ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    อนาคตการฟื้นตัวของตลาดน้ำมันนั้นอาจแบ่งได้เป็น 3 ระยะสำคัญ

    1) ระยะหนีตายถังน้ำมันล้น
    2) ระยะระบายน้ำมันออกจากถัง
    3) ระยะที่โอเปกอาจกลับมารุ่งเรือง

    นี่เป็นเพียงมุมมองวิเคราะห์ส่วนตัวนะครับ ไม่ได้เป็นการชี้นำในการลงทุนทั้งสิ้นแต่อย่างใด วันนี้เราอยากจะมาวิเคราะห์ทิศทางของตลาดน้ำมันในระยะยาวๆกันบ้าง หลังจากที่เราได้วิเคราะห์ในระยะสั้นไปแล้วในบทความเมื่อวาน ท่านใดยังไม่ได้อ่านเชิญลองอ่านได้ที่ Like นี้เลยครับ

    #ถังน้ำมันทั่วโลกจะเต็มไหม ? #เรายังเหลือที่เก็บอีกมากน้อยเพียงใด ?


    เราลองมาดูรายละเอียดของในแต่ละระยะกันเลยครับ

    1️⃣ ระยะหนีตายถังน้ำมันล้น (May-June 2020)

    #นี่คือช่วงเวลาที่สั้นที่สุดแต่จะเป็นช่วงเวลาที่สำคัญที่สุด ตลาดน้ำมันกำลังหนีตายจากถังน้ำมันทั่วโลกจะล้น ทางเราได้วิเคราะห์อย่างละเอียดในบทความเมื่อวานแล้วว่าการใช้น้ำมันและการผลิตน้ำมันจะต้องเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้างเพื่อไม่ให้ถังเต็มและเพื่อที่จะซื้อเวลาไม่ให้ถังน้ำมันทั่วโลกนั้นล้น

    จากรายงานต่างๆที่เราได้รับเข้ามานั้นดูเหมือนตลาดกำลังทำได้ดีในระยะแรกแล้ว ทางด้านการใช้น้ำมันสัญญาณจากสหรัฐเริ่มดีขึ้นแล้ว คนเริ่มกลับมาขับรถกันมากขึ้นหลังจากเริ่มมีการเปิดเมืองในบางรัฐ และการบินในภูมิภาคต่างๆก็จะเริ่มกลับมากันอีกครั้ง

    ทางด้านการผลิตน้ำมันนั้นเราได้รับรายงานว่าผู้ผลิตในโอเปกกำลังทยอยลดกำลังการผลิตกันแล้ว และอีกรายงานที่สำคัญที่ได้รับคือการผลิตเชลล์ออยล์ของสหรัฐนั้นกำลังจะโดนปิดเพิ่มไปอย่างน้อยอีก 0.6 ล้านบาร์เรลต่อวันในช่วง 2 เดือนข้างหน้านี้ หลังจากที่ได้โดนปิดไปประมาณ 1 ล้านบาร์เรลต่อวันแล้วตั้งแต่ราคาปรับตัวลดลงครั้งใหญ่ ทางบริษัทใหญ่ๆอย่าง Exxon, Chevron และ Conoco Phillips นั้นได้ยืนยันการลดกำลังการผลิตเพราะราคาไม่คุ้มต่อต้นทุนการผลิตแล้ว

    โดยตัวเลขการผลิตของสหรัฐนั้นอาจจะลดลงได้อย่างต่อเนื่องเพราะทางรัฐบาลทรัมป์นั้นได้ให้คำสัญญาไว้กับทางซาอุ รัสเซีย และโอเปกว่าจะช่วยร่วมลดกำลังการผลิตด้วยที่ 2 ล้านบาร์เรลต่อวัน

    ในภาพรวมของตลาดในระยะแรกนั้น หากไม่เกิดการระบาดของไวรัสอีกรอบ (Wave 2) ทำให้ทางเราเชื่อว่า #ตลาดจะสามารถหนีตายจากสภาวะน้ำมันล้นถ้งได้แล้ว หากต้องประมาณราคาน้ำมันดิบ Brent ในระยะนี้ก็คือระดับราคาที่ 20-30 เหรียญ แต่แน่นอนว่าราคาจะมีความผันผวนสูงตามข่าวและการเปลี่ยนแปลงของปัจจัยต่างๆ

    2️⃣ ระยะระบายน้ำมันออกจากถัง (Q3'20 - Q2'21)

    #ระยะนี้นั้นจะเป็นระยะที่ยาวนานที่สุด และถึงแม้การใช้น้ำมันจะเริ่มกลับมาเป็นปกติแล้ว อย่าได้คาดหวังว่าราคาน้ำมันในช่วงนี้จะทะยานสูงกลับไปในระดับเดียวกับปีที่แล้วได้ เพราะ 2 เหตุผลหลักๆคือ

    1) เรายังมีน้ำมันดิบสำรองในถังอยู่เยอะมาก และ
    2) กำลังการผลิตทั่วโลกนั้นต่ำ อาจจะมีหลายๆฝ่ายกลับมาเปิดก็อกการผลิตเพิ่มขึ้นได้ระหว่างทางนี้

    ประกอบกับเรายังต้องใช้น้ำมันที่ยังลอยลำเรืออยู่ที่กว่า 250 ล้านบาร์เรล และนี่ยังไม่รวมการผลิตของลิเบียที่โดนปิดเพราะปัญหาการเมืองในประเทศ และที่อิหร่าน + เวเนซุเอลาที่โดนสหรัฐคว่ำบาตรอยู่ด้วย ที่อาจกลับมาได้ตลอดเวลา

    ระยะที่น้ำมันกำลังระบายออกจากถังนี้ เราอาจไม่เห็นราคาดีดขึ้นแรงๆ แต่ราคาก็ไม่ควรปรับตัวลดลงไปต่ำกว่าต้นทุนการผลิตในที่ต่างๆเพราะการใช้น้ำมันจะมีเพียงพอที่จะซื้อน้ำมันจากหลุมต่างๆเหล่านี้

    ทางเรามองว่าในระยะที่ 2 นี้ราคาน้ำมัน Brent น่าจะ #ปรับตัวอยู่ในกรอบ ที่ 30-50 เหรียญได้ โดยจะปรับตัวขึ้นลงตามสภาพตลาดน้ำมันในระยะสั้นเลยว่ามีปัจจัยใดๆเข้ามากระทบบ้าง

    3️⃣ ระยะที่โอเปกอาจกลับมารุ่งเรือง (Q3'21-Q4'21)

    ยังอีกนานเลยนะครับสำหรับระยะนี้ แต่ช่วงนี้นั้นจะเป็นช่วงเวลาที่กลุ่มโอเปกที่ยอมพยายามทุ่มเททุกๆแรงกายและทรัพย์ในการรวบรวมกลุ่มพันธมิตรให้กลับมาลดกำลังกันอย่างเป็นปึกแผ่นอีกครั้งอาจได้กลับมารุ่งเรือง โดยหากทุกฝ่ายทำได้ดีในระยะที่ 2 และสต็อกน้ำมันดิบทั่วโลกลดกลับลงไปถึงระดับเฉลี่ยปกติเราถึงจะเรียกได้เต็มปากว่า #ตลาดกลับมาสมดุลอีกครั้ง

    และหากเมื่อตลาดกลับมาสมดุลอีกครั้ง #ทางโอเปกและพันธมิตรจะมีสิทธิเลือก ว่าจะทำอย่างไรต่อไป หากทางกลุ่มพร้อมที่จะลดกำลังการผลิตกันเรื่อยๆต่อไป เชื่อว่าราคาน้ำมันดิบ Brent อาจจะเห็นดีดกลับขึ้นไปเกืน 60 เหรียญอีกแน่ๆ แต่ถ้ากลับมาแตกแถวและทะเลาะกันราคาก็อาจจะอยู่ในกรอบล่าง

    ทางเราอยากจะมองภาพกว้างๆไว้ก่อนและให้กรอบราคาที่ 50-70 เหรียญ (ระดับราคาเฉลี่ยเมื่อปี 2019) แต่ราคานั้นจะอยู่บนกรอบล่างหรือบนนั้นก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยระยะสั้นในช่วงนั้นเลย หากจะเกิดสงครามภาษีระหว่างสหรัฐและจีนอีกครั้ง (อย่างที่ทรัมป์ขู่ไว้เมื่อคืนนี้) หรือการผลิตจากลิเบีย เวเนซุเอลา และ อิหร่านกลับมา หรือทางโอเปก+รัสเซียเร่งแย่งกันผลิตเอง ราคาอาจจะอยู่ติดกรอบแนวล่างได้ แต่ถ้าเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบในประเทศผู้ผลิตอีกครั้งในช่วงนี้ เราก็อาจเห็นราคาดีดทะลุ 70 เหรียญในระยะสั้นก็เป็นไปได้ครับ

    และนี่ก็คือมุมมองวิเคราะห์ส่วนตัวของตลาดน้ำมันในระยะยาวนะครับ ไม่ได้เป็นการชี้นำในการลงทุนทั้งสิ้นแต่อย่างใด ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามเพจของเรานะครับ ฝากกด Like และ Share ให้แอดด้วยหากข้อมูลนี้มีประโยชน์นะครับ ขอบคุณมากๆครับ

    ⛔️ ท่านใดไม่อยากพลาดข่าวสารในตลาดจากทีมงาน แนะนำให้กด Like ที่โพสต์เรื่อยๆ หรือกดตั้งค่า “เห็นโพสต์ก่อน” หรือ See First ไว้ที่เมนูมุมขวาบนของเพจได้เลยครับ ไม่งั้นทาง Facebook จะไม่ค่อยแสดงโพสต์ของทีมเราที่อัพเดทใหม่ๆครับ

    #OilTradingKP

     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    โลกของการทำงานที่เราเคยรู้จักอาจเปลี่ยนไปตลอดกาลหลังการระบาดของไวรัส Covid-19

    ช่วงหลังๆคำว่า New Norm หลังยุคไวรัสโควิดนั้นกลายเป็นสิ่งที่หลายท่านกำลังให้ความสนใจ วันนี้ทางเพจจึงหยิบบทความเรื่อง "Coronavirus pandemic could forever change the way we work" จาก CNBC มาแชร์กันใน #สาระเบาๆเสาร์อาทิตย์ ครับ ว่าโลกของการทำงานของเราจะเปลี่ยนแปลงไปมากน้อยเพียงใด

    โดยสรุปมาให้เป็น 10 การเปลี่ยนแปลงครับ

    1️⃣ ออฟฟิศทำงานอาจกลายเป็นแค่สัญลักษณ์ของบริษัทใหญ่ๆ

    ช่วงเวลาที่บริษัทต่างๆเริ่มทำงานที่บ้านกันมากขึ้น จัดระบบงานให้เป็น Online มากขึ้น อาจจะเหลือเพียงบริษัทใหญ่ๆเท่านั้นที่สามารถมีงบเหลือในการลงทุนกับออฟฟิศสวยๆ ส่วนบริษัทเล็กๆอีกมากอาจจะต้องหันไปเลือกการใช้พื้นที่ออฟฟิศในการทำเป็น Co-Working Space ที่ไม่ได้ใช้งานประจำทุกวันแทนและพนักงานไม่ได้เข้ากันทุกคน จะเข้ามาเพื่อคุยงานที่จำเป็นต้องเจอหน้ากันเท่านั้น

    2️⃣ การประชุมส่วนใหญ่จะเปลี่ยนเป็นการใช้ E-mail หรือ Insant Message (อย่าง LINE) แทน

    ในช่วงของไวรัสระบาดบางนี้ พนักงานหลายๆคนอาจจะได้ E-mail หรือ LINE จากนายและเพื่อนร่วมงานบ่อยขึ้นกว่าปกติ แต่หลายๆบริษัทก็อาจจะได้เห็นถึงประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นในการทำงานด้วยวิธีนี้ ทำให้ที่ปรึกษาชั้นนำอย่าง Boston Consulting Group มองว่าการสื่อสารผ่านการประชุมจะลดน้อยลงกลายเป็น E-mail และ Insant Message แทน

    3️⃣ ยุคของของการเดินทางเพื่อธุรกิจ (Business Trip) นั้นอาจจะจบสิ้นไปแล้ว

    หลังจากที่การเดินทางทุกชนิดหยุดชะงักเพราะไวรัส หลายบริษัทอาจจะเพิ่งค้นพบว่าการเดินทางเพื่อธุรกิจหลายครั้งนั้นไม่มีความจำเป็นและสามารถทำได้ผ่านการประชุมทางวิดีโอที่หลายๆคู่ค้าเริ่มยอมรับกันมากขึ้นแล้ว นักวิเคราะห์เชื่อว่างบการเดินทางจะเป็นงบแรกๆที่หลายๆบริษัทจะทำการตัดเพื่อฟื้นฟูสภาพของบริษัทหลังวิกฤตนี้

    4️⃣ สิ่งแรกที่พนักงานต้องทำเมื่อเข้าออฟฟิศอาจกลายเป็นการวัดอุณหภูมิแทนการตอกบัตร

    สิ่งนี้ได้เริ่มเกิดขึ้นแล้วในหลายๆสถานที่ทำงาน โดยหากยังไม่มีวัคซีนออกมาทุกๆบริษัทควนจะต้องทำการวัดไข้ของพนักงานเป็นสิ่งแรกแทนการตอกบัตร

    5️⃣ เรากับเพื่อนร่วมงานอาจจะสนิทกันมากขึ้น

    ข้อนี้อาจตรงข้ามกับที่หลายๆท่านคิดว่า การทำงานจากที่บ้านจะทำให้เพื่อนร่วมงานยิ่งห่างกันหรือป่าว แต่นักวิเคราะห์มองว่าการทำงานที่ห่างกันอาจทำให้ทีมสนิทกันมากขึ้น ! หลายๆคนจะเริ่มคิดถึงการกินข้าวกลางวันกับแก็งสนิทและจะทำให้ทุกครั้งที่ได้พบกันนั้นอาจจะทำให้มีความใกล้ชิดกันมากกว่าแต่ก่อน

    6️⃣ นอกจากเลือกชุดทำงานแล้ว แฟชั่นหน้ากากอนามัยจะกลายเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ต้องเลือกทุกเช้าก่อนไปทำงาน

    แฟชั้นใหม่ในที่ทำงานจะเกิดจากการสวมหน้ากากอนามัยที่แตกต่างกันไป ให้เตรียมพื้นที่เพิ่มในตู้เสื้อผ้าของคุณให้ดี เพราะการสวมหน้ากากรอบๆออฟฟิศจะกลายเป็นเรื่องธรรมดาต่อจากนี้ไป

    7️⃣ การทำงานเวลามาตรฐาน 9 โมงเช้าถึง 5 โมงเย็นอาจกลายเป็นอดีตไปแล้ว

    อะไรคือมาตรฐานของเวลาทำงาน ? ในเมื่อหลายๆคนก็อยู่ที่ๆเดิมตลอดทั้งวันหากเราทำงานที่บ้าน เวลาที่ต้องรีบออกจากออฟฟิศเพื่อผ่ารถติดกลับบ้านจะไม่มีอีกต่อไป หากงานที่ค้างยังไม่เสร็จในเวลาที่กำหนด 5 โมงเย็นก็อาจจะไม่ได้เป็นเวลาที่คนเกรงใจกันที่จะตามงานอีกต่อไปแล้ว ทางหัวหน้าทีมและลูกน้องควรทำความเข้าใจเรื่องเวลาของการทำงานให้ตรงกัน

    8️⃣ เราอาจเห็นผู้หญิงกลับมาทำงานกันมากขึ้นเมื่อเวลาในการทำงานเริ่มมีความยืดหยุ่นมากขึ้น

    แต่ก่อนนั้นเราอาจเห็นผู้หญิงเก่งๆหลายคนต้องออกจากงานไปเพราะว่าเริ่มแต่งงานหรือมีลูกและทำให้หน้าที่และเป้าหมายหลักของชีวิตเปลี่ยนไป การทำงานประจำในออฟฟิศไม่สามารถจะทำให้พวกเขาทำหน้าที่ในฐานะแม่หรือภรรยาที่ต้องการได้เต็มที่ แต่การเริ่มทางงานที่บ้านมากขึ้นจะทำให้กลุ่มผุ้หญิงเหล่านี้มีโอกาสทำหน้าที่ทั้ง 2 อย่างได้ด้วยเวลาและการเดินทางยืดหยุ่นขึ้น

    9️⃣ ตำแหน่งผู้บริหารระดับกลางอาจถูกตัดออกไปจากหลายองค์กร

    ในช่วงของการทำงานจากบ้านนั้น หลายบริษัทอาจเล็งเห็นบริษัทที่มีระดับขั้นการรายงานเยอะเกินไปนั้นอาจจะขยับช้ากว่าบริษัทที่ขั้นรายงานน้อยหรือ Flat กว่า John Sculley อดีต CEO ของ Apple ได้ออกมาให้ความเห็นว่าหลังวิกฤตปีนี้เราอาจเห็นหลายๆองค์กรปรับโครงสร้างให้มีระดับขั้นน้อยลง คล้ายๆกับที่เราเคยเห็นในวิกฤตปี 2008

    การใช้หุ่นยนต์หรือโปรแกรมทำงานแทนที่มนุษย์ในที่ต่างๆจะเกิดขึ้นเร็วกว่าเดิม

    หลายๆคนคงได้ยินแล้วว่าผู้ที่เร่งให้เกิด Digital Transformation หรือการแปลงทางเทคโนโลยีที่ดีที่สุดของบริษัทนั้นไม่ใช่ CEO หรือ CTO (Chief Technology Officer) แต่อย่างใด แต่กลับเป็นตัวไวร้สโควิดนี่เองแหละที่ทำให้หลายๆบริษัทไม่มีทางเลือกที่จะต้องเปลี่ยนวิธีการทำงาน โดยระบบการทำงานในทุกๆที่ต่อไปนี้จะมีการใช้โปรแกรมทำงานมากขึ้น พวกงานและต่ำแหน่งที่เราเคยกลัวว่าจะโดนโปรแกรมแย่งไปทำนั้นกำลังจะคืบคลานเข้ามาอย่างเร็วขึ้นกว่าที่คาดไว้

    ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามเพจของเรานะครับ ฝากกด Like และ Share ให้แอดด้วยหากข้อมูลนี้มีประโยชน์นะครับ ขอบคุณมากๆครับ

    #OilTradingKP

    read:https://www.cnbc.com/2020/04/29/how...future-of-work.html?__source=instagram|makeit

     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ⚠️ ด่วน ⚠️ Elon Musk ทวีตออกมาว่า "ราคาหุ้น Tesla แพงเกินไปแล้วในความคิดผม" ทำเอาตลาดอึ้งกันไปหมดและราคาหุ้นที่ร้อนแรงก็โดนเทขายไปกว่า -10% คืนนี้ !

    อย่างที่เราเคยเขียนไปนะครับ ถ้าจะมีใครสามารถ #ทวีตป่วนตลาดได้เป็นระดับน้องๆของทรัมป์ ก็น่าจะเป็นเจ้าของบริษัท Tesla อย่าง Elon Musk นี่แหละครับ

    หลังจากเมื่อปี 2008 ได้ทวีตกล่าวว่าจะซื้อหุ้น Tesla กลับมาเป็นของตัวเองหมดที่ราคา 420 เหรียญ ในขณะที่ราคาหุ้นยังซื้อขายอยู่ที่ระดับ 260 กว่าเหรียญ จนทำให้ตลาดนั้นตกใจ นักลงทุนกรูกันเข้าซื้อหุ้นจนราคาดีดแรงกว่า 20% ขึ้นไปเกิน 300 เหรียญ #จนสุดท้ายเจ้าตัวต้องเจอการสอบสวนเรื่องการปั่นหุ้น

    มาถึงวันนี้ทาง Elon Musk #ยังไม่เข็ดนะครับ ยังทวีตบอกนักลงทุนว่าตัวเขาเองคิดว่าราคาหุ้น Tesla แพงไปแล้ว

    "Tesla Stock Price is too high imo (In my opinion)"

    Elon Musk ทวีตออกมาเมื่อเวลา 22.11น. ของไทย และหลังจากนั้นหุ้นของTesla ก็โดนเทขายลงจากระดับ 770 เหรียญลงมาที่ 700 เหรียญ (-10%) โดยทันที

    หุ้น Tesla นั้นแทบจะเป็นหุ้นที่ร้องแรงที่สุดในโลกแล้วใน 1 เดือนที่ผ่านมา บริษัทรถยนต์ไฟห้าแห่งอนาคตนั้นราคาพุ่งแรงอย่างไม่ไว้หน้าไวรัสโควิด ในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมาราคาหุ้นวิ่งจาก 350 เหรียญขึ้นไปแตะถึงระดับ 800 เหรียญหรือขึ้น +130% ภายในเวลาสั้นๆ

    ทางเรานั้นได้เขียนวิเคราะห์ถึงธุรกิจของ Tesla และแผนอันยิ่งใหญ่ของ Elon Muck บนเพจบ่อยๆ และทำไมหุ้น Tesla ถึงอาจเป็นที่น่าสนใจ ในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมานี้ ถ้าใครติดตามอยู่อาจจะจำได้ เราทำแชร์ลิ้งค์ทั้งหมดแปะไว้ในคอมเม้นท์อีกทีละกันครับ เผื่อท่านไหนสนใจ

    การที่ราคาโดนเทขายลงมาในครั้งนี้อาจเป็นโอกาสที่ดีที่คุณจะได้ช้อนหุ้นไปพร้อมๆกับ Elon Musk

    ⛔️ ท่านใดไม่อยากพลาดข่าวสารในตลาดจากทีมงาน แนะนำให้กด Like ที่โพสต์เรื่อยๆ หรือกดตั้งค่า “เห็นโพสต์ก่อน” หรือ See First ไว้ที่เมนูมุมขวาบนของเพจได้เลยครับ ไม่งั้นทาง Facebook จะไม่ค่อยแสดงโพสต์ของทีมเราที่อัพเดทใหม่ๆครับ

    #OilTradingKP

     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    (อีกตัวอย่างหนึ่งของ "การปล่อยคลื่นเสียงอิเล็กทรอนิกส์")
    บทความใหม่ที่ตีพิมพ์ในวารสาร Space Weather แสดงให้เห็นว่าในความเป็นจริงแล้วแผ่นดินไหวและสึนามิอาจส่งผลกระทบต่อบรรยากาศรอบนอกมากกว่าที่เคยคิดไว้
    https://agupubs.onlinelibrary.wiley.com/doi/full/10.1029/2019SW002302

    "เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2011 เกิดแผ่นดินไหวขนาด 9.0 เกิดขึ้นใกล้ชายฝั่งตะวันออกของฮอนชู ประเทศญี่ปุ่น ทำให้เกิดคลื่นสึนามิที่โหดเหี้ยม รวมถึงระลอกคลื่นที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในพื้นที่ปฏิสัมพันธ์ของอวกาศ ‐ บรรยากาศ" รายงานโดยนำโดย Min-Yang Chou มหาวิทยาลัยคอร์ปอเรชั่นเพื่อการวิจัยบรรยากาศ (UCAR) ในโบลเดอร์, โคโลราโด ... "
    แม้ว่าน่าประหลาดใจที่ความไม่สงบของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าไม่ได้เกิดขึ้นหลังจากเกิดแผ่นดินไหวและสึนามิ พวกเขาไปหลายชั่วโมง ... "
    FB_IMG_1588429063789.jpg
    (Another example of "emission of electronic screech")
    A new paper published in the research journal Space Weather shows that earthquakes and tsunamis may, in fact, affect the ionosphere much more than previously thought.
    https://agupubs.onlinelibrary.wiley.com/doi/full/10.1029/2019SW002302
    "On 11 March 2011, a magnitude 9.0 earthquake occurred near the east coast of Honshu, Japan, unleashing a savage tsunami as well as unprecedented ripples at the space‐atmosphere interaction region," report the authors, led by Min-Yang Chou of the University Corporation for Atmospheric Research (UCAR) in Boulder, CO..."
    Surprisingly, though, the ionospheric disturbances didn’t peter out after the initial quake and tsunami; they kept going for many more hours..."

     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ⚠️ ทรัมป์ขู่จะเริ่มสงครามการค้ากับจีนอีกรอบหากจีนตั้งใจปล่อยไวรัสโควิดให้เขาแพ้การเลือกตั้งจริงๆ ... ถึงแม้ทรัมป์จะพูดอะไรลอยๆออกมาเยอะมาก... แต่เรื่องนี้อาจมีความเป็นไปได้... ⚔️

    หลังจากใช้เวลากันเกินกว่าปีครึ่งในการพยายามเจรจาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนจนกันสำเร็จไปสำหรับเฟสที่ 1 ใน 3 เมื่อต้นปีนี้ สิ่งสุดท้ายที่โลกต้องการในยามวิกฤตไวรัสโควิดนี้คือ... #สงครามการค้ารอบใหม่

    คล้ายๆกับในหนังเลยครับ ด้วยความสงสัยในตัวของจีนและ WHO ทางทรัมป์ได้รีบส่งทีมข่าวกรองของทุกหน่วยของสหรัฐ ไม่ว่าจะเป็นสำนักสอบสวนกลาง (CIA) สำนักงานความมั่นคงแห่งชาติ (NSA) สำนักข่าวกรองทหาร (DIA) และศูนย์ข่าวกรองการแพทย์แห่งชาติด้วย เข้าไปสืบเรื่องว่าจีนตั้งใจปล่อยไวรัสออกมาจริงไหม ? หรือตั้งใจผลิตไวรัสจริงแต่การปล่อยอาจเป็นอุบัติเหตุ ? และทางองค์กรณ์อนามัยโลก (WHO) มีการปกปิดเรื่องนี้บ้างหรือป่าว ? ทราบถึงเรื่องห้อง Lab ปฏิบัติการไวรัสในอู่ฮั่นหรือไม่ ?

    ทรัมป์กล่าวว่า "ผมไม่พอใจกับจีน ไม่พอใจกับสถานการณ์ทั้งหมด เราเชื่อว่าเราจะสามารถหยุดยั้งการระบาดของไวรัสได้ตั้งแต่เนิ่นๆ และมันคงไม่เกิดการระบาดใหญ่ไปทั่วโลกหากเราได้รับข้อมูลที่ถูกต้องแต่แรก และไม่มีประไหนนอกจากจีนประเทศเดียวที่ควรต้องรับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้น"

    ทรัมป์ยังกล่าวหาว่าจีนด้วยว่าอาจจงใจปล่อยไวรัสออกมาเพื่อทำให้เขาแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐที่ตนจะต้องแข่งกับนาย Joe Biden ในการเลือกตั้ง 3 พ.ย.นี้ เพราะทางจีนคงต้องการแก้แค้นเรื่องสงครามการค้าที่ตนทำให้ทางจีนเสียหายหนักในการต่อรอง และทางจีนคงต้องการลดแรงกดดันในอีก 4 ปีข้างหน้า เพราะหากตนได้รับตำแหน่งสมัยที่ 2 ก็จะเข้ากดดันจีนเรื่องการค้าอย่างต่อเนื่องแน่นอน

    โดยหากทางจีนตั้งใจทำจริงๆ มันก็คงกำลังได้ผลครับ... จากตอนแรกที่ทางทรัมป์คะแนนนำโด่งไม่ว่าจะเทียบกับตัวแทนพรรคเดโมแครตคนไหน แต่ผลจากโพลล่าสุดเริ่มชี้ว่าคะแนนของ Joe Biden เริ่มตีตื้นทรัมป์ขึ้นมาในหลายๆที่ และได้ขึ้นนำทรัมป์ในบางโพลแล้วด้วย ! เพราะการบริหารงานของรัฐบาลทรัมป์ในช่วงวิกฤตไวรัสนั้นทำได้ไม่ดีเลย

    ล่าสุดนั้นทางทรัมป์ได้ออกมายืนยันว่าทางทีมงานของเขาเริ่มหาหลักฐานเจอแล้วว่า #ไวรัสโควิดนั้นได้ถูกสร้างขึ้น จากห้อง Lab ในอู่ฮั่นจริงๆ แต่แค่ยังไม่แน่ใจว่าการหลุดออกมานั้นเป็นการจงใจของจีนหรือไม่

    ทางที่ปรึกษาในทำเนียบขาวเชื่อว่าหากทางจีนจงใจ ทรัมป์จะใช้การขึ้นภาษีสินค้าจีนและสงครามการค้าเข้ากดดันจีนอีกครั้งแน่ๆ ประกอบกับอาจมีการสั่งไม่ให้กองทุน Retirement Funds ต่างๆในสหรัฐไปลงทุนในจีน ซึ่งจะเป็นการตัดเงินทุนที่จะไหลเข้าจีนเป็นจำนวนมหาศาล

    ตลาดหุ้นสหรัฐไม่ชอบผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นได้จากสงครามการค้าอีกรอบนี้ และตั้งแต่มีข่าวเรื่องนี้ออกมาตลาดหุ้น Dow Jones และ S&P ก็ได้ปรับตัวลดลงไปกว่า -3% แล้ว โดยเราต้องติดตามการตัดสินใจของทรัมป์อย่างใกล้ชิดหลังจากที่ทรัมป์เพิ่งได้เดินทางออกจากทำเนียบขาวเป็นครั้งแรกในรอบ 1 เดือน โดยได้เดินทางไปยัง Camp David หรือค่ายหลบภัยของประธานาธิบดีสหรัฐเพื่อเก็บตัว

    #ทางเราไม่ได้เชื่อข้อกล่าวหา ที่ทรัมป์บอกว่าจีนจงใจปล่อยไวรัส แต่ทางเราก็จะยัง #ไม่ปักใจเชื่อว่าเป็นแค่เรื่องโกหก จนกว่าจะมีหลักฐานออกมาจริงๆ เพราะหากทุกท่านจำเรื่องที่ทางเพจเคยเขียนไว้ตอนช่วงกลางปีที่แล้วได้ว่า ทางจีนนั้นหลังชนฝาจริงๆเรื่องการเจรจาการค้าในช่วงนั้น ทางจีนนั้นไม่สามารถต่อรองอะไรได้มากเลยเว้นแต่ว่าจะมีทางทำให้มั่นใจได้ว่าทรัมป์จะไม่กลับมาเป็นประธานาธิบดีเป็นสมัยที่สอง เพราะหากทางจีนสามารถทำได้จริงๆ การพยายามเจรจาในเบื้องต้นเพื่อยืดเวลาไปให้ได้นานที่สุดน่าจะเป็นเรื่องที่ดีที่สุดสำหรับจีน...

    และนับตั้งแต่ไวรัสระบาดครั้งนี้เริ่มขึ้น หลายๆฝ่ายอาจเห็นว่าถึงแม้จีนจะเป็นผู้ถูกกระทบเป็นคนแรก แต่โดยรวมแล้วไวรัสนี้กำลังทำให้จีนเป็นที่ยกย่องของหลายชาติมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นระบบการควบคุมไวรัสไปจนถึงโอกาสในการเข้าช่วยเหลือประเทศอื่นๆและสร้างความสัมพันธ์ของจีน...

    ⚔️ เรื่องนี้เริ่มเข้นข้นเข้าไปทุกทีแล้วครับ.. สงครามในการก้าวขึ้นเป็นประเทศมหาอำนาจอันดับที่ 1 ของโลก...

    ⛔️ ท่านใดไม่อยากพลาดข่าวสารในตลาดจากทีมงาน แนะนำให้กด Like ที่โพสต์เรื่อยๆ หรือกดตั้งค่า “เห็นโพสต์ก่อน” หรือ See First ไว้ที่เมนูมุมขวาบนของเพจได้เลยครับ ไม่งั้นทาง Facebook จะไม่ค่อยแสดงโพสต์ของทีมเราที่อัพเดทใหม่ๆครับ

    #OilTradingKP

     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ถังน้ำมันทั่วโลกจะเต็มไหม ? เรายังเหลือที่เก็บอีกมากน้อยเพียงใด ? นี่เป็นคำถามที่ตลาดพยายามจะหาคำตอบกันมากที่สุดในเวลานี้ เราลองมา #วิเคราะห์ตลาดน้ำมันโลก กันครับ

    ราคาน้ำมันดิบได้ทยอยปรับตัวสูงขึ้นมาตลอดอาทิตย์ ราคา Brent ส่งมอบเดือน Jul'20 ซึ่งเพิ่งขยับขึ้นเป็นมาเป็นสัญญาส่งมอบเดือนที่ใกล้สุด ได้ดีดขึ้นมา 20% จากต้นอาทิตย์ที่ 22 เหรียญต่อบาร์เรลขึ้นมาเป็น 26 เหรียญต่อบาร์เรล โดยได้แรงหนุนจากทั้งด้านอุปสงค์และอุปทาน

    ข่าวด้านอุปสงค์หลักๆที่เข้ามาช่วยคือการเตรียมกลับมาผ่อนคลายเรื่องการเปิดเมืองมากขึ้นของหลายๆประเทศโดยเฉพาะในสหรัฐ และการที่ยารักษาโรคไวรัสโควิดอย่าง Remdesivir ของบริษัท Gilead ก็ดูจะได้ผลทดสอบที่ดี แม้แต่ทางนายแพทย์ Anthony Fauci ผู้เชี่ยวชาญชั้นนำเรื่องโรคระบาดของสหรัฐอเมริกาที่ได้รับความน่าเชื่อถือสูงยังกล่าวเลยว่า ยา Remdesivir นี้เป็นเสมือนความหวังของชาวอเมริกา

    ทานด้านอุปทานนั้น นอกจากจะได้แรงหนุนจากทางซาอุตั้งแต่ก่อนเปิดอาทิตย์ว่า ทางพี่ใหญ่ของโอเปกได้เริ่มลดกำลังการผลิตตั้งแต่เนิ่นๆก่อนกำหนดแล้ว ตลาดยังได้รับการยืนยังจากประเทศในกลุ่มโอเปกและพันธมิตรอีกว่าเตรียมจะลดกำลังการผลิต 9.7 ล้านบาร์เรลต่อวันตามสัญญาแน่ๆ แม้แต่ทางนอร์เวย์ก็ยังเตรียมร่วมลดกำลังการผลิตเป็นครั้งแรกในรอบ 18 ปี

    นั้นก็คือข่าวปัจจัยบวกต่างๆที่ไหลเข้ามาในตลาดที่ทำให้ราคาน้ำมันพลิกตัวกลับมาจากระดับต่ำสุดในรอบ 20 กว่าปี จากจุดที่ราคาส่งมอบในบางพื้นที่ถึงกลับติดลบ

    #แต่เราต้องอย่าลืมว่าข่าวทั้งหมดนั้นเป็นความหวังหรือแน้วโน้มล้วนๆ ยังไม่ได้มาจากสภาพตลาดที่ดีขึ้นแล้วจริงๆ จริงอยู่ราคาสินทรัพย์ต่างๆนั้นคงไม่มานั่งรอให้สถานการณ์ดีขึ้นแล้วค่อยปรับตัวขึ้นเพราะนักลงทุนไม่รอแน่ๆ ถูกแล้วที่ราคาควรปรับตัวสูงขึ้นในอาทิตย์ที่ผ่านมา ประกอบกับแรงซื้อทางเทคนิคเพราะราคา Brent กลับมาปิดตัวเหนือค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ได้เป็นครั้งแรกในรอบ 3 อาทิตย์

    แต่เรายังต้องจับตามองกันอีกหลายประเด็น เพราะถ้าปัจจัยที่กล่าวไปด้านบนเหล่านี้ไม่สามารถลดอัตราการล้นของถังน้ำมันทั่วโลกลงได้จริงนั้น ราคาก็ยังเสี่ยงต่อการโดนเทขายอีกครั้ง

    ถ้าใครยังไม่ได้อ่านบทความเรื่อง "Flatten The Oil Curve" ขอแนะนำให้ลองอ่านบทวิเคราะห์นั้นดูก่อนนะครับ เพราะจะได้เข้าใจจุดประสงค์ของการลดกำลังการผลิตของกลุ่มโอเปกจริงๆ ว่าทำไมถึงพยายามลดถึงแม้ว่าจะไม่สามารถหยุกการล้นของน้ำมันต่อไปได้ (จะแนบไว้ในคอมเม้นท์นะครับ)

    ท่านใดที่ได้อ่านบทความนี้แล้ว คงอยากจะหาคำตอบว่า #ถังน้ำมันทั่วโลกจะเต็มไหม ? #เรายังเหลือที่เก็บอีกมากน้อยเพียงใด ? วันนี้จึงอยากนำข้อมูลมาเชร์กันครับ

    จากรายงานล่าสุดของ Bank of America ที่เพิ่งออกมาวันนี้นั้นเผยว่า ถังน้ำมันของโลก (ไม่รวมเรือน้ำมันที่ลอยอยู่) เหลืออยู่เพียง 730 ล้านบาร์เรลเท่านั้น โดยแยกเป็น

    1️⃣ ถังน้ำมันบนดินแบบฝาลอย (Floating Top) ในสหรัฐและทั่วโลกรวมกัน 500 ล้านบาร์เรล

    2️⃣ คลังน้ำมันสำรองทางยุทธศาสตร์ (SPR) ที่สหรัฐ จีน เกาหลี และอินเดีย รวมกัน 150 ล้านบาร์เรล (สหรัฐและทั่วโลกรวมกัน 500 ล้านบาร์เรล

    3️⃣ ถังน้ำมันบนดินแบบธรรมดาและที่เก็บน้ำมันในถ้ำต่างๆ รวมอีก 80 ล้านบาร์เรล

    ลองมาคำนวนกันว่าถังน้ำมันจะเต็มเมื่อไหร่ ?

    1️⃣ หากการใช้น้ำมันในปัจจุบันที่ยังมีน้อยกว่าการผลิตอยู่ที่ 30 ล้านบาร์เรลต่อวัน (โลกผลิต 100 ล้านบาร์เรลต่อวัน แต่มีการใช้เพียง 70 ล้านบาร์เรลต่อวันเวลานี้) แปลว่าถังน้ำมันเหล่านี้จะเต็มภายใน 730/30 = ⏳24 วัน หากทางโอเปกไม่ทำอะไรเลย

    2️⃣ หากทางกลุ่มโอเปกและพันธมิตรลดกำลังการผลิตได้เกือบ 10 ล้านบาร์เรลต่อวันตามสัญญาได้จริงๆในเดือนนี้ แปลว่าจะช่วยให้อัตราการล้นของน้ำมันลดลงมาเป็น 20 ล้านบาร์เรลต่อวัน แปลว่าถังน้ำมันเหล่านี้จะเต็มภายใน 730/20 = ⏳36 วัน

    3️⃣ หากทางกลุ่มประเทศผู้ผลิตอื่นๆนอกกลุ่มอย่าง สหรัฐ แคนนาดา บราซิล นอร์เวย์ ที่สัญญาว่าจะช่วยลดให้อีกรวมกว่า 5 ล้านบาร์เรลต่อวันได้จริงๆ ก็จะช่วยให้อัตราการล้นของน้ำมันลดลงมาเป็น 15 ล้านบาร์เรลต่อวัน แปลว่าถังน้ำมันเหล่านี้จะเต็มภายใน 730/15 = ⏳48 วัน

    4️⃣ หากการใช้น้ำมันจากการเริ่มเปิดประเทศต่างๆทยอยเกิดขึ้นจริงภายในเดือนนี้ นักวิเคราะห์คาดว่าการใช้น้ำมันจะผ่านจุดต่ำสุดในเดือนเมาษยน และทยอยปรับขึ้นมาประมาณ 5%-10% ต่อเดือน จนกลับมากลายเป็นปกติภายในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ หากการใช้น้ำมันกลับมาเป็นเช่นนั้นจริงๆ แปลว่าการใช้ในแต่ละเดือนที่เพิ่มขึ้นจะช่วยลดอัตราการล้นของน้ำมันลดลงมาอีก 5 ล้านบาร์เรลต่อวันต่อเดือนโดยเฉลี่ย

    หากเราลองใช้เลข 3 เดือนข้างหน้าเฉลี่ยที่น้ำมันล้นลดลงไป 10 ล้านบาร์เรลต่อวันมาคำนวน ก็จะช่วยให้อัตราการล้นของน้ำมันลดลงมาเป็น 5 ล้านบาร์เรลต่อวัน แปลว่าถังน้ำมันเหล่านี้จะเต็มภายใน 730/5 = ⏳146 วัน หรือ #โลกยังมีเวลาอีก 5 เดือน ก่อนถังน้ำมันจะเต็มถ้าทุกปัจจัยเป็นไปตามแผน

    **การคำนวนนี้ยังไม่รวมน้ำมันที่ยังสามารถไปลอบได้บนเรืออีกด้วย ซึ่งมีรายงานว่ามีเรือลอยน้ำมันอยู่ทั่วโลกแล้วที่ 250 ล้านบาร์เรล แต่ยังไม่มีรายงานว่ายังเหลือที่อีกเพียงเท่าไหร่

    หากการใช้กลับมาจริงตามนี้และกลุ่มโอเปกยังมีวินัยจนถึงสิ้นปี 5 เดือนนั้น ถือเป็นเวลาเพียงพอที่จะทำให้ถังน้ำมันไม่ล้นจนเต็มและตลาดจะกลับมาสมดุลอีกครั้ง และเราคงเป็นราคา Brent ดีดขึ้นไปยืนเหมือน 40 เหรียญได้ก่อนสินปี เพราะภายใน 3-4 เดือนการผลิตน้ำมันก็จะเริ่มลดลงมาน้อยกว่าการใช้น้ำมันแล้ว

    ปัจจัยต่างๆที่กล่าวมาทั้งด้านอุปสงค์และอุปทานนี้จะเป็นตัวกำหนดราคาน้ำมันในอนาคต ไม่ว่าการใช้จะกลับมาช้าหรือเร็วกว่าที่คาด การลดกำลังการผลิตจะเป็นไปได้มากน้อยตามสัญญาเพียงใด แต่ตราบใดที่ถังน้ำมันยังไม่ล้นตลาดก็ยังมีความหวัง

    เพราะทุกท่านคงทราบกันดีแล้วหากถังน้ำมันนั้นล้นเต็มจริงๆ ราคาจะโดนเทขายลงมาได้หนักแค่ไหนอย่างที่เราเห็นกับราคาน้ำมัน WTI ในอาทิตย์ที่ผ่านมา

    ⛔️ ท่านใดไม่อยากพลาดข่าวสารในตลาดจากทีมงาน แนะนำให้กด Like ที่โพสต์เรื่อยๆ หรือกดตั้งค่า “เห็นโพสต์ก่อน” หรือ See First ไว้ที่เมนูมุมขวาบนของเพจได้เลยครับ ไม่งั้นทาง Facebook จะไม่ค่อยแสดงโพสต์ของทีมเราที่อัพเดทใหม่ๆครับ

    #OilTradingKP

     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    บริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่ Shell ได้ลดการจ่ายเงินปันผลเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สอง ! เพราะราคาน้ำมันที่ลดต่ำลงจากการระบาดของไวรัสโควิดและสงครามราคาน้ำมัน... แต่ถึงแม้จะได้รับผลกระทบใกล้เคียงกัน แต่อีกสองบริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่อย่าง Exxon Mobil และ BP กลับเลือกที่จะคงอัตราเงินปันผลไว้ !

    เป็นเวลาเกือบ 80 ปีแล้วที่บริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่อย่าง Shell ได้คงหรือเพิ่มการจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้นมาตลอด ไม่ว่าจะเจอวิกฤตเศรษฐกิจครั้งใหญ่ในปี 2008 หรือเจอวิกฤตราคาน้ำมันตกต่ำในปี 2014 ทางบริษัทก็ไม่เคยที่จะลดนโยบายในการปันผล ทำให้หุ้นของ Shell นั้นเป็นที่นิยมสำหรับกองทุนที่ต้องการความมั่นคงจากเงินปันผลอย่างกองทุนสำรองเลี้ยงชีพมาตลอด

    แล้วทำไมทาง Shell ถึงตัดสินใจที่จะลดเงินปันผลในปีนี้ ?

    Shell ประกาศกำไรสุทธิในไตรมาสแรกลดลงจากปีที่แล้ว -46% เหลือ 2.9 พันล้านเหรียญสหรัฐ ประกอบกับการลดเงินปันผลจนเหลือเพียง 1 ใน 3 จาก 0.46 เหรียญสหรัฐต่อหุ้นลงไปเหลือ 0.16 เหรียญสหรัฐต่อหุ้น ทำให้หุ้นของ Shell โดนเทขายหนักถึง -12% ในคืนนี้

    ในทางกลับกัน BP ผู้ซึ่งประกาศกำไรสุทธิในไตรมาสแรกลดลงจากปีที่แล้วกว่า -60% เช่นเดียวกันกลับเลือกที่จะคงการจ่ายเงินปันผลไว้เท่าเดิม (แต่ BP เคยลดไปก่อนหน้านี้แล้วในปี 2010 ตอนที่เกิดเหตุน้ำมันรั่วครั้งใหญ่ ตามในหนังเรื่อง Deep Water Horizon) ราคาหุ้นจึงยังไม่โดนเทขายหนักเท่า

    โดยทางผู้บริหาร Shell ได้ให้คำตอบในเรื่องนี้ไว้ว่า #ธุรกิจน้ำมันกำลังอาจเปลี่ยนไปแล้ว และท่ามกลางความไม่แน่นอน ไม่รู้ความต้องการใช้น้ำมันจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมไหม #การมีเงินสดไว้ในมือนั้นคือสิ่งที่ดีที่สุด

    Shell หรือ BP ใครเป็นผู้ตัดสินใจถูกต้องเรื่องการปันผล ?

    ตอนนี้ถึงแม้ทั้งคู่จะพยายามลดค่าใช้จ่าย CAPEX และต้นทุนการดำเนินงานเช่นเดียวกัน แต่การลดการจ่ายเงินปันผลของ Shell นั้นช่วยทำให้ Gearing (Debt-to-Capital ratio) ลดลงมาเหลือ 29% ต่ำกว่าทาง BP ที่ยังอยู่ที่ 36%

    แต่การตัดสินใจของใครดีกว่านั้น #ทั้งหมดนั้นจะขึ้นอยู่กับธุรกิจในอนาคต

    โดยถ้าการใช้น้ำมันฟื้นกลับมาอย่างรวดเร็ว ทาง BP อาจจะตัดสินใจถูกเพราะรายได้ที่เพิ่มกลับมาจะทำให้บริษัทนั้นไม่มีความเสี่ยงด้านการเงิน และในทางกลับกันทาง Shell อาจโดนกดดันให้ปันผลสูงขึ้นเพื่อชดเชยในปีหน้า

    แต่ถ้าการใช้น้ำมันจะซึมไปอีกนาน หากธุรกิจน้ำมันไม่ได้แข็งแกร่งเหมือนแต่ก่อนแล้ว ทาง BP อาจจะต้องเสียใจที่เพิ่งจ่ายเงินปันผลกว่า 4 พันล้านเหรียญกลับไปให้ผู้ถือหุ้นแทนที่จะเก็บไว้เอง !

    ⛔️ ท่านใดไม่อยากพลาดข่าวสารในตลาดจากทีมงาน แนะนำให้กด Like ที่โพสต์เรื่อยๆ หรือกดตั้งค่า “เห็นโพสต์ก่อน” หรือ See First ไว้ที่เมนูมุมขวาบนของเพจได้เลยครับ ไม่งั้นทาง Facebook จะไม่ค่อยแสดงโพสต์ของทีมเราที่อัพเดทใหม่ๆครับ

    #OilTradingKP

     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ลูกไฟดาวตกที่เข้ามาสว่างขึ้นเหนือแวนคูเวอร์ในวันพฤหัสบดี ..

    Incoming meteor fireball lights up over Vancouver on Thursday..

     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ด่วน! การรถไฟฯ แจ้งยกเลิกขบวนรถทางไกลทุกขบวน ที่ยังเหลือวิ่งอยู่ในบางเส้นทาง อาทิ ขบวน 135-136 กทม.-อุบลราชธานี ขบวน 201/202 กทม.-พิษณุโลก และขบวน 257/258 ธนบุรี-น้ำตก รวมถึงขบวนรถท้องถิ่นต่างๆ โดยจะมีผลทันทีพรุ่งนี้ 3 พฤษภาคม เพื่อให้สอดคล้องกับประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ฉบับล่าสุดที่ขอให้งดชะลอเดินทางข้ามจังหวัด ซึ่งหลายจังหวัดยังคงเข้มงวด สกัดการแพร่ระบาดโควิด-19 ในพื้นที่ #ข่าวช่องวัน

     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    แนวทางการปฏิบัติ การเดินทางข้ามเขต
    ข้อมูล วันที่ 2 พฤษภาคม 2563

    #ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด19
    #ศูนย์ข้อมูลCOVID19
    #อยู่บ้านหยุดเชื้อเพื่อชาติ
    #สู้ไปด้วยกัน
    #ประเทศไทยต้องชนะ

     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เม็กซิโก - หนึ่งในพายุทอร์นาโดที่ใหญ่ที่สุดใน 5 พายุทอร์นาโดถูกพบจากรั้วในซานนิโคลาส บัวโนสไอเรส ปวยบลา วันนี้ 1 พฤษภาคม

    MEXICO - One of the largest tornadoes of the 5 tornadoes, was captured from fences, in San Nicolás Buenos Aires, Puebla, today May 1

     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    UZBEKISTAN - เขื่อนที่สร้างขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้บางส่วนล้มเหลว น้ำล้นและก่อให้เกิดน้ำท่วมในหมู่บ้าน ที่น้ำท่วมด้านท้ายของอ่างเก็บน้ำ Sardoba ในภาคตะวันออกของ Sidaryo, วันที่ 1 พฤษภาคม

     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    UZBEKISTAN - เขื่อนที่เพิ่งสร้างขึ้นในอุซเบกิสถานระเบิด ส่งน้ำไปยังหมู่บ้านบนฝั่ง น้ำท่วมอ่างเก็บน้ำ Sardoba ในภูมิภาค Sidaryo ทางตะวันออก

    เจ้าหน้าที่บอกว่ามีชาวบ้าน 11,600 คนอพยพออกมาในวันที่ 1 พฤษภาคมหลังจากเขื่อนในแม่น้ำ Sidaryo เกิดช่องโหว่เวลาประมาณ 6.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น

     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    อุซเบกิสถาน - ภาพถ่ายมุมสูง ทิ้งไว้ หลังจากน้ำรั่วไหล ซึ่งทำให้เกิดน้ำท่วมใหญ่ในหมู่บ้าน Sardoba ในภาคตะวันออกของ Sidaryo หลังจากความล้มเหลวของเขื่อนที่สร้างขึ้น เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม

     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เม็กซิโก - ลูกเห็บอันยิ่งใหญ่ได้รับการรายงานในปาชูกา, อีดัลโก, วันศุกร์ที่ 1 พฤษภาคมนี้

     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เม็กซิโก - ภาพที่ถ่ายจากรั้วแห่งหนึ่ง พายุทอร์นาโดที่ใหญ่ที่สุดหนึ่งใน 5 พายุทอร์นาโด ทำให้เกิดความเสียหายในระหว่างการเดินทางในซานนิโคลาส บัวโนสไอเรส ปวยบลาวันนี้ 1 พฤษภาคม

    ปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อบ่ายนี้ที่เมืองซานนิโคลาส บัวโนสไอเรส เมืองปวยบลา พายุทอร์นาโดถูกพบโดยชาวบ้านห้าคนที่แชร์รูปภาพบนโซเชียลมีเดีย

     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    MEXICO - สุดยอด !! พวกเขารวบรวมพายุทอร์นาโด 5 ลูก รวมกันที่ San Nicolás Buenos Aires, Puebla วันนี้ 1 พฤษภาคม

    วิดีโอถูกจับในช่วงบ่ายของวันศุกร์นี้วันที่ 1 พฤษภาคม หลังจาก National Weather Service คาดการณ์ช่องแรงดันต่ำที่มีความน่าจะเป็นของฝน, ไฟฟ้าช็อต, ลูกเห็บและลมกระโชกแรงในประเทศ

     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    อินเดีย - พายุรุนแรงมำให้เกิดลมแรงและฝนตก ในปูเน รัฐมหาราษฏระ วันที่ 1 พฤษภาคม

     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    อินเดีย - ลมกระโชกแรงจ ากพายุที่พัดเข้าหาเมืองปูเน่ รัฐมหาราษฏระ ทำให้เกิดการพังลายของหอ ในวันศุกร์ที่ 1 พฤษภาคม

     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,253
    ค่าพลัง:
    +97,150
    อินเดีย - วาตภัยที่รุนแรงที่เข้ามาใกล้เมืองปูเน่ รัฐมหาราษฏระ เมื่อวันศุกร์ที่ 1 พฤษภาคมนี้

     

แชร์หน้านี้

Loading...