ทํายังไงดีครับ เมื่อ เราหลงอยู่ใน สมาธิจนโงหัวไม่ขึ้น

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย เฝ้าดู, 3 พฤษภาคม 2011.

  1. สับสน!

    สับสน! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2010
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +3,984
    คุณอ่านหนังสือมาแล้วคิดเอาเองว่า ตนเองได้สมาธิ..ไอ้คำว่า ไม่อิ่ม ไม่เต็ม นี่นะครับเขาใช้กับ คนที่เกิดสมาธิแล้ว..(อยู่ในขั้นจิตตั้งมั่นแล้ว)
    แต่ใช้กำลังสมาธิ หรือกำลังจิต ในทางโลกมากไป จึงหยุดพักเพื่อเพิ่มพลังสมาธิ..ที่เขาเรียกว่า ชารต์แบตเตอรี่..!

    ... กรณีของคุณที่สื่อมาแสดงได้ว่า..ยังเข้าใจผิดมากในเรื่อง "สภาวะ" ของสมาธิครับ คุณยังไม่ถึงครับแต่เอาตำรา หนังสือ สัญญา มาจำซะก่อนว่านี่คือสมาธิ..หากคุณเกิดสมาธิจริงๆแบบสัมมาสมาธินะครับ ..คุณจะถามว่า "วสี" ทำอย่างไร แทนที่จะมาใช้คำถามนี้ครับ ..ไม่มีใครหลงในสมาธิหรอกครับ..?(ยิ่งประโยคนี้ ฟันธงได้เลยครับว่าคุณไม่รู้จักสภาวะสมาธิ ไม่กล้าให้มันถอยออกมา..แสดงว่าคุณจับสภาวะได้แล้ว ถอยเข้า-ออก แต่กลับมาถามแปลกๆแบบไม่รู้จักวสี...?)
    อนุโมทนา ขออภัยหากใช้คำพูดตรงเกินไป สาธุครับ:cool::cool:
    สาธุ ท่านขันธ์ด้วยครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 พฤษภาคม 2011
  2. วิษณุ12

    วิษณุ12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    5,337
    ค่าพลัง:
    +6,846
    ปราบเทวดา*, สับสน! ..เฮโหลๆๆๆ

    พี่เกิดคนน่ารัก พิมพ์ได้แจ่ม อย่างนี้ต้องแจก
    เครื่องดื่มพญาอินทรีย์กินไก่ 1ขวด :cool:
     
  3. สับสน!

    สับสน! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2010
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +3,984
    พี่ปราบเทวดา..เปลี่ยนเป็น น้ำอมฤต..จากสระอโนดาษ ได้รึไม่ขอรับ..
    (ขอกินนรีด้วย12 ตัว ขี้เมื่อยครับ):':)':)':)@
     
  4. เอกวีร์

    เอกวีร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2008
    โพสต์:
    3,972
    ค่าพลัง:
    +3,241
    พ พ พ พ พ พ พี่เกิด ซ ซ ซ ซื้อ การเกงผิดไซส์มาใส่เหรอ ค ค ค ค คับ

    เดี๋ยวนี้มีค้ง มี คับ

    สยิวกิ้ว......เอายังไงดีหว่า เจอคนพูดเพราะ ใจละลาย....
     
  5. สับสน!

    สับสน! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2010
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +3,984
    หวานมา..ต้องหวานไป..ขอรับ(ติดพี่ปราโมทย์.มาขอรับ):':)cool:
     
  6. เอกวีร์

    เอกวีร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2008
    โพสต์:
    3,972
    ค่าพลัง:
    +3,241
    pity_pig

    จัดไป!!

    <object style="height: 0px; width: 0px"><param name="movie" value="http://www.youtube.com/v/MXYIz_LT-qw?version=3&autoplay=1"><param name="allowFullScreen" value="true"><param name="allowScriptAccess" value="always"><embed src="http://www.youtube.com/v/MXYIz_LT-qw?version=3&autoplay=1" type="application/x-shockwave-flash" allowfullscreen="true" allowScriptAccess="always" width="0" height="0"></object>
     
  7. นราสภา

    นราสภา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,961
    ค่าพลัง:
    +356
    น้อมรับในคําติ ชม เจ้าค่ะ

    ขอน้อมรับในคําเเนะนําเจ้าค่ะ
    เเล้วจะเก็บไว้พิจารณาตัวค่ะ

    ของคุณพี่สัป มากค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 พฤษภาคม 2011
  8. นราสภา

    นราสภา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,961
    ค่าพลัง:
    +356
    ลืมถามพี่ สัป ไปหนึ่งข้อ


    ดูว่าพี่สับสน นี่ ถ้าจะเข้าใจอะไรสัปสนไปเรื่อยดังชื่อจริงๆด้วย หุ หุ หุ

    เห็นพี่บอกว่า

    คุณอ่านหนังสือมาเเล้วคิดเอาเองว่า เราได้สมาธิ

    พอต่อมาก็ กลับมาสัปขาหลอกตัวเอง โดยบอกว่า

    ถ้าเกิดสมาธิในเเบบสายสัมมา จริง คุณจะต้องถามว่า วสี ทําอย่างไร

    น้องว่าพี่สัป น่าจะกลับไปเชคเรื่อง อคติ ส่วนตน ในการนํามาประกอบคําตอบดูเสียก่อนน่ะค่ะ เพราะว่า

    น้องไม่ได้ไปอ่านหนังสือเล่มที่ พี่ อ่านนี่ค่ะ น้องไม่ได้อ่าน อ่าน เเล้วก็ อ่านเเบบพี่ เเล้วก็ อม เอาความรู้มาตอบ เหมือนพี่
    เเล้วจะให้น้องไปเอาคําว่า วสี มาถามเอาอะไร ตัวน้องเองไม่ได้เข้าใจตามเเบบที่พี่เข้าใจซะหน่อย เเล้วจะให้ไปเอา วสี มาถามอะไร
    ก็ เคยบอกไปเเล้วว่า ปริยัติ ไม่เพียร หนักไปทางปฎิบัติ เรื่อง ศัพเเสง เเสลงเป็ด อะไรนั้นเเล้วจะไปหาเอามาจากทางไหน

    ดูว่าพี่ สัปสน นี้ถ้าจะใช้ ระดับมาตฐาน ของทางโลภ มาตัดสินคนอื่นเขา ว่า ถ้ารู้ในสมาธิ ก็ ต้องรู้นั่น นู้น นี่ เหมือนที่ตนได้ไปอ่านมา

    ใครกันเเน่ค่ะ ที่ว่า ไปอ่านมาเเล้วก็ คิด เองว่าตนรู้ ตนเข้าใจ

    คิดดูดีๆ อีกรอบ น่ะเจ้าค๊าาาาาาาาาา

    เเล้วเเบบนี้ก็เเสดงว่าใครที่ไม่รู้จักคําว่า วสี ก็ไปทางสัมมามิได้หรือเจ้าค่ะ หรือว่าใครจะไปต้องไปเรียนเสริม เรื่อง คําศัพ ทางธรรม มาก่อนเเล้วค่อยไปกันหรือไงเจ้าค๊าาาาาา


    อะ อะ อะ เก็บไว้น่ะค่ะเจ้าตัวอารมณ์เนี้ยอย่าไปปรุงใส่เชียววว เดี่ยวจะพาลปล่อยโง้ออกมาโช กันอีก

    หรือถ้าคิดจะโช ก็ นั่งสมาธิสัก สิบนาทีก่อนเเล้วค่อยกลับมาโพสตอบ

    เดี๋ยวจะสําลอกของเก่าออกมาจนหมดใส้ ไปซะก่อนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน

    หรือจะหนี มุดนํ้า ลงไปเดินฌาณ อยู่ นิ่งๆก่อนพออารมณ์ไม่ขุ่น ไม่มัว เเล้วค่อยโผล่ขึ้นมาเหนือนํ้าตอบก็ยังได้นะเจ้าค๊าาาาา



    รู้ว่าเขายั่ว ก็ จับเอาอารมณ์ นั้น นะเเหล่ะมาเป็นครู มิใช้ ปล่อยตามอารมณ์ตนไปเรื่อยๆ
    เสียดายเวลาที่ได้รํ่า ได้เรียนมาปล่าวๆ เข้าใจไหม

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 พฤษภาคม 2011
  9. deemonster

    deemonster เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2007
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +805
    ขออนุญาติ เจ้าของกระทู้ ขอรับ
    ป่วนนิดนึง
    คุงพี่ ขวัญฟ้า พิมพ์ถึง การ สะเทือน
    เอ๋...มันสะเทือน ยังไงหนอ..
    หากแต่เราไม่ใส่ใจมันนี่ จะเป็นไรไหมอ่ะครับ
    อะไรๆ วิ่งมา บางที มันเฉย
    บางทีมันเหวงๆ
    บางทีมันลอยๆ
    บางทีมัน อิ่มๆ
    บางทีมัน เคลิ้มๆ
    บางทีมัน จุกๆ
    บางทีมัน ตุ๊บๆที่หน้าผาก
    บางที มันหมุนวนๆในท้อง
    อีก เยอะแยะ...
    อาการพวกนี้ เรา ดูมัน เฉยๆ
    หรือต้องทำยังไงกะมัน ขอรับ
    เห็นมัน มาป่วนๆ จะตีให้ตาย ก็ สงสาร
    เลยปล่อยให้มัน วิ่งเล่น ซะให้ สบายใจ
    เพราะ รู้ว่า มาแล้ว เดี๋ยว ก็ไป
    ...
    หรือ ว่า ต้อง ทำยังไง
    ใครรู้ วานไข ข้อ ให้ด้วย ขอรับ
    ขอบพระคุณครับ

    ปล. อิ่ม นี่ มานยังไง อ่า...(อิ่ม ความหมายของคุงพี่ขวัญ ฟ้า นะขอรับ)
    ...

    อีกอย่างนึง
    ช่วงนี้ ไม่ได้นั่งสมาธิเลยอ่ะ
    จะทำอะไร ก็ได้แต่ ดู ดู ไป
    ฟุ้งมาก ก็ อัด คำภาวนา
    พอเฉยๆ เงียบๆ ก็ หาเรื่องป่วน ให้มันปุดๆ
    ทำแบบนี้ โอกาส ก้าวหน้า มีไหม ขอรับ
    ...
     
  10. นราสภา

    นราสภา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,961
    ค่าพลัง:
    +356
    การสะเทือนทางจิต เมื่อมีอะไรวิ่งมากระทบนั้นหากเราตามรู้ได้ว่า ยังไง เเบบไหน มันเกิดจากอะไร นั้นถือว่าดี

    เเต่การตัดเอาความ สะเทือนนั้นออกไป เพียงเพื่อให้ใจตนสงบนั้น ก็ ต้องอยู่ที่ว่าการสะเทือน นั้นๆ ส่งผลเช่นไร อย่างไร เเบบไหน เเล้วที่สําคัญคือ เกิด ประโยชกับ ตน หรือ ใครๆไหม

    มิใช้ว่า มีคนมาบอกว่า คุณ ฆ่าคนตาย ไปเลยไปติดคุกกันดีฟ่า
    เราจะมานั่ง สงบ จิตว่าอย่าไปสะเทือนใดๆ นิ่งไว้ อย่าไปยุ่ง

    ซึ่งก็จะเห็นได้ว่าการสะเทือนนั้น จําต้องมี สติ ตรึกตรอง ในการน้อมรับ เหตุ เเละ ผล ของการสะเทือนนั้นให้ถูกทาง ด้วย มิใช้ สะเทือนอะไรฉันไม่สน สะเทือนยังไงฉันนิ่งเงียบ งม งัน เป็นเเท่งไม้
    หากเรายังครองกายนี้อยู่ เราก็จําต้อง รู้ให้ทัน
    ตามความเข้าใจส่วนตัวค่ะ




    การสั่นสะเทือนของจิต เริ่มตั้งแต่เริ่มรับรู้ น่าจะต้องไปดูในพระอภิธรรม ท่านอธิบายไว้ว่า สภาพ จิตของเราเหมือนกับแมงมุมที่อยู่กลางใย พอสิ่งใดสิ่งหนึ่งมากระทบอายตนะ ก็เหมือนกับแมลงลงมากระทบใยแมงมุม ใยแมงมุมเกิดการสั่นสะเทือน แมงมุมจึงรับรู้

    ในเมื่อรับรู้แล้วก็ กำหนดว่า มาจากทิศไหน ? เป็นอะไร ? ย่องเข้าไปดู จนจับเหยื่อได้ ใส่ปากเคี้ยวกิน ลิ้มรสเสร็จเรียบร้อย แล้วกลับเข้ามารออยู่ที่เดิม ก็คือ อาการทุกอย่างที่จิตไปเสวยสิ่งที่ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ รับเข้ามา เพราะฉะนั้น..ต้องเกิดสัมผัสสั่นสะเทือนขึ้นมาก่อน จึงจะรับรู้ได้


    เครดิตลุงธรรม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 พฤษภาคม 2011
  11. เอกวีร์

    เอกวีร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2008
    โพสต์:
    3,972
    ค่าพลัง:
    +3,241
    ชำแระมันออกมา กระซวกมันออกมา ให้ชัดๆ (เขาว่า กำลังฮีต)

    [​IMG][​IMG][​IMG]

    "พอเฉยๆ เงียบๆ ก็ หาเรื่องป่วน ให้มันปุดๆ"

    แรกๆ หนะทำได้ แต่ หากทำเสมอ ก็แปลว่า โดนมันหลอก เผลอปักใจเชื่อ

    "ฟุ้งมาก ก็ อัด คำภาวนา"

    พ่อแม่ครูบาอาจรย์ท่านรับรอง ก็ว่ากันไป แล้วแต่ศรัทธาจะพาไปถึง

    "โอกาส ก้าวหน้ามีไหม"

    ไม่มีก้าวหน้า หากเป็นช่วงก้าวซ้ำ หากจิตมันอยู่ที่ฐาน มันจะรู้ไม่เกินกายเกินใจ หนะถูก
    ของมันอยู่แล้ว หากไปรู้กายมันก็ไปรู้อาการ32 นั่นแหละเหยียบรอยเท้า
    เดียวกันกับ........อยู่ แต่จะเห็นแบบไหน รู้สึก หรือเห็นเป็นชิ้นเป็นอัน
    หรือเห็นแบบเผาเป็นเถ้าได้ด้วย จะชัดๆไปเรื่อยๆ ก็ว่ากันไป

    เมื่อเห็นแล้ว ก็ทำนาหว่านไถซ้ำๆๆๆๆๆๆ ไปอย่างนี้ ไม่มีหนทางอื่นหรอก
    รอยเท้าเดียวกันกับ........จะสร้างรอยเท้าใหม่ไปทำไมกัน
     
  12. deemonster

    deemonster เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2007
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +805
    อ่ะ นั่นจิ
    มัน ซ้ำๆ ไม่ออกไปไหน
    รู้ ว่า ซ้ำ
    มาอีก ล่ะ
    แบบว่า เจ้าหน้าจืด มาล่ะ
    เจ้านี่ หน้าดำ
    เจ้านี่ หน้าแดง
    ส่วนเรื่อง ป่วน ให้ มันปุดๆ
    พักหลัง ก็ไม่ค่อยได้อ่ะครับ
    เหมือนที่เขียน อ่ะครับ
    มันฉี่ ไม่สุด
    นี่ นี่ คุลพี่เอก ผมบอกตามตรงนะขอรับ
    เจ้าจุด จุด นี่ ผม ไม่รู้ อ่ะครับ
    ต้อง ให้พี่ กรุณา บอก
    อ่ะครับ
    ขอบพระคุณครับ

    อุ๊ๆๆๆ...มาไว ไปไว จุ๊ๆ (เห็นแล้วๆ)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 12 พฤษภาคม 2011
  13. เอกวีร์

    เอกวีร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2008
    โพสต์:
    3,972
    ค่าพลัง:
    +3,241
    เสริมบาลี ให้คุณ จิตดีกว่า

    เวลาเราภาวนา แยกรูป แยกนาม ได้ถูกต้อง คนฉลาดเขาจะไม่ต้องอาศัย
    บัญญัติเรียกให้ยุ่งยาก เมื่อเราพิจารณากายบ่อยๆ จนจิตตั้งมั่นแยกออกเป็น
    ส่วนๆด้วยมรรควิธีที่ถูกต้องแล้ว

    กายจะถูกรู้ถูกดู(เห็นการไล้ตับไตไส้พุง เย็นร้อนอ่อนแข็ง ฯลฯ) เสมอวัตถุชิ้น
    หนึ่ง แต่ความที่ สักกายทิฏฐิ มันไม่ขาดมันเลยทนไม่ได้ มันพยายามหาที่ตั้ง
    ว่า "กายกูอยู่ไหน" "ช้างกูอยู่ไหน" ทำให้เกิดอาการ โหวงๆ

    ความที่เราไม่รู้จะเรียกมันว่าอะไร แต่มันมีตัวหนึ่งแหละที่ พยายาม จะเรียกว่า
    "ตัวกูอยู่นี่ ตัวกูต้องมี" แต่จริงๆแล้วมันไม่มี ตรงนี้จึงเรียก อัตวาทุปาทาน

    คือ มีวาทะจะเรียกหมายตัวตนว่าอยู่ตรงนั้น เป็นตรงนี้ เอาตรงนั้น ฉันตรงนี้
    ช้างกูอยู่นี้

    ดังนั้น อย่าไปตกใจ ต้องเห็นแบบนี้ไปซ้ำๆ ซึ่งจะต้อง ผ่านเจริญแล้วเสื่อม
    คือ ลืมภาวนา จมโลก แล้วก็กลับมาภาวนาใหม่ มาภาวนาแล้วก็เห็นซ้ำอย่าง
    เดิม หากศรัทธายังไม่มั่นคง ก็เสื่อมลงไปอีก จนกระทั่ง เอ๋ หรือว่าจะจริงที่
    ว่าก็ดูไปอย่างนี้แหละ คราวนี้จะย่อเข้ามา หดเข้ามา แต่ชัดขึ้น การชัดขึ้น
    ก็ขึ้นกับประเภทของ จักษุธรรมที่มีวาสนา ตรงนี้จึงไม่ต้องเหมือนใคร ไม่จำ
    เป็นต้องเหมือนกัน แต่มันทิศทางเดียวกันหมด

    พอเริ่มเห็นว่า เออหนอ ทิศเดียวกันหมด ไม่มีสาย ไม่มีสำนัก เมื่อนั้นก็ จุลโสดาฯ

    ก็จะไม่ตกต่ำแล้ว

    อาการฉี่ไม่สุด คราวหน้าให้สงวนไว้ แล้ว สมาทานคำว่า "ขาดการเห็นอริยสัจจ"

    บางท่านก็ว่า "ขาดกำลังของสมาธิ"

    บางท่านก็ว่า "สันตาติไม่ขาด ฆนะสัญญาไม่แตก"

    แต่ให้ดีผมขอใช้คำว่า "แค่ขาดการสดับ-ความตั้งมั่นของจิต" เพราะเข้าใจผิดเรื่อง
    การตั้งแช่ เป็น "การตั้งมั่น กับจิตไม่ตั้งมั่น" สังเกตนะ ข้อแตกต่างของการตั้ง
    แช่ กับตั้งมั่นนั้น ตั้งแช่จะเน้นอารมณ์เดียว แต่ ตั้งมั่น จะดูทั้งคู่ คือดูตั้งมั่นและ
    ไม่ตั้งมั่นทั้งคู่ ไม่เลือกข้าง

    จะอันไหน ก็ขึ้นกับประเภทของ จักษุธรรมตามวาสนา ผู้ภาวนาควรรู้เอง
    ว่าตนทำอันไหนแล้วจิตตั้งมั่นได้ในสมัยนั้น


    * * * * *

    ตรงจุดๆ ยังไงผมก็ต้องละไว้ คนเห็นธรรมเท่านั้นที่เห็น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 พฤษภาคม 2011
  14. deemonster

    deemonster เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2007
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +805
    ตรง ตัด เอาความสะเทือนนั้นออกไป
    ติดใจ ตรงที่ เกิด ประโยชน์ กับตน หรือใครๆไหม
    อาจารย์ ท่านแนะนำว่า
    จะทำอะไร ก็ต้อง ระลึกให้ได้ว่า
    สิ่งนั้น สิ่งนี้ เป็นประโยชน์ เรา ประโยชน์ท่านหรือไม่
    หาก ไม่ ก็ให้ละเสีย
    อืม...ประโยชน์ๆๆๆ เราๆ ท่านๆ
     
  15. เอกวีร์

    เอกวีร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2008
    โพสต์:
    3,972
    ค่าพลัง:
    +3,241
    เอ่อ หากสอนอย่างนั้น ก็ฉี่ไม่สุดไปนู้น แสนอสงไขยก็ไม่สุด

    พิจารณาเอาเนาะว่า ประโยชน์ อยู่ตรงไหน

    ทำประโยชน์ตนให้สุดตอนนี้ คนอื่นจะไม่ได้ประโยชน์ จริงหรือ

    ทำประโยชน์ของตนไม่สุดตอนนี้ คนอื่นจะได้ประโยชน์ จริงหรือ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 พฤษภาคม 2011
  16. deemonster

    deemonster เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2007
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +805
    ครับ ตอนนี้
    กลับมา พิจารณา แบบเดิมอีกรอบ
    ทวนอีกรอบ
    จากที่ พอ จะแยก เห็น รู้
    มันกลายเป็น โหว่งๆ เหวงๆ
    สักสองสามวันแล้ว ขอรับ
    ไม่รู้จะทำยังไง ตัว ก็หาย ที่ว่างๆ ก็หาย
    พระก็หาย ...
    วันนี้ ตั้งแต่เช้า เลย กลับมา ภาวนา
    ตั้งมั่นใหม่ ก็รู้สึกเอง ว่า ดีขึ้น ใส ขึ้น
    เข้ารูปเข้ารอยขึ้น อะไรที่กว้างๆ
    มันก็แคบลง สั้นลง

    ชี้แจ้งขอรับ ที่ยกข้อความ อาจารย์ท่านสอน
    ผม ก็ไม่ค่อยจะรู้เรื่องรู้ความอ่ะครับ
    เห็นคุณนรา เขียนถึง ก็เลยยกมา
    จะทำอะไร ก็ไม่ได้ มานั่งพิจารณา คุณโทษ ก่อนทำอ่ะครับ
    อัตโนมือ ไปก่อนแล้ว อ่าาา มันข้ามไปแล้ว...

    ตอนนี้ ว่ากันแล้ว
    ทำงานให้เต็มที่
    ทำหน้าที่สามีเต็มร้อย
    เป็นลูกที่ดีของพ่อแม่
    ไม่พยายามเบียดเบียนผู้อื่น สิ่งอื่น โดยเจตนา
    เผื่อแผ่ ความรักให้ทุกสรรพสิ่ง
    ยิ้มๆๆ ส่งความสุข ให้ คนรอบข้าง
    เติมความรู้สึก ความรัก ให้ตัวเองจนเต็ม ในทุกๆเช้า
    นอบน้อม เคารพ พระพุทธองค์ พระธรรม พระสงฆ์
    นอบน้อม เคารพ ต่อผู้มีพระคุณ
    ถ่อมตัว รู้จักกล่าวขออภัย ขอขมา
    รู้ว่า ตัวยัง ต้องเรียนรู้ ศึกษา
    ยังเป็นเด็กน้อย ฝึกหัด ธรรม
    ก็เป็นเช่นนี้ ขอรับ
    ต้องรบกวน ท่านๆ ผู้รู้ทั้งหลาย ช่วยชี้แนะ ขอรับ
    ขอบพระคุณครับ

    เพิ่มเติม :
    การปฎิบัติ ทำให้ เห็นผลจริงครับ
    ตั้งแต่เริ่ม จริงจัง เมื่อ มีนา ปีนี้ จนตอนนี้
    ชีวิต ดีขึ้น ทุกด้านครับ
    ปัญหา ลดลง การเงินดีขึ้น
    สุขภาพจิต สุขภาพกาย ดีขึ้น
    คนรอบข้างมีความสุข
    เป็น ข้อดี ของการปฎิบัติ ที่ ยืนยันได้จริง ขอรับ
    เลยนำมาบอกกล่าว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 12 พฤษภาคม 2011
  17. นราสภา

    นราสภา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,961
    ค่าพลัง:
    +356
    555555

    น้องล่ะช๊อบบบบ ชอบบบ เวลาจารย์ใหญ่ตอบกระทู้ หุ หุ หุ เอ๊าาา อาจินไต จงเจริญ เริน เริน เริน เริน
    (deejai)(deejai)(deejai)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 พฤษภาคม 2011
  18. เอกวีร์

    เอกวีร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2008
    โพสต์:
    3,972
    ค่าพลัง:
    +3,241
    เวลาภาวนา มาเจอสภาพธรรมที่ละเอียดขึ้น ก็ต้อง หัดสังเกตแล้วหยิบสิ่งที่ละเอียด
    ขึ้นมาดูในสภาพไตรลักษณ์

    แต่ต้องยึดหลักการเดิมไว้ว่า "ดูธรรมคู่ รู้ธรรมหนึ่ง" ดังนั้น

    กว้างๆ นี่สภาพหนึ่ง แคบๆ นี้สภาพหนึ่ง จะเห็นว่า สิ่งที่ถูกรู้ถูกยุบสภาพ
    เป็น สองสภาพธรรม ที่แตกต่างกัน

    แต่....เงื่อนไขของความกว้างนั้น มีรายละเอียดปลีกย่อย มันจะต้องไม่
    เกินกายออกไปมานัก ไม่ไปไกลถึงก้อนเมฆ ไม่ไกลไปเกินมือเหยีด ไม่
    ไกลเกินไปกว่าปลายจมูก คือ จะต้องไม่เกิดสกลกายของเรานี่แหละ
    เป็นใช้ได้ มันจะให้สภาพธรรมคู่ที่ไม่ผิดฝากันและกัน และจะทำให้
    เกิดการเห็นความเปลี่ยนแปลง ซึ่ง.....เอาไว้เป็น วิหารธรรม

    เน้นนะว่า เอาไว้เป็นวิหารธรรม เครื่องอยู่ ซึ่งไม่ใช่อยู่ตลอด เพียงแต่
    อยู่แบบเอาไว้อาศัยระลึกว่า จิตเดินกรรมฐานอยู่หรือไม่

    ทีนี้ปัญญาเดินตอนไหน ปัญญาจะเดินตอนที่หลุดจากกรรมฐาน หรือ
    เรียกอีกอย่างว่า ตอนอนุสัยขยับตัว หรือเผลอ

    เน้นนะว่า ดูอนุสัยขยับตัว กิเลสตัวเล็กตัวน้อยขยับหลอก อย่าไปหลง
    กลมัน ( ตรงนี้เกินการเคลื่อนไปเสพตามกิเลสแล้วนะ จิตจะตั้งมั่นไม่แส่
    ส่ายแล้ว ) พออนุสัยขยับก็ไม่ต้องทำอะไร แค่ตามรู้เพื่อดูไตรลักษณ์
    ลงเป็นปัจจุบัน ถึงจะเดินปัญญา แล้วจะพบว่า จิตเขา....พิจารณาของ
    เขาเองว่าจะปล่อย หรือ ฉวยเอาไว้ [ อนุสัยนั้น มันเร็ว มันเหนียว อย่าง
    ไรเสียก็อย่ารีบร้อนดำริไปว่า จะรู้ได้ไว ได้เร็ว ได้มั่น ของมันต้องทำ
    เรื่อยๆ ]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 พฤษภาคม 2011
  19. สับสน!

    สับสน! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2010
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +3,984
    โอ้..ขอบคุณ ที่มาให้ความรู้ ที่เตือน บังเอิญผมเข้ามาหาความรู้จึงไม่อยากสนใจ ใส่ใจใครที่มายั่ว แบบไร้สาระนะครับ เสียเวลาไม่เอาธรรมสนุกได้แต่ต้องมีธรรมหน่อยแก้เครียดไป
    เอ้อต้องขอโทษ น้องนราสภาด้วยครับ..เป็นคนเดียวกับท่านควายสนามรึไง..อ่านแล้วงงๆ..
    "วสี" คือ การถอยเข้า-ออก ของการฝึกสมาธิ จากขนิกไปอุปจาร..หรือจาก อุปจาระ ไป อัปนา..ถอยลง ถอยขึ้น(เข้า-ออก)..สภาวะ อาการเหล่านี้ จำให้ได้เมื่อทำจนชำนาญแล้ว..เราเรียกการทำแบบนี้ว่า "วสี" ครับ พอนึกน้อมก็ตั้งมั่น
    จากคำถาม ท่านควายสนาม..บอกว่าอยู่ในสมาธิ แต่ไม่ยอมให้มันถอยออกจากสมาธิ..แสดงว่าจับสภาวะได้แล้ว..รู้ว่าจะถอยออกเมื่อใดแต่ไม่ถอย..?(ใช้คำผิด)..มันเหมือนการตามดู สัญญา..! หากล่วงเกินใดๆผมขออภัยด้วยครับ สาธุ:'(
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 พฤษภาคม 2011
  20. นราสภา

    นราสภา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,961
    ค่าพลัง:
    +356
    น่ารักเหมือนเดิม

    ตามอ่านกระทู้ของพี่สัป อยู่บ่อยๆ ใครจะไปโกรธพี่ได้ น้องก็เเค่เเหย่ เล่นไปอย่างนั้นเองค่ะ ไม่เคยคิดโกรธ ใคร จริงๆซะที เเต่คราวนี้ตั้งใจ ขุด ให้พี่เผลอ เพื่อจะติด กับ ที่วางเอาไว้อ่ะ

    เเต่ก็ ไม่ยอมติดซะที ตามทันอยู่เรื่อยยยยย เดี๋ยวเอาไว้วันหลัง จะลองใหม่
    มันต้องมีซักวันล่ะน่าาาา ที่ ตกหลุม โดนไม้เสียบ ทะลุก้น อิ อิ อิ
    อย่ามาถือสาอะไรน้องเลยค่ะ หลง เเบบนี้มาเป็นปีเเล้ว ยังหาทางออกไม่เจอเลย เเต่ก็ดีไปอย่าง หลงจนชิน พอชินเเล้วก็จะได้ หลง เเบบมีสติ หลงจนทะลุ หลงจนกระจ่าง กะว่าจะให้มันหลงไปจนสุดชาติ นี้กันไปเลย เพื่อชาติหน้า จะได้เลื่อนขั้นกะเขาบ้าง
    รักน๊าาาา จึง หยอกเล่น (k)(k)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 พฤษภาคม 2011

แชร์หน้านี้

Loading...