ถ้าทำชั่วมากๆแล้วไม่อยากชดใช้กรรมจะมีวิธีไหนบ้าง

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย กุญแจไขปริศนา, 17 กันยายน 2011.

  1. chunhapong

    chunhapong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    147
    ค่าพลัง:
    +731
    ไม่มี..ไม่มีเลยนะ...ยังมองไม่เห็นทางเลยนะ

    เราต้องทำความเข้าใจว่า.....การที่คนเราทำชั่ว...คิดไม่ดี พูดไม่ดี ทำไม่ดี
    เป็นเพราะอกุศลกรรมส่งผลให้ต้องทำความชั่วเช่นนั้น...เราไม่อยากทำเลย
    แต่กิเลส ตัณหา มันพาให้ทำ..เมื่อมันผ่านไปแล้วก็ไม่ต้องตามนึกถึงมัน

    ให้เริ่มใหม่..
    ละความชั่วก่อน..ล้างใจก่อนด้วยศีลนะ...
    ทำความดีต่อไป....พรหมวิหารธรรม จิตอ่อนโยนด้วยความรักและเมตตา
    ทำจิตใจให้บริสุทธิ์....สมาธิและปัญญา หาเหตุ หาผล จนจิตเห็นธรรมดา

    ถ้าปฎิบัติตรงนี้ได้...ทำ ทำไป ถึงเวลานั้นคุณก็จะเปลี่ยนความคิดไปเอง
    มันเป็นธรรมชาติ ธรรมดาจะตาย..มันเป็นของมันเอง..จิตมันพร้อมยอมรับทุกอย่าง
    ขอให้โชคดีนะครับ.....

    "ไม่มีใครหรอกในโลกใบนี้ ที่เป็นคนดี ดีไปทั้งตัว"
     
  2. ผ่านมาจริงๆ

    ผ่านมาจริงๆ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    502
    ค่าพลัง:
    +635
    เคยกลัวกรรมชั่ว เคยกลัวความชั่ว แบบจับจิตเข้ากระดูก
    ยิ่งไม่อยากเจอยิ่งฝังใจ ยิ่งอยากปฏิเสธก็ยิ่งทำ


    วันนี้เป็นอิสระจากความกลัวนั้นแล้ว นำตัวเองออกได้
    แต่เปิดเผยถ่ายทอดไม่ได้ เพราะอาจจะกลายเป็นสิ่ง.. ในความคิดของสาธารณะชน

    วันนี้มีศรัทธาต่อความดี ผูกพันธ์อยู่กับความคิดเบื้องสูง
    และ ..



    อะไรแบบนี้แหละ ไปแบบนี้แหละ
    โมทนาค่ะ
     
  3. saturday_rainy

    saturday_rainy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มกราคม 2009
    โพสต์:
    335
    ค่าพลัง:
    +957
    สมมุติว่ากฎหมายนั้นมีโครงสร้างคล้ายๆกับกฎแห่งกรรมนะครับ

    อวิชชาคือทนาย
    พระพุทธท่านเป็นอัยการ
    ต่อเมื่อเมื่อเราทำผิดแล้ว เราอยากรอด ไม่ว่าเราจะคิดว่าผิดหรือเปล่า เราไปจ้างทนาย เพื่อพลิกดำให้เป็นขาว
    แต่ผิดมันก็ยังคงผิดอยุ่นั่นเอง เห็นไหมล่ะครับ
    ยอมรับความจริงจะดีกว่า
    พระพุทธองค์ท่านก็แนะนำสิ่งที่ประเสริฐให้เราพร้อมตัวอย่างคนดีๆกลับใจมากมาย
    เราไม่มีอำนาจที่จะไปทำได้ แต่ขอเถอะการคิดแบบนี้ เข้าข่ายจริงๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กันยายน 2011
  4. ชัยวัฒน์98

    ชัยวัฒน์98 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    176
    ค่าพลัง:
    +909
    บรรลุอรหันต์ผลแล้วถ้า ยังไม่นิพพาน กรรมก็ยังตามให้ผลได้ครับ แม้แต่พระพุทธองศ์ หรือพระอรหันต์อย่างพระโมคคัลานะ ท่านก็ต้องยังรับผลกรรมและเศษกรรมในอดีต
    ต่อเมื่อนิพพานแล้ว อย่างท่านพระองคุลีมาล ท่านฆ่ามา 999 ศพ ถึงนิพพานแล้ว กรรมนั้นยังอยู่ แต่ท่านไม่มีกายสังขารและตัวเชื้อจิต ที่จะต้องรับกรรมนั้นแล้ว

    ตราบใดยังไม่ถึพระนิพพาน เราก็ต้องชดใช้กรรมนั้นแน่นอนครับ แต่อาจจะมีกรณีที่เราสร้างกรรมดีไว้มากและอย่างต่อเนื่อง จนกรรมชั่วไม่อาจหาจังหวะ มาให้ผลเราได้เท่านั้น ครับ
     
  5. กุญแจไขปริศนา

    กุญแจไขปริศนา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มกราคม 2009
    โพสต์:
    903
    ค่าพลัง:
    +979
    พระพุทธองค์ทรงตรัสแนะนำให้ก้าวล่วงออกจากกรรมเสีย โดยการกำหนดอธิษฐานจิต ตั้งใจมั่นว่า:

    " กรรมนั้นๆเป็นสิ่งไม่สมควร ต่อไปนี้ตลอดไปนิรันดร เราจะไม่กระทำกรรมนั้นอีกเป็นอันขาด"


    อืม โดยส่วนตัวคิดถ้าตั้งจิตอย่างแน่วแน่ว่าความชั่วที่ทำมานั้นเราจะไม่ทำอีกตลอดกาล ก็อาจจะทำให้กรรมชั่วนั้นเบาบางลงได้มากมั้งครับ

    จริงๆผมก็ใช้วิธีนี้อยู่อ่ะครับ คือการคิดว่าเราจะไม่ทำชั่วนั้นอีกตลอดทุกภพทุกชาติไป+กับการให้อภัยผู้อื่นที่เคยทำชั่วกับเราไม่ว่าหนักน้อยที่สุดจนกระทั่งถึงแรงที่สุด ก็ดูเหมือนจะได้ผลดีนะครับ

    ใครที่ทำชั่วอยู่กับกลับตัวกลั้บใจก็ดีนะครับ ถ้าเปลี่ยนทีละมากๆไม่ได้ก็เริ่มทีละนิดละหน่อยก็ยังดี ถ้าเลิกทำชั่วทีละ1เปอร์เซ็นต์ในที่สุดมันจะเป็นเลิกชั่วร้อยเปอร์เซ็นต์ไปเลย แต่ชีวิตส่วนตัวผมใช้วิธีแบบหักดิบนะ คือจะเลิกทำไปตลอดภพตลอดชาติ แบบนั้นเลย
     
  6. montrik

    montrik แดง แดนอุทัย สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2008
    โพสต์:
    10,121
    กระทู้เรื่องเด่น:
    74
    ค่าพลัง:
    +12,082
    ในสมัยพุทธกาล พระเทวทัต น่าจะเป็นผู้มีกรรมมากที่สุดที่ได้ทำร้ายพระพุทธเจ้าก็ต้องรับกรรมหนักในอเวจี องคุลีมาร ฆ่าคนจำนวนมาก ก็ต้องรับกรรมก่อนบวชกับพระพุทธเจ้า แล้วบรรลุพระอรหันต์ และยังมีอีกหลายองค์ที่ต้องพบกับเศษกรรมที่เคยทำไว้ แม้เป็นพระอรหันต์แล้วก็ตาม ดังนั้น การหนีกรรมคงหนีไม่พ้น นอกจากรีบเร่งปฎิบัติจนได้พระโสดาบัน จึงหนีนรกได้เท่านั้น (ความเห็นส่วนตัวครับ)
     
  7. GenerationXXX

    GenerationXXX เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    561
    ค่าพลัง:
    +2,162
    เคยคิดและเคยหาคำตอบเหมือนกันครับ แต่ถ้าตัดเรื่องการปฎิบัติจนบรรลุอรหันตผลแล้ว ก็จะเหลือแค่ทางเดียวครับ คือการตั้งใจทรงฌานสมาบัติ จะเป็นรูปฌานก็ได้หรืออรูปฌานก็ได้ แต่ปกติแล้วจากที่เคยได้ยินได้ฟังมา จะทรงอยู่ในรูปฌานคือฌานสี่และจะต้องอยู่ในสถานที่ๆ ไม่มีใครรบกวนได้(ป้องกันคนหรือสัตว์อื่นๆ มาเจอเพราะถ้าเจอแล้วมีการแสดงการกระทำที่ไม่ควรจะเป็นการสร้างกรรมหนักให้กับคนหรือสัตว์เหล่านั้น) ในโลกนี้มีอยู่ครับ ดวงจิตที่ทรงฌานแล้วอยู่นานมากเป็นหลายๆ ล้านปี บนโลกเราใบนี้ คิดว่าตั้งแต่สมัยพระพุทธเจ้าองค์ก่อนๆ โน่นเลย แต่ที่แน่ๆ อย่างพญานาคที่จำศีลแล้วตื่นเมื่อตอนพระพุทธเจ้าอธิษฐานลอยถาดทองคำ ก็อยู่มานานตั้งแต่พระพุทธเจ้าองค์แรกจนถึงองค์ปัจจุบันก็องค์ที่สี่ ก็ข้ามเวลายาวนานมาเป็นพันล้านปีมาแล้ว ก็คิดดูเอาว่าอยู่จนพระพุทธเจ้าครบห้าพระองค์จะยาวนานแค่ไหน คือไม่ใช่ว่าท่านนั้นๆ ไม่มีบาปกรรมหนักที่ต้องไปรับผลนะครับ เพียงแต่บุญที่เกิดจากการทรงฌานมีกำลังมากกว่าเพราะเกิดจากจิตโดยตรงผลที่ได้รับจึงเกิดโดยตรงเช่นกัน ทำให้อกุศลอื่นๆ เข้าแทรกไม่ได้(เฉพาะหยาบๆ ที่ทำให้จิตเศร้าหมอง) ก็คิดว่ากับมนุษย์เราปกติก็น่าจะทำได้เช่นกัน แต่วิธีนี้อยู่ได้ไม่นานตลอกกาลตลอดสมัย เพราะก็ยังต้องอยู่ในกฎของไตรลักษณ์อยู่ดี ดังนั้นถึงจะทำต่อเนื่องได้นานนับเป็นอสงไขยกัปป์ ที่สุดแล้วก็ต้องเคลื่อนจากฌานอยู่ดี เพราะถ้าละกิจที่ต้องทำคือการทรงฌาน วิบากกรรมต่างๆ ก็รอให้ผลได้อย่างไม่มีคำว่ายาวนานอยู่แล้ว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 กันยายน 2011

แชร์หน้านี้

Loading...