ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students

    FB_IMG_1562753445828.jpg

    (Jul 9) ทำไมต้อง EEC ? ในช่วงที่คนไทยใจจดใจจ่อรอคอยการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ที่อาจจะนำโดยนายกรัฐมนตรีคนเก่านั้น ทิศทางของนโยบายเศรษฐกิจมีความชัดเจนว่ารัฐบาลใหม่จะมุ่งต่อยอดนโยบายในช่วงก่อนหน้า ความไม่แน่นอนจึงเหลือเพียงว่ารัฐบาลใหม่จะจัดตั้งได้เมื่อใด ซึ่งอาจมีนัยต่อการล่าช้าของระยะเวลาในการประกาศใช้งบประมาณปี 2563 และการเบิกจ่ายลงทุนโครงการใหม่ของรัฐบาล หากเรามองย้อนกลับไปในช่วงหาเสียงเลือกตั้งที่ผ่านมา พรรคการเมืองที่ต่างแนวคิดอาจมีข้อเสนอด้านนโยบายที่แตกต่างกัน โดยบางกลุ่มเสนอให้ยกเลิกนโยบายหลัก อาทิ นโยบายยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี เป็นต้น ท่ามกลางความหลากหลายของนโยบายเศรษฐกิจ เป็นที่น่าสังเกตว่าแทบทุกพรรคการเมืองมีความเห็นร่วมกันว่ายังควรสนับสนุนนโยบายเศรษฐกิจสำคัญประการหนึ่ง คือ โครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ Eastern Economic Corridor – EEC จึงเป็นที่มาของคำถามว่าทำไมต้อง EEC ?
    หลายท่านอาจถามกลับว่า ทำไมจะไม่ ? ในเมื่อแท้จริงแล้วโครงการ EEC เป็นการปัดฝุ่น หรือ re-launch โครงการที่เริ่มต้นมาตั้งแต่เกือบ 40 ปีก่อน คือ เขตพัฒนาพื้นที่พิเศษภาคตะวันออก หรือ Eastern Seaboard ด้วยเม็ดเงินลงทุนที่เพิ่มขึ้น มีแผนการลงทุนรอบด้านมากขึ้น และถูกคาดหวังให้เป็นหัวจักรเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในระยะต่อไปภายใต้สถานการณ์ที่การลงทุนภาคเอกชนมีบทบาทลดลง จึงต้องกระตุ้นให้เกิดวัฏจักรการลงทุนใหม่ เพื่อสร้างการจ้างงานและรายได้ อันจะนำมาสู่การเติบโตของกำลังซื้อและการใช้จ่ายในประเทศ (ณัชพล จรูญพิพัฒน์กุล 2562) ในวันนี้จึงขอแลกเปลี่ยนความคิดกับทุกท่านด้วยการประมวลเหตุผลสามข้อที่อธิบายว่าทำไมต้อง EEC ? ดังนี้
    ประการแรก กิจกรรมทางเศรษฐกิจในพื้นที่ EEC มีความโดดเด่นแตกต่างจากพื้นที่อื่น โดยข้อมูลสำมะโนอุตสาหกรรม พ.ศ. 2560 จัดทำโดยสำนักงานสถิติแห่งชาติสะท้อนว่าโดยเฉลี่ยแล้วภาคอุตสาหกรรมในพื้นที่สามจังหวัด EEC มีสัดส่วนการจ้างงานแรงงานมีทักษะร้อยละ 39 สูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วประเทศที่ร้อยละ 29 ได้รับการสนับสนุนด้านการลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนถึงร้อยละ 13 สูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วประเทศที่ร้อยละ 3.5 มีสัดส่วนการส่งออกร้อยละ 14 สูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วประเทศที่ร้อยละ 5.6 ตลอดจนมีสัดส่วนการลงทุนเพื่อการวิจัยและพัฒนาที่ร้อยละ 8 สูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วประเทศที่ร้อยละ 3 เป็นต้น
    ประการต่อมา พื้นที่ EEC มีทำเลที่ตั้งและศักยภาพในการเชื่อมโยงเศรษฐกิจทั้งภายในและระหว่างประเทศ โดยมีความพร้อมที่จะเป็นศูนย์กลางทั้งในภาคอุตสาหกรรม การค้า และการท่องเที่ยว ผ่านการเชื่อมโยงโครงสร้างพื้นฐานด้านโลจิสติกส์ทั้งบก ราง น้ำ และอากาศ นอกจากนี้ ยังสามารถใช้เป็นพื้นที่ในการสร้างอุตสาหกรรมใหม่ที่มีนวัตกรรมสูงขึ้นซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญในการยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันในระยะข้างหน้า
    ประการสุดท้าย โครงการ EEC ได้ปลดล็อกข้อจำกัดด้านกฎหมายในหลายด้าน โดยคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก มีหน้าที่หลักในการกำหนดนโยบาย ตัดสินใจ และมีกฎหมายที่สามารถดำเนินการอนุมัติอนุญาตได้ 8 ฉบับ อาทิ กฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคาร คนเข้าเมือง โรงงาน การจัดสรรที่ดิน เป็นต้น จึงช่วยกระชับขั้นตอนในการประกอบธุรกิจ และเอื้อให้ไทยสามารถแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้างทั้งการขาดแคลนบุคลากรทักษะสูงและเทคโนโลยีนวัตกรรม ผ่านการสร้างแรงดึงดูดนักธุรกิจและผู้เชี่ยวชาญในกิจกรรมกลุ่มเป้าหมายจากต่างประเทศได้
    โดยสรุปแล้ว ความโดดเด่นของอุตสาหกรรม ทำเลที่ตั้งและศักยภาพของพื้นที่ ตลอดจนการลดข้อติดขัดด้านกฎเกณฑ์ เป็นคำตอบของคำถามว่าทำไมต้อง EEC ? แต่คำถามต่อไป คือ ทำไมแค่ EEC ? เพราะหากเราจำกัดการพัฒนาให้กระจุกตัวเช่นนี้แล้วเราจะเจอปัญหาการโตเดี่ยวของเมืองเช่นเดียวกับที่เคยเกิดขึ้นกับกรุงเทพฯ หรือไม่ ดังนั้นคำถามที่ขอทิ้งท้ายไว้ คือ เราจะวางแผนควบคู่กันไปอย่างไรให้การพัฒนาในพื้นที่ EEC ส่งผลบวกกระจายออกในวงกว้าง เพื่อที่คนไทยจะได้รับประโยชน์อย่างทั่วถึงและยั่งยืน ?
    คอลัมน์ “บางขุนพรหมชวนคิด โดย ดร. นครินทร์ อมเรศ
    ฝ่ายนโยบายโครงสร้างเศรษฐกิจ
    ธนาคารแห่งประเทศไทย
    ** บทความนี้เป็นความคิดเห็นส่วนบุคคล จึงไม่จำเป็นต้องสอดคล้องกับความเห็นของหน่วยงานที่ผู้เขียนสังกัด **
    Source: ไทยรัฐ
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students

    PSX_20190710_171519.jpg
    (Jul 9) ผู้ว่าแบงก์ชาติชี้ศก.ไทยเจอปัจจัยทั้งในและนอกปท.แนะส่งออกCodeราคาบาทชี้ค่าเงินผันผวนสูง : ผู้ว่าการแบงก์ชาติชี้ปัจจัยทั้งในและนอกประเทศ ส่งผลให้ต้องปรับลดGDPลงเหลือร้อยละ 3.3 แนะผู้ประกอบการส่งออก Code ขายสินค้าเป็นสกุลเงินบาทเพื่อลดความเสี่ยง ชี้ค่าเงินยังมีความผันผวนสูง แจงพบข้อมูลส่อเกิดปัญหาฟองสบู่ จำเป็นต้องใช้มาตรการเข้มปล่อยสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย
    เมื่อวันที่ 8 ก.ค.62 ที่จังหวัดเชียงใหม่ ดร.วิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวในเวทีสัมมนาวิชาการในหัวข้อ “โลกเปลี่ยน หมู่เฮาปรับ รุกรับให้ทัน” ซึ่ง ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคเหนือจัดขึ้นประจำปี 2562 และให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเพิ่มเติมถึงสภาวะเศรษฐกิจในครึ่งปีหลังว่า ต้องยอมรับว่าสภาวะเศรษฐกิจโลกขณะนี้มีความไม่แน่นอนและน่ากังวลมากขึ้น จากที่คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจโลกปีที่แล้วโตร้อยละ 3.6 ลดลงปีนี้กองทุนระหว่างประเทศประมาณการณ์เศรษฐกิจโลกเหลือร้อยละ 3 ซึ่งชะลอลง แต่ก็ไม่ได้แย่หรือน่าตกใจ เพราะเศรษฐกิจอเมริกายังเติบโตได้ดี อัตราการว่างงานต่ำสุดในรอบ 50 ปี ตลาดแรงงานยังไปได้ดี
    แต่ปัญหาใหญ่ที่กระทบเศรษฐกิจโลกคือสงครามทางการค้า ทำให้ปริมาณการค้าโลกลดลง การส่งออกได้รับผลกระทบหมด ปัจจัยนอกประเทศ ยังมีเรื่องข้อขัดแย้งประเทศสำคัญ อย่างอเมริกากับประเทศตะวันออกกลางที่มีแนวโน้มอาจจะรุนแรงได้ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมัน นอกจากนี้ยังมีเรื่องของเกาหลีเหนือกับอเมริกาที่ยังมีความไม่แน่นอนสูง ธนาคารแห่งประเทศไทยที่มีการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินจึงปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทย(GDP)ปีนี้จากเดิมที่คาดว่าจะโตร้อยละ 3.8 ลงเหลือร้อยละ 3.3 และปี 63 อาจจะโตได้ร้อยละ 3.6
    ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวอีกว่า ในช่วงครึ่งปีหลังปัจจัยในประเทศอย่างการจัดตั้งรัฐบาลก็มีความชัดเจนแล้ว จากที่นักลงทุนต่างประเทศชะลอดูความชัดเจนหลังจากที่มีการเลือกตั้ง นอกจากนี้ยังมีความต่อเนื่องของโครงการสำคัญที่รัฐบาลจะสานต่อ แม้ว่างบประมาณปี 2563 จะชะลอไป 1 ไตรมาสก็ตาม แต่ต่อไปก็จะมีการขับเคลื่อนในเรื่องการใช้จ่ายของภาครัฐ รวมทั้งถ้าหากมีความจำเป็นรัฐบาลก็อาจจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจได้
    สำหรับเรื่องค่าเงินบาทแข็งนั้น การที่แบงก์ชาติจะมีมาตรการใดออกมาเพื่อรักษาเสถียรภาพก็ต้องคำนึงถึงปัจจัยที่มีผลต่อค่าเงินด้วย ซึ่งก็มีทั้งปัจจัยภายนอกและปัจจัยภายในประเทศ สำหรับปัจจัยภายนอกประเทศที่สำคัญที่ทำให้ค่าบาทผันผวนคือ ทิศทางนโยบายการเงินของธนาคารกลางประเทศอุตสาหกรรมหลักมีการเปลี่ยนทิศทาง ก่อนหน้านั้นคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐฯซึ่งมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อเนื่องปีนี้ถึงปีหน้า แต่ด้วยสงครามการค้า ผลกระทบการลงทุนในประเทศ ทำให้ทิศทางปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายอาจไม่ปรับขึ้นและอาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงในปีนี้ ทำให้มุมมองตลาดต่อค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง และเมื่อเทียบกับหลายสกุลของตลาดเงิน
    ส่วนของประเทศไทยก็มีปัจจัยเกี่ยวกับดุลบัญชีเดินสะพัดที่เกินดุล ถ้าดูจากการขายสินค้าไปต่างประเทศ หรือนักท่องเที่ยวเข้ามาและจากที่คนไทยใช้เงินในการท่องเที่ยวต่างประเทศ เรายังเกินดุลบัญชีเดินสะพัดอยู่ค่อนข้างมาก และปีนี้คาดว่าจะเกินดุลฯถึง 29,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯหรือร้อยละ 5-6 ของGDP ซึ่งอยู่ในอัตราที่สูง โดยช่วง 4-5 เดือนของปีนี้ไทยเกินดุลฯประมาณ 12,000 ล้านเหรียญ ซึ่งเป็นเงินตราต่างประเทศที่เข้ามาแลกเป็นเงินไทย ทำให้ทิศทางค่าเงินบาทไทยแข็งหากเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน หลายประเทศยังขาดดุลสะพัด โดยเอาเงินในประเทศแลกเงินต่างประเทศเข้ามา
    ปัจจัยต่อมาคือเรื่องของเงินจากต่างประเทศเข้ามาลงทุนในประเทศ มีทั้งเงินสั้น โดยช่วง 5 เดือนที่เข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นและตลาดพันธบัตรร้อยละ 10 หากเทียบกับเงินบัญชีเดินสะพัดที่มี 12.9 ล้านสหรัฐฯ การที่นักลงทุนเข้ามาลงทุนมากขึ้นในช่วงดังกล่าวเพราะความชัดเจนในการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งต่างประเทศมองว่าเป็นรัฐบาลที่เป็นประชาธิปไตย หลายกองทุนจึงเข้ามาลงทุนได้ นอกจากนี้ดัชนีมาตรฐานตลาดหุ้นทั่วโลกได้ปรับเพิ่มน้ำหนักของประเทศไทยขึ้น จึงทำให้ตลาดหุ้นมีการซื้อขายสูงภายในวันเดียว เช่นเดียวกับพันธบัตรไทยที่มาจากการลงทุนในตลาดเงิน ซึ่งสะท้อนความมั่นคงทางเศรษฐกิจ สะท้อนเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ และพวกที่พักเงินระยะสั้นก็มีบ้าง ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทยก็มีการติดตามอย่างใกล้ชิดเพราะไม่อยากเงินระยะสั้นมากระทบกับอัตราแลกเปลี่ยนและกระทบกับผู้ประกอบการ
    ในส่วนของการบริหารจัดการความเสี่ยงเกี่ยวกับอัตราแลกเปลี่ยน แบงก์ชาติเองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้เข้าไปซื้อเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ ซึ่งก็เพิ่มสูงขึ้น และที่ต้องระมัดระวังมากคือการปั่นค่าเงิน โดยเฉพาะประเทศที่เกินบัญชีเดินสะพัด 3 ปีที่ผ่านมาก็มีการเจรจาไปมากโดยยืนยันว่าแบงก์ชาติไม่เคยเข้าไปจัดการค่าเงินเพื่อผลประโยชน์ทางการค้า เราใช้อัตราแลกเปลี่ยนลอยตัวตามกลไกตลาด ผู้ประกอบการส่งออกควรจะมีการ Code เป็นเงินบาทให้มากขึ้น ปัจจุบันมีผู้ประกอบการส่งออกที่ quote เป็นเงินบาทประมาณร้อยละ 10 ของผู้ส่งออกทั้งหมด
    ดร.วิรไท ยังกล่าวด้วยว่า การ quote เงินบาทยังได้นำไปใช้ในการส่งออกสินค้าชายแดนด้วย โดยขณะนี้การส่งออกสินค้าไปยังเมียนมามีการ quote ราคาเป็นเงินบาทร้อยละ 50 ส่วนส่งออกไปลาว quote ราคาเป็นเงินบาทร้อยละ 70 นอกจากนี้ยังมีการเจรจากับทางจีน ซึ่งธนาคารกลางจีนให้สามารถ quote ราคาเป็นเงินบาทได้ ซึ่งเมื่อการค้าขายส่งออกมีการ quote ราคาเป็นเงินบาทอยู่แล้วก็จะทำให้ต้นทุนของผู้ส่งออกถูกลงคือไม่จำเป็นต้องเอาเงินสกุลประเทศที่ส่งออกมาแลกอีก และผู้ที่จะรับความเสี่ยงจากค่าบาทแข็งก็ยังเป็นผู้ซื้อไม่ใช่ผู้ส่งออกด้วย ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมผลิตรถยนต์ หรือสินค้าเกษตรแต่ทั้งนี้ผลิตภัณฑ์จะต้องดีมีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับด้วย
    “ความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทมีแต่จะเพิ่มขึ้น ซึ่งทิศทางไม่สามารถคาดเดาได้ แต่เราพยายามทำให้มีกันชนที่ดี ไม่ให้มีความเปราะบางในประเทศ”ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าว.
    Source: northpublicnews
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students
    PSX_20190710_172056.jpg
    (Jul 9) ค่าเงินลีราตุรกีทรุดหนัก หลังประธานาธิบดีออกคำสั่งฟ้าผ่าปลดผู้ว่าฯแบงก์ชาติ : ค่าเงินลีราของตุรกีทรุดตัวลงกว่า 3% หลังจากที่ประธานาธิบดีเรเซพ ตอยยิบ เออร์โดกัน ประกาศปลดนายมูรัต เซตินคายา ผู้ว่าการธนาคารกลางตุรกีออกจากตำแหน่ง ส่งผลให้ตลาดกังวลว่ารัฐบาลอาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงมากกว่าที่ได้คาดการณ์ไว้

    รายงานระบุว่า ณ เวลา 8.54 น. ตามเวลาสิงคโปร์ สกุลเงินลีรามีการซื้อขายอยู่ที่ 5.7487 ลีราต่อดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งลดลง 2.1% โดยเงินลีราได้ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดที่ 5.8247 ดอลลาร์สหรัฐในการซื้อขายซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ที่ตลาดเอเชีย

    ทั้งนี้ คู่สกุลเงินลีรา/ดอลลาร์สหรัฐนับเป็นหนึ่งในคู่สกุลเงินที่มีการแกว่งตัวอย่างรุนแรงตลอด 2 เดือนที่ผ่านมา
    สกุลเงินลาราอ่อนตัวลง หลังจากเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ปธน.เออร์โดกัน แห่งตุรกี ได้สั่งปลดนายมูรัต เซตินคายา ซึ่งดำรงตำแหน่งตำแหน่งผู้ว่าการธนาคารกลางตุรกีมาตั้งแต่เดือนเม.ย. 2559 และกำลังจะหมดวาระลงในปี 2563 ออกจากตำแหน่ง และแต่งตั้งให้นายมูรัต ยูซอล รองผู้ว่าการขึ้นเป็นผู้ว่าการธนาคารกลางแทน

    แม้รัฐบาลตุรกีจะไม่ได้ให้เหตุผลอย่างเป็นทางการสำหรับการปลดนายเซตินคายาออกจากตำแหน่งในครั้งนี้ แต่สอดคล้องกับที่ตลาดคาดการณ์ไว้ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า นายเซตินคายาอาจถูกปลดจากตำแหน่ง เนื่องจากเขาลังเลที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย

    แหล่งข่าวเปิดเผยว่า หลังจากที่ได้ประกาศปลดผู้ว่าการธนาคารกลางออกจากตำแหน่ง ปธน.ได้เรียกประชุมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากพรรครัฐบาล โดยเขาได้กล่าวกับที่ประชุมว่า นักการเมืองและข้าราชการทุกคนควรเชื่อมั่นในแนวคิดของเขาที่ว่าอัตราดอกเบี้ยระดับสูงเป็นสาเหตุของการเกิดเงินเฟ้อ พร้อมยังขู่ถึงผลที่ตามมาของผู้ที่ต้องการท้าทายนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาล

    Source: อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย พัทธนันท์ เอกนิพิตรพงศ์/รัตนา

    *******************************************
    'เออร์ดวน'ปลดฟ้าแลบผู้ว่าธนาคารกลาง-ประธานาธิบดีเรเซป เทย์ยิป เออร์ดวนของตุรกี ออกกฤษฎีกา วานนี้ (6 ก.ค.) ปลดนายมูรัต เจตินกายา ผู้ว่าการธนาคารกลางซึ่งดำรงตำแหน่งตั้งแต่เดือน เม.ย. 2559 และแต่งตั้งนายมูรัต อูซัล รองผู้ว่าการฯ ขึ้นทำหน้าที่แทนโดยไม่ได้ระบุเหตุผล หลังจาก เกิดความตึงเครียดกับรัฐบาลที่ต้องการให้ลดอัตราดอกเบี้ยมานานหลายเดือน

    ปัจจุบัน อัตราดอกเบี้ยนโยบายของตุรกีสูงถึง 24% เนื่องจากธนาคารกลางปรับขึ้นรวดเดียว 6.25% เมื่อเดือน ก.ย. ปีที่แล้ว เพราะเกิดวิกฤติค่าเงินในเดือน ส.ค. 2561
    ธนาคารกลางตุรกีแถลงว่า นายอูซัล ผู้ว่าการคนใหม่จะใช้เครื่องมือ นโยบายทางการเงินอย่างเป็นอิสระต่อไป ควบคู่ไปกับการมุ่งรักษาเสถียรภาพราคา และจะแถลงข่าวอย่างเป็นทางการในเร็วๆ นี้

    คอลัมน์ กรุงเทพมอนิเตอร์
    Source: กรุงเทพธุรกิจ
    https://www.ft.com/content/a2a178f8-a109-11e9-974c-ad1c6ab5efd1
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students
    PSX_20190710_172524.jpg
    (Jul 8) รายงานพิเศษ: "ผลตอบแทนพันธบัตรต่ำ"เศรษฐกิจกำลังจะถดถอย? ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลของเศรษฐกิจใหญ่ ๆ ทั่วโลกได้อยู่ในระดับต่ำสุดตลอดกาลในช่วงสองสามวันที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการบ่งชี้ว่า นักลงทุนมีความกังวลกับภาวะถดถอยที่กำลังใกล้เข้ามา

    ผลตอบแทนพันธบัตรเยอรมันและฝรั่งเศสลดลงเข้าสู่แดนลบในสัปดาห์ที่ผ่านมาหลังจากความเห็นของ คลาส น๊อต ผู้ว่าการธนาคารกลางเนเธอร์แลนด์ และเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ทำให้เกิดการคาดการณ์ว่าจะมีการผ่อนคลายนโยบายเงินเพื่อกระตุ้นเงินเฟ้อในยูโรโซน

    ในเวลาต่อมาผลตอบแทนปรับลดลงอีกเพราะมีการเดิมพันกันว่า คริสทีน ลาการ์ด ซึ่งมีแนวโน้มที่จะขึ้นมาเป็นประธานธนาคารกลางยุโรป จะยังคงดำเนินนโยบายเงินไม่รุนแรงเพื่อหนุนเศรษฐกิจยูโรโซน

    ผลตอบแทนพันธบัตรเคลื่อนไหวสวนทางกับราคา ในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ผลตอบแทนพันธบัตรเยอรมันอายุไถ่ถอน 10 ปี ซึ่งเป็นมาตรฐานสำคัญสำหรับสินทรัพย์รายได้คงที่ของยุโรปและถือว่าเป็นที่หลบภัยของนักลงทุน ได้ปรับตัวลงไปอยู่ที่ -0.398% ในขณะที่ผลตอบแทนพันธบัตรฝรั่งเศสที่มีอายุไถ่ถอนเท่ากันอยู่ที่ -0.12% ผลตอบแทนพันธบัตรเบลเยียมที่มีอายุไถ่ถอน 10 ปี ก็ลดลงไปอยู่ต่ำกว่าศูนย์เป็นครั้งแรก และผลตอบแทนพันธบัตรอิตาลีอายุ 10 ปี ปรับตัวลงต่ำสุดในรอบ 14 เดือน อยู่ที่ 1.67%

    ในยามที่ภาวะในตลาดไม่แน่นอนและท้าทาย นักลงทุนมีแนวโน้มที่จะย้ายการลงทุนจากสินทรัพย์ที่ถือว่ามีความเสี่ยงมากกว่า ไปยังสินทรัพย์หลบภัยอย่างทองคำและพันธบัตรรัฐบาล การย้ายการลงทุนเช่นนี้เป็นการย้ำว่า เศรษฐกิจยูโรโซนจะมีความไม่แน่นอนต่อไปโดย โดยได้รับแรงหนุนจากการชะลอตัวในเยอรมนี และความไม่สบายใจที่มีมากขึ้นเกี่ยวกับ BREXIT และความตึงเครียดของการค้าโลก

    จอห์น ฮิกกินส์ นักเศรษฐศาสตร์ของแคปิตอล อีโคโนมิกส์ตั้งข้อสังเกตว่า แม้ผลตอบแทนพันธบัตรในยูโรโซนต่ำตลอดกาล แต่ยังมีโอกาสที่จะขึ้นต่อไปได้ และคาดการณ์ว่า อีซีบีจะลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากลงประมาณ 0.10% เหลือ -0.5% ในเดือนกันยายน และจะประกาศซื้อสินทรัพย์ต่อไปในเดือนตุลาคม ในขณะเดียวกันคาดว่า อีซีบีจะไม่ปฏิเสธที่จะดำเนินมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (คิวอี) เพิ่ม

    นักวิเคราะห์ของแคปิตอล อีโคโนมิกส์กำลังคาดการณ์ว่า ผลตอบแทนพันธบัตรอายุไถ่ถอน 10 ปี จะส่งท้ายปีที่ประมาณ -0.5% และคาดว่าพันธบัตรรัฐบาลสำคัญอื่น ๆในยูโรโซนจะลดลงในขนาดเดียวกัน

    ความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจยุโรปหนักข้อมากขึ้นหลังจากที่รัฐบาลสหรัฐฯ ออกมาขู่ในวันจันทร์ที่ผ่านมาว่าจะเก็บภาษีสินค้าในยูโรโซนเพิ่ม 4,000 ล้านดอลลาร์ ท่ามกลางการพิพาทที่มีมานานเกี่ยวกับการอุดหนุนเครื่องบิน และการเสนอชื่อลาการ์ดเป็นประธานธนาคารกลางยุโรปในวันพุธ ก็ยิ่งเพิ่มความกังวลเข้าไปอีก นอกจากนี้มีผลสำรวจดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (พีเอ็มไอ) ในเวลาต่อมาซึ่งชี้ว่าเศรษฐกิจอังกฤษอาจจะหดตัวแล้วเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปลายปี 2555

    ส่วนในสหรัฐฯ ผลตอบแทนพันธบัตรกระทรวงการคลังที่มีอายุไถ่ถอน 10 ปี ได้ลดลงไปอยู่ใต้ 2% โดยมีการเทรดกันที่ 1.9532% ในวันพฤหัสบดี ผลตอบแทนสหรัฐฯ ร่วงลงทั้งที่ปรับตัวขึ้นในช่วงสั้น ๆ เพราะสหรัฐฯ และจีนสงบศึกทางการค้า

    ในขณะนี้นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่กำลังคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) จะลดดอกเบี้ยสองครั้งในปีนี้ และเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐได้ระบุว่าอาจจะลดดอกเบี้ยอย่างน้อยหนึ่งครั้งหากภาวะเศรษฐกิจยังคงอ่อนแอ

    สิ่งที่เฟดกังวลมากที่สุดในขณะนี้คือ การเติบโตที่ลดลงทั่วโลก เงินเฟ้อลดลงต่อเนื่องและไม่ถึงเป้าหมาย 2% เสียที ขณะเดียวกันสหรัฐฯ และคู่ค้าเก็บภาษีซึ่งกันและกันมากขึ้น โดยเฉพาะกับจีน

    นอกจากนี้ ดรากียังได้ส่งสัญญาณเมื่อเร็ว ๆ นี้ว่าจะผ่อนคลายนโยบายในยูโรโซนหากเงินเฟ้อไม่เพิ่มขึ้นอย่างเพียงพอ ผู้ว่าการธนาคารกลางทั้งสองแห่งต้องเผชิญกับการคาดการณ์ที่ลดลง ไม่ว่าจะเป็นเงินเฟ้อและการเติบโต และยังมีปัญหาทางภูมิศาสตร์การเมือง

    ธนาคารกลางใหญ่ ๆได้ยูเทิร์นจากนโยบายเงินที่เข้มงวดมาเป็นเป็นนโยบายที่ผ่อนคลายลง เพื่อหนุนอัตราการเติบโตและเงินเฟ้อที่ต่ำอยู่ และความไม่แน่นอนทางการเมือง ทำให้นักลงทุนหลีกเลี่ยงสินทรัพย์เสี่ยงและสินทรัพย์ที่มีความผันผวน โดยทั้ง เฟด อีซีบี และธนาคารกลางอังกฤษล้วนแต่ได้ปฏิเสธที่จะขึ้นดอกเบี้ยเมื่อต้นปีนี้และอีซีบียังได้ลดประมาณการเติบโตด้วย

    เศรษฐกิจยูโรโซนพึ่งพาการส่งออกอย่างหนัก แต่เยอรมันซึ่งเป็นกลไกในการขับเคลื่อนการเติบโตของยุโรปชี้ว่าภาคอุตสาหกรรมซบเซาอย่างรุนแรง ขณะเดียวกันอิตาลีก็เข้าสู่ภาวะถดถอยและเกิดความชะงักงันเพราะBREXIT เมื่อรวมทั้งหมดนี้เข้ากับสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ นักลงทุนจึงมีความกังวลมากขึ้น

    ตลาดมีความผันผวนสูงสุดในเดือนพฤษภาคมเมื่อสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ ได้ลุกลามออกไปและได้มีการเก็บภาษีตอบโต้กัน จนทำให้เกิดแรงเทขายสินทรัพย์เสี่ยงอย่างรวดเร็ว

    ต่อมา ในเดือนมิถุนายน ธนาคารโลกได้ลดประมาณการเติบโตลงเนื่องจากการลงทุนและการค้าโตลดลงและปริมาณการค้าลดลงในช่วงต้นปีนี้เช่นเดียวกับเงินเฟ้อและการเติบโตของค่าแรง

    นักวิเคราะห์กล่าวว่า ต้นทุนเงินทุนที่ลดลง กำลังทำให้ตลาดกำหนดราคาสินทรัพย์ใหม่โดยอาจจะส่งผลให้ราคาสูงขึ้นต่อเนื่องในขณะที่นักลงทุนกำลังสงสัยว่าอัตราดอกเบี้ยปานกลางน่าจะอยู่ที่ตรงไหน

    หากการเติบโตไม่มีเสถียรภาพ อาจมีความผิดหวังต่อกำไรมากสำหรับตลาดหุ้น ดังนั้นอันตรายจึงอยู่ที่ว่าการชะลอตัวในภาคอุตสาหกรรมกระทบตลาดแรงงานและเป็นสาเหตุให้ผู้บริโภคชะลอการใช้จ่ายซึ่งจะสร้างความเสียหายมากขึ้น

    นักลงทุนจึงมีเหตุผลที่จะกังวลเกี่ยวกับผลตอบแทนที่เปลี่ยนทิศทางและผลกระทบที่มีต่อการเติบโต

    Source: ข่าวหุ้น

    - Bond yields are falling to record lows as investors pull back from risky assets : https://www.cnbc.com/2019/07/04/bon...as-investors-pull-back-from-risky-assets.html
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    FB_IMG_1562754568506.jpg

    #Earthquake
    วันที่ 10 ก.ค. 2562
    เวลา 13:52 น. ตามเวลาประเทศไทย
    แผ่นดินไหว Northern Sumatra, Indonesia (#Sinabang, Indonesia)
    พิกัด (2.12°N,97.08°E)
    ขนาด 4.9 ลึก 43 กม.

    https://earthquake.usgs.gov/earthquakes/eventpage/us70004glt/executive
    #Watchers

     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในแคลิฟอร์เนีย สัญญาณเตือนภัย The Big One ?
    #ThaiPBS #TheBigOne #earthquake #California
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    John Traczyk
    พายุสนามแม่เหล็กโลกอื่นๆ ที่กำลังก่อตัว KP5
    FB_IMG_1562755879577.jpg
    Another KP 5 geomagnetic storm in progress.
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    FB_IMG_1562756250133.jpg

    พระอรหันต์ “จี้กง” เดิมมีแซ่ว่า “หลี่” (李) ชื่อ “ซิวหยวน” (修元) เกิดในสมัยราชวงค์ซ่งใต้ (พ.ศ. 1670 – 1822) ประเทศจีน ณ ตำบลหย่งหนิง อำเภอเทียนถาย มณฑลเจ้อเจียง บิดาของท่านเป็นนายทหารคุมทหารอยู่ชายแดน มีนามว่า “หลี่เหมาชุน” และมารดามีแซ่ว่า “หวาง” บิดามารดาของท่านนั้นเป็นคนโอบอ้อมอารี ท่านหลี่ระหว่างคุมทหารอยู่ชายแดน เพราะเป็นคนมีเมตตา หละหลวมในการคุมทหาร จึงถูกทางการปลดออกจากราชการทหาร กลับคืนสู่ภูมิลำเนา บิดาของ ท่านชอบทำบุญศุลทาน ซ่อมถนน เสริมสะพาน ช่วยผู้คนตกทุกข์ได้ยาก ใครๆก็ขานเรียกท่าน “นักบุญหลี่”
    วันหนึ่ง ท่านหลี่ได้ไปธุระในตลาด ได้ยินชาวบ้านวิพากษ์วิจารณ์ท่านว่า “มิใช่นักบุญจริง ถ้าเป็นนักบุญจริง ทำไมไม่มีลูก สืบตระกูล” ท่านหลี่ได้ฟังคำนินทาเหล่านั้น ก็เกิดความรู้สึกกลัดกลุ้มใจ กลับมาบ้าน ภรรยาเห็นเข้า จึงได้ถามไถ่ท่าน ว่า ท่านเป็นอะไรไป ท่านหลี่จึงได้เล่าเรื่องที่ชาวบ้านพูดคุยกันให้ภรรยาฟัง เมื่อฟังจบ ภรรยาของท่านก็เสนอให้ ท่านหลี่นั้น ขอภรรยาน้อยมาสืบตระกูล แต่ท่านหลี่ไม่เห็นด้วย
    ในที่สุด สองสามีภรรยาจึงได้ปรึกษาตกลง จำศีลกินเจอยู่สามวัน แล้วร่วมเดินทางไปยังเทียนถายซัน (เขาเทียนถาย) วัด เกวอะชิน เพื่อบูชากราบไหว้ขอพรพระที่สถิตย์ในวัดทุกองค์ จนถึง ห้องสถิตย์ของพระองค์อรหันต์ เมื่อกราบไหว้ถึงองค์ที่สี่ บัดดลนั้น พระอรหันต์ “เจี้ยงหลง” ก็ได้พลัดจากพระแท่นสู่ดิน เจ้าอาวาส “ซิ่นคง” ก็ได้เปล่งวาจาว่า “ดีแล้วท่านหลี่ ปี หน้าจะได้บุตรชาย”

    หลังจากนั้นไม่นาน ภรรยาของท่านหลี่ก็ตั้งครรภ์ และใน เดือนยี่ ขึ้น 2 ค่ำ ปีจีน ก็คลอดบุตรชายออกมา ซึ่งต่อมาก็ คือ พระอรหันต์ “จี้กง” นั่นเอง เจ้าอาวาส “ซิ่นคง” ได้ทราบ ข่าวว่า ท่านหลี่ได้บุตรชาย ก็ได้มาที่บ้านท่านหลี่ เพื่อแสดง ความยินดี และขอท่านหลี่ อนุญาตให้บุตรชาย มาเป็นศิษย์ ในนามของท่าน พร้อมประทานชื่อให้ว่า “หลี่ซิวหยวน”
    หลี่ซิวหยวน เป็นเด็กที่ฉลาด เมื่ออายุครบ 14 ปี ก็สามารถ อ่าน และเข้าใจหนังสือ “ซื่อซู” “อู่จิง” ซึ่งเป็นตำราโบราณ ที่ลึกซึ้งได้คล่องแล้ว เดิมทีหลี่ซิวหยวนตั้งใจจะสอบเข้ารับ ราชการ แต่บิดาไม่สบายจำต้องนอนอยู่กับที่ จึงต้องอยู่ ปรนนิบัติบิดา จนบิดาท่านเสีย อีกสองปีต่อมา มารดาก็สิ้น บุญไป
    หลังจากที่พ่อแม่ได้จากไป หลี่ซิวหยวนได้มอบสมบัติของ บิดามารดาทั้งหมดให้อาเป็นผู้ดูแล แล้วออกเดินทางมายัง วัดหลิงอยิ่น จังหวัดซีหู มณฑลหังโจว และตัดสินใจแสวง หาความสว่างจากพระพุทธธรรม โดยเข้าไปกราบเจ้าอาวาส “เอี๋ยงคง” ในวัด พร้อมฝากตัวเป็นศิษย์ ครั้นเจ้าอาวาส “เอี๋ยงคง” ได้สบตาหลี่ซิวหยวนครั้งแรก ก็เพ่งรู้ว่าหลี่ซิว หยวนนั้นเป็นอรหันต์เจี้ยงหลงอวตารมาสู่แดนดิน เพื่อมาโปรดสัตว์โลกทั้งหลาย เจ้าอาวาสจึงรับไว้เป็นศิษย์ และโกนหัว อุปสมบทให้ทันที พร้อมทั้งใช้พระกรเคาะศีรษะหลี่ซิวหยวน ให้สามารถสำนึกตนว่ามาจากไหน และประทานนามให้ว่า “เต้าจี้”
    “เต้าจี้” หลังจากเข้าสู่ประตูพระพุทธธรรม แม้ว่าลักษณะนิสัยท่านจะผิดแผกแปลกจากหลักพระธรรมวินัยของสงฆ์ไป ไม่ว่า จะเป็นการประพฤติหรือการพูดจาที่ไม่สำรวม การดื่มสุราหรือบริโภคเนื้อสัตว์ แต่เมื่อพิจารณาจากเนื้อแท้ จุดมุ่งหมาย และ ผลลัพธ์แล้ว การกระทำเหล่านั้นของท่านก็เป็นสิ่งที่ถูกต้อง และก่อคุณประโยชน์ ด้วยอริยสติ ปราดเปรื่อง ดลรู้ทุกข์สุขใน แผ่นดินได้ ท่านได้ช่วยปัดเป่าทุกข์โรคภัยไข้เจ็บให้แก่มวลชน ช่วยเหลือคนทุกข์ทั้งหลาย คนยากคนจน ช่วยกำราบ อิทธิพลอันธพาล และช่วยปราบภูตผีปีศาจต่างๆให้กับมวลมนุษย์ จนได้รับการเคารพนับถือจากผู้คนให้เป็นเสมือนเทพอีก องค์หนึ่งของคนจีน

    อักษรจีน : 济公活佛
    ภาษาจีนกลาง: จี้กงหัวฝัว
    (Jì Gōng Huófó)
    ความหมายของชื่อ:
    济 =
    Jì อ่านว่า จี้
    แปลว่า ช่วยเหลือ, บรรเทา
    公 =
    Gōng อ่านว่า กง
    แปลว่า สาธารณชน, ปรมาจารย์
    活佛 = Huófó อ่านว่า หัวฝัว
    แปลว่า ลามะ, พระอรหันต์
    ที่มา :http://www.peawyeangtai31.org/jigong.html
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Setiawan

    พายุรุนแรงเข้าโจมตี Milano Marittima ประเทศอิตาลี เมื่อเช้าวันที่ 10 กรกฎาคม 2562
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Setiawan

    ปลากระเบนราหู (Manta Ray) สีขาวยักษ์ที่หายาก อย่างไม่น่าเชื่อพบเห็นโดยนักท่องเที่ยวในเกาะราชาอัมพัตประเทศอินโดนีเซีย

    Incredibly rare giant White Manta Ray spotted by tourists in Raja Ampat Island, Indonesia



    ปลากระเบนแมนตา หรือ ปลากระเบนราหู (อังกฤษ: Manta rays) เป็นปลากระดูกอ่อนจำพวกหนึ่ง จัดเป็นปลากระเบนที่ใหญ่ที่สุดในโลก อาจมีความกว้างช่วงปีก (ครีบหู) ได้ถึง 6.7 เมตร หรือ 22 ฟุต มีน้ำหนักได้ถึง 1,350 กิโลกรัม หรือ 3,000 ปอนด์ อาศัยอยู่ในน่านน้ำเขตร้อนทั่วโลก โดยเฉพาะรอบ ๆ แนวปะการัง

    จัดอยู่ในสกุล Manta (เป็นภาษาสเปนแปลว่า "ผ้าห่ม"[3]) ในวงศ์ปลากระเบนนก (Myliobatidae) เดิมทีแล้ว ปลากระเบนแมนตาถูกจัดอยู่ในวงศ์ Mobulidae แต่ในปัจจุบันรวมอยู่ในวงศ์ปลากระเบนนก

    โดยทั่วไปปลากระเบนแมนตาจะมีหลังสีดำและท้องสีขาว แต่อาจพบตัวที่มีหลังสีฟ้าได้บ้าง ตาอยู่บริเวณข้างหัว และต่างจากปลากระเบนทั่วไป ปากอยู่ทางด้านหน้าของหัว มีช่องเหงือก 5 คู่ เหมือนปลากระเบนทั่วไป

    ครีบหูพัฒนาเป็น ติ่งลักษณะคล้ายเขา หรือที่เรียกว่าครีบหัว อยู่บริเวณด้านหน้าของหัวแบน ๆ ครีบดังกล่าวเจริญขึ้นในช่วงตัวอ่อน เลื่อนมาอยู่รอบปาก ทำให้เป็นหนึ่งในสัตว์มีกระดูกสันหลังมีขากรรไกร ที่มีรยางค์พิเศษอันเป็นที่รู้จักมากที่สุดชนิดหนึ่ง (อีกชนิดคือ เต่าหก ((Manouria emys)) โดยเขาที่อ่อนนุ่มนี้มีไว้สำหรับโบกพัดเอาน้ำเข้าปาก เพื่อกินแพลงก์ตอน และเพื่อจะฮุบน้ำจำนวนมากต้องว่ายอ้าปากและพัดอาหารเข้าปากอยู่เสมอ

    ปลากระเบนแมนตาเคยหาอาหารตามพื้นท้องทะเลมาก่อน ก่อนที่จะวิวัฒนาการมาเป็นกรองกินแพลงก์ตอนตามทะเลเปิดในปัจจุบัน ทำให้สามารถเจริญเติบโตได้จนมีขนาดใหญ่มากกว่าปลากระเบนชนิดอื่น ๆ

    ลักษณะการกรองกินทำให้ฟันลดขนาดลงเป็นซี่เล็ก ๆ ส่วนใหญ่แอบอยู่ใต้ผิว คล้ายกับปลากระเบนทั่วไป มีหางเป็นเส้นยาว แต่หากปราศจากเงี่ยงที่ส่วนหาง และเกล็ดแหลมหุ้มลำตัวก็มีขนาดเล็กลง แทนที่ด้วยเมือกหนาหุ้มร่างกาย ส่วนท่อน้ำออกมีขนาดเล็กและไม่ทำหน้าที่ น้ำทั้งหมดไหลเข้าสู่ปากแทน

    เพื่อการว่ายน้ำที่ดี ปลากระเบนแมนตาวิวัฒนาการรูปร่างร่างกายให้เป็นสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัด และมีการพัฒนาครีบให้คล้ายปีกสำหรับโบยบินในท้องทะเล ขนาดตัวยักษ์ใหญ่และความเร็วชนิดใกล้เคียงจรวด ทำให้ปลากระเบนแมนตามีศัตรูตามธรรมชาติน้อยมาก โดยที่ศัตรูของปลากระเบนแมนตาในน่านน้ำไทยกลุ่มเดียว คือวาฬเพชรฆาต (Orcinus orca) และวาฬเพชรฆาตเทียม (Pseudorca crassidens) แต่ก็ยังไม่มีหลักฐานแน่นอน

    โดยปกติแล้วกินแพลงก์ตอน, ตัวอ่อนปลา และสิ่งมีชีวิตเล็ก ๆ ทั่วไปโดยการกรองน้ำที่ไหลเข้าสู่ปากโดยใช้ซี่เหงือก ซึ่งเรียกว่า แรม-เจ็ต (Ram-jet)

    ปลากระเบนแมนตา เดิมถูกจัดเป็นเพียงปลาชนิดเดียว และปัจจุบันถูกจำแนกออกเป็น 2 ชนิด เมื่อไม่นานมานี้ ได้แก่

    ปลากระเบนแมนตาแนวปะการัง (Manta alfredi)
    ปลากระเบนแมนตามหาสมุทร (Manta birostris‎)
    โดยมีความแตกต่างกันทางรูปร่างภายนอก และพฤติกรรมบางประการเล็กน้อย[4] และอาจเป็นไปได้ว่ามีชนิดที่ 3 อีก ที่ขณะนี้ยังไม่ได้ถูกจำแนก โดยพบที่แคริบเบียน[4] แต่ก็มีนักอนุกรมวิธานบางรายเสนอให้ยุบสกุล Manta ไปรวมกับสกุล Mobula หรือปลากระเบนปีศาจแทน [5]

    ปลากระเบนแมนตาทั้ง 2 ชนิด สามารถถูกพบเห็นได้บ่อยตามแนวปะการังของมหาสมุทรอินเดีย โดยเฉพาะหมู่เกาะมัลดีฟส์, หมู่เกาะสุรินทร์ รวมไปถึงหมู่เกาะสิมิลันของไทย โดยเฉพาะ หินแดง, เกาะบอน, เกาะตอรินลา, และเกาะตาชัย พบได้บ่อยในทางด้านอ่าวไทยเช่นกัน เช่น หินใบ, เกาะพงัน และกองหินโลซินอันห่างไกล

    ปลากระเบนแมนตาเป็นปลาอีกชนิดที่นักดำน้ำต้องการที่จะพบเห็นมากที่สุด ซึ่งมักจะถูกพูดถึงร่วมกับปลาฉลามวาฬ (Rhincodon typus) เสมอ

    นอกจากนี้ ปลากระเบนแมนตายังเป็นปลากระเบนเพียงไม่กี่ชนิด ที่ไม่มีเงี่ยงพิษที่โคนหางเหมือนปลากระเบนชนิดอื่น ๆ[6]

    อ้างอิง
    แก้ไข
    Sepkoski, Jack (2002). "A compendium of fossil marine animal genera (Chondrichthyes entry)". Bulletins of American Paleontology. 364: 560. สืบค้นเมื่อ 9 January 2008.
    Manta birostris (อังกฤษ)
    "สุดยอดสารคดี แปซิฟิก สุดยอดแห่งผืนน้ำ: สารคดี". ช่อง 7. 26 December 2015. สืบค้นเมื่อ 26 December 2015.
    MANTA RAY ECOLOGY AND BIOLOGY (อังกฤษ)
    หน้า 2 จุดประกาย โลก คน เมือง, ลาก่อนแมนต้าเรย์. "เล่ารอบตัว" โดย ชุตินันท์ โมรา. กรุงเทพธุรกิจปีที่ 29 ฉบับที่ 10512: วันอังคารที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2560
    GIANT MANTA RAY (อังกฤษ)
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    กกร.ปรับกรอบประมาณการอัตราเติบโตการส่งออกปีนี้ลงเหลือติดลบ1-1% จากเดิมโต 3-5% จีดีพี 2.9-3.3% จากเดิมโต 3.7-4% หลังสงครามการค้า บาทแข็งกระทบหนัก แม้มีมาตรการกระตุ้นครึ่งหลังก็กู่ไม่กลับ ส.อ.ท.-สภาฯ จ่อทยอยเข้าพบ ธปท.จี้แก้บาทแข็ง

    คลิก>>https://mgronline.com/business/detail/9620000065666

    #MGROnline #กกร. #ธนาคาร

     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    กนง.คาดครึ่งปีหลังส่งออกฟื้น
    เศรษฐกิจยังเสี่ยง จาก 4 ปัจจัย
    .
    คณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง. เผยแพร่รายงานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (ฉบับย่อ) วันนี้ ระบุว่า ภาวะเศรษฐกิจในประเทศของไทยมีแนวโน้มขยายตัวต่ำกว่าที่ประเมินไว้ จากการส่งออกสินค้าและบริการเป็นสำคัญ
    .
    โดยการส่งออกสินค้ามีแนวโน้มขยายตัวชะลอลงกว่าที่ประเมินไว้มาก ตามภาวะเศรษฐกิจคู่ค้าและปริมาณการค้าโลกที่ชะลอลง จากการกีดกันทางการค้าที่รุนแรงขึ้น โดยเฉพาะระหว่างสหรัฐฯ และจีน รวมทั้งวัฏจักรขาลงของสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ อย่างไรก็ดี คาดว่าการส่งออกจะฟื้นตัวในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ส่วนหนึ่งจากผลของการย้ายคำสั่งซื้อและฐานการผลิตมายังไทย
    .
    "แต่การฟื้นตัวในช่วงครึ่งหลังของปีไม่มากพอ ที่จะทำให้อัตราการขยายตัวของการส่งออกสินค้าในปีนี้กลับเป็นบวกได้" รายงานกนง.ระบุ
    .
    โดยการส่งออกภาคบริการมีแนวโน้มขยายตัวต่ำกว่าที่ประเมินไว้ ตามจำานวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ลดลงจากนักท่องเที่ยวจีนเป็นสำคัญ โดยเป็นผลมาจากเศรษฐกิจจีนที่ชะลอลง นโยบายสนับสนุนการท่องเที่ยวภายในประเทศจีน และนักท่องเที่ยวจีนเปลี่ยนไปเที่ยวประเทศในภูมิภาคมากขึ้นจากการแข่งขันด้านการท่องเที่ยว
    .
    ด้านการบริโภคภาคเอกชนมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง โดยเฉพาะการบริโภคสินค้าคงทน และได้รับปัจจัยสนับสนุนจากมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายของภาครัฐผ่านการลดหย่อนภาษีและเพิ่มวงเงินช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ แต่การบริโภคยังถูกกดดันจากหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูงโดยเฉพาะครัวเรือนรายได้น้อย รวมถึงรายได้และการจ้างงานในภาคการผลิตที่เกี่ยวเนื่องกับการส่งออก ที่เริ่มมีสัญญาณชะลอลง
    .
    อย่างไรก็ดี ตลาดแรงงานปรับตัวในช่วงปีที่ผ่านมา โดยแรงงานรายได้น้อยส่วนหนึ่งเคลื่อนย้ายออกจากภาคอุตสาหกรรมที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากการส่งออกเข้าสู่ภาคบริการและภาคการค้ามากขึ้น
    .
    ขณะที่การลงทุนภาคเอกชนมีแนวโน้มขยายตัวชะลอลงเช่นกัน ตามแนวโน้มการส่งออกและความเชื่อมั่นด้านการลงทุนที่ปรับลดลง อย่างไรก็ดี การลงทุนในภาคการผลิตมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในระยะต่อไป สะท้อนจากการนำเข้าสินค้าทุน หมวดเครื่องจักรอุตสาหกรรม ทั้งนี้ การย้ายฐานการผลิตมายังไทยและโครงการร่วมลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของรัฐและเอกชน (public-private partnership: PPP) จะช่วยสนับสนุนการลงทุนในระยะต่อไป
    .
    สำหรับการใช้จ่ายภาครัฐมีแนวโน้มต่ำกว่าที่ประเมินไว้ จากที่คาดว่า พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจ าปีงบประมาณ 2563 จะล่าช้า ซึ่งจะกระทบต่อการเบิกจ่ายงบลงทุนโครงการใหม่เป็นสำคัญ นอกจากนี้รัฐวิสาหกิจบางแห่งเลื่อนแผนการลงทุนบางโครงการ
    .
    "กนง. คาดว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2562 และ 2563 มีแนวโน้มขยายตัวต่ำกว่าที่ประเมินไว้ จากการส่งออกสินค้าและบริการเป็นสำคัญ โดยคาดว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวร้อยละ 3.3 ในปี 2562 และร้อยละ 3.7 ในปี 2563 โดยต่ำกว่าที่เคยประเมินไว้ที่ร้อยละ 3.8 และ 3.9 ตามลำดับ" รายงานกนง.ระบุ
    .
    สำหรับโอกาสที่ประมาณการเศรษฐกิจจะต่ำกว่ากรณีฐานกนง.มองว่าจะมาจาก (1) การกีดกันทางการค้าระหว่างประเทศที่อาจรุนแรงขึ้นจนส่งผลให้ปริมาณการค้าโลกชะลอลงกว่าที่คาด และส่งผลกระทบต่อการส่งออกสินค้าของไทย (2) การขยายตัวของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าที่อาจต่่ำกว่าคาด จากความไม่แน่นอนหลายประการ อาทิ มาตรการกีดกันทางการค้าที่อาจรุนแรงขึ้น ผลกระทบในกรณีที่เกิด no-deal Brexit ปัญหาเสถียรภาพเศรษฐกิจการเงินของจีน และความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ (3) การจัดตั้งรัฐบาลที่ล่าช้าอาจส่งผลต่อความต่อเนื่องของการเบิกจ่ายงบประมาณและการดำเนินนโยบายภาครัฐ และ (4) จำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่อาจชะลอลงมากกว่าคาด
    .
    อย่างไรก็ตามเศรษฐกิจไทยมีโอกาสขยายตัวสูงกว่ากรณีฐาน จาก (1) เศรษฐกิจคู่ค้าที่อาจขยายตัวมากกว่าคาดหากมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม หรือในกรณีที่ความไม่แน่นอนต่าง ๆ ปรับลดลง และ (2) อุปสงค์ในประเทศที่อาจมากกว่าคาดจากการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ โครงการ PPP และการลงทุนภาคเอกชนที่อาจเกิดเร็วขึ้นหลังสถานการณ์ทางการเมืองชัดเจนขึ้น รวมทั้งหากรัฐบาลออกมาตรการสนับสนุนการใช้จ่ายภาคเอกชนเพิ่มเติม
    .
    ทั้งนี้ คณะกรรมการฯ อภิปรายอย่างกว้างขวางถึงความไม่แน่นอนของภาวะเศรษฐกิจโลกและปัจจัยในประเทศ โดยเฉพาะมาตรการกีดกันทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ที่มีแนวโน้มยืดเยื้อและทวีความรุนแรงขึ้นในระยะข้างหน้าจนอาจส่งผลกระทบต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยใน 3 ด้าน (1) เศรษฐกิจโลกและการค้าโลกจะชะลอตัวลงและภาคธุรกิจจะมีความกังวลเพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลลบต่อไทยผ่านการส่งออกการท่องเที่ยว และการลงทุน
    .
    (2) การเปลี่ยนแปลงรูปแบบการค้า (trade diversion) สินค้าไทยที่ส่งไปประกอบในจีน และเป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่การผลิตที่ส่งออกต่อไปยังตลาดสหรัฐฯ จะได้รับผลกระทบ ขณะเดียวกันสินค้าที่ได้รับประโยชน์เป็นกลุ่มที่สามารถส่งออกไปยังตลาดสหรัฐฯ ได้โดยตรงเพื่อทดแทนสินค้าจากจีน (substitution effect) อย่างไรก็ดี สินค้าจีนที่เคยส่งออกไปสหรัฐฯ อาจถูกระบายมายังไทยบ้าง แต่ยังคิดเป็นสัดส่วนน้อยเมื่อเทียบกับสินค้านำเข้าทั้งหมดของไทย และ (3) การเปลี่ยนแปลงรูปแบบการลงทุน (investment diversion) โดยผู้ประกอบการอาจย้ายฐานการผลิตมายังอาเซียนและไทยแทนการผลิตในจีน
    .
    "ดังนั้น กนง.จึงเห็นควรให้ติดตามผลการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน แนวโน้มเศรษฐกิจจีน พัฒนาการของ Brexit และทิศทางการดำเนินนโยบายของรัฐบาลใหม่ ซึ่งอาจกระทบความต่อเนื่องของโครงการลงทุนของภาครัฐและเอกชน รวมถึงความเสี่ยงต่อเสถียรภาพระบบการเงินและต่อฐานะการคลังระยะปานกลาง " รายงานระบุ
    .
    ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ยทั้งปีมีแนวโน้มทรงตัวใกล้เคียงกับขอบล่างของกรอบเป้าหมาย โดยราคาอาหารสดมีแนวโน้มปรับสูงขึ้นจากการประชุมครั้งก่อน อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานมีแนวโน้มใกล้เคียงกับที่ประเมินไว้เดิม โดยคณะกรรมการฯ ประเมินว่าแรงกดดันจากราคาพลังงานยังใกล้เคียงเดิม โดยการปรับลดการผลิตของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (OPEC) และความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ในตะวันออกกลางที่เพิ่มขึ้น ชดเชยปัจจัยด้านอุปสงค์ที่มีแนวโน้มชะลอลงตามทิศทางเศรษฐกิจโลก สำหรับราคาอาหารสดมีแนวโน้มสูงขึ้น โดยเฉพาะจากราคาเนื้อหมูที่ปัญหาอุปทานส่วนเกินคลี่คลายลง และอุปสงค์ต่างประเทศเพิ่มขึ้นจากจีนและประเทศเพื่อนบ้านที่มีปัญหาโรคระบาดในหมู
    .
    "จึงประมาณการอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปี 2562 และปี 2563 เท่ากันที่ร้อยละ 1.0 ส่วนประมาณการอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานในปี 2562 และปี 2563 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป ตามอุปสงค์ในประเทศที่ร้อยละ 0.7 และ 0.9 ตามลำดับ โดยประมาณการอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานในปีนี้ปรับลดลงเล็กน้อย ตามตามอุปสงค์ในประเทศที่ลดลง สำหรับโอกาสที่ประมาณการอัตราเงินเฟ้อทั่วไปและอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานจะต่ำกว่ากรณีฐานยังมีอยู่ สอดคล้องกับความเสี่ยงต่อประมาณการเศรษฐกิจการดำเนินนโยบายการเงิน" รายงานระบุ
    .
    โดยกนง. เห็นว่ามาตรการดูแลเสถียรภาพระบบการเงินที่ดำเนินการไปในช่วงก่อนหน้าช่วยลดความเปราะบางในระบบการเงินได้ในระดับหนึ่ง อย่างไรก็ดี การดูแลและป้องกันความเสี่ยงด้านเสถียรภาพระบบการเงินในระยะต่อไปยังจำเป็นต้องได้รับการดูแลด้วยเครื่องมือที่หลากหลาย ทั้งอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่เหมาะสม มาตรการกำกับดูแลสถาบันการเงิน (microprudential) และมาตรการดูแลเสถียรภาพระบบการเงิน (macroprudential)
    .
    ทั้งนี้ ในบริบทปัจจุบันจะต้องให้ความสำคัญกับความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้เพิ่มขึ้น เนื่องจากการกำกับดูแลสินเชื่อแยกเป็นรายประเภทไม่สามารถแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนในภาพรวมได้ กนง.จึงเห็นควรให้ติดตามผลของมาตรการดูแลเสถียรภาพระบบการเงินที่ได้ดำเนินการไป รวมทั้งให้ศึกษามาตรการดูแลเสถียรภาพการเงินที่เหมาะสมเพิ่มเติม เพื่อป้องกันความเสี่ยงเชิงระบบให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
    .
    #ibusiness #กนง #ครึ่งปีหลังส่งออกฟื้น
    #เศรษฐกิจยังเสี่ยง #คณะกรรมการนโยบายการเงิน
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เมืองบุรีรัมย์โคม่า! กปภ.ประกาศลดจ่ายน้ำประปา หลัง 2 เขื่อนแห้งวิกฤตเหลือน้ำผลิตแค่ 30 วัน

    คลิก>>https://mgronline.com/local/detail/9620000065692

    #MGROnline #บุรีรัมย์ #กปภ. #น้ำประปา

     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

    พายุทอร์นาโดในอิตาลีกระทบมิลาน จนเกิดความตื่นตระหนกและสร้างความเสียหายให้กับประชาชน


     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

    ภาพเพิ่มเติม การทำลายใน milano ประเทศอิตาลี โดยทอร์นาโด #10 ก. ค

     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

    พายุลูกเห็บใน venafro ประเทศอิตาลี #10 ก. ค.

     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

    ฝูงผึ้งปกคลุมรถบรรทุกในแคนาดา # 10 กรกฎาคม


     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

    ตั๊กแตน Langostas ปรากฏตัวตามท้องถนนในซาอุดิอาระเบีย # 10กรกฎาคม


     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

    พายุทำลายล้างในรัสเซีย #10 ก. ค.

     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

    พายุไฟฟ้าที่น่าทึ่งใน alabama สหรัฐอเมริกา #9 ก. ค.


     

แชร์หน้านี้

Loading...