ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,426
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ศูนย์พัฒนาการสื่อสารด้านภัยพิบัติ

    ล็อกดาวน์ แรงงานอินเดียตกงาน
    เดินเท้ากลับบ้าน 700 กม.
    เรื่องเศร้า-โศรกนาฏกรรมโควิด

    ทันทีที่รัฐบาลของนายกรัฐมนตรีนเรนดรา โมดี ของอินเดียประกาศล็อกดาวน์ประเทศ คนงานระดับล่าง จำนวนราว100ล้านคนก็ต้องตกงานในทันที ร้านรวงและสำนักงานปิดประตูอย่างไม่มีเยื่อใย นายจ้างก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ไม่มีใครมาคอยจ่ายเงินประจำวันให้คนงานอีกต่อไป เมื่อถูกลอยแพแบบกระทันหันเช่นนี้ คนงานเหล่านี้จะทำอย่างไรได้ จะอาศัยอยู่ต่อไปในนครนิวเดลลี ก็ไม่มีปัญญาจ่ายค่าเช่าอีกต่อไป สุดท้ายคนงานเหล่านี้ราวร้อยล้านคน รวมทั้งลูกเล็กเด็กแดง ต้องเดินเท้ากลับบ้านเกิดในรัฐต่างๆ เพราะรถไฟราคาถูกปิดการให้บริการทั่วประเทศ ครั้นจะไปรถบัสหรือเหมารถก็ไม่มีเงินจ่าย การอพยพครั้งใหญ่จึงเกิดขึ้นในอินเดียขณะนี้ คนงานบางคนหอบลูกจูงหลานฝ่าความร้อนแดดแผดเผาเพื่อกลับบ้านที่มัธยประเทศ ระยะทางกว่า 700กม. เหนื่อยนักก็พักข้างทาง กินอาหารที่หอบหิ้วมาด้วยเพื่อความประหยัดบางคนโชคดีหน่อยอยู่แค่รัฐราชสถาน ระยะ 100กม. คนงานระดับล่างเหล่านี้ไดกลายเป็นผู้อพยพในฉับพลันหลังคำประกาศของรัฐบาล

    นี่ถือได้ว่าเป็นการอพยพครั้งใหญ่ที่สุดของโลก..ก็ว่าใด้ ในอดีตประมาณ 70 ปีปากีสถานแยกประเทศออกจากอินเดีย มีคนอพยบไปถึง 10 ล้านคน นั้นถือว่ามากที่สุดในโลกแล้ว แต่นี่มัน 100 ล้านคน เกือบ 1 ในสิบของประชากร..
    qbu_MEw0OvOnkJELI7XspwDIapZ8cLERCMBgKpcxr4vg&_nc_ohc=Wi_VyK1Yq8UAX90Im8U&_nc_ht=scontent.fbkk6-1.jpg

    H1Lzs3hIRbH7L_F0btOdpY1jcPM6kwbjsjFkFf28HOnA&_nc_ohc=5-L4yaJiADsAX_X-nlH&_nc_ht=scontent.fbkk6-1.jpg
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,426
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ท้องฟ้าสดใสที่อินเดีย
    82&url=https%3A%2F%2Fwww.khaosod.co.th%2Fwpapp%2Fuploads%2F2020%2F04%2Fphoto_2020-04-02_00-18-16.jpg
    อินเดียถือเป็นประเทศที่มีหลายเมืองอยู่ในภาวะอากาศที่แย่จาก PM2.5 ชนิดมีตลอดทั้งปีและรุนแรงมาก
    แต่หลังการระบาดของ COVID19 ที่บีบให้ทุกคนกักตัวในบ้าน ปิดโรงงาน ฟ้าสีฟ้าก็กลับมาอีกครั้งหลังหายไปนานมาก

    https://www.khaosod.co.th/around-the-world-news/news_3869537
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,426
    ค่าพลัง:
    +97,150
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,426
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ไทม์ไลน์การระบาดใหญ่ในอินเดียจากงานประชุมทางศาสนา
    uIojNFPeLlUCpqisMbPPTrTtExnlhrZ5JYEjp3lfr-oQ&_nc_ohc=d5ITvSDhLy0AX918RTr&_nc_ht=scontent.fbkk6-2.jpg
    1- อินเดียมีมัสยิดใหญ่ในกรุงนิวเดลีในเขตนิซามมุดดินชื่อAlami Markaz Banglewali Masjid ซึ่งเป็นที่พักพิงของเหล่าชาวมุสลิมจากทั่วโลกรวมถึงในอินเดีย

    2- ในทุก ๆ ปี มัสยิดนี้จะจัดงานประชุมทางศาสนาอิสลาม ซึ่งจะชาวมุสลิมจากทั้งอินเดียและทั่วโลกเข้าร่วมพิธีนี้ ก่อนที่แต่ละคนจะแยกย้ายไปเผยแพร่ศาสนา เรียกว่างาน “Tablighi Jamaat”

    3- สำหรับปีนี้งานดังกล่าวจัดในช่วงระหว่างวันที่ 13-15 มีนาคมที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามตัวเลขผู้ติดเชื้อในอินเดียในเวลานั้นยังน้อย และมาตรการของรัฐยังเป็นเพียงขอความร่วมมือ ทำให้ผู้นำทางศาสนายังคงจัดงานนี้ต่อ

    4- ทั้งนี้คาดการณ์กันว่าในแต่ละวันมีผู้เข้าร่วมงานทั้งชาวอินเดียที่มาจากที่ต่าง ๆ ของประเทศ และชาวต่างชาติไม่ต่ำกว่าวันละ 2000 คน

    5- 24 มีนาคม รัฐบาลอินเดียประกาศปิดเมืองทั้งประเทศ และเพิ่มมาตรการเข้มข้นในการตรวจหาเชื้อมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะคนที่มีอาการปอดบวมแม้ไม่มีประวัติเสี่ยงหลังการแพร่ระบาดทวีความรุนแรงมากขึ้น

    6- 28 มีนาคม ชายวัย74 ปีในรัฐเตรางกานา ตายอย่างปริศนาที่บ้าน โดยพบว่าเป็นการเสียชีวิตจากปอดบวม แพทย์จึงส่งตรวจหาเชื้อโควิด19 และพบว่าติดเชื้อ จึงได้เร่งสอบสวนญาติ และทราบว่าไปร่วมงานประชุมทางศาสนาที่เดลี

    7- รัฐเตรางกานา ตามหาคนใกล้ชิด และเพื่อนร่วมเดินทางที่ไปงานนั้นกับชายคนดังกล่าวเพื่อตรวจหาเชื้อ พบว่าส่วนใหญ่ติดเชื้อและมีอาการหนัก ทำให้ในวันที่ 30 เสียชีวิตพร้อมกัน 6 คน

    8- มุขมนตรีรัฐเตรางกานาส่งเรื่องนี้เข้าคณะกรรมการสาธารณสุขแห่งชาติแบบเร่งด่วนในวันที่ 30 มีนาคม และประกาศให้ทุกคนที่ร่วมงานดังกล่าวมาตรวจหาเชื้อโดยด่วน

    9- เหตุการณ์ในรัฐเตรางกานา ส่งผลให้มุขมนตรีกรุงนิวเดลีประกาศปิดตายพื้นที่นิซามมุดดิน และไล่ตรวจหาเชื้อคนในพื้นที่ ซึ่งพบว่ากว่า 300 คน แสดงอาการป่วยแล้ว

    10- กระทรวงสาธารณสุขของอินเดียแจ้งประกาศด่วนไปทุกรัฐของอินเดียให้ติดตามหาผู้เข้าร่วมงานประชุมทางศาสนาดังกล่าวรวมถึงคนใกล้ชิดเพื่อตรวจหาเชื้อในวันที่ 30 มีนาคม

    11- วันที่ 31 มีนาคม รัฐบาลอินเดียเริ่มสอบสวนคณะกรรมการของมัสยิดดังกล่าวที่จัดงานดังกล่าว และพบว่ามีไม่มีมาตรการในการคัดกรองที่เข้มข้น ทั้งที่ผู้เข้าร่วมงานจำนวนมากมาจากประเทศเสี่ยงทั้ง ซาอุดิอาราเบีย และมาเลเซีย

    12- ผู้นำทางศาสนาอิสลามที่จัดงานดังกล่าวย้ำว่าไม่ใช่ความผิดของพวกเขา เพราะช่วงเวลานั้น รัฐบาลยังไม่มีมาตรการห้ามคนรวมตัวกัน ซึ่งกิจกรรมที่จัดนั้นทำถูกต้องตามกฎหมายแล้ว

    13- วันที่ 1 เมษายน หลายรัฐทั่วประเทศอินเดียเริ่มรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อจากการเข้าร่วมประชุมทางศาสนาดังกล่าว เช่นรัฐทมิฬนาดูพบถึง 110 คน รัฐอาธรประเดชพบ 43 คน เป็นต้น

    14- ทางการอินเดียกำลังเร่งตามหาตัวผู้เข้าร่วมงานดังกล่าว ผู้สัมผัสใกล้ชิด ตลอดจนเส้นทางโดยสารที่พวกเขาใช้ในการเดินทางกลับมายังพื้นที่ เพื่อตามผู้เกี่ยวข้องต่อไป ซึ่งเป็นงานยากมาก

    15- นักวิเคราะห์ระบาดวิทยาของอินเดียมองว่าการประชุมทางศาสนาในกรุงนิวเดลีนี้กลายเป็นการแพร่ระบาดใหญ่ของอินเดียแล้ว ซึ่งน่ากังวลอย่างยิ่ง สอดคล้องกับตัวเลขผู้ติดเชื้อของอินเดียที่เพิ่มขึ้นอย่างทวีคูณ

     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,426
    ค่าพลัง:
    +97,150
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,426
    ค่าพลัง:
    +97,150
    คุณยายทวด อายุ 101 ปีที่เนเธอร์แลนด์ ได้รับการรักษาจนหายจาก #โควิด19
    ซึ่งถือเป็นข่าวดีเนื่องจากผู้เสียชีวิตจากโควิด19มักเป็นผู้สูงอายุที่มีร่างกายอ่อนแอ

    axps6a8t4u_wd1280.jpg%2F101-jarige-coronapatient-hersteld-en-ontslagen-uit-ijsselland-ziekenhuis.jpg

    https://www.nu.nl/coronavirus/60416...Hoxxkv7LI4b2g3d90LGq_8v2HpKVO2qE5FOW_gMJYAFiI
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,426
    ค่าพลัง:
    +97,150
    #ภูเก็ตมีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น 12 ราย (ณ วันที่ 2 เมษายน 63)
    - ยอดรวมผู้ติดเชื้อสะสม 87 ราย กลับบ้านแล้ว 15 ราย สรุปผู้ป่วยยืนยัน ณ ปัจจุบัน 72 ราย
    - มีผู้เข้ามาตรวจเชื้อใหม่ 138 ราย
    - ตอนนี้ผู้เข้าเกณฑ์เฝ้าระวัง รอผล 119 ราย และมีผู้รักษาตัวที่โรงพยาบาล จำนวน 191 ราย
    - ผู้ป่วยอาการรุนแรง 1 ราย
    .
    #รายที่1 ผู้หญิงไทย อายุ 28 ปี อาชีพเจ้าของกิจการร้านอาหาร ในเขตพื้นที่ป่าตอง มีประวัติสัมผัสกับนักท่องเที่ยวต่างชาติและมีประวัติไปบริเวณ ซ.บางลา ต.ป่าตอง อ.กะทู้ โดยเริ่มมีอาการป่วยวันที่ 20 มีนาคม 2563
    .
    #รายที่2 ผู้หญิงชาวสวีเดน อายุ 52 ปี เป็นนักท่องเที่ยวมาเที่ยวกับสามี ถึงประเทศไทยวันที่ 13 มีนาคม มีประวัติไปบริเวณ ซ.บางลา ต.ป่าตอง อ.กะทู้ พักโรงแรมแถวกะรน โดยเริ่มมีอาการป่วยวันที่ 21 มีนาคม 2563
    .
    #รายที่3 ผู้หญิงไทย อายุ 26 ปี อาชีพบริการ ในเขตพื้นที่ป่าตอง มีประวัติทำงานใกล้ชิดกับนักท่องเที่ยวต่างชาติและมีประวัติไปเที่ยวสถานบันเทิงบริเวณ ซ.บางลา ต.ป่าตอง อ.กะทู้ บ่อยครั้ง โดยเริ่มมีอาการป่วยวันที่ 21 มีนาคม 2563
    .
    #รายที่4 ผู้หญิงชาวรัสเซีย อายุ 37 ปี เป็นนักท่องเที่ยวที่อยู่ในพื้นที่ป่าตองมากกว่า 1 เดือน มีประวัติไปสถานบันเทิงบริเวณ ซ.บางลา ต.ป่าตอง อ.กะทู้ บ่อยครั้งและสัมผัสกับนักท่องเที่ยวต่างชาติ เป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดของผู้ป่วยยืนยันชาวยูเครน รายนี้เป็นผู้ติดเชื้อที่ไม่มีอาการ โดยเริ่มมีอาการป่วยวันที่ 20 มีนาคม 2563
    .
    #รายที่5 ผู้หญิงชาวคาซัคสถาน อายุ 34 ปี เป็นนักท่องเที่ยวที่อยู่ในพื้นที่ป่าตองมากกว่า 1 เดือน มีประวัติไปสถานบันเทิงบริเวณ ซ.บางลา ต.ป่าตอง อ.กะทู้ บ่อยครั้งและสัมผัสกับนักท่องเที่ยวต่างชาติ เป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดของผู้ป่วยยืนยันชาวยูเครน รายนี้เป็นผู้ติดเชื้อที่ไม่มีอาการ
    .
    #รายที่6 ผู้หญิงไทย อายุ 48 ปี อาชีพพนักงานนวด ในพื้นที่ป่าตอง เป็นพนักงานนวดซึ่งทำงานร้านนวดเดียวกับผู้ป่วยยืนยัน รายที่ 32 และ 62 โดยเริ่มมีอาการป่วยวันที่ 22 มีนาคม 2563
    .
    #รายที่7 ผู้ชายไทย อายุ 39 ปี อาชีพพนักงานร้านจำหน่ายอุปกรณ์โทรศัพท์ ในห้างสรรพสินค้าพื้นที่ป่าตอง มีประวัติสัมผัสกับลูกค้าซึ่งเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติและมีประวัติไปสถานบันเทิงบริเวณ ซ.บางลา ต.ป่าตอง อ.กะทู้ โดยเริ่มมีอาการป่วยวันที่ 22 มีนาคม 2563
    .
    #รายที่8 ผู้หญิงไทย อายุ 37 ปี อาชีพพนักงานครัวร้านอาหารอิตาลีในป่าตอง มีประวัติทำงานในร้านอาหารเดียวกับผู้ป่วยยืนยันรายที่ 59 และ 60 รายนี้เป็นผู้ติดเชื้อที่ไม่มีอาการ
    .
    #รายที่9 ผู้ชายไทย อายุ 36 ปี อาชีพพนักงานครัวร้านอาหารอิตาลีในป่าตอง มีประวัติทำงานในร้านอาหารเดียวกับผู้ป่วยยืนยันรายที่ 83
    โดยเริ่มมีอาการป่วยวันที่ 30 มีนาคม 2563
    .
    #รายที่10 ผู้หญิงไทย อายุ 51 ปี อาชีพพนักงานเสิร์ฟร้านอาหารอิตาลีในป่าตอง มีประวัติทำงานในร้านอาหารเดียวกับผู้ป่วยยืนยันรายที่ 83 โดยเริ่มมีอาการป่วยวันที่ 25 มีนาคม 2563
    .
    #รายที่11 ผู้ชายไทย อายุ 30 ปี อาชีพพนักงานครัวร้านอาหารอิตาลีในป่าตอง มีประวัติทำงานในร้านอาหารเดียวกับผู้ป่วยยืนยันรายที่ 83 โดยเริ่มมีอาการป่วยวันที่ 31 มีนาคม 2563
    .
    #รายที่12 ผู้หญิงไทย อายุ 32 ปี อาชีพไกด์นำเที่ยว มีประวัติสัมผัสใกล้ชิดกับกลุ่มเพื่อนที่ทำงานในสถานบันเทิงบริเวณ ซ.บางลา ต.ป่าตอง อ.กะทู้ โดยเริ่มมีอาการป่วยวันที่ 24 มีนาคม 2563
    .
    จังหวัดภูเก็ต ได้ดำเนินการคัดกรองผู้เดินทางตั้งแต่วันที่ 5 มกราคมถึง 1 เมษายน 2563 ณ สนามบินภูเก็ต 1,327,019 คน ท่าเทียบเรือ 38,424 คน ซึ่งพบผู้มีอาการเข้าเกณฑ์เฝ้าระวัง 1,230 คน และให้กลับบ้านได้แล้ว 1,039 คน
    .
    เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโควิด 19 ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนลดกิจกรรมทางสังคม ลดโอกาสในการแพร่เชื้อ งดกิจกรรมที่ไม่จำเป็น อยู่แต่ภายในที่พักอาศัย
    .
    สำหรับผู้ที่มีประวัติไปเที่ยว หรือทำงานบริเวณซอยบางลา หาดป่าตอง ตั้งแต่ เดือนมีนาคม 2563 หรือใกล้ชิดกับกลุ่มดังกล่าว หากมีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ ให้รีบใส่หน้ากากอนามัย แยกตัวจากบุคคลอื่น และให้รีบพบแพทย์โดยด่วน
    .
    ทุกท่านสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์ประสานงานรับเรื่องราวร้องทุกข์โรคติดต่อ COVID-19 โทร 094 5855321

    ข้อมูลจาก สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดภูเก็ต // สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต

    เหยี่ยวข่าว ภูเก็ต Newshawk Phuket
    · 33 นาที ·

    #ภูเก็ตมีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้น 12 ราย (ณ วัน
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,426
    ค่าพลัง:
    +97,150
    โปรดอ่าน......!

    ภาพ : Silaimarn Kaewngamdee

    T9Vo6Eo3Z7j_efhF2thNCuo1YPyMAKD1GOPARzH2bmCg&_nc_ohc=jhppebwDPjsAX-Ao4JC&_nc_ht=scontent.fbkk6-1.jpg

     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,426
    ค่าพลัง:
    +97,150
    กองทัพบก พร้อมรับมือสถานการณ์ #โควิด19 เตรียม #โรงพยาบาลสนามต้นแบบ ตามนโยบายกลาโหม ขนาด 50 เตียง อยู่ในพื้นที่คลังเก็บสิ่งอุปกรณ์หมายเลข 12 กองยกบัตร พธ.ทบ. โดยนอกเหนือจากเตียงสำหรับผู้ป่วยแล้ว ยังมีสิ่งอุปกรณ์ที่จำเป็นต่อผู้ป่วย รวมถึงห้องน้ำ และห้องอาบน้ำ เป็นต้น — ที่ ຂົວມິດຕະພາບລາວ-ໄທ ແຫ່ງທີ່4 ທີ່ແຂວງບໍ່ແກ້ວ
    AgEQ3p2ilweNQC4R380FQcCLkzlT4LrJyVG8037COKLQ&_nc_ohc=UgpjLsKbN3wAX_mwdKb&_nc_ht=scontent.fbkk6-1.jpg

     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,426
    ค่าพลัง:
    +97,150
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,426
    ค่าพลัง:
    +97,150
    คัดข่าว
    เข้าใจว่าในชีวิตคนส่วนใหญ่โดยเฉพาะคนที่เกิดหลังสงครามโลก เกิดมาก็เพิ่งจะเคยเห็น"เรือพยาบาล"จากกองทัพสหรัฐฯที่มี1,000เตียงเข้าเทียบท่าในมหานครนิวยอร์กเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระรพ.ท้องถิ่นรักษาผู้ป่วยไวรัสโควิด-19

    แต่ถึงจะเป็นปรากฏการณ์หาดูยากขนาดไหนก็ตาม ฝูงชนไม่ควรแห่ออกไปถ่ายรูป
    เรือโรงพยาบาลของสหรัฐสองลำ ลำแรกชื่อ USNS Mercy ไปช่วยผู้ป่วยโควิดที่ลอสแองเจลิส ส่วนอีกลำชื่อเรือ USNS Comfort ธรรมดาประจำอยู่ฐานทัพเรือที่เวอร์จิเนีย ถูกส่งไปช่วยที่มหานครนิวยอร์ก

    ภาพจาก: France24/KTLA/KPBS/military/New York Times
    Credit Twitter #GratitudeDNA

    j3cHm9mil1lJ5wsvkekk9q8YB2939iye3qs2A2aqCmEQ&_nc_ohc=5NhT8WY3NZUAX9PwbH4&_nc_ht=scontent.fbkk6-2.jpg

    Vxw_aoqrSaArqZUdnv_CM1dMIsPKRLdRaPALMOILacdA&_nc_ohc=DhOnOEQHpLQAX-Aywou&_nc_ht=scontent.fbkk6-2.jpg

    yZqsRRGtgOVSBD0hR3VLbGMmlj8ZGjj8-4yOcEYR4iLQ&_nc_ohc=iqh9ZkvqldIAX_q7H05&_nc_ht=scontent.fbkk6-2.jpg

    0IAsfP5QKjl4h0xg5U-0d4sgLqNHUuIvHRqdwrN1Oocw&_nc_ohc=hqsAuAW6AuwAX_wQu-o&_nc_ht=scontent.fbkk6-2.jpg

    oCWnGFQ50oculTo7dpZJbciK-6OEdWmuBXB6BxIh0y0g&_nc_ohc=gjC6kdjXATMAX9me98M&_nc_ht=scontent.fbkk6-1.jpg
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,426
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ความเสียหายอย่างแพร่หลายหลังจากคลื่นน้ำท่วมครั้งใหม่กระทบอินโดนีเซียมากกว่า 56,000 คนได้รับผลกระทบและ 9,285 อาคารน้ำท่วม #น้ำท่วม #อินโดนีเซีย #บันดุง #bogor

    https%3A%2F%2Fwatchers.news%2Fdata%2Fthumbs%2F796_296%2F2020%2F04%2Findonesia-flood-april-1-2020.jpg
    https://watchers.news/2020/04/01/wi...ooded/?utm_source=dlvr.it&utm_medium=facebook
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,426
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เหยี่ยวข่าว ภูเก็ต Newshawk Phuket

    #ป่าตอง ทำไมยังมีชาวต่างชาติ ขึ้นฝั่งที่ท่าเรือหน้าโรมแรมป่าตองซิกเนเจอร์ อยู่เลยครับโดยไม่มีหน่วนงานมาคัดกรองเข้ามาดูแลเลยเมื่อเช้านี้เองครับ

    ที่มา
    https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=2649894905239761&id=100006578324612


     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,426
    ค่าพลัง:
    +97,150
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,426
    ค่าพลัง:
    +97,150
    1585792738.jpg
    เวียดนามยกธง “โควิด-19” แพร่ระบาดทั่วประเทศแล้ว
    02 Apr 2020 08:39 น.

    นายเหงียน ซวน ฟุก นายกรัฐมนตรีเวียดนาม ได้ลงนามในกฤษฎีกาวานนี้ (1 เม.ย.) เพื่อประกาศว่าไวรัสโควิด-19 ได้แพร่ระบาดทั่วประเทศเวียดนามแล้วในขณะนี้

    แถลงการณ์ของนายกรัฐมนตรีเวียดนามระบุว่า ไวรัสโควิด-19 กำลังแพร่ระบาดทั่วประเทศอย่างรวดเร็วมาก และถือเป็นโรคติดเชื้อที่มีอันตรายร้ายแรงอย่างยิ่ง การแพร่กระจายเป็นไปในวงกว้าง และก่อให้เกิดอัตราการเสียชีวิตสูง

    การประกาศกฤษฎีกามีขึ้นหลังจากเวียดนามยืนยันว่า ยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศพุ่งขึ้นแตะ 212 รายในช่วงเช้าวันที่ 1 เม.ย.

    สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ทางการเวียดนามได้ประกาศใช้มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมทั่วประเทศเป็นเวลา 15 วัน เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยให้เริ่มบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. เป็นต้นไป พร้อมกับกำหนดให้ประชาชนอยู่แต่ในบ้าน เว้นระยะห่างจากผู้อื่นอย่างน้อย 2 เมตร และหลีกเลี่ยงการรวมตัวกันเกิน 2 คน

    https://www.thansettakij.com/conten...0N7Mg9D_WSQhXDBEHQm4TGJtCgwGOJFl26xWF-naP7HLQ
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,426
    ค่าพลัง:
    +97,150
    MOREMOVE
    wZ4by1P1CZp2EcEce3avObKmoKLiU7L2ScLRG74gTVUg&_nc_ohc=edphqPkJdFsAX87Syl4&_nc_ht=scontent.fbkk6-1.png
    #มอร์มูฟเป็นข่าว 'โควิด' ไม่น่าจะจบสิ้นกันง่ายๆ!! ล่าสุด นักวิจัยจีนพบ-คนไข้ชายวัยกลางคนรายหนึ่งมีอาการไม่รุนแรง แต่เชื้อกลับอยู่ในตัวคนไข้ได้ยาวนานถึง 49 วัน ซึ่งจนถึงตอนนี้ถือว่านานที่สุดเท่าที่เคยมีมา (โดยปกติแล้ว ผู้ป่วยจะใช้เวลาฟื้นตัวจากอาการป่วยแบบไม่พบเชื้อหลงเหลือในร่างกายเฉลี่ย 20 วัน ที่ยาวนานที่สุดก่อนหน้านี้คือ 37 วัน กรณีของคนไข้ชายรายนี้จึงบ่งบอกว่ามีอาการติดเชื้อเรื้อรัง) โดยจากการตรวจสอบยังพบอีกว่า คนไข้รายนี้มีปริมาณเชื้อโคโรนาไวรัสในลำคอมาก ซึ่งเป็นลักษณะอาการของคนไข้ที่มีอาการรุนแรง และผลการสแกนปอดก็พบว่ามีการติดเชื้อทั้งสองข้าง แต่ภูมิคุ้มกันของเขากลับยังเป็นปกติ ผิดกับคนไข้ COVID-19 ส่วนใหญ่ นอกจากนี้ ยังพบอีกว่าร่างกายของคนไข้ชายรายนี้ไม่สามารถกำจัดเชื้อไวรัสหลังได้รับยาต้านไวรัสตามปกติ แต่ต้องได้รับพลาสมาจากคนไข้ COVID-19 ที่หายแล้วเท่านั้น

    ทีมวิจัยเชื่อว่า ข้อมูลทั้งหมดของคนไข้รายนี้ชี้ว่าอาจเกิดเชื้อโคโรนาไวรัสชนิดย่อยใหม่ที่มีอาการไม่รุนแรง แต่สามารถอยู่ในร่างกายมนุษย์ได้นานขึ้น และเตือนว่าอาจมีผู้ป่วย COVID-19 เรื้อรังเหมือนชายวัยกลางคนมากกว่านี้ที่อาจถูกละเลยไปและอาจแพร่เชื้อให้คนรอบข้างจนเกิดการระบาดอีกระลอก.
    ----------------------------------------------
    อ่านต่อ : https://www.posttoday.com/world/619491?fbclid=IwAR2ihXvAvOHPJ6e73zLNMds4G37tM700oxFREA9-2EpmrAhrFPppNEzHHYY

    อ้างอิง : https://www.scmp.com/news/china/society/article/3077747/rare-coronavirus-patients-mild-symptoms-long-illness-may-point

     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,426
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ถามอีก กับอิก Tam-Eig
    HBw_EJ4U-_bLR-aVxK2okNXZkEaGNndUlqC0ovIxpZyw&_nc_ohc=DnG1YJ-f5EkAX_EasUk&_nc_ht=scontent.fbkk6-1.jpg
    กลไกเศรษฐกิจในช่วงสงคราม ในมุมมองของ Ray Dalio
    .
    #ลงทุนนอกโลก โดยเพจ #ถามอีกกับอิก
    .
    มีหลายอย่างคล้ายๆกับความเห็นเดิม แต่มีหลายมุมมองที่น่าสนใจเช่นกันครับ
    .
    อ่านเพลินๆจะเริ่มเข้าใจว่าตอนนี้โลกการเงินกำลังเกิดอะไรขึ้นบ้างครับ
    .
    ============
    .
    บทเรียนในประวัติศาสตร์
    .
    1.เฮีย Ray Dalio พูดหลายรอบแล้วครับว่า ช่วงปี 1930-1945 เป็นช่วงที่คล้ายกับเหตุการณ์ในปัจจุบันมากที่สุด
    .
    ไม่ว่าจะเป็นในมุมที่อัตราดอกเบี้ยแตะระดับ 0%, นโยบายการเงินเริ่มไม่มีประสิทธิภาพ, หนี้สูง, เศรษฐกิจโลกเริ่มอ่อนแอลง และยังมีประเด็นเรื่องความเหลื่อมล้ำด้านความมั่งคั่งและด้านการเมือง และยังไม่นับที่มีประเทศมหาอำนาจที่จะมาท้าทายมหาอำนาจเดิม
    .
    2.การขาดดุลงบประมาณของธนาคารกลางสหรัฐจะเพิ่มมากกว่า 20% ของ GDP
    .
    และการพิมพ์เงินเพิ่มและการเข้าซื้อตราสารหนี้ จะทำให้การถือครองหนี้ของธนาคารกลางสหรัฐเพิ่มสูงถึง 30% ของ GDP ซึ่งมากกว่าช่วงสูงที่สุดในสงครามโลกครั้งที่ 2
    .
    3.ในช่วง 1930-1945 ตอนนั้นอัตราดอกเบี้ยไม่ได้เพิ่มขึ้นเลยครับเป็นช่วงที่เฟด ธนาคารกลางสหรัฐคุม yield curve ครับ
    .
    เปรีบเสมือนคำมั่นสัญญาว่าจะซื้อพันธบัตร เพื่อกดอัตราดอกเบี้ยลง คล้ายๆกับที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น ธนาคารกลางยุโรป กำลังทำอยู่ตอนนี้
    .
    4.ผลก็คือ ความต้องการกู้ยืมเงินมหาศาลของรัฐบาล ได้รับการสนับสนุนจากธนาคารกลางสหรัฐทีจัดเต็มพยายามรักษาระดับอัตราดอกเบี้ยของพันธบัตรให้อยู่ระดับ 2.5%
    .
    5.ภาพนี้เองก็เคยเกิดขึ้นในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง และสงครามการเมือง
    .
    และก็เหมือนกับประเทศอื่นๆในช่วงที่เกิดสงคราม
    .
    ============
    .
    ช่วงที่เกิดสงครามโลกครั้งที่ 2
    .
    1.ช่วงนั้นเม็ดเงินที่รัฐบาลใช้จ่ายช่วงสงครามเพิ่มขึ้นหนักมากครับ
    .
    2.เป็นช่วงที่ผู้กำหนดนโยบายในทุกประเทศขึ้นภาษี, กู้เงินมากขึ้น และพิมเงินมากขึ้น (เป็นสิ่งที่พวกเค้ามักจะทำเสมอในสถานการณ์แบบนี้ และคาดว่าก็น่าจะเกิดขึ้นในช่วงนี้ด้วยเช่นกัน)
    .
    3.หลังจากที่สหรัฐเข้าสู่การทำสงคราม สิ่งที่เกิดขึ้นตามมาคือผู้กำหนดนโยบายต่างก็ขึ้นภาษีทั้งนิติบุคคลและภาษีบุคคลธรรมดา และออกพันธบัตรระดมทุนจากประชาชน
    .
    4.ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งในสหรัฐ, เยอรมนี, ญี่ปุ่น
    .
    ============
    .
    ธนาคารกลางสหรัฐคุม Yield Curve ช่วงที่เกิดสงครามโลกครั้งที่สองยังไง?
    .
    1.ธนาคารกลางสหรัฐคุมอัตราดอกเบี้ยให้ต่ำลง แม้ว่าจะมีแรงกดดันหลายอย่างให้เพิ่มอัตราดอกเบี้ยก็ตาม
    .
    2.สิ่งที่เค้าทำ คือ การควบคุม yield curve ให้อยู่ระดับประมาณ 2% สำหรับพันธบัตรระยะยาวครับ
    .
    3.หลังจากที่จบสงคราม สิ่งที่เกิดขึ้นปี 1947 คืออัตราเงินเฟ้อพุ่ง 20% ก่อนจะร่วงลงมาติดลบ 3% ในปี 1949
    .
    4.สมัยนั้นผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาว ถูกกำหนดให้ผลตอบแทนสูงกว่าพันธบัตรระยะสั้นเสมอๆ
    .
    สิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงสงครามคือ ตราบใดที่นักลงทุนเชื่อว่าอัตราผลตอบแทนจะยังคงอยู่ประมาณนี้
    .
    ก็จะมีนักลงทุนบางส่วนที่เข้าไปกู้ยืมเงินระยะสั้น และปล่อยกู้ระยะยาว เพื่อกินกำไรส่วนต่าง
    .
    5.แต่หลังจากเกิดสงคราม สิ่งที่เกิดขึ้นคือแนวคิดที่อยากจะยึดถือว่า อัตราผลตอบแทนระยะยาวต้องสูงกว่าระยะสั้นเสมอ นั้นเริ่มถูกตั้งคำถาม ว่าต้องยึดหลักการนี้ไปตลอดหรือไม่ (โดยเฉพาะในช่วงที่เศรษฐกิจเริ่มฟื้น และอัตราเงินเฟ้อเริ่มเพิ่มสูงขึ้น)
    .
    6.ในช่วงปี 1947 ธนาคารกลางสหรัฐเพิ่มเป้าหมายอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะยาว และเริ่มปล่อยให้ผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้นมีความยืดหยุ่นมากขึ้น
    .
    จนกระทั่งระบบการผูกติดระหว่างผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้นและระยะยาวเริ่มไม่ได้ผล ก่อนที่จะยุตินโยบายแบบนี้ไปในช่วงปี 1951 ในกฏหมาย Treasury-Fed Accord
    .
    7.ช่วงนั้นเฟดไม่ได้ใช้ งบดุลในการเข้าซื้อพันธบัตรมากมายนัก แต่เฟดเลือกที่จะพิมพ์เงินแล้วเข้าซื้อพันธบัตรระยะสั้น ดังนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นคือมีสภาพคล่องที่ต้องการหาผลตอบแทนที่สูงขึ้น หรือเรียกว่า ภาวะ search for yield
    .
    บางส่วนก็เข้าไปซื้อพันธบัตรที่ให้ผลตอบแทนสูง higher yield bonds
    .
    8.หลังจากนั้นงบดุลของธนาคารกลางสหรัฐเริ่มเพิ่มสูงขึ้น โดยส่วนใหญ่ถือสินทรัพย์ที่มีระยะสั้น ในขณะที่ธนาคารเองก็เริ่มที่จะเข้าซื้อพันธบัตรเพื่อที่จะได้ yield ผลตอบแทนที่สูงขึ้น
    .
    9.เฟด เองก็เข้าซื้อตราสารหนี้ระยะสั้นจากภาคเอกชน พร้อมให้สภาพคล่องต้นทุนต่ำ กับภาคธนาคาร และเริ่มลดเงินสดสำรองธนาคาร
    .
    นโยบายแบบนี้ช่วยทำให้มีสภาพคล่องมากเพียงพอ ในการที่จะมองหาผลตอบแทนที่สูงได้
    .
    10.คำมั่นสัญญาของธนาคารกลางสหรัฐคือ การรักษา yield curve เป็นลักษณะทอดโค้งขึ้น (upward sloping) ในขณะที่ก็จะต้องรักษาสภาพคล่องระยะสั้น และให้ภาคเอกชนเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาล
    .
    11.ในช่วงสงครามและหลังจากนั้นจะเริ่มเห็น ภาคเอกชนเข้ามาถือพันธบัตรสหรัฐมากขึ้น เช่น ธนาคารพาณิชย์, ภาคครัวเรือน, และนักลงทุนระยะยาวอื่นๆ เช่น ประกันเป็นต้น
    .
    12.ราคาทองคำในช่วงที่เกิดสงครามกลับนิ่งๆ แต่เริ่มเพิ่มขึ้นหลังจบสงคราม
    .
    13.กลยุทธ์ที่สำคัญของเฟด ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 คือ การพึ่งพาให้ธนาคารเข้าซื้อพันธบัตรระยะยาว
    .
    และนโยบายของเฟดเองก็มีผลต่อสภาพคล่องของธนาคารได้เช่นกัน
    .
    14.ในช่วงที่อัตราดอกเบี้ยเหลือ 0% และ การซื้อสินทรัพย์มี risk premiums ที่น้อยลง
    .
    สิ่งที่ที่ดีที่สุดคือการใช้นโยบายการเงิน ควบคู่กับนโยบายการคลัง เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาสภาพคล่อง และการจ่ายเงินของรัฐบาลใช้จ่ายเงินเข้าไปในเศณษฐกิจ real sector จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ดี
    .
    15.เม็ดเงินของเฟดในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ช่วยระดมเงินแบบขาดดุลครั้งใหญ่ที่สุดของรัฐบาล แต่ก็ช่วยสนับสนุนและฟื้นเศรษฐกิจ และช่วยให้หลุดพ้นจากช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ
    .
    แต่ก็จะเห็นว่าหนี้รัฐบาลพุ่งสูงขึ้น มากถึง 70% ของ GDP หลังจากที่สงครามจบ
    .
    16.ในช่วงนั้น GDP ต่อหัวของญี่ปุ่น และเยอรมนีลดลงประมาณครึ่งหนึ่งและค่าเงินพังหลังจากที่เกิดสงคราม
    .
    ============
    .
    กฏเกณฑ์และภาษีที่นำมาใช้
    .
    1.ในช่วงที่เกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นช่วงที่ผู้กำหนดนโยบายใช้หลายมาตรการในการควบคุมเศรษฐกิจครับ ไม่ว่าจะเป็น การปันส่วน, การควบคุมการผลิต, การควบคุมราคา และค่าแรง, การควบคุมการนำเข้าและส่งออก
    .
    2.นอกจากนี้ยังมีมาตรการคุมเช้มในการควบคุมสินทรัพย์และตลาดในสหรัฐ และมาตรการควบคุมอัตราแลกเปลี่ยน, ภาษี และควบคุมว่าสินทรัพย์ไหนที่สามารถถือครองได้หรือไม่ได้ (เช่น ในสหรัฐ และบางประเทศอาจจะกำหนดว่า การถือครองทองคำเป็นสิ่งที่ผิดกฏหมาย)
    .
    3.สิ่งที่เกิดขึ้นคือ การค้ากับต่างชาติก็ถูกจำกัด และก็จะมีข้อกำหนดตามมา เช่น สหราชอาณาจักร ก็จะบังคับให้คู่ค้า ซึ่งส่วนใหญ่ก็คือประเทศในกลุ่มในเครือจักรภพ ต้องถือตัวเลขเกินดุลการค้าในสกุลเงินปอนด์
    .
    4.ในสหรัฐ อดีตประธานาธิบดี Roosevelt ต้องปรับรูปแบบการผลิต ให้ตอบสนองความต้องการในช่วงสงคราม ด้วยการปรับนโยบายหลายอย่างครับ (เริ่มปรับตั้งแต่ก่อนที่สหรัฐจะเข้าสู่ภาวะสงครามเสียอีก)
    .
    5.อย่างแรก ทางด้านผู้กำหนดนโยบายสหรัฐเริ่มใช้การควบคุมการค้าเพื่อสนับสนุนประเทศพันธบัตร
    .
    เช่นในช่วงปี 1941 ทางด้านสภาคองเกรสอนุมัติพระราชบัญญัติให้ ยืม-เช่า ซึ่งอนุญาตให้ประเทศพันธมิตรสามารถร้องขอสินค้า จากสหรัฐได้ โดยที่จะเลื่อนการจ่ายตังไปจนถึงช่วงหลังสงครามจบลง (หรือบางกรณีก็จะเลี่ยง เบี้ยวไม่ยอมจ่ายตังทั้งหมดเลยก็มี)
    .
    6.นอกจากนี้ก็ออกกฏในการควบคุมการค้ากับประเทศญี่ปุ่น เช่น การระงับการค้าขายเศษเหล็ก และน้ำมันในปี 1940 และอายัดทรัพย์สินของญี่ปุ่นในช่วงเดือน กรกฏาคม 1941
    .
    7.ส่วนช่วงหลังจากที่มีการระเบิดที่ เพิล ฮาร์เบอร์ ในช่วงเดือน ธันวาคม 1941
    .
    รัฐบาลก็ใช้กฏในการควบคุมที่คลาสสิคมากในช่วงสงคราม นั่นคือ การควบคุมราคาสินค้าและค่าแรง
    .
    8.ท่าน Roosevelt เองก็ตั้งคณะกรรมการ The War Production Board ในเดือน มกราคม 1942 ซึ่งมีอำนาจในการจัดสรรทรัพยากรที่มีจำกัด และสั่งให้โรงงานผลิตในสิ่งที่ต้องการ
    .
    9.การจัดซื้อในช่วงสงครามส่วนใหญ่จะเป็นลักษณะของค่าธรรมเนียม ที่บวกต้นทุนเข้าไป ในขณะที่โรงงานก็จะได้รับเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำเพื่อผลิตสินค้าที่มีความจำเป็นในช่วงสงครามครับ
    .
    ============
    .
    หันมาดูสงครามโลกครั้งที่ 1 กันบ้างครับ
    .
    1.การระดมเงินในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 คล้ายๆกับช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ครับ ที่มีการพิมพ์เงินสัดส่วน 1 ใน 5 สำหรับเงินทุนของสหรัฐและสหราชอาณาจักร
    .
    2.การเก็บภาษีในสมัยนั้นค่อนข้างถูกถกเถียงกันอย่างหนักครับ
    .
    3.รัฐบาลหลายแห่งลังเลใจที่จะขึ้นภาษีเพราะผู้กำหนดนโยบายมองว่าสงครามจะสิ้นสุดลงอย่างรวดเร็ว และมีต้นทุนที่ถูก
    .
    ทำให้มีความกังวลไม่มากสำหรับการที่จะพิมพ์เงิน และระดมเงินสำหรับช่วงงบขาดดุล เมื่อเทียบกับช่วงที่มีสันติภาพ
    .
    4.สงครามฟรังโก-ปรัสเซีย ในช่วง 50 ปีก่อนหน้านั้น ทั้งสองฝ่ายต่างก็หวังว่าจะบังคับให้อีกฝ่ายจ่ายเงินค่าสงครามหลังสงครามยุติลง
    .
    และวางแผนที่จะยกเลิก ธนบัตรฉบับใหม่จากระบบการเงิน
    .
    5.เนื่องจากประเทศในยุโรปในช่วงสงครามไม่สามารถผลิตสินค้าและวัตถุดิบที่จำเป็นต่อการต่อสู้
    .
    พวกเค้า ได้ทำงบประมาณขาดดุลและระดมเงินจากการกู้ยืมเงินจากพันธบัตร แล้วก็เอาทองคำสำรองไปใช้, และขายหลักทรัพย์ที่มีสกุลเงินท้องถิ่นในตลาดต่างประเทศ
    .
    6.ประเทศมหาอำนาจได้ใช้มาตรการในการควบคุมและข้อห้ามมากมาย เช่น ประเทศมหาอำนาจจะปิดตลาดตั้งแต่ช่วงแรกของสงคราม เพื่อหลีกเลี่ยงการขายสินทรัพย์ในราคาถูก และ ยกเลิกหรือการห้ามไม่ให้ส่งทองคำไปต่างประเทศ
    .
    7.แม้ว่าช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 จะไม่ได้มีอัตราภาษีที่สูงเท่ากับสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่เราก็เห็นว่าอัตราภาษีที่สหรัฐและอังกฤษเอามาใช้สูงถึง 50^
    .
    ============
    .
    ชวนมาดูรายประเทศกันครับ เริ่มจากฝรั่งเศส
    .
    1.ช่วงแรกมองว่าสงครามโลกจะจบลงอย่างรวดเร็ว นั่นเลยเป็นเหตุผลว่าทำไมถึงระดมทุนโดยใช้หนี้ระยะสั้น
    .
    2.แต่พอชัดเจนแล้ว ว่าสงครามจะยืดเยื้อ รัฐบาลก็เลยออกเงินกู้ระยะยาว ในช่วง 1915-1918
    .
    3.สำหรับตลาดทุนของประเทศที่พัฒนาแล้ว อย่างเช่นฝรั่งเศสเองก็มี มูลค่าตลาดเมื่อเทียบกับ GDP สัดส่วนกว่า 140% และการออกหลักทรัพย์ก็คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 10% ของ GDP
    .
    4.ด้วยเหตุผลที่ฝรั่งเศสเป็นประเทศที่น่าเชื่อถือทำให้สามารถกู้ยืมเงินได้ในอัตราที่ต่ำ
    .
    5.รัฐบาลเองก็พึ่งพานโยบายการเงิน โดยเฉพาะการพึ่งพาเงินกู้ระยะสั้น 3 เดือนถึง 1 ปี
    .
    ============
    .
    มาดูกันต่อที่สหราชอาณาจักรครับ
    .
    1.ในช่วงสัปดาห์แรกๆที่เกิดสงคราม รัฐบาลเอาเงินมาจากตั๋วเงินคลัง หรือตราสารหนี้ระยะสั้นอายุไม่เกิน 1 ปี
    .
    2.เงินที่เอามาใช้ทำสงครามแทบจะเอามาจากการกู้เงินทั้งหมด โดยรัฐบาลได้ปล่อยอัตราดอกเบี้ยลอยตัวในเงินกู้ระยะยาว 3 ก้อน คือ ใน ปี 1914, 1915, 1917 และเสริมด้วยการกู้ยืมเงินระยะสั้น
    .
    3.หลังจากเงินกู้ก้อนที่ 3 ก็มีบางส่วนที่ปรับอัตราดอกเบี้ย และ duration ให้เข้ากับความต้องการ
    .
    4.ตั๋วเงินคลังส่วนใหญ่เป็นแบบระยะสั้น (3-6 เดือน) และระยะกลางครบกำหนดอายุ 10 ปี และมีการกู้ยืมเงินจากธนาคารกลางอังกฤษเพื่อมาใช้จ่าย
    .
    5.ไม่ใช่แค่นี้ครับ รัฐบาลยังใช้วิธีการขยาย money supply เพิ่มขึ้นเท่าตัว ในช่วงที่เกิดสงครามเพื่อรับมือกับงบขาดดุล
    .
    ============
    .
    มาลุยกันต่อที่เยอรมนีครับ
    .
    1.การที่จะระดมเงินสดอย่างเร่งด่วน รัฐบาลได้ขายตั๋วระยะสั้นให้กับ Reichsbank ธนาคารแห่งชาติสถาบันการเงินภาคเอกชนยักษ์ใหญ่
    .
    2.หลังจากนั้นรัฐบาลได้ระดมเงินกู้ระยะยาว เพื่อจ่ายหนี้ระยะสั้น และ Reichsbank ก็จะพิมพ์เงินออกมาเพื่อซื้อตราสารหนี้ที่ธนาคารเยอรมนีไม่ซื้อ หรือไม่งั้นก็ลงเงินใน money market
    .
    3.เงินเยอรมนีหมุนเวียนในระบบเพิ่มขึ้น 599% ในช่วงที่เกิดสงคราม เมื่อเปรียบเทียบกับอังกฤษที่เพิ่มขึ้น 91% และฝรั่งเศสเพิ่มขึ้น 386%
    ============
    .
    ปิดท้ายที่สหรัฐอเมริกาครับ
    .
    1.สหรัฐเข้าร่วมสงครามในช่วงหลังๆแล้ว ส่วนใหญ่ค่าใช้จ่ายก็มาจากการกู้เงินจากสาธารณะ
    .
    2.เป็นการระดมทุนจากทั้งดาราหนัง, ศิลปิน โดยใช้ชื่อพันธบัตรว่า Liberty Bonds พันธบัตรเสรีภาพ และตอนหลังก็เปลี่ยนชื่อเป้น Victory Bonds พันธบัตรแห่งชัยชนะ
    .
    3.เงินที่เหลือสำหรับการทำสงครามมาจากการสร้างเงินขึ้นมาประมาณ 20%
    .
    ============
    .
    เริ่มต้นวันนี้ดีที่สุด ขอให้ทุกท่านโชคดีและมีอิสรภาพในการใช้ชีวิต
    .
    อิสรภาพชีวิต !! อยู่ไหนก็ไม่พลาด อย่าลืมกดติดตามนะครับ หรือเพิ่มช่องทางการสื่อสารได้เลย
    .
    ส่งข่าวสารถึงมือผ่าน Line@: http://bit.ly/TAM-EIG_LINE
    คลิกเลย


     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,426
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Forex Investor Trader Survivor
    Vx5DQIey9SjtWUsyxg00mozGzkaGxlg8C1FcrYAkQH_Q&_nc_ohc=5rXpkxRjCW8AX9XVc6K&_nc_ht=scontent.fbkk6-1.jpg

    ทิศทางของดอลลาร์? คำถามเดียวคือ อเมริกาและยุโรป ฝั่งไหนจะควบคุมการแพร่ระบาดได้ก่อนกัน

    ตลาดการเงินสหรัฐพลิกกลับไปปิดรับความเสี่ยง (Risk Off) ดัชนี S&P500 ปรับตัวลง 4.4% พร้อมกับบอนด์ยีลด์สหรัฐอายุ 10 ปี ที่ปรับลดลง 9.3bps มาที่ 0.58% ใกล้เคียงระดับต่ำสุดในประวัติการที่เคยทำไว้ในวันที่ 9 มีนาคม 2020 ส่งผลให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับราคาน้ำมัน (3.5%) และทองคำ (0.9%)

    ขณะเดียวกัน ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐก็อยู่ในภาวะเปราะบาง ล่าสุดการจ้างงานภาคเอกชน (ADP Employment) ปรับตัวลดลง 2.7 หมื่นตำแหน่ง ขณะที่ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคอุตสาหกรรม (ISM Manufacturing PMI) ก็ปรับตัวลงสู่ภาวะทดถอย ด้วยแรงกดดันจากการสั่งซื้อสินค้า และราคาสินค้าที่ปรับตัวลงอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานใหม่ในสัปดาห์ที่ผ่านมา (Initial Jobless Claims) ก็ยังเพิ่มขึ้นในระดับสูงที่ 3.7 ล้านตำแหน่ง ซึ่งอาจส่งผลให้จำนวนผู้รับสวัสดิการต่อเนื่องอาจพุ่งขึ้นสูงถึงกว่า 8 ล้านตำแหน่งในสัปดาห์หน้า คิดเป็นการว่างานชั่วคราวถึง 15% ซึ่งมากกว่าช่วงวิกฤติเศรษฐกิจปี 2008

    ฝั่งของตลาดเงินพบว่าดัชนีดอลลาร์ (DXY) ยังคงแกว่งตัวในกรอบ 98-100จุด แม้ภาพความเสี่ยงในตลาดทุนที่สูง

    ขึ้นจะหนุนให้เงินเยน (JPY) แข็งค่า แต่การระบาดของไวรัสในฝั่งยุโรป กลับมาเป็นปัจจัยกดดันให้บอนด์ยีลด์อิตาลีปรับตัวสูงขึ้นสวนทางกับยีลด์เยอรมัน กดดันให้เงินยูโร (EUR) ที่คิดเป็นกว่า 56% ของดัชนีอ่อนค่าลง

    ทั้งหมดส่งผลให้เงินบาทยังคงมีแนวโน้มอ่อนค่าได้ต่อเนื่อง แม้เงินบาทจะไม่ใช่สมรภูมิหลักของตลาดการเงินในรอบนี้ แต่ก็ได้รับผลกระทบจากการขายสินทรัพย์เสี่ยงทั่วทั้งโลกเช่นเดียวกัน คุณจากต้นปีมาจนถึงปัจจุบันเงินบาทอ่อนค่าไปแล้วถึง 9.5% ขณะที่ความผันผวนก็ขยับขึ้นมาที่ระดับ 7% จากช่วงต้นปีที่อยู่ในระดับต่ำเพียง 4%

    มองว่าจุดต่อไปที่ต้องจับตานอกจากทิศทางของตลาดทุนก็คือแนวโน้มการระบาดของไวรัสในฝั่งตะวันตกที่ต้องเทียบรายวันว่าระหว่างอเมริกาและยุโรป ฝั่งไหนจะควบคุมการระบาดได้ก่อนกัน

    Cr : Pitipon Puksamtanan
    Investing.com
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,426
    ค่าพลัง:
    +97,150
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,426
    ค่าพลัง:
    +97,150
    แบ่งปันจาก รู้จีนตามอรัญญา

    ผู้สมัครเข้าสอบจำนวน 10.71 ล้านคน ซึ่งการเลื่อนเวลาเข้าสอบในครั้งนี้ มีเหตุผลหลักด้วยกันสองประการคือ 1. แม้ว่าสถานการณ์การระบาดในจีนในภาพรวมจะอยู่ภายใต้การควบคุมในขั้นพื่นฐานแล้วก็ตาม แต่การระบาดภายนอกจีนยังคงทวีความรุนแรงอยู่ ในบางพื้นที่ยังเกิดการระบาดในชุมชนอยู่บ้าง หากเลื่อนการสอบออกไป จะช่วยลดความเสี่ยงให้น้อยลงได้ 2. การเกิดโรคระบาดทำให้หลาย ๆ พื้นที่ต้องเลื่อนการเปิดเรียน การเตรียมตัวเข้าสอบได้รับผลกระทบ ดังนั้นการเลื่อนสอบทำให้ผู้สมัครสอบมีเวลาเตรียมตัวสอบมากขึ้น
    ก่อนปี 2003 การสอบเข้ามหาวิทยาลัยของจีนจัดขึ้นในวันที่ 7-9 กรกฎาคม เพื่อหลีกเลี่ยงอากาศที่ร้อนจัด ต่อมาจึงได้เปลี่ยนไปจัดสอบในเดือนมิถุนายนแทน
    กดไลก์และติดตามด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ

    CShtvB4YATgyvxlLuC5ay0eHmsUfvjDXlWzKOMGqnU_Q&_nc_ohc=7aWRo0XPnQkAX_MsAEB&_nc_ht=scontent.fbkk6-2.jpg

    m_NfMOvQi5WyeMLBJOjszl9kFcg47PSESBxIE7x0eorQ&_nc_ohc=m4N9RqOjc8AAX_LlXyE&_nc_ht=scontent.fbkk6-2.jpg

    NdumUSj78hpI3F1y28brKwbLbS8pYgTfkGXGVWIkf3fQ&_nc_ohc=JLc6PwfTH2kAX9-bqJe&_nc_ht=scontent.fbkk6-1.jpg

    hLTLc2eoTYLYOs_2TWY8ur5xGUPz1gSU6ctMFAgYINEw&_nc_ohc=RDu6mkuylf0AX_XB9jL&_nc_ht=scontent.fbkk6-1.jpg
     

แชร์หน้านี้

Loading...