ที่นี่มีใครบรรลุธรรมตั้งแต่ขั้นโคตรภูญาณขึ้นไปบ้าง PMมาหน่อยดิ

อารมณ์ผมก้อคงคล้ายๆ คุณเทพอาถรรพ์ ว่าแต่มีเว็ปอื่นไหมอะ ที่อ่านแล้วลื่นๆอะ

 

ไม่มีอ่ะ เลยต้องมาเล่นเอามันส์ที่นี่ไง แต่ถ้าจะมาหาธรรมที่นี่ต้องดูดีๆนะครับ มีทั้งแท้และเทียม

...แต่ส่วนใหญ่เป็นธรรมะจำมาหรือก๊อบมา ซึ่งที่นี่มีผู้เชี่ยวชาญอยู่หลายท่าน และ google คืออาวุธสำคัญของพวกเขาทั้งหลาย...

 

เห็นการเกิด-ดับ ? มันคืออะไร... น่าจะหมายถึง ให้ตระหนักว่าอะไรๆ มันก็ไม่เที่ยง
เบื่อหน่ายอย่างไร ? เบื่อแน่ ถ้าตระหนักจริงว่า มันไม่เที่ยง แต่ส่วนใหญ่มักจะเป็นการท่อง เห็นในสิ่งที่เห็นอยู่แล้ว เกิดขึ้น-ตั้งอยู่-ดับไป แต่ไม่ได้ตระหนักถึงความไม่เที่ยงจริงๆ ฟังดูยาก แต่จะเปรียบเทียบให้เห็นชัดขึ้นว่า...

เหมือนเราเห็นคนแก่ เราท่องได้เรื่อยๆ แหล่ะว่า สังขารไม่เที่ยง อนิจจัง วัฏสังขารา ทุกคนก็รู้ ไม่มีใครไม่รู้ว่า เราต้องแก่ แต่เราจะตระหนักได้อย่างแท้จริง เมื่อถึงวันที่เราแก่
ทุกคนรู้ว่า เราป่วยได้ แต่เราจะเริ่มตระหนัก รักษาสุขภาพ ก็เมื่อวันที่เราป่วย...
อันนี้ยกตัวอย่าง แต่ไม่ได้หมายความว่า คนแก่นั้น ตระหนักถึงความไม่เที่ยงนะ เพราะส่วนมาก ถูกสังขารบังคับให้ยอมรับ ไม่ได้ตระหนักแต่อย่างใด...

เพราะงั้น หากสามารถตระหนักถึงความไม่เที่ยงได้อย่างแท้จริง (ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย) ก็เบื่อหน่ายได้แน่

 

ดูจิต ดูแล้วเป็นไง เห็นบ่อยๆแล้วเบื่อไปเอง งั้นเรอะ? ไม่
ดูกาย ล่ะ ดูแล้วได้อะไร? ได้สติ เป็นการเจริญสติ
ละสักกายทิฐิได้เรอะ? ไม่ได้

ดูจิตดูกาย เป็นการเจริญสติ ซึ่งจะเป็นฐานของสมาธิวิปัสสนาต่อไป

ไอ้อาการที่ว่าเห็นนิพพานแวบนึงน่ะ มันเป็นอย่างไร? ไปฟังใครพูดมา
ความรู้ที่อยู่พรั่งพรูขึ้นมาน่ะมันเป็นยังไง? มันมีจริงมั้ย? ไม่จริง ไม่มีความรู้ใดที่จู่ๆ จะผุดขึ้นมาเอง ความรู้ทั้งหลายล้วนเกิดจากการสั่งสมมา ทีละเล็กละน้อย เพียงแต่ปัญญาที่มี จะไล่เรียงความรู้ที่มีอยู่ จนเกิดเป็นความรู้ใหม่ ทำให้ดูเหมือนการ "รู้ขึ้นมาเอง" ซึ่งไม่ใช่ หากความรู้มีน้อย มีไม่พอ ก็ต้องใช้เวลาสั่งสมต่อไป...

ฝันไปเองรึป่าว คิดไปเองป่าว รู้ได้ไงว่ามันจริง? ความรู้ทุกชนิด แม้ในทางวิทยาศาสตร์ ล้วนเป็นการคิดไปเอง ไม่มีใครรู้ว่ามันจริง จนกว่าจะมีการพิสูจน์ว่าจริง หรือหากไม่สามารถพิสูจน์ได้ ก็ใช้หลักว่า สามารถอธิบายสิ่งที่เป็นอยู่ได้ครบถ้วนหรือไม่ มีข้อโต้แย้งหรือไม่
หากมีข้อโต้แย้ง (หมายถึง ขัดต่อสิ่งที่เกิดขึ้นจริง) อยู่มาก สิ่งที่คิดนั้นก็ต้องล้มไป และต้องสั่งสมความรู้ต่อไป จนกว่าจะคิดใหม่ได้อีก

 

ถึงคุณเทพอาถรรพ์

ผมพึ่งมา โพสได้ไม่กี่วัน แต่ตามอ่านมาพอสมควร ทั้งที่นี้ และ ที่พันทิป

อารมณ์ไหนเกิด ก็ดู/รู้ ไปครับ เดียวมันก็ดับไปเองครับ ทำบ่อยๆ ก็ดับเร็ว เจอบ่อยๆ ก็

ดับเร็ว เช่น เบื่อเซ็ง

ถามบ่อยๆ อ่านบ่อยๆ ก็รู้มาก ทั้ง ปัญญาในเรื่องเหล่านั้น และ ปัญญาในการแยกแยะ เรื่องภูมิรู้ภูมิธรรม เพียงแต่ผมมองในแง่ดีว่า เราถามยังมีคนมาแนะนำ ถึงแม้ว่า ถูกบ้าง ผิดบ้าง (ผิดบ้างก็ยังมีถูกน่ะครับ) ถูก 50% บ้าง 80% บ้าง 100% บ้าง เปรียบเทียบเอาหลายๆคำตอบ ก็ยังดีคิดซะว่ามีจุดเริ่มต้น เราก็ใช้ความพยายามส่วนตัวไปหาความรู้เพิ่มเติมตัวเอง ทุกสิ่งทุกอย่างเรา ควบคุมมันไม่ได้หรอกครับ มันเป็นอนัตตา

ในที่นี้ทุกคนเป็นสิ่งสมมติ กันหมดรวมถึงสมมติว่าไม่มีใครรู้จักเรา ดังนั้นคุณจะเห็นความเป็นจริงๆ ของ สิ่งต่างๆ โดยธรรมชาติ อย่างแน่นอน ความเป็นตัวเขา ตัวเรา ประมาณนี้น่ะครับ

ผมชอบคำถามเหล่านั้นน่ะครับ เพราะถามมาผมก็เอาไปดูเท่านั้นเองครับ มาตอบลองเปรียบเทียบกับคนอื่นๆ เราก็จะเห็นว่ารู้/เห็น ต่างจากคนอื่นอย่างไร แล้วหาคำตอบ ก็จะเกิดปัญญา ประมาณนั้น

ไม่เคยมองว่าเป็นการลองภูมิอะไรเลย เพราะไม่มีภูมิให้ลอง หมายถึงภูมิที่เห็นจริง ภายในการตัวเองที่ไม่ใช้เกิดจากการอ่านเพียงอย่างเดียว เห็นเขาเรียกว่า ภวนามยปัญญา ประมาณนี้

สุดท้ายนี้ ลองมองดูว่าเราจะใช้ประโยชน์ กับสิ่งเหล่านี้อย่างไรมากกว่า มองด้านเสียน่ะครับ เคยได้ยินเรื่องนี้ไหมครับ ที่คนบ้าสอนคน ให้ ถอดน๊อตจากล้ออื่นมาล้อล่ะน๊อต เพื่อ เปลียนยาง ตอนที่เขาทำน๊อตหายตอนถอดออก

อันนั้นแย่กว่านี้มากเลย เพราะที่นี้ ดีกว่านั้นมากมายนัก

สาธุครับ จับดีเถิดจะเกิดผล ทั้งชีวิตจริง และ ภวนาน่ะครับ
อนุโมทนาบุญครับ

 

ไม่เอาน่าอย่าคิดมากท่านเทพอาถันต์ แวะมาทักทายครับ อ่านมานานแล้วก็พอเข้าใจความรู้สึก ไม่มีอะไรมาฝากหรอกส่วนใหญ่ก็ตามที่ท่านเข้าใจนั่นแหละ คนเรามักชอบทำเรื่องง่ายให้เป็นเรื่องยากเป็นธรรมดาครับ ผมว่ามันจะได้ดูดีมีภูมิ คือดูเก่ง น่านับถือ (ผมไม่รู้หรอกครับว่านั่นคือภูมิหรือกิเลส)แต่ส่วนใหญ่ผมก็เห็นแต่กิเลส ความไม่ยอมรับความรู้สึกนึกคิดของบุคคลอื่นเพียงเพราะคิดเอาว่าตนเก่งกว่า(ก็ไม่รู้เอาอะไรมาวัดได้)หรือ(ก๊อปได้มากกว่าอะไรทำนองนั้น) อีกนั่นแหละ สุดท้ายก็คงขอให้ท่านจงมีแต่ความสุขความเจริญ ด้วย อายุ วรรณะ สุขะ พละ นะครับ
อนุโมทนาครับ

 

ชอบแทบอาถันแฮะ เจโตล้ำลึก หุหุ รู้สึกคล้ายๆผมเลยแฮะ พวกเจโตปริยัดเดา หุหุ
แต่ตอนนี้ผมช่างมันแล้ว หุหุ

 

555555555555555555555555555555

นั่นสินะ แต่ก้อเอาเถอะ
มันเป็นธรรมดา บาลีไม่ได้แปลความหมายคำเหล่านี้ได้รอก มันต้องใช้การปฏิบัติให้เข้าใจจึงจะตอบได้ ความจริงผมอธิบายคุณด้วยเหตุผลนะ ไม่รู้ไปเกี่ยวโอ๊ยคุณตอนไหนนะนิ ผมคงลืมตัวไปกระมั่งนิ
ช่างเถอะคนดูคนอ่านเยอะ เขาพิจารณาได้เอง
หงุดหงิดทำไมละคุณเทพอาถรรพ์ ทีแต่ก่อนกับคนอื่นคุณก้อชอบล้อเขาอยู่แบบนี้ไม่ใช่หรอ เจอเข้ากับตัวเองเป็นไงบ้างละ คนอย่างคุณต้องเจอแบบผมนี่แหละมั่ง อิอิ
ก็ผมบอกแล้วไง ธรรมในบอร์ดนี่ ท่านต้องพิจารณาเอง ท่านมาดักเยื่อล่อเขาว่าจะอวดรู้มาแบบไหน ต่อให้อวดไม่อวดยังไงนิ่ มันก็คือข้อธรรม ถ้าท่านพิจารณาเป็น คนที่ปฎิบัตินะ มันจะมีอยู่ตอนหนึ่งที่เรียกว่าสำคัญตนไปว่าตัวเองรู้เพระมันเห็นในจิตแล้วก็เชื่อตามมันไปจริง ถ้าปฏิบัตินะ (ถ้าปฏิบัติแล้วเป็นแบบนี้มาผิดทาง อาจเพี้ยนบ้าไปเลยก้อมี) แล้วไปเที่ยวสอนสั่งคนอื่นไปทั่วก็มี จึงไม่แปลกอะไร ที่ในบอร์ดจะมีคนเหล่านี้เยอะไปยึดทำไมกันละท่าน ผมนะไม่เข้าใจจริงๆ ความจริงนะมันเป็นธรรมดา ที่ท่านหงุดหงิดที่ผมมาพูดกระทบท่านมันก็ธรรมดา ท่านไม่โกรธนั่นแหละจึงว่าไม่ธรรมดา ความจริงแล้ว
ผมก็ทำได้ไม่มากกว่าแนะนำท่านนักรอก หงุดหงิด เดือดพล่านเลย นะท่านอิอิ
คนปฏิบัติธรรมนะเขาไม่ยึดเรื่องแบบนี้รอกนะท่าน
ผมแค่ผ่านเข้ามาเห็นคุณ ทำท่าจะไม่ไหว ลองคนอื่นอยู่มาก ผมก็เลยมาแนะให้นะ
ถูกของคุณนะ
อวดไปอวดมา แต่ผมไม่ได้อวดใครรอก เพราะคนที่ปฏิบัติธรรมนะ มันใช่ประโยชน์อันใด ที่ต้องมาอวดไปอวดมา

 

ความจริงนะ ถ้าคุณเข้าใจธรรมจริงๆนะ คุณคงไม่เถียงแบบนี้รอก ท่านเทพอาถรรพ์ ท่านไม่ปฏิบัติอะไรเลยนะ ความจริงนะ แต่ที่มานี่ก็เพื่ออยากตอกย้ำ อยากว่าให้พวกอวดรู้ธรรมเท่านั้นแหละ
ท่านไปใส่ใจทำไมกันละ มันเป็นธรรมดาของสัตว์โลก ท่านเองก็ชอบเล่นสนุกแบบนี้ไม่ใช่หรอ เหตุผลที่ท่านมาในบอร์ดนี่ ไม่ใช่เพราะอยากรู้ข้อธรรมแต่เพราะอยากรู้ ว่า พวกอวดรู้ธรรมจะว่ายังไง เท่านั้นเองไม่ใช่หรอ
ผมก็ตอบให้ สมประสงค์ของท่านแล้วนิ ยังไม่พอใจอีกหรอท่าน

ถ้าไม่อยากรู้ธรรมจริงๆ ก็อย่ามาทำให้ ธรรมมะ มันเมามัวเลยนะท่าน ใครจะอวดอ้างก็ช่างเขาเถอะ ท่านมาเจ้ากี้เจ้ากานกับเขาทำไมกัน มันไม่ใช่ประโยชน์เลย
ผมรู้และว่าอารมณ์ วัยระเริงแบบท่าน มันเป็นพวกไม่ชอบพวกขี้โม้นะ
แต่มันก็เป็นธรรมดาของสัตว์โลกไม่ใช่หรอ ท่านพิจารณาอะไรยังไม่เป็นเลย
ถ้าไม่งั้นคงไม่โพส์สมาล้อเลียน ปรามาสเขาแบบนี้รอก
ที่ผมนึกเสียดายคือ บอร์ดที่ขึ้นชื่อว่าธรรมนะ มันน่าจะมีประโยชน์กว่านี้ ไม่งั้นผมคงไม่เสียเวลามาพิมพ์ ให้เมื่อยมือรอก ความจริงที่ผมพิมพ์ไปทั้งหมดนะ ถ้าคนที่อยากรู้ธรรมจริงๆนะ
เขาน่าจะรู้นะว่าควรวางตัวยังไง ผิดถูก โต้ตอบทางธรรมไม่เห็นจำเป็นต้องใช้อารมณ์แบบท่านนิ พิจารณาตัวท่านเองเถอะ

 

พี่จะสั่งสอนน้องอย่าทนงตน
ไม่ว่าจะเป็นความรู้ที่มาจาก google
หรือปรุงแต่งขึ้นเอง ก็เป็นธรรม ถ้าใจเราเป็นธรรม

ถ้าใจเราไร้ซึ่งธรรมะ

แม้เอา google มาเป็นเครื่องมือแสวงหาธรรมะ ที่แพร่หลายตามเว็บไซด์ กับแต่งขึ้นเองตามอำนาจกิเลส ที่ยังหนาแน่นไปด้วย ตัญหา อุปทาน สัญญาที่เกิดขึ้นก็เป็นสัญญาวิปลาส

คลาดเคลื่อนไปจากของจริง นี่ศาสนาเสื่อมตรงนี้
เพราะไม่มีผู้แตกฉานในห้องพระไตรปิฏก

อ้อที่น้องขอรูปพี่แคทรูปเก่าพี่ก็จัดให้น้องแล้วนะ<!-- google_ad_section_end -->

 

ขอบอกเลยนะครับผมรู้แค่เกิด กับ ดับ และก้อไม่รู้อะไรเพิ่มเติม มีแต่ โอภาส
ประเภท ขนลุก เลยรู้แค่เพียงเร่งความเพียรเป็นพอครับ กำหนด เกิดดับ ไปเลื่อย
เดี่ยวมันก็ดีเองมั่ง (มันได้แค่เนี่ย)

 

เอาง่ายๆ จะอุปมาอุปมัยให้อ่านให้ฟัง
ท่านเคยเล่นเกมส์ใหม
ถ้าเคยเล่น ลองตอบคำถามต่อไปนี้นะ
ตอนแรกๆได้เกมส์มาใหม่เล่นแล้วสนุกใหม
มาเทียบกับตอนที่เราเล่น จนรู้แล้วทุกอย่าง รู้ทุกสูตรโกง

เอาแบบว่าเล่นจนเครียหรือชนะ และก็รู้ทุกสูตรโกง

แล้วถามหน่อย พอถึงขั้นนี้ ท่านเริ่มเบื่อเกมส์นี้แล้วรึยัง
ฉันใดฉันนั้น ในชีวิตนี้ ท่านหลงติดคิดสนุกกับ ชีวิตอยู่เพราะเราไม่รู้
ยังมีสิ่งที่เราต้องเรียนรู้อีกมาก

แต่หากวันใดท่าน รู้ทุกอย่าง เห็นทุกอย่าง สุดท้ายมันก็ต้องเบื่อ
แล้วก็จะละทิ้ง ใช่ใหม

แล้วทำยังไงถึงจะรู้ถึงจะเห็น ทุกอย่างที่เราอยากรู้ ก็มีให้ฝึกไงสมาธิ แล้วโน้มจิตที่เป็นสมาธิขั้นสูง ไปสอดส่องศึกษาสิ่งที่เราอยากรู้เอง




เอาแบบเนื้อๆไปก่อนนะ หนทางหลุดพ้นมีเยอะแยะ
ตั้งแต่ทางตรง(ใช้สมาธิขั้นสูงดูความจริง) ทางอ้อม(ใช้สมาธิขั้นต้น แล้วอาศัยเปรียบเทียบ และกำลังใจที่แข้มแข็งสู้ เพราะสมาธิไม่สูงย่อมไม่เห็นเหตุตรงๆ ได้แต่สังเกตุสิ่ง
ง่ายๆตามธรรมชาติที่เห็นแล้วเอามาพิจารณาตนเอง ให้ปล่อยวางสายนี้หลุดยากมาก)

แต่ถ้าท่านจขกทไม่ฝึกสมาธิเลย ยากคับ
และก็จะเป็นต้นเหตุให้ท่านถามหลายๆสิ่งออกมา

ทั้งๆที่จุดรวมของคำตอบทั้งหมดก็คือ รู้แล้ว เบื่อ


ปล.ผมตอบตามสิ่งที่ผมทำอยู่ทุกวัน ผมไม่ใจสนว่าบรรลุหรือไม่แต่ก็พยายามทำตัวให้ปล่อยวาง ต่อสิ่งต่างๆ และก็พอเข้าใจหลักศาสนาบ้าง

 

ผมpmหาท่านไม่ได้นะ โพสยังไม่ถึง20 -*-