์ 29 พ.ค. 2557 14:04

    [​IMG]

    เกิดเหตุระเบิดและเพลิงไหม้เรือบรรทุกน้ำมันญี่ปุ่น

    เรือบรรทุกน้ำมันขนาดใหญ่ของญี่ปุ่นเกิดเหตุระเบิดและไฟไหม้รุนแรง หน่วยยามฝั่งต้องรีบส่งเรือและเครื่องบินมาฉีดน้ำควบคุมเพลิง เป็นเหตุให้ลูกเรือ 7 คนบาดเจ็บ และขณะนี้ยังไม่พบกัปตันเรือที่หายไป...

    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อ 29 พ.ค.ว่า เรือบรรทุกน้ำมันขนาดใหญ่ของญี่่ปุ่น ชื่อ ‘โชโก มารุ’ ประสบเหตุระเบิดและเกิดไฟลุกไหม้ ควันไฟดำทะมึนน่ากลัว ขณะจอดทอดสมออยู่ในทะเล ห่างจากท่าเรือเมืองฮิเมจิ ทางภาคตะวันตกของญี่ปุ่น ประมาณ 5 กิโลเมตร เป็นเหตุให้ลูกเรือ 7 คนได้รับบาดเจ็บ ในจำนวนนี้บาดเจ็บสาหัส 4 คน และขณะนี้ยังไม่พบตัวกัปตันเรือ วัย 64 ปี ที่หายไปหลังเกิดเหตุแต่อย่างใด

    ส่งเรือมาช่วยดับเพลิง
    เจ้าหน้าที่หน่วยยามฝั่งในเมืองฮิเมจิ ทางตะวันตกของญี่ปุ่น เปิดเผยว่า หน่วยยามฝั่งได้ส่งเรือและเครื่องบินมาฉีดน้ำควบคุมเพลิงบนเรือ หลังทราบเหตุ ทว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้เรือได้รับความเสียหายอย่างหนัก ขณะที่เจ้าหน้าที่หน่วยยามฝั่งกำลังสืบสวนหาสาเหตุที่ทำให้เรือบรรทุกน้ำมันลำนี้ ซึ่งมีน้ำหนักถึง 988 ตันเกิดเหตุระเบิดขึ้น

    เรือบรรทุกน้ำมันของญี่ปุ่นได้รับความเสียหายอย่างหนัก
    อย่างไรก็ตาม ในช่วงเกิดเหตุระเบิดและเพลิงไหม้บนเรือไม่มีถังน้ำมันอยู่ เนื่องจากถูกนำขึ้นไปบนฝั่งหมดแล้ว จึงช่วยลดความวิตกกังวลของประชาชนลงไปได้มากว่า เหตุเพลิงไหม้บนเรือบรรทุกน้ำมันขนาดใหญ่ จะไม่ก่อให้เกิดมลพิษและความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อมมากเท่าใดนัก อีกทั้งแรงระเบิดยังไม่ได้สร้างความเสียหายให้แก่เรือใกล้เคียงแต่อย่างใด.

    เรือบรรทุกน้ำมันญี่ปุ่นระเบิด! กัปตันเรือสูญหาย - ข่าวไทยรัฐออนไลน์
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,240
    ค่าพลัง:
    +97,149
    [​IMG]

    ทฤษฎีใหม่ว่าด้วย "รูหนอน" และ "ไทม์แมชีน"
    updated: 29 พ.ค. 2557 เวลา 16:30:32 น.
    ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

    "ไทม์ ทราเวล" หรือ "การเดินทางข้ามเวลา" และ "ไทม์ แมชีน" หรือยานพาหนะเพื่อการเดินทางข้ามกาลเวลา เป็นเรื่องที่พูดถึงกันมายาวนานตั้งแต่ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ นำเสนอทฤษฎีว่าด้วยมีอยู่ของ "เวิร์มโฮล" หรือ "รูหนอน" ไว้ด้วยสูตรทางคณิตศาสตร์ใน "ทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไป" กระตุ้นให้เกิดความคิดเกี่ยวกับการเดินทางข้ามเวลาโดยอาศัย "รูหนอน" ที่ว่านี้ขึ้นมากมายทั้งในบรรดานักเขียนและนักวิทยาศาสตร์

    ที่น่าสนใจที่สุดเห็นจะเป็นผลงานของ คิป ธอร์น นักฟิสิกส์ สังกัดสถาบันเทคโนโลยีแห่งแคลิฟอร์เนีย (คาลเทกซ์) ของสหรัฐอเมริกา ที่อาศัยสูตรทางคณิตศาสตร์แสดงให้เห็นว่า "รูหนอน" นั้น "เดินทางผ่านได้" ในตอนปลายคริสตทศวรรษ 1980

    การศึกษาของคิป ธอร์น แสดงให้เห็นว่า โดยธรรมชาติแล้วรูหนอนที่จะเป็นทางลัดข้ามกาลเวลาดังกล่าวนี้ ไม่ "เสถียร" พอที่จะให้สิ่งหนึ่งสิ่งใดผ่านไปได้ ดังนั้นจำเป็นต้องมีพลังงานบางอย่างเข้ามาเกี่ยวข้องเพื่อให้ความเสถียรในโลกของควอนตัมฟิสิกส์ พลังงานที่เป็นพลังงานขั้วลบที่ว่านี้อาจอยู่ในรูปของพลังงาน "คาสิเมียร์" ตามทฤษฎีของ คิป ธอร์น "คาสิเมียร์" สามารถทำให้ "ปาก" ของ "รูหนอน" เปิดอยู่ได้นานพอที่จะทำให้บางสิ่งบางอย่างผ่านไปได้

    แต่นั่นหมายถึง "บางสิ่งบางอย่าง" ที่มีขนาดเป็น "ควอนตัม" หรือเป็นอนุภาคของพลังงานเท่านั้น นอกจากนั้น ถึงแม้จะมีพลัง "คาสิเมียร์" รูหนอนที่ว่านี้ก็มีแนวโน้มที่จะยุบตัวหายไปอย่างรวดเร็วอีกด้วย

    นั่นเป็นเรื่องของทฤษฎีเก่า เมื่อเร็วๆ นี้ ลู้ค บุทเชอร์ นักทฤษฎีฟิสิกส์จากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ เพิ่งหันกลับไปประเมินทฤษฎีของคิป ธอร์น เสียใหม่ นำมาคิดต่อแล้วก็บอกว่า มีความเป็นไปได้ที่จะสร้าง "รูหนอน" ใหม่ให้มีความเสถียรมากขึ้นกว่าเดิม การยุบตัวของมันสามารถป้องกันได้เป็นระยะเวลายาวนาน แต่ต้องเป็นรูหนอนที่ยาวและมีปากรูแคบ จนทำให้ "โฟตอน" เท่านั้นที่สามารถผ่านได้

    อย่างไรก็ตาม บุทเชอร์ ยอมรับว่าการคำนวณของตนไม่เป็นที่ชัดเจนว่า อนุภาคโฟตอนที่ว่านั้นจะผ่าน "รูหนอน" จากด้านหนึ่งไปออกยังอีกด้านหนึ่งได้ตลอดรอดฝั่งหรือไม่ แต่บอกว่าแค่เพียงมี "ความเป็นไปได้" ในการส่งอะไรสักอย่างจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่งด้วยความเร็วที่เร็วกว่าความเร็วแสงได้ก็ทำให้เรื่องนี้ "เย้ายวนใจ" เหลือหลายแล้ว

    เพราะนั่นหมายถึงความเป็นไปได้ที่เราจะสามารถสร้าง "การสื่อสาร" ถึงกันและกันในระดับความเร็วเหนือแสงนั่นเอง

    ข้อที่น่าสังเกตก็คือ ผลการศึกษาวิจัยของ ลู้ค บุทเชอร์ ดังกล่าวนี้ ไม่ได้แสดงให้เห็นว่า "รูหนอน" นั้นมีอยู่จริง เพราะจนถึงขณะนี้เรายังไม่มีหลักฐานทางกายภาพใดๆ ที่แสดงให้เห็นถึงการมีอยู่ดังกล่าวแต่อย่างใด สิ่งที่ บุทเชอร์ และแม้แต่ คิป ธอร์น คำนวณไว้นั้น เป็นเพียงแค่การแสดงให้เห็นว่า ถ้าหากมี เราจะส่งอะไรผ่านรูหนอนเหล่านั้นได้ด้วยวิธีไหนเท่านั้นเอง

    การรู้ให้ได้ว่า "รูหนอน" นั้นมีอยู่จริงหรือไม่ คงต้องอาศัยการคิดคำนวณและการศึกษาวิจัยอีกมากมายกว่านี้มาก

    ที่มา : นสพ.มติชน

    http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1401354386
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,240
    ค่าพลัง:
    +97,149
    พบขนมหน้าร.ร.ใช้อย.ปลอมถึง90ชนิด หนุนใช้สีสัญญาณจราจร-ลดเด็กบริโภค
    รวิวรรณ รักถิ่นกำเนิด ศูนย์ข่าว TCIJ 02 พฤษภาคม 2557

    [​IMG]

    สำรวจขนมหน้าโรงเรียน กว่า90รายการใช้เครื่องหมายอย.ปลอม ไม่ระบุวันหมดอายุ ตรวจไม่พบผู้ผลิต ขณะที่ยอดเด็กบริโภคขนามกรุบกรอบในโรงเรียนสูงถึงวันละ5ซอง เสนอใช้ฉลากสัญญาณไฟจราจรคุมปริมาณ ขณะที่โรงเรียนส่วนใหญ่แก้ปัญหาไม่ได้ เพราะคนขายเป็นผู้ปกครองนักเรียน ด้านผู้ประกอบการหวั่นถูกมองเป็นผู้ร้าย
    ที่ประชุมสมัชชาผู้บริโภคประจำปี 2557 “ร่วมตรวจสอบ เสอแนะ แสดงพลังผู้บริโภค” : ภายในงานมีการจัดเสวนากลุ่มย่อยเรื่อง คุ้มครองผู้บริโภคด้วยฉลาก : ฉลากที่เป็นมิตรทำอย่างไรให้เป็นจริง โดยมีผู้ร่วมเสวนาอาทิ ผู้แทนจากคณะกรรมการอาหารและยา เครือข่ายผู้บริโภค เสนองานศึกษาเรื่องฉลากไฟสัญญาณไฟจราจรกับการนำมาใช้ควบคุมการบริโภคขนมถุงภายในโรงเรียน พร้อมเร่งตรวจสอบและเอาผิดกับผู้ประกอบการที่ขายขนมติดฉลากลวง

    น.ส.จุฑา สังขชาติ เลขาธิการสมาคมผู้บริโภคสงขลา กล่าวว่า จากการสำรวจฉลากของขนมเด็กที่จำหน่ายหน้าโรงเรียนในจ.สงขลาและสุราษฎร์ธานี ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ – มีนาคม 2557 จำนวน 272 รายการ พบว่า กว่า 1 ใน 3 ของฉลากทั้งหมดที่สำรวจ มีปัญหาการแสดงข้อมูลบนฉลากไม่ครบถ้วน ไม่เป็นไปตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขฉบับที่ 194 เรื่องฉลากอาหาร ปี พ.ศ.2543 เช่นพบว่า มากถึงร้อยละ 42.3 ไม่แสดงวัน เดือน ปีที่หมดอายุของผลิตภัณฑ์ กว่าร้อยละ 33.5แสดงเลขที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เท็จหรือตรวจสอบไม่ได้ ซึ่งเป็นปัญหาอย่างยิ่ง และอาจก่อให้เกิดอันตรายกับผู้บริโภคได้

    การเอาผิดกับผู้ประกอบการที่จำหน่ายขนมติดฉลากไม่ถูกต้อง ในโรงเรียนหรือหน้าโรงเรียน กลับพบปัญหาในทางปฎิบัติ เนื่องจากต้องขอความร่วมมือกับครูในโรงเรียนให้ช่วยติดตามและเฝ้าระวัง ไม่ให้นักเรียนซื้อขนมดังกล่าว อีกทั้งผู้ประกอบการส่วนใหญ่ โดยเฉพาะบริเวณหน้าโรงเรียน ส่วนใหญ่เป็นผู้ปกครองของนักเรียนในโรงเรียน จึงเกิดความลำบากใจ หากจะจัดการขั้นเด็ดขาด ในขณะที่ผู้ประกอบการเองอาจไม่มีความรู้ว่า ขนมที่จำหน่ายอยู่นั้น เป็นอันตรายหรือไม่ถูกต้องตามประกาศกระทรวง ข้อเสนอที่น่าจะช่วยให้ผู้บริโภคเลือกซื้อได้ดีมากขึ้น โดยเฉพาะเด็กเล็กคือ ฉลากสีสัญญาณไฟจราจร แดง เหลือง เขียว เพื่อบอกถึงอันตรายของขนมชนิดต่างๆ เนื่องจากง่ายต่อการจดจำ

    ด้านนายพงษ์ภัทร หงส์สุขสวัสดิ์ อนุกรรมการด้านอาหาร ยา และผลิตภัณฑ์สุขภาพ กล่าวว่า จากการศึกษา โครงการศึกษาเบื้องต้นในการทดลองปฏิบัติการใช้ฉลากโภชนาการแบบสีสัญญาณไฟจราจรในโรงเรียน ด้านฉลากอาหารที่เป็นมิตรต่อผู้บริโภค โดยเบื้องต้นให้เด็กฝึกอ่านข้อมูลฉลากปริมาณสารอาหาร ชนิดของสารอาหาร ที่อยู่ข้างห่อขนม เนื่องจากพบว่าเด็กจำนวนมากไม่เข้าใจรายละเอียดที่ระบุบนซองขนม ทราบเพียงปริมาณขนมในซอง แต่ไม่ทราบอัตราในการบริโภคต่อซอง แม้จะมีข้อความกำกับว่า ควรบริโภคกี่หน่วยก็ตาม
    นอกจากนี้จากการเก็บแบบสำรวจพฤติกรรมการบริโภคของเด็กครั้งแรก พบข้อมูลที่น่าตกใจ คือ เด็กคนหนึ่งบริโภคขนมอย่างน้อย 5 ซองต่อวัน ทำให้ร่างกายได้รับปริมาณโซเดียม น้ำตาล เกินปริมาณที่ควรได้รับต่อวัน ซึ่งเสี่ยงต่อการเกิดโรคไตและโรคอ้วน

    อย่างไรก็ดี เมื่อเริ่มนำฉลากสัญญาณไฟจราจรมาใช้ พบว่าเด็กเริ่มมีการตื่นตัวมากขึ้น ซึ่งเห็นได้จากพฤติกรรมการบริโภคต่อวันของเด็ก อยู่ที่ 298 ซอง เมื่อเริ่มโครงการก็เหลือแค่ 113 ซองต่อวัน

    “พอเรามีการให้ข้อมูลกับเขา เด็กจะเริ่มรู้ว่าขนมแต่ละประเภทควรกินปริมาณเท่าไร เรามีกิจกรรมให้ข้อมูลอย่างต่อเนื่อง ทำให้เด็กตัดสินใจที่จะซื้อได้มากขึ้น” นายพงษ์ภัทรกล่าว

    ขณะที่ รศ.ดร.ประไพศรี ศิริจักรวาล สถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวถึงงานศึกษาเรื่องฉลากสัญญาณไฟว่า เคยนำไปอบรมในโรงเรียน 41 แห่งทั่วประเทศ โดยให้นักเรียนเป็นผู้ปฎิบัติ ลงมือทำฉลากสัญญาณไฟ และนำไปติดบริเวณหน้าร้านสหกรณ์ในโรงเรียน ปรากฏว่าขนมที่ติดฉลากสัญญาณไฟยอดขายลดลง โดยเฉพาะฉลากสีแดงยอดขายลดลงเป็นจำนวนมาก

    “การติดฉลากไฟสัญญาณจราจรอาจสร้างความไม่พอใจให้กับผู้ประกอบการ ในประเทศแถบยุโรป มีการต่อต้านจากผู้ผลิตขนมรายใหญ่ ที่ได้รับผลกระทบจากฉลากไฟจราจร โดยอ้างว่าการใช้สีแดงแทนอันตรายนั้น เสมือนทำให้ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวดูเป็น ‘ผู้ร้าย’ ต่อผู้บริโภค” ดร.ประไพศรีกล่าว

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    อ่านข้อมูลเพิ่มเติมที่ จับตา : ผลการใช้ฉลากสีสัญญาณคุมขนมเด็ก

    ศูนย์ข้อมูล&ข่าวสืบสวนเพื่อสิทธิพลเมือง (TCIJ)
    อ่านข่าวออนไลน์จากแฟนเพจเฟสบุ๊คของ TCIJ ได้ทุกวัน
    www.facebook.com/tcijthai

    ศูนย์ข้อมูล&ข่าวสืบสวนเพื่อสิทธิพลเมือง (TCIJ)
     

แชร์หน้านี้

Loading...