ทำไม100ปีที่แล้วถึงได้แตกต่างกับปัจจุบันโดยสิ้นเชิง

การพัฒนาแบบพอเพียงก็มีนะจ๊ะพัฒนาแบบไม่สร้างปัญหาก็มีนะจ๊ะพัฒนาแบบไม่ทำลายทรัพยากรธรรมชาติก็มีนะจ๊ะพัฒนาแบบไม่สะสมความอยากความเห็นแก่ตัวก็มีนะจ๊ะ

 

จ้ะ (ระบบบอกพิมพ์สั้นไป เลยต้องพิมพ์ต่อในวงเล็บ)

 

ขอจ๊ะด้วยคนสิจ๊ะ นะจ๊ะ นะจ๊ะ


นักบินแห่งแสง
.

 

ประเทศที่พัฒนาแล้วเค้าคงไม่ปล่อยให้ปัญหานี้บานปลายโดยให้มีการก่อสร้างคอนโดใกล้ที่นาและปล่อยให้พวกคอนโดหรือโรงงานปล่อยน้ำเสียหรอก เท่าที่อ่านๆ มา การจัดการเค้าดี เค้าจะควบคุมมาตั้งแต่กฏหมายผังเมืองแล้วคุณ จะตัดต้นไม้ในบ้านตัวเองยังไม่ได้เลย ถ้าไม่ได้ขออนุญาติ แถมการขออนุญาตก็ไม่ใช่ง่ายๆ อะไรก็ได้นะคุณ มีแต่เมืองไทยนี่แหละใครจะทำอะไรก็ได้ตามใจฉัน นึกจะสร้าง จะรื้อ จะทิ้งตรงไหนก็ทำได้ ปัญหาสิบชาติปีที่แล้ว เช่นก่อสร้างถนนสูง กลายเป็นเขื่อนกั้นน้ำ ยังไงก็ยังงั้นไม่เคยคิดจะแก้ไข

ประเทศอุตสาหกรรมที่พัฒนาแล้ว เค้าอ่อนไหวกับปัญหานะคุณแล้วก็มีนิสัยชอบป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้น ชอบคิดอะไรยาวๆ ดูอย่างญี่ปุ่นซิ เค้าชอบประดิษฐ์อะไรมากมาย เพราะคนของเค้าเห็นปัญหาแล้วชอบแก้ปัญหา ตั้งแต่การแก้ในระยะสั้นและในระยะยาว แล้วคนของเค้าก็มีความรับผิดชอบ สนใจการเมือง นักการเมืองเค้าก็จริยธรรมสูง แค่ทำไข่ราคาขึ้นเค้าก็ยอมลาออกแล้ว ประเทศพัฒนาแล้วเค้าพัฒนาได้ก็เพราะคนของเค้ามีคุณภาพ ไม่ใช่่เพราะสร้างตึกสูงใหญ่
ต่อให้เมืองไทยสร้างตึกได้สูงเท่าเค้า แต่โครงสร้างภายในก็ไม่เหมือนของเค้าหรอกคุณ

 

ได้จ้าถ้าต้องการนะจ๊ะ

 

ปัจจุบันนะจ๊ะที่ญี่ปุ่นเขาปลูกต้นไม้บนตัวตึกในตึกทำนาในตึก(สามารถควบคุมดินน้ำลมไฟแมลง)ได้หมดเลยนะจ๊ะซึ่งจะได้ข้าวที่มีคุณภาพตามธรรมชาติหรือไม่นั้นมีข้อดีอย่างหนึ่งก็คือคนญี่ปุ่นเขาเอาใจใส่ดูแลด้วยความรักเหมือนลูกหลานนะจ๊ะซึ่งถ้าทำได้ขนาดนี้รักแท้ดูแลได้ก็ถือว่าตั้งใจดีนะจ๊ะของเค้าคัดพันธุ์อย่างดีของเราข้าวแข็งเมล็ดไม่งามข้าวที่ปลูกก็ปลูกบนหนี้สินทั้งเช่าที่นาซื้อปุ๋ยยาฆ่าแมลงชาวนาปลุกข้าวบนความทุกข์นะจ๊ะ

 

แหม...อ่านแล้วฉุนกึกขึ้นมาเลยทีเดียวเชียว
ต้องเร่งขาใหญ่หลวง ให้รีบจัดตั้งกองกำลังทรีฮันเดรด
ให้เสร็จไวไวซะแล้ว จะได้ยึดประเทศกลับมาได้
อย่างถูกต้อง ตามกฏหมาย และไม่ขัดรัฐธรรมนูญ

ต้องฝันล่วงหน้ารอซะแร้ว มีเรื่องตั้งแยะ ที่ฝันค้างไว้
รอเหล่ายอดฝีมือแห่งชาติไทย มาร่วมงานกัน แทบไว้ไหวแล้ว

(เรายังอยู่ในนิทานเรื่อง "นักรบแสง แห่งหมู่บ้านนิทาน" นะครับ ไม่ได้โม้


เล็บครุฑ นารายณ์ทรง / นักบินแห่งแสง
.

 

แบบนี้ต้องพูดว่าไว้เจอกันในฝันนะจ๊ะนะจ๊ะ

 

โลกพัฒนาทางวัตถุมากเกินไป จนลืมสิ่งเล็ก ๆ ที่หลายคนลืมกันไปเช่น ความเห็นอกเห็นใจ
ความเมตตากรุณา ความละอายต่อการทำผิด ความรับผิดชอบต่อส่วนรวม ถ้าโลกก้าวต่อไปในลักษณะแนวสุดโต่งแบบนี้ คงยากที่มนุษย์จะมองหน้ากันได้สนิท

ผมชอบแบบเก่า

 

เห็นด้วยนะจ๊ะนะจ๊ะ

 

ดู ๆ ไป
ท่านวงกลมจุด กับ ท่าน bat of light นี่เหมือนฝาแฝดกันเลยนะจ๊ะ

 

ฝาแฝดทางใจหรือเปล่าจ๊ะ

 

เพราะ จินตนาการ และ จิตใจที่ดีงาม
พี่น้องตระกูลไรท์ ฝันว่ามนุษย์สามารถบินได้(แม้จะต้องใช้อุปกรณ์ช่วยก็ตาม)
เอดิสัน หรือ ใครต่างๆในอดีตที่ผ่านมา ทั้งนี้ทั้งนั้น แต่ละท่านส่วนมากมีจิตใจที่ต้องการ
ให้มนุษย์ได้รับประโยชน์จากสิ่งที่ท่านเหล่านั้นจินตนการขึ้นด้วยใจที่ดีงาม
ในอดีตที่ผ่านมามนุษย์รบราฆ่าฟันมีสงคราม ต่างก็เบียดเบียนผู้อื่นเพื่อผลประโยชน์ตน แต่ละคนจะกินยังลำบาก 100 ปีที่ผ่านมานี้โลกสงบขึ้น มีการเบียดเบียนน้อยกว่าเมื่อก่อน
ถ้ามนุษย์ยุคใหม่ มีจิตใจที่ต้องการทำสิ่งต่างๆเพื่อมนุษย์โลกด้วยกันทั้งโลก
วิทยาศาสตร์จะเจริญก้าวหน้าแบบกระโดดยิ่งกว่ากระโดด(ถ้าไม่มีความโลภ หรือ กิเลส ในการคิด) มากกว่านี้แบบคาดไม่ถึง สรุป นอกจาก จิตนการแล้ว ก็อยู่ที่จิตใจที่ดีงามด้วย
เปรียบไป จินตนการก็เหมือนตัวเลข 0-9 ส่วนจิตใจที่ดีงามก็เหมือนตัวคูณ หรือ เลขยกกำลัง แค่ทุกคนถือศีล 5 ทั้งโลก แค่นี้วิทยาศาสตร์ ก็ก้าวกระโดดไปไกลแล้ว ^_^

 

จริงๆแล้วต้องบอกว่าเทคโนโลยีพัฒนาไปช้ามาก ถึงช้าสุดๆครับ ถ้าใครชอบอัพเกรดคอมพิวเตอร์บ่อยๆจะรู้เลย ว่าจริงมั้ย เพราะกว่ามันจะออกcpuรุ่นใหม่ๆ ที่แรงๆ หรือการด์จอแรงๆ มันต้องออกมาแบบซอยยิบย่อยเป็นรุ่นห่วยๆก่อน แล้วค่อยไล่เพิ่มความเร็วขึ้นไปทีละนิด มันไม่ออกรุ่นท๊อปสุดมาเลยทีเดียว เพราะเงิน กำไร ความโลภไง ค่อยๆปล่อย หลอกแดกได้นานๆ

ถ้าเทียบกับมนุษย์ต่างดาว เค้าพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อความอยู่รอดของเผ่าพันธุ์เป็นหลัก เค้าถึงสามารถสร้างยานอวกาศที่เดินทางในอวกาศได้แล้วก็เร็วด้วย แต่พวกมนุษย์มันเต็มไปด้วยความโลภ จะเอาแต่เงินๆๆ มันถึงได้ล้าหลังมนุษย์ต่างดาวแบบไม่เห็นฝุ่น ถ้าพรุ่งนี้โลกจะแตก ก็คงตายกันหมดโลกแน่ๆ ไม่ต้องคิดจะหนีไปไหนหรอก เอาแค่ดวงจันทร์ใกล้ๆยังไปกลับลำบาก

 

เคยคิดเหมือนกันครับโลกเพิ่งเจริญมาเมื่อ 100 ปีมานี่เอง

100 ปีมานี่โลกไปเร็วมากเลย

ถ้ามีวิทยาการแบบนี้ไปเรื่อยๆ อีก ล้านปีข้างหน้า จะขนาดไหน

ชาวต่างด่างเขาเจริญกว่าเราเป็นล้านปี ??? คิดดูซิเขาถึงเอาจานบินมาโผล่แว๊บ โผล่แว๊บ เรางง ว่าเขามาได้ไง เพราะเราตามวิทยาการของเขาไม่ทันไง ถ้าเราตามทันก็จะรู้ล่ะว่าทำไมเขาโผล่แว๊บ โผล่แว๊บ ทำไมเขาไม่คุยเรา ทำไมไม่ลงมาคุยดีๆ ผมขอบอกให้ทราบว่า
"เขาอยู่คนละมิติกับเราครับ คงมาคุยด้วยไมได้ เขามาด้วยวิทยาการที่ทันสมัย จนเราตามเขาไม่ทัน จริงๆเขาอยู่ในโลกเขาล่ะะ จานบินที่เห็นน่ะ ไม่มีชาวต่างดาวหรอก เป็นแค่ภาพที่เขาส่งมาก และรับภาพไปยังโลกของเขา (เหมือนดาวเทียมของเราล่ะ ) แต่เขาวิวัฒนาการไลกเกินกว่าจะอธิบายให้เข้าใจได้ ยกตัวอย่างง่าย ๆ ถ้าเราเอาเรื่องของดาวเทียมไปอธิบายให้คนเมื่อ 1,000 ปีก่อน คิดว่าคนสมัยนั้นจะเข้าใจไหมล่ะ UFO ก็เหมือนกันครับ มีอะไรหลายอย่างมี่เราเข้าไม่ถึง รอให้วิทยาการของเราเจริญอีกสัก 10,000 ปีข้างหน้ามั้งถึงจะเข้าใจ"

 

นั่นสินะ ทำไมๆๆๆๆๆๆ
แต่ว่าเจริญทางวัตถุ ใจคนกลับเสื่อม