ติดตามสถานะการณ์

พู่กัน ทอง ผ่าน พู่กัน ทอง



ผวาเขื่อน แม่สรวยร้าว-กลัวพัง หลังแผ่นดินไหว เขย่า"เชียงราย" ชาวบ้านนับพัน จี้ซ่อมแซมด่วน จนท.ยันแข็งแรง วันที่ 04 มิถุนายน พ.ศ. 2557 เวลา 08:05 น. ข่าวสดออนไลน์

ชาวบ้านผวาเขื่อนพัง หลังเขื่อนแม่สรวย เชียงรายเกิดรอยร้าวจากเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่เมื่อเดือนพ.ค. แล้วตามมาด้วยอาฟเตอร์ช็อกอีกนับร้อยครั้ง จนท.ชลประทานผู้ดูแลแจงเป็นแค่รอยร้าวของปูนบริเวณรอยต่อเขื่อนกับถนนเท่า นั้น ไม่กระทบโครงสร้างหลักของเขื่อน ยืนยันเขื่อนรับแผ่นดินไหวได้ถึง 7 ริกเตอร์ ทั้งนี้ เขื่อนดังกล่าว มท.1 เพิ่งยกคณะไปตรวจสอบหลังเกิดแผ่นดินไหวใหญ่ที่ผ่านมา

เมื่อ วันที่ 3 มิ.ย. ชาวบ้าน ต.แม่สรวย อ.แม่สรวย จ.เชียงราย เกิดความวิตกกังวลหลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่เมื่อเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา และเกิดอาฟเตอร์ช็อกตามมาอีกหลายครั้ง โดยชาวบ้านพบร่องรอยความเสียหายบริเวณเขื่อนโครงการชลประทานแม่ลาว หรือเขื่อนแม่สรวย หลายจุด จากการตรวจสอบอย่างละเอียดพบรอยแตกร้าวของขอบแท่นคอนกรีตด้านหน้าเขื่อนซึ่ง มีรอยร้าวและปูนแตกหลายจุด ทำให้ชาวบ้านไม่มั่นใจเกรงจะเกิดอันตรายหากมีแผ่นดินไหวครั้งใหม่ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ผู้ดูแลเขื่อนชี้แจงเบื้องต้นว่าเขื่อนยังแข็งแรง ขอให้ชาวบ้านสบายใจไม่ต้องวิตกกังวลใดๆ

นายชิน มณีวรรณ อายุ 42 ปี ชาวบ้านหมู่ที่ 2 บ้านสันกลาง ต.แม่สรวย ที่มีบ้านเรือนอยู่บริเวณท้ายเขื่อนแม่สรวยกล่าวว่า ปัจจุบันมีบ้านเรือนหลายพันหลังอยู่ท้ายเขื่อน ชาวบ้านต่างไม่มั่นใจในความปลอดภัยหลังจากข่าวพบรอยร้าวของเขื่อนเผยแพร่ออก ไป นอกจากนี้ การเกิดอาฟเตอร์ช็อกที่ยังมีอยู่อย่างต่อเนื่องส่งผลให้องค์พระธาตุคุ้ม เวียงสรวยที่อยู่บนยอดเขาบริเวณหน้าเขื่อนได้รับความเสียหาย ยอดเอียงลงมาเรื่อยๆ เกรงว่าจะพังถล่มลงมาหากยังเกิดอาฟเตอร์ช็อกแบบปัจจุบัน

นาย ชินกล่าวอีกว่า วันแรกที่เกิดแผ่นดินไหวใหญ่เมื่อวันที่ 5 พ.ค. ตนขึ้นมาสำรวจบริเวณหน้าเขื่อนพบรอยแตกของปูนหลายแห่ง สอบถามเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลเขื่อนได้รับคำตอบว่าไม่ต้องวิตกกังวล เขื่อนสามารถรับแรงสั่นสะเทือนได้ถึง 7 ริกเตอร์ โดยจะจัดเจ้าหน้าที่มาซ่อมแซมบางส่วนที่แตกร้าวต่อไป

นาย ชินกล่าวต่อว่า ตนกับชาวบ้านต้องการคำตอบที่กระจ่างชัดมากกว่านี้ เพราะหากเกิดอะไรขึ้นมาตนกับครอบครัวที่อยู่ใต้เขื่อนไม่ถึง 1 ก.ม.คงไม่มีเวลาอพยพหลบหนีได้ทัน รวมทั้งชาวบ้านท้ายเขื่อนอีกหลายพันหลังคาเรือน เวลานี้ชาวบ้านอยากเห็นการซ่อมแซมปรับปรุงเขื่อนที่มีมาตรฐานมากกว่านี้ เพราะบางจุดที่แตกร้าวการซ่อมแซมทำแค่ยาแนวปูน และใช้แผ่นพลาสติกปิดทับ ทำให้ชาวบ้านไม่มั่นใจในความแข็งแรงทนทาน

วันเดียวกัน นายสิรภพ แท่นมณี หัวหน้าฝ่ายส่งน้ำที่ 1 ผู้ดูแลโครงการชลประทานแม่ลาว หรือเขื่อนแม่สรวหย ให้สัมภาษณ์ว่าฝ่ายชลประทานที่ดูแลรับผิดชอบเขื่อนได้ประชุมชี้แจงชาวบ้าน อ.แม่สรวย และข้าราชการที่เกี่ยวข้องไปเมื่อวันที่ 29 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยความเสียหายเป็นส่วนของสะพานเชื่อมกับสันเขื่อน มีรอยต่อขยับแยกออกจากกันอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากการทรุดตัวที่ไม่เท่ากันของดิน แต่ไม่กระทบกระเทือนถึงโครงสร้างหลักของเขื่อน ซึ่งได้แก้ไขเบื้องต้นไปแล้ว สำหรับการพังทลายของดินบริเวณใกล้บ้านพักรับรองใกล้กับพระธาตุเวียงสรวยนั้น เป็นการเลื่อนไหลของดินตามปกติเวลาน้ำขึ้นน้ำลง ไม่ได้พังจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวแต่อย่างใด

นายสิรภพกล่าว อีกว่า ทั้งนี้ การซ่อมแซม บำรุงรักษาเขื่อน ได้ทำเรื่องเสนอไปยังกรมชลประทานแล้ว คาดว่าจะได้รับพิจารณาในปีงบประมาณ 2558 ส่วนการบำรุงรักษาทั่วไปนั้นทำกันเป็นปกติประจำอยู่แล้ว ขอให้ชาวบ้านไม่ต้องวิตกกังวลว่าเขื่อนจะพัง

ผู้สื่อข่าว รายงานว่า หลังเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่เมื่อวันที่ 5 พ.ค. ต่อมาวันที่ 7 พ.ค.นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทยขณะนั้น พร้อมด้วยนายพงษ์ศักดิ์ วังเสมอ ผู้ว่าฯ เชียงราย และคณะเดินทางมาตรวจเขื่อนแม่สรวย นายสิรภพ แท่นมณี ผู้ดูแลรับผิดชอบเขื่อนแม่สรวย ชี้แจงกับรมว.มหาดไทยว่า หลังเกิดแผ่นดินไหวเจ้าหน้าที่ตรวจสอบความเสียหายโดยรอบเขื่อน พบว่ามีรอยแตกร้าวของผิวปูนบริเวณเสาใกล้สะพานหน้าเขื่อนเล็กน้อย แต่รับรองว่าโครงสร้างหลักของเขื่อนยังคงแข็งแรง สามารถกักเก็บน้ำได้เหมือนเดิมทุกประการ

อย่างไรก็ตาม จนถึงปัจจุบันชาวบ้านที่อาศัยอยู่ท้ายเขื่อนยังคงวิตกกังวลหลายๆ เรื่อง ทั้งเรื่องกลัวเขื่อนพัง รวมทั้งหวาดผวากับแผ่นดินไหว และอาฟเตอร์ช็อกอีกนับร้อยครั้งที่ยังคงสั่นไหวมานานนับเดือน ล่าสุดเมื่อไม่กี่วันก่อนเกิดเหตุการณ์องค์พระเชียงแสนทรงเครื่อง ภายในวัดแม่สรวยหลวง พังถล่มลงมาช่วงกลางดึก ทำให้ชาวบ้านยิ่งหวาดกลัวมากขึ้น

ผวาเขื่อน แม่สรวยร้าว-กลัวพัง หลังแผ่นดินไหว เขย่า"เชียงราย" ชาวบ้านนับพัน จี้ซ่อมแซมด่วน จนท.ยันแข็งแรง

 

สุดระทึก นาซาจับภาพดวงอาทิตย์ปล่อยพายุสุริยะขนาดมหาศาลได้เป็นครั้งแรก(ชมคลิป) วันที่ 03 มิถุนายน พ.ศ. 2557 เวลา 10:05:47 น.



สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 4 มิ.ย. ว่า นาซาสร้างความฮือฮา สามารถจับภาพการปะทุของพายุสุริยะขนาดมหาศาลของดวงอาทิตย์ได้เป็นครั้งแรก โดยยานตรวจจับภาพพื้นผิวดวงอาทิตย์ของนาซา (IRIS) ประสบความสำเร็จในการจับภาพการปลดปล่อยมวลสุริยะจากชั้นพื้นผิวของดวงอาทิตย์ครั้งใหญ่ ซึ่งเป็นแหล่งพื้นผิวที่มีความร้อนมากที่สุดของดวงอาทิตย์ โดยมวลดังกล่าวได้ถูกขับปล่อยด้วยความเร็วมากกว่า 2.4 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

รายงานระบุว่า ยานตรวจจับภาพพื้นผิวดวงอาทิตย์ของนาซา ได้ตรวจจับการปะทุของพายุสุริยะครั้งใหญ่ของดวงอาทิตย์ ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่9 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยมีลักษณะเป็นสนามมวลพายุสุริยะที่มีขนาดความกว้างกว่าโลกถึง 5 เท่า และสูงกว่าโลกครึ่งเท่า ซึ่งยานไอริสได้ใช้เวลาเตรียมจับภาพปรากฎการณ์ระทึกดังกล่าวก่อนล่วงหน้า1 วัน และการตรวจจับภาพพลังงานของดวงอาทิตย์ ถือเป็นส่วนสำคัญในการเข้าใจกลไกการทำงานของดวงอาทิตย์ และจะสามารถช่วยอธิบายสาเหตุของการปะทุของพายุสุริยะ ตั้งแต่ระดับต่ำไปจนถึงระดับสูง หรือที่เรียกว่า การปลดปล่อยมวลสุริยะจากพื้นผิวดวงอาทิตย์ขนาดมหาศาล ซึ่งบางครั้งสามารถส่งผลรุนแรงได้หากกระทบต่อโลก

สำหรับยานไอริสได้ถูกส่งขึ้นสู่อวกาศตั้งแต่ปีที่แล้วเพื่อสังเกตกิจกรรมของวัตถุสุริยะ และรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับพลังงานของดวงอาทิตย์ และความร้อนของดวงอาทิตย์ ยานลำนี้่ถูกสร้างและพัฒนาร่วมกันโดยบริษัทล็อคฮีด มาร์ติน และห้องทดลองฟิสิกส์อวกาศของนาซา

<iframe width="507" height="315" src="//www.youtube.com/embed/SuAjao9e51U" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

สุดระทึก นาซาจับภาพดวงอาทิตย์ปล่อยพายุสุริยะขนาดมหาศาลได้เป็นครั้งแรก(ชมคลิป) : มติชนออ

 

พู่กัน ทอง ผ่าน พู่กัน ทอง
.
เกิดแผ่นดินไหวขนาด 4.2 แมกนิจูด ในนครลอสแองเจลิสของสหรัฐฯ แต่ไม่มีรายงานความเสียหาย หรือผู้ได้รับบาดเจ็บศูนย์กลางของแผ่นดินไหวอยู่ห่างจากทางตอนเหนือของเมืองแซนตามอนิก 7 กิโลเมตร

 

ศิษย์เชื่อฤาษีดังอินเดียยังไม่ดับแต่บำเพ็ญตบะลึก
01 มิถุนายน 2557 เวลา 16:07 น. |เปิดอ่าน 6,523 |



ศิษย์เชื่อฤาษีชื่อดังอินเดียยังไม่ตาย แต่เข้าสมาธิลึก พร้อมเก็บร่างในห้องเย็นอย่างดี ญาติเตรียมฟ้องศาลขวางทางมรดกหลายล้าน

กลายเป็นเรื่องวุ่นวายใหญ่ของแดนภารตะขณะนี้เลยทีเดียว สำหรับ ความขัดแย้งในประเด็นว่า ฤาษี ศรี อชุทอช มหาราช เสียชีวิตแล้วหรือไม่? ระหว่างครอบครัวของโยคีกับบรรดาศิษยานุศิษย์ ที่ไม่สามรถหายุติกันได้จนต้องขึ้นโรงขึ้นศาลกันเลยทีเดียว

ครอบครัวของฤาษีมหาราช เชื่อว่าฤาษีผู้นี้ได้เสียชีวิตไปแล้ว จากคำวินิจฉัยของแพทย์ แต่บรรดาลูกศิษย์กลับเชื่อว่า โยคีผู้นี้เพียงเข้าสมาธิลึกอยู่เท่านั้น

ทั้งนี้ ฤาษี ถือเป็นผู้ทรงศีลในศาสนาฮินดูที่เป็นที่นับถือโดยทั่วไป และชาวอินเดียมักให้ความเคารพ ฤาษีที่ถือศีลอย่างเคร่งครัด ยิ่งฤาษีมีตบะแก่กล้ามากเท่าไร ยิ่งมีลูกศิษย์ลูกหาเป็นจำนวนมาก

แน่นอนว่า ฤาษี ศรี อชุทอช มหาราช ผู้นี้ย่อมไม่ใช่ฤาษีธรรมดาแน่นอน เพราะนอกจากมีลูกศิษย์จำนวนมากแล้ว ยังมีดีกรีเป็นถึงผู้ก่อตั้ง ลัทธิ ทิพยะ ชโยติ จักราติ สันสถาน ที่เป็นที่นับถือกันอย่างแพร่หลายของชาวเมือง จาลันธาร์ ในแคว้นปัญจาบ

ความขัดแย้งอันแสนประหลาดนี้เริ่มต้นขึ้น เมื่อบรรดาลูกศิษย์ที่อาศรมของฤาษีท่านนี้ ปฏิเสธที่จะให้ครอบครัวนำร่างที่เชื่อว่าเสียชีวิตไปแล้ว นำไปประกอบพิธีตามศาสนา และอ้างว่าฤาษีท่านนี้ยังมีชีวิตอยู่

"ท่านได้เข้าสู่สมาธิอย่างลึกเพียงเท่านั้น" ศิษย์ท่านหนึ่งกล่าวพร้อมเสริมว่า จะแช่แข็งร่างของฤาษีไว้จนกว่าท่านจะตื่นขึ้นมาเพื่อกอบกู้โลก

หลังจากนั้นไม่นาน ผู้นับถือในตัวฤาษีท่านนี้ก็นำร่างของท่านไปแช่แข็งเพื่อรักษาไว้ แล้วรอวันที่ฤาษีผู้นี้จะตื่นขึ้น โดยนำร่างไปแช่ไว้ในตู้แช่แข็งแบบเดียวกับที่เห็นได้ทั่วไปในร้านขายของชำ

ด้านลูกศิษย์อีกคนเปิดเผยว่า ฤาษีมหาราช เคยเข้าสู่สมาธิลึกเช่นนี้มาก่อน และเคยใช้เวลาหลายปีในการนั่งสมาธิบริเวณเทืองเขาหิมาลัยที่มีอุณหภูมิต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง

ทั้งนี้ลูกศิษย์ของฤาษีชื่อดังท่านนี้ไม่ได้จำกัดวงอยู่แค่เฉพาะชาวอินเดียเท่านั้น แต่ยังลูกศิษย์จากนานาชาติทั้งชาวสหรัฐ ละตินอเมริกา ออสเตรเลีย ตะวันออกกลาง และยุโรป

กรณีการเสียชีวิตยังคงเป็นปริศนาและหาข้อสรุปไม่ได้ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจแคว้นปัญจาบลงความเห็นตรงกันว่า ท่านฤาษีมหาราชได้เสียชีวิตแล้วแต่ศาลสูงสุดของแคว้นปัญจาบได้ปฏิเสธว่าฤาษีมหาราชเสียชีวิตแล้ว ขณะที่รัฐบาลท้องถิ่นกล่าวว่า เป็นเรื่องของทางจิตวิญญาณทำให้เป็นการยากที่จะทำให้บรรดาลูกศิษย์เชื่อว่า ฤาษี ชื่อดังผู้นี้เสียชีวิตแล้ว

อย่างไรก็ดี กรณีเก็บร่างของฤาษีผู้นี้ไว้อาจจะไม่เป็นปัญหาสำหรับครอบครัว หากฤาษีชื่อดังผู้นี้ไม่ได้เป็นผู้ครอบครองอสังหาริมทรัพย์มูลค่ากว่า 100 ล้านปอนด์ (ราว 5,000 ล้านบาท) ขณะที่ทาง ดิลิป จา ลูกชายผู้เป็นผู้รับมรดกโดยตรง รู้สึกว่าการที่บรรดาลูกศิษย์ไม่ยอมรับว่าพ่อของตนเสียชีวิต เป็นการปิดกั้นตนจากมรดกกองโต

ภรรยาและลูกชายของฤาษีมหาราชกล่าวว่า จะเรียกร้องให้ทางศาลดำเนินการตรวจสอบใหม่ และจะต่อสู้ในคดีนี้ให้ถึงที่สุด

ศิษย์เชื่อฤาษีดังอินเดียยังไม่ดับแต่บำเพ็ญตบะลึก - โพสต์ทูเดย์ ข่าวรอบโลก

 

ตะลึง! กระบี่ เจอฟอสซิลหอย อายุ10ล้านปี
โดย ทีมข่าวภูมิภาค 3 มิ.ย. 2557 18:00



พบฟอสซิลหอยและหินลิกไนต์ บริเวณ ต.ปกาสัย จ.กระบี่ คาดอายุไม่ต่ำกว่า 10 ล้านปี ประสานสำนักธรณีวิทยาตรวจสอบ ...

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 3 มิ.ย. 57 นายนิวัฒน์ วัฒนยมนาพร กรรมการหน่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมวัฒนธรรมท้องถิ่น จ.กระบี่ พร้อมด้วย นายสริกร ถนอมสิน อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 202 ม.4 ต.ปกาสัย อ.เหนือคลอง เข้าตรวจสอบหินดินดาน ซึ่งถูกขุดขึ้นมาบริเวณสวนหลังบ้านนายสริกร โดยพบว่ามีฟอสซิลหอยน้ำจืดติดกันเป็นแผ่นใหญ่จำนวนมาก ส่วนใหญ่เป็นหอยฝาเดียว นอกจากนั้น ยังพบว่า ใต้ชั้นฟอสซิลหอย เป็นถ่านหินลิกไนต์สภาพอ่อนจำนวนมากด้วย



นายนิวัฒน์ กล่าวว่า จากการตรวจสอบในเบื้องต้นพบว่า เป็นการขุดลึกลงไป 5 เมตร และพบแผ่นหินดินดาน มีหอยน้ำจืดที่ติดกันจนกลายเป็นฟอสซิล คาดว่ามีอายุประมาณ 10 ล้านปีขึ้นไป เพราะเป็นหอยชนิดเดียวกับที่พบที่สุสานหอยกระบี่ นอกจากนั้น ยังพบถ่านหินลิกไนต์ ซึ่งเป็นการทับถมกันของซากพืชจนกลายเป็นถ่านหินลิกไนต์ แต่ยังอยู่ในสภาพอ่อน นอกจากนั้น จากการสอบถามไปยังชาวบ้านจำนวนมาก ก็ทราบว่าเมื่อขุดบ่อน้ำลึก 5-6 เมตร ก็จะพบกับหินในลักษณะนี้เกือบทั้งหมู่บ้าน หลังจากนี้จะประสานกับผู้เกี่ยวข้องลงมาตรวจสอบต่อไป.

ตะลึง! กระบี่ เจอฟอสซิลหอย อายุ10ล้านปี - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

แผ่นดินไหวในประเทศและใกล้เคียง

 

อส.ปภ. ชร. ได้แชร์รูปภาพของ ชมรมนักวิทยุสื่อสารเฝ้าระวังภัยจังหวัดเชียงราย



"เฝ้าระวัง" ๑๐.๐๑ น.ที่พรมแดน พม่า-อินเดีย ให้ดูภาพรวมครับ ทำไหมถึงให้มองว่าเป็นมหาภัยพิบัติระดับทวีป .... อุทิศ ๗

 

เขื่อนหลงเจียง ภัย'ไทใหญ่'รัฐฉาน โดย จิรพงศ์ เกิดเรณู วันที่ 09 มกราคม พ.ศ. 2554 ปีที่ 20 ฉบับที่ 7346 ข่าวสดรายวัน



ความเปลี่ยนแปลงอย่างหนักหน่วงของแม่น้ำโขง ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อประเทศลุ่มแม่น้ำโขงตอนกลางและตอนล่าง ทุกฝ่ายจับตามองไปที่เขื่อนขนาดใหญ่ในประเทศจีน ที่สร้างกั้นเส้นเลือดใหญ่ของอุษาคเนย์

แต่ไม่เฉพาะเขื่อนแม่น้ำโขงเท่านั้น มีปัญหาเขื่อนในจีนที่ไม่ค่อยรับรู้กันมากนัก เนื่องจากอยู่ในพื้นที่ปิดยากต่อการเข้าถึง ดังในพื้นที่ตอนเหนือของรัฐฉาน ในประเทศพม่า ซึ่งรับผลกระทบจากการสร้างเขื่อนหลงเจียง ในมณฑลยูนนาน ประเทศจีน อยู่ในขณะนี้

เป็นเขื่อนกั้นแม่น้ำหลงเจียง หรือ "แม่น้ำมาว" ชื่อในภาษาไทยใหญ่ และ "แม่น้ำฉ่วยหลี่" ชื่อในภาษาพม่า ก่อนจะไหลข้ามพรมแดนมารัฐฉาน พร้อมกับผลกระทบจากระดับน้ำที่ผันแปร เนื่องจากการปล่อยน้ำของเขื่อนหลงเจียงที่ไม่กำหนดเวลาปล่อยน้ำอย่างชัดเจน

และด้วยรัฐฉานเป็นพื้นที่ปิด ทางการพม่าเองก็ไม่สนใจต่อปัญหานี้ ทางองค์กรสภาวะเพื่อสิ่งแวดล้อมไทยใหญ่ (SAPAWA) พร้อมด้วยเครือข่ายปฏิบัติงานผู้หญิงไทยใหญ่ (SWAN) โครงการฟื้นฟูนิเวศในภูมิภาคแม่น้ำโขง (TERRA) จึงร่วมกับกลุ่มรักษ์เชียงของในประเทศไทย เปิดตัวรายงาน "ความผันแปรที่ปลายน้ำ : ผลกระทบจากเขื่อนหลงเจียงของจีนต่อชุมชนไทยใหญ่"

เพื่อตะโกนผ่านไทยดังๆ ไปยังพม่าและจีน ถึงผลกระทบจากโครงการเขื่อนหลงเจียง

"จ๋ามตอง" ตัวแทนเครือข่ายปฏิบัติงานผู้หญิงไทยใหญ่ กล่าวว่า รายงานฉบับนี้ได้ศึกษาถึงผลกระทบข้ามพรมแดนของเขื่อนหลงเจียง จากการสัมภาษณ์ชาวบ้านในชุมชนริมน้ำหลงเจียงที่ได้รับผลกระทบราว 20 หมู่บ้าน ช่วงเดือนส.ค.-ก.ย.2553 หลังจากเขื่อนเปิดใช้อย่างสมบูรณ์ โดยให้ความสำคัญกับผลกระทบต่อการเดินเรือและระบบขนส่ง อาชีพหลักของคนในพื้นที่ผลกระทบ

จ๋ามตองชี้ว่าปัญหาเขื่อนหลงเจียงไม่เคยมีการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม หรือให้ข้อมูลแก่ชาวบ้านชุมชนท้ายน้ำ ทางเครือข่ายปฏิบัติงานผู้หญิงไทยใหญ่เรียกร้องให้รัฐบาลพม่าศึกษาผลกระทบย้อนหลัง ส่วนปัญหาระดับน้ำขึ้นลงผิดปกติ ชาวบ้านต้องการรู้ว่าใน 1 วันระดับน้ำจะขึ้นลงกี่ครั้ง ในเวลาไหนบ้าง โดยชาวบ้านต้องการมาตรการเร่งด่วนที่จะช่วยให้สามารถเดินเรือได้ หากเป็นไปได้ พวกเขาต้องการให้แม่น้ำกลับคืนสู่สภาพธรรมชาติ ไหลอย่างปกติที่สุด

แต่จากสถานการณ์ในประเทศพม่า ที่ปกครองภายใต้รัฐบาลทหารเผด็จการ ทำให้ที่ผ่านมาไม่มีวิธีการที่จะบอกเล่าให้ใครฟังถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น แต่การเก็บข้อมูลนี้จะช่วยสื่อสารให้คนภายนอกรับรู้ได้ โดยเฉพาะในส่วนของทางการจีน ตรงนี้ทำให้ชาวบ้านมีความหวัง จากกลุ่มคนใน พื้นที่ ซึ่งคิดว่าตนเองจัดการอะไรไม่ได้ กลับมารู้สึกว่าพวกเขาทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้หากรวมตัวกัน โดยหลังจากนี้จะส่งหนังสือชี้แจงอย่างเป็นทางการให้รัฐบาลจีนอีกครั้งหนึ่ง

จากรายงานเครือข่ายปฏิบัติงานผู้หญิงไทยใหญ่ระบุว่า แม่น้ำหลงเจียงมีเขื่อนกั้นน้ำอยู่ 3 เขื่อน โดย 2 เขื่อนอยู่ในประเทศจีน คือ เขื่อนเต๋อหง หนงหลิง ในมณฑลยูนนาน ความสูงของเขื่อน 90.5 เมตร ก่อสร้างเมื่อปีพ.ศ.2551 มีกำลังผลิตไฟฟ้า 180 เมกะวัตต์

ส่วนเขื่อนหลงเจียงอยู่ห่างจากพรมแดนจีน-พม่า 30 กิโลเมตร มีกำลังผลิตกระแสไฟฟ้า 240 เมกะวัตต์ มีความสูง 110 เมตร เริ่มก่อสร้างเมื่อเดือนพ.ย.2549 เริ่มเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าเดือน ก.ค.2553 เขื่อนนี้ห่างจากเขื่อนเต๋อหง หนงหลิง ประมาณ 80 กิโลเมตร

ส่วนอีกแห่งคือ เขื่อนฉ่วยหลี่ ในพม่า ก่อสร้างเสร็จเมื่อปีพ.ศ. 2551 ตัวเขื่อนสูง 47 เมตร ห่างจากพรมแดนจีน-พม่า 30 กิโลเมตร อยู่ทางทิศใต้ของเมืองหมู่แจ้ ในรัฐฉาน

ช่วงก่อนมีเขื่อนหลงเจียง ในฤดูแล้งต้นปีพ.ศ.2552 ระดับน้ำในแม่น้ำหลงเจียงต่ำลง แต่ไม่ส่งผลกระทบต่อการเดินเรือ แต่ในต้นปีพ.ศ.2553 หลังสร้างเขื่อนระดับน้ำมีผลกระทบรุนแรง น้ำในแม่น้ำหลงเจียงลดลงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

ยิ่งเมื่อเข้าเดือนเม.ย. ระดับน้ำลดลงอย่างมาก บางช่วงน้ำสูงเพียงแค่ระดับเข่า ความกว้างของแม่น้ำลดลง 65 เปอร์เซ็นต์ เกิดเป็นแนวทรายขนาดใหญ่ทั้ง 2 ฝั่ง

ทำให้ชาวบ้านไม่สามารถขนสินค้าโดยรถบรรทุกไปที่เรือได้ทันที ต้องใช้แรงงานคนเดินข้ามหาดทรายไปยังท่าน้ำ และต้องสร้างถนนสายใหม่ที่จะเข้าไปถึงท่าน้ำได้ แต่เมื่อน้ำถูกปล่อยจากเขื่อน กระแสน้ำก็ซัดถนนพัง

สำหรับชาวบ้านริมฝั่งน้ำของแม่น้ำหลงเจียงมีรายได้หลักจากการรวมตัวกันตั้งสหกรณ์เดินเรือน้ำมาว/ฉ่วยหลี่ในภาคเหนือของรัฐฉาน มีประชากรราว 15,750 คน แต่ละหมู่บ้านมีเรือโดยสาร 2-8 ลำ รายได้จากการขนส่งสินค้าจะถูกนำมาแบ่งกันในสหกรณ์ จัดสรรเป็นกองทุนหมู่บ้าน ซ่อมแซมท่า เรือ และถนนลงท่าเรือ รวมถึงรายได้ ส่วนหนึ่งเป็นภาษีให้รัฐบาลในท้องถิ่นพม่า

โดยก่อนปีพ.ศ. 2553 การขนส่งหนาแน่น เรือแต่ละลำสามารถวิ่งข้ามไปมาได้ 10 เที่ยวต่อวัน มีรายได้ต่อทีมกว่า 2 ล้านจ๊าต หรือประมาณ 2,000 เหรียญสหรัฐ ในช่วง 10 วัน ช่วยให้แต่ละครอบครัวมีรายได้ประมาณ 150,000 จ๊าต หรือราว 150 เหรียญสหรัฐ

แต่เมื่อเขื่อนถูกเปิดใช้งานเมื่อปีพ.ศ.2553 ส่งผลให้ระดับน้ำผันผวน เช่น เรือไม่สามารถบรรทุกหนักได้มากเพราะน้ำตื้น หรือน้ำถูกปล่อยออกมาโดยไม่แจ้งล่วงหน้า ทำให้สินค้าริมตลิ่งถูกน้ำซัดเสียหาย

เมื่อสอบถามชาวบ้านต่างบอกว่ามีความกังวลในเรื่องต่างๆ เช่น รายได้ที่ลดลง เนื่องจากการขนส่งทางเรือมีปัญหา ปัญหาน้ำที่ขึ้นลงไม่เป็นธรรมชาติ รวมถึงความเสี่ยงจากการกัดเซาะของชายฝั่ง

จากการรายงานดังกล่าว จ๋ามตอง และเครือข่าย ต้องการเรียกร้องไปยังรัฐบาลจีน และพม่า เพื่อแก้ปัญหาเฉพาะหน้าว่า ขอให้บรรเทาความเดือดร้อนจากผลกระทบท้ายน้ำของเขื่อนหลงเจียงที่กระทบต่อวิถีชีวิตของประชาชนในหุบเขามาว เพื่อให้ปล่อยน้ำให้ไหลเป็นไปอย่างธรรมชาติ จะได้ลดผลกระทบต่อชุมชนท้ายน้ำให้น้อยที่สุด

 

อวยชัย กุลพงษ์



แมลงปีกแข็งนับล้านตัว บุกบ้านชาวบ้าน
อุบลราชธานี - แมลงปีกแข็งนับล้านตัว บุกบ้านชาวบ้านในอุบล สร้างความเดือนร้อนเป็นอย่างมาก จนไม่สามารถอาศัยในบ้านได้ ระบุจะมาทุกปีในช่วงเดือน พค.-กย.เป็นมา 11 ปีแล้ว วอนหน่วยงานเข้ามาปราบแมลงให้หมดสิ้น

เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 57 นายศราวุธ กัลยา เปิดเผยว่า มีแมลงปีกแข็งนับล้านตัวบินเข้าไปอาศัยอยู่ในบ้านเลขที่ 34 หมู่ที่ 2 บ้านหนองเค็ง ตำบลขามใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเป็นบ้านไม้ 2 ชั้น ชั้นล่างเป็นใต้ถุนโล่ง ส่วนชั้นบนเป็นที่อาศัยหลับนอน ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก ต้องหนีไปอาศัยอยู่กับบ้านญาติแทน แม้จะซื้อยาฉีดฆ่าแมลงมาฉีดพ่นแต่ไม่เป็นผล ฉีดอย่างไรก็ไม่ตาย กวาดใส่กระสอบปุ๋ยไปฝังดินก็ยังไม่หมด

นายศราวุธ กล่าวว่า เมื่อ 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ช่วงกลางคืนก่อนวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 ซึ่งเป็นวันวิสาขบูชา แมลงปีกแข็งตัวสีดําได้บินมาตกบนหลังคาบ้านแบบสายฝน และเข้ามาเกาะบนหลังคา ตามไม้ขื่อ เสาเรือน หน้าต่าง ที่นอน บนพื้น คืบคลานไปเกาะอาศัยตามผ้า ตามที่นอน ซึ่งมีทุกซอกทุกมุมของบ้าน จนต้องหอบเสื้อผ้า และพายายที่นอนป่วยอยู่ภายในบ้าน ไปอาศัยบ้านของญาติอยู่ มานานกว่า 3 สัปดาห์แล้ว เพราะเมื่อนอนทับตัวแมลงดังกล่าว ก็จะเกิดไหม้เป็นแผลพุพองทันที
นายศราวุธ กล่าวว่า แมลงชนิดนี้เข้ามาอาศัยอยู่ในบ้านก่อนจะมีฝนตกลงมา โดยไม่รู้ว่าเข้ามาด้วยวิธีใด โดยแมลงปีกแข็งลักษณะนี้จะบินมาอาศัยอยู่ในบ้าน เกิดขึ้นปีละ 1 ครั้ง ในช่วงกลางเดือนพฤษภาคม ไปจนถึงประมาณเดือนกันยายน เป็นอย่างนี้มาประมาณ 11 ปีแล้ว และเป็นเพียงบ้านนี้บ้านเดียว ตนต้องนำยาฆ่าแมลงมาฉีดพ่นเอง และที่ผ่านมายังไม่เคยมีหน่วยงานใดเข้ามาช่วยเหลือ
Nation TV
แมลงปีกแข็งนับล้านตัว บุกบ้านชาวบ้าน - Nation TV

 

ความจริงหลังกึ่งพุทธกาล



แกนรูปแบบ Shift (ทำนายภัยพิบัติ) ชี้ไปที่ 14 มิถุนายน 2014!

หลายคนทำงานหนักสำหรับการเฝ้าระวังสำหรับภัยพิบัติ การคาดการณ์ วิเคราะห์ ความเป็นไปได้ แต่อาจถูกหรือผิด แต่ทั้งหมดที่ทำเป็นการพยายามหาข้อมูลเพื่อนำไปสู่การหาวิธีป้องกันร่วมกันสำหรับทุกฝ่าย

การทำงานของ 9Nania ที่ผ่านมาจากข้อมูลของเธอชี้ให้เห็นว่า เธอทายถูก
วันก่อนที่จะเกิดแผ่นดินไหวทำลายล้าง Fukushima, เธอปล่อยวิดีโอทำนายการเปลี่ยนแปลงแกนผ่านแผ่นดินไหว
https://www.youtube.com/watch?v=95zMdTvoqcQ
แต่ก็ยังมีคนอื่นชี้ให้เห็นว่าเธอได้รับการทำนายผิดพลาดเช่นกัน

14 มิถุนายน 14 ที่จะถึง วันดังกล่าวจะเป็นอีกคำทำนายที่ล้มเหลวหรือจะเป็นจริง เฝ้าติดตามไปพร้อมกับ 9Nania โดยไม่สนว่าจะถูกหรือผิด เพียงระวังไว้บ้างไม่เสียหลาย และหวังลึกๆว่าในฐานะเราๆคงเป็นกำลังใจให้คนทำงานอย่างเธอ

 

รายงานสถานการณ์รอบโลก/นอกโลก



ฝรั่งเตือน!! อาจเกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ระดับ 8 ริกเตอร์ขึ้นไป ในวันที่ 11-14 มิถุนายน 2557 นี้ โดนจุดที่ต้องระวังซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในเขต Ring of Fire คือ ญี่ปุ่น , อะแลสกา , ฝั่งตะวันตกของสหรัฐฯ , เม็กซิโก , เปรู , นิวซีแลนด์ , หมู่เกาะโซโลมอน , วานูอาตู , อินโดนีเซีย , หมู่เกาะอันดามันและนิโคบาร์- รอยเลื่อนสะแกง , ฟิลิปปินส์ และไต้หวัน ซึ่งทั้งหมดนี้มีสิทธิ์ที่จะเกิดได้สูงในระดับ 8 ริกเตอร์.

<iframe width="640" height="390" src="//www.youtube.com/embed/4IdtQdxINfo" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>



ช่วงวันที่ 13-15 มิ.ย. 57 นี้ จะมีแนวดาวเคราะห์เรียงตัวกัน - ดวงอาทิตย์ โลก ดวงจันทร์ - ดวงอาทิตย์ ศุกร์ ทางช้างเผือก ช่วงเวลาสังเกตการณ์ที่ดวงอาทิตย์ 12-15 ช่วงเวลาสังเกตการณ์ที่ดาวโลก 12-18 - See more at: ฝรั่งเตือน!! อาจเกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ระดับ 8 ริกเตอร์ขึ้นไป ในวันที่ 11-14 มิถุนายน 2557 นี้ |

จุดที่น่าติดตาม



- ที่อินโดนีเซีย เพราะภูเขาไฟที่นั่นมีเยอะที่สุดในโลก 129 ลูก และระเบิดอยู่ทุกวัน





- ที่เยลโลว์สโตน เริ่มแสดงอาการสั่นสะเทือนระดับ 3 ริกเตอร์ ในวันที่ 5 มิ.ย.57 โดยล่าสุดมีการทำนายระหว่างวันที่ 8-10 มิ.ย.57 อาจจะเกิดแผ่นดินไหวระดับ 5.5-6.0 ริกเตอร์ได้ ซึ่งสถานที่จะเกิดนั้นคือ รัฐเนวาดา , ภาคเหนือของรัฐแคลิฟอร์เนีย , ภาคใต้ของรัฐไอดาโฮ , และเยลโลว์สโตน ในที่ใดที่หนึ่ง





- บริเวณหมู่เกาะอันดามันและนิโคบาร์ โดยปัจจุบันตอนนี้ โค้งแผ่นทวีปซุนดาฉีกขาด จากความพยายามของแผ่นอินโด-ออสเตรเลียที่จะมุดแผ่นซุนดา ทำให้แผ่นดินเคลื่อนเข้ามาทางอันดามันมากขึ้น โอกาสเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงขนาด 7 ริกเตอร์ ขึ้นไปในอนาคตนี้ก็มีมากขึ้นไปด้วยเช่นกัน
http://disaster-situation.blogspot.com/2014/06/8-11-14-2557.html

 

ผู้พเนจร จากฟากฟ้า



เปิดตำนาน Anunnaki จาก Shota ชาวอินดิโก้(TH) โปรดใช้วิจาราณญาณกันด้วยนะครับ

ครั้งหนึ่งนานมาแล้วในจักรวาลอันกว้างใหญ่ ปรากฏซึ่งเผ่าพันธุ์แสนทรงพลานุภาพ มีความก้าวหน้าสูง ชื่นชอบการทำสงครามและการยึดครอง มนุษย์โลกแห่งโบราณกาลเรียกนามของเผ่าพันธุ์นี้ว่า แอนอันนากิ แต่ด้วยเหตุหลากหลายอย่างแอนอันนากิปัจจุบันกำลังถูกบั่นทอนอำนาจให้ลดลง ต่อไปนี้ คือ เรื่องราวของเนบิรู และชาวแอนอันนากิ

ผู้คนที่ติดตามเรื่องดังกล่าวอาจรู้จัก เนบิรู ในหลากหลายชื่อมาก เช่น แพลเนตเอ็กซ์,เดอะ ทแวล์ฟ แพลเนต,มาร์ดุ๊กพาราไดซ์,เฮฟเว่น (ที่แปลว่าสรวงสวรรค์) หรือ คิงด้อม ออฟ เฮฟเว่น (อาณาจักรแห่งสรวงสวรรค์),ฯลฯ โดยเรียกต่างกันไปตามวัฒนธรรมและประเพณีความเชื่อของตน อย่างไรก็ตาม ถึง เนบิรูจะถูกเรียกว่า ทแวล์ฟ แพลเนต (ดาวดวงที่สิบสอง) หากว่ากันตามจริงแล้ว เนบิรู มิใช่สมาชิกลำดับที่สิบสองในระบบสุริยะของพวกเรา หากแต่มาเป็นสมาชิกของระบบสุริยะคู่ขนานกับระบบสุริยะของเรา ระบบสุริยะแห่งดวงอาทิตย์ที่สิ้นอายุขัยและมืดดับลงไปแล้ว ดาวเนบิรูไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าจากโลก แต่ดวงอาทิตย์ซึ่งเป็นศูนย์กลางของระบบสุริยะที่เนบิรูโคจรรอบๆนั้น สามารถมองเห็นได้จากโลก ลักษณะวงโคจรของเนบิรูซึ่งเป็นดาวเคราะห์วงนอกสุดของระบบสุริยะคู่ขนานกับของพวกเรา ทำให้ชาวแอนูนาคิ ได้ใช้ประโยชน์จากการใช้ดาวเคราะห์ดวงดังกล่าวสอดแนมดาวเคราะห์นอกระบบสุริยะของพวกเขาอีกหลายดวงรวมไปถึงโลกด้วย

ชาวสุเมเรียน (สุเมเรีย) เป็นคนแรกที่ตั้งชื่อ เนบิรุ ขึ้น ในขณะที่ชาวบาบิโลเนียน (บาบิโลเนีย) เรียกว่า มาร์ดุ๊ก ส่วนชาวเมโสโปเตเมียเชื่อว่า ดาวเนบิรูนั้นเป็นดาวเคราะห์ลำดับที่สิบสอง ของระบบสุริยะของพวกตนและเป็นสรวงสวรรค์สถานที่ซึ่งบรรดาเทพเจ้าของพวกเขาพำนักอยู่

ชาวเนบิรู มักถูกเรียกว่า แอนอันนากิ, เนฮิลิม (อ่านแบบฮิบรูว่า เนฟิลิม), อิโรฮิม (เป็นพหูพจน์ของ เนฮิลิม), มาดุ๊กเคี่ยนส์ (ชาวมาร์ดุ๊ก)เป็นต้น ผมจะขออนุญาตเรียกว่า แอนอันนากิ ซึ่งชาวสุเมเรียนรู้จักกัน หมายความคร่าวๆว่า "ผู้ซึ่งมายังโลกจากสรวงสรรค์"ในพระคัมภีร์ไบเบิลฉบับเก่าหรือเล่มต้นของคริสต์ศาสนา (คัมภีร์ภาคพันธสัญญาเดิม ) เรียกผู้ซึ่งมายังโลกจากสรวงสรรค์เหล่านี้ว่า "แอนาคิม" (ไม่ใช่อนาคิน สกายวอคเกอร์นะ)

ประชากรบนดาวเคราะห์เนบิรู ประกอบไปด้วย ชาวเรปทิเลี่ยน(คือพวกที่วิวัฒนาการมาจากสัตว์เลื้อยคลาน ไม่ใช่จากสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเหมือนมนุษย์) ที่ชาญฉลาด และปกครองโดยแอนอันนากิชนชั้นสูง นั่นคือพวกเนฟิลิม หมายความว่า ผู้ซึ่งมายังโลกจากสรวงสรรค์ ในภาษาฮิบรู ชาวแอนอันนากิมีความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีสูงมากกว่าเผ่าพันธุ์อื่นๆ หลายเผ่าพันธุ์ในจักรวาล ณ เวลานั้น ชาวแอนอันนากิ เรียก ดาวบ้านเกิดของพวกเขาว่า เซออส (เนบิรู)

แอนอันนากิเป็นเผ่าพันธุ์ที่รุนแรง นิยมการทำสงคราม พวกเขาก้าวร้าว ชั่วร้าย มีความต้องการทางเพศสูง มีค่านิยมแต่งงานกันเองในเครือญาติ กระหายเลือด หลอกลวง อิจฉาริษยา และชื่นชอบการยึดครอง บริโภคเนื้อเป็นอาหาร บางครั้งบริโภคพวกเดียวกันเอง นอกจากนี้ยังนิยมให้มีพิธีกรรมบูชายัญต่อพวกตน ด้วยหญิงสาวพรหมจารีย์ทั้งจากอารยธรรมที่พวกตนยึดครองได้หรือแม้แต่พวกชนชั้นทาสจากพวกเดียวกันเอง ชาวแอนอันนากิมีความสามารถพิเศษในการควบคุมจิตใจ ความเชี่ยวชาญด้านการควบคุมเศรษฐกิจ โดยผ่านระบบความเชื่อทางศาสนาและเงินตรา นอกจากนี้ชาวแอนอันนากิยังโดดเด่นด้านเทคโนโลยีทางพันธุวิศวกรรม ชาวเรปทิเลี่ยนซึ่งถูกแอนอันนากิชนชั้นปกครองนำมาปรับปรุงพันธุ์ผ่านเทคโนโลยีทางพันธุวิศวกรรมจนเป็นผลสำเร็จนั้นถูกเรียกว่า "ดูคาซ" พวกดูคาซถูกใช้เป็นหน่วยรบในการทำสงคราม ตลอดจนควบคุมประชาชนบนดาวเนบิรู (เซออส) และบรรดาชาวอาณานิคมจากอารยธรรมอื่นที่พวกตนเข้ายึดครองไว้ได้ให้อยู่ในร่องในรอยตามที่พวกตนต้องการ ดังนั้น ดูคาซ คือ เรปทิเลี่ยน แต่เรปทิเลี่ยนไม่จำเป็นต้องเป็นดูคาซทั้งหมดอย่างไรก็ตาม ในเรปทิเลี่ยนเองนั้นมีหลายประเภท เช่น ประเภทผู้ปกครอง ซึ่งพวกนี้มิใช่ดูคาซ เป็นต้น ซึ่งก็เป็นไปตามกมลสันดารของแอนอันนากิที่ชอบแบ่งชนชั้นวรรณะ

ชาวเรปทิเลี่ยนที่เป็นพวกดูคาซจะถูกส่งไปปฏิบัติภารกิจต่างๆตามคำสั่งเจ้านายของพวกตน เนฮิลิม หรือ อิโรฮิม ทั้งในฐานะทหารที่เข้าทำการรบกับเผ่าพันธุ์ต่างดาวอื่นๆ หน่วยสืบราชการลับ ทหารองครักษ์ส่วนตัว และตำรวจ ในขณะที่ชาวแอนอันนากิเองนั้นก็แบ่งเป็นหลายเผ่า โดยมีเผ่าหนึ่งซึ่งเป็นศัตรูคู่อาฆาตกับเผ่าดูคาซ เผ่าดังกล่าวเรียกตัวพวกเขาเองว่า เพอร์ส-ซายเรส์ (พวกเราเรียกพวกนี้ว่า วูลเจอไรท์ส แต่ไม่ใช่เพราะรูปร่างเหมือนอีแร้งหรอก) ทั้งสองเผ่ายังคงเป็นศัตรูคู่อาฆาตกันมาจนถึงปัจจุบัน ลูกหลานผู้สืบทอดจากทั้งสองเผ่าดังกล่าวนี้ยังคงอาศัยอยู่บนโลกของพวกเรา และต่างต่อสู้แข่งขันเพื่อแย่งชิงอำนาจปกครองอารยธรรมบนโลกกันอย่างเข้มข้น ลูกหลานของพวกนี้ส่วนใหญ่ทำงานอยู่ในตำแหน่งที่มีอิทธิพลทั้งในด้านการเมือง เศรษฐกิจ วิทยาศาสตร์ ศาสนา กฏหมาย การแพทย์ (โดยเฉพาะในธนาคารเลือด) วงการบันเทิง อุตสาหกรรมการค้าประเวณี เกษตรกรรม ธุรกิจใหญ่ๆ และกองทัพ ซึ่งส่วนใหญ่มนุษย์เหล่านี้มักไม่รู้ตัวว่าตนสืบเชื้อสายมากจากมนุษย์ต่างดาว

ชาวแอนอันนากิมีลักษณะทางกายภาพที่มีเลือดเนื้อ มีบุคลิกภาพที่จองหองและหยิ่งยโส มีความต้องการทางเพศที่รุนแรงและควบคุมไม่ได้โดยไม่สนว่าคู่ของตนจะอยู่ในวัยเด็กหรือวัยเจริญพันธุ์ มีความต้องการที่จะเป็นผู้ควบคุมและยึดครองสูง เผ่าพันธุ์จักรกลสงครามที่ดุร้ายนี้มีความกระเหี้ยนกระหือรืออย่างมากในการล่าและเข้าปกครองอารยธรรมอื่นๆ ไปจนถึงชนชั้นที่ต่ำกว่าในพวกเดียวกันเอง นอกจากนี้ชาวแอนอันนากิยังมีระบบวรรณะของเพศโดยถือว่าเพศหญิงเป็นเพศที่ต่ำกว่าเพศชาย ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่แอนอันนากิพยายามที่จะทำลายศาสนาซึ่งบูชาพระแม่ศักดิ์สิทธิ์ ของมนุษย์โลกโบราณ แต่แอนอันนากิต้องพบกับการต่อต้านอย่างหนักจากมนุษย์โลกโบราณที่ไม่ยอมรับการกระทำของพวกแอนอันนากิ จนในที่สุดแอนอันนากิต้องเปลี่ยนวิธีจากการใช้กำลังเป็นการบ่อนทำลายทางความเชื่อด้วยการสร้างศาสนาใหม่ ความเชื่อใหม่ที่บูชาพระแม่ศักดิ์สิทธิ์ เช่น เอิร์ธมาเทอร์ (พระแม่ธรณี) มาเธอร์ เนเจอร์ (พระแม่แห่งธรรมชาติ) เป็นต้น ซึ่งภายหลังแอนอันนากิก็ได้บ่อนทำลายภาพลักษณ์ของพระแม่เหล่านี้ลงด้วยการยัดเยียดลักษณะและบุคลิกเลวๆ ให้ อาทิเช่น อิจฉาริษยา สำส่อน และอาฆาตแค้น ซึ่งหนึ่งในตัวอย่างที่เห็นเด่นชัดได้แก่ เจ้าแม่กาลี เป็นต้น

 

Newsmania



น้ำท่วมฉับพลันในพื้นที่ทางตอนเหนือของอัฟกานิสถาน วานนี้ มีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 70 ราย ประชาชนหลายพันคนต้องอพยพออกจากที่อยู่อาศัย บ้านเรือนเสียหายหลายร้อยหลัง เจ้าหน้าที่คาดว่ายอดผู้เสียชีวิตจะเพิ่มขึ้นอีก

 

Piyacheep S.Vatcharobol

https://www.facebook.com/photo.php?v=10152189599047297&set=vb.197655350301889&type=2&theater

<div id="fb-root"></div> <script>(function(d, s, id) { var js, fjs = d.getElementsByTagName(s)[0]; if (d.getElementById(id)) return; js = d.createElement(s); js.id = id; js.src = "//connect.facebook.net/th_TH/all.js#xfbml=1"; fjs.parentNode.insertBefore(js, fjs); }(document, 'script', 'facebook-jssdk'));</script>
<div class="fb-post" data-href="https://www.facebook.com/photo.php?v=10152189599047297" data-width="466"><div class="fb-xfbml-parse-ignore"><a href="https://www.facebook.com/photo.php?v=10152189599047297">โพสต์</a> by <a href="https://www.facebook.com/Piyacheep">Piyacheep S.Vatcharobol</a>.</div></div>


น้ำดำผุดพร้อมคราบมัน ที่ฝายกั้นแม่ลาว 1/4 — ที่ อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย

Piyacheep S.Vatcharobol

น้ำดำผุดพร้อมคราบมัน แม่ลาว 2/4 — ที่ อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย

https://www.facebook.com/photo.php?v=10152189602397297&set=vb.197655350301889&type=2&theater

<div id="fb-root"></div> <script>(function(d, s, id) { var js, fjs = d.getElementsByTagName(s)[0]; if (d.getElementById(id)) return; js = d.createElement(s); js.id = id; js.src = "//connect.facebook.net/th_TH/all.js#xfbml=1"; fjs.parentNode.insertBefore(js, fjs); }(document, 'script', 'facebook-jssdk'));</script>
<div class="fb-post" data-href="https://www.facebook.com/photo.php?v=10152189602397297" data-width="466"><div class="fb-xfbml-parse-ignore"><a href="https://www.facebook.com/photo.php?v=10152189602397297">โพสต์</a> by <a href="https://www.facebook.com/Piyacheep">Piyacheep S.Vatcharobol</a>.</div></div>

Piyacheep S.Vatcharobol

น้ำดำผุดะร้อมคราบมัน แม่ลาว 3/4 — ที่ อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย

https://www.facebook.com/photo.php?v=10152189614317297&set=vb.197655350301889&type=2&theater

<div id="fb-root"></div> <script>(function(d, s, id) { var js, fjs = d.getElementsByTagName(s)[0]; if (d.getElementById(id)) return; js = d.createElement(s); js.id = id; js.src = "//connect.facebook.net/th_TH/all.js#xfbml=1"; fjs.parentNode.insertBefore(js, fjs); }(document, 'script', 'facebook-jssdk'));</script>
<div class="fb-post" data-href="https://www.facebook.com/photo.php?v=10152189614317297" data-width="466"><div class="fb-xfbml-parse-ignore"><a href="https://www.facebook.com/photo.php?v=10152189614317297">โพสต์</a> by <a href="https://www.facebook.com/Piyacheep">Piyacheep S.Vatcharobol</a>.</div></div>

Piyacheep S.Vatcharobol

น้ำดำผุดพร้อมคราบมัน แม่ลาว 4/4 — ที่ อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย

https://www.facebook.com/photo.php?v=10152189625222297&set=vb.197655350301889&type=2&theater

<div id="fb-root"></div> <script>(function(d, s, id) { var js, fjs = d.getElementsByTagName(s)[0]; if (d.getElementById(id)) return; js = d.createElement(s); js.id = id; js.src = "//connect.facebook.net/th_TH/all.js#xfbml=1"; fjs.parentNode.insertBefore(js, fjs); }(document, 'script', 'facebook-jssdk'));</script>
<div class="fb-post" data-href="https://www.facebook.com/photo.php?v=10152189625222297" data-width="466"><div class="fb-xfbml-parse-ignore"><a href="https://www.facebook.com/photo.php?v=10152189625222297">โพสต์</a> by <a href="https://www.facebook.com/Piyacheep">Piyacheep S.Vatcharobol</a>.</div></div>

 

ผู้พเนจร จากฟากฟ้า



ประวัติศาสตร์สหรัฐอเมริกาแบบเจาะลึก
อเมริกาจริงๆโดนยึดครองสิ้นสลายไปแล้วเมื่อปี 1931 และยึดแบบสมบูรณ์เมื่อ ปี 1938 โดยระบอบ central planners
เขียนโดย Thanong Fanclub
ระบอบ central planners คือระบบของการควบคุมเพื่ออำนาจและทุน โดยมีอำนาจเหนือกลไกการเลือกตั้ง รัฐบาล รัฐสภา ข้าราชการ ตำรวจ หน่วยงานความมั่นคง การต่างประเทศ ทหารบางส่วน ธุรกิจสื่อสาร น้ำมัน พลังงาน อสังหาริมทรัพย์ ฯลฯ เห็นประเทศไทยเป็นเค๊กก้อนโต เพื่อตัดแบ่งขาย
ประธานาธิบดี อับราฮัม ลิงคอล์น เป็นผู้นำที่ต่อสู้กับบรรดารัฐต่างๆ ทางตอนใต้ของอเมริกาหรือระบอบ central planners โดยมีการสู้รบกันอย่างดุเดือดระหว่างทหารจากสังกัดส่วนกลางและทหารในรัฐทางใต้ แต่ถึงที่สุดฝ่ายของลินคอล์น ก็ได้รับชัยชนะและมีประกาศปลดปล่อยทาสในปี 1863 โดยฟอร์มแล้วระบอบ central planners มาจากการเลือกตั้งประชาธิปไตย แต่โดยไส้ในแล้วเป็นเผด็จการเพื่อพวกพ้องกลุ่มเล็กๆ แต่มีแขนขาที่พร้อมทำงานให้ในตำแหน่งสำคัญต่างๆของประเทศ
ประธานาธิบดีจอห์น เอฟ เคนเนดี้เป็นประธานาธิบดีคนเดียวของสหรัฐฯที่กล้าท้าทายอำนาจของระบอบcentral planners ที่คุมสหรัฐฯอเมริกาอย่างเหนี่ยวแน่น เคนเนดี้พยายามล้มระบอบ central planners แต่ก็พลาดท่าจนได้
Central planners พยายามยึดอเมริกามาตลอดช่วงก่อตั้งสาธารณะรัฐ ประธานาธิบดีสหรัฐฯหลายคนพยายามสู้ไม่ให้พวกนี้ตั้งธนาคารกลางได้ เพราะว่าถ้าตั้งได้ จะเป็นการยึดระบบการเงินสหรัฐฯ และนำไปสู่การควบคุมกลไกอื่นๆของประเทศ ในศตวรรษที่ 19 ไม่ว่าประธานาธิบดี Andrew Jackson หรือประธานาธิบดี Abraham Lincoln ต่างก็ตั้งป้อมรบกับพวก central planners ไม่ให้มีอิทธิพลเหนือระบบการเงินและระบบการเมืองสหรัฐฯ ท้ายที่สุด Lincoln โดนพวกนี้เก็บ
Central planners ยึดหัวใจของการเงินสหรัฐฯได้เมื่อปี1931 ในสมัยประธานาธิบดี Woodrow Wilson เมื่อมีการก่อตั้ง US Federal Reserve หรือธนาคารเอกชนที่ทำหน้าที่เป็นธนาคารกลาง ทั้งเฟดและแบงค์ Wall Street จึงกุมการเงินและหัวใจเศรษฐกิจของสหรัฐฯได้ตั้งแต่ตอนนั้น พวกcentral planners ได้ตั้ง Council of Foreign Relations เป็น think tank หรือสถาบันวิจัยเพื่อวางแนวทางประเทศ สมัยประธานาธิบดี Franklin D Roosevelt ได้มีการยึดทองจากประชาชนปี1933 เพื่อเอาทองมาอุ้มเฟด หลังวิกฤติเศรษฐกิจ The Great Depression เมื่อไปี1929
หลังสงครามโลกครั้งที่2 สหรัฐฯเริ่มกลายเป็นรัฐตำรวจโลก ประธานาธิบดี Harry Trumanผู้ที่สั่งปล่อยระเบิดนิวเคลียร์ลงญี่ปุ่น2ลูกเป็นผู้ดำเนินนโยบายตามใบสั่งของ central planners ให้สหรัฐฯเลิกนโยบายโดดเดี่ยวที่มีมาตั้งแจ่ศตวรรษที่19 เรียกว่า Monroe Doctrine และกลายเป็นตำรวจโลกแทน โดยอ้างว่าสหรัฐฯต้องเข้าไปก้าวก่ายในกิจการการเมืองของประเทศต่างๆเพื่อลดอำนาจของรัสเซีย
หลังจากชนะสงคราม central planners สร้างอเมริกาให้เป็นมหาอำนาจ สร้างเงินดอลล่าร์ให้เป็นเงินสกุลหลักของโลก สร้าง UN, World Bank, IMFและองค์กรระหว่างประเทศต่างๆ เพื่อครอบงำระเบียบโลกหลังสงคราม พวกcentral plannersกลายเป็นรัฐบาลเงาของสหรัฐฯ คุมฝ่ายความมั่นคงของสหรัฐฯผ่าน CIA, National Security Council, Pentagon, State Department ฯลฯ ซึ่งดำเนินนโยบายให้สหรัฐฯเป็นจ้าวโลก เพื่อเกื้อหนุนธุรกิจทางการเงินของ Wall Street พลังงานของบริษัทน้ำมัน อาวุธของบริษัทผู้ผลิตอาวุธ (military industrial complex) และธุรกิจใหญ่ของบริษัทที่อยู่ในตลาดหุ้น
อำนาจของ central planners ใหญ่ขึ้นไปเรื่อยๆ แต่ประชาชนส่วนใหญ่ไม่รู้สึก เพราะว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯใหญ่ ทุกคนได้ประโยชน์ถ้าขยันหน่อย เก่งหน่อยก็อยู่ดีกินดี เมื่อเป็นเช่นนี้จะมีใครป่วยการมาสู้กับอำนาจมืดของ Central planners และพวก central planners รู้ธรรมชาติของมนุษย์ดีว่าส่วนมากแล้วจะเห็นแก่ตัว เห็นประโยชน์ของตัวเองก่อน เมื่อมีการมีงานดี ก็ไม่อยากจะทำให้ไรที่จะกระทบฐานะการเงิน การงาน หรือสังคมของตัวเอง
ในเมื่อส่วนใหญ่คิดแบบนี้ มันง่ายสำหรับ central planners ที่จะค่อยๆวางระบบเพื่อครอบงำ ยึดสหรัฐฯจนเบ็ดเสร็จ ได้เคยนำเสนอไปแล้วว่าแบงค์พานิชย์ 4 แบงค์ในสหรัฐฯคือ JP Morgan Chase, Wells Fargo, Citigroup, Bank of America คุมเกือบจะทั้งระบบ และ 6 บริษัทคุม 90% ของสื่อในอเมริกา ให้ประชาชนมีความนึกคิดไปในทิศทางเดียวกัน
ประธานาธิบดี Dwight Eisenhower ผู้เป็นวีระบุรุษสงครามโลกครั้งที่ 2 รู้สึกไม่สบายใจกับพวกรัฐบาลเงา ก่อนออกจากตำแหน่งได้กล่าวเตือนคนอเมริกันถึงภัยของพวก military industrial complex หรือพวกผู้ผลิตพ่อค้าอาวุธที่มีอำนาจเหนือการเมือง นโยบายความมั่นคงและต่างประเทศของสหรัฐฯ ว่าพวกนี้มีอำนาจมากเกินไปและสามารถทำให้สหรัฐฯมีปัญหาในอนาคตได้
ประธานาธิบดีเคเนนี้เป็นฮีโร่ของคนอเมริกันตัวจริง ในขณะที่ประธานาธิบดีเกือบจะทั้งนั้นนับจาก Woodrow Wilson เป็นต้นมา ยอมทำตามใบสั่งของ central planners เคนเนดี้ต้องการกวาดล้างรัฐบาลเงา อันเห็นได้จากที่
1.เขาปลดผู้อำนวยการ CIA และมีความคิดที่จะยุบหน่วยงานนี้ที่ทำกิจกรรมเหนืออำนาจประธานาธิบดี
2.ต้องการดึงอำนาจการพิมพ์ดอลล่าร์จากเฟดกลับมายังกระทรวงการคลัง
3. ไม่ให้อาวุธนิวเคลียร์กับอิสราเอล
4. ลดความตรึงเครียดของสงครามเย็นกับรัสเซีย
5. ไม่ยุ่งเกี่ยวในสงครามเวียดนาม
6. ต้องการลดอำนาจของพวกอำนาจมืด เคนเนดี้พูดชัดเจนว่าเป็นพวก secret societies
เคนเนดี้เลยโดนลอบฆ่าเหมือนลินคอล์นเมื่อปี 1963 หลังจากนั้นมาประธานาธิบดีสหรัฐฯทุกคนอยู่ในกระเป๋า central planners เกือบหมด และระบบสหรัฐฯโดนครอบงำไปเรื่อยๆ จนขณะนี้ประชาธิปไตยสหรัฐฯเป็นแค่เปลือก ระบบที่วางไว้นำมาสู่ช่องว่างระหว่างคนรวย คนจนในสหรัฐฯที่ถ่างมากขึ้น ปัญหาหนี้สิน วิกฤตแรงงาน และฟองสบู่การเงินในขณะนี้ และสงครามที่สหรัฐฯก่อกับประเทศอื่นๆมาแล้วนับไม่ถ้วน เพื่อครองงำทรัพยากรและดูแลระเบียบการเงินและเศรษฐกิจโลก ระบบ central planners ฝังลึกจนกลายเป็นความจริงของคนอเมริกัน ที่คน 99% อยู่ภายใต้การควบคุมของคน1% และมีความเสี่ยงที่ระบบนี้จะไปต่อไม่ไหวเพราะไม่เคยได้ยกเครื่อง และจีน รัสเซียกำลังท้าทาย
กลับมาที่ประเทศไทย ระบอบทัก***ก็มีลักษณะคล้ายๆกับระบอบ central planners ของสหรัฐฯ แต่ยังไม่ได้ฝังรากลึกมากนัก แต่ถ้าปล่อยให้ครอบงำประเทศต่อไป คนไทย99%จะอยู่ภายใต้การควบคุมของคน1%ที่ไม่ได้คำนึงถึงผลประโยชน์และความมั่นคงของชาติที่แท้จริง
thanong
27/11/2013

 

โจพุฒิพงศ์ ก้อนวิมล



ใครที่เคยว่า จ.ชลบุรีไม่มีโอกาสเจอแผ่นดินไหวแบบเต็มๆ คิดผิดแล้ว เพราะชลบุรีก็มีลอยเลื่อนที่ยังมีพลังอยู่เหมือนกันมันอยู่ตรงนี้เลยจุดสีแดงคือ บริเวณ บางพระ อ.ศรีราชานั้นเอง แต่มันก็ไม่เคยไหวมานานแล้วเหมือนกันแต่เราก็อย่าประมาท เพราะเดียวนี้อะไรก็แน่นอนไม่ได้แล้ว

 

อส.ปภ. ชร.

เตือน 7อำเภอเชียงราย ระวังภูเขาถล่ม เรื่องโดย Nation TV วันที่ 5 มิถุนายน 2557 18:36 น.12,438 views



กรมทรัพยากรธรณี กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเตือนพื้นที่ ใน 7 อำเภอจังหวัดเชียงราย เฝ้าระวังดินภูเขาถล่มจากเหตุแผ่นดินไหว หลังการเฝ้าระวังหลังแผ่นดินไหวระดับ 6.3 เมื่อวันที่ 5 พ.ค.ที่ผ่านมา ครบ1 เดือน
พบว่าหลายพื้นที่ยังมีปรากฎการณ์โคลนผุดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะที่หมู่ 4 บ้านสันกันแฮ้ว อำเภอแม่ลาว ที่พบดินผุดขึ้นมาตามรอยแยกจนถึงตอนนี้ แต่จะไม่เป็นอันตราย และกรมทรัพยากรธรณี ได้นำมาใช้ในการจัดทำแผนที่ความเสียหายจากแผ่นดินไหวโดยได้ตีวงรัศมีจากศูนย์กลางแผ่นดินไหวที่อำเภอแม่ลาว ออกไปราว 50 กิโลเมตร จากนั้นจะแบ่งระดับความเสียหายออกเป็น 3 กลุ่ม และสิ่งที่ต้องติดตามเป็นพิเศษคือการเกิดดินถล่มจากภูเขาเพราะหลายจุดที่สำรวจพบหินและดินร่วงลงมาจากภูเขาเช่นที่ บ้านธารทอง อำเภอแม่ลาว และกรมทรัพยากรธรณี ประสานเครือข่ายแจ้งเตือนธรณีพิบัติภัยในพื้นที่ 7 อำเภอ ประกอบด้วย อำเภอพาน/แม่ลาว/เชียงแสน/ ป่าแดด/ แม่สรวย/และอำเภอเมือง ต้องระวังดินถล่มโดยลดเกณฑ์เฝ้าระวังจากเดิมที่กำหนดให้ปริมาณฝน 120 มิลลิเมตร ให้เตรียมอพยพ ?ลดเหลือเพียง 100 มิลลิเมตรให้ เตรียมอพยพโดยเฉพาะพื้นที่พาน แม่ลาว/?


เตือน 7อำเภอเชียงราย ระวังภูเขาถล่ม - Nation TV

 

Ammy Chumnankit



สหรัฐ- อากาศที่แปรปรวนอาจจะส่งผลให้เกิดภูมิอากาศวิปริตพายุฝนฟ้าคะนองไปทั่วฝั่งตะวันออก อาจจะเกิดพายุเฮอริเคนก่อตัว ผู้ที่อาศัยอยู่แถวนั้นก็เฝ้าระวัง เตรียมพร้อมเต็มที่ ตามภาพ
เมื่อวานนี้ ฝนฟ้าคะนองที่ตกลงมาทำให้เกิดลูกเห็บตกแถวเนบราสก้า บ้านเรือนเสียหาย มีบริษัทรถยนต์รายหนึ่งแจ้งว่า พายุลูกเห็บทำให้กระจกรถใหม่ที่จอดไว้ที่ลานจอดแตกเสียหาย มูลค่าร่วม 5ล้านเหรียญ





จะเห็นว่า ลูกเห็บเริ่มมีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ขณะนี้ น่าจะใหญ่กว่าลูกเบสบอลที่นำมาวางเปรียบเทียบ อีกหน่อยคงได้เห็นลูกเท่าบาตรพระกันค่ะ

 

ผู้พเนจร จากฟากฟ้า

ข่าวนี้อาจฟังดูน่าตกใจสักหน่อย...!



จอร์จ โซรอส เตือนคนอเมริกา
ให้ถอนเงินของพวกเขาออกจากธนาคาร ก่อนที่จะสายเกินไป
เหมือนกำลังบอกใบ้ว่าธนาคารใหญ่หลายแห่งกำลังประสบปัญหา เช่น JP Morgan ที่ไม่ต้องการให้เงินไหลออกไปต่างประเทศ iไปจนถึงถึง IMF ที่มีแผนที่จะฮุบเงินจาก บช ลูกค้าของธนาคาร ประมาณ10% ไปจัดตั้งกองทุนใหม่ ในขณะที่เศรษกิจของอเมริกันเองก็กำลังดิ่งลงเหว (แม้ว่าที่เห็นในข่าวเหมือนจะโอเค ซึ่งมันอาจเป็นเพียงภาพลวงตาเท่านั้น)

และอย่าที่ทราบว่าการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ คือสิ่งที่ดีและไม่มีอะไรที่ต้องกังวลครับ
นักวิเคราห์บอกว่าเราจะได้เห็นเงินสกุลใหม่ของโลกเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ ประเทศอื่นๆก็กำลังจะถูกผลักดันให้ออกจากระบบเงินดอลลาร์ ในขณะที่ มีการสะสมของ ทองคำ โดยรัสเซียและจีน และในหลายประเทศที่เพิ่มสูงขึ้น เพื่อการเปลี่ยนไปเป็นสินทรัพย์สำรองใหม่ http://rt.com/bus.../162084-dollar-collapse-monetary-system/

โดย Mead Watcharapon
George Soros Tells America To Take Their Money Out of the Banks Before It Is too Late |
http://rt.com/business/162084-dollar-collapse-monetary-system/