ทริปหล่อ"พระเจ้าองค์แสน"ฝึกมโนมยิทธิเต็มกำลัง วัดท่าซุง 12-13 ธค. 2552

คราวนี้เรามาสำรวจที่บูธพระเจ้าองค์แสนกันต่อ
ช่วงนี้ที่วัดท่าซุงมีผู้คนมาร่วมปฏิบัติธุดงค์ประจำปีกันไม่น้อย
ในวันที่ 10 เราไปถึงคือบริเวณศาลา 12 ไร่
ตรงเข้าไปจากประตูด้านซ้าย ก่อนถึงบริเวณที่ร่วมบุญถวายสังฆทาน
เราพบลูกศิษย์หลวงพ่อได้นำแผ่นทอง มาให้ผู้ร่วมปฎิบัติธุดงค์
มารวมบุญในการหล่อพระอยู่ก่อนแล้ว
อาจารย์คณานันท์จึงได้นำแผ่นทองเหลือง
ในการหล่อพระเจ้าองค์แสนเข้าไปร่วมด้วย
ซึ่งก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี

 

ตั้งแต่วันแรกผู้คนก็มาร่วมเขียนแผ่นทองอธิษฐานกันมาก
ยิ่งวันที่ 11 ก็ยิ่งมาก โดยเฉพาะวันที่ 12 ยิ่งมากเป็นพิเศษ

 

และมีได้นำแผ่นทองไปให้น้องๆโรงเรียนพระสุธรรมยานเถระ
ร่วมกันเขียนคำอธิษฐานเพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
ซึ่งคำอธิษฐานจากน้องๆ เกือบ 100% ราว 500 แผ่น
ล้วนอธิษฐานเพื่อส่วนรวม
ซึ่งตรงนี้ทำให้ทีมงานยิ้มแก้มปริ เหมือนเป็นน้ำทิพย์ชะโลมใจ
เป็นกำลังใจให้กับทางทีมงานเป็นอย่างมาก
ที่ได้พลังความรักความเมตตาจากดวงจิตอันบริสุทธิ์พิสุทธิ์

 

จากบูธเขียนคำอธิษฐาน คราวนี้จะพาร่วมอนุโมทนาบุญในอภิมหาสังฆทาน (เอาคำนี้มาจาก Xorce)
ที่พวกเราได้ร่วมถวายมา ซึ่งตอนแรกเราก็ไม่ทราบว่ามีการถวายอภิมหาสังฆทาน
เราตั้งใจจะไปกราบหลวงพ่อฤาษีลิงดำที่ศาลาแก้ว พอไปถึงราว10โมง
ก็พบคณะบุญใหญ่ กำลังรวบรวมปัจจัยถวายอภิมหาสังฆทาน
แน่นอนว่าคณะพลังจิตพิชิตภัยพิบัติ ยิ้มหน้าบาน รีบเข้าไปร่วมด้วยอยู่แล้ว
วันที่ 11 เราได้อภิมหาสังฆทาน 13 ชุด
วันที่ 12 เราก็ยังไปต่อบุญกับอภิมหาสังฆทานกันอีก 15 ชุด
วันที่ 13 ส่งท้ายก่อนกลับ เราก็ได้ร่วมอภิมหาสังฆทานกันอีก 15 ชุด
เต็มอิ่มกับอภิมหาสังฆทานทริปนี้ 43 ชุด อิ่มบุญไปตามๆ กัน

 

โห รอรูปต่อไป ช่วยกันโพสต์ครับ

 

รูปสวยจริงๆค่ะ น้องณ. ถ่ายไ้ด้สวยมาก

 

เย็นวันที่ 11 เกือบ 4 โมงเย็น อาจารย์คณานันท์และคณะบางส่วน
กำลังจะแยกย้ายกลับไปพักผ่อนที่สถานปฏิบัติธรรมหาดเสลา
แต่ได้ยินมาว่าจะมีการทำพิธีบรวงสรวงหน้าสถานที่หล่อพระเจ้าองค์แสน
ซึ่งเราไม่ทราบมาก่อน พอไปดูสถานที่ น้องๆ จากโรงเรียนพระสุธรรมยานเถระ
กำลังเตรียมตั้งโต๊ะบรวงสรวงอยู่ เกือบพลาดไป
แค่เกือบแต่ก็ยังไม่พลาด พวกเราอยู่ร่วมพิธีบรวงสรวงจนจบ
ซึ่งหลวงพี่อนันต์ เจ้าอาวาสวัดท่าซุง
จัดให้เพื่อเป็นการบรวงสรวงขออนุญาติใช้สถานที่ในการหล่อพระเจ้าองค์แสน

 

ในเรื่องของที่พักในวัดท่าซุงเราได้รับความเมตตาจากคุณแม่พี่ไฝ
ในการขอที่พักให้พวกเราตั้งแต่คืนวันที่ 11 รวมถึง 12 ด้วย
อากาศเย็นๆ ตอนเช้าของวันที่ 12 คณะที่พักอยู่วัดท่าซุงตื่นมาเตรียมตัวแต่เช้า
เพื่อออกมาใส่บาตรพระที่ท่านมาร่วมธุดงค์ที่วัดท่าซุง
ทุกคนยิ้มแย้มแจ่มใส่ที่ได้ร่วมใส่บาตรกับพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ
และแน่นอนว่าเช้า วันที่ 13 คณะพลังจิตพิชิตภัยพิบัติกลุ่มใหญ่
ที่มาสมทบเมื่อวันที่ 12 ก็ได้ร่วมบุญในการใส่บาตรยามเช้ากันด้วย
สีเหลืองอร่ามของจีวรยิ่งสร้างความศรัทธา
และความปลื้มปิติให้ทุกคนที่ได้ร่วมบุญ
รอยยิ้มและความเมตตาจากครูบาอาจารย์ที่ท่านมอบให้
ทำให้พวกเราทุกคนยิ่งปลาบปลื้ม

 

ในเรื่องการฝึกมโนมยิทธิ
วันแรกวันที่ 10 คณะพลังจิต 1 ไปถึงเราก็ได้ฝึกมโนมยิทธิครึ่งกำลัง
วันที่ 11 ก็ครึ่งกำลัง
วันที่ 12 พลังจิตพิชิตภัยพิบัติรวมทั้งพี่ๆ น้องๆ อีกหลายท่านก็ได้ฝึกเต็มกำลัง
ก่อนกลับ วันที่ 13 ก็เต็มกำลังอีกรอบ
ซึ่งมีหลายคนเป็นกังวลว่าทำไมทำไม่ได้
ซึ่งตรงนี้ครูบาอาจารย์ท่านให้วางใจเบาๆ แล้วค่อยๆ ตัดกิเลส
ตัดความผูกรัดต่างๆ ทั้งทางกายทางใจ
แต่จะออกแบบเต็มกำลังได้หรือไม่ได้ ไม่ใช่เรื่องสำคัญ
แค่ในเบื้องต้นใจเราเบา ได้สมาธิ แล้วทุกอย่างก็จะค่อยๆ พัฒนาไปได้
ซึ่งการฝึกมโนมยิทธิครั้งนี้มีหลายคน ทำแบบเต็มกำลังได้สำเร็จ ก็ขออนุโมทนาด้วย
และในส่วนท่านที่ยังไม่สำเร็จ อาจจะไม่ได้เห็นอะไรเลย หรืออาจจะไปแค่ครึ่งกำลัง
ก็อย่ากังวล ให้พยายามต่อไป วางใจให้เบา ตัดความกังวลต่างๆ ออกไปให้ได้มากที่สุด
เราไม่มีในร่างกาย ร่างกายไม่มีเรา สังขารเป็นสิ่งไม่เที่ยง
ทุกอย่างล้วนเป็นไปตามกฎธรรมชาติ คือไตรลักษณ์
เกิดขึ้น ตั้งอยู่ แล้วดับไป ให้เราพิจารณาไปเรื่อย ทำเรื่อยๆ ทำต่อไป ปฏิบัติต่อไป
และนี่ก็คือบททดสอบหนึ่งที่เราต้องผ่าน
ขอให้เราไม่ท้อ และนอบน้อมกายวาจาใจต่อเบื้องบาทพระพุทธองค์
มั่นใจเถอะว่าครูบาอาจารย์ท่านดูเราอยู่ไม่ทิ้งเราแน่ๆ

 

เอาล่ะคราวนี้เราสู่พิธีหล่อพระเจ้าองค์แสนกันเลย
บ่ายวันที่ 12 หลังจากพิธีทำวัตรเย็นผ่านไป
ซึ่งหลวงพี่อนันต์สั่งให้ทำวัตรเย็นเร็วขึ้นหน่อย
ผู้ปฏิบัติธุดงค์ต่างมารวมตัวกันอยู่บริเวณหน้าปราสาททองคำ

โต๊ะบรวงสรวงทั้งสองชุดจัดขึ้นอย่างสวยงาม
ด้วยฝีมือของน้องๆ โรงเรียนพระสุธรรมยานเถระ
และน้องๆ ยังได้ช่วยกันปัดกวาดทำความสะอาดสถานที่ให้ด้วย

 

บูธพระเจ้าองค์แสนย้ายมาอยู่บริเวณด้านซ้ายของจุดหล่อพระเจ้าองค์แสน
ซึ่งผู้มีจิตศรัทธาก็หลั่งไหลจากบูธที่ศาลา 12 ไร่
ตามออกมาร่วมบุญกันอย่างไม่ขาดสาย
ผู้คนเริ่มเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็ว

 

พระเถระผู้ใหญ่ พระเกจิอาจารย์
และพระที่ร่วมมาปฏิบัติธุดงค์
นั่งอยู่ในปราสาททองคำ

 

เบ้าหลอมทองก็ร้อนระอุ ความร้อนแผ่รังสีออกมาโดยรอบให้ได้รับรู้
พลังงานความร้อนแรงจากเปลวเพลิงแผ่ขยายออกมา
เป็นสัญญาณบอกถึงความพร้อมของน้ำทอง
ที่หลอมรวมพลังอธิษฐาน หลอมรวมแรงแห่งศรัทธา
หลอมรวมความตั้งใจอันดี เพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
หลอมรวมจิตใจที่มุ่งมั่นและแสนดวงจิตแห่งเมตตาอัปมาณฌาน
ความตั้งใจของพวกเราได้หลอมละลายกลายเป็นเนื้อเดียวกันแล้ว

 

เวลา 19.00 น. หลวงพี่อนันต์ได้เริ่มพิธิบรวงสรวงใหญ่
งานเททองหล่อพระเจ้าองค์แสนได้เริ่มขึ้น
น้ำทองที่หล่อมรวมพลังแห่งแรงอธิษฐานกว่าแสนครั้ง
ได้เทลงในเบ้าหล่อพระเจ้าองค์แสน
สายตาและจิตใจของทุกคนรวมกันอยู่ที่จุดเดียว
พลังแห่งการอธิษฐานเพื่อส่วนรวมนี้กำลังหลอมรวมเป็นองค์พระปฏิมา

 

ปราสาททองคำสว่างไสว
รวมถึงบรรดาดวงจิตต่างๆ ที่รับทราบต่างปลื้มปิติ
ต่างมาร่วมอนุโมทนากับงานบุญอันยิ่งใหญ่ในครั้งนี้
แทบทุกกล้องสามารถถ่ายติดรูปดวงธรรม ที่มีจำนวนมากมายมหาศาล
ความปลาบปลื้มยินดีอย่างหาที่สุดไม่ได้ ปิติที่เปี่ยมล้นจากดวงใจของทุกดวง
พลังจากศรัทธาอันแรงกล้าและแรงอธิษฐานทั่วแผ่นดินไทย รวมถึงนอกอาณาจักรไทย
ล้วนสร้างให้เกิดพลังอันยิ่งใหญ่
เพิ่มพูนด้วยพลังแห่งพุทธคุณอันไม่มีสิ้นสุดไม่มีประมาณ
แผ่นดิน แม่น้ำ สายลม ท้องฟ้าจักรวาลและไฟ รวมถึงทุกภพภูมิ
ได้ร่วมจารึกประวัติศาสตร์ครั้งนี้ไว้
และเราทุกคนต่างก็เป็นส่วนหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ครั้งนี้
พระเจ้าองค์แสนตำนานแห่งเมตตาอัปมาณฌานของผองชน







พลังจากใจ ส่งไปไกล ขจรสุดฟ้า
พลังแห่งเมตตา และศรัทธา รวมนาวา สร้างปาฏิหาริย์
พระเจ้า องค์แสน อนันตแดน กล่าวขาน
คือความรัก คือตำนาน คือเมตตา อัปมาณฌาน ของผองชน

รวมพลังรวมศรัทธาอันแกร่งกล้า
กอบก่อจิตด้วยเมตตาสร้างองค์แสน
เพื่อปกปักรักษาชนทั่วแคว้นแดน
พระเจ้าองค์แสน แสนพลังแสนตั้งใจ

พระเจ้าองค์แสน พระเจ้าองค์แสน พระเจ้าองค์แสน
ทั่วถิ่นแคว้นแดนดินจารึกไว้
บารมีพุทธคุณปกเกล้าไกล
ผองปวงใจร่วมสัมมามหาพลัง

พระเจ้าองค์แสน พระเจ้าองค์แสน พระเจ้าองค์แสน
แสนคำพรอธิษฐาน แสนความหวัง
แสนความรักความเมตตาเปี่ยมพลัง
เมตตาหลั่งยั่งยืนสู่จิตผองชน

พระเจ้าองค์แสน พระเจ้าองค์แสน พระเจ้าองค์แสน

 

รูปถ่ายและภาพที่บรรยาย
พาใจคนตามอ่านเข้าถึงบรรยากาศในงานแต่ละช่วงเวลาเป็นอย่างยิ่งจ้ะ

รอตามอ่านอยู่จ้า

 

วันนี้มาช้าไปหน่อยครับ

ผมขอขอบพระคุณทีมงานทุกท่านที่ได้ให้โอกาสพวกเราได้ไปร่วมงานในครั้งนี้ครับ ถึงแล้วจะตะกุกตะกักบ้างแต่ก็ไม่เป็นไรครับ เพราะว่าเป็นเรื่องธรรมดา ตอนมีเวลาว่างทางผมและพี่ๆน้องๆก็พากันเดินชมวัดครับ ไหว้พระไป หยอดเงินลงตู้ไปครับ ที่น่าแปลกก็คือหยอดจนเงินที่เตรียมมาหมด ก็ยังมีตู้ให้หยอดอยู่เรื่อยๆครับ

ปีนี้ได้รับความเมตตาจากทางครูบาอาจารย์ และพระท่านให้พักกันที่ศาลา 12ไร่ครับ ทำให้ไม่มีความจำเป็นจะต้องกางเต้นท์นอนครับ

สุดท้ายตอนขอขอบคุณพี่มิ้งเป็นพิเศษที่เป็นธุระเรื่องที่พักให้ครับ

เรื่องค่าน้ำมันแปลกดีครับ ไม่รู้ว่าเป็นเมตตาจากพระท่านหรือเปล่าก็ไม่อาจทราบได้ เวลาผมจะเดินทางมักจะขอให้เป็นเป็นกระแสจากพระท่านส่องลงมาที่ตัว แล้วก็คลุมรถทั้งคันไว้ครับ เพื่อหวังให้ทุกท่านเดินทางปลอดภัยไร้กังวลครับ

หากมีโอกาสหน้าหวังว่าจะได้ช่วยงานและได้ร่วมเดินทางกับทุกท่านอีกนะครับ

 

ภาพถ่ายและคำบรรยายของน้อง ณ สวยและไพเราะ

คำบรรยายช่างประทับใจจริง ๆ อ่านแล้วโน้มน้าวให้เห็นถึงภาพรวม
วัตถุประสงค์ของการสร้างพระเจ้าองค์แสนได้อย่างชัดเจน แจ่มแจ้ง
เห็นถึงพลังแห่งการอธิฐานเพื่อส่วนรวม พลังแห่งความเมตตาและ
พลังแห่งความสามัคคีของทุก ๆ ดวงจิต
ที่พร้อมจะขับเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างมุ่งมั่น

สาธุ สาธุ สาธุ ขออนุโมทนากับความดีของทุก ๆ ดวงจิต

 

พี่ณ สุดยเลยครับ


ยกนิ้วให้ครับ

รูปนี้ขอลงแกลอรี่นะครับ
ขอไปโพสตท์ต่อด้วยนะครับ

สวยดีมาก ผมชอบครับ

 

ขอนำรูปบางส่วนไปลงแกลอรี่เวบนะครับ